รายงาน วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี (รหสั วชิ า 20001-2001) เร่อื ง ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ียวกับอินเทอร์เนต็ จัดทำโดย นางสาวสปุ รยี า ปราณี รหสั ประจำตวั นกั เรียน 65201004020 ระดบั ชนั้ ปวช.2/1 สาขาชา่ งไฟฟา้ กำลัง เสนอ อาจารยน์ ิจยา อนิ ประสิทธิ์ รายงานนเี้ ปน็ สว่ นหน่งึ ของการศึกษาวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี (รหัสวชิ า 2001-2001) หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคท่าหลวง จังหวัดลพบรุ ี
วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (รหัสวิชา 20001-2001) เรื่อง ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั อนิ เทอร์เน็ต จดั ทำโดย นางสาวสุปรยี า ปราณี รหสั ประจำตัวนักเรียน 65201004020 ระดบั ชนั้ ปวช.2/1 สาขาชา่ งไฟฟา้ กำลัง เสนอ อาจารย์นจิ ยา อนิ ประสิทธิ์ รายงานนีเ้ ปน็ ส่วนหนึ่งของการศึกษาวชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี (รหสั วชิ า 2001-2001) หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคท่าหลวง จงั หวดั ลพบรุ ี
ก คำนำ รายงานเล่มนีเ้ ปน็ สว่ นหนึ่งของวชิ า (20001-2001) การวดั ประเมนิ การเรียนรแู้ ละคณุ ภาพ ของผู้เรยี นโดยมีจดุ มงุ่ หมายหลักวชิ า คือ เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี การใช้ระบบปฏบิ ัตรการ โปรแกรมสำเรจ็ รปู และอนิ เทอรเ์ นต็ เพอ่ื งานอาชีพ สามารถใชร้ ะบบปฏิบัตรการคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเรจ็ รปู และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตามลกั ษณะงานอาชีพ มีคุณะรรม จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละระบบ สารสนเทศในงานอาชพี ผจู้ ัดทำขอขอบคณุ อ.นิจยา อนิ ประสิทธิ์ อาจารย์ประจำวิชาคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ ผู้ให้ความร้แู ละแนวทางการศกึ ษา ผู้จัดทำหวังเปน็ อย่างยง่ิ ว่า รายงานเล่มนีจ้ ะเปน็ ประโยชน์แก่ผ้ศู ึกษาและเป็นการตอ่ ยอดให้ผู้ทีส่ นใจสามารถนำไปศกึ ษาตอ่ ได้ในอนาคต ผจู้ ัดทำ นางสาวสุปรียา ปราณี
ข สารบญั หน้า เรอ่ื ง 1 อนิ เทอรเ์ น็ตเบื้องตน้ 3 เครอื ขา่ ยใยแมงมมุ 4 เครอื ข่ายการส่อื สารทางทหาร 5 อินเทอรเ์ นต็ ในประเทศไทย 6 องค์ประกอบและการทาํ งานของอินเทอร์เน็ต 7 องค์ประกอบของอินเทอรเ์ นต็ 8 อปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ยและเทคโนโลยบี นอนิ เทอร์เนต็ 10 การเชอื่ มตอ่ อินเทอร์เน็ต 11 ประโยชน์ของเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และอินเทอรเ์ นต็ 15 เวบ็ เบราวเ์ ซอร์
1 อนิ เทอรเ์ นต็ เบือ้ งต้น ในยคุ ปัจจบุ ันเทคโนโลยีสารสนเทศ (information technology : IT) มีบทบาทกบั ชวี ติ ประจาํ วนั เปน็ อยา่ งมากทัง้ ทางตรง และ ทางออ้ ม เทคโนโลยสี ารสนเทศ หมายถึง การประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยีเพ่อื ให้ สามารถนาํ ไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ท้ังการติดต่อสอื่ สาร แลกเปลีย่ นข้อมูล การ จดั เก็บ หรือ ประมวลผล ข้อมูล เทคโนโลยีทีใ่ นปัจจบุ นั ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (computer technology) และ เทคโนโลยที ีเ่ กย่ี วข้องกับการส่ือสารและการโทรคมนาคม (communication technology) คอมพวิ เตอร์ (computer) เป็นเครอื่ งคาํ นวณอิเล็กทรอนิกส์ท่ี สามารถประมวลผลข้อมูลในรูปแบบ ของไฟลด์ จิ ติ อล สามารถประยุกตใ์ ช้งานเพ่ือใหเ้ กิดประโยชน์ได้ หลากหลาย ตามพจนานุกรมฉบบั บัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ได้นยิ ามไวว้ ่า “คอมพวิ เตอร์คอื เคร่ือง คาํ นวณอิเลก็ ทรอนิกสแ์ บบอตั โนมัติ ทาํ หนา้ ทีเ่ สมอื นสมองกล ใช้สําหรบั แก้ปญั หาตา่ ง ๆ ทัง้ ทีง่ ่ายและ ซับซอ้ น โดยวิธีทางคณิตศาสตร์” องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอรจ์ ะประกอบไปดว้ ย ฮารด์ แวร์ (hardware) หมายถึง สว่ นทส่ี ามารถ จบั ต้องได้และเหน็ เปน็ รปู ธรรม เชน่ คียบ์ อรด์ เมาสห์ นา้ จอ ลาํ โพง เป็นต้น ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง คาํ สั่งหรือโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ซึ่งรวมไปถึง ระบบปฏบิ ตั กิ าร (operating system : OS) และ โปรแกรมประยุกต์ (application software) นอกจากน้ันองคป์ ระกอบของคอมพิวเตอรย์ ังรวมไปถงึ บุคคล หรือบุคลากรทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั คอมพวิ เตอร์ และ ขอ้ มลู สารสนเทศ (data information) ทป่ี อ้ นใหก้ ับอปุ กรณ์ คอมพิวเตอร์เพ่อื ใชส้ าํ หรับการ ประมวลผล การเชอื่ มตอ่ คอมพิวเตอรม์ ากกว่าหนงึ่ เครื่องข้ึนไป เพอื่ ใหส้ ามารถติดตอ่ สอื่ สารหรอื แลกเปลย่ี น ขอ้ มลู ระหวา่ งกันได้เรียกว่า เครอื ข่าย (network) ซ่งึ วตั ถุประสงค์ในการเชอื่ มต่อมี หลากหลายหลาย เช่น เพ่อื การแลกเปลยี่ นขอ้ มลู รวมไปถงึ การแบง่ ปนั หรอื ใช้ทรัพยากรร่วมกนั เปน็ ต้น ทําใหเ้ กดิ ประโยชน์ สงู สุดในการใช้งานอุปกรณค์ อมพวิ เตอรเ์ ช่น การแบง่ ปันขอ้ มลู พนกั งานใน บรษิ ทั ขอ้ มลู การลงทะเบียน ของนกั ศกึ ษา แบ่งปนั พ้ืนท่ีในฮารด์ ดิสกห์ รือ การแชรป์ รนิ ท์เตอร์เป็นต้น เครือข่ายสามารถเช่ือมตอ่ และ กําหนดคา่ การเช่อื มต่อได้ผ่านอุปกรณเ์ ครอื ขา่ ย ซึ่งปัจจบุ นั มีให้เลือก มากมาย เช่น โมเด็ม (modem) อุปกรณ์จดั เส้นทาง (router) ฮับ (hub) หรอื สวิตซ์ (switches) เปน็ ต้น ใยแก้วนําแสง (fiber optic) การเช่ือมตอ่ ผา่ นดาวเทียว (satellite) เปน็ ต้น การเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์มากกว่าหนงึ่ เคร่ืองขน้ึ ไปนีเ้ รียกว่า เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ (computer network) และ เมื่อเครอื ข่ายหลาย ๆ เครอื ขา่ ยเช่อื มต่อกันเปน็ โครงขา่ ยขนาดใหญ่เพอ่ื ให้สามารถ ตดิ ตอ่ ส่อื สาร แลกเปลี่ยนข้อมลู ระหวา่ งเครือข่ายไดใ้ นระดบั สากล เรียกวา่ “อนิ เทอร์เน็ต”
2 ความหมายของอนิ เทอร์เนต็ อนิ เทอร์เน็ต (internet) หมายถึง เครือข่ายในระดบั สากล เป็นช่องทางสําหรบั การเชอ่ื มต่อ คอมพวิ เตอรท์ ัว่ โลก การเชอื่ มต่อเครอื ขา่ ยหลาย ๆ เครอื ขา่ ยเกิดเป็น โครงขา่ ยขนาดใหญท่ เ่ี รยี กว่า เครือขา่ ยใยแมงมมุ (world wide web : www) หรือเรยี กสนั้ ๆ วา่ “เวบ็ ” ประโยชนใ์ นการเชื่อมต่อใช้ งานอินเทอร์เน็ตมมี ากมายหลากหลาย ขน้ึ อย่กู บั วตั ถุประสงคข์ อง ผเู้ ช่ือมต่อใชง้ าน (user) เชน่ แสวงหา ความรดู้ รู ายละเอยี ดสนิ ค้า เชค็ อีเมล ทําธุรกรรมบนเครือขา่ ย อินเทอร์เน็ต ชําระค่าบรกิ าร หรือ เพอ่ื ความ บนั เทิงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ดหู นงั ฟงั เพลง เลน่ เกมส์ ดาวนโ์ หลดไฟล์เอกสารมลั ตมิ เี ดยี เปน็ ต้น
3 เครอื ข่ายใยแมงมุม ในยคุ ที่อินเทอรเ์ น็ตกําลงั เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นท่นี ยิ ม และ มีผู้เชอ่ื มต่อใชง้ านจาํ นวนมาก อนิ เทอร์เน็ตจึงก่อใหเ้ กิดโอกาส และ บรกิ ารใหม่ๆ มากมาย เช่น การทําธุรกรรมผา่ นอินเทอร์เน็ต พบปะ สนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มลู เป็นตน้ นอกจากนีอ้ ินเทอร์เน็ตยงั เป็นสื่อทน่ี าํ เสนอความบันเทิงท่ี รองรบั สอ่ื มลั ติมเี ดยี (multimedia) ใรรูปแบบตา่ ง ๆ จํานวนมหาศาล ทาํ ให้ผใู้ ช้งานเขา้ ถงึ สือ่ เหลา่ นน้ั ไดง้ ่าย สะดวก รวดเรว็ และ สามารถเข้าถงึ ไดท้ กุ ทที่ กุ เวลา อนิ เทอร์เน็ตยงั เป็นพ้นื ท่ีเพอ่ื ให้ผใู้ ช้งาน สามารถ ประชาสมั พันธ์นาํ เสนอสนิ คา้ และ บรกิ ารในรูปแบบท่ีนา่ สนใจ เขา้ ถงึ กลมุ่ ลกู คา้ ได้อย่างท่ัวถึง แมน่ ยาํ มีการกลา่ ววา่ “ธุรกิจใดไมส่ นใจโลกอนิ เทอรเ์ นต็ ธุรกจิ น้นั กาํ ลงปฏิเสธอนาคตของตัวเอง” ความเป็นมาของอินเทอรเ์ น็ต หากจะกลา่ วถึงประวัตคิ วามเปน็ มาของเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ แลว้ คงเรมิ่ ตน้ จากแนวความคิดเรอ่ื ง เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ท่ีต้องการใหผ้ ู้ใชง้ านคอมพิวเตอร์ตา่ ง ระบบปฏิบตั ิการสามารถทาํ การเชอ่ื มตอ่ ติดต่อสอ่ื สาร หรอื แลกเปลีย่ นขอ้ มลู ระหวา่ งกนั ได้จากอดีต จนถงึ ปจั จุบนั มีการพัฒนาทงั้ เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยีการสือ่ สารและการโทรคมนาคม แนวคิดแรกเกดิ ขึน้ ในชว่ งปีค.ศ.1950 และ เริม่ ปฏิบัติจรงิ ในช่วง ค.ศ.1960 ในยุคสงคราม นิวเคลยี ร์ หรอื สงครามเยน็ ทเ่ี กดิ ข้ึนระหวา่ งสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต รวมไปถึงการแข่งขัน ทางด้าน เทคโนโลยอี วกาศ ทาํ ให้เกดิ การต่ืนตัวที่จะพัฒนาทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีรัฐบาล สหรฐั อเมรกิ า โดยกระทรวงกลาโหมได้ก่อต้งั หน่วยงานวิจัยชั้นสูงชอ่ื ว่า “อารพ์ าเนต็ ” (Advance Research Projects Agency Network : ARPANET) มีการสนบั สนนุ ทนุ สําหรบั โครงการวิจยั และ รเิ รมิ่ โครงการเก่ยี วกบั ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอรท์ างการทหาร ด้วยความเชอื่ มัน่ ว่า การกระจาย เครอื ข่ายโดย ไมม่ ศี นู ย์กลาง สามารถหลกี เลี่ยงความเสียหายจากการสู้รบ และ หากถกู โจมตีด้วย ระเบิดนิวเคลียร์ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ยงั สามารถเชอื่ มตอ่ กนั และ รบั ส่งข้อมูลระหว่างกนั ได้โดยไม่ ถกู ตัดขาด
4 เครือข่ายการสื่อสารทางทหาร การเช่อื มโยงเครือขา่ ยของอาร์พาเนต็ ครง้ั แรก เป็นการเชือ่ มโยงกันระหว่างมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนียกบั สถาบนั วจิ ัยสแตนฟอร์ด ในชว่ งปคี .ศ.1969 และ ไดเ้ ตบิ โตข้นึ อยา่ งรวดเร็ว ปัจจุบันได้ มี การพฒั นาอย่างต่อเนื่องจนกลายเปน็ จุดเด่นของระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์โดยใช้รปู แบบ โครงสร้างการ ติดต่อส่ือสารแบบ “ทีซีพ/ี ไอพี” (Transmission Control Protocol/Internet Protocol : TCP/IP) ซ่งึ เป็นมาตรฐาน ขอ้ ตกลง กฎ หรอื ระเบียบ ท่ที ําใหค้ อมพิวเตอร์สามารถ เชอ่ื มตอ่ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง กนั ไดน้ อกจากน้ีทีซพี /ี ไอพยี ังเป็นมาตรฐานท่วี า่ ด้วยการกําหนด วิธีการติดต่อส่ือสารระหว่างคอมพิวเตอร์ อินเทอรเ์ น็ตเปิดให้บรกิ ารในเชิงพาณิชย์มากขึน้ ทาํ ให้มีการขยายเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ต ออกไปท่ัว โลก กอ่ ให้เกดิ รูปแบบการใหบ้ รกิ ารต่าง ๆ มากมาย ปัจจุบนั มีผ้ใู ชง้ าน (user) คอมพิวเตอร์ ผู้ร้องขอบริการ (client) และ ผู้ใหบ้ ริการ (server) ทาํ การเช่อื มต่อระบบเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ หลาย พันลา้ นเคร่ือง ดงั ภาพ ที่ 1.5 ทแี่ สดงถึงสถติ ิการเข้าใช้งานอินเทอร์เนต็ ของประชากรท่ัวโลกในชว่ งปี ค.ศ.1993 - 2013 ในชว่ งปคี .ศ.1995 มผี ู้เชอ่ื มตอ่ ใช้งานเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ตน้อยกว่า 1% ของ ประชากรทั่วโลก ปคี .ศ.1999 ถึง ค.ศ.2013 มผี ใู้ ช้งานอนิ เทอร์เน็ตเพ่มิ ขึน้ อย่างตอ่ เนือ่ ง จนในปคี .ศ. 2005 มีผ้ใู ช้งาน อินเทอร์เนต็ ทัว่ โลกมากถึงหนง่ึ พันล้านคน และ เพิ่มขน้ึ เป็นสองพันล้านคนในปีค.ศ. 2010 ในปจั จบุ ัน ประชากรทั่วโลกประมาณ 40% สามารถเช่ือมต่อกบั เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็
5 อนิ เทอร์เน็ตในประเทศไทย ประเทศไทยเร่ิมเชื่อมโยงระบบเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ ต้งั แต่ กลางปพี .ศ.2530 โดยมหาวิทยาลัย สงขลานครินทรไ์ ดท้ าํ การส่งอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ มล์กับประเทศ ออสเตรเลีย ทาํ ใหม้ รี ะบบอเิ ล็กทรอนิกสเ์ มลท์ ีท่ าํ การเชอ่ื มตอ่ กับเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตเปน็ คร้ังแรกใน ประเทศไทย (สารานกุ รมไทยสาํ หรบั เยาวชน, 2554) ในวนั ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2535 จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั ได้เชา่ สายวงจรเช่ือมตอ่ กบั เครอื ขา่ ย อินเทอร์เน็ตเปน็ ครงั้ แรก ชว่ งระยะเวลาเดยี วกันนี้ กระทรวงวทิ ยาศาสตรฯ์ โดยศนู ยเ์ ทคโนโลยี อิเลก็ ทรอนกิ ส์และคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติได้ดําเนิน โครงการเชอ่ื มโยงเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ระหวา่ ง มหาวิทยาลยั ภายในประเทศ และไดพ้ ัฒนากา้ วหน้า ขนึ้ เปน็ ลาํ ดับจนทําให้มีกลุ่มสถาบนั การศกึ ษาสามารถ เช่อื มตอ่ เครือข่ายอนิ เทอร์เน็ตเป็นกลุ่มแรก ไดแ้ ก่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ สถาบนั เทคโนโลยีแหง่ เอเชีย มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทรม์ หาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และ ศูนย์เทคโนโลยี อเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละ คอมพิวเตอร์แหงชาติ ในปพี .ศ.2535 เครอื ข่ายระหวา่ งมหาวิทยาลัยเชอ่ื มโยงกันโดยมีศูนยก์ ลาง คือ ศูนยเ์ ทคโนโลยี อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละคอมพวิ เตอรแ์ ห่งชาติและ โดยใชช้ ่ือเครอื ขา่ ยนวี้ ่า “เครอื ข่ายไทยสาร” (THAI Social / Scientific, Academic and Research Network : THAISARN) ทาํ หนา้ ทใ่ี นการเช่ือมโยง ภายในเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ภายในประเทศ ทาํ ให้ทุกเครือขา่ ยยอ่ ยสามารถเชอ่ื มโยงเป็น อนิ เทอร์เนต็ ในระดบั สากลได้ สญั ญาณอินเทอรเ์ นต็ ในประเทศไทยจะถกู แบง่ ออกเปน็ สองประเภท ใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่ สญั ญาณ อินเทอรเ์ นต็ เชิงพาณชิ ย์ หรือ ผใู้ ห้บริการสญั ญาณอนิ เทอร์เนต็ (Internet Service Provider : ISP) สาํ หรับบรษิ ัททเ่ี ปดิ ให้บรกิ ารเช่าสายสัญญาณเพอื่ ใหผ้ ูใ้ ช้งานเชือ่ มต่อ เครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ โดยท่วั ไป เช่น True TOT 3BB เป็นตน้ และ สญั ญาณอนิ เทอรเ์ นต็ เพื่อการศกึ ษา และการวิจัย เพอ่ื ใช้ประโยชนใ์ นด้านการ จดั การศกึ ษาและการวิจัยของประเทศ ระบบเปน็ เครือข่าย แบบกระจายและทําการเชอ่ื มต่อโครงข่ายทั่ว ประเทศโดยใช้ใยแกว้ นาํ แสง (fiber optic) ซ่งึ หน่วยงาน ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การศกึ ษาสามารถขอใช้บรกิ ารได้ฟรี ทั่วประเทศ โดยหนว่ ยงานทีผ่ ู้รับผดิ ชอบ คอื สํานักงานบรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศกึ ษา หรอื Unlined
6 องคป์ ระกอบและการทาํ งานของอนิ เทอรเ์ นต็ รูปแบบการทาํ งานของอนิ เทอรเ์ นต็ ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลกั ๆ ดงั น้ี 1. ผรู้ ้องขอบรกิ าร (Client) คือ เครือ่ งคอมพิวเตอรข์ องผูใ้ ชง้ าน หรอื เครื่องผรู้ ้องขอบรกิ ารท่ี มี อยบู่ นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ซงึ่ ไมจ่ าํ เป็นตอ้ งเป็นคอมพิวเตอรเ์ สมอไป อาจจะอยใู่ นรปู แบบของแท็บ เลต็ (tablet) สมารท์ โฟน (smartphone) หรอื โน้ตบุก๊ (notebook) ทท่ี ําการเช่ือมตอ่ ระบบเครอื ข่าย และ ร้องขอขอ้ มลู หรือ บรกิ ารตา่ ง ๆ บนเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต ผ่านมาตรฐาน ข้อตกลง ข้อกาํ หนด หรือกฏ ระเบยี บท่ีใชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างเคร่อื งผ้รู ้องขอบรกิ ารกับเครอื่ งผู้ให้บรกิ าร เชน่ เวบ็ ไซต์ (website) อเี มล (email) การถา่ ยโอนไฟล์ (file transfer) ฐานขอ้ มูล (database) โปรแกรมประยุกต์ (application) มัลตมิ ีเดีย (multimedia) หรอื ไฟล์เอกสาร (document) เป็นต้น 2. ผูใ้ ห้บรกิ าร (Server) เปน็ เคร่ืองคอมพิวเตอร์แมข่ า่ ยท่เี ปิดใหบ้ รกิ ารตา่ ง ๆ บนเครอื ขา่ ย อินเทอรเ์ น็ตเพ่ือรองรบั การร้องขอจากผูร้ อ้ งขอบริการ รปู แบบการให้บรกิ ารมีอยู่หลากหลาย เชน่ web server, mail server, file server, database server, multimedia server ห รือ application server เป็นตน้ 3. เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network) เปน็ รูปแบบเครือขา่ ยท่เี ชื่อมโยงระหว่างผู้ ร้อง ขอบริการและผูใ้ หบ้ รกิ าร รปู แบบของเครือขา่ ย หรือ การเชือ่ มต่อมีอยู่หลากหลาย มที ้งั ทเ่ี ป็นการ เช่ือมต่อ เครอื ข่ายแบบใชส้ ายและการเชอ่ื มตอ่ เครือขา่ ยแบบไร้สาย เช่น สญั ญาณไวไฟ เครอื ข่าย โทรศัพทเ์ คลื่อนท่ี หรือ การเชอื่ มต่อเครือขา่ ยภายในโดยใช้สายแลน เปน็ ต้น การทาํ งานของอนิ เทอร์เนต็ เริ่มตน้ จากผใู้ ชง้ านทําการเช่อื มต่ออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์กับ เครอื ขา่ ย อินเทอรเ์ นต็ เครือ่ งท่ีรอ้ งขอบรกิ ารอาจจะอยใู่ นรปู แบบบของโนต้ บ๊กุ สมาร์ทโฟน หรือ แทบ็ เล็ต ผใู้ ช้งาน สามารถรอ้ งขอบรกิ ารตา่ ง ๆ จากผใู้ หบ้ รกิ ารท่มี อี ยบู่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่าน โปรแกรมประยุกตเ์ ช่น โปรแกรมประยุกตท์ ่ีอยใู่ นกลุ่มของเว็บเบราวเ์ ซอร์ (web browser) เช่น Internet Explorer, Mozilla Firefox, Google Chrome เปน็ ตน้ ใชส้ ําหรบั เข้าถงึ บริการในรูปแบบ ของเว็บไซตผ์ ้ใู ชง้ านจะตอ้ งร้องขอ (request) ขอ้ มูล หรอื บรกิ ารไปยังเครื่องผใู้ หบ้ รกิ ารผ่านเครือข่าย อินเทอรเ์ นต็ โดยใช้ที่อยู่ (address) ของ เคร่ืองผ้ใู หบ้ ริการในการอ้างองิ ตําแหนง่ เช่น การระบุ หมายเลขประจําเครื่อง (IP address) หรอื ชื่อของ เวบ็ ไซต์ (domain name) เป็นต้น
7 องคป์ ระกอบของอนิ เทอร์เนต็ เม่อื มีการรอ้ งขอบรกิ ารผใู้ ห้บริการจะทําการค้นหาไฟลเ์ อกสารทีผ่ ู้ร้องขอบรกิ ารตอ้ งการ หาก คน้ หา วา่ มีไฟลเ์ อกสารนั้นอยู่ ผู้ใหบ้ ริการจะตอบสนองบรกิ ารโดยการสง่ เอกสารท่ผี ใู้ ชง้ านตอ้ งการน้นั กลบั ไปยงั ผู้รอ้ งขอบรกิ าร (respond) ผา่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต หลงั จากทผ่ี ู้ร้องขอบรกิ ารไดร้ บั ไฟล์ เอกสารทีเ่ คร่ือง ผ้ใู หบ้ รกิ ารส่งกลับมา เวบ็ เบราวเ์ ซอร์จะทาํ การแปลรหัส หรือ โคด๊ คาํ สง่ั ใหอ้ ยใู่ น รปู แบบที่สามารถสือ่ สาร ผ้ใู ช้งานไดเ้ ช่น หน้าเว็บเพจ รูปภาพ ข้อความ เพลง วดี ีโอหรือหนัง เปน็ ต้น ความเรว็ ในการบั ส่งขอ้ มูลจากเคร่ืองผรู้ ้องขอบริการกบั เครือ่ งผู้ใหบ้ รกิ าร ขน้ึ อยกู่ บั ความเรว็ ในการ เชื่อมต่ออินเทอร์เนต็ และ ขนาดของไฟล์เอกสารท่ีเครื่องผูใ้ ห้บรกิ ารสง่ กลับมา หนว่ ยทใ่ี ช้ในการวดั ความเร็วในการรับส่งขอ้ มลู บนเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ คือ “บิตตอ่ วินาที” (bits per second : bps) เชน่ อินเทอร์เน็ต 10Mbps หมายถึง ใน 1 วนิ าทีสามารถรบั สง่ ข้อมลู ได้จาํ นวน 10,000,000 บติ ซ่ึง ตวั เลข หรือ ตัวอกั ษรหนึง่ ตัวจะเท่ากับ 1 ไบต์ (byte : B) โดยประกอบไปดว้ ยจํานวนบิตทัง้ หมด 8 บติ เป็นตน้
8 อปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ยและเทคโนโลยีบนอนิ เทอรเ์ นต็ อุปกรณ์ที่ใช้สําหรบั เชือ่ มตอ่ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีให้เลอื กหลากหลาย ข้ึนอยูก่ ับขนาดของ เครอื ขา่ ย ความเรว็ ท่ีต้องการ และ รปู แบบการบริการภายในเครอื ข่าย เช่น ตอ้ งการเครอื ขา่ ยทร่ี องรับ จาํ นวนลกู ขา่ ยภายในเครอื ข่ายมากนอ้ ยเพียงใด ความเร็วเท่าใด ต้องการระบบภายในอะไรบ้างเพื่อให้ รองรับการทาํ งานของบคุ ลากรในองค์กร หรอื หนว่ ยงานนัน้ ๆ ในหวั ข้อนี้ขอยกตวั อยา่ งอุปกรณ์ เครือขา่ ยที่ จําเป็นภายในบ้าน หรือ สาํ นักงานขนาดเล็ก ใหน้ ักศึกษาไดศ้ กึ ษาการทํางานของอุปกรณ์ เครือข่ายดงั นี้ 1. โมเดม็ (modulate and demodulate : modem) ทําหนา้ ท่ีในการแปลงสัญญาณ อนาลอ็ ก (analog signals) จากสายสญั ญาณโทรศพั ทใ์ หก้ ลายเปน็ สัญญาณดจิ ติ อล (digital signals) เพ่ือให้สามารถใช้งานในระบบประมวลผลขอ้ มูลของคอมพิวเตอร์ได้ และ แปลงสญั ญาณดจิ ิตอลจาก เครื่องคอมพิวเตอรใ์ หเ้ ปน็ สญั ญาณอนาลอ็ กเพื่อสง่ ไปบน คสู่ ายโทรศัพทเ์ พอื่ ร้องขอบรกิ ารจากผใู้ ห้บริการ ผา่ นเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ 2. อุปกรณ์จดั เสน้ ทาง (router) เป็นอุปกรณ์ที่ทาํ หนา้ ท่ีเชื่อมต่อเครือขา่ ย หรือ เลือก ช่องทางในการส่งผา่ น ขอ้ มูลที่ดีท่ีสุดในการเชื่อมต่อเครือข่าย ทาํ ใหส้ ามารถเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์ไดม้ ากกวา่ หน่ึงแครือขา่ ยในเวลาเดียวกนั ใน ปัจจุบนั อปุ กรณ์จดั เสน้ ทาง อาจถูกติดต้งั โมเดม็ อปุ กรณ์รวม สายและ อุปกรณ์ปล่อยสญั ญาณไร้สายมาดว้ ยในตวั เพือ่ ใหใ้ ช้ งานไดง้ ่ายและสะดวกในการติดต้งั อปุ กรณ์ 3. การ์ดแลน (LAN card) หรอื อินเทอร์เน็ตการด์ เป็นอปุ กรณท์ ท่ี ําหน้าทใี่ นการรบั สง่ ขอ้ มลู จากเครอ่ื ง คอมพวิ เตอรจ์ ากเครือ่ งหน่งึ ไปยงั อีกเครอื่ งหน่งึ หรือ เชื่อม ต่อไปยังอปุ กรณ์ รวมสาย ผา่ นสายสัญญาณทใ่ี ชส้ ําหรบั เชอื่ มตอ่ เครือข่าย ซ่ึงอาจติดต้ังมากบั เมนบอร์ด ของเครือ่ ง คอมพิวเตอร์เรียกวา่ การ์ดแลนแบบออนบอร์ด หรือ ติดตง้ั ภายนอก ซึ่ง ความเร็วในการเช่อื มตอ่ มหี ลาหลาย เช่น 1000 Mbps ทเี่ รยี กกันว่า กกิ ะบิตแลน (Gigabit LAN) 4. การด์ ไรส้ าย (wireless card) เป็นอปุ กรณท์ ี่ทําหนา้ ที่ในการรับส่งขอ้ มูลจากเครอ่ื ง คอมพวิ เตอร์เครอื่ งหนง่ึ ไปยังอีกเครือ่ งหนงึ่ ในระบบเครอื ข่ายโดยใช้สัญญาณวิทยุซ่งึ เปน็ การเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยแบบไร้สาย ทําใหต้ ดิ ตง้ั ใช้งานไดง้ ่าย สะดวกต่อการเคลอื่ นยา้ ย และ ใชง้ าน แต่มีขอ้ จํากดั เรือ่ ง ระยะทางในการเชื่อมตอ่ ซึ่งจะต้องไมอ่ ยไู่ กลจากอุปกรณ์ ปลอ่ ยสญั ญาณไร้สายมากเกินไป เหมาะสาํ หรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู หรอื ใชง้ านไม่หนักมาก เกินไป เช่น เว็บไซตเ์ ช็คอีเมล โซเชียลเน็ตเวิรค์ เป็นตน้ โดยทว่ั ไป การด์ ไร้สายจะตดิ ตง้ั มา กบั อุปกรณเ์ คล่อื นทอี่ ยแู่ ล้ว 5. สายยทู ีพี ( Unshielded Twisted Pair : UTP) เป็นสายสัญญาณทท่ี ําหน้าท่ีเชอ่ื มต่อ คอมพิวเตอรก์ ับอปุ กรณ์ เชอื่ มต่อเครือข่ายระยใกลห้ รอื ที่เรยี กว่า “สายแลน” ซงึ่ การ
9 เช่อื มต่อกบั อุปกรณ์เครือขา่ ย สายสญั ญาณจะตอ้ งประกอบไป ดว้ ยสายยูทีพแี ละ หัวทใี่ ช้ ในการเช่ือมตอ่ กับอปุ กรณ์ เครอื ข่าย ที่เรียกวา่ “หวั RJ45” 6. ฮับ (hub) หรือ สวิตซ์ (switches) ทาํ หน้าที่เปน็ ตวั กลางในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ภายใน เครอื ขา่ ย หรอื เปน็ อปุ กรณ์รวมสาย และ กระจายสญั ญาณขอ้ มลู ไปยงั เครอ่ื ง คอมพวิ เตอรท์ ั้งหมดภายใน เครือขา่ ย เพอื่ ให้คอมพิวเตอร์สามารถติดตอ่ สอื่ สาร แลกเปลย่ี นข้อมลู ระหว่างกนั ไดส้ วิตซ์สามารถรบั ส่ง ข้อมลู ได้หลายเครอ่ื งพรอ้ มกัน แตฮ่ บั จะส่งข้อมูลได้ทลี ะเครอื่ ง อปุ กรณท์ ้งั สองจะมีหลายชอ่ งสญั ญาณ หรือ พอรท์ ผู้ใช้งาน จะต้องเลอื กใช้ตามจํานวนลกู ขา่ ยท่มี ีอยูใ่ นเครือข่ายของผู้ใช้งานเอง 7. อปุ กรณ์ปล่อยสญั ญาณไรส้ าย (wireless access point : warp) หรือ เรียกสนั้ ๆ วา่ “AP” เปน็ อปุ กรณท์ ีท่ าํ หน้าทป่ี ลอ่ ยสัญญาณทีใ่ ช้สาํ หรบั เชอื่ มตอ่ เครอื ข่ายโดยใช้ คล่นื วทิ ยกุ ารเชอื่ มตอ่ จะตอ้ ง ใช้อุปกรณเ์ ชอ่ื มต่อแบบไร้สาย เพอื่ ใหส้ ามารถเชื่อมต่อ กบั เครือขา่ ย ซ่ึงอาจถูกติดตั้งมากับอปุ กรณ์จัดเสน้ ทาง หรือ สามารถติดต้ังภายนอก
10 การเชอ่ื มต่ออนิ เทอรเ์ น็ต การตดิ ตอ่ สอ่ื สารแลกเปลย่ี นข้อมลู จะต้องใช้มาตรฐานทว่ี ่าดว้ ยการกําหนดระเบียบวธิ ีการใน การ ติดต่อส่ือสารระหว่างคอมพวิ เตอรซ์ งึ่ เปน็ ระเบยี บวิธกี ารส่อื สารทเี่ ปน็ มาตรฐานในระดับ สากล เรียกวา่ โพรโทคอล (protocol) โดยโพรโทคอลทีเ่ ป็นมาตรฐานหลกั สําหรบั การ เชื่อมตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ คือ ทีซพี ี/ไอพี (Transmission Control Protocol/Internet Protocol : TCP/IP) ซ่งึ อุปกรณค์ อมพวิ เตอรท์ ี่เช่อื มต่อ เครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ จะตอ้ งมี หมายเลขประจําเครอ่ื ง หรอื หมายเลขไอพีแอดเดรส สาํ หรบั อ้างอิงในการ ติดต่อส่อื สาร ระหวา่ งเครื่องคอมพิวเตอรแ์ ละ อุปกรณ์อื่น ๆ ภายในเครอื ข่าย ภายในเครือขา่ ยหมายเลขไอพแี อดเดรสของทกุ ๆ อปุ กรณท์ ี่เชื่อมตอ่ กบั ระบบเครือข่าย คอมพิวเตอรจ์ ะต้องเป็นหมายเลขที่ไมซ่ าํ้ กนั ภายในเครือขา่ ย หรือ หากเป็นผ้ใู หบ้ ริการใน ระดับสากล หมายเลขประจาํ เครอ่ื งทใี่ ชส้ าํ หรบั การอ้างอิงตําแหน่งจะต้องไม่ซํ้ากนั ทว่ั โลก ใน การเช่ือมต่อกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในปจั จบุ ัน ผู้ใช้งานจะต้องทําการเช่าสายสัญญาณ จาก ผใู้ ห้บริการ (Internet Service Provider : ISP) และ จะต้องตดิ ตง้ั สายสญั ญาณโทรศพั ท์ จากชมุ สาย โทรศัพทท์ ีใ่ กลก้ ับท่ีพักอาศัย กลา่ วง่าย ๆ คอื ISP ทําหน้าทเ่ี ช่ือมตอ่ ระหวา่ ง ผ้ใู ช้งานกบั เครือข่ายในระดบั สากล ทาํ ใหผ้ ้ใู ช้งานสามารถเขา้ ถึงบรกิ ารต่าง ๆ บนเครือข่าย อนิ เทอร์เน็ตได้ เช่น นักศกึ ษาสามารถดูผลการเรยี น ข้อมลู การลงทะเบยี น ตารางเรยี น โดย การเช่ือมต่อไปยงั เครื่องผูใ้ ห้บรกิ ารของมหาวิทยาลยั ผ่านเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ หรือ นกั ศึกษาสามารถติดตอ่ กับอาจารย์ ผู้สอน พดู คยุ สนทนากบั เพื่อนท้ังที่อยใู่ นหรือต่างประเทศ ผ่านผู้ให้บริการด้านการติดต่อสื่อสาร เป็นตน้
11 ประโยชนข์ องเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และอนิ เทอรเ์ น็ต เทคโนโลยีในปจั จุบันทาํ ให้สามารถเขา้ ถึงข้อมลู หรือ บรกิ ารต่าง ๆ ทวั่ โลกได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว หากรวมเทคโนโลยคี อมพวิ เตอรก์ บั เทคโนโลยกี ารส่อื สารการโทรคมนาคมในปจั จุบัน และ นาํ ไปใชง้ าน ในทางสรา้ งสรรคอ์ ินเทอรเ์ นต็ จะเป็นชอ่ งทางและเป็นประโยชน์อย่าง มหาศาลในหลาย ๆ ดา้ น เชน่ 1. ด้านการตดิ ต่อสือ่ สาร อนิ เทอร์เน็ตทาํ ให้ผู้ใชง้ านทัว่ โลกสามารถเช่อื มต่อกันได้ อย่างอสิ ระ ปราศจากข้อจํากดั เดมิ ๆ บนเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตมีรปู แบบการให้บรกิ ารดา้ น การติดตอ่ สือ่ สารมากมาย เชน่ อีเมล การรบั สง่ ข้อความ การสนทนาออนไลน์เครอื ข่ายสังคม ออนไลน์หรือ โซเชยี ลมีเดีย เป็นตน้ เทคโนโลยกี ารสื่อสารและการโทรคมนาคมในปัจจบุ นั ทําให้อนิ เทอร์เน็ตมีความเรว็ ในการ ตดิ ต่อสือ่ สารแลกเปลีย่ นข้อมลู ระหวา่ งเครือ่ งคอมพิวเตอร์เพิ่มขน้ี ทําใหร้ องรบั การ รับส่งขอ้ มลู ท่ี หลากหลาย และ มปี รมิ าณมาก สามารถแลกเปลยี่ นข้อมลู สื่อมัลติมเี ดียไดง้ า่ ย สะดวก รวดเรว็ รองรับการ สนทนาแบบเวลาจริง (real time) สามารถสนทนาแบบเหน็ หนา้ กันในขณะนน้ั รองรับการประชมุ ทางไกล (teleconference) เปน็ ต้น ซ่งึ ลดขอ้ จํากัดทางด้าน เวลา หรอื ระยะทางได้ การติดต่อสื่อสารผา่ นอินเทอร์เน็ตในปัจจุบนั ไมไ่ ดข้ ้ึนอยู่กบั เครื่อง คอมพวิ เตอรเ์ สมอไป ผู้ใชง้ านอาจ เขา้ ถึงการให้บรกิ ารตา่ ง ๆ บนเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ โดยใช้ อุปกรณเ์ คลือ่ นท่ี เช่น แท็บเล็ต สมารท์ โฟน เปน็ ต้น ทาํ ให้ง่ายตอ่ การใช้งาน มีขนาดเล็กพกพา ไดง้ ่าย และ ยังสามารถใชง้ านได้ทกุ ท่ีทกุ เวลา 2. ด้านการศกึ ษา อินเทอร์เนต็ สามารถประยกุ ตใ์ ช้ทางดา้ นการศกึ ษา เพื่ออาํ นวย ความสะดวกใน หลาย ๆ ดา้ น เชน่ การบริหารการศึกษา การลงทะเบียนออนไลน์ตารางเรียน ผ่านเครือขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ ระบบรายงานผลการเรียน เปน็ ต้น อนิ เทอรเ์ น็ตรองรบั สื่อ มัลตมิ ีเดียทห่ี ลากหลายรูปแบบทําใหส้ ามารถ ประยกุ ตใ์ ชง้ านทางดา้ นการศกึ ษาไดม้ าก เชน่ บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนบนเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต ทาํ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถเขา้ เรยี นเนื้อหา ทบทวน ฝึกปฏบิ ัตไิ ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ มีการถา่ ยทอดการเรียนการ สอนผ่านเครือข่าย อนิ เทอร์เนต็ รองรบั การศกึ ษาทางไกล รวมไปถึงกจิ กรรมการเข้ากลุม่ สนทนาเน้อื หาการ เรียนการสอน ทําให้เกดิ การเรยี นร้อู ยา่ งสรา้ งสรรค์กบั ผู้เรียน ลดความเหลื่อมลา้ํ ในสงั สงั คม เป็ นตน้ นอกจากนัน้ อินเทอร์เนต็ ยงั เป็นแหล่งศึกษาคน้ ควา้ ที่รวมรวบองค์ความรูส้ าํ หรบั ผ้เู รียน หรอื ผู้ใชง้ านทัว่ ไป ซ่ึงรองรบั สื่อหลากหลายประเภท หลากหลายภาษา ส่งเสรมิ ให้เกดิ ทกั ษะในการคดิ วิเคราะห์ และ เกิดการเรยี นรจู้ ากแหลง่ สบื ค้นขอ้ มูลทม่ี ปี ระสิทธิภาพ เครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ ยงั เปน็ ช่องทางให้ผู้ใชง้ านสามารถเขา้ ถึงผเู้ ช่ียวชาญ เพ่ือขอ คาํ แนะนํา คําปรึกษาจากผทู้ มี่ คี วามรู้ในด้านที่ผู้ใช้งานสนใจไดอ้ ย่างอสิ ระ ทําใหเ้ กดิ กจิ กรรม การเรียนร้รู ่วมกันโดยไม่ จําเป็นตอ้ งอยแู่ ค่ในห้องเรียน ทาํ ให้การเรียนรเู้ ปดิ กว้างมากยิ่งขน้ึ
12 ในปจั จบุ ันมีเครือข่ายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การศึกษา เพอ่ื ถา่ ยทอดความรูเ้ ป็นแหล่งสืบคน้ สารานกุ รม หรอื ขอ้ มลู สาํ หรับอ้างองิ ทางดา้ นการศกึ ษา มากมาย เชน่ เครอื ขา่ ยไทยสาร เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรก์ าญจนาภเิ ษก เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์เพ่ือโรงเรียน ไทย เว็บบอร์ด หรือ แฟนเพจกลมุ่ ทเ่ี กย่ี วข้องกับการแลกเปลี่ยนความรู้บนโซเชียลเน็ตเวิรค์ เป็นตน้ 3. ด้านเศรษฐกิจ อนิ เทอร์เนต็ ก่อใหเ้ กิดรูปแบบการประกอบธรุ กิจทแี่ ตกต่างไปจาก เดมิ เจา้ ของ ธรุ กิจในปัจจุบนั ไมจ่ าํ เปน็ ต้องมีหน้าร้าน หรือ สต็อกสนิ คา้ ขนาดใหญ่แคม่ ีสินค้า หรอื บริการ เจ้าของธุรกจิ สามารถประชาสัมพันธ์สินคา้ และ บริการของตัวเองไดผ้ ่านระบบ พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) หรือ ผ่านเครือขา่ ยสังคมออนไลนท์ กี่ ําลงั เปน็ ทีน่ ยิ ม ในปัจจบุ นั ผใู้ ชง้ านสามารถเข้าถึงสินคา้ และบรกิ ารได้อย่างสะดวก เชน่ สามารถเปรยี บเทียบ คุณสมบัติของ สนิ คา้ เปรยี บเทยี บราคา ส่งั สินคา้ ชาํ ระค่าบรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ตที่สะดวก และ ปลอดภยั มากขนึ้ ทาํ ให้ เจา้ ของธรุ กิจสามารถเขา้ ถงึ กล่มุ ผู้บริโภคไดโ้ ดยตรง และ ผบู้ ริโภคสามารถเข้าถงึ สนิ ค้าท่ีตัวเองสนใจซง่ึ ไม่ไดจ้ าํ กดั แค่ภายในประเทศเทา่ น้นั ระบบ พาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์กอ่ ให้เกดิ ผลดีตอ่ ระบบเศรษฐกิจ ภายในประเทศ ทาํ ใหเ้ กดิ เมด็ เงนิ หมนุ เวยี นภายในประเทศจํานวนมหาศาล 4. ด้านสงั คม อินเทอรเ์ นต็ ก่อใหเ้ กดิ รปู แบบการใช้ชีวติ ในสงั คมแบบใหม่ ทาํ ให้ลด ความเหล่อื มล้าํ ลดช่องวา่ งระหว่างคนในสงั คม และ ทกุ คนสามารถเขา้ ถงึ อินเทอรเ์ นต็ ได้โดย ไม่มกี ารแบง่ แยกเชอื้ ชาติ ศาสนา ฐานะ สามารถชว่ ยผ้ดู อ้ ยโอกาสทางสงั คมให้สามารถเขา้ ถึง ข้อมูลสารสนเทศไดอ้ ยา่ งทัดเทยี ม ปัจจบุ นั ได้มีการพฒั นาเว็บไซตบ์ นเครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ี เรียกว่า “Web Accessibility” เพื่อให้รองรับการ เขา้ ใชง้ านของผ้ทู ่มี ีความบกพร่องทางด้าน ร่างกาย ทเ่ี ปน็ อุปสรรคตอ่ การเขา้ ถงึ ข้อมลู สนิ คา้ หรอื บรกิ าร เช่น ผบู้ กพรอ่ งทางด้านสายตา ทางหูผูส้ งู อายุ เปน็ ตน้ เปน็ เวบ็ ไซตท์ ที่ กุ คนสามารถเข้าถงึ ได้อยา่ งเทา่ เทยี ม โดยพัฒนาอ้างองิ ตามมาตรฐานขององค์กร w3c (World Wide Web Consortium) ซง่ึ ได้มกี ารวางหลกั ใน การออกแบบเมอื่ ปีพ.ศ.2548 โดยใช้ชอ่ื วา่ WCAG 2.0 (Web Content Accessibility Guidelines 2.0) เพือ่ ลดอปุ สรรคทางด้านความบกพรอ่ งของรา่ งกายในการเข้าถงึ ขอ้ มลู สารสนเทศบนเครอื ข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต 5. ดา้ นการแพทย์และสาธารณสุข ปัจจบุ นั มีการประยุกต์ใชเ้ ครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ทางด้าน การแพทย์อย่างแพรห่ ลาย เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วย ฐานขอ้ มูลท่ีอยขู่ องผปู้ ว่ ย ระบบการวนิ จิ ฉัยโรคจาก อาการปว่ ยเบื้องต้น การใหร้ ายละเอียดเกย่ี วกับยาและวธิ ีการรักษา ประวตั กิ ารรักษา เป็นต้น นอกจากน้นั ยงั เปน็ ช่องทางในการศึกษา และ วจิ ยั ทางการแพทย์ โดยปจั จบุ นั มรี ะบบการแพทย์ทางไกล (telemedicine) เพื่อใชใ้ นการสนบั สนนุ และ แลกเปลย่ี นข้อมลู การรกั ษาของผูป้ ่วย โดยการประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรร์ ว่ มกับ เทคโนโลยที างด้านการส่อื สารและการโทรคมนาคมในปจั จบุ นั ท่ที ันสมัย บุคลากรทาง
13 การแพทยส์ ามารถแลกเปลี่ยนประสบการณเ์ พ่ือประสิทธิภาพทางด้านการรกั ษาคนไขท้ ่ีดีมาก ย่งิ ข้นึ และ ยังลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อกี ด้วย มีการประยุกตใ์ ช้งานเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตในการรายงานสถานการณ์ภยั พิบัติแจง้ เตอื นพืน้ ท่ีเสย่ี ง ตอ่ โรคระบาด เชน่ การระบพุ ื้นท่ีเส่ียงตอ่ การปกคลุมของหมอกควนั จากไฟ ปา่ พ้ืนท่ีเส่ยี งตอ่ โรคระบาด พกิ ัดและแผนทบ่ี ้านของผ้ปู ว่ ย เปน็ ตน้ ซ่งึ ขอ้ มูลเหลา่ นีส้ ามารถ สอ่ื สารผา่ นเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ และ สามารถแสดงผลผา่ นคอมพิวเตอร์หรือ อุปกรณ์ เคลอ่ื นที่ได้เป็นอย่างดี 6. ด้านการเงินและการธนาคาร ในการซอ้ื ขายแลกเปล่ยี นสนิ ค้าและบริการบน เครอื ข่าย อินเทอรเ์ น็ต ขัน้ ตอนสาํ คัญ คอื การชําระคา่ บรกิ าร ในปจั จบุ นั ธนาคารได้พฒั นา ระบบเพ่อื ใหร้ องรับการ ชาํ ระสนิ คา้ และ การเข้าถงึ ขอ้ มลู ทางด้านการเงินของลกู ค้าผ่าน เครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต ทง้ั ผา่ นเวบ็ ไซต์ ธนาคารออนไลน์ (e-banking) หรอื ผ่านแอพพลเิ คชัน่ ทําใหง้ ่ายและสะดวกในการทําธรุ กรรม เชน่ การ ตรวจสอบยอดเงนิ ในบัญชีออนไลน์การโอน เงิน การบรกิ ารสนิ เชอื่ ข้อมูลอตั ราแลกเปลย่ี น รวมไปถึงการ ชําระค่าบรกิ ารตา่ ง ๆ ผ่านระบบ เครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต เปน็ ตน้ 7. ดา้ นการเกษตรและอตุ สาหกรรม ปัจจบุ ันมีการประยุกตใ์ ชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ เพอื่ ประโยชนด์ ้าน การเกษตรมากมาย เช่น การจดั ทําฐานข้อมูลเพ่อื การเกษตรและการพยากรณ์ ผลผลติ ดา้ นการเกษตร การ พฒนาระบบราคากลางส ั ินค้าออนไลน์ระบบตรวจสอบความชื้น ของอากาศ รายงานสภาพอากาศ การแจ้ง เตือนการให้น้าํ แกพ่ ชื สวนผ่านเครอื ข่าย อินเทอร์เน็ต การแจ้งภยั พิบตั พิ น้ื ทีเ่ สยี งภัยแล้ง พ้นื ทีเ่ สียงภยั โรค และศตั รพู ืช เป็นต้น ทางด้านอตุ สาหกรรมมรี ะบบตรวจสอบโรงงาน สารเคมีโรงผลติ รวมถงึ ภยั ทเ่ี ป็น อนั ตรายต่อ สุขภาพ และ สามารถรายงานผลในทันทกี ารควบคมุ การจา่ ยไฟฟ้า การเปดิ ปดิ ไฟฟ้าหรอื อุปกรณผ์ า่ นระบบเครอื ขา่ ยอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการควบคุมข้นั ตอนในการผลิต และ การ ตดิ ต่อส่ือสาร เพื่อการซือ้ ขายแลกเปลี่ยนสนิ คา้ และบรกิ ารทางด้านการอุตสาหกรรม เป็นตน้ 8. ด้านการทหารและความมนั่ คง มีการใชเ้ ครอื ข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการทหารอย่าง แพร่หลายทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ข้อมลู ทางการทหารทเ่ี ผยแพรผ่ ่านเครือขา่ ย อินเทอรเ์ นต็ สามารถปกปิด หรือ เลอื กชัน้ ระดบั ความลับของเอกสาร สามารถเขา้ รหสั ข้อมูล ก่อนส่ง อนิ เทอรเ์ น็ตนอกจากใช้ในการ ตดิ ตอ่ สื่อสารแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ทางการทหารแลว้ ยัง สามารถใชใ้ นการตดิ ตามบุคคล การสํารวจพน้ื ท่ที าง ภูมศิ าสตร์เพ่อื ความได้เปรยี บทางยุทธวธิ ี ซงึ่ สามารถประยกุ ตใ์ ชง้ านได้หลากหลาย เชน่ ข้อมูลพ้ืนท่ีเพ่อื สนบั สนนุ การโจมตีภาคพื้นดนิ การคํานวณระยะวิถกี ารยิง การแจง้ พิกัดของสถานทีท่ ีน่ า่ สงสัย คน้ หารถ หาย แจ้งขอ้ มูลผู้ ต้องสงสยั ติดตามตําแหน่งของผู้ร้าย ติดตามดคู วามเคล่อื นไหวของผชู้ มุ นุมผ่านเครือข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต เป็นต้น
14 9. ด้านการคมนาคม อนิ เทอรเ์ น็ตสามารถประยกุ ตใ์ ชท้ างด้านการคมนาคมได้ หลากหลาย เชน่ การแจง้ ตารางเวลาการเดินทางของรถไฟ จองตัว๋ เคร่ืองบิน ซงึ่ ปัจจุบนั มีการ เชอ่ื มโยงข้อมูลการจองให้ สามารถเชอ่ื มโยงกันไดท้ ว่ั โลก ทําให้ลดปญั หาความซ้ําซอ้ นของ การจอง ผ้ใู ช้งานสามารถเลอื กแถวท่นี ง่ั ได้ ตามต้องการ และ สามารถชาํ ระคา่ บริการผา่ น ระบบธนาคารออนไลนก์ ารเช็คข้อมูลขา่ วสารกอ่ นการ เดนิ ทางทาํ ใหไ้ มเ่ สียเวลาและสะดวก ต่อการเดนิ ทาง อนิ เทอร์เน็ตยงั สามารถรายงานสภาพการจราจรบน ทอ้ งถนนแบบเวลาจรงิ สามารถดูภาพจากกลอ้ งวงจรปดิ แบบเวลาจรงิ ในขณะนั้น ในปัจจบุ ันมรี ะบบนาํ ทางซ่งึ สามารถรายงานสภาพการจราจร คาํ นวณหาเส้นทางทใ่ี กลท้ ส่ี ดุ ในการ เดนิ ทางไปยงั ตําแหนง่ ทต่ี ้องการ พิกัดตาํ แหน่งของผูใ้ ชง้ าน รูปแบบการแสดงผลยังสามารถแสดงผลเป็น แบบแผนที่ หรอื ภาพถา่ ยทางอากาศ เชน่ ระบบแผนท่จี าก Google Maps (http://maps.google.co.th) ทีม่ ที งั้ การแสดงผลขอ้ มูลแผนทบ่ี นเว็บไซต์และ ผา่ น แอพพลเิ คช่ันบนอุปกรณ์เคล่อื นที่ 10. ดา้ นความบันเทิง เครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ รองรบั การนาํ เสนอสอ่ื มัลติมีเดีย หลากหลายรปู แบบ เช่น การดหู นังออนไลน์ฟังเพลงออนไลน์ดรู ายการทวี ยี ้อนหลงั ดาวน์ โหลดส่ือมัลตมิ เี ดยี เล่นเกมส์ ออนไลน์หรอื การสนทนากบั เพ่ือนบนโซเชียลเน็ตเวิรค์ เป็นตน้ เนือ่ งจากอนิ เทอร์เน็ตในปจั จุบันรองรับสือ่ มลั ตมิ เี ดียท่ีมปี ริมาณมาก และ ผู้ใชง้ านสามารถ เขา้ ถงึ ส่ือความบนั เทงิ เหลา่ นีไ้ ด้ตลอด 24 ช่ัวโมง ทกุ ท่ีทุก เวลา และ สามารถเลือกความ บันเทงิ จากแหล่งตา่ ง ๆ ได้ทว่ั โลกทง้ั ในประเทศและตางประเทศ ่ จึงทาํ ให้การ ใชง้ าน อินเทอร์เน็ตเพือ่ ความบนั เทิงเป็นที่นิยม และ มผี ้เู ข้าใชง้ านเพื่อร้องขอส่ือความบนั เทิงเหลา่ นี้ เปน็ จาํ นวนมาก นอกจากน้ันแล้วยังสามารถแบ่งปันข้อมูล สอื่ ความบนั เทิง หรือ สอ่ื มลั ตมิ เี ดยี ผ่านเครือข่าย อินเทอร์เนต็ ให้กบั กลุ่มผใู้ ช้งานคนอน่ื ได้ 11. ดา้ นสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เทคโนโลยกี ารวเิ คราะหข์ อ้ มูลสภาพ พ้ืนทภ่ี ูมิศาสตร์ บนพื้นโลก เรยี กวา่ ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ (Geographic Information System : GIS) เป็นระบบท่ี นาํ เข้ามาช่วยในการรวบรวม จดั เกบ็ ประมวลผล และ แสดงผล ขอ้ มลู แผนท่ีทางภมู ิศาสตรเ์ ชน่ แผนท่ี ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถา่ ยดาวเทยี ม ข้อมลู เชงิ พื้นท่ี การใชง้ านประโยชน์ท่ีดนิ การจราจร แผนทภ่ี าษกี ารพยากรณอ์ ากาศ การควบคุมสิ่งแวดลอ้ ม รวมไปถงึ การบรหิ ารจดั การทรัพยากรธรรมชาติ ขอ้ มลู เหล่านถี้ กู นาํ เสนอผา่ นเครือขา่ ย อินเทอร์เนต็ ทาํ ให้ง่ายต่อการเข้าถึงและสะดวกตอ่ การบริหาร จดั การ เชน่ การเตือนภยั พบิ ัติ โดยใชร้ ะบบจไี อเอส พกิ ดั ตาํ แหน่งบ้านของผูป้ ว่ ย เปน็ ตน้ ทําใหไ้ ด้รบั ข้อมูลที่ ถกู ต้องแมน่ ยาํ และรวดเรว็
15 เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) คอื กลุม่ ของโปรแกรมท่ใี ช้เรยี กดเู ว็บผ่านเครือข่าย อนิ เทอร์เนต็ เปรยี บเสมือนประตูทใ่ี หผ้ ู้ใชง้ านสามารถออกไปส่เู ว็บไซตภ์ ายนอกได้เวบ็ บราวซเ์ ซอรท์ ํา หนา้ ที่ในการแปล รหสั คําสง่ั ท่ไี ด้จากเครื่องแม่ขา่ ยให้อยู่ในรปู แบบหน้าเว็บเพจ ซง่ึ ประกอบไปด้วย ขอ้ ความ รปู ภาพ หรอื ส่อื มัลตมิ ีเดยี อ่นื ๆ เวบ็ เบราว์เซอร์ตัวแรกของโลกชอื่ “เวลิ ดไ์ วด์เวบ็ ” จาก ศูนย์วจิ ัยเซริ น์ (CERN) และในปัจจุบัน มีบรษิ ทั ผู้ผลิตได้พฒั นาเว็บเบราวเ์ ซอร์ออกมาใหเ้ ลอื กใช้ หลากหลาย เชน่ Google Chrome, Mozilla Firefox, Mirosoft Internet Explorer, Opera หรอื Safari เป็นตน้ ซง่ึ มาตรฐาน (protocol) ทใี่ ช้ในการ ตดิ ต่อแลกเปลีย่ นขอ้ มลู เวบ็ กับเครื่องผูใ้ หบ้ ริการ คอื เอชทที ีพี (hypertext transfer protocol : HTTP) ซึง่ รูปแบบการเชือ่ มตอ่ มักจะข้นึ ต้นดว้ ยคาํ ว่า http:// เสมอ นอกจากนี้ยังมีรปู แบบการเชือ่ มตอ่ ท่ีต้องการ ความปลอดภยั ของขอ้ มลู ซึ่งจะต้องมกี าร เข้ารหัสข้อมลู กอ่ นสง่ ผา่ นหนา้ จอเว็บเบราวเ์ ซอรค์ ือ https:// หรือ ftp:// เป็นมาตรฐานการเชอื่ มต่อ ข้อมูลสาํ หรบั การโอนย้ายไฟล์เอกสารจากเคร่อื งผู้รอ้ งขอบริการกบั เครอื่ งผู้ให้บริการ เป็นต้น
16 บรรณนานุกรม สบื ค้นจากเว็บ http://www.academy.rbru.ac.th/uploadfiles/books/1-2016-11-24- 11-51-58.pdf สืบค้นเมื่อวันที่ 19 มิถนุ ายน 2566
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: