คมู่ อื การพัฒนาผสู้ อื่ ความหมายเบ้ืองต้น 1โดย องค์การบรหิ ารกโาครรงพกาฒัรเสรนิมาสรพ้างื้นแลทะพพ่ี ัฒเิ นศาศษกั เยพภา่อื พกขอางภราทคีอ่กลงไกเกทา่ยีรขวับเอคลย่อื ่านแงลยะเคัง่ รยอื ขืน่าย(องค์การมหาชน) ปใรห้มะคีจวำ�ามปเขีง้มบแขปง็ ในรกะามรพาัฒณนาก2า5รท6อ่ 1งเท่ยี วอย่างยง่ั ยืนในพืน้ ท่ี
2 คู่มือการพัฒนาผู้สื่อความหมายเบอื้ งตน้ โครงการเสริมสรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลอ่ื นและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเข้มแขง็ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยง่ั ยนื ในพืน้ ท่ี
คำ�นำ� ผสู้ อ่ื ความหมายทอ้ งถน่ิ เปน็ คนในชมุ ชนทม่ี คี วามส�ำ คญั ตอ่ การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งมาก ท�ำ หนา้ ท่ี เปน็ สอ่ื กลางในการถา่ ยทอดเรอื่ งราวตา่ งๆ ในชมุ ชนใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วฟงั และชว่ ยเปดิ มมุ มองการเรยี นรู้ ร่วมกันกับผู้มาเยือนคือนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น นักสื่อความหมายท่ีดีจะช่วยนำ�เสนอเรื่องราว ตา่ งๆในชมุ ชนทกี่ ระตนุ้ ความสนใจ ชว่ ยใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วมคี วามเขา้ ใจ ตระหนกั ในคณุ คา่ ความส�ำ คญั ของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม มีส่วนสำ�คัญในการเพ่ิมมูลค่าใน สินคา้ และบรกิ าร สามารถสรา้ งความสนกุ สนานเพลิดเพลินและความประทับใจตอ่ ผมู้ าเยอื น ทำ�ให้ นักท่องเท่ียวเกิดความซาบซ้ึงใจในเรื่องราวที่นำ�เสนอ ตลอดจนสร้างทัศนคติท่ีดีต่อการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยวให้ย่ังยืน ดังน้ันจึงมีความจำ�เป็นท่ีจะต้องมีการพัฒนา ผู้ส่ือความหมายท้องถิ่นโดยเฉพาะเยาวชนในพ้ืนท่ีเพ่ือรองรับการขยายตัวของการท่องเท่ียวในพ้ืนท่ี นนั้ ๆ ในการพัฒนาผู้สื่อความหมายทางการท่องเท่ียวเยาวชนในพ้ืนท่ีพิเศษ 5 คร้ังนี้จึงได้จัดทำ� คู่มือการพัฒนาผู้สื่อความหมายเบ้ืองต้น (โครงการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของภาคีกลไก การขับเคลื่อนและเครือข่ายให้มีความเข้มแข็งในการพัฒนาการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืนในพื้นท่ี) เพื่อ ให้ผู้สื่อความหมายทางการท่องเท่ียวใช้เป็นแนวทางในการฝึกฝนปฏิบัติเพิ่มเติมสำ�หรับการพัฒนา ศักยภาพของตนเองต่อไป คณะดำ�เนนิ โครงการ ค่มู ือการพฒั นาผ้สู ื่อความหมายเบ้ืองต้น 3 โครงการเสรมิ สร้างและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคล่ือนและเครือขา่ ย ให้มีความเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการท่องเที่ยวอยา่ งยงั่ ยนื ในพน้ื ที่
4 คู่มือการพัฒนาผู้สื่อความหมายเบอื้ งตน้ โครงการเสริมสรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลอ่ื นและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเข้มแขง็ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยง่ั ยนื ในพืน้ ท่ี
สารบัญ บทท่ี 1 การส่อื ความหมายมีดอี ยา่ งไร.............................1 บทที่ 2 เตรียมตวั ก่อนสื่อความหมาย..รูเ้ ขา ร้เู รา ชนะไปกว่าครึ่ง.............................7 บทที่ 3 พัฒนาเน้ือหาใหเ้ หนอื ใคร.............................13 บทท่ี 4 เทคนิคส่อื ความหมายใหเ้ ร้าใจ สำ�คญั ไฉน............................21 บทที่ 5 ส่ืออย่างไรใหโ้ ดนใจนกั ทอ่ งเที่ยว............................27 บทท่ี 6 Do & Don’t นกั สอื่ ความหมายท่ีดีควรทำ�อย่างไร.............................33 คู่มือการพฒั นาผูส้ ่อื ความหมายเบ้อื งตน้ 5 โครงการเสริมสร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอื่ นและเครือขา่ ย ใหม้ ีความเขม้ แขง็ ในการพัฒนาการท่องเทย่ี วอยา่ งยัง่ ยนื ในพืน้ ท่ี
6 คู่มือการพัฒนาผู้สื่อความหมายเบอื้ งตน้ โครงการเสริมสรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลอ่ื นและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเข้มแขง็ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยง่ั ยนื ในพืน้ ท่ี
บทที่ 1 การสอ่ื ความหมาย.. มีดีอยา่ งไร ค่มู อื การพัฒนาผู้สอื่ ความหมายเบื้องต้น 1 โครงการเสริมสร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลื่อนและเครือขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการทอ่ งเที่ยวอย่างย่ังยนื ในพื้นท่ี
การส่ือความหมาย (Interpretation) คืออะไร การสอื่ ความหมายเปน็ การถา่ ยทอดเรอ่ื งราวขอ้ เทจ็ จรงิ เกยี่ วกบั สนิ คา้ ทางการทอ่ งเทย่ี ว(ธรรมชาติ ศลิ ปวฒั นธรรม) ไปสนู่ กั ทอ่ งเทย่ี ว โดยใชเ้ ทคนคิ และวธิ กี ารทง่ี า่ ยตอ่ การเขา้ ใจ เพอื่ กระตนุ้ ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วเกดิ ความรสู้ กึ ซาบซง้ึ และภาคภมู ใิ จ ในคุณค่าความเป็นเอกลักษณ์ของธรรมชาติ วัฒนธรรม อีกทั้งได้รับความพลิดเพลินและประสบการณ์ท่ีมีคุณค่าจากการ ไปเยือนพน้ื ท่แี ห่งนนั้ ความสำ�คัญของการสอ่ื ความหมาย การส่อื ความหมาย เป็นรปู แบบหนึ่งของการเล่าเร่อื งเป็นกระบวนการส่ือสารทเ่ี ชอ่ื มโยงขอ้ มูล ขอ้ เทจ็ จรงิ (Factual Information) สปู่ ระสบการณต์ รงของนกั ทอ่ งเทย่ี วผา่ นการเลา่ เรอ่ื งราว (StoryTeling) ในรปู แบบตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วกบั สถานทนี่ น้ั การสอื่ ความหมายจึงมีดีที่ • กระตุ้นหรอื ปลุกเร้าความสนใจของนักท่องเทย่ี วท่มี ีต่อแหล่งท่องเท่ยี วชมุ ชน • สรา้ งความสมั พนั ธก์ บั สงิ่ ทน่ี กั ทอ่ งเทยี่ วเหน็ สคู่ วามสนใจใครร่ แู้ ละความตอ้ งการสรา้ งประสบการณส์ ว่ นตวั ของนกั ทอ่ งเทย่ี วในแหล่งทอ่ งเท่ยี วกบั ชุมชน • ใหน้ ักท่องเทยี่ วไดส้ ัมผสั และเรียนรู้ความหมายทแี่ ท้จรงิ ของแหล่งท่องเท่ียวชมุ ชน เปา้ หมายหลักของการสอ่ื ความหมาย • เข้าใจและซาบซง้ึ ในคุณคา่ ของทรัพยากร • สร้างพลงั ในการชว่ ยกันดแู ลและปกป้องทรัพยากร • สามารถปรบั พฤติกรรมนักท่องเทยี่ วให้เหมาะสมกบั ส่งิ แวดลอ้ มได้ • มผี ลกระทบตอ่ ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ มนอ้ ยท่ีสุด “through INTERPRETATION, UNDERSTANDING; through UNDERSTANDING, APPRECIATION; through APPRECIATION, PROTECTION ” (Tilden, 1977) 2 ค่มู ือการพัฒนาผู้สือ่ ความหมายเบอื้ งตน้ โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลอื่ นและเครอื ข่าย ใหม้ ีความเข้มแข็งในการพฒั นาการท่องเทยี่ วอยา่ งยั่งยืนในพนื้ ท่ี
กระบวนการส่อื ความหมาย ประโยชน์ของการสอ่ื ความหมายต่อการทอ่ งเทย่ี ว • เพิม่ ประสบการณ์ในการท่องเทีย่ ว (สนุก) • ตระหนกั ถงึ การอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม (ย่งั ยนื ) • เขา้ ใจภาพรวมของพ้ืนทท่ี ที่ ่องเท่ยี ว (เขา้ ใจ) • ลดตน้ ทนุ ในการจดั การและการบรู ณะ (ประหยัด) • สร้างความภูมใิ จของเจา้ ของพนื้ ทีแ่ ละสร้างความเพลิดเพลนิ ใหน้ ักท่องเท่ียว (เรียนรู้ สามัคคี รกั ษา) • สรา้ งความเข้าใจอันดตี ่อพ้นื ที่ (สรา้ งภาพลกั ษณ์ การรบั ร)ู้ • ประชาสมั พนั ธ์และให้ขอ้ มลู ที่จำ�เปน็ ในพ้ืนทน่ี นั้ (สือ่ สาร) • เพิ่มและกระจายรายได้ใหก้ ับพนื้ ที่ (คณุ ภาพชีวติ ) • สรา้ งงาน (การมสี ว่ นร่วม สรา้ งโอกาส) • นกั ทอ่ งเทย่ี วใชเ้ วลามากขนึ้ ในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วชมุ ชนจากการสมั ผสั และสรา้ งประสบการณร์ ว่ มกบั กจิ กรรม การเรียนรใู้ นแหล่งท่องเท่ยี ว • เพม่ิ คุณคา่ ใหแ้ หลง่ ทอ่ งเที่ยว • ชว่ ยเพ่มิ จำ�นวนนกั ท่องเท่ียวในช่วงนอกฤดกู าลท่องเที่ยว • กระต้นุ ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วกลบั มาเทย่ี วซำ้� (Repeat Visitor) คู่มอื การพฒั นาผู้ส่อื ความหมายเบื้องต้น 3 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคล่ือนและเครือข่าย ให้มคี วามเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการท่องเท่ียวอยา่ งย่ังยืนในพืน้ ที่
บทบาทของนักส่ือความหมาย บทบาทการเป็นเจ้าบ้านทด่ี ี เจ้าบ้าน หมายถึง บุคคลผู้เป็นเจ้าของบ้านเรือน รวมถึงประชาชน พ่อค้า แม่ค้า นักเรียนและผู้ประกอบการ อาชีพใดๆ ท่ีอยู่อาศัยในท้องถ่ินที่เป็นแหล่งท่องเท่ียวน้ันๆ การเป็นเจ้าบ้านที่ดี เป็นกลุ่มบุคคลแหล่านี้มีความเป็นมิตร มคี วามเชอื่ มนั่ รอบรเู้ รอ่ื งราวในทอ้ งถน่ิ ใหก้ ารตอบรบั ดแู ลผมู้ าเยอื นหรอื นกั ทอ่ งเทยี่ วใหม้ คี วามสขุ และรสู้ กึ ปลอดภยั เพราะ เมื่อผู้มาเยือนได้รับความมีอัธยาศัยไมตรีและเจ้าบ้านให้การตอบรับอย่างอบอุ่น ย่อมทำ�ให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจ บทบาทของนกั การทตู นกั สอ่ื ความหมายควรเลา่ เรอื่ งแบบนกั การฑตู คอื เลา่ แตเ่ รอื่ งเชงิ บวกเปน็ สว่ นใหญ่ หากจ�ำ เปน็ ตอ้ งเลา่ เรอ่ื งเชงิ ลบ ควรเป็นการเล่าเพื่อสร้างความตระหนักให้เห็นถึงผลกระทบทางลบในทุกมิติ เพ่ือป้องกันการสร้างผลกระทบที่เกิดข้ึนใน ชุมชนได้เป็นอย่างดี บทบาทของครู นักสื่อความหมายเป็นผู้ที่จะส่งมอบองค์ความรู้ของชุมชนให้กับนักท่องเที่ยวผ่านการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเท่ียวจะมีส่วนร่วมกับชุมชน นักส่ือความหมายไม่จำ�เป็นต้องเล่าทุกเรื่อง แต่สามารถเล่าเฉพาะเรื่องท่ีเก่ียวข้อง กับกิจกรรมที่นกั ท่องเทีย่ วรว่ มเรยี นรไู้ ด้ บทบาทของผู้นำ� นักสื่อความหมายจะต้องเป็นผู้นำ�นักท่องเท่ียวไปยังสถานท่ีต่าง ๆ อีกทั้งการทำ�กิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือการเรียน รู้ในชุมชน ต้องเป็นผู้นำ�ในการปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ควร รวมถึงการแนะนำ�ส่ิงท่ีควรหรือไม่ควรปฏิบัติในชุมชนให้กับ นกั ทอ่ งเทยี่ วไดท้ ราบและปฏิบัติตาม การสอ่ื ความหมายเปน็ กลไกของการสื่อสารส่นู กั ท่องเทย่ี วโดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื • แนะนำ� เนน้ สือ่ ถึงเอกลักษณเ์ ฉพาะท่โี ดดเด่นของชุมชน • ใหข้ อ้ มูลทเ่ี ป็นจริง ถูกตอ้ ง ครบถว้ น • ให้ความบันเทิง สรา้ งความสุขในการเย่ียมชมและรว่ มกิจกรรมในชมุ ชน • สรา้ งความเชื่อในสิ่งท่ีกำ�ลงั จะทำ�ร่วมกบั ชุมชนวา่ เปน็ สงิ่ ที่ดี • อธบิ ายด้วยเรื่องราวท่ีนกั ทอ่ งเท่ยี วสนใจดว้ ยชอ่ งทางทส่ี ามารถสื่อถงึ นกั ทอ่ งเทย่ี วได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4 คู่มือการพัฒนาผสู้ อื่ ความหมายเบ้อื งตน้ โครงการเสรมิ สรา้ งและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคล่ือนและเครอื ขา่ ย ใหม้ คี วามเข้มแข็งในการพัฒนาการทอ่ งเท่ยี วอยา่ งยัง่ ยนื ในพ้ืนท่ี
• ส่งเสรมิ ภาพลักษณ์ สอ่ื ให้เหน็ ว่าการเข้ารว่ มกิจกรรมของชุมชน จะสามารถส่งเสริมภาพลกั ษณ์ ของนักท่องเท่ียวในสงั คมได้ • มีอิทธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรม สอ่ื ใหเ้ ห็นการเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมของนกั ทอ่ งเทยี่ วเมอื่ ผา่ นการเรยี นรู้ • สรา้ งความรสู้ กึ ส�ำ นกึ รว่ มของสถานที่ (Sense of Place) ผา่ นกระบวนการการมสี ว่ นรว่ มและปฏสิ มั พนั ธ์ กบั ทอ้ งถนิ่ สอ่ื ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วรสู้ กึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของชมุ ชน ท�ำ ใหเ้ กดิ ความรกั ความเขา้ ใจในชมุ ชนอยา่ ง แท้จรงิ หรอื อีกนัยนึง คอื 1. พฒั นาจติ สำ�นึก ความพึงพอใจ และความเขา้ ใจ 2. ใช้เปน็ เครื่องมอื ในการจดั การพ้ืนท่ี กระตนุ้ และปลูกฝังพฤตกิ รรมทถ่ี กู ต้อง ลดผลกระทบ ตอ่ ทรพั ยากรท่องเท่ียว 3. เสรมิ สร้างภาพพจนโ์ ดยการประชาสมั พันธอ์ งคก์ ารและกิจกรรมตา่ งๆ แกอ่ งคก์ รนน้ั ๆ หลกั การในการสือ่ ความหมายท่ปี ระสบความสำ�เร็จ การสอ่ื ความหมายทด่ี ใี นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วชมุ ชนมเี ปา้ หมายเพอ่ื สรา้ งกระบวนการคดิ (Think) และจดจ�ำ (Remember) ให้แกน่ ักทอ่ งเทย่ี ว โดยนักท่องเทย่ี วจะต้องมีการปฏสิ มั พันธ์อยา่ งมีส่วนรว่ ม (Active Participate) ระหว่างนักทอ่ งเทย่ี ว นกั ส่ือความหมายและชุมชน การสื่อความหมายท่ีดมี ีลักษณะดังตอ่ ไปนี้ • สรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม (Active involvement) ในการสรา้ งความเช่ือมโยงระหว่างนกั ท่องเที่ยวกับแหลง่ ท่องเทีย่ ว ผ่านการเรียนรู้ ปฏสิ มั พนั ธ์และร่วมกจิ กรรมกับชุมชน • น�ำ นักท่องเท่ยี วไปสู่กระบวนการคิด และรว่ มแสดงความคดิ เห็น เก่ยี วกบั ประสบการณ์และสิง่ ทน่ี กั ท่องเท่ียว ไดส้ ัมผัส (Co-Creation) • กระตนุ้ การเรยี นร โดยผา่ นการเลา่ เรอ่ื งอยา่ งมเี หตผุ ล เพอ่ื ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วเขา้ ใจถงึ ความส�ำ คญั ของแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว • เพ่ิมความร้แู ละประสบการณ์การทอ่ งเทยี่ วอันนา่ จดจ�ำ (Memorable Tourism Experience) และสามารถ สร้างความพงึ พอใจสงู สุดของนกั ท่องเทย่ี วด้วยการปลกู ฝงั ทศั นคตทิ ด่ี แี ละการบอกต่อไปยงั ผู้อืน่ ได้ คูม่ ือการพฒั นาผูส้ อ่ื ความหมายเบื้องต้น 5 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ข่าย ใหม้ ีความเข้มแข็งในการพัฒนาการท่องเท่ยี วอยา่ งย่ังยืนในพนื้ ท่ี
ส่อื ท่ีใช้ในการสือ่ ความหมายของการทอ่ งเทีย่ ว 1. ศนู ยบ์ รกิ ารข้อมูล ให้ขอ้ มูลผา่ นนิทรรศการ เลา่ เรอื่ งของชมุ ชน 2. แผนที่ทอ่ งเทยี่ วชุมชน ใหข้ ้อมูลท่ีสามารถสรา้ งความสนใจพนื้ ทขี่ องชมุ ชนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี และสามารถน�ำ นักท่องเทยี่ วเขา้ สู่พืน้ ทเ่ี ปา้ มายได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 3. ปา้ ยส่อื ความหมายและ QR CODE เปน็ เครอ่ื งมอื ทส่ี ามารถสอื่ สารโดยตรงจากพื้นทท่ี ่องเท่ียวสนู่ กั ท่องเทยี่ ว กลมุ่ เปา้ หมาย สามารถสร้างการเรยี นร้ไู ดแ้ ต่ไมส่ ามารถสร้างอารมณก์ ารมีสว่ นรว่ มใหก้ บั นกั ทอ่ งเท่ียวได้ 4. การจัดแสดงนิทรรศการเก่ียวกบั ชมุ ชน เปน็ การใหข้ ้อมูลทวั่ ไป ซึง่ ยงั ไมส่ ามารถสร้างการเรียนร้แู ละรบั รู้ไดอ้ ย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ 5. หนงั สือคู่มอื ท่องเท่ียว หรอื แผน่ พับแนะน�ำ การทอ่ งเท่ียวในชมุ ชน เปน็ การใหข้ ้อมลู ทง้ั ขอ้ มลู ทว่ั ไปและขอ้ มูล เชิงลกึ ได้ 6. นักส่ือความหมายประจำ�แหล่งท่องเท่ียวชุมชน ที่มีผลต่อประสบการณ์การเรียนรู้และสุนทรียภาพของ นักท่องเท่ียวเน่ืองจากการใช้นักส่ือความหมายเป็นรูปแบบที่เอ้ือโอกาสให้มีการปฏิสัมพันธ์ท้ังระหว่างนักท่องเท่ียวกับ นักสือ่ ความหมาย และนกั ทอ่ งเท่ยี วกับนักทอ่ งเท่ียวค่อนขา้ งสงู สามารถสรา้ งความประทับใจในการทอ่ งเที่ยวได้ 6 คมู่ อื การพฒั นาผู้สื่อความหมายเบ้ืองต้น โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอื่ นและเครือข่าย ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยืนในพน้ื ท่ี
บทท่ี 2 เตรยี มตวั กอ่ นส่ือความหมาย รู้เขา รเู้ รา... ชนะไปกว่าคร่ึง ค่มู ือการพฒั นาผู้สอ่ื ความหมายเบอื้ งต้น 7 โครงการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่อื นและเครือขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเทย่ี วอย่างยง่ั ยืนในพน้ื ท่ี
กลุ่ม เปา้ หมาย.... ใครกันนะ? นักสื่อความหมายควรมีความเข้าใจและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายว่า พวกเขาเป็นใคร มาจากไหน ภูมิภาคใด ประเทศไหน ใช้ภาษาอะไรในการสื่อสาร มีพ้ืนฐานวัฒนธรรมอย่างไร อยู่ในช่วงวัยไหน เดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างไร มาดว้ ยกนั ทงั้ หมดกคี่ น มาท�ำ อะไร สนใจสอบถามเรอื่ งใดเปน็ พเิ ศษ ใชเ้ วลาทแ่ี หลง่ ทอ่ งเทยี่ วนานเทา่ ไร ชอบท�ำ กจิ กรรมอะไร เป็นพิเศษ ข้อมูลเหล่านี้มีผลต่อการเลือกนำ�เสนอเนื้อหา ส่ือที่นำ�เสนอและกิจกรรมท่ีนำ�เสนอ เพ่ือให้มีประสิทธิภาพและ เขา้ ใจไดง้ ่าย กลมุ่ เยาวชน นำ�เสนอการละเล่นทส่ี นกุ สนาน เพลดิ เพลนิ เน้ือหาไมส่ ลับซับซ้อน มกี ารสาธิตให้ดู ให้ทดลองท�ำ บรรยายให้ฟัง หรอื ร่วมทำ�กิจกรรมกับเยาวชนในพ้นื ท่ี รวมท้ังใช้ส่ือมัลติมเี ดียทส่ี รา้ งสีสันน่าสนใจ กลุม่ นักศกึ ษา นำ�เสนอด้วยข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้ประกอบการทำ�รายงานหรือวิทยานิพนธ์ มีการกล่าวถึงแหล่งท่ีมาของข้อมูล หรอื อา้ งองิ ปราชญ์ชาวบ้าน กลมุ่ ศึกษาดูงาน สนใจข้อมลู ความรดู้ า้ นการบรหิ ารจัดการเฉพาะเร่อื ง และน�ำ เสนอด้วยขอ้ มูลเชงิ ลึก กลุ่มวัยทำ�งาน น�ำ เสนอขอ้ มูลเชงิ ลกึ ข้อมูลเช่ือมโยงใหม้ เี พลิดเพลิน มีการสาธิตให้ดู ใหท้ ดลองทำ� บรรยายใหฟ้ งั หรือร่วมท�ำ กจิ กรรมกบั คนในพ้นื ท่ี กลมุ่ ผู้สงู วัย น�ำ เสนอขอ้ มลู ใหมท่ น่ี กั ทอ่ งเทยี่ วไมเ่ คยรบั ทราบมากอ่ น ใหค้ วามส�ำ คญั กบั ธรรมชาติ สขุ ภาพจติ คตธิ รรม วถิ ชี วี ติ และ กจิ กรรมทไ่ี มใ่ ช้พละกำ�ลังมาก 8 คูม่ อื การพัฒนาผูส้ ่อื ความหมายเบ้ืองต้น โครงการเสริมสรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอ่ื นและเครือข่าย ใหม้ คี วามเข้มแข็งในการพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอยา่ งย่งั ยนื ในพ้ืนที่
การวางแผนการสอ่ื ความหมายในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ในการวางแผนการสอื่ ความหมายในแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วชมุ ชน จ�ำ เปน็ ตอ้ งมกี ารออกแบบประสบการณข์ องนกั ทอ่ งเทยี่ ว (Tourist Experience Design) วา่ • นักท่องเทย่ี วจะไดเ้ ห็นอะไร • นกั ทอ่ งเที่ยวจะไดฟ้ ังอะไร • นักทอ่ งเท่ียวจะได้ท�ำ อะไร • นกั ท่องเท่ียวจะมีความรสู้ กึ อยา่ งไร ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวได้มาจากการออกแบบเส้นทางท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์ในแหล่งท่องเท่ียวชุมชน (Creative Route Design) ซ่ึงในการออกแบบเส้นทางท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์นี้ นักส่ือความหมายต้องกำ�หนดเส้นทาง ในการท่องเที่ยวภายในชุมชนอย่างเหมาะสมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในขณะน้ัน พร้อมท้ังกำ�หนดจุดบรรยาย (InterpretationSpot) เพอ่ื เลา่ เรอ่ื งราวทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งสอดคลอ้ งและเปน็ ล�ำ ดบั เพอ่ื เปน็ การสรา้ งความรสู้ กึ ทด่ี ใี หก้ บั นกั ทอ่ งเทย่ี ว จนนกั ทอ่ งเทยี่ วเกดิ ความรกั ความหวงแหนในแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทมี่ าเยอื น นอกจากนนั้ นกั สอ่ื ความหมายยงั ตอ้ งออกแบบกจิ กรรม การมสี ่วนรว่ มทน่ี กั ท่องเที่ยวสามารถเข้าไปมีส่วนรว่ มกับชุมชนได้อย่างเหมาะสม สิง่ ช้วี ดั กระบวนการสือ่ ความหมายท่ีดี คอื ความรู้สึกของนักทอ่ งเทีย่ ว รวมถงึ ความรูส้ กึ อบอุ่นจากการตอ้ นรับ ความผอ่ นคลาย ความรู้สึกสะดวกสบาย และการใหค้ วามสนใจกบั สิ่งทส่ี ือ่ ความหมาย ซึ่งการสอ่ื สารกับนักท่องเท่ียวนน้ั เร่มิ ตน้ ต้งั แตก่ ่อนที่นักท่องเทย่ี วจะเข้าสู่กจิ กรรมท่องเท่ียว สิ่งทจี่ ะเสรมิ อรรถรสในการเสรมิ สรา้ งประสบการณ์ทอ่ งเทีย่ ว คือ ลีลาและลกู เลน่ (Dance and Delivery) ของ นกั ส่อื ความหมายในการสง่ สารทจ่ี ะสรา้ งความพงึ พอใจและความประทบั ใจใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วทเ่ี ขา้ มาเยย่ี มเยอื น เพอ่ื ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ ความหมายหรอื ความสำ�คญั ของแหล่งท่องเทีย่ วท่มี ีตอ่ ชมุ ชน องค์ความรเู้ ก่ยี วกับชุมชนหรอื กจิ กรรมทน่ี ักท่อง เท่ยี วสามารถมสี ว่ นร่วมได้ ในการออกแบบประสบการณ์นักท่องเท่ยี ว หากทำ�ได้อยา่ งสมบรู ณจ์ ะเกิดประสบการณ์การท่องเทย่ี วทนี่ า่ จดจำ� (Memorable Tourism Experience) ประสบการณก์ ารทอ่ งเที่ยวทนี่ ่าประทบั ใจนี้ จะเกิดจาก “ผลลัพธ”์ จากการรว่ มและ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในแหลง่ ทอ่ งเที่ยวชุมชน ซงึ่ จะมอี งคป์ ระกอบท่สี ำ�คัญดังตอ่ ไปน้ี • ปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างบุคคล (Interaction with People) • ประสบการณ์ถอื เป็นผลติ ภัณฑก์ ารท่องเทยี่ ว (Tourism Product) • บ่งบอกตำ�แหนง่ ทางการตลาด (Market Position) • สามารถตคี ่าเป็นตวั เงนิ (Value for Money) • มีการรบั ร้เู ชงิ อารมณ์ (Perception, Sensation) • เขา้ ถึงจิตวญิ ญาณของแหลง่ ท่องเทย่ี ว (Sense of Place) ค่มู ือการพฒั นาผู้ส่ือความหมายเบือ้ งต้น 9 โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ข่าย ให้มีความเข้มแขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเท่ยี วอยา่ งยั่งยืนในพ้นื ท่ี
ประสบการณ์การท่องเที่ยวสามารถเกิดข้ึนได้จากหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนานเพลิดเพลิน การเรียนรจู้ ากข้อมูล องคค์ วามรูแ้ ปลกใหม่ (ส�ำ หรับนักทอ่ งเที่ยว) ความร้สู ึกต่างๆ แรงบนั ดาลใจทเ่ี กดิ ข้นึ หรือแมแ้ ต่การ สัมผัสสิ่งลี้ลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้เชิงวิทยาศาสตร์ ประสบการณ์อันน่าจดจำ�เกิดจากการออกแบบกิจกรรมและการส่ือ ความหมายที่สอดคล้องกับองคป์ ระกอบหลักของประสบการณ์ทจ่ี ะเกดิ ในทน่ี ้นั ๆ สิง่ ทจี่ ะกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ประสบการณอ์ ันน่า จดจ�ำ ได้แก่ • การรบั ร้คู ณุ ค่าเชงิ ความหมายของแหลง่ ท่องเท่ียวชมุ ชน • การรับรู้คุณคา่ ของการไดส้ มั ผสั ชมุ ชนทอ้ งถ่ินอย่างแทจ้ รงิ • การรับรคู้ วามส�ำ คญั ของแหลง่ ท่องเท่ยี วชมุ ชน • การรับรู้ประสบการณ์ทแ่ี ปลกใหม่ • การสรา้ งความสัมพนั ธก์ บั สงั คม • การต้อนรบั ท่ีดขี องชมุ ชนท้องถ่นิ • ประสบการณ์ท่นี ่าประหลาดใจและไมค่ าดคดิ • ความเป็นมอื อาชพี ของนักสอ่ื ความหมาย สิง่ ทตี่ ้องคำ�นึงถึงในการออกแบบการส่อื ความหมาย ในการออกแบบการสอ่ื ความหมายในแหลง่ ท่องเทย่ี วชุมชน ควรค�ำ นงึ ถึงดงั ต่อไปน้ี • นักท่องเท่ยี วได้อะไร TouristExperience ประสบการณข์ องนกั ทอ่ งเทยี่ ว เชน่ การสรา้ งบรรยากาศการตอ้ นรบั การผอ่ นคลาย และความสะดวกสบาย จะกระตุ้นใหเ้ กิดการเรยี นรู้ • สอื่ สารแบบไหน Multiple Communication Methods การใชว้ ธิ กี ารส่ือสารในหลายรปู แบบ ท้งั การพูด เล่าเรือ่ งราว หรือใช้ส่อื อนื่ ๆ ประกอบการบรรยาย • โตต้ อบสองทาง Interaction & Responsiveness การปฎิสัมพันธ์กับนักท่องเท่ียว การพูดคุย การรับฟังและการ ตอบสนองต่อความต้องการของนักทอ่ งเท่ยี วอย่างรวดเรว็ • ใครมสี ่วนร่วมบา้ ง Active & Recreation คดิ กจิ กรรมตา่ งๆ เพอ่ื ใหผ้ มู้ าเยอื น สามารถเรยี นรเู้ กยี่ วกบั แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วชมุ ชน ไดด้ ีข้นึ • ข้อความอย่างไร Simple & Understanding พยายามจัดเรียงและสอ่ื สารที่ไม่ซบั ซ้อนจนเกนิ ไปและมีความน่าสนใจที่ น่าติดตาม 10 คู่มือการพฒั นาผสู้ ่อื ความหมายเบื้องตน้ โครงการเสรมิ สร้างและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลือ่ นและเครือข่าย ใหม้ คี วามเขม้ แข็งในการพฒั นาการท่องเทย่ี วอย่างยัง่ ยนื ในพืน้ ท่ี
หัวใจนกั สือ่ ความหมาย หลกั การส�ำ คญั ในการสอื่ ความหมาย “แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว” “จดุ ทอ่ งเทยี่ ว” หรอื “ของดชี มุ ชน” ในเรอื่ งใดเรอ่ื งหนง่ึ นน้ั โดยแบง่ เปน็ หวั ใจ 4 หอ้ ง ประกอบด้วย (กรมการท่องเท่ยี ว, 2558) หอ้ งที่1 ความหมาย (Meaning) ความหมายหรอื ความส�ำ คญั ของเรอ่ื งทตี่ อ้ งการน�ำ เสนอ เชน่ หากนกั สอื่ ความหมาย ต้องการน�ำ เสนอเรื่องน�้ำ ผกั สะทอน ตอ้ งสามารถบอกได้ว่าน�ำ้ ผักสะทอนมีความหมายหรอื ความส�ำ คญั ต่อชมุ ชนของตนเอง อย่างไร ห้องที่ 2 องค์ความรู้ (Knowledge) องค์ความรู้และรายละเอียดในเร่ืองท่ีต้องการนำ�เสนอ เช่น หากต้องการ นำ�เสนอนำ้�ผักสะทอน นักส่ือความหมายควรจะทำ�การบ้านว่าต้องการนำ�เสนอเรื่องอะไรท่ีเกี่ยวข้องกับนำ้�ผักสะทอนบ้าง เชน่ อาหารการกนิ รสชาติ กรรมวธิ กี ารท�ำ น�้ำ ผกั สะทอน ซงึ่ การยอ่ ยขอ้ มลู และรายละเอยี ดในการน�ำ เสนอเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนง่ึ นน้ั ถือความถ้าทายของนักส่ือความหมายท่ีจะมาสามารถจัดการย่อยเน้ือหาที่มีอยู่อย่างมากมายให้เหมาะสมกับเวลาท่ีจำ�กัด ตามโปรแกรมและกิจกรรมท่องเที่ยวได้ หอ้ งที่3 ประสบการณ ์ (Experiences) ประสบการณท์ น่ี กั ทอ่ งเทยี่ วควรไดร้ บั เมอื่ มารว่ มกจิ กรรมทอ่ งเทย่ี วนน้ั ๆ เชน่ หากนำ�เสนอนำ้�ผักสะทอนต้องวางแผนไว้ว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์อะไรบ้างจากการเรียนรู้เร่ือง น�ำ้ ผกั สะทอน ส�ำ หรบั ประสบการณท์ นี่ กั ทอ่ งเทยี่ วจะไดร้ บั นน้ั ควรใหผ้ า่ นประสาทสมั ผสั ทงั้ 5 ของนกั ทอ่ งเทยี่ ว คอื ตาดู หฟู งั จมูกดมกลิ่น ลิน้ รบั รส และสุดท้าย คอื ลงมือทำ� การท่องเท่ยี วท่ผี า่ นมาน้ันสว่ นใหญ่แล้วจะให้ความส�ำ คัญกบั “ตาดู หูฟงั ผู้ส่ือความหมาย” ซึง่ ทัง้ สองส่วนนั้นไม่ไดส้ ่งเสรมิ การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ หรือสรา้ งความประทับใจจากกิจกรรมทอ่ งเท่ยี วได้ ดพี อ หอ้ งที่ 4 ลีลาและลกู เลน่ (Dance & Delivery) หรอื วิธกี ารในการนำ�เสนอของนกั สื่อความหมาย เช่น หากต้องการ นำ�เสนอเร่ืองนำ้�ผักสะทอน นักสื่อความหมายควรจะวางแผนว่าต้องนำ�เสนออย่างไรให้ประทับใจ ได้รับองค์ความรู้และ เหมาะสมกบั เวลาท่ีมีการสอ่ื ความหมายและการน�ำ เสนอของดีชมุ ชนผ่านโปรแกรมและกิจกรรมทอ่ งเท่ยี ว ใช่ “การพดู ” แต่ เพยี งอยา่ งเดยี ว เชน่ หากตอ้ งการน�ำ เสนอน�ำ้ ผกั สะทอนในระยะเวลา1 ชวั่ โมง ตอ้ งวางแผนวา่ จะน�ำ เสนออยา่ งไรใน1 ชวั่ โมงน้ี ผ่านหลักการหวั ใจทัง้ 4 หอ้ ง โดยการพูด เสวนา หรอื สนทนากับนกั ทอ่ งเที่ยว เป็นเพยี งกิจกรรรมหน่ึงในระยะเวลา 1 ชวั่ โมง เทา่ น้ัน แตส่ ามารถออกแบบกจิ กรรมโดยการพาเดนิ ชม ลงมอื ทำ�ในฤดกู าลทเี่ หมาะสม เชน่ เก็บผกั สะทอน ทดลองชมิ นำ�้ ผกั สะทอน หรอื ไปเรยี นรู้ดูเครอื่ งมอื ตา่ ง ๆ ในการทำ�นำ�้ ผกั สะทอน คู่มือการพฒั นาผ้สู ือ่ ความหมายเบอื้ งต้น 11 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลื่อนและเครอื ข่าย ให้มีความเข้มแขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอยา่ งย่งั ยืนในพ้นื ที่
12 คมู่ อื การพัฒนาผูส้ ่อื ความหมายเบอื้ งต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แข็งในการพัฒนาการท่องเทีย่ วอยา่ งยง่ั ยืนในพืน้ ท่ี
บทท่ี 3 พฒั นาเนอ้ื หาให้ เหนอื ใคร คมู่ อื การพฒั นาผสู้ อ่ื ความหมายเบ้อื งต้น 13 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอื่ นและเครอื ขา่ ย ใหม้ คี วามเขม้ แข็งในการพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วอยา่ งยั่งยนื ในพืน้ ที่
องคป์ ระกอบของเนอื้ หาในการสอ่ื ความหมาย เนื้อหาด้านการสื่อความหมาย สามารถก�ำ หนดจุดส�ำ คัญโดยมีองค์ประกอบดงั ต่อไปน้ี (กรมการท่องเทยี่ ว, 2558) 1. หวั ข้อ (Topic) ชว่ ยใหผ้ ูอ้ ่านเขา้ ใจขอบเขตของเนอ้ื หาสาระ 2. สาระส�ำ คญั (Theme) เป็นความคดิ รวบยอดเปน็ แก่นของความรใู้ นการน�ำ เสนอ 3. การสรปุ สาระส�ำ คัญ (Summary theme statement) ทเ่ี ป็นใจความหลักในการนำ�เสนอ 4. หวั ขอ้ ยอ่ ยของสาระส�ำ คัญ (Sub-theme) 5. เนือ้ หา (Stories) เปน็ เรอื่ งราวทอี่ ธิบายรายละเอียด เข้าใจเรื่องการลำ�ดบั ความสำ�คัญของการนำ�เสนอเนอื้ หา การล�ำ ดบั ความส�ำ คญั ของการน�ำ เสนอนน้ั อาจตอ้ งเรม่ิ จากการคน้ หาเรอ่ื งราวส�ำ คญั ทน่ี กั ทอ่ งเทยี่ วควรรแู้ ละจดจ�ำ ได้ หลงั จากออกจากแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วไปแลว้ โดยการวางแผนดา้ นการสอ่ื ความหมายมคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งเขา้ ใจเรอื่ ง หวั ขอ้ (Topic) และสาระส�ำ คญั (Theme) วา่ แทท้ จ่ี รงิ แลว้ คอื อะไร ซงึ่ หวั ขอ้ นนั้ คอื การก�ำ หนดค�ำ สนั้ ๆ เพอ่ื เปน็ การจ�ำ เพาะประเดน็ ทต่ี อ้ งการ น�ำ เสนอ สว่ นสาระส�ำ คญั หมายถงึ ความคดิ รวบยอด เปน็ แกน่ ความรู้ ทกั ษะและความตงั้ ใจทต่ี อ้ งการใหผ้ รู้ บั สารไดร้ บั หลงั จาก ไดร้ บั เนอ้ื หาในหวั ขอ้ นน้ั ๆ เมอื่ เขา้ ใจค�ำ ส�ำ คญั ทง้ั สองแลว้ ผรู้ บั ผดิ ชอบแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วจ�ำ เปน็ อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งก�ำ หนดหวั ขอ้ และ สาระส�ำ คญั ในการสอ่ื ความหมายของแตล่ ะครง้ั เน่ืองจากขอ้ มลู ในแตล่ ะแหล่งท่องเทย่ี วมอี ยู่คอ่ นขา้ งมาก เมื่อนักทอ่ งเทย่ี ว หรอื แมแ้ ตผ่ รู้ บั ผดิ ชอบแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเองกต็ ามยงั ไมส่ ามารถจ�ำ ไดห้ มดทกุ อยา่ ง ดงั นน้ั การวางแผนจงึ จ�ำ เปน็ เพอื่ ใหแ้ นใ่ จวา่ เมอื่ ออกจากแหล่งท่องเทีย่ วไปแล้วนักทอ่ งเท่ียวยงั สามารถจดจ�ำ ได้ การสร้างหวั ขอ้ และสาระส�ำ คญั (Theme) การพจิ ารณาหวั ขอ้ และสาระส�ำ คญั มคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งใหผ้ รู้ บั ผดิ ชอบแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วชว่ ยกนั ก�ำ หนด เพอื่ เปน็ การชว่ ยกนั คดิ และดงึ ประเดน็ ทนี่ า่ สนใจมาพฒั นาแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว การสรา้ งสาระส�ำ คญั (Theme) จะตอ้ งท�ำ ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย ชดั เจน เพราะ เปน็ การสรปุ ความคดิ ของเรอื่ งราวทงั้ หมด ผรู้ บั สารมกั จะอา่ นสาระส�ำ คญั และตอ้ งการตดิ ตามหากสาระส�ำ คญั นนั้ นา่ ดงึ ดดู ใจ มากเพียงพอ และสามารถท�ำ ให้ผู้รบั สารรู้สกึ ว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว สาระส�ำ คญั หรอื Theme จะชว่ ยใหเ้ ราเลอื กสอื่ และสรา้ งประสบการณแ์ กน่ กั ทอ่ งเทย่ี วในการอธบิ ายถงึ เรอื่ งราวทเ่ี ปน็ เนอื้ หาน่าสนใจ ในบางกรณีหากเนือ้ หาเข้าใจยากมาก การเรียงล�ำ ดับข้อความในการนำ�เสนอจะชว่ ยให้การสอ่ื ความหมาย มีประสทิ ธภิ าพมากยิ่งขึ้น 14 คู่มอื การพัฒนาผู้สื่อความหมายเบอ้ื งต้น โครงการเสริมสรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอ่ื นและเครือขา่ ย ให้มคี วามเข้มแขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเทย่ี วอยา่ งย่งั ยืนในพืน้ ที่
11 จากภาพ การกำ�หนดสาระสำ�คัญ (Theme) ของการนำ�เสนอยำ�สามเถรออกรบ ประกอบด้วย ตำ�นาน/ที่มา ความเกี่ยวข้องกจับาวกิถภีชาีวพิต-กอาารหกาารหในนชดีวสิตาปรระะสจาำ�ควัญัน (Tคhวeามmโeด)ดขเดอ่นงกขาอรงนอาาหเสานรอยวัตาสถาุดมิบเสถำ�รคอัญอกรลบำ�ดปับรขะั้นกตออบนดก้วายรปรุง (แเกTลhย่ี ะeจขดตวสmะั้กนา้วถนนยับตeากาาเอ)นรนเานื่อสทร/เงนกี่พทกร/าอา่ื่ีมอารหวสาจเปไทนื่อะคดรสศดทวุม้งากสาาารแาามใกเหลลรเรขกะท้นะื่อึน้ ยี่สสี่จงักวาระถทขาคสาอ่ ว้อัญานงมงเทกทคา(ี่Tบัร่ยีว/ถhาววเหมeิถเทขmาชีรศ้ากู้คีวใกeินติวจ)าา-เลอกเม/พทายี่เ่ือหขว่ีชจ้สากาิมะใรื่อบัสไจใดสเานทร้ามช่ือี่ถรซาวีงูกเรึ่งรรติ ตเถ่ือาปป้อหวง็นรงไราะดกขากจา้มอวินารงาวอคแก/ันอวหขกชาลนึ้คมแิม่งวบรทไาดู้คบ่อม้วกงโซาดาเทึ่งมรดเี่สยเปเขด่ือว็น้าทค่นใกี่จวขจาาะอทรมนงี่ถอหอำ�ูกอมเาตสกหา้อนแยางอรบดข้วบวอยทกัตงกำ�าถแาใรดุหหรสบิลก้น่ือสำ่�งักคทหาทวคน่อ่อาัญดงงมเสเทหลทา่ียามรี่ยดะวาวสับทยเขำ�่ี ้าคใัญจ การพิจารณาถึงองค์ประกอบในการลาดับความสาคญั ของการนาเสนอนนั้ เป็นเรื่องสาคัญมาก หาก แหล่งท่องเทีย่ วทปี่ ระสบปัญหาในการถา่ ยทอดเร่อื งราวใหเ้ ขา้ ใจง่าย เพราะบางเน้ือหาไม่ใช่เร่ืองง่ายที่จะเข้าใจ คู่มอื การพฒั นาผสู้ อื่ ความหมายเบ้อื งต้น 15 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคล่ือนและเครือขา่ ย ใหม้ ีความเข้มแข็งในการพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วอยา่ งยั่งยนื ในพ้ืนท่ี
ขั้นตอนการปรุง และสถานท่ี / เทศกาลที่จะสามารถหากิน / ชิมได้ ซึ่งเป็นการออกแบบการส่ือความหมาย ด้วยการกาหนดสาระสาคัญ (Theme) เพ่ือส่ือสารเรื่องราว ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องของแหล่งท่องเท่ียวที่ จะนาเสนอ จะทาให้นกั ท่องเท่ียวเขา้ ใจเกยี่ วกบั เรอ่ื งราวได้มากข้ึน การพิจารณาถงึ องค์ประกอบในการลาดับความสาคัญของการนาเสนอน้ันเป็นเรอ่ื งสาคญั มาก หาก แหลง่ ทกอ่ารงพเทจิ ีย่ าวรทณปี่ ารถะึงสองบคป์ปัญระหกาอในบกในารกถาา่รยลำ�ทดอบั ดคเรว่ือางมรสาำ�วคใหัญ้เขขอา้ งใกจางา่รนย�ำ เเพสรนาอะนบน้ั าเงปเ็นเือ้ รห่ืองาสไมำ�ค่ใชัญ่เรมอื่ างกง่าหยาทกจ่ีแะหเลข่ง้าทใจ่องเทย่ี ว ทปี่ ระสบปญั หาในการถา่ ยทอดเรอื่ งราวใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย เพราะบางเนอื้ หาไมใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยทจี่ ะเขา้ ใจ เชน่ ขอ้ มลู ทางประวตั ศิ าสตร์ 12 ท่ีมีอเาชย่นุยขาว้อนมาูลนทามงปีครำ�พะวิเศตั ษศิ จาสำ�นตวรน์ทม่มี าอี กายหยุ ารือวนเปา็นนขม้อมีคาูลพเชเิ ิงศนษิเจวศานทว่ีหนามกาไมก่ใหช่ผรอืู้เชเป่ียวน็ ชขา้อญมอูลาเจชไงิ มน่เิเขว้าศใทจี่หทา่ีมกาไทมี่ไ่ใปชข่ องเร่ืองราว ดังนผ้ันูเ้ ชกี่ยวารชสา่ือญคอวาาจมไหมมเ่ ขา้ายในจอทกม่ี จาาทกไ่ี เปรขียองลงเำ�รดื่อับงคราววามดสงั ำ�นค้ันัญกในารกสาอื่รนคำว�เาสมนหอมแาลย้วนอยกังจจาำ�กเปเร็นียตง้อลงาพดิจับาครวณาามถสึงาชคนญั ิดใขนอกงาเทรคนิค การนสสอ่ืื่อาคเแสวบนาบอมใแหดลมแว้ าลยยะวงั ท่าจส่ีาเนาเปคอ้ื ็นัญหตาใอ้หคงรรพือคเิือจราผอ่ื รู้ฟงณรังาอาวถีกทึงเ่ีมชชอี่นนยกิด่คู นัขวอรงใเชทส้ คื่อนแคิบกบาใรดสแ่อื ลคะวทามสี่ �ำหคมัญายใควา่รคเือนผ้ือฟู้ หังาอหกี รเือชเน่ รกือ่ ันงราวทม่ี ีอยูค่ วรใช้ 9 เทคนคิ การเขยี นเร่ืองเล่าให้นา่ สนใจในแหล่งท่องเทยี่ ว เพราะการเล่าเรอ่ื งคือหวั ใจหลกั ของการส่อื ความหมาย การกาหนดเนื้อหาหรือเรอื่ งราวด้านการสอื่ ความหมายน้ันยงั มีข้อแนะนาทท่ี าให้เกิดการจดจาและเข้าถงึ ผอู้ ่านจาก 9 เทคนิคการเขียนเรื่องเลา่ ให้เลา่ เร่ือง ใหน้ า่ สนใจ โดยมีขอ้ กาหนดง่าย ๆ ท่สี ามารถนาไปใชไ้ ด้ดังต่อไปน้ี 1. กล่าวถงึ ผูอ้ ่านใหร้ ้สู ึกถึงความใกลช้ ดิ โดยใช้คาว่า คุณ ท่าน หรือเรา เป็นอยา่ งดี162. ใชค้ าทีเ่ ปน็ ธรครมู่ มอื ชกาาตรแิพลฒั ะนมาีชผวี ู้สิตือ่ ชควี วาามเชหม่นายทเาบงอื้ เงรตา้น(ทางชุมชน ทางอุทยานฯ ) ได้ทาการเก็บรักษาไว้ 3. ใช้คาเปรยี บเโใทคห้มรยี งีคบกวาทารมี่ใเเสขกร้มลิมแต้สข็งรวั ใา้ นงกเแชาลรน่ะพพัฒัฒลนงินาชาศกอกัาบรยทภเ่อกาพงาเขทะอี่ยองวภยอาย่บู คา่ นี งกยตล่ังไ้นยกืนกไใามนรพ้ทขนื้บั มี่ ทเคคีี่ ลว่อื านมแลสะเูงคเรทอื า่ขา่กยบั ตึก 4 ชน้ั หากใชร้ ะยะท่ี เปน็ หน่วยวัดอาจนกึ ไม่ออก
9 เทคนิคการเลา่ เรือ่ งให้นา่ สนใจในแหล่งท่องเท่ียว เพราะการเลา่ เรอ่ื งคอื หวั ใจหลกั ของการสอ่ื ความหมาย การก�ำ หนดเนอื้ หาหรอื เรอ่ื งราวดา้ นการสอื่ ความหมายนนั้ ยงั มีข้อแนะน�ำ ทท่ี ำ�ให้เกดิ การจดจำ�และเข้าถงึ ผู้อา่ นจาก 9 เทคนิคการเล่าเร่ืองให้นา่ สนใจ โดยมขี ้อก�ำ หนดง่าย ๆ ทส่ี ามารถ นำ�ไปใช้ได้ดังต่อไปน้ี 1. กลา่ วถงึ นักท่องเทย่ี วใหร้ สู้ กึ ถึงความใกล้ชิด โดยใชค้ ำ�วา่ คณุ ทา่ น หรือเรา 2. ใช้ค�ำ ท่ีเป็นธรรมชาติและมีชวี ิตชวี า เชน่ ทางเรา (ทางชุมชน ทางอุทยานฯ ) ได้ทำ�การเก็บรกั ษาไวเ้ ป็นอยา่ งดี 3. ใชค้ �ำ เปรยี บเทยี บทใี่ กลต้ วั เชน่ ลงิ ชอบเกาะอยบู่ นตน้ ไมท้ ม่ี คี วามสงู เทา่ กบั ตกึ 4 ชน้ั หากใชร้ ะยะทเ่ี ปน็ หนว่ ยวดั อาจนึกไมอ่ อก volimte te je 4. ดึงความสนุก ขบขนั แบบไทย แต่ใช้อย่างระมดั ระวัง dua t'aime aku cinta ti amo kamu i olve Unë të you dua 5. ต้ังค�ำ ถามเพือ่ ใหผ้ ู้อา่ นคิด te amo 6. พูดให้กระชับ เข้าใจงา่ ย 7. หลีกเล่ียงคำ�เทคนคิ ทมี่ ากเกินความจ�ำ เป็น 8. วางล�ำ ดับขอ้ ความและภาพประกอบ 9. นกึ ถงึ นักท่องเทย่ี วเสมอวา่ นกั ท่องเทย่ี วคือกลุ่มใดและพยายามท�ำ ให้เขา้ ใจงา่ ย อยา่ พยายามส่ือสารดว้ ยขอ้ มลู และตวั เลขเพยี งอย่างเดียว หลักในการพฒั นาใจความเนือ้ เร่ือง 1. ศกึ ษารายละเอยี ดขอ้ มลู เกย่ี วกบั แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทนี่ �ำ เสนอ (บคุ คล สถานท่ี และสง่ิ ของ) ขอ้ มลู ควรมาจากทมี งาน ทีป่ ระกอบด้วยผูเ้ ชีย่ วชาญจากหลายสาขาท่ีมคี วามเขา้ ใจตอ่ คณุ ค่าของแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วทม่ี ีมมุ มองแตกต่างกันไป 2. การตงั้ ประโยคค�ำ ถามวา่ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทกี่ �ำ ลงั ศกึ ษามเี รอื่ งราวอะไรทโี่ ดดเดน่ นา่ สนใจ แตกตา่ งจากทอ่ี นื่ อยา่ งไร และทำ�ไม 3. การแสวงหาค�ำ ตอบท่ีเปน็ เหตเุ ป็นผลจากการศึกษา ค้นคว้าวจิ ยั จากแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ท่นี า่ เชอื่ ถือ 4. การระบเุ นอื้ เรอื่ งใจความส�ำ คญั ซง่ึ อาจน�ำ เสนอดว้ ยเรอื่ งราวทม่ี แี นวคดิ สากลทนี่ า่ สนใจ ไดแ้ ก่ ความคดิ ความสมั พนั ธ์ ความตอ้ งการ กระบวนการ คณุ ค่า ความท้าทาย การอยรู่ อด และการค้นพบ 5. การเลือกแนวคิด ประเดน็ เร่ืองราวทส่ี ำ�คัญท่ีสุดท่ีผู้นำ�เสนอตอ้ งการสอ่ื สารไปยังนกั ทอ่ งเที่ยว 6. การเขียนเน้ือเร่อื งใจความสำ�คัญโดยเชื่อมกบั คุณคา่ และความสำ�คัญของแหล่งท่องเท่ยี ว คูม่ อื การพัฒนาผ้สู อ่ื ความหมายเบ้อื งตน้ 17 โครงการเสริมสร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลอื่ นและเครอื ขา่ ย ใหม้ ีความเขม้ แข็งในการพฒั นาการท่องเท่ียวอยา่ งยั่งยนื ในพ้นื ท่ี
เคา้ โครงเนอ้ื หาสำ�หรบั ประกอบการเลา่ เรื่อง 1. ขอ้ มูลชุมชน/ตำ�บล/อ�ำ เภอ/จังหวัด 1.1. ประวัติการก่อตงั้ 1.2. จำ�นวนองค์ประกอบหนว่ ยย่อย 1.3. อาณาเขต 1.4. ภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ 1.5. ประชากร จำ�นวน อายุ การศึกษา การนบั ถอื ศาสนา 1.6. การประกอบอาชพี 1.7. ประเพณี วฒั นธรรม 1.8. ของขนึ้ ชอื่ ของฝาก 2. วดั /โบราณสถาน/สถานท่ีส�ำ คญั 2.1. สถานทีต่ ัง้ 2.2. วัตถุประสงคก์ ารก่อสรา้ ง 2.3. ประวัติ/ตำ�นานการก่อสรา้ ง 2.4. สงิ่ กอ่ สรา้ งที่สำ�คญั และลักษณะทีน่ ่าสนใจของสงิ่ กอ่ สรา้ ง 2.5. วัตถุน่าสนใจท่อี ยูใ่ นโบราณสถาน และลกั ษณะทน่ี ่าสนใจของวตั ถุ 2.6. พธิ กี รรมและกิจกรรมทีจ่ ดั ในวดั /โบราณสถาน 2.7. ความเชื่อ/ตำ�นานเกี่ยวกับสง่ิ ศกั ด์สิ ิทธิ์ 2.8. ระเบียบปฏบิ ตั ิและขอ้ หา้ ม 3. พระพุทธรปู สำ�คญั 3.1. สถานทป่ี ระดษิ ฐาน 3.2. ประวัติ/ต�ำ นาน/ความส�ำ คญั 3.3. พุทธลกั ษณะ 3.4. วัสดุที่ใชใ้ นการสรา้ ง 3.5. พิธกี รรม และกิจกรรมทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 3.6. ความเชื่อ/ตำ�นานเก่ียวกบั ส่งิ ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ 3.7. ระเบียบปฏบิ ตั ิและขอ้ หา้ ม 18 คู่มอื การพฒั นาผ้สู ือ่ ความหมายเบอื้ งตน้ โครงการเสริมสรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครือข่าย ใหม้ ีความเขม้ แขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอยา่ งยง่ั ยืนในพืน้ ที่
4. บุคคลสำ�คญั 4.1. การเกดิ วนั เดือนป-ี สถานที-่ เหตกุ ารณส์ ำ�คัญ 4.2. พอ่ แม่ พ่ีน้อง 4.3. ชวี ิตวัยเดก็ การเรยี น 4.4. หนา้ ทก่ี ารงาน 4.5. ผลงานทส่ี ำ�คญั /ความชำ�นาญ 4.6. ชวี ติ บั้นปลาย 4.7. การเชดิ ชูเกียรติคุณ การสร้างอนสุ รณ์ การระลกึ ถึง 5. ประเพณีสำ�คญั 5.1. ตำ�นานความเชือ่ เกย่ี วกับประเพณี 5.2. ทมี่ าของประเพณี สบื เนือ่ งจาก-สภาพภมู ิประเทศ วถิ ชี ีวติ อาชีพ วฒั นธรรมตา่ งดา้ ว 5.3. ชว่ งเวลาในการจดั การเริม่ จัดคร้งั แรก ววิ ฒั นาการจดั การงาน การเปลย่ี นแปลงชว่ งจัดงาน 5.4. กิจกรรม/สินค้า/ส่งิ ของในเทศกาลทพ่ี ลาดไม่ได้ 6. อาหารพื้นถนิ่ 6.1. ต�ำ นาน/ทม่ี า (ถ้าม)ี 6.2. ความเก่ยี วขอ้ งกับวิถชี วี ิต–อาหารในชวี ติ ประจ�ำ วัน พิธกี รรม เทศกาล ความเช่อื ในต�ำ นาน 6.3. ความโดดเด่นของอาหาร 6.4. วตั ถดุ ิบสำ�คัญ 6.5. ล�ำ ดบั ข้ันตอนการปรงุ 6.6. สถานท/่ี เทศกาลทีจ่ ะสามารถหากิน/ชิมได้ 7. ผลติ ภัณฑ์ชุมชน ของฝาก ของทีร่ ะลึก 7.1. ต�ำ นาน/ที่มา (ถ้ามี) 7.2. ความเกีย่ วขอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ –อาหารในชีวติ ประจำ�วนั พิธีกรรม เทศกาล ความเชอื่ ในต�ำ นาน 7.3. ความโดดเดน่ ของของฝาก 7.4. วัตถดุ บิ 7.5. ล�ำ ดับขัน้ ตอนการทำ� 7.6. สถานทท่ี ีจ่ ะหาซือ้ ได้ คู่มอื การพัฒนาผสู้ อ่ื ความหมายเบอื้ งต้น 19 โครงการเสริมสรา้ งและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่อื นและเครอื ขา่ ย ใหม้ ีความเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการท่องเท่ยี วอยา่ งยง่ั ยืนในพน้ื ที่
8. แหลง่ ท่องเทีย่ วธรรมชาติ 8.1. สภาพภมู ปิ ระเทศ 8.2. การบกุ เบิก คน้ พบ 8.3. ประโยชนข์ องแหล่งฯ ตอ่ ชุมชน 8.4. การพัฒนาเป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว 8.5. สถานท่นี า่ สนใจ 8.6. กิจกรรมที่หา้ มพลาด 8.7. ระเบยี บปฏิบตั ิและขอ้ หา้ ม 20 ค่มู ือการพัฒนาผู้ส่ือความหมายเบ้อื งต้น โครงการเสริมสรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอื่ นและเครอื ขา่ ย ให้มีความเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการท่องเที่ยวอยา่ งย่งั ยืนในพื้นที่
บทท่ี 4 เทคนิคสอ่ื ความหมาย ให้เร้าใจ สำ�คญั ไฉน คมู่ อื การพฒั นาผู้สื่อความหมายเบ้อื งต้น 21 โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลอ่ื นและเครอื ขา่ ย ใหม้ ีความเข้มแข็งในการพัฒนาการทอ่ งเท่ยี วอย่างย่ังยืนในพ้นื ที่
เทคนิคที่ 1 5Ws+1H 5 Ws+1 H technique ใคร ท�ำ อะไร ท่ีไหน เมื่อไร ทำ�ไม อยา่ งไร การเล่าเร่อื งราว ใช้หลกั การงา่ ย ๆ คอื 5Ws + 1H • What เอ๊ะ นน่ั อะไร? ทำ�อะไร คือ สิง่ ทเ่ี ราตอ้ งรวู้ า่ เราจะท�ำ อะไร แต่ละคนท�ำ อะไรบา้ ง • Where อุ๊ย ! มันมาจากไหน? ทไี่ หน คอื ส่งิ ที่เราตอ้ งรูว้ ่า สถานท่ที เี่ ราจะท�ำ ว่าจะทำ�ทีไ่ หน เหตกุ ารณ์หรอื สิง่ ท่ที �ำ นน้ั อยทู่ ่ไี หน • When เออ แล้วสร้างเมื่อไร? เมื่อไหร่ คอื สง่ิ ที่เราต้องรวู้ ่า ระยะเวลาท่ีจะท�ำ จนถึงส้นิ สดุ เหตกุ ารณห์ รอื ส่ิงทีท่ ำ�นนั้ ท�ำ เมื่อวนั เดอื น ปี ใด • Who อา้ ว แลว้ ใครสรา้ ง สร้างใหใ้ คร? ใคร คอื ส่งิ ท่เี ราตอ้ งรูว้ ่า ใครรบั ผิดชอบ ใครเกี่ยวขอ้ ง ใครไดร้ ับผลกระทบ ในเรอ่ื งนัน้ มใี ครบ้าง • How ออ๋ สรา้ งด้วยวตั ถุอะไร? อยา่ งไร คือ สง่ิ ที่เราต้องรูว้ า่ เราจะสามารถท�ำ ทกุ อยา่ งให้บรรลผุ ลได้อยา่ งไร เหตกุ ารณห์ รือส่งิ ทที่ ำ�นั้น ท�ำ อยา่ งไรบา้ ง • Why อรา้ ย ทำ�ไมจึงส�ำ คญั ทำ�ไมจึงนา่ สนใจ? ท�ำ ไม คอื สิ่งที่เราตอ้ งรู้วา่ สง่ิ ทเ่ี ราจะท�ำ นั้น ท�ำ ด้วยเหตผุ ลใด เหตุใดจงึ ได้ทำ�สง่ิ นนั้ หรอื เกดิ เหตุการณ์ น้ันๆ การใชเ้ ทคนคิ 5W+1H เปน็ การคดิ วเิ คราะห์(AnalysisThinking) ทใี่ ชค้ วามสามารถในการจ�ำ แนก แยกแยะองคป์ ระกอบ ต่าง ๆ ของสิง่ หนง่ึ ส่ิงใด ซง่ึ อาจจะเป็นวตั ถุ สงิ่ ของ เรอื่ งราว หรือเหตุการณ์ น�ำ มาเช่ือมโยงระหวา่ งองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ เหลา่ น้ัน จากนน้ั จึงรวบรวมข้อมูลทัง้ หมดมาจัดระบบ เรยี บเรยี งใหม่ใหง้ ่ายแก่ต่อการท�ำ ความเข้าใจและพยายามเช่อื มโยง กบั วิถชี ีวติ ชมุ ชนเพอ่ื เลา่ เรอื่ งให้นักทอ่ งเทีย่ วฟงั ได้อย่างสนุกสนาน 22 คู่มือการพฒั นาผู้ส่อื ความหมายเบือ้ งตน้ โครงการเสริมสร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอื่ นและเครอื ข่าย ใหม้ คี วามเขม้ แข็งในการพฒั นาการทอ่ งเทีย่ วอย่างย่ังยืนในพื้นที่
เทคนิคท่ี 2 หลัก 555 เพื่อค้นหาเรื่องเล่าท่นี ่าสนใจ เรื่องเล่าทนี่ กั สอื่ ความหมายควรเล่าใหท้ อ่ งเท่ยี วฟงั เพ่อื สร้างความเข้าใจ และความต้องการเขา้ รว่ มกจิ กรรมต่างๆ ในหมู่บ้านเพื่อการเรียนรู้ร่วมกันสามารถสร้างเร่ืองราวได้หลากหลาย หรือแม้แต่การนำ�เอาเรื่องราวหรือเร่ืองเล่า ตำ�นาน ท้องถิ่น ที่สบื ตอ่ กนั มาเลา่ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนกั ทอ่ งเทีย่ ว มหี ลายเทคนิคเชน่ หลัก 555 เพื่อค้นหาเรื่องเล่า ทนี่ า่ สนใจ ประกอบดว้ ย • 5 แหลง่ ทอ่ งเที่ยวในชุมชน กDิจลIYกงมร=รือมDทท�ำoีน่ดIกัว้t ยทYตo่อนuงเrเทsอe่ยีงlfว • 5 อาหารเดด็ ในชุมชน • 5 ของที่ระลึกในชุมชน • แถมอีก 5 กจิ กรรมทอ่ งเทย่ี ว (DIY) ที่นา่ สนใจ ทำ�ไม 555 + 5 จึงนา่ สนใจ 5 แหล่งท่องเทีย่ ว นกั ทอ่ งเทยี่ วสว่ นใหญท่ เ่ี ขา้ มาในชมุ ชนมกั จะไมเ่ คยทอ่ งเทย่ี วในชมุ ชนของเรามากอ่ น เพราะฉะนน้ั เมอ่ื ไดม้ โี อกาส ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วนั้น ส่ิงที่ไม่ควรพลาดเลย คือ การแนะนำ�แหล่งท่องเท่ียวในชุมชนให้กับนักท่องเท่ียวได้รู้จักก่อน ท่ีจะออกไปเที่ยวด้วยตัวของพวกเขาเองหรือแม้แต่การใช้บริการนักสื่อความหมายในการพาเที่ยวในชุมชน เพื่อเป็นการ ใ หข้ อ้ มูลเ บ้ืองตน้ เพอ่ื กระตุ้นความใครร่ ขู้ องนกั ท่องเท่ยี ว สง่ิ ที่ตอ้ งสื่อให้นักท่องเทยี่ วไดร้ บั รกู้ ็คือ • ช่อื ของสถานที่ • ความส�ำ คญั ของสถานท่ี ที่มีต่อชมุ ชน • ประวัติความเป็นมาของแหล่งทอ่ งเทยี่ ว • มลี กั ษณะเฉพาะอะไรทแ่ี ตกตา่ งจากทอ่ี ่นื • ส่งิ ทจ่ี ะได้เรียนร้จู ากแหลง่ ท่องเที่ยวชุมชนนัน้ ๆ 5 อาหารเด็ดในชมุ ชน นกั ทอ่ งเท่ยี วทีเ่ ข้ามาเทีย่ วในชมุ ชน ส่วนหนงึ่ ต้องการเรียนร้วู ิถชี ีวติ ของชุมชนอยา่ งลกึ ซ่งึ แต่สว่ นใหญจ่ ะมีเวลาอยู่ กบั ชมุ ชนไม่นานนัก การน�ำ เสนอวถิ ีชีวติ ทสี่ ้ันแตไ่ ดผ้ ลอยา่ งงา่ ยท่ีสดุ คือการน�ำ เสนอผา่ นอาหารเด็ดทม่ี ใี นชุมชนของเราโดย เฉพาะอาหารเมนเู ด็ดที่ไมส่ ามารถหารับประทานไดใ้ นพน้ื ท่อี ืน่ เรยี กได้วา่ เปน็ SIGNATURE ของท้องถนิ่ มาทนี่ ี่ต้องชมิ ตอ้ ง กินอาหารประเภทน้ี มิเช่นนนั้ มาไม่ถงึ เชน่ มาดา่ นซ้ายต้องชมิ น�้ำ ผักสะทอน ไปเชียงคานต้องชิมข้าวปนุ้ นำ�้ แจ่ว เปน็ ต้น ส่งิ ที่ต้องส่อื ให้นักทอ่ งเทย่ี วไดร้ บั รกู้ ็คือ • ช่ือของอาหาร บง่ บอกถึงทมี่ าของอาหาร ชือ่ ทเี่ ปน็ ชอ่ื ท้องถน่ิ จะสรา้ งความสนใจของนักท่องเท่ยี วท่มี ี ตอ่ อาหารไดเ้ ปน็ อย่างดี คูม่ ือการพัฒนาผ้สู อื่ ความหมายเบือ้ งต้น 23 โครงการเสริมสร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลือ่ นและเครอื ข่าย ให้มีความเขม้ แขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอย่างย่ังยืนในพนื้ ที่
• วตั ถุดิบในการประกอบอาหาร สร้างความนา่ สนใจได้ โดยเฉพาะความพเิ ศษของวัตถุดิบนน้ั รวมถึง ฤทธิ์ทางยา • ช่วงฤดูกาลของอาหารนั้นๆ สามารถสร้างเป็นปฏิทินเพื่อการท่องเท่ียวที่สามารถสร้างความสนใจ ในการกลับมาเทีย่ วซ�ำ้ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 5 ของทรี่ ะลกึ และของฝาก ของที่ระลึกเป็นส่ิงท่ีนักท่องเท่ียวทุกคนเสาะแสวงหาเพื่อเก็บเอาไว้เตือนใจ ให้ระลึกถึงสถานท่ีท่องเที่ยวที่ได้เดิน ทางไปเยยี่ มเยอื น ลกั ษณะเฉพาะของนกั ทอ่ งเทยี่ วชาวไทย นอกจากจะซอื้ ของทรี่ ะลกึ ใหก้ บั ตนเองแลว้ นกั ทอ่ งเทย่ี วชาวไทย ยังมักจะซ้ือไปฝากบุคคลอันเป็นท่ีรัก หรือท่ีเคารพเม่ือกลับภูมิลำ�เนาด้วย เพราะฉะน้ัน การแนะนำ�สินค้าของชุมชนที่ เหมาะเป็นของที่ระลึกและของฝากจึงเป็นส่ิงจำ�เป็นที่นักสื่อความหมายท่ีต้องหาเร่ืองเล่าเกี่ยวกับของที่ระลึกของฝากน้ันให้ นักท่องเทย่ี วเหน็ คณุ ค่าของสนิ ค้ามากกว่ามูลคา่ สิ่งท่ีต้องส่ือใหน้ กั ท่องเท่ยี วไดร้ ับรู้ คือ • ความพเิ ศษของสนิ ค้าของทรี่ ะลึกที่แตกต่างทีอ่ ่นื • ประโยชนใ์ ช้สอยทจ่ี ะได้รบั จากของทร่ี ะลกึ • คุณค่าของของทีร่ ะลกึ ประเภทน้ันๆ ท่นี กั ทอ่ งเทย่ี วจะไดร้ บั 5 กจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี ว กิจกรรม DIY ความพเิ ศษของการทอ่ งเทย่ี วโดยชมุ ชนทมี่ นี กั สอื่ ความหมายทอ้ งถนิ่ คอยดแู ลใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจกบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว น้นั คอื การทน่ี ักทอ่ งเทยี่ วจะได้ใชเ้ วลารว่ มกบั คนในชมุ ชน ได้เรียนรผู้ า่ นกิจกรรมทีพ่ ฒั นามาจากวิถชี วี ติ การท�ำ งานของ คนในชุมชน เพือ่ สร้างความเข้าใจอยา่ งแท้จริงในวฒั นธรรมการด�ำ รงชวี ิตของชาวบ้านในพืน้ ท่ี สิง่ ทต่ี ้องส่ือให้นกั ทอ่ งเท่ียว ได้รับรู้ คือ • กิจกรรมท่ีท�ำ พฒั นามาจากการประกอบอาชีพอะไร มคี วามส�ำ คัญอย่างไร • มีความพิเศษ ลักษณะเฉพาะทไ่ี ม่เหมอื นคนอนื่ อย่างไร • กิจกรรมทีท่ �ำ สอนอะไร ให้คณุ คา่ อะไรบา้ ง 24 คู่มือการพฒั นาผู้ส่ือความหมายเบ้ืองต้น โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลือ่ นและเครอื ขา่ ย ใหม้ คี วามเข้มแขง็ ในการพฒั นาการทอ่ งเท่ียวอย่างยง่ั ยนื ในพืน้ ท่ี
เทคนคิ ที่ 3 ตน้ ตน่ื เตน้ -กลาง กลมกลนื -จบ จบั ใจ เทคนคิ การส่อื ความหมายทงี่ ่าย ๆ ด้วยการแบง่ โครงสรา้ งของการเลา่ เรือ่ งราวออกเปน็ 3 ช่วงหลัก ไดแ้ ก่ 1. ตน้ ต่ืนเต้น เปน็ ตอนเปิดเรอ่ื ง กระตุ้นใหผ้ ูฟ้ งั เห็นความสำ�คัญของเรอื่ งที่จะพูด 2. กลาง กลมกลนื ดำ�เนนิ เร่อื ง ประกอบดว้ ยเน้อื หาสาระลำ�ดับความสำ�คัญอย่างชัดเจน 3. จบ จับใจ ตอนจบเร่อื ง สรุปความท้งิ ทา้ ยใหผ้ ้ฟู งั น�ำ ไปคิด หรอื ฝากไว้ในความทรงจำ�ตลอดไป “ข้นึ ต้นใหต้ น่ื เต้น ตอนกลางใหก้ ลมกลืน และตอนจบใหจ้ ับใจ “ หลักการ แนวทาง และตัวอย่างประโยคในการเลา่ เรือ่ ง คมู่ อื การพฒั นาผ้สู ่อื ความหมายเบื้องตน้ 25 โครงการเสรมิ สร้างและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอ่ื นและเครือขา่ ย ให้มคี วามเข้มแขง็ ในการพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วอย่างยง่ั ยนื ในพ้นื ที่
TIP TECHNICS ส�ำ หรบั นกั สอ่ื ความหมาย • เตรียมให้พรอ้ ม • ซ้อมให้ดี • ทา่ ทมี สี ง่า • คมุ เวลาเหมาะสม • ค�ำ คมอารมณ์ขัน • สรา้ งสรรค์ด้วยเทคนคิ • ไมต่ ดิ หยาบคาย • วอ่ งไวคลอ่ งแคลว่ หรอื “ยวนใจ” ย = ยิม้ แยม้ ว= วาจาสภุ าพ น = นอบน้อม นมุ่ นวล ใจ = จิตใจดี มี Service Mind 26 คูม่ อื การพัฒนาผู้สอื่ ความหมายเบอ้ื งต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลอ่ื นและเครือขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการทอ่ งเที่ยวอย่างย่ังยืนในพ้นื ท่ี
บทท่ี 5 สอื่ อยางไรใหโ ดนใจ นกั ทองเทีย่ ว คูม่ ือการพฒั นาผู้สือ่ ความหมายเบอ้ื งต้น 27 โครงการเสริมสรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่ือนและเครือขา่ ย ใหม้ คี วามเข้มแขง็ ในการพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วอย่างยง่ั ยนื ในพื้นท่ี
รูปแบบของการส่ือสารของนกั สอ่ื ความหมายทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอนกั ทอ งเทยี่ ว การสื่อความหมายมบี ทบาทตอการเรียนรแู ละรบั รขู องกจิ กรรมทางการทอ งเท่ยี ว และกอ ใหเ กดิ การอนุรักษม รดก ทางวัฒนธรรมของชุมชน นักทองเที่ยวไดรับประสบการณทองเที่ยวที่นาจดจํา การส่ือความหมายของแหลงทองเที่ยวจึง มีวัตถุประสงคเพ่ือใหนักทองเท่ียวไดรับประสบการณท ่ีมีคุณคาโดยผา นการรับรู ช่ืนชมซาบซึ้ง และมีความเขา ใจในความ สําคัญของแหลง ทอ งเท่ยี ว เมื่อนกั ทอ งเท่ียวเกดิ ความซาบซ้งึ รูส กึ รักและหวงแหนแหลงทองเที่ยว ยอ มสงผลตอ พฤตกิ รรม ของนกั ทองเที่ยวและสง ผลกระทบตอ แหลงทอ งเท่ียวนอ ยที่สดุ สูก่ ารพฒั นาการทองเทย่ี วอย่างย่ังยืน การสอ่ื ความหมายทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพมผี ลตอ การเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมของนกั ทอ งเทย่ี วในการหลกี เลย่ี งผลกระทบทางลบ ตอ สงั คม วฒั นธรรมของแหลง ทอ งเทย่ี วและชมุ ชนจากกจิ กรรมของนกั ทอ งเทย่ี วเอง ดงั ความส�ำ คญั ของการสอ่ื ความหมาย ทว่ี า “Interpretation, by definition, can or should have an impact in visitors in such a way that they react to the stimuli in the desired form (e.g. appreciation, enjoyment and understanding)” (Puczk, 2006) ดังนั้น รูปแบบของการสื่อสารของนักส่ือความหมายท่ีมีอิทธิพลตอนักทองเท่ียวเพ่ือการทองเที่ยวอยางยั่งยืนใน แหลงทอ งเทีย่ วชุมชนโดยใชรูปแบบของ LOEI Model แบงเปน 4 องคประกอบ คอื L : Learning เรยี นรู O : Observing คอยดนู ักทองเท่ยี ว LOEI Model E : Explain อธิบาย –เทย่ี ว–เยย่ี มชมุ ชน เร่อื งเดยี วกนั I : Interpreting ใสใ จ บอกเลา่ เร่อื งราว L : Learning เรยี นรู นักสื่อความหมายเปดโอกาสใหนักทองเที่ยวไดเรียนรูขอมูลตาง ๆ จากการเลาเร่ือง แจกคูมือการปฏิบัติแก นักทองเท่ียว แนะนําและชักนําพฤติกรรมของนักทองเที่ยวอยางใกลชิด ทั้งนี้ การสรางคุณคาใหแกประสบการณ นกั ทอ งเทีย่ ว ไดแก • เปด โอกาสในการปฏสิ ัมพันธระหวา งนกั ทองเทีย่ วกบั แหลงทอ งเท่ียว • สรางโอกาสใหน ักทอ งเทยี่ วไดส ัมผัสชุมชนทองถน่ิ • สรางแรงบันดาลใจใหน ักทอ งเท่ียวไดเ ยย่ี มชมนอกเหนอื จากแหลง ทเ่ี ปนทร่ี จู ักอยแู ลว • เพมิ่ พนู ความเขาใจของนักทอ งเท่ยี วเพือ่ รบั รูคณุ คา อนั แทจรงิ ของแหลง ทอ งเท่ยี วชุมชน • สงเสริมใหมีการเรียนรูแหลงทองเที่ยวโดยใหนักทองเท่ียวเขาไปมีสวนรวมสรางประสบการณรวม กบั ชมุ ชนในแหลงทอ งเที่ยว 28 คูม่ อื การพัฒนาผ้สู อื่ ความหมายเบอื้ งต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่อื นและเครือข่าย ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการทอ่ งเที่ยวอย่างยงั่ ยนื ในพื้นท่ี
O : Observing คอยดนู กั ทองเทีย่ ว นกั สอื่ ความหมายตอ งคอยสงั เกตพฤติกรรมของนักทองเท่ยี วและช้แี นะเม่อื จําเปน โดยการใสใ จตอ นักทองเที่ยว ดว ยสงิ่ ทน่ี ักส่ือความหมายพงึ ปฏิบัติโดย • ไมเลือกชั้นวรรณะของนักทอ งเทย่ี ว รวมทั้งสถานภาพทางสงั คมและเศรษฐกิจ • ควรเปน คนทร่ี า เรงิ อดทน และโอบออ มอารแี ตค วรดจู งั หวะทเี่ หมาะสมของการแสดงความโอบออ มอารี • พึงใสใ จตอ บุคลกิ ภาพของตัวเองในบทบาทของนักสอื่ ความหมาย • ควรเปนบุคคลทีห่ าตวั งาย อยูปรากฏตัวตลอด พรอมท่จี ะรว มกจิ กรรมอยางอดทน โดยท่ีสําคญั ทีส่ ดุ คือ หา มทาํ ตวั หย่ิงยโสโอหงั ตอนกั ทอ งเท่ียว สุภาพออ นโยน ไมว อกแวกและมัน่ ใจตนเอง E : Explain อธิบาย –เทีย่ ว – เย่ยี มชมุ ชน เรอ่ื งเดยี วกัน นักสื่อความหมายและนักทองเที่ยวทํางานรวมกันในการหาทางปฏิบัติและแสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสมใน แหลงทองเท่ียวรวมกับชุมชนโดยมีกระบวนการเขาถึงและเชื่อมโยงระหวางนักสื่อความหมาย แหลงทองเที่ยวชุมชนและ นกั ทองเท่ยี ว ดงั นี้ 1. ทาํ ความเขาใจเก่ียวกบั แหลง ทอ งเท่ียวชุมชน ทั้งมติ วิ ัฒนธรรม กิจกรรมทอ่ งเทีย่ ว เชน การสาธิต การทดลอง การปฏบิ ัติ การเลาเรือ่ งหรือพธิ ีกรรมทมี่ คี วามเช่อื มโยงกับแหลง ทอ งเทีย่ วชมุ ชน 2. การกําหนดหนาทใ่ี นการปฏบิ ัตงิ านรวมกนั นกั ทอ งเท่ยี วในฐานะผเู ยย่ี มชม และชุมชนในฐานะเจา บานในการ บอกเลา รายละเอียด หรือเปน พ้นื ทีท่ เี่ ปด โอกาสใหนกั ทอ งเท่ยี วเขามามีสว นรวมในกจิ กรรมทองเทย่ี ว ซง่ึ เปน ฐานเรยี นรขู อง นกั ทอ งเทย่ี ว 3. กระบวนการถายทอดความรูระหวางนักส่ือความหมาย ปราชญทองถิ่นและนักทองเที่ยวเช่ือมโยงขอมูลของ แหลง ทอ งเทยี่ ว การเลาเรอื่ งราว เกรด็ เล็กเกร็ดนอย ตํานานตา ง ๆ เพือ่ ขยายความเขา ใจแกนักทองเท่ียว 4. รปู แบบการส่อื ความหมาย ไดแ ก การกําหนดเน้ือหาและวิธีการสือ่ สารสําหรับแหลงทอ งเทยี่ วชุมชนโดยงา ยและ ไมซบั ซอนตอการทาํ ความเขา ใจของนักทองเท่ยี ว โดยให้ชุมชนมีสวนเกีย่ วของในการสือ่ ความหมายดว้ ย กิจกรรม ขยาย ธรรมชาติ สร้างสรรค์ ความเข้าใจ วถิ ีชีวิต ประวัติศาสตร์ ซาบซึ้ง ต�ำ นาน ตระหนกั นทิ าน ชุมชน คมู่ ือการพฒั นาผู้ส่ือความหมายเบื้องต้น 29 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลื่อนและเครอื ขา่ ย ให้มีความเข้มแขง็ ในการพฒั นาการท่องเท่ียวอยา่ งยัง่ ยนื ในพน้ื ที่
I : Interpreting ใสใจ บอกเลา เรือ่ งราว นกั สอื่ ความหมายอธบิ ายความจาํ เปน ทน่ี กั ทอ งเทยี่ วตอ งปฏบิ ตั ติ ามขอ กาํ หนดตา ง ๆ ในการเทยี่ วชมแหลง ทอ งเทยี่ ว แตต อ งเปด โอกาสใหม กี ารซกั ถามเพอื่ ทาํ ความเขา ใจโดยบอกเลา เรอื่ งราวใหน กั ทอ งเทย่ี วรบั ฟง โดยการนาํ ชมแหลง ทอ งเทย่ี ว จะแบงออกเปน 3 ขนั้ ตอน คือ กอ นการนาํ ชม • การปฐมนิเทศ เปนการใหขอมูลเพ่ือใหนักทองเที่ยวเตรียมตัวทางดานรางกาย จิตใจและอารมณ นักสื่อความหมายจําเปน ตองใหข อมูลเกีย่ วกับ ระยะเวลาในการนาํ ชม ส่ิงที่จําเปนตอ งใชระหวางการ ทอ งเทย่ี ว สภาพอากาศ ภาพรวมของโปรแกรมการทอ งเทย่ี ว และขอ มลู พนื้ ฐานเกย่ี วกบั แหลง ทอ งเทย่ี ว ในทอ งถิน่ ความเชือ่ มโยงตอสถานที่และเรอ่ื งราวที่เกย่ี วของ • เสนทางทอ งเที่ยว ท่ีกาํ หนดโดยนกั สื่อความหมายจากการวางแผนตามกระบวนการ แนวคิด คณุ คา โดยจะเปนการเตรียมองคความรูหรือขอมูลท่ีนําเสนอและชวงเวลาที่ใชและตองพรอมปรับดานเวลา หากนกั ทอ งเท่ียวมคี วามสนใจจดุ ใดจดุ หนึ่งเปน พเิ ศษ • การกระตุนใหน ักทองเทย่ี วเกิดความสงสยั ใครร ู การตง้ั คําถามเปนเครอ่ื งมือทีด่ ีจะชวยใหน กั ทอ งเทยี่ ว เกดิ ประสบการณก ารเรยี นรู เกดิ ความสงสยั เพอื่ เชอื่ มโยงไปยงั กจิ กรรมทส่ี รา งประสบการณก ารทอ งเทยี่ ว ที่นา จดจาํ • การเตรียมหัวขอการสื่อสารท่ีหลากหลาย เกี่ยวกับแหลงทองเท่ียวในมิติตางๆ ท่ีเป็น Hilight หรือจุดสนใจของนักทองเท่ียว เชน ประวัติศาสตรภาพรวมหรือประวัติศาสตรทองถ่ินที่โดดเดน สง่ิ แวดลอ ม อาหารการกนิ ของฝาก เปนตน ระหวา งการนาํ ชม • สรา งสรรคก จิ กรรม ทนี่ กั ทอ งเทีย่ วสามารถใชป ระสาทสัมผสั ทัง้ หา (รปู รส กลิ่น เสยี ง สมั ผัส) โดยการ ใชส ่ือประกอบการนาํ ชม • Highlight คือ สิง่ ทีน่ กั ทอ งเที่ยวจะไดสมั ผัสหรอื ลงมือทาํ โดยไมค าดคิดมากอ น หรอื เคยคดิ ถึงมากอน แตไ มเ คยคาดหวงั จากการไดสมั ผสั หรือลงมือทํา ทง้ั นีจ้ ะตอ งเกดิ จากความรขู องนักสอื่ ความหมายที่มี ความลกึ ซึ้งและเปนองคค วามรูเฉพาะพ้ืนถ่นิ ทคี่ นอื่นไมเคยรู กจ็ ะสรางความประหลาดใจและความ ประทับใจไดเ ปนอยางดี • ทําใหประสบการณทองเท่ียวเปนประสบการณเ ฉพาะบคุ คล • เปดโอกาสใหนักทอ งเทย่ี วไดเปนผูริเริม่ มีสว นรวมและปฏสิ มั พันธ ในกระบวนการการนําชม ไมว าจะ เปน การแสดงความคดิ เหน็ หรอื การใหความรูเพ่มิ เตมิ 30 ค่มู อื การพัฒนาผ้สู อ่ื ความหมายเบ้ืองตน้ โครงการเสรมิ สร้างและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลือ่ นและเครอื ขา่ ย ใหม้ ีความเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการท่องเที่ยวอยา่ งย่ังยืนในพ้นื ท่ี
หลงั การนําชม • ประเมินการเรียนรูของกลุมนักทองเท่ียวดวยการต้ังคําถามและการใหกําลังใจเพื่อการเรียนรูอยาง ตอ เนอื่ งในแหลง ทอ งเท่ยี ว เปดโอกาสใหนกั ทองเท่ียวสะทอ นความรูสกึ หลงั การนาํ ชม • แนะนําจุดสนใจทางการทองเที่ยวอ่ืนๆในชุมชนที่นักทองเท่ียวยังไมไดสัมผัส และใหความเขาใจ วา ชมุ ชนทอ งถน่ิ ไดรบั ผลประโยชนอ ะไรจากการทอ งเที่ยวครงั้ นนั้ • ใหขอ มลู เก่ียวกบั จุดทอ งเท่ียวท่ีเปน จดุ หมายปลายทางตอไปของนกั ทอ งเทย่ี วท่ีอาจมคี วามเชื่อมโยงกัน กบั แหลงทอ งเทย่ี วของชมุ ชนของเรา ขอ ควรปฏิบตั ิในการพดู ของนักส่อื ความหมาย • ใชน้ ้�ำ เสียงทชี่ ัดเจน แจม ใส ทา ทางเปน มิตร • มีจังหวะและลลี าการพูดอยางเหมาะสม ไมเ รว็ หรือชา เกนิ ไป และควรเปดโอกาสใหน กั ทอ งเทยี่ ว ไดพ ดู หรอื ซกั ถามบาง • ระมดั ระวงั คําพดู ระดบั โทนเสียง อักขระ ความหมาย และจงั หวะจะโคนในการพูดและควรสงั เกตวา เวลาใดที่เหมาะสมจะพดู เรอื่ งอะไร • มีวิธีการพูดใหนักทองเท่ียวเกิดความต่ืนตัว พรอมรับขอมูลและแนวทางในการปฏิบัติตนรวมกัน ในหมูคณะ • ควรใชภาษาอยางถกู ตองและลําดับความคดิ กอ นออกมาเปนคาํ พดู เพอื่ ความเขาใจงาย • คอยสงั เกตนักทอ งเทย่ี วอยเู สมอวา มีความสนใจหรือตอ งการจะฟงในสิ่งที่เรากําลงั จะพดู หรอื อธบิ าย มากนอยเพียงใด • ควรปรบั การพดู ใหตรงตอ เวลาและความสนใจของนกั ทองเที่ยวตลอดเวลา • ควรพดู ดว ยนำ้�เสียงที่เหมาะสม มกี ารเนนคําและพดู ซำ�้ ในบางจดุ ทม่ี ีความสําคัญ • ระมัดระวังการใชค ําสองแงส องงา มและคาํ หยาบคาย • มีวิธีการอธิบายเรื่องราวตางๆไดอยางนาสนใจ นาติดตาม และรูจักวิธีสรางความเพลิดเพลินใหกับ นักทองเทยี่ ว คมู่ อื การพฒั นาผสู้ ือ่ ความหมายเบ้อื งตน้ 31 โครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลื่อนและเครอื ข่าย ใหม้ คี วามเข้มแขง็ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวอยา่ งยั่งยืนในพ้นื ที่
32 คมู่ อื การพัฒนาผูส้ ่อื ความหมายเบอื้ งต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แข็งในการพัฒนาการท่องเทีย่ วอยา่ งยง่ั ยืนในพืน้ ท่ี
นบDทoีด่ักทสคี &อ่ืทวรคD่ีทวo6ําnาอม’ยtหามงาไรย คมู่ อื การพฒั นาผู้สอ่ื ความหมายเบื้องตน้ 33 โครงการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่อื นและเครือข่าย ใหม้ ีความเข้มแขง็ ในการพฒั นาการท่องเท่ียวอย่างย่ังยนื ในพ้ืนที่
ขอ ควรปฏบิ ตั ขิ องนกั สอ่ื ความหมายในการนําชมแหลงทองเทีย่ วชมุ ชน Do: ควรอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับทองถิ่นหรือสถานที่ตาง ๆ เม่ือมีการเดินทางผานและกอนถึงแหลงทองเท่ียว นักส่ือความหมายควรอธิบายความเปนไป ขอควรปฏิบัติในสถานทเพื่อเปนการใหควาวรูและปฏิบัติในการเขาชมไดอยาง ถูกตอง Do: กอนเขาไปยังแหลงทองเท่ียว นักส่ือความหมายตองนัดหมายเวลานัดพบและสถานที่นัดพบอยางชัดเจน ย�้ำ เรอ่ื งการรักษาเวลา Do: หากมีการเปลยี่ นเสน ทางเดนิ ตองรอใหน กั ทองเทีย่ วมาพรอ มกนั เสยี กอน ควรยนื รอทีจ่ ดุ เปล่ียนเสนทาง Do: อธิบายขอมูลในแตละจุดบรรยายอยางกระชับไดใจความ และเปดโอกาสใหนักทองเท่ียวไดสอบถาม ตามสมควร Do: ทบทวนคาํ ถามใหนักทองเทยี่ วคนอนื่ ไดย ินคาํ ถามดว ย กอ นจะตอบคาํ ถามนนั้ Do: เอาใจใสน กั ทอ งเทย่ี วตลอดการเดนิ ทาง ย�ำ้ กบั นกั ทอ งเทย่ี วเรอื่ งความปลอดภยั ระหวา งการทอ งเทยี่ วเปน ระยะ Do: แนะนาํ มุมหรอื บรเิ วณท่ีจะถายภาพไดอยางสวยงาม Do: เปดโอกาสใหน กั ทอ งเที่ยวไดเกบ็ บรรยากาศอยางอสิ ระไดต ามสมควร Do: ตรวจนบั จำ�นวนนกั ทองเทีย่ วทุกครงั้ กอนออกเดินทางจากแหลงทองเทีย่ ว Don’t : แสดงทาทางอดิ โรยและจืดชดื Don’t : ยืนทรงตวั ท่ีจะตอ งฝนบรรยายแหลง ทองเท่ียว Don’t : เม่อื ยและเกร็งแทนจนอยากใหบรรยายเสร็จโดยเรว็ Don’t : เงอะๆ งะๆ เกะกะ และงมุ งามเหมือนตัวตลก Don’t : ทิ้งระยะหา งจากนักทองเท่ียวเพื่อคอยดูแลความปลอดภยั ระหวา งการนาํ ชม 34 คู่มอื การพัฒนาผู้สื่อความหมายเบ้อื งตน้ โครงการเสริมสร้างและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่ือนและเครอื ขา่ ย ใหม้ คี วามเข้มแขง็ ในการพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วอย่างยง่ั ยนื ในพ้นื ที่
28 คู่มอื การพฒั นาผูส้ ื่อความหมายเบื้องตน้ 35 โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขบั เคลือ่ นและเครอื ขา่ ย ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ในการพฒั นาการท่องเทีย่ วอย่างยงั่ ยนื ในพน้ื ท่ี
26 DODOanadndDDOONN’T ภภาาษษากาากยาทยีเ่ สทรมิ ่เี สการรมิ พกดู า:รบพคุ กิ ดู ภา:พบดีคุ มลชี ัยกิ ไปภกาวพ่าคดรี่งึ มีชยั ไปกวา ครึ่ง “ฟง สบาย“หฟู ัแงสละบดาสูยบหาูยแตลาะ”ดกูสารบใาชยภ ตาษาา”กกายาร(ใขชน้ั ้ภพาน้ื ษฐานก)ายทจี่ (ะขทั้นาํ พให้ืนก ฐาารนพ)ดู อทอ่ีจกะมทา้าดใแี หล้กะมามรี พนษูุดยอสอมั กพมนั าธด บีแาลงะคมนี จาก คนนมา นรุกัษยกสลัามยพเปันน ธค์ บนหางนคา รนา จยาเพกรคานะในช่าภ ราักษากกลาายยพเลปา็นดคดนงั นหนั้ นจ้างึ รค้าวยรใเหพค รวามะใสชาํ ้ภคญัาษขอางกบาคุยคพลลกิ าภดาพดขังอนงั้นกั จสึงอื่ ควารมให้มาย ดังนคี้ วามสา้ คญั ของบุคคลกิ ภาพของนกั ส่ือความหมายดงั นี้ ทีม่ า : http://ideoperformingarts.com เชอ่ื มั้ยว่า บนใบหน้าเรามีกล้ามเนอ้ื มากมายทีส่ ามารถใช้บง่ บอกถงึ อารมณ์ไดม้ ากกวา่ 1000 อารมเณชื่อ์!!!มดั้ยงัวนาน้ั บนนกั ใสบื่อหคนวาาเมรหามมีกาลยาตม้อเงนฝ้ือึกมใชาก้เเมลาะยฝทกึ ่ีสคาวมบาครมุถใใหช้ดบีงไบมอเ่ ชกน่ถนึงอั้นาครวมาณมไหดมมาายกจกะวเาปล1ยี่ 0น00ไปออยารา่ มงคณา!ด!!ไมด่ ังนั้น นกั สถือ่ งึ คเลวยามทหีเดมียาวยตองฝกใชเ เละฝก ควบคมุ ใหดี ไมเ ชนน้นั ความหมายจะเปลี่ยนไปอยางคาดไมถ ึงเลยทเี ดียว Do: ยกมมุ ปาก ใหใ้ บหน้ามรี อยยิ้มอย่เู สมอ การท่รี ่างกายย้มิ อารมณ์ของเราจะดีขึน้ ตามไปดว้ ย Don’t : ปลอ่ ยปากอ้า กัดปาก เม้มปาก ด้วยการลมื ตวั ปากคว้า่ หรือแบะปาก จะแสดงถึง ความรังเกียจหรือไม่พอใจ 36 คู่มือการพัฒนาผู้สอ่ื ความหมายเบ้ืองต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครือข่าย ให้มคี วามเข้มแขง็ ในการพฒั นาการท่องเท่ียวอยา่ งยั่งยนื ในพื้นท่ี
Do: ยกมมุ ปาก ใหใ บหนา มีรอยยิ้มอยูเสมอ การที่รา งกายย้ิม อารมณข องเราจะดีข้นึ ตามไปดว ย Don’t : ปลอยปากอา กดั ปาก เมม ปาก ดว ยการลืมตัว ปากควํา่ หรือเบะปาก จะแสดงถึงความรงั เกียจหรือ ไมพอใจ การขมวดค้ิว จะแสดงถงึ ความตั้งใจจนถึงขน้ั เครยี ดกังวล สงสยั ไมมั่นใจหรือไมเ หน็ ดวย (หามทําหากเราไมไ ดมี ความรูส ึกอยา งนน้ั ใหร ะวงั การขมวดคิ้วโดยไมต ้งั ใจ) สายตา : ตาเปนหนา ตา งของหัวใจ ดังนั้นเปด หนา ตา งใหค นเหน็ ความจรงิ ใจจะดที ีส่ ุด Do: การวางสายตาใหม องไปท่ใี ดท่หี นึง่ (โฟกัส) ไมตอ งจองหรอื เพง อยางนัน้ จะดูนา กลวั เกินไป Don’t: หลบตา ไมว า จะเเสดงออกมาดว ยความเขนิ หรอื ความไมเ คยชนิ กไ็ มค วรทาํ จะกอ ใหเ กดิ ความรสู กึ ไมจ รงิ ใจ ขาดความนา เชอื่ ถอื หรอื ใหค วามรสู กึ เหมอื นพยายามปด บงั อะไรสกั อยา ง สง่ิ นหี้ ากตอ งการฝก ฝนเพม่ิ สามารถฝก หดั ได แตห าก เรามคี วามสขุ และเปด รบั จากภายในความจรงิ ใจนั้น สามารถเเสดงออกมาไดโ ดยอตั โนมัตอิ ยแู ลว มอื : การวางมือในขณะพดู สามารถบง บอกถงึ การเปดรับหรือปด กน้ั ได Do: ผายมอื แทนการช้ี จะสอ่ื อารมณทนี่ ุม นวลและสุภาพมากข้นึ ขยับมอื หรือวาดมอื ตามจังหวะการพดู จะทาํ ให การพูดมคี วามเปนธรรมชาตมิ ากขน้ึ ระวงั ดว ยวา ไมค วรวาดมอื เปน วงกวางเกนิ พอดี เดี๋ยวใครจะวาไดวาเรา “เลนใหญ” สรา งความลาํ บากใจเเกผูฟง Don’t : กอดอก จะแสดงถงึ ความปด กัน้ ไมเปดรบั ไมพ อใจ หรืออารมณโ มโหรวมถึง การชี้ถอื เปน กริ ยิ าทไี่ มส ภุ าพ ดว ย ลำ�ตวั : เปน สง่ิ ที่เหน็ ไดช ดั เจนทส่ี ุดทง้ั จดุ เดน เเละจุดบกพรอง Do : เปด ตวั (หนั เขา หาคูสนทนา) บง บอกถึงการเปดรบั และใหความใสใจ Don’t : หยุกหยิกไปมา หรือโยกตัวมากเกินพอดีจะทําใหขาดความนาเชื่อถือและจะทําใหผูฟงขาดสมาธิในการ ฟงไดดว ย ขา : การวางขาสามารถเเสดงการเปด รับหรอื ปดก้นั ไดเ ชน เดียวกับมือ Do: วางขาแบบเปด (เปดเขา คสู นทนา หนั หนาเขา หาคสู นทนา) หากคสู นทนาใดที่เปดรับสอดคลองกันเปนอยางดี ทงั้ คูจะเปดตวั เขา หากนั และวางขาเเบบเปดเขา หากนั โดยอัตโนมัติ การไขวขา (หันเขาคูสนทนา) การน่ังไขวหางเปนส่ิงที่ตองระวังเพราะเปนอาการที่ขาดความเรียบรอยอยูบาง เเตในสถานการณสบายๆ การน่ังไขวหางควรพิจารณานั่งใหขางท่ีเปด (ขาขางท่ีถูกทับ) อยูในฝงท่ีคูสนทนาของเรานั่ง อยูจ ะไมใหอารมณข องการปดกนั้ Don’t: ไขวข าหนั ออก(ขาทที่ บั ดา นบน เปน เหมอื นกาํ เเพงกนั้ ระหวา งคสู นทนา) จะแสดงถงึ ความปด กน้ั ไมเ ปด รบั ไมพอใจเชนเดยี วกับการกอดอก คมู่ ือการพฒั นาผสู้ ่ือความหมายเบือ้ งตน้ 37 โครงการเสรมิ สรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคล่อื นและเครอื ขา่ ย ให้มีความเข้มแข็งในการพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วอย่างยัง่ ยืนในพน้ื ที่
38 คมู่ อื การพัฒนาผูส้ ่อื ความหมายเบอื้ งต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แข็งในการพัฒนาการท่องเทีย่ วอยา่ งยง่ั ยืนในพืน้ ท่ี
คู่มือการพฒั นาผู้ส่อื ความหมายเบอ้ื งต้น 39 โครงการเสรมิ สรา้ งและพฒั นาศักยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ขา่ ย ใหม้ ีความเข้มแข็งในการพัฒนาการท่องเทย่ี วอย่างย่งั ยนื ในพ้ืนท่ี
40 คมู่ อื การพัฒนาผูส้ ่อื ความหมายเบอื้ งต้น โครงการเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของภาคี กลไกการขับเคลื่อนและเครอื ขา่ ย ให้มคี วามเขม้ แข็งในการพัฒนาการท่องเทีย่ วอยา่ งยง่ั ยืนในพืน้ ท่ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: