Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5

Published by jitsaneephon charusan, 2022-03-15 13:43:25

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5

Search

Read the Text Version

คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวชิ ำพนื้ ฐำน เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) รหสั วชิ ำ (ว15101) ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ปีกำรศกึ ษำ 2564 เวลำ 40 ชว่ั โมง/ปกี ำรศึกษำ จำนวน 1 หนว่ ยกติ ศกึ ษาการใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การทางาน การคาดการณ์ผลลพั ธจ์ ากปญั หาอยา่ งงา่ ย การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาขอผิดพลาดและแก้ไข การใช้ อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทางานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมูล และสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายเพ่ือแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิ และหนา้ ทขี่ องตนเอง เคารพในสทิ ธขิ องผู้อืน่ และแจ้งผเู้ กยี่ วขอ้ งเมอ่ื พบขอ้ มูลหรอื บุคคลท่ไี ม่เหมาะสม เพ่ือเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการฝึกแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านกระบวนการคิด การปฏิบัติอย่างมี ระบบ และสร้างองคค์ วามรใู้ หม่จากการใช้ปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ จริงในชวี ติ ประจาวันได้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคานวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ มีทักษะในการตั้งคาถาม หรือกาหนดปัญหาเก่ียวกับส่ิงท่ีจะเรียนรู้ตามที่กาหนดให้ หรือตาม ความสนใจ คาดคะเนคาตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคาถาม วางแผนและสารวจ ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเชิง ปริมาณและคุณภาพ ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจเลือกข้อมูล ให้ เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา ตลอดจนนาความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้ เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดารงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถใน การแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสอ่ื สาร ความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มี คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ว4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทางาน และการแก้ปัญหา ได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม มำตรฐำนตวั ช้ีวดั ป.5/1 ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา การอธิบาย การทางาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปญั หา อยา่ งง่าย ป.5/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี กี ารใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหาข้อผิดพลาด และ แกไ้ ข

ป.5/3 ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตค้นหาข้อมูล ตดิ ตอ่ ส่ือสาร และทางานร่วมกัน ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของ ขอ้ มูล ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอ ข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ ซอฟตแ์ วรห์ รือ บริการบน อินเทอรเ์ น็ตทห่ี ลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวัน ป.5/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งปลอดภัย มีมารยาทเขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ทขี่ องตน เคารพในสิทธิ ของผ้อู ่ืน แจง้ ผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมลู หรือบคุ คลท่ีไมเ่ หมาะสม รวม 5 ตวั ชี้วัด

โครงสร้ำงรำยวิชำ รำยวชิ ำพ้ืนฐำน เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) รหัสวชิ ำ (ว15101) ระดบั ชั้น ประถมศึกษำปีท่ี 5 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ปกี ำรศึกษำ 2564 เวลำ 40 ชัว่ โมง/ปกี ำรศึกษำ จำนวน 1 หน่วยกิต ลำดับ ชื่อหน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนกั ท่ี ตัวชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 1. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกับการ ว4.2 ป.5/1 แกป้ ญั หา การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหาเปน็ วิธีการที่ 6 15 ว4.2 ป.5/2 2. การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ เป็นการนากฎเกณฑ์หรือเง่อื นไขที่ครอบคลุมทกุ กรณี เหตผุ ลเชิงตรรกะ ว4.2 ป.5/3 ว4.2 ป.5/4 มาใช้ เพอื่ พิจารณาปัญหา วธิ กี ารแกป้ ัญหา ทาให้ 3. ขอ้ มูลและสารสนเทศ สามารถคาดการณผ์ ลลพั ธท์ ่จี ะเกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ ซ่งึ วิธีการแกป้ ัญหาที่ไดม้ ักจะถกู นามา แสดงใหอ้ ยใู่ นรปู แบบของลาดบั ข้ันตอนหรอื ท่ี เรยี กวา่ อลั กอรทิ ึม เพราะจะช่วยใหส้ ามารถแก้ไข ปัญหาอย่างง่ายไดอ้ ย่างมขี น้ั ตอน การออกแบบโปรแกรมโดยการเขียนขอ้ ความ เป็น 10 15 การอธิบายการทางานของโปรแกรมทีใ่ ช้ภาษาพดู ที่ เขา้ ใจงา่ ย เพือ่ อธิบายขั้นตอนการเขียนโปรแกรม ส่วนการออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขยี นผงั งานเป็น การนาสัญลกั ษณ์มาใช้แทนลาดับขนั้ ตอนในการ เขียนโปรแกรม จากนน้ั นามาเขยี นคาสง่ั ควบคุมการ ทางานใหก้ ับตวั ละครแตล่ ะตวั ทส่ี รา้ งขนึ้ โดยใช้คาส่งั ท่เี ข้าใจงา่ ยในการสง่ั ใหท้ างาน สาหรับขนั้ ตอนในการ เขียนโปรแกรม ประกอบด้วย การวเิ คราะห์ปัญหา ออกแบบวิธีการแก้ปญั หา และการเขียนโปรแกรม และเม่อื เขยี นโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแลว้ ผู้เขียน จะต้องตรวจสอบวา่ ผลลพั ธ์เพ่อื หาขอ้ ผิดพลาดของ โปรแกรม ข้อมลู คือ ข้อเทจ็ จริงท่เี ก่ียวขอ้ งกับส่ิงตา่ ง ๆ 12 15 สามารถแบง่ ออกเปน็ 5 ประเภท คอื ขอ้ มูลตวั อักขระ ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวเลข ขอ้ มูลเสยี ง และ ขอ้ มูลอน่ื ๆ การคน้ ควา้ ข้อมูลเพ่ือทาการส่ิงใดส่ิง หนึ่งตอ้ งพจิ ารณาข้อมลู ที่ดีทส่ี ดุ ซ่ึงข้อมูลทอี่ ยู่

ลำดบั ชื่อหนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนกั ท่ี ตัวชวี้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน 4. การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่าง รอบตวั เรามจี านวนมาก ข้อมูลบางอยา่ งสามารถ 12 15 ปลอดภัย นามาใชไ้ ดท้ นั ทแี ละข้อมลู บางอย่างจะต้องนาไป 40 60 รวม 60 ประมวลผลใหเ้ ปน็ สารสนเทศกอ่ นนามาใชง้ าน 20 20 เพื่อให้นาข้อมลู ไปใช้ได้อย่างสะดวกและเกดิ 100 ประโยชนส์ งู สุด ปัจจุบนั ไดม้ กี ารค้นหาข้อมลู ที่ รวดเรว็ โดยใช้เว็บไซตท์ เี่ รียกวา่ Search Engine ใน การสบื ค้นข้อมูลจากแหล่งขอ้ มูลต่างๆ จะต้องมกี าร ประเมินความถกู ตอ้ ง ความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล เพื่อใหไ้ ด้ข้อมลู ทตี่ รงตามความต้องการ ว4.2 ป.5/3 ในปัจจบุ นั การตดิ ตอ่ ส่อื สารผ่านอินเทอร์เนต็ ทาได้ ว4.2 ป.5/4 หลากหลายและชว่ ยตอบสนองความตอ้ งการของ ว4.2 ป.5/5 มนุษย์ ให้มคี วามสะดวกสบายมากยิง่ ข้นึ ในดา้ นการ ส่ือสาร ดังน้นั จงึ มีผูใ้ ชค้ อมพิวเตอร์และเครือขา่ ย คอมพิวเตอร์เปน็ เครือ่ งมอื ในการกระทาความผิด เพ่ือใหผ้ อู้ ่นื เสียหายหรือเสอ่ื มเสยี ช่อื เสยี ง โดยมกั จะ เรยี กวา่ อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ดังนั้นผู้ใช้ คอมพวิ เตอรท์ ด่ี จี ะตอ้ งมแี นวทางป้องกนั การเกดิ อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ตรวมถึงการใช้ อินเทอรเ์ น็ตอย่างมมี ารยาทเพราะนอกจากการ ติดตอ่ สอื่ สารแลว้ อนิ เทอรเ์ นต็ ยงั ถูกนามาใชส้ าหรบั การวิเคราะห์ข้อมลู การรวบรวมขอ้ มลู การ ประมวลผลขอ้ มูล เพอื่ พจิ ารณาทางเลือกที่เปน็ ไปได้ และเหมาะสมมากทสี่ ุด 5 คะแนนระหว่างเรยี น คะแนนสอบกลางภาค คะแนนสอบปลายภาค รวมคะแนนท้งั ปี

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ ำ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) รหัสวชิ ำ (ว 15101) ระดบั ประถมศึกษาปีที่ 5 หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 1 เหตุผลเชงิ ตรรกะกบั การแก้ปัญหา จานวน 6 ชว่ั โมง แผนกำรเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การแสดงอัลกอริทมึ ดว้ ยรหัสลาลอง จานวน 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวจติ สนพี ร จารุสานต์ ครูผสู้ อนรายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. สำระสำคญั การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนากฎเกณฑ์ หรือ เง่ือนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณีมาใช้พจิ ารณา ในการ แกป้ ัญหา การอธิบายการทางาน หรอื การคาดการณผ์ ลลัพธ์ อลั กอริทึม (algorithm) คอื ลาดับข้ันตอนในการทางานหรือการแก้ปญั หา ซ่งึ อาจแสดงในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เช่น รหสั ลาลอง ผงั งาน รหสั ลาลอง (Pseudocode) การเขียนแสดงลาดับขน้ั ตอนของอลั กอรทิ มึ ดว้ ยข้อความที่เข้าใจได้ง่าย 2. มำตรฐำนตัวช้วี ดั ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รูเ้ ท่าทัน และมีจริยธรรม ป.5/1 ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ าย การทางาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์จากปัญหา อยา่ งงา่ ย 3. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ (K-P-A) 1. นักเรียนสามารถบอกวธิ ีการเขยี นรหสั ลาลองเพือ่ แสดงขัน้ ตอนแกป้ ัญหาหรือการทางาน (K) 2. นกั เรียนสามารถเขียนรหัสลาลองเพือ่ แสดงข้ันตอนแกป้ ัญหาหรือการทางาน (P) 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของการใช้รหัสลาลองเพ่ือแสดงข้ันตอนแก้ปัญหาหรือการทางานใน ชีวติ ประจาวนั (A) 4. สำระกำรเรยี นรู้ 1. อลั กอริทึม (algorithm) คอื ลาดับขนั้ ตอนในการทางานหรือการแก้ปัญหา ซงึ่ อาจแสดงในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เช่น รหสั ลาลอง ผงั งาน 2. การเขยี นรหสั ลาลอง เพ่อื แสดงขน้ั ตอนแกป้ ญั หาหรือการทางาน

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั รับผิดชอบ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7. กิจกรรมกำรเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : สบี เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 1. ขั้นสร้ำงควำมสนใจ (Engagement) 1. ครูกลา่ วคาทักทายนักเรียน 2. ครทู บทวนความรูเ้ ดมิ เรื่อง ความหมายของอัลกอริทึม (algorithm) 3. ครใู ช้คาถามกระตุ้นความคดิ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นบอกอัลกอรทิ ึม (algorithm) ในการทากิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวนั - ใหน้ กั เรยี นบอกอัลกอรทิ ึมในการทาไขเ่ จยี ว - ใหน้ ักเรยี นบอกอัลกอริทมึ ในการปลกู ต้นไม้ 4. ครูอภิปรายขั้นตอนหรือวิธีการท่ีเพ่ือนบอกมานั้น นักเรียนจาได้ทั้งหมดหรือไม่ มีความชัดเจน หรอื ไม่ สามารถปฏบิ ัติตามได้ทุกข้นั ตอนหรือไม่ จากนัน้ ให้นักเรียนระดมความคิดเพ่อื ทาให้วิธกี ารที่บอกมาน้ัน เข้าใจได้งา่ ยและชดั เจนขึ้น 5. นักเรียนและครรู ่วมเชือ่ มโยงเน้ือหาเข้าสบู่ ทเรยี น การเขียนรหัสลาลองในการแกป้ ัญหา การอธบิ าย การทางาน 2. ขน้ั สำรวจและคน้ หำ (Exploration) 1. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม โดยครูจาลองสถานการณ์ว่าครูมีตุ๊กตาแม่ลูกดกวางอยู่บนชั้นหนังสือ แล้วใหน้ กั เรยี นระดมความคิดวา่ นักเรียนจะมวี ธิ กี ารเรยี งตกุ๊ ตาแมล่ ูกดกอยา่ งไรจงึ จะวางเรยี งกันเรยี บร้อย 2. นักเรียนนาเสนอแนวคิดการเขียนวิธีการจัดเรียงตุ๊กตาแม่ลูกดกอย่างไร จากนั้นร่วมกันอภิปราย และทาความเข้าใจในประเดน็ ต่าง ๆ 3. จากนั้นให้เขยี นอลั กอริทมึ (algorithm) เพือ่ แสดงลาดับขั้นตอนการเรียงตกุ๊ ตาแม่ลกู ดก

3. ขนั้ อธิบำยและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. นักเรียนและครรู ่วมกันพจิ ารณาการเขียนอัลกอริทมึ (algorithm) เพ่อื แสดงลาดับขน้ั ตอนการเรียง ต๊กุ ตาแม่ลูกดก 2. นกั เรียนและครูร่วมลงขอ้ สรุปเกี่ยวกับอัลกอรทิ ึม (algorithm) คือลาดับข้ันตอนในการทางาน หรือ การแก้ปัญหา ซึ่งอาจแสดงในรูปแบบต่าง ๆ โดยการเขียนแสดงลาดับขั้นตอนของอัลกอริทึม ด้วยข้อความท่ี เขา้ ใจงา่ ยและมีความชัดเจน เรียกว่า รหสั ลาลอง (Pseudocode) 4. ขัน้ ขยำยควำมรู้ (Elaboration) 1. นักเรียนร่วมกันคิดอัลกอริทึม (algorithm) โดยการเขียนรหัสลาลอง (Pseudocode) เพ่ือ แก้ปัญหาและแนวทางในการนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันโดยใชค้ าถามเพอ่ื กระตุ้นความคดิ ของนักเรยี น - นักเรียนสามารถนาความรู้ในการเขียนรหัสลาลองไปใช้ในการ แก้ปัญหาอะไรใน ชวี ิตประจาวนั ได้บา้ ง พรอ้ มยกตัวอย่าง - นักเรียนสามารถนาความรู้เร่ือง การเขียนรหัสลาลองไปใช้ประโยชน์ในอนาคตอย่างไรได้ บา้ ง - นักเรียนคิดว่าจะสามารถต่อยอดองค์ความรู้ในการเรียนการเขียนรหัสลาลองไปพัฒนา ตนเองอยา่ งไรไดบ้ า้ ง 5. ขัน้ ประเมิน (Evaluation) 1. ครใู หน้ ักเรียนศกึ ษา และทาใบกจิ กรรมท่ี 1.1 ศลิ ปะตามคาบอก ใบกิจกรรมท่ี 1.2 เก็บสลี งกลอ่ ง 2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวขอ้ ทเ่ี รียนมาและการปฏิบัตกิ จิ กรรม มีจดุ ใดบา้ ง ที่ยงั ไม่ เขา้ ใจหรือยงั มีขอ้ สงสัย ถา้ มคี รอู ธิบายเพ่มิ เตมิ ให้นักเรียนเขา้ ใจ 3. นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดและสรุปเก่ียวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และการนาความรู้ที่ไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ 8. นวัตกรรมกำรศึกษำ 8.1 ส่ือและอุปกรณก์ ำรเรยี นรู้ 8.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 1.1 ศลิ ปะตามคาบอก 8.1.2 ใบกิจกรรมที่ 1.2 เก็บสีลงกลอ่ ง 8.1.3 ตุ๊กตาแมล่ ูกดก 8.1.4 ส่ือประกอบการสอน 8.2 แหลง่ เรียนรู้ 8.2.1 ห้องปฏบิ ตั ิการคอมพิวเตอร์

9. กำรวดั ผลและประเมินผล (K-P-A) กำรวดั และประเมนิ ผล วิธกี ำรวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์กำร ประเมนิ ผล จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถบอกวธิ กี าร - การถามตอบในห้องเรียน ชดุ คาถาม - ระดับ เขยี นรหัสลาลองเพ่ือแสดง คณุ ภาพ 2 ข้นั ตอนแก้ปัญหาหรอื การ ผา่ นเกณฑ์ ทางาน (K) นักเรยี นสามารถเขยี นรหสั - การถามตอบในหอ้ งเรียน - ใบกิจกรรมท่ี 1.1 ศิลปะ รอ้ ยละ 70 ลาลองเพือ่ แสดงขน้ั ตอน แก้ปญั หาหรอื การทางาน (P) - การทากจิ กรรมระหว่าง ตามคาบอก ผ่านเกณฑ์ นักเรียนเห็นประโยชน์ของ เรยี น - ใบกจิ กรรมท่ี 1.2 เก็บสี การใช้รหัสลาลองเพอื่ แสดง ขัน้ ตอนแกป้ ัญหาหรอื การ ลงกลอ่ ง ทางานในชวี ติ ประจาวัน (A) - การค้นควา้ หาคาตอบ การ - แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับ ตอบคาถาม การทางานใน อนั พงึ ประสงค์ คณุ ภาพ 2 เวลาทีก่ าหนด ผา่ นเกณฑ์ - การทากิจกรรมในใบ กจิ กรรม 10. บันทกึ กำรใชแ้ ผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ผลกำรสอน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปัญหำและอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ………………………………………………..ผู้สอน (นางสาวจิตสนีพร จารสุ านต์) ตาแหน่ง................................ วันท่ี…………เดอื น……………………พ.ศ. ………….. ควำมเหน็ ของผู้บริหำรสถำนศกึ ษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ………………………………………………. (................................................) ตาแหน่ง................................

แบบสังเกตพฤติกรรมกำรมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 5 พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรับฟงั ทางานทไ่ี ดร้ บั ท่ี ความคดิ เหน็ คาถาม คนอืน่ มอบหมาย สรุป ชือ่ -สกุล 43214321432143214321 1 2 3 4 5 เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั นี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไมพ่ ูดคยุ ในช้ัน ตอบคาถามถกู ต้อง ทางานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรงุ = 1 เขา้ ช้นั เรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา ลงช่อื ………………………………………………..ผสู้ ังเกต (นางสาวจติ สนีพร จารสุ านต์) วนั ท่ี…………เดอื น……………………พ.ศ. …………..

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 5/...... กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ประเมินคร้งั ที่ ............... วนั ที่ ............. เดือน ..............................พ.ศ. .................... คำชแ้ี จง : สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นแล้วใหค้ ะแนนตามระดบั พฤตกิ รรม เลขที่ รำยกำรประเมิน ชอ่ื -สกลุ มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มนั่ รวม ระดับ ในกำรทำงำน คะแนน คณุ ภำพ 3 2 1 0 3 2 1 0 3 2 1 0 (9) 1 2 3 4 5 เกณฑ์การผา่ นไดค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน” ขึ้นไป สรปุ ผลกำรประเมนิ จานวนนกั เรยี นท่ไี ด้ ระดบั ดีเย่ียม .......................... คน คดิ เป็นร้อยละ .......................... จานวนนกั เรียนท่ีได้ ระดบั ดี .......................... คน คดิ เป็นร้อยละ .......................... จานวนนกั เรียนทไี่ ด้ ระดบั ผา่ น .......................... คน คดิ เป็นร้อยละ .......................... จานวนนักเรียนที่ได้ ระดบั ไมผ่ า่ น .......................... คน คดิ เป็นร้อยละ ..........................

เกณฑ์กำรตดั สินคุณภำพ คุณลกั ษณะ 3 เกณฑก์ ำรให้คะแนน 0 อันพงึ ประสงคด์ ำ้ น มีระเบยี บวนิ ัยกบั 21 ไม่มีวินยั 3. มีวินัย รับผดิ ชอบ ตนเองและสงั คม มีระเบียบวินยั กับ มีระเบยี บวนิ ัยกบั เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีแก่ ตนเองและสังคม ตนเอง ไม่ตงั้ ใจเรียน 4. ใฝ่เรียนรู้ ผอู้ น่ื ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตัง้ ใจปฏิบตั หิ นา้ ที่ 6. มุ่งมัน่ ในการทางาน และมีความเพียร และมคี วามเพยี ร และมีความเพยี ร การงาน พยายามในการ พยายามในการ พยายามในการ เรยี นรแู้ ละเข้าร่วม เรียนรูแ้ ละเข้ารว่ ม เรียนรแู้ ละเข้ารว่ ม กิจกรรมตา่ ง ๆ อย่าง กจิ กรรมต่าง ๆ กิจกรรมต่าง ๆ สม่าเสมอ บ่อยครัง้ บางครง้ั ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตงั้ ใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบตั ิหน้าทท่ี ี่ ในการปฏบิ ัติหน้าท่ีท่ี ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ที ่ี ได้รบั มอบหมายให้ ได้รบั มอบหมายให้ ไดร้ บั มอบหมายให้ สาเร็จมกี ารปรับปรงุ สาเร็จมีการปรบั ปรงุ สาเร็จ และพฒั นาการ ทางานใหด้ ีขน้ึ ทางานใหด้ ีขึน้ เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ 7-9 ดีเยยี่ ม 4-6 ดี 1-3 ผ่าน 0 ไม่ผ่าน ลงชอ่ื ………………..…………………………………ผู้สอน (นางสาวจิตสนพี ร จารุสานต์) ตาแหนง่ …………………………………………….

แบบประเมินสมรรถนะผ้เู รียน 5 ดำ้ น ชอ่ื ..................................................นำมสกลุ ............................................ช้ัน.............เลขท.ี่ ............ คำชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่องทต่ี รงกับระดบั คะแนน คำชีแ้ จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่ำงเรียนและนอกเวลำเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งทต่ี รง กับระดบั คะแนน สมรรถนะท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน สรุปผล 1. มคี วำมสำมรถในกำรสื่อสำร 3210 1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใช้วธิ ีการสือ่ สารท่ีเหมาะสม 1.4 วิเคราะหแ์ สดงความคิดเห็นอย่างมเี หตุผล 1.5 เขยี นบันทกึ เหตุการณป์ ระจาวนั แล้วเล่าให้เพอื่ นฟังได้ สรปุ ผลกำรประเมนิ 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มที กั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการคิดอย่างมรี ะบบ 2.5 ตดั สินใจแกป้ ญั หาเกย่ี วกับตนเองได้ สรุปผลกำรประเมิน 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ 3.1 สามารถแก้ปญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชญิ ได้ 3.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา 3.3 เข้าใจความสมั พนั ธ์และการเปล่ียนแปลงในสงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามร้มู าใชใ้ นการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตัดสินใจไดเ้ หมาะสมตามวยั สรุปผลกำรประเมิน 4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ิต 4.1 เรียนรูด้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั 4.2 สามารถทางานกล่มุ ร่วมกับผู้อื่นได้ 4.3 นาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน 4.4 จัดการปัญหาและความขัดแย้งได้เหมาะสม

สมรรถนะท่ีประเมิน ระดบั คะแนน สรุปผล 4.5 หลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงคท์ ่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเอง 3210 สรปุ ผลกำรประเมนิ 5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 เลอื กและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวัย 5.2 มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนาเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี สรุปผลกำรประเมนิ สรปุ ผลกำรประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคร์ ำยบคุ คล  ดเี ยย่ี ม  ดี  ผำ่ น  ไม่ผ่ำน ลงช่ือ………………..…………………………………ผปู้ ระเมิน (……………………………………………….) เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนระดบั คุณภำพ ดีเยยี่ ม - พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ดี - พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ผ่าน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ไมผ่ า่ น - ไม่เคยปฏบิ ัตพิ ฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน เกณฑ์กำรสรปุ ผล ดเี ย่ยี ม - 13-15 คะแนน ดี - 9-12 คะแนน ผา่ น - 1-8 คะแนน ไมผ่ ่าน - 0 คะแนน ใบกิจกรรมท่ี 1.1 ศิลปะตามคาบอก คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นระบายสี วาดรูปตามเงื่อนไขและตอบคาถามตอ่ ไปนี้









ส่อื ประกอบกำรสอน