Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รู้ทันชีวิต

รู้ทันชีวิต

Published by Sarapee District Public Library, 2020-08-05 01:04:14

Description: รู้ทันชีวิต
โดย พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ

Keywords: รู้ทันชีวิต,พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ

Search

Read the Text Version

รักษาศีล รักษาม:เร็J วิบากกรรมที่ทำให้เป็นมะเร็งหลัก ๆ คือ \"ปาณาติบาต\" ในอดีตฃาติเคยโปฆ่าลัตวิ ทรมานลัตว์ เข่น บางคนเคยไปแทงคอ สัตวิให้ตายอย่างทุกข์ทรมาน ผลคือเกิดมาชาตินี้เป็นมะเร็งที่กล่อง เสียงบ้าง ที่คอบ้าง บางคนในอดีตชาติตอนเป็นเด็กซอบทรมานสัตว์ ด้วยการเอาใบสนเสียบก้นแมลงปอ วิบากกรรมล่งผลให้เกิดมาชาติ นี้เป็นมะเร็งลำไส้บ้าง มะเร็งทางข่องทวารบ้างต่าง ๆ นานา ซึ่ง ส้วนเป็นผลจากการกระทำของเราทั้งนี้น บางคนเผลอไปทรมานสัตว์ด้วยความคึกคะนองในวัยเด็ก มาตอนนี้สำนึกผิดก็ให้ใช้หลักปฏิบัติที่หลวงพ่อสอนไวัว่า อดีตที่ ผิดพลาดลืมให้หมด ใม่ใปนึกทบทวน ตั้งใจให้ดีว่าเราจะไม่ทำผิด อีกเด็ดขาด แล้วสร้างบุญใหม่มาก ๆ กรรมนี้นก็พอจะทุเลาเบาบาง ไปได้บ้าง นอกจากกรรมปาณาติบาตแล้ว การผิดคืลช้ออื่นก็มีวิบาก กรรมแรงเหมือนกัน เช่น คนที่ชอบดื่มเหล้าเมายามืโอกาสเป็น มะเร็งในด้บ ส่วนคนที่ชอบสูบบุหรี่มืโอกาสเป็นมะเร็งปอด วิบาก กรรมส่งผลทั้งจากในอดีตทั้งปิจจุบันเสร้มกัน CA รู้ทันขีวิต าฟ้บ■ราย ฐานๅทโ» M.D.,Ph.D. www.kalyanamitra.org

คนที่ชอบด่าว่าคนอื่นให้เจ็บใจ มะเร็งแปลก ๆ ก็ถามหา ใครที่ผิดศีลข้อกาเมก็ส่งผลให้เป็นมะเร็งเต้านมบ้าง มะเร็งในระบบ การสืบพันธุบ้าง เป็นต้น เพราะฉะใ?น การจะรักษาตัวให้ดีที่ลุดก็คือการรักษาศีลให้ บริบูรณ์ จะป้องกันมะเร็งไต้สารพัดใฬั้ในชาตินี้และชาติหนา เพราะ สิ่งที่เรากระทำในชาตินี้จะเป็นวิบากกรรมส่งผลในภพชาติต่อไป ที่ สำ คัญให้เราตั้งใจรักษาศีลในชาตินี้ให้ดี วิบากกรรมในอดีตชาติที่ ตามมามันก็จะทุเลาเบาบางลงไปตัวย รู้ทั'นขัวัต 51พ5ะพ.ท?1ทาน ฐาน-}■ทโรเ M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org

ขฌกันมะเรJไห้กูกๅถ กรรมปิจจุบัน หรือลิ่งแวดล้อมปิจจุบันที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือ ทุกอย่างที่มาถึงตัวเราไม่ว่าจะเป็นอาหารที่กินเข้าไป นาดื่ม กระที่'งควันบุหรี่ที่เข้าไปในร่างกาย ตลอดจนสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบ ผิวหนัง เซ่น รังสี สิ่งเร้าต่าง ๆ ที่มากระทบตัวเราล้วนมีโอกาส กอให้เกิดมะเร็งได้ทั้งนั้น มะเร็งเป็นแล้วรักษาได้ เรามีวิธีการป็องกันและรักษามะเร็ง โดยโาอนอื่นต้องเชื่อฟ้งหมอ และดูแลตัวเอง เมื่อเรารู้ที่มาของมะเร็ง แล้วเราก็แกไขให้ตรงจุด เมื่อมะเร็งเกิดจากวิบากกรรมในอดีตซาติ ชาตินี้ก็หมั่นทั้งใจรักษาศีลให้ดีเยี่ยม สร้างบุญให้มาก ๆ ทั้งทาน ศีล ภาวนา บุญนั้นจะได้!ปเจือจางวิบากกรรมในอดีตให้อ่อนกำลังลง fif 52 รู้ทันชีวิต ฐาโJๅทโฒ M.D.,Ph.D. www.kalyanamitra.org

ส่วนกรรมปิจจุบันเราก็ต้องระมัดระวัง เริ่มจากที่เข้าไปในตัว โดยตรงคืออาหาร เราต้องตรวจสอบแล้วว่าอาหารรสจัดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด นํ้าตาลเยอะก็น่ากลัวทั้งหมด ทั้งของทอด ปีง ย่างเกรียม ๆ ดูน่าอร่อย เนื้อย่างหมูย่างที่ดำ ๆ กรอบ ๆ ล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งนั้น เราควรพยายามหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ในปริมาณที่ มากไป เพราะในเนื้อสัตว์มีสารพิษอยู่มากมาย ยิ่งในปีจจุบันมี สารเร่งเนื้อแดง สารที่ผู้ผลิตฉีดเข้าเนื้อสัตว์สารพัดขนิด ออกจาก ฟาร์มมาก็มีสารเคมีติดมาตัวยเต็มไปหมด รู้ทันซวต 53พระมหารม'!ทบ ฐาบๅทโร! M.I),, Ph.D. www.kalyanamitra.org

พอเรากินเข้าไปมาก สารเคมีเข้าสู่ร่างกายมาก ร่างกาย จึงตองขับออก ตับและไตต้องทำหน้าที่อย่างหนักไนการขับสารพิษ เพราะฉะนั้น โอกาสที่เราจะเป็นมะเร็งในตับ และมีปีญหาเรื่องไต ก็สูงขึ้นด้วย เราควรพยายามหลีกเลี่ยงสารเคมีต่าง ๆ เข่น ยาฆ่าแมลง แล้วพยายามไข้วิถีชีวิตให้ ใกล้ชิดธรรมชาติ กินอาหารธรรมชาติ เข่น เลือกกินข้าวซ้อมมือ หรือข้าวกล้องแทนข้าวขัดชาว เพราะใน ข้าวขัดขาวนั้น สารอาหารจำนวนมากที่อยู่ใกล้ ๆ กับเปลือกข้าว ถูกขัดออกไปหมด ต้องพยายามหลีกเลี่ยงเหล้า เบียร์ นํ้าซา กาแฟ เครื่องดื่ม รสจัดซู่ ๆ ซ่า ๆ ประเภทนํ้าอัดลม แต่ล้าใครอดใจไม่ได้ก็ให้ดื่ม แค่พอประมาณ พยายามดื่มนั้าสะอาดอุ่น ๆ จะดีกว่า รวมทั้งอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็ควรเลือกสูดอากาศบริสุทธ บางคนบอกว่าหลีกเลี่ยงไม่ค่อยได้ เพราะอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร สารพิษในอากาคมันมีมาก รถราวิ่งกันเต็มไปหมดมีแต่ฝ่นฟ้งควันเสีย รู้ทันชีวิต 54 พระบหาสยโ!าย ฐานใฬ® MD.,Ph.o. www.kalyanamitra.org

อย่างน้อยก็ควรตรวจดูระบบระบายอากาศในที่พักของเรา ให้ดี อย่ามัวแต่ไปโทษอากาศข้างนอกบ้านอย่างเดียว การจัดระบบ อากาศในบ้านเราก็สำคัญ ถ้าอุดอู้เกินไปก็ไม่ดี ควรตรวจสอบจัด ทิศทางลมให้พอเหมาะพอดี ใช้เครื่องกรองอากาศบ้าง ล้างเครื่อง ปรับอากาศในบ้านบ้าง ถอดล้างใบพัดพัดลมบ้าง บางคนทนใฃ้ พัดลมเป็นปีไม่เคยล้างจนพัดลมฝ่นจับเขรอะไปหมด อย่าไปโทษใคร ให้ลูที่ตัวเราเอง แกไขในส่วนที่เราทำได้ก่อน นอกจากดูแลเรื่องอาหาร อากาศ และหลีกเลี่ยงสารพิษ สารเคมีต่าง ๆ แล้ว ถ้าเราได้ออกกำลังกาย มีร่างกายแข็งแรง ไม่จมจ่อมอยู่กับที่ก็มีผลต่อการป๋องกันมะเร็งด้วยเซ่นกัน ตายหรอไชอยู่ทใจเราเอง อีกเรื่องที่สำคัญก็คือจิตใจ ทางแก้ประกอบกันทั้งกายใจ ถ้า ใจของเราอยู่ในบุญ นั่งสมาธิมาก ๆ พอใจใสใจจะมีพลัง ร่างกาย ก็จะทำงานอย่างสมดุล ถ้าใจสมดุลร่างกายก็จะสมดุลดามไปด้วย แล้วจะจัดการกับเซลล์มะเร็งได้เอง รู้ทันชีวิต £7 C พาะพทรพจาย ptiwia M.O.,Ph.D. www.kalyanamitra.org

ร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองอยู่แล้ว ล้าจิตใจ อ่อนแอก็เหมือนทหารอ่อนแอ ข้าศึกบุกตีเข้ามาไตัง่าย แต่ล้าเรา ทำ ให้จิตใจเข้มแข็งร่างกายก็จะแข็งแรงตาม เราก็ลามารถจัดการ กับข้าศึกได้อยู่หมัด บางคนพอทำได้อย่างนี้ จากที่นึกว่าตัวเองต้อง ตายแล้ว ที่ไหนได้ปรากฏว่ามะเร็งหายไปเลย ที่หมอเคยบอกว่า อีก 7 วันดายแน่ แต่พอได้ปฏิบัติตนถูกหลักทั้งกายใจ มะเร็ง ก็หายไปเลยเพราะร่างกายมันจัดการตัวเองได้ รวมทั้งเมื่อใจเราเป็นสมาธิ นิ่ง ตั้งมั่น มีพลังใจ เมื่อใจฮึด สู้มันถึงจะสู้ได้ \"ถึงกองทัพจะมีทหารเป็นล้าน แต่ยกธงขาวยอม แพ้มันก็แพ้\" . ยกตัวอย่าง กรณีเกิดอุบัติเหตุมีสื่อมวลซนรายงานว่า ผู้บาดเจ็บขาดใจตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว นี่เองคืออาการ \"ถอดใจ\" ใจคิดแต่ว่าตายแน่ ๆ ใจยกธงขาวไม่สู้แล้ว เหมือนตัวเรา ประกาศกับระบบภายในร่างกายทั้งหมดแล้วว่าไม่สู้ ยอมตายก็ได้ ตายจริง แต่ล้าใจฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ก็ไม่ตาย เพราะล้าใจสั่งสู้ทุกระบบ ในร่างกายก็สู้ ระบบคุ้มกันก็สู้ ตับ ไต หัวใจ ปอดสู้ เพราะฉะนั้น จะตายหรือไม่อยู่ที่ใจเราเอง ใจคือแม่ทัพดั่งที่โบราณว่า \"ใจเป็น นาย กายเป็นบ่าว\" รู้ทั'นฃึวิต v3 ฐานๅทโฒ M.D.,Ph.o, www.kalyanamitra.org

จากนั้นใหดำเนินชีวิตถูกต้องตามหลัก ไม่เสริมกำลังฃ้าสืก ด้วยการเอาสารเคมเข้าสู่ร่างกายมากไป พยายามอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ มีใจฮึดสู้ เมื่อร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันก็แข็งแรงตามไปด้วย พอข้าศึกขาดกำลังบำรุงเพราะเรา ตัดเสบียงคือสิ่งแปลกปลอมจนหมด เราก็ปราบมะเร็งได้อยู่หมัด เพราะฉะนั้นให้พวกเราทุกคนรู้ทันมะเร็ง แล้วเอาชนะด้วยการ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเสมอ รู้ทนซวต 57ทใะมพารUชาย ชานวฬฉi M.O.. Ph.D. www.kalyanamitra.org

I. * www.kalyanamitra.org

บุสมดุลร่างกาย ถ้วยก่ารล้างพิษ การดำเนินซีวิตของคนเราใน'ปิจจุบันต้องเผชิญกับสารเคมี รวมใงั้งต้องกินอาหารที่ปนเปีอนสาร'พิษมากมาย ทำ ใ'ต้ผู้คนหันมา สนใจเรื่องของการล้าง'พิษกันมากขึ้น เพราะมีความเชื่อว่าล้าสามารถ ขับสาร'พิษออกจากร่างกายไต้เราก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น รู้ทันขีวิต 59พระนพาลนขาย ฐานๅทโพ M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org

\"สารพิษ\" เรผกี่เราหลีกเสี่ยJได้ยไก ในปัจจุบันสารพิษเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก สารพิษที่ เกิดขึ้นมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน สารพิษชนิดแรกมาจากสิ่งแวดล้อม ทุกวันนี้สิ่งแวดล้อมปนเปีอนด้วยโลหะหนัก สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ตลอดจนกระบวนการผลีตพลาสติก ซึ่งในการดำเนิน ชีวิตทุกวันนี้เราหลีกเลี่ยงได้ยาก เราต้องใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติก ยกตัวอย่าง ภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันล้วนเป็นพลาสติกที่ปล่อยสารพิษเช้าสู่ร่างกาย เราทั้งนั้น เช่น ในกล่องโฟมบรรจุอาหารมีสารพิษก่อมะเร็ง สไตรีน (Styrene) ตังนั้น ทุก ๆ วันร่างกายเราได้รับสารพิษมากเกินกว่า จะขับออกได้หมด นอกจากนี้ ยังมีสารพิษอีกประ๓ทหนึ่ง คือ สารพิษที่เกิดขึ้น จากการเผาผลาญของร่างกายเราเอง เมื่อเรากินอาหาร อาหาร เข้าสู่ระบบการเผาผลาญในร่างกาย ส่วนหนึ่งกลายเป็นพลังงาน ส่วนหนึ่งกลายเป็นนํ้า ส่วนหนึ่งกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ และ อีกส่วนที่เหลือกลายเป็นสารพิษที่เกิดจากกระบวนการย่อยสลาย ภายในร่างกาย รู้ทันชีวิต าน รฺๆนวฺฬฒ M.D,, Ph.D. www.kalyanamitra.org

วีรจัดการกับสารพิษทฟ้าสู่ร่บกาย ร่างกายคนเราพยายามที่จะขับพิษออกหลายทาง เซ่น ทางเหงื่อ ปิสสาวะ อุจจาระ เป็น \"กระบวนการล้างพิษ\" โดย ธรรมซาติ ในกรณีที่ร่างกายโด้รับสารพิษจากภายนอกจำนวนน้อย บวกกับสารพิษที่เราผลิตขึ้นเองจากกระบวนการย่อยอาหาร ร่างกาย เราสามารถขับสารพิษออกไปได้เองทั้งหมด แต่ป้ญหาคือไนปีจจุบัน เราได้รับสารพิษจากฟ้จจัยภายนอกมากเกินไป ทั้งทางอาหาร อากาศ นํ้า ทำ ไห้มีสารพิษตกด้างไนร่างกาย ¥4^ DANGER POISO.-J รู้ทันชีวิต I ^1 พระมพาสมโทย^าน-{ฬผ M.D.,Pit.D. \\3 X www.kalyanamitra.org

ล้าJiDษ = ปรับสมฤลร่ไงกายใหม่ การล้างพิษ คือ การปรับสมดุลร่างกายใหม่ ยกตัวอย่าง การล้างพิษแบบอดอาหาร ด้วยการเลือกดื่มแต่นํ้าสะอาด และ กินผลไม้ซนิดเดียวกันซํ้า ๆ ส่งผลให้ร่างกายต้องดึงแหล่งพลังงาน สำ รองที่สะสมอยู่มาใช้ ทำ ให้สารพิษต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในพลังงาน สำ รอง ในตับ เนื้อเยื่อ ไขมันถูกนำออกมาใช้ด้วย ส่งผลให้ปริมาณ สารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายถูกขับออกไป นอกจากนื้ ยังมีวิธีการล้างพิษอื่น ๆ อีก เซ่น การล้างพิษ ด้วยการสวนทวารล้างสำไล้ วิธีการนื้ทำได้โดยการใช้นํ้าสะอาด เป็นหลัก ส่วนการใช้กาแฟสวนล้างสำไล้เรียกว่า Coffee Enema สำ หรับการล้างพิษโดยการสวนล้างสำไส้ด้วยนํ้าสะอาด เหมาะกับผู้ที่มีอาการห้องผูกปอยครั้ง เนื่องจากในร่างกายของคน ที่ท้องผูกเรื้อรังนั้นมีอาหารเก่าหมักอยู่ในสำไล้เป็นเวลานาน อาจ ก่อให้เกิดเยื่อเมีอกบุสำไล้ที่ช้นเหนียวขึ้น วิธีการนื้คือ ใส่นํ้าเช้าไปทางสำไล้ทีละน้อย ๆ แล้วให้นํ้า ค่อย ๆ ไหลขึ้นไปถึงลำไล้ซ่วงบนโดยอาจใช้การนวดซ่วยเล็กน้อย เสร็จแล้วจึงปล่อยนํ้าออกมาพร้อมกันทั้งหมด นํ้าก็จะซ่วยซะล้าง เอาสารพิษที่หมักหมมอยู่ในสำไล้ออกมา รู้ทันชีวิต ทใะนหาล ฐานวฺร!ไ/น W.D.. f'h.D. www.kalyanamitra.org

วิรส์JเกถปริมาณสารพิษในทัวเOJ ไม่มีอาการจำเพาะเจาะจงที่บ่งซี้ให้เห็นว่าในร่างกายเรามี สารพิษตกค้างอยู่ ผู้ป่วยที่ร่างกายได้รับสารพิษในปริมาณมากอาจ จะมีอาการรวม ๆ คือ เหนื่อยง่าย ใจสั่น อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย เนื่องจากมีอาการท้องอืดแน่นเฟ้อ แต่พอไปตรวจหาโรคกลับไม่พบ ในปีจจุบันพบว่า สารพิษที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม จำ พวกโลหะหนักสะสมอยู่ในร่างกายคนทั่วไปค่อนข้างมาก สารพิษ เหล่านี้ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและโรคเสื่อมทั้งหลาย เซ่น เส้นเลือดเสื่อม สมองเสื่อม หัวใจทำงานบกพร่อง เส้นเลือดตีบ แตก ด้น เป่นด้น รู้ทันขวต 63vnsDvnftWii ^เฯนวฑโSJ M.D,.Ph.D. www.kalyanamitra.org

การตรวจหาสารพิษจำพวกโลหะหนักในร่างกายนั้นควร ปรึกษาแพทยโดยตรง ซึ่งเราสามารถตรวจหาปริมาณของสารพิษ ชนิดนี้ได้ด้วยการตรวจเลือด ตรวจนิสสาวะ และตรวจเส้นผม มีกระบวนการรักษาผู้ปวยโรคสารพิษโลหะหนัก โดยการ ขับโลหะหนักออกจากร่างกายด้วยวิธีคีเลขั่น (Chelation) คือการ ให้นํ้าเกลือที่มีสารประกอบทำหนัาที่สำคัญในการจับสารโลหะหนัก ซึ่งสะสมตกค้างในเนี้อเยื่อ และพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดของเรา เพื่อขจัดออกจากร่างกายทางระบบขับถ่าย ในสหรัฐอเมริกามีการศึกษาวิจัยครั้งใหญ่ว่า การทำคืเลซั่น (Chelation) มีประโยชน์กับผู้ที่เป็นโรคหัวใจตีบหรือไม่ ซึ่งลือว่า เป็นแนวโนัมใหม่ของวงการแพทย์เลยทีเดียว ในส่วนของวงการแพทย์แผนไทยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่แพ้กัน แต่มุ่งไปที่ประเด็นของการส้างพิษออกทางผิวหนังพร้อม กับเหงื่อ เซ่น การอยู่ไฟ การประคบ อบสมุนไพร รวมถึงการนวด ส้างพิษเพื่อปรับระบบไหลเวียนนั้าเหลืองให้ดีฃึ้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้ ถูกระบุไวีในคัมภีร์ระบบธาตุของอายุรเวทที่เนันเรื่องการส้างพิษ /C/i รู้ทันฃีวิต 1(3 JL พะมพาฒจาฆ ฐานๅฬ!ฆ M D.,Ph.D www.kalyanamitra.org

หลักในการล้างพิษ การล้างพิษมีหลักง่าย ๆ คือ พยายามไม่รับเอาพิษใหม่เข้า สู่ร่างกาย โดยการเลือกรับอาหาร นํ้า และอากาศที่สะอาดบริสุทธ และพยายามเอาพิษเก่าที่สะสมอยู่ในร่างกายออกด้วยการดีท็อกซ์ การดีท็อกซ์มีหลากหลายวิธี เราควรศึกษารายละเอียด และข้อห้ามต่าง ๆ ก่อนทำ เข่น วิธีการสวนล้างลำไส้ไม่เหมาะ กับผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งลำไล้ เคยตัดต่อลำไล้ เคยมีอาการอักเสบ ของลำไส้ ผู้ป่วยที่เคยเป็นริดสีดวงทวาร เพราะมีความเสี่ยงว่า อาจจะมีเลือดออกเพิ่มขึ้น เป็นด้น ดังนั้น เราควรศึกษารายละเอียดรวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ ให้ ดีก่อนทำดีท็อกซ์ ตลอดจนการล้างพิษด้วยวิธีคืเลชั่นก็มีข้อจำกัด เข่นกัน เพราะของเสียจำพวกโลหะหนักต้องถูกขับออกทางไต ดังนั้น ผู้ป่วยต้องมีร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะระบบการทำงาน ของไตที่เป็นป่กติ รู้ทันชีวิต 65•.•(ระมพาลร)'ชาย ฐานวุฬฒ M.D., Ph.D. www.kalyanamitra.org

สูตรล้างพษถ้วยถัวเอJ เราสามารถสัางพิษเองง่าย ๆ ได้ที่บ้านด้วยสูตรอาหาร ล้างพิษ โดยใฟ้ยเกิร์ตครึ่งถ้วยผสมกับนํ้าผึ้งและนํ้ามะนาว คน ให้เข้ากันแล้วรับประทาน ก็จะช่วยล้างพิษในร่างกายเราออกไป ได้ เนื่องจากกรดบางตัวในอาหารมีฤหธิ้ในการกำจัดสารพิษ เช่น กรดบางชนิดในนํ้ามะนาว กระเทียม และห้วหอม เนินด้น การล้างพิษต้องดูให้ครบวงจร เมื่อล้างพิษที่ตกด้างภายใน ร่างกายแล้ว เราต้องไม่ลืมที่จะล้างพิษภายในจิตใจด้วย เพราะ เหนือสิ่งอื่นใดร่างกายของเราจะทำงานได้ดี อารมณ์และจิตใจก็ เนินส่วนสำคัญ มีการด้นพบว่า การทำงานของร่างกายคนเราอาคัยการ สวิตซ์ผ่านเล้นประสาทที่เชื่อมโยงระหว่างกัน โดยถูกควบคุมจาก ส่วนกลาง คือ \"สมอง\" แล้วเซลล์สมองกํมีการเชื่อมต่อถึงกัน ซึ่งล้าเราคิดในเรึ่องร้าย ๆ อารมณ์ขุ่นมัวก็จะเกิดการเชื่อมต่อกัน ในทางลบ ข้อมูลในสมองก็จะเปลี่ยนเนินลบ แต่ล้าเราคิดในเรึ่อง ดี ๆ อารมณ์ก็จะเบิกบานผ่องใส ทำ ให้เกิดการเชื่อมต่อกันทาง ด้านบวก ข้อมลในสมองก็จะเปลี่ยนเนินบวก flfl รู้ทันขีวิต vJ พ่ะฆทาลนชาย ฐานๅทโฒ M.D.,Ph.D. www.kalyanamitra.org

กระบวนการเชื่อมโยงของสมองซับซ้อนและทรงพลัง สามารถสร้างพลังบวกหรือพลังลบก็ได้ ถ้าสมองเกิดการเชื่อมโยง กันเป็นพลังลบก็จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดโรคต่าง ๆ อาทิ มะเร็ง ความด้น เบาหวาน ถ้าเราล้างพิษจิตใจได้สำเร็จ เปลี่ยนประจุสมองที่จุด เชื่อมต่อของสมองให้เป็นพลังด้านบวก ก็จะส่งผลให้ระบบ ร่างกายของเราขับพิษโด้ดี พิษก็จะไม่คั่งค้างอยู่ในตัวเรา สรุปว่า เราต้องล้างพิษอารมณ์ก่อน เพื่อเป็นการกคั่นใจทำให้ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายของเราสะอาดขึ้น เราก็จะมีสุฃภาพร่างกายที่แข็งแรง รู้ท้นซัวต 67พพฆโทรเพย ฐามๅทโพ W.D., Ph.D www.kalyanamitra.org

๏ (ร) G ร> G 0 ธ) 0 0 ฒฟ้BdUfittaitt a www.kalyanamitra.org

การ๓วนิเษ เมื่อคเjujnsma ปัจจุบันการล้างพิษได้รับความนิยมมาก เพราะคนในยุคนี้ ค่อนข้างกังวลเรื่องสุขภาพ แต่ความจริงแล้วเรื่องการล้างพิษไม่ได้ มีความนิยมแพร่หลายเฉพาะในยุคปัจจุบันเท่านั้น แม้ในครั้ง พุทธกาลก็เซ่นเดียวกัน รู้ทันชีวิต ฑระนนไ.'.น•ราข ฐานวฺฑโai M.D., Ph D. www.kalyanamitra.org

ช่องทางการขับพิษออก'จากร่าjmย ในสมัยพุทธกาลมีการขับพิษออกจากร่างกายด้วยวิธีการ ขับออกทางมีสสาวะ อุจจาระ และเหงื่อ การยับพิษออกจากร่าJกายทาjOสสาวะ ก่อนอื่นเราจะต้องดื่มนํ้าสะอาดให้เพียงพอ เพื่อไม'ให้ สารพิษคั่งค้างในร่างกาย คนในยุคนี้ส่วนใหญ่ตกอยูในภาวะเร่งรีบ เดื่ยวประชุม เดี่ยวเดินทาง กลัวรถติดจะอั้นปีสสาวะลำบากจึงดื่ม นํ้าน้อยบ้าง อั้นปัสสาวะบ้าง ผลก็คือสารพิษคั่งค้างในร่างกาย บางรายถึงอั้นเกิดตุ่มคันตามผิวหนัง เพราะฉะนั้น การปัสสาวะคือหลักการขับสารพิษออกจาก ร่างกายโดยธรรมฃาติอย่างง่าย ๆ โดยเราไม่ควร!เนธรรมซาติ และ ควรดื่มนํ้าสะอาดให้ใด้อย่างน้อยวันละ 2,500-3,000 ซืซี. ก็จะดี ต่อสุขภาพมาก การยันพิษออกจากร่าJกายทาJอุจจาระ การอุจจาระ คือ การขับของเสียออกจากร่างกาย เป็นการ ปรับสมดุลร่างกายอีกทางหนึ่ง คนที่ห้องผูกปอย ๆ สารพิษก็จะ คั่งค้างในร่างกาย การขับของเสียทางอุจจาระใม่ใด้ขับสารพิษที่มองเห็นออก มาเพียงเท่านั้น แต่ยังปรับสมดุลอุณหภูมิภายในร่างกายอีกด้วย 70 เมิม่^วิ®^ / \\_/ ทรรนทาau•(ทน 5านๅ*เโฒ M.O..Ph.D. www.kalyanamitra.org

ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการที่ช่วยปรับธาตุโฟให้การทำงาน ซองร่างกายสมตุล ถ้าสังเกตลูจะพบว่า บางคนเวลารับประทาน ของเย็นมาก ๆ สักพักจะห้องเสีย พอใต้ถ่ายห้องแล้วจะรู้สึกสบาย ตัวขึ้น นี่ก็คือการปรับธาตุโฟในตัวนั่นเอง ในครั้งพุทธกาล มีคราวหนึ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ห้องผูก พระองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่า ให้ไปขอยาถ่ายจากหมอ ซีวกโกมารภัจจ้ พอหมอซีวกโกมารภัจจ์ทราบข่าวท่านก็คืดว่า พระสัมมาล้มพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ละเอียดอ่อน จะถวายยาถ่ายทั่วไป นั่นหาควรไม่ ท่านจึงนำกัานบัว 3 กัาน มาอบด้วยสมุนไพร หลายขนิด แล้วมอบให้พระอานนท์นำไปถวายพระสัมมาล้มพุทธเจ้า เพื่อการสูดดม โดยเมื่อสูดดมก้านบัว 1 ก้าน จะช่วยให้ถ่าย 10 ครั้ง จากนั่นเว้นระยะให้ร่างกายปรับตัวจึงสูดก้านบัวอีก 1 ก้าน ถ่าย อีก 10 ครั้ง สดดมหมดทั้ง 3 ก้าน จะถ่าย 30 ครั้ง แล้วจึงหาย คร'pัน1พระ\"สัมมาล้มพ1ุท'ธเจ้าทร„ง1สูดดมก้า.นบวกขับถs ่ายไอ,อก!มาไจไรง ไๆ ทำ ให้เบาเนื้อเบาตัว ถือว่าเป็นสูตรยาถ่ายที่แปลกมาก ๆ รู้ทันขีวิต 71'ทระพาลมขาข ฐาน-,ฬร! M.o..Ph.D. www.kalyanamitra.org

การขับพิษออกจากราJกายทางเหงอ ในครั้งพุทธกาลเคยมีเหตุเกิดขึ้น ณ กรุงเวสาลี พระพุทธ- ศาสนาแผ่ฃยายออกไปในวงกว้าง ญาติโยมมีศรัทธาต่อพระพุทธ- ศาสนามากขึ้นเรื่อย ๆ ทายก ทายิกา หรืออุบาสก อุบาสิกาต่างก็ สรรหาอาหารที่ปรุงแต่งอย่างประณีตนำมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ เมื่อพระภิกษุสงฆ์ฉันแล้วทำให้เกิดสารพิษคั่งตามร่างกาย น่าสังเกตว่าอาหารธรรมฃาติตามซนบทที่ไม่ถูกปรุงแต่งมาก มีสารพิษไม่มากเท่ากับอาหารที่มีการปรุงแต่งประติดประดอย ทั้ง ข้าวที่สีแล้วสีอีก ทั้งเครื่องปรุงต่าง ๆ มากมาย ทั้งผงฃูรส สิผสม อาหาร ยิ่งมีการปรุงแต่งมากอาหารก็ยิ่งมีสารพิษมาก สำ หรับใคร ที่ชอบกินอาหารตามภัตตาคารหรูบ่อย ๆ พึงระวังให้มาก ยิ่งอาหาร รสเลิศประเภทสเต็กหรือเนื้อย่างหากกินปอย ๆ ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ 72 รู้ทันซีวิต ราน■{ทโร; M.D., Ph.D. www.kalyanamitra.org

หมอฃวกโกมารภัจจ์เป็นหมอที่เก่งกาจมาก พอท่านเห็น ลักษณะผิวพรรณ อากัปกิริยาของพระภิกษุสงฆ์โดยภาพรวม ก็ดู ออกเลยว่าตอนนี้ความเป็นอยู่ของพระภิกษุสงฆ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เริ่มมีสารพิษคั่งตามร่างกายมากขี้น ท่านจึงกราบทูลพระล้มมา- สมพทธเจ้า ขออนญาตให้พระภิกษุสงฆ์ทำที่จงกรมและเรือนไฟ ที่จงกรมไว้สำหรับให้พระภิกษุสงฆ์ได้ออกกำลัง เดินไปมา พร้อมกับทำสมาธิไปด้วยเพื่อให้เหงื่อออก ส่วนเรือนไฟคือซาวน่า ในป็จจุบันนั่นเอง ทำ ได้เดยการสร้างอาคารขึ้นมาแล้วตั้งเตาตรง กลาง มีท่อต้อออกไปข้างนอกเพื่อระบายควัน และมีรางนํ้าวาง ไว้เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องให็ไม'แห้งจนเกินไป ให้พอขึ้น ๆ เป็นการอบร่างกายเพื่อขับเหงื่อออกมาให้มากเป็นพิเศษ รู'้ ทันชีวิต 73พระพ!tUjใทย ฐาน^ฬฒ M.D..Ph.o. www.kalyanamitra.org

\"จงกรม\" และ \"เรือนไฟ\" เป็นวิธีการขับสารพิษออก ทางเหงื่อที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล โดยหลักการไม่ได้มีอะไรใหม่ เป็นเพิยงวิธีการช่วยขับสารพิษออกทางเหงื่อ เราควรพยายามดูแลตัวเองให้มาก ๆ ไม่ ใช่ว่ารับสารพิษ เขัาไปไนร่างกายเต็มที่แล้วถึงค่อยไปหาวิธีการขับออก แต่เราควร ดูแลร่างกาย เลือกกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ อาหารที่มีการปรุงแต่ง ไม่มากเกินไป พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีสีผิดธรรมฃาติ หรือมีรสผิดธรรมชาติ เซ่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด เป็นตัน เหนขวด 74 ทระมพาสพทย ฐาน\"}nใ♦น M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org

ปิจจุบันสารพิษปะปนมากับฟ้ซผักตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก ทั้งยาฆ่าแมลง ป๋ยเคมีต่าง ๆ พืชผักล้วนมีสารพิษปะปนคั่งค้างมา ตั้งแต่ต้น ยิ่งเรานำมาปรุงแต่งเขาไปอีก ก็่ยิ่งทำให้สารพิษเพิ่มมาก ขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้น เราควรเน้นกินอาหารธรรมซาติ ยิ่งเป็น อาหารออร์แกนิกปลอดสารพิษยิ่งดี แล้วออกกำลังกายสมํ่าเสมอ อาจจะอบชาวน่าบัางเป็นครั้งคราว ไม่ต้องทำทุกวันเป็นกิจวัตร จนถึงขั้น!!เนระบบการทำงานชองร่างกายตามธรรมฃาติ เทันซวต 75meuwiajiritJ ฐ■ญๅฬรน M.D..fh.D. www.kalyanamitra.org

การขับพิษออกจากร่าJกายทวยวาจาสํถย์ นอกจากการขับพิษออกจากร่างกายทางป็สสาวะ อุจจาระ และเหงื่อแล้ว การขับพิษออกจากร่างกายด้วยการใช้วาจาสัตย์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ การขับพิษออกจากร่างกายด้วยวาจาสัตย์ คือ การขับพิษ ออกจากร่างกายด้วยอำนาจสัจกิริยา สัจวาจา ยกด้วอย่าง พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าตอนสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ทรง ออกบวฃเป็นดาบสอยู่ในป่ากวา 50 ปี วันหนึ่งดาบสเดินทางเช้ามาเยี่ยมเพื่อนในเมือง พอดีกับที่ ลูกซายของเพื่อนถูกงกัด เพื่อนซองดาบสร้องขอความฃ่วยเหลือว่า \"ท่านดาบสฃ่วยหน่อยเถิด ลูกชายของข้าพเจ้าถูกงูกัด อาการ แย่แล้ว\" ดาบสรับคำ แต่ตนไม่ใฃ่หมอจะทำอย่างไรได้ จีงตัดสินใจ ยื่นมือไปจับศีรษะลูกชายของเพื่อนแล้วตั้งสัจวาจาว่า \"ข้าพเจ้าออกบวชเป็นดาบส พอใจในการบรรพชาอยู่ แค่ 7 วันแรกเท่านั้น ก่อนบวชนั้นมุ่งมั่น แต่พอพบความลำบาก ในป่าผ่านไป 7 วัน ใจไม่อยากบวชต่อ แต่เมื่อได้ตั้งใจแล้วก็ อดทนเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้กว่า 50 ปีแล้ว ด้วยอำนาจสัจจะนี้ ขอพิษงูคลายไปเถิด ชอความสวัสดีจงมีแด่มานพน้อยผู้นี้\" รู้ทันซีวิต พ'ะ:;ม!ฑระJไทย jnu'jwโ?น M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org

พอดาบสอธิษฐานจบปรากฏว่า พิษงูตั้งแต่ช่วงคอขึ้นไป ตกไปในแผ่นดินหมด มานพน้อยลืมตาเรียกแม่ได้ ดาบสจึงกล่าว กับเพื่อนต่อไปว่า \"ข้าพเจ้าช่วยได้แค่นี้ ท่านจงรับช่วงต่อเถิด\" ฝ่ายเพื่อนดาบสเห็นดังนั้นก็ทำสัจวาจาบ้าง เอามือวาง ทาบที่หน้าอกลูกชายแล้วกล่าวว่า \"บางทีมืน้กบวชจากป่ามาขอ พักอาศย ข้าพเจ้าดูกิริยาอาการความสำรวมแล้วใจไม่อยากให้พัก แตกไม่เคยปฏิเสธเลย ด้วยอำนาจสัจวาจานี้ฃอความสวัสดีจงมี แค่บุตรชายของข้าพเจ้า ขอให้พิษร้ายคลายไปเถิด\" พอสินเสียงพิษร้ายตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นไปก็ตกไปในแผ่นดิน ลูกชายลุกขึ้นมานั่งได้แต่ช่วงขายังขยับไม่ได้ เขาจึงให้ภรรยามา ช่วยต่อ ภรรยายื่นมือมาแตะขาท่อนล่างของบุตรขาย พร้อมกับ บอกสามือย่างเหนียมอายว่า \"ข้าพเจ้าจะตั้งสัจวาจาแล้ว พี่ออกไป ข้างนอกก่อนได้ไหม สัจวาจานี้พูดต่อหน้าพี่ไม่ได้\" สามีตอบ ภรรยาของตนไปว่า \"ไม่เป็นไร เราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว น้องจง ตั้งสัจวาจาเถิด\" รู้ทันชีวิต พร#นหาสมไทย ฐานวุฬฒ M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org

ภรรยาได้ฟ้งดังนั้นจึงตั้งสัจวาจาว่า \"งูไม่เป็นที่พอใจของ บุตรขายข้าพเจ้าฉันใด สามีข้าพเจ้าก็ไม่เป็นที่พอใจของข้าพเจ้า ฉันนั้น แต่ข้าพเจ้าก็อดทนอยู่ด้วยกันมาตลอด ด้วยอำนาจ สัจวาจานี้ขอพิษร้ายจงคลายไปเถิด ขอความสวัสดีจงมีแก่บุตร ขายข้าพเจ้า\" พอนางพูดจบปรากฏว่าพิษในขาช่วงล่างก็ตกลงไปในแผ่นดิน ลูกขายหายจากพิษร้าย นี่คือการล้างพิษด้วยอำนาจสัจวาจา เราอาศัยอำนาจความสัตย์ขจัดพิษได้ ล้าผู้ที่ตั้งความสัตย์ นั้นเป็นผู้ที่มีบุญในดัวเพียงพอ ประพฤติตนเป็นคนดิโดยปกติ มี ศีลธรรม มีทั้งบุญในอดีตและบุญป้จจุบัน ประการต่อมาเมื่อตั้งความสัตย์ คือ สามารถดัดใจกล่าว ความจริงได้โดยไม่หวาดกสัวต่อผลกระทบ เรื่องนี้ดูผิวเผินเหมือน ง่าย แต่จริง ๆ ไม่ง่ายเลย ยกดัวอย่าง ดาบสบวชมา 50 กว่าปี จะให้พูดความจริงต่อหน้าเพื่อนนั้นไม่ง่ายเลย อาจกสัวเพื่อนไม่ นับถือศรัทธา แล้วจะนำเรื่องไปพูดต่อ ๆ กัน แต่ดาบสก็ดัดใจ รู้ทันชีวิต พะมหาสมขาย ฐานรุฬ«; M.D.. Ph.D. www.kalyanamitra.org

พูดความจริง การปฏิบัติเข่นนี้ต้องใช้กำลังใจอย่างมากในการ ตั้งสัจวาจา เป็นการรวมกำลังบุญที่ตัวเองมีอยู่ พุ่งเบัาไปเพื่อการ ล้างพิษให้กับบุคคลที่ตัวเองต้องการข่วยเหลือ ผลบุญจีงส่งผลแรง เป็นพิเศษ ที่สำ คัญตัวผู้รับการข่วยเหลือก็ต้องมีบุญเพียงพอด้วย เมื่อ วิบากกรรมที่ตามมาส่งผลเริ่มเบาบางลงไปแล้ว พอบุญของผู้อื่นมา ข่วยหนุนก็ส่งผลให้หลุดพ้นปลอดภัย ในยุคสมัยนี้ วิธีการล้างพิษแบบนี้ไม่ค่อยมีใครไต้ปฏิบัติ แต่เราไม่ควรมองช้าม ไม่เฉพาะกรณีล้างพิษเท่านั้น แม้ในเรื่อง อื่น ๆ ก็เข่นเดียวกัน การตั้งสัจวาจาจะส่งผลอย่างไม่น่าเชื่อ ให้เรา ลองเอาวิธีการล้างพิษในพระพทธศาสนาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลไปลอง ใช้ภันดู แล้วขอให้ปลอดโปร่ง ชีวิตมีความสุข แข็งแรงล้วนหน้า กันทุกคน \"mam พระมVIาสมข-พ รู้ทันฃีวิต 79M.O., Ph.D. www.kalyanamitra.org

ะ- 42i 43! 441 45 46i s 47: ^ 48. พ Ltjfj,j:'t<^*,i;.^tAMU*-i>47*,tii.>w-vrAf VvnV' - •>: .ไ•'nttinim iiiiiilili*i>liMiB www.kalyanamitra.org

ใช้ \"สติ\" ดำ เนินชีวิต พิชิตโรคอ้วน สมัยก่อนคนเราประสบความลำบากในการทำมาหากิน ดิ้นรนแสวงหาอาหารมาหล่อเลี้ยงซืวิต ยิ่งในสมัยที่มนุษย์ยังอยู่ ในยุคเร่ร่อน ต้องใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการร่อนเร่หาผลไม้ กลางปาบ้าง ล่าสัตว์บ้าง ใช้ชีวิตเหมือนกับสัตว์ เหมือนไก่ที่ คุ้ยเขี่ยหากินทั้งวัน ในยุคฟ้จจุบันกลับตาลปัตร กลายเป็นว่าคนเรามีอาหาร กินมากเกินไปจนหลายคนเป็นโรคอ้วน ต้องหาทางลดนํ้าหนัก แล้วก็พบว่ากว่าจะลดนํ้าหนักตัวได้สักกิโลกรัมเป็นเรื่องลำบาก แสนเข็ญเหลือเกิน รู้ทันชีวิต Q 1 ท•รทททรluBty ฐาน-}ฬรแ M.R,.?1า น. www.kalyanamitra.org

อ้วนหรอพฮมยนอยู่ที่ใจ จริง ๆ แล้วการลดความอ้วนไม่ได้เป็นเรื่องราวซับซ้อน อะไรเลย อ้วนได้ก็ผอมได้ ฃี้นอยู่ที่ใจของเราอย่างเดียวว่าเราอยาก ผอมจริงหรือไม่ ถ้าถามว่าอยากผอมต้องทำอย่างไร มีหล้กการง่าย ๆ 2 ข้อ คือ (1) \"มืสติในการกิน\" เราจะอ้วนได้ก็ต้องกินอาหารเข้าไปมาก จนร่างกายไข้พลังงานที่ได้รับไม่หมด จึงถูกสะสมอยู่ในร่างกายกลาย เป็นไขมัน (2) \"เราต้องเผาผลาญพลังงานในร่างกายด้วยการ ออกกำลังกาย\" ถ้าเรากินอาหารมากแต่ใช้พลังงานน้อยก็อ้วน ถ้าเราอยาก ผอมก็ต้องกินอาหารให้น้อยลงแล้วออกกำลังกายให้มากขึ้น เป็น เรื่องง่าย ๆ ที่ไมไต้มีความซับซ้อนยุ่งยากเลย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ ตั้งใจจริงหรือไม่เท่านั้นเอง รู้ฟ้'นขีวิร^ >\\รรนiniiWiu ฐาน•(ฬพ M.D,,Ph.D. www.kalyanamitra.org

รู้กันปาก ประเด็นแรกคือ กินอาหารให้เพียงพอและพอคื คนที่มี นํ้าหนักตัวมาก ๆ ส่วนใหญ่จะมีคำพูดที่คล้ายคลีงกันว่า \"วัน ๆ ไม่ค่อยได้กินอะไรเลย คงเป็นเพราะร่างกายเราไม่เหมือนคนอื่น กินนิดเดืยวมันก็อ้วนเอา ๆ\" ทางแก้ที่ดี คือ ให้จดทุกอย่างที่เรากินในแต่ละวัน อย่า ใช้ความรู้สืกเพียงอย่างเดียว พอจดทุกอย่างที่กินเช้าไปจริง ๆ จะพบว่า ที่เคยบอกว่าไม่ได้กินอะไรนั้นมีทั้งนํ้าหวาน นํ้าอ้ดลม ขนมขบเคี้ยว กินจุบกินจิบทั้งวัน ซึ่งอาหารเหล่านี้มีพลังงานมาก พอสมควร และเป็นพลังงานส่วนเกินที่พร้อมเปลี่ยนเป็นไขมันทั้งนั้น รู้ทับซีริต 83พรรมพารทททฃ ฐานรุทโa M.D., Ph[) www.kalyanamitra.org

เมื่อร่างกายเราใช้พลังงานโม่หมด สะสมพลังงานส่วนเกิน ทุกวัน วันหนึ่ง ๆ เกินมาลัก 300 กิโลแคลอรี ผ่านไป 30 วัน นํ้าหนักเราก็อาจขึ้นมา 1 กิโสกรัม พอผ่านไป 1 ปี นํ้าหนักเราก็ มีสิทธิ้ขึ้นมาอีกเป็นสิบกิโลกรัม เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะสดนํ้าหนักต้องตั้งใจควบคุมอาหาร อย่างจริงจัง กินอาหารให้ตรงต่อเวลาทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และ มื้อเย็น ควบคุมปริมาณอาหารให้พอดี ไม่ตามใจปากเอาความ อยากเป็นที่ตั้ง มีหลักในการกินอาหารว่า เมื่อรู้ตัวว่ากินไปอีก 4-5 คำ จะอิ่มแล้วให้หยุด จากนั้นให้ดื่มนํ้าตามพออาหารที่อยู่ระหว่าง เดินทางในหลอดอาหารลงไปถึงกระเพาะบวกกับนํ้าเราก็จะรู้สึก อิ่มพอดี ใครใช้สูตรนี้แสดงว่าการลดนํ้าหนักสำเร็จไปแล้ว 70-80% ทีเดียว ไม่ใช่กินจนเกินอิ่มแน่นท้องแล้วค่อยหยุด รูทันชีวิต ราน■ทุ!ใฒ M.i').. Pti.D. www.kalyanamitra.org

ออกกำผักาย ประเด็นที่สอง คือ เผาผลาญพลังงาน คนเราพอตื่นเข้า ขึ้นมาก็ลุกเดิน นั่ง อาบนํ้า ล้างหน้า แปรงฟิน เดินไปทำงาน แม้ว่า เราจะทำงานในออฟV ไม่ได้มีวิถีขีวิตอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ไม่ได้ ทำ งานหนักและได้ออกกำลังอย่างเกษตรกร แต่การเดินไปเดินมา ก็ต้องไข้พลังงานไปในตัว เกิดการเผาผลาญพลังงานในระดับหนึ๋ง อยู่แล้ว ถ้าเราต้องการลดนํ้าหนักก็ขอใท้ตั้งใจออกกำลังกายเป็น พิเศษ ด้วยการบริหารร่างกายแบบเอาจริงเอาจังทุกวัน วันละ ประมาณ 30 นาที ถีง 1 ชั่วโมง จะทำใหไขมันที่สะสมอยู่ใน ร่างกายถูกเผาผลาญไปไต้ การออกกำลังกายในช่วงเวลา 25 นาทีแรก ร่างกายจะ เผาผลาญพลังงานด้วยการใข้ไกลโคเจนที่อยู่ในตับและกล้ามเนื้อ ยังไม่ได้เผาผลาญถึงไขมัน เราจึงต้องออกกำลังกายให้เกิน 25 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ไขมันถูกดึงออกมาใข้ ร่างกายเราก็ จะมีไขมันส่วนเกินลดลงเรื่อย ๆ เทันชีวิต 85ทรรรมหาล^ไร-แเ ฐ!บ'เทโฒ M.O., Ph.i). www.kalyanamitra.org

เมือตงใจออกกำลังกายอย่างสมำเสมอจนซินเปนนิสัยแล้ว เป็นธรรมดาที่ร่างกายของเราจะแข็งแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ คนส่วนใหญ่ตั้งใจลดนํ้าหนักไดไม่นานก็แพ้ใจตัวเอง เพราะ อยากกินโน่นอยากกินนี่ แต่สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จมักจะ มืแรงบันดาลใจที่ทำให้พบจุดเปลี่ยนพลิกซีวิตได้ ยกตัวอย่าง ขายหนุ่มอายุ 20 ปี ที่เคยมีนํ้าหนักตัวถึง 140 กิโลกรัม วันหนี่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากพฤติกรรมการกิน ของตัวเองที่ส่งผลให้เขาหายใจไม่ออก จนเขารู้สึกว่าตัวเองกำลัง จะตายจึงคิดได้ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปต้องไม่รอดแน่ เขายังไม่อยาก อายุสั้นจึงตัดลินใจลดนํ้าหนักอย่างจริงจังโดยการควบคุมอาหาร จากที่เคยกินครั้งละ 5 จาน ก็เหลือเพียงจานเดียว g^ รู้ทันซีวิต หระมพาสฆใทย ฐานๅฬฒ M.o.,Ph.D. www.kalyanamitra.org

ระยะแรกพอกินน้อยกว่าปกติก็รู้สึกทรมานเพราะความหิว รู้สึกว่าใจหวิว ๆ มือไม้สั่น เกิดอาการทางกาย เพราะร่างกาย คุ้นฃินกับการกินอาหารมาก ๆ แต่เขาก็มุ่งมั่นตั้งใจ แข็งใจไม่กิน คิดไว้ว่าอย่างไรก็คงไม่ถึงกับตาย แล้วเขาก็เริ่มออกกำลังกายอย่าง สมั่าเสมอต่อเนื่อง ทำ อย่างนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 8 เดือน นํ้าหน้ก จากเดิม 140 กิโลกรัม ลดลงมาเหลือ 67 กิโลกรัม ลดลงไปถึง 73 กิโลกรัม เฉลี่ยในเดือน ๆ หนื่งเขาลดนํ้าหนักได้ถึงเกือบ 10 กิโลกรัม ความมุ่งมั่นตั้งใจในซ่วงเวลาแค่ 8 เดือนเท่านั้น ทำ ให้ เขากลายเป็นคนสมาร์ทไปเลย รู้ทันชีวิต Q^ พระ:มทารน'!:าย ฐาา!วุฑโฒ M.O., Ph.D. / www.kalyanamitra.org

วจีกรรมทา]ห้อัวน เหตุผลโนป้จจุบันที่ทำให้เราอ้วน เพราะเรากินอาหารมาก และออกกำลังกายน้อย แต่ยังมีประเด็นที่หลายคนมองข้ามไป คือ \"วจืกรรม\" ที่เกิดจากวิบากกรรมในอดีต คนที่ชอบพูดล้อเลียนผู้อื่นด้วยคำหยาบคาย อาจจะพูด ไปด้วยความสนุกปากไม่ทันยั้งคิดว่า \"ไอ้อ้วน\" บัาง ล้อเลียนว่า \"เอวหายไปไหน\" บ้าง พูดไปเพราะอยากจะแหย่เล่นเท่านั้นบ้าง แต่จริง ๆ แล้วพอเราไปล้อเลียนเขา เขาเกิดความเขินอายส่งผล ให้วิบากกรรมจากวจีกรรมติดตัวเราไปด้วย ในอนาคตเราก็จะเป็น อย่างที่ล้อเลียนเขาไว้ รู้ทันชีวิต 88 YiisuvniHjtntjฐานๅฑโtti M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org

ภาพผังทีเราเคยไปล้อเลียนเขาไว้ มันจะเป็นผังติดอยู่ในใจ ของเรา อนาคตเราก็จะเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น อย่าเผลอล่วงเกิน ใครด้วยคำพูดจนทำให้เขาเขินอาย สิ่งใม่ดีที่เราพูดมีลิทธื้เกิดขี้นกับ ตัวเราในอนาคตใด้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากมีร่างกายที่แข็งแรงผอมเพรืยวเราก็ ควรยึดหลัก 3 ข้อ คือ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และใม่ก่อ วจีกรรม เราทุกคนล้วนปรารถนาให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อร่างกาย แข็งแรงแล้วก็อย่าลีมใข้ร่างกายนั้นทำความดี ตั้งใจประพฤติปฏิบ้ติ ธรรมด้วย ทรรขฺพารนชาช รู้ท้นซัวัต 89พ M.D., Pli.o. www.kalyanamitra.org

ฒ- f ร^ IT I itii Jw -t H 'iH'- •- -i w*-<ww.kalyanamitra.org

ส์บสุราเป็นอาจิณ ผิถ่กภแฌ่กรรม \"สุรา\" นํ้าเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนจากคนดีให้กลายเนินคน เลว เปลี่ยนจากคนรวยให้กลายเนินคนจน ทั้งยังทำให้สุขภาพเสื่อม และเลี่ยงต่อการประสบอุ'ยัติเหตุ แต่ถึงแม้จะรู้กันอย่างนี้คนใม่น้อย ก็ยังดื่มสุรากัน รู'้ ทันชีวิต พระนHาสมชาย ฐานรุทโฌ M.D.. Ph.D. www.kalyanamitra.org

เรองราวความเปีนมายอJ \"สุรา'' เรื่องราวความเป็นมาของ \"สุรา\" มีการระบุไว้ในคัมภีร์ว่า ในสมัยที่พระเจ้าพรหมทัตครองเมีองพาราณสี มีพรานปานายหนึ่ง ขื่อสุระ เขาดั้นดันเข้าไปจันสัตว่ในปาลีก แล้วไปพนโพรงไม้ใหญ่ แห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายโอ่ง เผอิญมีผลไม้ที่สฺกงอมในนริเวณใกล้ ๆ ตกลงมาในโพรงไม้ นะนพอด^ี เ^มือIม,ีฝนตกนำ^ก็๘ตกลงมาขัง.1อยู่\"ใo นแอ่,งนำมีด้วย และม~ี ละอองยีสต์ปลิวมาตกลงไป พอแสงอาทิตย์ส่องมาก็เกิดการหมักตัว ของนํ้าผลไม้ และพันธุพืชต่าง ๆ จนกลายเป็นนํ้าลีแดง ๆ คงมี ลักษณะคล้ายไวนํในป้จจุนัน 92 รูท้บซิวิต รนฬาฟ้มขาrj ฐาบ■เฑโฒ W.D.. Pti-0. www.kalyanamitra.org

พรานสุระสังเกตเห็นพวกนกมาจิบนํ้ากินแล้วทำท่าทาง ประหลาดเต้นไปเต้นมาก็แปลกใจ จึงตัดสินใจลองซิมนํ้านั้นดูรู้สึก ว่าอร่อย เมื่อจิบซิมมากเข้าก็เกิดอาการมึนเมาแล้วหสับผล็อยใป พอตื่นมารู้สึกอารมณ์ดี ครึ้มอกครึ้มใจก็จิบซิมอีกเรื่อย ๆ จนติด ต่อมาพรานสุระออกเดินหาของป่าในที่ไม่ไกลออกไปนัก ก็ พบดาบสขื่อวรุณะบำเพ็ญพรตอยู่ จึงขวนให้มาลองซิมนํ้านี้ต้วยกัน ดาบสวรุณะติดใจในรสของนั้า สุดท้ายทั้งสองคนร่วมมือ กันสังเกต และจดจำส่วนประกอบของนํ้านั้นแล้วทดลองปรุงขึ้นเอง ปรากฏว่าไต้ผล จึงน่านํ้าที่ปรุงขึ้นใหม่เข้าเมืองไปถวายพระราขา พอพระราขาไต้ซิมก็ขื่นชอบ รับสั่งให้ผลิตขึ้นมาเป็นการใหญ่ เมื่อซาวเมืองเห็นว่าพระราขาทรงขื่นขอบนั้านี้มาก จึงดื่ม กินตามพระราขากันอย่างเอิกเกริก ปรากฏว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ บ้านเมืองส่มสลาย เพราะซาวเมืองไม่ประกอบอาชีพเอาแต่ดื่มเหล้า เมายาแล้วเรียกนํ้านี้ว่า \"สุรา\" เนื่องจากผู้นำเข้ามาคือนายฺสุระ \"สุระ\" แปลว่า \"กล้า\" แต่ถ้าจะเปรียบเทียบว่าดื่มนั้า นี้แล้วกล้า ก็คงจะหมายถึงพอมืนเมาก็กล้าแสดงกิริยาที่ปกติ ไม่กล้าทำ เซ่น กล้าลงไปคลานกับพื้น กล้าแก้ผ้าแล้ผ่อน กล้า เอะอะโวยวาย แล้วมืความรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่กลัว อะไรทั้งนั้นเพราะขาดสติไปแล้ว V,';I•.เนาพ!โ!-น รู้ทันชีวิต |น.ช.. Ph.D. www.kalyanamitra.org

เมื่อเมืองหนึ่งเกิดจลาจลล่มสลาย นายพรานสุระกับดาบส วรุณะก็นำสุราไปขายเมืองอื่น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายทั้งสอง เดินทางมาถึงเมืองสาวัตถี พบกับพระราชาคือพระเจ้าสัพพมิตต์ จึงนำสุราไปถวาย เมื่อพระราซาได้ซิมก็รับสั่งให้ผลิตสุรา 500 โอ่ง พอหมักได้ที่มันก็พองตัว นํ้าสุราในโอ่งจึงล้นออกมา เผอิญมืแมว แถวนั้นไปกินนํ้าที่ล้นออกมาจึงเมาแล้วนอนสลบไป ทหารที่เฝืาดู อยู่จึงเข้ากราบทูลพระราซาให้ทรงทราบ พระราซาผู้มืความระแวงอยู่แล้วนึกสงสัยว่า คนทั้งสองมา ปรุงยาพิษเพื่อลอบปลงพระชนม์พระองค์ จึงรับสั่งให้ประหารชีวิต ทันที นายพรานสุระกับดาบสวรุณะจึงถึงแก'ความตาย ไม่นานนักแมวที่หสับไปก็พินขึ้นมาวิ่งได้เหมือนเดิม พระ ราซาจึงทดลองดื่มนํ้านั้นแล้วเตรียมแจกจ่ายเป็นการใหญ่ แต่ พระอินทร์ทรงแปลงกายลงมาห้ามไว้ได้ทัน พระเจ้าสัพพมิตค์คิดได้ กรุงสาวัตถึจึงรอดพ้นจากความพินาศอย่างหวุดหวิด ถึงแมันายพรานสุระกับดาบสวรุณะจะตายไปแล้ว แต่ก็ ยังมืคนมากมายที่ดิดในรสสุรา ศึกษากระบวนการผลิต แล้วผลิต ต่อเนึ่องมาถึงป็จจุบัน และยังพัฒนาไปหลากหลายรูปแบบ มืทั้ง เบียร์ ไวน์ กระแซ่ เหล้าซาว เหล้าสีสารพัดรูปแบบ 94 ! รู้ทันชีวิตพะม'.niijjirti ฐานๅฬ?น M0..Ph.D. www.kalyanamitra.org

ร ศล 5 กับสามัญส์านกขอJมนุษย ศีล 5 มีมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล มีอยู่คู่โลกพร้อม ๆ กับสามัญสำนึกของมนษย์ที่ว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ ศีลฆัอ 1 ศีลข้อ 1 คือ มนุษยโม่ควรไปเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ต้อง เคารพในสิทธิชีวิตของคนอื่นเขา ไม่ว่าจะเปึนคนฃาติใดถ้ามีสำนึก ของความเป็นมนุษย์อยูกัจะไม่อยากฆ่าผู้อื่น ไม่อยากพรากชีวิตใคร สมมติว่าเราไปทัศนศึกษาในสมัยที่ยังมีการประหารด้วยการ ยิงเบีาโดยใข้ปีนเอ็ม 16 ในฐานะที่เรามาเยี่ยมชมคุก ให้เราเหนี่ยว ไกประหารมักโทษโดยไม่มีความผิดเราจะกล้าไหม ร้อยละ 99.99 ไม่กล้า ต่อให้เราไม่มีโทษที่ฆ่าเขาเลยก็ยังไม่กล้า คนส่วนใหญ่ทำ ไม่ไต้เพราะขัดต่อสามัญสำนึกของมนุษย์ รู้ทันซืวิต 95ทรท!VnWJJTiU ฐ-เนาฬร!! M.o.,Ph 0. www.kalyanamitra.org

สืลข้อ 2 ศีลข้อ 2 คือ มนุษย์ควรเคารพในกรรมลิทธึ๋ทรัพย์สิน ของผู้อื่น ไม'ลักขโมยของเขา ยกตัวอย่าง เรากำลังกินข้าวอยู่ใน โรงอาหาร เหลือบไปเห็นจานข้าวของเพื่อนอยู่ข้าง ๆ มีกับข้าว พูนจานน่าอร่อย คนทั่วไปคงไม่มีใครคิดจะเอาซ้อนไปตักกับข้าว จากจานเพื่อนมากิน การกระทำอย่างนี้คนไม่ทำแต่ลัตว์ทำ ใครเลี้ยงสุนัขเลี้ยง ไก่จะเคยเห็นว่า ลัามีสุนัขสองตัวเราเอาข้าวให้มันสองจานมันกี แย่งกันกินอยู่ดี กินของตัวเองยังไม่หมดก็มาแย่งกินของตัวอื่นแล้ว เพราะลัตว์ไม่มีสามัญสำนึกเรื่องสิทธิทรัพย์สินของผู้อื่น มันถือว่ามี กำ ลังก็จะขิงเอาเป็นของตน ถ้าเห็นสัตว์ตัวใดรู้จักเคารพสิทธิของ ตัวอื่น ไม่แย่งกันกินแสดงว่าใกล้จะหมดกรรมมาเกิดเป็นคนแล้ว 96 รู้ทันชีวิต ฐานาฬ® M.D-.Hl.D. www.kalyanamitra.org

ศีลฟ้อ 3 สืลขอ 3 คือ สามัญสำนึกของมนุษย์ที่ว่าไม่ละเมิดสิทธิใน ตัวบุคคล ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ทำลายนํ้าใจใครด้วยการแย่งขิง ลูกเขาเมียเขา คนเราแตกต่างจากสัตว์เพราะสัตวไม'มีสามัญสำนึกใน เรื่องนี้ เมื่อไรที่มีความต้องการทางเพศ ถึงฤดูผสมพันธ์ก็กัดกัน แย่งขิงกัน กวางขวิดกันตายเพื่อแย่งตัวเมีย สุนัขก็กัดกันเพื่อแย่ง ตัวเมีย ช่วงฤดูผสมพันธ์บางทีสุนัขตัวผู้หนีออกไปจากนัานหิวโซ เป็นเดือน ๆ ขาวปลาไม่กินเพราะจะไปตามหาสุนัขตัวเมีย โซซัดโซเซ ไปตามอำนาจกิเลส แต่มนุษย์ต้องไม่เป็นอย่างสัตว์ ต้องรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และมีความยับยั้งซั่งใจ ศีลฟ้อ 4 คืลข้อ 4 คือ สามัญสำนึกของมนุษย์ที่ว่าไม่เป็ยดเบียน ผู้อื่นด้วยคำพูด ยกตัวอย่าง สุนัขที่อย่ในบ้านมีรั้วรอบขอบชิด พอ สุนัขตัวอื่นผ่านมามันเห่าเลย มันคำรามใส่กันเพื่อแสดงอำนาจ แต่คนเราอยู่ในบ้านของตัวเองพอมีคนเดินผ่านหน้าบ้านเราไม่ด่าเขา เขาเดินไปของเขาส่วนเราก็อยู่ของเรา เพราะสามัญสำนึกสั่งว่า ไม่ให้ไปเบียดเบียนผู้อื่นด้วยคำพูด รู้ทันขีว็ต Qrn พร!; าสม•(ทข ฐาน ไผ M.D..PtrD. / www.kalyanamitra.org

ศีลข้อ 5 ศีลข้อ 5 คือ มนุษย์ควรมีสติ ไม่ดื่มสุรายาเสพติดทั้งหลาย ทีจะเป็นเครื่องบั่นทอนสติของเรา ตัวอย่างทั้งหมดทุกข้อที่กล่าวมา ข้างตันถูกคุมอยู่ได้ด้วยสติ แล้วสตินี่ก็แปลกถึงคราวจะทนก็ทนได้ อย่างไม่น่าเซื่อ อดข้าวเป็นวัน ๆ สติก็ยังดี ทำ งานเหนื่อยอดหลับ อดนอนสติก็ยังดี แต่ว่าถึงคราวสติจะขาดผีงก็ขาดได้ง่าย ๆ เพียง เพราะนํ้าเมาเข้าปากไม่กี่แก้วสติก็หลุดลอยไปแล้ว จากคนที่เคยสุภาพเรียบร้อยกลับแสดงกิริยาที่น่าละอาย แก้ผ้าแก้ผ่อน คลานไปกับพื้น อาเจียนเสร็จแล้วกินเข้าไปใหม่ก็ยัง ได้ อะไรที่คนทั่วไปไม่กล้าทำแต่คนเมาทำได้หมด ปกติเคยสุภาพ เรียบร้อย พอเมาได้ที่กลับอาละวาดหาเรื่องขกต่อย เพื่อนฝูงซวน กันตั้งวงพอดื่มเหล้าเข้าไปคนละแก้วสองแก้ว เผลอแผล็บเดียว เอาขวดเหล้าไล่ตีหัวก้น เสียบก้นแทงก้นแล้ว ล้าสติขาดแล้วศีล ข้อไหน ๆ ก็ขาดได้หมดทั้งนั้น รู้ทันชีวิต ฑระมพาลม\"ชาย ธานๅฑไฒ M.D., Ph.D. www.kalyanamitra.org

ศีล 5 มีมาก่อนพระพทธศาสนา เกิดมาพร้อมกับสามัญ สำ นึกของมนุษย์ ว่าสิ่งใดที่เราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ พระสัมมา- ส้มพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้รัดกมว่าองค์แห่งศีลแต่ละข้อมีอะไรบ้าง ทำ อย่างไรจึงผิดศีล และมีกรณีใดที่ทำแล้วไม่ผิดศีล เซ่น เราไม่เ ว่าเดินไปเหยียบมดตาย ในกรณีนี้ศีลยังไม่ขาดเพราะเราไม่มีเจตนา เป็นต้น เราจึงควรรักษาศีล 5 ให้บริบรณ์ โดยเฉพาะไม'ดื่มสุรา ซึ่งจะเป็นเหตุให้เราผิดศีลได้ทั้ง 5 ข้อ รู้ฟ้นชีวิต 99ทรรพทรนขาย ฐาน-}*ใฌ M.D..Ph.D. www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook