สรปุ โครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน(รปู แบบช้นั เรียนวิชาชพี หลักสตู รการทาอาหารวา่ งต้านโควดิ 35 ชั่วโมง วนั ท่ี 8 – 14 มิถุนายน 2563 ณ. ศาลาประชาคม หมู่ 7 ต.พระแกว้ อ.ภาชี จ.อยุธยา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอภาชี สานกั งาน กศน.จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร
คานา การจดั การศกึ ษาด้านอาชีพมีความสาคัญต่อการพฒั นาผู้เรียน เพือ่ ให้ผเู้ รียนมีความรู้ตามความสามารถ และ ประสบการณ์ มที ักษะการดาเนนิ ชีวติ ท่เี กิดจากการฝึกหดั สามารถใช้ความรูใ้ ห้เกิดประโยชน์ในการพฒั นา ตนเองและการประกอบอาชพี และ เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นสามารถดารงตนอยู่ในสงั คมร่วมกับผ้อู ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ศนู ย์ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอภาชี จงึ ไดจ้ ดั กิจกรรมศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน (รูปแบบช้ันเรยี น วิชาชีพ) หลกั สูตร การทาอาหารวา่ งต้านโควิด ข้ึน ผจู้ ดั หวงั เปน็ อยา่ งยิ่งว่าการอบรมในครั้งน้ีจะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้เขา้ อบรม และ สามารถนาความรทู้ ่ีอบรบไป ปรับใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอภาชี หวงั เป็นอย่างยง่ิ ว่าการสรุปรายงานผลการ จัดการส่งเสรมิ การและพัฒนาอาชพี เพอ่ื ใหน้ กึ ศึกษาและประชาชนมีความสานกั ในการมีส่วนรว่ มการทากิจกรรมเพ่ือ สงั คม ชุมชน และท้องถน่ิ นอกจากนั้นนักเรียนนกั ศึกษายังได้นาความรู้ในสาขาวิชาชพี ทเี่ รียนไปใชใ้ นวตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ประเมินผลการจัดกิจกรรมโครงการ นาเสนอข้อคดิ เหน็ ปัญหา และ อปุ สรรค ทง้ั นเ้ี พื่อนาผลการประเมนิ ไปใชใ้ น การพัฒนาโครงการต่อไป และสามารถดาเนนิ การจดั กจิ กรรมได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพตามที่กาหนดทกุ ประการ เอกสารนค้ี งเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้สนใจ หากมสี ง่ิ ใดบกพร่อง ขอรบั ไว้ปรบั ปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป (นางลดั ดาวลั ย์ สุขประเสรฐิ ) ครู กศน.ตาบลพระแก้ว 28 สิงหาคม 2563 สรุปรายงานผลการจัดการกระบวนการเรียนรกู้ ารจัดการส่งเสริมการและพฒั นาอาชีพ ฉบบั น้ไี ด้รับการ พิจารณา และ ผา่ นความเห็นชอบ จากผูอ้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอภาชี เรยี นร้อยแล้ว ........................................................... (นางสาวมุกดา แข็งแรง) ผอู้ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอภาชี
สารบญั หนา้ 3 บทท่ี 1 บทนา 4 หลักการและเหตุผล 4 วตั ถุประสงค์ 4 เครื่องมือที่ใชใ้ นการสรุป 4 ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รับ 5 5 บทที่ 2 เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 5 การศึกษาต่อเนื่อง 10 หลักและแนวคดิ เกย่ี วกับการประเมนิ โครงการ 10 10 บทท่ี 3 วิธีการดาเนินงาน 10 ขนั้ ตอนการรว่ มกนั วางแผน (Plan) 10 ขัน้ ตอนการรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิ ( Do) 13 ขน้ั ตอนการ่วมกนั ประเมิน ( Check ) 13 ข้ันตอนการร่วมปรบั ปรุง ( Act) 20 บทที่ 4 ผลการดาเนินการและวิเคราะหข์ ้อมลู 20 ผลการจัดกจิ กรรมตามตดิ ตามโครงการกจิ กรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (รูปแบบชนั้ เรียนวิชาชพี ) 20 หลักสตู ร การทาอาหารว่างต้านโควดิ จานวน 35 ชัว่ โมง 20 20 บทที่ 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 20 วตั ถุประสงค์ 21 เปา้ หมาย เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล การเกบ็ รวบรวมข้อมลู สรปุ ผลการดาเนินการ ปญั หา/ข้อเสนอแนะ ภาคผนวก กาหนดการ เอกสารทเี่ ก่ียวข้องกับโครงการ - สรปุ คา่ ใชจ้ า่ ยโครงการ - รายชื่อผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ - แบบรายงาน แบบประเมนิ ความพึงพอใจ
ภาพประกอบโครงการ บทท่ี 1 บทนา 1.1 หลักการและเหตผุ ล โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๕ กาหนดให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักธรรมาภิบาลเพ่ือใช้เป็นกรอบในการจัดทาแผนต่าง ๆ ให้ สอดคล้องและบูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว โดยให้เป็นไปตามท่ีกาหนดใน กฎหมายว่าด้วยการจัดทายุทธศาสตร์ชาติและต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติ การจัดทายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยกาหนดให้มี ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561-2580 ยุทธศาสตร์ ดา้ นการพฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ประเด็นที่ ๒ การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต มุ่งเน้น การพัฒนาคนเชิงคุณภาพในทุกช่วงวัยตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์ ปฐมวัย วัยเด็ก วัยรุ่น วัยเรียน วัยผู้ใหญ่ วัยแรงงาน และวัยผู้สูงอายุ เพื่อสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ มีทักษะความรู้ เป็นคนดี มีวินัย เรียนรู้ได้ด้วยตนเองในทุก ชว่ งวยั มีความรอบรูท้ างการเงนิ มคี วามสามารถในการวางแผนชวี ิตและการวางแผนทางการเงินท่ีเหมาะสมในแต่ละ ช่วงวัย และความสามารถในการดารงชีวิตอย่างมีคุณค่า รวมถึงการพัฒนาและปรับทัศนคติให้คนทุกช่วงวัยที่เคย กระทาผิดไดก้ ลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างสงบสุขและเป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาประเทศ สานักงาน กศน.ได้จัด ให้มีโครงการจัดการศึกษาเพื่อพัมนาอาชีพของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนขึ้น โดยใช้สถานศึกษา กศน. และ กศน.ตาบล หรือแขวง เป็นฐานการจัดกิจกรรมให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นท่ีบริการโดยมีความเชื่อม่ันว่าโครงการ ดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ประชาชนระดับฐานรากท่ีมีรายได้น้อยและขาดโอกาสในการเพ่ิมรายได้อันเป็นเงื่อนไข สาคัญของการเหล่อื มล่าทางเศรษฐกจิ ท่สี ่งผลให้ฐานเศรษฐกิจของประเทศไม่เข้มแข็งอย่างทีเ่ ป็นอยใู่ นปจั จบุ ัน การทาอาหารวา่ งตา้ นโควดิ ในภาวะทีม่ กี ารระบาดของโควิด ท่ีเกิดข้นึ อยา่ งรวดเร็ว การดูแลสุขภาพของ ประชาชนจงึ เปน็ สงิ่ สาคัญควรทาใหร้ า่ งกายมสี ุขภาพดีตลอดช่วงการระบาดของโควิด บริโภคอาหารที่มีคุณภาพสูงมี ประโยชนเ์ สริมภูมิคมุ้ กัน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอภาชี จึงจัดทาหลักสูตรการทาอาหารว่างต้านโควิด ขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการทาอาหารว่างต้านโควิด และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ ตลอดจน สามารถนาความรูไ้ ปใชใ้ นการประกอบอาชีพในโอกาสต่อไป
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับการทาอาหารวา่ งต้านโควดิ 1.2.2. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นสามารถทาอาหารวา่ งตา้ นโควดิ ได้ 1.2.3. เพ่ือให้ผ้เู รยี นมีอาชพี หรืออาชีพเสริมจากการทาอาหารวา่ งตา้ นโควิดได้ 1.3 เปา้ หมาย เชิงปริมาณ ประชาชนผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ จานวน 12 คน เชงิ คณุ ภาพ ประชากรในตาบลพระแกว้ ร้อยละ 80 ของผู้เขา้ รว่ มโครงการ มีความสนใจ และเห็นความสาคัญของการ ประกอบอาชีพ และ เพ่ือเปน็ การสง่ เสริมการพัฒนาอาชีพใหก้ บั ประชาชนดว้ ยการทาอาหารว่างต้านโควดิ โดย สามารถนาไปประกอบเปน็ อาชีพของตนเองไดแ้ ละสามารถทาไวก้ นิ ในครวั เรือนได้ เพ่อื เป็นการส่งเสริมความร้ใู นดา้ นการพัฒนาอาชีพ เพ่ือตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปา้ หมาย สร้าง ความชานชิ านาญเรอ่ื งใดเร่ืองหนึ่ง ซ่ึงนักศกึ ษาและประชาชนสามารถสรา้ งขึ้นไดจ้ ากการเรียนรู้ 1.4 เครอื่ งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู เครื่องมือท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในครง้ั น้ี แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ โครงการกจิ กรรมศูนยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน (รปู แบบชน้ั เรียนวชิ าชพี ) หลกั สตู ร การทาอาหารวา่ งต้านโควิด จานวน 35 ช่ัวโมง 1.5 ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รบั 1.5.1 ผเู้ รียน ความเข้าใจเก่ียวกับการทาอาหารวา่ งต้านโควิด มากย่ิงขนึ้ 1.5.2 ผ้เู รียนสามารถทาอาหารวา่ งตา้ นโควิด ได้ 1.5.3 ผูเ้ รยี นมอี าชีพหรอื อาชีพเสริมจากการทาอาหารวา่ งต้านโควดิ ได้
บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วข้องกบั การจัดการศกึ ษาเพ่ือการมีงานทา ประจาปีงบประมาณ ๒๕63 ของศนู ย์ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอภาชี มีดังต่อไปน้ี ๑. การพฒั นาอาชีพ ๑.๑ ความหมายของ การพัฒนาอาชีพ ๑.๒ ขน้ั ตอนในการจดั กิจกรรมพฒั นาอาชีพ ๑.๓ วิทยากร ๑.๔ สถานศกึ ษา ๑.๕ ผู้เรยี น ๒. งานวิจยั ท่เี ก่ียวขอ้ ง ๑. การพฒั นาอาชพี ๑.๑ ความหมายของ การพัฒนาอาชพี การพฒั นาอาชีพ (Career development) จึง หมายถงึ กระบวนการซ่งึ องค์การจัดขึ้นเพ่อื ชว่ ยเหลือบคุ ลากรในการจัดการกับอาชีพของตนเอง (De Cenzo & Robbins, 1994) ซ่ึงอาจจะได้แกก่ ารประเมนิ ศกั ยภาพของบุคคล กาหนดเสน้ ทางอาชีพทีเ่ หมาะสม วางแผน และฝึกอบรม เพ่อื ส่งเสริมให้บุคลากรมีการพัฒนา และความก้าวหนา้ ในงาน (ปภาวดี ประจกั ษ์ศุภนมิ ติ และก่งิ พร ทองใบ,2531) โดยทวั่ ไป อาชีพ (Career) หมายถึง ส่งิ ทบ่ี ุคลากรทาเพื่อการดารงชีวิต โดยใชค้ วามรู้ ทกั ษะ และ ความสามารถของตนท่ีได้รับจากการศึกษาและฝึกอบรม เช่น อาชพี แพทย์ พยาบาล นกั วทิ ยาศาสตร์ ช่างไฟฟา้ ช่างไม้ เปน็ ต้น แตใ่ นทีน่ จ้ี ะให้ความหมายของคาว่าอาชีพ คือ “ลาดับของตาแหน่งงานซ่ึงบุคคลดารงอยู่ภายในช่วง ชีวิตของเขา”(De Cenzo & Robbins, 1994) ดังน้ันบุคลากรทกุ คนทีท่ างานโดยได้รับหรือไม่ไดร้ บั ค่าตอบแทน จะ ถือว่าเป็นบคุ คลท่มี ีอาชพี ทงั้ ส้ิน ๑.๒ ขน้ึ ตอนในการพัฒนากา้ วหน้าทางอาชพี การพฒั นาความก้าวหนา้ ทางอาชีพ (Career Development) นอกจากเปน็ การเพมิ่ โอกาสในการ ก้าวไปสู่ความสาเรจ็ แลว้ ยังเปน็ การพฒั นาตนเองให้ทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ก่อใหเ้ กิดประโยชนก์ บั ท้ัง
พนักงานและองค์กร ถ้าตอ้ งการความกา้ วหนา้ ทางอาชีพอย่างทีม่ งุ่ หวังไว้ ควรมแี บบแผนการพัฒนาอาชพี ท่ีดี และมี ความรคู้ วามเข้าใจในข้ันตอน กระบวนการพฒั นา โดยแผนการพัฒนาอาชีพสามารถแบ่งเป็นขั้นตอนได้ ดังต่อไปน้ี การวางแผนพัฒนาสายอาชีพ (Career Planning) ในการวางแผนพฒั นาสายอาชพี เป็นการกาหนดทิศทางและเป้าหมายการทางานในอนาคต ควรประเมนิ ตนเองใน ดา้ นตา่ ง ๆ เช่น 1.1 ความสนใจส่วนตัว ท่ีเปน็ ผลดีในการพฒั นาตนเองและอาชีพ 1.2 ความสามารถเฉพาะตวั และการทางานเป็นทีม 1.3 ศกึ ษางานในตาแหน่งทเ่ี หมาะสมกับตนเอง เพื่อเพิ่มโอกาสความก้าวหนา้ ในอาชีพ 1.4 กาหนดเปา้ หมายท่ตี อ้ งการในระยะสน้ั และระยะยาว 1.5 หม่นั ฝึกฝนและพัฒนาตนเองในการทางานอยูเ่ สมอ 1.6 ปฏบิ ตั ิตามแผนการท่ตี ้ังไวอ้ ยา่ งเครง่ ครดั ๑.๓ วิทยากร วทิ ยากรคือผทู้ ี่ทาให้เกดิ การเรยี นรู้ ดังน้นั การเรยี นรจู้ งึ เกดิ จากิจกรรมของวิทยากรรวมกับกิจกรรมของผู้เขา้ รับการฝกึ อบรมภายใตส้ ถานการณ์ท่ีวิทยากรเปน็ ผู้กาหนดและอานวยการใหเ้ ปน็ ไปโดยยดึ ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมเป็น ศนู ยก์ ลาง หลักสาคัญทที่ าใหเ้ กิดการเรยี นรู้ มี 2 ประการคือ 1. วิทยากรเป็นผ้กู ระตนุ้ และอานวยความสะดวกในการเรียนร้ขู องผเู้ ข้ารบั การอบรม 2. ผู้เข้ารับการอบรมต้องทากิจกรรมเพ่ือใหเ้ กิดการเรียนรูด้ ้วยตนเอง บทบาทผู้จดั การฝึกอบรม ในการจัดการฝึกอบรมแต่ละคร้ัง บุคลาการที่มีหน้าท่ีในการจัดฝึกอบรมแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท บุ คลาการเหล่านี้มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันไปตามภารกิจแต่ก็ล้วนมีความสาคัญต่อการจัดการฝึกอบรมท้ังสิ้น อาทิ เช่น ผู้บริหารองค์การ เป็นผู้ท่ีมีบทบาทสาคัญในการให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ เวลา ให้คาปรึกษา แนะนา จดั บุคลากรใหร้ บั ผดิ ชอบงานได้อย่างเหมาะสม เห็นคณุ คา่ และความสาคญั ของการฝกึ อบรม ผู้บริหารการฝึกอบรม เป็นผู้รับผิดชอบในการฝึกอบรมจะต้องมีความรู้ ความสามารถหลายด้าน เช่น การ วางแผน กาหนดโครงการ และการบริหารงบประมาณได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนเข้าใจนวัตกรรมการฝึกอบรม เป็น ต้น นอกจากน้ัน ผู้บริหารงานฝึกอบรมเป็นบุคคลสาคัญ จึงจาเป็นต้องพัฒนาตนเองและมีคุณสมบัติที่ดีหลาย ประการ คอื 1. มีความรูค้ วามสามารถในการฝึกอบรม มีความคิดริเริ่มและคิดกว้างไกล 2. เป็นนกั ประสานงานที่ดสี ามารถทางานกบั ทุกคนได้ 3. เปน็ นักวางแผนและนักปฏบิ ตั ทิ ี่ดี 4. ศึกษาและมคี วามเขา้ ใจปรัชญา จิตวทิ ยาการฝึกอบรมจิตวทิ ยาผใู้ หญ่
สว่ นตน 5. มมี นุษย์สมั พันธ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความเป็นกลั ยาณมติ รกบั ทุกคน 6. มีความสามารถในการแกป้ ัญหาไดด้ ี 7. เป็นผู้กระตุน้ ที่ดีเพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรมต่นื ตัวและมีความกระตอื รือรน้ 8. เปน็ ผ้คู ดิ คานึงถึงการให้มากกว่าการรบั และคานึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ 9. มีบุคลิกภาพและการแตง่ กายทด่ี ี มคี วามเช่ือมนั่ ในตนเองและพูดมีศลิ ปะ 10. เป็นผู้ใหค้ วามร่วมมือ สง่ เสรมิ สนับสนนุ เสนอแนะให้วิทยากรปฏบิ ตั งิ านตามบทบาทและ ภารกิจไดอ้ ย่างเต็มที่ วทิ ยากร มคี วามสาคัญอย่างมากในเวทีการฝึกอบรม เปน็ ผมู้ ีความร้คู วามสามารถในการถ่ายทอด มีเทคนิคในการจัด ส่อื เคร่ืองมือตลอดจนการนาเสนอทีเ่ หมาะสมกับเวลาและผู้เขา้ รบั การฝึกอบรม ผูเ้ ข้ารับการอบรม มีส่วนสาคญั ใน การทาให้การอบรมสาเรจ็ ถ้ามคี วามสมคั รใจ เตม็ ใจ กระตือรอื ร้น และใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิกิจกรรม ตลอดจนการนาความรไู้ ปพฒั นางาน จะเหน็ ได้ว่าวทิ ยากรเปน็ สื่อกลางท่ีมีบทบาทสาคญั มาก ในการทาให้ผเู้ ขา้ รับ การอบรมเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และทศั นคตทิ เ่ี หมาะสมเกี่ยวกับเร่อื งทีอ่ บรม จนกระท่ังเกิดการเรยี นร้แู ละ เปล่ียนแปลงความคิดหรือพฤติกรรมตามท่ตี อ้ งการ ให้เข้าใจ วิทยากร จะตอ้ งดาเนนิ การดังน้ี ๑. ศกึ ษารายละเอียด และ วัตถปุ ระสงค์ของกิจกรรมจัดสงเสริมและพฒั นาการแปรรูปผ้าขาวมา้ ๒. จัดทาหรอื เตรียมแผนการจัดกิจกรรมจดั ส่งเสรมิ และพัฒนาการแปรรูปผา้ ขาวม้า ๓. คดิ การจัดกิจกรรมให้สอดคลอ้ งกับผู้เรียน และเตรยี มอุปกรณ์ วสั ดสุ ื่อการสอนท่เี กยี่ วขอ้ ง ๔. จดั ทาบญั ชลี งเวลา ๕. ดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ใหผ้ ูเ้ รียน ๖. ทาการวดั ผลประเมนิ ผลของผเู้ รยี นแต่ละคน ๗. รบั ผิดชอบและควบคมุ ดูแลวัสดอุ ุปกรณใ์ ห้ใชอ้ ย่างคมุ้ ค่าและประหยัด ๘. เปน็ ผใู้ ห้คาแนะนา และ เปน็ ทปี่ รึกษาเกี่ยวกบั กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวติ ๙. รายงานผล / สรุปผลโครงการจดั สง่ เสริม และ พัฒนาการแปรรูปผลิตภัณฑผ์ า้ ขาวม้า ๑.๔ สถานศกึ ษา
หมายถงึ สถานศึกษาท่สี ังกดั สานักงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย กระทรวงศกึ ษาธิการ หรอื หนว่ ยงานอน่ื ทีส่ ถานศึกษาเห็นชอบใหจ้ ัดกิจกรรมจดั สง่ เสริม และ พัฒนาการแปรรปู ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวมา้ สถานศกึ ษามบี ทบาทหนา้ ท่ี คือ ๑. จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ และพัฒนาการแปรรปู ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า ดังนี้ ๑.๑ สารวจและสืบคน้ ขอ้ มลู ความตอ้ งการของกลมุ่ เปา้ หมาย ๑.๒ ออกแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ใหบ้ รรลุจดุ ประสงค์ ๑.๓ กาหนดแผนงาน / โครงการ ๑.๔ ดาเนินกิจกรรมตามแผนงาน / โครงการ ๑.๕ วดั ผลประเมนิ ผล สรปุ รายงานการจัดกจิ กรรม ๒. ผ้อู านวยการสถานศึกษา มีอานาจหนา้ ท่ี ๒.๑ อนมุ ตั โิ ครงการ ๒.๒ คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการผู้จัดกจิ กรรม ๒.๓ บรหิ าร ประสานงาน สถานศกึ ษา เครือข่ายอ่ืนๆ ๒.๔ กากับ ตรวจสอบ ติดตาม สนบั สนุนกจิ กรรม ๑.๕ ผเู้ รยี น หมายถงึ ผ้ทู เ่ี ขา้ รับการอบรมกจิ กรรมจดั ส่งเสรมิ และพฒั นาการแปรรูปผลติ ภณั ฑ์ผ้าขาวม้า ประชาชน ผูส้ นใจโยมพี นื้ ความรู้ ประสบการณใ์ ห้เป็นไปตามกิจกรรมน้ันๆท่กี าหนด ๒. งานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้อง Kotler (1999 อ้างถงึ ใน ศริ ิวรรณ เสรีรัตนแ์ ละศุภรเสรีรตั น์, 2541) ไดใ้ ห้ความหมายของพฤติกรรม ผู้บรโิ ภค (Consumer behavior) หมายถงึ การกระทาของบคุ คลใดบุคคลหนง่ึ เกี่ยวข้องโดยตรงกบั การจัดหาให้ ได้มาแล้วซึง่ การใช้สินคา้ และบริการ ท้ังนหี้ มายรวมถงึ กระบวนการตดั สนิ ใจ และการกระทาของบุคคลที่เกย่ี วกบั การ ซื้อและการใชส้ นิ คา้ 1.1. การศกึ ษาพฤตกิ รรมของผู้บริโภค เป็นวิธีการศึกษาทแี่ ต่ละบคุ คลทาการตัดสินใจทจ่ี ะใช้ทรัพยากร เชน่ เวลา บุคลากร และอน่ื ๆ เกีย่ วกบั การบริโภคสนิ ค้า ซ่งึ นกั การตลาดต้องศกึ ษาวา่ สนิ คา้ ท่เี ขาจะเสนอนั้น ใครคือ ผูบ้ ริโภค (Who?) ผ้บู รโิ ภคซื้ออะไร (What?) ทาไมจงึ ซื้อ (Why?)ซอื้ อย่างไร (How?) ซื้อเม่ือไร (When?) ซื้อทีไ่ หน (Where?) ซอ้ื และใช้บ่อยครัง้ เพยี งใด (Howoften) รวมทง้ั การศกึ ษาวา่ ใครมอี ิทธพิ ลตอ่ การซื้อเพื่อค้นหาคาตอบ 7 ประการเกีย่ วกบั พฤติกรรมผู้บริโภค โมเดลพฤตกิ รรมผู้บริโภค (Consumer behavior model) เปน็ การศึกษาถึง เหตจุ งู ใจ ท่ที าให้เกดิ การตดั สินใจซอื้ ผลิตภัณฑ์ โดยมีจุดเริ่มตน้ จากการทีเ่ กิดส่ิงกระต้นุ (Stimulus) ที่ทาใหเ้ กดิ ความตอ้ งการ สิ่งกระตุ้นผา่ นเข้ามาในความรสู้ ึกนึกคิดของผู้ซอ้ื (Buyer’s black box) ซ่ึงเปรยี บเสมอื นกล่องดา ท่ี ผู้ผลิตและผู้ขายไม่สามารถคาดได้ ความร้สู กึ นึกคดิ ของผู้ซ้อื ทจ่ี ะได้รบั อิทธิพลจากลกั ษณะต่าง ๆ ของผูซ้ ้ือ แมจ้ ะมีการตอบสนองผซู้ ้ือ(Buyer’s response) หรอื
การตดั สินใจของผซู้ ้ือ (Buyer’s purchase decision) 1. พฤติกรรมของผูซ้ ื้อ ผ้ผู ลิตและผูจ้ าหนา่ ยสินคา้ จะสนใจถึงพฤติกรรมของผ้บู รโิ ภค (Buyer behavior) ซง่ึ เป็นส่วนสาคัญของ การปฏิบตั กิ ารบรโิ ภค ซงึ่ หมายถงึ การกระทาของบุคคลใดบุคคลหนง่ึ ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การแลกเปลีย่ นสนิ ค้า และ บริการดว้ ยเงิน และรวมทั้งกระบวนการตัดสนิ ใจ ซึง่ เป็นตวั กาหนดใหม้ ีกระบวนการกระทานี้ พฤติกรรมของผซู้ ้ือนัน้ เราหมายรวมถึงผ้ซู ื้อที่เป็นอตุ สาหกรรม (Industrialbuyer) หรอื เปน็ การซ้ือบริษัทในอุตสาหกรรมหรอื ผูซ้ ้ือเพ่อื ขาย ต่อ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคนน้ั เราเนน้ ถึงการซ้ือของผู้บรโิ ภคเอง ปกติเรามกั ใชค้ าว่า พฤตกิ รรมของลูกคา้ (Customer behavior)แทนกนั กับพฤติกรรมผู้ซ้อื ได้คาทั้งสองคือ พฤตกิ รรมผู้ซ้ือและพฤตกิ รรมลูกคา้ น้เี ปน็ ความหมายเหมือนกนั และค่อนไปในแงล่ กั ษณะในทางเศรษฐกิจของการบริโภคมากกวา่ 2. การซอ้ื และการบรโิ ภค คาวา่ พฤติกรรมผบู้ รโิ ภค น้นั ในความหมายทีถ่ ูกตอ้ ง มใิ ชห่ มายถงึ การบริโภค(Consumption) แตห่ าก หมายถงึ การซื้อ (Buying) ของผ้บู ริโภค จึงเนน้ ถึงตัวผซู้ ้ือเป็นสาคัญและท่ถี กู ตอ้ งแลว้ การซอ้ื เป็นเพียงกระบวนการ หน่ึงของการตดั สนิ ใจและไมส่ ามารถแยกออกได้จากการบริโภคสินคา้ ทง้ั ทีก่ ระทาโดยตัวผู้ซือ้ เองหรือบรโิ ภคโดย สมาชกิ คนอ่ืน ๆ ในครอบครัวซ่งึ มีผูซ้ ือ้ ทาตวั เปน็ ผแู้ ทนให้ การซือ้ แทนนน้ั ผู้ซ้ือแทนจะเป็นผูท้ างานแทนความพอใจ ของผูท้ จี่ ะบรโิ ภคอีกตอ่ หนึ่ง ด้วยเหตผุ ลน้เี อง ผู้วเิ คราะห์การตลาดจึงตอ้ งระวังอยูเ่ สมอถึงความสัมพันธน์ น้ั สรุป พฤติกรรมผู้บรโิ ภคหมายถึง การกระทาของบุคคลบคุ คลหน่งึ ซ่ึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดการหา ให้มาและการใชซ้ ่ึงสินค้าและบรกิ าร สว่ นพฤตกิ รรมผูซ้ อ้ื นั้นหมายถึง การกระทาของบุคคลใดบคุ คลหนง่ึ ทีเ่ ก่ยี วข้อง กบั การแลกเปลย่ี นสนิ คา้ และบรกิ ารดว้ ยเงนิ และรวมถึงการตดั สนิ ใจ ประเดน็ เนื้อหาท่สี าคัญทค่ี วรใหก้ ลมุ่ เป้าหมายต่างๆได้เรียนรู้ รว่ มกบั การพัฒนาอาชีพ ๑. แนวทางการเรยี นรูส้ คู้ วามเปน็ เลศิ ของการพัฒนาอาชีพ ๒. งานวิจยั ผา้ ๓. การพฒั นาอาชพี
บทที่ 3 วิธีดาเนนิ งาน รายงานผลการจดั กิจกรรมตามโครงการกจิ กรรมศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน (รูปแบบชนั้ เรยี นวชิ าชีพ) หลกั สูตร การทาอาหารว่างต้านโควิด จานวน 35 ช่ัวโมง ได้นาวงจรคุณภาพของเดม่ิง PDCA มาใช้ในการดาเนินการ 4 ขั้นตอนดงั น้ี 1. ขั้นตอนการร่วมกนั วางแผน (Plan) 2. ขัน้ ตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) 3. ข้นั ตอนการ่วมกนั ประเมนิ (Check) 4. ขน้ั ตอนการรว่ มปรบั ปรุง (Act) 1. ขนั้ ตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) ขน้ั ตอนน้เี ป็นการวางแผนการดาเนินการโดยมีขนั้ ตอน ดังนี้ 1.1 ประชุมปรกึ ษารว่ มกนั ระหว่างหัวหน้างาน แลว้ ขยายผลสูค่ ณะครูและบุคลากรทุกคน 1.2 จัดทาโครงการกิจกรรมศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน (รูปแบบชั้นเรยี นวชิ าชพี ) หลกั สตู ร การทาอาหารวา่ ง ตา้ นโควิด จานวน 35 ชวั่ โมง เสนอผู้บริหารเพ่ือพิจารณาเห็นชอบ 1.3 แต่งต้ังคณะกรรมการผู้รบั ผิดชอบเกยี่ วกับการจัดกจิ กรรมแต่ละงานแตล่ ะกจิ กรรมตาม ความเหมาะสม 1.4 สรา้ งความเข้าใจกบั นกั ศึกษาเพอ่ื กาหนดแนวทางในการดาเนนิ การ 1.5 ติดตอ่ ประสานงานเตรียมความพร้อม ท้ังด้านสถานท่ี พาหนะในการเดินทาง 1.6 กาหนดระยะเวลาในการดาเนนิ การ และวธิ ีประเมินผล 2. ขัน้ ตอนการรว่ มกันปฏบิ ัติ (Do) การปฏบิ ัตงิ านตามแผนงานที่วางไวโ้ ดยมขี ้ันตอนในการดาเนินงาน ดงั นี้ 2.1 บันทกึ เสนอผู้บรหิ ารเพือ่ ขออนุญาตดาเนนิ การ 2.2 ดาเนนิ การตามจัดโครงการกิจกรรมศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน (รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ าชีพ) หลักสูตร การทาอาหารวา่ งต้านโควดิ จานวน 35 ชวั่ โมง ระหว่างวนั ท่ี 8 – 14 มิถนุ ายน 2563 ณ ศาลาประชาคม หม่ทู ี่ 7 ตาบลพระแกว้ อาเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมกี ิจกรรมการเรยี นร้ดู งั นี้
วัตถดุ ิบ และอุปกรณ์ในการทาอาหารวา่ งตา้ นโควดิ 2.2.1. วทิ ยากรบรรยายให้ความร้เู ร่ือง -ความรเู้ ก่ียวกับวัตถดุ ิบและอุปกรณ์ ในการทาอาหารวา่ งต้านโควิด -ข้อแนะนาในการทาอาหารว่างต้านโควดิ ๒. วทิ ยากรและผู้เรียนรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้ การทาอาหารว่างต้านโควดิ 1. วิทยากร บรรยาย และสาธิต ใหค้ วามรู้เรื่อง ขน้ั ตอนการทาอาหารว่างต้านโควิด 2. ผู้เรยี นฝกึ ปฏิบัติข้ันตอนการทาอาหารว่างตา้ นโควิด 3. วทิ ยากรและผเู้ รยี นรว่ มกันสรุปองคค์ วามรู้ การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ 1. วิทยากรบรรยายใหค้ วามรูเ้ ร่อื ง - การทาบญั ชีรายรับ-จา่ ย - ความหมายของการขาย - การกาหนดราคาขาย - การขายสนิ คา้ ผ่านระบบการตลาดออนไลน์ 2. วทิ ยากรและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ 3. ข้ันตอนการร่วมกันประเมิน ( Check ) 3.1 ดาเนินการประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรมตามโครงการกิจกรรมศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน (รูปแบบชน้ั เรียน วชิ าชีพ) หลกั สตู รการทาอาหารวา่ งต้านโควดิ จานวน 35 ชั่วโมง โดยใช้แบบสอบถาม ความคิดเหน็ 3.2 ข้อมูลท่เี ป็นมาตราส่วนประมาณค่า ( Rating Scale ) ใช้วธิ ีแจกแจงความถ่ี หาค่าเฉลย่ี (X) ทง้ั ในรายข้อและภาพรวมเทียบกับเกณฑ์ ดงั น้ี(บุญชม ศรสี ะอาด , 2545 ) 4.51-5.00 หมายถึง มีความเหมาะสม/การปฏิบตั ิอยู่ในระดบั มากท่ีสุด 3.51-4.50 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอยใู่ นระดับมาก 2.51-3.50 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏิบตั ิอยใู่ นระดบั ปานกลาง 1.51-2.50 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอย่ใู นระดบั นอ้ ย 1.00-1.50 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับนอ้ ยทีส่ ุด 3.3 ขอ้ มูลที่เปน็ ความคดิ เห็น ข้อเสนอแนะจากแบบบนั ทึกกิจกรรม ใช้วธิ ี วเิ คราะหเ์ นอ้ื เรื่อง (Content Analysis) 3.4 สถติ ทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. คา่ เฉลยี่ (Arithmetic Mean : X)
3.5 รายงานผลการดาเนินงานต่อผบู้ รหิ ารและบุคลากรศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั อาเภอภาชี 4. ขน้ั ตอนการรว่ มปรบั ปรุง (Act) เมือ่ คณะกรรมการฝา่ ยประเมินผล สรปุ ผลการดาเนินงาน ปญั หา อุปสรรค และข้อเสนอแนะกลมุ่ งาน ผู้รับผดิ ชอบจึงไดน้ าสารสนเทศท่ไี ด้มาปรับปรุง พฒั นาการงานให้มปี ระสิทธภิ าพมากยิ่งขึ้น
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ การและวิเคราะห์ขอ้ มูล ผลการจดั โครงการกิจกรรมศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน (รปู แบบชั้นเรยี นวชิ าชีพ) หลักสูตร การทาอาหารว่าง ต้านโควิด จานวน 35 ช่ัวโมง ผู้เรียน จานวน 12 คน ระหวา่ งวนั ที่ 8 – 14 มิถุนายน 2563 ณ ศาลาประชาคม หมู่ท่ี 7 ตาบลพระแกว้ อาเภอภาชี จงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา โดยมีนางวาสนา หลวงพล เปน็ วิทยากรให้ความรู้ สามารถสรปุ ตามข้นั ตอนในการดาเนนิ งาน ได้ดังนี้ ขนั้ ตอนการรว่ มกนั วางแผน (Plan) ขน้ั ตอนน้เี ป็นการวางแผนการดาเนินการโดยมีขน้ั ตอน พบวา่ การประชุมปรึกษารว่ มกนั ระหว่างหัวหนา้ กลมุ่ งาน แลว้ ขยายผลส่คู ณะครแู ละบุคลากรทุกคนไดร้ ับความรว่ มมือและสนับสนนุ การทาโครงการเปน็ อยา่ งดี และ นาเสนอผ้บู ริหารเพ่ือพิจารณาเหน็ ชอบโครงการได้รับการอนุมตั ิโครงการ ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการจงึ ได้ดาเนินการ แตง่ ต้งั คณะกรรมการผ้รู ับผดิ ชอบเกย่ี วกบั การจดั กจิ กรรมแตล่ ะงานแต่กิจกรรมตามความเหมาะสม แล้วสรา้ งความ เขา้ ใจกับนักศึกษาเพื่อกาหนดแนวทางในการดาเนนิ การ ติดตอ่ ประสานงานเตรียมความพรอ้ ม ทง้ั ด้านสถานที่ พาหนะในการเดนิ ทาง และกาหนดระยะเวลาในการดาเนนิ การ และวธิ ปี ระเมินผล ตามลาดบั ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบตั ิ ( Do) การปฏบิ ัติงานตามแผนงานที่วางไวโ้ ดยมีข้นั ตอนในการดาเนินงาน คือ การบนั ทกึ เสนอผู้บรหิ ารเพ่อื ขอ อนุญาตดาเนินการ พบว่า ได้รับการอนุญาตและให้ดาเนินการ และผลการดาเนินการตามกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพ ชุมชน (รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ) หลักสูตร การทาอาหารว่างต้านโควิด จานวน 35 ชั่วโมง ผู้เรียน จานวน 12 คน ระหว่างวันท่ี 8 – 14 มิถุนายน 2563 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ตาบลพระแก้ว อาเภอภาชี จังหวัด พระนครศรีอยุธยา พบว่า ตามกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (รูปแบบช้ันเรียนวิชาชีพ) หลักสูตร การทาอาหารว่าง ต้านโควิด ประชาชนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการดาเนินกิจกรรมด้วยดี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ ความสนใจดี ขนั้ ตอนการร่วมกันประเมิน ( Check ) การประเมินผลการจดั กิจกรรมตามโครงการกจิ กรรมการเรียนรกู้ ารใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเหมาะสม โดยใช้ แบบสอบถามความคดิ เหน็ พบวา่ วเิ คราะห์ข้อมูลโดยการหาคา่ เฉลยี่ X จากแบบสอบถาม โดยแปลความหมายดงั ตอ่ ไปน้ี เกณฑ์การประเมินความพงึ พอใจ 4.21 - 5.00 ระดบั ความพึงพอใจ มากท่สี ุด 3.41 - 4.20 ระดับความพึงพอใจ มาก 2.61 - 3.40 ระดับความพึงพอใจ ปานกลาง 1.81 - 2.60 ระดับความพึงพอใจ นอ้ ย 1.00 - 1.80 ระดบั ความพึงพอใจ นอ้ ยทสี่ ดุ
วิเคราะหข์ ้อมูลจากแบบประเมนิ ไดผ้ ลการประเมิน ดังน้ี ผลการดาเนนิ การ กิจกรรมศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน (รูปแบบชัน้ เรยี นวชิ าชีพ) หลักสตู ร การทาอาหารว่างตา้ นโควดิ จานวน 35 ช่ัวโมง ผู้เรียน จานวน 12 คน ระหว่างวันท่ี 8 – 14 มิถุนายน 2563 ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 7 ตาบลพระแก้ว อาเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา การตรวจสอบ ตารางแสดงจานวนและร้อยละของผูต้ อบแบบประเมินแยกตามเพศ รายการ จานวน(คน) รอ้ ยละ เพศชาย -- เพศหญิง 12 100.00 รวม 12 100.00 ตารางแสดงจานวนและร้อยละของผตู้ อบแบบประเมนิ แยกตามอายุ รายการ (อายุ) จานวน(คน) รอ้ ยละ ต่ากว่า 20 ปี - - 21-30 ปี - 31-40 ปี -- 41-50 ปี 5 41.67 51 ปีขึน้ ไป 7 58.33 ตารางแสดงจานวนและร้อยละของผตู้ อบแบบประเมินแยกตามระดับการศึกษา รายการ (อายุ) จานวน(คน) รอ้ ยละ ประถมศกึ ษา 8 66.67 มธั ยมศึกษาตอนตน้ 2 12.67 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 1 8.33 อนปุ รญิ ญา - - ปริญญาตรี 1 8.33
ตารางแสดงจานวนและรอ้ ยละของผตู้ อบแบบประเมินแยกตามสถานภาพ รายการ จานวน(คน) รอ้ ยละ นักศกึ ษา - - อาจารย์ - - ผปู้ กครอง - - อื่นๆ 12 100.00 ตารางคะแนนแบบสอบถามความพึงพอใจ กิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (รูปแบบช้ันเรียนวิชาชีพ) หลักสูตร การ ทาอาหารว่างตา้ นโควดิ จานวน 35 ช่ัวโมง รายงานด้านผลการวเิ คราะห์ด้านความพึงพอใจด้านเน้อื หา ระดับความพึงพอใจ คา่ เฉลย่ี ระดับ น้อย น้อย ระดบั ความพึง ข้อ รายการ มาก มาก ปาน 2 ทสี่ ุด คะแนน พอใจ ท่ี ทส่ี ุด 4 กลาง 1 53 5.0 มากทส่ี ุด 5.0 มากทีส่ ดุ ตอนท่ี ๑ ความพงึ พอใจด้านเนือ้ หา 5.0 มากทีส่ ุด 1 เนื้อหาตรงตามความต้องการ 12 4.7 มากทสี่ ดุ 2 เนอื้ หาเพียงพอต่อความ 12 4.9 ต้องการ 3 เน้ือหาปจั จุบันทันสมยั 12 4 เนอื้ หามีประโยชน์ตอ่ การ 10 2 นาไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพ ชวี ิต จากตาราง พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจโดยเรียงลาดบั ความพอใจจากมากท่สี ุดไปน้อยท่สี ุด ดงั นี้ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจมากทส่ี ุดข้อที่ 1 เน้ือหาตรงตามความต้องการ ข้อท่ี 2 เน้ือหาเพียงพอต่อความ ตอ้ งการ และ 3 เน้ือหาปจั จุบนั ทันสมัย วิเคราะหข์ ้อมูลโดยการหาคา่ เฉลีย่ x จากแบบสอบถาม มีคา่ เฉลี่ยระดบั คะแนนเทา่ กบั 5.0 รองลงมาคอื ข้อที่ 4 เนื้อหามีประโยชน์ตอ่ การนาไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชวี ติ มคี ่าเฉล่ีย ระดับคะแนนเท่ากับ 4.7 ตามลาดับ
รายงานดา้ นผลการวเิ คราะห์ดา้ นความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม ระดบั ความพงึ พอใจ ค่าเฉลีย่ ระดบั น้อย นอ้ ย ระดับ ความพงึ ขอ้ ที่ รายการ มาก มาก ปาน 2 ท่สี ุด คะแนน พอใจ ทส่ี ุด 4 กลาง 1 53 4.7 มากที่สดุ 5.0 มากที่สดุ ตอนที่ ๒ ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม 5.0 มากท่สี ุด 1 การเตรยี มความพร้อมก่อนอบรม 10 2 5.0 มากทสี่ ดุ 2 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสม 12 5.0 มากท่สี ุด กับวัตถุประสงค์ 4.7 3 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 12 4 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั 12 กลมุ่ เป้าหมาย 5 วิธกี ารวัดผล/ประเมนิ ผล 12 เหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ จากตาราง พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจโดยเรียงลาดบั ความพอใจจากมากท่ีสดุ ไปนอ้ ยท่สี ุด ดงั นี้ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจมากท่ีสดุ ข้อท่ี 2 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ข้อที่ 3 การ จดั กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา และข้อ 4 วธิ กี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการ หาคา่ เฉลี่ย x จากแบบสอบถาม มีค่าเฉล่ยี ระดบั คะแนนเทา่ กบั 4.7 ตามลาดับ
รายงานดา้ นผลการวเิ คราะหค์ วามพึงพอใจต่อวิทยากร ระดับความพึงพอใจ คา่ เฉล่ยี ระดบั ข้อ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ระดับ ความพึง ที่ ที่สุด 4 กลาง 2 ท่ีสุด คะแนน พอใจ 531 ตอนที่ ๓ ความพึงพอใจต่อวิทยากร วิทยากรมีความรู้ความสามารถใน 12 5.0 มากทสี่ ดุ เรอ่ื งท่ีถา่ ยทอด วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้สอื่ 12 5.0 มากที่สดุ เหมาะสม วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ สี ่วนร่วมและ 12 5.0 มากท่สี ดุ ซกั ถาม 5.0 จากตาราง พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจโดยเรยี งลาดับความพอใจจากมากท่สี ดุ ไปนอ้ ยทสี่ ดุ ดงั นี้ ผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจมากทส่ี ุดข้อท่ี 1 วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรื่องที่ถา่ ยทอด ข้อที่ 2 วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้ส่อื เหมาะสม และ ข้อท่ี 3 วิทยากรเปดิ โอกาสให้มสี ว่ นรว่ มและซักถามวิเคราะห์ ขอ้ มลู โดยการหาคา่ เฉลี่ย x จากแบบสอบถาม มีคา่ เฉลีย่ ระดับคะแนนเท่ากบั 5.0 ตามลาดับ
รายงานดา้ นผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก ระดบั ความพงึ พอใจ ค่าเฉลี่ ระดบั ขอ้ รายการ มาก มาก ปาน น้อย น้อย ยระดับ ความพงึ ท่ี ท่สี ดุ 4 กลาง 2 ทีส่ ดุ คะแนน พอใจ 531 ตอนที่ ๔ ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก 1 สถานที่ วัสดุ อปุ กรณ์และสิ่งอานวย 12 5.0 มากทส่ี ุด ความสะดวก 5.0 มากที่สุด 5.0 มากทีส่ ดุ 2 การสือ่ สาร การสร้างบรรยากาศ 12 เพื่อใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ 3 การบริการ การช่วยเหลอื และการ 12 แกป้ ญั หา 5.0 จากตาราง พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจโดยเรยี งลาดบั ความพอใจจากมากทส่ี ุดไปน้อยที่สุด ดงั นี้ ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจมากที่สดุ ข้อท่ี 1 สถานท่ี วัสดุ อุปกรณแ์ ละสิ่งอานวยความสะดวก ข้อท่ี 2 การสอ่ื สาร การสร้างบรรยากาศเพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และข้อที่ 3 การบริการ การช่วยเหลอื และการแก้ปัญหา โดย การหาค่าเฉล่ยี x จากแบบสอบถาม มีค่าเฉลยี่ ระดับคะแนนเทา่ กับ 5.0 ตามลาดบั สรปุ ผลการดาเนนิ งานความพึงพอใจ กิจกรรมศนู ย์ฝึกอาชพี ชุมชน (รปู แบบชั้นเรยี นวชิ าชพี ) หลักสตู ร การทาอาหารว่างต้านโควิด จานวน 35 ชว่ั โมง ดา้ นท่ี รายการ เกณฑ์ ผลการ เปา้ หมายการบรรลุ หมาย ดาเนินงาน บรรลุ ไมบ่ รรลุ เหตุ 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนื้อหา ร้อยละ 80 ร้อยละ 96.66 ร้อยละ 96.66 √ 2 ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรม รอ้ ยละ 80 √ การอบรม 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร รอ้ ยละ 80 รอ้ ยละ 100.00 √ รอ้ ยละ 100.00 √ 4 ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก ร้อยละ 80 จากตาราง พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจโดยเรียงลาดับความพอใจจากมากท่สี ดุ ไปน้อยที่สดุ ดงั นี้ ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจมากที่สดุ ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร และ ความพึงพอใจด้านการอานวยความ
สะดวก คิดเปน็ ร้อยละ 100.00 รองลงมาคอื ความพึงพอใจดา้ นเนื้อหา และ ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม คิดเป็นร้อยละ 96.66 ขั้นตอนการร่วมปรบั ปรุง (Act) เมือ่ คณะกรรมการฝา่ ยประเมินผลไดจ้ ัดทาสรุปผลการดาเนินงาน ปัญหา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะกลุ่มงาน ผ้รู ับผิดชอบไดน้ าสารสนเทศทไ่ี ด้ นาเสนอต่อผบู้ รหิ ารและเผยแพรใ่ ห้ผู้มีส่วนเกย่ี วข้องรับทราบและนาผลการทาเนนิ งานมาปรบั ปรุงพฒั นาการงานใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากยิ่งขน้ึ
บทท่ี 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ จากแบบประเมินความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารับการอบรม ด้านเนือ้ หา มคี วามพึงพอใจในการจดั กระบวนการเรยี นรูข้ องวิทยากร ทม่ี ีความคดิ สร้างสรรคส์ ามารถแนะนาและคิด รปู แบบตา่ งๆไดเ้ ปน็ อย่างดี สามารถชี้แจงแนะนาผเู้ รียนถึงรปู แบบ และวิธีการทาให้ผู้เรยี นได้ ด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม เปน็ สถานทที่ ีเ่ หมาะสมตอ่ การจดั กจิ กรรม มีความสะดวกในการเดินทางถงึ สถานที่จัดกจิ กรรม และ ระยะเวลาเหมาะสมต่อการจัดกจิ กรรม ด้านการบรหิ าร/วทิ ยากร พงึ พอใจกับความรคู้ วามสามารถของวทิ ยากร วทิ ยากรให้บรกิ ารด้วยความเตม็ ใจ มเี ทคนคิ เปน็ กันเองกับ ผู้เรยี น และ กระบวนการในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เหมาะสมกบั ผเู้ ขา้ รบั การอบรม ดา้ นการอานวยความสะดวก เปน็ สถานที่ทเ่ี หมาะสมต่อการจัดกจิ กรรม มคี วามสะดวกในการเดินทางถึงสถานท่ีจดั กิจกรรม และ ระยะเวลาเหมาะสมต่อการจัดกิจกรรม สรุปกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (รูปแบบช้ันเรียนวิชาชีพ) หลักสูตร การทาอาหารว่างต้านโควิด จานวน 35 ช่วั โมง วัตถปุ ระสงค์ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ ผล ผลการดาเนินงาน เป้าหมายการ หมาย วดั ผล เหตุ 1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมี ผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรม บรรลุ ความรู้ ความเข้าใจ -แบบสังเกต มีทกั ษะในการคดิ เกีย่ วกบั การทาอาหาร -แบบ วเิ คราะห์ การแสวงหา บรรลุ ไม่บรรลุ ว่างตา้ นโควดิ ประเมินผล ความรู้ การสอ่ื สารได้ดี การศกึ ษา ผูเ้ รียนมีทักษะ ในการคิด ต่อเนอื่ ง วิเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ √ การแสวงหาความรู้ ร้อยละ 80 2 เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี น -แบบสังเกต ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม ผ้เู รยี นรกั ท่จี ะเรียนรใู้ น
สามารถทาอาหารวา่ ง -แบบ สามารถนาความรู้ท่ไี ด้ รูปแบบท่หี ลากหลาย มี √ ต้านโควิด ได้ ประเมินผล ไปบอกเล่าให้ผอู้ ่นื ฟังได้ ความสุขกบั การเรียนรู้ √ การศกึ ษา และสามารถศึกษาหา และมโี อกาสไดเ้ รยี นรู้ 3. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมี ต่อเน่อื ง ความรนู้ อกหอ้ งเรยี น นอกห้องเรยี นอย่าง อาชีพหรอื อาชีพเสริม ดว้ ยตนเองได้ สร้างสรรค์ ร้อยละ 80 จากการทาอาหารว่าง - แบบ ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม ผู้เรียนสามารถนาความรู้ ต้านโควิดได้ สังเกต สามารถนาความรู้ไป ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ -แบบ ประยกุ ต์ใช้ใน ร้อยละ 80 ประเมินผล ชวี ติ ประจาวนั ได้ การศกึ ษา ต่อเนอ่ื ง ปญั หา/อุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะในการปฏบิ ตั ิงาน และแนวทางการแกไ้ ข เพื่อนาไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ คร้งั ตอ่ ไป ปัญหา/อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ
บรรณานกุ รม www.google.com Kotler (1999 อา้ งถึงใน ศริ ิวรรณ เสรรี ตั นแ์ ละศภุ รเสรรี ตั น์, 2541)
คาสง่ั ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยเขตพญาไท ที่ /2560 เร่ือง แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดาเนนิ งาน โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรยี นรู้ผู้พิการ …………………………………………… ตามที่ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยเขตพญาไท จะดาเนนิ การจัดโครงการ ทัศนศึกษาแหลง่ เรียนรผู้ ู้พิการทางสายตา ประจาภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ในวนั ท่ี 23 กรกฎาคม 2560 ณ ศนู ย์วิทยาศาสตรเ์ พือ่ การศึกษา ท้องฟา้ จาลอง กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผเู้ รยี นมีทักษะในการ คดิ วเิ คราะห์ คิดสร้างสรรค์ การแสวงหาความรู้ การส่ือสาร การตั้งคาถาม ให้ผเู้ รยี นมีความสามารถในการเรยี นรู้ รัก ที่จะเรียนรูใ้ นรูปแบบทหี่ ลากหลาย มคี วามสุขกับการเรียนรู้ และมีโอกาสได้เรียนร้นู อกห้องเรียนอย่างสร้างสรรค์ เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถนาความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ งานดงั กลา่ วบรรลุตาม วตั ถปุ ระสงค์และเป้าหมาย ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขตพญาไท จงึ แต่งต้งั บคุ ลากร รบั ผิดชอบ ดังต่อไปน้ี 1. คณะกรรมการอานวยการ ประกอบดว้ ย 1.1 นางสาวจานรรจา ขอบชติ ประธานกรรมการ 1.2 นางสาวมุกดา แข็งแรง กรรมการ 1.3 นายเอกชยั แสนตรี กรรมการและเลขานุการ มหี นา้ ท่ี ให้คาปรึกษา แนะนา ประสานงานและอานวยความสะดวกเพื่อการจัดโครงการฯดาเนิน ไปด้วยความเรียบร้อย 2. คณะกรรมการฝ่ายประสานงาน ประกอบด้วย 2.1 นายเอกชยั แสนตรี ประธานกรรมการ 2.2 นายอดิศักด์ิ ขจีวรกุล กรรมการ 2.3 นางสาวชอ่ แก้ว พวงไพวัลย์ กรรมการ 2.4 นางสาวจิราพร ศรีโกตะเพช็ ร กรรมการ 2.5 นางสาวจินตหรา จินดากลุ กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ท่ี ประสานงานกับฝ่ายตา่ งๆ เพื่อเตรียมความพร้อมตามขั้นตอนการดาเนินงาน 3. คณะกรรมการดาเนนิ งานจัดเตรียมเอกสาร ประกอบด้วย 3.1 นางสาววรี ์สดุ า แตงงาม ประธานกรรมการ
-2- 3.2 นางสาวจนิ ตหรา จนิ ดากลุ กรรมการ 3.3 นางสาวขจี หวานนรุ ักษ์ กรรมการ 3.4 นางสาวเสาวลักษณ์ แกว้ บุตร กรรมการ 3.5 นางสาวจิราพร ศรีโกตะเพ็ชร กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ที่ จัดทาเอกสารประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม บัญชลี งเวลาและอื่นๆ 4. คณะกรรมการการเงนิ และพัสดุ ประกอบด้วย 4.1 นายอดิศักด์ิ ขจวี รกุล ประธานกรรมการ 4.2 นางสาวจิราภรณ์ คาชุ่ม กรรมการ 4.3 นางสาวนฐั ธชิ า ชาญประไพ กรรมการ 4.4 นางสาวจินตหรา จนิ ดากลุ กรรมการและเลขานุการ มหี น้าท่ี จัดทาบญั ชีและบรหิ ารงบประมาณ จัดหาวสั ดุอุปกรณ์ท่ีใชร้ ะหว่างการจัดโครงการ 5. คณะกรรมการจัดเตรียมบันทึกภาพ/วดิ โี อ ประกอบด้วย 5.1 นางสาวจนิ ตหรา จินดากลุ ประธานกรรมการ 5.2 นางสาวสพุ ตั รา คาสาว กรรมการ 5.3 นางสาววรรษมน ละครไชย กรรมการ 5.4 นางสาวจริ าพร ศรโี กตะเพ็ชร กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ท่ี จดั เตรยี มส่ืออปุ กรณ์ เทคโนโลยีท่จี าเปน็ ตอ้ งใชใ้ นการจัดโครงการ และบนั ทึกภาพน่ิง 6. คณะกรรมการประเมินผลและรายงานผล ประกอบดว้ ย 6.1 นางสาววรี ส์ ดุ า แตงงาม ประธานกรรมการ 6.2 นางสาวชอ่ แก้ว พวงไพวลั ย์ กรรมการ 6.3 นางสาวจนิ ตหรา จนิ ดากลุ กรรมการ 6.4 นางสาวเสาวลักษณ์ แกว้ บุตร กรรมการ 6.4 นางสาวจิราพร ศรีโกตะเพ็ชร กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ท่ี รวบรวมข้อมูล จดั เตรียมเครื่องมือประเมนิ โครงการและสรุปผลโครงการฯเปน็ รูปเล่ม 7. คณะกรรมการฝ่ายนิเทศติดตามผล และวดั ผลประเมินผล ประกอบดว้ ย 7.1 นางสาวจานรรจา ขอบชติ ประธานกรรมการ 7.2 นายเอกชัย แสนตรี กรรมการ 7.3 นางสาวมุกดา แขง็ แรง กรรมการและเลขานุการ
มีหน้าท่ี นิเทศติดตามผลการดาเนนิ งาน พร้อมวดั ผลประเมนิ ผลแล้วนาผลการดาเนินงานมาพฒั นา ปรับปรงุ ดาเนนิ ตอ่ ในครง้ั ต่อไป -3- ให้คณะกรรมการท่ีได้รบั การแต่งตัง้ ปฏิบตั ิหนา้ ทีท่ ่ีได้รบั มอบหมายดว้ ยความตง้ั ใจเตม็ ศักยภาพ เพอื่ ให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายที่วางไว้ หากมีปัญหาอปุ สรรคในการปฏบิ ตั ิงานให้รายงานคณะกรรมการ อานวยการทราบ ทั้งนี้ ต้ังแตบ่ ดั นเ้ี ป็นตน้ ไป สง่ั ณ วนั ที่ 19 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2560 (นางสาวจานรรจา ขอบชิต) ผอู้ านวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั เขตพญาไท
ทปี่ รึกษา แข็งแรง ผอ.กศน.อาเภอภาชี นางสาวมกุ ดา สขุ ศรี ขา้ ราชการบานาญ ผู้รับผดิ ชอบโครงการ สขุ ประเสริฐ พนกั งานราชการ นายวุฒิพล ธรรมสโรช พนักงานราชการ นางลดั ดาวัลย์ จติ รโสภา พนักงานราชการ นางสาวป่นิ ทิพย์ หอมสุวรรณ์ พนักงานราชการ นางสาวเชาวรชั สามบิ ตั ร พนกั งานราชการ นางสาวนฤมล ตามเพิ่ม พนักงานราชการ นางสาวนนั ทฉตั ร วนสนิ ธ์ุ พนักงานราชการ นางดาธณิ ี ธรรมสโรช พนกั งานราชการ นายอคั รเดช ปานวงั ครูอาสาสมัครฯ นายปรีดา นายธนกร
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: