พลเมอื งดีตามวิถี ประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยแยกอธิบายเป็น ๒ ความหมาย ดงั นี้ ๑.ประชาธปิ ไตยดา้ นการปกครอง หมายถงึ ระบอบการปกครองทเ่ี ปิดโอกาสใหป้ ระชาชน มสี ทิ ธทิ จ่ี ะปกครองตนเองหรอื เลอื กผแู้ ทนเขา้ ไปทา หน้าทป่ี กครองแทนตน
๒.ประชาธปิ ไตยในดา้ นการดาเนินชวี ติ หมายถงึ การดาเนินชวี ติ ตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย อนั ไดแ้ ก่ การเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของกนั และกนั การยอมรบั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื และการใช้ เหตุผลเป็นหลกั ในการพจิ ารณาปัญหาต่างๆ โดย ใชเ้ สยี งขา้ งมากเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหานัน้ ๆ อยา่ งสนั ตวิ ธิ ี
ลกั ษณะสาคญั ของสงั คมประชาธิปไตย ๑.อานาจอธิปไตยของปวงชน หมายถงึ ประชาชนเป็น เจา้ ของอานาจสงู สดุ โดยมรี ฐั ธรรมนูญเป็นกฎหมายสงู สุดใน การปกครองประเทศ ลกั ษณะสาคญั ประการหน่งึ ของสงั คมประชาธปิ ไตย คอื ประเทศตอ้ งเปิดโอกาสใหป้ ระชาชนปกครองตนเองหรอื เลอื กผแู้ ทนตนตามทร่ี ฐั ธรรมนูญอนั เป็นกฎหมายสงู สดุ ใน การปกครองประเทศกาหนดไว้
๒.เป็นสงั คมท่ียดึ หลกั ความเสมอภาค พลเมอื งทกุ คนมคี วามเทา่ เทยี มกนั ตาม กฎหมายในฐานะพลเมอื งของรฐั ไมว่ า่ จะ เชอ้ื ชาตใิ ด ศาสนาใด ภาษาใด ถนิ่ กาเนิดใด หรอื เพศใด เชน่ ประชาชนมสี ทิ ธอิ อกเสยี ง ลงคะแนนเลอื กตงั้ คนละ ๑ เสยี งเทา่ กนั และ ไดร้ บั บรกิ ารจากรฐั เทา่ เทยี มกนั
๓.เป็นสงั คมที่คนในสงั คมยึดหลกั นิติธรรม หมายความวา่ มรี ฐั ธรรมนูญทใ่ี ห้ หลกั ประกนั ทางกฎหมายเกย่ี วกบั สทิ ธิ เสรภี าพขนั้ พน้ื ฐานของประชาชนไว้ ซง่ึ รฐั บาลจะละเมดิ ไมไ่ ด้ เชน่ ศกั ดศิ์ รคี วาม เป็นมนุษย์ สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ เสรภี าพในการ นบั ถอื ศาสนา
๔.เป็นสงั คมท่ียดึ หลกั การประนีประนอม สมาชกิ ในสงั คมประชาธปิ ไตยจะตอ้ งรจู้ กั ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื หลกั การประนีประนอม คอื การยอมรบั การ แกไ้ ขปัญหาความขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี ดว้ ยการ ผอ่ นปรนใหแ้ ก่กนั
๕.การยอมรบั การตดั สินใจของฝ่ ายข้างมาก ฝ่ายขา้ งมากจะตอ้ งเคารพความคดิ เหน็ ทแ่ี ตกต่าง ของฝ่ายขา้ งน้อย เชน่ ในโรงเรยี น นกั เรยี นสว่ นมาก เหน็ วา่ ควรชว่ ยกนั พฒั นาโรงเรยี นวนั ละครง่ึ ชวั่ โมง แต่นกั เรยี น สว่ นน้อยไมเ่ หน็ ดว้ ย นกั เรยี นฝ่ายขา้ งมากกไ็ มค่ วรใชก้ าลงั ควรใชเ้ หตผุ ลโน้มน้าวใหน้ กั เรยี นฝ่ายขา้ งน้อยยนิ ดปี ฎบิ ตั ิ ตามดว้ ยความเตม็ ใจ
๖.เป็นสงั คมที่ยดึ หลกั การเคารพเหตผุ ล รบั ฟังความคดิ เหน็ ทแ่ี ตกต่างของผอู้ น่ื ประชาธปิ ไตยจะดาเนินไปไดด้ ว้ ยดกี ต็ ่อเมอ่ื มกี ารรบั ฟัง ความคดิ เหน็ ของทกุ ฝ่าย
คณุ ลกั ษณะพลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนมสี ทิ ธเิ สรภี าพอยา่ งเทา่ เทยี มกนั และทุกคนจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายอยา่ งเครง่ ครดั ๑.ต้องเป็นบคุ คลที่เคารพในเหตผุ ล รบั ฟังความคดิ เหน็ ของทกุ ฝ่ายเพอ่ื คน้ หาเหตุผล และความถกู ตอ้ งทแ่ี ทจ้ รงิ
๒.ต้องเป็นบคุ คลท่ีเคารพศกั ด์ิศรีความเป็นมนุษย์ โดยไมก่ ารเลอื กปฏบิ ตั ทิ ไ่ี มเ่ ป็นธรรมหรอื ดหู มน่ิ เหยยี ดหยามกนั ยดึ หลกั ความเทา่ เทยี มกนั ในสทิ ธิ เสรภี าพ รวมถงึ การมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื ง ทาง เศรษฐกจิ และโอกาสทางสงั คม
๓.ต้องเป็นบคุ คลท่ีมีจิตสาธารณะ คอื มสี านึกรบั ผดิ ชอบในหน้าทข่ี องตนเองทม่ี ตี ่อ สว่ นรวม รบั รสู้ ทิ ธิ เสรภี าพ ของบุคคลอ่นื ทอ่ี ยเู่ ป็น สงั คมเดยี วกนั พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตยตอ้ งมคี วาม รบั ผดิ ชอบต่อหน้าทท่ี ต่ี นมตี อ่ ครอบครวั โรงเรยี น ชุมชน และประเทศชาติ
พลเมอื งดีของสงั คม
๔.ต้องเป็นบคุ คลที่เคารพกฎหมาย เน่อื งจากกฎหมายเป็นเครอ่ื งมอื ทป่ี ระสงคใ์ หเ้ กดิ ความเป็นระเบยี บ เกดิ ความสงบสขุ ในสงั คม รวมทงั้ เพอ่ื คมุ้ ครองผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวม เชน่ การรบั ราชการทหารตามทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ ไมบ่ ุกรกุ ทส่ี าธารณะ ไมข่ บั รถผดิ กฎหมาย
๕.ต้องเป็นบคุ คลที่มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการดาเนิน ชีวิตประจาวนั จะช่วยทาใหส้ งั คมประชาธปิ ไตยเป็นสงั คมทม่ี คี วาม สงบสุขและเจรญิ รงุ่ เรอื ง คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมทส่ี าคญั เชน่ ความละอายและเกรงกลวั ในการกระทาชวั่ การมคี วาม ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: