Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุนไพรสู้โควิด กระชาย

สมุนไพรสู้โควิด กระชาย

Published by LIBRARY PHATTANANIKOM, 2021-06-17 09:20:46

Description: สมุนไพรสู้โควิด กระชาย

Search

Read the Text Version

D หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอพฒั นานคิ ม จงั หวดั ลพบรุ ี ๑.กระชาย หรือ ขงิ จีน เป็นพชื สมุนไพรทป่ี ลูกเลี้ยงกนั ในประเทศจนี กระชายและเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ กระชายมีช่ือสามญั อืน่ อีกคือ กะแอน สมนุ ไพรสโู้ ควดิ >>>> (อสี าน, เหนอื ) กะซาย, ขิงซาย (อีสาน) จี๊ปู (เง้ียว แม่ฮ่องสอน) ซีพู (เงย้ี ว แมฮ่ ่องสอน) เปา๊ ะซอเร้าะ (กะเหรีย่ ง แม่ฮ่องสอน) เปา๊ ะส่ี (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) ละแอน (เหนือ) วา่ นพระอาทิตย์ (กรุงเทพฯ) ๓. ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ชื่อสามญั กระชายมี 3 ชนิด คอื กระชายดา กระชายแดง กระชาย เหลือง ๒. ลกั ษณะ เป็นไม้ล้มลุกไม่มีลาต้นบนดิน มีเหง้าใต้ดินซึ่งแตกรากออกไปเป็น ต้ น ก ร ะ ช า ย นั บ ว่ า เ ป็ น พื ช ลม้ ลุกชนดิ หนึ่งมคี วามสูงประมาณ กระจุกจานวนมาก อวบน้า ตรงกลางพองกว้างกว่าส่วนหัวและท้าย ใบ เดี่ยว เรียงสลับเป็นระนาบ 2-3 ฟุต มีลาต้นใต้ดินเรียกว่า \"เหง้า\" เป็นเหง้าสั้นแตกหน่อได้ เดียวกนั รปู ขอบขนานแกมรูปไข่ กว้าง 4.5-10 เซนตเิ มตร ยาว 13-15 เซนติเมตร ตรงกลางด้านใน เช่นเดียวกับขิง ข่า และขม้ิน ราก อวบรูปทรงกระบอกหรือรูปไข่ ของก้านใบมีร่องลึก ดอก ช่อ ออกแทรกอยู่ระหว่างกาบใบท่ีโคนต้น กลีบดอกสีขาวหรือชมพูอ่อน ใบ ค่ อ น ข้ า ง ย า ว ป ล า ย เ รี ย ว แ ห ล ม ออกเป็นกระจุก มผี ิวสีน้าตาลอ่อน ประดับรูปใบหอกสีม่วงแดง ดอกย่อยบานครั้งละ 1 ดอกกระชาย ถือว่าเป็นเคร่ืองเทศชนิดหนึ่งที่คน เนื้อใบสีเหลืองมีกลิ่นหอมเฉาะตัว สว่ นท่ีอยู่เหนือดินเป็นกาบใบท่ีหุ้ม ไทยคุ้นเคย กันมานานแล้ว จะมีถิ่นกาเนิด ในแถบร้อนอยู่ที่บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะพบ ซ้อนกันเป็นช้ัน ๆ สีแดงเร่ือ ๆ ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับตัวใบรูปรี ข้ึนอยู่บริเวณในป่าดิบร้อนช้ืน เป็นไม้ลมลุกที่มีลาต้นอยู่ใต้ดินซึ่งจะเรียกว่า เหง้า และเหง้าที่อยู่ใต้ดิน ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ เส้นกลางใบ ก้านใบและกาบใบ จะแตกรากออกไปเป็นกระจุกจานวนมากจะเป็นท่ีสะสมอาหารอวบนาส่วนตรงกลางจะพองกว้างกว่า ด้านบนเป็นร่อง ด้านล่างนูนเป็น สนั ออกดอกเป็นช่อสีขาวหรือขาว สว่ นหัวและส่วนทา้ ย ส่วนเนอ้ื ดา้ นในจะมีสีแตกต่างไปตามชนิดของกระชาย และจะมีกล่ินหอม ส่วนที่ อมชมพูท่ียอด (แทรกอยู่ระหว่าง ก า บ ใ บ ) ด อ ก บ า น ที ล ะ ด อ ก อยู่เหนือดินจะประกอบด้วยโคนก้านใบท่ีเป็นกาบหุ้มซ้อนกัน กาบใบจะมีสีแดงเร่ือ ๆ ตรงแผ่นใบจะ มีลักษณะเป็นถุง ผลเป็นผลแห้ง เมื่อแก่แล้ว เป็นรูปรีส่วนปลายจะแหลม กว้างประมาณ 4.5-10 ซม. ยาวประมาณ 15-30 ซม. ส่วนตรงกลาง ด้านในของก้านใบจะมีช่องลึก ดอกช่อออกแทรกอยู่ระหว่างกาบใบท่ีโคนต้น กลีบดอกมีสีขาวหรือ สีชมพอู ่อน ดอกยอ่ ยบานครั้งละ 1 ดอก สว่ นในเหง้ากระชายน้ีจะมีน้ามันหอมระเหยและมีสาระสาคัญ หลายชนิดสะสมอยู่ซึ่งจะมีสรรพคุณในการดับกลิ่นคาวและเป็นสารท่ีมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรหลาย ชนิดสารทีว่านี้คือ สารแคมฟีน (Camphene) ทูจีน (Thujene) และการบูร เมื่อรับประทานเป็น อาหารจะพบได้ในนา้ ยาขนมจนี และเคร่ืองผสมในเครื่องแกงต่าง ๆ เนื่องจากว่ากระชายมีสารต่างๆจึง มีสรรพคุณทางท่ีช่วยในการแก้โรคต่าง ๆ ดังน้ี จะมีสรรพคุณในการบารุงกาลัง สรรพคุณในการแก้ องคชาตตาย, สรรพคุณแก้ปวดข้อ, สรรพคุณแก้วิงเวียน แน่นหน้าอกสรรพคุณแก้ท้องเดิน, สรรพคุณ แก้แผลในปาก, สรรพคุณแก้ฝี, สรรพคุณแก้กลาก, สรรพคุณแก้บิด, สรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ และ ในกระชายยังมีสารอาหารท่ีมีประโยชน์แก่ร่างกายซึ่งจะพบตรงเหง้าของกระชาย คือ แคลเซียม ฟอสฟอรสั และวิตามนิ ต่าง ๆ ซ่ึงมปี ระโยชน์แกร่ า่ งกาย FanPage Facebook website LINE E-book หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอพัฒนานคิ ม สังกดั กศน.อาเภอพฒั นานิคม จังหวัดลพบรุ ี ๒๔๕ หมู่ ๖ ถนน ลพบุร-ี วงั ม่วง ตาบลพฒั นานคิ ม จงั หวัดลพบรุ ี โทรศัพท์ ๐๓๖-๔๙๑๐๓๙ Facebook : ห้องสมดุ ประชาชน“เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอพัฒนานิคม จงั หวดั ลพบุรี

๔. ประโยชนท์ างสมนุ ไพร เป็นพืชท่ีใช้เป็นส่วนผสมของอาหารโดยเฉพาะ รากกระชาย ใช้เป็นเครื่องจ้ิมหรือเป็นส่วนประกอบของน้าพริกแกงโดยเฉพาะ แกงที่ใส่ปลา เช่น แกงป่า ตม้ โฮกออื กระชายดบั กลน่ิ คาวของปลาได้ดี ตารายาไทย ใช้เหงา้ แก้โรคในปากเชน่ ปากเปอ่ื ย ปากเปน็ แผล ปากแหง้ ขับระดู ขาว ขับปัสสาวะ รักษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง จากการทดลองในสารสกัด แอลกอฮอล์และคลอโรฟอรม์ พบว่ามีฤทธ์ิต้านเช้ือราที่ทาให้เกิดโรคผิวหนังและ ในปากได้ดพี อควร ๖. การปลกู กระชาย ๕. ลกั ษณะเดน่ ท่เี หน็ ไดช้ ัดจากส่วนตา่ ง การขยายพันธ์ุ – ปลูกด้วยเหง้าท่ีมี ต้น เป็นพรรณไม้ลๆ้มลุก ลาต้นมีความสูงประมาณ 9 อายุ 8 เดือนข้ึนไป และต้องมีราก ซม. ส่วนกลางของลาต้นเป็นแกนแข็ง มีกาบหรือโคนใบ กระชายอยู่ 2 – 3 ราก/เหงา้ หมุ้ ใบ มีกลิ่นหอม ก้านใบแทงข้ึนจากหัวในดิน ออกเป็น การเพาะปลกู – ปลกู ในดินร่วนทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์สงู ทม่ี ีร่มเงาราไรโดยมากจะ รัศมีติดผวิ ขนาดใบจะกว้าง 7-9 ซม. ยาว 30-35 ซม. เป็ นการปลกู ในทดี่ อน หรือปลกู กลางแจ้งในเขตพนื ้ ที่ลาดเอยี งท่มี คี วามชืน้ สงู ดอก มีสมี ่วงดอกออกเป็นชอ่ กลีบรองกลีบดอกเชื่อมต่อ โดยไถพรวนและขดุ หลมุ ปลกู เป็นแถว ระยะระหวา่ งแถวและต้น 30 ซม. สว่ น กัน มีรูปลักษณะเป็นท่อ มีขน โคนเช่ือมติดกันเป็นช่อ การปลกู เป็ นการค้าจะปลกู กลางแจ้งในเขตชลประทานหรือสามารถให้นา้ ได้ ไถ ยาว เกสรตัวผู้จะเหมือนกับกลีบดอก อับเรณูอยู่ใกล้ พรวนดินและยกร่องปลกู กว้าง 80 – 120 ซม. ใช้ระยะปลกู ระหวา่ งแถวและต้น ปลาย ท่อเกสรตัวเมียมีขนาดยาว เล็ก ยอดของมันเป็น 25 – 30 ซม. ขนึ ้ อยกู่ บั ความอดุ มสมบรู ณ์ของดิน ปลกู แล้วใช้ฟางคลมุ รักษา รปู ปากแตร เกลี้ยงไมม่ ีขน ความชืน้ ของดนิ รดนา้ ทกุ 2 – 3 วนั /ครัง้ กาจดั วชั พชื ให้แปลงสะอาด และใส่ ผล ผลแก่มี 3 พู มีเมล็ดอยู่ด้านในเมื่อผลแก่เต็มที่จะไม่ ป๋ ยุ เคมสี ตู รเสมอ อตั รา 30 กก./ไร่ เมื่ออายปุ ระมาณ 3 เดือนหลงั ปลกู และเก็บ เก่ียวเมื่ออายุ 8 เดือนขนึ ้ ไป ถ้าต้องการขยายชว่ งเวลาเก็บเกี่ยวให้นานขนึ ้ หรือ ไว้ทาพนั ธ์จุ ะต้องคลมุ ฟางและรดนา้ เป็ นครงั้ คราวเพือ่ รักษาความชืน้ ของดินให้ เหง้าและรากกระชายไมฝ่ ่ อในชว่ งแล้ง เรยี บเรยี ง/จดั ทาโดย นางสาวเกศนิ ี วรวงศ์ Scan me ตาแหน่ง บรรณารักษ์ หอ้ งสมดุ ประชาชน“เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอพัฒนานิคม ข้อมลู เพ่มิ เติม ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอพฒั นานคิ ม สงั กัด กศน.อาเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ๒๔๕ หมู่ ๖ ถนน ลพบรุ -ี วังมว่ ง ตาบลพฒั นานิคม จังหวดั ลพบุรี โทรศพั ท์ ๐๓๖-๔๙๑๐๓๙ Facebook : หอ้ งสมุดประชาชน“เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอพัฒนานคิ ม จงั หวัดลพบุรี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook