ความเป็นสากลของผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Global Leader)_ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม

ความเป็นสากลของผนู้ าการเปลยี่ นแปลง (Global Leader) ดร.ศริ ิพรรณ ชุมนุม เอกสารประกอบคาบรรยายการพฒั นาข้าราชการครูและบุคคลากร ทางการศกึ ษาก่อนแต่งตัง้ ให้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษา 16 กันยายน 2563 1

ความเป็ นสากล • Internationalization • Globalization • Transnational • Borderless • Cross Border

ความเป็นสากลของการอาชีวศึกษา (Technical and Vocational Education and Training- TVET) ผู้บริหาร การวัดผล/ ครู/ ประเมนิ ผล บคุ ลากร รูปแบบ หลักสูตร การเรียนรู้/ การสอน 3

อุปสรรคของความเป็นสากล ศกั ยภาพ (Capacity) เครอื ข่าย/ ความเป็นสากล แรงจงู ใจ พันธมิตร (Globalization) (Incentives) (Networking) พลงั รว่ ม การส่อื สาร(Communication) (Synergy) 4

การวเิ คราะห์ชอ่ งวา่ งของความเป็นสากล(Gap Analysis) Where are we now? - Situation Analysis What did we learn Where do we want to - outcomes go? - Impact - changes - Priority - Project Idea How did we go? Go ahead with Plan How can we get there? - Problems - Steps Plan- methods, - Success - Times activities - Output - resources 5

ประวัตกิ ารสร้างความเปน็ สากลของการอาชวี ศกึ ษา 2501 พฒั นาหลักสตู ร/ SEATO โดย ม. ฮาวาย คร/ู อุปกรณ์ 18 สถานศกึ ษา 2502 รฐั บาลเยอรมัน วท.ขอนแกน่ 2509 UNICEF โรงเรยี นการชา่ งสตรี 35 แหง่ 6

ประวตั ิการสร้างความเปน็ สากลของการอาชีวศกึ ษา 2510 โครงการเงินกธู้ นาคารโลกเพอื่ โรงเรียนเทคนคิ และ พฒั นาการอาชีวศึกษา เกษตร 25 แหง่ 2512 รฐั บาลออสเตรยี สรา้ งวิทยาลยั เทคนิค สตั หีบ 2516 ADB วทิ ยาลัยเทคนิค 4 แหง่ 7

ประวัตกิ ารสรา้ งความเป็นสากลของการอาชีวศกึ ษา 2521- โครงการเงนิ กูธ้ นาคารโลกเพอ่ื สร้างศูนยฝ์ กึ วิชาชพี 2527 พฒั นาการอาชีวศึกษา 12 แหง่ 2531- 2541 รัฐบาลเยอรมัน พฒั นาการจัดการ อาชีวศกึ ษาทวิภาคี 2532- 2533 UNDP จดั ต้งั สถาบัน พฒั นาครู อาชวี ศึกษา 8

ประวตั กิ ารสรา้ งความเป็นสากลของการอาชวี ศกึ ษา 2533 เงนิ กู้เดนมารก์ พฒั นาวิทยาลัยเกษตร 2536- เงนิ กู้ OECF พฒั นา 2543 วทิ ยาลยั เทคนิค 20 แห่ง 9

พฒั นาหลกั สตู ร กากบั ตดิ ตาม พฒั นารูปแบบ/การเรียน ประเมนิ ผล การสอน พฒั นา ผ้บู ริหาร/ครู พฒั นา/จดั หาเครื่องมือ ครุภณั ฑ์/อาคารสถานท่ี 10

Trends of the World TVET 11

Innovative Skills for 21st Century Workforce Information & Communication Creativity Media Literacy Digital skills Continuing to learn 12

แนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงของโลกTrends of the World Major Global Changes Change in Competition 6 1 2 Platform & Political Technological Climate Business Change Change Change Model • Conflict Emergence of • Disaster Transforming • People “the Second • Energy participation Economy” &food Change in security Social 5 3 System and Interaction Cultural 4 International Change Economic 13 Demographical Platform Change • Social value change Structure • More individualism Change Economic integration & Aging Society connectivity

กรอบคณุ วฒุ แิ หง่ ชาต(ิ National Qualifications Framework -NQF) & กรอบคณุ วฒุ อิ า้ งองิ อาเซยี น(ASEAN Qualifications Reference Framework-AQRF) NQF AQRF ก ร อ บ คุ ณ วุ ฒ ิห ลั ก ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ที่ ก ร อ บ คุ ณ วุ ฒ ิข อ ง อ า เ ซ ีย น ที่เ ก ิด เ ช ื่อ ม โ ย ง ร ะ บ บ คุ ณ วุ ฒ ิก า ร ศ ึก ษ า จา ก ก า ร พั ฒ น า ร่ว มกัน ข อง 1 0 ตั้งแต่ พื้นฐาน อาชีวศึกษา และ ประเทศสมาชกิ เพื่อใชเ้ ป็ นกรอบ อุดมศกึ ษา ดว้ ยระดับผลลัพธ์การ แกนกลางในการเชื่อมโยงกรอบ เรียนรู ้ กับ ระดับสมรรถนะในการ คุณวุฒขิ องประเทศสมาชกิ เพื่อ ปฏบิ ัตงิ านตามระบบคุณวุฒวิ ชิ าชพี ส่ง เ ส ริม กา รเ คลื่อน ย า้ ย ผูเ้ รีย น และมาตรฐานฝี มอื แรงงาน รวมทัง้ และคนทางานในภมู ภิ าคอาเซยี น ม า ต ร ฐ า น อ า ชี พ อ่ื น ๆ ข อ ง ภ า ค ประกอบการ เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรู ้ อย่างต่อเน่ือง และใหโ้ อกาสผูม้ ี ความสามารถและประสบการณ์เขา้ สู่ ระบบการศกึ ษา 14

ทกั ษะการทางานทจี่ าเป็ นในอนาคต World Economic Forum จากรายงาน The Future of Jobs ของ World Economic Forum ทอี่ อกมาเมื่อปี 2016 ได้ระบุทกั ษะทจ่ี าเป็ นในปี 2020 สาหรับการทางาน ในยุคดจิ ทิ ลั หรือโลกปัจจุบนั ประกอบด้วย 1. การแกป้ ญั หาทซี่ ับซอ้ น (Complex Problem Solving) 2. การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) 3. ความคิดสรา้ งสรรค์ (Creativity) 4. การบริหารบคุ คล (People Management) 5. การร่วมมือกบั ผ้อู ่ืน (Coordinating with Others) 6. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) 7. การลงความเห็นและการตัดสินใจ (Judgement and Decision Making) 8. การใส่ใจความต้องการของลูกคา้ (Service Orientation) 9. การเจรจาต่อรอง (Negotiation) และ 10. ความยดื หยนุ่ ทางปัญญา (Cognitive Flexibility)

2022 Skill Outlook Source: Future of Job Report in World Economic Forum 2018  Analytical thinking and Innovation  Active Learning and Learning Strategies  Creativity, Originally, and Initiative  Technology Design, and Programming  Critical Thinking and Analytical  Complex Problem Solving  Leadership and Social Influence  Emotional Intelligence  Reasoning, Problem Solving and Ideation  System Analysis and Evaluation

The Future of Skills: Employment in 2030 การศึกษาของ Nesta, UK and Oxford Martin School,USA ใหค้ วามสาคญั “ทกั ษะอาชีพและทกั ษะชวี ติ นอกเหนือจาก Hard Skills ตอ้ งใหค้ วามสาคญั Soft Skills  กลยทุ ธ์การเรียนรู้(Learning Strategies)  การริเริ่ม (Originality)  ความคล่องแคล่วในการคิด(Fluency of Ideas)  การเรียนรู้อยา่ งกระตือรือร้น (Active Learning)

ทกั ษะขา้ มสายงาน(Transversal Skills) ที่ภาคประกอบการตอ้ งการ • ความมีวินยั ในตนเอง • Self Discipline • ความยืดหยนุ่ และการปรับตวั • การเรียนรู้ด้วยตนเอง • Flexibility & Adaptability • ทกั ษะการส่ือสาร • Self Learning • การทางานเป็นทีม • Communication Skills • การตดั สนิ ใจอยา่ งมีเหตผุ ล • Team Work • Reasoned decision • ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ making • Application Skills 18

2018-2037 An Important Issue: Development and Capacity 1BuildingRefoorfmHLeuarmninag PnrocReses stoofuacrilcitaete 21st Century Skills 2 Change Roles of Teachers to “Facilitators or Coachers”” 3 Coachers” coachers” Strengthen education management 4 Enhance life long learning 19 5 Develop Digital Platform for learning process

ระบบนเิ วศของการอาชวี ศกึ ษา(TVET Ecology) พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษา และพระราชบัญญัตกิ ารอาชีวศกึ ษา ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาตฉิ บบั ท่ี 12 มาตรฐานการศกึ ษาแห่งชาติ กรอบคุณวุฒแิ ห่งชาติ 20

ระบบนเิ วศของสถานศกึ ษา (TVET Institute Ecology) • สภาพแวดลอ้ มทางเศรษฐกจิ สงั คม เทคโนโลยขี องพนื้ ท่ี • ครอบครวั ชมุ ชน • เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ทมี งาน • หลกั สตู รและการจดั การเรยี นรู้ • บคุ ลากร ครู ครฝู ึ ก และผเู้ ชย่ี วชาญในอาชพี • ปจั จยั สนบั สนนุ และสง่ิ อานวยความสะดวก • ระบบบรหิ ารจดั การ • ระดบั การใช้ Digital Technology • ระบบคณุ ภาพ มาตรฐาน และการประเมนิ ผล • การสรา้ งสม ใชป้ ระโยชน์ และเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ 21 21

องคป์ ระกอบการขบั เคลอ่ื นระบบอาชวี ศกึ ษา(Driver Factors)  ระบบเศรษฐกจิ และความต้องการกาลังคน 22  ประเทศไทย 4.0 และทกั ษะในศตวรรษที่ 21  สงั คม การเมอื ง ค่านยิ ม และวฒั นธรรมการเรยี นรู้  การพฒั นาและอทิ ธพิ ลของ Digital Technology  นโยบายการอาชีวศึกษา  กลไกการดาเนินงาน  ปัจจยั สนับสนุน  เกณฑ์ มาตรฐาน ระบบ ระเบียบท่ีเกีย่ วข้อง 22  ปัญหา โควิด 19

Leaning to know Leaning to be UNESCO 5 Pillars of Learning Leaning to do Leaning to Leaning to live transform oneself together & society 23

18 Learning and Teaching Methods in Vocational Education Learning by Learning by Learning by watching imitating Practicing Learning through Learning through Learning by feedback conversation teaching and helping Learning by Learning through Learning through real- world problem enquiry critical thinking solving Source : City & Guilds CENTRE FOR SKILLS DEVELOPMENT (UK) , How to teac24h

18 Learning and Teaching Methods in Vocational Education Learning by listening, Learning by drafting Learning reflecting transcribing & and sketching remembering Learning on the fly Learning through Learning by being coached competing Learning through Learning through Learning through virtual environments simulation playing games Source : City & Guilds CENTRE FOR SKILLS DEVELOPMENT , How to teach vocat2i5onal

25 วธิ กี ารเพอ่ื สนบั สนนุ การเรยี นรใู้ นสถานประกอบการ แนวคิด  Active Learning  Apprenticeship Workplace Learning And  Coaching development  Delegating : Delivering competitive  Discussion advantage for your  Distance Learning Organization (Cliffore &  Drama-based Learning Thorpe)  E-Learning 26

25 วธิ กี ารเพอ่ื สนบั สนนุ การเรยี นรใู้ นสถานประกอบการ  Executive Coaching  Project based learning  Qualification WMoernktporliancge Learning And  Reflective practive deOvne-tlhoep-jmobe–ntrtaining  Secondment : DNeetlwivoerkriinngg competitive  Self-Study aOdOrgvuaatdnnotiozaraglteeiaofrnnoirn(Cgyloifufor re &  Shadowing ThProorfepses)ional Membership  Temporary promotion  Trade exhibition  Professional Supervisor  Training Course  Organization Learning Method 27

ความทา้ ทายของการอาชีวศกึ ษา  การจดั อาชีวศกึ ษาเพ่ือการฟน้ื ฟเู ศรษฐกจิ  รูปแบบการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย  Digital Learning Platform  นวตั กรรมความร่วมมือ  ทวภิ าคเี ชงิ รุก/ Work-based Learning  การจดั การเรยี นรู้ดว้ ยผเู้ ช่ียวชาญในอาชีพ  มาตรฐานอาชีพกบั มาตรฐานครแู ละหลักสตู รอาชีวศึกษา 28

29

• เปน็ Active Social Process • เป็น Active Connecting ความรเู้ ดมิ กบั ความรู้ใหม่ • เป็น Active Participation/ Interaction • มีเปา้ หมายท่ชี ดั เจน และมีความหมายต่อ Learners • ไดร้ บั Positive Feedback อยา่ งสมา่ เสมอ • เป็นกระบวนการเรยี นรูท้ ี่ใหค้ วามสาคญั Skill Based Learning ดว้ ย Problem Based Learning และคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์

STEM for TVET Science Technology Vocational/ Occupational field Engineering Mathematics 31

STEM เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ และทกั ษะการทางาน อคสตุรวาา้สงมาคสหณุ ากมรลารกัรมษถณในนสิะกสยั าาใรคฝค่ ญเัดิรยี ว3นเิ คปรรู้ราะะกหาร์ : นสิ ยั คสเอถดิ อา้ืเชนตงิะอ่ รกกะาาบรรบณสรกจ์ า้ ารงรงิ คเรวยีานมรรจดูู้้ าว้ กยตนเอง การ กสเหราตาร้ งสผุ ทรลาก้ ั ทงษสกัะรษกราะคกร์ แาแกรลสป้ ะอื่ ญั สสบืหาคราน้ กคขาดิ อ้รอมรยว่ลู า่มงมมอื ี 32

Blended Learning In person Online classroom learning activities Independent study 33

Constructionism Learning Model Student Centered Learning to build knowledge Learning to think & Learning through hands- solve problem on experience 34

Innovation of Learning  Discussion and Debate, less lecturing  Field work and Laboratory, less class work  Research & Investigation, less memorization  Problem Solving, less textbook approach  Application instead of abstract theory  Group work to compliment individual work  Project work in addition to paper work

ศนู ยแ์ หง่ ความเป็ นเลศิ (Center of Excellence) ผลติ กาลงั คนอาลชกั ษวี ณศะกึสาษคาญั คขณุองผภเู้ รายี พน/สผงู สู้ าเร็จการศกึ ษา • มที กั ษะทสี่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานอาชพี / มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน(Occupational Skills) • มพี หทุ กั ษะ (Multi-Skills) • รอบรู้ Digital Technology • มที กั ษะในการสรา้ งนวตั กรรม(Innovative Skill) • มที กั ษะในการเรยี นรู้ (Learning Skill) • มที กั ษะการประยกุ ตใ์ ชแ้ ละความรบั ผดิ ชอบ (Application and Responsibility)

วฒั นธรรมองคก์ รสากล • ความสามารถในการดึงดดู ผกู พนั และจูงใจครู บุคลากร • สร้างและสง่ เสริมการทางานของทมี งาน • มีวัฒนธรรมการเรยี นรู้ ใส่ใจ/แสวงหาความรู้ • ฝึกอบรมและประเมนิ ขดี ความสามารถให้ทางานได้หลายอย่าง • สรา้ งความภาคภูมใิ จ เกยี รติภมู ิ ศกั ดศ์ิ รขี ององคก์ ร • เสรมิ สร้างศักยภาพ ครู บุคลากรเป็นผู้นาการเปล่ียนแปลง • สรา้ งความพึงพอใจแกผ่ ้เู รียนและผูป้ กครอง 37

การสรา้ งสมรรถนะสากล • การเปดิ รบั สง่ิ ใหม่ (Outside-in, Inside-Out) •เรยี นรู้อย่างตอ่ เนื่อง (Learning to Learn) • สร้างสรรคส์ ่ิงใหมห่ รอื นวัตกรรม(Innovativeness) • มอบอานาจ/กระจายอานาจ (Empowerment) • มพี หทุ กั ษะ (Multi-skilling) • มคี วามสามารถในการส่ือสาร (Communication) • สร้างเครอื ข่าย และพนั ธมติ รการเรยี นรู้(Networking and Partnership) 38

สรา้ งสถานศกึ ษาใหเ้ ป็ นองคก์ รปลอดอาณาจกั ร ทางานเป็ นทมี (Team Work) สรา้ งเครอื ขา่ ย (Networking) สรา้ งกลมุ่ (Clustering) สรา้ งพนั ธมติ ร (Partnership) 6

ทาสถานศกึ ษาใหเ้ ป็ นองคก์ รมชี วี ติ สงั คมแหง่ การเรยี นรู้ มคี วามเชอ่ื มน่ั ซงึ่ กนั และกนั (Learning Society) (Trust) ทางานอยา่ งผกู พนั เป็ นทมี รวมพลงั ใชป้ ระโยชนส์ งู สดุ (Teamwork) ของคนในสถานศกึ ษา (Energizing) 6

กลยทุ ธ์สกู่ ารเป็น Global Leader

กลไกขบั เคล่อื น Global Leader Active Administrators Active Teachers Active Teaching Active Learning Active College Active Community and Nation

การสร้างความเป็นสากลของ Global Leader A Arts

44