ก คำนำ รายงานฉบับนี้เปน็ ส่วนหน่งึ ของวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ระดบั ชั้นประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ชน้ั สูง โดยมีจดุ ประสงค์ เพอื่ การศกึ ษาความรูเ้ ก่ียวกับการสืบค้นและจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ ตลอดจนกาประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพอ่ื การจดั การงานอาชีพผู้จัดทาไดเ้ ลอื กหวั ข้อ หลักการสรา้ งภาพยนตรส์ ้นั เนอ่ื งมาจากเป็นเรื่องทีน่ า่ สนใจ รวมถึงเปน็ การขอขอบคณุ ครูอาจารย์ผใู้ ห้ ความรู้ และแนวทางการศกึ ษาเรยี นรทู้ ่ใี ห้ ความช่วยเหลอื มาโดยตลอด ผู้จัดทาหวังวา่ รายงานฉบบั น้ี จะให้ความรู้ และเปน็ ประโยชนแ์ ก่ผ้สู นใจทกุ ทา่ น ดุษฎี ระวงั ภัย 30 กนั ยายน 2564
ข สำรบญั เรือ่ ง หนำ้ คานา ก สารบญั ข สารบญั ภาพ ค ความหมายของภาพยนตรส์ ้นั 1 หลกั การสร้างภาพยนตร์ส้ัน 2 อปุ กรณส์ าหรบั สร้างภาพยนตร์สนั้ 3 3 อุปกรณบ์ ันทกึ ภาพ 3 ไมคบ์ มู 4 ไมคห์ นีบปกเสอ้ื 4 อุปกรณท์ ี่ใช้กับไมค์หนบี ปกเส้อื 5 สมาร์ตโฟน 5 ขาตง้ั กล้อง 6 ดอลลี่ 6 เครน 7 ไฟวิดโี อ 7 สเลท 8 ขนั้ ตอนการผลติ ภาพยนตรส์ นั้ 8 ขน้ั ตอนการเตรียมการผลิต 8 ข้นั ตอนการผลติ 9 ขนั้ ตอนหลงั การผลติ 10 ประเภทของภาพยนตร์สน้ั 11 แนวของภาพยนตร์ 14 บรรณานกุ รม 16 ภาคผนวก
ค หนำ้ 3 สำรบญั ภำพ 3 ภำพท่ี 4 ภาพที่ 1 กลอ้ ง DSLR 4 ภาพที่ 2 ไมคบ์ มู 5 ภาพที่ 3 ไมคห์ นีบปกเส้ือ 5 ภาพท่ี 4 อุปกรณ์ท่ีใชก้ ับไมคห์ นีบปกเสื้อ 6 ภาพท่ี 5 สมาร์ตโฟน 6 ภาพที่ 6 ขาต้ังกล้อง 7 ภาพที่ 7 ดอลล่ี 7 ภาพที่ 8 เครน ภาพที่ 9 ไฟวดิ โี อ ภาพที่ 10 สเลท
1 หลักกำรสร้ำงภำพยนตร์ส้ัน 1.ควำมหมำยของภำพยนตรส์ นั้ พรสทิ ธ์ิ พัฒธนานุรักษ์ ไดก้ ลา่ วว่า การผลติ ภาพยนตร์ หมายถึง การสรา้ งภาพยนตร์ที่เกิดข้นึ จาก การจาลองเรื่องราว ในชวี ิตจรงิ หรือจากจินตนาการท่เี หนอื จรงิ อนั มเี นอื้ หาท่แี ตง่ ขึ้น เพอื่ ให้เกิดความ เพลดิ เพลนิ มคี วามตน่ื เตน้ เร้าหรือสะเทอื น อารมณ์ ดว้ ยเร่อื งราวที่สนกุ สนาน วรรณี สาราญเวทย์ ได้กล่าวว่า ภาพยนตรเ์ ป็นสอื่ ท่ีใช้ ภาพในการสอ่ื ความหมายของเรอื่ งราว การกาหนดภาพตา่ ง ๆ จึงต้องใหส้ อดคลอ้ งกับบทภาพยนตร์ โดยคานึงว่าต้องการให้ ผชู้ มเหน็ ภาพ อะไร แค่ไหน จากมมุ ใด ปกรณ์ พรหมวทิ ักษ์ ไดก้ ล่าววา่ ภาพยนตร์สน้ั ไม่มคี าจากดั ความของคาวา่ “ภาพยนตร์สนั้ ” แต่ อนุโลมกนั ว่า ถา้ ภาพยนตร์มีความยาวต่ากวา่ 1 ช่ัวโมง ถือว่าเป็นภาพยนตรส์ ้ันทง้ั สิ้น เช่น ภาพยนตร์ สน้ั ๆ ภาพยนตรส์ ารคดี ภาพยนตร์ ถงึ สารคดี ภาพยนตร์การต์ นู ภาพยนตร์ศลิ ปะ ภาพยนตร์ทดลอง ภาพยนตร์ เพื่อการศึกษา ภาพยนตรโ์ ฆษณา ศลิ ปะภาพเคลือ่ นไหว มิวสคิ วดิ โี อ จุดเดน่ ของ ภาพยนตร์ส้ัน คือ มีการแสดงออกท้ังเน้อื หาวพิ ากษ์วิจารณ์การเมอื ง ศาสนา วัฒนธรรม หรอื สงั คมได้ เพราะรับชมเฉพาะกล่มุ และอีกจุดเด่น อกี อยา่ ง คอื มีประเด็นการนาเสนอไม่สลบั ซบั ซอ้ น มีตวั ละคร 1-2 ตวั มีตวั ประกอบไม่มากนกั ภาพยนตร์ส้นั มักลงทนุ ไมส่ ูง สู่ดิน ชาวหินฟ้า ไดก้ ล่าววา่ ภาพยนตร์ส้นั มกั ใช้ความยาวของเร่ืองมาเปน็ เกณฑจ์ ัดประเภท บางครัง้ เรียกว่า \"หนังส้นั \" หนงั สน้ั จดั อยู่ในกลุม่ ภาพยนตรต์ ้นทุนตา่ แตภ่ าพยนตร์บันเทิง มกั ใชต้ ้นทนุ สงู กวา่ หนังสน้ั เชน่ ภาพยนตร์โฆษณา แต่เม่อื เทยี บกบั ความยาวของเรอ่ื ง 30 วินาที - 3 นาที แลว้ จึง จดั เป็นหนังส้ัน ภาพยนตรเ์ พลง หรอื MV กจ็ ัดวา่ อยใู่ น หนังสั้นเช่นกัน เพราะมีความยาวไมเ่ กนิ 5 นาที ดังนัน้ ภาพยนตรส์ ้นั คอื การเลา่ เร่อื งด้วยภาพและเสียงที่มปี ระเดน็ เดียว แตไ่ ด้ใจความ และไม่ ยาวมากนัก โดยใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที หรืออยา่ งยาวไมเ่ กนิ 30 นาที ประเสรฐิ แซเ่ จ๊ยี บ ไดก้ ลา่ ววา่ ภาพยนตร์สั้นหรือหนังส้นั คอื การถ่ายทอดเร่อื งราวประเด็น เหตกุ ารณ์ แนวคิด ท่ีบอกเลา่ เรอ่ื งดว้ ยภาพและเสียงในเวลาที่จากัดตามมาตรฐานไมเ่ กนิ 40 นาที ตรง ประเดน็ ดังน้ัน ภาพยนตร์สัน้ จึงตอ้ ง กระชบั ดงั นน้ั ภาพยนตรส์ นั้ หรอื หนงั สนั้ (Short Film หรอื Short) คือ หนงั ท่ีเล่าเรื่องดว้ ยภาพและเสยี ง เหมือน ภาพยนตร์ เพยี งแตเ่ ลา่ ประเดน็ สน้ั ๆ ใหไ้ ดใ้ จความ เนน้ เรอ่ื งเดยี ว หรือประเด็นเดียว เนอื้ หาต้องกระชับ และตรงประเดน็ มโี ครงเร่ืองไม่สลับซบั ซอ้ น และไมค่ วรมคี วามยาวมากเกินไป
2 2.หลกั กำรสรำ้ งภำพยนตรส์ นั้ หลักการสร้างภาพยนตร์สน้ั สงิ่ สาคญั ทผี่ ูส้ รา้ งภาพยนตรส์ น้ั จาเป็นต้องเตรียมกอ่ นเริ่มสร้าง ภาพยนตร์ มีอยู่ 2 ส่ิง นั้นก็คือ บทบาทหน้าท่ขี องทีมงาน และอุปกรณส์ าหรบั สร้างภาพยนตร์สน้ั ซึ่งถา้ หากขาด สิง่ ใดสง่ิ หนง่ึ ไป ก็จะทาใหก้ ารทางาน ไมร่ าบล่ืน และเปน็ ไปไดย้ าก เช่น ถา้ มที ีมงานทีพ่ ร้อมจะทางาน แต่ไมม่ กี ล้องสาหรบั ถ่ายทา ก็จะไมส่ ามารถสรา้ งภาพยนตร์สนั้ ได้ หรือถา้ หากมอี ปุ กรณค์ รบถ้วน แต่ขาดผ้สู รา้ งภาพยนตรส์ ้นั ก็จะสร้างออกมาไมไ่ ด้ ดงั น้ัน จึงถือได้วา่ สองสิ่งนี้ เปน็ สิง่ สาคัญสาหรบั การสรา้ งภาพยนตรส์ ้ันใหม้ คี ุณภาพได้ บทบาทหนา้ ทข่ี องทีมงาน บทบาทหน้าทขี่ องทมี งานอาจมหี ลายตาแหนง่ แตถ่ า้ หากตอ้ งการสรา้ ง หนังส้ันทมี่ ขี นาดเล็ก อาจจะมตี าแหน่งทสี่ าคญั อยู่ 5 ตาแหน่ง ดงั น้ี 1. ผู้กากบั (Director) เปน็ บุคคลท่ีสาคัญสาหรบั การสร้างภาพยนตร์สนั้ เปรยี บเสมอื น หวั หน้าทีม มี หนา้ ทค่ี วบคมุ ทุกอย่างตั้งแต่เรม่ิ คดิ งานจนถงึ การตัดตอ่ ผู้กากับจะเป็นผตู้ ดั สนิ ใจเดด็ ขาดวา่ ถา่ ยทา เมอ่ื ไหร่ อย่างไร ทไ่ี หนรวมถงึ คดิ มุมกลอ้ ง แบบไหนกบั ชา่ งภาพ ผกู้ ากบั อาจจะทาหน้าทห่ี ลาย ตาแหน่งกไ็ ด้ เชน่ ผเู้ ขียนบท ผปู้ ระสานงาน หรือทางานร่วมกับตาแหนง่ อนื่ ๆ 2. ผเู้ ขยี นบท (Script Writer) มหี นา้ ที่หาขอ้ มูลแล้วกลน่ั กรองออกมาเปน็ บทภาพยนตร์ท่ี เล่าเรื่อง ด้วยภาพและเสียง อกี ท้ังยังเปน็ ผเู้ รียบเรียงลาดับเหตุการณเ์ ร่ืองราวและความยาวของภาพยนตร์ ผู้กากบั อาจเปน็ ผเู้ ขยี นบทเองกไ็ ด้ 3. ชา่ งภาพ (Camera Man) เป็นตาแหน่งถา่ ยภาพตามคาส่ังของผู้กากบั แต่ต้องมีความ ชานาญทั้ง ศาสตร์ และศลิ ป์ของ การถ่ายภาพ มคี วามเขา้ ใจหลักการวางมุมกลอ้ งการจัดองค์ประกอบของภาพ ตรงกับความต้องการของผูก้ ากบั ตามบทภาพยนตร์ 4. ผตู้ ัดตอ่ (Editor) เป็นผู้จัดลาดับภาพและเสียงตามบทภาพยนตร์ โดยผูต้ ัดต่ออาจเป็นท้ัง ผู้ออกแบบกราฟิก เสยี ง หรือสรา้ งเสียงด้วยกไ็ ด้ 5. ผ้ปู ระสานงาน (Coordinator) ทาหนา้ ทตี่ ดิ ตอ่ ประสานงานทกุ อยา่ งในกองถา่ ยต้งั แต่ เอกสาร ตดิ ตอ่ ทาบัญชี คา่ ใชจ้ ่าย ประสานนกั แสดงอาจทาหนา้ ฝา่ ยศลิ ป์ด้วยในตัวเชน่ การแตง่ ตวั นักแสดง หาหรอื เตรียมอุปกรณ์ รว่ มกบั ผู้กากบั การทาภาพยนตรส์ ัน้ เร่อื งสัน้ ๆ อาจใชท้ มี งานไมม่ าก โดยผกู้ ากับอาจเปน็ ทั้งผู้เขยี นบท เปน็ ตากลอ้ งหรือเป็นผตู้ ดั ตอ่ เอง ก็ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถความถนดั ของแตล่ ะบคุ คล
3 3.อุปกรณส์ ำหรบั สรำ้ งภำพยนตร์สน้ั อุปกรณ์ท่ีใช้สาหรับการสร้างภาพยนตร์สั้นเท่าที่จาเป็นจะใช้อุปกรณ์บันทึกภาพ เสียง อปุ กรณ์เสรมิ ตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี 3.1อปุ กรณบ์ นั ทึกภาพ คือ กลอ้ งวิดโี อแต่ทนี่ ิยมใช้กันปจั จบุ ัน คือ กลอ้ ง DSLR (Digital Single Lens Reflex) ซ่ึงเป็นกล้องที่สะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวด้วยระบบดิจิตอล สามารถถ่ายคลิปได้ ชัดเจนไม่แตกตา่ งจากกล้องมอื อาชพี รุ่นก่อนๆ และยง่ิ ไปกวา่ น้ันถ้าหากถ่ายภาพยนตรส์ น้ั ขนาดเล็ก ๆ วงการภาพยนตร์ส้ันเร่ิมนิยมใช้ Smartphone มาใช้ถ่ายทาเน่ืองจาก ปัจจุบัน เทคโนโลยีลา้ หนา้ ไปไกลมากทาให้เครอื่ งสมารต์ โฟน สามารถถา่ ยคลิปวดิ โี อไม่แตกตา่ งจาก กล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflex) ภาพที่ 1 กลอ้ ง DSLR (Digital Single Lens Reflex) ทมี่ า : https://lucxiiky.wordpress.com วันทสี่ บื คน้ 17 กันยายน 2564 3.2ไมค์บมู คือ ไมคท์ ม่ี ีองศาการรับเสียงแคบ เราสามารถเจาะจงเสียงที่เราจะรบั ได้ เช่น ยน่ื ไมโครโฟนไปยงั นกั แสดง หรือตัวละคร จะทาให้เสยี งรบกวนรอบข้างเบา หรอื อาจแทบไม่ได้ยนิ โดย จะมีคนถอื ไมคบ์ ูมตอ่ กา้ นยาวย่ืนไปทางนักแสดง หรอื ตวั ละคร ภาพที่ 2 ไมคบ์ ูม ทม่ี า : https://filmtoastth.wordpress.com วันทีส่ บื คน้ 17 กนั ยายน 2564
4 3.3ไมคห์ นบี ปกเสอื้ คอื ไมโครโฟนอกี ประเภทหนึ่งทสี่ ามารถใชไ้ ดง้ า่ ยแค่เพียงหนบี ติดกบั ปกเสอ้ื ของนักแสดง แต่ถ้าเอาไปใชก้ ับกลอ้ ง DSLR (Digital Single Lens Reflex) คงจะลาบากนิด หนึ่งในเร่ืองการแสดง เพราะจะเห็นสายไมค์ ติดตามไปมา ซง่ึ จะยากลาบากในการถา่ ยทา ภาพที่ 3 ไมคห์ นีบปกเส้ือ ที่มา : https://digilifethailand.com วันทสี่ บื ค้น 17 กนั ยายน 2564 3.4อปุ กรณท์ ใี่ ช้กับไมคห์ นบี ปกเส้ือ หากนาไปตดิ กบั ตัวรับ ส่งสัญญาณเสยี งแบบ Wireless จะชว่ ยให้สามารถบันทกึ เสียงได้แบบไรส้ าย วธิ กี ารใช้งานคือ ไมค์ไปหนบี ติดกบั เสอ้ื ผ้าของนักแสดง แลว้ เสียบสายไมค์กับตวั ลงสญั ญาณให้นกั แสดงเก็บไว้ ส่วนฝ่าย บันทึกเสียงจะมีตัวรบั สัญญาณแล้วสง่ เข้าเครอื่ งอดั เสียง (Recorder) อกี ที ดงั ภาพดา้ นลา่ ง ภาพท่ี 4 อปุ กรณ์ทีใ่ ชก้ ับไมคห์ นีบปกเส้ือ ท่มี า : http://www.chakkham.ac.th วันทีส่ ืบค้น 17 กันยายน 2564
5 3.5 สมาร์ตโฟน ถือวา่ เปน็ อปุ กรณ์อกี ชนดิ หน่ึง ท่สี ามารถบนั ทกึ เสยี งได้ หากเราตอ้ งการ ผลิตภาพยนตรส์ นั้ แลว้ ไมม่ อี ุปกรณ์บันทึกเสียง เราสามารถนาสมารต์ โฟนมาประยกุ ตใ์ ชเ้ ปน็ อปุ กรณ์ บันทกึ เสยี ง แค่นาสมารต์ โฟนเก็บไวใ้ นกระเปา๋ เสื้อ หรือใกลป้ ากของนกั แสดง ภาพท่ี 5 สมาร์ตโฟน ทม่ี า : https://www.khong-dee.com วันท่สี ืบค้น 17 กนั ยายน 2564 3.6ขาต้ังกล้อง เปน็ อปุ กรณท์ ีม่ คี วามจาเปน็ มากท่ีสดุ เพราะจะทาให้คลปิ ทถี่ ่ายมามีความ คมชัด ไมส่ ัน่ ไหว สามารถ ทาการเคลอื่ นไหวแบบแผนซ้าย - ขวา และทิลทก์ ม้ เงยกล้อง ภาพท่ี 6 ขาต้งั กล้อง ทม่ี า : https://thai.alibaba.com วนั ทสี่ ืบค้น 17 กนั ยายน 2564
6 3.7 คอื การเคลอ่ื นทตี่ ดิ ตามนกั แสดง หรอื ตวั ละคร โดยวิธีการใชจ้ ะเป็นการเคล่อื น กลอ่ งเข้าหาวัตถุ หรือ เรียกวา่ Dolly in และการเคลอ่ื นกล้องออกจากวตั ถุ หรือเรียกวา่ Dolly Out ซง่ึ การคอส จะคล้ายๆ กบั การซูม แต่ความลึก ของภาพจะมากกวา่ การชูม ภาพท่ี 7 ดอลล่ี ทม่ี า : https://thai.alibaba.com วันท่สี บื คน้ 17 กันยายน 2564 3.8 เครน เป็นอปุ กรณท์ ีใ่ ชถ้ า่ ยภาพมุมสูง หรือมมุ สายตานก (Bird's Eyes View) ถา้ หาก ผู้กากบั ตอ้ งการใช้ภาพมุมสงู กส็ ามารถใชเ้ ครนในการถ่ายทาฉากนนั้ ๆ ได้ ภาพท่ี 8 เครน ท่มี า : https://thai.alibaba.com วันที่สบื คน้ 17 กันยายน 2564
7 3.9 ไฟวดิ ีโอ (LED Video Light) ไว้ใช้กบั กรณที ใี่ ช้ถา่ ยในห้องท่มี ืด หรือเวลากลางคืน ไฟวดิ โี อจะปรับใหบริเวณน้นั มแี สงสว่าง และชว่ ยให้ใบหนา้ ของนักแสดงไม่มดื เกินไป นอกจากนี้ ไฟวิดโี อยังสมารถเพิม่ ความมมี ิติ และบง่ บอกถึงอารมณ์ องภาพยนตรไ์ ด้อกี ด้วย ภาพที่ 9 ไฟวดิ ีโอ ทม่ี า : https://www.zetashoponline.com วนั ที่สบื คน้ 17 กันยายน 2564 3.10 สเลท เปน็ อุปกรณ์สาหรับใชบ้ อกรายละเอยี ดของฉากท่ีถา่ ยทา เพ่ือให้ทราบวา่ ในจนี น้ี ผู้กากับเลือกใชค้ ลิปได ในอดตี ภาพยนตร์ตอ้ งใชก้ ล้องฟิล์มในการถา่ ยทา ดงั นัน้ สเลทจึงมคี วามจา เปน็ มากในการตดิ ตอ่ ถ้าหากไมม่ สี เลทสามารถ เขียนกระดาน หรอื กระดาษ แล้วแบ่งชอ่ งให้ เหมอื นกบั สเลทที่ใชก้ นั ท่ัวไปแทนได้ แตใ่ นปัจจุบนั การถา่ ยทาภาพยนตรส์ ั้น สามารถใช้กลอ้ งดจิ ติ อล ไดท้ าใหผ้ กู้ ากบั สามารถเลือกจดชื่อไฟล์ของคลปิ ท่ีเลือกใชแ้ ทนการใชส้ เลทได้ ภาพท่ี 10 สเลท ทมี่ า : https://howtoshortfilm.wordpress.com วันทส่ี ืบคน้ 17 กนั ยายน 2564
8 4.ขนั้ ตอนกำรผลิตภำพยนตรส์ ั้น การผลิตภาพยนตรส์ ้ัน มขี ้นั ตอนการผลิตอยู่ 3 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ ขน้ั ตอนการเตรียมการผลติ (Pre - Production) ขัน้ ตอนการผลติ (Production) และขั้นตอนหลังการผลิต (Post - Production) โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี 4.1ขนั้ ตอนการเตรียมการผลิต (Pre - Production) เปน็ ขนั้ ตอนแรกของการผลิตภาพยนตร์ สนั้ เมอ่ื เราได้หัวข้อเร่อื งที่ ตอ้ งการ สง่ิ แรกทีค่ วรทา คือ การศึกษาค้นคว้าข้อมูล ต้องกาหนดว่า ภาพยนตรส์ ั้นทีจ่ ะผลิตเป็นภาพยนตรป์ ระเภทใด มีการ เล่าเหตุการณ์วา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมอ่ื ไหร่ อย่างไร พระเอก นางเอกมีนสิ ัยอยา่ งไร ตอ้ งการอะไร เพื่อนามาเขียน บทภาพยนตร์ และมกี ารวาง แผนการถ่ายทาเพอ่ื ให้ดาเนนิ งานไปได้ดว้ ยดี ดังนั้น การวางแผนถา่ ยทาตอ้ งละเอียด รอบคอบ รัดกุม จึงจะทาใหง้ านราบรืน่ โดยมีสว่ นสาคญั ทต่ี อ้ งเตรียมในการผลติ ภาพยนตรส์ น้ั ดงั น้ี • การจัดหาบทภาพยนตร์ • การจัดหาทีมงาน • การคดั เลอื กนกั แสดง • การจดั หาสถานท่ีถา่ ยทา • การเตรียมวัสดุ - อุปกรณ์ • การจดั ตารางเวลาถา่ ยทา/วางแผนการถ่ายทา 4.2 ขั้นตอนการผลติ (Production) เป็นข้ันตอนการถา่ ยทา ท่ีมีการบนั ทึกภาพและเสยี ง ตามบทภาพยนตร์ทเี่ ขยี นไว้ อาจมีการเดินทางไปถ่ายทายงั สถานทตี่ ่าง ๆ ทง้ั ในรม่ และกลางแจ้ง มกี ารสัมภาษณ์ จดั ฉากจัดสถานท่ีภายนอกหรอื ในสตูดิโอ โดยผู้กากบั ควรศึกษาบทอย่างละเอียดก่อน เร่ิมถ่ายทา เพอ่ื จะได้ถา่ ยทอดบทภาพยนตร์ให้กับผู้ชมไดอ้ ยา่ งลกึ ซงึ้ นอกจากน้ี เราสามารถสังเกตได้ ว่า ภาพยนตร์ตา่ ง ๆ ในหน่งึ ขั้นฉากมักนาเสนอดว้ ยมมุ กล้องหลายมมุ เพ่อื ไมใ่ หภ้ าพยนตรด์ ูนา่ เบือ่ เพราะ ภาพอยู่เพยี งมุมเดยี ว ดังนน้ั การถ่ายทาแตล่ ะครง้ั จงึ อาจใช้ช่างภาพหลายคน เพอ่ื ประหยดั เวลาในการถ่ายทา หรือถ้าหาก มชี ่างภาพเพยี งคนเดยี ว กส็ ามารถใชว้ ธิ กี ารถา่ ยฉากเดมิ อกี คร้งั แตเ่ ปลีย่ นมมุ กลอ้ งใหแ้ ตกตา่ งออกไป ซึ่งช่างภาพต้องเปน็ ผมู้ คี วามรู้เกีย่ วกบั เร่ืองขนาดภาพและ มุมกลอ้ งสาหรบั ถา่ ยทาภาพยนตร์สัน้ เป็นอยา่ งดี เพื่อให้คลิปท่ไี ด้สามารถนาไปตดั ตอ่ ไดอ้ ย่างลงตัว ขั้นตอนน้อี าจมีการถ่ายทาแกไ้ ขหลายครั้งจนเป็นทพ่ี อใจ (take) นอกจากน้อี าจจาเปน็ ต้องเก็บภาพ และ เสียงบรรยากาศทัว่ ไป รวมถงึ ภาพเฉพาะมมุ เพ่มิ เติมไวใ้ ช้ในการขยายความ (insert) เพื่อใหผ้ ้ชู ม ไดเ้ หน็ และเขา้ ใจ รายละเอยี ดมากยิง่ ขนึ้
9 4.3 ข้นั ตอนหลังการผลติ (Post-Production) เปน็ ข้ันตอนการตดั ตอ่ เรียบเรียงภาพและ เสียงเข้าไวด้ ้วยกันโดยเรียงลาดบั ใหเ้ ป็นเรอื่ งราวตามบทภาพยนตรท์ ่ีกาหนดไว้ ใหม้ คี วามนา่ สนใจและ ชวนให้ ผู้ชมตดิ ตาม ขน้ั ตอนนจ้ี ะมีการใส่กราฟกิ ทาเทคนิคตกแตง่ ภาพ การย้อมสี การเช่ือมต่อภาพ ให้เข้ากบั ฉาก รวมถึงอาจมี การบนั ทึกเสยี งในหอ้ งบนั ทกึ เสียงเพ่มิ เติม ขั้นตอนนีส้ ว่ นใหญ่จะ ดาเนินการอยูใ่ นห้องตัดตอ่ โดยผตู้ ัดตอ่ ควรศกึ ษาและหา วธิ กี ารตัดต่อรูปแบบใหมๆ่ สาหรับตัดตอ่ ภาพยนตรส์ ัน้ รวมถงึ ผตู้ ดั ตอ่ ยังต้องรู้จัก การเลอื กใชเ้ สียงประกอบให้สอดคลอ้ ง กบั บทภาพยนตร์ และแนวของภาพยนตร์ เพ่อื ให้ภาพยนตร์ส้ันผลิตออกมาได้อยา่ งสมบรู ณ์ สรา้ งสรรค์ และน่าตดิ ตาม รบั ชม องคป์ ระกอบของข้ันการหลงั การผลติ (Post-Production) มีดังน้ี องคป์ ระกอบของขน้ั การหลังการผลติ (Post-Production) มีดงั นี้ การลาดบั ภาพ หรอื การตัดต่อ (Editing) เปน็ การนาภาพมาตดั ต่อให้เป็นเรื่องราวตาม บทวีดที ศั น์ โดยใช้เครือ่ งตดั ต่อหรอื เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ โดยการตัดต่อนมี้ ี 2 ลักษณะ คอื Linear Editing เป็นการตัดต่อระหว่างเครือ่ งเล่น/บันทึกวีดีทศั น์ 2 เครอ่ื ง โดยให้เครื่องหนึง่ เป็น เครือ่ งตน้ ฉบบั (Master) และอีกเคร่ืองหน่ึงเป็นเคร่ืองบนั ทกึ (Record) ในปัจจุบนั ไม่นยิ มใช้แลว้ เนือ่ งจากการตัดต่อลักษณะนี้ตอ้ งใชผ้ ้ทู ่ีมีความชานาญเฉพาะด้าน และใช้เวลานานมาก Non-Linear Editing เปน็ การตดิ ต่อโดยใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะ ซง่ึ เปน็ การตดั ตอ่ ท่รี วดเรว็ และมขี อ้ ผดิ พลาดน้อยท่ีสดุ การบันทึกเสียง (Sound Recording) จะกระทาหลังจากไดด้ าเนนิ การตัดต่อภาพตาม บทวีดิทศั น์เป็นที่เรยี บร้อยแลว้ จงึ ทาการบนั ทกึ เสยี งดนตรี เสียงบรรยาย และเสยี งประกอบลงไป การฉายเพ่ือตรวจสอบ (Preview) หลังจากตัดตอ่ ภาพ และบนั ทึกเสยี งเรียบรอ้ ยแล้วจะตอ้ ง นามาฉายเพื่อตรวจสอบก่อนวา่ มอี ะไรทจี่ ะต้องปรับปรุงแกไ้ ขหรือไม่ ประเมินผล (Evaluation) เป็นการประเมินรายการหลังการผลติ ซึ่งมี 2 ลกั ษณะ คอื 1.ประเมินผลกระบวนการผลติ โดยจะเป็นการประเมนิ ด้านความถูกตอ้ งของเน้ือหาคุณภาพของ เทคนิคการนาเสนอ ความสมบรู ณ์ของเทคนิคการผลิต โดยผ้เู ชยี่ วชาญดา้ นเน้อื หา ผู้เขียนบท ผู้กากบั รายการ ทีมงานการผลติ และ2.การประเมนิ ผลผลติ ซง่ึ จะเป็นการประเมินโดยกล่มุ เปา้ หมายเปน็ หลัก โดยจะประเมนิ ในด้านของความน่าสนใจ ความเข้าใจในเน้ือหา และสาระทนี่ าเสนอ การเผยแพร่ ควรมรี ูปแบบท่หี ลากหลาย เพ่อื ให้เขา้ ถงึ เปา้ หมายใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ เทา่ ท่จี ะทาได้ และควรเก็บขอ้ มูล ขอ้ เสนอแนะตา่ ง ๆ ของผใู้ ช้ เพ่อื นามาแก้ไขเร่อื งอน่ื ๆ ตอ่ ไป
10 5. ประเภทของภำพยนตรส์ นั้ ปัจจุบันมีส่ือที่อยู่ในรูปแบบของวิดีโอต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะ ส่ือในรูปแบบท่ีมีครบท้ัง ภาพและเสียงน้ัน จะช่วย ให้ผู้ชมสามารถรับรู้และเข้าใจข้อมูลที่ผู้สร้างส่ือ ต้องการสื่อสารถึงผู้ชมได้ ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ส่ือประสม (Multimedia) ท่ีนาเสนอแบบวิดีโอ แล้วยังสามารถแสดง ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียงบรรยาย และข้อความพร้อมกันได้ มีอกี มากมาย ดังนั้น ในกิจกรรมน้ีจึง ยกตวั อยา่ งสอื่ ประสมทน่ี าเสนอแบบวดิ ีโอ ดงั นี้ 5.1 มิวสิควิดีโอ (Music Video หรือ MV) เป็นการถ่ายทอดบทเพลงแบบมีภาพประกอบมา สร้างเป็นเรื่องราว ซ่ึงเพลงในปัจจุบัน นิยมทา MV ประกอบเพลง เพ่ือให้ผู้ชมเข้าใจความหมายของ เนื้อเพลงได้ง่ายมากย่ิงข้นึ 5.2 วิดีโอเพื่อการนาเสนอ (Presentation) เป็นการถ่ายทอดความคิดในเร่ืองใดเรื่องหน่ึงท่ีมี วัตถุประสงค์ ชัดเจนในเวลาจากัด เช่น การนาเสนอเก่ียวกับ สื่อการสอน การสาธิต ประวัติส่วนตัว แตง่ งาน งานวนั เกดิ เป็นตน้ 5.3 โฆษณา (Advertisement) เป็นการถ่ายทอดเรื่องราว เพือ่ ให้ผู้ชมคล้อยตาม สิ่งท่ีผู้สร้าง โฆษณาต้องการนาเสนอ โดยท่ัวไป โฆษณาที่ฉายทางโทรทัศน์จะมีความยาวไม่มากนัก ขึ้นอยู่กับ งบประมาณของบริษัทเจ้าของสินค้า นอกจากนี้ การประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ จะเป็นการชักจูงให้ ผูช้ มคล้อยตามในเร่ืองนัน้ ๆ เชน่ การรณรงค์ต่อต้านการทุจรติ ก็จะมี การสร้างภาพยนตรส์ ั้นเก่ยี วกับ การทจุ ริต เพ่อื ชกั จงู ใหผ้ ู้ชมคลอ้ ยตาม และไม่ทาการทุจริต ซ่ึงเปน็ สง่ิ ท่ผี ิดกฎหมาย 5.4 ภาพยนตร์ส้ันหรือหนังส้ัน (Short Film) เป็นการเล่าเร่ืองราวด้วยภาพ และเสียงท่ีมี ประเดน็ เดียวสั้นๆ 4. ภาพยนตร์ แต่ได้ใจความ ตรงประเด็น มีโครงเร่ืองไม่สลับซับซ้อน และไม่ควรมี ความยาวมากเกินไป อาจเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเอง ตามจินตนาการของคนเขียนบทภาพยนตร์ หรือ เปน็ เรอื่ งจรงิ บางสว่ นก็ได้ ขึน้ อยู่กบั ทีมงานผจู้ ดั ทา
11 6. แนวของภำพยนตร์ แนวภาพยนตร์ อาจเรียกอกี อย่างว่า Film Genre คาวา่ Genre อ่านว่า ฌอง-ระ เปน็ คา ภาษาฝรัง่ เศส แปลว่า ชนดิ หรอื ลักษณะ โดยภาพยนตร์ในยุคปัจจุบนั มอี ยมู่ ากมายหลายประเภท ซ่ึงสู่ดนิ ชาวหนิ ฟ้า ได้จดั ปจั จยั ทีน่ ามาเป็นเกณฑ์ การแบง่ แนวภาพยนตร์ ดังน้ี 1. ลักษณะ คณุ สมบตั ิ บทบาท และคุณคา่ ของตัวละคร (Character) 2. ฉาก และเหตกุ ารณ์ในเรื่อง (Setting & Scene) และรวมถึงสถานท่ี และสิง่ แวดลอ้ ม ท่เี ร่อื งราวในภาพยนตรด์ าเนินไป 3. การส่ือความหมายด้วยภาพและเสยี ง (Iconography) 4. การเล่าเรอ่ื ง (Narrative) วธิ ีการเลา่ เร่ือง การนาเสนอภาพ เสยี ง อปุ กรณท์ ใี่ ช้ถา่ ยทา 5. รปู แบบ ลีลา ของภาพยนตร์ (Style) 6. อารมณ์ ความรูส้ ึก (Mood) ทีผ่ ู้ชมได้รบั ตลอดการชมภาพยนตร์ แนวของภาพยนตร์ จะเปน็ ตวั บอกอารมณ์ และความรสู้ กึ ทผ่ี ูช้ มจะไดร้ ับ หลงั ชมภาพยนตร์ จบ ซงึ่ ภาพยนตร์แตล่ ะแนว ก็จะทาให้ผ้ชู มได้รับอารมณ์ และความร้สู กึ ทีแ่ ตกต่างกันไป คา่ ย ภาพยนตร์รายใหญ่ กม็ ักจะสร้างภาพยนตร์เรอื่ งตา่ งๆ ให้เปน็ แนวเดียวกนั ทาใหผ้ ชู้ มร้สู กึ ไดว้ ่า ภาพยนตรแ์ นวนัน้ ๆ เป็นเอกลกั ษณ์ของคา่ ยน้ันๆ เชน่ ภาพยนตร์ Sci-Fi ต้องค่าย Marvel หรอื DC ถ้าภาพยนตร์แอนิเมชนั่ แฟนตาซี ตอ้ งคา่ ย Disney เป็นตน้ โดยบทเรียนน้ี แบ่งแนวของภาพยนตร์ ไดด้ ังน้ี 1. ภาพยนตรอ์ าชญากรรม (Crime) เป็นภาพยนตร์ทม่ี ีเนือ้ เรื่อง หรือตวั ละคร เกีย่ วกับ อาชญากรรม ตวั อยา่ งภาพยนตร์ เชน่ Now You See Me อาชญากล ปล้นโลก, 48 Hours และ Logan Lucky เป็นตน้ 2. ฟลิ ม์ นวั ร์ (Film Noir) เปน็ ภาพยนตร์ท่ใี ช้สีโทนขาวดาและให้แสงตา่ (Low Key) มี เรื่องราวเกย่ี วกบั เหล่ารา้ ย อันธพาล (Gangster) หรอื ตวั ละครเอกไมเ่ ชอ่ื ในความดีงามและคณุ ค่าของ มนษุ ย์ มกั เสนอด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ ตวั อยา่ งภาพยนตร์ เชน่ Butch Cassidy and the Sundance Kid, The Godfather และ The Usual Suspects เป็นต้น 3. ภาพยนตร์ องิ ประวัติศาสตร์ (History) อาจไมใ่ ชภ่ าพยนตร์ประวัตศิ าสตร์โดยตรง และ ไม่ใช่เรอื่ งทีจ่ ินตนาการ ข้ึน แตจ่ ะเปน็ เรื่องราวในอดีต ที่เกีย่ วขอ้ งกบั ประวัตศิ าสตร์ ตวั อย่าง ภาพยนตร์ เช่น สรุ ิโยไท, Chinatown และ ตานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เปน็ ต้น 4. ภาพยนตร์อิงนยิ ายวิทยาศาสตร์ (Science Fiction) หรอื ภาพยนตรไ์ ซไฟ (Sci-Fi) เปน็ เรอ่ื งราวของมนษุ ย์ โลก สังคม และเทคโนโลยสี มยั ใหม่ ท่ีอยใู่ นจินตนาการของผ้สู ร้างเน้ือเร่ือง ส่วนมากจะมีโลกในอนาคต หรืออวกาศเป็นองคป์ ระกอบ อาจใช้ความรเู้ ชงิ วทิ ยาศาสตร์เข้าช่วยใน
12 การอธิบายลักษณะตวั ละคร ฉาก พฤติกรรมของตวั ละครหรอื ความเป็นไปของเน้ือเร่อื ง ตัวอยา่ ง ภาพยนตร์ เชน่ Star Wars, Hunger Games และ The Terminator เป็นต้น 5. ภาพยนตร์กีฬา (Sport) มเี น้ือเรอ่ื งเกี่ยวกับการแข่งขนั กฬี า หรือสถานทท่ี ใ่ี ช้แขง่ ขันกฬี า ตัวอย่างภาพยนตร์ เช่น Kung Fu Druk เป็นตน้ 6. ภาพยนตร์สงคราม (War) เปน็ ภาพยนตรท์ ีเ่ นือ้ เร่อื งมฉี าก หรอื เหตกุ ารณใ์ นเก่ียวกบั การ ทาสงคราม หรอื อยูใ่ นสนามรบ ตวั อยา่ งภาพยนตร์ เช่น สามกก๊ และ God Egypt เปน็ ตน้ 7. ภาพยนตร์แอค็ ชนั (Action) เปน็ ภาพยนตร์ทลี่ ีลาของฉาก และนกั แสดงมกี ารใช้ความ รนุ แรง ซ่ึงจะเป็นการสร้าง ความเร้าใจให้กับผู้ชม ตัวอย่างภาพยนตร์ เชน่ องคบ์ าก, ชอ็ คโกแลต และ บอดีก้ ารด์ หน้าเหล่ียม เป็นตน้ 8. ภาพยนตร์ผจญภยั (Adventure) เป็นเรอื่ งราวการเส่ยี งภยั ของตวั ละคร ในเหตุการณใ์ ด เหตุการณห์ นงึ่ และพบกบั สิง่ ใหม่ (New Worlds) สรา้ งความตื่นเต้นให้กับผชู้ มผา่ นทางการเสี่ยงภยั ของตัวละคร ตัวอย่างภาพยนตร์ เช่น Indiana Jones and the Temple of Doom (จัดเปน็ ประเภทแอค็ ชนั ดว้ ย), The Maze Runner และ Jurassic World เป็นตน้ 9. ภาพยนตร์ตลก (Comedy) เปน็ ภาพยนตรท์ ม่ี ุง่ สรา้ งความสนกุ สนาน และเสียงหัวเราะ ให้กับผู้ชม ตัวอยา่ งภาพยนตร์ เชน่ หลวงพ่ีแจส๊ 4G, แหยม ยโสธร และ เมล์นรก หมวยยกลอ้ เปน็ ต้น 10. ภาพยนตร์ชีวิต หรือดราม่า (Drama) นาเสนอเร่ืองราวชวี ิตของตัวละคร มกั สร้างความ ต่ืนตัวใจ ความเศร้า สลดใจ ผา่ นทางการแสดงการเตบิ โตของตวั ละคร ภาพยนตร์เกือบทุกเร่ือง จะปูพน้ื แนวชีวิตเปน็ หลักกอ่ น แล้วผสมดว้ ยแนวอนื่ ๆ เขา้ ไป ตวั อยา่ งภาพยนตร์ เช่น คดิ ถงึ วิทยา, สง่ิ เลก็ ๆ ท่เี รียกว่ารกั และพมี่ าก พระโขนง (เป็นภาพยนตร์สยองขวัญได้ดว้ ย) เปน็ ตน้ 11. ภาพยนตรแ์ ฟนตาซี (Fantasy) เปน็ ภาพยนตร์ทเ่ี สนอเนอื้ เร่อื ง และฉาก ทไี่ มม่ ีอยู่ในโลก แหง่ ความเป็นจริง (Imaginary World) เน้นความสนุกสนาน อลงั การ ตระการตาตระการใจ ตวั อย่าง ภาพยนตร์ เชน่ Harry Potter, Alice in Wonderland, Pirate of the Caribbean. Maleficent และ Avatar เป็นต้น 12. ภาพยนตร์สยองขวัญ (Horror) เป็นภาพยนตรท์ ่ีมุง่ สร้างความหวาดกลัวให้แกผ่ ูช้ ม ตัวอยา่ งภาพยนตร์ เชน่ ลัดดาแลนด,์ Alien และ 4 แพร่ง เป็นต้น 13. ภาพยนตร์ลึกลบั (Mystery) มกั สรา้ งปมปญั หา ความฉงนสงสยั ชวนติดตาม หาคาตอบ และความรู้สึกท้าทาย ใหแ้ กผ่ ู้ชม ตวั อยา่ งภาพยนตร์ เช่น รนุ่ พ่ี และ Dealt Note เป็นต้น 14. ภาพยนตรร์ กั โรแมนตกิ (Romance) เป็นภาพยนตร์ท่มี ีเน้ือหาเกยี่ วกับ ความรัก ชู้สาวระหว่างหญิง ชาย ตัวอย่างภาพยนตร์ เชน่ ส.ค.ส. สวีตตี้, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ และฟรแี ลนซ์ ห้ามเหน่ือย หา้ มพัก ห้ามรักหมอ เป็นต้น
13 15. ภาพยนตรร์ ะทึกขวัญ (Thriller) เป็นภาพยนตร์ทม่ี ีการตอ่ สดู้ ิ้นรน จากการขู่ฆ่า ทารา้ ย มงุ่ สร้างความตืน่ เต้น และ ความตึงเครียดใหแ้ กผ่ ู้ชม ตวั อยา่ งภาพยนตร์ เช่น Orphan และ Jaws เปน็ ต้น 16. ภาพยนตร์แอนเิ มชนั (Animation) บางคร้งั เรยี กว่า หนังการต์ ูน ซ่ึงสร้างภาพเคล่ือนไหว โดยฉายภาพนงิ่ หลายๆ ภาพตดิ ตอ่ กันด้วยความเรว็ สงู ภาพยนตรเ์ รื่อง Toy Story เป็นภาพยนตร์ เร่ืองแรก ทสี่ รา้ งจากคอมพิวเตอร์ทง้ั เรื่อง ตวั อย่างภาพยนตร์ เช่น ก้านกล้วย, Despicable Me และ Moana เป็นต้น 17. ภาพยนตรช์ วี ประวตั ิ (Drama of Tale) เปน็ ภาพยนตร์ที่มเี นื้อหาเกย่ี วกับชวี ติ ของ บคุ คลทีม่ ีตัวตนอย่จู รงิ แต่ อาจนาสว่ นหนงึ่ ของชวี ิตมาสร้างเปน็ ภาพยนตร์ และอาจสอดแทรกเติม แต่งเรื่องราวบา้ ง 18. ภาพยนตรส์ ารคดี (Documentary) เปน็ ภาพยนตรท์ ่เี สนอข้อเทจ็ จรงิ เกยี่ วกบั สังคม มนุษย์ สตั ว์ วทิ ยาศาสตร์ เพอ่ื สร้างความเขา้ ใจในเรือ่ งใดเร่อื งหนง่ึ อาจนาเสนอเปน็ ตอนเดยี ว เร่อื ง เดยี ว หรือนาเสนอ เปน็ ชุดกไ็ ด้ ตัวอย่างภาพยนตร์ เชน่ Oceans และ Arctic Tale เป็นต้น 19. ละครเพลง (Musical) เป็นภาพยนตรเ์ กีย่ วกับเพลง ตวั ละครเปน็ ผูร้ อ้ งเพลงนั้น คลา้ ยกบั การดูละครเวที ตัวอย่างภาพยนตร์ เช่น High School Musical และ Glee เป็นต้น 20. หนงั บรรยาย เป็นภาพยนตรท์ ีเ่ น้อื เร่อื งดาเนนิ ไปตามการเลา่ เรือ่ งของผบู้ รรยาย นอกจากแนวทกี่ ลา่ วขา้ งตน้ แล้ว ปจั จุบันมีผสู้ รา้ งภาพยนตรส์ ้นั รุ่นใหม่ๆ และไดแ้ บ่งประเภท ของภาพยนตรส์ นั้ ตาม หลักสากล ซงึ่ ประกอบไปดว้ ย 7 ประเภทหลัก ไดแ้ ก่ ประเภท Western Film หรือทีเ่ รียกวา่ หนังคาวบอยเปน็ ประเภทของ ภาพยนตร์ท่ีนาเสนอความขดั แยง้ ระหวา่ งเมืองกบั ทะเลทราย การตอ่ สรู้ ะหว่าง ความปา่ เถอ่ื นและความเป็นอารยชน ประเภท Gangster Film เปน็ ภาพยนตร์ท่สี ะท้อนความเส่อื มโทรมหรอื มมุ มดื ของสงั คม ประเภท Melodrama มกั มีโครงเร่ือง เก่ยี วกบั ครอบครวั ความรกั ความผกู พัน ความผิดหวัง ความสมหวงั ประเภท Comedy ประเภท Musical ประเภท Horror และประเภท Film Noir อย่างไรก็ตาม ภาพยนตรส์ ัน้ หน่ึงเร่อื งอาจมกี ารนาแนวของภาพยนตร์มาใชแ้ นวเดียว หรอื หลายแนวมารวมไวอ้ ยใู่ นเรื่อง เดียวกนั แล้วแตท่ มี ผู้จดั ทาจะเขียนบทออกมาในลกั ษณะไหน หรอื แบบ ใด ท้งั นี้ควรเลอื กใชแ้ นวภาพยนตรใ์ ห้เหมาะกับเน้อื เรือ่ ง หรอื หัวขอ้ ภาพยนตร์ที่เราจะทาเพ่อื การสอื่ อารมณใ์ ห้คนเขา้ ใจภาพยนตร์ของเราได้อย่างชดั เจน
บรรณำนกุ รม
15 บรรณำนุกรม ขน้ั ตอนการผลติ ภาพยนตร์ส้นั https://sites.google.com/site/vediolearning/khan-txn-kar สืบคน้ วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564 ความหมายของภาพยนตร์ส้ัน https://sites.google.com/a/ses26.go.th/krupuhcom5 สืบคน้ วนั ที่ 17 กนั ยายน 2564 แนวของภาพยนตร์ http://secondclass111.com/movie-genre สืบคน้ วนั ที่ 17 กันยายน 2564 ประเภทของภาพยนตร์ส้ัน http://www.chakkham.ac.th/~krunatcha/shortfilm สืบคน้ วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2564 หลักการสร้างภาพยนตร์สั้น http://www.chakkham.ac.th/~krunatcha/shortfilm สบื คน้ วันที่ 17 กนั ยายน 2564 อุปกรณ์สาหรบั สรา้ งภาพยนตรส์ นั้ https://padlet.com/sakchai/i01dx1sfsc9c สบื ค้นวนั ที่ 17 กนั ยายน 2564
ภำคผนวก
17 ประวตั ิผูจ้ ดั ทำ ชือ่ -สกลุ นางสาวดษุ ฎี ระวยั ภัย วนั เดอื น ปเี กดิ 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2545 ที่อยปู่ ัจจุบนั 184/11ม.8 ต.นครสวรรคต์ ก อ.เมอื ง จ.นครสวรรค์ 60000 ประวตั ิกำรศกึ ษำ สาเรจ็ การศกึ ษาระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) สาขาแอนิเมช่ัน วิทยาลยั อาชีวศกึ ษานครสวรรค์ อาเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจบุ ันกำลังศกึ ษำ ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สงู (ปวส.) สาขาการถา่ ยภาพและ มัลติมเี ดยี วทิ ยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ อาเภอเมือง จงั หวดั นครสวรรค์
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: