นางสาวไซตน มะยโู ซ๊ะ
ลกั ษณะ: ละครนอก ตวั ละคร: เจา้ เงาะซง่ึ คือพระสังข์ กับนางรจนา เน้ือเรื่อง: มีความสนุกสนานและเป็นที่นยิ ม จึงมี การนาเนื้อเรื่องบางบทที่นิยม ได้แก่ บทพระสังข์ได้ นางรจนา เพ่ือนามาประยุกต์เป็นการแสดงชุด รจนา เสย่ี งพวงมาลัย
8 กนั ยายน พ.ศ. 2352 - 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 2 ในราชวงศ์จกั รี มีพระนามเดมิ วา่ ฉิม วนั พธุ ขนึ ้ 7 ค่า เดือน 4 ปี กนุ เวลาเช้า 5 ยาม ซงึ่ ตรงกบั วนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2310
ในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ าโลกมหาราช เม่ือปี มะเสง็ พ.ศ. 2352 - 2367 ขณะมีพระชนมายไุ ด้ 42 พรรษา
ณ เมืองยศวิมลนคร อันมีท้าวยศวิมลเป็นเจ้าเมือง พระมเหสีจัน เทวีได้คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ จึงถูกพระนางจันทา มเหสีรอง ใส่ ร้ายว่าเป็นกาลีบ้านเมือง จนถูกขับออกจากเมืองไปอยู่กระท่อมตายายท่ี ชายปา
จนกระท่ังพระสังข์ที่ซ่อนอยู่ในหอย ได้ออกมาพบแม่ สร้าง ความยนิ ดีกบั พระนางจันเทวีมาก ข่าวล่วงรู้ไปถงึ นางจันทา จึงได้ส่ง คนมาจับพระสงั ข์ไปถ่วงน้า แต่ท้าวภุชงคพ์ ญานาคราชช่วยเอาไว้ และ ส่งให้ไปอยกู่ ับ นางพันธรุ ัต
พระสังข์รู้ว่านางพันธุรัตเป็นยักษ์จึงขโมยรูปเงาะ ไม้เท้า เกือกแก้ว เหาะหนีมาอยู่บนเขา นางพันธุรัตตามมาทันแต่ ไม่สามารถ ขึนไปหาพระสังข์ได้ จึงได้มอบมนต์มหาจินดา เรียกเนือเรียกปลา ให้แกพ่ ระสังขก์ อ่ นท่จี ะอกแตกสนิ ใจตายที่เชิงเขา นั่นเอง
พระสังข์เหาะมาจนถึงเมืองสามล ท้าวสามลและนางมณฑาก้าลัง จัดพิธีเลือกคู่ให้ธิดาทังเจ็ด แต่รจนาพระธิดาองค์สุดท้อง ไม่ยอมเลือกใคร เป็นคู่ ท้าวสามลจึงให้คนไปตามเจ้าเงาะมาให้เลือก รจนาเห็นรูปทองที่ ซ่อนอยู่ในรูปเงาะจึงเส่ียงมาลัยไปให้ สร้างความพิโรธให้ท้าวสามล ท้าว สามลจงึ ขบั ไล่รจนาให้ไปอยกู่ ระท่อมปลายนากบั เจ้าเงาะ
ท้าวสามลหาทางแกล้งเจ้าเงาะ โดยการให้ไปหาเนือหาปลา แข่งกับเขยทังหก เจ้าเงาะให้มนต์ท่ีนางพันธุรัตให้ไว้เรียกเนือ เรียก ปลามารวมกันท้าให้หกเขยหาปลาไม่ได้ จึงต้องยอมตัดปลายหูและ ปลายจมูกแลกกับเนือและปลา
ท้าวสามลพิโรธมากจนถึงกับคิดหาทางประหารเจ้าเงาะ ร้อนถึง พระอินทร์ต้องหาทางช่วยโดยการลงมาท้าตีคลีชิงเมือง กับท้าวสามล ท้าวสามลส่งหกเขยไปส้กู ็สู้ไมไ่ ด้ จึงต้องยอมให้เจ้าเงาะไปสู้แทน
เจ้าเงาะถอดรูปเป็นพระสังข์และสู้กับพระอินทร์ จนชนะ ท้าว สามลจึงยอมรับพระสังข์กลับเข้าเมืองและจัดพิธีอภิเษกให้ พระอินทร์ไป เข้าฝันท้าวยศวิมล เพื่อบอกเรื่องราวทังหมด ท้าวยศวิมลจึงออกตามหา พระนางจันเทวีจนพบ และได้เดนิ ทางไปเมอื งสามลนครเพื่อพบพระสงั ข์
โดยพระนางจันเทวีได้ปลอมเป็นแม่ครัวในวังและได้แกะสลัก เรื่องราวทังหมดบนชินฟัก ให้พระสังข์เสวย ท้าให้พระสังข์รู้ว่าแม่ ครัวคือพระมารดานั่นเอง พระสังข์และรจนาจึงได้เสด็จตามท้าวยศ วิมลและพระนางจนั เทวกี ลับไปครองเมืองยศวิมลสบื ไป
คุณคา่ ดา้ นเน้อื หา เน้ือหาของบทละครนอกแสดงให้เหน็ ความคดิ ของผู้ แตง่ ทีต่ ้องการสื่อให้ผู้อา่ นผู้ฟังทราบ ดังนี้ ๑.ค่านิยมในสังคม วัฒนธรรม และแนวทางการดาเนิน ชีวิต โดยต้องการปลูกฝังทัศนคตลิ งไปในจิตใจของคนไทย ๒.การรักพวกพ้อง รักชาติบ้านเมือง ตัวอยา่ งที่เห็นได้อย่าง ชัดเจนคือ พฤติการณ์ของหกเขย และการตีคลีพนันกับพระ อินทร์ ๓.การทาความดี มีตัวอยา่ งปรากฏตลอดทั้งเรอ่ื ง
คณุ คา่ ด้านศิลปะ คุณค่าด้านศิลปะละครนอกส่วนใหญ่จะได้จากการแสดง ผู้แสดง จะเสนอศิลปะในรูปของทานองเพลง การร่ายรา และถ้อยคาใน บทร้อง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชนิพนธ์บท ละครด้วยความพิถีพิถันในเรื่องท่ารา และการแสดงเป็นอย่าง มาก บทกลอนบางตอนในเรื่องสังข์ทอง ทาให้มองเห็นความงดงาม ของตัวละครได้จากการใช้ภาษา เช่น บทอาบน้าแต่งตัวของพระ สังข์ ตอนที่ถอดรูปเงาะเพื่อออกไปตีคลีกับพระอินทร์ ใช้ เพลง “ลงสรงมอญ”
วเิ คราะห์ภาษาและกวีโวหาร บทละครนอกเป็นวรรณคดีร้อยกรองซ่ึงมีภาษาที่ไพเราะ เพราะกวี ใช้ภาษาที่ทีความหมายลึกซงึ้ สร้างสรรค์อารมณ์ ทาใหเ้ กิดจนิ ตนาการ ภาพพจน์การใช้ภาษาและกวีโวหารเป็นองคป์ ระกอบทีส่ าคัญในการ แต่งร้อยกรอง การแต่งมุ่งแสดงความรู้สึกด้านอารมณ์มากกว่า ข้ อ เ ท็ จ จ ริ ง ภ า ษ า ที่ ใ ช้ ท า ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม ส ะ เ ทื อ น อ า ร ม ณ์ ไ ด้ ดี
การเลือกสรรคา การเลือกสรรคามาใช้แบง่ ออกได้เปน็ ๒ ลักษณะคือ ๑.การใช้คาให้เหมาะสมกับเนื้อเรือ่ ง ๒.การใชค้ าให้เหมาะกับบุคคล
จนิ ตนาการ ◊ ความไพเราะในคากลอนได้จากสัมผสั อักษรและสมั ผัสสระ ◊ การบรรยายบางตอนทาใหผ้ ูอ้ า่ นนึกเหน็ ภาพตามไปดว้ ย
๑ . ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ใ ห้ เ กิ ด ๑.๑ วิธีอปุ มาอปุ ไมย ภาพพจน์ คือ กลวิธีในการใช้ ๑.๒ วธิ ีอปุ ลกั ษณ์ ภาษาให้ข้อความนัน้ กินใจ ชวน ๑.๓ บคุ ลาธิษฐาน คิด ชวนให้จดจา
๒.๑ การพรรณนาที่ทา ๒. การพรรณนาและการ ให้เห็นภาพอยา่ สง บรรยายที่แจ่มแจ้งชัดเจน การ ตรงไปตรงมา พรรณนาแบบนีผ้ ้อู ่านจะสามารถ นึกตาม เห็นภาพ เข้าใจถ้อยคา ๒.๒ การบรรยายให้เห็น และข้ อความอย่าง แจ่มแจ้ ง นาฏการ ลกึ ซงึ ้
ความไพเราะหรือความดีเด่นของถ้อยคาในบท ละครนอกนนั้ เน้นหนกั ที่สานวนโวหารอนั คมคาย การ ใช้ถ้อยคาโต้ตอบกันอย่างเผ็ดร้ อนแต่ก็น่าฟั ง เพราะ เป็ นคารมท่ีเฉียบแหลม ทาให้ มองเห็นลักษณะ ของ “ละครชาวบ้าน” ซง่ึ การใช้ภาษาไม่ละเมียดละไม ประณีตบรรจงเท่ากบั ละครใน ซงึ่ ละครนอกจะใช้คาง่าย ตรงไปตรงมา และสนกุ แบบ “สาแก่ใจ” ผ้ชู ม
จดั ทาโดย นางสาวไซตน มะยโู ซ๊ะ รหสั นกั ศกึ ษา 406001037 หลกั สตู รครุศาสตรบณั ฑิต สาขาวชิ าภาษาไทย ชนั้ ปี ท่ี3
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: