โครงการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว30202 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565 จานวน 80 ช่วั โมง/ภาคเรียน ชอื่ -นามสกลุ นสิ ติ นางสาวพมิ พช์ นก นวกุล ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย โรงเรยี น กาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั อุทัยธานี สังกัด สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษา อุทัยธานี ชัยนาท
คานา โครงการสอน รายวิชาเพ่ิมเติม ว30202 ฟิสิกส์ 2 เป็นรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย อุทัยธานี ซ่ึงได้วิเคราะห์ บริบทของสภาพแวดล้อม สถานการณ์ ความต้องการของสังคม ท้องถ่ินสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สาระฟิสิกส์ 1 เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนท่ีแนว ตรงแรงและกฎการเคลื่อนที่ของนวิ ตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสยี ดทานสมดลุ กลของวัตถุงานและกฎการ อนุรักษ์พลังงานกลโมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคล่ือนท่ีแนวโค้งรวมท้ังนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ รายวิชา ว30202 ฟิสิกส์ 2 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนด้านทักษะวิทยาศาสตร์ สมรรถนะ สาคัญ 5 ประการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้เวลาเรียน 4 ช่ัวโมง/สัปดาห์ รวม 20 ชั่วโมง ซ่ึงแบ่ง เนือ้ หาเป็น 4 หน่วยการเรยี นรู้ ดังนี้ - หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 สมดลุ กล - หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 งานและพลังงาน - หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 โมเมนตัมและการชน - หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง ข้าพเจา้ หวังวา่ โครงการสอนเลม่ นี้ สามารถชว่ ยพัฒนาผูเ้ รยี น ใหม้ ีความรู้ เกิดทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ ในการศึกษาธรรมชาติ มีสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนตระหนักในคุณธรรม จรยิ ธรรม และเปน็ ประโยชน์แกผ่ สู้ นใจทว่ั ไปได้ นางสาวพิมพ์ชนก นวกุล ครูผชู้ ่วยโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย อุทยั ธานี
สว่ นท่ี 1 ขอ้ มลู ทั่วไปของสถานศกึ ษา
ขอ้ มูลทั่วไป โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย อุทัยธานี สังกดั ทีต่ ้ัง สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมอุทัยธานี ชยั นาท กระทรวงศึกษาธิการ หมู่ที่ 2 บา้ นเลขท่ี 20 ตาบลดอนกลอย อาเภอหนองขาหย่าง ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา จังหวัดอุทยั ธานี 61130 ชื่อภาษาไทย นายกติ ศิ ักด์ิ นโิ รจน์ ผอู้ านวยการโรงเรยี น ชอ่ื ภาษาอังกฤษ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั อทุ ยั ธานี คาขวัญ Kanchanapisekwitthayalai Uthaithani School คติพจน์ เรยี นเยี่ยม เป่ียมคุณธรรม สัมพันธช์ ุมชน สปี ระจาโรงเรยี น วิชชฺ า วเิ สโส โปสสสฺ “วชิ าเปน็ คุณวเิ ศษของคน” เหลอื ง-แดง เพลงประจาโรงเรยี น เหลือง หมายถงึ ศาสนา แดง หมายถงึ ชาติ เพลง มารช์ อ.ท.ว
ประวัติและความเปน็ มาของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย อุทยั ธานี เน่ืองในวโรกาสแหง่ ศุภมงคลวาระท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จเถลงิ ถวัลย ราชสมบตั ิครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถนุ ายน 2539 นับเปน็ วโรกาสพเิ ศษยิ่ง กรมสามญั ศึกษา สานกึ ในพระ มหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์มีตอ่ พสกนิกรชาวไทยอย่างล้นพ้น โดยเฉพาะในดา้ นการศึกษา จัดตงั้ โรงเรียน มธั ยมศกึ ษา 9 โรงเรียน เพื่อเป็นโรงเรยี นในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยได้รับพระมหากรณุ าธคิ ุณโปรด เกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามโรงเรียนว่า กาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย ต่อท้ายดว้ ยช่อื จงั หวัดทเ่ี ป็นสถาน ทต่ี ง้ั ของโรงเรยี น พร้อมท้งั พระราชทานพระบรมราชานุญาต ใหอ้ ัญเชญิ อักษร พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระมหาภชิ ัยมงกฎุ เปน็ เคร่ืองหมายของกลุ่มโรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย ท้ัง 9 โรงเรียน ประกอบดว้ ย จังหวดั นครปฐม สรุ าษฏร์ธานี กระบ่ี สุพรรณบุรี อุทยั ธานี เพชรบรู ณ์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ และจงั หวดั ฉะเชงิ เทรา นโยบายทส่ี าคญั ข้อหนง่ึ ของรัฐบาล คอื การกระจายโอกาสทางการศกึ ษาให้แก่เดก็ ในชนบท ไดม้ ี โอกาสเลอื กโรงเรยี นได้กวา้ งขวางย่ิงขนึ้ อธบิ ดกี รมสามญั ศึกษา นายบรรจง พงศ์ศาสตร์ และผูว้ า่ ราชการ จงั หวดั นายวิเชียร รัตนะพรี ะพงศ์ เหน็ วา่ จังหวดั อุทยั ธานีเปน็ จังหวัดทส่ี งบ ปราศจากแหล่งเริงรมย์ มี ส่ิงแวดลอ้ มทีด่ ีบริสุทธ์ิเปน็ เลิศและเป็นเมอื งที่ปิด ไม่มคี วามพลุกพล่าน จึงเปน็ จงั หวดั ที่มศี ักยภาพเหมาะสมที่ จะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา ของเขตการศึกษา 6 กระทรวงศกึ ษาธิการ จงึ ไดป้ ระกาศต้ังโรงเรยี น กาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย อุทัยธานี เมอ่ื วนั ท่ี 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538 เพื่อเป็นการเฉลมิ พระเกียรติฯ และ เปน็ อนุสรณใ์ นวโรกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวภูมิพลอดลุ ยเดชฯ ทรงครองสริ ริ าชสมบัติครบ 50 ปี โดยมชี ่ือวา่ “โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงครองสิรริ าชสมบัติ ครบ 50 ปี จงั หวัดอุทัยธานี” ตาบลดอนกลอย อาเภอหนองขาหยา่ ง จังหวดั อทุ ยั ธานี ต่อมากระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้รับพระมหากรณุ าธิคณุ อนั สงู ย่งิ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภูมิ พลอดลุ ยเดชฯ พระราชทานช่ือเปน็ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลยั อุทยั ธานี โดยประกาศเปลี่ยนช่ือ โรงเรียนในวนั ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2538 โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั อุทยั ธานี มพี ธิ ีวางศลิ าฤกษ์ 2 ครงั้ คือ ครง้ั ท่ี 1 วนั อังคารที่ 26 กนั ยายน พ.ศ.2538 โดยมีนายบรรจง พงศศ์ าสตร์ อธิบดีกรมสามญั ศึกษา เปน็ ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ ครั้งท่ี 2 วนั พฤหสั บดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2540 โดยมนี ายจรนิ ทร์ สวนแกว้ ผู้วา่ ราชการจงั หวดั อทุ ยั ธานี เป็นประธานในพิธวี างศิลาฤกษ์ (แผ่นดนิ ฤกษ์พระราชทาน)
โรงเรียนมีพนื้ ทท่ี ้ังหมด 127 ไร่ 33 ตารางวา ประกอบด้วย ท่ีดินสาธารณะประโยชน์ เลขที่ 14503 จานวน 116 ไร่ งาน 53 ตารางวา และทดี่ ินซ่ึง นางออมรกั รัตนพีระพงศ์ นายกเหลา่ กาชาด จังหวัดอทุ ัยธานี ยกให้อีก 10 ไร่ งาน 80 ตารางวา ท้ังหมด อยู่ในหมู่ท่ี 2 ตาบลดอนกลอย อาเภอหนอง ขาหยา่ ง จังหวดั อทุ ยั ธานี โรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย อทุ ัยธานี เปน็ โรงเรียนประเภทประจา และไปกลับ รบั นักเรยี น แบบสหศึกษา ต้ังแต่ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1-6 ลักษณะของนักเรียนเม่อื จบการศึกษาจากโรงเรยี นแหง่ น้ี จะเปน็ นักเรียนทีม่ รี ะเบยี บวินัย มจี รรยามารยาทเรยี บร้อย มีความเปน็ ผู้นา เปน็ สภุ าพบุรุษ สภุ าพสตรี มีร่างกาย สมบูรณแ์ ข็งแรง และมีความรู้ความสามารถเปน็ อยา่ งดี เร่ิมรบั นักเรียนครง้ั แรกเมื่อปีการศกึ ษา 2538 โดย ใชส้ ถานที่อาคารชั่วคราวโรงเรียนอทุ ัยวทิ ยาคม ปีการศกึ ษา 2539 จงึ ได้ย้ายมายังทด่ี ินของตนเอง ณ ตาบล ดอนกลอย โดยสรา้ งอาคารชั่วคราวหลงั คามงุ แฝกใช้จดั การเรียนการสอน 2 ปีการศึกษา 2539-2540 ขนึ้ เรียกอาคารถาวรไดเ้ มื่อปี 2540 จนถงึ ปจั จุบัน วิสยั ทัศนข์ องโรงเรยี น โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลยั อทุ ัยธานี เทิดทนู ชาติ ศาสนก์ ษตั รยิ ์ เสรมิ สร้างระเบยี บวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม ควบคกู่ ับความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ สืบสานงานพระราชดาริ
สว่ นท่ี 2 โครงการจดั การเรยี นรู้
ว 30202 ฟิสกิ ส์ 2 คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง จานวน 2 หนว่ ยกิต ศกึ ษาหลักการของกลศาสตรใ์ นเรอ่ื งสมดุลกลและเง่ือนไขที่ทาใหว้ ัตถหุ รือระบบอยใู่ นสมดุลกล ศูนย์กลางมวลของวัตถุและผลของศูนย์ถว่ งทมี่ ีตอ่ เสถียรภาพของวตั ถุ งาน พลังงาน ความสมั พันธร์ ะหวา่ งงาน พลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกับพลังงานศักย์โนม้ ถว่ ง และความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งขนาดของแรงท่ใี ช้ ดึงสปรงิ กบั ระยะที่สปรงิ ยืดออก แรงอนุรักษ์ กฎการอนุรกั ษ์พลังงาน กาลงั เครื่องกลอย่างง่าย ประสิทธภิ าพ และการไดเ้ ปรียบเชงิ กลของเครื่องกลอยา่ งง่ายบางชนิด โมเมนตมั การชนกนั ของวัตถใุ นหนง่ึ มติ ิ การดล แรง ดลและกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจคไทล์ และการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดบั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสบื ค้นข้อมลู การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธปิ ราย อภปิ รายและสรุป เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการ ตัดสนิ ใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ ด้านการคดิ และการแกป้ ญั หา ดา้ นการสอ่ื สาร สามารถสอ่ื สารสิ่งท่ีเรยี นรู้และนาความรู้ไปใชใ้ น ชีวติ ของตนเอง มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายสมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ท่มี ีต่อการหมุน แรงค่คู วบและผลของแรงคู่ ควบท่มี ตี ่อสมดุลของวตั ถุ เขียนแผนภาพของแรงที่กระทาต่อวตั ถุ อิสระเม่ือวัตถุอยู่ในสมดุลกล และ คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง รวมท้ังทดลองและอธิบายสมดลุ ของแรงสามแรง 2. สงั เกตและอธบิ ายสภาพการเคล่ือนที่ของวตั ถุ เมื่อแรงที่กระทาต่อวัตถผุ า่ นศนู ย์กลางมวลของวัตถุ และผลของศูนย์ถ่วงทมี่ ตี ่อเสถียรภาพของวตั ถุ 3. วเิ คราะห์ และคานวณงานของแรงคงตัวจากสมการและพน้ื ที่ใตก้ ราฟความสัมพันธร์ ะหว่างแรงกับ ตาแหนง่ รวมทั้งอธิบายและคานวณกาลงั เฉล่ีย 4. อธิบายและคานวณพลงั งานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลอง หาความสัมพนั ธร์ ะหว่างงานกบั พลงั งานจลน์ ความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง ความสมั พันธร์ ะหว่างขนาด ของแรง ที่ใช้ดึงสปรงิ กบั ระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ ระหวา่ งงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมทง้ั อธิบาย ความสัมพันธ์ระหวา่ งงานของแรงลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์ และคานวณงานที่เกดิ ข้ึนจากแรง ลพั ธ์ 5. อธิบายกฎการอนุรกั ษ์พลงั งานกล รวมท้งั วเิ คราะห์ และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกบั การ เคลือ่ นที่ของวตั ถุในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษ์ พลงั งานกล 6. อธิบายการทางาน ประสทิ ธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บเชงิ กลของเคร่ืองกลอย่างง่ายบางชนดิ โดยใช้ ความรู้เรอ่ื งงานและสมดลุ กล รวมท้งั คานวณประสิทธิภาพและการได้เปรยี บเชิงกล 7. อธบิ ายและคานวณโมเมนตัมของวตั ถุและการดลจากสมการและพนื้ ท่ใี ตก้ ราฟความสมั พันธร์ ะหว่าง แรงลพั ธ์กบั เวลา รวมทงั้ อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหว่างแรงดลกบั โมเมนตมั
8. ทดลอง อธิบายและคานวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกย่ี วกบั การชนของวตั ถุในหนึ่งมิติท้ังแบบยดื หยุ่น ไมย่ ืดหยุ่น และการดดี ตวั แยกจากกันในหนึง่ มติ ซิ ึง่ เปน็ ไปตามกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตมั 9. อธิบาย วเิ คราะห์ และคานวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้องกับการเคล่อื นท่ีแบบโพรเจกไทล์ และ ทดลองการเคลอื่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์ 10. ทดลองและอธบิ ายความสัมพันธ์ ระหวา่ งแรงสูศ่ นู ยก์ ลาง รัศมีของการเคลอ่ื นท่ี อตั ราเรว็ เชงิ เส้น อัตราเรว็ เชงิ มมุ และมวลของวตั ถใุ นการเคล่ือนท่ีแบบวงกลมในระนาบระดบั รวมท้งั คานวณปริมาณ ต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง และประยุกต์ใชค้ วามรู้การเคลอื่ นท่ีแบบวงกลมในการอธิบายการโคจรของ ดาวเทียม รวม 10 ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (K) 1. เพ่ือทาความรู้จกั และสร้างความคุน้ เคยระหวา่ งนกั เรยี น 2.เพอื่ ทาความเขา้ ใจกับนกั เรียน ในเนอ้ื หาท่จี ะเรยี น การวัดและประเมิน และระเบยี บปฏบิ ัตใิ นการ เรยี นวชิ าฟิสกิ ส์ 2 3. เพือ่ ให้นักเรียนทราบข้อปฏิบัติ และขอ้ ควรระวงั ในการทากิจกรรมในช้ันเรยี น 4. เพื่อให้นักเรียนมเี วลาในการเตรียมตัวลว่ งหนา้ และพร้อมทีจ่ ะเรียนเน้ือหาในชวั่ โมงต่อไป 5. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของสภาพสมดุลได้ 6. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายศูนย์กลางมวลและศูนย์ถ่วงได้ 7. นกั เรยี นสามารถอธิบายเกี่ยวกับวัตถทุ อี่ ยู่ในสมดลุ ต่อการเล่ือนทโ่ี ดยมีแรงหลายแรงมากระทา ถ้า แยกแรงออกเป็นองค์ประกอบในแนวแกนตั้งฉากกันสองแกน แรงลัพธ์ในแต่ละแกนมคี า่ เปน็ ศูนยไ์ ด้ 8. นักเรียนสามารถอธบิ ายได้วา่ วตั ถุทสี่ มดลุ ต่อการหมุนนน้ั วัตถอุ าจหยดุ นง่ิ ไม่หมนุ หรือหมนุ ดว้ ย ความเรว็ เชิงมุมคงตัว 9. นักเรียนสามารถบอกความหมายของสมดุลเสถียร สมดุลไม่เสถยี ร และสมดุลสะเทนิ ได้เชงิ มมุ คงตัว 10. นกั เรียนามารถอธบิ ายความหมายของงานในทางฟสิ ิกส์ได้และบอกความแตกตา่ งของงานบวก และงานลบได้ 11. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์หางานจากพ้นื ทใี่ ต้กราฟความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งแรงกับตาแหน่งได้ 12. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของกาลังและความสัมพันธ์ระหว่างกาลงั กบั งานได้ 13. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของพลังงานจลนไ์ ด้ 14. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานของแรงลพั ธ์กบั พลงั งานจลนจ์ ากการทดลอง 15. นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของพลงั งานศักยโ์ น้มถ่วงได้ 16. นักเรยี นสามารถอธิบายความสมั พันธร์ ะหวา่ งงานกับพลงั งานศักย์โนม้ ถว่ งจากการทดลอง 17. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของพลังงานศักย์ยืดหยุ่นได้ 18. นกั เรยี นสามารถอธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างขนาดของแรงท่ใี ชด้ ึงสปริงกับระยะท่สี ปริงยืดออก และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งงานกับพลงั งานศักยย์ ืดหยนุ่ จากการทดลอง 19. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายกฎการอนุรักษพ์ ลงั งานกลได้ 20. นกั เรียนสามารถคานวณหาปรมิ าณท่เี กีย่ วข้องกับกฎการอนุรักษ์พลังงานกลได้
21. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายประสทิ ธภิ าพของเครื่องกลและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าและหลกั การทางานของ เคร่อื งกลแบบต่าง ๆ ได้ 22. นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมายของโมเมนตัมได้ 23. นกั เรียนสามารถอธิบายแรงดลและการดลได้ 24. นกั เรยี นสามารถอธิบายการชนแบบยืดหย่นุ การชนแบบไมย่ ดื หยุ่นได้ และกฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม 25. นักเรียนสามารถอธบิ ายการดดี ตวั แยกออกจากกนั ในหน่ึงมิตไิ ด้ 26. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายลักษณะการเคลอ่ื นท่ีแบบโพรเจกไทล์ได้ 27. นักเรยี นสามารถยกตวั อย่างการเคลื่อนทแ่ี บบโพรเจกไทล์ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ได้ 28. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมาย ลักษณะของการเคล่อื นที่แบบโพรเจกไทล์ได้ 29. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลม ปรมิ าณทเ่ี กย่ี วข้อง และยกตวั อยา่ งการ นาไปใช้ประโยชน์ 30. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของการเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลมได้ ด้านทักษะพิสัย (P) 1. สามารถหาตาแหน่งของศูนยก์ ลางมวลและศนู ย์ถว่ งได้ 2. นกั เรียนสามารถเขยี นสภาพสมดลุ แต่ละประเภทท่พี จิ ารณาจากลักษณะการเคลอ่ื นท่ไี ด้ 3. นักเรียนสามารถทดลองหาแนวของแรงและขนาดของแรงสามแรงที่กระทาตอ่ วัตถแุ ล้วทาใหว้ ตั ถุ อย่ใู นสมดุลต่อการเคลอ่ื นที่และอย่นู ง่ิ ได้ 4. นักเรยี นสามารถคานวณปริมาณทเี่ กีย่ วขอ้ ง เม่ือมแี รงมากระทากบั วตั ถุและวัตถุสมดุลต่อการ เคลือ่ นที่ โดยใชว้ ิธีการแยกแรงได้ 5. นักเรยี นสามารถคานวณหาคา่ ปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งเมอ่ื วตั ถุอย่ใู นสมดุลต่อการหมนุ ได้ 6. นักเรียนสามารถคานวณหาค่าปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั เสถยี รภาพของวัตถไุ ด้ 7. นกั เรียนสามารถแสดงวธิ ีคานวณหางานท่เี กิดขึ้นจากการใชแ้ รงเคลอื่ นวตั ถุในลักษณะต่าง ๆ จาก สมการและจากกราฟได้ 8. นักเรียนสามารถคานวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้องกับกาลังได้ 9. นักเรยี นสามารถทาการทดลองหาความสัมพนั ธ์ระหว่างงานของแรงลพั ธ์กบั พลงั งานจลน์ได้ 10. นักเรยี นสามารถแสดงวิธคี านวณหาพลังงานจลน์ 11. นกั เรยี นสามารถทาการทดลองหาความสัมพันธร์ ะหว่างพลงั งานศักย์โน้มถว่ งกับเสน้ ทางการ เคลอื่ นที่ได้ 12. นักเรยี นสามารถแสดงวธิ ีคานวณหาพลังงานศักย์โนม้ ถ่วง 13. นกั เรียนสามารถทาการทดลองหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งขนาดของแรงทีใ่ ช้ดงึ สปริงกับระยะท่ีสปริง ยดื ออก 14. นกั เรียนสามารถแสดงวิธคี านวณหาพลังงานศักย์ยืดหยุ่น 15. นักเรียนสามารถคานวณหาปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วข้องกับการไดเ้ ปรียบเชงิ กลจากเครือ่ งกลอย่าง งา่ ยได้ 16. นักเรียนสามารถคานวณหาโมเมนตมั ของวตั ถุได้ 17. นกั เรยี นสามารถคานวณหาปรมิ าณตา่ งๆเก่ียวกับแรงกับการเปลีย่ นโมเมนตัมได้
18. นักเรียนสามารถคานวณหาปริมาณตา่ งๆเกีย่ วกบั การดลและแรงดลได้ 19. นกั เรยี นสามารถสรา้ งบรรจภุ ัณฑ์กันกระแทกสาหรบั ผลไมไ้ ดโ้ ดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรมได้ 20. นักเรียนสามารถเลือกใช้สอ่ื สารสนเทศ และเทคโนโลยี ในการสบื ค้นหาข้อมลู ไดอ้ ย่าง หลากหลาย 21. นกั เรยี นสามารถเลือกใช้สอ่ื สารสนเทศ และเทคโนโลยี ในการประเมินความน่าเช่ือถือของขอ้ มูล ตระหนกั ถึงผลกระทบในการเผยแพรข่ ้อมูล 22. นักเรยี นสารถใช้กฎการอนุรักษ์โมเมนตัมในการคานวณหาปรมิ าณต่างๆได้ 23. นักเรียนสามารถทาการทดลองเก่ียวกับการชนของวตั ถุในหน่ึงมิติได้ 24. นักเรียนสามารถทาการทดลองเกย่ี วกับการดดี ตวั แยกออกจากกนั ในหนงึ่ มติ ิได้ 25. นกั เรยี นสามารถคานวณปริมาณที่เกีย่ วขอ้ งกบั การชนและการดีดตัวแยกออกจากกันของวัตถุได้ 26. นกั เรียนสามารถนาหลักการของการเคลื่อนท่แี บบโพรเจกไทล์ไปคานวณปริมาณตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง กบั การเคล่ือนแบบโพรเจกไทล์ 27. นกั เรยี นสามารถทาการทดลองเก่ียวกับการเคล่อื นที่แบบวงกลมได้ 28. นักเรียนสามารถนาหลักการของการเคลื่อนท่ีแบบวงกลมไปคานวณปรมิ าณตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การเคล่ือนท่แี บบวงกลม ดา้ นจิตพิสัย (A) 1. นักเรียนมคี วามรับผิดชอบต่อหน้าที่และงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 2. นักเรียนสามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้อย่างสรา้ งสรรค์ 3. นักเรยี นมคี วามสนใจ และใฝ่เรียนรู้ 4. นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการทางานกลมุ่
ว30202 ฟิสกิ ส์ 2 โครงสร้างรายวชิ า ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชว่ั โมง จานวน 2 หนว่ ยกิต หน่วยท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐาน/ สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา(ชม.) คะแนน ตัวชว้ี ัด 1 สมดลุ กล สาระฟิสกิ ส์ -ส ม ดุ ล ก ล เ ป็ น ส ภ า พ ที่ วั ต ถุ รั ก ษ า ส ภ า พ ก า ร 22 10 เคลื่อนที่ให้คงเดิมหรือหยุดน่ิงหรือเคลื่อนท่ีด้วย ข้อ 1 ความเร็วคงตวั หรือหมนุ ดว้ ยความเร็วเชงิ มมุ คงตัว -วัตถุท่ีสมดุลต่อการเล่ือนที่คือหยุดน่ิง หรือ ม.4/8 เคล่ือนที่ด้วยความเร็วคงตัวเมื่อแรงลัพธ์ท่ีกระทา ต่อวัตถุเป็นศูนย์ เขียนแทนได้ด้วยสมการ ม.4/9 ∑������������=1 ������������ = 0 -วัตถุจะสมดุลต่อการหมุนคือไม่หมุนหรือหมุน ด้วยความเร็วเชิงมุมคงตัวเม่ือผลรวมของโมเมนต์ ท่ีกระทาต่อวัตถุเป็นศูนย์ เขียนแทนได้ด้วย สมการ ∑������������=1 ������������ = 0 โดยโมเมนตค์ านวณได้จากสมการ ������ = ������������ -เมอ่ื มีแรงคคู่ วบกระทาต่อวัตถุ แรงลัพธ์จะเทา่ กับ ศนู ย์ทาให้วัตถสุ มดลุ ต่อการเล่ือนทแ่ี ตไ่ มส่ มดุลต่อ การหมนุ -การเขียนแผนภาพของแรงที่กระทาต่อวัตถุ อิสระสามารถนามาใช้ในการพิจารณาแรงลัพธ์ และผลรวมของโมเมนต์ที่กระทาต่อวัตถุเม่ือวัตถุ อยู่ในสมดุลกล - เมื่อออกแรงกระทาต่อวัตถุที่วางบนพ้ืนท่ีไม่มี แรงเสียดทานในแนวระดับ ถ้าแนวแรงนั้นกระทา ผ่านศูนย์กลางมวลของวัตถุ วัตถุจะเคลื่อนที่แบบ เล่อื นทีโ่ ดยไมห่ มุน -วัตถุที่อยู่ในสนามโน้มถ่วงสม่าเสมอ ศูนย์กลาง มวลและศูนย์ถ่วงอยู่ท่ีตาแหน่งเดียวกัน โดยศูนย์ ถ่วงของวัตถมุ ผี ลต่อเสถียรภาพของวัตถุ
หน่วยท่ี ชือ่ มาตรฐาน/ สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน 2 หน่วย ตัวชี้วดั (ชม.) 15 -งานของแรงที่กระทาต่อวัตถุหาได้จากผลคูณ งานและ สาระฟิสิกส์ ระหว่างขนาดของแรงกับขนาดของการกระจัด 28 พลงั งาน ขอ้ 1 และโคไซน์ของมุมระหวา่ งแรงกบั การกระจัด ตาม ม.4/10 สมการ ม.4/11 ม.4/12 ������ = ������∆������������������������������ ม.4/13 หรือหางานได้จากพ้ืนท่ีใต้กราฟระหว่างแรงกับ การกระจัด โดยแรงท่ีกระทาอาจเป็นแรงคงตัว หรอื ไม่คงตัวก็ได้ -งานท่ีทาได้ในหน่ึงหน่วยเวลา เรียกว่า กาลัง เฉลีย่ ดงั สมการ ������������������ = ������ ∆������ -พลงั งานเป็นความสามารถในการทางาน -พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวั ตถุที่กาลัง เคลื่อนที่ คานวณได้จากสมการ ������������ = 1 ������������2 2 -พลังงานศักย์เป็นพลงั งานท่ีเกี่ยวข้องกับตาแหนง่ หรือรูปร่างของวัตถุซึ่งแบ่งออกเป็นพลังงานศักย์ โน้มถ่วง คานวณได้จากสมการ ������������ = ������������ℎ และ พลงั งานศักยย์ ดื หยนุ่ คานวณได้จากสมการ ������������ = 1 ������������2 2 -พลังงานกลเป็นผลรวมของพลังงานจลน์และ พลงั งานศักย์ ตามสมการ ������ = ������������ + ������������ -แรงที่ทาให้เกิดงานโดยงานของแรงนั้นไม่ขึ้นกับ เส้นทางการเคลื่อนท่ี เช่น แรงโน้มถ่วงและแรง สปรงิ เรยี กว่าแรงอนุรักษ์ -งานและพลังงานมีความสัมพันธ์กันโดยงานของ แรงลัพธ์เท่ากับพลังงานจลน์ของวัตถุท่ีเปลี่ยนไป ตามทฤษฎีบทงาน-พลังงานจลน์ เขียนแทนได้ ด้วยสมการ ������ = ∆������������
หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน ตัวชว้ี ดั (ชม.) - ถา้ งานท่เี กิดขนึ้ กบั วัตถุเป็นงานเนื่องจากแรง อนรุ ักษ์เท่านั้น พลังงานกลของวัตถจุ ะคงตัวซ้งึ เปน็ ไปตามกฎการอนุรกั ษ์พลังงานกล เขยี นแทน ได้ดว้ ยสมการ ������������ + ������������ = คา่ คงตัวโดยที่ พลงั งานศักย์อาจเปลีย่ นเปน็ พลังงานจลน์ -กฎการอนุรักษพ์ ลังงานกลใช้วเิ คราะห์การ เคล่อื นทตี่ า่ งๆ เชน่ การเคลื่อนท่ขี องวตั ถทุ ีต่ ิด สปริงการเคลอื่ นท่ีภายใตส้ นามโนม้ ถ่วงของโลก -การทางานของเครือ่ งกลอย่างงา่ ย ได้แก่ คาน รอก พื้นเอียง ลิม่ สกรู และล้อกับเพลา ใช้หลัก ของงานและสมดุลกลประกอบการพิจารณา ประสทิ ธิภาพและการไดเ้ ปรียบเชิงกลของ เคร่อื งกลอยา่ งงา่ ยประสิทธิภาพคานวณไดจ้ าก สมการ ������������������������������������������������������������ = ������������������������ ������100% ������������������ การได้เปรยี บเชงิ กลคานวณได้จากสมการ ������. ������. = ������������������������ = ������������������ ������������������ ������������������������ - วัตถุทเ่ี คล่ือนท่ีจะมโี มเมนตัมซงึ่ เปน็ ปริมาณ เวกเตอรม์ ีค่าเท่ากับผลคูณระหวา่ งมวลและ ความเร็วของวัตถุ ดังสมการ ������⃑ = ������������⃑ - เมอ่ื มีแรงลัพธก์ ระทาต่อวัตถุจะทาให้ โมเมนตัมของวัตถุเปลีย่ นไป โดยแรงลัพธเ์ ทา่ กับ อัตราการเปลี่ยนโมเมนตมั ของวัตถุ -แรงลัพธ์ท่ีกระทาต่อวัตถุในเวลาสั้น ๆ เรยี กว่า แรงดล โดยผลคณู ของแรงดลกบั เวลา เรียกว่า การดล ตามสมการ ������ ������ = (∑ ������⃑������)∆������ ������=1 ซ่งึ การดลอาจหาไดจ้ ากพื้นทใ่ี ตก้ ราฟระหว่าง แรงดลกบั เวลา
หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐาน สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน /ตัวช้วี ดั (ชม.) -ในการชนของวัตถุและการดีดตัวออกจากกนั ชอง 30 วัตถุในหน่ึงมติ ิ เม่ือไมม่ ีแรงภายนอกมากระทา โม 5 เมนตัมของระบบมีค่าคงตวั ซึ่งเป็นไปตามกฎการ อนรุ ักษ์โมเมนตัม เขียนแทนได้ดว้ ยสมการ 10 ������������⃑ = ������⃑������ โดย ������⃑������ เป็นโมเมนตัมของระบบก่อนชน และ ������⃑������เปน็ โมเมนตัมของระบบหลังชน สอบกลางภาค 2 10 3 โมเมนตัมและ สารฟิสิกส์ การชน ขอ้ 1 -ในการชนกนั ของวัตถุที่พลังงานจลน์ของระบบอาจ ม.4/14 คงตวั หรอื ไม่คงตัวก็ได้ การชน ม.4/15 ทีพ่ ลังงานจลน์ของระบบคงตัวเป็นการชนแบบ ยดื หย่นุ สว่ นการชนท่พี ลงั งานจลนข์ องระบบไมค่ ง ตวั เปน็ การชนแบบไมย่ ืดหยนุ่ 4 การเคลื่อนที่ สาระ - การเคลือ่ นท่ีแนวโคง้ พาราโบลาภายใต้สนามโนม้ 16 แนวโค้ง ฟสิ ิกส์ ถ่วง โดยไม่คดิ แรงต้านของอากาศเป็นการเคล่ือนที่ ข้อ 1 แบบโพรเจกไทล์ วตั ถมุ ีการ ม.4/16 เปล่ยี นตาแหนง่ ในแนวด่งิ และแนวระดับพร้อมกนั ม.4/17 และเป็นอิสระต่อกัน สาหรับการเคล่อื นที่ในแนวด่งิ เป็นการเคลื่อนที่ที่มแี รงโนม้ ถ่วงกระทาจึงมคี วามเร็ว ไมค่ งตวั ปรมิ าณต่างๆ มีความสมั พนั ธ์ตามสมการ ������������ = ������������ + ������������������ [������������ + ������������] ∆������ = 2 ������ ∆������ = ������������������ + 1 ������������������2 2 ���������2��� = ���������2��� + 2������������∆������ ส่วนการเคล่อื นที่ในแนวระดบั ไม่มีแรงกระทาไม่มี แรงกระทาจงึ มีความเรว็ คงตัว ตาแหน่ง ความเรว็ และเวลามคี วามสัมพนั ธ์ตามสมการ ∆������ = ������������������ - วัตถทุ ี่เคลอื่ นทเ่ี ป็นวงกลมหรอื สว่ นของวงกลม เรยี กวา่ เป็นการเคลื่อนท่ีแบบวงกลม ซ่งึ มแี รงลัพธท์ ่ี กระทากบั วัตถใุ นทิศเข้าสู่ศนู ย์กลาง เรียกวา่ แรงสู่ ศูนยก์ ลาง ทาให้เกิดความเร่งสศู่ ูนยก์ ลางท่ีมีขนาด
หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน ที่ (ชม.) 30 สมั พันธก์ บั รศั มขี องการเคลือ่ นท่ี และอัตราเร็ว 100 เชงิ เสน้ ของวัตถซุ ึ่งแรงส่ศู นู ย์กลางคานวณได้ จากสมการ ������������ 2 ������������ = ������ - นอกจากนี้ การเคลอ่ื นทแี่ บบวงกลมยงั สามารถอธบิ ายไดด้ ้วยอตั ราเร็วเชงิ มมุ ซง่ึ มี ความสมั พนั ธ์กับอตั ราเร็วเชิงเสน้ ตามสมการ ������ = ������������ และแรงส่ศู นู ย์กลางมคี วามสมั พนั ธ์กบั อัตราเรว็ เชิงมุมตามสมการ ������������ = ������������2������ -ดาวเทียมทีโ่ คจรเปน็ แนววงกลมรอบโลกมีแรง ดงึ ดูดทโี่ ลกกระทาต่อดาวเทียมเปน็ แรงสู่ ศนู ย์กลาง ดาวเทยี มทมี่ ีวงโคจรค้างฟา้ ในระนาบ ของเสน้ ศูนยส์ ูตรมคี าบการโคจรเท่ากบั คาบการ หมนุ รอบตัวเองของโลกหรือมีอตั ราเรว็ เชิงมุม ของตาแหน่งบนพน้ื โลก ดาวเทียมจึงอยู่ตรงกับ ตาแหน่งทีก่ าหนดไว้บนพน้ื โลกตลอดเวลา สอบปลายภาค 2 รวม 80
กาหนดการจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 รายวชิ า ว30202 ฟิสกิ ส์ 2 จานวน 2 หน่วยกิต เวลาเรยี น 80 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย อุทัยธานี สัปดาห์ หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา(ช่วั โมง) 1 หน่วยท่ี 4 สมดุลกล 22 การปฐมนเิ ทศรายวชิ า 2 4 4.1 สมดลุ กล 4 4 4.2 ศูนย์กลางมวลและศนู ย์ถ่วง 4 4 4.3 สมดลุ ตอ่ การเคล่ือนท่ี 28 4 4.3 สมดลุ ต่อการหมุน 4 1-9 4.4 เสถียรภาพของวตั ถุ 8 2 หน่วยท่ี 5 งานและพลังงาน 4 4 5.1 งาน 4 10 5.2 กาลงั 2 2 5.3 พลังงานกล 2 2 10 สอบกลางภาค 2 16 5.3 พลังงานกล 8 8 5.4 การอนุรักษ์พลงั งานกล 2 80 5.5 เครือ่ งกล หนว่ ยท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 6.1 โมเมนตัม 11-19 6.2 แรงและการเปล่ยี นแปลงโมเมนตัม 6.3 การดล 6.4 การอนรุ ักษ์โมเมนตัม 6.5 การชนและการดดี ตัวแยกออกจากกนั หนว่ ยท่ี 7 การเคล่อื นทแ่ี นวโคง้ 7.1 การเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์ 7.2 การเคลื่อนที่แบบวงกลม 20 สอบปลายภาค รวมเวลาท้ังสน้ิ
รายวชิ า ว30202 ฟิสกิ ส์ 2 แผนการจดั การเ ก ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2565 สปั ดาหท์ ี่/จานวนชวั่ โมง สาระการเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 1 การปฐมนิเทศน์รายวชิ า 1. ครแู นะนาต (2 ช่ัวโมง) 2. ครแู ละนกั เ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เกยี่ วกบั กฎแล รว่ มกัน 3. ครูบอกเนื้อ รวมถึงการปร
เรยี นรรู้ ะยะยาว ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลยั อุทัยธานี กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือและแหล่งการ วิธีการวดั ผลและ เรียนรู้ ประเมินผล ตัวเองและหนังสอื ทใี่ ช้เรยี น - ผลการเรียนรู้ เรยี นร่วมกันทาข้อตกลง รายวิชา ฟิสกิ ส์ ละมารยาทในการใช้ หอ้ งเรียน เพิ่มเติม 2 ว31202 อหาที่จะเรยี นในภาคเรยี นท่ี 2 ระเมนิ -
สปั ดาหท์ ี่/จานวนชว่ั โมง สาระการเรยี นรู้ ก สัปดาห์ท่ี 1 สมดลุ กล 1. ครตู ง้ั คาถา (4 ช่วั โมง) นกั เรียน เก่ยี ว หน่วยท่ี 1 สมดลุ กล 2. ครอู ธบิ ายท แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 กล พร้อมยกต 3. ครแู ละนกั เ ใบงานและอภ 4. ครูใหน้ กั เร เพมิ่ เติมและท
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ และแหล่งการ วธิ กี ารวัดผลและ เรียนรู้ ประเมนิ ผล ามกระตุ้นความสนใจแก่ วกับความรูเ้ รื่องสมดลุ - หนังสือเรยี น วธิ กี ารวดั ทม่ี าและความหมายของสมดุล รายวิชาเพ่มิ เตมิ 1. ตรวจใบงาน ตวั อย่าง วิทยาศาสตร์และ 2. แบบสงั เกต เรียนร่วมกันศึกษาความรจู้ าก เทคโนโลยี ฟสิ ิกส์ พฤติกรรม ภิปรายหาข้อสรุปที่ถกู ต้อง เล่ม 2 เคร่ืองมือ รียนร่วมกันสืบค้นหาความรู้ -สอ่ื Power point 1. ใบงาน เร่ือง ทาใบงาน เรื่อง สมดลุ กล สมดุลกล -ใบงาน เรอื่ ง 2. แบบสังเกต สมดุลกล พฤติกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ประเมินจากใบ งาน ผ่านร้อยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดับดีขน้ึ ไป
สปั ดาหท์ ี่/จานวนชว่ั โมง สาระการเรียนรู้ ก สัปดาห์ท่ี 2 ศนู ย์กลางมวลและศนู ย์ถว่ ง 1. ครตู ง้ั คาถา (4 ช่วั โมง) นักเรียนเพื่อน หน่วยท่ี 1 สมดลุ กล ศนู ยก์ ลางมวล แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 2. ครใู ห้นกั เร ศนู ยก์ ลางมวล 3. ครูอธิบายเ ศนู ย์ถว่ ง พร้อ ศนู ย์กลางมวล 4. ครูให้นักเร ศนู ย์กลางมวล 5. ครูและนักเ
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อและแหล่งการ วิธกี ารวัดผลและ เรียนรู้ ประเมินผล ามกระตุน้ ความสนใจแก่ - หนังสอื เรียน วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน นาเข้าสูบ่ ทเรียน เกี่ยวกับ รายวชิ าเพิ่มเติม 2. แบบสังเกต พฤติกรรม ลและศูนยถ์ ่วง วิทยาศาสตร์และ เครือ่ งมอื 1. ใบงาน เร่อื ง รยี นสืบค้นและศึกษาเก่ยี วกับ เทคโนโลยี ฟสิ ิกส์ ศูนย์กลางมวลและ ศนู ยถ์ ว่ ง ลและศูนย์ถ่วง เลม่ 2 2. แบบสังเกต พฤติกรรม เกีย่ วกับศูนย์กลางมวลและ -สื่อ Power point เกณฑ์การประเมนิ 1. ประเมนิ จากใบ อมยกตวั อย่างวิธีการคานวณหา เรื่อง สมดลุ กล งาน ผา่ นร้อยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน ลและศนู ยถ์ ่วง -ใบงาน เรอ่ื ง พฤติกรรมผา่ นใน ระดับดขี ึ้นไป รยี นทาใบงานเกีย่ วกบั ศูนย์กลางมวลและ ลและศูนย์ถว่ ง ศนู ยถ์ ว่ ง เรยี นรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หาทเ่ี รยี น
สปั ดาหท์ ี่/จานวนช่วั โมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ท่ี 3 สมดลุ ตอ่ การเคล่ือนท่ี 1. ครูทบทวน (4 ชว่ั โมง) และศนู ยถ์ ่วง หนว่ ยที่ 1 สมดลุ กล 2. ครูใหน้ กั เร แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 สมดุลต่อการเ 3. ครอู ธบิ ายเ 4. ครูใหน้ กั เร สมดลุ ตอ่ การเ 5. ครูและนกั เ
กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ และแหล่งการ วิธีการวดั ผลและ เรยี นรู้ ประเมนิ ผล นความรู้เก่ียกบั ศูนย์กลางมวล -หนังสือเรียน วธิ ีการวัด รียนสืบคน้ และศึกษาเกย่ี วกับ รายวชิ าเพิม่ เติม 1. ตรวจใบงาน เคลอ่ื นท่ี วิทยาศาสตร์และ 2. แบบสงั เกต เกี่ยวกบั สมดลุ ตอ่ การเคล่ือนท่ี เทคโนโลยี ฟสิ กิ ส์ พฤติกรรม รียนรว่ มกันทาใบงานเก่ยี วกับ เล่ม 2 เครอ่ื งมือ เคล่อื นท่ี -สอ่ื Power point 1. ใบงาน เร่อื ง เรยี นรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หาทเ่ี รียน เร่ือง สมดลุ กล สมดลุ ตอ่ การ - ใบงาน เรื่อง เคล่ือนท่ี สมดุลตอ่ การ 2. แบบสงั เกต เคลือ่ นท่ี พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินจากใบ งาน ผ่านร้อยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดบั ดขี ึ้นไป
สัปดาหท์ ี่/จานวนชว่ั โมง สาระการเรยี นรู้ ก สัปดาห์ ที่ 4 (4 ช่วั โมง) สมดลุ ต่อการหมนุ 1. ครูทบทวน หนว่ ยท่ี 1 สมดุลกล การเคลอ่ื นท่ีจ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 กล 2. ครูยกตวั อย 3. ครูอธิบายเ 4. ครใู ห้นกั เร สมดุลต่อการห
กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและแหล่งการ วธิ กี ารวัดผลและ เรียนรู้ ประเมินผล นความรูเ้ ดิมเกี่ยวกับสมดลุ ต่อ จากการดูวดี โี อเกี่ยวกับสมดลุ - หนังสอื เรียน วธิ กี ารวัด รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 1. ตรวจใบงาน ยา่ งสมดลุ ต่อการหมุน วทิ ยาศาสตร์และ 2. แบบสังเกต เก่ยี วกับสมดุลต่อการหมนุ เทคโนโลยี ฟิสิกส์ พฤติกรรม รียนรว่ มกันทาใบงานเกีย่ วกับ เล่ม 2 เครอื่ งมือ หมุน -สื่อ Power point 1. ใบงาน สมดลุ ตอ่ เรอื่ ง สมดุลกล การหมนุ ฟิสิกส์ -ใบงาน สมดลุ ต่อ 2. แบบสังเกต การหมุนฟสิ ิกส์ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ 1. ประเมนิ จากใบ งาน ผ่านรอ้ ยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดับดขี ้นึ ไป
สัปดาห์ท่ี/จานวนชั่วโมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ ที่ 5 (4 ชั่วโมง) เสถียรภาพของวัตถุ 1. ครูทบทวน หน่วยที่ 1 สมดลุ กล การเรียนรใู้ นห แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 2. ครเู ลา่ เหตุก ชีวิตประจาวัน 3. นักเรยี นคน้ เสถียรภาพขอ 4. ครูอธบิ ายเ
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื และแหล่งการ วิธีการวดั ผลและ นความรู้ทนี่ ักเรยี นได้รบั จาก เรียนรู้ ประเมนิ ผล หน่วยที่ 4 การณ์ท่ีเกดิ ข้ึนจริงใน - หนงั สอื เรียน วิธกี ารวดั นเกยี่ วกบั เสถียรภาพของวัตถุ นควา้ หาข้อมลู เกี่ยวกบั รายวิชาเพิม่ เติม 1. ตรวจใบงาน องวัตถุ เกี่ยวกับเสถยี รภาพของวตั ถุ วิทยาศาสตรแ์ ละ 2. แบบสังเกต เทคโนโลยี ฟสิ กิ ส์ พฤติกรรม เล่ม 2 เครือ่ งมอื -ส่อื Power point 1. ใบงาน เรอื่ ง เรอื่ ง เสถยี รภาพ เสถียรภาพของวัตถุ ของวตั ถุ 2. แบบสังเกต -ใบงาน เรอ่ื ง พฤติกรรม เสถียรภาพของวตั ถุ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ประเมนิ จากใบ งาน ผา่ นรอ้ ยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดบั ดขี ้ึนไป
สปั ดาหท์ ่ี/จานวนชั่วโมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ ท่ี 6 งาน 1. ครใู หค้ วาม (4 ชั่วโมง) แรงกบั การกร หน่วยท่ี 2 งานและ 2. ครูให้นกั เร พลงั งาน และการกระจ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 3. ครูและนกั เ ข้อสรุปเกี่ยวก
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ และแหล่งการ วธิ ีการวดั ผลและ เรียนรู้ ประเมนิ ผล มรเู้ กี่ยวกับความสมั พนั ธข์ อง ระจัด - หนงั สอื เรียน วิธกี ารวดั รยี นทากิจกรรมหางานจากแรง รายวชิ าเพิม่ เติม 1. ตรวจใบงาน จดั วิทยาศาสตร์และ 2. แบบสังเกต เรียนรว่ มกันอภิปรายเพ่อื ให้ได้ เทคโนโลยี ฟสิ ิกส์ พฤติกรรม กับการหางาน เล่ม 2 เคร่อื งมือ -ส่อื Power point 1. ใบงาน เร่อื ง งาน เรอื่ ง งาน 2. แบบสังเกต -ใบงาน เร่อื ง งาน พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ 1. ประเมนิ จากใบ งาน ผา่ นร้อยละ 60 2. การประเมินด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดับดีขนึ้ ไป
สัปดาหท์ ่ี/จานวนช่วั โมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ ท่ี 7 (4 ชัว่ โมง) กาลงั 1. ครนู าเข้าส หน่วยท่ี 2 งานและ ความรูเ้ ดมิ เกย่ี พลังงาน 2. ครูตง้ั คาถา แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 คาตอบ 3. นกั เรยี นสบื 4. ครแุ ละนักเ 5. นกั เรยี นร่ว
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ และแหล่งการ วิธกี ารวดั ผลและ เรียนรู้ ประเมนิ ผล สบู่ ทเรยี นโดยการทบทวน ยวกับงาน - หนงั สอื เรยี น วธิ ีการวัด ามเพื่อใหน้ ักเรยี นเรม่ิ คน้ หา รายวิชาเพม่ิ เตมิ 1. ตรวจใบงาน วิทยาศาสตรแ์ ละ 2. แบบสังเกต บคน้ ข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ เทคโนโลยี ฟสิ ิกส์ พฤติกรรม เรยี นรว่ มกนั สรุปความร้ทู ี่ได้ เล่ม 2 เคร่อื งมอื วมกันทาใบงานและแบบฝกึ หดั -สอ่ื Power point 1. ใบงาน กาลงั เร่ือง กาลงั 2. แบบสงั เกต -ใบงาน กาลงั พฤติกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ประเมนิ จากใบ งาน ผ่านร้อยละ 60 2. การประเมินด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดบั ดีข้ึนไป
สัปดาหท์ ี่/จานวนชว่ั โมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ ที่ 8-9 พลงั งานกล 1.ครตู ้งั คาถาม (8 ชว่ั โมง) เรยี นรูแ้ ก่นกั เร หน่วยที่ 2 งานและ 2.ครตู ั้งคาถาม พลงั งาน คาตอบ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 3. นักเรยี นสบื แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 4. ครแุ ละนกั เ 5. นักเรียนร่ว กล สัปดาหท์ ่ี 10
กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการ วธิ กี ารวัดผลและ เรยี นรู้ ประเมนิ ผล มเพ่ือสรา้ งความสนใจในการ - หนังสอื เรียน วธิ ีการวัด รยี นจากการสาธิตการทดลอง รายวิชาเพิ่มเตมิ 1. ตรวจใบงาน มเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเริ่มคน้ หา วิทยาศาสตร์และ 2. แบบสงั เกต เทคโนโลยี ฟสิ กิ ส์ พฤติกรรม บค้นขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ เล่ม 2 เคร่ืองมือ เรยี นรว่ มกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ด้ -ส่อื Power point 1. ใบงาน พลงั งาน วมกันทาใบงาน เรอื่ ง พลงั งาน เร่อื ง พลงั งานกล กล -ใบงาน พลงั งานกล 2. แบบสงั เกต พฤติกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ประเมินจากใบ งาน ผา่ นร้อยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดับดีขึน้ ไป สอบกลางภาค
สปั ดาห์ที่/จานวนชว่ั โมง สาระการเรียนรู้ ก สัปดาห์ ที่ 11 พลงั งานกล 1.ครูตั้งคาถาม (4 ชัว่ โมง) เรียนร้แู กน่ กั เร หนว่ ยท่ี 2 งานและ 2.ครูต้ังคาถาม พลงั งาน คาตอบ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 3. นักเรยี นสืบ 4. ครแุ ละนักเ 5. นกั เรียนร่ว กล
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และแหล่งการ วิธีการวัดผลและ เรียนรู้ ประเมินผล มเพ่อื สรา้ งความสนใจในการ - หนังสือเรยี น วธิ กี ารวัด รียนจากการสาธิตการทดลอง รายวิชาเพ่ิมเตมิ 1. ตรวจใบงาน มเพือ่ ให้นักเรียนเร่ิมคน้ หา วิทยาศาสตรแ์ ละ 2. แบบสังเกต เทคโนโลยี ฟิสกิ ส์ พฤติกรรม บคน้ ขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ เล่ม 2 เครื่องมือ เรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ท่ไี ด้ -สอ่ื Power point 1. ใบงาน พลังงาน วมกนั ทาใบงาน เรอ่ื ง พลงั งาน เร่ือง พลังงานกล กล -ใบงาน พลงั งานกล 2. แบบสังเกต พฤติกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ประเมินจากใบ งาน ผา่ นรอ้ ยละ 60 2. การประเมินด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดับดีขึน้ ไป
สัปดาห์ท่ี/จานวนชวั่ โมง สาระการเรยี นรู้ ก สัปดาห์ ที่ 12 การอนุรักษ์พลังงานกล 1. ครทู บทวน (4 ชั่วโมง) อภปิ รายร่วมก หนว่ ยท่ี 2 งานและ 2. ครูนาอภปิ พลังงาน เร่อื ง การอนุร แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 3. นกั เรียนร่ว อนุรกั ษ์พลงั งา
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ และแหล่งการ วิธีการวัดผลและ นความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี น และ เรียนรู้ ประเมนิ ผล กันกบั นักเรยี น ปรายและให้ความรเู้ กี่ยวกับ - หนังสอื เรยี น วิธีการวดั รักษพ์ ลงั งานกล วมกันทาใบงาน เร่ือง การ รายวชิ าเพิ่มเติม 1. ตรวจใบงาน านกล วิทยาศาสตร์และ 2. แบบสังเกต เทคโนโลยี ฟสิ ิกส์ พฤติกรรม เลม่ 2 เคร่อื งมอื -ส่อื Power point 1. ใบงานการอนุรักษ์ เร่อื ง การอนุรักษ์ พลังงานกล พลงั งานกล 2. แบบสังเกต -ใบงานการอนุรักษ์ พฤติกรรม พลังงานกล เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินจากใบ งาน ผา่ นรอ้ ยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดับดีขน้ึ ไป
สัปดาหท์ ่ี/จานวนช่วั โมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ ที่ 13 เครอ่ื งกล 1. ครูทบทวน (4 ชว่ั โมง) 2. ครตู ัง้ คาถา หน่วยท่ี 2 งานและ 3. นกั เรยี นสืบ พลงั งาน 4. ครูอธบิ ายเ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 ของเครื่องกล 5. นักเรียนร่ว เร่ือง เคร่ืองกล
กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ และแหล่งการ วิธีการวดั ผลและ เรยี นรู้ ประเมนิ ผล นความร้เู กี่ยวกับเคร่ืองกล ามให้นักเรียนคิด - หนงั สอื เรยี น วธิ กี ารวดั บค้นเก่ียวกบั เคร่ืองกล รายวิชาเพมิ่ เตมิ 1. ตรวจใบงาน เพ่มิ เตมิ เก่ยี วกับประสิทธิภาพ วิทยาศาสตรแ์ ละ 2. แบบสังเกต ล เทคโนโลยี ฟสิ กิ ส์ พฤติกรรม วมกันทาใบงานและแบบฝึกหัด เล่ม 2 เครื่องมอื ล -สือ่ Power point 1. ใบงานเคร่ืองกล เรื่อง การอนุรักษ์ อย่างง่าย พลงั งานกล 2. แบบสังเกต -ใบงานเคร่อื งกล พฤติกรรม อยา่ งง่าย เกณฑก์ ารประเมิน 1. ประเมินจากใบ งาน ผา่ นร้อยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดบั ดขี ้ึนไป
สัปดาห์ที่/จานวนช่ัวโมง สาระการเรยี นรู้ ก สัปดาห์ ท่ี 14 โมเมนตัม 1. ครูตงั้ คาถา (3 ชัว่ โมง) สาพนั ธก์ ับมว หนว่ ยที่ 3 โมเมนตมั และ 2. นักเรยี นสืบ การชน อภปิ รายรว่ มก แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 3. ครแู ละนักเ 4. นักเรยี นร่ว
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือและแหล่งการ วิธีการวัดผลและ เรยี นรู้ ประเมินผล ามเกี่ยวกับแรงที่เกิดขนึ้ มีความ วลและความเร็วอยางไร - หนังสอื เรียน วธิ ีการวัด บคน้ ขอ้ มลู จากนั้นนามา รายวิชาเพ่ิมเตมิ 1. ตรวจใบงาน กันหนา้ หอ้ ง วทิ ยาศาสตรแ์ ละ 2. แบบสงั เกต เรียนสรุปข้อมูลร่วมกัน เทคโนโลยี ฟสิ ิกส์ พฤติกรรม วมกนั ทาใบงาน เร่ือง โมเมนตัม เลม่ 2 เคร่อื งมือ -สื่อ Power point 1. ใบงานโมเมนตมั เรอ่ื ง โมเมนตมั 2. แบบสังเกต -ใบงานโมเมนตมั พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมนิ จากใบ งาน ผ่านรอ้ ยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดับดีข้นึ ไป
สปั ดาหท์ ี่/จานวนชวั่ โมง สาระการเรยี นรู้ ก สัปดาห์ ที่ 14 แรงและการเปลยี่ นแปลง 1. ครตู ง้ั คาถา (3 ช่วั โมง) โมเมนตมั มาใช้ หนว่ ยท่ี 3 โมเมนตัมและ 2. นกั เรยี นยก การชน เปลี่ยนแปลงโ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 3. ครยู กตวั อย 4. นกั เรยี นร่ว การเปลยี่ นแป
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ และแหล่งการ วธิ กี ารวัดผลและ เรียนรู้ ประเมินผล ามเพ่ือให้นักเรียนดึงความรเู้ ดิม - หนงั สอื เรียน วธิ กี ารวดั รายวชิ าเพิม่ เติม 1. ตรวจใบงาน กตวั อย่างเก่ียวกับแรงและการ วิทยาศาสตร์และ 2. แบบสงั เกต โมเมนตมั ในชีวติ ประจาวนั เทคโนโลยี ฟิสกิ ส์ พฤติกรรม ยา่ งการคานวณ เล่ม 2 เครอื่ งมือ วมกันทาใบงาน เรือ่ ง แรงและ -สื่อ Power point 1. ใบงานแรงและ ปลงโมเมนตัม เรื่อง โมเมนตมั การเปล่ยี นแปลง -ใบงานแรงและการ โมเมนตัม เปลีย่ นแปลง 2. แบบสงั เกต โมเมนตัม พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ 1. ประเมนิ จากใบ งาน ผ่านร้อยละ 60 2. การประเมินด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดบั ดขี ้ึนไป
สปั ดาหท์ ่ี/จานวนช่ัวโมง สาระการเรยี นรู้ ก สปั ดาห์ ที่ 14 การดล 1. นกั เรียนสบื (3 ช่ัวโมง) 2. ครูและนักเ หน่วยที่ 3 โมเมนตมั และ ขอ้ สรปุ ของกา การชน 3. เปดิ โอกาส แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 หรอื แลกเปลีย่ 4. นักเรยี นร่ว
กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อและแหล่งการ วิธีการวดั ผลและ เรยี นรู้ ประเมินผล บคน้ เกยี่ วกบั การดล เรียนร่วมกันอภิปรายเพอ่ื หา - หนังสอื เรยี น วิธีการวดั ารดล รายวชิ าเพิม่ เตมิ 1. ตรวจใบงาน สให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย วทิ ยาศาสตร์และ 2. แบบสังเกต ยนความรกู้ นั ภายใน หอ้ ง เทคโนโลยี ฟิสกิ ส์ พฤติกรรม วมกันทาใบงาน เรือ่ ง การดล เล่ม 2 เครอ่ื งมือ -ส่ือ Power point 1. ใบงานการดล เรอ่ื ง การดล 2. แบบสงั เกต -ใบงานการดล พฤติกรรม เกณฑก์ ารประเมิน 1. ประเมินจากใบ งาน ผา่ นรอ้ ยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผ่านใน ระดับดีขนึ้ ไป
สัปดาห์ท่ี/จานวนชั่วโมง สาระการเรียนรู้ ก สปั ดาห์ ท่ี 14-15 การอนุรักษโ์ มเมนตัม 1. ครูทบทวน (3 ช่วั โมง) อภิปรายรว่ มก หน่วยท่ี 3 โมเมนตมั และ 2. ให้นักเรยี น การชน เก่ียวกับการอ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3. นักเรียนร่ว 15 อนรุ ักษโ์ มเมน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือและแหล่งการ วิธกี ารวดั ผลและ นความรเู้ ดิมของนักเรยี น และ เรยี นรู้ ประเมนิ ผล กันกบั นักเรียน นยกตัวอยา่ งและอภปิ ราย - หนงั สอื เรยี น วธิ ีการวัด อนรุ กั ษ์โมเมนตัมในช้ันเรยี น วมกันทาใบงาน เรือ่ ง การ รายวิชาเพ่ิมเตมิ 1. ตรวจใบงาน นตมั วทิ ยาศาสตรแ์ ละ 2. แบบสังเกต เทคโนโลยี ฟิสกิ ส์ พฤติกรรม เลม่ 2 เครอื่ งมือ -สื่อ Power point 1. ใบงานการอนรุ ักษ์ เรอ่ื ง การอนุรกั ษ์ โมเมนตมั โมเมนตมั 2. แบบสงั เกต -ใบงานการอนรุ ักษ์ พฤติกรรม โมเมนตมั เกณฑ์การประเมิน 1. ประเมินจากใบ งาน ผา่ นร้อยละ 60 2. การประเมนิ ด้าน พฤติกรรมผา่ นใน ระดบั ดีขน้ึ ไป
สัปดาห์ท่ี/จานวนช่ัวโมง สาระการเรยี นรู้ ก สปั ดาห์ ท่ี 15-16 การชนและการดดี ตวั แยก 1. ครตู งั้ คาถา (4 ช่วั โมง) ออกจากกนั ตวั แยกออกจา หนว่ ยท่ี 3 โมเมนตมั และ 2. ครูและนักเ การชน 3. นักเรียนซัก แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 ความรู้กันภาย 4. นกั เรียนร่ว และการดดี ตัว
Search
