Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คัมภีร์ตักกะศิลา

คัมภีร์ตักกะศิลา

Published by bhurichaya, 2018-06-12 00:01:37

Description: คัมภีร์ตักกะศิลา นะจ๊ะ

Search

Read the Text Version

คมั ภรี ์ตกั กะศิลา นางสาวนวพร พิมรัตน์

1.ไข้พิษ เนื้อหา2.ไข้กาฬไข้รากสาด 9 ชนิด3. ไข้กาฬแทรกไข้พิษ 8. ไข้คดไข้แหงน 9. กาฬแทรกไข้พษิ 3.1 ไข้ประดง 8 ชนิด 10. ไข้กาฬ(ต่อ)4. ไข้กาฬ 11. ไข้หวัด5. ฝี กาฬ เกดิ ในไข้พิษ 12. ไข้กาเดา6. ไข้กาฬ 13. ไข้ 3 ฤดู 6.1 ไข้กระโดง7. ไข้ช่องสมทุ ร

ความเป็ นมา❖ เมอื งตกั กะศลิ าเกิดหา่ ลง❖ ฤๅษีแต่งคมั ภรี ์ตกั กะศลิ า❖ ก่อนรกั ษาตอ้ งป้นั รูปพระดาบสไวบ้ ชู า และทอ่ งคาถาเพ่ือป้องกนั อนั ตรายเกิดกบั หมอ❖ ขอ้ หา้ มสาหรบั ไขเ้ หนือไขพ้ ิษ 1.หา้ มวางยารส รอ้ น เผด็ เปร้ียว 2.หา้ มประคบ และนวด 3.หา้ มปลอ่ ยปลิง 4.หา้ มกอกเอาโลหิตออก 5. หา้ มถูกน้ามนั 6. หา้ มถูกเหลา้ 7. หา้ มอาบน้ารอ้ นหา้ มกินน้าร้อน 8. หา้ มกินสม้ มคี วนั มผี ิวกะทนิ ้ามนั❖ การรักษาตอ้ งเร่งจา่ ยยากระทงุ้ ใหไ้ ขน้ ้นั ออกใหห้ มด

นยิ าม ไข้พิษ: เกดิ เป็ นไขภ้ ายใน เช่นตวั ร้อนจดั ไข้กาฬ:มลี กั ษณะอาการปรากฏท้งั ภายใน(สงั เกตจากลกั ษณะของอาการป่ วยเช่น ไข้ พษิ ตวั ร้อนจดั ) และภายนอก( เชน่ ฝี เมด็ ผน่ื ) ไข้เหนือ : อาจไม่มีไข้แตจ่ ะพบอาการแสดงภายนอก

ไข้พษิ1.ไขอ้ ดี า :มลี กั ษณะตุ่มท่เี กิดข้นึ เป็ นแผน่ เทา่ ใบเทียนเกดิ ข้ึนทวั่ ร่างกาย มีสีดา2.ไขอ้ ีแดง:มีลกั ษณะตุม่ ท่ีเกดิ ข้ึนเป็นแผน่ เทา่ ใบเทียน เกดิ ข้ึนทว่ั ร่างกาย มีสีแดง อาการ (ไขอ้ ดี าและไขอ้ แี ดง)>> สัมผสั เทา้ เยน็ มือเยน็ ตวั รอ้ น ตาแดง ปวดศรี ษะ แต่ไขอ้ ี แดงจะมีอาการเบากวา่ ไขอ้ ดี า

แผนปัจจบุ นั กม็ ไี ข้อดี าอแี ดง เกิดจากเช้อื แบคทีเรีย ผน่ื ข้ึนภายใน 24-48 ชวั่ โมงหลงั เร่ิมมไี ข้ ข้ึนบริเวณรอบคอ แลว้ กระจายไปทวั่ ตวั และ แขนขา ลกั ษณะของผน่ื เป็ นเม็ดหยาบๆคลา้ ยกบั กระดาษทราย ลกั ษณะของผนื่ เป็ นตุม่ เลก็ ๆ มองคลา้ ยหนงั ห่าน ผน่ื มกั ไมข่ ้นึ ท่ใี บหนา้ แต่อาจพบลกั ษณะแกม้ แดง และรอบ ปากซดี และทขี่ อ้ พบั ต่างๆ เช่น ขอ้ ศอก รักแร้ หรือขาหนีบตรงรอยขอ้ พบั จะดมู ีสีเขม้ มากข้นึ กวา่ สีผวิ ในบริเวณอื่นๆ ผน่ื จะข้นึ อยู่ 3-4 วนั หลงั จากน้นั จงึ เร่ิมลอกเป็ นขยุ หรือเป็ นแผน่ คออกั เสบ ปลายลิ้นจะนูนแดง เม่อื ผวิ ลอกแลว้ มกั เห็นวา่ ท่ีล้นิ ตรงปลายเป็ นลกั ษณะ คลา้ ยผวิ ของสตรอเบอร์รี่ (Strawberry tongue)

ยารับประทานแก้วห้าดวง สรรพคณุ ตารับยา กระทงุ้ พษิ ไข้ แกไ้ ขท้ กุ ชนิด ถอนพษิ ผดิ สาแดง แกร้ ้อนในกระหายน้า วธิ ใี ช้ รับประทาน 3 ม้อื กอ่ นอาหาร หรือทุก 4 ชว่ั โมง น้ากระสายยา น้าซาวขา้ วและน้าดอกมะลิ มรี สเยน็ มีสรรพคณุ ถอนพษิ สาแดง แกพ้ ษิ รอ้ น ภายใน ถา้ ใชเ้ ป็ นน้ากระสายยามกั ใชก้ บั ยาแกไ้ ข้เพราะชว่ ยเสริมฤทธ์ลิ ดไขข้ องยา ผลขา้ งเคียง 1.ไม่ควรใชก้ บั คนทเ่ี ป็ นโรคทางเสมหะ เชน่ ตวั เยน็ มอื เทา้ เยน็ เบาหวานไม่ควร รบั ประทานยาตดิ ต่อกนั นานเกินไปเพราะเป็ นยาเยน็ 2. อาจทาใหผ้ ปู้ ่ วยมีอาการหนาวสะทา้ นได้

ยาประสะกระทุ้งผวิ ภายนอก ตารับที่ 1 ใบยา่ นาง รสขม ถอนพษิ แกไ้ ข้ แกไ้ ขฝ้ ีดาษไขต้ า ใบมะขาม แดง แกไ้ ขด้ าแดง แกไ้ ขร้ ากสาด ดนิ ประสิว น้าซาวขา้ ว รสเปร้ียวฝาด ขบั เสมหะในลาไส้ ฟอกโลหิต ขบั ลมในลาไส้ แกบ้ ดิ แกไ้ อ รสเคม็ ปร่าเยน็ ถอนพษิ แกค้ นั ตามผวิ หนงั ขบั ปัสสาวะ แกโ้ รคผิวหนงั รสเยน็ ถอนพษิ สาแดง แกพ้ ษิ รอ้ นภายในวิธีใช้ พน่

ยาประสะกระท้งุ ผวิ ภายนอก ตารับที่ 2 เถายา่ นางท้งั ใบท้งั ราก รสขม ถอนพษิ ผิดสาแดง แกไ้ ข้ ตวั รอ้ น แกไ้ ขพ้ ษิ ไขก้ ลบั ไขซ้ ้า รากมลู กาแดงท้งั ใบท้งั ราก รสขม แกไ้ ข้ ดบั พษิ ไข้ แกป้ วดศรี ษะ ดนิ ประสิว รสเคม็ ปร่าเยน็ ถอนพษิ แกค้ นั ตามผิวหนงั ขบั ปัสสาวะ แกโ้ รคผวิ หนงั น้าซาวขา้ ว รสเย็น ถอนพษิ สำแดง แก้พษิ ร้อนภำยในวิธใี ช้ ท้งั กินท้งั พน่

ยาประสะกระทุ้งผวิ ภายนอก ตารับที่ 3 ใบทองหลางใบมน รสมนั เยน็ ดบั พษิ ไข้ ใบแก่ รมควนั ชุบน้าสุรา ปิดแผล เน้ือรา้ ยทีก่ ดั กนิ ลามบวนดงั จะแตก ชว่ ยดูด เปลือกทองหลางใบมน หนองใหย้ บุ แหง้ หายดี ขา้ วสาร ดนิ ประสิว รสเฝื่อนขม แกเ้ สมหะ แกล้ มท้งั ปวง แกด้ ีพกิ าร ตดั ไข้ รสหวานเยน็ ถอนพษิ สาแดง แกพ้ ษิ รอ้ นภายในวิธใี ช้ ท้งั กนิ ท้งั พน่ รสเค็มปร่าเยน็ ถอนพษิ แกค้ นั ตามผิวหนงั ขบั ปัสสาวะ แกโ้ รคผวิ หนงั

 สรรพคุณตำรับยำ ถอนพิษ แก้ไข้ดำแดง แก้คนั ตำมผวิ หนงั ขบั ปัสสำวะ แก้โรค ผิวหนงั ทำให้เส้นเอ็นหยอ่ น บำรุงโลหติ บำรุงธำตุ ผลข้ำงเคยี งไมค่ วรใช้กบั คนที่มีอำกำรแพ้สมนุ ไพร เชน่ ดินประสิวไมค่ วรใช้ยำเป็น เวลำนำนหำกอำกำรไมด่ ีขนึ ้ หมำยเหต:ุ เนอื่ งจำกเป็นยำรสเย็นมำก จะมีอำกำรข้ำงเคยี งได้ เช่น ตวั เย็น ซดี เลือดไปเลยี ้ งร่ำงกำยได้ไมด่ ี ช็อกหนำวงำ่ ย

3.ไขป้ านดา:ลกั ษณะของต่มุ ทเี่ กดิ ข้ึนเทา่ วงสะบา้ มอญหรือใบพทุ รา มสี ีดา4.ไขป้ านแดง: ลกั ษณะของตุ่มทเ่ี กิดข้นึ ผดุ ข้นึ มาเทา่ วงสะบา้ มอญ หรือใบพทุ รา มีสีแดงอาการ (ไขป้ านดาและไขป้ านแดง) >> ตวั ร้อน ปวดศรี ษะ ตาแดง เชอ่ื มซึมแต่ไขป้ านแดงจะ มอี าการเบากวา่ ไขป้ านดา



5. ไขม้ หาเมฆ:ลกั ษณะของตมุ่ ที่เกดิ ข้ึนมาท่ีผวิ หนงั ยงั เกิดข้นึ ไมห่ มด มีขนาดเท่าผลจงิ จอ้ สุก เป็ นเงาอยใู่ ตผ้ ิวหนงั เกดิ ข้นึ ทว่ั ร่างกายมีสีเหมอื นเมฆ6.ไขม้ หานิล:ลกั ษณะของต่มุ ทเ่ี กิดข้ึนมาท่ีผวิ หนงั ยงั เกิดข้นึ ไมห่ มดมขี นาดเท่าผลจงิ จอ้ สุก (10-25 มิลลิเมตร)เกดิ ข้นึ ทว่ั ร่างกาย มีสีดาดงั เมฆนิล อาการ (ไขม้ หาเมฆและไขม้ หานลิ )>>เซอ่ื งซึมลิ้นกระดา้ งคางแขง็ หอบสะอึก ปากแหง้ ควบคุมปัสสาวะ และอจุ จาระไมไ่ ดห้ มดสติ

7. ไขด้ านหิน:ลกั ษณะของต่มุ ท่ีเกดิ ข้นึ เป็นวงสีเขยี ว เหมือนผลหวา้ หรืออาจมสี ีคราม สี ผลตาลงึ สุก หรือมีสีหมึก เกิดข้นึ ทีบ่ ริเวณตน้ ขาท้งั สองขา้ ง อาการ>>ตวั เยน็ รอ้ นภายในร่างกายลิ้นกระดา้ งคางแขง็ ปากแหง้ คอแหง้ เซ่ือมซมึ

8.ไขก้ ระดานหิน:ลกั ษณะของต่มุ ทีเ่ กดิ ข้นึ ทว่ั ร่างกายเหมอื นลมพษิ มสี ีแดงเหมือนผลตาลึงสุกเป็ นเม็ดๆเหมือนผด แลว้ กลายเป็ นสีดา ทาใหต้ ดิ ผวิ หนงั และมอี าการคนัอาการ>>สะบดั ร้อน สะบดั หนาว ปวดศีรษะมาก ตาแดงเหมอื นสีเลอื ดเทา้ มอื เย็น ทาใหเ้ จบ็ ตามผิวหนงั และในกระดูก ลิน้ กระดา้ งคางแขง็ หอบสะอึก

9.ไขร้ ะบุชาด:ลกั ษณะของตุ่มทีเ่ กดิ ข้ึนเป็นเมลด็ ขนาดเทา่ เมลด็ งา ข้นึ เป็ นกลมุ่ ๆมีสีดงั สี ชาด ข้นึ ทว่ั ร่างกาย อาการ>> เชื่อมมวั รอ้ นในกระหายน้า หอบสะอึก กระทาพษิ ตา่ งๆ

10.ไขส้ ายฟ้าฟาด:ลกั ษณะของตมุ่ ทเี่ กดิ ข้นึ เป็นร้ิวลงมาตามตวั 1-2นิว้ ตุ่มท่เี กดิ ข้ึนท้งั ดา้ นหนา้ -ดา้ นหลงั มสี ีแดง เขียวเหมอื นสีคราม หรือเหมอื นสีผลหวา้ สุก หรือสีดนิ หมอ้ อาการ>>ร้อนเป็ นเปลวไฟทว่ั ร่างกายเซื่องซมึ ไมม่ สี ติ ถา้ อาการข้ึนสมองอาจเป็ น อมั พาตได้

11. ไขเ้ ปลวไฟฟ้า:มลี กั ษณะร่างกายร้อนเป็ นเปลว หนา้ อกมีสีดา จมกู ดา หน้าดา สีเป็ น ควนั อาการ>>ปากแหง้ ลนิ้ แหง้ ล้นิ ดา หมดสติ

12. ไขไ้ ฟเดือนหา้ :ลกั ษณะของตุ่มท่เี กดิ ข้ึนที่อกและมีอาการรอ้ นมสี ีดา หรือสีแดง เหมอื นสี เปลวไฟ อาการ>>ร้อนในกระหายน้า เซ่อื งซึม ลิน้ กระดา้ งคางแขง็ หมดสติ

13.ไขข้ า้ วไหมน้ อ้ ย:ลกั ษณะของตุ่มท่เี กดิ ข้นึ มาเหมือนมดกดั มียอดแหลมขาวๆ ข้ึนเป็ น แผน่ ทว่ั ร่างกาย14.ไขข้ า้ วไหมใ้ หญ่ :ลกั ษณะของต่มุ ท่เี กิดข้ึนเหมอื นมดกดั มยี อดแหลมขาวๆ อาการ>> สะบดั รอ้ นสะบดั หนาว ปวดศีรษะมาก ตาแดง มือเทา้ เยน็ เจ็บตามผิวหนงั และในกระดูก ลิน้ กระดา้ ง คางแข็ง ไขข้ า้ วไหมใ้ หญม่ พี ษิ แรงกวา่ ไขข้ า้ วไหมน้ อ้ ย

15.ไขส้ ังวาลยพ์ ระอินทร์ :ลกั ษณะของตุ่มที่เกดิ ข้นึ เป็ นเมด็ แดงๆเป็ นแถวๆ ผหู้ ญิงจะ ข้นึ ทางซา้ ย ผูช้ ายจะข้ึนทางขวา อาการ>> เป็ นพษิ ใหห้ อบ และสะอึก ใหส้ ะบดั รอ้ น สะบดั หนาว(เทียบเคียงโรคเริม)

16.ไขข้ า้ วไหมใ้ บเกรียม:ลกั ษณะของตมุ่ ทเ่ี กดิ ข้นึ ทวั่ ร่างกายทาใหป้ วดตามผวิ หนงั และ ในกระดูก ตมุ่ ทีเ่ กิดข้ึนเหมอื นลมพษิ มสี ีแดงเหมอื นผลตาลึงสุก ข้นึ เป็ นแผน่ ทว่ั ร่างกายแลว้ เป็ นเมด็ เลก็ ๆเหมือนมดกดั แลว้ กลายเป็ นเมด็ สีดา ถา้ รักษาคลายพษิ แลว้ ผวิ หนงั จะมลี กั ษณะข้ึนเป็ นริ้วแลว้ กลายเป็ นสีดา แต่ถา้ ผิวหนงั มลี กั ษณะเป็ นหนงั เหมอื นแรด จะอยไู่ ด้ 6 เดือน จงึ จะเสียชีวติ อาการ>> สะบดั รอ้ นสะบดั หนาว ปวดศรี ษะมาก ตาแดง ตวั รอ้ นมือเทา้ เยน็ ล้ิน กระดา้ ง คางแข็ง หอบสะอกึ (คลา้ ยประดง)

17.ไขด้ าวเรือง :ลกั ษณะของตมุ่ ทเี่ กดิ ข้นึ เหมอื นลายโคมคร่ึงลูก อาการ>> มอื เทา้ เยน็ ตวั ร้อน ตาแดง ปวดศีรษะมาก อาเจยี น หอบสะอกึ ลิน้ กระดา้ ง คางแข็ง หมดสติ

18.ไขห้ งส์ระทด :ไมม่ ีต่มุ ข้นึ ตามผวิ หนงั แตผ่ วิ หนงั จะมลี กั ษณะไมเ้ กรียมไปทวั่ ร่างกาย อาการ>> ตวั ร้อน มอื เทา้ เยน็ เซื่อมซมึ หอบสะอกึ ตวั แขง็ เหมือนท่อนไม้ ล้ินกระดา้ ง คางแข็ง อาการจะเกดิ ข้ึนไมเ่ ป็ นเวลา ไมม่ ีสติ

19.ไขจ้ นั ทรสูตร :เป็ นตอนกลางคืน20.ไขส้ ุริยสูตร :เป็ นตอนกลางวนั21.ไขเ้ มฆสูตร :จะเกดิ ข้นึ ไมเ่ ป็ นเวลา แตจ่ ะเกดิ ไขเ้ มอ่ื เกดิ พายุฟ้าฝน คะนอง อาการ (ไขจ้ นั ทรสูตร ไขส้ ุริยสูตร และไขเ้ มฆสูตร) >> มีอาการตวั ร้อนเป็ นเปลว เทา้ เยน็ มอื เยน็ ใหเ้ ซ่อื มมวั ไม่มีสติ หอบสะอึก ตวั แข็งเหมอื นท่อนไม้ลิน้ กระดา้ ง คางแขง็ อาการเกิดข้ึนไม่เป็ นเวลา

ไข้กาฬ2.1 ไข้รากสาด อาการ>>มือเทา้ เยน็ ตวั ร้อน ปวดศีรษะ ตาแดง ชกั ลิ้นกระดา้ ง คางแข็ง ซ่ึงอาการ ของไขร้ ากสาดมีความเหมือนกนั แตจ่ ะมคี วามตา่ งกนั ในลกั ษณะของเมด็ ตมุ่ ที่เกดิ ข้นึ ซ่งึ แบ่งออกได้เป็ น 9 ลกั ษณะ ดงั น้ี

1.ไขร้ ากสาดปานดา :ต่มุ ทเี่ กิดข้ึนเท่างบน้าออ้ ย เหมือนนิล ลิ้นดา ทว่ั ท้งั ตวั2.ไขร้ ากสาดปานแดง: ตุ่มทเ่ี กิดข้ึนเป็ นกลมุ่ ๆ คลา้ ยเมลด็ ถวั่ เลก็ ๆ มสี ีแดงเกิดข้ึนทว่ั ร่างกาย3.ไขร้ ากสาดปานเขียว : ตมุ่ ท่ีเกดิ ข้ึนเป็ นกลุ่มมีสีเขียวออกคราม ลิน้ เขียว เกิดข้นึ ทว่ั ร่างกาย4..ไขร้ ากสาดปานเหลอื ง : มีลกั ษณะผวิ เหลอื ง ลนิ้ เหลอื ง5.ไขร้ ากสาดปานขาว : ตุ่มทเี่ กดิ ข้ึนเทา่ ผลพทุ รา มสี ีขาวเหมือนน้าขา้ วเชด็ เกดิ ข้นึ ทว่ั ร่างกาย6.ไขร้ ากสาดปานมว่ ง : ตุม่ ทีเ่ กดิ ข้ึนมสี ีเหมอื นผลปรังสุก(สีมว่ งคล้า)7.ไขร้ ากสาดนางแยม้ : ตุ่มท่ีเกดิ ข้ึนเป็ นเมด็ เลก็ ๆ เหมือนดอกนางแยม้ เกิดข้ึนทว่ั ร่างกาย8.ไขร้ ากสาดพนนั เมือง:ตุ่มทีเ่ กิดข้นึ เป็ นกลมุ่ เป็ นร้ิว เหมือนตวั ปลิง มีสีดาเหมอื นดินหมอ้ เกิดข้ึนทว่ั ร่างกาย9.ไขร้ ากสาดสามสหาย : ตุ่มทเี่ กิดข้ึนเป็ นเมด็ เล็กๆ เหมอื นเทา้ สุนขั มสี ีแดง เกิดข้นึ ทว่ั ร่างกาย



ไข้กาฬแทรกไข้พษิไข้ประดงอาการ>> มอื เทา้ เยน็ ตวั ร้อนเป็นเปลว ร้อนในกระหายน้า หอบสะอึก เมอ่ื ยในกระดูก ปวดเสียวไปทว่ั ร่างกาย จงึ ทาใหเ้ ชือ่ มมวั ปวดศีรษะ ปากขม ล้นิ แหง้ มีอาการเพอ้ ประกอบไปดว้ ย 8 ลกั ษณะ ดงั น้ี

1.ไขป้ ระดงมด : ลกั ษณะของตมุ่ ท่เี กิดข้นึ เหมอื นยงุ กดั เกิดข้นึ ทว่ั ท้งั ร่างกาย ใหค้ นั ทาพษิ สง ใหแ้ สบรอ้ น2.ไขป้ ระดงแมว : ลกั ษณะของตุ่มที่เกดิ ข้นึ เหมือนตาปลา กระทาใหป้ วดแสบปวดรอ้ น3.ไขป้ ระดงววั : ลกั ษณะของตมุ่ ทีเ่ กดิ ข้นึ เหมือนผลมะยมสุก กระทาใหป้ วดแสบปวดรอ้ น4.ไขป้ ระดงควาย : ลกั ษณะของตุ่มทเี่ กดิ ข้นึ เหมอื นเงาหนอง กระทาใหป้ วดแสบปวดร้อน5.ไขป้ ระดงชา้ ง : ลกั ษณะของตมุ่ ท่ีเกดิ ข้ึนเหมือนผิวมะกรูดกระทาใหป้ วดแสบปวดรอ้ น6.ไขป้ ระดงแรด : ลกั ษณะของตุ่มท่ีเกดิ ข้นึ เหมอื นหนงั แรด มีผวิ คล้าดาเป็นเกลด็ เหมอื นหนงั แรด กระทาใหป้ วดแสบปวดร้อน7.ไขป้ ระดงลิง : กระทาใหป้ วดแสบปวดร้อน8ไขป้ ระดงไฟ : ลกั ษณะของต่มุ ทเ่ี กดิ ข้ึนเหมอื นไขร้ ะบุชาดคอื ลกั ษณะตมุ่ ทเี่ กดิ ข้ึนเป็ น เมด็ แดง ยอดดา สะทา้ นร้อนสะทา้ นหนาว เช่ือมมวั ทาใหก้ ระหายน้ามาก

ไข้กาฬ1.ไขป้ ระกายดาษ:ลกั ษณะของต่มุ ทเ่ี กดิ ข้นึ เหมอื นเมด็ ฝีดาษ เกดิ ข้ึนทวั่ ร่างกาย จงึ เกดิ พษิ ทาใหใ้ หห้ มดสตไิ ด้2.ไขป้ ระกายเพลงิ : ลกั ษณะของตุม่ ท่ีเกดิ ข้นึ เหมอื นไขป้ ระกายดาษ แตต่ ุ่มเม็ดทีเ่ กดิ ข้ึนต่างกนั ทข่ี นาดซ่งึ ไขป้ ระกายเพลงิ จะมขี นาดเมด็ ใหญ่เทา่ เมล็ดเทียนเทา่ เมด็ ทรายเกดิ ข้ึนทว่ัร่างกาย รอ้ นเป็ นไฟ หวั น้นั ร้อนดงั ไฟลวกอาการ>> ไขจ้ บั สะทา้ นรอ้ นสะทา้ นหนาว ใหจ้ บั เทา้ เยน็ มอื เยน็ ใหป้ วดศรี ษะ ใหต้ าแดงดงัสายโลหติ ใหเ้ ชื่อมมวั ปวดกระดูกใหป้ วดในเน้ือ ลิ้นกระดา้ งคางแขง็ หอบสะอึก

3.ไขอ้ อกหดั ออกเหอื ด :ใหจ้ บั สะทา้ นร้อนสะทา้ นหนาว ใหเ้ ช่ือมมวั ใหป้ วดศีรษะ1-2 วนั ผดุ ข้นึ เป็ นลกั ษณะเป็ นเม็ดทรายทว่ั ร่างกายมยี อดแหลม ถา้ หลบลงทอ้ งใหล้ ง4.ไขเ้ ริมน้าคา้ งเริมน้าขา้ ว : ใหจ้ บั สะทา้ นรอ้ นสะทา้ นหนาว เช่อื มมวั ปวดศรี ษะ ผดุ ข้นึ เป็ นแผน่ นวิ้ หน่งึ สองนวิ้ สามนว้ิ ส่ีน้วิ เป็ นเหลา่ ๆกนั น้าใสเรียกเริมน้าคา้ ง น้าข่นุ เรียกเริมน้าขา้ ว5.ไขง้ สู วดั ( งูกระหวดั ) : ใหจ้ บั สะทา้ นรอ้ นสะทา้ นหนาว ใหป้ วดศรี ษะ บางทกี ็ไมจ่ บั ลกั ษณะของต่มุ เป็ นเหมอื นเมด็ ทรายข้นึ มาเป็ นแถว มลี กั ษณะเหมอื นงู เป็นเมด็ พองๆ เป็ นเงาหนอง พษิ สงรอ้ นดงั ไฟจุด ผหู้ ญงิ จะเป็ นขา้ งซา้ ย ผชู้ ายจะเป็ นขา้ งขวา และถา้ เกิดข้นึ ขา้ มสนั หลงั ไป จะไม่สามารถรักษาได้

6.ไข้ลำลำบเพลิง : ให้จบั สะท้ำนร้อนสะท้ำนหนำว ให้ปวดศรี ษะ เช่ือมมวั ลกั ษณะของ ต่มุ ที่เกิดขนึ ้ เป็นแผ่น วำงยำไม่ดนี ำ้ เหลอื งแตกตำย7.ไข้ไฟลำมทุ่ง : ลกั ษณะของตมุ่ ท่เี กดิ ขนึ ้ เป็นแผ่นเหมือนลำลำบเพลงิ8.ไข้กำแพงทะลำย : เมื่อจะขนึ ้ ลกั ษณะของตุ่มที่เกิดขนึ ้ มำตมุ่ เดยี ว มพี ิษมำก ให้จบั สะท้ำนร้อนสะท้ำนหนำว ให้เชอ่ื มมวั ร้อนในกระหำยนำ้ ให้ฟกบวมนำ้ นำ้ เหลือง แตกออกพงั ออก วำงยำไมห่ ยุดให้พงั ออกได้ ตำย

ฝี กาฬ เกดิ ในไข้พษิอาการ>> สะทา้ นรอ้ นสะทา้ นหนาว เซือ่ งซึม1. กาฬฟองสมุทร : ลกั ษณะของตุ่มท่เี กดิ ข้นึ มขี นาดเทา่ เมลด็ งา เมล็ดถวั่ เมล็ดผกั ปลงั สกุ เมลด็ ถว่ั ดานูนสูงข้นึ มาเป็ นหลงั เบ้ีย เกดิ ข้ึนในปากในลน้ิ ในเพดาน2. กาฬเลยี่ มสมทุ ร : ลกั ษณะของตมุ่ ทีเ่ กดิ ข้นึ มขี นาดเทา่ เมลด็ เทา่ เมลด็ ถว่ั เกิดข้นึ ท่รี ิม ฝีปากท้งั สองขา้ ง3. กาฬทามสมทุ ร : ลกั ษณะอาการบวมตามขา้ งลนิ้ ขา้ งขากรรไกร ไรฟัน ลนิ้ กระดา้ ง คางแข็ง พดู ลาบาก

4. กาฬทามควาย : ลกั ษณะของตุม่ ท่ีเกิดข้นึ มขี นาดเทา่ ตวั ปลิง เกดิ ข้นึ ท่ีกรามท้งั สองขา้ ง5. กาฬไขล้ ะลอกแกว้ : ลกั ษณะของตมุ่ ที่เกดิ ข้ึนมหี ลายขนาด เกดิ ข้ึนระหวา่ งมีอาการไขพ้ ษิ6. ไขก้ าฬทูม : ลกั ษณะอาการบวมตามขากรรไกรท้งั สองขา้ ง บางทีก็บวมขา้ งเดยี ว7. ไขก้ าฬทาม : ลกั ษณะอาการเหมอื นไขก้ าฬทมู บวมต้งั แตข่ ากรรไกร ถึงคอท้งั สองขา้ ง8. ไขม้ ะเร็งตะมอย : ลกั ษณะของตุ่มทเี่ กดิ ข้ึนมีขนาดเท่าหวั แมม่ ือ ผลจงิ จอ้ บางทีมีตมุ่ เกดิ ข้ึนมา ร่างกาย ตามตวั แขน และขา9. ไขม้ ะเร็งปากทูม : ผดุ ข้ึนมาบวมข้ึนมาจากหลงั ท้งั สองกม็ ี ขา้ งเดียวก็มี สณั ฐานยอดเขยี ว เหมือนน้าคราม10. ไขม้ ะเร็งเปลวไฟ: ลกั ษณะของตมุ่ ทเี่ กิดข้นึ มขี นาดเทา่ วงสะบา้ มยี อดเขียว มีลกั ษณะเหมอื น ถกู ไฟไหม้

11. มะเร็งนาคราช :ลกั ษณะตุ่มเกิดข้นึ ทีน่ วิ้ หวั แมม่ อื ท้งั สองขา้ ง (อาจข้ึนขา้ งเดยี วก็ได)้ มีขนาดเทา่ เมล็ดถวั่ เขยี ว เมลด็ ถว่ั ดา ผลปลงั เลื่อมเป็ นหลงั เบ้ียเทา่ ผลมะยม เทา่ผลเอ็น เทา่ เมด็ หนิ จบั สะทา้ นร้อนสะทา้ นหนาว ใหเ้ ชื่อมใหม้ วั ใหป้ วดศรี ษะทาพิษท่ผี ดุ ข้นึ มาเหมอื นถกู ไฟ ใหม้ ือดาเหมือนมินหมอ้ ทาพษิ ใหก้ ลมุ้ หวั ใจ นง่ิ แนไ่ ป ถา้ แกไ้ ม่ฟังน้นั ใหม้ ือดาแขนดา ตาย

ไข้กาฬไข้กระโดง ท้งั 41.ไขก้ ระโดงน้า :ลกั ษณะอาการเซ่อื งซึม ไมร่ ู้สึกตวั ท้งั กลางวนั และกลางคืน2. ไขก้ ระโดงไฟ: ลกั ษณะอาการรอ้ นในกระหายน้า ปากคอแหง้3. ไขก้ ระโดงหิน: ลกั ษณะอาการเซอ่ื งซมึ นอนนิ่ง นง่ั ถา่ ยอจุ จาระ ปัสสาวะลาบาก4. ไขก้ ระโดงแกลบ :ลกั ษณะของต่มุ ท่เี กิดเหมือนเม็ดทราย เกดิ ทว่ั ร่างกายและมอี าการ คนั ร่วมดว้ ย

1.ไขช้ ่องสมทุ ร : ใหเ้ ชื่อมมวั รอ้ นในกระหายน้า ใหต้ วั รอ้ นเป็ นเปลว ใหต้ าแดงดงั สายเลือด ใหล้ ้นิ กระดา้ งคางแข็ง หอบ สะอึก ปากแหง้ คอแหง้ ฟันแหง้ ปวดศรี ษะ อาเจยี น ใหร้ ้อนเป็ นกาลงั ลกั ษณะตุม่ เกิดข้นึ ตามช่องอกของร่างกายตามราวนมมี ขนาดเทา่ วงสะบา้ มอญ มสี ีดา สีเขียว ชายเป็ นขวา หญิงเป็ นซา้ ย2.ไขส้ องจาพวก (ไขค้ ดไขแ้ หงน) ไขค้ ด :มีอาการ ชกั งอเขา้ จนเสน้ หลงั ขาดตาย มีอายเุ พยี งวนั เดยี ว ไขแ้ หงน : มอี าการ ชกั แอ่นจนเส้นหลงั ขาดตาย มีอายเุ พยี งวนั เดยี ว

กาฬแทรกในไข้พษิ3. ตะบองพะลำ :เกดิ ขนึ ้ ทข่ี ำหนีบทงั้ สองข้ำง ในทีล่ บั มขี นำดโต 1 นวิ ้ มีทงั้ สีดำ แดง และเขยี ว และทำพษิ ให้ลนิ ้ กระด้ำงคำงแขง็ จบั นงิ่ แน่ไป4. ไข้แมต่ ะงำว :ผดุ ขนึ ้ มำยำวรี ใหญ่1-2 นิว้ เกดิ ขึน้ ทขี่ ำหนีบ ต้นขำ ขึน้ ในที่ลบั ทงั้ สองข้ำงขนึ ้ ตำมรกั แร้ ตำมหลงั ตำมอก ถ้ำขนึ ้ มำจะทำพิษให้สลบ ถ้ำไมเ่ หน็ ให้เอำเทียนสอ่ งด5. ตะบองชนวน: สณั ฐำนเรียวเล็ก เทำ่ หวำยตะค้ำ โต 1-2 นวิ ้ ยำวรีผุดขนึ ้ บริเวณบนั้ เอวก้นกบ ขำทงั้ สอง ในท่ีลบั ท้องน้อย สองรำวคำง ใต้รักแร้ มีทงั้ สีดำ แดง และเขยี ว ทำพิษให้สลบ ลนิ ้ กระด้ำงคำงเขยี ว

ไข้กาฬ (ต่อ)1. ละบองพระกาฬ: ผดุ ตามราวคางขนาดเท่าผลมะตมู ข้นึ ตามบ้นั เอว ตามคอตอ่ ตามหวั ไหลส่ องขา้ ง ตามขอ้ ศอกสองขา้ ง ตามขอ้ มือสองขา้ ง ตามเทา้ และขาสองขา้ ง ตามโคนขาสองขา้ ง ตามเข่าสองขา้ ง ตามเทา้ สองขา้ ง บวมลน่ื ข้ึนมาทาพษิ เป็ นกาลงัเคลือ่ นไหวก็ไมไ่ ด้จบั เชอ่ื มมวั ปากแหง้ ฟังแหง้ ลิน้ แหง้ คอแหง้ ใหห้ อบสะอกึ ลน้ิกระดา้ งคางแข็ง จบั เชอื่ มใหม้ วั ไป ไม่มสี ตสิ มปฤดี ใหร้ ้อนในกระหายน้าใหค้ ลงั่ เพอ้ละเมอไป

ไข้หวดั1. ไขห้ วดั นอ้ ย:มอี าการสะบดั ร้อนสะบดั หนาว ปวดศีรษะไอ จาม น้ามูกไหล หาย เองใน3-5วนั2. ไขห้ วดั ใหญ่:มอี าการ สะบดั ร้อนสะบดั หนาว ปวดศีรษะ ไอ จาม น้ามกู ไหลมาก ตวั ร้อน อาเจียน ปากแหง้ ปากขม ปากเปร้ียว กนิ ขา้ วไม่ได้แปรไปเป็ นไอมาก ทา พษิ ใหค้ อแหง้ ปากแหง้ เพดานแหง้ จมกู แหง้ น้ามกู แหง้ บางทที าใหน้ ้ามกู ไหล ยอ้ ยเป็ นกาลงั แปรเป็ นริดสีดวง มองคร่อ หืด ไอ และฝีเจ็ดประการ สาเหตุ เพราะฤดูสามประการ ตอ้ งร้อน ตอ้ งน้าคา้ ง ตอ้ งละอองฝน

ไข้กาเดา1.ไข้กำเดำน้อย:มีอำกำรปวดศีรษะ ตำแดง ตวั ร้อนเป็นเปลว ไอ สะบดั ร้อนสะบดั หนำว ปำกขม ปำกเปรีย้ ว ปำกกินข้ำวไมไ่ ด้ อำเจียน นอนไมห่ ลบั2. ไข้กำเดำใหญ:่ มอี ำกำรปวดศรี ษะมำก ตำแดง ตวั ร้อนเป็นเปลว ไอ สะบดั ร้อน สะบดั หนำวไมเ่ ป็นเวลำ ปำกแห้ง คอแห้ง เพดำนแห้ง ฟันแห้ง เชื่อมมวั เมอื่ ยทงั้ ตวั บำงทีผุดขนึ ้ ขนำดเท่ำยุงกดั แตไ่ มม่ ียอดเกดิ ขนึ ้ ทว่ั ร่ำงกำย บำงทมี อี ำกำรไอเป็น เลอื ด ออกมำทำงจมก ทำงปำก บำงทใี ห้ชกั มอื กำเท้ำกำ

ไข้ 3 ฤดู1. ไขใ้ นคิมหนั ตฤดู(ฤดูรอ้ น): เกิดข้ึนเดอื น 5- 8สาเหตุมาจากไขเ้ พอ่ื โลหติ เป็ นใหญ่ กวา่ ลมและเสมหะ( มีลมและเสมหะระคน)2. ไขใ้ นวสันตฤดู(ฤดฝู น): เกดิ ข้ึนเดอื น 9- 12สาเหตุมาจากไขเ้ พอ่ื ลมเป็ นใหญ่กวา่ เลอื ดและเสมหะ3. ไขใ้ นเหมนั ตฤด(ู ฤดหู นาว): เกิดข้ึนเดือน 1- 4สาเหตุมาจากไขเ้ พอื่ กาเดาและดเี ป็ น ใหญ่กวา่ เสมหะและลมอาการ>>นอนละเมอเพอ้ ฝัน เป็ นหวดั ไอแหง้ ๆ หวิ ไม่มีแรง มีอาการเจบ็ ปาก มือเทา้ เยน็ น้าลายมาก กระหายน้า อยากรบั ประทานเน้อื อยากรบั ประทานของเปร้ียว ของ หวาน ของคาว เกยี จครา้ น เป็ นฝีพพุ อง เจบ็ ขอ้ มอื ขอ้ เทา้ สะทา้ นรอ้ นสะทา้ น หนาว (รักษาโดยวางยาร้อน)