Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการขนส่งของเสียอันตราย

คู่มือการขนส่งของเสียอันตราย

Published by shawpatinspection, 2021-06-17 01:57:24

Description: คู่มือการขนส่งของเสียอันตราย

Search

Read the Text Version

45 3.)! รถท่ีใชใ นการขนสง สตั ว หรอื สง่ิ ของ ลกั ษณะอน่ื นอกจาก ทกี่ ําหนดไวใ นขอ 2 ที่มีลักษณะการบรรทุกโดยนาํ ไปใช ในการบรรทกุ วตั ถอุ นั ตราย ดงั น้ี -! วัตถุอันตรายประเภทที่ 1 (วตั ถรุ ะเบดิ ) ประเภทที่ 6 (สารพิษและสารติดเชอ้ื ) และประเภทที่ 7 (วตั ถุ กัมมนั ตรงั ส)ี -! วัตถุอันตรายทเ่ี ปน กาซ หรอื กา ซเหลวบรรจใุ นภาชนะ โดยมีปริมาณรวมกันเกินกวา 1,000 ลิตร หรือ มนี า้ํ หนกั รวมกนั เกนิ กวา 1,000 กิโลกรัม -! วัตถุอันตรายท่ีเปนของเหลวท่ีบรรจุในภาชนะ โดยมี ปริมาณรวมกนั เกนิ กวา 1,000 ลติ ร หรอื เปน ของแขง็ ที่นํา้ หนกั รวมกนั เกนิ กวา 1,000 กโิ ลกรมั หรอื ทง้ั สอง อยางรวมกันเกินกวา 1,000 ลิตรหรือเกินกวา 1,000 กิโลกรัม อยา งใดอยา งหนง่ึ 4.)!ประกาศนม้ี ิใหใชบ งั คับแก -! รถที่ใชในการบรรทุกเครื่องดื่มท่ีมีสวนผสมของ แอลกอฮอล ทภ่ี าชนะบรรจเุ ครอ่ื งดม่ื ในแตล ะภาชนะ มีปรมิ าตรไมเ กนิ 250 ลติ ร -! รถที่ใชลากจูงรถที่บรรทุกวัตถุอันตรายตามประกาศนี้ ในกรณีที่รถบรรทุกวัตถุอันตรายนั้นไมสามารถใชงาน ไดต ามปกตหิ รอื เกดิ อบุ ตั เิ หตุ -! รถท่ีใชในการขนสงวัตถอุ นั ตรายอน่ื นอกจากทก่ี ําหนด ไวใ นขา งตน และไดร บั ยกเวน ตามเอกสารคําแนะนํา

46 ของสหประชาชาติวาดวยการขนสงวัตถุอันตราย และ(UN Recommendations on the Transport of Dangerous Goods) ทไี่ ดร บั ความเหน็ ชอบจากกรมการ ขนสง ทางบก 5)!ประกาศนี้ใหใชบังคับ เม่ือพนกําหนดหกสิบวัน นบั แต วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปนตนไป (ประกาศ ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2544) 3.3 ขอ ปฏบิ ตั ใิ นการขนสง เพ่ือความปลอดภยั ของชมุ ชนและสง่ิ แวดลอ ม พนกั งานขบั รถ ขนสง วตั ถอุ นั ตราย ควรปฏบิ ตั ิ ดงั ตอ ไปน้ี 3.3.1! กอนเคล่ือนรถออกจากจดุ รบั วตั ถอุ นั ตราย 1) ตรวจสอบเอกสารรายชอื่ สนิ คา วา ตรงกบั สนิ คา ทจ่ี ะขนสง 2)!ตรวจสอบเครอ่ื งหมาย และฉลากบนบรรจุภัณฑ และ ปายบนยานพาหนะวาถูกตองตรงกบั ประเภทของวัตถุ ที่บรรจุ และบรรทุกหรือไม 3)!ตรวจสอบเอกสารกํากบั การขนสง วา มขี อ มลู กรอกไว อยา งครบถว น 4 )! ตรวจสอบวามีเอกสารขอมูลความปลอดภัยของวัตถุ ที่จะขนสง 5)!ตรวจดูบรรจุภัณฑที่จะขนสงวา อยใู นสภาพดีเรยี บรอ ย ไมแตกหรือชาํ รุดเสียหาย

47 6)!ตรวจดูการจดั วางวตั ถอุ นั ตราย วา มกี ารจดั วาง และ ขนสงวตั ถทุ ถ่ี กู ตอ ง (ดตู ารางท่ี 1) 7)! ตรวจสอบเครอื่ งมอื และอปุ กรณค วามปลอดภยั ประจาํ รถ วา มคี รบถว นและอยใู นสภาพทใ่ี ชง านได 8)!ตรวจสภาพรถ เชน -! ตรวจสอบความพรอ มของรถและอปุ กรณส ว นควบคมุ -! ตรวจสภาพรถ เชน ความดนั ของลมยาง รอยรว่ั หรอื ขอ บกพรอ งกอ นออกรถ หากพบวา บกพรอ งระหวา ง การขนสง ควรจอดรถและแกไ ขทนั ที -! ตรวจสภาพยาง ทกุ ๆ 2 ชวั่ โมง หรอื ประมาณ 150 กม. หากพบวา มขี อ บกพรอ ง เชน พบวา ยางเสน ใดเสน หนงึ่ รอ นกวา ปกตใิ หจ อดรถในทป่ี ลอดภยั และเปลย่ี นยาง เสน ทรี่ อ นออก 9)!การกาํ หนดเสน ทางเดนิ รถกอ นออกเดนิ ทางตอ งศกึ ษา เสน ทางและกาํ หนดเสน ทาง โดยหลกี เลย่ี งเสนทางท่ี อาจกอใหเ กดิ อนั ตรายทร่ี นุ แรง เมอ่ื เกดิ อบุ ตั เิ หตุ เชน อุโมงคท ม่ี ชี มุ ชนหนาแนน ถนนทเ่ี ลก็ หรอื แคบ 3.3.2! การเตมิ นา้ํ มนั เชอ้ื เพลงิ ตอ งปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1)!ดับเครอ่ื งยนตก อ นเตมิ 2)!ตองมีผูควบคุมประจาํ รถตลอดเวลาทเ่ี ตมิ

48 3.3.3! การตรวจสอบความปลอดภยั เมอ่ื พบกองไฟอยขู า ง ทางเดนิ รถขา งหนา ตอ งตรวจสอบใหแ นช ดั วา ปลอดภยั จึงขับรถผานไปได ไมควรจอดรถใกลก องไฟในระยะ นอ ยกวา 50 เมตร 3.3.4 การจอดรถ 1)!จอดบนไหลท างใหห า งจากเสน ขอบถนนไมน อ ยกวา 1.5 เมตร 2)! หากจาํ เปน ตอ งจอดรถเนอ่ื งจากเครอ่ื งยนตข ดั ขอ ง ใหแ สดงเครอื่ งหมายรถขดั ขอ ง 3.3.5 การเกบ็ ดแู ลรถระหวา งการขนสง หากมเี หตฉุ กุ เฉนิ จาํ เปน ตอ งจอดรถทย่ี งั มวี ตั ถอุ นั ตรายอยใู นรถเปน เวลานาน ควรดาํ เนนิ การ ดงั น้ี 1)!จอดรถในสถานทท่ี มี่ ผี คู วบคมุ ดแู ล หรอื ในคลงั สนิ คา หรอื ในโรงงานทม่ี หี นว ยรกั ษาความปลอดภยั โดยแจง ผคู วบคมุ ใหท ราบวา สนิ คา ทบี่ รรทกุ มอี นั ตรายอยางไร ถาผูขับรถไมอยูที่รถตองแจงใหผูควบคุมทราบที่อยู เพ่ือใหส ามารถตดิ ตอ ไดส ะดวก รวดเรว็ 2)! ถาไมส ามารถหาทจ่ี อดตามขอ 1) ได ใหจอดรถใน ที่สําหรับจอดรถโดยทั่วไปได แตตองเปนสถานท่ี ปลอดภยั และตอ งมผี ดู แู ลรถตลอดเวลา

49 3)!ถา ไมส ามารถหาทจี่ อดรถตามขอ 1) หรอื 2) ได ใหจอดรถหางจากทางหลวงและชุมชน โดยตองมี ผูดแู ลรถตลอดเวลา 3.3.6! การทาํ ความสะอาดรถหลงั จากการขนถา ยวตั ถอุ นั ตราย 1)!กรณใี ชร ถบรรทกุ หบี หอ ภาชนะ หรอื ถงั ทย่ี กขน้ึ ลงได เม่ือมีวัตถุอันตรายตกหลนหลังทําการขนถาย เสร็จแลวตองทําความสะอาดอยางถูกตอง และ ระมัดระวังไมใหวัสดุดูดซับหรือน้ําท่ีชะลางรถน้ัน ไหลลงสลู าํ นา้ํ สาธารณะ 2 )! กรณีใชรถบรรทุกวัตถุอันตรายชนิดหนึ่งและ จะเปล่ียนไปบรรทุกอีกชนิดหน่ึง ตองทํ า ความสะอาดถงั ทบ่ี รรทกุ นน้ั และระมดั ระวงั ไมใ ห วัตถุอันตรายปนเปอนออกสูสภาพแวดลอม ขางนอกได

บทท่ี 4 การปองกนั และระงับอุบัติภยั จากการขนสงวัตถุอันตราย การปองกันอบุ ตั ภิ ยั จากการขนสง วตั ถอุ นั ตราย เปน มาตรการ ซ่ึงจะชวยลดความเส่ียงในการเกิดอุบัติภัย และความสูญเสียท่ีอาจ เกดิ ขน้ึ ในระหวา งการขนสง วตั ถอุ นั ตราย ซง่ึ นอกเหนอื จากมาตรการ ทางกฎหมายแลว ผูประกอบการควรดาํ เนินการเพ่ือการปองกนั และ ลดความสญู เสยี ทอี่ าจเกดิ ขนึ้ จากการขนสง วตั ถอุ นั ตรายและเตรยี มพรอ ม สาํ หรบั รบั มอื กบั สถานการณฉ กุ เฉนิ ซง่ึ อาจเกดิ ขน้ึ โดยการจดั ทาํ ข้ันตอน การปฏบิ ตั งิ านมาตรฐาน ทงั้ สาํ หรบั งานประจาํ และในกรณเี กดิ เหตฉุ กุ เฉนิ จัดใหมีการฝกซอ มตามแผนฉกุ เฉนิ ท่ีวางไว รวมทง้ั จดั หาเครอ่ื งมอื และ อุปกรณความปลอดภยั ไวต ามความเหมาะสมดว ย 4.1 ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ านมาตรฐานสําหรบั เหตฉุ กุ เฉนิ (Standard Operating Procedures),(SOP) SOP เบอ้ื งตน สาํ หรบั เหตฉุ กุ เฉนิ คอื แผนฉกุ เฉนิ ซ่ึงควรประกอบดว ยหวั ขอ ตอ ไปน้ี 1) การประเมนิ ความเสย่ี งหรอื การสาํ รวจพื้นที่ ขอ มลู ทไี่ ดจ ากการประเมนิ ความเสยี่ งจะถกู นาํ มาใชใ นการวางแผน ตอบโตเ หตกุ ารณ เชน ความรนุ แรงของสถานการณท อี่ าจเกดิ ขนึ้ พน้ื ทห่ี รอื ประชาชนที่อาจไดรับผลกระทบ การควบคมุ สถานการณ การอพยพ และขบวนการกาํ จดั และฟน ฟวู ตั ถอุ นั ตราย (Clean-up) ในการประเมนิ ความเสยี่ ง นน้ั จะตอ งมขี อ มลู ตอ ไปน้ี 1.1 แหลง และขนาดของการหกลน หรอื รว่ั ไหล 1.2 ผลกระทบในขณะนน้ั จากการหกลน หรอื รว่ั ไหล 1.3 ลกั ษณะของเหตกุ ารณ 1.4 การบง ชเ้ี บอ้ื งตน เกย่ี วกบั วตั ถุ (ถา เปน ไปได)

51 2) การวางแผนกอ นเกดิ เหตุ การวางแผนลว งหนา เปน เรอ่ื งทด่ี สี าํ หรบั การตอบโตเ หตุฉกุ เฉนิ เพราะจะชว ยใหส ามารถตอบโตเ หตกุ ารณไ ดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ กจิ กรรม ในการวางแผนควรประกอบดว ย 2.1! การประสานงานกบั หนว ยงานทใ่ี หบ รกิ ารเมอื่ เกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ เชน สถานดี บั เพลงิ สถานตี าํ รวจ โรงพยาบาล เปน ตน 2.2! ขนั้ ตอนและรายละเอยี ดของแผนตอบโตเ หตฉุ กุ เฉนิ 2.3! ระบุรายชื่อและเบอรโทรศัพทของหนวยงานพื้นที่ที่ให ความชวยเหลอื ได 2.4! กําหนดวิธกี ารปรบั แผนใหท นั กับเหตุการณเ สมอ 2.5! ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั กิ ารกบั สารเคมที เ่ี กย่ี วขอ งอยา งปลอดภยั 3) กําหนดบทบาทของบคุ ลากร สายบังคับบัญชา การอบรม และการสอ่ื สาร ดงั ตอ ไปน้ี 3.1! หนา ทข่ี องบคุ ลากรเมอ่ื เกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ 3.2! บัญชรี ายชอ่ื ของทมี ตอบโตเ หตฉุ กุ เฉนิ 3.3! ความรับผิดชอบของผูท่ีอยูนอกพ้ืนท่ีเกิดเหตุ เชน ประชาสมั พนั ธก ารแจง เหตฉุ กุ เฉนิ ของบรษิ ทั 3.4! สายการบังคับบญั ชาในพ้ืนท่เี มอ่ื เกดิ เหตุฉกุ เฉนิ 3 . 5! ห น  า ที่ ที ม ส นั บ ส นุ น ซึ่ ง อ ยู  น อ ก พื้ น ท่ี เ กิ ด เ ห ตุ แ ล ะ ความสมั พนั ธใ นสายการบงั คบั บญั ชา 3.6! ระดบั ของการฝก อบรม ความถใ่ี นการอบรมและเนอ้ื หา การอบรมที่เกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินสําหรับทีมตอบโต เหตุฉุกเฉิน

52 3.7! วิธกี ารสอ่ื สาร ระหวางผูตอบโตเหตุฉุกเฉินและทีมที่ อยดู า นนอกพน้ื ที่ รวมทง้ั ขนั้ ตอนการสอื่ สาร เพอื่ ขจดั การใชวิทยุสื่อสารที่ไมจาํ เปน 3.8! หมายเลขโทรศัพทฉุกเฉินทั้งหมด 4) การฝก อบรมและการซอ ม ผูท่ีเกี่ยวของจะตองไดรับการอบรมเร่ืองแผนฉุกเฉิน และมี สาํ เนาแผนฉกุ เฉนิ ฉลบั ลา สดุ ดว ย นอกจากน้ี ควรจดั ใหม กี ารฝก ซอ ม ตามแผนฉุกเฉินเปนประจาํ ซง่ึ ความถใ่ี นการซอ มนค้ี วรขน้ึ กบั ความ เส่ียงของการขนสง นน้ั ๆ 4.2 แนวทางการดําเนนิ การเมอ่ื เกดิ ภาวะฉกุ เฉนิ 4.2.1 ขอ ควรปฏบิ ตั สิ าํ หรบั พนกั งานขบั รถ การระงับอบุ ัตภิ ยั เบื้องตนโดยพนักงานขบั รถ มดี งั ตอ ไปน้ี 1) กรณีเกดิ อบุ ตั เิ หตุ หากเกิดอุบัติเหตุทาํ ใหถังบรรทุกแตก ไมสามารถหยุดยง้ั การรว่ั ไหลของวตั ถอุ นั ตรายได และพนกั งานขบั รถ อยูในสภาพท่สี ามารถปฏบิ ตั ิงานได ควรปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1.1! ดับเครอ่ื งยนต 1.2!ติดตั้งเครื่องหมายใหสัญญาณ และแจง เตอื นผใู ชร ถ และผคู นทผ่ี า นไปมา 1.3! หามสบู บหุ ร่ี หา มใชโ คมไฟทไ่ี มม อี ปุ กรณค รอบ 1.4!แจง ใหส าธารณชนทราบเกยี่ วกบั อนั ตรายของสารทบี่ รรทกุ และแนะนาํ ใหอ ยเูหนอื ลม หรอื ปฏบิ ตั ติ ามคาํ แนะนาํ ทร่ี ะบไุ ว ในเอกสารคาํแนะนาํเกยี่ วกบั วตั ถอุ นั ตรายสาํหรบั พนกั งานขบั รถ

53 1.5!แจง ตาํ รวจและหนว ยดบั เพลงิ เรว็ ทส่ี ดุ หมายเลข 191,199 1.6! แจงผูประกอบการทราบโดยเรว็ ! 2) การเคลอ่ื นยา ยรถกรณฉี กุ เฉนิ 1.1!ควรเคลอื่ นยา ยรถออกจากทเ่ี กดิ เหตไุ ปเมอื่ มคี วามจาํ เปน เพื่อปอ งกันชวี ิตและทรพั ยสิน 1.2! กรณถี งั บรรทกุ วตั ถอุ นั ตรายเกดิ การรวั่ ไหลตอ งปฏบิ ตั ดิ งั น้ี - เคลอื่ นยา ยรถออกจากทางหลวง และหา งไกลลาํ นาํ้ สาธารณะและชุมชน - หากไมเ สย่ี งตอ การเกดิ อนั ตรายจนเกนิ ไป ใหรีบ หยุดยั้งการรั่วไหลดวยการดูดซับสารที่หกรั่วดวย ดนิ ทรายหรือสารดูดซับที่ไมติดไฟเทาที่จะทําได หรือรองรบั สารท่รี วั่ ไหลดวยภาชนะทีม่ ี 1.3! หลังเกิดเหตุแจงหนวยงานที่รับผิดชอบและบุคคล ที่เกี่ยวของใหเร็วที่สุดเทาที่จะทําได 1.4! ถา สารเคมไี หลลงสแู หลง นา้ํ ใหแ จง หนว ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ 1.5! เก็บเอกสารการขนสง วตั ถอุ นั ตรายและเอกสาร คาํ แนะนําเกย่ี วกบั วตั ถอุ นั ตรายไวก บั ตวั 1.6! ส่ือสารและบอกรายละเอยี ดเกย่ี วกบั วตั ถอุ นั ตราย ที่ขนสงมากับบุคลากรกูภัยเหตุฉุกเฉิน 1.7! อยา ละทงิ้ บรเิ วณทเ่ี กดิ เหตไุ ป 1.8! ถา ตอ งทง้ิ รถไว ไมม ผี ดู แู ลใหใ สเ กยี รแ ละดงึ เบรกมอื ไว 1.9! ถา ตสู นิ คา ไฟไหมใ หป ลดลอ็ ครถลากออกจากตสู นิ คา แตอ ยา เปด ประตรู ถลาก

54 1.10! ถาไฟไหมขณะที่กําลงั ถายเทใหป ดวาลวหยุดการ ทาํ งานและปด ปม ทง้ั หมด 1.11! หามดม ชิม หรอื สมั ผสั วตั ถอุ นั ตรายใหบ ง ชว้ี ตั ถุ อนั ตรายจากปา ยหรอื ใบกาํ กบั การขนสง และฉลาก 1.12! ใหทกุ คนอยใู นทศิ เหนอื ลมและหา งจากทเ่ี กดิ เหตุ 1.13 กกั กนั และจดั เกบ็ สง่ิ ทจ่ี ะเปน แหลง ของความรอ น หรือประกายไฟ เชน ไฟแช็ค บุหรี่ และยาน พาหนะใหอยูหางจากพื้นที่เกิดเหตุ 1.14 เคลอื่ นยา ยวัตถอุ นั ตรายทไ่ี มเ สยี หายไปยงั ทปี่ ลอดภยั ถาทาํ ได 1.15 ถายเทวัตถุอันตรายออกจากพื้นท่ีเกิดเหตุเฉพาะ เม่ือไมม กี ารรว่ั ไหล 1.16 ควรมกี ลอ งถา ยรปู ทใ่ี ชไ ดง า ยไวเ พอื่ สามารถบันทกึ เหตกุ ารณท เี่ กดิ ขน้ึ ได 4.2.2 ขอควรปฏบิ ตั สิ าํ หรบั ผปู ระกอบการขนสง การระงับอุบัติภัยในภาวะฉกุ เฉนิ สาํ หรับผูประกอบการ ขนสง มดี งั ตอ ไปน้ี 1. หากมีผูไดรับบาดเจ็บใหรีบจัดการปฐมพยาบาล ถา สามารถทาํ ไดแ ละนาํ สง สถานพยาบาลโดยเรว็ 2.! ควบคมุ หรอื หยดุ ยงั้ การรวั่ ไหลของสารเคมี เชน อดุ รรู ว่ั หรอื หาภาชนะมารองรบั หากทาํ ไดโ ดยปลอดภยั 3.! ไมป ลอ ยใหส ารเคมรี ว่ั ไหลหรอื ระเหยออกไป 4. หลังเกิดเหตุแจง 199 และบคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ งใหเ รว็ ทสี่ ดุ เทาที่จะทําได

55 5.! ถา สารเคมไี หลลงสแู หลง นา้ํ ใหแ จง หนว ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ 6.! เก็บใบกํากบั การขนสง สารเคมไี วก บั ตวั 7.! สอ่ื สารแจง รายละเอยี ดกบั บคุ ลากรทม่ี ากภู ยั เหตฉุ กุ เฉนิ เกย่ี วกบั วตั ถอุ นั ตรายทข่ี นสง มา 8.! อยาละทิ้งบริเวณที่เกิดเหตุไป 9.! อยา เคลอ่ื นยา ยรถ 10.!ถาตูสินคา ไฟไหมใ หป ลดลอ็ ครถลากออกจากตสู นิ คา แตอ ยา เปด ประตรู ถลาก 11.!ถาไฟไหมขณะที่กําลังถายเทใหปดวาลวฉุกเฉินเพ่ือ หยดุ การทํางานและปด ปม ทง้ั หมด 12.!หลกี เลย่ี งการหายใจหรอื สมั ผสั วตั ถอุ นั ตราย 13.!หามดม ชิมหรือแตะตองวัตถุอันตรายเพื่อบงชี้วา เปน สารอะไร ใหบงชี้สารจากปายใบกาํ กบั การขนสง ฉลากและฉลากขอ มลู 14.!หา มดม่ื กิน สูบบุหรี่บริเวณใกลที่เกิดเหตุ 1 5 .!ใ ห  ทุ ก ค น อ ยู  ใ น ท่ี สู ง แ ล ะ อ ยู  เ ห นื อ ล ม แ ล ะ ห  า ง จ า ก ที่เกิดเหตุ 16.!กักกันหรือจัดเก็บส่ิงที่จะเปนแหลงของความรอน หรือประกายไฟ เชน ไฟแช็ค บุหรี่ และยานพาหนะ ใหอยูหางจากพื้นที่เกิดเหตุ 17.ถาสามารถดาํ เนินการไดใหเคล่ือนยายวัตถุอันตราย ทไ่ี มเ สยี หายไปยงั ทปี่ ลอดภยั 18.!รบี ขนถา ยวตั ถอุ นั ตรายออกจากพน้ื ทเ่ี กดิ เหตุ เมอื่ ไมม ี การรั่วไหล

56 4.3 เครอื่ งมอื และอปุ กรณค วามปลอดภยั สาํ หรบั รถบรรทกุ วตั ถอุ นั ตราย 1) ถงั ดบั เพลงิ ผูประกอบการขนสง ตอ งจดั ใหม เี ครอ่ื งดบั เพลงิ ตามประเภทและลกั ษณะดงั ตอ ไปน้ี ไวใ นรถขนสง วตั ถอุ นั ตราย 1.1 กรณนี ้าํ หนกั รถรวมสงู สดุ ไมเ กนิ 3,500 กิโลกรัม ตองมีเครื่องดับเพลิงแบบมือถือชนิดผงเคมีแหง ขนาด บรรจไุ มน อ ยกวา 2 กิโลกรัม อยา งนอ ย 1 เครอ่ื ง ตดิ ตง้ั ท่ีหองผูขับ โดยถงั ดบั เพลงิ นน้ั ตอ งมคี ณุ ภาพใชง านไดด ี กรณีท่ีรถมีนํ้าหนักรวมสูงสุดเกิน 3,500 กิโลกรัม ตองมีเคร่ืองดบั เพลงิ ขนาดไมน อ ยกวา 6 กิโลกรัม เพม่ิ ขน้ึ อีกอยา งนอ ย 1 เครอ่ื งทด่ี า นนอกหอ งผขู บั 1.2 ถังดับเพลิงเหลาน้ีตองไดรับการรับรองมาตรฐาน ผลิตภัณฑอุตสาหกรรม ตามกฎหมายวา ดว ยมาตรฐาน ผลติ ภณั ฑอ ุตสาหกรรม ซง่ึ ไดแ บง ประเภทของถงั ดบั เพลงิ ออกตามประเภทของเชอ้ื เพลงิ ดงั น้ี -! ประเภท A เหมาะสําหรับดับเพลิงที่เกิดจากเชื้อ เพลงิ ธรรมดา เชน ไม ผา กระดาษยาง และพลาสตกิ -! ประเภท B เหมาะสาํ หรบั เพลงิ ทเี่ กดิ จากการตดิ ไฟ ของของเหลว กา ซ ไข นา้ํ มนั เชอ้ื เพลงิ เปน ตน -! ประเภท C เหมาะสําหรับการดับเพลงิ ทีเ่ กดิ จาก อุปกรณไฟฟา วัตถุที่มีกระแสไฟฟา -! ประเภท D เหมาะสําหรบั การดบั เพลงิ ที่เกดิ จาก โลหะตา งๆทต่ี ดิ ไฟเชน แมกนเี ซยี ม โซเดยี ม โปตสั เซยี ม

57 หมายเหตุ ในถังดับเพลิงอาจมีผงเคมีดบั เพลงิ หลายประเภทในถัง เดียวกัน เชน ประเภท A B C ซ่ึงสามารถดบั เพลงิ ไดห ลายประเภท - ตองตดิ ตง้ั ถงั ดบั เพลงิ ไวใ นลกั ษณะทส่ี ามารถนําออกมา ใชงานไดสะดวกรวดเร็วและตองไมอยูใกลปลายทอ ไอเสียหรือปลายทอสําหรบั รบั หรอื จา ยวตั ถอุ นั ตราย - สารทใ่ี ชใ นการดบั เพลงิ ตอ งไมก อ ใหเ กดิ กา ซพษิ 2) อปุ กรณเ พอ่ื ความปลอดภยั อุปกรณเ พอ่ื ความปลอดภยั ที่ ค ว รจัดให มีไ วประจํ ารถตามความจํ าเปนสํ าหรับรถบรรทุกวัตถุ อันตรายแตล ะประเภทมีดงั น้ี 2.1 เครอ่ื งมอื สาํ หรบั ซอ มรถกรณฉี กุ เฉนิ 2.2 หมอนสาํ หรบั หนนุ ลอ รถ 2.3 อปุ กรณไ ฟสญั ญาณฉกุ เฉนิ แบบเคลอ่ื นยา ยได 2.4 เครอ่ื งหมายสะทอ นแสงทส่ี ามารถตง้ั กบั พน้ื ได เพื่อ ใชในกรณรี ถขดั ขอ ง 2.5 เสอ้ื สะทอ นแสง 2.6 อปุ กรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คล (personal Protection Equipment) (ตารางที่ 5) เชน อปุ กรณป อ งกนั ตา เคร่ืองชวยหายใจ รองเทาหุมขอหรือรองเทา นริ ภยั ถงุ มอื และผา กนั เปอ น เอย้ี มหรอื ชดุ ปอ งกนั สารเคมี 2.7! นา้ํ ยาลา งตา

58 ตารางที่5 อปุ กรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนดิ ตา งๆ อุปกรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนดิ ตา งๆ อปุ กรณ รายละเอยี ดของ การปกปอ งและขอ ควรระวงั อุปกรณ 1.อปุ กรณป อ งกนั ภยั เปน ชดุ หอ หมุ ทง้ั รา ง ปองกนั กา ซ ฝุน ไอระเหย สวนบคุ คล กายมิดชิด(Fully- และการกระเดน็ ของสาร ไม 1.1ชดุ ปด คลมุ ทง้ั ตวั encapsulating suit) สามารถระบายความรอน (เปน ชดุ ชน้ิ เดยี ว จากรา งกายได จึงอาจทาํ ให รองเทา และถงุ มอื ผูสวมไดรับอันตรายจาก อาจอยูติดกับชดุ ความรอ น หรอื เปน ชน้ิ เดยี วกบั ชุดและสามารถ เปลย่ี นได หรอื อาจ แยกกัน) 1.2 ชดุ ทไ่ี มป ด คลมุ ทง้ั ตวั เปน ชดุ หลายชน้ิ ไมไ ด ปอ งกนั สารกระเดน็ ถกู รา งกาย หอ หมุ รา งกายทงั้ หมด ปองกันฝุนและวัตถุอ่ืนๆ (Non-encapsulating ยกเวน กาซและไอระเหยไม suit) (เสอ้ื ฮดู กางเกง ปกปองสวนคอและศีรษะ หรอื ชดุ หมแี ละเสอ้ื คลมุ ไมใ ชใ นกรณที ต่ี อ งการปอ งกนั ทั้งตัวชิ้นเดียว) การซึมผานของกาซหรือของ เหลวทก่ี ระเดน็ มาสมั ผสั

59 อุปกรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนดิ ตา งๆ อปุ กรณ รายละเอยี ดของ การปกปอ งและขอ ควรระวงั อุปกรณ เอ๊ียมที่ปกปองขาและ เพ่ิมการปกปอ งหนา อก แขน แขน (อาจรวมเปน ชน้ิ และขาจากสารเคมที ก่ี ระเดน็ เดียวหรือแยกกัน) มาสมั ผสั มีประโยชนสาํ หรับ มักสวมทับชุดที่ไมหอ การทํางาน เชน เกบ็ ตวั อยา ง หุมรางกายทั้งหมด ปดฉลากและการวเิ คราะห ชุดปกปองรางกาย ปกปองรางกายจากอนุภาค จากสารปนเปอนท่ี แอลฟาและเบตา ไมส ามารถ เปน รงั สี ปอ งกนั รงั สแี ถมมาออกแบบมา สาํ หรบั ปอ งกนั การปนเปอ นผวิ ชุดคลุมที่ติดไฟไดชา ปกปองรางกายจากเปลวไฟ (โดยท่ัวไปมักใสไว ทแี่ ลบออกมา อาจทาํ ใหเ กดิ ช้ันใน) อนั ตรายจากสภาพความรอน รุนแรงยง่ิ ขน้ึ 2.หมวกนริ ภยั เปนหมวกแข็งทาํ ดวย ปกปอ งศรษี ะจากการกระแทก พลาสติกแข็งหรือยาง ซ่ึ ง ต  อ ง มี คุ ณ ส ม บั ติ ต า ม อาจมีวัสดุบุดานใน ขอ กําหนดของ OSHA ใน 29 เพอื่ ใหเ กดิ ความอบอนุ CFR 1910.135 3 . ค ร อ บ ป  อ ง กั น มสี ว นประกอบ 2 สว น ปองกันสารเคมีที่กระเซ็น ใบหนา (Hood) คอื ตวั ครอบและเลนสใ ส ออกมาเปนอนุภาคเล็กหรือ วสั ดทุ ที่ าํจะตอ งทนทานตอ ใชป อ งกนั ฝนุ สารเคมแี ละแรงกระแทก

60 อุปกรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนดิ ตา งๆ อปุ กรณ รายละเอยี ดของ การปกปอ งและขอ ควรระวงั อุปกรณ 4. หมวกคลมุ ผม โดยมีกระบังหมวกที่ ปองกันการปนเปอนของสาร แขง็ พอและยน่ื ออกมา เคมีที่ผม ปอ งกนั ไมใ หผ ม พอทจี่ ะใชเ ปน สงิ่ เตอื น เขาไปตดิ ในเครอ่ื งมอื และ เมื่อศีรษะเขาไปชน รวบผมไมใหเกะกะหนากาก กับชน้ิ สว นเครอ่ื งจกั ร 5. หนา กาก กระบงั หนา ขนาด 8 นว้ิ ปกปอ งตา ใบหนา จากสารเคมี เปน อยา งนอ ย (ปกปด ใบ แตไ มส ามารถปกปอ งจากสารเคมี หนา ทงั้ หมด)หรอื ฮดู กนั ที่กระเด็นออกมาในแนวโคง สารเคมที กี่ ระเซน็ มา ปกปอ งตาไดจ าํ กดั 6. แวนตานิรภัย รปู รา งลกั ษณะเหมอื น ปกปองตาจากอนุภาคขนาด (Safety Glasses) แวนตาที่ใชท่ัวไปจะ ใหญ และวัตถุที่กระเด็น ต  า ง กั น ต ร ง เ ล น ส  ที่ สามารถทนทานตอ แรง กระแทก แรงเจาะความ รอ นไดด ี 7. แวนครอบตา เปน อปุ กรณท ใี่ ชค รอบ การปกปอ งขน้ึ กบั คณุ ลกั ษณะ (Safety Goggles) ปดดวงตาทั้งสองขาง ของแวน ซง่ึ อาจปกปอ งสารเคมี โครงแวนจะปดสนิท ทรี่ ะเหยกลายเปน ไอ สารเคมี กบั รปู หนา ดว ยสายรดั กระเดน็ วตั ถขุ นาดใหญแ ละ ศรี ษะ วตั ถทุ ก่ี ระเดน็

61 อุปกรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนดิ ตา งๆ อปุ กรณ รายละเอยี ดของ การปกปอ งและขอ ควรระวงั อุปกรณ 8. ทอ่ี ดุ หู จะตอ งทาํ ดว ยยางทอี่ อ น ปกปอ งหจู ากการสมั ผสั เสยี งดงั นมุ และจะตอ งสนทิ แนน เปน เวลานานๆ การใชท อี่ ดุ หู กบั ชอ งหจู งึ จะมปี ระสทิ ธิ ตองผานการพิจารณาของ ภาพในการปอ งกนั เสยี ง เจา หนา ทค่ี วามปลอดภยั เพราะ สารเคมปี นเปอ นอาจเขา ไปในหไู ด 9. ทค่ี รอบหู หูฟงที่ครอบปดหู ปกปองหูและใชสําหรับการ (headphone) ส่ือสารดว ย (ชุดสื่อสารวิทยุ พรอ มไมโครโฟน) 10.ถงุ มือ ถุงมอื และแขน อาจ ปกปอ งมอื จากการสมั ผสั สาร เปนชิ้นเดียวกันยึด เคมี ควรใชเ ทปพนั ยดึ ถงุ มอื ให ตดิ กนั หรือแยกจาก ตดิ กบั แขนเสอื้ เพอื่ เพมิ่ การ ชุดปอ งกนั อน่ื ๆ ปกปอ งและปอ งกนั ไมใ หส าร เคมไี หลเขา ไปในแขนเสอ้ื ถา เปน ไปไดค วรใชถ งุ มอื ทใี่ ชแ ลว ทงิ้ เลยเพอ่ื ลดภาระการทาํ ความสะอาดสารปนเปอ น

62 อุปกรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนดิ ตา งๆ อปุ กรณ รายละเอยี ดของ การปกปอ งและขอ ควรระวงั อุปกรณ 11.รองเทา บทู รองเทาบูททนตอสาร ปกปองเทาจากการสัมผัส เคมี สารเคมี รองเทาบูทนิรภัยท่ี ปกปอ งเทาจากการกด บด สวนห นาแขงและ หรอื แทงจากของทตี่ กจากทสี่ งู สวนนิ้วเทามีเหล็ก ของท่ีกําลังเคลื่อนท่ีและวัตถุ เสรมิ ที่แหลมคม ควรยืดหดไดดี รองเทาบูทนิรภัยที่ไม ปกปองผูสวมใสจากอนั ตราย เปนส่ือไฟฟาหรือ ทางไฟฟาและปองกันการ ทนทานตอ สะเกด็ ไฟ ลุกติดไฟของกาซหรือไอท่ี ตดิ ไฟได ที่คลุมรองเทาหรือ ปกปองรองเทาบูทจากการ บูทที่ใชแลวทิ้งเลย ปนเปอนและปกปองเทา จาก (ใสคลุมทับรองเทา การสมั ผสั กบั สารเคมี ที่คลุม ทั่วไป) รองเทาชนิดที่ใชแลวท้ิงเลย น้ันชวยลดภาระการทาํ ความ สะอาดสารปนเปอ น •! การเลือกใชอ ปุ กรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คล การเลือกใชอปุ กรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลเปน กระบวนการ ที่มีความซับซอ น ซึ่งควรพิจารณาปจจัยตาง ๆ ตอ ไปน้ี

63 1.!อันตรายที่อาจพบในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน 2.!ทางทส่ี ารเคมจี ะเขา สรู า งกายและ/หรืออวัยวะที่จะไดรับ อนั ตรายนน้ั (เชน การหายใจดดู ซมึ ทางผวิ หนงั ตาและอน่ื ๆ) 3.!คุณสมบัติของวัสดุที่ใชทําอุปกรณปองกันอันตรายสวน บคุ คล 4.!ตะเข็บและรอยตอ ของชดุ ปอ งกนั สารเคมี อปุ กรณป อ งกนั อนั ตรายสว นบคุ คลชนิดหนึ่งจะปกปองอนั ตราย หนึ่งไดอยางดี แตอาจปกปองอันตรายอีกอยางหนึ่งไดไมดีหรือ ไมไ ดเ ลย ปจ จยั อน่ื ๆ ทต่ี อ งพจิ ารณาในการเลอื กใชอ ปุ กรณป อ งกนั อันตราย สวนบุคคลรวมถึงการเลือกใชใหเขากับขอกําหนดในการทํางานของ ผปู ฏบิ ตั งิ านและเง่ือนไขเฉพาะของงานนน้ั และตอ งพจิ ารณาถงึ ความ คงทนของวัสดุที่ใชทําใชอ ุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคคลและ คุณสมบัติในการใชง านในทท่ี ร่ี อ นหรอื เย็นมากๆ ดว ย

64 บรรณานกุ รม 1.! Singapore International Chamber of Commerce. “Handling & Transportation of Dangerous Goods Manual” . March 1999. 2.! Environmental Protection Agency. “Emergency Response to Hazardous Material Incidents (165.15)” November 1995. 3.! http:// www.fmcsa.dot.gov. Federal Motor Carrier Safety Administration. “Hazardous Materials Incident Prevention Manual” 4.! http:// www.fmcsa.dot.gov. Federal Motor Carrier Safety Administration. “Accident Countermeasures Manual” 5.! UN Recommendations on the Transportation of Dangerous Goods, 2000 6.! กรมการขนสง.”คมู อื สาํ หรบั ผขู อรบั ใบอนญุ าตชนดิ ท่ี 4 (รถบรรทกุ วตั ถอุ นั ตราย)”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook