ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ท่ี 50 ๓๓. สโู ร สโี ห อิว=สรู สโี ห กลา เพยี งดังสีหะ วิเสสโนปมบท ชนิด อุปมานตุ ตรบท. ๓๔. สูโร สโี ห=สรู สโี ห สีหะกลา วิเสสนบุพพ. กัมม. ๓๕. สารีปตุ ฺโต เถโร=สารีปตุ ฺตตฺเถโร พระสารบุตรผูเถระ วเิ สสน- นตุ ตร. กัมม. ๓๖. สารีปตุ โฺ ต เถโร=สารีปตุ ฺตตฺเถโร พระเถระช่ือวาสารีบตุ ร วิเสสนบพุ พ. กมั ม. ๓๗. น ผาสกุ = อผาสกุ (ทุกฺข ทกุ ข) มใิ ชค วามสาํ ราญ อภุ ย- ตัปปุรสิ ะ ๓๘. นตถฺ ิ ตสฺส ผาสุกนฺต=ิ อผาสกุ (กลุ ตระกลู ) มีความสําราญ หามไิ ด น บุพพบท พหุพพิหิ. ๓๙. สูกโร อิว เปโต=สกู รเปโต เปรตเพยี งดังสุกร วิเสสโนปมาบท ชนดิ อปุ มาบพุ พบท. ๔๐. สกู รสสฺ สีส อวิ สสี ยสสฺ โส=สูกรสโี ส ฉฏั ฐอี ุปมา. พหุพพิหิ สูกรสโี ส เปโต=สกู รเปโต เปรตมศี ีรษะเพียงดังศีรษะแหงสุกร วเิ สสนบุพพ. กมั ม. มฉี ัฏฐีอปุ มาพหุพพหิ ิ เปนทอง (เปนมัชเฌ- โลป) ๔๑. ปรุ สิ สสฺ สทฺโท=ปรุ ิสสทฺโท เสียงแหงบุรุษ ฉฏั ฐตี ปั ปุริสะ. ๔๒. ปรุ โิ ส เอว สทโฺ ท=ปรุ สิ สทโฺ ท ศัพท คือ ปรุ สิ ะ อวธารณบุพพ. กมั ม. ๔๓. สทฺเท สฺา=สทฺทสฺา ความสาํ คัญในเสยี ง สัตตมีตัปปรุ สิ ะ.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนาท่ี 51 ๔๔. สทฺโท อิติ สฺ า=สทฺทสฺ า ความสาํ คัญวาเสยี ง สมั ภาวน บพุ พ. กัมม. ๔๕. าณ ชาล อิว=านชาล ญาณเพยี งดงั ขาย วเิ สสโนปมบท ชนดิ อปุ มานุตตรบท. ๔๖. าณ เอว ชาล= าณชาล ขายคือญาณ อว. กมั ม. ๔๗. นทิ ฺทรถ มีแลวในแบบ. ๔๘. นตถฺ ิ ตสสฺ ทรโถต=ิ นิททฺ รโถ มีความกระวนกระวานหามไิ ด น บพุ พบท พหพุ พิห.ิ ๔๙. เทวโว ราชา=เทวราชา เทวดาผูพระราชา วเิ สสนตุ ตร. กมั ม. ๕๐. เทวสสฺ ราชา=เทวราชา พระราชแหงเทวดา ฉฏั ฐีตปั ปรุ สิ ะ.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 52 อธบิ ายตัทธิต พระปยทสั สี (ลภั ปยทสสฺ ี ป.ธ. ๘) วัดบรมนิวาส เรยี บเรียง ตทั ธติ เปนแผนกหนง่ึ แหง วจีวภิ าค สาํ หรับตดั ทอนศัพทให นอ ยลง มิใหร งุ รงั ในสวนไมจ ําเปนแลว ใชปจจัยแทนไว แตแ ปลได ความเทาเดมิ เชน ราขคเห--ขาโต เกดิ ในกรงุ ราชคฤห ตัดหรอื ลบ ชาต เสีย แลว ลง ณกิ ปจ จัยแทนไวที่ ราชคห เปน ราชคหโิ ก แปลวา เกดิ ในกรงุ ราชคฤห หรอื นคเร-ชาโต เกดิ ในนคร ลง ณ ปจจัย เปน นาคโร แปลวา เกดิ ในนคร กเ็ หมือนกนั . ตัทธติ คําน้ี แปลวา สทั ทรปู อนั อาจารยทาํ ใหส ําเรจ็ ดว ยปจ จัย มี ณ เปน ตน เปน ประโยชนแกเ นอื้ ความแหงศพั ทมี วาสฏิ เปน ตน โดย ว.ิ วา ตสฺส หิต=ตทธฺ ติ ย ณ ปจจฺ ยาทกิ ารยิ สัททรูปอนั อาจารยท ําใหส าํ เรจ็ ดวยปจจัยมี ณ เปน ตน อนั ใด หติ เปน ประโยชน ตสฺส วาสฏิ าทิกสสฺ อตถฺ สสฺ แกอรรถ มี วาสฏิ เปน ตน เหตนุ น้ั ต ณ ปจจฺ ยาทิการิย. ...น้นั ตทฺธติ ชอื่ วา ตัทธติ . (ตทฺธติ เปน ประโยชนแ กอรรถ มีวาสฏิ เปนตนน้นั ) แปลง ห เปน ธ แลว ซอน ท เปนตัปปุรสิ สมาส. [ ตัทธิต ตา งจากสมาส ] ตัทธิต กบั บทสมาส ตางกนั คอื สมาส สาํ หรบั ยอบท
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 53 หลาย ๆ บทเขาดว ยกนั โดยวธิ ีลบวิภัตตขิ องศพั ทหนาบาง ไมลบ บา ง เพื่อปอ งกันความรังรังของวิภตั ติและบทซ่งึ ไมจําเปนในระหวาง ศพั ทท้งั ๒ เสีย และบางทีลบศัพททา มกลางเสยี โดยอาศัยศพั ทห นา และศัพทห ลังเปนหลัก วธิ นี ้เี รยี กวา 'มัชเฌโลปสมาส' แปลวาสมาส ลบศพั ทท ามกลาง เชน อสเฺ สน ยตุ ฺดต รโถ ยอ เขาสมาสเปน อสฺสรโถ โดยลบ ยุตฺต เสีย กค็ งแปลวา รถเทยี มดวยมา เปนตน ไดความวา สมาสนนั้ ลบวิภัตติ ของศพั ทหนาอยางหนึ่ง ไมล บอยางหนึ่ง. และ ลบศพั ทท ามกลางอยา งหนงึ่ . สว นตทั ธิต ถามี ๒ ศัพทหรือมากกวานน้ั ซ่ึง มีเนอื้ ความ แปลไดเ ตม็ ท่ีแลว ก็ตาม ตอ งลบศพั ทหลังทง้ิ เสยี แลวลงปจจยั แทน ไว กแ็ ปลไดค วามเทาเดิม เชน ธมฺเม=นิยตุ โฺ ต แปลวา ประกอบ ในธรรม ลบ นยิ ุตตฺ เสีย ลง ณกิ ปจจัยแทนไวท ่ี ธมฺม เปน ธมฺมิโก แปลวา ประกอบในธรรม ดงั นี้ นับวา ทอนศัพทใหน อ ย ลง และทงั้ ความก็ไมเสยี , ศพั ทน ี้ถาเปนสมาส กล็ บแตวภิ ัตติของ ศพั ทหนา แลวยอเขา สมาสเปน ธมมฺ นยิ ตุ โฺ ต เทานัน้ . สวนตทั ธิต เปน ธมมฺ ิโก ธมมฺ นิยตุ โฺ ต กด็ ี ธมมฺ โิ ก ก็ดี แปลวา ประกอบ ในธรรมเหมอื นกนั นี้ความตางกันของตัทธติ และสมาส. [ หลักของการแบงตทั ธิต ] ตัทธิต นน้ั โดยยอ แบง เปน ๓ อยา ง คือ สามญั ญตทั ธิต ๑ ภาวตทั ธิต ๑ อพั ยยตัทธิต ๑ เกณฑท ี่แบงตัทธิตออกเปน ๓ น้ี
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนาที่ 54 หมายเฉพาะทใ่ี ชไดทั่วไปโดยมาก คอื สามญั ญตัทธติ นัน้ ใชป จจยั แทน ศพั ทไดท ั่วไป ทง้ั ที่เปน นามนาม คุณนาม และกิรยิ าดวย จึงไดช ่อื อยางน้นั . ภาวตทั ธติ ใชปจจยั แทนไดเฉพาะ ภาว ศพั ทอยางเดยี ว อพั ยยตทั ธติ ใชป จ จัยลงท่หี ลงั สพั พนาม สําเรจ็ รูปเปนอัพยยศพั ท แจก ตามวิภตั ติทั้ง ๗ ไมได. สามญั ญตทั ธิต ท่วี าลงปจ จยั แทนศัพทนาม ทง้ั ๒ นน้ั ดงั น้ี :- แทนนามนาม เชน ในโคตตตทั ธิต แทน อปจฺจ ซง่ึ เปนศัพท นาม แปลวา เหลากอ โดย วิ. วา วสฏิ สสฺ อปจจฺ วาสฏิ โ แปลวา เหลา กอแหง วสิฏ ชอ่ื วา วาสิฏ เปน ตน. แทนคณุ นาม เชน ในพหลุ ตทั ธิต แทน ปกตศิ พั ท ซง่ึ แปลวา ปกติ หรอื แทน พหุล ศพั ท ซง่ึ แปลวา มาก อันนับวา เปน คุณศัพท โดย ว.ิ ในตัทธนิ ้วี า อภิชฺฌา อสสฺ ปกติ อภชิ ฺฌาลุ แปลวา อภิชฌฺ า เปนปกติ ของบคุ คลน้ัน (บุคคลนั้น) ช่ือวา มีอภชิ ฌาเปนปกติ. ทยา อสสฺ พหลุ า ทยาลุ ความเอน็ ดู ของบคุ คลนนั้ มาก (บคุ คลนนั้ ) ชื่อวา มีความเอน็ ดูมาก เปนตน . แทนกริ ยิ า ขอ น้ใี ชป จ จัยแทนไดทัง้ กริ ยิ าอาขยาต และกริ ยิ า กติ ก. แทนกริ ิยาอาขยาต เชน ใน ตรตยฺ าทิตทฺ. วิ. วา นาวาย ตรตีติ นาวโิ ก ชนใด ยอ มขาม ดว ยเรือ เหตนุ น้ั (ชนนนั้ ) ชอ่ื วา นาวกิ ะ ผขู ามดว ยเรือ. นใี้ ชป จจัยแทน ตรติ ซงึ่ แปลวา ยอ มขา ม ซึ่งเปนกริ ิยาอาขยาต. ใชแ ทนกริ ยิ ากติ ก เชน ว.ิ ธมเฺ ม โิ ต ธมฺมโิ ก แปลวา ชนตงั้ อยแู ลวในธรรม ชอ่ื วา ธมมฺ ิก. ในทน่ี ใ้ี ช ณกิ ปจ จัย
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนาท่ี 55 แทน ติ ศัพท ซงึ่ แปลวา \"ต้งั อยูแลว\" ซงึ่ เปน กิรยิ ากติ ก. [ ศัพทท่ีปจจัยในตัทธิตลงได ] ตัทธิต มปี จ จัยเปน หลักสําคญั ผูศึกษาพึงกาํ หนดใหด ี เมอื่ จาํ ไดดแี ลว จะรสู กึ วาสะดวกในการกาํ หนดตทั ธิตใหแมน ยาํ ปจจัยใน ตทั ธิต สําหรบั ลงในศพั ทท เี่ ปนนามทงั้ ๓ และกริ ิยานามที่สําเร็จมาจาก นามกิตก. (ยกเวนกิริยาอาขยาตและกริ ยิ ากิตก) เมื่อลงปจ จัยแลว สาํ เรจ็ รปู เปนนามนามบาง คณุ นามบาง และอพั ยยศัพทบา ง. ท่ีสําเรจ็ เปน นามนาม เชน โคตตฺ ตท.ฺ สมฺหตท.ฺ และภาวตทฺ. ที่เปน คณุ นาม เชน ตรตยฺ าทิตท.ฺ เสฏ ตท.ฺ เปนตน ที่เปนอัพยย เชน วภิ าคตท. เปนตน. เมื่อลงปจ จัยแลวแจกในลงิ คท ง้ั ๓ ไดก ม็ ี แจกไดเฉพาะ ๒ ลงิ ค และลิงคเดยี วก็มี ตามการนั ตข องตน ๆ แจกไมไ ดเลยกม็ ี เพราะเปน อัพยยศพั ท. [ จําแนกชือ่ ตัทธิต ] สามัญญตทั ธติ แบงออกเปน ๑๓ อยา ง คอื โคตตฺ ตท.ฺ ตรตฺยาทติ ทฺ. ราคาทติ ทฺ. ชาตาทติ ท.ฺ สมุหตท.ฺ านตท.ฺ พหลุ ตทฺ. เสฏ ตทฺ. ตทสสฺ ตถิตทฺ. ปกตติ ทฺ. ปรู ณตทฺ. สงฺขยาตท.ฺ วิภาคตท.ฺ แตในคัมภรี ศัพทศาสตรทัง้ หลายทา นแบงเปน ๑๕ อยา ง คอื เตมิ นสิ สฺ ติ ตท.ฺ และอุปมาตทฺ. แตส มเดจ็ พระมหาสมณเจา ฯ ทรงเห็นวา ไมไ ดใ ชท ่ัวไป จงึ มไิ ดทรงจดั ไวใ นที่น้ี คงจัดแบง เพียง ๑๓ อยาง ตาม
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนาที่ 56 แบบของพระอมราภริ กั ขิต (เกดิ ) วัดบรมนวิ าส. [ อํานาจ ณ ปจ จยั และปจจัยเนอื่ งดว ย ณ ] ไดพูดไวแลววา ตัทธิต มีปจจยั เปน หลกั พงึ ทราบเรอื่ งของ ปจ จยั เสยี กอ น ปจจัยนน้ั เนื่องดว ย ณ อยางหน่ึง เน่ืองดวยพยัญชนะ อ่ืนอยางหนึ่ง.ทเ่ี นอื่ งดว ย ณ เมือ่ ลงไปแลว ณ น้นั ตอ งลบท้งิ เสีย ไมปรากฏเลย. แตใ หพ ึงสงั เกตอยางน้ี คอื ถาศัพทใ ดมีสระเปนรสั สะ มีพยญั ชนะสงั โยค คอื สะกดท่ไี มออกเสียอยขู างหลงั เชน กจฺจ โมคฺคลลฺ ี ทกขฺ เปน ตน หรอื ทเี่ ปนสระทฆี ะอยแู ลว เชน โรหณิ ี นาวา สาวตถฺ ี ดังนี้ ณ ปจจัยไมม อี ํานาจอะไร ตอ งลบทงิ้ เสีย เหลอื ไวแ ต สระที่ ณ อาศยั และสระของศัพทท่ีจะลง กต็ องถกู ลบดว ย แลว เอา สระที่ ณ อาศยั ไปลงไวที่ศพั ทน้ัน เชน กจฺจ ศัพท ลง ณาน ปจจัย ตองลบ ณ เสีย เหลอื แต- าน ไปตอเขาเปน กจจฺ าโน. หรือ นาวา ศพั ท ลง ณิก ปจ จัย. ก็ใหล บ ณ เสีย เหลือไวแ ต -กิ แลว ลบสระ-า ท่ี นาวา เสยี -กิ ไมม ที อี่ าศยั ตองเอาไปตดิ ไวก บั นาว จึงเปน นาวิโก แมศัพท อื่น ๆ ก็เชนกัน. ถาหากศพั ทนั้นมสี ระเปนรสั สะลว น ไมม พี ยัญชนะสงั โยคอยู เบื้องหลงั ดวยอํานาจของ ณ น่ันเอง บงั คับให พฤทธิ คือ ทีฆะ อยางหน่ึง,วิการ คอื ทาํ ใหผดิ รปู เดมิ อยางหน่ึง, ทีฆะ น้นั คอื สระสนั้ ใหยาว เชน อ ทฆี ะใหเปน อา, อิ ใหเ ปน อ,ี อุ ใหเปน อ,ู วกิ ารน้ัน เชน อิ วิการใหเ ปน เอ, อุ ใหเ ปน โอ บางทกี เ็ อา โอ
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธิต - หนาที่ 57 เปน อว ตอไปอกี . อีกอยา งหนง่ึ ปจ จยั ที่เนือ่ งดว ย ณ คือ ปจจยั ทมี่ ี ณ ติดอยูดวย เชน ณย ปจ จัย เมอ่ื ลบ ณ แลวยงั เหลือ ย เอา ย น้ีแหละไปผสม กับพยัญชนะที่สดุ ของศัพทท่ีจะลงนนั้ แปลงรูปไดต า ง ๆ เชนใน ภาว- ตัทธิต แปลงแลวสาํ เรจ็ รูปเปน ปณฑิ ิจจฺ โกสลลฺ เปนตน อนั จะ กลาวขางหนา. อกี อยา งหน่งึ จําพวกศัพทท ่อี นโุ ลกกับพยญั ชนะสงั โยค แต ไมใ ชสังโยคแท เชน สกยฺ เปนตน ศพั ทน ม้ี ี ก อยูขางหลงั เปน ท้ัง ตวั สะกด เปนทง้ั ตัวออกเสียงคนละครึง่ เวลาเขียนตอ งหมายดว ยยมการ คอื ไมค วบ [ ] แตเด๋ียวน้ีใชจดุ ลาง ใหจุดตรงตวั ก อานออกเสยี ง พรอมกน กบั ย และใหอา นสะกด ส ขางหนาดว ย ศพั ทเชนนี้ ณ ปจ จยั มีอํานาจทีฆะได จึงเปนรปู สากยฺ ปตุ ฺติโก. ถาเปนสงั โยคจริง ๆ เชน สกฺก มคฺค กติ ฺต เปน ตน พฤทธไิ มไ ด. ประโยชนข องปจ จัย ปจจยั ในตัทธติ ทง้ั หมดนี้ ขอ ใหญใจความก็คอื สาํ หรับแทนศัพท เทา นนั้ เอง, คาํ วา แทนน้นั หมายความวาศพั ททีถ่ กู แทนไมป รากฏ เพราะลบท้งิ เสยี แลว จะปรากฏเห็นไดกแ็ ตป จ จยั เทาน้ัน ย่งิ กวาน้ัน บางศัพทแมลบและลงปจ จยั แลว ก็ไมป รากฏดว ยก็มี ฉะนนั้ จงึ ตอง ใชค วามสงั เกตใหมาก และเทียบเคียงหาหลกั ใหใกลตอ ความเปนจริง พรอ มดว ยการวนิ ิจฉัย เพราะวาตทั ธิตมิใชอ ยา งเดยี ว เมือ่ พบเห็น ศัพทและรูแลววาเปนตทั ธติ ก็อยาดาวนตอบ ใหพ ิจารณอ ีกวาเปน
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 58 ตทั ธติ อะไร แทนศพั ทอ ะไร ใหย กั ยายแปลความดู วาจะเหมาะแก ศัพทไ หน เม่ือเห็นวาแทนศัพทนนั้ ๆ เปนเหมาะกวา อยา งอน่ื ก็ ตอบไดท ันที. เชน เมอ่ื เห็นศัพทวา อนุรุทฺธโิ ก เปน ตน ก็อาจรไู ด ทีเดยี ววา เปนตทั ธติ เพราะมี อกิ ปจจัยอยูเ บอื้ งหลัง. แตอยา ดวน ตอบวา เปน ตทัสสัตถิตัทธิต ใหน กึ แปลดกู อน ถา ตามตัทธิตน้ีตอง แปลวา มี จงึ แปลวา ผมู ีอนรุ ุทธ เชนน้ีความไมด ี. ใหหาวิธี แปลเปนอยา งอ่ืน โดยท่แี ปลวา เหลากอแหง พระอนรุ ทุ ธ นไี้ ดค วาม และเหมาะดีกวา จงึ ตอบไดวา ณกิ ปจ จัย แทน อปจจฺ ศัพท ใน โคตตตัทธติ . ทจี่ ะใหเปน อกิ ปจ จัยในตทัสสัตถิตัทธติ นนั้ จงึ ไมถกู เพราะความไมด ี. หรอื เมือ่ เห็นศพั ทวา สากฏโิ ก ผูเท่ียวไปดวย เกวียน หรอื นาวิโก ผูข ามดวยเรอื จะแปลเปน ตัทธติ อืน่ โดยวิธี ลง อกิ ปจจยั กไ็ ด แปลวา คนมีเกวียน หรือคนมีเรือ. หรือจะแปล วา คนทําเกวียน นัง่ นอน บนเกวียนกไ็ ด นาวโิ ก ก็เชน กนั แต อกิ ปจ จยั แทน อตฺถิ ศพั ทซึง่ แปลวา มี อยางเดียว เมือ่ เปน เชนน้ี ก็ควรพิจารณถงึ ลักษณะทใี่ ชกนั โดยมาก ตลอดความนยิ มของภาษา ดว ย วา ความมุง หมายของศพั ทน ้ี โดยมากจะใชแทนศพั ทไ หนจึง จะเหมาะ แลวแปลและตัง้ วเิ คราะหดใู หถกู กับความนิยมของภาษา ก็เปนอันดนิ้ ไมไ ดอ ยูเอง เพราะไมใชจะเหลอื วสิ ัยจนเกินไป. ปจจัยท่ีคลา ยกัน ตัทธติ มปี จ จยั ทีค่ ลา ยกนั ก็มี เชน ณกิ , อกิ , อยิ เปน ตน แต ตอ งสงั เกตและรวู ิธขี องปจจัยนนั้ ไวใ หดี ถา หากเน่อื งดวย ณ อาจ
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนาท่ี 59 ทราบไดง า ย เพราะตองลบ ณ เสยี แลว ทฆี ะ หรือวิการสระของศัพท ท่ีลงน้นั ได เชน สากฺยปตุ ตฺ โิ ก เปนตน แตถา พบศพั ทท ี่เปนทีฆะ หรอื พยัญชนะสงั โยคอยเู ดมิ แลว กอ็ าจงงไปไดท ีเดยี ว เพราะ ณ ปจจยั ไมมอี าํ นาจทจ่ี ะพฤทธศิ ัพทเชน น้ี เชน สากฏโิ ก, นาวโิ ก, ราชคหโิ ก, หตถฺ โิ ก, ทณฺฑโิ ก, อตฺถิโก เปน ตน . เมื่อเปน เชนนี้ เราตองทาํ ความเขาใจในรูปศพั ท แลวเทียบเคียงกับรปู วิเคราะหทเ่ี คยพบเห็น เมอ่ื เหมาะกับรปู วิเคราะหและความนยิ มของภาษาแลว กพ็ ึงเขา ใจวา เปน ตัทธิตนั้น อยา ง นาวิโก กอ็ าจแปลไปไดหลายนยั ถา หากแปลเปน ตทัสสัตถิตัทธิต ก็ตองแปลไปหลายอยา ง เทา กับกริ ิยาของคน คือ ยนื เดนิ นัง่ นอน บนเรอื ก็ได. ศพั ท ราชคหโิ ก เรากอ็ าจเขา ใจ ไดท ันทวี า จะเปนอยางอ่นื ไมไ ด นอกจาก ตรตยาทติ ัทธติ เพราะจะ ตองแปลวา คนเกดิ ในเมอื งราชคฤห หรือชาวเมอื งราชคฤหเปนตน. หตฺถโิ ก กเ็ หมือนกัน แปลวา ของนําไปดวยมือ เปนดี สวน อตฺถิโก ก็ตอ งแปลวา มคี วามตองการ ถาแปลวา คนทาํ ประโยชน ก็พอได แตไ มด ี เหตนุ ้ันจงึ ใหเ ปนตทสั สตั ถิตทั ธติ ดกี วา . ทณฑฺ โิ ก กเ็ หมอื นกัน ขอใหจาํ รูปวเิ คราะหใ นแบบใหด ี เพ่ือจะเทียบเคียงและ ใหความสะดวกแกการตัดสนิ ใจในเร่อื งศพั ทท เ่ี ปนตัทธิตได. ปจ จัยทีพ่ อ งกัน ความท่ีปจจัยพรอ มกนั กเ็ ปน อกี เร่ืองหนึ่ง ในการทําความจํา
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนาท่ี 60 ใหย ุง ยาก เพราะปจจัยบางตัวมีอยหู ลายตัทธิต ยากทจ่ี ะตอบไดว า เปนตัทธติ น้ัน ๆ ได แตก ไ็ มเ หลอื วิสยั นกั เชน ณ ปจ จยั มกั จะมดี ่นื กวา อยางอืน่ . ขอใหทาํ ความกําหนัดตัทธิตอ่นื ๆ ซ่งึ ใชแ ทน ศัพทไดเฉพาะไวเ สยี กอ น คือ โคตตฺ ตทฺ. สมหุ ตท.ฺ ตทสฺสตฺถติ ท.ฺ ใชแทน อปจจฺ ศพั ท ซง่ึ แปลวา เหลากอ คาํ วา เหลา กอ ก็คือเครอื ญาติวงศน ่ันเอง ฉะนัน้ ทา นจึงเรียก โคตฺต อนั เปนช่ือของตทั ธติ นี้. สมุหตท.ฺ ใหแ ทน สมุห ศพั ท ซ่งึ แปลวา หม,ู ประชมุ . ตทสสฺ ตฺถติ ทฺ. แทน อตถฺ ิ ศพั ท ซ่ึงแปลวา มี. ภาวตทฺ. แทน ภาว ศพั ท ซ่ึงแปล วา ความเปน. เม่อื เราจาํ ตัทธิทีล่ ง ณ ปจ จัยแทนเฉพาะศัพทไ ดแลว กเ็ หลอื อีกอยางเดยี วท่ลี งแทนศัพทไดท ั่วไป คือ ราคาทิตทฺ. เทา นัน้ เมอื่ พบศพั ทท่สี าํ เรจ็ แลว ก็ใหต อบเปน ราคาทติ ัทธิต ทเี ดยี ว เพราะใช แทนศัพทไดม าก. เชน เมอื่ เห็นศัพทว า ปต , นลี เปน ตน ถา จะใหเ ปน ตทั ธติ อื่น ก็ไมเ หมาะ พอจะไดอยกู ็แต ตทสั สัตถิตทั ธิต เทานั้น โดย ท่ใี หเปนคณุ ของผา คอื แปลวา ผามสี เี หลือง ผา มีสีเขียว ลง ณ ปจ จยั ก็พอได แตค วามไมก ระจา ง. นอกน้ันจะมีอีกไหม? เหน็ วา เปนราคาทิตัทธิตดกี วา เพราะแทนศัพทไ ดหลายอยา ง โดยทีแ่ ปลวา ผาอนั บุคคลยอมแลวดวยสเี หลอื งหรือเขยี ว วิ. วา ปเ ตน รตฺต วตฺถ ปต ผา (อัน บุ.) ยอ มแลว ดว ยสเี หลือง. นเี ลน รตฺต วตฺถ นีล ผา (อัน บ.ุ ) ยอ มแลว ดว ยสเี ขียว ดังนี้ จะเหน็ วาไดค วามดีแลว
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนาที่ 61 ทีเดยี ว เพราะฉะน้นั ควรจะใหเ ปนตัทธติ นี้ เหมาะกวาอยางอ่ืน. โคตตตทั ธติ ตอ ไปน้จี ะไดจําแนกช่ือของตทั ธิตพรอมดวยปจ จยั และวิธลี ง ปจจัยนั้น ตามแบบอยา งที่ทานวางไวเปนลาํ ดบั ไป พรอ มกบั อธบิ าย ตามที่เห็นสมควร ในโคตตตัทธติ มีปจจัย ๘ ตัว เนื่องดวย ณ ทั้งนนั้ คอื ณ, ณายน, ณาน, เณยฺย, ณ,ิ ณกิ , ณว, เณร. ท้ัง ๘ ตัวน้ี ใชแ ทน อปจจฺ ศัพท ซงึ่ แปลวา 'เหลา กอ' คาํ วา เหลา กอ ก็ ไดแ ก โคตร หรอื วงศวาน นน่ั เอง จึงเรยี กวา โคตตตัทธิต. สวน ศัพทห นา ในรูปวเิ คราะห ประกอบดว ย ฉ. วิภตั ติ เอก. เม่ือ จะลงปจ จัยใหล บวิภัตติท้ิงเสยี เหลือไวแ ตศ พั ทเดิม ดงั น.ี้ ณ ปจ . วสฏิ สสฺ อปจจฺ ลบ สสฺ วภิ ัตติเสีย ลง ณ ปจ จัย ทีฆะ อะ ที่ ว อกั ษรใหเ ปน อา สาํ เรจ็ รปู เปน วาสฏิ โ แปลวา เหลากอ แหง วสิฏ ชอ่ื วาสฏิ . ณายน ปจ . กจจฺ สฺส อปจจฺ เปน กจฺจายโน ลบ ณ เสีย ไมท ฆี ะ. ณาน ปจ . กจจฺ สสฺ อปจจฺ เปน กจฺจาโน ลบ ณ เสยี ไมท ีฆะ. เณยฺย ปจ . ภคนิ ิยา อปจฺจ เปน ภาคเิ นยโฺ ย ลบ ณ แลว ทีฆะ. ณิ ปจ . ทกขฺ สฺส อปจฺจ เปน ทกขฺ ิ ลบ ณ ไมท ีฆะ.
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 62 ณิก ปจ. สกฺยปตุ ฺตสฺส อปจจฺ เปน สากยฺ ปตุ ตฺ โิ ก ลบ ณ แลว ทฆี ะ เพราะเปน อฑั ฒพยัญชนะ. ณว ปจ. อุปกสุ ฺส อปจฺจ เปน โอปกโว วกิ าร อุ เปน โอ. เณร ปจ . สมณสสฺ อปจจฺ เปน สามเณโร ทีฆะ อะ เปน อา. ทว่ี าทีฆะน้ัน หมายความวา ทาํ สระส้นั ใหยาว. ท่วี า ไมทฆี ะนน้ั เพราะเปนพยัญชนะสงั โยค. ตรตยาทติ ทั ธติ ตัทธติ ทีม่ ี อาทิ ศพั ท ตดิ อยขู างหลัง มีอยู ๓ อยา ง คอื ตรตยฺ าทติ ทฺ. ๑ ราคาทิตทฺ. ๑ ชาตาทิตท.ฺ ๑ ทัง้ ๓ นี้ ลงปจจัยแทน ศพั ทไดมากไมมีกําหนด. ถา ปจจยั ในตทั ธติ เหลา นี้ ไปพอ งกันกบั ปจจยั ในตัทธติ อ่ืน ๆ แลว จงแปลและเทยี บเคียงดูในตัทธอิ ่นื ๆ ท่ี แทนศพั ทไดเ ฉพาะเสยี กอน เมื่อเหน็ วาความไมชัด ท้งั ไมถ กู ตอง ตามทภ่ี าษานิยมแลว พงึ เขาใจวา เปนตัทธติ ๓ อยางนี้ อยางใด อยางหน่ึงแนแลว ตอ จากน้นั จงวเิ คราะหลองดู เม่ือเหน็ วา ดี ก็ เปน อันใชได. ในตรตยาทติ ทั ธติ น้ี ลง ณกิ ปจ จยั แทนศัพทไดมาก มี ตรติ ศพั ท ซึ่งแปลวา ยอมขาม เปนตน คําวา เปนตน น่ันเอง ใหเล็ง ถงึ ศพั ทอ่ืน ๆ ไดหลายอยางตอไป เชน จรติ ยอ มเที่ยวไป, คจฺฉติ ยอ มไป, กต กระทําแลว, ยตุ ตฺ ประกอบแลว , สสฏ ระคนแลว . และยงั มอี ืน่ ๆ อีกมาก รวมความวา ใชแ ทนศพั ทไ ด ท้ังท่เี ปนกริ ยิ า อาขยาต และกิรยิ ากิตก ทั้งทเ่ี ปน นามนาม และ คณุ นาม.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 63 แทนกริ ยิ าอาขยาต เชน วิ. วา นาวาย ตรตตี ิ นาวโิ ก แปลวา (โย ชโน ชนใด) ยอ มขาม ดว ยเรอื เหตุนน้ั (โส ชโน ชน น้นั ) ช่อื นาวิกะ (ผขู า ม ดว ยเรอื ) ตรติ ศัพทน ีเ้ ปนกิรยิ าอาขยาต. ใช แทนกริ ยิ ากิตก เชน ว.ิ วา ราชคเห ชาโต ราชคหโิ ก (ชน) เกิดแลว ในเมอื งราชคฤห ชือ่ ราชคหิกะ (ผูเกิดแลว ใน เมืองราชคฤห) ชาต เปน กิริยากิตก. แทนนามนาม เชน ว.ิ วา วณี า อสสฺ สิปปฺ นตฺ ิ เวณิโก พิณเปน ศิลปะ ของชนนั้น เหตุนั้น (โส ชโน ชนน้นั ) ชอ่ื เวณกิ ะ (ผูม ีพณิ เปน ศลิ ปะ) ในทน่ี ใ้ี ชแทน สปิ ปฺ ศพั ท เปน นามนาม. แทนคณุ นาม เชน ว.ิ วา ราชคเห อสิ ฺสโร ราชคหโิ ก (ชน) เปน ใหญ ในเมืองราชคฤห ชอ่ื ราชคหิกะ (ผเู ปนใหญใ น เมืองราชคฤห) ในท่ีนล้ี งแทน อิสฺสร ซึง่ แปลวา ผเู ปนใหญ. พึงจําไววา ตทั ธิต ลงปจ จยั ไวแ ทนศัพทน น้ั ๆ แตไ ปลงไว ที่ศัพทอื่น ศพั ทท ีถ่ กู แทนนน้ั ลบท้งิ เสยี เหตนุ ั้น จึงไมป รากฏ เชน ลงแทน ตรติ ตองลงไวที่ นาวา ศพั ท เปน นาวโิ ก สว น ตรติ ตองลบทง้ิ เสีย เปนอยางนที้ กุ ๆ แหง ไป. ในตทั ธติ น้ี มีศพั ทหนงึ่ ทคี่ วรสนใจ คอื โทวารโิ ก แปลวา \"ผปู ระกอบในประต,ู ผรู กั ษาประตู\" เทา ท่ที านแกไวในอภธิ านนัป- ปทปี ก า-สจู ิ มหี ลายนัย, จะยกมาสัก ๒ อยาง คอื อยางหน่ึง วเิ คราะหว า ทชุ ฺชเน วารยนตฺ ยสมฺ า รกขฺ กา-ติ ทฺวาร แปลวา ชนผูรักษา ท. ยอ มหาม ซงึ่ คนช่ัว ท. จากท่ีน้นั เหตุนน้ั ทนี่ นั้ ชอ่ื วา
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 64 ทฺวาร ในขอน้ี คือ วาร ธาตุ ทุ บทหนา, อ ปจ จัยในนามกิตก ลบ อุ เสยี สาํ เรจ็ รูปเปน ทวฺ าร ถงึ แมจ ะลบ อุ แลว ก็ตาม อาศยั รปู ศัพทเ ดมิ นั่นเอง คร้ันลง ณิก ปจจยั ในตทั ธติ น้ี จงึ วิการ อ หรอื อุ ใหเ ปน โอ ดวยอํานาจปจจยั เน่ืองดวย ณ. นัยท่ี ๒ มีวเิ คราะหวา ปวสิ น นกิ ขฺ มนจฺ า - ติ เทฺว กิจจฺ านิ เอตฺถาติ ทวฺ าร แปลวา กจิ ท. ๒ คือ การเขา ๑ การ ออก ๑ (ม)ี ในทนี่ ั่น เหตนุ ้นั (ที่น่ัน) ชอื่ วา ทฺวาร. ศพั ทน้ี เม่อื มาลง ณิก ปจ จัย และวกิ าร อ แหง ทวฺ ศัพท (สอง) เปน โอ ดว ยอาํ นาจปจจัยเน่ืองดว ย ณ จึงสําเรจ็ รูปเปน โทวารโิ ก. ผู ปรารถนาจงคนดูในอภธิ าน-สูจิ.๑ ราคาทติ ทั ธิต ในตทั ธติ น้ี ลง ณ ปจ จยั แทนศัพทไ ดม าก มี ราค ศพั ท เปน ตน เม่ือลงแลวลบ ณ ท้งิ เสีย พฤทธิ คอื ทฆี ะ หรอื วกิ าร สระตามหนาท่ีท่จี ะพงึ ทํา ใชแ ทนท้งั กริ ิยา และ คณุ นาม เมอื่ สาํ เรจ็ แลวเปนคุณ เหมือนกับตรตยาทิตทั ธิต น่ันเอง. แทนคณุ นาม เชน ว.ิ วา มคเธ อิสฺสโร มาคโธ แปลวา คนเปน ใหญใ นแควนมคธ ในทีน่ ้ีใชแทน อิสสฺ ร ศพั ท ซึ่งแปลวา เปนใหญ. แทนกริ ยิ าอาขยาต เชน วิ. วา วฺยากรณ อธิเต-ติ เวยฺยา- กรโณ (ชนใด ยอมเรยี น ซง่ึ พยากรณ เหตนุ นั้ (ชนน้ัน) ชอื่ ๑. องฺเก. ๕๒๕-๕๒๖. ปพฺพ. ๓๕๑-๒๐๙.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธิต - หนาที่ 65 เวยยากรณะ (ผูเรยี นพยากรณ) นีใ้ ชแทน อธิเต. อนึ่ง ศัพทว า วยฺ ากรณ นั้น คือ วิ บทหนา กรฺ ธาตุ ยุ ปจจัย. ในนามกิตก ทาน แปลง อิ ที่ วิ เปน ย เม่อื ถงึ ตัทธติ น้ี ทา นแปลง อ ท่ี ว เปน เอ ดว ยอาํ นาจปจจยั แลว ซอ น ย อีกตัวหนง่ึ จะเปน รปู เชน น้นั . ศพั ท ทส่ี ําเรจ็ จากตทั ธิตนี้ เปนคณุ นามเหมือนกนั แจกไดทัง้ ๓ ลงิ ค. แทนกริ ยิ ากติ ก เชน วิ. วา กสาเวน รตตฺ (วตถฺ ) กาสาว แปลวา ผา (อัน บ.ุ ) ยอมแลว ดวยนํา้ ฝาด ช่อื กาสาวะ นลี้ งแทน รตตฺ ศพั ท ซง่ึ แปลวา ยอมแลว ทีฆะ อ เปน อา ดว ย อาํ นาจปจจัยท่เี น่ืองดวย ณ. ชาตาทติ ทั ธิต ในตัทธติ น้ี มปี จ จยั ๓ ตัว คือ อมิ อยิ กิย ลงแทนศพั ท ไดหลายอยางเหมือนกัน เพราะมี อาทิ ศัพทต ิดอยูกบั ช่อื แสดง วาไมเ ฉพาะแต ชาต ศพั ทเทาน้นั ยังลงไดท ัว่ ไปเทา ท่สี มควรจะลง ได เพราะฉะน้นั ควรจําปจ จยั และรปู วิเคราะหไ วใ หด ี จะไดว นิ จิ ฉยั ในเม่อื พบเขา. อมิ ปจจยั ปเุ ร ชาโต ปรุ โิ ม (ชน) เกิดแลว ในกอน ชอื่ ปุรมิ ะ. มชฺเฌ ชาโต มชฌฺ โิ ม (ชน) เกดิ แลวในทามกลาง ช่ือ มชั ฌิมะ. ปจฺฉา ชาโต ปจฺฉิโม (ชน) เกิดแลวในภายหลัง ชอ่ื ปจ ฉมิ ะ. นีล้ งปจ จยั แทน ชาต ศพั ท ซึง่ เปนกิริยากิตก. และธรรมดาอักษร อ ซงึ่ ทานนํามาผสมกบั สระ สําหรบั อานสระใหออกเสยี งอยา งเดิม คือ อิม อยิ ตองลบท้งิ เสมอไป ในเมือ่ อยพู ยางคตนของศพั ทห ลงั
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 66 ในท่นี ้ีเหลอื แต -มิ -ยิ แลวใหเ อาไปอาศัยศัพทหนา คือ ปุร- จึงเปน ปุริมะ เปนตน. แทนกริ ยิ าอาขยาต ว.ิ วา ปุตฺโต อสฺส อตฺถีติ ปตุ ตฺ ิโม บุตรของชนน้นั มีอยู เหตุนน้ั (ชนนนั้ ) ชื่อปุตตมิ ะ มบี ตุ ร. อยิ ปจ จัย มนุสฺสชาติยา ชาโต มนสุ สฺ ชาติโย (ชน) เกดิ แลว โดย ชาติแหงมนุษย ชื่อ มนสุ สชาตยิ ะ (เกิดแลวโดยชาตแิ หงมนุษย) . ปณฑฺ ิตชาติ อสสฺ อตถฺ ตี ิ ปณฑฺ ติ ชาติโย ชาติแหงบณั ฑิต ของคนนั้น มอี ยู เหตุนั้น คนนั้น ชอ่ื ปณ ฑติ ชาติยะ มีชาตแิ หง บณั ฑิต. กิย ปจ จยั ใหพ ึงเขา ใจวา กิย ปจจัยน้ี ไมต องลบคงไวตามเดมิ จะลง ในศัพทไหน ก็ตองไปตดิ ไวอยางนั้นเอง เชน อนเฺ ธ นยิ ุตโฺ ก อนธฺ กโิ ย (ชน) ประกอบแลว ในท่ีมดื ชือ่ อันธกิยะ ประกอบในที่มืด. สมหุ ตัทธติ ในตทั ธติ น้มี ปี จจัย ๓ ตวั กณฺ ณ ตา สาํ หรบั ใชแ ทน สมุห ศัพทอ ยา งเดียว ซึง่ แปลวา ประชมุ , ฝูง, หมู, เปนตน. กณฺ ปจ จัย มนุสฺสาน สมโุ ห มานสุ โก ประชุมแหงมนุษย ท. ช่อื มานุสกะ (ประชุมแหง มนษุ ย หรือ หมแู หงมนษุ ย) .
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ที่ 67 มยรุ าน สมโุ ห มายุรโก ประชุมแหงนกยงู ท. ช่อื มายรุ กะ (ประชมุ แหง นกยูง หรือ ฝูงแหงนกยูง). ณ ปจจัย มนสุ ฺสาน สมฺโห มานุโส ประชุมแหงมนษุ ย ท. ช่อื มานุสะ (ประชุมแหง มนุษย หรือ หมแู หง มนษุ ย). มายโุ ร กาโปโต วเิ คราะหแ ละแปลเหมอื นกัน. ตา ปจจัย คามาน สมโุ ห คามตา ประชมุ แหงชาวบาน ท. ช่ือ คามตา (ประชุมแหง ชาวบา น หรอื หมูแหงชาวบาน). ชนาน สมโุ ห ชนตา ประชุมแหง ชน ท. ช่ือ ชนตา (ประชุม แหงชน). สหายาน สมโุ ห สหายตา ประชุมแหงสหาย ท. ชือ่ สหายตา (ประชมุ แหง สหาย). ปจ จยั ที่เนือ่ งดว ย ณ แม ณ น้ันจะอยูห นาหรือหลังกต็ องลบ เสียทงั้ น้นั เชน กณฺ ปจ จยั ณ อยเู บอ้ื งหลังก็ตอ งลบท้งิ เสยี เหลอื ไวแต ก. สวนอํานาจของ ณ น้นั ก็ยังคงท่ีไมเ ปลี่ยนแปลง อน่งึ รปู วิเคราะหของตัทธิตนี้ ศัพทห นาตอ งประกอบเปน ฉ. วภิ ัตติ พหวุ จนะ แสดงใหรวู า คําวา หมู ตอ งหมายความวา มาก น่งั เอง เหมอื น กับวธิ ีประกอบสงั ขยาตงั้ แต ๙๙ ไป บอกจํานวนของนามนามบทใด ตองประกอบนามนามบทนน้ั ดว ยฉัฏฐวี ิภัตติ พหุวจนะ เชน นราน สต รอยแหง คน ท. มยรุ าน สหสสฺ พนั แหงนกยูง ท. เปน ตน ตทั ธติ
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ท่ี 68 นี้ก็คลายกนั . เชน มยรุ าน สมุโห มายโุ ร, สหายาน สมุโห สหายตา เปนตน . ฐานตัทธิต ในตัทธติ นมี้ ี อยี ปจ จัยตัวเดียว ลงแทน าน ศัพท ซึ่งแปล วา ที่ต้ัง และโดยมากลงท่ีศัพทน ามกติ ก คอื ทํากิรยิ านามใหส าํ เรจ็ เปนคณุ นามไป ดังน้ี :- มทนสสฺ าน มทนีย ที่ตงั้ แหง ความเมา ช่ือ มทนียะ (ทตี่ ั้งแหงความเมา). พนธฺ นยี ทีต่ ัง้ แหง ความผกู โมจนยี ทีต่ ัง้ แหงความแก กม็ ี วเิ คราะหและคําแปลอยางเดียวกนั . แตในหนังสือบาลีไวยากรณข องเรา ทานเพิ่ม เอยยฺ ปจ จยั เขา อีก จงึ กลายเปน ปจ จัย ๒ ตัว อีย เอยฺย ลงแทนศัพทอ ื่น คือ อรห ซง่ึ แปลวา ควร ก็ได โดย วิ. วา ทสสฺ น อรหตีติ ทสฺสนโี ย (ชนใด) ยอมควร ซง่ึ ความเหน็ เหตุน้นั (ชนนน้ั ) ชือ่ ทัสสนียะ (ผูควรซงึ่ ความเหน็ หรอื นาด)ู ปูชเนยโฺ ย ทกฺขเิ ณยโฺ ย กม็ ี ว.ิ อยา งเดยี วกัน. ในสททฺ นีตวิ า ลงแทน หติ และ ภวะ ศัพทก ็ไดบา ง วิ. วา อปุ ทานาน หติ อปุ าทานีย เก้ือกลู แกอ ปุ ทาน ท. ชอ่ื อุปาทานียะ (เก้ือกลู แกอุปทาน). อทุ เร ภว อุทรีย (โภชนะ) มใี นทอ ง ช่ือ อุทรียะ (โภชนะ มใี นทอง). โดยนัยนี้ ตทั ธติ นี้มีปจ จัย ๒ ตวั คอื อยี เอยยฺ ใชแ ทน ฐาน,
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนาท่ี 69 อรห, หิต, และ ภว ศพั ท เปน คุณนามแจกไดท ัง้ ๓ ลงิ ค. พหุลตัทธติ ในตัทธติ นีม้ ีปจจยั ตัวเดียว คือ อาลุ ปจ จยั ลงแทนศพั ท ๒ อยา ง คอื ปกติ แปลวา ปกติ คือ ธรรมดา ไมมากไมน อย และ พหุล ท่แี ปลวา มาก คือมากกวา ธรรมดาน่นั เอง มี ว.ิ วา อภิชฌฺ า อสสฺ ปกติ อภิชฺฌาลุ อภชิ ฌา เปนปกติ ของชนนน้ั (ชนนนั้ ) ชือ่ วา มีอภิชฌาเปนปกต.ิ อภิชฌฺ า อสฺส พหลุ า วา อภิชฌฺ าลุ อกี อยางหนึ่ง อภชิ ฌา ของชนนนั้ มาก (ชนน้ัน) ชือ่ วา มอี ภิชฌามาก. สตี าลุ ประเทศมหี นาวเปน ปกติ, มีหนาวมาก. ทยาลุ คนมคี วามเอ็นดเู ปน ปกต,ิ มีความเอน็ ดมู าก. ก็มีวเิ คราะหและคําแปลเหมอื นกันกับ อภิชฌฺ าล.ุ ในตัทธติ น้ี มีขอควรสังเกต ดงั นี้ ปกติ และพหุล ศพั ท ท้งั ๒ หมายความตางกัน ปกติ หมายถึงธรรมดา เชน หนาวเปนปกติ หนาวอยา งธรรมดา. พหลุ หนาวมากกวาธรรมดา เชนหนาวมาก คือหนาวจัด เพราะฉะน้ัน ในตัทธติ นท้ี านจึงใหศัพทใ นรปู วเิ คราะห เปน ๒ อยาง คือ ปกติ และ พหลุ สวนสัพพนามทจี่ ะใชใ นรปู วิเคราะห นั้น ก็ตองเลอื กใหสมกับคําแปล ถา หากหมายความถึงสถานท่ี ใช เอตถฺ ศัพท. ถา แสดงวา เปนเจาของ ๆ สง่ิ นั้น ก็ใหใ ช ฉ. วิภัตติ และใหแปลวา 'ม'ี เหมือนกับพหพุ พิหิสมาส เพราะเปนตัทธิตคณุ .
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนา ที่ 70 เสฏฐตทั ธติ ตทั ธิตนี้ มปี จ จยั ๕ ตวั คือ ตร, ตม, อยิ ิสสฺ ก, อยิ , อิฏ . ลงแทน เสฏ ศัพท ซึ่งแปลวา ประเสรฐิ ใชเปน เคร่อื งหมายของ คณุ นามต้ังแตช้ันวเิ ศษไป. สวนปกติคณุ นามนั้นไมตอ งมปี จจัยบอก ชั้น เพราะเปน แตเพียงปกติธรรมดาเทา นั้น ไมวเิ ศษยง่ิ หยอ ยกวากนั เชน ปาโป เปนบาป ปณฑฺ โิ ต เปน บณั ฑติ . ก็แสดงวา เปน บาป เปน บณั ฑิต ปกติธรรมดา ไมมากไมนอย แตก ต็ องนับเปนคุณนามดวย เพราะเปนเครอื่ งแสดงนามนาม ถาหากจะใหล กั ษณะเครอื่ งหมาย อันนั้นยิ่งไปกวาปกติ มากหรอื นอ ย ก็ตอ งใชปจจัยในตทั ธิตน้ลี งแทนไว ดังตอ ไปนี้ :- ปจ จัยทัง้ ๕ ตวั น้ี แบงลงในวเิ สสคณุ นาม ๓ ตวั ลงในอต-ิ วเิ สสคุณนาม ๒ ตัว. ทล่ี งในวิเสสคุณนาม ๓ ตัว คอื ตร, อิย, อิยสิ สฺ ก. ตร ปจจยั ปาปตโร เปนบาปกวา. ปณฺฑติ ตโร เปนบณั ฑิตกวา . หนี ตโร เลวกวา . ปณตี ตโร ประณตี กวา . อิย ปจจัย ปาปโ ย เปน บาปกวา. กนิโย นอยกวา . เสยฺโย ประเสริฐกวา . เชยโฺ ย เจรญิ กวา. ศัพททลี่ ง อิยิสฺสก ปจจัย ปรากฏมีเฉพาะแต ปาปยิสสฺ โก เปนบาปกวา เทา นั้น. ปจ จัยทล่ี งในชน้ั อตวิ ิเสสคุณศพั ท ๒ ตวั คอื ตม, อิฏ.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ท่ี 71 ตม ปจจยั ปาปตโม เปนบาปทสี่ ดุ . ปณฺฑติ ตโม เปน บัณฑิตท่ีสุด. หีนตโม เลวท่สี ดุ . ปณตี ตโม ประณตี ที่สุด. อฏิ ปจ จัย ปาปฏโ เปน บาปทส่ี ุด. กนฏิ โ นอยทีส่ ดุ . เสฏโ ประเสริฐท่ีสุด. เชฏโ เจรญิ ทีส่ ุด. สว นวิเคราะหแหงตัทธติ นี้ แปลกวาตทั ธอิ ่ืน ๆ และทานแสดง ไวเปน แบบเดียวกนั เชน ปาป ศพั ท แสดงไวเ ปนรปู วเิ คราะหอ นั เดียว จะเปนคุณนามช้นั วิเสสน หรอื อติวิเสส ก็ใหล งปจจยั ท่ีบทแปลง เปนเครอ่ื งหมายของคุณนามชั้นนัน้ ๆ อยา งนี้:- รูปวเิ คราะห ปาป ศพั ท ตร ปจ. สพเฺ พ อิเม ปาปา, อยมเิ มส วิเสเสน ปาโปติ ปาป ชน ท. เหลา น้ี ทัง้ ปวง เปน ปาป, ชนน้ี เปนบาป โดยวิเศษ แหง (กวา ) ชน ท. เหลา น้ี เหตุนนั้ (ชนน้)ี ชอื่ ปาปตระ เปน บาปกวา . ตม ปจ . สพเฺ พ อเิ ม ปาปา, อยมิเมส วเิ สเสน ปาโปติ ปาปตโม. คาํ แปลในรูปวเิ คราะหเหมอื นกัน สว นปลงนัน้ แปลวา เปนบาปทีส่ ดุ . รปู วิเคราะห ปณฺฑิต ศพั ท ตร ปจ . สพเฺ พ อิเม ปณฑฺ ิตา, อยมเิ มส วิเสเสน ปณฑฺ ิโตติ ปณฑฺ ิตตโร. ชน ท. เหลาน้ี ทง้ั ปวง เปน บณั ฑิต, ชนนี้
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนาท่ี 72 เปน บณั ฑิต โดยวเิ ศษ แหง (กวา) ชน ท. เหลาน้ี เหตนุ ้นั (ชนน)้ี ช่ือ ปณฺฑิตตระ (เปนบัณฑิตกวา). ตม ปจ. สพฺเพ อเิ ม ปณฑฺ ติ า, อยมเิ มส วเิ สเวน ปณฺฑิโตติ ปณฺฑติ ตโม. คาํ แปลเหมอื นกัน ตางแตบ ทปลง แปลวา เปนบณั ฑิตท่สี ุด เทานนั้ . ศัพทอ่นื ๆ เมือ่ จะตั้ง ว.ิ ใหดําเนนิ ตามรปู นี้ คือใหย ก ปาปา, ปาโป เสีย เอาศพั ทท่ตี อ งการใสล งไป แลว ลงปจจยั ทตี่ องการทบ่ี ทปลง ก็ เปน อันใชได. อิยิสฺสก ปจ จยั มีทใี่ ชน อยท่ีสุด นอกจาก ปาปยิสสฺ ก แลว ยังไมพ บ. สวน เสยฺโย เชยฺโย ๒ ศพั ทนี้ จะต้ังวิเคราะหอยา งทีแ่ ลวมา ไมไ ด เพราะรปู ศัพทเดิมไมต รงตัว. เสยฺโย นน้ั มลู ศัพทเปน ส เมอ่ื ลง อิย ปจ จัยแลว ตอ งเปน สิโย แตไ มถกู ตามภาษานิยม จงึ แปลง อิ เปน เอ แลวซอ น ย จึงเปน เสยโฺ ย เชยโฺ ย มี ช เปน มูล ศพั ท เม่ือลง ปจจยั กแ็ ปลงเชน เดยี วกัน. เม่อื จะต้ังวเิ คราะห ตอ ง เพง ถงึ อรรถเสยี กอ น จะเอาศพั ทน ไี้ ปต้งั ทเี ดยี วไมได ส เปนไปใน อรรถแหง ปสฏ แปลวา ประเสริฐ ช เปนไปในอรรถแหง วฑุ ฺฒ แปลวา เจริญ ใหเอาศพั ทเหลา น้ไี ปใชรปู วิเคราะห เสยฺโย วิ. วา สพฺเพ อเิ ม ปสฏา, อยมเิ มส วิเสเสน ปสฏโ ติ เสยฺโย. ชน ท. เหลาน้ี ทงั้ หมด ประเสรฐิ , ชนน้ี ประเสริฐ โดยวิเศษ แหง (กวา) ชน ท. เหลา น้ี เหตุน้ัน (ชนน)้ี ชอื่ เสยฺย (ประเสรฐิ กวา ).
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนา ท่ี 73 เชยโฺ ย วิ. วา สพเฺ พ อิเม วฑุ ฒฺ า, อยมิเมส วเิ สเสน วฑุ ฺโฒติ เชยโฺ ย, แปลเหมอื นวิเคราะหตน, ตา งกนั ท่ี เชยยฺ (เจริญกวา ). กนโิ ย ทแ่ี ปลวา นอ ย ออกจากศพั ทว า อปปฺ แปลงเปน กน ในรปู สาํ เรจ็ ว.ิ วา สพเฺ พ อเิ ม อปฺปา, อยมเิ มส อปฺโปติ กนโิ ย. ชน ท. เหลานี้ ทง้ั ปวง นอ ย, ชนนี้ เปน ผนู อ ย โดยวิเศษ แหง (กวา ) ชน ท. เหลา น้ี เหตุน้ัน (ชนน้ี) ชือ่ กนยิ ะ. กนฏิ โ เสฏโ เชฏโ เปน อตวิ เิ สส วิเคราะหแ ละคาํ แปล เหมอื นกัน คอื แปลวา นอยทีส่ ุด ประเสริฐท่สี ุด เจริญท่สี ดุ . ตทัสสัตถิตัทธติ ในตัทธติ นม้ี ีปจ จัย ๙ ตัว คอื ว,ี ส, ส,ี อกิ , อ,ี ร, วนตฺ , มนตฺ ,ุ ณ. ลงแทน อตถฺ ิ ศัพท ท่แี ปลวา \"มีอย\"ู อยางเดียว. ศัพททล่ี งปจ จยั นั้น ๆ ดังนี้ :- วี ปจ. เมธา อสสฺ อตฺถตี ิ เมธาว.ี เมธา (ปญ ญา) ของชนนน้ั มอี ยู เหตุนัน้ (ชนน้ัน) ช่อื วา มีเมธา. มายา อสฺส อตถฺ ีติ มายาว.ี คนมมี ายา. ส ปจ . สุเมธา อสฺส อตฺถตี ิ สเุ มธโส. คนมเี มธาด.ี สี ปจ. ตโป อสสฺ อตถฺ ตี ิ ตปสี. คนมตี บะ. เตโช อสฺส อตถฺ ตี ิ เตชส.ี คนมเี ดช. อกิ ปจ . สเุ มธา อสฺส อตถฺ ตี ิ สเุ มธโส. คนมเี มธาดี. สี ปจ. ตโป อสสฺ อตถฺ ีติ ตปส.ี คนมตี บะ. เตโช อสฺส อตถฺ ตี ิ เตชสี. คนมเี ดช. อิก ปจ . ทณโฺ ฑ อสสฺ อตฺถตี ิ ทณฺฑโิ ก. คนมไี มเ ทา. อตฺโถ อสสฺ อตฺถตี ิ อตฺถโิ ก คนมคี วามตอ งการ. อี ปจ . ทณโฺ ฑ อสฺส อตถฺ ตี ิ ทณฺฑี. คนมีไมเทา.
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ที่ 74 สขุ อสสฺ อตถฺ ีติ สขุ .ี คนมคี วามสขุ . โภโค อสสฺ อตฺถีติ โภค.ี คนมโี ภคะ. ร ปจ. มธุ อสสฺ อตฺถตี ิ มธุโร. ขนมมนี า้ํ ผึ้ง (มีรสหวาน) มขุ อสฺส อตถฺ ตี ิ มขุ โร. คนมีปาก (คนปากกลา) วนฺตุ ปจ . คโุ ณ อสสฺ อตถฺ ีติ คุณวา. คนมีคุณ. ธน อสสฺ อถถฺ ตี ิ ธนวา. คนมที รัพย. ปฺา อสสฺ อตถฺ ีติ ปฺาวา. คนมีปญญา. ปุ ฺ อสสฺ อตถฺ ีติ ปฺุ าวา. คนมบี ญุ . มนตฺ ุ ปจ. อายุ อสฺส อตถฺ ตี ิ อายสมฺ า. คนมีอายุ. จกขฺ ุ อสสฺ อตถฺ ีติ จกขฺ ุมา. คนมจี ักษุ. ในสัททนีตวิ า ปตุ ตฺ ิมา ชนมีบุตร ปาปมา มารผูมบี าป ทา น แสดงเปน อมิ นฺตุ ปจ จัย เปนพเิ ศษอีกอันหน่งึ . ณ ปจ. สทธฺ า อสสฺ อตถฺ ตี ิ สทโฺ ธ คนมศี รทั ธา. มจเฺ ฉร อสฺส อตฺถตี ิ มจเฺ ฉโร คนมีความตระหน่ี. คาํ แปลวเิ คราะหท งั้ หมดนี้ เหมือนอยางวิเคราะหตน . ระเบยี บวิเคราะหทั้งหมดนี้ ใหว างศพั ทน ามทจ่ี ะลงปจ จยั เปน บท ตัทธิตไวที่หนงึ่ สพั พนาม คอื อสสฺ ซึง่ เปนตัวประธานของบท ตทั ธติ เปนท่ีสอง อตฺถิ ซ่ึงเปนกิริยาศัพท แปลวา มีอยู เปน ท่ี สาม อิตศิ พั ท เปนทส่ี ่ี บทตทั ธติ เปน ท่หี า เชน เมธา อสฺส ๑๒
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ที่ 75 อตฺถ-ี ติ เมธาวี เปนตน. ๓ ๔๕ ในปจจยั ๙ ตัวนี้ นยิ มลงในศัพทตา งกัน คอื วี ปจจยั นยิ ม ลงในศัพททีเ่ ปน อา การนั ตใ นอติ ถลี งิ ค สี ปจจัย นยิ มลงในศัพทท่ี เปนมโนคณะบาตัว เชน เตชสี ตปสี เปนตน. วนฺตุ ปจ จัย นยิ ม ลงในศพั ททีเ่ ปน อ อา การนั ต. มนตุ ปจ จยั นยิ มลงในศพั ทท่ีเปน อุ อู การนั ต. สว นนอกนไ้ี มน ยิ ม แลแตจะเหมาะในการนั ตอ ะไร. อนึ่ง วนฺตุ และมนตฺ ุ ปจ จยั เม่อื ลงแลว ตองไปแจกตามแบบ ภควนฺตุ ศัพท ซ่งึ เราเห็นเปนรปู อยใู นแบบวเิ คราะห อยา ง อายสมฺ า ทีเ่ ปนรปู อยางน้ี เพราะศัพทเ ดิมเปน อายุ แปลง อุ แหง อายุ ศัพท เปน อสฺ เขากับ อาย เปน อายสฺ, มนตฺ ุ ปจจัย เปน อายสมฺ นฺตุ แจก ตามแบบ ภวนฺตุ ป. วิภตั ติ เปน อายสมฺ า. ชุตมิ นฺตุ คณุ วนฺตุ เปน ตน กแ็ จกตามแบบนี้เหมอื นกัน. เพราะตัทธิตนเ้ี ปนคุณ จงึ แจกไวทงั้ ๓ ลงิ ค เฉพาะทีร่ ูปศัพท เปน อี การนั ต ถา เปน ปุลงิ คก ็คงไวอยา งนัน้ ถาเปนอิตถลี งิ ค ให ลง อินี ปจ จัย. ถาเปน นปสุ กลิงคใ หแปลง อี เปน อิ มตี วั อยา ง ดังน้ี :- ป.ุ อติ . นป.ุ เมธาวี เมธาวินี เมธาวิ มีปญ ญา โภคี โภคนิ ี โภคิ มโี ภคะ ลาภี ลาภนิ ี ลาภิ มลี าภ
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนา ท่ี 76 ป.ุ อิต. นป.ุ ตปสี ตปสินี ตปสิ มตี ปะ. สวนศพั ทท ่ลี ง วนตฺ ุ มนฺตุ ปจ จยั กใ็ หแ จกตามแบบของตน ๆ. ปุ อติ . นป.ุ วนตฺ ุ ปจ . คุณวา คณุ วตี คุณว มีคณุ . มนฺตุ ปจ. ชตุ ิมา ชมุ มิ ตี ชตุ มิ มคี วามโพลง. สว น อายสฺมนตฺ ุ กแ็ จกไดท้งั ๓ ลิงคเ หมอื นกัน แตใ น อิต. นปุ. ไมม ที ใ่ี ช. ใน อิต. ใช อยยฺ ศัพทแ ทน. ปกติตทั ธิต ตัทธิตนม้ี ี มย ปจ จยั ตัวเดยี ว ใชล งแทน ปกต ศัพท ซงึ่ แปล วา กระทําแลว คือหมายความวา สําเรจ็ อยา งหนึง่ ใชล งแทน วิการ ศพั ท ซ่งึ แปลวา เปนวกิ าร หรอื การทาํ ใหแ ปลก อนั แสดงถงึ วัตถุ ผสมกนั ใหว ตั ถอุ กี อยา งหนง่ึ แปลกไปจากเดิม และ มย ปจจัยนี้ มกั นยิ มลงในวัตถเุ ครื่องใชสอย คอื ทพั สมั ภาระตา งอยางนัน้ เอง. อนง่ึ คําวา วิการ ทแี่ ปลวา เปนวิการ กค็ ือเปนเคร่อื งแสดง ของคําวา กระทาํ ใหแ ปลกเทานั้น เพราะฉะน้นั จึงใช มย แทนได ท้งั ๒ ศพั ท เชน วิ. วา สุวณเฺ ณน ปกต โสวณฺณมย (ภาชน) ภาชนะ (อนั บุ.) ทํา แลว ดวยทองคาํ . สุวณฺณสสฺ วกิ าโร โสวณณฺ มย ภาชนะเปนวิการแหงทองคํา. ที่เปน โสวณฺณมย นน้ั แปลง อุ เปน โอ ใหไพเราะตาม
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ท่ี 77 ภาษานิยม มิใชด ว ยอาํ นาจ มย ปจจัย. อน่ึง วิเคราะหวา อยสา ปกต โอยมย ภาชนะ (อัน บ.ุ ) ทําแลว ดวยเหลก็ . อยโส วกิ าโ ร อโยมย ภาชนะ เปนวิการ แหง เหล็ก. สองวเิ คราะหนที้ ่ีมรี ปู เปน โอ ซงึ่ ผดิ จากเดิมน้ัน กเ็ พราะศพั ทท้ัง ๒ นเ้ี ปน พวกมโนคณะ ศพั ทเ หลา น้ี เม่ือเขาสมาสแลว ตองแปลง อะ ท่สี ดุ ของตนเปน โอ เสมอ มิใชเ ปน ดวยอาํ นาจปจจัย. รูปวเิ คราะหแหง ตัทธินีม้ ี ๒ อยา ง คอื ถา จะใชปจจยั แทน ปกต ศพั ท ใหป ระกอบศัพทน ามในวิเคราะหด วย ต. วิภตั ติ ซง่ึ แปลวา ดวย. ถา จะใชแ ทน วิการ ศพั ท ใหประกอบศัพทน ามในรปู วเิ คราะหเ ปน ฉ. วิภตั ติ ซึง่ แปลวาแหง . ปรู ณตทั ธิต ในตัทธนิ ี้ลงปจจัยแทน ปรู ณ ศพั ท แปลวา เปน ที่เตม็ แต ปจจยั ในตัทธิน้ี ลงทายศพั ทท ่ีเปน ปกตสิ ังขยา เมือ่ สําเร็จแลว เรยี กวา ปรู ณสงั ขยา หรือ ปูรณตทั ธิต กไ็ ด เพราะฉะน้ัน ปูรณสงั ขยา เคร่ือง กําหนดนบั นามนามเปน ช้ัน ๆ ในเลมนามนั้น พึงเขาใจวาสําเรจ็ ไปจากตัทธิตนี้เอง ปจ จัยทีเ่ ปนเคร่ืองหมายของตัทธิน้มี ี ๕ ตัว คือ ตยิ , ถ, , ม, อ.ี ตยิ ปจ . ทวฺ นิ นฺ ปรู โณ ทตุ โิ ย (ชน) เปนท่ีเตม็ แหง ชน ท. ๒ ชอื่ วา ที่ ๒. ตณิ ณฺ ปูรโณ ตติโย (ชน) เปน ท่ีเตม็ แหงชน ท. ๓ ชื่อวาที่ ๓.
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 78 ถ. ปจ . จตนุ ฺน ปรู โณ จตุตโฺ ถ (ชน) เปน ท่ีเต็ม แหง ชน ท. ๔ ช่อื วา ท่ี ๔. ปจ . ฉนนฺ ปูรโณ ฉฏโ (ชน) เปนทีเ่ ต็ม แหงชน ท. ๖ ช่อื วาท่ี ๖. ม ปจ . ปจฺ นนฺ ปูรโณ ปฺจโม (ชน) เปน ทเ่ี ต็ม แหง ชน ท. ๕ ชือ่ วา ที่ ๕. อี ปจ . เอกาทสนนฺ ปรู ณี เอกาทสี (อติ ถฺ ี หญิง) เปน ทเี่ ต็ม แหงหญิง ท. ๑๑ ชอื่ วา ที่ ๑๑. ทฺวาทสนนฺ ปูรณี ทฺวาทสี (หญงิ ) เปนทเี่ ต็ม แหงหญงิ ท. ๑๒ ชอ่ื วา ท่ี ๑๒. ปจ จัยเหลา นี้ แมสาํ หรบั ลงในปกติสังขยาก็จริง แตตองเลอื ก ลงเฉพาะศพั ทท ีค่ วรลง คือ ติย ปจจยั กาํ หนดประกอบไดเ ฉพาะ ทวฺ ิ และ ต.ิ ถ ปจ จัย ประกอบไดเ ฉพาะ จตุ. ปจจยั ประกอบ ไดเ ฉพาะ ฉ. ม ปจ จยั ประกอบกบั ศพั ทนอกจากนี้ไดทวั่ ไป. อี ปจจยั ประกอบไดต้งั แต เอกาทส ถงึ อฏ ารส และเปน เครอื่ งหมาย อิตถ-ี ลงิ ค. ตั้งแต เอกาทส ถงึ อฏารส น้ี ถา ประสงคจะใหเ ปนลงิ ค อ่ืน ตองลม ม ปจจัย แลว เปนแจกเปน ป.ุ นปุ ได. ระเบียบแหง รปู วเิ คราะหในตทั ธิตน้ี ตวั ปกติสังขยา ซง่ึ เปน คุณหรอื วิเสสนะของ นามนามนัน้ ตองประกอบเปน ฉ. วภิ ตั ติ พห.ุ สวนตวั นามไมตอง เอาไปต้ังไว เมื่อแปลจึงหาไปเพิ่ม เพราะศพั ทสังขยาบอกอยูแลว. ในตัทธติ นี้ ยังมีศพั ทท ีค่ วรสนใจอยูอยา งหนึ่ง คือ อฑฺฒ
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนาที่ 79 ซึง่ แปลวา ' คร่งึ ' หรือ 'กงึ่ หนึ่ง ' คําวา คร่ึง หรอื ก่งิ น้ี หมายถึง จํานวนพรอง ไมเตม็ ตามอตั รา. เชน การนับของเราวา ๑,๒,๓, เปนตน น้ีเปนจํานวนเตม็ แตถา จาํ นวนท่ี ๒ ไมเ ตม็ นับไดค รง่ึ เดยี ว เราพูดกนั วา ๑ กบั คร่งึ . แตใ นภาษาบาลพี ดู วา ท่ี ๒ ท้งั กง่ึ หมายความ วาจํานวนที่ ๒ หายไปคร่ึงหน่ึง จึงประกอบ อฑฺฒ ศัพทไวที่จํานวน ขาด ประกอบวา อฑฌฺ ฒน ทุตโิ ย ทยิ ฑฺโฒ หรือ ทิวฺฑโฺ ฒ ท่ี ๒ ท้งั ก่ึง ชือ่ ทยิ ฑฺฒ (ถือเอาความวา ๑ กบั ครง่ึ ). อฑฺเฒน ตตโิ ย อฑฒฺ ตโิ ย-อฑฺฒเตยโฺ ย ท่ี ๓ ท้ังกง่ึ (ถอื เอา ความวา ๒ กบั ครงึ่ ). อฑเฺ ฒน จตูตโฺ ถ อฑฒฺ ุฑฺฌฒ ท่ี ๔ ทง้ั กึ่ง (ถือเอาความ วา ๓ กับครง่ึ ). วธิ ีประกอบ ตอ งประกอบศพั ทสังขยาเปน จํานวนเตม็ แตแ ปล หรอื หมายความตอ งลดจํานวนเตม็ นั้นลงก่งึ หนงึ่ . นเ้ี ปน ลักษณะของ จาํ นวนหนว ย, ถาหากกง่ึ จาํ นวน ๑๐ กห็ มายความวา ๕. ถากง่ึ จํานวน ๑๐๐ เชน อฑฺฒสต ก็ไดแ กจ ํานวน ๕๐, ถากง่ึ จํานวน ๑,๐๐๐ เชน อฑฺฒสหสสฺ ก็ไดแตจาํ นวน ๕๐๐. แมจ ํานวนมากข้ึนไป ก็ หมายความกง่ึ หนงึ่ เสมอ. คราวนจ้ี ะไดอธบิ ายวิธปี ระกอบสังขยาตงั้ แตรอ ยขึน้ ไป แตมเี ศษ กึง่ หนง่ึ ของจํานวนขางหนึง่ ทจี่ ะตองใช อฑฒฺ ศพั ทป ระกอบดงั น้ี :- ก. ถา อกี เทา ตัว ของเศษขางทาย จะไดครบจํานวนเต็มเปน
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 80 ๒ รอย ๑๕๐ ๒ พนั } ตอ งใชนบั ตามขา งทายของปูรณตัทธติ เชน ๑,๕๐๐ ๒ หม่ืน ๑๕,๐๐๐ ๕๐ ๒๐๐ อีก ๕๐๐ } เทาตัวของเศษ ก็จะครบจาํ นวนเตม็ เปน ๒,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ ๒๐๐ พูดตามสาํ นวนมคธภาษาตอ งวา ๒,๐๐๐ } ทง้ั ก่ึง หมายความวา ๒๐,๐๐๐ ๑๐๐ ๑,๐๐๐ } กบั ครง่ึ จํานวน ดังน้เี ปน ตน ตองใชศ ัพทวา อฑฺฒ ซึ่ง ๑๐,๐๐๐ แปลวา ที่ ๒ ทงั้ กงึ่ หมายความวา หนึ่ง กับ ครึ่ง ประกอบไว สต ขางหนาศัพทส งั ขยาทแี่ บงจาํ นวนน้ัน ๆ ในท่ีนี้กค็ อื สหสสฺ จงึ ทสสหสสฺ สต ๑๕๐ มีรปู เปนทิยฑฺฒ สหสสฺ } จึงหมายความวา ๑,๕๐๐ } ทย่ี ก ทสสหสฺส ๑๕,๐๐๐ ไวข า งตนน้ันได. ถาหากบอกจาํ นวนของนามนามตัวใด ก็ตอ ง ประกอบนามนามตวั นัน้ ดว ย ฉ. วิภัตติ พห.ุ เรยี งไวใ นระหวาง เชน ทยิ ฑฺฒ ชนาน สต แปลวา รอ ย แหง ชน ท. ที่ ๒ ทงั้ ก่ึง (๑๕๐ คน) ดังน.ี้
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนา ที่ 81 ข. ยงั ขาดอยเู ทา ตัวของเศษ จะครบเปน ๓-๔ รอ ย ฯลฯ โกฏิ ถาจะครบ ๓ ใช อฑฺฒเตยยฺ แปลวา ที่ ๓ ท้ังกึ่ง หมายความวา ๒ กับครึง่ เชน ๒,๕๐๐. ถา จะครบ ๔ ใช อฑฺฒฑุ ฺฒ ซงึ่ แปลวา ที่ ๔ ท้ังกึง่ หมายความวา ๓ กับคร่งึ เชน ๓,๕๐๐ ถา ประกอบตอ ง เรียงบทนามนามของจํานวนน้นั ไวห นาของจํานวนเตม็ อยา งท่ี กลา วในขอ ก. เชน นก ๒๕,๐๐๐ ประกอบวา อฑฒฺ เตยฺย สกุณาน ทสสหสฺส. หนู ๓๕,๐๐๐ ประกอบวา อฑฺฒฑุ ฺฒ มสู กิ าน ทสสหสสฺ ดงั น้ี เปนตวั อยาง. สว นที่ ๕ ทัง้ ก่งึ หรือที่ ๖ ท้ังก่งึ ฯลฯ ท่ี ๑๐ ท้งั ก่ึง ตอ งใชปรู ณสงั ขยา ตอ กับ อฑฺฒ ศัพท เปน อฑฒฺ ปจฺ ม อฑฒฺ ฉฏ ฯลฯ อฆฒฺ ทสม เปน ตน . สังขยาทปี่ ระกอบดวย อฑฺฒ ศพั ทน ี้ แมจะเปนปรณู ตัทธิตก็ จริง แตจํานวนที่บอกเต็มนัน้ กลาวเฉพาะจํานวนการนับ คือสังขยา เทานัน้ ไมไ ดหมายถงึ สิ่งท่ีถกู นับวาเปนที่เต็ม เชน คาํ วา คน ๒๐๐ ท้งั กงึ่ ถือเอาความวา ๑๕๐ คน อฑฒฺ คอื กึง่ เปน เครือ่ งแสดง ถึงจํานวน คือสงั ขยา ไมแสดงถงึ คนวา คนที่ ๑๕๐ ดังนี้ เพราะฉะน้ัน ปรณู ตทั ธติ ทป่ี ระกอบดวย อฑฺฒ ศพั ทน้ี จงึ ใชผ ถู กู นับในวิเคราะห เปนพหวุ จนะได. สงั ขยาตทั ธติ ในตทั ธติ นล้ี งปจ จยั แทน ปริมาณ ศพั ท ซงึ่ แปลวา การ กําหนด, การนบั , คือกาํ หนดวัตถุน้ัน ๆ ใหรจู าํ นวนวา มเี ทาไร แลว ลงปจ จยั ไวท ่ีสงั ขยา ซ่ึงบอกจาํ นวน, ในตัทธติ น้ี ลง ก ปจจยั ตวั เดียว
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธติ - หนาท่ี 82 ประกอบไดเ ฉพาะปกติสังขยาทวั่ ไป. รปู วเิ คราะห เทฺซ ปรมิ าณานิ อสฺสาติ ทวฺ ิก เครอ่ื งกําหนดนบั ท. ของ วัตถุน้ัน ๒ เหตนุ ั้น (วตั ถุนน้ั ) ชื่อวา มปี ริมาณ ๒. ตีณิ ปรมิ าณานิ อสสฺ าติ ตกิ ปรมิ าณ ท. ของวัตถุนนั้ ๓ เหตุน้ัน (วตั ถนุ ั้น) ชือ่ วา มปี ริมาณ ๓. จตตฺ าริ ปริมาณานิ อสสฺ าติ จตุกฺก ปริมาณ ท. ของวัตถนุ น้ั ๔. เหตุน้ัน (วัตถนุ น้ั ) ชื่อวา มปี ริมาณ ๔. รูปวเิ คราะหแ หงตทั ธิน้ี คอื ศพั ทปกตสิ ังขยา มกี ําหนดใช เปน พหุ. สว นปรมิ าณศพั ท ที่ ๒ กใ็ หเ ปน พห.ุ ดว ย แต อสฺส ศัพท เปน เอก. ตอ นั้นกถ็ งึ ลาํ ดับแหง อติ ิ ศพั ท บทปลงหรอื บทตัทธติ เมื่อ ลง ก ปจจัยแลว เปน นป.ุ เอก. อยางเดียว. ตองแปลวา ม,ี คลาย พหพุ พิหิสมาส ขอทเี่ ปนเอกวจนะอยางเดยี วน้ี นําใหสันนษิ ฐานวา เปนเคร่อื งรวมนามศัพท ทมี่ ีจาํ นวนมากไวเปน หมวดหมูอันเดียว กัน อยา งคาํ วา ปฺจก หมวด ๕, ฉกกฺ หมวด ๖ เปน ตน. วิภาคตทั ธติ ตทั ธิตน้ลี งปจจยั แทน วิภาค ศพั ท ซง่ึ แปลวา แจก, จําแนก, สวน. มีปจ จัย ๒ ตัว คอื ธา, โส. ธา ปจจัย เอเกน วภิ าเคน เอกธา โดยสวนเดียว ชอ่ื เอกธา.
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธติ - หนาท่ี 83 ทฺวีหิ วิภาเคหิ ทวฺ ธิ า โดยสว น ท. ๒ ชือ่ ทฺวิธา. โส ปจจัย ปเทน วภิ าเคน ปทโส โดยความจําแนก โดยบท ชอื่ ปทโส. สตุ ฺเตน วิภาเคน สุตฺตโส โดยความจําแนก โดยสตู ร ช่อื สตุ ตฺ โส. ตทั ธิตน้เี ปนอลงิ ค คือเม่ือสําเรจ็ รปู แลว จะไปแจกในลิงค ทง้ั ๓ ไมไ ด เพราะเปน ตตยิ าวภิ ตั ตทิ ั้งนั้น. ธา ปจ จยั ลงเฉพาะ ปกติสังขยาเทานัน้ ถาลงในเอก ศัพท ใหตัง้ ว.ิ เปนเอกวจนะ. ต้งั แต ทวฺ ิ ไป ใหต้งั วิ. เปน พหวุ จนะ ดงั ตัวอยางขางตน. ธา ปจจยั นี้ มีรปู คลา ยกบั วิธ ศัพท จงสงั เกตใหดี.วิธ ศัพทน ี้ กเ็ ปน ศพั ทต อ เขากับปกติสังขยาเหมอื นกนั แตส งั เกตไดง า ย เพราะ วิ อักษร นาํ หนา ธ อักษรเสมอ เชน เอกวิการ ทวุ ิธา ปจฺ วิธา สตฺตวิธา แปล วา มีอยา งเดียว, มี ๒ อยา ง, มี ๕ อยาง , มี ๗ อยา ง , เปนตน และ วิธ ศพั ท แจกตามวิภัตตทิ ั้ง ๗ ใน ๓ ลิงคไ ด. สว น ธา ปจจยั เม่ือประกอบเขาแลวก็ยอมปรากฏชัด เชน เอกธา ฯลฯ สตตฺ ธา เปน ตน แตเปน ตติยาวิภัตติอยา งเดียว แปลวา โดย, สวน. ตาม วจนะนน้ั ๆ . สว น โส ปจจัยน้นั ลงในศัพทน ามนาม ในรูปเสร็จกม็ ี โส ปจจยั ปรากฏอยทู า ยศพั ท เชน สตุ ฺตโส ปทโส เปน ตน. คลา ยกบั ศพั ทจําพวกมโนคณะ แตในมโนคณะนั้นทานแปลง ส วิภตั ติเปน โอ แลวลง ส อาคม จงึ เปน โส. เชน เจตโส อยโส เตชโส เปน ตน. ในตทั ธินีก้ ็เหมือนกนั เชน สตุ ตฺ โส ปทโส เปน ตน เม่ือ
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนาท่ี 84 เชนนี้ ตองอาศยั การแปลดู ถาแปลวา แหงสูตร แหง บท โส น้ัน แปลงมาจากวภิ ัตตนิ าม. ถาแปลวา โดยจําแนกโดยสตู ร โดยจํานวน โดยบทดงั น้ี โส น้ันเปนปจ จัยในตทั ธิตนี.้ ภาวตทั ธติ ปจจัยท่ลี งแทน ภาว ศัพทในตทั ธิตนี้ มี ๖ ตวั คือ ตต, ณย, ตตน, ตา, ณ, กณ.ฺ ตต ปจ จัย ลงในศัพท ๔ อยา งคือ : ในช่ือ จนทฺ สฺส ภาโว จนทฺ ตฺต ความเปน แหง พระจนั ทร ชอื่ จนั ทตั ตะ. ในชาติ มนสุ สฺ สสฺ ภาโว มนุสสฺ ตตฺ ความเปนแหงมนุษย ชอื่ มนุสสตั ตะ. ในทัพพ ทณฑฺ โิ น ภาโว ทณฺฑติ ฺต ความเปนคนมีไมเทา ชื่อ ทณั ฑติ ตะ. ในกริ ยิ า ปาจกสฺส ภาโว ปาจกตตฺ ความเปนแหงคนหุง ช่ือปาจกัตตะ. ในคุณ นีลสสฺ ภาโว นลี ตตฺ ความเปนแหง ของเขียว ช่ือ นลี ตั ตะ. ณย ปจ จยั ปณฺฑติ สฺส ภาโว ปณฑฺ ิจจฺ ความเปนแหงบณั ฑิต ช่ือ ปณ ฑิจจะ. กุสลสฺส ภาโว โกสลลฺ ความเปนแหงคนฉลาด ชอื่ โกสัลละ. สมณสฺส ภาโว สามฺ ความเปนแหง สมณะ ชือ่ สามัญญะ. สุหทสสฺ ภาโว โสหชชฺ ความเปนแหง เพื่อน ชอ่ื โสหัชชะ. ปรสิ สสฺ ภาโว โปรสิ สฺ ความเปนแหงบุรุษ ชือ่ โปรสิ สะ.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธิต - หนา ท่ี 85 นปิ กสฺส ภาโว เนปกฺก ความเปน แหงคนมปี ญ ญา ช่ือ เนปกกะ. อุปมาย ภาโว โอปมฺม ความเปนแหงอปุ มา ชอ่ื โอปม มะ. ณย ปจ จัยน้ีมีนัยวิจิตรมาก พฤทธสิ ระตวั หนา ที่เปน รัสสะลวน ลบ ณ เสยี เหลือไวแ ต ย. และลบ อะ ทีส่ ุดแหง ศพั ทข า งหนาที่จะ ลงปจ จยั เชน ปณ ฑติ ะ ลบ อะ เสีย คงแต ปณฺฑิตฺ แลวเอาพยัญชนะ ท่สี ดุ คอื ตฺ กบั ย ปจจยั ที่เหลือไวนนั้ อาเทศตามสถานที่ควร ดังน:้ี - เอา เปน เชน แปลวา ๑. ตยฺ จจฺ ปณฑฺ จิ จฺ ความเปน แหงบณั ฑิต. ๒. ลฺย ลลฺ โกสลลฺ ความเปนแหงคนฉลาด. ๓. ณยฺ ฺ สามฺ ความเปน แหงสมณะ. ๔. ทฺย ชฺช โสหชฺช ความเปน แหงเพอ่ื น. นอกนนั้ เปนเหมอื นพยญั ชนะหนา ย ทั้ง ๒ ตัว พยัญชนะหนา ย ในทน่ี นี้ นั้ เชน ส แหง ศัพทวา โปริส. และ ก แหง ศพั ทวา เนปก ดงั นี้:- เอา กับ แหง ศัพท เปน เชน ๑. ย ส โปริ สฺส โปรสิ สฺ . ๒. ย ก เนปก กกฺ เนปกฺก. ตตน ปจจยั ศพั ท ทลี่ ง ปจจยั นี้ ไมคอ ยจะปรากฏบอ ยนกั นอกจากท่ที า น แสดงไวในแนบ คอื ปถุ ชุ ชฺ นตฺตน, เวทนตฺตน เทา นน้ั โดย
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 86 วเิ คราะหว า ปถุ ชุ ชฺ นสฺส ภาโว ปุถชุ ชฺ นตฺตน ความเปนแหง ปุถุชน ชอ่ื ปุถุชนนัตตนะ. เวทนาย ภาโว เวทนาตตฺ น ความเปนแหงเวทนา ช่ือ เวทนัตตนะ. ตา ปจ จัย มุทโุ น ภาโว มทุ ุตา ความเปน แหงคนออน (คนใจออ น) ชือ่ มทุ ตุ า. นทิ ฺทารามสสฺ ภาโว นิททฺ ารามตา ความเปนแหง คนมีความ หลบั เปนที่มายินดี ช่ือ นทิ ทารามตา. สหายสสฺ ภาโว สหายตา ความเปนแหงสหาย ช่อื สหายตา. ณ ปจ จัย วิสมสสฺ ภาโว เวสม ความเปน แหง เสมอปราศ (ไมเสมอ) ชื่อ เวสมะ. สุจิโน ภาโว โสจ ความเปนแหงของสะอาด ชือ่ โสจะ. มทุ ุโน ภาโว มทฺทว ความเปน แหงคนออ น ช่อื มทั ทวะ. กณฺ ปจจัย รมณยี สสฺ ภาโว รามณียก ความเปนแหงของอันบคุ คลพงึ ยนิ ดี ช่ือ รามณียกะ. มนฺุ สสฺ ภาโว มานฺุ ก ความเปน แหงของเปนทฟี่ ใู จ ชอื่ มานุ กะ.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 87 อธบิ าย ณ ปจจัย มอี าํ นาจ พฤทธิ คอื ทฆี ะ หรือ วกิ าร ศัพท ทเ่ี ปนรัสสะสระ ไมม พี ยญั ชนะสังโยคอยูเบือ้ งหลังได ดังอธิบายมา ขา งตน. ถาเปน อิ วกิ ารใหเปน เอ เชน เวสม. ถา เปน อุ. พฤทธิ ใหเ ปน โอ เชน โสจ. พฤทธิ อุ เปน โอ แลวเอาเปน อว ไดอ กี เชน มทฺทว. ปจ จยั ท่เี นอื่ งดวย ณ คือ กณฺ ปจจัยก็เชนกัน, ตอ งลบ ณ เสยี เหลอื ไวแ ต ก แลว ทีฆะสระสัน้ เชน รามณยี ก มานุ ฺก เปนตน. ปจ จยั พิเศษ นอกจาก ๖ ตัวน้ัน มี ๓ ตัว คอื ณยิ , เณยฺย, พฺย, ลงแทน ภาว ศพั ท และสงเคราะหเขาในภาวตัทธิตนด้ี วย โดย วเิ คราะหว า :- ณิย ปจ. วรี สสฺ ภาโว วรี ยิ ความเปนแหง ความกลาหาญ ชอื่ วรี ิยะ. อลสสสฺ ภาโว อาลสิย ความเปน แหงคนเกยี จคราน ช่อื อาลสยิ ะ. เณยฺย ปจ. สุจโิ น ภาโว โสเจยฺย ความเปน แหงของสะอาดชอ่ื โสเจยยะ. พยฺ ปจ. ทาสสสฺ ภาโว ทาสพฺย ความเปนแหงทาส ช่อื ทาสพั ยะ. ศพั ททลี่ งปจจัยในภาวตัทธติ น้ี ยก ตา ปจจัยเสีย นอกนน้ั สาํ เร็จรูปเปน นป.ุ ท้ังสนิ้ สวน ตา ปจ จัย สาํ เร็จรปู เปน อิตฺ. และ ปจ จยั เหลา น้ีลงในศัพทไดหลายแผนก คือ :- ลงใน เชน แปลวา นาม จนทฺ ตฺต ความเปน แหง พระจนั ทร คุณ นีลตตฺ ความเปนแหงของเขยี ว
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 88 นามกติ ก ปาจกตฺต ความเปนแหง คนหุง กริ ยิ ากติ ก คตตา ความเปน แหงผไู ปแลว กริ ิยาอาขยาต อตถฺ ิตา ความเปน แหง ...มอี ยู นตถฺ ติ า ความเปนแหง ...ไมมี ลงซ้าํ ในตัทธิตอกี ทณฑฺ ติ ฺต ความเปน แหง คนมไี มเ ทา คามตา ความเปนแหง ชาวบา น ทณฺฑติ ฺต เดมิ เปน ตทัสสตั ถติ ัท. คามตา เดมิ เปน ราคาทิตทั . อนึ่ง บางทกี ็ใช ภาว ศัพท ตอ ทา ยศพั ทนั้นทีเดียวก็ได และ แปลเหมอื นลงปจ จัย เชน ภกิ ขฺ ภุ าโว ความเปนแหง ภิกษุ. นตฺถภิ าโว ความเปนแหง...ไมม .ี อตถฺ ภิ าโว ความเปน แหง... มอี ยู. เปน ตน แตท่ี ใช ภาว ศัพทตอ ทาย เชนน้ีเปนรปู ของสมาส ไมใ ชตัทธติ . อพั ยยตทั ธติ ตทั ธติ น้มี ีปจ จัย ๒ ตวั ถา ถ, สาํ หรับลงทหี่ ลังสัพพนาม แทน ปการ ศัพท. สัพพนามนนั้ ไดแก ต ศัพท และ ย ศัพท ตลอด ถึงศพั ททแ่ี จกตาม ย ศัพทนั้นไดด วย ทานแสดงวิเคราะหไว ในกัจจายนมูลปกรณ ดังน้ี :- ถา ปจจยั ลงใน ต ศัพท ในวภิ ตั ติทง้ั ๗ ดังน้ี ป. โส ปกาโร ตถา อ. ประการน้นั . ท.ุ ต ปการ ตถา ซ่งึ ประการนั้น. ต. เตน ปกเรน ตถา ดวยประการนัน้ . จ. ตสสฺ ปการสสฺ ตถา แกป ระการนั้น.
ประโยค๑ - อธิบายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนา ท่ี 89 ปฺ. ตสมฺ า ปการา ตถา แตประการนั้น. ฉ. ตสสฺ ปการสฺส ตถา แหง ประการนนั้ . ส. ตสฺมึ ปกาเร ตถา ในประการนน้ั . ถา ปจ จยั ลงใน ย ศัพท ดงั น้ี ป. โย ปกาโร ยถา อ. ประการใด. ท.ุ ย ปการ ยถา ซ่งึ ประการใด. ต. เยน ปกาเรน ยถา ดว ยประการใด. จ. ยสสฺ ปกาเรน ยถา แกป ระการใด. ปฺ. ยสมฺ า ปการ ยถา แตป ระการใด. ฉ. ยสฺส ปการสสฺ ยถา แหง ประการใด. ส. ยสมฺ ึ ปกาเร ยถา ในประการใด. ถึงแมศ ัพททแ่ี จกตาม ย ศัพท กพ็ ึงเขาใจตามนี.้ สวน ถ ปจจัย ลงเฉพาะใน กึ และ อิม ศพั ทเ ทา นนั้ กึ ศพั ทมรี ูปดังน้ี :- ป. โก ปกาโร กถ อ. ประการไร. ท.ุ ก ปการ กถ ซงึ่ ประการไร. ต. เกน ปกาเรน กถ ดว ยประการไร. จ. กสสฺ ปการสสฺ กถ แกป ระการไร. ปฺ. กสฺมา ปการา กถ แตประการไร. ฉ. กสสฺ ปการสฺส กถ แหงประการไร. ส. กสฺมึ ปกาเร กถ ในประการไร.
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนาท่ี 90 ทีล่ งใน อิม ศพั ท (น้ี) ดังนี้ ป. อย ปกาโร อติ ถฺ อ. ประการน.ี้ ท.ุ อมิ ปการ อิตถฺ ซ่ึงประการนี้ ต. อิมินา ปกาเรน อติ ถฺ ดวยประการนี้. จ. อสฺส ปการสสฺ อิตถฺ แกประการน้ี. ปฺ อสฺมา ปการา อิตถฺ แตป ระการน้ี ฉ. อสฺส ปกาเรสฺส อติ ถฺ แหง ประการน้ี ส. อสฺมึ ปกาเร อิตถฺ ในประการนี้. อน่งึ ยงั มีปจ จยั นอกนอี้ ีก คอื ถตตฺ า ปจ จัย ลงหลังสพั พนาม แทน ปการ ศพั ทเหมือนกัน เชน ตถตฺตา ยถตตฺ า อฺถตตฺ า เปนตน. และศพั ทท ่ีลง อัพยย ปจ จัยในนาม ตอน อพั ยยศพั ท ก็จัด เปน อัพยย ตทั ธติ ได. ตทั ธติ นเ้ี ปน อลงิ ค คือไมเ ปนลงิ คอะไร และ จะยักยา ยแจกดว ยวิภัตติทงั้ ๗ ลงในลิงคท ้ัง ๓ ไมไ ด. ตัทธติ ที่เหลอื จากสามัญญตัทธติ มี ๒ คือ อปุ มาตทั ธิต ๑. นสิ สติ ตัทธติ ๑. อปุ มาตัทธิต ตัทธิตน้ี มีปจจยั ๑ ตัว คือ อายติ ตตฺ ลงแทน วิย ศัพท ซงึ่ เปน ตัวอุปมาในขอ ความ มวี เิ คราะห ดังนี้ :- ธโุ ม วยิ ทิสสฺ ตตี ิ ธุมายติ ตฺย (ย วตฺถุ วัตถใุ ด) ยอม ปรากฏดจุ ควนั เหตุน้นั (ต วตถฺ ุ วตั ถนุ ้นั ) ช่อื ธมุ ายติ ัตตะ (ปรากฏดจุ ควัน).
ประโยค๑ - อธิบายบาลไี วยากรณี สมาสและตัทธติ - หนา ที่ 91 ติมริ วยิ ทิสฺสตตี ิ ตมิ ิรายติ ตฺต (ย วตฺถุ วตั ถใุ ด) ยอม ปรากฏดจุ หมอก เหตุนั้น (ต วตฺถุ วตั ถนุ น้ั ) ชือ่ ตมิ ริ ายติ ตั ตะ (ปรากฏดุจหมอก). นสิ สติ ตัทธิต ในตัทธติ นี้ มปี จจยั ๑ คอื ล ลงแทน นิสฺสติ และ ฐาน ศัพท ดงั น้ี :- ทฏุ ุ นสิ สฺ ต ทฏุ ุลฺล (กมฺม กรรม) อาศยั แลว ซ่ึงวัตถุ อนั ชัว่ ชอื่ ทฏุ ลุ ละ (อาศัยแลว ซง่ึ วตั ถอุ นั ช่วั ). เวท นสิ สฺ ิต เวทลลฺ (สาสน คําสงั่ สอน ) อาศยั แลว ซึง่ เวท (ปญญา) ชื่อ เวทลั ละ (อาศยั แลวซ่ึงเวท). ทฏุ ุสฺส าน ทุฏุลฺล เหตุเปน ท่ตี งั้ แหงกรรมชวั่ ชอื่ ทฏุ ลุ ละ (เหตเุ ปนที่ต้ังแหก รรมชวั่ ). เวทสสฺ าน เวทลฺล เหตเุ ปน ทีต่ ั้ง แหง เวท (ปญ ญา) ชอ่ื เวทัลละ (เหตุเปนทต่ี งั้ แหง เวท). ลง ล ปจ จยั แลวซอน ล จึงเปน รปู อยางนั้น. ตัทธติ ทง้ั ๒ นี้ เปนคุณแจกได ๓ ลงิ ค. บทเพ่ิมเตมิ ขอควรสนใจและควรจาํ ตัทธิตนาม โคตตตัทธติ สมุหตัทธิต ภาวตทั ธิต. นอกน้ัน เปนตทั ธคิ ุณ. ตัทธิตทีเ่ ปนอลงิ ค คอื วภิ าคตัทธติ อพั ยยตัทธิต เพราะแจก
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธติ - หนาท่ี 92 ดว ยวภิ ตั ติทั้ง ๗ ในนามทั้ง ๓ ไมได. ปจ จัยท่ีพอ งกัน ณ ปจ จัย มใี น ๕ ตทั ธติ คอื โคตฺตตทฺ. ราคาทิตฺท. สมุหตท.ฺ ตทสสฺ ตฺถิตท.ฺ ภาวตทฺ. ณกิ ปจ...๒ ตทั ธิต คือ โคตฺตตท.ฺ ตรตฺยาทิตท.ฺ อิย ปจ ...๒ ตัทธิต คือ ชาตาทติ ท.ฺ เสฏ ตทฺ. กณฺ ปจ ...๒ ตัทธิต คอื สมหุ ตทฺ. ภาวตทฺ. ตา ปจ ...๒ ตัทธติ คือ สมุหตท.ฺ ภาวตท.ฺ อี ปจ ...๒ ตัทธติ คือ ตทสฺสตถฺ ิตท.ฺ ปูรณตทฺ. ปจจยั ทีค่ ลายกนั กณฺ ปจจัย ในสมหุ ตท.ฺ และ ก ปจจัยในสงั ขยาตท.ฺ คลาย กนั . ณกิ ปจ จยั ใน โคตฺตตท.ฺ ตรตฺยาทิตทฺ. คลา ยกบั อกิ ปจ จัยใน ตทสฺสตถฺ ติ ทฺ. ปจ จยั นอกแบบ ปจ จยั อทุ าหรณ แปลวา ณิย วรี ยิ ความเปน แหง คนกลา เณยฺย โสเจยฺย ความเปนแหง ของสะอาด. พยฺ . ทาสพยฺ ความเปน แหงทาส. ทง้ั ๓ ตวั นี้ ลงแทน ภาวศพั ท ในภาวตทั ธิต. ปจ จัย อุทาหรณ แปลวา ถตตฺ า อฺ ถตฺตา โดยประการอ่นื .
ประโยค๑ - อธบิ ายบาลีไวยากรณี สมาสและตทั ธิต - หนา ท่ี 93 ถตฺตา ปจจัยน้ี ลงหลงั สัพพนาม แทน ปการ ศัพท จดั เขา ใน อัพยยตทั ธิต.
Search