Ebook

สุพรรณบุรี สำ เ นี ย ง เ อ ก ลั ก ษ ณ์ อั น น่ า ห ล ง ใ ห ล กันยายน 2562 | 50.00 บาท วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว ที่ ส ะ ท้ อ น ถึ ง ค ว า ม เ ป็ น ภ า ค ก ล า ง อ ย่ า ง ถ่ อ ง แ ท้ WWW.INJUNNIE.CO.TH

ชุ ม ช น ต ล า ด เ ก่ า ริ ม แ ม่ น้ำ ท่ า จี น สามชุก ตลาดร้อยปี ตลาดสามชุก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน อำเภอ ที่มาของชื่อ ตลาดสามชุก ฟังแล้วแอบมึน แต่เดิม เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรีเป็นตลาดจีนโบราณ อำเภอสามชุกเรียกว่า ท่ายางจากนั้นเกิดการค้าขาย ผสานการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในสมัยอดีต เมื่อ 100 ปี อันคึกคัก ชาวบ้านเดินเรือมาบ้าง พ่ อค้ามาจากเหนือ ก่อน ตลาดสามชุก ถือเป็นแหล่งสำคัญในการค้าขายแลก บ้าง ใต้บ้าง บริเวณนี้เลยถูกเรียกว่า สามแพร่งพู ด เปลี่ยนสินค้าของจังหวัดสุพรรณบุรี ไปพู ดมาเพี้ ยนเป็น สามเพ็ ง และสำเพ็ งในที่สุด บรรยากาศโดยรอบในปัจุจบันคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตชุมชน แต่ยังไม่จบแค่นั้น ปรากฎหลักฐานกล่าวไว้ในนิทาน ดั้งเดิม ร้านค้า บ้านเรือนเป็นอาคารไม้เก่าแก่ ข้าวของ พื้ นบ้านย่านสุพรรณว่า ในระหว่างที่คนมารอขาย เครื่องใช้ ขนม อาหารที่นำมาตั้งขายในตลาด ล้วนตั้งใจ สินค้าได้ตัดไม้ไผ่มาสานเป็นภาชนะสำหรับใส่ของขาย ไม่ใช่จำลอง เป็นการสืบเนื่องวัฒนธรรมจากอดีตซึ่งบ่ม เรียกว่า “กระชุก” ชาวบ้านจึงเรียกว่า “สามชุก” มา เพาะมาเป็น 100 ปี ถึงปัจจุบัน (ก็ว่ากันไปได้นะ!) แบบแผนของศิลปะ : ชุนชนเก่าที่ยังคงกลิ่น อายเหมือนสมัยก่อน ทั้งสิ่งก็สร้างและผู้คน

สุ พ ร ร ณ บุ รี แ ด น ลู ก ห ล า น มั ง ก ร พิ พิ ธภัณฑ์ลูกหลาน พั นธุ์มังกร พิ พิ ธภัณฑ์ลูกหลานพั นธุ์มังกร หรือ อุทยานมังกร การจัดแสดงนิทรรศการใช้สื่อจัดแสดงที่ทันสมัย เช่น สวรรค์ สร้างขึ้นตามความต้องการของ นายบรรหาร ภาพยนตร์ ระบบโสตทัศนูปกรณ์ที่ควบคุมด้วย ศิลปอาชา ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้เริ่ม คอมพิ วเตอร์ แสง เสียง หุ่นจำลอง นอกจากนี้ยังมีสิ่ง ออกแบบและจัดสร้างพิ พิ ธภัณฑ์ลูกหลานพั นธุ์มังกรขึ้น อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้องฉายภาพยนตร์ ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่ อหลักเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี ห้องรับฝากของ ห้องจำหน่ายหนังสือ ของที่ระลึก และ ฝั่ งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ห่างจากฝั่ งแม่น้ำไป ห้องเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ตามถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง สุพรรณบุรี ภายในห้องจัด แสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ สมัยตำนานการสร้างโลกยุคแรกเริ่มทางประวัติศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นเพื่ อนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนใน ลำดับราชวงศ์ตั้งแต่ยุคหวงตี้ เหยียนตี้ ยุคเซี่ย ซาง อัน ประเทศไทย ตลอดจนประวัติศาสตร์และอารยธรรมจีน ถือเป็นยุคปฐมกษัติย์ ราชวงศ์โจว ราชวงศ์ฉิน ราชวงศ์ เพื่ อเป็นอนุสรณ์สัมพั นธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 20 ฮั่นยุคสามก๊ก ราชวงศ์สุย ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ซ่ง รา ปีใน พ.ศ. 2539 ชวงศ์หมิง ถึงราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย สมัย เปลี่ยนแปลงการปกครอง และแสดงประวัติความเป็นมา แบบแผนของศิลปะ :สถาปัตยกรรมที่ผสม ของพี่ น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ความเป็นไทยและจีนเข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นการเล่าเรื่องความสัมพั นธ์ฉันท์พี่ -น้อง ของไทยและจีน

ท่ อ ง โ ล ก ก ว้ า ง ข อ ง สั ต ว์ ไ ป กั บ บึงฉวาก อุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่ง แรกของประเทศไทย บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติแต่เดิมเป็นพื้ นที่เขตห้าม บึงฉวาก ตั้งอยู่บนพื้ นที่กว่า 2,700 ไร่ของอำเภอ ล่าสัตว์ป่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ห้ามล่าเป็นสัตว์ เดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอหันคา จำพวกนก มีมากกว่า 50 ชนิด จังหวัดชัยนาท ริมบึงฉวาก มีบรรยากาศร่มรื่น ลมพั ด เย็นสบายตลอด ในบริเวณบึงเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดง ปัจจุบันได้จัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็น และชมพู ในช่วงตอนเช้าบัวจะบานสวยงาม นกเป็ดแดง โครงการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่พระบาท ฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัวในช่วงฤดูหนาว ระหว่าง สมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมและนกจะทยอยกลับใน บพิ ตร ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๕๐ ปี โดยมี ช่วงเดือน เมษายน การสร้างกรงนกขนาดใหญ่ มีตู้ปลาน้ำจืด ตู้ปลา น้ำเค็ม ตู้ปลาช่อนอเมซ่อน บ่อจระเข้ และอุทยาน มีศาลาสำหรับเป็นที่พั กผ่อนหย่อนใจของประชาชน มี ผักพื้ นบ้านเพื่ อการยังชีพ บริการขี่จักรยานน้ำ ส่วนหนึ่งของพื้ นที่บริเวณนี้ทาง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดทำ โครงการบึงฉวาก เฉลิมพระเกียรติ ขึ้น ประกอบไปด้วย ส่วนของสวนสัตว์ และสถานแสดงพั นธุ์สัตว์น้ำ อุทยานผักพื้ นบ้าน แบบแผนของศิลปะ : เป็นการผสม ผสานทั้งวิถีชีวิตของคนและสัตว์ โดยให้ความสนุกสนานและความรู้

เรียนรู้วิถีชีวิต ไป กับ หมู่บ้านอนุรักษ์ ควายไทย หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย แบบแผนของศิลปะ : วิถีชีวิต ๆ ว่า \"บ้านควาย\" จัดตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 25 มีนาคม ดั้งเดิมของคนไทยในภาคกลาง พ.ศ.2545 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 70 ไร่ ติดถนนทางหลวง เรียนรู้ทุกสิ่งผ่านความเรียบง่าย หมายเลข 340 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของอำเภอ ศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านควาย เป็น หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จึงเล็งเห็นความสำคัญของ โครงการที่สะท้อนถึงวิถีการดำรงชีวิตของชาวไทย ควาย ซึ่งอยู่คู่กับชาวนาไทยมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ชนบทในสมัยก่อน ซึ่งมีความสัมพั นธ์และเชื่อมโยง ช่วยในเรื่องของการผลิตข้าว การทำไร่ ไถนา เพื่ อ กับควาย เป็นอาหารป้อนให้กับคนทั้งประเทศ เป็นเพื่ อนคู่ทุกข์ คู่ยากของชาวนาไทย ซึ่งสอดคล้องกับในยุคปัจจุบัน สำหรับการท่องเที่ยวของหมู่บ้านอนุรักษ์ควาย ถือว่าเครื่องจักรเข้ามาแทนที่ของควายหมดสิ้นแล้ว ไทย เน้นการท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ อันดับที่ 1 ควายจึงหมดภาระหน้าที่ ในการทำไร่ไถนา ซึ่งกระนั้น คือเน้นอนุรักษ์เกี่ยวกับเรื่องควาย อันดับที่ 2 เกี่ยว เองทำให้ควายลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว กับเรื่องข้าว เพราะจังหวัดสุพรรณบุรี ถือว่าเป็น จังหวัดที่มีความโดดเด่นทางด้านเกษตรกรรม คือ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จึงเป็นจุดหนึ่ง ที่ช่วย การทำนา เป็นจังหวัดที่ผลิตข้าวติด 1 ใน 5 ของ ให้ควายอยู่คู่กับชาวนาไทยตลอดไป อีกหนึ่งส่วนคือ ประเทศ เป็นโครงการที่สนองนโยบายของรัฐ โดยการสร้าง งานสร้างรายได้ และสร้างโอกาสให้แก่ชุมชน และ ชุมชนใกล้เคียง ในการทำมาหากิน และประกอบอาชีพ เพื่ อยังชีพอย่างพอเพี ยง

พระพุ ทธรูปที่แกะ ส ลั ก บ น ห น้ า ผิ น ที่ ใ ห ญ่ ที่ สุ ด ใ น โ ล ก หลวงพ่ ออู่ทอง หรือชื่อเรียกเต็มๆ คือ พระพุ ทธปุษยคีรีศรี นอกจากนี้บริเวณหน้าผาที่แกะสลักหลวงพ่ อ สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในบริเวณ วัดเขาทำเทียม อำเภออู่ทอง อู่ทอง ก็ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีน้ำตกและภูเขา จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระพุ ทธรูปแกะสลักผาหินที่มีขนาด สวยอุดมสมบูรณ์ รวมถึงแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ที่เกิด ใหญ่ที่สุดในโลกเลยค่ะ องค์หลวงพ่ ออู่ทอง จะมีความสูง จากการเป็นเหมืองหินเก่านั่นเอง เลยทำให้เหมาะมากๆ กว่า 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร หน้าตักกว้าง 65 ที่จะเป็นที่ตั้งของพระพุ ทธรูปแกะสลักนี้ เมตร ซึ่งอยู่ในบริเวณของหน้าผาที่มีชื่อว่า ผามังกรบิน โดย จะมีพื้ นที่ราว 100 ไร่ อีกทั้งหน้าผารอบๆ ยังมีการแกะสลักเรื่องราวต่างๆ ของพระพุ ทธศาสนาไว้อีกด้วย แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อก่อนนั้นพื้ นที่ตรงนี้จะเป็นเหมืองหินเก่า ที่หมดสัมปทาน เพราะมีศาลาริมน้ำไว้สำหรับชมวิวและพั กผ่อนได้ ส่วน ไปแล้ว แต่ได้มีการขออนุญาตจากทางจังหวัดสุพรรณบุรี บริเวณด้านหลังองค์พระ ก็จะมีอุโมงค์ที่เราสามารถ และกรมป่าไม้เพื่ อสร้างที่นี่ขึ้นมาค่ะ และด้วยความที่เมือง เดินลอดไปทะลุอีกฝั่ งได้ ในบางครั้งจะมีพระภิกษุสงฆ์ อู่ทองนั้น ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุ ทธ มานั่งทำวัตรอยู่ในอุโมงค์นี้ด้วย ศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ ตามหลักฐานทางโบราณคดีที่ ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย ส่งพระโสณะ และพระอุ ตตรเถระ เข้ามาในต้นพุ ทธศตวรรษที่ 3 จากหลักฐานจารึก ศิลา ปุษยคีรี และ ธรรมจักรบนยอดเสาอโศกนั่นเองค่ะ แบบแผนของศิลปะ :ประติมากรรมนูนสูงที่ ใหญ่ที่สุดในโลก บอก เล่าเรื่องแห่งความ ศรัทธาในศาสนาพุ ทธ