Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเลี้ยงแมวแก้แล้วครั้งที่1 วิชาการงานอาชีพ

การเลี้ยงแมวแก้แล้วครั้งที่1 วิชาการงานอาชีพ

Published by Guset User, 2023-01-24 15:13:39

Description: การเลี้ยงแมวแก้แล้วครั้งที่1 วิชาการงานอาชีพ

Search

Read the Text Version

การเลี้ยงแมว

พันธุ์สกอตติช โฟลด์ (Scottish Fold )

แมวพันธุ์ สกอตติช โฟลด์ ถือกำเนิดขึ้นในประ เทศสก็อตแลนด์ จากคนเลี้ยงแกะที่ชื่อนาย “วิลเลี่ยม รอส” ในปีค.ศ. 1961 โดยนายวิลเลี่ยม พบแมวตัวหนึ่ งในโรงนาของเพื่ อนบ้านที่มีลักษณะหู พับและมีสีขาวทั้งตัวโดยบังเอิญ ซึ่งแมวตัวนี้เป็น ของเพื่อนบ้านของเขาที่ชื่อว่า “ซูซี่” นายวิลเลี่ยม สนใจซูซี่เป็นอย่างมาก เมื่อซูซี่ได้ให้กำเนิดลูกแมว น้ อยที่มีลักษณะหูพับเหมือนกัน นายวิลเลี่ยมจึงขอ ซื้อจากเจ้าของ แล้วนำมาเลี้ยงที่บ้าน โดยตั้งชื่อแมว ที่เป็นลูกของซูซี่นี้ว่า “สนู๊กส์” เมื่อโตขึ้นนายวิล เลี่ยมจึงนำมาผสมพันธุ์กับสายพันธุ์ บริติช ชอร์ต แฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้จากนั้นก็ เริ่มมีคนสนใจนำแมวที่มีลักษณะหูพับนี้ไปปรับปรุง พันธุ์ จนกระทั่งในปี 1966 ก็ได้มีการตั้งชื่อแมวหูพับ นี้ว่า สกอตติช โฟลด์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับสถานที่ที่ กำเนิดแมวสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา แมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้าง อย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มีคนนิยมเลี้ยง มากที่สุดในโลกอีกด้วย

-ลักษณะทางกายภาพ สกอตติช โฟลด์ เป็นแมวขนาดกลาง รูปร่างกะทัดรัด รูปร่างกลม เพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 2.5-4 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนัก ได้ถึง 5.8 กิโลกรัม มีจุดเด่นที่ใบหูพับลงไปข้างหน้ า และพับลงต่ำ อีกทั้งขนาดของใบหูมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีดวงตาที่กลมโตคล้าย นกฮูก หัวค่อนข้างกลม ช่วงคอสั้น และมีจมูกสันโค้งกว้างรับกับ ดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของ Smiling Cat ส่วนหางจะยาวรับกับขนาดตัว หางเรียวยาว ปลาย หางเป็นทรงมน เท้าทั้งสี่ขามีลักษณะกลม -ลักษณะนิสัย สกอตติช โฟลด์มักมีนิสัยที่สุภาพ ฉลาด และมีนิสัยว่านอนสอนง่าย อีกทั้งยังสามารถปรับตัวได้ดี ยิ่งไปกว่านั้น สกอตติช โฟลด์เป็นแมว ที่ชอบแสดงความรักมาก พวกมันติดเจ้าของมาก แต่ก็จะไม่รบกวน หรือทำให้รำคาญ -การดูแล การออกกำลังกาย การเลี้ยงแมวพันธุ์สกอตติช โฟลด์ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายมาก เป็ นแมวที่ออกกำลังกายปานกลางพวกมันจะชอบที่จะเล่นกับ เจ้าของ รักที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ เจ้าของ กิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้แมวออกกำลังกาย เช่น การเล่นปาบอล จะช่วยให้แมวได้ใช้พลังงานบ้าง อีกทั้งการเล่นของพวกมันยัง เป็ นการพัฒนาสมองอีกด้วย อาหาร การให้อาหารที่จำเป็นสำหรับสกอตติช โฟลด์ ควรมีสัดส่วนที่เหมาะ สมกับความต้องการของร่างกาย และกิจกรรมในแต่ละวันของแมว โดยปริมาณแคลอรี่ที่แนะนำต่อวันในแมวคือ 60-80 กิโลแคลอรี่ต่อ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หากให้มากจนเกินไปอาจเสี่ยงเกิดโรคอ้วนได้

แมวไทยขนสั้น (Domestic Shorthair : DSH)

แมวไทยขนสั้น (Domestic Shorthair : DSH) นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มต้นเมื่อใด และไม่ สามารถระบุได้ว่ามีกี่สายพันธุ์ แต่ได้ปรากฏหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์มากมาย เนื่องจากเนื่องจากเป็น สัตว์เลี้ยงยอดนิยมตั้งแต่โบราณ และยังมีความ เกี่ยวข้องกับความเชื่อที่ยังคงมีในปัจจุบัน ทั้งยัง ปรากฏแมวในสำนวนหรือสุภาษิตต่าง ๆ เป็นต้นว่า ‘ย้อมแมวขาย’ หรือ ‘ยื่นหมูยื่นแมว’ และ ‘ปิดประตูตี แมว’ เป็นต้น แสดงให้เห็นว ่าแมวไทยมีประวัติความ เป็ นมายาวนานในสมัยกรุงศรีอยุธยาเริ่มมีการแยก ลักษณะแมว ถือว่าเป็น “ตำราดูลักษณะแมว” เล่ม แรกที่ได้ทำการแยกแมวไทยตามลักษณะนิสัย หรือ บุคลิกของแมว ตำราดังกล่าวเป็นสมุดข่อย โดยแบ่ง เป็นแมวมงคลและแมวให้โทษทั้งหมด 23 สายพันธุ์ (เป็นแมวมงคล 17 สายพันธุ์ และแมวให้โทษ 6 สาย พันธุ์) เหตุที่แบ่งเป็นแมวให้คุณกับแมวให้โทษนั้น เป็ นความเชื่ อของคนในสมัยโบราณโดยดูว่าเลี้ยงแล้ว จะนำสิ่งที่ดี ๆ หรือสิ่งชั่วร้ายมาสู่ผู้เป็นเจ้าของหรือไม่ ทั้งนี้แมวไทยส่วนใหญ่มีนิสัยดี ไม่ดุร้าย ฉลาด รู้จัก ประจบประแจง และรักเจ้าของเป็นอย่างมาก อีกทั้งยัง สามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมในประเทศได้เป็ น อย่างดี จึงเป็นเหตุให้แมวไทยยังได้รับนิยมเลี้ยงมา จนถึงปั จจุบัน

ลักษณะทางกายภาพ แมวไทยขนสั้น เป็นแมวขนาดกลาง โดยหัวมีลักษณะโครงสร้าง ยาวสมส่วนปราดเปรียว มีลำตัวขนาดเล็ก น้ำหนักเบา บวกกับการ เคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคล่องตัวของพวกมัน จนบางครั้งก็ได้รับ ฉายาว่า แมวขโมย อีกทั้งโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อที่มีความ ยืดหยุ่นสูง ดวงตากลมขนาดใหญ่ คอและลำตัว ขาเรียวเล็ก อุ้งเท้า กลม หางยาว -ลักษณะนิสัย แมวไทยมีความฉลาด เลี้ยงง่าย มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จัก ประจบ รักบ้าน รักเจ้าของ ที่สำคัญรักความอิสระของตัวเองเป็น อย่างมาก ได้ชื่อว่าเป็นแมวที่ชอบหนีเที่ยวเป็นประจำ เพราะ เป็น แมวที่ชอบเข้าสังคม ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัวที่ทำให้แตกต่าง จากแมวพันธุ์อื่น -การดูแล การออกกำลังกาย พวกมันมีนิสัยที่ขี้เล่น และยังชอบทำกิจกรรม การให้แมวออกกำลัง กายยังมีประโยชน์เพื่ อช่วยรักษาความสมดุลของระบบกล้ามเนื้ อ เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และยังช่วยพัฒนาสมองอีก ด้วย นอกจากนั้นยังช่วยลดภาวะเครียดเมื่อแมวต้องอยู่ลำพัง อาหาร เพียงให้อาหารที่เหมาะสมและมีปริมาณแคลอรี่ที่เพียงพอต่อสัตว์ โดยเลือกสารอาหารที่จำเป็น และมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับความ ต้องการของร่างกายและกิจกรรมในแต่ละวันของแมว รวมถึงควร ให้อาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีและ ความสวยงามของแมวด้วยเช่นกัน

ขาวมณี หรือขาวปลอด (Khao Manee)

แมวขาวมณี เป็นแมวที่มีต้นกำเนิดจาก ประเทศไทย ถูกบันทึกครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 14 ในเล่มที่เรียกว่า ตำราแมว เดิมมีชื่อว่า ขาว ปลอด ซึ่งมีความหมายว่าสีขาวสนิททั้งตัว จากนั้น ถูกเปลี่ยนมาเป็น ขาวมณี เนื่องจากมีสีตาที่แตก ต่างกันออกไป แมวขาวมณี เป็นที่ชื่นชอบของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ (รัชกาลที่ 5) ซึ่งเป็นกษัตริย์ของไทยในช่วงปี 1868 – 1910 โดยแมวพันธุ์ขาวมณีถูกเลี้ยงเป็นอย่างดี ภายในวังไม่ให้คนภายนอกเห็น และได้รับการ ปกป้ อง เพื่อให้เป็นแมวที่มีต้นกำเนิดจากรางวงศ์ ไทยแมวขาวมณีเป็นแมวที่พบได้ยาก และไม่เคย ถูกส่งออกนอกประเทศ และจนกระทั่งปี 1999 คอล ลีน เฟรมัท นักอนุรักษ์สัตว์ชาวอเมริกัน ได้เริ่มนำ แมวพันธุ์ขาวมณีจำนวน 12 ตัว ไปทำการเพาะ ขยายพันธุ์ และหลังจากนั้นไม่นาน นักเพาะพันธุ์ จากประเทศฝรั่งเศส ก็ได้สานต่อการขยายพันธุ์แมว ขาวมณี ทำให้กลายเป็นเจ้าเดียวในประเทศแถบ ตะวันตก

-ลักษณะนิสัย แมวขาวมณีเป็นแมวที่ขี้เล่นและขี้สงสัย เป็นแมวที่ชอบเล่น เกมส์และชอบที่จะสำรวจสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เข้ากับเด็ก แมว และสัตว์ขนาดเล็กได้ดี นอกจากนี้ลูกแมวขาวมณีเป็นแมวที่ ต้องการความรักความเอาใจใส่ และชอบเล่นกับแมวตัวอื่น ๆ -การดูแลขาวมณี การออกกำลังกาย เนื่องจากแมวขาวมณีโดยธรรมชาติเป็นแมวที่ชอบเล่น ชอบ ทำกิจกรรม ทำให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อช่วย รักษาความสมดุลของระบบกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของ ร่างกาย หากแมวได้ออกไปนอกบ้านมักจะเห็นแมวลงไปนอน กลิ้งที่พื้นหรือปีนบนต้นไม้ หรือถ้าหากเป็นแมวที่เลี้ยงภายใน ห้อง ควรมีเสาสำหรับฝนเล็บ โครงสำหรับปีนป่าย และของ เล่นแมว หรือสิ่งของอื่นๆ ที่สามารถให้แมวเล่นปลดปล่อย พลังงานในตัวได้ อาหาร ควรได้รับอาหารเม็ดและอาหารเปี ยกที่มีคุณภาพและเพียงพอ มีส่วนประกอบของโปรตีนมากกว่าคาร์โบไฮเดรต มีวิตามิน และกากใย และควรแยกชนิดอาหารสำหรับแมวเด็ก แมวโต และแมวอายุมาก เนื่องจากแมวเด็กมีความต้องการไขมันและ โปรตีน เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตมากกว่าแมวโต

วิเชียรมาศ (Siamese/Wichienmaat)

-ลักษณะทางกายภาพ แมวพันธุ์วิเชียรมาศ เป็นแมวขนาดกลาง โดยหัวมีลักษณะยาว สมส่วน, ดวงตาขนาดใหญ่ สีฟ้ า เป็นรูปทรงอัลมอนด์ (Almond shaped), คอและลำตัวยาว เป็นกล้ามเนื้อ, ขาเรียวเล็ก อุ้งเท้า กลม, หางยาวลักษณะคล้ายหางเสือ แต้มบริเวณหางจะมีสีเข้มจาก ปลายหาง และจางลงเมื่อขึ้นมาถึงโคนสะโพก -ลักษณะนิสัย แมวพันธุ์วิเชียรมาศ ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นแมวที่ ฉลาดมาก ขี้อ้อน เข้ากับคนได้ง่าย แต่มีเสียงร้องที่ดังมาก มีนิสัย คล้ายสุนัขในเรื่องการชอบเล่นคาบของคืน (Play fetch) และชอบ เล่นของเล่นเป็นอย่างมาก คล้ายกับสุนัขพันธุ์รีทรีฟเวอร์ วิเชียรมาศ เป็นแมวที่มีเสน่ห์มาก ต้องการความเอาใจใส่ และ ต้องการความรักเป็นอย่างมาก รวมถึงชอบให้ความรักกับเจ้าของ แต่สามารถปล่อยให้แมวอยู่ตัวคนเดียวในบ้านทั้งวันได้ -การดูแล การออกกำลังกาย สามารถพาออกกำลังกายด้วยการเล่นเกมส์ เช่น การเล่นคาบของ คืน หรือการปาลูกบอลให้แมววิ่งไปมา เป็นทางเลือกที่เหมาะสม สำหรับแมวพันธุ์นี้ และช่วยทำให้เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของ กับแมวได้อีกด้วย นอกจากนี้การให้แมวปีนต้นไม้ จะช่วยเสริมสร้าง กล้ามเนื้ อให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้ น อาหาร แมวพันธุ์วิเชียรมาศ มีนิสัยชอบกลืนอาหารมากกว่าเคี้ยวอาหาร ควรกระตุ้นให้แมวเคี้ยวอาหาร เพราะการเคี้ยวอาหารเม็ดจะช่วย ทำความสะอาดฟัน และลดการสะสมของหินปูนบริเวณฟัน ดั้งนั้น การเลือกขนาดและรูปแบบอาหารเม็ดจะมีผลต่อการกินอาหาร อาหารแบบเม็ดที่แมวพันธุ์วิเชียรมาศต้องการ ควรประกอบด้วยสาร อาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ เช่น โปรตีน 25%, ไขมัน 40%, ไฟเบอร์, และโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 เป็นต้น

แมวพันธุ์วิเชียรมาศ หมายถึง เพชรแห่งดวงจันทร์ (MoonDiamond)เป็นแมวขนาดกลางที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มี ต้นกำเนิดจากประเทศไทย (Thailand หรือชื่อดั้งเดิม Siam) และ ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ โดยในสมัยก่อนแมวพันธุ์วิเชียร มาศจะมีแต้มสีน้ำตาลเข้ม หรือดำเข้ม แต่ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ มาจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีสี และรูปแบบของแต้มที่แตกต่างออกไป ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ปี ค.ศ. 1877 ประธานาธิบดี รัทเทอร์ฟอร์ด บี. เฮส์ (President Rutherford B. Hayes) ได้รับ ของขวัญเป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศมาเลี้ยงที่สหรัฐอเมริกา จากการ ให้ของกษัตริย์แห่งประเทศไทย ผ่านทางเอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกา David B. Sickels ประจำประเทศไทยที่สถาน เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในปี ค.ศ. 1934 สมาคม The Cat Fanciers Association (CFA) ได้มีการขึ้นทะเบียนแมวพันธุ์วิเชียรมาศ รวมถึงได้กำหนดสีแต้ม และสีขนลำตัวที่พบได้ โดยเฉพาะบริเวณขา หาง ใบหน้ า และหู ซึ่ง หากพบแต้มสีน้ำตาล (Brown), สีดำ (Black) จะมีสีขนลำตัวเป็นสี น้ำตาลแกมเหลือง (Pale fawn) และหากพบแต้มสีช็อกโกแลต (Chocolate) จะมีสีขนลำตัวเป็นสีครีมขาว (Creamy white) ในปี ค.ศ. 1979 สมาคม The International Cat Association หรือสมาคมแมวนานาชาติ ถือเป็นการขึ้นทะเบียนแมวทาง พันธุกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้มีการขึ้นทะเบียนแมวพันธุ์วิเชียร มาศมาจนถึงปั จจุบัน

แมวเปอร์เซีย (Persian)

แมวเปอร์เซีย มีต้นกำเนิดในเถบเปอร์เซีย (เป็นที่ตั้งประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน) นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับพวกมันในปี ค.ศ. 1684 โดยพ่อค้าชาวเปอร์เซียนมักบรรทุกสินค้ามากมาย และ ได้ปรากฏแมวพันธุ์ขนยาวติดมากับกองคาราวานสินค้าด้วย อีกหลักฐานหนึ่ งได้กล่าวบรรพบุรุษของแมวเปอร์เซียได้ถูกนำ เข้ามายังยุโรปตั้งแต่ช่วง ปีค.ศ. 1620 แล้วได้รับความนิยมใน ยุโรปอย่างมาก และแพร่กระจายไปทั่วยุโรป จากนั้นในช่วงปลายปีศตวรรษที่ 19 นักพัฒนาสายพันธุ์แมว ชาวอังกฤษได้นำแมวเปอร์เซียสมกับสายพันธุ์อื่น เพื่อต้องการ ให้พวกมันมนขนที่ยาวและหนากว่าเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นของ สายพันธุ์ในปัจจุบัน จึงได้มีการนำไปขยายพันธุ์ในสหรัฐฯ ใน ช่วงต้นปี ค.ศ.1900 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับ การยอมรับในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มี คนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกอีกด้วยขนของแมวเปอร์เซียจะ มีความยาวและหนาฟู มีความมันวาว เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ แมวขนสวยเงางาม เส้นขนของแมวเปอร์เซียจะยาวตลอดทั้ง ลำตัว และมีขนเส้นเล็กแซมระหว่างขาหน้ า ใบหู นิ้วเท้า และ ที่หาง ส่วนสีขนของแมวเปอร์เซียที่มักจะพบเห็นบ่อยจะเป็น สีขาว สีดำ สีน้ำเงิน สีครีม สีแดง และสีช็อกโกแลต โดยมีได้ หลายรูปแบบทั้งสีเดียวตลอดตัว สองสี หรือสายสี ส่วนสีดวง ตาก็จะเป็ นสีเดียวกับสีขน นอกจากสีที่มีหลากหลายแล้ว ลวดลายก็มีหลายแบบเช่นกัน โดยอาจจะพบขนสีหลักและ แซมด้วยสีเงิน ทอง ดำ ทำให้เกิดเป็นเฉดสีหลายแบบและลาย ต่างๆ เช่น สีควันบุหรี่ ลายแบบสลิด สองสี เป็นต้น

ลักษณะทางกายภาพ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ มีโครงสร้าง กระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง โดยเพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 3-5 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง 4-6 กิโลกรัม หัวและหน้ ากลม หน้ า ผากโหนก แก้มมีโหนกเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่าง กัน มีจมูกที่หักที่เป็นจุดเด่นบนใบหน้ า จากคำอธิบายของ The Cat Fanciers Association (CFA) ได้ระบุลักษณะสายพันธุ์ไว้ว่า โครงสร้างลำตัวสั้นและกลม หัวกลมมน คอสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมี ปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นตรงและฟูคล้าย กับหางกระรอก จมูกเป็นสั้นและหัก ขนยาวหนาฟู มีท่วงท่าการเดินดู สง่างาม แต่มีจุดเด่นที่ใบหูพับลงไปข้างหน้ า และพับลงต่ำ ซึ่งบางตัวมี ปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี ลักษณะนิสัย เปอร์เซียมักมีนิสัยที่สงบเสงี่ยม สุภาพ อ่อนโยน ฉลาด และมีนิสัยว่า นอนสอนง่าย ชอบที่จะนั่งนิ่ง ๆ อยู่ข้างกายเจ้าของ อีกทั้งยังสามารถ ปรับตัวได้ดี แต่จะไม่ค่อยชอบใจเมื่ออยู่ในสถานที่มีเสียงดัง เพราะ พวกมันค่อนข้างรักสงบ รวมๆแล้วเป็นแมวที่มีนิสัยง่าย ๆ ไม่ค่อย ก่อกวนเจ้าของและรวมถึงไม่ค่อยแสดงออกว่าต้องการความรัก ความ สนใจจากเจ้าของเท่าไหร่การดูแล การออกกำลังกาย การเลี้ยงแมวพันธุ์เปอร์เซียนั้นการออกกำลังหนักอาจจะไม่จำเป็ นมาก นัก เพียงให้แมวได้ใช้พลังงานในแต่ละวันบ้าง การเล่นกับเจ้าของเป็น สิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้แมวออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็ง แรง อีกทั้งยังดีกับสภาพจิตใจ ทำให้แมวไม่รู้สึกเบื่อ อาหาร สารอาหารที่จำเป็ นสำหรับแมวเปอร์เซียควรมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับ ความต้องการของร่างกาย และกิจกรรมในแต่ละวัน เพียงให้อาหารที่ เหมาะสมและปริมาณแคลอรี่ที่เพียงพอต่อสัตว์ โดยปริมาณแคลอรี่ที่ แนะนำต่อวันในแมวคือ 60 กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) แต่ การให้อาหารแมวในแต่ละช่วงวัยก็มีความแตกต่าง และอาจส่งผลต่อ การเจริญเติบโตและความสวยงามของแมวด้วยเช่นกัน ผู้เลี้ยงก็ต้อง ใส่ใจกับความสะอาดของอาหารพอสมควร เพราะ อาหารที่บูดเสียก็อาจ ส่งผลต่อสุขภาพของแมวได้

สฟิ งซ์ (Sphynx)

สฟิงซ์ มีต้นกำเนิดในช่วงประมาณต้นปี 1960 ซึ่งเป็ นครั้งแรกที่มีการพัฒนาพันธุ์แมวขึ้นใน ประเทศแถบยุโรป แต่ แมวสฟิงซ์ ในปัจจุบันเป็น ที่รู้จักว่า มีการพัฒนามาจากโตรอนโต้ ประเทศ แคนนาดา ตั้งแต่ปี 1970 และในปัจจุบันนักเพาะ พันธุ์แบ่งต้นกำเนิดการพัฒนาของแมวสฟิ งซ์ออก เป็น 2 สาย คือ มาจากฝั่งมิเนสโซต้า และจาก ประเทศแคนนาดาถึงแม้ว่าสหฟิ งซ์จะดูเหมือน ไม่มีขน แต่ที่จริงแล้วสฟิงซ์มีขนขนาดที่เล็กมาก อยู่บนผิวหนังคล้ายกับขนของมนุษย์ และ สามารถมีหนวดได้เหมือนกับแมวชนิดอื่น จึงทำ ให้สฟิงซ์สามารถมีผิวหนังได้หลากหลายสี โดย สฟิงซ์จะมีรุปแบบของสีผิวที่แตกต่างกัน เช่น มีสี เดียวทั้งตัว มี 2 สี, 3 สี หรือมากกว่านั้น อายุขัย สฟิงซ์มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี

-ลักษณะทางกายภาพ นอกจากลักษณะพิเศษที่ แมวสฟิงซ์ ไม่มีขนแล้วยังมีลักษณะอื่น ๆ ที่แตกต่างจากแมวทั่วไป เช่น สฟิงซ์มีหุ่นที่ผอมเพรียว และมีความ แข็งแรงร่วมด้วย เนื่องจากสฟิงซ์ชอบวิ่งเล่นและทุ่มสุดตัวกับ เจ้าของหากมีโอกาศได้เล่น นอกจากนี้แมวสฟิงซ์ยังมีขนาดตัวที่ ใหญ่ หูยาวแหลม ซึ่งหูของสฟิงซ์ในขณะที่ยังเป็นลูกแมว ทำให้ แมวหน้ าตาคล้ายกับเอลฟ์ (Elf) และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้แมว สฟิ งซ์เป็ นที่รักและชื่ นชอบของผู้คนทั่วมุมโลก -ลักษณะนิสัย ลูกแมวสฟิงซ์มีลักษณะนิสัยต่างจากที่เห็น คือ มีลักษณะเฉพาะตัวที่ เด่น มีความแข็งแรง ขี้เล่น และสร้างความสนุกให้กับเจ้าของทุก ครั้งที่เล่นด้วยกัน สฟิงซ์ มักถูกเรียกว่า เอลฟ์ (elf-like) อาจเป็น เพราะหูที่ใหญ่ หรืออาจเป็นเพราะสฟิงซ์ชอบทำในสิ่งที่ตลก -การดูแล การออกกำลังกาย สฟิงซ์เป็นแมวที่ชอบทำกิจกรรมและชอบเล่น สฟิงซ์เป็นแมวที่ขี้ สงสัยมาก ชอบดมและตรวจสอบรอบ ๆ บริเวณมุมของบ้าน ทำให้ สฟิ งซ์ต้องการเวลาสำหรับเล่นและต้องการความสนใจจากเจ้าของ สฟิงซ์ควรได้รับการเลี้ยงดูภายในบ้าน ซึ่งเจ้าของจะสามารถเล่นกับ แมวด้วยของเล่นชนิดต่าง ๆ อาหาร เนื่องสฟิงซ์เป็นแมวที่มีอัตราการเผาพลาญพลังงานสูง ทำให้ ต้องการอาหารที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อทดแทนส่วนที่หายไป และเพื่อดูแลสุขภาพของแมวในอนาคต สฟิงซ์มีความต้องการ โปรตีนค่อนข้างสูง ซึ่งอาหารที่ให้ได้สามารถให้ได้ทั้งอาหาร สด(BARF) เช่น เนื้อไก่ เนื้อกระต่ายเนื้อปลา เป็นต้น อาหารเปียก หรืออาหารเม็ด อาหารโปรตีนช่วยป้ องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อใน ช่วงอายุมาก ส่วนคาร์โบไฮเดรตมีความต้องการน้ อยกว่าโปรตีน

จัดทำโดย 1. นางสาวมัญฑิตา บุญสะอาด เลขที่ 3 2.นางสาวเนติกานต์ ภูมิคอนสาร เลขที่ 11 3.นางสาวพิมพ์ชนก เหล่าคนค้า เลขที่ 14 4.นายนวพล ซ้ายสุข เลขที่10 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7 นำเสนอ คุณครูจุฑารัตน์ ชยันตรดิลก งานนี้เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพ รหัสวิชา ง32102 โรงเรียนคอนสารวิทยาคม อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนั กงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ชัยภูมิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook