ชนั้ ประโยค ป.ธ.๓ สำนักเรยี นวดั ปำกน้ำ \"หลกั กำรสมั พนั ธไ์ ทย\"
บำลีไวยำกรณ์ ๔ ภำค วำกยสมั พนั ธ ์ ภำคที่ ๓ วำกยสมั พนั ธ ์ เป็ นหลกั สำคญั ในก ำร ศึก ษ ำ ภำษ ำบ ำลีเพ รำ ะ แสดงถึงกำรกและวิธีประพันธผ์ ูก คำพูดที่แบ่งไวใ้ นวจีวิภำคใหเ้ นื่อง เป็ นอนั เดียวกนั
คำว่ำ สมั พนั ธ ์ เป็ นศพั ทท์ ี่มำจำกคำว่ำ “วำกยสมั พนั ธ”์ คำว่ำ วำกยสมั พนั ธ ์ แบ่งออกเป็ น ๒ คำ คือ วำกย+สมั พนั ธ ์ ▪คำว่ำ “วำกย” หมำยถึง หลำยบทหรอื หลำยพำกยำงคท์ ีผ่ สมกนั จนได ้ ควำมไดเ้ ต็มที่ ▪คำว่ำ “สมั พนั ธ”์ หมำยถึง ควำมเกยี่ วเนื่องของบทหนึ่งกบั อกี บทหนึ่ง “วำกยสมั พนั ธ”์ จึงหมำยถึง “วิธีประกอบคำพูดเขำ้ เป็ นพำกยเ์ พื่อ เป็ นประโยชนใ์ นกำรพูดหรอื แต่งหนังสือซงึ่ ”
ควำมหมำยของคำว่ำ “สมั พนั ธ”์ สมั พนั ธ ์ แปลว่ำ ควำมเกีย่ วเนื่องกนั หมำยถงึ “ควำมเกีย่ วเนื่อง แห่งบทหนึ่งกบั อีกบทหนึ่ง” กำรสมั พนั ธ ์ จงึ หมำยถงึ กำรบอกว่ำบำลตี วั นีเ้ นื่องกนั กบั ตวั น้ัน และตวั นั้นเนื่องกนั กบั ตวั โนน้ ต่อไปเป็ นลูกโซ ถำ้ จบประโยคก็ถือ ว่ำจบไปตอนหนึ่ง
เป้ ำหมำยสำคญั ของกำรสมั พนั ธ ์ บททัง้ หลำยในพำกยำงคก์ ็ดี ในพำกยก์ ็ดี ย่อมมีควำมเนื่องถึงกนั สิน้ กำรเรยี นใหร้ ูจ้ กั ว่ำบทไหนเนื่องกบั บทไหน เรยี กว่ำเรยี นสมั พนั ธ ์ กำรสมั พนั ธน์ ั้นมีใจควำมสำคญั อยู่ที่กำรทำใหร้ ูจ้ กั กำรเนื่องกนั ของ บทนั้นๆ (บทนั้นๆ คือ บทในแต่ละพำกยำงค ์ และพำกยซ์ งึ่ เรยี กอีก อย่ำงหนึ่งว่ำ “คำพูด” ในภำษำบำลี)
คำพู ดในภำษำบำลี ๓ อย่ำง ๑. บท คือ ก) นำมศัพทท์ ี่ประกอบดว้ ยวิภัติติแลว้ เช่น บุริโส มุนึ เกฏฺฐินำ ครุสฺมำ วิญฺญุสฺส เป็ นตน้ ข) กิริยำท่ีประกอบวิภัตติแลว้ เช่น คโต กำตพโฺ พ ภุญชติ วุจฺจติ กำเรสิ เป็ นตน้ ๒. พำกยำงค ์ คือ หลำยบทผสมกนั จนไดค้ วำม แต่ยังเป็ นตอน ๆ ไดค้ วำมยังไม่เต็ม เรียกว่ำ ”พำกยำงค”์ มี ๓ อย่ำง คือ ๑. นำมพำกยำงค ์ เช่น กุลสฺส ปุตโฺ ต, เสฏฺฐิสฺส เคห เป็ นตน้ ๒.คุณคุณพำกยำงค ์ เช่น ปิ โย ปุตโฺ ต, กุสโล เสฏฺฐี เป็ นตน้ ๓.กิริยำพำกยำงค ์ เช่น ปุตโฺ ต มำตำปิ ตเรสุ สมฺมำ ปฏิปชฺชนโฺ ต เป็ นตน้ ๓. พำกย ์ คือ พำกย ์ หรือ ประโยค คือ หลำยบทหรือหลำยพยำงคผ์ สมกันไดใ้ จควำมเต็มที่ โดยเริ่มตน้ ปร ะโย คจ นจ บ กิริย ำ คุม พ ำก ย ์ ไ ดค้ วำ ม สม บูร ณ์ คือ มีตัวปร ะ ธำน แ ละกิร ิย ำคุม พำก ย ์ (ย ก เว น้ ป ร ะโย ค ลิงคตฺถ) เช่น เสฏฐี ทำนำ เทติ / สำมเณโร วตฺต กโรติ / พุทโฺ ธ โลเก อุปฺปนโฺ น มยำ ปุญฺญ กต เป็ นตน้
วิธีกำรศึกษำหลกั สมั พนั ธ ์ คือการศึกษากฎเกณฑ์ หรือวิธีการเชื่อมคาในประโยคว่าคาไหนมีหน้าท่ี อย่างไรและเกี่ยวข้องกับคาไหน เช่น ❖ พฺราหฺมโณ ภตฺตํ อทาสิ ฯ แปลว่า อ. พราหมณ์ ได้ถวายแล้ว ซ่ึงภัตร ❖พฺราหฺมโณ สยกตฺตา ใน อทาสิๆ อาขฺยาตบท กตฺตุวาจก ภตฺตํ อวุตฺตกมฺม ใน อทาสิ ฯ
กำรสมั พนั ธ ์ ๒ รู ปแบบ ๑. สัมพันธ์เข้า คือ การสัมพันธ์เข้าหาศัพท์อื่น หมายถึงการสัมพันธ์บทหนึ่งไปหาอีกบทหนึ่ง โดยมีองค์ประกอบ ๔ อย่าง คือ ๑.ศัพท์ที่จะสัมพันธ์ ๒.ชื่อสัมพันธ์ ๓.คาํ เชื่อ และ ๔.สัมพันธ์ท่ี รองรับ ๒. สัมพันธ์ทิ้ง (สัมพันธ์ปล่อย ) คือ การสัมพันธ์ที่จบที่ตัวเอง ไม่มีการเชื่อมโยงกับบทอื่น หลักๆ มีดังนี้ ๑ ลิงฺคตฺถ และ อุปมาลิงฺคตฺถ ๒ อาลปน ๓ นิบาต (ต้นข้อความ บอกคาํ ถาม เป็นต้น) ๔ กิริยาคุมพากย์
สิ่งที่่ควรรู ก้ ่อนสมั พนั ธ ์ ๑. ช่ือเรยี ก ๒. ลาํ ดบั การ สมั พนั ธ์ สมั พนั ธ์ ๓. คาํ เช่ือม ๔. สมั พนั ธ์ สมั พนั ธ์ อะไรเขา้ กบั อะไร
ลำดบั สมั พนั ธ ์ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. อำลปนะ ประธำน กิรยิ ำคมุ พำกย ์ นิบำตตน้ กำลสตั มตี น้ ตน้ ขอ้ ควำม บทวเิ สสนะของ ทเี่ หลอื ขอ้ ควำม ขอ้ ควำม อนื่ ๆ (ทแี่ ปล ประธำน เชน่ ต เรยี งลำดบั จำก กอ่ นประธำน) เอต อมิ อมุ ศพั ท ์ ตน้ ประโยคไป จนหมด ประโยค
คำเชือ่ ของ ใน เขำ้ กบั
คำเชือ่ ม “ของ” ๑. ของ หมำยเหตุ: ก) ใชเ้ ชือ่ มสพั พนำม ไปหำ ข อ ง ค ำ เ ชื อ่ ม นี ้ใ ช ก้ บั ว ิเ ส ส น และอพฺภนฺ ตรกิรยิ ำ เป็ นพืน้ นำม เช่น โส วิเสสน ของ ปุ รโิ ส, ข) ใชเ้ ชือ่ มคุณ ไปหำ นำม เช่น เอโก วิเสสน ของ กสิโก / กเถนโฺ ต อพฺภนฺ ตรกิรยิ ำ ของ ภิกฺขุ (รวมทงั้ อพฺภนฺ ตรกิรยิ ำ/ อิตฺถมฺ เป็ นตน้ ภูต) เช่น อคโฺ ค วิเสสน ของ พุทฺ โธ เป็ นตน้
คำเชื่อม “ใน” ๒. ใน ขอ้ สังเกตุ: ก) ใชเ้ ชื่อมกิรยิ ำ ไปหำ กิรยิ ำ เช่น ใน คำเชอื่ มนี้ใชม้ ำตรฐำนท่ัวไปทั้งกบั นำม และกิรยิ ำ เช่น คนฺ ตฺวำ ปุพฺพกำลกิรยิ ำ ใน จรติ ฺวำ เป็ นตน้ เสฏฺฐิโน สำมีสมฺพนฺ ธ ใน ธน ๆ สยกตฺตำ ข) ใชเ้ ชื่อม นำม ไปหำ นำม เช่น ใน อตฺถิ ๆ อำขำยำตบท กตฺตุวำจก เสฎฺฐิสฺส สำมีสมฺพนฺ ธ ใน คำโม เป็ น เขตฺต อวุตฺตกมฺม ใน คนฺ ตฺวำ ๆ ปุพฺพกำล ตน้ กิรยิ ำ ใน วตฺวำ เป็ นตน้ ค) ใชเ้ ชื่อม อพั ยยศพั ท ์ ไปหำ กิรยิ ำ หรอื นำม เช่น อิทำนิ กำลสตฺตมี ใน จรติ, ตทำ, กำลสตฺตมี ใน พุทโฺ ธ เป็ น ตน้ ง) ใชเ้ ชื่อคุณ ไปหำ กิรยิ ำ เช่น กโรนฺ โต อพฺภนฺ ตรกิรยิ ำ ใน วิจรติ เป็ นตน้
คำเชือ่ ม “เขำ้ กบั ” ๓.เขำ้ กบั หมายเหตุ: เข้ากับ คาํ เชื่อมนี้ใช้กับนิบาต ที่พบมาก คือ ใ ช ใ้ น ก ร ณีศ พั ท น์ ิบ ำ ต เ ข ำ้ ก บั น ำ ม เอว, อิว, ว, วิย, ปิ , อปิ , นาม, จ และ วา ศัพท์ คุณนำม กิรยิ ำ บทเดียวบำ้ ง หลำย เช่น บ ท บ ำ้ ง ห ล ำ ย ป ร ะ โ ย ค บ ำ้ ง ต ำ ม แ ต่ เอ ว ศัพ ท์ อ ว ธ า ร ณ เ ข้า กับ ปุตฺโ ต ปิ ศัพ ท์ เรอื่ ง อเปกฺขตฺถ เข้ากับ ภิกฺขุ และใช้เชื่อมตติยาวิภัตติ ท่ีเข้ากับ สห หรือ เช่น ปิ ศพั ท ์ อเปกฺขตฺถ เขำ้ กบั อตี สทฺธึ ศัพท์ เต /เอว ศพั ท ์ อวธำรณ เขำ้ เช่น ปฏิสมฺภิทาหิ สหตฺถตติยา เข้า กบั อกำสิ เป็ นตวั อย่ำง กับ สห เป็นต้น
สมั พนั ธอ์ ะไรเขำ้ กบั อะไร ประธำน เขำ้ ไปหำกิรยิ ำคุมพำกย ์ และสำมำรถสมั พนั ธท์ ิง้ ได้ เช่น ตฺว สยกตฺตำ ใน เทหิฯ เสฏฺฐี สยกตฺตำ ใน อำหฯ ภนฺ เต สำธุ เป็ นตน้ ทุติยำวิภตั ติ เขำ้ ในกิรยิ ำอย่ำงเดียว เชน่ ภตฺต อวุตฺตกมฺม ภุญชติ ฺวำ, วจน อวุตฺตกมฺม ใน สุตฺวำ เป็ นตน้ ตติยำวิภตั ติ เขำ้ ในกิรยิ ำก็ได้ เขำ้ ในนำมก็ได้ เขำ้ อพั ยยศพั ทก์ ็ได้ เ ช น่ ย ำ เ น น ก ร ณ ใ น ค นฺ ต ฺว ำ , ว ำ ณิช ส ฺส ค ม เ น น ป โ ย ช น น ต ฺถ ิ, พฺรำหฺมเณน สทฺธึ จรติ ฺวำ เป็ นตน้
สมั พนั ธอ์ ะไรเขำ้ กบั อะไร จตุตถีวิภตั ติ เขำ้ กิรยิ ำก็ได้ เขำ้ ในนำมก็ได้ เช่น ปุคฺคลสฺส ทตฺวำ, กึ (ปโยชน) ตสฺส เสฎฺฐิโน เป็ นตน้ ปั ญจมีวิภตั ติ เขำ้ ในกิรยิ ำก็ได้ เขำ้ นิ บำตก็ได้ เช่น เสฎฺฐิสฺส คมนำ ยำว, คำมโต คนฺ ตฺวำ เป็ นตน้ ฉัฏฐีวิภตั ติ เขำ้ ในนำมก็ได้ เขำ้ อพั ยยศพั ทก์ ็ได้ เช่น เสฎฺฐิสฺส คำโม, รุกฺขสฺส อุป ริ เป็ นตน้ สตั ตมีวิภตั ติ เขำ้ ในนำมก็ได้ เขำ้ ในกิรยิ ำก็ได้ เช่น เคเห วสติ, อรญฺเญ ทำรุก, อุทเก กลล เป็ นตน้
เทคนิ คกำรเขียนสมั พนั ธ ์ ๑ . เ ขีย น ย่อ ห น ้ำ ทุก ค ร ัง้ เ มื่อ ห ม ด ป ร ะ โ ย ค ( ถึง แ ม ป้ ัญ ห ำ จ ะ พิม พ ต์ ิด ต่อ ก นั ไ ป ก็ต ำ ม ) สนำมหลวงนิ ยมใชเ้ ครือ่ งหมำย ฯ (ไปยำลน้อย) หรอื ภำษำพูดเรยี กว่ำ หัว ตะปูหรอื ค่ัน เป็ นเครอื่ งหมำยจบประโยค ๒. คำถำตอ้ งเขียนคงรูป คำถำไว ้ คือตอ้ งย่อหน้ำกระดำษไวข้ ำ้ งทั้ง ๒ ขำ้ ง เช่นเดียวกบั กำรเขียนวิชำแปล อย่ำเขียนเต็มหน้ำกระดำษเหมือนประโยคทอ้ งเรอื่ งและแกอ้ รรถ ๓. พยำยำมเขียนตัวหนังสือใหส้ วย สะอำด อ่ำนง่ำย เพื่อควำม สะดวกแก่ผูต้ รวจ
กำรเดินสมั พนั ธ ์ ๑. อยา่ เรยี กช่ือ สมั พนั ธผ์ ดิ ๓. อยา่ สมั พนั ธ์ ๒. อยา่ สมั พนั ธ์ ผดิ วาจก เขา้ ผดิ ท่ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: