จดหมายเหตุงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จังหวัดระนอง

บทที่ 4 | หน๎า ๙๗ การดาเนินงานของจิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ การดําเนินงานของจิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งมี ผู๎วาํ ราชการจังหวัดระนองเป็นประธาน ได๎กําหนดให๎แตํละอําเภอดําเนินการรับสมัครประชาชนผ๎ูประสงค๑ ท่ีจะมีสํวนรํวมในการบําเพ็ญประโยชน๑ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเปิดรับลงทะเบียนในระหวํางวันที่ 1 - 30 กันยายน พุทธศักราช 2560 ณ ท่ีวําการอาํ เภอทุกอําเภอในจงั หวดั ระนอง โดยอาศัยระบบคอมพิวเตอร๑ออนไลน๑ของ ระบบงานทะเบยี นในการดําเนินการดงั กลาํ ว ท้งั นี้ ได๎กําหนดคณุ สมบตั ิของท่จี ะสมคั รเป็นจติ อาสาใน ดังน้ี 1.ข๎าราชการ (ข๎าราชการพลเรือน ทหาร ตํารวจ) รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชนทุกกลุํม อายุ 2.กรณีท่ีเคยลงทะเบียนสมัครเป็นจิตอาสา “เราทําความดี ด๎วยหัวใจ” แล๎ว สามารถสมัคร เป็นอาสาเฉพาะกิจเป็นอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯได๎ ในระหวําง วนั ที่ 1 - 30 กนั ยายน พุทธศกั ราช 2560 เวลา 8 นาฬกิ า ถงึ เวลา 16 นาฬิกา ไมเํ ว๎นวันหยุดราชการ ในการลงทะเบยี นจติ อาสาเฉพาะกจิ ฯ ได๎มกี ารแบงํ งานออกเปน็ 8 ประเภทงาน ประกอบด๎วย ท่ี ประเภทงาน รายละเอยี ดงาน 1 งานดอกไม๎จนั ทน๑ ปฏิบัติงานสนบั สนุนเจา๎ หนา๎ ท่ีท่เี กี่ยวขอ๎ งในการจัดซ๎มุ การแจก- การรับ การเชิญ ดอกไม๎จันทน๑ และชํวยจดั ระเบยี บ แถวประชาชนในการเขา๎ แถว ถวายดอกไม๎ 2 งานประชาสัมพันธ๑ ชํวยประชาสมั พันธ๑และให๎บริการข๎อมลู (Information) เก่ียวกบั งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รวมถงึ ชวํ ยดูแลตอ๎ นรบั /รับรอง (Reception) ประชาชน ณ จุดบรกิ ารตาํ งๆ 3 งานโยธา ปฏิบตั ิงานสนบั สนนุ เร่อื งการจดั เตรยี มสถานที่ ชวํ ยดูแลรักษา ความสะอาด เรียบร๎อย ของสถานท่ีจัดงาน ใหม๎ ีความสวยงาม สมพระเกยี รติ ทัง้ กํอน ระหวําง และหลังงาน พระราชพธิ ถี วาย พระเพลงิ พระบรมศพฯ 4 งานขนสงํ เพือ่ ความ ปฏบิ ัติงานสนบั สนุนในเรือ่ งการรบั -สํง ประชาชนด๎วย ปลอดภัย ยานพาหนะ เชนํ รถยนต๑ จักรยานยนต๑ เรือโดยสาร เพอ่ื ความปลอดภยั รถกอล๑ฟไฟฟาู รถพวํ ง ฯลฯ รวมถึงคอยอาํ นวยความสะดวก ของประชาชน ในเร่ืองการแนะนาํ เส๎นทางมายังพ้นื ทจ่ี ัดงาน 5 งานบรกิ ารประชาชน ปฏิบตั งิ านสนับสนุนในเรือ่ งการจัดหาหรือการบรกิ ารอาหาร น้าํ ดม่ื หอ๎ งสุขา การเตรยี มรมํ เส้ือกนั ฝน และชวํ ยประสานงาน ดแู ลความเรียบร๎อยในพื้นทพ่ี ักคอยของประชาชน

บทที่ 4 | หน๎า ๙๘ 6 งานแพทย๑ ปฏบิ ัตงิ านสนับสนนุ และอํานวยความสะดวกแกํแพทย๑ พยาบาล รวมถึงชํวยอาํ นวยความสะดวกด๎านการปฐมพยาบาล เบ้ืองตน๎ (First Aid) ชํวยเหลอื ก๎ูชพี (Basic Life Support) ตลอดจนชวํ ยดูแลเส๎นทางฉกุ เฉนิ สําหรับรถพยาบาลขนสํง ผ๎ูปุวย 7 งานรกั ษาความปลอดภยั ชํวยสอดสํอง สังเกต ระมัดระวงั ความปลอดภยั บุคคลและ สถานทีจ่ ัดงาน และแจ๎งขอ๎ มลู ใหพ๎ นักงานทราบกรณพี บเห็นสง่ิ ผดิ ปกติ ทั้งกํอน ระหวําง และหลงั พระราชพธิ ีถวายพระเพลิง พระบรมศพฯ 8 งานจราจร ปฏิบตั ิงานสนับสนุนและดูแลด๎านการจราจร โดยรอบสถานที่ จดั งาน เชนํ ดแู ลการหยุดรถ จอดรถ การข๎ามทางของ ประชาชน การแนะนาํ เสน๎ ทาง การแจง๎ อุบตั เิ หตุการจราจร ให๎แกเํ จ๎าพนกั งานทราบ ส่ิงของพระราชทานที่ได้รบั ประกอบดว๎ ย 1. ผู๎ที่เคยสมัครเป็นจิตอาสา“เราทําความดี ด๎วยหัวใจ” แล๎วมีความประสงค๑จะสมัครเป็น จิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพธิ ถี วายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในคร้ังน้ี จะไดร๎ ับสิง่ ของพระราชทาน ดงั น้ี 1.1 บตั รประจําตัวจติ อาสา “เราทาํ ความดี ดว๎ ยหวั ใจ” 1.2 บัตรประจําตัวจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ (แบํงสีตามประเภทของงาน) 1.3 หมวก ผ๎าพนั คอ และปลอกแขน 2. ผู๎สมัครใหมํที่ประสงค๑เข๎ารํวมเป็นจิตอาสางานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะได๎รบั สง่ิ ของพระราชทาน ดังนี้ 2.1 บัตรประจําตัวจิตอาสา “เราทาํ ความดี ด๎วยหัวใจ” 2.2 บัตรประจําตัวจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ (แบงํ สีตามประเภทของงาน) 1.3 เสอื้ หมวก ผา๎ พนั คอ และปลอกแขน ในวันงานพระราชพิธี จิตอาสาเฉพาะกิจได๎รํวมปฏิบัติหน๎าท่ีอยํางเต็มท่ี เชํน การให๎บริการ จุดจอดรถการจัดระเบียบการจราจร และอํานวยความสะดวกด๎านการบริการอาหารและเครื่องด่ืม ณ จุด คัดกรองการจัดระเบียบมวลชน เพ่ือให๎ผู๎เข๎ารํวมพิธีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได๎รับ ความสะดวก และความเป็นระเบียบเรียบร๎อย มีการให๎บริการให๎ยืมเครื่องแตํงกายสําหรับประชาชน ที่ตอ๎ งการเขา๎ รวํ มถวายดอกไมจ๎ ันทนแ๑ ตเํ ครือ่ งแตํงกายไมํเรยี บรอ๎ ย ดแู ลอํานวยความสะดวกให๎แกํประชาชน ในระหวํางพักคอย ซ่ึงจัดลําดับการถวายดอกไม๎จันทน๑ แนะนําประชาชนในการเข๎าออกหรือเข๎ารํวม ในบริเวณงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ตลอดจนการรํวมกันทําความสะอาดเรียบร๎อย ของสถานที่ ซ่งึ จติ อาสาทุกคนปฏบิ ัติหน๎าที่อยํางเต็มกําลังความสามารถ ด๎วยความเต็มใจ เพื่อแสดงออกถึง ความจงรกั ภักดีตํอพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร

บทท่ี 4 | หนา๎ ๙๙ การปฏบิ ตั หิ นา๎ ท่ขี องจิตอาสาเฉพาะกจิ การจดั แสดงมหรสพถวายพระเกยี รตยิ ศและแสดงความอาลยั การแสดงมหรสพสมโภชในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติ ที่สืบทอดตํอกันมาต้ังแตํสมัยอดีต ซึ่งถือวําเป็นการสํงเสด็จพระมหากษัตริย๑กลับสูํสวรรค๑ โดยการจัด การแสดงมหรสพสมโภชในคร้ังนี้จัดข้ึนอยํางตระการตา ผสมผสานท้ังศิลปะการแสดงแบบโบราณ ราชประเพณีรํวมสมัย ประกอบด๎วยผู๎รํวมแสดงจํานวนกวํา 300 คน จากการแสดงทั้งส้ินจํานวน 15 ชุด ซ่ึงมาจากสถาบันการศึกษา ชมรมตําง ๆ รวมทั้งกลํุมอนุรักษ๑ศิลปวัฒนธรรมในจังหวัดระนอง ซึ่งตําง รํวมใจกันสรา๎ งสรรค๑ชุดการแสดงทีง่ ดงามตระการตา และหาชมไดย๎ ากยิ่ง การแสดงเร่ิมตน๎ ในเวลาเวลา 18 นาฬิกา ของวันที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 ตามลําดับ ดังน้ี ชุดการแสดงท่ี 1 “การขับร้องเพลงประสานเสียงวงคอรัส” จากโรงเรียนบ๎านทุํงหงาว อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง โดยเป็นการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ๑ในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาถํายทอดเพ่ือน๎อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และรวํ มถวายความอาลัยแดพํ ระองคท๑ าํ น

บทที่ 4 | หนา๎ ๑๐๐ ชุดการแสดงที่ 2 “การบรรเลงดนตรีไทยและราเทพบันเทิง” จากโรงเรียนราชประชา นุเคราะห๑ 38 อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง โดยเป็นการบรรเลงวงป่ีพาทย๑ไม๎นวม เพลงเตําเหํ ออกลาวครวญ ตอํ ดว๎ ยการบรรเลงประกอบการราํ ชดุ ระบาํ เทพบนั เทิง ซง่ึ เปน็ การแสดงฉากหนงึ่ ใน “ละคร ใน” เรื่อง อเิ หนา กลาํ วถึง องค๑ปะตาระกาหลาบรมราชอยั การของ อเิ หนา และบุษบา เมื่อสิ้นพระชนม๑แล๎ว ไดเ๎ สด็จไปอุบตั เิ ปน็ เทพราชาสถิตยอ๑ ยํู ณ วิมานเมฆบนสวรรค๑ มเี ทพบตุ รและเทพอัปสรฟูอนรําถวาย เปรียบ ดง่ั ในหลวงสถิตอยูํ ณ สวรรคาลัย และมีเหลําเทวดา นางฟูา มาฟูอนราํ ถวาย ชุดการแสดงท่ี 3 “เปิดตานานเมืองระนอง (คอซู้เจียง)” จากสํานักงานเทศบาลเมือง บางร้ิน โดยเป็นการนําเสนอเรื่องราวของพระยาดํารงสุจริตมหิศรภักดี ซึ่งเป็นเจ๎าเมืองระนอง บอกเลํา เรอ่ื งราวการสรา๎ งเมอื งระนองจากในสมัยอดีต ชุดการแสดงที่ 4 “พิลาปรักล้นใจ ถวายไท้พระภูมิพล” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสนุ นั ทา ศูนย๑ระนอง เปน็ การแสดงที่ประพันธ๑คํารอ๎ ง บรรจทุ าํ นองเพลงและสรา๎ งสรรค๑ทําราํ ขน้ึ ใหมโํ ดย สาขาวชิ าศิลปะการแสดง (นาฏศลิ ป์ไทย) เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด๎วยพระมหากรณุ าธคิ ุณที่พระองค๑ได๎ทรงบําเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพอ่ื บาํ บดั ทุกข๑บํารงุ สุขแกํอาณาประชาราษฎรท๑ ่ัวทุกภูมิภาคของไทย ตลอดรชั สมยั ของพระองค๑ ชาวไทยทุก คนตาํ งนอ๎ มสาํ นกึ และเทดิ ทูนใหพ๎ ระองคเ๑ ป็นพอํ หลวงของคนไทยท้ังประเทศ ชุดการแสดงท่ี 5 “การแสดงราเบิกโรง ชุด ฉุยฉายเบญจกายแปลง และโขนรามเกียรต์ิ ตอน ลักสีดา (พระรามตามกวาง) ระบามฤคระเริง (ระบากวาง)” จากศูนย๑การศึกษาพิเศษประจํา จังหวัดระนองและโรงเรยี นเทศบาลบ๎านเขานเิ วศน๑ อําเภอเมอื งระนอง จงั หวัดระนอง การแสดงฉุยฉายเบญจกายแปลง เป็นการแสดงประเภทรําเดี่ยวที่อวดลีลาทํารําท่ีอํอนช๎อย งดงาม มีกระบวนทํารําตามแบบแผนนาฏศิลป์ไทย รวมถึงเป็นการแสดงชุดหน่ึงของโขนเร่ืองรามเกียรต์ิ ชุดนางลอย ซง่ึ เปน็ บทบาทของนางเบญจกายท่ีทศกัณฐ๑ออกอุบายให๎แปลงกายเป็นนางสีดา และทําทีวําได๎ ตายแล๎ว และลอยน้ําไปยังหน๎าพลับพลาของพระราม เมื่อพระรามเห็นแล๎วก็คิดวํานางสีดาตายจริง จะได๎ยกทัพกลับ นางเบญจกายจําใจรับอาสาออกไปดูนางสีดายังสวนขวัญ แล๎วกลับมาแปลงรําง เป็นนางสีดา เมื่อแปลงกายแล๎วจึงได๎มารําฉุยฉายเบญจกาย อวดความงามวําแปลงกายได๎เหมือนนางสีดา (เป็นการแสดงรําเบกิ โรงการแสดงโขน) การแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอน ลักสีดา (พระรามตามกวาง) เป็นตอนหนึ่งของการแสดงโขนชุด รามเกียรต์ิ กลําวถึง กวางทอง คือ มารีศพระยายักษ๑เป็นลูกของนางกากนาสูร ซ่ึงรับพระราชบัญชาของ ทศกัณฐ๑ แปลงกายเป็นกวางทอง มาลํอหลอกให๎นางสีดาเกิดความรักใครํอยากได๎ พระรามจึงเสด็จตาม กวางทองไปในปุา จุดเดํนของการแสดงชุดน้ีอยูํที่ทํารําของพระรามและกวางทอง ที่หนีและไลํ ในทํวงทีลีลานาฏศิลป์โขนตามทํานองและจังหวะเพลง โดยเฉพาะในเพลงหน๎าพาทย๑เชิดฉาน ซงึ่ มีทวํ งทาํ นองทร่ี ะทึกใจ ต่นื เตน๎ เมือ่ กวางทองจะถูกศรของพระราม มฤคระเริง หรือ ระบํากวาง เป็นชุดท่ีประดิษฐ๑ขึ้นแสดงเน่ืองในงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ ประเทศสหภาพเมียนมา เม่ือพุทธศักราช 2498 โดยจัดให๎มีการแสดงโขน เร่ืองรามเกียรต์ิ ตอนลักนางสีดา มีหมํูระบํากวางจะออกมารํายรํา เพื่อความสวยงามกํอนท่ีกวางทอง จะออกมาลํอให๎ นางสีดาเหน็ และเกดิ ความหลงใหล ขอรอ๎ งให๎พระรามไปจับมาให๎ เม่ือพระรามตามไป ทศกัณฐ๑ได๎แปลงตน เป็นฤาษี ลักนางสีดาไปกรงุ ลงกา ชุดการแสดงที่ 6 “การแสดงชุดราแสงเทียน” จากชมรมข๎าราชการบํานาญและชมรม คนรรู๎ กั สขุ ภาพจังหวัดระนอง

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๐๑ “แสงเทียน” เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ๑เพลงแรก ทรงนิพนธ๑เม่ือเดือนเมษายน พุทธศักราช 2498 ครง้ั ดํารงพระราชอสิ ริยยศเป็นสมเดจ็ พระอนชุ าธริ าชได๎ทรงพระกรุณา โปรดเกล๎าโปรดกระหมํอมให๎ พระเจ๎าวรวงศเ๑ ธอพระองค๑เจา๎ จกั รพันธ๑เพ็ญศิริ นิพนธ๑คําร๎องภาษาไทย ชมรมข๎าราชการบํานาญและชมรม คนร๎รู กั สขุ ภาพจังหวดั ระนอง ขอนอ๎ มราํ ลกึ ถึงพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค๑อันเชิญ บทเพลงน้ปี ระกอบการแสดงชุด “แสงเทยี น” ชุดการแสดงที่ 7 “บุหงาอาลัย ส้ินร่มโพธิ์ทอง” จากโรงเรียนชาติเฉลิม อําเภอเมืองระนอง จงั หวัดระนอง การแสดงทนี่ ําความหมายของดอกไม๎ 7 ชนิดทนี่ ํามาประดษิ ฐเ๑ ปน็ ดอกไม๎จันทน๑ที่ใช๎ในงานถวาย พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเป็นการนํา ดอกไม๎จริง (ไมํใชํดอกไม๎จันทน๑ประดิษฐ๑) โดยสีของดอกไม๎จะเป็นสีเหลือง และขาวเป็นสํวนใหญํ นําเสนอ โดยใช๎ทําประกอบบทกลอนท่ีแตํงข้ึนเพ่ือส่ือความหมายของดอกไม๎ท้ัง 7 ชนิด คือ 1.ดอกดารารัตน๑ 2.ดอกกุหลาบ 3.ดอกพุดตาน 4.ดอกลิลล่ี 5.ดอกกล๎วยไม๎ 6.ดอกชบาทิพย๑ 7.ดอกชบาหนู หลังจากน้ัน เป็นการแสดงทํารําประกอบการขับเสภาถวายอาลัยด๎วยสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ และบทเพลง “สิ้นรํมโพธ์ิทอง” ประพันธ๑คําร๎อง ทํานองโดยครูสุรินทร๑ ภาคสิริ ขับร๎องโดยคุณคัทลียา มารศรี บรรเลง เพลงประสมประสานระหวํางวงป่ีพาทย๑มอญและวงสากล โดยใช๎มาลัยดอกดาวเรืองประกอบการแสดง ซึ่งดอกดาวเรืองเป็นดอกไม๎สีเหลือง เน่ืองด๎วยสีเหลืองเป็นสีประจําวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ชุดการแสดงที่ 8 “ระบากินรีร่อน” จากโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ระบาํ กินรีรอํ นเป็นการแสดงทอี่ ยใํู นละครเร่ืองพระสุธน-มโนราห๑ ซง่ึ กรมศิลปากรได๎ปรบั ปรุงและ ประดิษฐ๑ทํารําให๎ประณีตสวยงาม และกะทัดรัดเหมาะแกํผู๎ชม ประกอบกับเร่ืองมโนราห๑ เปน็ วรรณกรรมที่แพรหํ ลายเป็นท่ีร๎จู กั กนั อยาํ งกวา๎ งขวางในหลายประเทศ การแสดงชุดน้ีจึงได๎รับความนิยม ยกยํองมากในด๎านความวิจิตรสวยงามของกระบวนทาํ ราํ และเครอ่ื งแตงํ กาย ชุดการแสดงที่ 9 “เทิดไท้จอมราชัน ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” จากสํานักงานเทศบาลเมือง ระนอง และโรงเรยี นเทศบาลวดั อปุ นนั ทาราม อําเภอเมืองระนอง จังหวดั ระนอง ลักษณะเป็นการแสดงนาฏศิลปไ์ ทย และจนิ ตลีลาประกอบเพลง ประกอบด๎วย 1. เทิดไทจ๎ อมราชนั จินตลีลาประกอบเพลง ล๎นเกลา๎ เผาํ ไทย 2. สํงเสด็จสํูสวรรคาลัย เป็นการแสดงลีลาทําทางตีทําตามบทเสภาเลําเร่ืองราวความทุกข๑โศก สลดเศร๎าของชายไทยทั้งมวล โดยสมมุติให๎เทพเทวานางฟูาลงมาจากสวรรค๑ ผํานบทเพลงรัวประลองเสภา และเพลงโอท๎ ลู กระหมอํ มแก๎ว ชดุ การแสดงที่ 10 “มโนราห์” จากโรงเรยี นสตรีระนอง อําเภอเมอื งระนอง จังหวดั ระนอง มโนห๑รา หรือเรียกโดยยํอวํา โนรา เป็นช่ือศิลปะการแสดงพ้ืนเมืองอยํางหนึ่งของภาคใต๎ มีแมํบททําราํ อยาํ งเดยี วกบั ละครชาตรี บทร๎องเป็นกลอนสด ผู๎ขับร๎องต๎องใช๎ปฏิภาณไหวพริบ สรรหาคําให๎ สัมผสั กันได๎อยาํ งฉับไว มคี วามหมายทงั้ บทร๎อง ทํารําและเครอ่ื งแตํงกายเครอ่ื งดนตรปี ระกอบด๎วย กลอง ทับ คํู ฉิ่งโหมํง ปี่นอก หรือ ป่ีใน และกรับ ปัจจุบัน พัฒนาเอาเครื่องดน ต รีสาก ลเข๎ารํ วมด๎ว ย เดมิ นิยมใชผ๎ ๎ูชายลว๎ นแสดง แตปํ จั จบุ ันมผี ๎หู ญิงเขา๎ ไปแสดงด๎วย ชุดการแสดงที่ 11 “วิศรตุ า มหาเทพ” จากมหาวิทยาลัยราชภฏั สวนสุนนั ทา ศูนยร๑ ะนอง

บทที่ 4 | หน๎า ๑๐๒ การแสดงที่สร๎างสรรค๑ขึ้นโดยสาขาวิชาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย) ซ่ึงกลําวถึงศาสนา พราหมณ๑ที่ได๎เข๎ามาเผยแผํ เจริญรํุงเรืองมากตั้งแตํสมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน บางคติความเช่ือได๎ผนวก เข๎ากับพิธีกรรมของพุทธศาสนาดังเห็นได๎จากพระราชพิธีตําง ๆ ท้ังยังมีความเชื่อวํากษัตริย๑ คือ องคส๑ มมุติเทพ ในสมัยสโุ ขทัยผ๎ูทน่ี บั ถอื ศาสนาพราหมณ๑นยิ มบชู า เหลาํ เทพด๎วยการประดับโคมเพชรแล๎วชัก ชะลอขน้ึ สํูยอดเสา โดยนัยเสมอื นกับคํอย ๆ ปลอํ ยใหโ๎ คมเพชรลอยขนึ้ สสูํ รวงสวรรค๑ ชุดการแสดงที่ 12 “วงเยาวชนจังหวัดระนอง” (วงออเคสตร้า) จากโรงเรียนบ๎านทํุงหงาว โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร โรงเรียนสตรีระนอง เป็นการขับร๎องและบรรเลงเพลงประสานเสียง จํานวน 7 บทเพลง ชุดการแสดงที่ 13 “ชาวระนองร่วมใจอาลัยพ่อ แซ่ซ้องสดุดี” จากกลุํมอนุรักษ๑ศิลปะ และวัฒนธรรม และประวัตศิ าสตร๑ จังหวัดระนอง ชุดการแสดงที่ 14 “รักพ่อไทย ผู้ทรงสถิตในใจลูกนิรัน ดร์กาล” จาก ชมรมกีฬา และนันทนาการผูส๎ งู อายุ จงั หวดั ระนอง ชดุ การแสดงที่ 15 “องค์เดียวในโลก” จาก ชมรมผ๎ูสูงอายุสํานักงานเทศบาลเมอื งบางร้นิ การแสดงบนเวทีดังกลําวได๎เสร็จสิน้ ในเวลา 21 นาฬิกา 20 นาที

บทที่ 4 | หน๎า ๑๐๓ กาหนดการพธิ ีถวายพระเพลงิ พระบรมศพ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 26 ตุลาคม พทุ ธศักราช 2560 เวลา 7 นาฬิกา - เจ๎าหน๎าท่ีประจําซมุ๎ ถวายดอกไมจ๎ นั ทน๑ พรอ๎ ม ณ ซ๎ุมถวายดอกไม๎จนั ทน๑ เวลา 9 นาฬิกา - เรม่ิ พธิ ถี วายดอกไม๎จนั ทน๑ (ชวํ งแรก) โดยประธานพิธี (ผว๎ู ําราชการจงั หวดั ) เรม่ิ ถวายดอกไมจ๎ ันทน๑เป็นลําดับแรก - ประชาชนเรมิ่ ถวายดอกไมจ๎ นั ทน๑ เป็นลําดับตอํ ไป เวลา 15 นาฬกิ า 30 นาที - เริม่ พิธสี งฆ๑ - นิมนตพ๑ ระสงฆ๑ 10 รปู ข้นึ สํอู าสน๑สงฆ๑ - ประธานพธิ ี จุดธูปเทียนบชู าพระรัตนตรยั - ประธานพิธี จุดเครอื่ งทองนอ๎ ย ถวายราชสกั การะเบ้อื งหน๎าพระบรม ฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กราบ 1 ครั้ง ไมํแบมือ) - ประธานนงั่ ประจําที่ - เจา๎ หน๎าทอี่ าราธนาพระปรติ ร - พระสงฆส๑ วดพระพทุ ธมนต๑ (บทธมั มะนิยาม) จบ - ประธานจุดเทยี นสอํ งธรรม เจ๎าหน๎าทีน่ มิ นต๑พระสงฆ๑แสดง พระธรรมเทศนา ขน้ึ นั่งธรรมาสน๑ - ประธานจุดธูปเทยี นเครอื่ งทองน๎อยบชู าธรรมในสวํ นของประธาน - ประธานจดุ ธูปเทยี นเครือ่ งทองน๎อยเบอื้ งหน๎าหน๎าพระฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพอื่ เป็นการถวายทรงบชู าธรรม - เจ๎าหนา๎ ท่ีอาราธนาศีล - พระสงฆ๑ทแ่ี สดงธรรมเทศนาใหศ๎ ีล - ประธานพร๎อมผร๎ู วํ มพธิ ีรบั ศีล - เจา๎ หนา๎ ทีอ่ าราธนาธรรม - พระสงฆ๑แสดงธรรมเทศนาเก่ยี วกับพระมหากรณุ าธคิ ุณพระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีตอํ จงั หวัด จบ - ผู๎รวํ มพิธบี าํ เพญ็ สมาธจิ ิต เพอ่ื นอ๎ มรําลึกถึงพระมหากรุณาธคิ ุณ ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร และนอ๎ มจิตเพือ่ พิจารณาอันไมตํ งั้ อยํูในความไมํประมาทของตนเอง เป็นเวลา 89 วนิ าที - เจ๎าหนา๎ ท่ีนิมนตพ๑ ระสงฆผ๑ ๎แู สดงธรรมเทศนาลงมายงั อาสน๑สงฆ๑ - ประธานประเคนเครื่องไทยธรรมแดพํ ระสงฆผ๑ แ๎ู สดงพระธรรมเทศนา และพระสงฆ๑สวดพระพุทธมนต๑ - เจา๎ หน๎าที่ลาดผา๎ รองโยงและพระภูษาโยง - ประธานทอดผ๎าไตรสดับปกรณ๑

บทท่ี 4 | หน๎า ๑๐๔ เวลา 16 นาฬกิ า - เจา๎ หน๎าท่ีเชื่อมแถบทองกับพระภูษาโยง หมายเหตุ - พระสงฆส๑ ดับปกรณ๑ - ประธานสงฆอ๑ นุโมทนา - ประธานกรวดน้าํ / รับพร - เสรจ็ พิธีบาํ เพ็ญกุศล รอเวลาสมเด็จพระเจ๎าอยํูหวั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทร เทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชดําเนิน โดยดูการถํายทอดสด จากโทรทศั น๑รวมการเฉพาะกจิ แหํงประเทศไทย เพอื่ ดาํ เนนิ พิธกี รรม พร๎อมกบั สวํ นกลาง พระสงฆ๑สมณศักด์ใิ ช๎พัดยศในพธิ ี เวลา 16 นาฬิกา 30 นาที - สมเดจ็ พระเจา๎ อยหํู ัวมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสด็จมายังพระทีน่ ัง่ ทรงธรรม ให๎ยุติการวางดอกไมจ๎ ันทน๑ โดยใหด๎ ูจาก การถาํ ยทอดสดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพทางโทรทัศน๑ รวมการเฉพาะกจิ แหํงประเทศไทย เวลา 17 นาฬิกา 30 นาที - หลังจากท่ีสมเด็จพระเจ๎าอยํูหวั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสด็จข้นึ พระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพแลว๎ และสมเดจ็ พระสงั ฆราช/พระราชาคณะช้นั ผใู๎ หญํ/สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ถวายดอกไมจ๎ ันทน๑และเสด็จพระราชดาํ เนนิ ลงมาจากพระเมรุมาศแลว๎ - ให๎แตํละจังหวดั /อาํ เภอ เรม่ิ ถวายดอกไม๎จันทน๑ (ชํวงทสี่ อง) - เจา๎ หน๎าที่อัญเชิญโคมตะเกียงไปวางบนโต๏ะในพระเมรุมาศ เบื้องหนา๎ พระบรมฉายาลกั ษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ณ จุดที่กาํ หนด ในพระเมรมุ าศจาํ ลอง/ซ๎ุมถวาย ดอกไมจ๎ ันทน๑ กรณีพระเมรมุ าศจาลอง (จงั หวัด) 1. ประธาน พร๎อมเจ๎าหนา๎ ที่ถือพานดอกไม๎จันทน๑ เดินขึน้ ไปบน พระเมรมุ าศจาํ ลองทางบนั ไดดา๎ นหน๎า แล๎วยนื ประจาํ จุดทีก่ ําหนด ถวายความเคารพเบอื้ งหน๎าพระบรมฉายาลกั ษณ๑พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร และไฟหลวง พระราชทาน เจา๎ หนา๎ ที่สํงพานชอํ ดอกไมจ๎ นั ทน๑แลว๎ วางบนพาน เบื้องหน๎าพระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แลว๎ เดินลงทางบนั ไดดา๎ นข๎าง เพอ่ื ไปพัก ณ ทพ่ี ักรอ (เจา๎ หน๎าท่อี ญั เชิญโคมตะเกียงไปไว๎ ณ สถานที่ กาํ หนด เพอ่ื รออญั เชิญไปในพิธเี ผาจรงิ ) 2. ประธานสงฆ๑และพระสงฆส๑ มณศักด์เิ ขา๎ แถว แล๎วเดินไปหยบิ ดอกไมจ๎ ันทน๑ จากพานถือไวร๎ ะดบั อก เดินขน้ึ ไปบนพระเมรุมาศจําลองทางบันได ดา๎ นหน๎า ยืนประจาํ จุดทกี่ าํ หนดเบ้ืองหนา๎ พระบรม ฉายาลักษณ๑พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

บทที่ 4 | หนา๎ ๑๐๕ บรมนาถบพิตร แลว๎ วางดอกไม๎จนั ทนบ๑ นพาน ยืนสงบนิ่งแลว๎ เดินลงจาก พรเมรมุ าศจาํ ลองทางบันไดด๎านข๎าง 3. ข๎าราชการ/พนกั งานรฐั วสิ าหกจิ เข๎าแถว แลว๎ เดนิ ไปหยบิ ดอกไม๎จันทนจ๑ าก พานถอื ไว๎ระดบั อก เดินข้ึนไปบนพระเมรุมาศจาํ ลองทางบนั ไดด๎านหนา๎ แล๎วยนื ประจาํ จดุ ที่กาํ หนด ถวายความเคารพเบอื้ งหนา๎ พระบรมฉายาลกั ษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร แลว๎ วางดอกไมจ๎ ันทน๑บนพาน ถวายความเคารพ แลว๎ เดนิ ลงทางบนั ไดด๎านขา๎ ง 4. ประชาชนท่วั ไป ถือดอกไมจ๎ นั ทน๑ระดับอก เดินข้นึ ไปบนพระมรุมาศจาํ ลอง แลว๎ ยืนประจุดทก่ี ําหนด ถวายความเคารพเบ้ืองหนา๎ พระบรมฉายาลกั ษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แลว๎ างดอกไมจ๎ ันทน๑บนพาน ถวายความเคารพ แล๎วเดนิ ลงทางบนั ไดด๎านขา๎ ง กรณพี ระเมรมุ าศจาลอง (อาเภอ) 1. ประธาน พร๎อมเจ๎าหนา๎ ทถ่ี อื พานดอกไม๎จันทน๑ แล๎วเดินขึน้ ไปยนื ประจําจุด ท่กี ําหนด ถวายความเคารพเบ้อื งหนา๎ พระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และไฟหลวงพระราชทาน เจา๎ หนา๎ ที่สํงพานชํอดอกไมจ๎ นั ทน๑ ประธานหยิบชํอดอกไมจ๎ นั ทน๑ จากพานไปตํอไฟหลวงพระราชทาน จากโคมตะเกียง แล๎ววางบนพานเบ้อื งหนา๎ พระบรมฉายาลกั ษณ๑ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ถวาย ความเคารพ แล๎วเดนิ ออกไปทางท่ีกําหนด เพ่ือไปพกั ณ ท่พี กั รอ (เจ๎าหนา๎ ท่อี ญั เชญิ โคมตะเกียงไปไว๎ ณ สถานที่กาํ หนด เพื่อรออญั เชญิ ไป ในพธิ ีเผาจรงิ ) 2. ประธานสงฆ๑และพระสงฆ๑สมณศักดิ์เขา๎ แถว แลว๎ เดินไปหยบิ ดอกไม๎จันทน๑ จากพานถือไวร๎ ะดับอก เดนิ ไปยืนประจาํ จุดที่กําหนด เบ้ืองหนา๎ พระบรมฉายาลกั ษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหา ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร แลว๎ วางดอกไม๎จันทนบ๑ นพาน ยนื สงบนงิ่ แลว๎ เดินออกไปตามทางที่กาํ หนด 3. ขา๎ ราชการ/พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ (จาํ นวนตามแถวที่กาํ หนดตามสภาพของ พืน้ ท)่ี เดนิ ไปหยิบดอกไมจ๎ ันทน๑จากพานถือไวร๎ ะดบั อก เดนิ ไปยนื ประจาํ จุดท่ีกําหนดถวายความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ๑พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร แล๎ววางดอกไม๎จันทน๑ บนพาน ถวายความเคารพ แลว๎ ออกไปทาง ที่กาํ หนด 4. ประชาชนทว่ั ไป (จํานวนตามแถวที่กําหนดตามสภาพของพืน้ ที่) ถือดอกไม๎จนั ทน๑ระดบั อก เดินไปยืนประจําจุดที่กาํ หนด ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณพ๑ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

บทท่ี 4 | หน๎า ๑๐๖ ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร แลว๎ วางดอกไม๎จันทน๑บนพาน ถวาย ความเคารพ แลว๎ เดนิ ออกไปตามทางทีก่ ําหนด เวลา 18 นาฬกิ า - การแสดงมหรสพสมโภช ณ บรเิ วณสถานที่ถวายดอกไม๎จนั ทน๑ (เวลาในการแสดงต๎องใหแ๎ ลว๎ เสร็จกํอนเวลา 21 นาฬกิ า 30 นาที ทง้ั น้ี หากการแสดงยังไมแํ ล๎วเสรจ็ สามารถดําเนินการแสดงตอํ ได๎ หลังสมเด็จพระเจ๎าอยูหํ วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชดําเนินกลับ) การแต่งกาย - ข๎าราชการ : เครอื่ งแบบเต็มยศ ไวท๎ กุ ข๑ สายสะพายชา๎ งเผอื ก ขา๎ ราชการท่ีไดร๎ บั เครอื่ งราชอิสริยาภรณ๑ที่ได๎รบั ช้ันสงู สุด ไว๎ทุกข๑ (กรณีจัดพธิ ีในอาคาร ไมตํ ๎องสวมหมวก/ นอกอาคารสวมหมวก) - ลกู จ๎าง/พนกั งานราชการ : เครอ่ื งแบบกากีคอพับแขนยาว (กรณจี ัดพิธีในอาคาร ไมตํ อ๎ งสวมหมวก/นอกอาคาร สวมหมวก) - นกั เรยี น/นักศึกษา/สมาชกิ หนวํ ยงาน/องคก๑ รเอกชน : ชดุ ครอื่ งแบบ ตามสงั กัด - ประชาชน : ชุดสภุ าพไว๎ทกุ ข๑ เวลา 20 นาฬกิ า 30 นาที - เจา๎ หนา๎ ท่ีนาํ ดอกไมจ๎ นั ทน๑ท่ีประชาชนถวาย ณ พระเมรมุ าศจาํ ลอง และซ๎ุมถวายดอกไม๎จันทน๑ ใสํพาน (จาํ นวนตามความเหมาะสม และสวยงาม กรณกี ระแสลมแรงใหใ๎ ชผ๎ ๎าขาวคลุมพาน) เพ่ือเตรยี มพรอ๎ ม ในพิธเี ผาดอกไม๎จนั ทน๑ เวลา 21 นาฬิกา - ประธานพร๎อมข๎าราชการ/พนกั งานรฐั วิสาหกิจและประชาชนพร๎อมกนั ณ สถานทเี่ ผาดอกไมจ๎ ันทน๑ โดยดกู ารถํายทอดสดจากโทรทศั น๑ รวมการเฉพาะกิจแหงํ ประเทศไทย เพอ่ื ดําเนินพธิ กี รรมพร๎อมกับสํวนกลาง เวลา 22 นาฬกิ า - หลงั จากที่สมเดจ็ พระเจ๎าอยํูหวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดําเนนิ ขนึ้ บนพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จรงิ ) แล๎ว โดยให๎ดูจากการถํายทอดสดจากโทรทัศน๑รวมการเฉพาะกิจ แหํงประเทศไทย (ชํวงท่ีสาม) - ประธาน (ผู๎วําราชการจังหวัด/นายอาํ เภอ) พร๎อมขา๎ ราชการ/พนกั งาน รัฐวิสาหกิจและประชาชนที่เข๎ารํวมพิธี ยนื เขา๎ แถวตามสภาพของพื้นที่ ด๎านหน๎าพระจิตกาธาน โดยยนื เรยี งลําดบั (ประธานยืนดา๎ นหนา๎ ของแถว) - เจา๎ หนา๎ ที่เชิญโคมตะเกียง เดนิ ขนึ้ บนั ไดด๎านหนา๎ ไปวางบนโต๏ะ หนา๎ พระจติ กาธาน ทุกคนทาํ ความเคารพ - ประธาน พรอ๎ มเจา๎ หนา๎ ท่ีถือพานดอกไม๎จันทนช๑ ํอประธาน เดินขึ้นบันได ดา๎ นหน๎าของพระจติ กาธาน ถวายความเคารพ หยบิ ดอกไม๎จนั ทน๑

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๐๗ จากพานตอํ ไฟหลวงพระราชทานจากโคมตะเกยี งวางในพระจิตกาธาน แลว๎ เดินลงบนั ไดดา๎ นขา๎ งไปพกั รอ ณ จดุ ทกี่ ําหนด - เจ๎าหนา๎ ที่เชิญโคมตะเกยี งไปไว๎ ณ สถานท่ีกําหนด - เจ๎าหนา๎ ทน่ี าํ ดอกไม๎จนั ทน๑สํวนท่ีเหลอื ใสพํ านเชิญไปวางในพระจิตกาธาน จนหมด โดยให๎เดนิ ข้ึนทางบันไดด๎านหนา๎ แลว๎ ลงบันไดด๎านข๎าง - เจา๎ หน๎าทนี่ ําเถา๎ ดอกไม๎จันทนอ๑ อกจากถาดรอง นาํ ใสํภาชนะ ทจ่ี ัดเตรยี มไว๎ แลว๎ นาํ ไปไว๎ ณ สถานที่กาํ หนด - กรณีจงั หวัดใหเ๎ จ๎าหน๎าท่ีนาํ เถ๎าดอกไมจ๎ ันทนบ๑ รรจใุ สพํ ระโกศและถงุ บรรจุ เถ๎าดอกไมจ๎ นั ทน๑แลว๎ ปดิ ปากถงุ ให๎เรยี บร๎อย - กรณอี ําเภอ ให๎เจ๎าหนา๎ ท่นี าํ เถา๎ ดอกไม๎จนั ทนบ๑ รรจุใสถํ งุ บรรจดุ อกไมจ๎ นั ทน๑ แล๎วปิดปากถงุ ให๎เรยี บร๎อย - เจ๎าหนา๎ ทอ่ี ัญเชิญพระโกศบรรจุเถา๎ ดอกไม๎จนั ทนไ๑ ปไวใ๎ นสถานทเ่ี หมาะสม และนําถุงบรรจเุ ถา๎ ดอกไม๎จันทน๑ไปเก็บไว๎ยังสถานท่กี ําหนด การแตง่ กาย - ขา๎ ราชการ : ชุดปกตขิ าว ไว๎ทกุ ข๑ (กรณีจดั พิธีในอาคาร ไมํต๎องสวม หมวก/นอกอาคาร สวมหมวก) - ลกู จ๎าง/พนกั งานราชการ : เครือ่ งแบบกากีคอพับแขนยาว (กรณีจดั พธิ ีในอาคาร ไมตํ อ๎ งสวมหมวก/นอกอาคาร สวมหมวก) - นกั เรียน/นกั ศกึ ษา/สมาชิกหนวํ ยงาน/องค๑กรเอกชน : ชดุ คร่ืองแบบ ตามสงั กดั - ประชาชน : ชดุ สุภาพไวท๎ ุกข๑ พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เริ่มต๎นในเวลา 9 นาฬิกา โดยเป็นการถวายดอกไม๎จันทน๑ในชํวงแรก นําโดยนายจตุพจน๑ ปยิ ัมปตุ ระ ผูว๎ าํ ราชการจังหวัดระนอง ซ่ึงทําหน๎าท่ีเป็นประธานพิธี หลังจากน้ันเป็นการถวายดอกไม๎จันทน๑ โดยคณะสงฆ๑ พระสังฆาธิการ ข๎าราชการพลเรือน ข๎าราชการตุลาการ ทหาร ตํารวจ ที่ได๎รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ๑ต่ํากวําช้ันสายสะพาย กํอนท่ีจะให๎ประชาชน นักเรียน นักศึกษาที่มารอตํอแถว ได๎เข๎าถวายดอกไม๎จันทน๑ตามลําดับ ท้ังนี้ ในชํวงแรกได๎กําหนดให๎มีการถวายดอกไม๎จันทน๑ตั้งแตํเวลา 9 นาฬิกาไปจนถึงเวลา 15 นาฬิกา โดยตลอดระยะเวลาดังกลําว ได๎มีประชาชนพร๎อมใจเข๎าถวาย ดอกไมจ๎ ันทน๑อยํางเนอื งแนํน

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๐๘ สําหรบั ขัน้ ตอนและแนวปฏิบตั ิในการถวายดอกไมจ๎ นั ทน๑ ไดก๎ าํ หนดไว๎ดังนี้ 1. เจ๎าหน๎าท่ี (ข๎าราชการ แตํงเคร่ืองแบบเต็มยศ ไว๎ทุกข๑ สวมหมวก) จํานวน 4 คนแรก เดินแถวเชิญพานรับดอกไม๎จันทน๑เข๎าไปยืนประจําจุด หน๎าจุดวางพานรับดอกไม๎จันทน๑ (ด๎านในหน๎า พระเมรมุ าศจําลอง) วางพานรับดอกไม๎จันทน๑ วันทยาหัตถ๑ แลว๎ เดินกลบั 2. เจ๎าหน๎าท่ี (ปกครอง/อาสาสมัคร/ลูกเสือ/นักศึกษาวิชาทหาร) จัดระ เบียบประชาชน ทเี่ ขา๎ ถวายดอกไมจ๎ ันทน๑ แถวละ 4 คน 3. เจา๎ หนา๎ ที่ (ลกู เสือ/นักศึกษาวชิ าทหาร) จํานวน 2 คน ประจําจุดทางเข๎าถวายดอกไม๎จันทน๑ ให๎กับประชาชนที่จะเข๎าถวายดอกไม๎จันทน๑ 4. เม่ือประชาชนยืนประจําจดุ วางดอกไมจ๎ ันทน๑ ใหเ๎ จ๎าหนา๎ ท่ีทไี่ ด๎รับมอบหมาย (ตํารวจตระเวน ชายแดน/ลูกเสือ) ส่ังวางดอกไม๎จันทน๑ โดยให๎ประชาชนถวายความเคารพ วางดอกไม๎จันทน๑ท่ีพาน ถวาย ความเคารพแล๎วแยกเป็น 2 แถว แถวละ 2 คน เดินออกบริเวณทางออก (ซ๎าย-ขวา) (เจ๎าหน๎าท่ีสั่งวาง ดอกไม๎จันทน๑ 1 คน เจา๎ หน๎าทีก่ าํ กับแถว 2 คน) 5. เจา๎ หนา๎ ท่ี (ข๎าราชการ) ประจําจุดทางออก จํานวน 4 คน เพ่ือแจกแผํนพับพระราชประวัติ และหนงั สือทีร่ ะลกึ 6. การสบั เปลีย่ นพานรบั ดอกไม๎จนั ทน๑ (จาํ นวน 4 พาน) - แถวท่ี 1 ข๎าราชการ จํานวน 4 คน (ชุดท่ี 1) เดินแถวนําผ๎าขาวไปตรงพาน (ดอกไม๎จนั ทนเ๑ ต็ม) บริ เวณจุดวางพานรับดอกไมจ๎ นั ทน๑ - แถวท่ี 2 ข๎าราชการ จํานวน 4 คน (ชุดที่ 2) เดินแถวเชิญพาน (เปลํา) ประจําจุด วางพานรับดอกไม๎จันทน๑ หน๎าโต๏ะจุดวางพานรับดอกไม๎จันทน๑ (ยืนด๎านหลังแถวที่ 1) ทั้งแถวเดินมาพร๎อมกัน เมื่อประจําจุดแล๎ว ให๎ข๎าราชการ จํานวน 4 คน (ชุดที่ 1 แถวที่ 1) วันทยหัตถ๑ คลุมผ๎าบนพาน (ดอกไม๎จันทน๑เต็ม) เชิญพานขึ้นแล๎วเดินแถว นาํ พานไปสํง ณ จุดเกบ็ ดอกไม๎จนั ทน๑ (ทปี่ ระชาชนถวายแล๎ว) และให๎ข๎าราชการ จํานวน 4 คน (ชุดท่ี 2 แถวที่ 2) เข๎ายืนประจําจุดที่วางพานคร้ังแรก วางพานแล๎ววันทหหัตถ๑ เดินแถวกลบั

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๐๙ 7. เจา๎ หนา๎ ท่ี (ข๎าราชการ) จาํ นวน 4 คน รบั มอบพาน (ดอกไม๎จันทน๑ท่ีประชาชนวางเต็มแล๎ว) แล๎วดําเนินการนําสํงให๎เจ๎าหน๎าท่ีประจําจุดถํายดอกไม๎จันทน๑ จํานวน 4 คน ถํายดอกไม๎จันทน๑จากพานใสํกลํองให๎เรียบร๎อย (สํงพานคืนให๎ชุดสับเปลี่ยนพานรับ ดอกไม๎จันทน๑) เม่ือบรรจุดอกไม๎จันทน๑เต็มกลํอง สํงมอบกลํองให๎เจ๎าหน๎าที่เชิญกลํอง ดอกไมจ๎ นั ทน๑ 8. ใหเ๎ จ๎าหนา๎ ท่ี (ข๎าราชการ) จาํ นวน 4 คน เชญิ กลอํ งใสํดอกไม๎จันทน๑ใสํพานไปยังเต็นท๑เตรียม พิธเี ผาดอกไม๎จันทน๑ 9. เจ๎าหน๎าที่ จํานวน 4 คน รับมอบกลํองใสํดอกไม๎จันทน๑ แล๎วนําไปวางบนโต๏ะเพื่อพิธีเผา ดอกไมจ๎ นั ทน๑

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๑๐ เวลา 15 นาฬิกา 30 นาที เริม่ พิธีสงฆ๑ โดยนายจตพุ จน๑ ปิยัมปตุ ระ ผ๎ูวําราชการจังหวัดระนอง เป็นประธาน เม่ือองค๑ประกอบท่ีเกี่ยวข๎องพร๎อมแล๎ว พิธีกรได๎นิมนต๑พระสงฆ๑ จํานวน 10 รูป ข้ึนสํูอาสน๑สงฆ๑ จากนั้นเชิญประธานพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และจุดเคร่ืองทองน๎อย ถวายราช สักการะเบื้องหน๎าพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภู มิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตํอมาเจ๎าหน๎าท่ีอาราธนาพระปริตร พระสงฆ๑สวดพระพุทธมนต๑บทธัมมะนิยาม ครั้นจบ แล๎วประธานจุดเทียนสํองธรรม ตํอมาเจ๎าหน๎าที่นิมนต๑พระสงฆ๑แสดงพระธรรมเทศนาข้ึนสํูธรรมาสน๑ และเชญิ ประธานจดุ ธปู เทยี นเคร่อื งทองน๎อยบูชาธรรม จากนั้นประธานจุดธูปเทียนเครื่องทองน๎อยเบ้ืองหน๎า พระฉายาลักษณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพ่ือเป็นการถวาย ทรงบูชาธรรม เจ๎าหน๎าที่อาราธนาศีล พระสงฆ๑ที่แสดงธรรมเทศนาให๎ศีล ตํอมาเจ๎าหน๎าท่ีอาราธนาธรรม ครั้นจบแล๎ว พระสงฆ๑แสดงธรรมเทศนาเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีตํอจังหวัดระนอง ตํอมาเจ๎าหน๎าท่ีได๎เชิญผู๎รํวมพิธีบําเพ็ญ สมาธิจิต เพ่ือน๎อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และน๎อมจิตเพื่อพิจารณาอันไมํต้ังอยูํในความไมํประมาทของตนเอง เป็นเวลา 89 วินาที ตํอมาเจา๎ หน๎าที่นิมนต๑พระสงฆ๑ผ๎ูแสดงธรรมเทศนาลงมายังอาสน๑สงฆ๑ และเชิญประธานประเคนเครื่องไทย ธรรมแดพํ ระสงฆ๑ผ๎แู สดงพระธรรมเทศนาและพระสงฆ๑สวดพระพทุ ธมนต๑ ตํอมาเจา๎ หน๎าท่ีลาดผ๎ารองโยงและ พระภษู าโยง ประธานทอดผ๎าไตรสดับปกรณ๑ เจา๎ หน๎าที่เช่อื มแถบทองกับพระภษู าโยง พระสงฆ๑สดบั ปกรณ๑ ประธานสงฆ๑อนุโมทนา ตํอมาประธานกรวดน้ําและรับพร เปน็ อนั เสรจ็ พิธี

บทท่ี 4 | หน๎า ๑๑๑ เวลา 16 นาฬิกา ผ๎ูเข๎ารํวมพิธีรอเวลาสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร เสด็จพระราชดําเนินเพื่อดําเนินพิธีกรรมพร๎อมกับสํวนกลาง โดยดูผํานเคร่ืองรับสัญญาณ โทรทศั นจ๑ ากการถํายทอดสดของโทรทัศน๑รวมการเฉพาะกิจแหํงประเทศไทย จากน้ันในเวลา 16 นาฬิกา 30 นาที สมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรเสด็จมายังพระที่น่ังทรงธรรม และเสดจ็ ข้ึนพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตามด๎วยสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะช้ันผู๎ใหญํ จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได๎ถวายดอกไม๎จันทน๑และเสด็จพระราชดําเนิน ลงมาจากพระเมรุมาศ ภายหลงั จากน้ันจงึ ใหแ๎ ตํละจังหวัด/อําเภอ เริ่มถวายดอกไม๎จันทน๑ในชํวงท่ีสอง เวลา 20 นาฬิกา 30 นาที เจ๎าหน๎าท่นี ําดอกไม๎จันทน๑ท่ีประชาชนถวาย ณ พระเมรุมาศจําลอง เพอื่ เตรียมพรอ๎ มในพธิ ีเผาดอกไม๎จันทน๑ ณ พระจติ กาธาน เวลา 21 นาฬิกา ผ๎ูวําราชการจังหวัดระนอง ประธานพร๎อมข๎าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนพร๎อมกัน ณ เต็นท๑พิธีพระจิตกาธานซ่ึงเป็นสถานท่ีเผาดอกไม๎จันทน๑ ท้ังน้ี เพื่อเป็น การเตรียมความพร๎อมที่ต๎องดําเนินการพร๎อมไปกับสํวนกลางจึงได๎มีการกําหนดให๎ ดูการถํายทอดสดจาก โทรทศั น๑รวมการเฉพาะกจิ แหํงประเทศไทย ในเวลา 22 นาฬิกา หลังจากท่ีสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดําเนนิ ขึ้นบนพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง) แล๎ว ประธานพร๎อมผ๎ูเข๎ารํวมพิธี ยืนเขา๎ แถวตามสภาพของพ้นื ทด่ี ๎านหนา๎ พระจติ กาธาน และไดเ๎ ริ่มพิธีเผาโดยเจ๎าหน๎าที่จึงได๎เชิญโคมตะเกียง เดินขึ้นบันไดด๎านหน๎าไปวางบนโต๏ะหน๎าพระจิตกาธาน ในชํวงเวลาน้ันให๎ทุกคนทําความเคารพ ตํอมา ประธานพร๎อมเจ๎าหน๎าที่ถือพานดอกไม๎จันทน๑ชํอประธาน เดินขึ้นบันไดด๎านหน๎าของพระจิตกาธาน ถวายความเคารพ หยิบดอก ไม๎จันทน๑จากพานตํอไฟหลวงพระราชทานจากโคมตะเกียงวาง ในพระจิตกาธาน แล๎วเดินลงบันไดด๎านข๎างไปพักรอ ณ จุดที่กําหนด ตํอมาเจ๎าหน๎าท่ีเชิญโคมตะเกียงไปไว๎ ณ สถานท่กี ําหนด และนําดอกไม๎จันทน๑สํวนท่ีเหลือใสํพานเชิญไปวางในพระจิตกาธานจนหมด โดยให๎เดิน ขึ้นทางบันไดด๎านหน๎า แล๎วลงบันไดด๎านข๎าง หลังจากน้ัน เจ๎าหน๎าที่นําเถ๎าดอกไม๎จันทน๑ออกจากถาดรอง นาํ ใสภํ าชนะทจี่ ดั เตรียมไว๎ แลว๎ นาํ ไปไว๎ ณ สถานท่ีกําหนด ในลําดับสุดท๎ายเจ๎าหน๎าที่อัญเชิญพระโกศบรรจุ

บทที่ 4 | หน๎า ๑๑๒ เถ๎าดอกไม๎จันทน๑ไปไว๎ในสถานท่ีเหมาะสม และนําถุงบรรจุเถ๎าดอกไม๎จันทน๑ไปเก็บไว๎ยังสถานที่กําหนด เป็นอันเสร็จ สรุปผลการจดั พธิ ีถวายดอกไม้จนั ทน์และการเผาดอกไมจ้ นั ทน์ จังหวดั ระนอง สถานที่ จานวนดอกไม้จันทน์ เวลาที่ดาเนินการ จานวนประชาชน ท่ีเตรยี มไว้ เผาดอกไมจ้ ันทน์ ถวายดอกไม้จันทน์ จังหวดั ระนอง (รวมอําเภอเมืองระนอง) 150,000 ดอก แลว้ เสรจ็ 16,619 คน กระบรุ ี 2 นาฬิกา 35 นาที ละอุํน 48,000 ดอก 14,634 คน กะเปอร๑ 13,720 ดอก 2 นาฬกิ า 2,435 คน สุขสาํ ราญ 25,715 ดอก 1 นาฬิกา 30 นาที 6,015 คน 5,270 ดอก 2 นาฬิกา 15 นาที 1,519 คน รวม 242,705 ดอก 1 นาฬกิ า 41,222 คน - ภายหลังจากได๎ดําเนินพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันท่ี 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 เป็นที่เรียบร๎อยแล๎ว คร้ันวันรุํงข้ึนคือวันที่ 27 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 จังหวัดระนองได๎กําหนดจัดพิธีถวายพระราชกุศล และลอยเถา๎ ดอกไม๎จันทน๑ ณ บริเวณพระเมรุมาศจําลอง ภายในสนามกีฬากลางจังหวัดระนอง และบริเวณ เกาะชา๎ ง ตาํ บลเกาะพยาม อําเภอเมอื งระนอง จังหวดั ระนอง พิธีเรม่ิ ตน๎ ในเวลา 7 นาฬิกา 30 นาที โดยมี นายจตพุ จน๑ ปิยัมปุตระ ผว๎ู ําราชการจังหวัดระนองเป็นประธานในพิธี สาํ หรบั กาํ หนดการปรากฏดังน้ี เวลา 7 นาฬกิ า - ผ๎ูเข๎ารวํ มพิธพี รอ๎ มกนั ณ บรเิ วณเต็นทพ๑ ธิ ีการหนา๎ พระเมรุมาศจําลอง เวลา 7 นาฬิกา 30 นาที - ประธานในพธิ ีเดินทางมาถึงและจดุ ธปู -เทียนบูชาพระรตั นตรยั - ประธานในพธิ ีจดุ เครอ่ื งทองน๎อยเบอ้ื งหน๎าพระบรมฉายาลกั ษณ๑ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร และกราบถวายสกั การะ - เจา๎ หน๎าทีอ่ าราธนาศลี / พระสงฆใ๑ หศ๎ ีล จบแล๎ว - เจ๎าหนา๎ ที่อาราธนาพระปริตร - พระสงฆส๑ มณศักด์ิ จํานวน 9 รปู สวดพระพทุ ธมนต๑ - ประธานในพธิ ีถวายนํ้าอบ นํา้ หอม สรง และโปรยดอกไม๎ บนเถ๎าดอกไมจ๎ นั ทน๑ - เจ๎าหน๎าที่ลาดผ๎าขาวรองโยง และลาดผา๎ ภษู าโยง - เจ๎าหนา๎ ท่ีเชอื่ มแถบทองจากพระบรมฉายาลกั ษณ๑พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร เขา๎ กับผ๎าภษู าโยง

บทที่ 4 | หน๎า ๑๑๓ เวลา 10 นาฬิกา - ประธานในพธิ แี ละข๎าราชการขั้นผใู๎ หญปํ ระเคนเครื่องไทยธรรมแดํพระสงฆ๑ จํานวน 9 รูป - พระสงฆอ๑ นุโมทนา - ประธานในพิธกี รวดน้ํา - ประธานในพธิ ีกราบลาพระรัตนตรยั ท่โี ต๏ะหมบูํ ชู า - ประธานในพธิ ีกราบถวายสักการะ ณ เบื้องหนา๎ พระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร - เจ๎าหน๎าท่อี ัญเชญิ เถ๎าดอกไม๎จันทนข๑ ้นึ รถท่ีจัดเตรียมไว๎ - ประธานในพธิ นี ําขบวนอญั เชิญเถ๎าดอกไมจ๎ ันทนไ๑ ปลอย ณ ทาํ เรืองระนอง อําเภอเมืองระนอง จังหวดั ระนอง - ประธานในพธิ อี ัญเชิญพระโกศเถ๎าดอกไม๎จนั ทนแ๑ ละถงุ บรรจุเถ๎า ดอกไมจ๎ นั ทน๑ขน้ึ ไปประดษิ ฐานบนเรือรบหลวงภเู กต็ - เรอื รบหลวงภูเกต็ และกองเรือเกียรติยศเคลอื่ นขบวนไปในทอ๎ งทะเล (เมือ่ ถงึ บริเวณประกอบพธิ ี ขบวนเรอื อื่น ๆ ลอยลํารอ) - เรือรบหลวงภูเกต็ ไปลอยลํา ณ บริเวณจุดประกอบพิธตี งั้ ลาํ เรอื เพื่อประกอบพิธี - ประธานในพธิ ีลอยเถ๎าดอกไม๎จนั ทน๑ในบริเวณสถานทป่ี ระกอบพิธี - ประธานในพธิ นี าํ เถ๎าดอกไมจ๎ ันทนท๑ บ่ี รรจุในพระโกศลอยในทะเล เสรจ็ แล๎ว ขา๎ ราชการชน้ั ผใ๎ู หญํนําเถ๎าดอกไมจ๎ ันทน๑ท่ีบรรจุในถงุ ลอยในทะเล - ข๎าราชการและผูเ๎ ขา๎ รํวมพธิ บี ําเพญ็ สมาธิจิต เพ่ือนอ๎ มราํ ลึกถึง พระมหากรณุ าธิคณุ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพล อดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร จํานวน 89 วินาที - ขบวนเรือกลับเข๎าสํูฝงั่ - เสรจ็ พิธี นายจตุพจน๑ ปิยัมปุตระ ผ๎ูวําราชการจังหวัดระนอง ประกอบถวายพระราชกุศลและลอยเถ๎า ดอกไมจ๎ ันทนพ๑ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีข๎าราชการพนักงาน รฐั วิสาหกจิ และประชาชนชาวเข๎ารํวมในพิธเี ป็นจาํ นวนมาก พธิ เี ริม่ ต๎นในเวลา 7 นาฬกิ า 30 นาที ประธานในพิธีเดินทางมาถึงและจุดธูป-เทียนบูชา พระรัตนตรัย จากน้ันจุดเคร่ืองทองน๎อยเบ้ืองหน๎าพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และกราบถวายสักการะ ตํอมาเจ๎าหน๎าท่ีอาราธนาศีล และพระสงฆ๑ให๎ศีล ครน้ั จบแล๎วเจ๎าหน๎าท่ีอาราธนาพระปริตร พระสงฆ๑สมณศักด์ิ จํานวน 9 รูป สวดพระพุทธมนต๑ จากนั้น ประธานถวายนํ้าอบ นํา้ หอม สรง และโปรยดอกไม๎บนเถ๎าดอกไม๎จันทน๑ ตํอมาเจ๎าหน๎าที่ลาดผ๎าขาวรองโยง และลาดผ๎าภูษาโยง และเช่ือมแถบทองจากพระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร เข๎ากับผ๎าภูษาโยง จากนั้นประธานในพิธีและข๎าราชการขั้นผู๎ใหญํประเคนเครื่อง ไทยธรรมแดํพระสงฆ๑ จํานวน 9 รูป พระสงฆ๑อนุโมทนา ตํอมาประธานในพิธีกรวดน้ํา ครั้นเสร็จแล๎วจึงได๎ กราบลาพระรัตนตรัย ณ โต๏ะหมํูบูชาและกราบถวายสักการะ ณ เบ้ืองหน๎าพระบรมฉายาลักษณ๑

บทที่ 4 | หนา๎ ๑๑๔ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หลังจากน้ันเจ๎าหน๎าท่ีอัญเชิญเถ๎า ดอกไม๎จันทน๑ขึ้นรถท่ีจัดเตรียมไว๎ ประธานในพิธีนําขบวนอัญเชิญเถ๎าดอกไม๎จันทน๑ไปลอย ณ ทาํ เรอื งระนอง อําเภอเมอื งระนอง จงั หวัดระนอง เวลา 10 นาฬกิ า ประธานในพธิ อี ญั เชิญพระโกศเถา๎ ดอกไม๎จันทน๑และถงุ บรรจุเถ๎าดอกไม๎จันทน๑ ขนึ้ ไปประดิษฐานบนเรือรบหลวงภูเก็ต จากน้ันจึงเคลื่อนขบวนไปในท๎องทะเล ณ จุดท่ีกําหนดคือแลตติจูด 9 องศา 50 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 98 องศา ลิปดาตะวันออก (บริเวณเกาะช๎าง ตําบลเกาะพยาม อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง) เมื่อถึงบริเวณประกอบพิธีจึงให๎ขบวนเรืออ่ืน ๆ ลอยลํารอภายในรัศมี 500 เมตร หลังจากนั้นประธานและขา๎ ราชการชัน้ ผู๎ใหญํจึงได๎นาํ เถ๎าดอกไม๎จันทน๑ที่บรรจุในพระโกศลอยลง ในทะเล ครั้นตํอมาผ๎ูเข๎ารํวมพิธีท้ังหมดได๎บําเพ็ญสมาธิจิตรํวมกัน เพื่อน๎อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นเวลา 89 วินาที หลังจากนั้นจึงได๎ เคลอื่ นขบวนเรือกลับเข๎าสํฝู ั่งในเวลา 13 นาฬกิ า 30 นาที เปน็ อนั สรจ็ พิธี

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๑๕

บทที่ 4 | หน๎า ๑๑๖ การจดั พธิ ีอัญเชญิ พระนพปฎลสวุ รรณฉัตร และพระบรมฉายาลักษณพ์ ระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ลงจากพระเมรุมาศจาลองประจาจงั หวดั ระนอง จังหวัดระนองจดั พิธอี ัญเชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตรและพระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ลงจากพระเมรมุ าศจาํ ลองประจาํ จงั หวัดระนอง โดยผ๎ูวํา ราชการจงั หวดั ระนองได๎มีหนังสอื ดํวนที่สดุ ที่ รน 0017.3/ว 4967 ลงวันท่ี 21 ธันวาคม 2560 แจ๎งให๎ หวั หนา๎ สํวนราชการ รฐั วสิ าหกจิ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ได๎เขา๎ รํวมพิธกี ารดงั กลาํ ว สําหรบั กําหนดการและลําดับข้นั ตอนในพธิ ี ประกอบดว๎ ยรายละเอียดดังนี้ พธิ ีอญั เชิญพระนพปฎลสวุ รรณฉัตรและพระบรมฉายาลกั ษณ์ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ลงจากพระเมรุมาศจาลองประจาจงั หวดั ระนอง วนั ท่ี 4 มกราคม พุทธศกั ราช 2561 ณ บรเิ วณพระเมรมุ าศจาลองประจาจังหวัดระนอง สนามกฬี ากลางจังหวัดระนอง เวลา 6 นาฬกิ า - ข๎าราชการพลเรอื น ตุลาการ ทหาร ตรําวจ พนกั งานรัฐวิสาหกจิ สมาคม เวลา 6 นาฬกิ า 15 นาที ชมรม สโมสร มูลนิธิ พํอคา๎ ประชาชน พร๎อมกนั ณ บรเิ วณพิธี เวลา 6 นาฬกิ า 29 นาที - นายจตุพจน๑ ปิยัมปุตระ ผ๎ูวําราชการจังหวัดระนอง ประธานในพิธี เดินทาง เวลา 7 นาฬิกา 29 นาที มาถงึ บรเิ วณพิธฯี - ประธานในพิธี จุดเคร่ืองทองน๎อย เบ้ืองหน๎าพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร - ประธานในพิธี และผเู๎ ขา๎ รวํ มพิธยี ืนสงบนง่ิ เปน็ เวลา 89 วินาที - เจ๎าหน๎าท่ีอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประดิษฐาน ณ สถานท่ีท่ีจัด เตรียมไว๎ - ประธานในพิธี จุดธปู เทยี นบูชาเครือ่ งบวงสรวง - พราหมณป๑ ระกอบพธิ บี วงสรวง - เจ๎าหน๎าที่อัญเชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตรลงมาจากพระเมรุมาศจําลอง ประจาํ จงั หวดั ระนอง - ประธานในพิธี ผ๎เู ข๎ารวํ มพธิ แี ละเจา๎ หน๎าทีอ่ ญั เชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตรไป ประดษิ ฐาน ณ รถยนตท๑ ี่จดั เตรียมไว๎

บทท่ี 4 | หน๎า ๑๑๗ - เจา๎ หนา๎ ทอี่ ญั เชิญพระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ไปประดิษฐาน ณ รถยนต๑ทจ่ี ดั เตรียมไว๎ - ขบวนรถอัญเชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตร และพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ออกจากบริเวณพิธไี ปยงั ศนู ยร๑ าชการจังหวัดระนอง - ประธานในพิธีและผูร๎ ํวมพิธรี ํวมขบวนอัญเชิญฯ - ขบวนรถอัญเชญิ ฯ ถงึ ศนู ย๑ราชการจังหวดั ระนอง - เจ๎าหน๎าที่อัญเชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตร และพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบรมฉายาลักษณพ๑ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรม นาถบพติ ร เวลา 6 นาฬิกา ผู๎บริหาร ข๎าราชการ และผู๎มีเกียรติ พร๎อมกัน ณ บริเวณพระเมรุมาศจําลอง ประจาํ จังหวัดระนอง ครั้นเม่ือได๎เวลาตามกําหนดการ เวลา 6 นาฬิกา 15 นาที นายจตุพจน๑ ปิยัมปุตระ ผู๎วําราชการจังหวัดระนอง ประธานในพิธี เดินทางมาถึงบริเวณพิธี จากนั้นจึงได๎จุดเคร่ืองทองน๎อย เบื้องหน๎าพระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตํอมา ประธานในพิธี และผ๎ูเข๎ารํวมพิธียืนสงบน่ิง เป็นเวลา 89 วินาที คร้ันจบแล๎วเจ๎าหน๎าที่อัญเชิญ พระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประดิษฐาน ณ สถานที่ที่ได๎จัดเตรยี มไว๎ ในลําดับตํอมา ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาเครื่องบวงสรวง จากน้ันพราหมณ๑ในพิธีได๎ ประกอบพิธีบวงสรวงตามหลักศาสนาพราหมณ๑ เจ๎าหน๎าที่อัญเชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตรลงมาจาก พระเมรุมาศจําลองประจําจังหวัดระนอง ประธานในพิธี ผู๎เข๎ารํวมพิธีและเจ๎าหน๎าที่อัญเชิญพระนพปฎล สุวรรณฉัตรไปประดิษฐาน ณ รถยนต๑ท่ีจัดเตรียมไว๎ หลังจากน้ันเจ๎าหน๎าที่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไปประดิษฐาน ณ รถยนต๑ท่ีจัดเตรียมไว๎ คร้ันเม่ือพรอ๎ มแลว๎ ขบวนรถจงึ ได๎ออกจากบริเวณพิธีไปยังศูนย๑ราชการจงั หวดั ระนอง เม่ือถงึ สถานทด่ี ังกลําวเจ๎าหนา๎ ท่ีจงึ ได๎อัญเชญิ พระนพปฎลสวุ รรณฉัตร และพระบรมฉายาลักษณ๑ พระบรมฉายาลักษณ๑พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประดิษฐาน ณ ห๎องปฏิบัติราชการผ๎ูวําราชการจังหวัดระนอง เป็นการชั่วคราว โดยหลังจากนั้นจะได๎นําไปประดิษฐาน ไว๎ ณ เรือนรับรองทปี่ ระทบั ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เม่ือครั้ง เสด็จเยือนเมืองระนองในปีพุทธศักราช 2502 (ปัจจุบันตั้งอยูํภายใน จวนผู๎วําราชการจังหวัดระนอง) เป็นการถาวรตํอไป สําหรับโครงสร๎างเหล็กของพระเมรุมาศจําลองน้ัน สํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ระนองจะได๎ทําการถอดถอนตอํ ไป

บทท่ี 4 | หนา๎ ๑๑๘

บทท่ี 5 | หนา้ ๑ บทท่ี ๕ ประมวลภาพ

บทท่ี 5 | หน้า ๒ รถโดยสารสาธารณะรว่ มใจให้บริการโดยไมค่ ิดคา่ ใช้จา่ ยในวนั พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ เจ้าหนา้ ที่และจิตอาสาเฉพาะกิจคดั กรองประชาชนทเี่ ขา้ รว่ มพธิ ี

บทท่ี 5 | หนา้ ๓ จติ อาสางานบริการพร้อมใจปฏิบัตหิ น้าท่ีโดยพรอ้ มเพรยี ง

บทท่ี 5 | หนา้ ๔ อาหารและเคร่อื งดืม่ ท่ีได้รบั การสนับสนนุ จากภาครัฐและเอกชนให้บริการแก่ประชาชน นิทรรศการเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระบาทสมเดจ็ พระปรมิ นทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้รบั ความสนใจจากผู้เขา้ รว่ มพิธี

บทท่ี 5 | หนา้ ๕ ประชาชนท่เี ดินทางมารอการวางดอกไมจ้ นั ทน์

บทที่ 5 | หน้า ๖ นกั เรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาตา่ ง ๆ เดินทางเข้ารว่ มพธิ ี เตน็ ท์พกั รอสาหรบั ประชาชนและผูเ้ ข้ารว่ มพธิ ี

บทที่ 5 | หนา้ ๗ นายจตพุ จน์ ปยิ ัมปตุ ระ ผ้วู า่ ราชการจงั หวัดระนอง ประธานพธิ ี เรม่ิ ถวายดอกไม้จนั ทนเ์ ป็นลาดับแรกในชว่ งเวลา 9 นาฬิกา พระสงฆ์และแม่ชวี างดอกไม้จนั ทนใ์ นลาดบั ถดั มา

บทที่ 5 | หนา้ ๘ ประชาชนผู้รว่ มพธิ ีวางดอกไมจ้ ันทน์ตามลาดบั

บทที่ 5 | หน้า ๙ นกั เรียน นกั ศึกษาที่เขา้ ร่วมพิธี ชาวต่างชาติและผ้พู ิการทีแ่ สดงออกถงึ ความจงรักภกั ดี

บทท่ี 5 | หนา้ ๑๐ เจา้ หน้าท่ีจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ อานวยความสะดวกแกผ่ ู้เขา้ ร่วมพธิ แี ละปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ตามข้นั ตอนทกี่ าหนด

บทท่ี 5 | หน้า ๑๑ บรรยากาศความโศกเศรา้ ของเหลา่ พสกนิกรชาวระนอง

บทท่ี 5 | หนา้ ๑๒ ขา้ ราชการและบุคลากรภาครฐั ท่ีเขา้ รว่ มพธิ ี

บทท่ี 5 | หนา้ ๑๓ เจ้าหนา้ ที่พยาบาลทาหนา้ ท่ีดแู ลและใหก้ ารปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ แก่ผ้เู ขา้ รว่ มพธิ ี

บทที่ 5 | หน้า ๑๔ การดาเนินพิธสี งฆ์ในชว่ งเวลา 15 นาฬกิ า 30 นาที

บทท่ี 5 | หนา้ ๑๕ บรรยากาศการวางดอกไมจ้ นั ทนช์ ่วงกลางคนื

บทที่ 5 | หน้า ๑๖ พธิ ีเผาดอกไม้จนั ทนใ์ นชว่ งเวลา 22 นาฬิกา

บทท่ี 5 | หน้า ๑๗ พธิ ถี วายพระราชกุศลและลอยเถ้าดอกไมจ้ นั ทน์ในวนั ท่ี 27 ตลุ าคม พทุ ธศักราช 2560

บทท่ี 5 | หน้า ๑๘ นายจตพุ จน์ ปยิ มั ปตุ ระ ผวู้ า่ ราชการจงั หวัดระนอง และหัวหน้าสว่ นราชการนาเถา้ ดอกไมจ้ ันทนท์ ่ีบรรจุ ในพระโกศลอยลงในทะเลอนั ดามนั ณ บรเิ วณเกาะช้าง ตาบลเกาะพยาม อาเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง

ภาคผนวก หนา้ ๑ ภาคผนวก

ภาคผนวก หนา้ ๒ หนงั สอื ส่งั การและเอกสารที่เกีย่ วขอ้ ง ออกโดยหน่วยงานสว่ นกลาง -------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภาคผนวก หนา้ ๓ ประกาศ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรนี ฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดําเนินไปประทับทักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิรริ าช ตง้ั ตว่ ันศกุ ร์ท่ี 3 ตลุ าคม พุทธศกั ราช 2557 ตามทีส่ ํานักพระราชวังได้แถลงให้ทราบ เป็นระยะแล้วน้นั แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหา คลายไม่ ไดท้ รดุ หนักลงตามลาํ ดับ ถึงวนั พฤหัสบดที ่ี 13 ตลุ าคม พุทธศกั ราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบตั ไิ ด้ 70 ปี

ภาคผนวก หนา้ ๔ เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๒๓๔ ง หน้า ๑ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสํานักนายกรฐั มนตรี เรื่อง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั สวรรคต ตามท่ไี ด้มปี ระกาศสํานักพระราชวงั เรือ่ ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธเิ บศรรามาธิบดี จักรีนฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ นัน้ รัฐบาลไดร้ ับทราบด้วยความโทมนสั อยา่ งยิง่ จึงเห็นสมควรประกาศ ดังต่อไปนี้ ๑. ให้สถานท่ีราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา ๓๐ วนั ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๕๙ เป็นตน้ ไป ๒. ใหข้ ้าราชการ พนักงานรฐั วสิ าหกจิ และเจ้าหน้าทขี่ องรัฐไวท้ ุกขม์ ีกําหนด ๑ ปี ต้งั แต่วันท่ี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ เปน็ ตน้ ไป สําหรบั ประชาชนท่ัวไป ขอใหพ้ ิจารณาดําเนินการตามความเหมาะสม ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สาํ นกั นายกรัฐมนตรี

ภาคผนวก หน้า ๕ โทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ดว่ นทส่ี ดุ วนั ท่ี 13 ตุลาคม 2559 ที่ มท 0201.3/ว 5905 จาก ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถงึ ผวู้ า่ ราชการจงั หวัดทุกจงั หวดั และปลัดกรงุ เทพมหานคร ตามท่ีได้มีประกาศสํานักพระราชวัง เร่ือง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ลงวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ประกอบกับได้มีประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวรรคต ลงวนั ท่ี 13 ตุลาคม พทุ ธศกั ราช 2559 จึงใหด้ าํ เนินการ ดังนี้ 1. ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ต้ังแต่วนั ที่ 14 ตลุ าคม พทุ ธศักราช 2559 เปน็ ต้นไป 2. ให้ข้าราชการ พนกั งานรัฐวิสาหกจิ และเจา้ หน้าที่ของรฐั ไวท้ ุกข์มีกําหนด 1 ปี ต้ังแต่วันท่ี 14 ตุลาคม พทุ ธศักราช 2559 เปน็ ตน้ ไป สาํ หรับประชาชนทัว่ ไป ขอให้พิจารณาดําเนนิ การตามความเหมาะสม อนึ่ง ขอให้จังหวัดเชิญชวนพ่ีน้องประชาชนจัดกิจกรรมทางศาสนาของแต่ละศาสนา ตามความเหมาะสมเพ่อื ถวายเป็นพระราชกศุ ล จึงเรียนมาเพ่ือถือปฏิบัติต่อไป และขอให้แจ้งอําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในพนื้ ที่ถอื ปฏบิ ัติตอ่ ไปดว้ ย (นายกฤษฎา บุญราช) ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ภาคผนวก หน้า ๖ โทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนทสี่ ุด วันที่ 13 ตลุ าคม 2559 ที่ มท 0201.3/ว 5908 จาก ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึง ผูว้ ่าราชการจงั หวัดทกุ จงั หวัด และปลัดกรุงเทพมหานคร ต่อโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนท่ีสุด ที่ มท 0201.3/ว 5905 ลงวันท่ี 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ได้แจ้งให้ทราบและถือปฏิบัติตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เร่อื ง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั สวรรคต ลงวันท่ี 13 ตุลาคม พทุ ธศักราช 2559 ในการนี้ จึงให้จังหวัด ดาํ เนินการ ดงั นี้ 1. จัดโต๊ะหมู่บูชา (หมู่ 9) ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ (ภาพสีหรือขาวดํา) พร้อมประดับเครื่องทองน้อย แพรไว้ทุกข์ ณ ศาลากลางจังหวัด ท่ีว่าการอําเภอ สํานักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานท่ีที่เหมะสม เพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอาลัย ต้ังแต่วันท่ี 14 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เปน็ ต้นไป 2. จัดสมดุ ลงนามถวายอาลยั 2.1 ดา้ นหน้าปกสมดุ พิมพข์ อ้ ความวา่ “สมุดลงนามถวายอาลัย” 2.2 แผ่นรองปก พมิ พ์ขอ้ ความวา่ “ขอนอ้ มเกล้าฯ ถวายอาลยั ” สง่ เสด็จสูส่ วรรคาลยั ดว้ ยเกล้าดว้ ยกระหม่อม ขอเดชะ” 2.3 ดา้ นในสมดุ พมิ พข์ ้อความหรอื เขยี นวา่ “ข้าพระพทุ ธเจา้ ................................” “ข้าพระพทุ ธเจา้ ................................” เรยี งลาํ ดับ ต่อกนั ไป 3. ตกแตง่ อาคารสถานที่ ด้วยผา้ ดาํ ขาว ใหเ้ หมาะสมแกพ่ ระเกยี รติยศ 4. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคเอกชนหรือสถานบริการในพ้ืนที่ ให้พิจารณา งดหรือลดการแสดงเพอ่ื ความบนั เทงิ หรือการจดั งานรื่นเริงต่าง ๆ ตามความเหมาะสม จึงเรียนมาเพื่อถือปฏิบัติต่อไป และขอให้แจ้งอําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพน้ื ทถี่ อื ปฏิบตั ิตอ่ ไปด้วย (นายกฤษฎา บุญราช) ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ภาคผนวก หน้า ๗ โทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ดว่ นท่ีสุด วนั ท่ี 14 ตลุ าคม 2559 ท่ี มท 0201.3/ว 5915 จาก ปลดั กระทรวงมหาดไทย ถึง ผู้วา่ ราชการจังหวัดทุกจงั หวดั ด้วยสํานักพระราชวังได้มีประกาศเร่ืองการถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถ บพิตร โดยจะได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถวายนํ้าสรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร น้อมเกล้า น้อมกระหม่อมส่งเสดจ็ สู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ซ่ึงประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวังในวนั ศุกรท์ ี่ 14 ตุลาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถงึ เวลา 12.00 น. ในการน้ีขอให้จังหวดั ดําเนินการดังนี้ 1.จัดโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ (ไม่ต้องประดับผ้าดําขาว) พานแจกันดอกไม้ 2 คู่ พานพุ่มดอกไม้ 1 คู่ สายแถบจาก พระบรมฉายาลักษณ์ฯ ไปยังขนั ใบใหญ่ 2.จดั ขนั นา้ํ และนาํ้ สรงพระบรมศพ เป็นน้ําสะอาดบริสุทธิ์ไม่ต้องใส่ดอกไม้เพ่ือให้ข้าราชการ และประชาชน สรงนํ้าไปยงั ขนั ใบใหญ่ท่ีเชอ่ื มตอ่ กบั สายแถบ 3.สถานท่ื ให้ใช้ศาลากลางจังหวัด ท่ีว่าการอําเภอ วัด หรือสถานท่ีท่ีเหมาะสมต้ังแต่เวลา 8.30 น. ถึงเวลา 16.00 น. (ทั้งน้ี ต้องแลว้ เสรจ็ ภายในเวลา 16.00 น.) 4.การแต่งกายข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ชุดปกติขาว ประดับแขนทุกข์ สําหรับ ประชาชนใหแ้ ตง่ กายดว้ ยชดุ ไว้ทกุ ข์ จึงเรียนมาเพ่ือถือปฏิบัติต่อไป และขอให้แจ้งอําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพืน้ ท่ถี ือปฏบิ ัติต่อไปดว้ ย (นายกฤษฎา บญุ ราช) ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ภาคผนวก หนา้ ๘ โทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ดว่ นที่สดุ วนั ท่ี 14 ตลุ าคม 2559 ท่ี มท 0201.3/ว 5930 จาก ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึง ผวู้ ่าราชการจงั หวัดทุกจังหวัด และปลดั กรงุ เทพมหานคร ตามท่ีได้มีประกาศสํานักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพล อดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ลงวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ประกอบกับได้มีประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยหู่ ัวสวรรคต ลงวันที่ 13 ตลุ าคม พุทธศักราช 2559 นั้น ในการน้ี จงึ ขอใหห้ น่วยงานดาํ เนินการเพมิ่ เติม ดังนี้ 1. การจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มหิตลาธเิ บศรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามินทราธริ าช บรมนาถบพิตร 1.1 นอกอาคารสาํ นกั งานใหจ้ ดั โต๊ะหมูบูชา (หมู่ 9) พระบรมฉายาลักษณป์ ระดับ ผ้าดําขาว 1.2 ภายในอาคารสํานกั งาน (สําหรับลงนามถวายอาลัย) ใหจ้ ัดโตะ๊ หมูบูชา (หมู่ 7) พระบรมฉายาลักษณป์ ระดับผา้ ดําขาว 2. ประดับผ้าดําขาวบริเวณอาคารศาลากลางจังหวัด อาคารของหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อถวายอาลัย โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ ทปี่ ฏิบัติราชการภายใต้พระปรมาภิไธย อาทิ ศาล 3. การลดธงคร่ึงเสา จะต้องชักธงถึงยอดเสาแล้วจึงลดลงให้อยู่ในระดับความสูงประมาณ สองในสามของความสูงของเสาธง และเม่ือชักธงลงให้ชักธงข้ึนจนถึงยอดเสาก่อนแล้วจึงชักธงลง ตามข้อ 10 ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติและธงของ ต่างประเทศในราชอาณาจักร ปีพุทธศักราช 2529 4. ตรวจตรา ดูแลพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพล อดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ท่ีประดิษฐาน ณ อาคารสถานที่ของหน่วยงาน รวมทง้ั เคร่อื งราชสกั การะใหอ้ ยูใ่ นสภาพทส่ี มบรู ณ์ ถกู ตอ้ ง 5. เชิญธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์และตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล ท่ีได้ประดบั ไว้ ณ บริเวณอาคารศาลากลางจังหวัด อาคารของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ตลอดจน องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ เพอ่ื นาํ ไปเกบ็ รักษาในสถานท่ีที่เหมาะสม /6.บนั ทึกภาพ...

ภาคผนวก หน้า ๙ -2– 6. บันทึกภาพนิ่งและภาพเคล่ือนไหว พร้อมคําบรรยายเกี่ยวกับพิธีการต่าง ๆ ของจังหวัด เพื่อรวบรวมส่งใหก้ ระทวงมหาดไทยในโอกาสต่อไป จึงเรียนมาเพื่อถือปฏิบัติต่อไป และขอให้แจ้งอําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพ้นื ทถี่ อื ปฏบิ ัตติ อ่ ไปด้วย (นายกฤษฎา บญุ ราช) ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ภาคผนวก หนา้ ๑๐ ด่วนทสี่ ุด สํานกั นายกรฐั มนตรี ทาํ เนยี บรฐั บาล กรุงเทพฯ 10300 ท่ี นร 0101/ว 1814 14 ตลุ าคม ๒๕๕๙ เรือ่ ง แนวทางปฏบิ ัติอนั เกีย่ วเน่อื งกบั งานพระบรมศพ เรยี น หวั หน้าสว่ นราชการ รัฐวิสาหกจิ และหน่วยงานของรัฐ สิง่ ท่ีส่งมาดว้ ย 1.แนวทางการแตง่ กายไว้ทกุ ข์ถวาย 2.ตวั อย่างการประดับพระบรมฉายาลกั ษณ์ และการใช้ถอ้ ยคําถวายความอาลยั 3.รปู แบบการจดั โต๊ะหมบู่ ูชา ด้วยมีประกาศสํานักพระราชวัง ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เรื่องพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถ บพิตร สวรรคต ในการนี้ เพื่อความเรียบรอ้ ยและสมพระเกยี รติ สาํ นกั นายกรัฐมนตรี ขอแจ้งแนวทางปฏิบัติ อันเกย่ี วเนอ่ื งกับงานพระบรมศพ ดังน้ี 1. แนวทางการแต่งกายไวท้ กุ ข์ถวาย 1.1.กรณีไปร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพ ให้ข้าราชการแต่งเคร่ืองแบบตามหมาย รับส่ัง หรือหมายกําหนดการของสํานักพระราชวัง โดยให้ใช้ผ้าสักหลาด หรือผ้าโปร่งสีดํา ขนาดกว้าง 7 – 10 เซนตเิ มตร พนั แขนเสอื้ ซา้ ยเบ้อื งบน 1.2. กรณีไมไ่ ดร้ ่วมงานพระราชพธิ ีพระบรมศพ 1.2.1 กรณีแต่งเคร่ืองแบบราชการ (เคร่ืองแบบสีกากีคอพับและเคร่ืองแบบ สีกากคี อแบะ) การแตง่ กายแบบไมต่ ้องใชผ้ ้าสกั หลาดหรอื ผ้าโปร่งสีดํา พนั แขนเสือ้ ซา้ ยเบื้องบน 1.2.2 กรณีการแต่งกายท่ัวไปในการปฏิบัติราชการ ข้าราชการชายให้แต่งกาย ด้วยเสื้อเช้ิตสีขาวหรือสีดํา ผูกเนคไทสีดํา หากจะสวมเส้ือสูทหรือเสื้อคลุมให้ใช้สีดํา โดยอาจใช้ ผ้าสักหลาด หรือผ้าโปร่งสีดําพันแขนเสื้อซ้ายเบื้องบนตามสมควร ส่วนข้าราชการหญิง ให้แต่งกายสุภาพ ตามรฐั พธิ ี โดยใหใ้ ชเ้ คร่อื งดําลว้ น 1.3 กรณขี า้ ราชการท่มี ีกฎหมายกาํ หนดไวอ้ ย่างอน่ื เปน็ การเฉพาะ ให้แตง่ กายตามน้ัน 1.4 กรณีการแต่งกายของพนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าท่ีของรัฐอื่น ให้อนุโลม ตามข้อ 1.1. และ 1.2 2.ตัวอยา่ งการประดับพระบรมฉายาลกั ษณ์ และการใชถ้ ้อยคาถวายความอาลัย ดังน้ี “ปวงขา้ พระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาท่ีสุดมิได้ ด้วยเกล้า ด้วยกระหมอ่ มขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า.............…” 3. การจัดโตะ๊ หมูบ่ ูชา ประกอบด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ เครอื่ งทองน้อย ในส่วนของการ ประดบั ผา้ ระบาย ให้ผ้าสีดาํ อยู่ดา้ นบนและสีขาวอยูด่ า้ นล่าง /4.การประดบั ธง...