ผลการปฏบิ ัตงิ านทีด่ ี (Best Practice) กศน.ตาบลวังหลมุ ๑. ชื่อผลงาน : โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน (ไมเ่ กิน ๓๐ ชว่ั โมง) หลกั สูตรการถกั ผ้าพันคอจากบล็อกไมต้ ะปู ๑๐ ช่ัวโมง ๒. หน่วยงาน/สถานศกึ ษา : กศน.ตาบลวังหลุม หมู่ที่ ๓ ตาบลวงั หลมุ อาเภอตะพานหิน จงั หวัดพจิ ิตร ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอตะพานหิน สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย จงั หวัดพจิ ิตร ๓. ผดู้ าเนินงาน : นางสาวอรณีย์ จันทรศ์ รี ครู กศน.ตาบล ๔. สอดคล้อง : นโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน กศน.ปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ภารกจิ ตอ่ เนื่อง 1. ดา้ นการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.3 การศึกษาตอ่ เนอื่ ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างย่ังยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัด การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพ เฉพาะทางหรอื การบริการรวมถึงการเนน้ อาชพี ช่างพื้นฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการ และศักยภาพของแต่ละพ้ืนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการ รวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การพัฒนาหนึ่งตาบลหนึ่งอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเม่ียม การสร้างแบรนด์ ของ กศน. รวมถึงการสง่ เสริมและจัดหาช่องทางการจาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกากับ ติดตาม และรายงานผลการจดั การศึกษาอาชีพเพ่อื การมีงานทาอย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง ๕. ท่ีมาและความสาคญั ของผลงาน การถักไหมพรมเปน็ งานทเ่ี กิดจากทักษะและความชานาญความเอาใจใส่ ผู้ที่สรา้ งสรรค์งานเหลา่ นี้ สว่ นหนงึ่ มีความชอบและสาหรับผ้ทู ี่มีความชอบในงานประเภทน้แี ต่ไมม่ คี วามรู้ ไม่มฝี มี อื ทกั ษะทางด้านนี้มา ก่อนกส็ ามารถฝึกฝนเรียนรหู้ ดั ฝกึ และในการจดั กิจกรรมอยูใ่ นช่วงฤดหู นาว สามารถเป็นอาชีพและเสริมเพมิ่ รายไดใ้ นช่วงฤดูกาลได้ โดยผู้สนใจมอี าชพี เสรมิ เพ่ิมรายไดห้ ลังจากการทาการเกษตร การลงทุนไมม่ าก สามารถ ทาได้ทกุ ที่ ทุกเวลา และเป็นการใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ ๖. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือใหก้ ลุ่มเป้าหมายสามารถนาความรู้ หรอื ทักษะจากกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ปใช้ในการพฒั นา คุณภาพชีวิต พัฒนาอาชพี เพ่อื เพมิ่ รายได้ ตลอดจนการพฒั นาสงั คมและชมุ ชนให้เกิดการรวมกลุ่มการประกอบ อาชพี อย่างยงั่ ยนื ๒. เพอื่ พฒั นาต่อยอดกลุ่มอาชพี ใหก้ ้าวไปสู่ระดบั วสิ าหกจิ ชุมชนทมี่ ีความสามารถเชงิ การแข่งขันใน ตลาดได้
๗. วธิ ดี าเนินการ ๑. กาหนดกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนในพ้นื ที่ตาบลวงั หลมุ จานวน ๖ คน ๒. การดาเนนิ กิจกรรม ๑. ครูเนนิ การสารวจความต้องการของประชาชนกลุ่มเป้าหมายดา้ นอาชีพ โดยสอบถามใน การตอ้ งการฝึกทกั ษะอาชพี และนาขอ้ มูลมาวิเคราะห์ ทาให้ทราบว่าชุมชนมอี าชีพด้านการเกษตร(การทานา) เป็นอาชีพหลัก และมีช่วงท่เี ว้นระยะห่างจากการประกอบอาชีพทานา ไมม่ อี าชพี เสรมิ จงึ ต้องการมีอาชีพเสริม เพ่อื สร้างรายได้เสรมิ ใหก้ ับตนเองและครอบครัว ๒. ครแู ละผู้สนใจในพืน้ ที่ วางแผนการดาเนนิ งาน ชีแ้ จงวตั ถุประสงค์การรวมกลมุ่ ฝกึ ทกั ษะ อาชพี โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน(หลักสูตรไมเ่ กิน ๓๐ ชั่วโมง) วชิ าการถกั ผ้าพนั คอจากบลอ็ กไม้ตะปู จานวน ๖ คน ๓. ศึกษาเอกสารและออกแบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ร่วมกบั วิทยากร และการจดั การศกึ ษาเพื่อพัฒนาอาชีพให้กับประชาชน และส่งเสริมการเรียนรู้ดจิ ทิ ลั ตลอดจนจัดเตรยี มสอ่ื อุปกรณ์ กาหนดวนั เวลา และสถานท่ี ๔. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั กาหนดทศิ ทางการดาเนินงานและข้อตกลงร่วมกนั คอื ในการ ฝกึ อบรมต้องมาเรยี นร้เู ปน็ จานวน ๒ วัน ๆ ละ ๕ ชัว่ โมง ๕. จัดกิจกรรมส่งเสรมิ ด้านการใช้เทคโนโลยีโดยศึกษาลวดลายต่าง ๆ จากสอ่ื Internet ๖. ใหผ้ ู้เรียนฝึกปฏิบัตกิ ารถกั ไหมพรมจากบล็อกไม้ตะปู การออกแบบบรรจุภัณฑ์ หบี ห่อ และการสร้างโลโก้ของสนิ ค้าเพ่ือเป็นจุดเด่นของสินค้า ๗. ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถนาสินค้าออกจาหน่าย โดยเพ่ิมของการขายโดยใช้สอื่ ออนไลน์ เพอ่ื เสริม การขายหลายช่องทาง ๘. สรปุ ผลการดาเนินงานทีไ่ ด้รับจากการติดตามประเมินผลเม่อื ส้นิ สดุ โครงการ โดยการ รวบรวมผลงานท่เี ป็นจดุ เด่น และจดุ ท่ีควรพฒั นา รวมท้งั ขอ้ เสนอแนะจากการประเมินผล และจดั ทารายงาน เพื่อนาเสนอผลการปฏบิ ัติงานท่ีดี (Best Pratice) ๙. เผยแพร่ผลการปฏบิ ตั งิ านทดี่ ี (Best Pratice) โดยการนาเสนอผลงาน ปัญหา และ อปุ สรรค ขอ้ เสนอต่อสถานศึกษา เพอื่ ใช้เปน็ ขอ้ มูลในการวางแผนจัดกจิ กรรมครง้ั ต่อไป รวมทัง้ นาเสนอผลงาน ในรูปแบบต่างๆ เช่น นาเสนอข้อมลู ในชมุ ชนให้ทราบ ๑๐. นาขอ้ เสนอแนะของผู้เรยี น ชมุ ชน และผู้ทีเ่ กี่ยวข้อง มาปรบั ปรงุ รปู แบบวธิ กี ารเพือ่ เผยแพร่ให้ชมุ ชนอ่ืนที่มีสภาพบริบทเหมือนหรอื ใกล้เคียงกนั ได้นาไปปรับใช้ในการดาเนนิ กจิ กรรมต่อไป ๘. ตวั ช้ีวัดความสาเรจ็ ๑. กลุ่มเป้าหมายสามารถนาความรู้ หรือทกั ษะจากกิจกรรมการเรยี นรไู้ ปใช้ในการพัฒนา คุณภาพชีวิต พัฒนาอาชพี เพื่อเพม่ิ รายได้ ตลอดจนการพฒั นาสงั คมและชมุ ชนให้เกิดการรวมกลุ่มการประกอบ อาชีพอย่างย่ังยนื ได้ ๒. มีการพัฒนาต่อยอดกลุ่มอาชพี ใหก้ า้ วไปสู่ระดับวิสาหกจิ ชมุ ชนทมี่ ีความสามารถเชิงการแข่งขนั ใน ตลาดได้ ๙. การประเมินผลและเครือ่ งมือการประเมินผล ประเมนิ ตามสภาพจรงิ โดยใช้แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ การประเมินความรู้ รวมถงึ การประเมิน ความพงึ พอใจในการดาเนนิ กจิ กรรมดังกล่าว
๑๐. ผลการดาเนนิ งาน ๑. กลุ่มเป้าหมายสามารถนาความรู้ หรอื ทกั ษะจากกจิ กรรมการเรียนรไู้ ปใช้ในการพฒั นา คุณภาพชีวิต พฒั นาอาชพี เพื่อเพิ่มรายได้ ตลอดจนการพฒั นาสังคมและชุมชนให้เกิดการรวมกลุ่มการประกอบ อาชีพอย่างยง่ั ยืนได้ ๒. มกี ารพฒั นาต่อยอดกลุ่มอาชพี ใหก้ า้ วไปสู่ระดับวสิ าหกิจชุมชนท่มี ีความสามารถเชิงการแขง่ ขันใน ตลาดได้ ๑๑. บทสรุป มีการดาเนนิ การโดยใช้วงจรเดม่ิง (Deming Cycle) PDCA ดา้ นการวางแผน (P) ๑. ศกึ ษาสภาพปัญหา กศน.ตาบลวังหลมุ ได้รว่ มทาการสารวจความต้องการของ กลุ่มเปา้ หมายซึง่ ทาการความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ในด้านต่างๆและได้วเิ คราะหป์ ัญหา จดุ แข็งจดุ อ่อน โอกาสและอุปสรรคของกลุ่มตง้ั แต่ต้นปงี บประมาณ ๒๕๖๔ และทาการวเิ คราะห์ผลรวมกนั ดังน้ี จดุ แขง็ (S) โอกาส(O) 1. กลมุ่ เป้าหมายมีความต้องการเรยี นรู้อาชพี จานวน 1. มีหน่วยงานในพน้ื ที่ พรอ้ มใหก้ ารสนบั สนุน ๖ คน ซึ่งเป็นตามเปน็ หมายการจดั กิจกรรมของ หลายหน่วยงาน เช่น อบต. พัฒนาชมุ ชน ฯลฯ หนว่ ยงาน 2. วสั ดุอปุ กรณ์หาในทอ้ งตลาดไดง้ า่ ย 2. มงี บประมาณสนบั สนุนจากหน่วยงานของรฐั หาก มีการรวมกลุ่มทยี่ งั่ ยืน 3. ผเู้ ข้าร่วมฝกึ อาชีพบางคนมพี ื้นฐานด้านอาชพี ที่ฝกึ 3. มีชอ่ งทางการตลาด ที่สามารถต่อยอดได้ 4. มภี มู ิปัญญาดา้ นการถักทพ่ี รอ้ มถ่ายทอดความรู้ อุปสรรค (T) จุดอ่อน(W) 1. ขาดทกั ษะในการสรา้ งช้ินงานให้สวยงาม สาหรับผู้ 1. ตลาดหรอื แหล่งจาหน่ายไม่ชัดเจน แน่นอน หัดใหม่ ต้องทาหลายครัง้ 2. ขาดทกั ษะด้านการส่งเสรมิ การขาย ๒. เป็นผลิตภัณฑ์ทีข่ ายไดเ้ ฉพาะฤดกู าล(ช่วงฤดูหนาว) ๒. วิเคราะห์งานตามบทบาทหน้าที่ และวิเคราะห์ความสอดคล้องที่เก่ียวข้อง เชน่ นโยบาย และจุดเน้นของสานักงาน กศน.ปงี บประมาณ ๒๕๖๔ วสิ ัยทศั น์ พันธกจิ ฯลฯ จากการวิเคราะห์งานซงึ่ จะเห็น ได้วา่ เปน็ งานตามบทบาทหน้าท่ขี องครู กศน.ตาบล ท่จี ะต้องจดั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน การศกึ ษาต่อเนือ่ งและ การศึกษาตามอธั ยาศัย ส่งเสรมิ การเรียนรู้ของชุมชน ๓. ค้นหา Best Pratice โดยพิจารณาประเด็น ดงั น้ี - เปน็ เรื่องท่เี กย่ี วข้องกับภารกิจโดยตรงของบทบาทหน้าที่ - สนองนโยบาย การแก้ปัญหา การพัฒนาประสทิ ธภิ าพของผู้เรียน - เป็นวิธีการริเรม่ิ สร้างสรรค์ข้ึนมาใหม่ โดยผ่านนวัตกรรม ที่ว่า ทาอะไร ทาอย่างไร และทา เพอื่ อะไร - มผี ลผลิต/ความสาเร็จเพิ่มข้ึน - สามารถนาไปใช้เป็นมาตรฐานการทางานต่อไปได้อยา่ งย่ังยนื - มกี ารพัฒนาปรับปรงุ ต่อไป
จากการพจิ ารณาประเด็นต่างๆดงั กล่าว เพ่ือคน้ หา Best Pratice ในการจดั กิจกรรมที่ สอดคล้องกบั สภาพปัญหา และความต้องการของชุมชน พบว่า เปน็ เรอื่ งทเ่ี ก่ยี วข้องกับบทบาทหน้าท่โี ดยตรง ของ ครู กศน.ตาบล และเป็นการดาเนินการตามบทบาทภารกจิ ดังน้ี ๑. ครู ผูเ้ รยี นและชมุ ชนมสี ่วนร่วมในการวางแผนและออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกบั สภาพ ปญั หา ความต้องการของชุมชน และในพ้ืนท่ีต้องการมอี าชีพเสรมิ จานวนมาก จงึ อยากมคี วามรู้ในการมอี าชีพ และสร้างรายได้เสรมิ ใหก้ ับตนเองและครอบครวั โดยการวางแผนการดาเนินงานร่วมกนั ช้ีแจงวตั ถปุ ระสงค์ ผล ท่ผี ้เู ข้าร่วมจะได้รับ ทาใหม้ ีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจานวน ๖ คน ๒. ศึกษาเอกสารข้อมลู เกีย่ วกบั การส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชพี ใหก้ บั ชุมชน และส่งเสรมิ การเรียนรู้ดิจทิ ลั ตลอดจนจัดเตรยี มสื่อ อุปกรณ์ และวางแผนการจัดกจิ กรรมเรียนรู้รว่ มกนั ๓. ครูและผู้เรียนร่วมกันกาหนดทศิ ทางการดาเนินงานและข้อตกลงร่วมกัน คอื ในการ ฝกึ อบรมต้องมาเรยี นรู้เปน็ จานวน ๒ วนั ๆ ละ ๕ ช่ัวโมง ๔. นาขอ้ มลู จากการวเิ คราะห์และพิจารณาในข้อ ๑ – ๓ มากาหนดกรอบการดาเนนิ งานท่ี พจิ ารณาแล้วว่าเป็นแนวทางปฏบิ ัตทิ ่ีดี (Best Pratice) โดยดาเนินการ ดังน้ี ๑. กาหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ ๒. กาหนดตวั ช้วี ดั ความสาเร็จ ๓. กาหนดวธิ ดี าเนนิ การ ๔. กาหนดวิธกี ารประเมินผลและเครอ่ื งมือการประเมนิ ผล ด้านการปฏิบัติ (D) จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านต่างๆ อาทิ ด้านทักษะชวี ติ ด้านการพฒั นาพัฒนาสงั คมและชมุ ชน ด้าน การส่งเสริมอาชพี ตลอดจนด้านการใช้เทคโนโลยีดจิ ิทัลมาปรับใช้บูรณาการ่วมกันตามที่ได้ออกแบบกจิ กรรมไว้ โดยการใหค้ วามรู้และฝึกปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ ๑. จดั กิจกรรมส่งเสรมิ อาชีพโดยให้ความรู้กบั ผู้เรียนเร่อื งการถักผา้ พันคอจากบลอ็ กไม้ตะปู การพฒั นารูปแบบสินค้าใหน้ ่าสนใจ โดยเน้นใหส้ ินค้ามคี ุณภาพ สามารถนาไปจาหน่ายในตลาดชมุ ชนและตลาด ออนไลน์ได้ ๒. .ใหผ้ เู้ รียนฝึกปฏิบตั ิการผลติ การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ การเลอื กช์บรรจภุ ัณฑ์และการ สร้างโลโก้ของสนิ ค้าเพอื่ เปน็ จุดเด่น ๓. ใหผ้ เู้ รยี นสามารถนาสนิ ค้าออกจาหน่าย ตลอดจนการเพ่มิ ช่องทางของการขายโดยใช้สื่อ ออนไลน์เข้ามามบี ทบาทเพ่มิ ข้นึ ดา้ นการตรวจสอบและประเมนิ ผล (C) ๑. ประเมินตามสภาพจรงิ โดยใช้แบบประเมินผลการปฏบิ ัติ การประเมนิ ความรู้ รวมถึง การประเมินความพงึ พอใจในการดาเนนิ กิจกรรม ๒. สรปุ ผลการดาเนนิ งานที่ได้รับจากการติดตามประเมนิ ผลเมอ่ื สิ้นสุดโครงการ โดยการ รวบรวมผลงานท่เี ป็นจดุ เด่น และจุดท่ีควรพัฒนา รวมท้งั ขอ้ เสนอแนะจากการประเมนิ ผล และจัดทารายงาน เพ่ือนาเสนอผลการปฏบิ ัตงิ านทดี่ ี (Best Pratice) ๓. สรปุ ผลการดาเนินงานรายเดอื น รายไตรมาส รวมถึงการประเมนิ ผลการจดั กิจกรรม ๔. เผยแพร่ผลการปฏิบัตงิ านทีด่ ี (Best Pratice) โดยการนาเสนอผลงาน ปญั หา และ อุปสรรค ขอ้ เสนอต่อสถานศกึ ษา เพอ่ื ใช้เปน็ ขอ้ มูลในการวางแผนจดั กจิ กรรมครงั้ ต่อไป รวมท้งั นาเสนอผลงาน ในรปู แบบต่างๆ เชน่ นาเสนอข้อมลู ในชมุ ชนทราบ
ดา้ นการพฒั นาปรบั ปรุง (Action : A) นาขอ้ เสนอแนะของผู้เรียน ชุมชน และผู้ทเ่ี กย่ี วข้อง มาปรบั ปรุงรปู แบบวิธกี าร เพื่อเผยแพร่ ใหช้ มุ ชนอ่นื ท่มี ีสภาพบรบิ ทเหมอื นหรอื ใกล้เคียงกันได้นาไปปรบั ใช้ในการดาเนนิ กจิ กรรมต่อไป ๑๒. กลยทุ ธ์หรอื ปัจจยั ทที่ าใหป้ ระสบความสาเร็จ ๑. การมสี ่วนร่วมของครู ผูเ้ รยี นและชุมชน ในการวิเคราะห์ข้อมลู พนื้ ฐานของชุมชน ทาใหร้ ู้สภาพ ปัญหาและความต้องการของชุมชนไปสู่เป้าหมายท่ตี ้องการได้ ๒. การภมู ปิ ญั หาที่เกิดจากคนในชมุ ชน มาพฒั นาดัดแปลงให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหมๆ่ ๓. เปน็ การดาเนินการตามแนวทางวงจรคณุ ภาพของเดมม่งิ (PDCA) ซ่ึงเป็นการดาเนินการแบบมี ระบบ สามารถตรวจสอบได้ ตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพปัญหา ความต้องการของชุมชน การมสี ่วนร่วมของครู ผู้เรียน ชมุ ชน รวมทง้ั การมสี ่วนร่วมในการวางแผนและออกแบบกิจกรรมของครู ผู้เรียนและชมุ ชน ตลอดจนมี การตดิ ตามประเมินผลทุกขั้นตอน จึงทาให้สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลตุ ามตวั ช้วี ัดความสาเรจ็ ของโครงการ ๑๓. ข้อเสนอแนะ ๑. ควรส่งเสริมให้มีการพัฒนารปู แบบของผลิตภัณฑ์ทห่ี ลากหลายมากข้ึน อยา่ งต่อเนอื่ ง เพอ่ื เปน็ การ เพ่มิ มูลค่าใหก้ บั สนิ ค้า ๒. ควรมกี ารเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ใหผ้ ู้ท่ีสนใจสามามารถศกึ ษาข้อมูลการผลิตได้หลายช่องทาง เช่น หน่วยงานต้นสงั กดั สอ่ื ออนไลน์ ฯลฯ ๓. ควรพัฒนาผู้เรียนในด้านช่องทางการจาหน่ายสินค้าผ่านสอ่ื ออนไลน์ โดยเรยี นรู้จากศูนย์ดิจทิ ัล ชมุ ชน เพอ่ื เพม่ิ ช่องทางในการจาหน่ายสนิ ค้า
ภาพการดาเนินกิจกรรม การสารวจความต้องการของประชาชนในพ้ืนที่ มีการพูดคุยวางแผนการดาเนนิ งานกบั ประชาชนใน พื้นท่ี เพ่ือนาไปสู่การจดั ทาแผนการดาเนินงานและนาไปสกู่ ารปฏิบตั ิ
ภาพการดาเนนิ กิจกรรม การนาแผนการดาเนินงานลงสู่การปฏิบัติ ประชาชนได้เรียนรู้การถักผ้าพันคอจากบล็อกไม้ตะปู โดย ปฏิบัติกิจกรรมตามแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้การฝึกอาชีพ และสามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปปรับใช้ใน ครอบครวั เปน็ อาชีพเสรมิ เพ่ิมรายได้
ภาพการดาเนินกจิ กรรม นาผลิตภัณฑข์ ายผ่านช่องทางออนไลน์
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: