Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 195เทคโนโลยกี ารศกึ ษากบั ครไู ทยในศตวรรษท่ี 21EDUCATIONAL TECHNOLOGY VS THAI TEACHERS IN 21ST CENTURY ภาสกร เรืองรอง1, ประหยัด จริ ะวงพงศ2์ , วณิชชา แมน่ ยำ� 3, วลิ าวลั ย์ สมยาโรน4, ศรันยู หมน่ื เดช5 และชไมพร ศรีสุราช6บทคัดยอ่ เมื่อสังคมโลกได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความส�ำคัญของการน�ำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหน่ึงในชีวิตประจ�ำวันครใู นศตวรรษท่ี 21 จงึ ตอ้ งปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั การเรยี นรู้ ใหเ้ ทา่ ทนั ยคุ สมยั ทเี่ ปลย่ี นแปลงไปดว้ ย ทง้ั นต้ี อ้ งพฒั นาทกั ษะดา้ นตา่ งๆ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยเฉพาะดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทเ่ี ขา้ มามบี ทบาทอยา่ งมากในวงการศกึ ษา ทง้ั ในปจั จบุ นัและอนาคต เพอื่ ใหส้ ามารถชแี้ นะและสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยตนเองตลอดเวลา นอกจากนี้ ครไู ทยในอนาคตยังต้องมีความรู้จริงในเร่ืองท่ีสอน และต้องมีเทคนิควิธีการให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้จากประสบการณ์ รวมทั้งจัดกจิ กรรมเช่อื มโยงความรจู้ ากแหล่งเรียนร้ภู ายนอก ฝึกให้นักเรียนทำ� งานเป็นทีม เป็นนักออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ที่เหมาะสม จัดสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ และแสดงออกซ่ึงความรักและความห่วงใยต่อนักเรียน ทั้งน้ีกระบวนการเรียนการสอนดังกล่าวจะสัมฤทธิ์ผลได้ หากทุกภาคส่วนช่วยกันหาทางลดปัญหาและอุปสรรคท่ีขัดขวางการพัฒนาครู ซึ่งแนวทางและความเป็นไปได้ในการพัฒนาครูในศตวรรษที่ 21 น้ัน ต้องด�ำเนินการทั้งด้านนโยบายและดา้ นการพฒั นาตนเองของครูควบคกู่ นั ไป จึงจะทำ� ให้ครูเปน็ ครูยุคดจิ ิทัลอย่างแทจ้ รงิค�ำส�ำคัญ : การศกึ ษา ครไู ทย ศตวรรษที่ 21Abstract Nowadays, the world’s society has been aware of the importance of implementingtechnology to daily life. Thus, teachers in 21st century must adapt themselves to the changing age.They are expected to improve their skills continuously, especially, their technology communicatingskill which has become a big part of Thai education nowadays and in the future. If they do so,they would be able to navigate and encourage students to always self-study. Moreover, the futureThai teachers must have an actual knowledge in what they will be teaching. They should havetechniques that encourage students to learn from experience naturally. They should arrange1 ผู้ช่วยศาสตราจารย,์ ดร., ภาควชิ าเทคโนโลยีและสือ่ สารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั นเรศวร E-mail: [email protected] รองศาสตราจารย,์ ดร., ภาควชิ าเทคโนโลยแี ละสอ่ื สารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั นเรศวร E-mail: [email protected] นิสติ ปริญญาเอก สาขาเทคโนโลยีและสอ่ื สารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั นเรศวร E-mail: [email protected] นิสิตปรญิ ญาเอก สาขาเทคโนโลยีและสอื่ สารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail: [email protected] นสิ ิตปรญิ ญาเอก สาขาเทคโนโลยแี ละสือ่ สารการศึกษา มหาวิทยาลยั นเรศวร E-mail: [email protected] นสิ ิตปรญิ ญาเอก สาขาเทคโนโลยีและสอ่ื สารการศึกษา มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail: [email protected] ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ที่ 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
196 วารสารปัญญาภวิ ัฒน์ ปีท่ี 5 ฉบบั พเิ ศษ ประจำ� เดอื นพฤษภาคม 2557activities that would relate classrooms to external source. They should, as well, encourage studentsto work in team, to be proper in arranging activities, to create a learner-friendly environment, andto deliver their love and care to students. In order to achieve the targeted goals, all divisionsmust help eliminate problems that would distract the teachers from improving themselves.In order to get the plan to improve teachers in 21st century done, both regulations and processof improving must be worked on, so that teachers could truly become technological teachers.Keyword : Educational, Thai Teacher, The 21st centuryบทนำ� ที่มีความส�ำคัญท้ังทางตรงและทางอ้อมที่จะถ่ายทอด โลกมีการเปล่ียนแปลงตลอดเวลา สังคมแห่งการ ความรคู้ วามสามารถใหแ้ กศ่ ษิ ย์ รวมทง้ั พฒั นาศษิ ยใ์ หเ้ ปน็เรียนรู้ไม่มีวันหยุดน่ิง สังคมโลกกลายเป็นสังคมความรู้ มนษุ ยท์ ม่ี คี ณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพ โดยเนน้ กระบวนการ(Knowledge Society) หรือสังคมแห่งการเรียนรู้ 4 ดา้ น (ครูในศตวรรษที่ 21, ม.ป.ป.) คอื ด้านความรู้(Learning Society) องคก์ รทางการศกึ ษา จงึ ตอ้ งปรบั ตวั ความคิด หรือพุทธพิสัย (Cognitive Domain) ด้านใหเ้ ปน็ องคก์ รแหง่ การเรยี นรู้ (Learning Organization) ความรู้สึก อารมณ์ สังคมหรือด้านจิตพิสัย (Affectiveโดยพงึ ตระหนกั วา่ คณุ ภาพการศกึ ษาขนึ้ อยกู่ บั คณุ ภาพ Domain) ดา้ นทักษะปฏิบตั หิ รอื ทักษะพสิ ัย (Psycho-ครูเปน็ หลกั (Unesco, 1996) motor Domain) และดา้ นทกั ษะการจดั การหรอื ทกั ษะ จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระบวนการ (Management Skill)ฉบบั ท่ี 11 (สำ� นกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ แนวโนม้ การศกึ ษาในระดบั นานาชาตไิ ดม้ งุ่ เนน้ ไปท่ีและสังคมแห่งชาติ, 2554) มีนโยบายมุ่งเน้นแนวทาง ทักษะความสามารถ ทักษะพ้ืนฐานในการด�ำรงชีวิตการพฒั นาโดยยดึ คนเปน็ ศนู ยก์ ลาง เพอ่ื ใหเ้ กดิ การพฒั นา การอา่ นออก เขยี นได้ คดิ เลขเปน็ รวมทงั้ ทกั ษะพน้ื ฐานทย่ี ง่ั ยนื ภายใตก้ ารเปลย่ี นแปลง ทงั้ ภายในและภายนอก ด้านการท�ำงาน การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ประเทศ นอกจากน้ี ยังมีนโยบายส่งเสริมการศึกษาให้ การทำ� งานเป็นทีม การส่อื สาร และทักษะเฉพาะอาชพีสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และสร้างสังคม ซงึ่ เปน็ ทกั ษะทอี่ งคก์ ารสหประชาชาติ (UN) และองคก์ ารการเรยี นรทู้ ม่ี คี ณุ ภาพอนั กอ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ การศกึ ษาวทิ ยาศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (ยเู นสโก) (สำ� นักความสัมพันธ์ระหวา่ งประเทศ, 2556)ศกึ ษาธกิ าร (ข่าวส�ำนักงานรฐั มนตร,ี 2556) ทตี่ ้องการ ให้ความส�ำคัญ ส่วนในวงการศึกษาไทยมองว่า ครู คือใหพ้ ฒั นาการศกึ ษาของประเทศอยา่ งเรง่ ดว่ น โดย 1 ใน กุญแจส�ำคัญในการแก้ไขปัญหาด้านคุณภาพการศึกษานโยบายเร่งรัด คือ ปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครู (รุ่ง แก้วแดง, 2543)ให้สามารถจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปัจจุบัน แต่ปัจจุบันพบว่า ความเป็นครูในสังคมไทยก�ำลังและรองรับหลักสตู รใหม่ ใหเ้ ปน็ ไปตามพระราชบญั ญัติ เผชญิ กบั คำ� ถามจากสงั คมหลายดา้ น ทงั้ คณุ ภาพของผทู้ ่ีระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ปี 2553 มาเรียนวิชาชีพครู การไม่มีสถาบันการศึกษาที่ผลิตครู(กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2553) และมาตรฐานวชิ าชีพครู โดยเฉพาะ หลักสูตรวิชาชีพครูในสถาบันท่ีผลิตครู(คุรุสภา, 2556) ตามทคี่ รุ สุ ภากำ� หนด คณุ ภาพของบณั ฑติ ครเู มอื่ จบการศกึ ษา รวมถงึ การพฒั นา ดงั น้นั ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาจงึ เปน็ บคุ คล ครูท่ียังไม่ถูกปรับให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน เช่นผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ที่ 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 197ลักษณะของพลเมืองในอนาคตที่ประเทศต้องการเป็น แสดงมขี นาดใหญไ่ มเ่ พยี งพอสำ� หรบั ผเู้ รยี นทอี่ ยหู่ ลงั หอ้ งอยา่ งไร ครตู อ้ งจดั การเรยี นการสอนอยา่ งไร จงึ จะทำ� ให้ ความจดจ่อกับผู้สอนถูกเบ่ียงเบนจากพฤติกรรมและนักเรียนมีลักษณะเหล่าน้ัน และจะพัฒนาครูอย่างไร สภาพแวดลอ้ มในชน้ั เรยี นขนาดใหญ่ ผเู้ รยี นมกี ารนำ� เอาเป็นต้น คอมพิวเตอร์พกพาเข้ามาสืบค้นความรู้ในช้ันเรียน ดังนั้น จึงควรต้องมีการปรับวัตถุประสงค์ของการ อภปิ รายหรอื ซกั ถามคำ� ถามเกย่ี วกบั เรอ่ื งทคี่ รกู ำ� ลงั สอนผลติ และพฒั นาครโู ดยมงุ่ เนน้ ใหค้ รสู ามารถออกแบบการ เม่ือเป็นเช่นน้ี ครูจึงต้องพร้อมท่ีจะปรับตัวและพัฒนาเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ และประเมินผลการเรียนรู้ที่ ตนเองให้เท่าทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ รู้จักน�ำเทคโนโลยีสอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของผเู้ รยี นและภาวการณข์ องโลก ทม่ี อี ยมู่ าปรบั ใชเ้ พอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการเรยี นการสอนที่เปล่ียนแปลงไป รวมทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีท่ีมีอยู่ เชน่ การสบื คน้ เนอื้ หาสาระหรอื เหตกุ ารณท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบัมาใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ ม เนื้อหาบทเรยี น การพฒั นาสอ่ื การเรียนรู้ เป็นต้น และให้กับนักเรียนทั้งความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอัน ต้องมีความกระตือรือร้นท่ีจะพัฒนาความรู้และทักษะพงึ ประสงคท์ ่ีจำ� เป็นส�ำหรบั การเป็นพลเมืองในศตวรรษ ของตนอยู่เสมอ โดยอาศัยเทคโนโลยเี ป็นเครื่องมือชว่ ยท่ี 21 นอกจากนี้ ความตระหนักในการมุ่งม่ันพัฒนา ในการพัฒนาตนเอง เรียนรู้เทคนิค รูปแบบ และวิธีนักเรียนให้มีความรู้และทักษะท่ีส�ำคัญ โดยการปรับ การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับเปลยี่ นวธิ กี ารสอนใหเ้ กดิ การสรา้ งองคค์ วามรจู้ ากภายใน ลักษณะของนกั เรยี นนักเรยี นเอง และสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นมคี วามร้แู ละทักษะ รูปท่ี 1 ประยุกตก์ จิ กรรมการเรยี นการสอนที่ส�ำคัญก็มีความส�ำคัญไม่แพ้กัน เพราะถึงแม้ครูจะมี ด้วยเทคโนโลยี (Getty, 2013)ความรคู้ วามสามารถเพยี งใด แตห่ ากขาดความตระหนกัในการจัดการเรียนรู้ตามความรู้ท่ีได้รับการพัฒนามาแล้วน้ัน การผลิตและพัฒนาครูเหล่าน้ันจะไม่สามารถชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของประเทศไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ีฉะนั้น การยกระดับการศึกษาของประเทศไทยจะต้องมงุ่ เนน้ การพฒั นาครเู ปน็ สำ� คญั เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ครยู คุ ใหมท่ ม่ี ีความรู้ความสามารถและมุ่งม่ันพัฒนานักเรียนให้เป็นทรัพยากรท่ีมีคณุ ภาพของประเทศชาติตอ่ ไปสภาพปัจจุบันด้านเทคโนโลยีและส่ือสาร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ขา่ วสำ� นกั งานรฐั มนตร,ี 2556)การศึกษา ได้เล็งเห็นความส�ำคัญของการน�ำเทคโนโลยีสารสนเทศ ในยคุ ศตวรรษที่ 21 กระบวนการเรยี นการสอนมกี าร และการสอื่ สาร (Information and Communicationsเปลย่ี นแปลง (กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2556) โดยผเู้ รียน Technology : ICT) มาใชเ้ ปน็ เครื่องมือส�ำคัญและเป็นจะเรียนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารที่ ประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา ช่วยเพ่ิมทนั สมยั และสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ประสิทธิภาพการเรียนการสอนและพัฒนาครูได้อย่างนอกจากน้ียังมีปัญหาที่สืบเน่ืองมาจากจ�ำนวนนักเรียน รวดเร็ว รวมท้ังยังช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนครูที่เพิ่มขึ้นต่อห้องเรียน (สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ, 2553) ตลอดจนลดความไม่เทา่ เทยี มทางการศึกษาในโรงเรยี นจนท�ำให้ประสิทธิภาพในการเรียนการสอนลดลง สื่อที่ ท่หี า่ งไกลอีกด้วยผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
198 วารสารปัญญาภวิ ัฒน์ ปีท่ี 5 ฉบับพิเศษ ประจ�ำเดือนพฤษภาคม 2557 ปจั จบุ ันกระทรวงศึกษาธกิ าร (2556) ได้มีแนวทาง ครไู ทยในอนาคตการพฒั นา ICT เพ่อื การศกึ ษา ดงั นี้ เมื่อสังคมโลกเปล่ียนไป ผู้เรียนไม่ได้เรียนรู้จาก 1) การจัดหาระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เพ่ือ โรงเรียนเพียงแห่งเดียว แต่สามารถเรียนรู้ได้จากแหล่งการเรยี นการสอนของสถานศกึ ษา ทงั้ คอมพวิ เตอรป์ ระจำ� เรยี นรภู้ ายนอกทเ่ี ปน็ สงั คมรอบตวั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ จากหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร คอมพวิ เตอรป์ ระจำ� หอ้ งเรยี น ไมว่ า่ จะเปน็ อนิ เทอรเ์ นต็ การเขา้ ถงึ ความรไู้ ดโ้ ดยงา่ ยทำ� ใหค้ วามรเู้ ดมิคอมพิวเตอร์ต้ังโต๊ะและคอมพิวเตอร์พกพา จัดตั้งศูนย์ ของนักเรียนของนักเรียนแต่ละคนค่อนข้างแตกต่างกันขอ้ มูล Data Center และสถานโี ทรทศั น์ผา่ นดาวเทยี ม เพราะนกั เรยี นสามารถคน้ หาความรไู้ ดด้ ว้ ยตวั เขาเอง อยทู่ ี่เพือ่ การศึกษา ส�ำหรบั ใช้ในการเรยี นการสอน ใครจะกระตอื รือรน้ ในการแสวงหามากกวา่ กนั เมอื่ เปน็ 2) การพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา เชน่ นคี้ รคู วรตรวจสอบความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นแตล่ ะคนข้ันพื้นฐาน การบูรณาการโครงข่าย MOENet (บ�ำรุง และพยายามแก้ไขความรู้ที่ผิด เพ่ือความรู้ผิดๆ จะได้เฉียบแหลม, ม.ป.ป.) และ NEdNet (ก�ำจร ตติยกวี, ไมต่ ดิ ตวั เขาไป (วจิ ารณ์ พานชิ , 2556) ซงึ่ การตรวจสอบ2555) ให้เป็นโครงขา่ ยเดียว โดยใชช้ อ่ื วา่ OBEC-NET ความรู้เดิมของผู้เรียนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการ(กระทรวงศึกษาธิการ, 2556) ส�ำหรับใช้เป็นเครือข่าย วเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเพอื่ ออกแบบระบบการสอน (Instructionเพอ่ื การศกึ ษาและวจิ ยั โดยเชอ่ื มตอ่ โรงเรยี นตา่ งๆ ไวก้ บั System Design) ซึ่งไม่ว่าจะยุคสมัยใดการออกแบบศนู ย์ข้อมูลของ สพฐ. OBEC Data Center เพือ่ ใหง้ ่าย ระบบการสอนยงั เปน็ สง่ิ จำ� เปน็ ทคี่ รตู อ้ งปฏบิ ตั ิ เพยี งแต่ต่อการดแู ลและบรหิ ารจดั การ ตอ้ งปรบั กระบวนการใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ททเี่ ปลยี่ นแปลง 3) การพฒั นาสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Digital Contents) ไปในแต่ละยุคสมยัในรูปแบบส่ือออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ e-Book หรือ การออกแบบระบบการสอนในศตวรรษท่ี 21 ตอ้ งApplications ต่างๆ ออกแบบให้นักเรียนได้เป็นผู้สร้างความรู้ด้วยตนเอง จากแนวทางการพัฒนาไอซีทีเพื่อการศึกษาของ มากกว่าการรับการถ่ายทอดจากครูผู้สอน (Construc-กระทรวงศึกษาธิการ จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันกระทรวง tivism) โดยออกแบบให้นักเรียนได้ค้นหาความรู้ด้วยศึกษาธกิ ารได้เล็งเห็นความสำ� คญั ของการน�ำเทคโนโลยี ตนเอง วเิ คราะหข์ อ้ มูล ตรวจสอบข้อมูล และสรปุ เป็นมาใช้ในการจัดการศึกษา โดยมีแนวทางในการจัดการ องคค์ วามรู้ รปู แบบการเรยี นการสอนแบบนี้ เชน่ การสอนโครงสร้างพื้นฐาน จัดสภาพแวดล้อม และพัฒนาส่ือ แบบสืบเสาะ (Inquiry Learning) การสอนแบบปญั หาการเรยี นรอู้ เิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ หก้ บั สถานศกึ ษา แตส่ ง่ิ สำ� คญั เปน็ ฐาน (Problem-Based Learning) การสอนแบบทค่ี วรคำ� นงึ ถงึ ในการนำ� เทคโลยเี หลา่ นไี้ ปใชใ้ นการศกึ ษา วิจัยเป็นฐาน (Research-Based Learning) เป็นต้นคอื การพฒั นาครใู หม้ คี วามรู้ ความสามารถในการนำ� ไป และหากตอ้ งการใหน้ กั เรยี นสามารถจดจำ� ความรเู้ หลา่ นนั้ประยุกต์ใช้และพัฒนาการเรียนการสอน หากสภาพ ได้ดีขึ้นและเกิดทักษะต่างๆ จากการปฏิบัติ ครูควรแวดล้อมและอุปกรณ์เอื้ออ�ำนวยแต่ไม่รู้จักน�ำไปใช้ให้ ออกแบบการสอนใหน้ กั เรยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ดว้ ยการคุ้มค่า การลงทุนเพื่อพัฒนาไอซีทีเพื่อการศึกษานี้จะได้ สรา้ งสรรคช์ นิ้ งาน และเผยแพรค่ วามรแู้ ละนวตั กรรมทไี่ ด้ผลลัพธ์ท่ีไม่คุ้มค่า ดังน้ัน การวางแผนพัฒนาการเรียน ส่สู าธารณชน โดยอาศยั เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเรียนการสอนโดยใช้ไอซีที เป็นเคร่ืองมือต้องท�ำท้ังระบบ การสอนและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม รปู แบบการสอนแบบน้ีเพ่อื ปฏิรปู การเรียนการสอนให้ไดผ้ ลอย่างแท้จริง เช่น การสอนแบบโครงงานเป็นฐาน (Project-Basedผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 199Learning) เป็นต้น การออกแบบตามรูปแบบการสอน 2. Computer (ICT) Integration ครตู ้องมีทกั ษะเหล่านี้ จะส่งผลใหผ้ ู้เรียนเกดิ ทักษะต่างๆ ที่สำ� คญั เช่น ในการใชเ้ ทคโนโลยเี ขา้ มาชว่ ยในการจดั การเรยี นการสอนทกั ษะการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละทำ� งาน เนื่องจากกิจกรรมการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีจะรว่ มกนั ทกั ษะการสอ่ื สาร ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ชว่ ยกระตนุ้ ความสนใจใหก้ บั นกั เรยี น และหากออกแบบทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม เปน็ ตน้ ซง่ึ ทกั ษะ กจิ กรรมการเรียนการสอนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ จะชว่ ยต่างๆ เหล่าน้ีล้วนเป็นทักษะท่ีจ�ำเป็นในการด�ำรงชีวิต สง่ เสรมิ ความรแู้ ละทักษะที่ตอ้ งการไดเ้ ปน็ อยา่ งดีในศตวรรษท่ี 21 3. Constructionist ครผู สู้ อนตอ้ งเขา้ ใจแนวคดิ ทวี่ า่ กระบวนการประเมินผลการเรียนรู้นักเรียนที่เรียน ผเู้ รยี นสามารถสรา้ งองคค์ วามรไู้ ดด้ ว้ ยตวั เอง โดยเชอื่ มโยงด้วยวิธกี ารและรปู แบบการสอนขา้ งตน้ เป็นส่งิ ส�ำคัญท่ี ความรเู้ ดมิ ทมี่ อี ยภู่ ายในเขา้ กบั การไดล้ งมอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมครตู อ้ งทำ� ความเขา้ ใจ การวดั ผลประเมนิ ผลตอ้ งเนน้ การ ตา่ งๆ ดงั นนั้ ครจู งึ ควรนำ� แนวคดิ นไ้ี ปพฒั นาวางแผนการประเมินเพ่ือพัฒนา ใช้วธิ กี ารท่ีหลากหลายควบคูก่ ันไป จดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความรทู้ คี่ งทนเพอ่ื วดั ทงั้ ความรู้ ทกั ษะ และเจตคตขิ องนกั เรยี น การใช้ และเกดิ ทักษะท่ตี อ้ งการแบบทดสอบเพยี งอยา่ งเดยี วไมส่ ามารถวดั และประเมนิ ผล 4. Connectivity ครูต้องสามารถจัดกิจกรรมให้การเรยี นรไู้ ดค้ รอบคลมุ ครตู อ้ งใชท้ งั้ การสงั เกต การทดสอบ เชอื่ มโยงระหวา่ งผเู้ รยี นดว้ ยกนั ผเู้ รยี นกบั ครู ครภู ายในการประเมินผลงาน ฯลฯ ซึ่งต้องวัดและประเมินผลให้ สถานศกึ ษาเดยี วกนั หรอื ตา่ งสถานศกึ ษา ระหวา่ งสถานครอบคลุมทง้ั พทุ ธพิ ิสยั ทกั ษะพิสัย และเจตพสิ ยั ทีค่ รู ศกึ ษา และสถานศกึ ษากบั ชมุ ชน เพอื่ สรา้ งสภาพแวดลอ้ มไดอ้ อกแบบไว้ตัง้ แต่แรก ในการเรยี นรทู้ เ่ี ปน็ ประโยชน์ ใหน้ กั เรยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ิ การเรียนการสอนในยุคสมัยใหม่ครูจะต้องเรียนรู้ อนั จะกอ่ ให้เกิดประสบการณ์ตรงกับนักเรียนและทำ� งานเปน็ ทมี คอื ครเู ปน็ ผเู้ รยี นรไู้ ปดว้ ย โดยเรยี นรู้ 5. Collaboration ครมู บี ทบาทในการจดั กจิ กรรมร่วมกันกับครูท่านอ่ืนๆ เพ่ือร่วมกันวางแผนออกแบบ การเรียนรู้ในลักษณะการเรียนรู้แบบร่วมมือระหว่างการสอน พดู คยุ ปรกึ ษาหารอื เสนอแนะซงึ่ กนั และกนั นักเรียนกบั ครู และนักเรยี นกับนักเรยี นด้วยกนั เพือ่ ฝึกการเรยี นรรู้ ว่ มกนั เปน็ ทมี ของครนู ้ี เรยี กวา่ Professional ทักษะการท�ำงานเป็นทีม การเรียนรู้ด้วยตนเอง และLearning Community (PLC) สถานศึกษาบางแห่ง ทักษะสำ� คญั อน่ื ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งจดั ใหม้ ี PLC ทกุ สปั ดาห์ ซง่ึ จะชว่ ยใหค้ รสู ามารถวางแผน 6. Communication ครูต้องมีทักษะการสื่อสารการสอน การประเมนิ และแกไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ รว่ มกนั ทั้งการบรรยาย การยกตัวอย่าง การเลือกใช้ส่ือ และไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ การน�ำเสนอ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อ นอกจากน้ี ครเู องตอ้ งพฒั นาทกั ษะทจี่ ำ� เปน็ สำ� หรบั การเรียนรู้ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนได้อย่างการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ของตนเอง ดงั ท่ี ถนอมพร เหมาะสมเลาหจรัสแสง ได้เสนอทักษะท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับครูไทย 7. Creativity ครตู อ้ งออกแบบสรา้ งสรรคก์ จิ กรรมในอนาคต (C-Teacher) (ถนอมพร เลาหจรสั แสง, ม.ป.ป.) การเรียนรู้ จัดสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ด้วยไว้อย่างน่าสนใจ 8 ประการ คอื ตนเองของผู้เรียนมากกว่าการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ 1. Content ครูต้องมีความรู้และทักษะในเร่ืองท่ี หน้าห้องเพยี งอยา่ งเดียวสอนเป็นอย่างดี หากไม่รู้จริงในเร่ืองทส่ี อนแล้ว ก็ยากท่ี 8. Caring ครตู อ้ งมมี ทุ ติ าจติ ตอ่ นกั เรยี น ตอ้ งแสดงนักเรยี นจะมคี วามร้คู วามเขา้ ใจในเนื้อหานนั้ ๆ ออกถึงความรัก ความห่วงใยอย่างจริงใจต่อนักเรียนผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
200 วารสารปญั ญาภวิ ัฒน์ ปีท่ี 5 ฉบับพิเศษ ประจ�ำเดือนพฤษภาคม 2557เพื่อให้นักเรียนเกิดความเชื่อใจ ส่งผลให้เกิดสภาพการ รูปท่ี 2 ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคของการท�ำหน้าที่ครูเรียนรู้ตื่นตัวแบบผ่อนคลาย ซ่ึงเป็นสภาพท่ีนักเรียนจะ (ปัจจัยส่งเสริมการท�ำหน้าท่ีของครูให้เกิดเรยี นรไู้ ด้ดีทีส่ ุด ประสิทธิภาพ, ม.ป.ป.) จากข้อเสนอข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าการเรียนรู้เปน็ ผลจากการลงมอื กระท�ำของผเู้ รยี น เกิดจากภายใน 1. ปัจจัยท่ีเป็นอุปสรรคของการท�ำหน้าที่ครูตัวนักเรียนเอง ครูเป็นเพียงผู้วางแผนและช่วยเหลือ ประกอบด้วยเพอื่ ใหก้ ารกระทำ� นนั้ สำ� เรจ็ และนกั เรยี นเกดิ ทกั ษะความรู้ 1) ภาระงานอนื่ นอกเหนือจากการสอน การท�ำตามท่ีตั้งไว้ ดังน้ัน ทักษะต่างๆ ท่ีกล่าวมาข้างต้นเป็น หนา้ ทอ่ี น่ื นอกเหนอื จากการสอน จะทำ� ใหค้ รมู เี วลาเตรยี มส่ิงจ�ำเป็นท่ีครูในยุคปัจจุบันต้องมีอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ การสอนและมีสมาธิในการสอนน้อยลง ซ่ึงโรงเรียนโดยเฉพาะทักษะด้าน ICT ซึ่งครูจ�ำเป็นต้องใช้ในการ ในประเทศไทยให้ครูผู้สอนปฏิบัติหน้าที่อ่ืน เช่น พัสดุพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การจัดการทรัพยากรและ บคุ คล ธรุ การ ฯลฯ จนทำ� ใหป้ ระสทิ ธภิ าพการสอนลดลงแหล่งเรียนรู้ และการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้ 2) จ�ำนวนครูไม่เพียงพอ สอนไม่ตรงกับวุฒิเหมาะกบั ลกั ษณะของผเู้ รยี นยคุ ใหม่ ทกี่ ระแสเทคโนโลยี กำ� หนดอตั รากำ� ลงั ทไี่ มเ่ หมาะสมใชอ้ ตั ราสว่ นของจำ� นวนถาโถมเข้ามาอยา่ งไมห่ ยดุ ยั้ง นกั เรียนตอ่ จำ� นวนครเู ป็นเกณฑ์ โดยไมค่ �ำนึงถงึ จ�ำนวนปญั หาและอุปสรรคของครูไทย ห้องเรียนนั้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพ ดว้ ยสภาพและวธิ กี ารเรยี นรทู้ เ่ี ปลยี่ นแปลงไป สง่ ผล การสอนของครูให้ครูต้องพัฒนาตนเอง พร้อมทั้งปรับเปล่ียนกระบวน 3) ขาดทกั ษะทางด้านไอซีที โดยครจู �ำนวนมากการเรยี นการสอนใหส้ อดรบั กบั วธิ กี ารเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ยังขาดทักษะด้านน้ี จึงท�ำให้รับรู้ข้อมูล หรือมีแหล่งโดยน�ำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ได้ ค้นคว้าข้อมูลน้อยกว่านักเรียน นอกจากน้ีสื่อการสอนผู้เรียนที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามมาตรฐานของ ทมี่ แี คห่ นงั สอื หรอื ตำ� ราอาจตอบสนองการรบั รแู้ ละความหลกั สูตร แต่การพัฒนาการศกึ ษาของชาติ ไมใ่ ช่เฉพาะ ต้องการของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ไดไ้ มเ่ ตม็ ท่ีภาระหนา้ ทขี่ องใครหรอื หนว่ ยงานใดหนว่ ยงานหนงึ่ เทา่ นนั้ 4) ครูรุ่นใหม่ขาดความเชี่ยวชาญในการสอนทั้งแต่เป็นเร่ืองท่ีสังคมต้องให้ความตระหนักและช่วยกัน ทางวชิ าการและคณุ ลกั ษณะความเปน็ ครู ความเอาใจใส่หาทางออก โดยปญั หาทางการศกึ ษาทส่ี ำ� คญั กค็ อื ปญั หา ต่อเด็กลดลง ขาดประสบการณ์ ขณะท่ีครูรุ่นเก่าไม่ด้านครู (ไมตรี อนิ ทรป์ ระสทิ ธ์,ิ 2556) ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ลกั ษณะของผเู้ รยี นทเ่ี ปลย่ี นไป ไมป่ รบั จากผลส�ำรวจความคิดเห็นของครู (รุ่งนภา วธิ ีการสอน ไมใ่ ชเ้ ทคโนโลยใี หม่ๆ เพ่อื เสริมการจดั การจิตรโรจนรักษ,์ 2556) เนอื่ งในวนั ครูแหง่ ชาติ ปี 2555ทผี่ า่ นมาทำ� ใหท้ ราบปจั จยั ทเ่ี ปน็ อปุ สรรคปจั จยั ทส่ี ง่ เสรมิการทำ� หนา้ ทค่ี รู และแนวทางการสง่ เสรมิ ครใู หส้ ามารถปฏิบัตหิ น้าท่ีได้ดยี ่ิงขนึ้ ดังน้ีผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 201เรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพ เดยี วกันหรอื ตา่ งสถานศึกษากไ็ ด้ โดยใชเ้ ทคโนโลยแี ละ 5) ครสู อนหนกั สง่ ผลใหเ้ ดก็ เรยี นมากขนึ้ ผลการ การสอ่ื สารเปน็ เครอ่ื งมอื ในการทำ� งานรว่ มกนั ซงึ่ จะชว่ ยทดสอบระดบั ชาตทิ ไี่ มเ่ ปน็ ทน่ี า่ พอใจ ทำ� ใหค้ รแู กป้ ญั หา ให้ครไู ม่จำ� กดั เพยี งวธิ กี ารสอนของตนเองเท่านัน้ แต่ยงัโดยยังคงยึดวิธีการสอนแบบเดิม พยายามสอนเนื้อหา ไดเ้ รยี นรวู้ ธิ กี ารสอนอนื่ ๆ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสมกบัให้มากข้ึน ใช้เวลาสอนมากข้ึน เพ่ือหวังให้นักเรียนมี บรบิ ทของตนเองความรเู้ พม่ิ ขน้ึ ทำ� ใหเ้ ดก็ ตอ้ งใชเ้ วลาเรยี นในหอ้ งเรยี นมาก 2) การพัฒนาตนเองด้านไอซีที เพราะสภาพซง่ึ จะเหน็ ไดจ้ ากผลการสำ� รวจของ UNESCO (Unesco, ในปัจจบุ นั แวดล้อมไปด้วยเทคโนโลยมี ากมาย ดา้ นการ2000) ทเี่ ดก็ ไทยใชเ้ วลาเรยี นในหอ้ งเรยี นเฉลย่ี มากกวา่ ศกึ ษาเองคงหนเี ทคโนโลยเี หลา่ นไี้ มพ่ น้ และไมม่ เี หตผุ ลประเทศเพอ่ื นบ้าน ทีจ่ ะต้องทำ� เช่นน้ัน เพราะเมือ่ พิจารณาผลดขี องการน�ำ 6) ขาดอิสระในการจัดการ ครูยังคงต้องปฏิบัติ ไอซที มี าใชใ้ นการศกึ ษาแลว้ ไอซที จี ะชว่ ยใหก้ ารจดั การตามนโยบายของหนว่ ยงานตน้ สงั กดั ซงึ่ นโยบายเหลา่ นนั้ เรียนรู้มีประสิทธิภาพมากข้ึน เช่น การเผยแพร่เนื้อหาไม่ได้ถูกต้องและดีเสมอไป เช่น การเรียนการสอนวิชา บทเรียน การน�ำเสนอส่ือการเรียนการสอน การสืบค้นภาษาอังกฤษ ซึ่งผลลัพธ์ท่ีได้คือ นักเรียนท่ีเรียนภาษา ขอ้ มลู การเผยแพรผ่ ลงานของนกั เรยี น การตดิ ตอ่ สอ่ื สารอังกฤษ 15 ปี แต่ไม่สามารถส่ือสารภาษาอังกฤษได้ เป็นต้น นอกจากน้ี ไอซีทียังเป็นเครื่องมือในการสร้างเปน็ ตน้ สังคมของการท�ำงานเป็นทีมของครูให้มีความสะดวก รวดเร็วข้ึน เช่น การประชุมสัมมนา การติดต่อส่ือสารรปู ที่ 3 ปัจจัยสง่ เสรมิ การท�ำหนา้ ทข่ี องครูให้เกิด การน�ำเสนอและเผยแพร่ความรู้ เปน็ ต้น ดงั นัน้ จะเห็น ประสิทธิภาพ (ไพฑรู ย์ สนิ ลารตั น,์ 2556) ไดว้ า่ ทกั ษะดา้ นไอซที ขี องครมู คี วามสำ� คญั เปน็ อยา่ งมาก ในยคุ ปจั จบุ นั ครคู วรพฒั นาตนเองใหม้ คี วามรคู้ วามสามารถ 2. ปัจจัยส่งเสริมการท�ำหน้าท่ีของครูให้เกิด ในการประยุกต์ใช้ไอซีทีเป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมประสทิ ธภิ าพ ประกอบดว้ ย แห่งการเรยี นรูร้ วมถงึ ใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน 1) การอบรม แลกเปลี่ยน และสร้างเครือข่าย 3) การลดภาระงานท่ีไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนความรู้ เช่น การจัดการความรู้ (Knownledge การสอน โดยจัดให้มเี จ้าหน้าทรี่ ับผิดชอบงานฝา่ ยตา่ งๆManagement : KM) เปน็ การแลกเปลีย่ นเรียนรู้แบบ ที่ไม่เก่ียวข้องกับการเรียนการสอน เช่น ฝ่ายธุรการProfessional Learning Community (PLC) เพ่ือ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายวัสดุ เป็นต้น เพื่อให้ครูมีเวลาในการรวมตัวกันท�ำงานเป็นทีม ซ่ึงอาจอยู่ภายในสถานศึกษา เตรียมการสอน จัดการเรียนการสอน และประเมินผล การเรยี นการสอนได้เตม็ ศักยภาพมากขึ้น 4) การสรา้ งขวญั กำ� ลงั ใจใหแ้ กค่ รู เชน่ การปรบั เลอ่ื นวทิ ยฐานะ โดยประเมนิ จากผลผลติ และผลลพั ธจ์ าก กระบวนการเรยี นการสอน นนั่ คอื พจิ ารณาทต่ี วั นกั เรยี น เปน็ หลกั ควบค่กู บั ผลงานทางวิชาการ หรอื จัดให้มกี าร ประกวดแขง่ ขนั ผลงานวชิ าการ เปน็ ตน้ ซงึ่ สงิ่ เหลา่ นจ้ี ะ ส่งผลใหค้ รมู ขี วัญและก�ำลงั ใจได้เปน็ อย่างดีเป็นอย่างดี 5) การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู ปัญหา ส�ำคัญอยา่ งหนึ่งของการศึกษาไทย คือ การมีครไู มค่ รบผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ที่ 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
202 วารสารปญั ญาภวิ ฒั น์ ปีท่ี 5 ฉบับพิเศษ ประจ�ำเดือนพฤษภาคม 2557ชนั้ เรยี นและการขาดแคลนครใู นบางวชิ าเอก การจดั สรร หลักสูตรครูในสถาบันอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพอตั รากำ� ลงั ครทู ย่ี ดึ จำ� นวนครตู อ่ จำ� นวนนกั เรยี นเปน็ หลกั ปัจจุบัน จัดอบรมให้ความรู้และปรับทัศนคติของครูสง่ ผลกระทบตอ่ ระบบการศกึ ษาโดยรวม การทส่ี ถานศกึ ษา ในการจดั การเรยี นรสู้ มยั ใหม่ สง่ เสรมิ ใหค้ รนู ำ� เทคโนโลยีมีนักเรียนจ�ำนวนน้อยไม่ได้หมายความว่า สถานศึกษา เขา้ มาชว่ ยในการจดั การเรยี นการสอนและพฒั นาตนเองตอ้ งการครูจำ� นวนน้อยไปด้วย เพราะถงึ แมส้ ถานศกึ ษา ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารเขา้ มาชว่ ยในการจะมจี ำ� นวนนกั เรยี นนอ้ ยแตจ่ ำ� นวนหอ้ งเรยี นไมไ่ ดล้ ดลง พัฒนาครู สร้างระบบ Coaching โดยให้ครูที่มีความดังน้ันครูหน่ึงคนอาจต้องสอน 3-4 ห้องเรียนในเวลา เช่ียวชาญในการจัดการเรียนการสอนเป็นผู้ฝึกปฏิบัติเดยี วกนั เปน็ ไปไดย้ ากทจ่ี ะทำ� ใหก้ ารจดั การเรยี นการสอน ให้กับครูท่ียังขาดความช�ำนาญ ส่งเสริมให้มีการสร้างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาน้ีควรได้รับการแก้ไขเพื่อเพ่ิม เครอื ขา่ ยหรอื การเรยี นรรู้ ว่ มกนั ของครู สง่ เสรมิ ใหค้ รนู ำ�ประสทิ ธภิ าพการสอนของครู โดยมีแนวทาง เช่น ปรับ ปัญหาท่ีพบในช้ันเรียนจากประสบการณ์ไปเป็นปัญหาเปลยี่ นระบบอตั รากำ� ลงั ครู การจบั กลมุ่ กนั ของสถานศกึ ษา ในการวจิ ยั เพอื่ หาแนวทางการแกไ้ ข หรอื แนวทางในการขนาดเลก็ ทมี่ คี รไู มค่ รบชน้ั เพอื่ ใชบ้ คุ ลากรและทรพั ยากร พัฒนาการเรียนการสอนต่อไป (สุทธพิ ร จิตต์มิตรภาพ,รว่ มกนั เปน็ ตน้ หากปญั หาถกู แกไ้ ข จะทำ� ใหค้ รสู ามารถ 2553), (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, ม.ป.ป.), (จุฬากรณ์ใช้เวลาในการเตรียมการสอนและจัดการเรียนการสอน มาเสถยี รวงศ,์ 2555), (OraKwo, 2012), (วจิ ารณ์ พานชิ ,อย่างเตม็ ที่ 2555), (ศริ วิ รรณ นกั รู้, 2556) การสง่ เสรมิ การทำ� หนา้ ทข่ี องครใู หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ นโยบายการพฒั นาครทู ช่ี ดั เจน ครอบคลมุ และสามารถท�ำได้ด้วยการฝึกอบรม การแลกเปล่ียนเรียนรู้ เป็นระบบจะส่งผลให้ครูมีความรู้ความสามารถในการการทำ� งานเปน็ ทมี การพัฒนาตนเองด้านไอซีที การลด จัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ การก�ำหนดภาระงาน การสร้างขวัญก�ำลังใจ และการแก้ไขปัญหา มาตรฐานวิชาชีพและการน�ำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้การขาดแคลนครู แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามแนวทางเหลา่ นจี้ ะตอ้ ง ก็เป็นส่วนส�ำคัญในการกระตุ้นให้ครูมีการพัฒนาตนเองได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลในด้านการปรับนโยบาย โดยเปลยี่ นแปลงทง้ั ทศั นคติ วธิ สี อน และบทบาท ทงั้ ยงัให้เอื้อต่อการท�ำหน้าที่จัดการเรียนการสอนของครู ส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประสบการณ์รวมถึงความตระหนักและมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของ ที่หลายหลาย จนกลายเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่สามารถตัวครเู องด้วย น�ำมาปรบั ใช้ภายใตบ้ ริบทของตนเอง เพื่อถ่ายทอดและ 3. แนวทางและความเปน็ ไปไดใ้ นการการพฒั นา เสรมิ สรา้ งความรใู้ หผ้ เู้ รยี นคดิ เปน็ แกป้ ญั หาเปน็ ตลอดจนครใู นศตวรรษท่ี 21 ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีทักษะชีวิต 1) ด้านนโยบาย และวชิ าชพี ตามคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องชาตแิ ละ จากสภาพการณ์ทกี่ ลา่ วขา้ งตน้ จะเห็นได้วา่ นานาชาตติ อ่ ไปการจัดการศึกษาในประเทศไทยต้องมีการพัฒนาให้ 2) ดา้ นการพฒั นาตนเองของครูสอดคล้องกับสภาวการณ์โลก ไม่เพียงเฉพาะครูเท่าน้ัน ผทู้ ไ่ี ดช้ อื่ วา่ “คร”ู เปน็ บคุ คลสำ� คญั ยงิ่ ตอ่ ภารกจิแตห่ มายรวมถงึ การพฒั นาทงั้ ระบบใหเ้ ออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ ในการพัฒนาเยาวชนของชาติ โดยนอกจากครูจะต้องในยคุ สมยั ใหมด่ ว้ ย โดยมแี นวทางทคี่ วรสง่ เสรมิ และเปดิ มจี ติ วญิ ญาณความเปน็ ครแู ลว้ ยงั ต้องเป็นผูท้ รงความรู้มมุ มองของการพฒั นาครใู นศตวรรษที่ 21 โดยหนว่ ยงาน ในเนอื้ หาทจี่ ะถา่ ยทอดสผู่ เู้ รยี น และครยู งั ตอ้ งจดั การเรยี นท่ีเก่ียวข้องจะต้องก�ำหนดนโยบายเพื่อเป็นกรอบในการ การสอนไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนี้ผลติ และพัฒนาครู ก�ำหนดมาตรฐานวิชาชพี ครู พฒั นา ยงั ตอ้ งพฒั นาศษิ ยใ์ หม้ ที กั ษะทจี่ ำ� เปน็ ในการดำ� รงชวี ติ อยู่ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 203ในสงั คม ดงั นน้ั ครจู งึ ตอ้ งเรยี นรทู้ จ่ี ะปรบั ตวั และพฒั นา ครูในศตวรรษท่ี 21 ด้วย อีกท้ังต้องมีทักษะและความตนเองอยเู่ สมอ ไมท่ ะนงวา่ ตนเองเปน็ ผทู้ รงความรู้ แตเ่ ปน็ สามารถรอบด้านท่ีต้ังอยู่บนมโนธรรมและความอดทนผู้เรียนรู้คนหนึ่งซ่ึงพร้อมท่ีจะเรียนรู้ร่วมกันกับนักเรียน เพอื่ สง่ เสริมและพัฒนาศษิ ยใ์ หส้ ามารถสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ย จากภายในตนเอง รวมทง้ั ต้องสร้างศษิ ย์ให้มีทักษะชวี ิต ดงั นั้น สิ่งทค่ี รไู ทยในศตวรรษที่ 21 จ�ำเปน็ ต้อง ตามสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญในปัจจุบันและอนาคตพฒั นา ไม่ใช่เพียงวชิ าความรู้ (Knowledge) แต่รวมถึง อกี ดว้ ยความสามารถและทกั ษะตา่ งๆ (Skills) ท่จี �ำเป็นในการ บทสรุปจัดการเรียนรู้ส�ำหรับการเรียนการสอนในยุคสมัยใหม่ ในศตวรรษท่ี 21 ครเู ปล่ยี นบทบาทจากผูถ้ า่ ยทอดโดยครตู อ้ งเรยี นรแู้ ละฝกึ ฝนทกั ษะการใชค้ ำ� ถามในชน้ั เรยี น มาเป็นผู้แนะน�ำหรือที่ปรึกษา ออกแบบระบบการสอนมคี วามสามารถในการแนะนำ� แหลง่ เรยี นรู้ วธิ กี ารคน้ หา ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อสร้างองค์ความรู้จากความรู้ด้วยตัวเอง ช้ีแนะแนวทางการกลั่นกรองข้อมูล ภายใน ส่งเสริมให้นักเรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างมีวิจารณญาณ เรียนรู้วิธีการวัดและประเมินผล วัดและประเมินผลผู้เรียนด้วยวิธีการและเคร่ืองมือท่ีการเรยี นรทู้ เี่ หมาะสมกบั วธิ กี ารเรยี นรแู้ ตล่ ะแบบ ประเมนิ หลากหลายและเหมาะสมกบั วธิ กี ารหรอื รปู แบบการสอนความก้าวหน้าของเด็กแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้ร่วมกัน มีความสามารถในการฝึกการออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับลักษณะของ ส่ือสารและถ่ายทอดความรู้ จัดสภาพแวดล้อมและนักเรียนและบริบทต่างๆ เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์ผู้เรียน บรรยากาศการเรยี นรใู้ นลกั ษณะเปดิ เพอื่ สง่ เสรมิ นกั เรยี นและส่งเสริมความสามารถท่ีแตกต่างกันของนักเรียน เกดิ การตนื่ ตวั แบบผ่อน (Relaxed alertness) ซึง่ เปน็(multiple intelligences) จดั การเรยี นการสอนทเี่ ชอื่ มโยง ภาวะทเ่ี หมาะสมกบั การเรยี นรู้ นอกจากน้ี ปญั หาอปุ สรรคความรหู้ ลายแขนงไวด้ ว้ ยกนั พฒั นาความสามารถในการ ตา่ งๆ ทขี่ ดั ขวางการประสทิ ธภิ าพการจดั การเรยี นการสอนใชเ้ ทคโนโลยี แสวงหาความรรู้ อบตวั เพมิ่ เตมิ เพอื่ พฒั นา ของครตู อ้ งไดร้ บั การแกไ้ ขใหถ้ กู จดุ ครอบคลมุ และเปน็ตนเองอยู่เสมอ เปิดใจรับการเปล่ียนแปลง และยึดม่ัน ระบบ แนวทางการพฒั นาครตู อ้ งทำ� ควบคกู่ นั ไปทงั้ ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน นโยบายที่มาสนับสนุน และการพัฒนาตนเองของครู(จันทวรรณ ปิยะวัฒน์, 2556), (กลิ่น สระทองเนียม, ซ่ึงต้องอาศัยความตระหนักและความร่วมมือจากทุก2556) ภาคส่วน รวมถึงการเปิดใจรับส่ิงใหม่และการปรับตัว การพฒั นาครใู นศตวรรษท่ี 21 นน้ั จะตอ้ งมกี าร ของครู เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือส�ำคัญในการพัฒนากำ� หนดนโยบายทช่ี ดั เจน การพฒั นาความรคู้ วามสามารถ ความรูค้ วามสามารถของครู รวมถึงใชเ้ พื่ออำ� นวยความของครตู อ้ งทำ� อยา่ งเปน็ ระบบและทำ� ทง้ั ระบบ นำ� เทคโนโลยี สะดวกและเพ่ิมประสิทธิภาพการเรียนการสอนได้เป็นสารสนเทศเข้ามาช่วยในการพัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม อยา่ งดี ดงั นนั้ ทกั ษะดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยขี องครจู งึ เปน็ไม่เพยี งแต่การสนบั สนุนจากภายนอกเทา่ นัน้ ตัวครูเอง สิ่งส�ำคัญท่คี รูจะละเลยไมไ่ ด้จะตอ้ งเปดิ ใจรบั การเปลย่ี นแปลงและพฒั นาตนเองไปสู่ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ที่ 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
204 วารสารปญั ญาภวิ ฒั น์ ปีท่ี 5 ฉบับพิเศษ ประจ�ำเดือนพฤษภาคม 2557บรรณานกุ รมกระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2553). พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ปี 2553. สบื คน้ เมอื่ 18 กนั ยายน 2556, จาก http://203.146.15.33/กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2556). ศธ.จีค้ รปู รบั บทบาทใหมท่ นั กับเทคโนโลยสี อนเดก็ . สบื คน้ เมื่อ 18 กันยายน 2556, จาก http://www.moe.go.th/ก�ำจร ตติยกวี. (2555). ทิศทางเครือข่ายการศึกษาแห่งชาติ (NEdNet). สืบค้นเม่ือ 28 กันยายน 2556, จาก http://203.172.205.25/กลนิ่ สระทองเนยี ม. (2556). การศกึ ษาชาติ รปู้ ญั หาตอ้ งเรง่ ผา่ ตดั . หนงั สอื พมิ พเ์ ดลนิ วิ ส์ ฉบบั วนั ท่ี 27 สงิ หาคม 2556 (รอบบ่าย). สืบคน้ เมอ่ื 18 ก.ย. 2556, จาก http://www.kruthai.info/ขา่ วสำ� นกั งานรฐั มนตรี 212/2556. (2556). 8 นโยบายการศกึ ษา “จาตรุ นต์ ฉายแสง”. สบื คน้ เมอื่ 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.moe.go.th/websm/2013/jul/212.htmlขา่ วสำ� นกั งานรฐั มนตรี 256/2556. (2556). รมว.ศธ.ปาฐกถาพเิ ศษ การศกึ ษาสรา้ งเดก็ ไทยกา้ วทนั โลกยคุ ใหม.่ สบื คน้ เมือ่ 18 กันยายน 2556, จาก http://www.moe.go.th/websm/2013/aug/256.htmlขา่ วส�ำนกั งานรฐั มนตรี 275/2556. (2556). รมว.ศธ.เปิดการเสวนา ICT เพ่ือปฏริ ปู การเรียนการสอน. สืบค้นเมื่อ 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.moe.go.th/ข่าวกระทรวงศึกษาธิการ. (2556). รมว.ศธ.มอบนโยบายแนวทางการผลิตครูให้สอดคล้องกับความต้องการ. สืบค้น เมื่อ 20 ธันวาคม 2556, จากhttp://www.thaigov.go.th/ครใู นศตวรรษที่ 21. (2556). สบื ค้นเม่อื 18 กันยายน 2556, จาก http://www.aircadetwing.com/ครุ สุ ภา. มาตรฐานการประกอบวิชาชพี :มาตรฐานวิชาชพี ครู. (2553). สืบค้นเม่อื 18 กันยายน 2556, จาก http:// www.ksp.or.th/จันทวรรณ ปิยะวัฒน์. (2556). สกัดความรจู้ ากโครงการ “สรอ.ขอความร”ู้ ทกั ษะของครูในศตวรรษที่ 21. สบื ค้น เมอื่ 18 กันยายน 2556, จาก http://www.schoolweb.in.th/จฬุ ากรณ์ มาเสถยี รวงศ.์ (2555). จบั กระแสการพฒั นาครใู นศตวรรษท่ี 21 : ขอ้ คดิ และทศิ ทางเพอ่ื การพฒั นาครไู ทย. สบื ค้นเมอ่ื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.ramajitti.com/ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (ม.ป.ป.). การเรยี นรู้ในยุคสมัยหนา้ : ตอนรูปแบบและทฤษฎี การเรยี นรอู้ นาคต. สืบคน้ เมอ่ื 18 กันยายน 2556, จาก http://thanompo.edu.cmu.ac.thบ�ำรุง เฉียบแหลม. (ม.ป.ป.). ข้อมลู จ�ำเพาะส�ำหรบั ศูนยบ์ ริการ (MOENet Service). สบื ค้นเมื่อ 28 กันยายน 2556, จาก http://www.moe.go.th/stm/read/moenet.shtmlปจั จยั ทเ่ี ปน็ อปุ สรรคของการทำ� หนา้ ทคี่ ร.ู (ม.ป.ป.). สบื คน้ เมอ่ื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.kruthai.info/ view.php?article_id=3693ปจั จยั สง่ เสรมิ การทำ� หนา้ ทข่ี องครใู หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ. (ม.ป.ป.). สบื คน้ เมอื่ 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www. kruthai.info/view.php?article_id=3693ไพฑรู ย์ สนิ ลารตั น.์ (2556). เปดิ 6 อุปสรรคการท�ำงานครูไทย สอนหนัก ขาดจิตวญิ ญาณ ไรท้ ักษะ ICT. สืบคน้ เมือ่ 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.enn.co.th/5942ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ที่ 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 205ไมตรี อนิ ทรป์ ระสทิ ธ.์ิ (2556). อนาคตครไู ทย กบั สอ่ื การเรยี นการสอน D-book ในยคุ Tablet. สบื คน้ เมอ่ื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.kku.ac.th/news/รงุ่ แกว้ แดง. (2543). การศึกษากบั ก�ำลังอ�ำนาจของชาติ. สืบคน้ เมือ่ 18 กันยายน 2556, จาก http://onec.go.th/ pubplication/4312019/tea_poll.pdfรุ่งนภา จติ รโรจนรักษ.์ (2556). เปิด 6 อุปสรรคการทำ� งานครไู ทย สอนหนกั ขาดจิตวญิ ญาณ ไรท้ ักษะ ICT. สบื คน้ เมือ่ 18 กันยายน 2556, จาก http://www.enn.co.th/5942วจิ ารณ์ พานชิ . (2555). ครแู หง่ ศตวรรษท่ี 21 ตอ้ งชว่ ยแกไ้ ขความรผู้ ดิ ๆ ของนกั เรยี น. สบื คน้ เมอ่ื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://lripsm.wix.com/ . (2555). บทบาทหนา้ ทขี่ องครู และการทดสอบมาตรฐานในศตวรรษท่ี 21. สบื คน้ เมอ่ื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://lripsm.wix.com/ . (2555). เปดิ 6 อปุ สรรคการทำ� งานครไู ทย สอนหนกั ขาดจติ วญิ ญาณ ไรท้ กั ษะ ICT. สบื คน้ เมอ่ื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.enn.co.th/5942ศริ ิวรรณ นักร.ู้ (2556). ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อการจดั การศึกษา. สบื ค้นเมือ่ 18 กนั ยายน 2556, จาก http:// www.learners.in.th/blogs/posts/535256ส�ำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ. (2556). สรุปการสัมมนาระดับชาติ การศึกษาเพื่อปวงชนกับองค์การยูเนสโก. สบื คน้ เมอื่ 18 กนั ยายน 2556, จาก http://www.bic.moe.go.th/ส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2554). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 พ.ศ.2555-2559. สืบคน้ เม่ือ 18 กันยายน 2556, จาก http://www.nesdb.go.th.สทุ ธพิ ร จติ ตม์ ติ รภาพ. (2553). การเปลยี่ นแปลงโลกของการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 และการพฒั นาสู่ “ครมู อื อาชพี ” ใน สดุ าพร ลกั ษณยี นาวนิ (บรรณาธกิ าร). (2553). การเรยี นรสู้ กู่ ารเปลยี่ นแปลง.สมาคมเครอื ขา่ ยการพฒั นา วิชาชีพอาจารย์และองค์กรอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย. ส�ำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวง ศึกษาธกิ าร.OraKwo. (2012). Teachers’ Challenges in 21st Century : Pedagogy, Standardized Testing, and Paychecks. สบื คน้ เม่อื 18 กนั ยายน 2556, จาก http://lripsm.wix.com/21st#!-21/c6heUnesco. (1996). Report to UNESCO of the International Commission on Education for the Twenty-First Century. สบื ค้นเมอ่ื 18 กันยายน 2556, จาก http://www.unesco.org/education/pdf/15_62.pdfUNESCO Institute of Statistics. (2000). Hours of instruction for pupils aged 11 (most recent) by country. อ้างถึงใน เด็กไทยเรยี นหนกั แคไ่ หน?. สืบคน้ เมือ่ 18 กันยายน 2556, จาก http://whereis thailand.info/2012/01/pupils-class-hours/ ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
206 วารสารปัญญาภวิ ฒั น์ ปีท่ี 5 ฉบับพเิ ศษ ประจำ� เดือนพฤษภาคม 2557 Passkorn Ruengrong graduated bachelor degree of education in Educational Technology in 1992 from Silpakorn University. In 1996, he finished master degree of education from Chulalongkorn University in audiovisual education major and in 2006, he completed his doctorate degree of philosophy in computer education major from King Mongkut’s University of Technology North Bangkok. Now he is assistant professor at Naresuan University. Brayat Jiravarapong He got associate professor and now he is educa- tional technology and communications special lecturer in Faculty of Education at Naresuan University Wanlicha Manyum finished her Bachelor Degree of Science in Computer Science, from Uttaradit Rajabhat University in 2003. In 2007, she graduated Science Major in Information and Technology Internet from Naresuan University Phayao Campus. She is currently a government teacher in Piriyalai School Phrae. Office of The Basic Education Commission, Ministry of Education. And she is taking a leave of absence and studying in Ph.D.Educational Technology and Communications, Faculty of Education, Naresuan University. Wilawan Somyaron received her Bachelor Degree of Arts in English major from Naresuan University in 2003. In 2007, she graduated Educa- tional Technology and Communications major from Naresuan University. She is currently a full time lecturer in Faculty of Education, Naresuan University.ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ที่ 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Panyapiwat Journal Vol.5 Special Issue May 2014 207Saranyu Muendet received his Bachelor Degree of Engineering, majorin Petrochemical and Polymeric Materials from Silpakorn Universityin 2005, He graduated Master of Education major in EducationalAdministration from Ramkhumhaeng University. He is currently a full timelecturer in Faculty of Education, Naresuan University.Chamaiporn Srisurat finished bachelor degree of business administrationin Tourism Management Major (International Program) in 2007 with secondhonorable and In 2011, she graduated master degree of education inEducational Technology and Communications Major from NaresuanUniversity. Presently, she is studying doctorate degree in EducationalTechnology and Communications Major at Naresuan Universirty. She isacademic officer at Foreign Student Office, Student Affairs Division,Naresuan University. ผา่ นการรบั รองคณุ ภาพจาก TCI (กลมุ่ ท่ี 1) สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: