Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การแทนค่าข้อมูล ชนิดของข้อมูล และสัญญาณการสื่อสารข้อมูล

การแทนค่าข้อมูล ชนิดของข้อมูล และสัญญาณการสื่อสารข้อมูล

Description: การแทนค่าข้อมูล ชนิดของข้อมูล และสัญญาณการสื่อสารข้อมูล

Search

Read the Text Version

การแทนค่าข้อมูล ชนดิ ของข้อมูล และสญั ญาณการสอื่ สารข้อมูล การแทนคา่ ข้อมลู ข้อมูลทใ่ี ชใ้ นการสือ่ สารปจั จุบนั สามารถจาแนกได้ 5 ประเภท ดงั น้ี 1. ขอ้ ความหรือสายอักขระ (Text) 2. ตัวเลข (Number) 3. ภาพ (Image) 4. เสียง (Audio) 5. วดี ิทัศน์ (Video) ขอ้ มลู แตล่ ะประเภทจะถกู แทนค่าข้อมูลใหเ้ ปน็ รหสั ต่างๆ แล้วจึงแปลงให้เกิดเปน็ สญั ญาณทเ่ี หมาะสม เพอ่ื สง่ สชู่ อ่ งทางการสือ่ สาร ไปยังเครือ่ งรับขอ้ มลู ปลายทาง การแทนค่าขอ้ มูลน้นั มีหลากหลายวิธีตามมาตรฐาน ดงั น้ี 5.1.1 แอสกี (ASCII) แอสกี ชอ่ื เต็มคอื American Standard Code for Information Interchange การแทนตัวอักษรดว้ ยวิธีน้ีเป็นการแทน ตวั อักษร 1 ตวั อกั ษร ดว้ ยเลขฐานจานวน 7 บิต หรือกลา่ วได้ว่าตัวอักษร 1 ตัว จะแทนค่าด้วยบติ จานวน 7 บติ ดงั นั้น ใน กรณนี ีส้ ามารถแทนคา่ ตัวอกั ษรได้ 27 เท่ากบั 128 ตวั อักษร จะเห็นไดว้ า่ จานวนตวั อกั ษรที่สามารถแทนคา่ ไดม้ จี านวนนอ้ ย และ สามารถแทนค่าไดเ้ พยี งอกั ษรภาษาองั กฤษและอกั ขระบางตวั เท่านนั้ 5.1.2 แอสกขี ยาย (Extended ASCII) จากข้อจากัดในการแทนค่าตวั อักษรของแอสกที ี่มีจานวนตัวอักษรไดเ้ พียง 128 ตวั อกั ษร และความต้องการในการใช้ ตัวอักษรทีห่ ลากหลายมีจานวนมากขึ้นจงึ ไดม้ กี ารขยายจานวนบติ เพ่อื แทนค่าข้อมลู ได้มากขน้ึ จงึ ไดม้ กี ารขยายจานวนบิตเพ่ือแทน คา่ ข้อมูลไดม้ ากขน้ึ ตามความตอ้ งการเรยี กว่ารหสั แอสกขี ยาย การแทนค่าตัวอกั ษรด้วยรหสั นี้เป็นการขยายประสิทธภิ าพของการ แทนค่าตัวอักษรด้วยการใช้รหัสแอสกี 7 บิต ใหส้ ามารถแทนค่าไดม้ ากขึ้น โดยมกี ารเพมิ่ บิตขนึ้ อกี 1 บติ ในการแทนคา่ แตล่ ะ ตวั อกั ษรดังน้กี ล่าวไดว้ ่า 1 ตวั อักษร สามารถแทนด้วยบติ จานวน 8 บติ ซึง่ ทาให้สามารถแทนจานวนตวั อักษรไดท้ ั้งส้ิน 256 ตวั อักษร รหสั สลับเปลยี่ นเลขฐานสบิ เข้ารหสั เลขฐานสองแบบขยาย (Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) หรอื เอบ ซดี กิ (EBCDIC) ลักษณะของการแทนค่าตัวอักษรจะมีความคล้ายกับการแทนค่าด้วยระบบแอสกขี ยาย กล่าวคอื ความยาวของแต่ ละตัวอักษรจะแทนดว้ ยบติ ตัวขอ้ มูลจานวน 8 บิต โดยแตล่ ะตาแหน่งมีการกาหนดคา่ ของตวั อกั ษรภาษาอังกฤษและอกั ขระพิเศษ ไว้ชัดเจน 5.1.3 ยนู ิโคด (Unicode) แม้วา่ จะมกี ารขยายจานวนบติ ในการแทนคา่ ข้อมลู จาก 7 บติ เป็น 8 บิต แตร่ หัสแอสกีก็ไม่สามารถรองรับความ หลากหลายของตัวอกั ษรในโลกน้ไี ด้เน่อื งจากภาษาในโลกนีม้ ีหลากหลายภาษา และแต่ละภาษามีตัวอกั ษรของมนั เอง เชน่ ภาษาไทย ภาษาญีป่ ุ่น และภาษาจีน เปน็ ต้น ซึง่ รหสั แอสกีทีพ่ ัฒนาขน้ึ ไม่สามารถรองรับจานวนตัวอกั ษรของทกุ ภาษาไดเ้ พยี งพอ ดังน้ัน การแทนคา่ ขอ้ มลู จึงปรบั เปลยี่ นข้อมลู จาก 8 บติ ตอ่ 1 ตัวอักษร เปน็ จานวน 16 บติ ตอ่ 1 ตัวอกั ษร ทาให้สามารถ แทนตัวอักษรในโลกได้ทง้ั ส้นิ 216 หรอื 65,536 ตวั อักษร แตย่ นู ิโคดมกี ลไกในการแทนค่าข้อมลู ไดเ้ ป็นลา้ นตัวอกั ษรโดยไม่

ตอ้ งใชร้ หัสเพม่ิ เตมิ ซึง่ เพยี งพอท่ีจะรองรบั ความต้องการในการแทนคา่ ตวั อกั ษรตา่ งๆได้ ยูนโิ คดพัฒนาขนึ้ จากความร่วมมือของ กลมุ่ บรษิ ัททเ่ี รยี กว่า เดอะยูนโิ คดคอนซอเทยี ม (The Unicode Consortium) ซึ่งประกอบดว้ ยบริษทั ไอบเี อม็ ไมโครซอฟท์ แอปเปิล ซีร็อกซ์ ซนั คอมแพค โนเวล อะโดบี และเวริ ด์ เฟ็ค 5.2 ชนดิ ของข้อมลู ชนดิ ข้อมูลทเ่ี กดิ ในระบบส่อื สารไม่วา่ จะเปน็ ข้อมลู ภายใตร้ หัสแบบใดกต็ าม จะแบง่ เป็น 2 ประเภท คอื 1. ข้อมลู อนาล็อกหรือขอ้ มูลเชงิ อุปทาน 2. ขอ้ มูลดิจิตอลหรอื ขอ้ มลู เชงิ เลข ขอ้ มลู เหล่านีจ้ ะถกู สง่ จากแหลง่ ข้อมลู ต้นทางไปยงั ปลายทางจะต้องมีการแปลงเป็นสัญญาณขอ้ มลู ก่อนเพอื่ ส่งเข้าสู่ สอ่ื ขอ้ มูลทใ่ี ชใ้ นการนาสญั ญาณข้อมลู ประเภทต่างๆ 5.3 ความหมายของสัญญาณอนาลอ็ ก เมื่อขอ้ ความตา่ งๆถูกแปลงเป็นรหสั ข้อมลู แลว้ ก่อนการส่งข้อมลู สชู่ ่องทางการสอ่ื สารขอ้ มลู จะตอ้ งถกู แปลงใหเ้ ปน็ ขอ้ มูลสญั ญาณข้อมลู ทเี่ หมาะสมกบั ส่ือนาสญั ญาณ (เชน่ สายทองแดง หรือ วทิ ยาการ เส้นใยนาแสง) กอ่ นจึงสามารถส่ง สญั ญาณข้อมลู ไปบนส่อื เหลา่ นัน้ ได้ สญั ญาณข้อมลู สามารถจาแนกได้ 2 ประเภท คือ สัญญาณอนาล็อก (Analog Signal) หรอื เรยี กวา่ สญั ญาณอปุ มาน และสญั ญาณดิจิตอล (Digital Signal) ความหมายของคาว่า อนาลอ็ กมาจากคาเดิมวา่ Analogous แปลวา่ เหมอื นกบั เมอ่ื ประมาณ ความหมายโดยรวมจะหมายถึงความตอ่ เนื่อง ดังนั้นขอ้ มูลอนาลอ็ กจะหมายถึงขอ้ มลู ทต่ี อ่ เนือ่ ง เช่น ขอ้ มลู เสียงรอ้ งของนก ขอ้ มูล ความเร็วรถยนต์ เปน็ ต้น ทานองเดยี วกนั สัญญาณอนาลอ็ กจะหมายถึงสญั ญาณทม่ี คี วามตอ่ เนือ่ งทใ่ี ชแ้ ทนข้อมลู ท่ีมคี วามต่อเน่ือง เหล่านั้น รูปที่ 5.1 แสดงให้เห็นถงึ คลืน่ ตา่ งๆ 5.3.1 ลักษณะของสัญญาณอนาลอ็ ก สญั ญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณทมี่ ีความตอ่ เนื่องเปน็ ลกั ษณะของคล่ืน เชน่ สญั ญาณเสียงเปน็ รูปแบบหน่ึงของ สญั ญาณอนาล็อกที่รจู้ กั กนั เป็นอยา่ งดี โดยสญั ญาณเสยี งจะถกู แปลงให้เป็นคลืน่ ไฟฟา้ หรือคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ เพอ่ื ส่งไปบนสอ่ื เพื่อ การสอ่ื สารขอ้ มูล คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ก็เป็นอกี ประเภทหนงึ่ ของสญั ญาณอนาล็อก รูปที่ 5.1 ลกั ษณะของสญั ญาณอนาล็อก 5.3.2 คณุ สมบัติของสัญญาณอนาล็อก จากลักษณะของสญั ญาณอนาล็อกทีไ่ ดก้ ล่าวแล้วขา้ งต้น สามารถสรปุ ไดเ้ ปน็ คุณสมบตั ิพื้นฐานของสญั ญาณไดด้ ังนี้ 1. ความถ่ขี องสญั ญาณ คอื อัตราการเปลยี่ นแปลงท่ขี ึ้นกบั เวลา 2. การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ข้ึนในระยะเวลาสน้ั ๆของคลื่นสัญญาณแสดงว่า คลนื่ สญั ญาณมคี วามถสี่ งู 3. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึน้ ในระยะเวลานานๆของคลื่นสญั ญาณแสดงวา่ คลนื่ สญั ญาณมีความถตี่ ่า

4. หากสญั ญาณไมม่ ีการเปลย่ี นแปลงเลยในชว่ งเวลาหนึ่งๆกลา่ วว่า ความถขี่ องสัญญาณมีค่าเปน็ 0 5. หากสญั ญาณมกี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา กล่าววา่ ความถ่ีเปน็ อนันต์ 6. สญั ญาณอนาล็อกทมี่ คี ณุ สมบตั ทิ ีแ่ ตกต่างกนั สามารถนาสง่ ในช่วงสญั ญาณเดยี วกันได้ เรยี กวา่ การรวมคล่ืนสญั ญาณ 5.4 ความหมายของสัญญาณดจิ ติ อล สญั ญาณดิจติ อล (Digital Signal) เปน็ สัญญาณอีกรปู แบบหนึ่งทใ่ี ชส้ ่งข้อมูลไปบนสื่อ ทัง้ น้สี ญั ญาณดจิ ิตอลเปน็ สัญญาณท่สี รา้ งขึน้ จากเคร่อื งกาเนดิ สัญญาณหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ จอเทอรม์ ินอล หรอื อุปกรณอ์ นื่ ๆในระบบ เครอื ขา่ ย เป็นตน้ ลกั ษณะสญั ญาณทเี่ ป็นรปู แบบทีไ่ มม่ ีความต่อเนือ่ ง หรือกลา่ ววา่ กาลงั ไฟฟ้าที่สง่ นน้ั เป็นจงั หวะของการสง่ ทใี่ ช้ แทนไดด้ ว้ ยเลข 0 และ 1 ซึ่งใชเ้ ปน็ รหสั ขอ้ มุลในระบบการสื่อสารนนั่ เอง สัญญาณดิจติ อลมีลกั ษณะเปน็ กราฟสเี่ หลย่ี ม (Square Graph) เป็นสัญญาณแบบไม่ตอ่ เนอื่ งรูปแบบของสญั ญาณมี การเปลย่ี นแปลงแบบไมป่ ะติดปะตอ่ กล่าวคอื มบี างชว่ งที่ระดบั สญั ญาณเป็น 0 การเปลย่ี นแปลงข้อมลู ให้อยู่ในรูปของ สัญญาณดจิ ติ อลตอ้ งทาการแปลงขอ้ มลู ใหข้ ้อมลู เป็นแบบดิจิตอลก่อน นน่ั คอื ตอ้ งแปลงใหอ้ ยใู่ นรูปแบบเลขฐานสอง คอื 0 และ 1 แล้วทาการแปลงขอ้ มลู น้นั ให้เปน็ สัญญาณดจิ ิตอล ซึ่งสามารถแปลงไดห้ ลายรปู แบบ เช่น แบบ Unipolar แทนบิต 0 ด้วย ระดับสัญญาณท่เี ปน็ กลางและบิต 1 ดว้ ยระดบั สญั ญาณเปน็ บวก การสง่ สญั ญาณขอ้ มลู แบบดจิ ติ อลมคี ณุ ภาพดีกว่าแบบอนาล็อก เมือ่ ตอ้ งการส่งในระยะทางที่ไกลไปจะตอ้ งใชอ้ ปุ กรณท์ วนสัญญาณทเี่ รยี กวา่ รพี ีตเตอร์ (Repeater) ซ่งึ รพี ีตเตอร์จะทาการกรอง สญั ญาณรบกวนออกกอ่ นแล้วค่อยเพม่ิ ระดบั สญั ญาณ จากนั้นจงึ ส่งออกไป จะเหน็ ไดว้ ่าคุณภาพของสญั ญาณที่ส่งออกไปจะ ใกลเ้ คยี งของเดมิ ที่สง่ มา สญั ญาณดิจติ อลมหี นว่ ยวัดความเร็วเป็นบติ ต่อนาที หรอื bit per second (bps) หมายถึง จานวนบติ ทส่ี ่ง ได้ในช่วงเวลา 1 วนิ าที เช่น โมเด็มมคี วามเรว็ 56 kbps ควายความว่า โมเดม็ สามารถผลิตสญั ญาณดจิ ติ อลไดป้ ระมาณ 56,000 บติ ใน 1 วินาที สัญญาณแบบดจิ ิตอลประกอบขน้ึ จากระดับสญั ญาณเพยี ง 2 ค่า คอื สญั ญาณระดบั สูงสุดและสญั ญาณระดับตา่ สุด ดังน้ัน จะมีประสิทธิภาพและความนา่ เชอื่ ถือสูงกว่าแบบอนาล็อก เน่ืองจากมีการใชง้ านเพยี ง 2 คา่ เพ่ือนามาตีความหมายเปน็ On/Off หรือ 1/0 เท่านน้ั ซง่ึ สญั ญาณดิจติ อลน้ี จะเป็นสัญญาณท่ีคอมพวิ เตอร์ใชใ้ นการทางานและติดตอ่ สอื่ สารกนั ในทางปฏบิ ัติ จะสามารถใช้เครอ่ื งมือในการแปลงสัญญาณทั้งสองแบบได้ เพอ่ื ชว่ ยใหส้ ามารถส่งสัญญาณดิจิตอลผา่ นสญั ญาณพาหะทเ่ี ป็น อนาลอ็ ก เช่น สายโทรศพั ท์หรอื คลืน่ วิทยุ การแปลงสญั ญาณดจิ ติ อลเปน็ อนาล็อก เรยี กว่า โมดเู ลชน่ั (Modulation) เชน่ การ แปลงสัญญาณแบบ Amplitude Modulation (AM) และ Frequency Modulation ตัวอย่างของเคร่อื งมอื การแปลง เชน่ MODEM (Modulation Demodulation) นน่ั เอง รูปท่ี 5.2 ลกั ษณะของสญั ญาณดิจติ อล

5.5 สัญญาณรบกวนและขอ้ ผดิ พลาด สญั ญาณรบกวน (Noise) ท่ีเกดิ ขึ้นระหวา่ งการส่งขอ้ มูลมหี ลายรูปแบบ ดังน้นั การทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ความ แตกต่างและสาเหตุของการเกิดสญั ญาณรบกวนแต่ละรูปแบบจะชว่ ยให้การนาเทคนิคและการนาสัญญาณรบกวน (Noise Reduction) มาใชเ้ พอ่ื จากัดปรมิ าณของสญั ญาณรบกวนทจ่ี ะส่งไปยังผ้รู ับทาได้สะดวกขึน้ แต่ปญั หาเกยี่ วกับสญั ญาณรบกวนบางประเภทเปน็ ส่ิงที่ไมส่ ามารถหลกี เล่ียงได้ เชน่ สัญญาณรบกวนทเี่ กดิ จากการสง่ สญั ญาณขอ้ มูลด้วยกาลังสูง ซึ่งอาจทาให้เกดิ การผดิ พลาด (Error) ได้ ข้อผดิ พลาดท่ีเกิดขึ้นระหว่างการส่งข้อมลู เกดิ ข้นึ ไดห้ ลายสาเหตุ เช่น การส่งสัญญาณไฟฟ้าที่ไม่ตอ่ เน่อื ง ซ่ึงอาจเกิด จากไฟฟ้าดับ หรอื การใช้สายทองแดงแบบเกา่ ท่ถี กู รบกวนดว้ ยสญั ญาณตา่ งๆ ได้งา่ ยรวมทั้งในระบบดาวเทยี ม (Satelite) ไมโครเวฟ (Microwave) และวทิ ยุ (Radio) กส็ ามารถถูกรบกวนด้วยสญั ญาณต่างๆได้ แมแ้ ตก่ ารสง่ ขอ้ มลู ผา่ นใยแกว้ นาแสง (Fiber- Optic) ก็สามารถถกู รบกวนโดยสญั ญาณรบกวนในรปู แบบตา่ งๆ ไดเ้ ชน่ กนั ให้พิจารณารูปแบบของสญั ญาณรบกวนท่พี บได้ บอ่ ยคร้ังระหวา่ งการสง่ ข้อมลู ดังน้ี 5.5.1 White Noise White Noise (อาจเรยี กวา่ Thermal Noise หรอื Gaussian Noise) เปน็ สัญญาณรบกวนแบบตอ่ เนื่องท่ีมีลกั ษณะเปน็ คลน่ื เสยี ง ซ่งึ ทาใหส้ ัญญาณอนาล็อกหรอื ดจิ ิตอลมีสัญญาณไมช่ ดั เจน โดยอาจเกดิ ขึ้นโดยอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์หรอื สายส่งข้อมูล รวมท้งั อณุ หภมู ิของคลื่นสือ่ กลาง หากอุณหภูมเิ พม่ิ ขน้ึ จะทาใหอ้ ิเล็กตรอนในส่อื กลางมกี ารเคลื่อนทม่ี ากขน้ึ ระดบั ของสญั ญาณรบกวนจะ มากขึ้นตามไปด้วย 5.5.2 Impulse Noise Impulse Noise หรือ Noise spike เป็นสัญญาณรบกวนแบบไมต่ อ่ เนือ่ ง (Noncontinuos Noise) ที่เกดิ ขนึ้ ในระยะเวลาสั้นๆซึ่ง ยากต่อการตรวจสอบ สญั ญาณรบกวนแบบ Impulse Noise จะเกิดจากแรงดังของไฟฟา้ แรงสูงจากภายนอก เชน่ ฟา้ ผ่า ซึ่งส่งผลให้ กระแสไฟฟา้ ภายในทองแดงเปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ 5.5.3 Crosstalk

Crosstalk คือสัญญาณรบกวนทเ่ี กดิ จากการวางสายส่อื สารหลายๆสายไวด้ ว้ ยกนั ทาให้สญั ญาณจากสายสัญญาณตา่ งๆ รบกวนซง่ึ กนั และกนั นอกจากนก้ี ารใช้สายสือ่ สารทม่ี ีขนาดเลก็ เกนิ ไปหรอื การใช้สายสญั ญาณทมี่ ีระดบั ความแรงมากเกินไปจะทา ให้เกดิ ปัญหาได้ สาเหตสุ าคัญอีกประการที่ทาใหเ้ กดิ Crosstalk คือความชน้ื สมั พนั ธ์และอากาศทเ่ี ปียกชน้ื 5.5.4 Echo Echo คอื การสะท้อนของสัญญาณทส่ี ง่ ผา่ นสอ่ื กลาง คล้ายกบั การเปลง่ เสยี งภายในห้องวา่ งซง่ึ จะมเี สยี งสะท้อนกลบั มา โดยสญั ญาณทีอ่ ยภู่ ายในสายสง่ สามารถกระทบกับจดุ ปลายสายและย้อนกลบั มาโดยการสอดแทรกกับสญั ญาณตน้ ฉบบั ข้อผดิ พลาดทเี่ กิดขนึ้ บอ่ ยคร้ังกับจดุ เช่อื มต่อสายสัญญาณ 5.5.5 Jitter Jitter เกิดจากความผิดพลาดในเร่ืองของเวลาในขณะทส่ี ญั ญาณถกู สง่ จากอปุ กรณช์ น้ิ หนึ่งไปยงั อุปกรณอ์ นื่ ๆทาใหม้ กี าร ขยายขนาดของสญั ญาณดจิ ิตอลขึ้นในบริเวณทีเ่ ป็นชว่ งขึ้นลงของสญั ญาณดจิ ิตอล 5.5.6 Delay Distortion Delay Distortion เป็นการผดิ เพ้ียนทเี่ กดิ จากการเคลอื่ นทขี่ องสัญญาณขอ้ มูลทมี่ คี วามถต่ี า่ งกันด้วยความเร็วทีต่ ่างกัน ทา ใหส้ ญั ญาณทีส่ ่งย้อนมาทีหลงั ซอ้ นทบั กบั สัญญาณกอ่ นหน้า จนเกดิ การผสมรวมกนั ทาให้ข้อมลู ผิดพลาด สว่ นวธิ ีแก้ไขทาได้โดย ติดตงั้ อปุ กรณ์ Equalizer เพ่อื ปรบั ความเรว็ ในการเคลื่อนทข่ี องแตล่ ะความถ่ีใหเ้ ทา่ กนั 5.5.7 Attenuation Attenuation เกดิ จากสญั ญาณออ่ นกาลงั ลง ทาใหถ้ ูกรบกวนได้งา่ ย วิธแี ก้ไขปัญหาดงั กลา่ วทาได้โดยใชอ้ ปุ กรณ์ Amplifier หรือ Repeater เพื่อเพ่มิ กาลงั ให้กับสญั ญาณอนาลอ็ กหรือดิจิตอลตามลาดบั 5.6 แนวทางในการปอ้ งกันขอ้ มลู ผดิ พลาด สญั ญาณรบกวนและขอ้ ผิดพลาดทเ่ี กดิ ขนึ้ ระหวา่ งการสง่ ขอ้ มลู นัน้ มีหลายรปู แบบโดยผลกระทบทีไ่ ด้รบั จากสญั ญาณ รบกวนระหวา่ งการสง่ ขอ้ มลู คอื สถานีการส่งสัญญาณท่ีอตั ราการส่งขอ้ มลู ลดลง ทาให้อตั ราเรว็ ในการรับข้อมลู ของฝงั่ ผ้รู ับสงู กว่า

วิธแี กไ้ ขปัญหาจากสญั ญาณรบกวนทด่ี ที สี่ ุด คือ การป้องกนั ข้อผดิ พลาด (Error Prevention) กอ่ นที่จะเกดิ สญั ญาณรบกวนข้นึ โดย สามารถทาได้หลายวิธีดังนี้ 1. ตดิ ตง้ั สายสญั ญาณทม่ี ฉี นวนหมุ้ เพ่อื ลดสญั ญาณรบกวนทเ่ี กิดจากสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าหรอื Crosstalk 2. ใช้สายโทรศพั ทท์ ม่ี ีการกรองสญั ญาณรบกวนซ่ึงถกู จดั เตรยี มโดยผู้ให้บรกิ ารโทรศพั ท์ เชน่ สายคูเ่ ช่า (Leased Line) ซง่ึ มีการ กรองใหส้ ญั ญาณมีระดบั คงที่ และอตั ราการเกดิ ข้อผดิ พลาดตา่ 3. เปลย่ี นมาใช้อุปกรณท์ ม่ี เี ทคโนโลยใี หมๆ่ แมว้ า่ อปุ กรณเ์ หล่านี้จะมรี าคาแพง แต่สามารถลดขอ้ ผิดพลาดต่างๆได้เป็นอยา่ งดี 4. ติดตงั้ อุปกรณ์ทวนสญั ญาณ เชน่ รพี ตี เตอร์ (Repeater) สาหรับเพมิ่ สัญญาณดจิ ติ อลหรอื แอมพลิไฟเออร์ (Amplifier) เพอื่ เพิ่ม สัญญาณอนาลอ็ ก เป็นต้น 5. ตรวจสอบคณุ สมบัติส่ือกลางทน่ี ามาใชง้ าน เชน่ สาย CAT5e สามารถสง่ ขอ้ มูลไดไ้ มเ่ กนิ 100 เมตร หากนาสาย CAT5e มา ใชส้ ง่ ขอ้ มลู ทมี่ รี ะยะทางมากกวา่ 100 เมตร อาจทาใหส้ ญั ญาณขาดหาย ดังนน้ั จะตอ้ งตดิ ตงั้ รพี ีตเตอรเ์ พื่อทวนสญั ญาณดว้ ย