Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลม

ลม

Published by ohlunlabo, 2021-11-16 02:34:22

Description: รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่6

Search

Read the Text Version

รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ลมหนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง ปรากฏการณข์ องโลกและภัยธรรมชาติ ลมบก ลมทะเล ลมมรสุม ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นวดั บางนางเกรง ครผู สู้ อน นางสาวณจุ รี ผงประเสรฐิ สกลุ

ลมคืออะไร? ลม คอื มวลของอากาศทเ่ี กิดการเคล่ือนทตี่ ามแนวพืน้ ราบ อากาศที่มีอุณหภูมิสูง มวลอากาศจะขยายตัว ลอยตัวสูงข้ึน ส่วนอากาศบริเวณท่ีมีอุณหภูมิต่า มวล อากาศจะจมตวั ลง และเคลื่อนท่ีไปแทน หรือกล่าวได้ว่า อากาศที่เคล่ือนท่ีจากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงกว่า (อากาศเย็น) ไปยังบริเวณท่ีมีความกดอากาศต่ากว่า (อากาศรอ้ น)

ความกดอากาศสงู -ตา่ ความกดอากาศสงู ความกดอากาศต่า อุณหภูมิต่า อณุ หภูมิสูง

ชนิดของลม 1.ลมประจ่าปี (Prevailing Wind) เปน็ ลมทพ่ี ัดประจา่ ปี มี 3 ประเภท คอื ลมสนิ คา้ ลมฝา่ ยตะวันตก และลมขว้ั โลก 2.ลมประจา่ ฤดู (Seasonal Wind) ไดแ้ ก่ มรสมุ ฤดูรอ้ น และมรสุมฤดูหนาว 3.ลมประจ่าเวลา (Diurnal Wind) หรือ ลมเฉือ่ ย (Breeze) จะพดั ในช่วงเวลาหนึง่ ในรอบวนั ได้แก่ ลมภูเขาและลมหุบเขา กับลมบก ลมทะเล 4.ลมประจา่ ถน่ิ (Local Wind) เกดิ ในท้องถ่นิ ใดๆโดยเฉพาะ ลมว่าว ลมตะเภา ลมบา้ หมู ลมสลาตนั 5.ลมแปรปรวนหรอื ลมพายุ (Storm)



ลมทะเล เกดิ ขนึ้ ในเวลากลางวนั เพราะพน้ื ดินรบั ความร้อนได้เร็วกว่าพ้ืนนา่้ อากาศเหนอื พนื้ ดินมอี ณุ หภมู สิ งู กวา่ จึงลอยตัวสูง อากาศเหนอื พนื้ นา้่ มีอุณหภมู ติ า่ กว่าจงึ เคลือ่ นเขา้ มาแทนที่ ท่าใหเ้ กิดลมพดั จากทะเลเขา้ สฝู่ ่ัง เรียกวา่ ลมทะเล

ลมบก เกิดข้นึ ในเวลากลางคืน เพราะพนื้ ดนิ คายความรอ้ นไดเ้ ร็วกวา่ พื้นน้่า อากาศเหนอื พื้นน่้าซ่งึ มอี ณุ หภมู ิสงู กว่าจะลอยตัวสูง สว่ นอากาศเหนอื พ้ืนดินซึ่งมอี ณุ หภมู ิตา่ กวา่ จงึ เคลอื่ นท่เี ข้ามา แทนที่ ท่าให้เกดิ ลมพัดจากบกไปสทู่ ะเลชาวประมงจงึ ออก เรือหาปลาในเวลาน้ี



เพลง ลมบก ลมทะเล ลมบก ลมทะเล อากาศถา่ ยเทผลดั กนั ผลัดกนั ลมบก ลมทะเล อากาศถา่ ยเทผลดั กนั ผลัดกนั ลมทะเลพดั ตอนกลางวนั ลมทะเลพัดตอนกลางวนั สว่ นลมบกนนั้ พดั ตอนกลางคนื

ลมประจ่าถ่ิน - ลมว่าว เปน็ ลมเย็นท่ีพดั ลงมาตามแม่น่า้ เจ้าพระยาและเปน็ ลม ทพ่ี ดั น่าลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเรมิ่ พดั ในช่วงปลาย เดือนกนั ยายน – เดอื นตลุ าคม ชาวบา้ นเรียกวา่ \"ลมขา้ วเบา\" หรือ \"ลมโยกข้าวเบา\" สาเหตุที่เกิดลมว่าวขึ้น เพราะเกิดหยอ่ ม ความกดอากาศต่าขึน้ ใน อ่าว ไทย - ลมตะเภา เป็นลมเยน็ ทพ่ี ัดจากทะเลเขา้ สู่ชายฝ่ังในชว่ งเดือน มนี าคมและเดือนเมษายน ลมชนิดนจี้ ะทา่ ให้เกิดฝนตกในภาค กลาง เปน็ ฝนแบบฟา้ คะนอง สาเหตกุ ารเกดิ ลมตะเภา เนอ่ื งจาก เกดิ หยอ่ มความกดอากาศต่าปรากฏ ในแถบภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ชาวบ้านจงึ เรยี กลมนีว้ ่า \"ลมตะเภา\" หรือ \"ลมพทั ยา\" เพราะเปน็ ลมทพี่ ดั เด่นชัดมากในแถบชายฝัง่ แห่งน้ี

ลมประจ่าถ่ิน - ลมพทั ยา เป็นลมทพี่ ัดจากภาคตะวันออกเฉียงใตไ้ ปทางทิศ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ จะเริม่ พัดในต้นฤดูฝนราวเดอื นพฤษภาคม ลม ชนิดนี้เป็นลมร้อนและชมุ่ ชื้น - ลมตะโก้ เปน็ ลมทพ่ี ัดจากทศิ ตะวันออกเฉยี งใต้ จะเร่มิ พัดใน ตอนปลายฤดูฝนราวเดอื นตลุ าคม - ลมอตุ รา เป็นลมทพ่ี ัดจากทิศตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ไปยังทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ โดยจะเร่มิ พดั ในต้นฤดรู อ้ น ราว ๆ เดือนมนี าคม โดยจะพัดเป็นครั้งคราว ท่าใหเ้ กิดฝนตกฟา้ คะนอง อากาศ แปรปรวนหลายวัน

ลมมรสมุ ลมมรสุมเกดิ จากความแตกต่างของอณุ หภูมิ ระหว่างพนื้ ทวปี กบั พน้ื มหาสมุทร ซง่ึ เกิดเป็น บรเิ วณกว้างและมชี ว่ งเวลาในการเกิดนาน

ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ (ลมมรสมุ ฤดหู นาว ) - พดั จากประเทศจีนและไซบเี รียผ่านภาคเหนือ และภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมาจนถึง บรเิ วณอา่ วไทยตอนใต้ - พดั ผ่านไทยตั้งแตต่ น้ เดอื นพฤศจกิ ายนไป จนถึงกลางเดือนกุมภาพนั ธ์ - ขณะพดั ผา่ นประเทศไทยจะทา่ ใหอ้ ากาศมี ความหนาวเย็น

ลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้ (ลมมรสุมฤดรู อ้ น ) - พดั จากมหาสมทุ รอนิ เดยี ผา่ นอา่ วไทย ปะทะขอบ ฝ่ังตะวนั ออกของอา่ วไทย - พัดผ่านไทยตั้งแตก่ ลางเดอื นพฤษภาคมจนถงึ กลางเดอื นตลุ าคม - ขณะพัดผ่านประเทศไทยจะพัดพาไอน้่าจาก มหาสมทุ รมาด้วยจา่ นวนมาก ทา่ ใหม้ ฝี นตกชุก



อิทธิพลของมรสมุ สง่ ผลตอ่ สิง่ มีชวี ติ และส่ิงแวดล้อม ดงั นี้ 1. ทา่ ใหเ้ กิดฤดูของประเทศไทย 2. สง่ ผลตอ่ การออกดอกและติดผลของพชื บางชนิด 3. สง่ ผลใหบ้ างครัง้ อาจมีฝนตกหนักอยา่ งต่อเน่อื ง จงึ อาจเกดิ ภยั พบิ ัติ เช่น นา่้ ป่าไหลหลาก น้่าทว่ มฉบั พลนั 4. สง่ ผลให้ในฤดูหนาว ทางภาคเหนือเกดิ ทะเลหมอก ทา่ ให้เกดิ ความสวยงาม นักท่องเท่ียวเดินทางไปท่องเที่ยว

ลมภเู ขาและลมหุบเขา(Valley Breeze) - ลมภเู ขา (Mountain Breeze) หรือลมพดั ลงลาด เขา จะเป็นลมเฉอ่ื ยทพ่ี ัดตามแดนภูเขาในตอนกลางคนื เมื่ออากาศเยน็ ตัวอยา่ งรวดเรว็ ความกดอากาศบรเิ วณ พืน้ ท่ที ่ีสงู จะมมี ากกว่าเนอื่ งจากพ้ืนดนิ คายความร้อนได้ เร็วกวา่ อากาศบริเวณภเู ขาจะไหลลงมาสหู่ บุ เขาเกดิ เปน็ ลมภูเขาในเวลากลางคนื น่าเอาความเย็นมาส่หู ุบเขา

ลมภูเขาและลมหบุ เขา(Valley Breeze) - ลมหบุ เขา (Valley Breeze) เป็นลมทพ่ี ดั ในตอน กลางวนั และช่วยลดอุณหภมู ทิ ร่ี อ้ นอบอ้าว ลมหบุ เขาหรอื เรยี กอกี อย่างหนึง่ ว่า \"ลมพดั ขึน้ ลาดเขา“ซง่ึ บรเิ วณยอดเขา และลาดเขาจะได้รับความรอ้ นจากดวงอาทิตยม์ ากกวา่ ท่าให้ อากาศรอ้ นลอยตัวสงู ขึน้ และอากาศบริเวณหุบเขาท่ีเยน็ กว่า เกิดความกดอากาศสูง จะเคลอื่ นตัวเขา้ ไปแทนทอ่ี ากาศทรี่ อ้ น บริเวณลาดเขาและยอดเขา

เครอ่ื งมอื วดั กระแสลม เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการวดั กระแสลม มดี งั นี้ 1. ศรลม (Wind vane) คอื เคร่ืองมอื ที่ใชต้ รวจทศิ ทางลมมีลักษณะเป็นลกู ศรทม่ี หี างเปน็ แผน่ ใหญก่ ว่าหวั ลกู ศรมาก เมือ่ ลมพดั มา หางลูกศรจะถูกแรงลมปะทะ มากกวา่ หวั ลกู ศร ทา่ ใหห้ วั ลูกศรชไี้ ปในทศิ ทางลมทพ่ี ัดมา ทา่ ให้เรา ทราบทิศทางลมว่าพัดมาจากทางไหน

2. อะนิโมมเิ ตอรห์ รอื มาตรวดั ความเรว็ ลม (Anemometer) คือ เคร่ืองมือท่ีใช้วัดความเรว็ ลมประกอบด้วยถ้วยกลม ครง่ึ ซกี ท่าด้วยโลหะเบา 3 - 4 ใบ หันตามกนั ตดิ อยู่ ที่ปลายแกนหมุน ซง่ึ หมุนไดอ้ ิสระ เมือ่ ลมพดั มาปะทะ ถ้วย ถ้วยจะหมุนไปรอบแกน จา่ รอบที่หมนุ แสดงถึง ความเรว็ ลม หน่วยวัดมหี ลายอย่างเชน่ นอต ,ไมลท์ ะเล ต่อชว่ั โม,กโิ ลเมตรต่อชัว่ โมง,ไมลต์ ่อชั่วโมงเปน็ ตัน

3. แอโรเวน (Aerovane) คอื เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ทงั้ ตรวจทิศทางลมและวดั ความเรว็ ลมมลี กั ษณะรปู รา่ งคลา้ ยเคร่ืองบนิ ไม่ มีปีก ปลายดา้ นใบพัดจะช้ไี ปในทิศทางทล่ี ม พดั มา และการหมุนของใบพัดจะแสดง ความเรว็ ของลมซ่ึงเราสามารถอา่ นได้จาก หน้าปดั หรอื กราฟของเคร่ืองวัด

ประโยชนข์ องลม • ใช้ในการเดินทาง ซง่ึ เรือบางชนดิ เช่น เรอื ใบ เรือสา่ เภา ตอ้ งอาศยั แรงลมในการบงั คับทิศทาง หรือเพ่อื ใหส้ ามารถ เคลือ่ นท่ไี ปได้ • ใชใ้ นการผลติ กระแสไฟฟ้า ในบางประเทศท่ีมีกระแสพดั แรง อย่างสม่าเสมอ จะมกี ารน่าพลังงานลมมาใช้ในการผลติ กระแสไฟฟ้า • ใชใ้ นการเล่นกีฬา กฬี าบางประเภทตอ้ งใชแ้ รงลมในการเลน่ เชน่ ว่าว เรือใบ วนิ ด์เสริ ฟ์

ประโยชนข์ องลม • การเกดิ ลมจะช่วยใหเ้ กดิ การไหลเวียนของบรรยากาศ • การเกิดลมสนิ ค้า ซง่ึ เปน็ ลมประจา่ ฤดู จะช่วยในการ เดินเรอื สินค้าระหว่างประเทศตามภูมภิ าคต่างๆของ โลก • การเกิดลมประจ่าเวลา ลมบกทีพ่ ดั กลางคนื จะช่วยใน การออกเรือไปหาสัตว์ทะเล ส่วนลมทะเลท่พี ดั ในตอน กลางวันจะช่วยในการพดั เรือกลับเข้าฝ่งั และชว่ ยในการ กีฬาทางทะเลเช่น การเล่นวนิ เสริ ฟ์ ของนกั ทอ่ งเทยี่ ว ด้วย

ขอ้ ใดกล่าวถึง การเกิดลมไดถ้ ูกตอ้ ง 1. อากาศร้อนลอยตวั สูงข้ึน อากาศเยน็ ไหลเขา้ แทนที่ 2. อากาศร้อนลอยตวั ต่าลง อากาศเยน็ ไหลเขา้ แทนที่ 3. อากาศเยน็ ลอยตวั สูงข้ึน อากาศร้อนไหลเขา้ แทนท่ี 4. อากาศเยน็ ลอยตวั ต่าลง อากาศร้อนไหลเขา้ แทนที่

O NET ‘52ทิศทางการเคล่ือนที่ของอากาศ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 1. ความกดอากาศสูง ความกดอากาศต่า ความกด อากาศสูง ความกดอากาศต่า ความกด ความกดอากาศตา่ ความกด 2. ความกดอากาศสูง อุณหภูมอิ ากาศต่า อุณหภูมิ อากาศสูง อุณหภูมอิ ากาศต่า อุณหภูมิ อุณหภูมอิ ากาศต่า อุณหภูมิ 3. ความกดอากาศสูง อากาศสูง 4. อุณหภูมอิ ากาศสูง อากาศสูง 5. อุณหภูมอิ ากาศสูง อากาศสูง 6. อุณหภูมอิ ากาศสูง อากาศสูง










Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook