52

รายวชิ า คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว การอ่านและเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ นางรงุ่ ฟา้ ทรงศลิ ครผู ู้สอน

จุดประสงค์การเรยี นรู้ การอา่ นและเขยี นแผนภูมิรูปภาพ ใช้ข้อมลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา

ตารางทางเดยี ว เป็นตารางท่ีมกี ารจาแนกรายการบนหวั เร่ืองเพียงดา้ นเดยี วหรอื ลกั ษณะเดยี วเทา่ นน้ั จากการสอบถามนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน 26 คน ว่านกั เรยี นคนใด สวมแว่นตา และนกั เรยี นคนใดไมส่ วมแวน่ ตา ซ่งึ สามารถนาเสนอคาตอบของนักเรียน ในรปู ตารางทางเดยี วได้ ดังน้ี นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3ที่สวมแว่นตาและไม่สวมแวน่ ตา แว่นตา จานวนนักเรียน (คน) จากตาราง สวมแว่นตา 11 จะเหน็ วา่ นักเรยี นในหอ้ งท้ังหมด 26 คน ไมส่ วมแวน่ ตา 15 26 มนี ักเรียนที่สวมแวน่ ตา 11 คน รวม และไม่สวมแว่นตา 15 คน

การอา่ นตารางทางเดยี ว จานวนเพ่อื นบ้านที่ชอบรับประทานผลไม้ชนดิ ต่างๆ ชนดิ ของผลไม้ จานวน (คน) ตารางทางเดยี ว เปน็ กำรนำเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่งที่ มกี ำรจำแนกข้อมลู เพยี ง 1 ลกั ษณะ มังคดุ 11 ทเุ รยี น 13 มะม่วง 6 ส้ม 8 อา่ นขอ้ มูลตรงจดุ ตดั แนวตง้ั กบั แนวนอน กลว้ ย 4 เชน่ มจี ำนวนเพอื่ นบำ้ นทช่ี อบรับประทำนสม้ 8 คน รวม 42

การอา่ นตารางทางเดยี ว จานวนนกั เรยี นทช่ี อบกีฬาชนดิ ต่างๆ ของโรงเรียนแห่งหน่งึ มจี านวนนกั เรยี นทช่ี อบบาสเกตบอล 51 คน ชนิดของกฬี า จานวนนักเรียน (คน) มจี านวนนกั เรยี นท่ชี อบว่ายน้า 44 คน ฟตุ บอล 48 มจี านวนนักเรยี นท่ชี อบปิงปอง 32 คน บำสเกตบอล 51 มจี านวนนกั เรยี นทชี่ อบบาสเกตบอลมากทส่ี ุด และชอบวง่ิ น้อยท่ีสดุ วำ่ ยนำ 44 วงิ่ 25 ปงิ ปอง 32 รวม 200

จานวนตน้ ไม้ทป่ี ลูกในสวนผลไมแ้ หง่ หน่งึ ชนดิ จานวน (ต้น) 1. ตน้ มะมว่ งมีมากท่ีสุด ตน้ กระท้อนมนี อ้ ยท่ีสดุ และมีจานวนต่างกนั ของตน้ ไม้ 60 – 20 = 40 ตน้ 30 มังคดุ 60 2. ผลบวกของตน้ มังคดุ กับตน้ สม้ เทา่ กบั 30 + 40 = 70 มะมว่ ง 40 20 ซ่งึ มากกวา่ ต้นมะม่วงอยู่ 70 – 60 = 10 ต้น สม้ 150 กระทอ้ น 3. ในสวนผลไม้แหง่ น้มี ีตน้ ไมท้ ัง้ หมด 150 ตน้ รวม

สวนผลไมแ้ ห่งหนง่ึ ปลกู ตน้ ไม้ดงั นี้ ตน้ มังคุด 30 ต้น ตน้ มะมว่ ง 60 ต้น ตน้ สม้ 40 ตน้ และต้นกระท้อน 20 ตน้ ใหน้ าเสนอในรปู ตารางทางเดยี ว และตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. ต้นไมช้ นดิ ใดมีมากทส่ี ดุ ชนดิ ใดนอ้ ยท่ีสดุ และมจี านวนตา่ งกันกต่ี น้ 2. ตน้ มงั คดุ รวมกบั ต้นสม้ มากกว่าตน้ มะมว่ งอยเู่ ทา่ ไร 3. ในสวนผลไม้แห่งนม้ี ีตน้ ไมท้ ง้ั หมดเทา่ ไร

การเขยี นตารางทางเดียว ใหน้ กั เรยี นสารวจขอ้ มูลรถทผี่ า่ นหนา้ บา้ นแล้ว นำข้อมูลทสี่ ำรวจไดเ้ ขยี นในรูปตำรำงทำงเดยี วได้ ดังนี เขยี นในรปู ตารางทางเดยี วดังตัวอย่าง รถยนต์ รถประจาทาง จานวนนกั เรียนท่ีเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยวธิ ตี า่ งๆ ชื่อตาราง รถโรงเรียน รถจักรยานยนต์ วิธีเดนิ ทางมาโรงเรียน จานวน (คน) หัวตาราง รถยนต์ 18 ขอ้ มลู รถโรงเรยี น 13 ในตาราง รถประจำทำง 11 รถจักรยำนยนต์ 8 รวม 50

1) วนั ____________ เกบ็ ส้มโอไดม้ ากที่สุด 2) วนั ____________ กบั วนั ____________ เกบ็ ส้มโอไดเ้ ท่ากนั 3) วนั ท่ีเกบ็ สม้ โอไดม้ ากที่สุด เกบ็ สม้ โอไดม้ ากกวา่ วนั ท่ีเกบ็ ไดน้ อ้ ยที่สุด ________ ผล 4) วนั พฤหสั บดีเกบ็ สม้ โอได้ ____________ ผล 5) เวลา 5 วนั เกบ็ ส้มโอไดท้ ้งั หมด ____________ ผล