Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเภทของระบบบำบัดน้ำเสีย

ประเภทของระบบบำบัดน้ำเสีย

Published by shawpatinspection, 2021-07-19 08:58:58

Description: ประเภทของระบบบำบัดน้ำเสีย หลักการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย

Search

Read the Text Version

ประเภทของ ระบบบาํ บดั น�าํ เสีย ขหล้อักดกี/ารขท้อาํ เงสาียนของระบบ

2 1. ระบบบาํ บดั นํ้าเสียแบบบอปรบั เสถยี ร (Stabilization Pond) เปนระบบบําบัดน้ําเสียท่ีอาศัยธรรมชาติในการบําบัดสารอินทรียในนํ้าเสีย ซึ่งแบงตามลักษณะการทํางานได 3 รูปแบบ คือ บอแอนแอโรบิค (Anaerobic Pond) บอแฟคคัลเททีฟ (Facultative Pond) บอแอโรบิค (Aerobic Pond) และหากมีบอหลายบอ ตอเนื่องกัน บอสุดทายจะทําหนาที่เปนบอบม (MaturationPond) เพ่ือปรับปรุงคุณภาพน้ําท้ิงกอนระบายออกสูสิ่งแวดลอมบอปรับเสถียร สามารถบําบัดน้ําเสียจากชุมชน หรือโรงงานบางประเภทเชนโรงงานผลิตอาหารโรงฆาสัตวเปนตนและเปนระบบท่ีมีคากอสรางและคาดูแล รักษาต่ําวิธีการเดินระบบไมยุงยากซับซอนผูควบคุมระบบไมตองมีความรูสูงแตตองใชพื้นที่กอสรางมาก จึงเปนระบบท่ีเหมาะกับชุมชนท่ีมีพ้ืนที่เพียงพอและราคาไมแพงซึ่งโดยปกติระบบบอปรับเสถียรจะมีการตอกัน แบบอนกุ รมอยา งนอ ย 3 บอ บอแอนแอโรบคิ (Anaerobic Pond) บอแอนแอโรบิคเปนระบบที่ใชกำจัดสารอินทรียที่มีความเขมขนสูงโดยไมตองการออกซิเจนบอนี้จะถูกออกแบบ ใหมีอัตรารับสารอินทรียสูงมากจนสาหรายและการเติมออกซิเจนที่ผิวหนาไมสามารถผลิตและปอนออกซิเจน ไดทันทำใหเกิดสภาพไรออกซิเจนละลายน้ำภายในบอจึงเหมาะกับน้ำเสียที่มีสารอินทรียและปริมาณของแข็งสูง เนอ่ื งจากของแขง็ จะตกลงสกู น บอ และถกู ยอ ยสลายแบบแอนแอโรบคิ นำ้ เสยี สว นทผ่ี า นการบำบดั จากบอ นจ้ี ะระบาย ตอ ไปยังบอ แฟคคลั เททีฟ (Facultative Pond) เพ่ือบำบดั ตอไป

3 บอแอโรบิค (Aerobic Pond) บอแอโรบิคเปนบอที่มีแบคทีเรียและสาหรายแขวนลอยอยูเปนบอที่มีความลึกไมมากนักเพื่อใหออกซิเจนกระจาย ทั่วทั้งบอและมีสภาพเปนแอโรบิคตลอดความลึก โดยอาศัยออกซิเจนจากการสังเคราะหแสงของสาหราย และ บกาอ รบเตมมิ อ(าMกาaศtทuผี่ rวิ aหtนioาnแลPะoยงัnสdาม)ารถฆาเชอ้ื โรคไดสว นหนึง่ โดยอาศยั แสงแดดอกี ดวย บอ บม มสี ภาพเปน แอโรบคิ ตลอดทง้ั บอ จงึ มคี วามลกึ ไมม ากและแสงแดดสอ งถงึ กน บอ ใชร องรบั นำ้ เสยี ทผ่ี า นการบำบดั แลวเพื่อฟอกน้ำทิ้งใหมีคุณภาพน้ำดีขึ้นและอาศัยแสงแดดทำลายเชื้อโรคหรือจุลินทรียที่ปนเปอนมากับน้ำทิ้งกอน ระบายออกสสู ิง่ แวดลอ ม รจะาบกโบรบงบบบบงอออออาปนบแแแรฟออมอับโตุนครโเสคแดบสาัลอยคิถหเตโยีทรกอ รบทรกทรีฟิคันมี่นแ()ิยสบมวบในอชในกหกุันญรจมจะปะใรชะใกนอกบรดณว ีทยี่นห้ำนเวสยียบมำีคบาคดั วดางัมนเขี้ มขนของสารอินทรียสูง ๆ เชน น้ำเสีย ขเอทรขปะตุอที่อ นบสงดำตอาบใี หนหัตบเรกกอการิดปรารโับมรรรเบสัคบดาไาเนิ ดรสงรอปมถะินารีบยกะทรบเกรสภกวียทาไ็ า แมมวลยาเิธชะุงรีกนอยถาาัตบรกรโบำรซาำบงกับบงัดาซาดั รนนอแไ้ผำนหบเลลบสิตดไอียดอแู ื่นไดาลดหีเรๆนอกัาื่อยโรษดงาายจหงงไามารมกยือีปจ มนรำีรทำ้ เะะปเนสสยนทิียทะตาจเธวนอาิภลงตกาาอเมกพเกกรีษไาะ็บมตรบกเรวพบักกาฆิ่มนรจรอาาะมเนยชเาแปือ้ งเลชโนกระนนรคยะ้ำังทนเสสัน้ำาีเยหมสจันาียารจถก(าSกชกhำุกมoจาชcัดรนkจเลโุลรยี้Lินงoงทงสaารุกdนียร) ขอ เสีย หระรบอื บคบวอบปครมุ บั ไเมสดถีพยี รอตอนงอกกาจราพกน้ื นที้นใ่ี นำ้ กทาิ้งรอกาอ จสมรปีา งญมหากาใสนากหรรณายที ปใ่ี ชะบ ปอ นแออยนูมแาอกโรโบดคิ ยอเาฉจพเกาดิะกจลาน่ิกเบหอ มแน็ อไดโรห บาคิกการออกแบบ

4 2. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบอเติมอากาศ (Aerated Lagoon หรือ AL) เปน ระบบบำบดั นำ้ เสยี ทอ่ี าศยั การเตมิ ออกซเิ จนจากเครอ่ื งเตมิ อากาศ (Aerator) ทต่ี ดิ ตง้ั แบบทนุ ลอย หรอื ยดึ ตดิ กบั แทน ก็ไดเ พื่อเพิม่ ออกซิเจนในนำ้ ใหม ีปริมาณเพียงพอสำหรบั จลุ นิ ทรียส ามารถนำไปใชยอยสลายสารอินทรีย ในน้ำเสียไดเร็วขน้ึ กวาการปลอ ยใหย อ ยสลายตามธรรมชาตทิ ำใหร ะบบบำบัดน้ำเสียแบบบอ เตมิ อากาศสามารถ บำบดั นำ้ เสยี ไดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถลดปรมิ าณความสกปรกของนำ้ เสยี ในรปู ของคา บโี อดี (Biochemical Oxygen Demand; BOD) ไดรอยละ 80-95 โดยอาศัย หลักการทำงานของจุลินทรีย ภายใตสภาวะ ที่มีออกซิเจน (Aerobic) โดยมีเครื่องเติมอากาศซึ่งนอกจาก จะทำหนาเพิ่มออกซิเจนในน้ำแลวยังทำให เกิดการกวนผสมของน้ำในบอดว ย ทำใหเกิดการยอ ยสลายสารอนิ ทรียไดอ ยา งทวั่ ถึงภายในบอ หลกั การทำงานของระบบ รแะลบะบนบ้ำำเสบียดั จนาำ้ กเสอยี ุตแสบาบหบกอ รเตรมมิ อโาดกยาปศสกาตมิจาะรอถอบกำแบบดั นบำ้ใเหสบยี ไอดมท ีคง้ั นวำา้ เมสลยี ึกจปากรแะหมลางณชมุ 2ช-น6ทเม่ีมคีตวรามระสยกะปเรวกลคาอ เนกข็บากงักมนาก้ำ (Detention Time) ภายในบอเติมอากาศประมาณ 3-10 วัน และเครื่องเติมอากาศจะตองออกแบบใหมี ประสทิ ธภิ าพสามารถทำใหเ กดิ การผสมกนั ของตะกอนจลุ นิ ทรยี  ออกซเิ จนละลายในนำ้ และนำ้ เสยี นอกจากน้ี จแะลตะปองรมับีบสอภบาพมน(้ำPทoิ้งliกsอhนinรgะบPาoยnอdอกหสรูสือิ่งMแวaดtuลrอaมtioทnั้งนPี้จoะnตdอ)งครัวบบนค้ำุมเสอียัตจราากกบาอรไเตหิมลอขาอกงานศ้ำเพภืา่อยตใกนตบะอกบอมน และระยะเวลาเก็บกักใหเหมาะสมไมนานเกินไป เพื่อไมใหเกิดปญหาการเจริญเติบโตเพิ่มปริมาณของสาหราย (Algae) ในบอ บม มากเกินไป

5 สวนประกอบของระบบ ระบบบอเติมอากาศสวนใหญจะประกอบดว ยหนว ยบำบัด ดังน้ี 1.บอเตมิ อากาศ (จำนวนบอ ขนึ้ อยูกบั การออกแบบ) 2.บอบมเพอื่ ปรับสภาพนำ้ ทง้ิ (จำนวนบอ ขึน้ อยูก บั การออกแบบ) 3.บอเตมิ คลอรนี สำหรบั ฆา เชือ้ โรค จำนวน 1 บอ เครอ่ื งเตมิ อากาศทผ่ี วิ หนา (Surface Aerator) จะทำหนา ทต่ี นี ำ้ ทร่ี ะดบั ผวิ บนใหก ระจายเปน เมด็ เลก็ ๆ ข้ึนมาเพ่อื สัมผสั กบั อากาศเพอ่ื รบั ออกซเิ จน ในขณะเดียวกนั ก็จะเปนการกวนนำ้ ใหผ สมกนั เพอ่ื กระจายออกซเิ จน และมลสารในนำ้ เสยี ใหท ่ัวบอ เครอื่ งเติมอากาศเทอรไ บนใตน้ำ (Submerged Turbine Aerator) มลี กั ษณะการทำงานผสมกนั ระหวา งระบบเปา อากาศ และระบบเครอ่ื งกลเตมิ อากาศ กลา ว คอื อากาศหรอื ออกซเิ จน จะเปามาตามทอมาที่ใตใบพัดตีน้ำ จากนั้นอากาศจะถูกใบพัดเทอรไบน (Turbine) ตีฟองอากาศขนาดเล็ก กระจายไปทว่ั ถังเตมิ อากาศ เคร่ืองเตมิ อากาศชนดิ น้มี คี วามสามารถในการใหอ อกซเิ จนสูง แตม ีราคาแพง และตองการการบำรุงรักษามากกวา แบบอน่ื เครื่องเติมอากาศใตน้ำ (Submersible Aerator) มีลักษณะผสมกันระหวางเครื่องสูบน้ำ (Pump) เครื่องดูดอากาศ (Air Blower) และเครื่องตีอากาศใหผสมกับน้ำ (Disperser) อยูในเครื่องเดียวกัน แตมี ขอ จำกดั ดา นการกวนนำ้ (Mixing) ขอดี ไดแ ก คา ลงทนุ กอ สรา งตำ่ ประสทิ ธภิ าพของระบบสงู สามารถรบั การเพม่ิ ภาระมลพษิ อยา งกระทนั หนั (Shock Load) ไดด ี มกี ากตะกอน และกลน่ิ เหมน็ เกดิ ขน้ึ นอ ย การดำเนนิ การและบำรงุ รกั ษางา ย สามารถบำบดั ไดท ง้ั นำ้ เสยี ชมุ ชน และน้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรม ขอ เสยี คอื มคี า ใชจ า ยในสว นของคา กระแสไฟฟา สำหรบั เครอ่ื งเตมิ อากาศและคา ซอ มบำรงุ และดแู ลรกั ษาเครอ่ื งเตมิ อากาศ

6 3. ระบบบาํ บดั นา้ํ เสียแบบบงึ ประดิษฐ (Constructed Wetland) บึงประดิษฐเปนระบบบําบัดนํ้าเสียที่อาศัยกระบวนการทางธรรมชาติกําลังเปนท่ีนิยมมากขึ้นในปจจุบัน ฟโดอยสเฟฉพอราัสะกออยนารงะยบิ่งใานยกอาอรกใสชูแปหรลับงปรอรุงงรคับุณนภ้ําาทพ้ิงนนอํ้าทกจิ้งทากี่ผนาี้รนะกบาบรบบึงําปบรัดะแดลิษวฐแกต็ยตังสอางมกาารรถลใดชปเปรนิมราะณบไบนบโตําบรเัดจนน้ําแเสลียะ ในขนั้ ท่ี 2 (SecondaryTreatment)สําหรับบําบดั นา้ํ เสยี จากชุมชนไดอกี ดว ยซง่ึ ขอ ดขี องระบบน้คี อื ไมซับซอ นและไมต องใชเทคโนโลยีในการบาํ บัดสูง หลกั การทํางานของระบบ เม่ือน้ําเสียไหลเขามาในบึงประดิษฐสวนตนสารอินทรียสวนหน่ึงจะตกตะกอนจมตัวลงสูกนบึงและถูกยอยสลาย โดยจุลินทรียสวนสารอินทรียที่ละลายนํ้าจะถูกกําจัดโดยจุลินทรียท่ีเกาะติดอยูกับพืชนํ้าหรือชั้นหินและจุลินทรีย ที่แขวนลอยอยใู นนา้ํ ระบบน้ีจะไดรับออกซเิ จนจากการแทรกซมึ ของอากาศผานผวิ นาํ้ หรอื ชั้นหินลงมาออกซเิ จน บางสวนจะไดจากการสังเคราะหแสงแตมีปริมาณไมมากนักสําหรับสารแขวนลอยจะถูกกรองและจมตัวอยูใน ชวงตน ๆ ของระบบ การลดปริมาณไนโตรเจนจะเปนไปตามกระบวนการไนตริฟเคช่ัน (Nitrification) และดิไนตริฟเคช่ัน (Denitrification) สวนการลดปริมาณฟอสฟอรัสสวนใหญจะเกิดท่ีช้ันดินสวนพ้ืนบอ และพืชน้ําจะชวยดูดซับฟอสฟอรัสผานทางรากและนําไปใชในการสรางเซลล นอกจากน้ีระบบบึงประดิษฐ ยงั สามารถกําจัดโลหะหนกั (Heavy Metal) ไดบางสว นอกี ดว ย

7 สว นประกอบทสี่ ําคัญในการบาํ บัดนา้ํ เสยี ของระบบบึงประดษิ ฐ พืชที่ปลูกในระบบจะมีหนาที่สนับสนุนใหเกิดการถายเทกาซออกซิเจนจากอากาศเพ่ือเพ่ิมออกซิเจนใหแก น้ําเสียและยังทําหนาที่สนับสนุนใหกาซที่เกิดขึ้นในระบบ เชน กาซมีเทน (Methane) จากการยอยสลาย แบบแอนแอโรบิค (Anaebic)สามารถระบายออกจากระบบไดอีกดว ยนอกจากน้ยี ังสามารถกําจดั ไนโตรเจน และฟอสฟอรสั ได โดยการนาํ ไปใชในการเจริญเติบโตของพชื ขอดี -รอสงารมบั านร้าํถทล้งิดดปีขร้ึนมิ าณสารอนิ ทรยี ข องแขง็ แขวนลอยและสารอาหารไดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพทาํ ใหค ณุ ภาพแหลง - ทาํ ใหเ กดิ ความสมดลุ ของระบบนเิ วศและสภาพแวดลอ มเปน ทอี่ ยอู าศยั และแหลง อาหารของสตั วแ ละนกชนดิ ตา ง ๆ และเปน แหลงพักผอนหยอนใจและศึกษาทางธรรมชาติ ขอ เสยี เน่อื งจากเปนระบบทอี่ าศยั ธรรมชาติเปน หลักสว นใหญปญ หาทพ่ี บคือพืชท่ีนํามาปลกู ไมสามารถเจริญเติบโต เพมิ่ ปรมิ าณตามทต่ี อ งการได อาจเนอื่ งมาจากการเลอื กใชช นดิ ของพชื ไมเ หมาะสม สภาพของดนิ ไมเ หมาะสม หรือถกู รบกวนจากสัตวท ่กี ินพืชเหลานีเ้ ปนอาหาร เปนตน

8 4. ระบบบาํ บดั นา้ํ เสียแบบแอกทิเวเตด็ สลดั จ (Activated Sludge Process) เปนวิธีบําบัดน้ําเสียดวยวิธีการทางชีววิทยา โดยใชแบคทีเรียพวกท่ีใชออกซิเจน (Aerobic Bacteria) เปน ตัวหลกั ในการยอยสลายสารอินทรยี ในนํา้ เสยี ระบบเแอกทเิ วเต็ดสลดั จเ ปนระบบบาํ บัดน้าํ เสียทีน่ ิยมใชก ันอยาง แพรหลายสามารถบําบัดไดท้ังนํ้าเสียชุมชนและนํ้าเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมแตการเดินระบบประเภทน้ี จะมีความยุงยากซับซอน เน่ืองจากจําเปนจะตองมีการควบคุมสภาวะแวดลอมและลักษณะทางกายภาพตาง ๆ ใหเหมาะสมแกการทํางานและการเพิ่มจํานวนของจุลินทรีย เพื่อใหระบบมีประสิทธิภาพในการบําบัดสูงสุด ในปจ จบุ นั ระบบแอกทเิ วเตด็ สลดั จม กี ารพฒั นาใชง านหลายรปู แบบ เชน ระบบแบบกวนสมบรู ณ (Completly Mix) กระบวนการปรบั เสถยี รสมั ผสั (Contact Stabilization Process) ระบบคลองวนเวยี น (Oxidation Ditch) หรอื ระบบบาํ บดั น้าํ เสียแบบเอสบีอาร (Sequencing Batch Reactor) เปน ตน

9 หลกั การทาํ งานของระบบ ระบบบําบัดน้ําเสียแบบแอกติเวเต็ดสลัดจโดยท่ัวไปจะประกอบดวยสวนสําคัญ 2 สวน คือ ถังเติมอากาศ (Aeration Tank) และถังตกตะกอน (Sedimentation Tank) โดยน้ําเสียจะถูกสงเขาถังเติมอากาศ ซ่ึงมีสลัดจอยูเปนจํานวนมากตามท่ีออกแบบไวสภาวะภายในถังเติมอากาศจะมีสภาพท่ีเอื้ออํานวยตอ การเจริญเติบโตของจุลินทรียแบบแอโรบิคจุลินทรียเหลาน้ีจะทําการยอยสลายสารอินทรียในน้ําเสีย ใหอยูในรูปของคารบอนไดออกไซดและนํ้าในที่สุดนํ้าเสียที่ผานการบําบัดแลวจะไหลตอไปยังถังตกตะกอน เพอื่ แยกสลดั จอ อกจากนา้ํ ใสสลดั จท แี่ ยกตวั อยทู กี่ น ถงั ตกตะกอนสว นหนง่ึ จะถกู สบู กลบั เขา ไปในถงั เตมิ อากาศ ใหมเพ่ือรักษาความเขมขนของสลัดจในถังเติมอากาศใหไดตามที่กําหนดและอีกสวนหนึ่งจะเปนสลัดจ สวนเกิน (Excess Sludge) ทต่ี อ งนําไปกําจัดตอไปสําหรับนาํ้ ใสสวนบนจะเปน นํา้ ทง้ิ ที่สามารถระบายออกสูส่ิงแวดลอ มได ขอ ดี มีประสทิ ธิภาพการบาํ บัดสารอนิ ทรียใ นรปู บโี อดี รอ ยละ 80 - 95 และใชพน้ื ทก่ี อ สรา งระบบนอ ย ขอเสีย ใชพลงั งานสงู การเดินระบบมคี วามยุงยากซบั ซอ น และมีกากตะกอนจํานวนมากท่ีตอ งนําไปกําจัดอยา งถกู ตอง

10 5. ระบบบาํ บัดนาํ้ เสยี แบบคลองวนเวียน (Oxidation Ditch ; OD) เปน ระบบแอกทเิ วเตด็ สลดั จ (Activated Sludge) ประเภทหนง่ึ ทใ่ี ชแ บคทเี รยี พวกทใ่ี ชอ อกซเิ จน (Aerobic Bacteria) เปนตัวหลักในการยอยสลายสารอินทรียในนํ้าเสีย และเจริญเติบโตเพิ่มจํานวน กอนที่จะถูกแยกออกจากนํ้าทิ้ง โดยวธิ กี ารตกตะกอน การเดนิ ระบบบาํ บดั ประเภทนจ้ี ะมคี วามยงุ ยากซบั ซอ น เนอ่ื งจากจาํ เปน จะตอ งมกี ารควบคมุ สภาวะแวดลอมและลักษณะทางกายภาพตาง ๆ ใหเหมาะสมตอการทํางานและการเพิ่มจํานวนของจุลินทรีย เพือ่ ใหระบบมปี ระสิทธภิ าพในการบําบัดสงู สดุ หลักการทํางานของระบบ การทาํ งานของระบบคลองวนเวยี นจะเหมอื นกบั ระบบแอกทเิ วเตด็ สลดั จโ ดยทว่ั ไปคอื อาศยั จลุ นิ ทรยี ม ากมายหลายชนิด โดยจุลินทรียท่ีสําคัญไดแกแบคทีเรียเช้ือราและโปรโตซัวเปนตนซึ่งสภาวะที่ใชในการเจริญเติบโตของจุลินทรีย จะเปนสภาวะแอโรบิคโดยจุลินทรียจะใชสารอินทรียท่ีอยูในนํ้าเสียเปนแหลงอาหารและพลังงานเพื่อ การเจริญเติบโตและเพ่ิมจํานวนของจุลินทรียในระบบ จากน้ันจึงแยกจุลินทรียออกจากนํ้าเสียที่ผานบําบัดแลว โดยวิธีการตกตะกอนในถังตกตะกอน (Sedimentation Tank) เพ่ือใหไดนํ้าใส (Supernatant) อยูสวนบนของถังตกตะกอน ซึ่งมีคุณภาพน้ําดีข้ึน และสามารถระบายออกสูสิ่งแวดลอมได

11 สว นประกอบของระบบ ระบบคลองวนเวียนจะมีลักษณะแตกตางจากระบบแอกติเวเต็ดสลัดจแบบอ่ืน คือ ถังเติมอากาศจะมีลักษณะ เปนวงกลมหรอื วงรที าํ ใหระบบคลองวนเวยี นจึงใชพ้ืนทมี่ ากกวา ระบบแอกตเิ วเต็ดสลดั จแ บบอน่ื โดยรูปแบบ ของถังเติมอากาศแบบวงกลมหรือวงรี ทําใหนํ้าไหลวนเวียนตามแนวยาว (Plug Flow) ของถังเติมอากาศ และการกวนจะใชเคร่ืองกลเติมอากาศ ซึ่งตีนํ้าในแนวนอน (Horizontal Surface Aerator) จากลักษณะ การไหลแบบตามแนวยาวทําใหสภาวะในถังเติมอากาศแตกตางไปจากระบบแอคติเวเต็ดจสลัดจ แบบกวนสมบูรณ (Completely Mixed Activated Sludge) โดยคาความเขมขนของออกซิเจน ละลายนาํ้ ในถงั เตมิ อากาศจะลดลงเรอ่ื ยๆตามความยาวของถงั จนกระทง่ั มคี า เปน ศนู ยเ รยี กวา เขตแอนอ็ กซกิ (Anoxic Zone) ซ่ึงจะมีระยะเวลาไมชวงนี้ไมเกิน 10 นาทีการท่ีถังเติมอากาศมีสภาวะเชนนี้ทําใหเกิด ไนตรฟิ เ คชน่ั (Nitrification) และดไี นตรฟิ เ คชนั่ (Denitrification) ขน้ึ ในถงั เดยี วกนั ทาํ ใหร ะบบสามารถบาํ บดั ไนโตรเจนไดด ีขน้ึ ดวย ระบบคลองวนเวียนสวนใหญจะประกอบดวยหนว ยบําบัด ดงั น้ี รางดกั กรวดทราย (Grit Chamber) บอ ปรับสภาพการไหล (Equalizing Tank) บอเติมอากาศแบบคลองวนเวียน ถังตกตะกอน (Sedimentation Tank) บอ สบู ตะกอนหมุนเวยี น บอ เตมิ คลอรีน ขอ ดี ระบบคลองวนเวยี นเปนระบบทม่ี ปี ระสิทธภิ าพในการบาํ บดั สูง และสามารถบําบัดไนโตรเจนไดด ี ขอเสีย คาใชจายในการกอสรางและการดําเนินการสูง ใชพ้ืนที่มากกวาระบบแอคติเวเต็ดจสลัดจประเภทอ่ืน ผูควบคมุ ระบบจะตอ งมคี วามรคู วามเขาใจระบบเปนอยางดี หากไมมีการดแู ลท่ีดพี อจะทาํ ใหอ ปุ กรณเ ชน เครือ่ งเตมิ อากาศชาํ รุดไดงา ย

12 6. ระบบบําบัดน้ําเสียแบบแผนจานหมุนชีวภาพ (Rotating Biological Contactor; RBC) ระบบแผนจานหมุนชีวภาพเปนระบบบําบัดนํ้าเสียทางชีววิทยาใหนํ้าเสียไหลผานตัวกลางลักษณะทรงกระบอกซึ่ง วางจมุ อยูในถงั บาํ บดั ตวั กลางทรงกระบอกนี้จะหมุนอยา งชา ๆเมือ่ หมนุ ข้ึนพนน้าํ และสัมผสั อากาศจลุ ินทรยี ทอ่ี าศัย ติดอยูกับตัวกลางจะใชออกซิเจนจากอากาศยอยสลายสารอินทรียในนํ้าเสียที่สัมผัสติดตัวกลางขึ้นมาและเมื่อหมุน จมลงก็จะนํานา้ํ เสียขึ้นมาบําบดั ใหมสลบั กนั เชนน้ีตลอดเวลา หลกั การทาํ งานของระบบ กลไกการทํางานของระบบในการบําบัดน้ําเสียอาศัยจุลินทรียแบบใชอากาศจํานวนมากที่ยึดเกาะติดบนแผนจานหมุนใน การยอ ยสลายสารอนิ ทรยี ใ นนาํ้ เสยี โดยการหมนุ แผน จานผา นนาํ้ เสยี ซง่ึ เมอ่ื แผน จานหมนุ ขนึ้ มาสมั ผสั กบั อากาศกจ็ ะพาเอาฟล ม นา้ํ เสยี ขนึ้ สอู ากาศดว ยทาํ ใหจ ลุ นิ ทรยี ไ ดร บั ออกซเิ จนจากอากาศเพอ่ื ใชใ นการยอ ยสลายหรอื เปลย่ี นรปู สารอนิ ทรยี เ หลา นนั้ ใหเปนกาซคารบอนไดออกไซดนํ้าและเซลลจุลินทรียตอจากนั้นแผนจานจะหมุนลงไปสัมผัสกับน้ําเสียในถังปฏิกิริยา อีกคร้ังทําใหออกซิเจนสวนท่ีเหลือผสมกับนํ้าเสียซ่ึงเปนการเติมออกซิเจนใหกับนํ้าเสียอีกสวนหนึ่งสลับกันเชนนี้ตลอดไป เปน วัฏจกั ร แตเ มอื่ มจี าํ นวนจลุ ินทรียย ดึ เกาะแผนจานหมุนหนามากขนึ้ จะทาํ ใหม ตี ะกอนจุลนิ ทรยี บางสวนหลุดลอกจาก แผน จานเนอ่ื งจากแรงเฉอื นของการหมนุ ซง่ึ จะรกั ษาความหนาของแผน ฟล ม ใหค อ นขา งคงทโ่ี ดยอตั โนมตั ทิ งั้ นตี้ ะกอนจลุ นิ ทรยี  แขวนลอยที่ไหลออกจากถังปฏิกิริยานี้จะไหลเขาสูถังตกตะกอนเพ่ือแยกตะกอนจุลินทรียและนํ้าทิ้งทําใหน้ําท้ิงท่ีออกจาก ระบบน้มี ีคณุ ภาพดขี ้นึ

13 สว นประกอบของระบบ ระบบแผน จานหมนุ ชวี ภาพเปน ระบบบาํ บดั นา้ํ เสยี อกี รปู แบบหนงึ่ ของระบบบาํ บดั ขน้ั ทสี่ อง (Secondary Treatment) ซงึ่ องคป ระกอบหลกั ของระบบประกอบดว ย ถงั ตกตะกอนขนั้ ตน (Primary Sedimentation Tank) ทาํ หนา ทใี่ นการแยกของแขง็ ทมี่ ากบั นาํ้ เสยี ถงั ปฏกิ ริ ยิ า ทาํ หนา ทใี่ นการยอ ยสลายสารอนิ ทรยี ใ นนาํ้ เสยี ถงั ตกตะกอนขน้ั ทสี่ อง (Secondary Sedimentation Tank) ทาํ หนา ทใ่ี นการแยกตะกอนจลุ นิ ทรยี  และนา้ํ ทงิ้ ท่ี ผานการบําบัดแลว โดยในสวนของถังปฏิกิริยาประกอบดวย แผนจานพลาสติกจํานวนมากที่ทําจาก polyethylene (PE) หรือ high density polyethylene (HDPE) วางเรียงขนานซอนกันโดยติดต้ังฉาก กบั เพลาแนวนอนตรงจดุ ศนู ยก ลางแผน ซง่ึ จลุ นิ ทรยี ท ใ่ี ชใ นการบาํ บดั นาํ้ เสยี จะยดึ เกาะตดิ บนแผน จานนเ้ี ปน แผน ฟล ม บางๆ หนาประมาณ 1-4 มลิ ลเิ มตร หรือท่ีเรียกระบบนี้อีกอยางวาเปนระบบ fixed film ทั้งน้ีชุดแผนจานหมุนท้ังหมดวางติดตั้งในถังคอนกรีตเสริมเหล็ก ระดบั ของเพลาจะอยเู หนอื ผวิ นาํ้ เลก็ นอ ย ทาํ ใหพ น้ื ทผ่ี วิ ของแผน จานจมอยใู นนาํ้ ประมาณรอ ยละ 35 – 40 ของพน้ื ทแ่ี ผน ทง้ั หมด และในการหมุนของแผนจานหมุนชีวภาพอาศัยชุดมอเตอรขับเคล่ือนเพลาและเฟองทดรอบ เพ่ือหมุนแผนจาน ในอัตราประมาณ 1 – 3 รอบตอ นาที ขอดี 1) การเริ่มเดินระบบ (Start Up) ไมย งุ ยาก ซง่ึ ใชเ วลาเพยี ง 1 – 2 สัปดาห 2) การดูแลและบํารุงรกั ษางาย ทําใหไมจาํ เปนตอ งใชบุคลากรท่ีมีความรูค วามชํานาญมากนัก 3) ไมตอ งมกี ารควบคมุ การเวยี นตะกอนกลับ 4) ใชพ ลงั งานในการเดนิ ระบบนอย เนอื่ งจากใชพ ลงั งานไฟฟา ใชสาํ หรบั ขับเคลอื่ นมอเตอรเทาน้นั สง ผลใหคา ใชจ า ยในการดําเนินการและบํารุงรกั ษาตา่ํ ดวย ขอเสีย 1) ราคาเครื่องจกั รอปุ กรณท มี่ ีราคาแพง เนอ่ื งจากตอ งใชว สั ดุอยางดเี ปน สวนประกอ 2) เพลาแกนหมุนทต่ี อ งรบั ท้ังแรงอดั และแรงบิดชํารุดบอยครัง้ 3) แผนจานหมนุ ชีวภาพชาํ รดุ เสียหายงา ย หากสัมผัสรังสีอตุ ราไวโอเลต็ และสารพษิ เปน เวลานานอยา งตอเนือ่ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook