สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 โดย นางสาวยพุ ิน แสนสขุ โรงเรยี นเทศบาลแสนสุข
1หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ศาสนานา่ รู้ ตัวชวี้ ัด • อธบิ ายความสาคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถอื ในฐานะทเ่ี ป็นรากฐานสาคัญของวฒั นธรรมไทย • สรปุ พุทธประวัตติ งั้ แต่การบาเพ็ญเพียรจนถงึ ปรนิ ิพพาน หรอื ประวตั ิของศาสดาที่ตนนับถอื ตามทกี่ าหนด • ชน่ื ชมและบอกแบบอย่างการดาเนนิ ชีวิตและข้อคิดจากประวตั สิ าวก ชาดก เรือ่ งเล่าและศาสนกิ ชนตวั อยา่ งตามที่กาหนด • บอกความหมาย ความสาคญั ของพระไตรปฎิ ก หรือคมั ภรี ์ของศาสนาท่ีตนนับถือ • แสดงความเคารพพระรตั นตรยั และปฏบิ ตั ติ ามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรอื หลักธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามทกี่ าหนด • เห็นคณุ ค่าและสวดมนต์ แผเ่ มตตา มสี ตทิ ี่เปน็ พ้ืนฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถือตามที่กาหนด • บอกช่ือ ความสาคัญและปฏิบตั ติ นไดอ้ ย่างเหมาะสมตอ่ ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คลของศาสนาอื่น ๆ • ปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสมต่อสาวก ศาสนสถาน ศาสนวัตถุของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามทก่ี าหนดได้ถูกต้อง • เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี พิธีกรรม และวนั สาคัญทางศาสนาตามทกี่ าหนดไดถ้ กู ตอ้ ง • แสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรือแสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นนับถือ
ศาสนาสาคัญอยา่ งไร
บทบาทสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาตอ่ พทุ ธศาสนกิ ชน การดาเนนิ ชวี ิต การสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ทางวฒั นธรรม
พทุ ธประวตั ิ บาเพญ็ เพยี ร ปรนิ พิ พาน พระพุทธเจา้ ทรงบาเพญ็ เพยี ร ผจญมาร ปฐมเทศนา พระพุทธเจ้าเสดจ็ ปรนิ พิ พาน ทเ่ี รียกว่า บาเพ็ญทกุ รกิริยา ในวนั ข้ึน 15 ค่า เดือน 6 พระพุทธเจ้าทรงบาเพ็ญเพยี ร พระพุทธเจา้ ทรงแสดงปฐม รวมพระชนมายุได้ เปน็ เวลานานถงึ 6 ปี ดว้ ยวธิ นี ่ังสมาธิ ทาจติ ให้สงบ เทศนา (ธัมมจกั กปั ปวตั ตนสตู ร) 80 พรรษา ด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ เช่น ทาใหพ้ ญามาร (กิเลสต่าง ๆ) แก่ปญั จวัคคยี ์ ในวันขน้ึ 15 คา่ กล้ันลมหายใจเข้าออก พยายามหลอกลอ่ ให้พระองค์ ตรสั รู้ อดอาหาร จนซูบผอม หวนกลับไปส่คู วามสขุ ทางโลก เดอื น 8 พระพทุ ธเจ้าได้ตรัสรู้ แต่พระองค์ก็ไมห่ ว่ันไหว เปน็ พระสมั มาสัมพทุ ธเจา้ ด้วยการค้นพบทางพน้ ทกุ ข์ ได้แก่ อริยสัจ 4 ประการ ในวนั ขน้ึ 15 คา่ เดอื น 6
พระไตรปิฎก พระไตรปฎิ ก แปลว่า ตะกรา้ 3 ใบ หมายถึง คาสอนของพระพทุ ธเจ้า 3 หมวด ได้แก่ พระวินัยปฎิ ก เป็นหมวดเกยี่ วกบั พระวนิ ัย คอื คาสอนท่ีพระพุทธเจ้าทรงบญั ญตั ิเกี่ยวกบั ความประพฤติ ขอ้ ห้าม ขนบธรรมเนยี ม และการดาเนนิ กจิ ต่างๆ ของพระสงฆ์ พระสุตตนั ตปิฎก เป็นหมวดเกย่ี วกับพระธรรมเทศนา คาบรรยายต่างๆ ทพ่ี ระพุทธเจ้าเคยตรสั ไว้ รวมถึงเร่อื งราวต่างๆ ซงึ่ ชาดกกจ็ ัดอยู่ในหมวดน้ดี ้วย พระอภธิ รรมปิฎก เปน็ หมวดทีว่ า่ ด้วยพระอภิธรรม คอื หลักธรรมและคาอธบิ ายที่เปน็ หลกั วิชาล้วนๆ ไมเ่ ก่ยี วกบั บคุ คลหรอื เหตกุ ารณใ์ ดๆ
ศรัทธาในพระรตั นตรยั พระรตั นตรัย หมายถึง แกว้ อนั ประเสริฐ 3 ประการ เปน็ สิง่ เคารพบชู าสูงสุดในพระพทุ ธศาสนา ได้แก่ พระธรรม พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ (ศาสดาของพระพุทธศาสนา) (หลักคาสอนของพระพทุ ธเจ้า) (สาวกของพระพุทธเจา้ ) ระลกึ ถงึ พระคณุ ของพระพุทธเจา้ อยเู่ สมอ ระลกึ ถงึ พระคุณของพระธรรม ระลึกถึงพระคณุ ของพระสงฆแ์ ละแสดง เคารพบูชา ศึกษาพระธรรมให้เขา้ ใจแลว้ นาไปปฏบิ ัติ ความเคารพท่าน ศึกษาพทุ ธประวตั ิแล้วนาแบบอยา่ งทดี่ ี ส่งเสริมชกั ชวนผ้อู ่ืนใหห้ มน่ั ฟงั ธรรม บารงุ พระสงฆด์ ้วยปัจจยั 4 ไปปฏบิ ตั ิ และปฏบิ ตั ิธรรม ประพฤติตนเปน็ คนดีตามคาสอนของพระสงฆ์
โอวาท 3 หลกั ธรรมท่เี ปน็ หัวใจสาคัญทางพระพุทธศาสนา 3 ประการ 1 ละเว้นจากการทาความชว่ั ทง้ั ปวง เบญจศีล 2 ทาความดใี ห้ถึงพรอ้ ม เบญจธรรม ฆราวาสธรรม 4 กตญั ญกู ตเวที สติสัมปชญั ญะ อตั ถะ 3 ตอ่ ชุมชนและ สังคหวตั ถุ 4 มงคล 38 สิง่ แวดลอ้ ม 3 ทาจิตใจใหผ้ อ่ งใสบรสิ ทุ ธิ์ การทาสมาธิ การเจรญิ สติ
พทุ ธศาสนสภุ าษติ เปน็ ขอ้ คิดสอนใจของพระพุทธศาสนา พุทธศาสนสุภาษติ ทีศ่ ึกษาในชั้นนี้ ได้แก่ ททมาโน ปโิ ย โหติ (ทะ – ทะ – มา – โน – ปิ – โย – โห – ต)ิ ผ้ใู หย้ อ่ มเป็นทร่ี ัก ผู้ให้ ไมว่ า่ จะเปน็ ส่งิ ใด ย่อมแสดงออกถงึ ความเมตตากรุณาตอ่ ผูร้ บั ทาให้ผู้รบั เกดิ ความซาบซ้งึ ใจ เกดิ ความรักตอ่ ผู้ให้เสมอ โมก.โข กล.ยาณิยา สาธุ (โมก – โข – กัน – ละ – ยา – นิ – ยา – สา - ท)ุ การเปลง่ วาจางาม ยังประโยชน์ให้สาเร็จ เม่ือเราตอ้ งทางานร่วมกับผู้อนื่ เราตอ้ งรูจ้ กั วิธพี ดู ทีเ่ หมาะสม เพ่อื ให้งานที่ทาสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ศาสนบคุ คล ศาสนวัตถุ และศาสนสถานของศาสนาต่างๆ พระพุทธศาสนา ศาสนาครสิ ต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮนิ ดู ศาสนบุคคล หมายถึง บคุ คลผ้ทู าหนา้ ที่สืบทอดศาสนา เชน่ พระสงฆ์ บาทหลวง อหิ มา่ ม พราหมณ์ ศาสนวตั ถุ หมายถงึ สิง่ ของท่เี กย่ี วขอ้ งกับศาสนา เปน็ ส่ิงทีเ่ คารพบูชา เช่น ไม่มศี าสนวตั ถุ พระพทุ ธรปู ไมก้ างเขน เทวรูป ศาสนสถาน หมายถงึ สถานที่หรอื สงิ่ ก่อสรา้ งที่ใชใ้ นการประกอบพิธีกรรมหรอื กจิ กรรมทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ศาสนา เชน่ วดั โบสถ์ วิหาร ครสิ ตจักร มัสยิด เทวสถาน
แบบอยา่ งทีด่ ี พุทธสาวก ชาดก สามเณรสงั กจิ จะ อารามทสู กชาดก มหาวาณชิ ชาดก สามเณรทช่ี ว่ ยพระภิกษุ 30 รปู เป็นเรื่องเกยี่ วกบั ผดู้ แู ลสวน เป็นเรือ่ งเก่ียวกบั พอ่ ค้าเกวียน รอดพน้ จากโจร 500 คน ออกจากปา่ ได้ วานใหล้ ิงชว่ ยรดน้าต้นไม้ ทีโ่ ลภมาก คณุ ธรรมทค่ี วรนามาเป็นแบบอยา่ ง ขอ้ คดิ ทไ่ี ด้จากเร่ืองน้ี ขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากเรอื่ งน้ี ความกลา้ หาญและความเสยี สละ การฉลาดในสงิ่ ที่ไม่มีประโยชน์ โลภมากมกั ลาภหาย ของสามเณรสังกจิ จะ ไม่นาความสุขมาให้ ควรพอใจในสงิ่ ทต่ี นมีอยู่ ควรกตัญญูต่อผมู้ พี ระคุณ ความสามัคคขี องเหลา่ พระภิกษุ ควรศกึ ษาใหร้ ้จู ริงก่อนลงมือปฏิบัติ
แบบอย่างทด่ี ี ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรส)ี สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช เป็นอดีตเจา้ อาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระมหากษัตริย์พระองคเ์ ดียวแหง่ กรงุ ธนบรุ ี คุณธรรมที่ควรนามาเปน็ แบบอย่าง คณุ ธรรมทค่ี วรนามาเปน็ แบบอยา่ ง ความขยันหมน่ั เพียรในการศกึ ษาเลา่ เรียน ความกล้าหาญเดด็ เดี่ยว ความมเี มตตาต่อผอู้ ื่น ความศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา
มรรยาทชาวพุทธ รับส่งสิ่งของแด่พระภกิ ษุ อามสิ ปฏิสันถาร ไมส่ ง่ เสยี งดัง ผู้ชายใส่เส้อื ผา้ ทีส่ ะอาด ดูแลรกั ษาความสะอาด ดว้ ยอาการสารวม (การตอ้ นรับด้วยส่งิ ของ) ไมพ่ ดู คยุ ขณะพระภกิ ษุ สภุ าพ เรยี บรอ้ ย ศาสนวตั ถแุ ละศาสนสถาน ตามกาลังความสามารถ การสนทนากบั พระภกิ ษุ ธรรมปฏสิ ันถาร กาลังแสดงธรรม ผ้หู ญงิ ใส่กระโปรงยาว ควรประนมมอื ขณะ (การตอ้ นรับดว้ ย ไมล่ กุ ข้ึนเดนิ ไปมา หรอื กางเกงขายาว ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ สนทนากับท่าน การเอาใจใส่ ช่วยเหลอื ) เส้ือมีแขน สสี ุภาพ ของศาสนสถาน การปฏบิ ตั ิตน การต้อนรับผู้มาเยือน การสารวมกริ ยิ า การแต่งกาย การดแู ลรกั ษา
ศาสนพธิ ี พิธกี รรมทางศาสนา ซงึ่ ศาสนิกชนทดี่ คี วรเรียนรู้และปฏบิ ตั ติ นในขณะร่วมศาสนพธิ ใี ห้ถูกตอ้ ง การอาราธนาศลี เปน็ การขอให้พระภิกษุ ให้ศลี แก่เรา การสมาทานศีล เป็นการรบั ศลี แลว้ นาศีลท่ขี อมาไปปฏบิ ัติ
ศาสนพธิ ี การจดั โตะ๊ หมูบ่ ชู าเปน็ การจดั เครือ่ งบูชาพระรัตนตรยั ซึ่งมีรูปแบบการจดั หลายแบบขึ้นอยกู่ ับงานพิธตี า่ งๆ การจดั โตะ๊ หมบู่ ชู าแบบหมู่ 5 การจัดโตะ๊ หม่บู ูชาแบบหมู่ 7 การจดั โตะ๊ หมบู่ ูชาแบบหมู่ 9
การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ เปน็ พิธปี ระกาศตนวา่ ตนเองยอมรบั นบั ถอื พระพุทธศาสนาเป็นท่ีพง่ึ ท่ีระลึก มขี ้ันตอน ดงั น้ี ข้ันเตรียมการ ขน้ั พิธีการ แจง้ ความประสงคต์ อ่ พระภกิ ษุ ตวั แทนจดุ ธปู เทียน แลว้ กลา่ วคาบชู าพระรตั นตรัยพรอ้ มกนั เตรียมสถานท่ใี ห้เรียบรอ้ ย ผ้แู สดงตนกลา่ วคานมสั การพระพทุ ธเจ้า และคาขอแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ ผูเ้ ขา้ แสดงตนเตรยี มดอกไม้ ธูป เทยี น คนละ 1 ชุด พระภิกษุทั้งหมดประนมมอื รบั สาธุ พรอ้ มกนั ประธานสงฆ์ใหโ้ อวาท แต่งกายใหเ้ รียบร้อย ผแู้ สดงตนกลา่ วคาอาราธนาศีล รบั ศีล จากนัน้ รับบัตรพุทธมามกะจากประธานสงฆ์ ตวั แทนผูแ้ สดงตนถวายเคร่ืองไทยธรรม พระภิกษกุ ล่าวอนุโมทนา พทุ ธมามกะกรวดน้า รับพร เปน็ อันเสร็จพธิ ี
การพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนา การสวดมนต์ไหว้พระและแผ่เมตตา การฝกึ ให้มีสมาธิในการฟงั อา่ น คดิ ถาม เขยี น การฝึกยนื เดนิ น่งั นอน อย่างมสี ติ การฝกึ สมาธเิ บอ้ื งตน้ ด้วยการนับลมหายใจ
ศาสนาเปน็ รากฐานสาคัญของวัฒนธรรมไทย มีหลกั ธรรม แบบอยา่ งการทาดี ตลอดจนพิธีกรรมต่างๆ ใหเ้ ราไดน้ าไปปฏิบตั ิเพือ่ ดาเนินชีวิตอยา่ งมคี วามสขุ
นกั เรยี นบอกได้ไหมว่า ทาไมเราจงึ ต้องแสดงตนเป็น พทุ ธมามกะ
การฝกึ สติและสมาธิ ทาได้อย่างไรบา้ ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: