Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การอ่านเพื่อประเมินค่าสารที่ได้จากการอ่าน

การอ่านเพื่อประเมินค่าสารที่ได้จากการอ่าน

Published by Phornthip L., 2021-08-12 11:41:09

Description: การอ่านเพื่อประเมินค่าสารที่ได้จากการอ่าน

Search

Read the Text Version

การประเมินค่า สารที่ ได้จากการอา่ น วชิ า ภาษาไทย ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาท่ี ๒ โดย ครพู รทพิ ย์ ลาจนั ทกึ

การอ่านเพ่ือประเมินค่า เป็นการอ่านเพื่ออธิบายลักษณะของงานเขียนว่ามีข้อดีมี คณุ ค่า หรือมีข้อบกพรอ่ งอย่างไรบา้ ง ผปู้ ระเมินจะตอ้ งวจิ ารณ์ งานเขียนโดยละเอยี ด นาแต่ละประเดน็ มาทาความเข้าใจ วเิ คราะห์ ตีความหมายที่ซ่อนเร้น ตลอดจนวินิจฉัยคุณค่าท่ีพบในเน้ือหา ทงั้ ด้านสงั คม ด้านอารมณ์ และดา้ นศิลปะการประพนั ธ์

ความสาคัญของการอ่านเพื่อประเมินค่า ๑. ทาใหเ้ กิดวจิ ารณญาณ เป็นการใชว้ จิ ารณญาณคิด ใคร่ครวญเกี่ยวกับงานเขียนทกุ ๆ ด้านอย่างมีเหตผุ ล ทา ใหผ้ ู้อ่านตัดสินใจงานเขยี นนัน้ ไดว้ ่าน่าเชื่อถือหรอื ไม่มีคณุ ค่าเพียงใด และสามารถนาไปใชก้ บั การอา่ นขา่ วสารในชีวติ ประจาวันได้

๒. พฒั นาศกั ยภาพการอ่าน เพราะตอ้ งใช้ทกั ษะ การอ่านจบั ใจความสาคญั การวิเคราะห์แลว้ จึงประเมิน เรอื่ งท่อี ่าน การประเมินคณุ ค่างานเขยี นจะทาให้ ผู้อา่ นได้ฝึกตนเองในการอา่ นและพิจารณาสาร ๓. ไดข้ ้อคดิ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

หลักการอ่านประเมินคณุ ค่า ๑. พิจารณาเน้อื หาและส่วนประกอบของเนอื้ หา ว่ามี องคป์ ระกอบใดบ้าง และแยกแยะองคป์ ระกอบแตล่ ะส่วน ว่ามีลกั ษณะอยา่ งไร สอดคล้องสัมพนั ธ์กนั อยา่ งไร

๒. พิจารณาคณุ คา่ ด้านการใชภ้ าษา(วรรณศลิ ป์) วา่ เหมาะสมกบั เนื้อหา ไพเราะงดงาม สละสลวยน่าอา่ น ใหท้ ง้ั เสียงและความหมายก่อให้เกดิ จินตนาการเพยี งใด ๓. พจิ ารณาแนวคดิ ของผเู้ ขียน วา่ ผูเ้ ขียนนาเสนอ เร่ืองใดและมีขอ้ คดิ ใดบ้างทมี่ คี ณุ คา่ เสนอแนะแนวทาง ในการนาข้อคิดที่มคี ณุ คา่ ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน

การประเมนิ คา่ การอ่าน ด้านเนอื้ หา ด้านวรรณศิลป์ ด้านสงั คม การนาไปประยุกต์ ใช้ในชีวติ

ด้านเนอื้ หา ๑. รปู แบบ พจิ ารณาวา่ เปน็ งานเขยี นประเภท ใด หากเปน็ งานเขยี นท่เี ปน็ คาประพันธ์ ลักษณะ การแต่งถูกต้องตามลักษณะฉนั ทลักษณ์ บงั คับ ของคาประพนั ธ์น้ันๆ หรือไม่ ผู้แตง่ เลือกใชค้ า ประพนั ธไ์ ด้เหมาะสมกับเน้ือหาหรอื ไม่

๒. องค์ประกอบของเรือ่ ง ๒.๑ สาระ พจิ ารณาสาระที่ผูแ้ ต่งต้องการสอื่ มา ยงั ผูอ้ ่านว่าเปน็ เรอื่ ง เช่น ตอ้ งการใหค้ วามรูใ้ หข้ อ้ เทจ็ จริง หรือแสดงความรสู้ กึ นกึ คดิ ออกมาควรจับสาระสาคัญของ เรอ่ื งใหไ้ ด้วา่ ผู้แตง่ ตอ้ งการส่อื อะไร สาระสาคญั ของเร่อื ง มลี กั ษณะแปลกใหมแ่ ละน่าสนใจอย่างไร

๒.๒ โครงเรื่อง พิจารณาวา่ ผ้แู ตง่ มีวธิ กี าร วางโครงเรื่องอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ การลาดับความ เปน็ ไป ตามลาดบั ขน้ั ตอนหรอื มวี ิธกี ารวางลาดับเรอ่ื งนา่ สนใจ อยา่ งไร

๒.๓ ตัวละคร พิจารณาว่าตวั ละครในเรอ่ื ง มีลักษณะนิสัย บุคลกิ ภาพและบทบาทในเร่อื ง อยา่ งไร พฤติกรรมทีแ่ สดงออกดหี รอื ไมด่ ี เหมือนกบั ชวี ิตจรงิ มาก น้อยเพียงไร

๒.๔ ฉากและบรรยากาศ พจิ ารณาว่าผู้ แต่งพรรณ นาหรือบรรยายฉากและบรรยากาศได้ เหมาะสม ถกู ตอ้ ง ชดั เจน เหน็ ภาพพจนแ์ ละสอดคลอ้ ง กับเรอ่ื งไดด้ ีเพยี งใด

๒.๕ กลวิธใี นการแต่ง พจิ ารณาวธิ ีในการ เลือกใช้ถอ้ ยคาและการนาเสนอวา่ ผแู้ ต่งนาเสนอ อย่างไร เชน่ เสนออย่างตรงไปตรงมา เสนอโดยตีความจากสัญลักษณ์ หรือความเปรยี บ นาเสนอโดยการสรา้ งภาพพจน์ใหเ้ หนือ ความเป็นจรงิ เพอ่ื ดึงดดู ความสนใจ เปน็ ตน้ ควรพจิ ารณา ว่า วธิ กี ารตา่ ง ๆ เหลา่ น้ันชวนให้นา่ สนใจนา่ ตดิ ตามหรอื นา่ ประทับใจอยา่ งไร

ดา้ นวรรณศลิ ป์ การใชภ้ าษา การใชค้ าเหมาะสมกบั ลกั ษณะหน้าท่ี ของคา ถกู ต้องตรงความหมาย เหมาะสมกับเนื้อเรอ่ื ง ซึ่งผูอ้ ่านจะเกดิ จินตนาการตามเนือ้ เรอ่ื งได้

ดา้ นสงั คม ผูแ้ ต่งมีจดุ ประสงคอ์ ยา่ งไรใน การจรรโลงสงั คม ซ่งึ พิจารณาจากทรรศนะ แนวคิด การให้คตเิ ตือนใจ การแสดงให้เหน็ ถึงชีวติ ความเช่อื คา่ นิยม วฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มและประเพณี

การนาไปประยกุ ต์ ใช้ในชวี ิต การประเมนิ คา่ งานแลว้ ไดข้ อ้ คดิ อะไรท่จี ะนา ไปใช้ในชวี ติ ของเรา เชน่ เปน็ ความรู้ใหมๆ่ ขอ้ คิด ใหม่ๆ ในการดาเนนิ ชีวติ เปน็ คตเิ ตอื นใจ เป็นตน้

ตัวอย่าง การประเมินค่า การอา่ น

















แนวทางการประเมนิ คณุ ค่าเรือ่ งส้นั เชลแมนมือใหม่ ๑) เนือ้ หาและแนวคิด เรอื่ งนีม้ ีเนื้อหาและแนวคิด สรา้ งสรรค์ มคี วามเปน็ สากล เพราะเปน็ เรื่องการแสดงออก ทางพฤตกิ รรม ของมนุษย์ท่ีน่าสนใจ ผู้เขยี น คอื ถวัลย์ มาศจรสั

๒) โครงเรือ่ ง มีเพยี งเร่ืองการเลือกประกอบอาชพี ของคนเรยี นหนังสอื ไมเ่ กง่ มกี ารสรา้ งปมปญั หาโดยผกู ตวั ละครทีช่ อ่ื น้อย ใหเ้ ปน็ เด็กโง่ ซ่ึงทุกๆ คนเหน็ วา่ นอ้ ย เป็นคนโงจ่ ริงๆ แมแ้ ตค่ รูยงั รับรองว่าเขาโง่ จากนัน้ เรอ่ื ง กด็ าเนินไปจนคลี่คลายลงดว้ ยดจี ากการทีน่ ้อยได้มองเห็น คนขายว่าวท่ที ้องสนามหลวงกาลงั ขายว่าวให้ลูกค้าตวั น้อย

กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาคิดประกอบอาชีพเป็น พอ่ ค้าขายผา้ หม่ สถานท่ีในเรอื่ งน้ี ได้แก่ ท่บี ้าน โรงเรียน และท้องสนามหลวง เป็นฉากท่ีไม่สลับซับซ้อน ผู้เขียน บรรยายไวอ้ ยา่ งชัดเจนสอดคล้องกับเหตุการณ์ ซงึ่ ตวั ละคร ในเร่ืองมี ๗ ตวั ได้แก่ นอ้ ย พอ่ แม่ ครู คนขายวา่ ว แม่ของเด็กและเด็ก แตล่ ะตัวมลี ักษณะนิสยั แตกตา่ งกัน ไปตามท้องเร่ือง

๓) การใชภ้ าษา มคี วามเหมาะสมกับเหตุการณใ์ นเร่อื ง อา่ นเข้าใจง่าย ใชภ้ าษาสร้างสรรคอ์ ารมณ์ใหผ้ ู้อา่ น โดยผา่ น ทางบทสนทนาของตวั ละครได้หลากหลายอารมณ์ เช่น ทะเลน้ จรงิ ลูกคนนี้ ให้อารมณ์ขบขัน มองมาทางนี้ แสดงวา่ โง่ เหมอื นแม่อย่างน้นั หรือให้อารมณ์โกรธ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ ยงั มกี ารใช้ภาษาเปรียบเทยี บ เช่น

ผลการเรยี นทคี่ งที่ ไมข่ ึ้นไม่ลง เหมือนหนุ้ ในตลาดหลักทรพั ย์ เป็นต้น

แหลง่ อา้ งองิ - https://dltv.ac.th/teachplan/episode/15172 - https://edu.kpru.ac.th/contents/VideoDLTV/ Thai/PDF/5.pdf


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook