วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010หน่วยการเรียนท่ี 1 ความนา จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายความหมายและหนา้ ที่ของจ๊ิกได้ 2. อธิบายความหมายและหนา้ ท่ีของฟ๊ิ กเจอร์ได้ 3. บอกความแตกต่างของจ๊ิกและฟ๊ิ กเจอร์ได้ 4. บอกขอ้ ดีของการใชจ้ ๊ิกและฟิ๊ กเจอร์ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 4 ขอ้ 5. บอกชนิดของจ๊ิกตามลกั ษณะการใชง้ านไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 4 ชนิด 6. บอกชนิดของฟิ๊ กเจอร์ตามลกั ษณะการใชง้ านไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 4 ชนิด 1
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010ความนา ในอุตสาหกรรมการผลิต อุปกรณ์ในการผลิตถือวา่ มีความสาคญั มากอุปกรณ์ในการผลิตจะช่วยใหผ้ ลิตภณั ฑม์ ีคุณภาพมากข้ึน ผลิตชิ้นงานไดร้ วดเร็ว รวมท้งั ประหยดั เวลาการทางานอปุ กรณ์ในการผลติ ประกอบดว้ ย - อุปกรณ์ที่ใชผ้ ลิต (Production equipment) เช่น เคร่ืองจกั รกล และเคร่ืองมือกล เป็นตน้ - อุปกรณ์ช่วยในการผลิต (Production device) เช่น อุปกรณ์กาหนดตาแหน่ง จบั ยดึ ชิ้นงานและนา ทางเครื่องมือตดั อุปกรณ์จบั ยดึ ชิ้นงาน เคร่ืองมือวดั และตรวจสอบ เป็ นตน้ แผนภูมิแสดงอุปกรณ์ในการผลติ อปุ กรณ์ในการผลติอปุ กรณ์ทใี่ ช้ผลติ อปุ กรณ์ช่วยในการผลติ เครื่องจกั รกล อุปกรณ์กาหนดตาแหน่งจบั เครื่องมือกล ชิ้นงานและนาทางเครื่องมือตดั อุปกรณ์จบั ยดึ ชิ้นงาน เครื่องมือวดั และตรวจสอบ อุปกรณ์ขนถ่าย ฯลฯ 2
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010 จิ๊กและฟ๊ิ กเจอร์ เป็นอุปกรณ์ช่วยในการผลิตซ่ึงถูกนามาใชเ้ พอ่ื ผลิตชิ้นงานที่มีจานวนมากชิ้น โดยชิ้นงานท่ีผลิตทุกชิ้นงานจะมีความเที่ยงตรงเหมือนกนั จิ๊กและฟ๊ิ กเจอร์ ถูกออกแบบและสร้างข้ึนมาเพื่อทาการจบั ยดึ รองรับและกาหนดตาแหน่งชิ้นงานทุก ๆ ชิ้น เพ่อื ใหแ้ น่ใจวา่ ในการเจาะรู หรือการตกแตง่ ดว้ ยวธิ ีอื่น ๆ จะไดต้ าแหน่งเดิมหรือมีขนาดและ รูปทรงตามความตอ้ งการทุกประการ จิ๊กและฟ๊ิ กเจอร์ มีอุปกรณ์ประกอบที่แตกตา่ งกนั ลกั ษณะของการทางานมีความแตกต่างกนั จะมีอยู่บา้ งบางส่วนที่คลา้ ยคลึงกนั โดยทว่ั ไปความแตกต่างระหวา่ งจิ๊กและฟ๊ิ กเจอร์ กข็ ้ึนอยูก่ บั แนวทางของเครื่องมือที่จะนาไปใชก้ บั ชิ้นงาน ดงั น้นั หากจะแยกความแตกต่างของจ๊ิกและฟิ๊ กเจอร์ ก็ควรรู้ถึงความหมายเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจลกั ษณะรูปร่างทว่ั ๆ ไปก่อนจ๊ิก (Jig) หมายถึง อุปกรณ์กาหนดตาแหน่ง จบั ยดึ ชิ้นงานและนาทางเคร่ืองมือตดั มีหนา้ ที่กาหนดตาแหน่งของชิ้นงาน (Positioning) รองรับชิ้นงาน (Supporting) จบั ยดึ ชิ้นงาน (Clamping) และนาทางเครื่องมือตดั(Guiding the tool) * โดยทว่ั ไปจ๊ิก (Jig) มกั ใชใ้ นงานเจาะรูและงานควา้ นรู ดงั ในรูปท่ี 1-1 รูปท่ี 1-1 ตวั อยา่ งจ๊ิก (Jig)* คานิยามจาก DIN 6300 (สถาบนั มาตรฐานเยอรมนั นี) 3
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010คุณสมบัตทิ ดี่ ีของจิ๊ก 1. สร้างง่ายไม่ซบั ซอ้ น 2. ใชง้ านง่าย ทางานไดร้ วดเร็ว 3. ใส่และถอดชิ้นงานไดส้ ะดวก 4. มีการกาหนดตาแหน่งของชิ้นงานที่เที่ยงตรง 5. มีตวั นาเคร่ืองมือตดั ท่ีถูกตอ้ งเท่ียงตรง 6. จบั ยดึ ชิ้นงานไดม้ น่ั คง 7. ผลิตชิ้นงานไดถ้ ูกตอ้ งมีขนาดและรูปร่างตามตอ้ งการ 8. มีความทนทาน 9. ราคาประหยดั 10. มีการป้องกนั การเกิดอุบตั ิเหตุจากการใชง้ าน 11. มีขนาดและรูปร่างเหมาะสมกบั ชิ้นงานที่ผลิตฟิ๊ กเจอร์ (Fixture) หมายถึง อุปกรณ์จบั ยดึ ชิ้นงานมีหนา้ ที่จบั ยดึ ชิ้นงานให้อยใู่ นตาแหน่งที่ถูกตอ้ งตามความตอ้ งการและอาจมีแทง่ ต้งั ระยะสาหรับต้งั ระยะของเครื่องมือตดั ประกอบอยดู่ ว้ ย ดงั ในรูป 1-2รูปที่ 1-2 ตวั อยา่ งฟ๊ิ กเจอร์ (Fixture) 4
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010 คุณสมบัตทิ ด่ี ีของฟิ๊ กเจอร์ 1. มีประสิทธิภาพในการจบั งานมนั่ คง 2. ไมย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ น ง่ายในการใชง้ าน 3. มีความเที่ยงตรงทุกคร้ังเมื่อมีการตดั เฉือนชิ้นงานออกมาในแต่ละชิ้น 4. รับแรงในการตดั เฉือนได้ 5. มีความแขง็ แรงทนทาน 6. ชิ้นส่วนบางชิ้นสามารถถอดเปลี่ยนไดเ้ มื่อเกิดการสึกหรอ 7. ชิ้นส่วนบางชิ้นถา้ สึกหรอเร็วตอ้ งหาทางทาใหม้ ีอายกุ ารใชง้ านไดน้ านข้ึน เช่น ชุบแขง็ 8. ตอ้ งมีขนาดท่ีเหมาะสมกบั ชิ้นงานไมเ่ ลก็ หรือโตเกินไป 9. มีตวั กาหนดความลึกของเคร่ืองมือตดัสรุปความแตกต่างของจ๊ิกและฟิ๊ กเจอร์ ความแตกตา่ งของจ๊ิกและฟ๊ิ กเจอร์ คือ จิ๊ก จะมีอุปกรณ์นาทางเครื่องมือตดั (Guide cutting tool) ช่วยประคองและนาการตดั เฉือนต้งั แต่เร่ิมตน้ การทางานจนกระทง่ั สาเร็จ ส่วนฟิ๊ กเจอร์ จะมีแทง่ ต้งั ระยะเครื่องมือตดั(Cutter set block) เพ่ือทาใหเ้ กิดความสะดวกและรวดเร็วในการต้งั ระยะเครื่องมือตดั ในตอนเร่ิมตน้ ก่อนการทาการตดั เฉือนข้อดขี องการใช้จิ๊กและฟิ๊ กเจอร์ จิ๊กและฟ๊ิ กเจอร์มีลกั ษณะการใชง้ านเป็นอุปกรณ์ช่วยในการผลิตจึงขอกล่าวขอ้ ดีโดยรวมดงั น้ี 1. ทาใหส้ ามารถผลิตชิ้นงานท่ีมีจานวนมากชิ้นไดร้ วดเร็ว 2. ชิ้นงานแตล่ ะชิ้นมีขนาดและรูปร่างท่ีถูกตอ้ งตามตอ้ งการ 3. ลดข้นั ตอนความยงุ่ ยากซบั ซอ้ นในการทางาน 4. ลดจานวนชิ้นงานท่ีเสียหายได้ 5. ลดอุบตั ิเหตุในการทางาน 6. ลดคา่ ใชจ้ ่ายเรื่องตน้ ทุนการผลิต โดยไมต่ อ้ งใชผ้ ทู้ ี่มีความรู้ มีทกั ษะความชานาญใน การทางาน 5
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010 จ๊ิกและฟิ๊ กเจอร์ถูกสร้างข้ึนมาใชใ้ นอุตสาหกรรมการผลิตและไดม้ ีการพฒั นาปรับปรุงใหใ้ ชป้ ระโยชน์อยา่ งแพร่หลาย จ๊ิกและฟ๊ิ กเจอร์มีหลายชนิดโดยแต่ละชนิดจะทาหนา้ ท่ีแตกต่างกนั ออกไปท้งั น้ีจะข้ึนอยกู่ บัลกั ษณะของชิ้นงานท่ีจะทาการผลิต ชนิดและหน้าทข่ี องจิก๊ ในวงการอุตสาหกรรมมกั ใชจ้ ิ๊ก ช่วยในการผลิตชิ้นงานท่ีเป็นรู โดยขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางที่มีขนาดไม่โตมากจะใชว้ ธิ ีการเจาะรู หากมีขนาดโตจนไม่สามารถใชว้ ธิ ีการเจาะได้ กจ็ ะใชว้ ธิ ีควา้ นรู หรืออาจใชจ้ ิ๊ก ช่วยในการตดั เฉือนงานที่เป็ นรูลกั ษณะอ่ืน ๆ จึงอาจแบ่งชนิดของจ๊ิก ตามลกั ษณะการทางานดงั น้ี - จ๊ิกเจาะรู (Drill Jig) - จิ๊กควา้ นรู (Boring Jig) รูปท่ี 1-3 ภาพการทางานต่าง ๆ โดยใชจ้ ิ๊กเจาะรู (Drilling Jig)รูปที่ 1-4 การทางานของ Jig ควา้ นรู (Boring Jig) 6
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010จ๊กิ เจาะรู (Drilling Jig) แบง่ ตามลกั ษณะโครงสร้างของอุปกรณ์ เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ - จิ๊กแบบเปิ ด (Open Jigs) - จิ๊กแบบปิ ด (Close Jigs) จิ๊กแบบเปิ ด (Open Jig) เป็นเคร่ืองมือพิเศษแบบง่าย ๆ ใชส้ าหรับการทางานท่ีมีการกระทาต่อชิ้นงานเพยี งดา้ นเดียว เช่น จิ๊กเจาะรูชนิดแผน่ (Plate Jig) จะมีลกั ษณะการใชง้ านท่ีง่ายโดยเพียงวางจ๊ิก ลงบนผวิ ของชิ้นงานท่ีตอ้ งการเจาะรู แลว้ ยดึ (Jig) ท่ีวางใหแ้ น่นเพื่อป้องกนั การเคล่ือนที่ขณะทางาน กส็ ามารถทาการเจาะรูไดต้ ามขนาดและตาแหน่งที่ตอ้ งการได้ ดงั ในรูปท่ี 1-5 รูปท่ี 1-5 จิ๊กเจาะรูชนิดแผน่ (Plate Drilling Jig) จิ๊กแบบปิ ด (Closed Jig) หรือบางคร้ังอาจเรียกวา่ จ๊ิกเจาะรูแบบกล่อง (Box Drilling Jig) จะใช้สาหรับงานที่มีการกระทากบั ชิ้นงานมากกวา่ 1 ดา้ นโดยจิ๊กเจาะรูแบบกล่อง (Box Drilling Jig) น้ีสามารถหมุนหรือพลิกเพ่ือทาการเจาะไดห้ ลายทิศทางดงั รูปที่ 1-6รูปที่ 1-6 จิ๊กเจาะรูแบบกล่อง (Box Drilling Jig) 7
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010นอกจากน้ีจิ๊กเจาะรู (Drilling Jig) แตล่ ะประเภทอาจแบ่งตามลกั ษณะรูปร่างและการทางานดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี 1. จิ๊กเจาะรูชนิดแผ่นประกบ (Sandwitch Drilling Jig) มีลกั ษณะเป็นแผน่ สาหรับประกบชิ้นงาน แผน่บนจะมีปลอกนาเจาะ แผน่ ล่างมีรูสาหรับปลายดอกสวา่ นเจาะทะลุ โดยมีสลกั ยดึ (Locking pins) ช่วยใหเ้ กิดความเที่ยงตรงในการเจาะรู ดงั รูปที่ 1-7 รูปท่ี 1-7 จิ๊กเจาะรูชนิดแผน่ ประกบ (Sand witch Drilling Jig) 2. จ๊ิกเจาะรูแบบเทมเพลท (Template Drilling Jig) เป็ นจ๊ิกที่มีราคาถูกเพราะง่ายต่อการออกแบบ ใช้งานแบบชว่ั คราว หรือใชก้ บั งานที่มีระยะการทางานของเครื่องมือตดั ท่ีส้ัน โดยตวั จิ๊กจะครอบอยดู่ า้ นบนของชิ้นงานหรืออยดู่ า้ นในของชิ้นงานโดยไม่จาเป็นตอ้ งมีการจบั ยดึ ก็ไดจ้ ิ๊กชนิดน้ีมกั จะถูกใชส้ าหรับงานที่ตอ้ งการความละเอียดถูกตอ้ งมากกวา่ ท่ีจะใชผ้ ลิตชิ้นงานอยา่ งรวดเร็วดงั รูปท่ี 1-8รูปที่ 1-8 จิ๊กเจาะรูแบบเทมเพลท (Template Drilling Jig) 8
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010 3. จิ๊กเจาะรูแบบแผ่นต้งั ฉาก (Horizontal-Post Drilling Jig) ใชง้ านโดยจบั ยดึ ชิ้นงานใหอ้ ยใู่ นตาแหน่งที่ต้งั ฉากกบั ตวั กาหนดตาแหน่งดงั รูปที่ 1-9 รูปที่ 1-9 จิ๊กเจาะรูแบบแผน่ ต้งั ฉาก (Angle-Plate Drilling Jig) 4. จิ๊กเจาะรูแบบแผ่นปรับมุม (Angular-Post Drilling Jig) เป็นจ๊ิกท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยกบั จิ๊กเจาะรูแบบแผน่ ต้งั ฉาก (Angle-plate Drilling Jig) แตกตา่ งกนั คือใชจ้ บั ยดึ ชิ้นงานเอียงเป็นมุมเพอ่ื เจาะรู ดงั รูปท่ี 1-10รูปที่ 1-10 จิ๊กเจาะรูแบบแผน่ ปรับมุม (Angular-post Drilling Jig) 9
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010 5. จ๊ิกเจาะรูแบบฝาปิ ดคู่ (Double–Leaf Drilling Jig) เป็ นจิ๊กแบบกล่องอีกชนิดหน่ึงมีขนาดเล็กกวา่ มีฝาปิ ดเปิ ดท่ีใชง้ านไดส้ ะดวกง่ายตอ่ การใส่หรือนาชิ้นงานออก ดงั รูปที่ 1-11 รูปที่ 1-11 จ๊ิกเจาะรูแบบฝาปิ ดคู่ (Double-Leaf Drilling Jig) 6. จ๊ิกเจาะรูแบบแบ่งส่วน (Indexing Drilling Jig) เป็นจิ๊กท่ีใชใ้ นการเจาะรูบนชิ้นงานใหม้ ีระยะห่างเทา่ ๆ กนั บนผวิ ชิ้นงานตามแนวเส้นรอบวง มีลกั ษณะคลา้ ยกบั หวั แบ่งของเครื่องกดั ดงั ในรูปที่ 1-12รูปที่ 1-12 จ๊ิกเจาะรูแบบแบ่งส่วน (Indexing Drilling Jig) 10
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010 7. จิ๊กเจาะรูแบบปากกา (Vice Drilling Jig) เป็นจิ๊กท่ีออกแบบการทางานแบบปากกาจบั งานโดยเพ่มิ อุปกรณ์ประกอบทาใหจ้ บั ชิ้นงานไดม้ น่ั คง รวดเร็ว ดงั ในรูปที่ 1-13 รูปที่ 1-13 จิ๊กเจาะรูแบบปากกา (Vice Drilling Jig) จกิ๊ คว้านรู (Boring Jigs) โดยทว่ั ไป ใชใ้ นการผลิตชิ้นงานที่มีรูขนาดใหญ่ซ่ึงดอกสวา่ นไม่สามารถเจาะรูได้ ตวั จิ๊ก(Jig) จะยดึ แน่นติดกบั แทน่ จบั งานหรือโตะ๊ งานของเคร่ืองจกั ร การควา้ นใหม้ ีผวิ เรียบและมีขนาดเท่ียงตรงไดศ้ ูนย์ จึงตอ้ งมีตวั นา (Guide) ทาหนา้ ท่ีคลา้ ยปลอกนาเจาะ การใชจ้ ิ๊กควา้ นรู (Boring Jig) โดยทวั่ ไปจะใชใ้ นลกั ษณะการทางานควา้ นรูในแนวต้งั ดงั ในรูป2-12 และควา้ นรูในแนวนอน ดงั ในรูป 1-14รูปที่ 1-14 การใชจ้ ๊ิกควา้ นรูในแนวต้งั (Vertical Boring Jig) 11
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010 รูปที่ 1-15 การใชจ้ ๊ิกควา้ นรูในแนวนอน (Horizontal Boring Jig)ชนิดและหน้าทขี่ องฟ๊ิ กเจอร์ ฟิ๊ กเจอร์ สามารถทางานไดก้ วา้ งขวางมากกวา่ จ๊ิก การทางานหลายลกั ษณะจาเป็นตอ้ งใชฟ้ ๊ิ กเจอร์ ช่วยในการผลิตชิ้นงานจานวนมาก ๆ เพอื่ ใหเ้ กิดความสะดวก รวดเร็ว เท่ียงตรงและประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลิตตามพ้ืนฐานโดยทว่ั ไปแลว้ ฟ๊ิ กเจอร์ จะถูกสร้างข้ึนตามแนวทางอยา่ งเดียวกนั คือเป็นตวั สาหรับจบั ยดึ ชิ้นงานให้อยใู่ นตาแหน่งที่ถูกตอ้ งตามความตอ้ งการอยา่ งมน่ั คง เนื่องจากฟิ๊ กเจอร์จะตอ้ งรับแรงท่ีเกิดจากคมตดั มาก ดงั น้นัฟ๊ิ กเจอร์ จึงถูกสร้างใหม้ ีความแขง็ แรงมากกวา่ จิ๊ก ในการออกแบบเพ่อื สร้างฟ๊ิ กเจอร์ จะข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะรูปร่างของชิ้นงานและเคร่ืองจกั รกลที่ใชใ้ นการผลิต ดงั น้นั จึงสามารถแบง่ ฟ๊ิ กเจอร์ออกตามลกั ษณะของการทางานดงั น้ี - ฟ๊ิ กเจอร์งานกดั (Milling Fixture) - ฟิ๊ กเจอร์งานไส (Planning Fixture) - ฟ๊ิ กเจอร์งานกลึง (Turning Fixture) - ฟ๊ิ กเจอร์งานเช่ือม (Welding Fixture) - ฟิ๊ กเจอร์งานประกอบ (Assembling Fixture) - ฟิ๊ กเจอร์งานขดั ผวิ เรียบ (Lapping Fixture) - ฟิ๊ กเจอร์งานแทงข้ึนรูป (Broaching Fixture) 12
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010 นอกจากน้ีเรายงั สามารถแบ่งฟ๊ิ กเจอร์ ตามรูปร่างหรือโครงสร้างของฟ๊ิ กเจอร์ ดงั น้ี 1. ฟิ๊ กเจอร์แบบแผ่น (Plate Fixture) เป็นฟ๊ิ กเจอร์ที่เป็ นแบบธรรมดาที่สุด ฟ๊ิ กเจอร์ ชนิดน้ีจะมีลกั ษณะเป็นแผน่ เรียบ ๆ มีตวั จบั ยดึ (Clamps) ชนิดตา่ ง ๆ ประกอบอยบู่ นแผน่ เรียบนอกจากน้ียงั ประกอบดว้ ยอุปกรณ์กาหนดตาแหน่ง (Locators) ดงั ในรูปท่ี 1-16 ฟ๊ิ กเจอร์แบบแผน่ น้ีเป็ นฟ๊ิ กเจอร์ท่ีมีประโยชนส์ าหรับการทางานของเครื่องจกั รทวั่ ๆ ไป จึงมีผนู้ ิยมใชม้ ากท่ีสุดชนิดหน่ึง รูปที่ 1-16 ฟ๊ิ กเจอร์แบบแผน่ (Plate Fixture) 2. ฟิ๊ กเจอร์แบบแผ่นต้ังฉาก (Angle Plate Fixture) ฟ๊ิ กเจอร์ชนิดน้ีเป็นแบบหน่ึงของฟ๊ิ กเจอร์แบบแผน่ การทางานของฟิ๊ กเจอร์แบบน้ี คือชิ้นงานจะถูกกระทาในทิศทางต้งั ฉากกบั ตวั กาหนดตาแหน่ง (Locator)ของฟิ๊ กเจอร์ ดงั รูปท่ี 1-17รูปที่ 1-17 ฟิ๊ กเจอร์แบบแผน่ ต้งั ฉาก (Angle Plate Fixture) 13
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตดั อปุ กรณ์จับยดึ รหัส 2102-2010 3. ฟิ๊ กเจอร์แบบแผ่นปรับมุม (Modified Angle-Plate Fixture) ฟ๊ิ กเจอร์ชนิดน้ีมีลกั ษณะการทางานคลา้ ยฟ๊ิ กเจอร์แบบแผน่ ต้งั ฉาก (Angle Plate Fixture) ต่างกนั ตรงท่ีชิ้นงานจะถูกกระทาเป็นมุมอ่ืนไม่ใช่มุม 90องศา ดงั รูปท่ี 1-18 รูปที่ 1-18 ฟ๊ิ กเจอร์แบบแผน่ ปรับมุม (Modified Angle Plate Fixture) 4. ฟิ๊ กเจอร์แบบหัวแบ่ง (Indexing Fixture) ฟ๊ิ กเจอร์ชนิดน้ีมีลกั ษณะคลา้ ยกบั จ๊ิกแบบแบ่งส่วน(Indexing Drilling Jig) โดยมีอุปกรณ์วางตาแหน่งชิ้นงานอุปกรณ์จบั ยดึ ชิ้นงานประกอบอยบู่ นแผน่ หมุนและมีสลกั ทาหนา้ ท่ีเป็นอุปกรณ์แบ่ง ดงั รูปท่ี 1-19รูปที่ 1-19 ฟิ๊ กเจอร์แบบหวั แบ่ง (Indexing Fixture) 14
วชิ า อปุ กรณ์นาคมตัดอปุ กรณ์จับยดึ รหสั 2102-2010 5. ฟ๊ิ กเจอร์แบบหลายตาแหน่ง (Mutiple post Fixture) เป็ นฟ๊ิ กเจอร์ที่ใชส้ าหรับการผลิตที่ตอ้ งการความรวดเร็วและมีปริมาณมาก ๆ ในขณะที่การทางานของเคร่ืองจกั รจะตอ้ งทางานเป็ นจงั หวะต่อเน่ืองกนั ไปตลอดดูเพล็กฟิ๊ กเจอร์ (Duplex Fixture) เป็ นแบบหน่ึงของฟิ๊ กเจอร์แบบหลายตาแหน่งที่เป็ นแบบธรรมดาที่สุดโดยมีการทางานเพียง 2 ตาแหน่งเท่าน้นั ดงั รูปท่ี 1-20 ดูเพล็กฟ๊ิ กเจอร์ (Duplex Fixture) น้ีสามารถถอดและใส่ชิ้นงานได้ในขณะท่ีชิ้นงานอีกชิ้นหน่ึงกาลังถูกกระทาโดยฟ๊ิ กเจอร์จะหมุนนาชิ้นงานที่ถูกกระทาเสร็จเรียบร้อยแลว้ ออกมาและหมุนนาชิ้นงานใหม่เขา้ ไปให้ถูกกระทาแทนจึงสามารถถอดชิ้นงานที่ถูกกระทาเสร็จแลว้ ออกเพื่อใส่ชิ้นงานใหม่ได้ รูปที่ 1-20 ฟ๊ิ กเจอร์แบบดูเพลก็ (Duplex Fixture) 6. ฟิ๊ กเจอร์แบบโปรไฟล์ (Profile Fixture) เป็นฟ๊ิ กเจอร์ที่ถูกใชเ้ ป็นตวั นาทางสาหรับการทางานที่กระทาตามเส้นรอบรูปที่เครื่องจกั รไม่สามารถไปตามทิศทางปกติได้ สาหรับเส้นรอบรูป (Contours) จะเป็นเส้นรอบรูปภายในหรือภายนอกกไ็ ด้ จากรูปท่ี 1-21 แสดงการทาลูกเบ้ียว (Cam) ลูกเบ้ียวถูกตดั อยา่ งเที่ยงตรงโดยการทางานของการสมั ผสั อยา่ งคงท่ีระหวา่ งฟิ๊ กเจอร์กบั แบริ่ง ของเคร่ืองมือตดั โดยแบร่ิงจะเป็ นส่วนสาคญัในการทางานรูปท่ี 1-21 ฟ๊ิ กเจอร์แบบโปรไฟล์ (Profile Fixture) 15
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: