1
คำนำ การเกดิ อบุ ตั ภิ ยั เกยี่ วกบั สารเคมี อาทิ การหกรว่ั ไหล เพลงิ ไหมห้ รอื การระเบิดจากกิจกรรมต่างๆ ท้ังจากการผลติ การเก็บรกั ษาและการ ขนสง่ ทเี่ พม่ิ มากขนึ้ ซง่ึ คงจะปฏเิ สธไมไ่ ดว้ า่ อบุ ตั ภิ ยั แตล่ ะครงั้ มไิ ดจ้ ำกดั เฉพาะโรงงานสารเคมเี ทา่ นน้ั แตย่ งั ไดส้ รา้ งความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั ประชาชน และสง่ ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มเปน็ อนั มาก ทง้ั น้ี “คณุ ” ในฐานะประชาชน ทอ่ี าจพบเหน็ หรอื ไดร้ บั ผลกระทบจากเหตกุ ารณอ์ บุ ตั ภิ ยั ดงั กลา่ ว กส็ ามารถ ดำเนนิ การเบอื้ งตน้ โดยการแจง้ ขอ้ มลู ทจี่ ำเปน็ ตอ่ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง ดังจะได้กล่าวถึงในคู่มือ “การดำเนินการเบื้องต้นเม่ือพบเหตุฉุกเฉิน สารเคมแี ละวตั ถอุ นั ตราย” เลม่ น้ี โดยคมู่ อื ฯ จะแสดงรายละเอยี ดเกย่ี วกบั ขน้ั ตอนการดำเนนิ การเบอ้ื งตน้ เมอ่ื พบเหตฉุ กุ เฉนิ สารเคมี วธิ กี ารจำแนก ประเภทสารเคมีจากปา้ ยสญั ลกั ษณ์ ลักษณะของรถขนส่ง หมายเลข สหประชาชาติ (UN number) เป็นตน้ กรมควบคมุ มลพษิ หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ คมู่ อื เลม่ นจี้ ะเปน็ ประโยชน์ ตอ่ ผพู้ บเหน็ เหตกุ ารณอ์ บุ ตั ภิ ยั จากสารเคมี ซงึ่ ทำใหเ้ จา้ หนา้ ทร่ี ะงบั เหตุ อุบตั ิภัยสามารถใชข้ อ้ มูลของ “คุณ” ในการจัดการเหตุการณ์ดังกล่าว ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ ทำใหล้ ดความสญู เสยี ตอ่ ประชาชน และส่ิงแวดล้อมได้ สำนกั จัดการกากของเสยี และสารอนั ตราย กรมควบคุมมลพิษ คณะผู้จดั ทำ ทปี่ รกึ ษา ดร.สุพัฒน์ หวงั วงศว์ ฒั นา อธบิ ดกี รมควบคมุ มลพษิ , นายวจิ ารย์ สิมาฉายา รองอธบิ ดกี รมควบคุมมลพิษ, ผูเ้ รยี บเรยี ง นายสุเมธา วเิ ชียรเพชร ผูอ้ ำนวยการส่วนปฏบิ ัติการฉกุ เฉนิ และฟ้ืนฟ,ู นางอาภาภรณ์ ศริ พิ รประสาร จดั ทำโดย : ส ่วนปฏิบัติการฉุกเฉินและฟื้นฟู สำนักจดั การกากของเสยี และสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ พิมพค์ รง้ั ท่ี 1 จำนวน 2,000 เลม่ ปที ี่พิมพ์ 2553 2
สารบัญ บ ท1ท ี่ หน4า้ 6 การดำเนินการเบือ้ งตน้ เม่อื เกดิ อบุ ตั ิภยั 14 จากสารเคมีและวัตถอุ ันตราย 18 20 2 การบ่งช้วี ัสดอุ นั ตราย จากลกั ษณะถังบรรจสุ ารเคมี 3 สัญลกั ษณ์ทตี่ ิดบนภาชนะบรรจุสารเคมี และวตั ถอุ ันตราย 4 ป้ายบอกรหสั และสญั ลกั ษณ์ของสารเคมี ท่ตี ดิ ไวด้ ้านขา้ งและหลงั ภาชนะบรรจุ 5 สารเคมที ่ที ำปฏกิ ิริยากับน้ำแลว้ ให้กา๊ ซพิษ นายรงั สรรค์ ป่นิ ทอง ผ้อู ำนวยการสำนักจดั การกากของเสยี และสารอันตราย นกั วชิ าการสิง่ แวดลอ้ มชำนาญการ, นางสาวสิรริ ัตน์ ขำวารี นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ มปฏบิ ตั กิ าร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ออกแบบและจัดทำโดย บรษิ ัท บีทเี อส เพรส จำกดั www.btspress.blogspot.com
คมู่ อื บทท่ี 1 การดำเนินการเบื้องต้น เมือ่ พบเหตฉุ ุกเฉินสารเคมี การดำเนินการเบือ้ งต้น และวตั ถอุ นั ตราย เม่ือเกดิ อุบัตภิ ัยจากสารเคมแี ละวตั ถอุ นั ตราย 4 เมอ่ื เกดิ อบุ ตั ภิ ยั บนทอ้ งถนนไมว่ า่ จะเปน็ เหตทุ เ่ี กดิ จากการ หกร่ัวไหล เพลิงไหม้หรือการระเบิดของสารเคมีในระหว่าง การขนสง่ หากทา่ นอยใู่ กลจ้ ดุ เกดิ เหตมุ ากทส่ี ดุ หรอื เปน็ ผพู้ บเหน็ เหตกุ ารณเ์ ปน็ คนแรก สง่ิ ทท่ี า่ นควรดำเนนิ การในเบอ้ื งตน้ ดงั น้ี 1. มองหาผบู้ าดเจบ็ หรอื หมดสตใิ นบรเิ วณทเี่ กดิ เหตอุ ยา่ ง ระมัดระวัง ในระยะห่างอย่างน้อย 50 เมตร ทางด้านเหนือลม หากประเมนิ สถานการณแ์ ลว้ วา่ สามารถเขา้ ชว่ ยเหลอื ผบู้ าดเจบ็ หรอื หมดสตไิ ดโ้ ดยไมม่ คี วามเสย่ี งอนั ตรายใดๆ ใหร้ บี เคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ว่ ย ไปอยใู่ นท่ีอากาศบริสทุ ธิ์ทันที 2. รีบแจ้งหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินของท้องท่ีได้แก่ ตำรวจดับเพลิง หรือศูนย์ประสานงานภาวะฉุกเฉินของท้องที่ เพอ่ื ให้ขอ้ มลู ที่จำเปน็ เกี่ยวกับเหตุการณท์ เี่ กิดขึ้นได้แก่ - สถานการณท์ เี่ กดิ เหตุแนน่ อน - สัญลักษณ์หรือป้ายที่แสดงถึงชนิดของสารเคมี (บทท่ี 2) - ประเภทของรถบรรทุกหรือลักษณะรูปทรงของ ภาชนะบรรจุสารเคมี (บทท่ี 3) - หมายเลขสหประชาชาติ (UN number) ตัวเลข 4 หลกั ทต่ี ดิ บนภาชนะบรรจุ หรอื ขา้ งรถ รวมทง้ั ชอ่ื ของ บริษัทขนส่งและหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินท่ีติด ข้างรถ (บทที่ 4) - มไี ฟไหม้ หรอื สารเคมรี ว่ั ไหลในทเ่ี กดิ เหตหุ รอื ไม่ โดย สงั เกตจากกลุ่มควนั หรอื กลนิ่
- จำนวนผ้บู าดเจบ็ และร่องรอยความเสยี หาย - สภาพแวดลอ้ มใกลเ้ คยี งไดแ้ ก่ แหลง่ นำ้ ชมุ ชน โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นตน้ 3. เขา้ สู่ทีเ่ กดิ เหตทุ างด้านเหนอื ลม อย่าจอดรถในทที่ ี่เปน็ ทาง ผ่านของสารเคมีท่ีร่ัวไหล อย่าขับรถผ่านกลุ่มควันสารเคมี ให้ระลกึ เสมอว่า ยานพาหนะเปน็ แหล่งกำเนิดประกายไฟ อาจทำให้ สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น 4. ห้ามก่อให้เกิดประกายไฟใดๆ ในบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เนอ่ื งจากอาจมไี อระเหยของสารเคมหี รอื กา๊ ซทต่ี ดิ ไฟได้ ในบรเิ วณนน้ั 5. กน้ั เขตอนั ตรายเบอ้ื งตน้ ในรศั มี 75 เมตร เพอ่ื ใหม้ พี น้ื ทเ่ี พยี งพอ สำหรับหน่วยปฏบิ ัตกิ ารฉุกเฉิน ทจี่ ะเข้ามาระงับเหตุในจุดทปี่ ลอดภยั ถา้ เกดิ ไฟไหมใ้ นรถขนสนิ คา้ ใหก้ น้ั เขตอนั ตรายในรศั มี 150 เมตรสำหรับ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ดี ับเพลิง (แนวก้นั เขตอันตรายอาจปรับ เปลยี่ นได้ตามสถานการณ์) 6. กน้ั การจราจรผา่ นจดุ เกดิ เหตุ หา้ มบคุ คลทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งเขา้ ใกล้ พ้นื ทอี่ นั ตราย 7. แจง้ เตอื นประชาชนใหเ้ ตรยี มการอพยพเคลอ่ื นยา้ ยออกจาก บรเิ วณทีก่ ล่มุ กา๊ ซหรือไอระเหยสารเคมหี นาแนน่ เคลื่อนท่ผี า่ น 8. ถ้าพบวา่ มกี ารรว่ั ไหลของสารเคมีลงทอ่ ระบายน้ำ คู คลอง ควรแจง้ ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั ปรมิ าณของสารเคมที รี่ วั่ ไหลลงแหลง่ นำ้ แกห่ นว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบตอ่ ไป ทงั้ น้ี สารเคมบี างชนดิ อาจทำปฏกิ ริ ยิ า กบั น้ำแล้วให้ก๊าซพษิ ทำให้เกดิ อันตรายมากข้ึน (บทที่ 5) 9. หา้ มเหยียบบนสารเคมที ีร่ ว่ั ไหลบนพ้ืน 10. หา้ มเปดิ ทา้ ยรถของยานพาหนะทปี่ ระสบภยั เนอื่ งจากอาจมี ไอระเหยของสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูง รั่วไหลออกมาทำให้เกิด อันตรายถงึ ขัน้ เสียชีวติ ได้ 5
บทที่ 2 บสัญรรลจักสุษาณรเท์ ค่ีตมดิ ีแบลนะภวาตั ชถนะอุ นั ตราย ประเภทที่ 1 : วตั ถรุ ะเบิด ระเบิดไดเ้ มือ่ ถกู กระแทกเสียดสี หรือถกู ความรอ้ น เช่น ทีเอ็นที ดนิ ปนื พลุไฟดอกไมไ้ ฟ ความเสยี่ งอันตราย : รังสีความร้อน แรงอัดอากาศ และสะเก็ดระเบิด การปอ้ งกนั และลดความเสยี่ ง : ระวังความร้อน กระแทกและลดการเสยี ดสี ประเภทท่ี 2 : ก๊าซ ก๊าซไวไฟ : ติดไฟง่ายเม่ือถกู ประกายไฟ กา๊ ซหุงตม้ กา๊ ซไฮโดรเจน ก๊าซมเี ทน ก๊าซอะเซทีลีน ความเสีย่ งอันตราย : รงั สคี วามรอ้ น แรงอดั อากาศ สะเกด็ เศษชน้ิ สว่ นภาชนะบรรจุ และอาจเกิดภาวะขาดออกซิเจน การปอ้ งกันและลดความเส่ียง : กำจัดองค์ประกอบของการ ติดไฟ กำจัดแหล่งกำเนิดไฟ การดับเพลิง 6
กา๊ ซพิษ : คมู่ อื อาจตายไดเ้ ม่ือสูดดม เชน่ กา๊ ซคลอรนี การดำเนนิ การเบือ้ งต้น กา๊ ซแอมโมเนีย ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ เมือ่ พบเหตุฉุกเฉินสารเคมี ความเสย่ี งอันตราย : เป็นพิษหรือกัดกร่อน แรงอัดอากาศ สะเก็ด และวัตถุอันตราย ช้นิ สว่ นภาชนะบรรจุ และอันตรายต่อ สิง่ แวดลอ้ ม 7 การปอ้ งกนั และลดความเส่ยี ง : หลกี เลี่ยงการสมั ผัสและสดู ดม สวมใส่ PPE การบำบดั พษิ การชะล้างสารปนเป้ือน ก๊าซไม่ไวไฟและไม่เปน็ พษิ : ไมไ่ วไฟ ไม่เป็นพิษ แต่อาจเกิดระเบิดได้ หากภาชนะบรรจถุ กู กระแทกอย่างแรง หรือไดร้ ับความร้อนสงู จากภายนอก เช่น ก๊าซออกซิเจน กา๊ ซไนโตรเจนเหลว ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ ความเสยี่ งอันตราย : เกิดบาดแผล เนื่องจากสัมผัสของเหลวเย็นจัด แรงอัดอากาศและสะเก็ดเศษช้ินส่วนภาชนะ บรรจุ การปอ้ งกันและลดความเสี่ยง : หลกี เลย่ี งการสมั ผสั ของเหลวทรี่ วั่ ไหล ใชน้ ำ้ ฉดี คลมุ เมือ่ จำเปน็ ตอ้ งเข้าระงับเหตุ
ค่มู ือ ประเภทท่ี 3 : ของเหลวไวไฟ การดำเนนิ การเบอื้ งต้น ลุกตดิ ไฟง่าย เมื่อถกู ประกายไฟ เชน่ เม่ือพบเหตฉุ ุกเฉนิ สารเคมี น้ำมนั เชื้อเพลิง ทนิ เนอร์ อะซโิ ตน ไซลนี ความเสี่ยงอันตราย : และวตั ถอุ ันตราย รงั สคี วามรอ้ น สะเกด็ เศษชน้ิ สว่ นภาชนะบรรจุ และอนั ตรายตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม 8 การปอ้ งกนั และลดความเสย่ี ง : กำจัดองค์ประกอบของการตดิ ไฟ กำจดั แหลง่ กำเนดิ ไฟ การดบั เพลิง ประเภทท่ี 4 : ของแขง็ ไวไฟ วตั ถทุ เ่ี กดิ การลกุ ไหมไ้ ดเ้ อง วตั ถทุ ี่ถกู น้ำแล้วให้ก๊าซไวไฟ ของแข็งไวไฟ : ลุกตดิ ไฟงา่ ย เม่อื ถูกเสียดสี หรือ ไดร้ บั ความรอ้ นสูง ภายใน 45 วนิ าที เช่น ผงกำมะถัน ฟอสฟอรสั แดง ไมข้ ีดไฟ ความเส่ียงอนั ตราย : อาจก่อให้เกิดการระเบิดของผงฝุ่นสารเคมี ในอากาศ และเมอ่ื ลุกไหมจ้ ะสลายตวั ใหก้ า๊ ซพษิ การป้องกันและลดความเสย่ี ง : กำจัดองคป์ ระกอบของการติดไฟ กำจัดแหล่งกำเนดิ ไฟ การดบั เพลิง
วัตถุทเ่ี กิดการลุกไหมไ้ ดเ้ อง : ลุกไหมไ้ ดเ้ อง เม่อื สมั ผัสกับอากาศภายใน 5 นาที เชน่ ฟอสฟอรสั ขาว ฟอสฟอรัสเหลือง โซเดียมซัลไฟด์ ความเสี่ยงอันตราย : เมอื่ ลุกไหม้จะสลายตวั ใหก้ า๊ ซพิษ และเกิดการลุกไหม้ อย่างรุนแรงและมีความร้อนสงู การปอ้ งกันและลดความเสยี่ ง : ห้ามสมั ผสั กับอากาศ เก็บไวใ้ นน้ำหรอื นำ้ มัน วตั ถทุ ถ่ี กู น้ำแลว้ ใหก้ ๊าซไวไฟ : ถกู นำ้ แล้วให้ก๊าซไวไฟหรือลุกติดไฟไดเ้ อง เช่น แคลเซียมคารไ์ บต์ โซเดยี ม ลิเธยี ม แมกเนเซยี ม ความเสยี่ งอนั ตราย : ทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ การป้องกนั และลดความเส่ยี ง : ห้ามสัมผัสกบั ความชื้นหรอื นำ้ เก็บในท่แี ห้งและเย็น ห้ามใชน้ ำ้ ฉีดเพื่อการดับเพลิง 9
ประเภทท่ี 5 : สารออกซไิ ดส์และสารออรแ์ กนคิ เปอร์ออกไซด์ สารออกซิไดส์ : ไมต่ ดิ ไฟ ไมร่ ะเบดิ แตช่ ว่ ยใหส้ ารอน่ื เกดิ การลกุ ไหมไ้ ดด้ ขี น้ึ เช่น ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ โปแตสเซยี มคลอเรต และแอมโมเนียไนเตรท ความเส่ียงอนั ตราย : เม่ือทำปฏกิ ิรยิ ากบั สารอินทรีย์ อาจเกดิ การระเบดิ หรอื ลุกไหม้ และเมอ่ื ไดร้ บั ความรอ้ นสูง อาจสลายตัว ให้ก๊าซพษิ หรือระเบิดได้ในท่ีจำกัด การป้องกันและลดความเสย่ี ง : หา้ มขนส่งรวมกบั สารอินทรยี ์ ป้องกันไมใ่ ห้ผสมกับ สารอินทรยี ห์ ากเกดิ อุบัติเหตุ สารออรแ์ กนิคเปอรอ์ อกไซด์ : อาจเกดิ ระเบดิ ไดเ้ มอื่ ถกู ความร้อน เสยี ดสี หรอื ถูกกระแทก อย่างรุนแรงและสามารถทำปฏิกริ ิยารนุ แรงกับสารอืน่ ๆ เชน่ อะซโิ ตนเปอรอ์ อกไซด์ เมทลิ เอทลิ คโี ตนเปอรอ์ อกไซด์ ไดเบนโซอิลเปอรอ์ อกไซด์ ความเสย่ี งอนั ตราย : ไวต่อการระเบิดเมอื่ ถูกกระแทก เสยี ดสี หรอื ความร้อนสูง ทำปฏกิ ริ ิยารนุ แรงกับสารอนิ ทรีย์ และเม่อื ลกุ ตดิ ไฟ จะเกดิ การเผาไหม้อย่างรวดเร็ว การป้องกนั และลดความเสีย่ ง : ระวังความร้อน กระแทกและลดการเสยี ดสี เมื่อเกดิ การติดไฟอาจเกิดก๊าซทเี่ ปน็ อนั ตราย 10
ประเภทท่ี 6 : สารพษิ และสารตดิ เชอ้ื คมู่ อื สารพษิ : การดำเนนิ การเบอื้ งตน้ ของแขง็ หรอื ของเหลวปรมิ าณเล็กนอ้ ย เมื่อพบเหตุฉุกเฉินสารเคมี อาจทำใหเ้ สียชีวติ หรอื บาดเจบ็ อย่างรนุ แรง จากการกนิ สดู ดม หรือสัมผัสทางผิวหนัง และวัตถอุ ันตราย เช่น อารซ์ ีนคิ ไซยาไนด์ ปรอท สารกำจดั ศัตรูพืช โลหะหนักเป็นพิษ 11 ความเสีย่ งอันตราย : เป็นพษิ และอนั ตรายต่อสิ่งแวดลอ้ ม การปอ้ งกันและลดความเสี่ยง : หลีกเลย่ี งการสมั ผัสหรือสูดดม หลกี เลย่ี งการปนเปื้อนสสู่ ่ิงแวดลอ้ ม สารตดิ เชอ้ื : วตั ถทุ ีม่ เี ช้อื โรคปนเป้อื นและอาจทำใหเ้ กดิ โรคได้ เชน่ ขยะติดเชือ้ จากโรงพยาบาล เข็มฉดี ยาใชแ้ ล้ว เชือ้ โรคแอนแทรกซ์ แบคทีเรีย ไวรัส ความเส่ียงอนั ตราย : แพรเ่ ช้ือโรคและอนั ตรายต่อสง่ิ แวดลอ้ ม การปอ้ งกันและลดความเส่ียง : หลีกเลย่ี งการสัมผสั หรือสูดดม ระวงั การปนเป้ือนสู่สง่ิ แวดล้อม
คูม่ อื ประเภทท่ี 7 : วตั ถุกัมมันตรังสี การดำเนนิ การเบอื้ งต้น สามารถแผร่ งั สที ่เี ป็นอนั ตรายตอ่ รา่ งกาย เมื่อพบเหตุฉกุ เฉนิ สารเคมี เชน่ โคบอลต์ เรเดยี ม พลูโตเนียม และยเู รเนยี ม และวัตถอุ ันตราย ความเสียงอันตราย : เปน็ อนั ตรายตอ่ ผิวหนงั และมผี ลตอ่ เม็ดเลือด 12 การป้องกันและลดความเส่ยี ง : หลกี เลยี่ งการอย่ใู นระยะใกล้เป็นระยะเวลา นาน ประเภทท่ี 8 : สารกัดกร่อน สามารถกดั กร่อนผิวหนงั และเป็นอันตราย ตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ เช่น กรดเกลอื กรดกำมะถนั โซเดียมไฮดรอกไซด์ และ แคลเซยี มไฮเปอร์คลอไรด์ ความเสีย่ งอนั ตราย : กัดกร่อนผิวหนงั และระคายเคืองตอ่ ระบบทางเดินหายใจ ทำปฏกิ ริ ยิ ากบั โลหะ ทำใหเ้ กดิ ก๊าซไวไฟ และอนั ตราย ต่อสิ่งแวดลอ้ ม การป้องกนั และลดความเสี่ยง : หลกี เลย่ี งการสัมผสั ถูกผิวหนงั โดยตรง หลีกเลีย่ งการสูดดมไอระเหยของ สารกดั กรอ่ น
ประเภทที่ 9 : วัตถุอ่ืนๆ ทเ่ี ป็นอันตราย สารและส่ิงของที่ในขณะขนสง่ มคี วามเป็นอันตรายและ ไมจ่ ดั อยใู่ นประเภท 1 ถงึ 8 หรอื สารทม่ี กี ารควบคมุ อณุ หภมู ิ ในขณะขนสง่ ไม่ต่ำกว่า 100 oC ในสภาพของเหลว หรอื มอี ุณหภมู ไิ มต่ ำ่ กวา่ 240 oC ในสภาพของแขง็ เช่น ยางมะตอยเหลว กำมะถนั เหลว และขีเ้ ถา้ จากเตาหลอมโลหะ ความเสี่ยงอันตราย : อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเปน็ พษิ และอาจเกดิ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ และสงิ่ แวดล้อม การป้องกันและลดความเส่ยี ง : หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนังหรือการสูดดม ระวังการ ปนเปือ้ นสูส่ ่ิงแวดลอ้ ม เมือ่ รั่วไหลลงสูด่ นิ หรอื แหลง่ นำ้ สาธารณะ 13
บทที่ 3 ลกากั รษบ่งณชะ้วี ถัสงั ดบุอรนั รตจรุสายาจราเกคมี 1. ของเหลวไวไฟ (Flammable Liquids) รปู ทรง : ดา้ นท้ายเป็นรปู ทรงวงรี ดา้ นขา้ งเปน็ ทรงกระบอก หวั -ท้ายเรยี บหรอื โคง้ มนเล็กนอ้ ย มชี อ่ งทางเดินและ ชอ่ งเติมสารดา้ นบนถัง ใชบ้ รรจุ : น้ำมนั เชื้อเพลิง สารทำละลายไวไฟบางชนดิ 2. ก๊าซเหลวอุณหภูมติ ำ่ มาก (Cryogenic Gases) รูปทรง : เปน็ ถงั บรรจุทรงกระบอกขนาดใหญ่ หัว-ท้ายโค้งมน บรเิ วณส่วนทา้ ยของถัง มตี ้คู วบคุมระบบและทอ่ ระบาย ความดัน ใช้บรรจุ : กา๊ ซเฉ่อื ย ไนโตรเจนเหลว ออกซิเจนเหลว อารก์ อน 14
คมู่ อื การดำเนนิ การเบอื้ งตน้ เม่ือพบเหตุฉุกเฉินสารเคมี และวัตถอุ ันตราย 3. กา๊ ซเหลวอัดความดนั (Liquefied Gases) รปู ทรง : ด้านทา้ ยเป็นรปู ทรงคร่ึงวงกลมหรือกลม ดา้ นขา้ งเปน็ รปู ทรงกระบอก หัว-ท้ายโค้งมน ใช้บรรจุ : ก๊าซไวไฟ LPG และก๊าซพิษบางชนิด เช่น คลอรนี แอมโมเนีย 4. กา๊ ซอัดความดัน (Compressed Gases) รปู ทรง : เป็นถงั รูปทรงกระบอกเรียบยาวจำนวนมาก ยดึ ติดถาวรอยบู่ นรถ ใช้บรรจ ุ : ก๊าซอดั ความดันทีไ่ มใ่ ช่ของเหลว เช่น ฮเี ลยี ม ไฮโดรเจน ไนโตรเจน และ ออกซิเจน 15
คมู่ อื การดำเนนิ การเบื้องต้น เม่ือพบเหตฉุ กุ เฉนิ สารเคมี และวตั ถอุ ันตราย 5. สารกดั กร่อน (Corrosive Substances) รปู ทรง : ดา้ นทา้ ยเปน็ รปู ทรงกลม ดา้ นขา้ งเปน็ รปู ทรงกระบอก หวั -ท้ายโคง้ มนเลก็ น้อย ตวั ถังทำดว้ ยสแตนเลส มวี งแหวนรดั รอบ ใช้บรรจุ : กรด-ด่างแก่ เช่น กรดเกลอื กรดกำมะถัน โซเดียมไฮดรอดไซด์ 6. ของเหลวความดันตำ่ (Low Pressure chemical) รปู ทรง : ดา้ นทา้ ยเปน็ รปู ทรงกลม ดา้ นขา้ งเปน็ รปู ทรงกระบอก หัว-ท้ายโคง้ มนเลก็ น้อย ตัวถังทำดว้ ยเหล็ก ใชบ้ รรจุ : ของเหลวไวไฟ กรดอะครลิ ิก ถ่านหนิ เหลว สารพษิ 16
7. ของแขง็ (Dry bulk Cargo) รปู ทรง : ดา้ นทา้ ยเปน็ รปู ทรงเกอื กมา้ มชี ่องทางเดินบนหลงั คา ภายในถังมีการแบง่ ช่องบรรจสุ ารชัดเจน ใชบ้ รรจ ุ : ซเี มนต์ ของแขง็ กดั กรอ่ น แคลเซยี มคารไ์ บด์ เมด็ พลาสตกิ สารออกซิไดเซอร์ 8. ของเสีย (Waste) รปู ทรง : ด้านท้ายเปน็ รปู ทรงกลมและมฝี าเปดิ ด้านทา้ ยขนาดใหญ่ ด้านข้างเปน็ รูปทรงกระบอก หวั -ท้ายโค้งมนเลก็ นอ้ ย ใช้บรรจ ุ : ของเสยี จากการรวั่ ไหลของสารเคมหี รอื นำ้ มนั อาจใชข้ นสง่ น้ำมันดิบหรอื น้ำจากกระบวนการแยกน้ำมัน จากแทน่ ขดุ เจาะ 17
50 ซม.บทที่ 4 ป้ายบอกรหัสและสญั ลกั ษณข์ องสารเคมี 80 ซม. ป้ายบอกรหัสและสัญลกั ษณ์ แบง่ เปน็ 6 สว่ น สว่ นที่ 1 แสดงชอื่ สารเคมี สว่ นที่ 2 แสดงรหสั อันตราย และวธิ ปี ฏิบัตติ ่อสารเคมี เป็นตัวเลข 1 ตัว ตามด้วยอักษรอีก 1 ตัว หรอื 2 ตวั สว่ นท่ี 3 แสดงหมายเลขสหประชาชาติ (UN number) เป็นตวั เลข 4 หลัก บ่งบอกชนดิ สารเคมที ่ีบรรจุ สว่ นที่ 4 แสดงสัญลกั ษณ์ของสารเคมีอนั ตราย ส่วนท่ี 5 สว่ นราชการทอ่ี าจขอคำแนะนำ พรอ้ มเบอรโ์ ทรศพั ท์ สว่ นท่ี 6 แสดงชอื่ บรษิ ทั ผู้ผลิตหรือจำหนา่ ย พร้อมเบอรโ์ ทรศัพท์ ความหมายของตัวเลขส่วนท่ี 2 1. ฉีดนำ้ เป็นลำตรง 2. ฉีดน้ำเปน็ ละอองคลุม 3. ฉดี โฟมสำหรบั ดบั ไฟ 4. ฉดี สารเคมีสำหรบั ดบั ไฟ หา้ มใช้น้ำหรอื สารเคมีดบั ไฟท่ีมคี วามชน้ื 18
คมู่ อื การดำเนนิ การเบอื้ งตน้ เมื่อพบเหตุฉุกเฉินสารเคมี และวัตถอุ ันตราย 19
คูม่ อื การดำเนนิ การเบอื้ งตน้ เมื่อพบเหตุฉกุ เฉนิ สารเคมี และวัตถอุ ันตราย สบทารทเ่ี ค5มีท่ที ำปฏิกิริยากบั น้ำ แลว้ ใหก้ ๊าซพษิ อบุ ตั ภิ ยั จากสารเคมที เี่ กดิ จากการหกรด รวั่ ไหลหรอื อคั คภี ยั เจา้ หนา้ ทร่ี ะงบั เหตฉุ กุ เฉนิ มกั ใชน้ ำ้ ในการระงบั เหตุ ซง่ึ อาจทำให้ เหตกุ ารณน์ น้ั รนุ แรงมากขน้ึ หากสารเคมนี น้ั เปน็ ชนดิ ทเ่ี มอ่ื รวมตวั กับน้ำแล้วเกิดปฎิกิริยารุนแรงหรือระเบิดได้ บางครั้ง ผลพลอยได้จากปฏิกิริยาเหล่านี้ อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษ การกัดกร่อน ฯลฯ ในกรณีเช่นน้ี ควรปล่อยให้ไฟไหม้ หรือทำนบกั้นสารเคมีท่ีหกรั่วไหล อย่างไรก็ตาม น้ำอาจใช้ ในการลดความรุนแรงของเหตุการณ์ท่ีเก่ียวข้องกับสารเคมี เหล่านี้ได้ หากใช้ในอัตราและเวลาท่ีเหมาะสมยังมีอีกหลาย ปัจจัยท่ีอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายย่ิงข้ึน ได้แก่ ลม สภาพอากาศ สภาพภมู ิประเทศ และอุปสรรคเขา้ ไปในบรเิ วณ ทเ่ี กดิ เหตุ ดงั นน้ั เจา้ หนา้ ทร่ี ะงบั เหตรุ ะลกึ ไวว้ า่ “นำ้ ไมส่ ามารถ ใช้ระงับอุบัติภัยจากสารเคมีได้ทุกชนิด” โดยให้ดูรายช่ือ สารเคมีที่เมือ่ ทำปฏกิ ริ ิยากบั นำ้ แล้วใหส้ ารพษิ ดังน้ี 20
รายช่อื สารเคมีเมอื่ ทำปฏกิ ิริยากบั น้ำ แล้วเกิดกา๊ ซพิษเป็นอนั ตรายร้ายแรงตอ่ ระบบทางเดินหายใจ ช่อื สารเคม ี UN No. ก๊าซพิษ Acetone cyanohydrin, stabilized 1541 HCN Acetyl bromide 1716 HBr Acetyl chloride 1717 HCl Acetyl iodide 1898 HI Allyltrichlorosilane, stabilized 1724 HCl Aluminum alkyl halides 3052 HCl Aluminum alkyl halides, solid 3461 HCl Aluminum bromide, anhydrous 1725 HBr Aluminum chloride, anhydrous 1726 HCl Aluminum phosphide pesticide 3048 PH3 Aluminum phosphide 1397 PH3 Amyltrichlorosilane 1728 HCl Antimony pentafluoride 1732 HF Boron tribromide 2692 HBr Boron trichloride 1741 HCl Bromine pentafluoride 1745 HF, Br2 Bromine trifluoride 1746 HF, Br2 Butyltrichlorosilane 1747 HCl Butyryl chloride 2353 HCl Calcium dithionite,Calcium hydrosulfite 1923 H2S, SO2 Calcium phosphide 1360 PH3 Chlorine dioxide, hydrate, frozen 9191 Cl2 Chloroacetyl chloride 1752 HCl Chlorophenyltrichlorosilane 1753 HCl 21
ช่ือสารเคมี UN No. กา๊ ซพษิ Chlorosilanes, corrosive, flammable, n.o.s. 2986 HCl Chlorosilanes, corrosive, n.o.s. 2987 HCl Chlorosilanes, flammable, corrosive, n.o.s. 2985 HCl Chlorosilanes, toxic, corrosive, 3362 HCl flammable, n.o.s. Chlorosilanes, toxic, corrosive, n.o.s. 3361 HCl Chlorosilanes, water-reactive, flammable, 2988 HCl corrosive, n.o.s. Chlorosulfonic acid and 1754 HCl Sulfur trioxide mixture Chromium oxychloride 1758 HCl Cyclohexenyltrichlorosilane 1762 HCl Cyclohexyltrichlorosilane 1763 HCl Dibenzyldichlorosilane 2434 HCl Dichloroacetyl chloride 1765 HCl Dichlorophenyltrichlorosilane 1766 HCl Diethyldichlorosilane 1767 HCl Dimethyldichlorosilane 1162 HCl Diphenyldichlorosilane 1769 HCl Dodecyltrichlorosilane 1771 HCl Ethyldichlorosilane 1183 HCl Ethylphenyldichlorosilane 2435 HCl Ethyltrichlorosilane 1196 HCl Fluorosulphonic acid 1777 HF Hexadecyltrichlorosilane 1781 HCl Hexyltrichlorosilane 1784 HCl Iodine pentafluoride 2495 HF Isobutyryl chloride 2395 HCl 22
ชื่อสารเคมี UN No. ก๊าซพษิ Lithium amide 1412 NH3 Lithium nitride 2806 NH3 Magnesium aluminum phosphide 1419 PH3 Magnesium diamide 2004 NH3 Magnesium phosphide 2011 PH3 Metal alkyl halides, water-reactive, n.o.s. 3049 HCl Methyldichlorosilane 1242 HCl Methylphenyldichlorosilane 2437 HCl Methyltrichlorosilane 1250 HCl Nitrosylsulfuric acid 2308 NO2 Nitrosylsulphuric acid, solid 3456 NO2 Nonyltrichlorosilane 1799 HCl Octadecyltrichlorosilane 1800 HCl Octyltrichlorosilane 1801 HCl Phenyltrichlorosilane 1804 HCl Phosphorus oxychloride 1810 HCl Phosphorus pentabromide 2691 HBr Phosphorus pentachloride 1806 HCl Phosphorus pentasulphide, 1340 H2S free from yellow and white Phosphorus Phosphorus tribromide 1808 HBr Phosphorus trichloride 1809 HCl Potassium cyanide 1680 HCN Potassium dithionite, 1929 H2S, SO2 Potassium hydrosulphite Potassium phosphide 2012 PH3 Propionyl chloride 1815 HCl Propyltrichlorosilane 1816 HCl 23
ช่อื สารเคม ี UN No. กา๊ ซพษิ HCl Silicon tetrachloride 1818 HCN H2S, SO2 Sodium cyanide 1689 H2S, SO2 PH3 Sodium dithionite 1384 PH3 HCl, Sodium hydrosulphite 1384 SO2, H2S HCl Sodium phosphide 1432 HCl, SO2 HCl Strontium phosphide 2013 HCl HCl Sulphur ch lorides 1828 HF HF Sulphuryl chloride 1834 HF Thionyl chloride 1836 HCl Titanium tetrachloride 1838 H2S, SO2 Trichlorosilane 1295 Trimethylchlorosilane 1298 Uranium hexafluoride 2978 Uranium hexafluoride non fissile 2978 or fissile-excepted Uranium hexafluoride, 2977 fissile containing more than 1% Uranium-235 Vinyltrichlorosilane, stabilized 1305 Zinc dithionite,Zinc hydrosulphite 1931 หมายเหตุ HF Hygrogen fluoride NH3 Ammonia Br2 Bromine HCN Hygrogen cyanide No2 Nitrogen dioxide Cl2 Chlorine HI Hygrogen iodide PH3 Phosphine HBr Hygrogen bromide H2S Hygrogen sulfide HCl Hygrogen chloride SO2 Sulfur dioxide 24
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: