[ 42 ] ค่มู ือสำ� หรบั เจำ้ หนำ้ ที่ เพ่อื กำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น 40 กระทรวงสาธารณสขุ ประกาศนยี บตั รฉบับนี้ใหไ้ วเ้ พอ่ื แสดงว่า เป็นผ้ผู า่ นการฝึกอบรม หลกั สตู ร อสม. หมอประจำบ้าน ปีพุทธศกั ราช 2562 เมอ่ื วนั ท่ี เดือน พทุ ธศักราช ขอใหเ้ จริญดว้ ย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ดำรงรักษาคณุ งามความดี และมพี ลงั ใจ พลังสตปิ ัญญาที่เขม้ แขง็ เพอื่ เปน็ พลงั สรา้ งสรรค์ชุมชน สงั คมและประเทศชาติ สบื ไป () () () อธบิ ดีกรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวดั
แบบประเมนิ ก่อน – หลังการฝึกอบรม อสม. หมอประจา� บ้าน ปพี ุทธศักราช ๒๕๖๒ ๑.ข้อใดไม่ใชก่ ลมุ่ เป้าหมายของการดูแลผู้สูงอายขุ อง อสค. ก. ผสู้ ูงอายุตดิ บ้าน ข. ผสู้ งู อายุติดเตยี ง ค. ผสู้ ูงอายตุ ดิ สงั คม ง. ผูส้ ูงอายทุ ีไ่ ดร้ บั เบยี้ ยังชีพ ๒. ในฐานะทที่ ่านเป็น อสม. ขอ้ ใดไม่ควรปฏบิ ัติ ก. ค้นหาผูป้ ว่ ยในชุมชน ข. เป็นพเ่ี ลีย้ งก�ากบั การกนิ ยา ค. ใหผ้ ปู้ ่วยกนิ ยาดว้ ยตนเอง ง. ให้ก�าลังใจผ้ปู ่วย สอบถามอาการและการแพ้ยา ๓. ข้อใดคือบทบาทการเฝา้ ระวงั โรคไข้มาลาเรียของ อสม. ก. รายงานให้เจา้ หน้าที่ผู้รบั ผดิ ชอบทราบเมอ่ื มีผู้สงสยั ว่าเป็นโรคไขม้ าลาเรยี ข. แนะนา� ให้ผ้สู งสยั วา่ เปน็ โรคไข้มาลาเรียให้เจาะเลือด ค. ให้ความรู้เรื่องการปอ้ งกันและอาการของโรคไข้มาลาเรยี แกก่ ล่มุ เสีย่ ง ง. ถูกทกุ ข้อ ๔. ใครทมี่ คี วามเสี่ยงท่ีอาจจะมีปัญหาสุขภาพจิต ก.วยั รนุ่ ทม่ี ีพฤตกิ รรมกา้ วรา้ ว ใช้ความรุนแรง ข.ผสู้ งู อายุทเี่ จบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคเรือ้ รงั ค.ถูกทัง้ ข้อ ก และ ข ง.ไมม่ ีขอ้ ใดถกู ๕. ข้อใดคอื วธิ กี ารดแู ลสขุ ภาพจติ ประชาชน ก.การสงั เกต และประเมินสขุ ภาพจติ ประชาชน ข.การให้คา� แนะนา� ให้ก�าลังใจ ค.สง่ ตอ่ ผู้ที่มีปญั หาสุขภาพจติ หรืออาจมีปญั หาสขุ ภาพจติ ให้กบั เจา้ หน้าท่สี าธารณสุข ง.ถูกทุกข้อ ๖. ผู้ท่เี ป็นกลุ่มเสยี่ งโรคความดันโลหติ ตอ้ งมคี วามดนั โลหติ อยใู่ นขอ้ ใด ก. ๑๐๔/๖๐ มลิ ลิเมตรปรอท ข. ๑๑๖/๖๘ มิลลเิ มตรปรอท [ ]คู่มอื ส�ำหรับเจำ้ หน้ำที่ เพื่อกำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน 43
ค. ๑๑๙/๗๘ มิลลิเมตรปรอท ง. ๑๓๒/๘๘ มลิ ลเิ มตรปรอท ๗. ค่าดัชนีมวลกายของคนปกตคิ วรอยใู่ นขอ้ ใด ๑. น้อยกว่า ๑๘.๕ ๒. ๑๘.๕ - ๒๒.๙ ๓. ๒๓ - ๒๔.๙ ๔. ๒๕ - ๒๙.๙ ๘. อาการของโรคเบาหวาน คือ ขอ้ ใด ก. ปัสสาวะนอ้ ย ข. ปัสสาวะบ่อยและมาก ค. เบือ่ อาหาร ง. เลอื ดไหลง่ายและหยุดยาก ๙. ข้อใดถูกตอ้ งเก่ียวกับการจดั สภาพแวดลอ้ มทีเ่ หมาะสมส�าหรบั ผสู้ ูงอายุและผปู้ ว่ ย ติดบ้าน ติดเตยี ง ๑. เตียงนอนต้องมีความกว้างเพียงพอ ไม่สูงเกินไป และต้องจัดให้มีไม้ก้ัน หรือเคร่ืองกั้นบริเวณ ขอบ เตยี งตลอดเวลา เพ่อื ป้องกนั ผู้สงู อายุตกจากเตยี งได้ ๒. เพอื่ ให้สะดวกในการหยบิ ใช้งาน ควรตง้ั กาน�้ารอ้ นบนเตียงผูส้ งู อายหุ รือผปู้ ่วย ๓. ควรปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพ้ืนที่สีเขียว โดยการปลูกต้นไม้ให้รกทึบ โดยเฉพาะไม้หนาม เพราะ ความเชื่อจะช่วยปอ้ งกนั เหตุร้ายทีจ่ ะเกิดข้นึ กับผปู้ ว่ ยได้ ๔. ควรปดิ หน้าตา่ งและประตบู ริเวณห้องนอนผู้สงู อายหุ รือผู้ปว่ ยตลอดเวลา ๑๐. สภาวะช่องปากขอ้ ใดท่มี ีปญั หา ก. กระพุ้งแก้มและลนิ้ เป็นฝ้าขาว ข. ฟันมรี อยแตกบ่นิ คม และมักจะมแี ผลทล่ี ้นิ หรือกระพงุ้ แก้มรว่ มด้วย ค. มแี ผลตามมมุ ปาก และรมิ ฝีปากแหง้ เปน็ ขยุ๋ ๆ ง. ถกู ทกุ ข้อ ๑๑. ข้อใดบอกถงึ ความสา� คัญของการมีโภชนาการท่ีดีในกลุม่ หญงิ ต้ังครรภ์ เดก็ ปฐมวัย และผสู้ งู อายุ ก. ช่วยสร้างเซลล์สมอง ระบบประสาท ระบบกล้ามเน้ือ ระบบกระดูก ระบบภูมิต้านทานโรค อวยั วะภายในของร่างกายให้สมบูรณ์ ข. ชว่ ยทา� ใหเ้ ด็กอายุ ๐-๕ ปี สูงดสี มสว่ น ค. ทา� ใหล้ ดการเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคตดิ ตอ่ ในเดก็ หรอื เปน็ แลว้ หายเรว็ มรี ะดบั เชาวนป์ ญั ญาดี ลดความ เสี่ยงการเกดิ โรคไม่ติดต่อเรอื้ รงั เช่น โรคความดันโลหิตสงู โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอด เลือดสมอง และมะเรง็ ง. ถกู ทกุ ข้อ [ ]44 คมู่ ือส�ำหรับเจ้ำหนำ้ ที่ เพอื่ กำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น
๑๒. ขอ้ ใด ไม่มี ความเก่ียวข้องกบั ค�าว่า “ภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย” ก. เป็นระบบการแพทยแ์ บบองคร์ วมระหวา่ ง กาย จติ สงั คมและธรรมชาติ ข. มุ่งเน้นแตเ่ พยี งการบ�าบัดโรคทางกายเทา่ น้ัน ค. เน้นให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองทางด้านสุขภาพและอนามัยได้ เช่น ยาจากสมุนไพรอันมีอยู่ หลากหลาย การนวดไทย การดแู ลและรักษาสขุ ภาพแบบพน้ื บ้าน เปน็ ต้น ง. เป็นองค์ความรู้ ระบบความคิด ความเช่ือของชุมชนได้จากประสบการณ์ท่ีส่ังสม ปรับตัว และด�ารงชพี ตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มทางสังคม-วัฒนธรรม ๑๓. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของผู้นา� ๑. มคี วามสามารถใช้อทิ ธพิ ลให้คนอื่นปฏบิ ตั ติ าม ๒. สามารถชกั จงู ให้คนอ่นื ท�างานให้สา� เรจ็ ตามตอ้ งการ ๓. ไดร้ ับผลประโยชนต์ อบแทนมากกว่าผอู้ ่ืน ๔. คอยชว่ ยเหลอื ให้บรรลเุ ปา้ หมายสงู สดุ ตามความสามารถ ๑๔. ข้อใดเป็นแนวทางการสรา้ งและสนับสนนุ การมีสว่ นร่วมทง้ั หมด ๑. การริเรม่ิ ลักษณะแหง่ พฤติกรรมบคุ คล, การสนับสนุนแนวความคิดท่ีสามารถเปน็ แบบอยา่ งได้, การไดร้ ับโอกาสบรรจุแต่งตงั้ ใหเ้ ปน็ ราชการ ๒. การสนับสนุนแนวความคิดท่ีสามารถเป็นแบบอย่างได้, การมองหาความคิดเฉพาะในส่วนท่ีดี, การจงู ใจให้เกิดการสรา้ งกระบวนการความคดิ ใหเ้ กดิ ในทกุ กลมุ่ งาน ๓. การพฒั นาความรสู้ ึกรับผดิ ชอบ, การเปดิ โอกาสเพ่อื การแลกเปลย่ี น, การไดเ้ งนิ ค่าตอบแทน ๔. การเปิดโอกาสเพื่อการแลกเปลี่ยน, การสนับสนุนแนวความคิดที่สามารถเป็นแบบอย่างได้, การสนับสนุนใหไ้ ดร้ บั การเลอื กต้ังเป็นนักการเมืองทอ้ งถ่ิน ๑๕. ข้อใด ไมใ่ ช่ หลักการส�าคญั ในการใช้ยาสมนุ ไพรอย่างปลอดภัย ก. การอ่านฉลากยาให้ละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงการปฏิบัติตามค�าสั่งใช้หรือค�าแนะน�าของแพทย์ แพทยแ์ ผนไทย และเภสชั กรอยา่ งเครง่ ครดั ข. หญิงมีครรภห์ รือให้นมบุตร และเด็กไม่ควรท่ีจะใช้สมนุ ไพรถา้ ไมจ่ �าเปน็ ค. การแจ้งข้อมูลการใช้ยาแผนปัจจุบันหรือสมุนไพรให้กับแพทย์ แพทย์แผนไทย หรือเภสัชกร ทราบทกุ ครั้งวา่ กา� ลังใช้ยาแผนปจั จุบนั หรอื สมนุ ไพรชนิดใดอยู่ ง. การเลอื กซื้อยาสมนุ ไพรจากร้านยาแบบใดกไ็ ด้ ไม่ต้องมีเภสัชกรประจ�า ๑๖. ท่านคิดวา่ การพาสัตวเ์ ลีย้ งไปฉีดวัคซนี ปอ้ งกนั โรคพิษสนุ ขั บ้า เป็นหน้าท่ีของใคร ๑) เจ้าหนา้ ที่สาธารณสุข ๒) เจ้าหนา้ ทีป่ ศสุ ัตว์ ๓) เจา้ หน้าท่ีองค์การบรกิ ารสว่ นตา� บล/เทศบาล ๔) ตัวท่านและครอบครวั ๑๗. การปอ้ งกันไม่ให้เป็นโรคพยาธิใบไมต้ ับท่ีดีทีส่ ดุ คอื กินเมนูปลานา้� จืดมเี กลด็ ท่ปี รุงสกุ แล้ว (√) ใช่ () ไม่ใช่ () ไม่ทราบ [ ]ค่มู ือสำ� หรบั เจำ้ หน้ำที่ เพ่ือกำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน 45
๑๘. การดูแลผู้ป่วยเบ้ืองต้น ควรเช็ดตัวเพ่ือลดไข้ ให้ผู้ป่วยดื่มน�้าเกลือแร่มากๆ หากผู้ป่วยจ�าเป็นต้อง ทานยาลดไข้ ควรทานยาพาราเซตามอน เท่าน้นั หา้ มทานยาแอสไพรนิ ไอบโู พรเฟน (Ibuprofen) (√) ใช่ () ไมใ่ ช่ () ไมท่ ราบ ๑๙. โรคไขฉ้ หี่ นตู ิดตอ่ ไดโ้ ดยเชื้อจะไชเขา้ ทางบาดแผล หรือผวิ หนังทอี่ อ่ นน่มุ จากการ แชน่ า้� นานๆ (√) ใช่ () ไม่ใช่ () ไมท่ ราบ ๒๐. การพลัดตกหกล้มเป็นปัญหาทีส่ า� คญั หรือพบบอ่ ยในผสู้ ูงอายุ (√) ใช่ () ไมใ่ ช่ () ไม่ทราบ [ ]46 คู่มือสำ� หรับเจำ้ หน้ำท่ี เพอื่ กำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บำ้ น
ความรทู้ ่ีจา� เปน็ ส�าหรบั เจา้ หน้าที่ในการอบรม ๖ วชิ า วชิ าที่ ๑ วชิ าอาสาสมัครประจา� ครอบครวั (อสค.) และบทบาท อสม. หมอประจา� บา้ น ๑.๑ อำสำสมัครประจ�ำครอบครัว (อสค.) : หมายถึง บุคคลใดบุคคลหน่ึงในครอบครัวหรือ เพื่อนบ้านท่ีได้รับความไว้วางใจจากครอบครัว และได้รับการคัดเลือกให้ท�าหน้าท่ีดูแลสุขภาพและ ความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัว เป็นผู้ที่มีความรู้และเป็นแกนนาในการปฏิบัติตนเองด้านสุขภาพ ที่ถูกต้อง เป็นแบบอย่างให้กับครอบครัวและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่สมาชิกในครอบครัวได้ และ ผา่ นการฝึกอบรมหลักสูตรอาสาสมคั รประจ�าครอบครวั ทกี่ ระทรวงสาธารณสุขก�าหนด บทบำทหน้ำท่ีอำสำสมัครประจ�ำครอบครัว (อสค.) ๑. ดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งวิเคราะห์และจัดการความเสี่ยง ภัยสุขภาพ ของตนเองและสมาชกิ ในครอบครัว ตลอดจนสมาชกิ ในครอบครวั มารับบรกิ ารสขุ ภาพ เมือ่ พบปญั หา ๒. ถ่ายทอดความรใู้ หแ้ กส่ มาชิกในครอบครวั ๓. ชว่ ยเหลอื ดแู ลสขุ ภาพ ของประชาชนที่อยู่ในภาวะพงึ่ พิง ๔.เขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นสขุ ภาพในชมุ ชนและมสี ่วนร่วมในการแกไ้ ขปญั หาของชมุ ชน ๕. บนั ทกึ กจิ กรรมการดูแลสขุ ภาพของ อสค. ลงในสมดุ บันทึกประจา� ครอบครัว ๖. ประสานความรว่ มมอื เชอื่ มโยง เปน็ เครอื ขา่ ยรา่ งแห สง่ ตอ่ ขอ้ มลู ดา้ นสขุ ภาพ รบั ความรเู้ พม่ิ เตมิ และรบั ค�าปรึกษาจาก อสม. และเจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสุข ๗. เสนอแนะความคิดเหน็ ในการพัฒนาครวั เรือนและรว่ มเปน็ ทีมหมอครอบครวั ๑.๒ อสม. หมอประจ�ำบ้ำน คือ ประชาชนท่ีมีจิตอาสาเข้ามาท�างานเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข ได้รับการยอมรับและคัดเลือกเป็นประธาน อสม ระดับหมู่บ้าน และระดับต�าบล ให้เป็นผู้แทน อสม. เข้ารับการอบรมในหลักสูตร อสม. หมอประจ�าบ้าน และให้ท�าหน้าท่ีเป็นผู้น�าจัดการปัญหาสุขภาพ ของประชาชนร่วมกับ อสม. อสค. ทีมหมอครอบครัว เครือข่ายสุขภาพ และประชาชนในพ้ืนท่ีเพ่ือให้มี คุณภาพชีวิตที่ดี ลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดการพ่ึงพาโรงพยาบาล ลดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย ลดความแออดั ลดค่าใช้จา่ ยของโรงพยาบาล และใหพ้ ง่ึ ตนเองด้านสุขภาพมากข้นึ บทบำท อสม. หมอประจำ� บำ้ น ๑. สนบั สนนุ ใหม้ ี อสค. ทกุ ครอบครวั ๒. เป็นพเ่ี ลย้ี งให้ อสค. ดแู ลสุขภาพทุกครอบครวั ๓. เฝา้ ระวัง ป้องกนั ควบคุมไมใ่ หเ้ กดิ โรคในพ้นื ที่ เชน่ โรคไข้เลอื ดออก โรคเลปโตสไปโรซิส (ฉีห่ นู) ๔. ส่งเสริมสุขภาพ ลดโรคเรอื้ รงั ปัญหาสขุ ภาพจติ ยาเสพตดิ และอบุ ัตเิ หตุ ๕. ถา่ ยทอดความรูด้ ้านภูมปิ ัญญาไทย สมุนไพร และการใช้กัญชาทางการแพทย์ [ ]คู่มอื สำ� หรับเจำ้ หนำ้ ที่ เพ่อื กำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น 47
๖. การใช้เครื่องมือส่ือสารและแอปพลิเคชัน การคัดกรอง ประเมินสุขภาพร่วมทีมหมอครอบครัว (Telemedicine) ๗. เป็นแกนน�าเครือข่ายดูแลสุขภาพ และจัดการปัญหาสุขภาพในครอบครัว ชุมชน รวมท้ัง การสง่ ตอ่ ผู้ป่วย ๘. เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมลู สขุ ภาพในพื้นท่ี วางแผน แกไ้ ขปัญหา และรายงานผล อสม. หมอประจ�ำบ้ำนท�ำงำนอย่ำงไรในหม่บู ้ำน/ชุมชน วชิ าท่ี ๒ วชิ าการเฝ้าระวงั ปอ้ งกัน ควบคมุ ไม่ใหเ้ กิดโรคในพ้ืนที่ ๒.๑ การเฝ้าระวงั ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคทา� อย่างไร ๒.๒ โรคระบาดให้ อสม. หมอประจ�าบ้าน ท�าหน้าท่ีเป็นผู้น�า เป็นจุดจัดการแก้ปัญหาสุขภาพ โดยการสร้างทีมเครือข่ายสุขภาพ ได้แก่ อสม. อสค. และเครือข่ายต่างๆ หาสาเหตุ จัดท�าแผนหา งบประมาณ หาสง่ิ สนบั สนุนมาแก้ไขปญั หา มาสร้างสขุ ภาพในหลักการของการดแู ลสุขภาพ การส่งเสริม สขุ ภาพและการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ รวมทง้ั การเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั และการฟน้ื ฟสู ขุ ภาพ ไดแ้ ก่ โรค ๕ โรค ๒.๒.๑ โรคไข้เลือดออก สำเหตุของโรค : เกดิ จากเชื้อไวรสั เดงกี มยี ุงลายบ้าน (Aedes aegypti) และยุงลายสวน (Aedes albopictus) เป็นพาหะน�าโรค โดยส่วนใหญ่จะเป็นยุงลายบ้านท่ีน�าเช้ือ เป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยพบผ้ปู ่วยมากในชว่ งอายุ ๕ - ๑๔ ปี [ ]48 คู่มอื ส�ำหรบั เจ้ำหน้ำท่ี เพ่ือกำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน
กำรติดต่อ : ยุงลายตัวเมียจะดูดเลือดคนที่เป็นไข้เลือดออกในระยะที่มีไข้สูงเข้าไป (๒ – ๗ วัน หลังเร่ิมป่วย) และไปแพร่เชื้อไวรัสเดงกีให้คนที่ถูกกัดต่อ โดยเช้ือสามารถอยู่ในตัวยุงลายได้ตลอดชีวิต (๓๐ – ๔๕ วัน) และเชื้อสามารถถ่ายทอดไปยังไข่ยุงได้ แหล่งนา�้ ท่ียุงลายวางไข่คือน้�าค่อนข้างใส นา�้ น่ิง และขังนานเกนิ ๗ วนั จดุ สังเกต ไดแ้ ก่ อ่างน�้าในหอ้ งน้า� อ่างบัว แจกันดอกไม้ กะลามะพรา้ ว โอง่ แตก ไหแตก เศษขยะที่มีน�้าขงั เป็นตน้ อำกำรและกำรดูแลรักษำ : ส่วนใหญ่มีไข้สูง ๓๘.๕ - ๔๑ องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเน้อื ปวดกระดูก และมีจุดแดงท่ีผิวหนัง ถ้าติดเช้ือคร้ังท่ี ๒ จะมีอาการรุนแรงกว่าการติดเชื้อครั้งแรก โดยมอี าการสา� คัญแบง่ ออกเปน็ ๓ ระยะ ดงั นี้ ๑) ระยะไข้ ผู้ป่วยมีไข้สูงตลอดเวลา มักมีหน้าแดง เบ่ืออาหาร คลื่นไส้อาเจียน มักจะไม่ไอ ไม่มีน้�ามูก และอาจมีจุดแดงตามล�าตัว แขนขา เป็นอยู่ราว ๒-๗ วัน บางรายอาจมีการชักได้ ควรลดไข้ ด้วยยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน และไอบูโพรเฟน เพราะจะท�าให้เลือดออกง่าย เช็ดตัว ช่วยลดไขร้ ว่ มด้วย และใหผ้ ู้ป่วยด่มื นา้� เกลอื แร่มากๆ ๒) ระยะชอ็ ก เกดิ ในช่วงไขล้ ด ผ้ปู ว่ ยบางรายจะซึม มอื เท้าเยน็ ชีพจรเบาแต่เรว็ ปวดท้องบริเวณ ใต้ชายโครงขวา ปัสสาวะน้อย มีเลือดออกง่าย เช่น เลือดก�าเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระ มีสีด�า ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจถึงตายได้ ระยะน้ีต้องติดตามคนไข้ใกล้ชิด เพ่ือตรวจพบและป้องกัน ภาวะช็อกได้ทันเวลา ควรแนะน�าใหญ้ าติผู้ปว่ ยทราบอาการนา� ของการชอ็ ก เชน่ เบื่ออาหาร ถา่ ยปสั สาวะ น้อย ปอ้ งท้องอย่างมาก กระสบั กระส่ายมอื เท้าเย็นให้นา� สง่ โรงพยาบาลทนั ที ๓) ระยะพักฟื้น อาการต่างๆ จะเริ่มดีข้ึน ผู้ป่วยจะรู้สึกอยากรับประทานอาหาร ปัสสาวะออก มากขึ้น บางรายอาจมีจุดแดงเล็กๆ ตามล�าตัว แขน ขา ในระยะนี้อาจมีผ่ืนข้ึนต้องแนะน�าไม่ผู้ป่วยเกา ดแู ลให้ได้รับยาตามแผนการรกั ษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง การรกั ษาป้องกัน ๒.๒.๒ โรคพิษสุนขั บำ้ สำเหตุของโรค : โรคพิษสุนัขบ้า หรือท่ีชาวบ้านท่ัวไปรู้จักกันว่า โรคกลัวน�้า เกิดจากเชื้อไวรัส ชอื่ เรบส่ี ไ์ วรสั (Rabies Virus) มรี ปู รา่ งคลา้ ยกระสนุ ปนื เมอ่ื เชอ้ื นเ้ี ขา้ สรู่ า่ งกายคนหรอื สตั ว์ โดยการถกู กดั ขว่ นหรอื อนื่ ๆ เชอ้ื จะยงั คงอยบู่ รเิ วณนนั้ ระยะหนงึ่ โดยเพมิ่ จา� นวนในกลา้ มเนอ้ื แลว้ เขา้ ทางปลายประสาท เดนิ ทางไปยงั ประสาทสว่ นกลางและเขา้ สู่สมองเพม่ิ จา� นวนมากขึน้ พร้อมทั้งท�าลายเซลลส์ มองของคนเรา ท�าให้เกิดอาการผิดปกติทางสมองและระบบประสาท ท่ีส�าคัญเมื่อคนหรือสัตว์ติดเชื้อจนมีอาการเกิดข้ึน แล้ว ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องเสียชีวิตทุกราย แต่โรคน้ีป้องกัน และสามารถท�าให้หมดไปจาก คนและสตั ว์เลี้ยงได้ ในประเทศไทยหลายพื้นท่ียงั พบผ้เู สยี ชีวิต และยังควบคมุ โรคในสุนัขไมไ่ ด้ วงจรโรค : การตดิ ตอ่ สนุ ขั และแมวทป่ี ว่ ยดว้ ยโรคพษิ สนุ ขั บา้ สามารถแพรเ่ ชอื้ ไดท้ างนา�้ ลายเพราะ เช้ือจะออกมา ในน�า้ ลายระยะต้งั แต่ ๑-๗ วนั กอ่ นแสดงอาการจนกระทงั่ ตาย คนเราจะติดเช้ือน้ีกต็ ่อเม่ือ - ถูกสัตวท์ เี่ ป็นโรคน้ีกัดหรอื ข่วน [ ]ค่มู ือสำ� หรบั เจำ้ หนำ้ ที่ เพื่อกำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบ้ำน 49
- ถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้เลียหรือน�้าลายสัตว์กระเด็นเข้าบาดแผลรอยขีดข่วนเยื่อเมือกหรือเย่ือบุตา จมูก ปาก (ถา้ น�า้ ลายถกู ผวิ หนังปกติ ไมม่ รี อยขว่ น หรือบาดแผล ไมม่ ีโอกาสตดิ โรค) - การติดต่อโดยการหายใจ มีโอกาสน้อยมาก ยกเว้นมีจ�านวนไวรัสในอากาศ เป็นจ�านวนมาก เช่น ในถ้�าค้างคาว - การติดต่อ โดยการกินเกิดขึ้นได้ยาก ไม่เคยมีรายงานตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับการติดต่อ จากคนไปส่คู น ในธรรมชาตกิ ็ไมเ่ คยมรี ายงานเช่นกัน ระยะฟักตัวของโรค หมายถึง ระยะเวลาตั้งแต่เช้ือเข้าร่างกายจนกระท่ังเกิดอาการ บางราย อาจนานเกนิ ๑ ปี บางรายอาจเร็วเพยี ง ๔ วนั แตโ่ ดยเฉลยี่ ๓ สัปดาห์ ถงึ ๔ เดือน อำกำรโรค/กำรรกั ษำ อำกำรที่พบในสัตว์ สว่ นใหญส่ นุ ัข แมว ววั ควาย มีระยะฟักตวั ไมเ่ กิน ๖ เดือน ระยะเร่ิมแรก มีอาการประมาณ ๒ – ๓ วัน โดยสุนัขจะมีอารมณ์และอุปนิสัยเปล่ียนไปจากเดิม เช่น สุนัขท่ีชอบคลุกคลีกับเจ้าของ จะปลีกตัวออกไปหลบซุกตัวเงียบๆ มีอารมณ์หงุดหงิด ตัวที่เคย ขลาดกลัวคน ก็จะกลับมาคลอเคลีย เริ่มมีไข้เล็กน้อย ม่านตาขยายกว้างกว่าปกติ การตอบสนองต่อ แสงของตาลดลง กินข้าวดืม่ น�้าน้อยลง ลักษณะการเคย้ี วหรอื กลนื ผิดไป ระยะต่ืนเต้น คือ เร่ิมมีอาการทางประสาท สุนัขจะกระวนกระวาย ต่ืนเต้น หงุดหงิด ไม่อยู่นิ่ง กดั แทะสง่ิ ของ สง่ิ แปลกปลอม กดั ทกุ สงิ่ ไมเ่ ลอื กหนา้ ถา้ กกั ขงั หรอื ลา่ มไวจ้ ะกดั กรงหรอื โซจ่ นเลอื ดกบปาก โดยไม่เจ็บปวด เสยี งเห่าหอน จะเปลยี่ นไป ตวั แขง็ ระยะอมั พำต สุนขั จะมีคางห้อยตก ลิน้ มีสแี ดงคลา้� หอ้ ยออกนอกปาก นา้� ลายไหล และไม่สามารถ ใช้ลิ้นได้เลย สุนัขอาจแสดงอาการขยอก หรือขย้อน คล้ายมีอะไรอยู่ในล�าคอ ขาอ่อนเปลี้ย ทรงตัวไม่ได้ ลม้ ลงแลว้ ลกุ ไมไ่ ด้ อัมพาตทว่ั ตัว อย่างรวดเร็วและตายในท่ีสดุ อาการสุนัขบา้ มที ั้งแบบดรุ ้ายและแบบซึม อำกำรทพ่ี บในคน ส�าหรบั อาการของคนทไ่ี ดร้ ับเช้อื โรคพิษสนุ ัขบา้ สว่ นใหญม่ ีอาการของสมองอักเสบ และไขสนั หลัง อกั เสบ โดยอาการเร่มิ แรกของผู้ปว่ ยจะมไี ขต้ า่� ๆ เจบ็ คอ เบ่อื อาหาร อ่อนเพลยี ตอ่ มามีอาการคัน มักเร่ิม จากบริเวณแผลท่ีถูกกัด แสบๆ ร้อนๆ แล้วลามไปส่วนอื่น บางคนคันมากเกาจนกลายเป็นแผลอักเสบ มีน้�าเหลือง ต่อมาจะกระสับกระส่าย กลัวแสงกลัวลม ไม่ชอบเสียงดัง เพ้อ หลุกหลิก กระวนกระวาย หนาวส่ัน ตามักเบิกโพลงบ่อยๆ บางคร้ังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคทางจิต มีอาการกลืนล�าบากโดยเฉพาะ อย่างยิ่งของเหลว จะเกิดอาการปวดเกร็งท�าให้ไม่อยากด่ืมน�้า มีอาการกลัวน้�า จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง ว่า โรคกลัวน�้า ไม่อยากกลืนแม้กระทั่งน�้าลาย จึงท�าให้น้�าลายไหล บางคนอาจ ปวดท้องน้อยและขา คนไข้เพศชายบางรายมีน้�าอสุจิไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว กล้ามเน้ือกระตุก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรอื อาจเกร็ง อัมพาต หมดสติและตายในที่สดุ [ ]50 คู่มือส�ำหรับเจำ้ หนำ้ ที่ เพอ่ื กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบำ้ น
วิธีของกำรปฏบิ ัตติ นในกำรปอ้ งกนั โรค กำรปอ้ งกันไมใ่ หม้ ผี ู้เสียชวี ิตดว้ ยโรคพษิ สนุ ัขบ้ำ มี ๓ ขั้นตอน ขั้นท่ี ๑ ป้องกันและควบคุมไม่ให้สัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้า เป็นการป้องกันที่ดีท่ีสุด ประเทศไทย ถ้าควบคมุ โรคในสนุ ัขไดส้ �าเรจ็ คนและสัตวอ์ ่ืน ๆ จะปลอดภยั จากโรคร้ายน้ี ขั้นท่ี ๒ ลดความเส่ียงจากการถูกสุนัขกัด ขณะน้ียังมีสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ท่ัวไป การหลีก เล่ยี งไม่ใหถ้ กู สนุ ขั กดั จะลดอตั ราเส่ยี งต่อการไดร้ ับเช้ือ ขั้นท่ี ๓ การป้องกันอย่างถูกต้องหลังถูกสุนัขกัดต้องรู้วิธีป้องกันตนเองให้รอดพ้นจากการเป็น โรคพษิ สนุ ัขบ้าเมอ่ื ถูกกัด กำรป้องกนั ตนเองจำกโรคพิษสุนัขบำ้ ยดึ หลัก “คาถา ๕ ย กนั กดั “อยา่ แหย่ อยา่ เหยยี บ อย่าแยก อย่าหยบิ หย่ายงุ่ ” ย.๑ อยา่ แหย่ สุนขั ใหโ้ มโห ย.๒ อยา่ เหยียบ หาง หวั ตัว ขา หรือท�าให้สุนขั ตกใจ ย.๓ อย่าแยก สุนขั ทกี่ า� ลงั กดั กันดว้ ยมือเปลา่ ย.๔ อย่าหยิบ จานขา้ วหรือเคล่อื นยา้ ยอาหารขณะสนุ ขั ก�าลงั กินอาหาร ย.๕ อยา่ ยงุ่ หรอื เขา้ ใกล้สุนัขท่ไี มร่ ้จู กั หรือไม่มเี จ้าของ วิธีปฏิบัติตนหลงั จำกถกู สัตว์ กัด/ข่วน/เลีย ๑. ล้างแผลให้สะอาด ด้วยน�้าและสบู่หลาย ๆ ครั้ง นานอย่างน้อย ๑๕ นาที เช็ดแผลให้แห้ง ใสย่ ารกั ษาแผลสด ๒. จดจา� สตั วท์ กี่ ดั ใหไ้ ดเ้ พอื่ สบื หาเจา้ ของ/กกั สนุ ขั ไวด้ อู าการ ๑๐ วนั สอบถามประวตั กิ ารฉดี วคั ซนี ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หากสุนัขตัวน้ันตายภายใน ๑๐ วัน ให้รีบแจ้ง อบต./เทศบาล หรือปศุสัตว์ ในระแวกบา้ น ๓. ไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพ่ือรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามแพทย์ วินิจฉยั ทสี่ �าคัญตอ้ งรบั วคั ซีนให้ตรงตามนัดและรบั ต่อจนครบชดุ “สนุ ัขกดั ตอ้ งรบี แก้ ลา้ งแผล ใส่ยา กกั หมา (๑๐ วัน) หาหมอ ฉดี วคั ซีนตอ่ จนครบชุด” ๒.๒.๓ โรคพยำธใิ บไม้ตบั สำเหตุของโรค : พยาธิใบไม้ตับมักเป็นการติดเชื้อจากพยาธิสายพันธุ์โอปิสทอร์คิสวิเวอร์รินี ท่ีเข้ามาอาศัยภายในท่อน้�าดีตับ จากการบริโภคปลาน�้าจืดเกล็ดขาวในวงศ์ปลาตะเพียนที่มีตัวอ่อน ระยะตดิ ต่อเข้าไปโดยไม่ผา่ นการปรุงสุกใหค้ วามร้อนฆ่าพยาธิ อาทปิ ลาน�้าจดื เชน่ ปลาตะเพยี น ปลาซวิ ปลาสรอ้ ย ปลาแกม้ ซา�้ ปลาขาวนา และปลาขาว หรอื ปลาจากการแปรรปู หมกั ดอง เชน่ ปลาจอ่ ม ปลาสม้ ปลาร้า และอาหารท่ีปรุงจากปลาร้า เชน่ สม้ ตา� แจ่ว เป็นตน้ ตวั อ่อนของพยาธิใบไมต้ บั จะใช้ท่อน�้าดีของ มนุษย์ในการเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวยั จนรา่ งกายได้รบั ความเสยี หาย และเกิดอาการปว่ ยตา่ งๆ ขึ้น [ ]ค่มู ือสำ� หรบั เจ้ำหน้ำที่ เพ่ือกำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบำ้ น 51
วงจรโรค : พยาธิใบไมต้ บั มีวงจรชวี ิตดังน้ี - มนุษย์หรือสัตว์รังโรค(สุนัข แมว สัตว์อื่นท่ีกินเนื้อ)รับเอาตัวอ่อนลักษณะซีสต์ระยะ เมตาเซอรค์ าเรยี (Encysted Metacercariae) หรอื ระยะตดิ ตอ่ ของพยาธใิ บไม้ตบั เข้าสู่ร่างกาย - พยาธิตัวออ่ นจะเขา้ สลู่ า� ไสเ้ ลก็ และตับ ผ่านรเู ปดิ ของท่อน�้าดที เ่ี ปิดเข้าลา� ไสเ้ ลก็ และเจรญิ เติบโต ในท่อน�้าดีตับ - ตัวอ่อนจะอาศยั ในทอ่ น้า� ดีจนเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยกลายเป็นหนอนพยาธิ - เมื่อคนหรอื สัตวร์ ังโรค(สุนขั แมวสัตวอ์ ่ืนทกี่ ินเนอ้ื )ทเี่ ป็นรังโรคของพยาธิใบไม้ตบั ขบั ถ่ายอุจจาระ ไม่เป็นท่ี ไข่ของพยาธิใบไม้ตับที่ปนอยู่ในอุจจาระจะปนเปื้อนลงในแหล่งน�้า และถูกกินโดยหอยไซ จากนัน้ ตวั อ่อนจะอาศยั หอยไซในการเจริญเติบโตเป็นตวั ออ่ นระยะเซอรค์ าเรีย (Cercaria) - ตัวอ่อนระยะเซอร์คารียจะไชออกจากหอยไซลงสู่แหล่งน้�า และไชเข้าไปอาศัยอยู่ในเน้ือปลา น้า� จืด จนเจรญิ เติบโตเปน็ ตัวออ่ นลักษณะซสี ต์ระยะเมตาเซอร์คาเรียหรือตัวออ่ นระยะติดต่อ - เมื่อมนุษย์หรือสัตว์รังโรค(สุนัข แมวสัตว์อื่นท่ีกินเน้ือ) บริโภคปลาที่มีพยาธิเข้าไป พยาธิก็จะ เจริญเตบิ โตและวางไขใ่ นท่อนา�้ ดีต่อไป กำรวนิ จิ ฉัยพยำธใิ บไมต้ บั ในเบ้ืองต้นแพทย์อาจวินิจฉัยอาการด้วยการซักประวัติผู้ป่วยเกี่ยวกับแหล่งอาศัย อาหารท่ีบริโภค และอาการต่างๆ ท่ีปรากฏข้ึน จากนั้นอาจส่องกล้องจุลทรรศน์ตรวจตัวอย่างอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ แต่หากตรวจไม่พบ แพทย์อาจต้องวินิจฉัยด้วยการหาสารก่อภูมิต้านทาน (antigen) ต่อพยาธิใบไม้ตับ จากอุจจาระหรอื เลอื ดต่อไป นอกจากนน้ั หากพบภาวะตบั โต แพทยอ์ าจสง่ ตรวจอลั ตราซาวด์ หรอื เอกซเรยค์ อมพวิ เตอรเ์ พอ่ื หา ภาวะแทรกซ้อนจากโรคพยาธใิ บไม้ตบั เพม่ิ เติม และ หรอื หากประชาชนอายุ ๔๐ ปีข้นึ ไปทีเ่ ปน็ กลุ่มเสยี่ ง คอื รับประทานอาหารประเภทปลาน�้าจดื เกล็ดขาววงศ์ปลาตะเพียนดิบ สุกๆดิบ ไม่ผา่ นความร้อน มีญาติ สายตรงป่วยเป็นมะเร็งท่อน�้าดี เคยรับประทานยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรอง โรคมะเร็งทอ่ น้�าดีดว้ ยเครอ่ื งอัลตราซาวดท์ กุ ปี กำรรกั ษำพยำธิใบไมต้ ับ แพทย์อาจต้องพิจารณาจากผลการวินิจฉัยไข่พยาธิ ระดับความรุนแรงของการติดเชื้อ และ ภาวะแทรกซอ้ นทเี่ กดิ ขึ้น มียาพราซคิ วอนเทล ใชใ้ นการรักษาพยาธิใบไมต้ ับ ภาวะแทรกซ้อนของพยาธใิ บไม้ตับ ผู้ป่วยพยำธิใบไม้ตบั อำจปรำกฏอำกำรแทรกซ้อนได้ ดังตอ่ ไปน้ี - ภาวะโลหติ หาง - ติดเชอื้ แบคทีเรีย - ท่อน�้าดีอกั เสบติดเชือ้ - ถงุ นา้� ดอี กั เสบ - ตับออ่ นอกั เสบ [ ]52 คูม่ อื ส�ำหรบั เจ้ำหนำ้ ที่ เพือ่ กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบ้ำน
- ตับแข็ง - มะเร็งทอ่ น�า้ ดี - ติดเชอื้ ในกระแสเลือด และการตดิ เชอื้ กระจายไปทวั่ ร่างกาย กำรป้องกันโรคพยำธิใบไม้ตับ (๕ ต้อง ๕ ไม่ สัตว์ปลอดภัย คนปลอดพยาธิ ห่างไกลพยาธิ ใบไม้ตบั ) ๕ ต้อง ไดแ้ ก่ ๑. ตอ้ งกนิ อาหารเมนูปลานา้� จดื เกลด็ ขาวตระกูลปลาตะเพียน จ�าพวก ปลาแมส่ ะแดง้ ปลาขาวนา ปลาขาวมน ปลาสรอ้ ย ปรงุ สกุ ดว้ ยความรอ้ น และปลารา้ ควรหมกั มากกวา่ ๖ เดอื น ปลาสม้ หมกั เปน็ เวลา ๓ วนั ปลาแช่แขง็ อณุ หภูมิ – ๒๐ องศาเซนเซียส มากกว่า ๓ วนั จะปลอดพยาธิใบไม้ตบั ๒. ตอ้ งทา� ความสะอาดเขยี ง ครก สากทกุ ครง้ั ดว้ ยนา้� รอ้ นหรอื นา�้ ยาฆา่ เชอ้ื เดทตอล เมอ่ื จะประกอบ อาหารประเภทปลาเพื่อฆ่าตัวออ่ นพยาธิ ๓. ตอ้ งตรวจอุจจาระคน้ หาโรคพยาธใิ บไม้ตบั ปลี ะคร้งั และรักษาให้หาย ๔. ตอ้ งตรวจหาพยาธิในสุนขั แมวเพอ่ื ปอ้ งกนั การแพร่โรคส่คู นและรักษาต่อเนอ่ื งปลี ะครงั้ ๕. ต้องปลูกฝงั จิตสา� นกึ และใหค้ วามรูเ้ พ่อื ช่วยปอ้ งกนั ตนเองและชุมชน ๕ ไม่ ๑. ไม่ถ่ายอุจจาระนอกส้วมหรือบนพ้ืนดินหรือแหล่งน�้าถ้าจ�าเป็นให้ขุดหลุมแล้วฝังกลบลึก ๑๐ เซนตเิ มตรเมือ่ เสร็จกิจ ๒. ไมท่ ้ิงอจุ จาระคน ขห้ี มา ขี้แมว ลงแหล่งน�้า ๓. ไม่ให้รถดูดสว้ ม น�าอุจจาระมาทิง้ ในท่ีสาธารณะ ไร่ นา สวนผกั ๔. ไม่ให้ปลาดิบเป็นอาหารหมา แมว ๕. ไม่กินอาหารท่ีทา� จากปลาน�้าจดื เกลด็ ขาว ท่ปี รุงดิบๆ สกุ ๆ เชน่ ส้มตา� ปลาร้าดิบ กอ้ ยปลา ลาบ ปลาดบิ ๒.๒.๔ โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคฉหี่ นู) สำเหตุของโรค : โรคเลปโตสไปโรสิส หรือ “โรคฉี่หนู” เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจาก การติดเชื้อ “เลปโตสไปรา (Leptospira)” ชนิดท่ีก่อให้เกิดโรค เป็นเช้ือที่ต้องการความช้ืน ออกซิเจน อยู่ในน�้าที่มีค่าเป็นกลาง (pH ๗.๐-๗.๔) และอุณหภูมิที่เหมาะสม ๒๘-๓๐ องศาเซลเซียส สัตว์เล้ียงลูก ด้วยนมทุกชนิดติดเชื้อได้ แต่อาจมีอาการป่วยหรือไม่ข้ึนอยู่กับชนิดและปริมาณเช้ือที่ได้รับ สัตว์ท่ีเป็น แหล่งรงั โรคมที ้ังสตั ว์ป่า เช่น กระรอก กวาง สนุ ขั จิง้ จอก เป็นตน้ และสัตวเ์ ล้ยี งตา่ งๆ เชน่ โค กระบอื สุกร สุนัข และ “หน”ู ซึง่ เปน็ สัตว์รงั โรคที่สา� คัญ [ ]คมู่ อื สำ� หรบั เจำ้ หน้ำที่ เพือ่ กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน 53
วงจรของโรค/กำรตดิ ต่อ เช้อื เลปโตสไปราสามารถตดิ ต่อมาสคู่ นไดโ้ ดย ๑. ทางตรง จากการสมั ผัสกับอวัยวะท่ีตดิ เช้ือของสัตว์ที่ป่วยหรอื เปน็ สัตวร์ ังโรค ๒. ทางอ้อม เมื่อคนไปสัมผัสกับน้�าหรือดินที่ปนเปื้อนเช้ือจากปัสสาวะของสัตว์ เช้ือจะไชเข้าทาง ผวิ หนงั ทมี่ ีรอยแผลหรอื เยอ่ื บุ เชน่ ตา จมูก ปาก นอกจากน้ียังติดต่อทางการกนิ อาหารหรือนา้� ทีป่ นเป้ือน เชื้อ อำกำรและกำรรักษำ อำกำร เม่ือเช้ือเข้าส่รู ่างกายจะมีระยะฟกั ตัวเฉลย่ี ๑๐ วัน (๕-๑๔ วนั ) หลงั จากติดเชือ้ ผ้ปู ว่ ยจะมี อาการแตกต่างกัน ขึ้นกับสายพันธุ์ ปริมาณเช้ือที่ได้รับ และความสามารถของร่างกายในการต่อต้าน เชื้อ ท้ังนี้ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่มีอาการทางคลินิก ส่วนผู้ป่วยท่ีมีอาการ ระยะแรกมักมีไข้เฉียบพลัน หนาวส่ัน ปวดเม่ือยกล้ามเน้ือ โดยเฉพาะท่ีกล้ามเนื้อหลัง โคนขา และน่อง ปวดศีรษะรุนแรง ตาแดง คล่ืนไส้ อาเจียน และปวดท้อง ในรายท่ีมีอาการรุนแรงอาจมีภาวะไตวาย การหายใจล้มเหลว หรือ เลือดออกผิดปกติตามอวัยวะต่างๆ เช่น อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นสีด�า ไอเป็นเลือดสด และ อาการดซี า่ น เปน็ ตน้ กำรรักษำ โรคนี้รักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะที่รวดเร็วและเหมาะสม การรักษาตามอาการเพ่ือแก้ไขความผิด ปกติและภาวะแทรกซ้อน ร่วมกับการรักษาประคับประคอง การให้ยาปฏิชีวนะโดยเร็วที่สุด จะช่วย ลดความรนุ แรงและปอ้ งกนั อาการแทรกซอ้ นของโรคได้ ผปู้ ว่ ยทม่ี อี าการออ่ นถงึ ปานกลาง อาจเลอื กใชย้ า ดังน้ี [ ]54 คู่มือส�ำหรบั เจ้ำหน้ำที่ เพอ่ื กำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจ�ำบำ้ น
Doxycycline กิน ๑๐๐ มิลลิกรัม วันละ ๒ ครั้ง นาน ๗ วัน (กรณีที่ไม่สามารถแยกได้ว่าผู้ป่วย ตดิ เชือ้ เลปโตสไปโรซสิ หรือสครับทัยฟัส ควรเลือกใช้ Doxycycline แทนการใช้ Penicillin) Amoxycillin กิน ๕๐๐ มิลลกิ รมั ทกุ ๖ ช่ัวโมง นาน ๕-๗ วัน ข้อพึงระวัง หากไปพบแพทย์ล่าช้า (กรณีรักษาล่าช้ากว่า ๓ วันหลังปรากฏอาการ มักพบภาวะ แทรกซอ้ นที่เป็นสาเหตขุ องการเสียชีวติ ) วธิ กี ารป้องกันโรค ภำวะปกติ ประชาชนยึดหลัก ๔ ลด ปลอดภัยจากโรคฉีห่ นู ๑. ลดหนู โดยการก�าจดั หนูและท�าความสะอาดบ้านเรือน ๒. ลดสมั ผสั หลกี เล่ยี งการลงน�้าที่เป็นจุดเสีย่ ง หากจ�าเปน็ ต้องลยุ นา้� ย่�าโคลนควรสวมรองเท้าบู๊ท ๓. ลดกำรเสียชวี ติ หากมีไข้ ปวดศรี ษะรนุ แรง ปวดกลา้ มเนื้อโดยเฉพาะทโ่ี คนขาหรอื น่อง ควรรบี ไปพบแพทย์ทันที ๔. ลดกำรระบำด เม่อื พบผปู้ ว่ ยรีบแจ้งเจ้าหน้าทีส่ าธารณสุขทันที เพอื่ ท�าการสอบสวนควบคมุ โรค ไม่ให้แพร่ระบาด หากผู้ป่วยไปพบแพทย์เร็ว ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา จะช่วยลดภาวะ แทรกซอ้ นและปอ้ งกันการเสียชีวติ ได้ ภำวะน�ำ้ ท่วม หลีกเลี่ยงการเดินลุยน�้า หากจ�าเป็นต้องเดินลุยน�้า ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกสะอาด ท่ีหาได้ในพ้ืนที่ ป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้�าโดยตรง หมั่นล้างมือด้วยน�้าและสบู่บ่อยๆ และอาบน้�า ช�าระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการท�างานหรือลุยน�้า หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมอื่ ยตามตัว ใหร้ บี ไปพบแพทย์โดยเรว็ ที่สดุ กำรป้องกนั กำรเสยี ชีวติ ผู้ป่วย ไปพบแพทย์เร็ว เมื่อพบอาการสงสัยโรคเลปโตสไปโรสิส (มีไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมือ่ ยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะท่นี อ่ งและโคนขา หลงั จากมีการลยุ นา�้ /แช่นา้� /ย�่าโคลน) แพทย์ วนิ ิจฉยั โรคได้ถูกตอ้ ง รวดเรว็ ใหก้ ารรักษาผูป้ ว่ ยอยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒.๒.๕ โรควัณโรค สำเหตุของโรค : วัณโรค (Tuberculosis) หรือทีบี (TB) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเช้ือแบคทีเรีย ช่ือ มัยโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คุโลซิส (Mycobacterium tuberculosis) วัณโรคเกิดได้ในทุกอวัยวะของ ร่างกาย ส่วนใหญ่มักเกิดที่ปอดซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ วัณโรคนอกปอดอาจพบได้ในอวัยวะอ่ืนๆ ได้แก่ เยื่อหมุ้ ปอด ตอ่ มน้�าเหลอื ง กระดกู สันหลัง ขอ้ ตอ่ ชอ่ งท้อง ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบสบื พนั ธุ์ ระบบ ประสาท เป็นต้น แตโ่ ดยสว่ นใหญ่มกั เป็นทปี่ อด กำรตดิ ตอ่ : วณั โรค ตดิ ตอ่ โดยการแพรก่ ระจายจากคนหนงึ่ ไปสอู่ กี คนหนง่ึ ทางระบบทางเดนิ หายใจ โดยผปู้ ว่ ยทมี่ เี ชอื้ ในเสมหะ พดู คยุ ไอ จาม ไมป่ ดิ ปาก เชอื้ วณั โรคจะลอยไปกบั ละอองเสมหะ ผทู้ สี่ ดู หายใจ เอาเชอื้ วณั โรคเขา้ สปู่ อดทา� ใหม้ โี อกาสตดิ เชอื้ และปว่ ยเปน็ วณั โรคได้ เชอ้ื วณั โรค จากเสมหะทป่ี ลวิ ในอากาศ [ ]คู่มอื ส�ำหรบั เจำ้ หน้ำที่ เพอ่ื กำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน 55
โดยไม่ถูกแสงแดด จะมีชีวิตอยู่ได้นาน ๘-๑๐ วัน แสงอาทิตย์ท�าลายเช้ือวัณโรคได้ภายใน ๕ นาที และ เชอ้ื วณั โรคถกู ทา� ลายดว้ ยหลายปจั จยั ไดแ้ ก่ สารเคมบี างชนดิ ความรอ้ น แสงแดด และแสงอลั ตราไวโอเลต โดยแสงแดดสามารถท�าลายเช้ือวัณโรคในเสมหะได้ใช้เวลา ๒๐–๓๐ ช่ัวโมง เชื้อวัณโรคในเสมหะแห้งที่ ไม่ถูกแสงแดดอาจมีชีวิตอยู่ได้นานถึง ๖ เดือน ความร้อนสามารถท�าลายเชื้อวัณโรคได้ ผู้ที่รับเช้ือแล้ว ไม่จ�าเป็นต้องป่วยเป็นวัณโรคทุกคน เพราะร่างกายมีกลไกหลายอย่างท่ีจะต่อสู้และป้องกันเช้ือวัณโรค จะมเี พยี งรอ้ ยละ ๑๐ ของผู้ตดิ เชือ้ วัณโรคเทา่ น้นั ที่จะปว่ ยเปน็ วัณโรค อำกำร : ผปู้ ว่ ยวณั โรคในกลมุ่ ประชาชนทวั่ ไปทมี่ อี าการสงสยั วณั โรค คอื ไอตดิ ตอ่ กนั เกนิ ๒ สปั ดาห์ หรอื ไอมเี ลอื ดปน และอาจมอี าการอน่ื รว่ มดว้ ย เชน่ มไี ขต้ า่� โดยเฉพาะตอนบา่ ยหรอื คา�่ เบอ่ื อาหาร นา้� หนกั ลดผิดปกติ เจ็บหน้าอก เหน่อื ยหอบ มีเหงอื่ ออกมากผิดปกตติ อนกลางคืน อำกำรแสดงของวณั โรคปอด : ผปู้ ว่ ยวณั โรคมอี าการหลายชนดิ แต่ อาการสา� คญั ของวณั โรคปอด คือ ไอติดต่อกันนานเกิน ๒ สัปดาห์ และอาการอื่นๆ ที่อาจจะพบได้ ได้แก่ ไอแห่งๆ หรือไอมีเสมหะ หรือไอมีเสมหะปนเลือด มีไข้ต�่าๆ ตอนบ่าย น้�าหนักลด เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ เหง่ือออกกลางคืน อ่อนเพลีย มักเปน็ ตอนเช้ามากกว่าตอนบา่ ย เบ่อื อาหาร กำรดูแลรักษำ : วัณโรครักษาหายได้ ต้องกินยาต่อเนื่องสม่�าเสมอให้ครบทุกเม็ด ทุกม้ือ ทุกวัน อย่างน้อย ๖ เดือน เพ่อื ให้เชอ่ื มั่นได้วา่ ผปู้ ่วยกนิ ยาถูกตอ้ ง ครบถ้วน ใหก้ า� ลงั ใจผ้ปู ว่ ยในการรักษาวัณโรค และตอ้ งมพี ี่เล้ียงกา� กบั การกินยา ค�ำแนะน�ำสำ� หรับผปู้ ว่ ยวัณโรค • กนิ ยาตามแพทยส์ ั่งอย่างต่อเนอ่ื ง อย่างน้อย ๖ เดอื นและพบแพทย์ตามนดั ทกุ ครัง้ จนกว่าแพทย์ สง่ั หยุดยา • เมื่อกินยาประมาณ ๒ สัปดาห์ อาการจะดีข้ึน ห้ามหยุดยา เพราะการรักษายังไม่ครบโรค ยังไมห่ ายและจะท�าใหเ้ ช้อื วณั โรคดือ้ ยารักษาหายยาก • ใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดปากและจมูก เวลาไอหรือจามเพื่อป้องกันไม่ให้เช้ือแพร่กระจาย ไปสู่ผู้อ่ืน • บว้ นเสมหะลงในภาชนะหรือกระปอ๋ งมฝี าปิดที่มีน�า้ สบูห่ รอื น�า้ ผสมผงชักฟอก แล้วเทลงส้วมและ ราดนา�้ ตามให้สะอาด • จดั สถานทพี่ กั อาศยั ใหอ้ ากาศถา่ ยเทสะดวก แสงแดดสอ่ งถงึ และนา� เครอ่ื งนอนตากแดดสมา่� เสมอ • แนะน�าการปฏิบัติตนในการดูแลสุขภาพ เช่น กินอาหารท่ีมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกา� ลังกายทา� จิตใจใหแ้ จ่มใส งดเหล้า/บหุ ร่/ี ส่งิ เสพตดิ เปน็ ต้น • ผู้ป่วยวัณโรคสามารถกนิ อาหารร่วมกับผู้อ่ืนได้ โดยใชช้ อ้ นกลาง [ ]56 คู่มือสำ� หรบั เจ้ำหนำ้ ที่ เพือ่ กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บำ้ น
วชิ าที่ ๓ วชิ าการส่งเสรมิ สุขภาพและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่ส�าคัญ อสม. หมอประจ�าบา้ นต้องศกึ ษา และฝึกฝนการปฏิบตั งิ านตามหน้าที่ ให้มีความรูด้ งั นี้ ๓.๑ การเฝ้าระวงั ปอ้ งกัน ปัญหาสุขภาพจติ เทคนิคกำรดแู ล ชว่ ยเหลือผู้ที่มปี ัญหำสขุ ภำพจิตในชมุ ชน ๔ เทคนคิ ส�ำคัญ ได้แก่ การชว่ ยเหลือผทู้ ี่มปี ัญหาสขุ ภาพจิตในชุมชน เปน็ การใช้เทคนคิ ๓ ส. (สอดส่องมองหา ใสใ่ จรับฟัง สง่ ต่อเชอื่ มโยง) เข้ามาเปน็ หลักในการด�าเนินงาน โดยเพิ่มเตมิ เรอ่ื งการติดตามต่อเนอื่ งในชมุ ชน ๑. สอดส่องมองหำ: คือการเยี่ยมบ้านและการมองหาผู้ที่มีความเส่ียงท่ีจะมีปัญหาสุขภาพจิต และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจติ ในชมุ ชนของตนเอง ๒. ใสใ่ จรบั ฟงั และกำรชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ : การใหก้ ารชว่ ยเหลอื ตามสภาพปญั หาและความจา� เปน็ ของผูท้ ี่มปี ญั หาสขุ ภาพจิต ๓. กำรส่งต่อเชื่อมโยง: ส่งต่อข้อมูลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพ้ืนท่ี เพือ่ ให้ผปู้ ว่ ยไดร้ บั การดแู ลที่ต่อเน่อื ง และไดร้ ับการดูแลทีส่ ูงขน้ึ ๔. กำรติดตำมตอ่ เนอ่ื ง: เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวช และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนได้รับการดูแลอย่างต่อเน่ือง ในชุมชน อสม. หมอประจำ� บ้ำนต้องศกึ ษำ และฝึกฝนกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมหนำ้ ที่ ใหม้ ีควำมรู้ ดงั น้ี [ ]ค่มู อื สำ� หรบั เจำ้ หน้ำท่ี เพ่อื กำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน 57
๓.๒ วธิ ีปฏิบัติตนสง่ เสริมสุขภำพ ปญั หำเบำหวำน โรคเบาหวาน เป็นความผิดปกติทางเมทาบอลิซึม ท�าให้ระดับน�้าตาลในเลือดสูง (ระดับน้�าตาล ท่ีมากกว่าหรือเท่ากับ ๑๒๖ มิลลิกรัม/เดซิลิตร) เป็นค่าของน้�าตาลในเลือดหลังจากการอดอาหาร อย่างน้อย ๘ ช่ัวโมง) อันเน่ืองมาจากความบกพร่องในการหลั่งอินซูลิน หรือการออกฤทธ์ิของอินซูลิน หรอื ทงั้ สองอยา่ งรว่ มกนั สง่ ผลใหก้ ระบวนการดดู ซมึ นา�้ ตาลในเลอื ด ทา� ใหร้ ะดบั นา้� ตาลในเลอื ดสงู เปน็ เวลา นาน จะสง่ ผลต่อเส้นเลอื ดท่นี า� อาหารไปเลย้ี งอวยั วะในรา่ งกายจนท�าให้อวยั วะตา่ งๆ เสือ่ ม ระดับน้ำ� ตำลในเลือด (ควำมรุนแรง) ระดับน�้ำตำลในเลอื ดขณะอดอำหำร (มก./ดล.) ค่าปกติ นอ้ ยกว่า ๑๐๐ ๑๐๐ – ๑๒๕ มคี วามเส่ียง ตงั้ แต่ ๑๒๖ ข้นึ ไป สงสยั รายใหม่ ปจั จัยเสี่ยงตอ่ กำรเกิดโรคเบำหวำน - อายทุ ี่เพ่ิมขน้ึ - มีประวัตคิ นในครอบครวั เปน็ โรคเบาหวาน (พ่อ แม่ หรอื พี่น้อง เป็นโรคเบาหวานชนดิ ที่ ๒) - ปจั จยั เส่ียงอ่นื ๆ ได้แก่ ภาวะอว้ น มไี ขมนั ในเลือดสูง การบรโิ ภคอาหาร (หวาน มัน และเค็มจดั ) - การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ (เคลื่อนไหว/ออกก�าลังกาย) การสูบบุหรี่ ดื่มเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์ อำกำรของโรคเบำหวำน ปัสสาวะบ่อยและมาก คอแห้ง กระหายน้�า หิวบ่อย กินจุ น้�าหนักลด เป็นแผลง่ายและหายยาก คันตามผิวหนัง ตาพร่ามัว ชาตามปลายมือปลายเท้า ความรู้สึกทางเพศลดลง (ควรพบแพทย์เพื่อรับ การตรวจวนิ จิ ฉัยต่อไป) การป้องกนั ควบคมุ โรคเบาหวาน ปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรม ๓อ. ๒ส. - ควรรบั ประทานอาหารใหค้ รบ ๕ หมู่ เน้น ผักและผลไมท้ ี่ไม่มนี ้�าตาลสงู เปน็ หลัก - ควบคุมน้�าหนักตัวให้เหมาะสม โดยค่าดัชนีมวลกายให้อยู่ระหว่าง ๑๘.๕-๒๒.๙ กิโลกรัม/ ตารางเมตร - รอบเอวเพศชายไม่เกิน ๙๐ เซนตเิ มตร และเพศหญงิ ไม่เกิน ๘๐ เซนติเมตร - เคล่ือนไหว/ออกก�าลังกายอย่างน้อยที่สุด ๓๐ นาที/วัน (๕ ครั้ง/สัปดาห์) หรือสะสมได้ ๑๕๐ นาท/ี สัปดาห์ - ไม่ด่มื เครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์ ไม่สบู บหุ ร่แี ละหลีกเล่ียงการสูดดมควันบุหร่ี - การท�าจิตใจให้สงบ และผอ่ นคลายความเครียด - หมน่ั ตรวจสุขภาพประจา� ปี เช่น ระดับนา้� ตาลในเลือดและปสั สาวะ [ ]58 คมู่ อื สำ� หรบั เจ้ำหนำ้ ท่ี เพ่ือกำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน
๓.๓ วธิ ีปฏิบตั ติ นสง่ เสรมิ สขุ ภำพ ปอ้ งกันโรควำมดันโลหติ สงู ความดันโลหิตสูง คือ ภาวะท่ีร่างกายมีค่าความดันโลหิตตัวบนต้ังแต่ ๑๔๐ มิลลิเมตรปรอท และ/หรอื มคี า่ ความดนั โลหติ ตวั ลา่ งตง้ั แต่ ๙๐ มลิ ลเิ มตรปรอท หรอื ๑๔๐/๙๐ มลิ ลเิ มตรปรอท และไดร้ บั การวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยภาวะความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงส�าคัญ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์ อัมพาต) และโรคไตเรื้อรัง การป้องกนั ทดี่ ที ่ีสดุ คือ การเฝา้ ระวงั ความดนั โลหติ ของตนเอง ด้วยการวดั ความดนั โลหิต อำกำร ระยะแรกส่วนมากจะไม่มีอาการท่ีชัดเจน แต่บางรายอาจมีอาการเตือน เช่น ปวดศีรษะท้ายทอย มึนงง วิงเวียน หากเป็นมานานหรือความดันโลหิตสูงมากๆ อาจมีอาการเลือดก�าเดาไหล ตามัว ใจสั่น มอื เท้าชา กำรปอ้ งกนั และปฏิบตั ิตน ผทู้ ีม่ อี ายุ ๑๕ ปีขนึ้ ไป ทราบความดันโลหติ ของตนเอง ตรวจวดั ความดนั โลหติ ประจา� ปี (สามารถ วดั ดว้ ยตนเองที่บา้ น) หากผดิ ปกติ ให้ปรบั เปลีย่ นพฤตกิ รรมเสี่ยง ๓อ. ๒ส. และปรึกษาแพทย์ กำรปรบั เปลีย่ นพฤตกิ รรมเพอื่ ลดโอกำสเส่ียงต่อโรคควำมดันโลหติ สงู โดยยดึ หลกั ๓ อ. ๒ ส. ๓ อ. (อาหาร ออกกา� ลงั กาย อารมณ)์ และ ๒ ส. (งดสูบบุหรี่และลดการดื่มสุรา) การรับประทานเกลือโซเดียม : คนธรรมดารับประทานเกลือได้ไม่เกิน ๑ ช้อนชา หรือ ๒,๐๐๐ มิลลิกรัม/วัน แต่ผ้สู ูงอายุ และผูป้ ว่ ยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสงู ควรลดเกลอื ให้เหลอื ๓/๔ ช้อนชา หรอื ๑,๕๐๐ มลิ ลกิ รมั /วัน เกลือ ๑ ช้อนชา = โซเดยี ม ๒,๐๐๐ มิลลกิ รัม ผงชูรส ๑ ช้อนชา = โซเดยี ม ๖๑๐ มลิ ลกิ รมั น้�าปลา ๑ ช้อนชา = โซเดียม ๕๐๐ มิลลกิ รมั ปลาร้า ๑ ชอ้ นชา = โซเดยี ม ๕๐๐ มลิ ลกิ รมั กะปิ ๑ ช้อนชา = โซเดยี ม ๕๐๐ มิลลิกรัม ซุปกอ้ น ๑ กอ้ น = โซเดียม ๑,๘๐๐ มิลลิกรัม เพ่มิ ผักสดและผลไมท้ ี่รสไมห่ วานจัด (น้�าตาลนอ้ ยกวา่ ๖ ช้อนชา/วัน) ผักสดหลากหลายสี ๕ ทัพพี/วัน หรอื ผักสกุ ๙ ช้อนโต๊ะ/วนั ผลไมท้ ร่ี สไม่หวานจดั ประมาณ ๒-๔ สว่ น/วัน เช่น สม้ ฝรัง่ แอปเปลิ้ วนั ละ ๒-๔ ผล เพม่ิ อาหารกากใย เชน่ ถ่ัว ขา้ วซอ้ มมือ ธัญพชื ๓.๔ การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ การบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้ม มักเกิดภายนอกบ้าน ส่วนใหญ่เกิดจาก การลื่น สะดุด และ ก้าวพลาดบนพื้นระดับเดียวกัน ร้อยละ ๖๖ ตกหรือล้มจากบันไดหรือขั้นบันได ร้อยละ ๕.๖ ในปัจจุบัน [ ]คูม่ อื สำ� หรบั เจำ้ หน้ำท่ี เพ่ือกำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น 59
พบว่าผู้สูงอายุยังคงใช้ชีวิตประจ�าวันในส่ิงแวดล้อมดังกล่าว ดังนั้น ควรมีการดัดแปลงบ้านและสถานที่ สาธารณะให้เหมาะสมกบั ผูส้ งู วัย ข้อแนะน�ำในกำรป้องกนั กำรพลัดตกหกล้มในผู้สงู อำยุ - ออกก�าลังกายอย่างสม่�าเสมอ ไม่น้อยกว่า ๑๕๐ นาที/สัปดาห์ เพ่ือสร้างความแข็งแรงของ กลา้ มเนือ้ และการทรงตัว เชน่ การเดนิ ไทเกก๊ รา� ไมพ้ ลอง ออกก�าลังกายในน�า้ เปน็ ตน้ - ประเมนิ ความเสย่ี งตอ่ การพลดั ตกหกลม้ ในผสู้ งู อายุ ปลี ะ ๑ ครงั้ โดยสามารถประเมนิ ความเสย่ี งฯ ออนไลน์ ได้ที่ www.thaincd.com และ ผ่านแอพลิเคชัน ท้ังระบบ Android และ IOS “การป้องกัน การพลดั ตกหกล้มในผ้สู งู อายุ” ซง่ึ ถา้ พบวา่ มคี วามเส่ยี งสงู แนะนา� ให้ขอค�าปรกึ ษาจากเจ้าหนา้ ที่ - หลกี เล่ยี งการใช้ยาที่ไมจ่ า� เปน็ และควรรู้ผลขา้ งเคียงของยาทใี่ ช้ - ใชร้ องเทา้ หมุ้ สน้ มดี อกยาง ไมล่ น่ื กรณที ไ่ี ดร้ บั คา� แนะนา� ใหใ้ ชอ้ ปุ กรณช์ ว่ ยเดนิ ควรใชเ้ ปน็ ประจา� - ทกุ คร้งั ทห่ี กลม้ ต้องแจง้ ญาติหรือผดู้ แู ลให้ทราบ กำรปรบั บ้ำนให้เหมำะสมตอ่ กำรดำ� เนินชีวติ ประจำ� วนั - ควรอาศยั อย่บู า้ นชั้นเดียว กรณบี ้าน ๒ ชนั้ ควรจัดใหผ้ ้สู ูงอายพุ ักอยชู่ ั้นลา่ ง - มแี สงสวา่ งเพยี งพอทัง้ ในบ้านและบรเิ วณทางเดิน - พืน้ และทางเดินเรียบเสมอกนั ไมล่ นื่ ไม่มสี ง่ิ กีดขวาง - ห้องนา�้ มรี าวจับ พ้ืนไมล่ ืน่ และใช้โถส้วมแบบชกั โครกหรอื นงั่ ราบ ๓.๕ กำรจดั สภำพแวดล้อมทเ่ี หมำะสมสำ� หรบั ผสู้ ูงอำยุและผู้ปว่ ย ติดบำ้ น ตดิ เตียง การจัดสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมต่อผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ติดบ้าน ติดเตียง ห้องนอน หรือบริเวณ ท่นี อนของผูส้ ูงอายุ (กลุ่มตดิ เตียง) ๑. จัดพ้ืนทหี่ อ้ งนอน หรอื บริเวณท่นี อนของผสู้ ูงอายุ ให้โปรง่ ใส ไม่อับทบึ ๒. ดูแลความสะอาดของพืน้ ผนัง เพดาน เป็นประจา� ทกุ วนั เพ่อื ไม่ใหม้ ีสิง่ สกปรก หรือฝุ่นละออง สะสม ๓. มีหน้าต่าง หรือประตู ส�าหรับการระบายอากาศ โดยต้องเปิดไว้ให้ลม หรือแสงแดดส่องถึง เพือ่ ป้องกนั ความอบั ชนื้ และอบั ทบึ ของหอ้ ง ๔. ควรติดต้ังมุ้งลวดที่บริเวณหน้าต่างหรือประตูหรือกางมุ้งให้ผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันยุง หรือ แมลงต่างๆ ทา� ใหเ้ กดิ โรคติดตอ่ จากยงุ หรือเกิดปัญหาผดผื่นท่ีผวิ หนังได้ ๕. บรเิ วณจดั วางเตยี งนอนสา� หรบั ผู้สงู อายุ ต้องจดั พื้นทีใ่ ห้กวา้ ง สา� หรบั การเคลอ่ื นย้ายเตียงกรณี เกิดเหตุ ฉุกเฉินต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาล และส�าหรับญาติ หรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ สามารถเข้าไปดูแล ท�าความสะอาดรา่ งกาย หรอื ช่วยเรอื่ งการกนิ อาหารได้โดยงา่ ย ๖. เตียงนอนต้องมีความกว้างเพียงพอ ไม่สูงเกินไป และต้องจัดให้มีไม้กั้น หรือเคร่ืองก้ันบริเวณ ขอบเตยี งตลอดเวลา เพือ่ ป้องกันผสู้ ูงอายตุ กจากเตียงได้ [ ]60 คมู่ ือส�ำหรบั เจ้ำหน้ำท่ี เพื่อกำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน
๗. ท่ีนอนส�าหรับผู้สูงอายุ ต้องมีลักษณะไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป ควรเป็นท่ีนอนที่สามารถรองรับ น้�าหนักได้ดี ไม่ยุบตามตัว หรือก่อให้เกิดแผลกดทับ และต้องหม่ันท�าความสะอาดท่ีนอน ผ้าห่ม หมอน ของผู้สูงอายุเปน็ ประจา� ๘. ต้องดูแลเร่ืองอุณหภูมิในห้องนอน หรือบริเวณที่นอนของผู้สูงอายุให้เหมาะสม ไม่ร้อนหรือ หนาจนเกินไปกรณีที่ห้องเป็นเคร่ืองปรับอากาศ ต้องปรับอุณหภูมิประมาณ ๒๕ องศาเซลเซียส หรือ ตามที่ผู้สงู อายุร้สู ึกสบายตวั ที่สุด ๙. จัดหาผ้าห่ม หรือผ้าคลุมตัว ส�าหรับผู้สูงอายุ เพ่ือช่วยให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ และยังเป็น การป้องกันแมลงตา่ งๆ มารบกวนการนอนหลับของผ้สู ูงอายุได้ ๑๐. มแี สงสวา่ งภายในห้องนอนหรือบริเวณที่นอน ในระดบั ท่ีเพียงพอต่อการดูแลผสู้ งู อายุ ๓.๖ วธิ ปี ฏิบัตติ นสง่ เสรมิ สุขภำพ ดแู ลสขุ ภำพชอ่ งปำก - การดูแลช่องปากและฟันให้สะอาด อย่างเป็นประจ�า จะท�าให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายและสดช่ืน ปากสะอาด ลมหายใจไมม่ กี ล่ินเหม็น ป้องกันการตดิ เชือ้ เหงอื กอักเสบ และโรคฟนั ผุ ลดการเกดิ อาการ ปอดติดเช้ือจากการส�าลัก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ต้องอาศัยผู้ดูแล ส่งเสริมให้เกิดการอยากอาหาร และ กินอาหารไดส้ ะดวกขนึ้ วธิ กี ำรท�ำควำมสะอำด หลักกำรส�ำคัญ : ท�าความสะอาดหลังม้ืออาหาร และก่อนนอน, ส่งเสริมให้มีการใช้ยาสีฟันผสม ฟลูออไรด์อย่างสม่�าเสมอ, ควรงดทานอาหาร ๒ ชั่วโมง หลังจากท�าความสะอาดช่องปากแล้ว หาก ผู้สูงอายุ ท�าเองได้ ส่งเสริมให้ท�าเองโดยอาจมีการปรับการใช้แปรงสีฟัน หรือ หาอุปกรณ์เสริมมาช่วยให้ ท�าความสะอาดได้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถท�าได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุภาวะพ่ึงพิงหรือติดเตียง ผู้ดูแล ต้องเปน็ ผทู้ า� ใหเ้ อง มวี ิธกี ำรและขั้นตอนในกำรท�ำควำมสะอำดดังน้ี - เตรียมผู้สูงอายุ และอุปกรณ์ในการท�าความสะอาดให้พร้อม หากเป็นผู้สูงอายุที่นอนติดเตียง ต้องปรับท่าทางให้ศีรษะผู้สูงอายุเอียงประมาณ ๓๐ - ๔๕ องศา (อาจใช้หมอนหรือผ้าห่มหนุนหลัง) จัดท่าทางให้มัน่ คงกอ่ นท�าความสะอาดช่องปาก - การเชด็ หรอื แปรง เพ่อื ก�าจัดเศษอาหาร หรอื คราบจุลินทรีย์ทตี่ กคา้ ง - เอียงศรี ษะผูส้ งู อายุ ท�าความสะอาดที่ละดา้ น - ใชผ้ ้าก๊อซเช็ดท�าความสะอาด กา� จดั คราบอาหารทีต่ กค้างออกมากอ่ น - ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แปรงขยับเบาๆตามซ่ีฟัน (อาจใช้แปรงฟันขนาดเล็ก) จากด้านในออก มาด้านนอก ทา� ซ�้าจนทวั่ ท้ังปาก - หากผู้สงู อายุมปี ัญหาการบว้ นปาก ให้ใชผ้ ้าเช็ดแทน ทา� ซ้า� จนทัว่ ทง้ั ปาก - แปรงล้ินโดยลากจากด้านในออกมาปลายลิ้น (ให้ระวังการเอาแปรงเข้าลึกไป จะกระตุ้น การอาเจียนได)้ [ ]คู่มือสำ� หรับเจำ้ หน้ำที่ เพื่อกำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น 61
- ส่งเสริมให้มีการใช้อุปกรณ์เสริมในการท�าความสะอาดในบริเวณที่ท�าความสะอาดได้ยาก ได้แก่ แปรงซอกฟนั และไหมขดั ฟัน - หลงั จากเชด็ และแปรงเสรจ็ อาจมกี ารใชน้ า้� ยาบว้ นปาก เปน็ การใชเ้ สรมิ เพอื่ ชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ในการทา� ความสะอาดช่องปาก โดยใชส้ ำ� ลกี ้อนเล็ก หรือ cotton bud เช็ดตำมขอบเหงอื ก - ขั้นสุดท้ายใช้สารช่วยหล่อลื่นเพื่อสร้างความชุ่มช้ืนบริเวณริมฝีปาก โดยใช้ขี้ผึ้ง หรือวำสลีน สตู รน้ำ� ทาตามรมิ ฝีปาก ทาได้บ่อยตามความเหมาะสม - หลังจากท�าความสะอาดเสร็จ ควรตรวจดูอีกครั้งว่ามีเศษอาหารติดตามคอฟัน หรือซอกฟัน อยูไ่ หม และให้สอบถามผสู้ งู อายุ โดยให้ประเมินไดง้ ่ายๆ จะรู้สึกลืน่ ๆตำมตัวฟัน และ สดชน่ื ข้นึ ๓.๗ โภชนำกำรหญิงต้งั ครรภ์ เดก็ อำยุ ๐-๕ ปี วยั ทำ� งำน และผู้สงู อำยุ โภชนาการท่ดี ีต้งั แต่เริม่ ปฏิสนธิจนถึงอายุ ๕ ปี เป็นช่วงสา� คัญของการพัฒนาสมองและมกี ารเจรญิ เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วง ๑,๐๐๐ วันแรกของชีวิตหรือต้ังแต่ปฏิสนธิในครรภ์มารดาจนถึง ๒ ปี จะช่วยสร้าง เซลล์สมอง ระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ระบบกระดูก ระบบภูมิต้านทานโรค อวัยวะภายในของรา่ งกายใหส้ มบูรณ์ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต องค์ประกอบของร่างกาย ขอ้ แนะน�ำกำรจดั อำหำรทำรก ทารกแรกเกดิ -อายตุ �า่ กว่า ๖ เดือน กินนมแมอ่ ยา่ งเดยี ว ไมใ่ ห้น้า� และอาหารอ่นื ใด เพราะกระเพาะ อาหารของเดก็ เลก็ มากและระบบการยอ่ ยอาหารและการดดู ซมึ สารอาหารยงั ไมพ่ รอ้ ม ทารกอายุ ๖ เดือน เร่ิมให้อาหารทีละอย่าง ครั้งละ ๑-๒ ช้อนชา และเว้นระยะ ๒-๓ วัน กอ่ นเร่มิ ให้อาหารชนิดใหม่ เพอ่ื ดูการยอมรับอาหารและอาการแพอ้ าหาร ความหนืดของอาหารเหมาะสม หากเหลวไปเด็กจะได้รับอาหารไม่เพียงพอ หากข้นไป เด็กจะ กลนื ลา� บาก ความหยาบของอาหาร เริม่ จากอาหารบดละเอียด ค่อย ๆ เพิ่มความหยาบมากข้ึนตามอายุ ท่เี พิม่ ขนึ้ เพอื่ ฝกึ การเค้ยี วและกลืนอาหาร เพิม่ ปรมิ าณอาหารให้ได้ตามปรมิ าณทีแ่ นะนา� โดยจา� นวนมอ้ื อาหารทอ่ี ายุ ๖-๗ เดอื น อาจแบง่ กิน ๒-๓ มอื้ เพอ่ื ใหไ้ ดป้ รมิ าณรวมตามทแี่ นะนา� จดั อาหารแตล่ ะกลมุ่ ใหม้ คี วามหลากหลายเพอื่ ใหไ้ ดส้ ารอาหาร เพยี งพอและสรา้ งความคนุ้ เคย ในแตล่ ะมอื้ ควรมกี ลมุ่ เนอ้ื สตั ว์ และผกั ทอี่ อ่ นนมุ่ กลนิ่ ไมแ่ รง ควรใหไ้ ดต้ บั อย่างนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ ๓ วนั ๆ ละ ๑ ม้ือ เมอื่ เดก็ กนิ อาหารวันละ ๓ มือ้ ควรให้กินไขไ่ มเ่ กนิ วนั ละ ๑ ม้อื สว่ นอีก ๒ ม้อื เปน็ เนอ้ื สตั วช์ นิดอ่ืน ๆควรใหเ้ ด็กเรียนรรู้ สอาหารตามธรรมชาติ ไม่ควรปรงุ แตง่ รสอาหาร เน้นอาหารปรุงสุกใหม่ ความสะอาดและปลอดภัยของวัตถุดิบและภาชนะที่ใช้ปรุงและใส่อาหาร ติดตาม การเจรญิ เติบโตทง้ั สว่ นสูงและน้า� หนัก ทกุ ๓ เดือน ข้อแนะนำ� กำรจัดอำหำรหญิงตั้งครรภ์ เดก็ อำยุ ๑-๕ ปี และผ้สู ูงอำยุ ๑. กินอำหำรให้ครบ ๕ กลุ่มทุกวัน ได้แก่ กลุ่มข้ำว-แป้ง กลุ่มผัก กลุ่มผลไม้ กลุ่มเน้ือสัตว์ กลมุ่ นมและผลิตภัณฑน์ ม แตล่ ะกล่มุ ให้หลากหลาย ในสัดสว่ นและปริมาณทีเ่ หมาะสม [ ]62 คู่มอื สำ� หรับเจ้ำหนำ้ ที่ เพ่ือกำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน
๒. กินขำ้ วเปน็ หลัก เนน้ ข้ำวกล้อง ขำ้ วขดั สนี อ้ ย สลบั อาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ข้าวกลอ้ ง ชว่ ยให้อม่ิ เรว็ อดุ มไปดว้ ยวติ ามนิ บแี ละใยอาหาร ๓. กนิ ปลำ ไข่ เนอ้ื สตั วไ์ มต่ ดิ มนั ถว่ั เมลด็ แหง้ และผลติ ภณั ฑ์ เชน่ เตา้ หู้ เปน็ ตน้ เปน็ ประจำ� จา� เปน็ ตอ่ การสร้างเน้ือเยือ่ ตา่ งๆ รวมท้งั การเจริญเตบิ โตของเซลล์สมองของเดก็ ๓.๑ กนิ ปลำ สปั ดำห์ละ ๓-๕ ครงั้ เนอื่ งจากปลาเป็นแหล่งโปรตนี ทีด่ ี ยอ่ ยง่าย มีกรดไขมัน จ�าเป็น และปริมาณไขมันน้อย ๓.๒ กินไข่ สัปดำห์ละ ๓-๗ วัน ๆ ละ ๑ ฟอง เพ่อื ใหไ้ ด้โปรตนี คณุ ภาพดี และยังให้วติ ามิน และแร่ธาตุท่ีสา� คัญหลายชนดิ ๓.๓ กินตบั เลอื ด สัปดำห์ละ ๒-๓ ครง้ั เพื่อให้ไดธ้ าตุเหล็ก ซ่งึ ชว่ ยในการสร้างเมด็ เลอื ด แดง บา� รงุ เลอื ด และควรมแี หลง่ อาหารวติ ามนิ ซสี งู รว่ มดว้ ย เชน่ ฝรงั่ สม้ มะขามปอ้ ม มะปรางสกุ มะละกอ สุก เปน็ ตน้ เพ่ือช่วยในการดดู ซึมธาตเุ หล็ก ๓.๔ กนิ เนอื้ สตั วช์ นดิ อน่ื เชน่ หมู ไก่ กงุ้ ปลาหมกึ เปน็ ตน้ หรอื ถวั่ เมลด็ แหง้ และผลติ ภณั ฑ์ เช่น เตา้ หู้ สลับผลดั เปล่ยี นหมุนเวียนในแตล่ ะวนั ๔. กนิ ผกั ใหม้ ำก กินผลไม้เปน็ ประจำ� และกนิ ใหห้ ลากหลายสี เชน่ สีเหลอื ง-สม้ สีแดง สเี ขยี วเข้ม สมี ว่ ง สขี าว เป็นตน้ เพื่อใหไ้ ดว้ ิตามินและแร่ธาตคุ รบถ้วนเพียงพอ หลีกเล่ียงผลไมร้ สหวานจดั ๕. ดื่มนมรสจืด และกินอำหำรที่เป็นแหล่งแคลเซียมอ่ืนๆ นมเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี อุดมด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ป้องกันภาวะกระดูกพรุน ส�าหรับผู้สูง อายแุ นะนา� ใหด้ ่ืมนมสตู รพร่องมนั เนย ไมค่ วรดืม่ หลังอาหารทันที เพราะจะขัดขวางการดูดซึมธาตเุ หลก็ จึงควรดื่มในมื้ออาหารว่าง และกินอาหารแหล่งแคลเซียม เช่น ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้แข็ง เต้าหู้อ่อน (ปลาเล็กปลานอ้ ย ๒ ช้อนกินข้าวหรือเตา้ หูแ้ ขง็ ๑ กอ้ น มีแคลเซยี มเทา่ กับนมประมาณ ๑ แก้ว) ๖. หลีกเลี่ยงอำหำรไขมนั สงู หวำนจัด เคม็ จดั กินน้�าตาลมากๆ ท�าให้น�้าตาลในเลือดเพ่ิมสูงข้ึน พลังงานส่วนที่เหลือจะสะสมเป็นไขมันท�า ใหอ้ ว้ น และเสีย่ งตอ่ โรคเบาหวาน เลี่ยงเครือ่ งด่มื รสหวาน ขนมหวาน ๗. กินอำหำรที่สะอำด ปลอดภัย และปรุงสุกใหม่ๆ ไม่กินอาหารสุกๆ ดิบๆ กินร้อน ช้อนกลาง ลา้ งมือ และค�านงึ ถึงคณุ คา่ ทางอาหาร เลือกกินผัก ผลไม้ ตามฤดกู าล และลา้ งให้สะอาดกอ่ นกิน ๘. ดื่มนำ้� สะอำดให้เพยี งพอ หญงิ ตงั้ ครรภแ์ ละผสู้ ูงอายุ ดม่ื น้�าวนั ละ ๘-๑๐ แก้ว เด็กอายุ ๑-๕ ปี มีความตอ้ งการวันละ ๕-๖ แก้ว (๑ แก้ว ขนาด ๒๐๐ มลิ ลลิ ติ ร) ๙. งดสูบบุหรี่และเล่ียงเคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ หากหญิงต้ังครรภ์สูบบุหร่ีหรือดื่มเครื่องด่ืมท่ีมี แอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็อาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาสมองของลูกในครรภ์ ท�าให้เด็กท่ีเกิดมา ปญั ญาอ่อน [ ]คมู่ ือส�ำหรับเจ้ำหนำ้ ท่ี เพ่อื กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบ้ำน 63
๓.๘ กำรป้องกนั กำรบำดเจบ็ จำกกำรจรำจรในชุมชน และกำรชว่ ยเหลอื เบ้อื งตน้ ปญั หาอบุ ตั เิ หตทุ างถนนของประเทศไทยยงั คงเปน็ ปญั หาสา� คญั ทสี่ รา้ งความสญู เสยี และลดคณุ ภาพ ชีวิตของประชาชนไทยลงเปน็ อย่างมาก เมื่อพิจารณาการสูญเสียรายกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนอายุน้อยกว่า ๒๐ ปี เป็นกลุ่ม ทตี่ ายจากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนสงู สดุ มจี า� นวน ๑๗,๖๓๔ คน เฉลยี่ ปลี ะ ๓,๕๒๗ คน หรอื คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๖.๗ และในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ พบว่า มีเด็กและเยาวชนอายุน้อยกว่า ๒๐ ปี ที่ตายจากการใช้รถจักรยานยนต์ ๒,๕๘๔ คน หรือคิดเป็น รอ้ ยละ ๖๙.๔ ของการตายจากอุบัตเิ หตทุ งั้ หมด แนวทางการปอ้ งกันการบาดเจบ็ จากการจราจรในชมุ ชน ๑. การจัดการดา้ นพฤติกรรมส่วนบคุ คล เช่น ๑. ดม่ื ไมข่ ับ ๒. การใช้หมวกนิรภยั ๓. ไม่ขับรถเร็ว ๔. คาดเข็มขดั นิรภัย ๒. การจดั การด้านยานพาหนะ เตรียมรถใหพ้ รอ้ มใข้งาน เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ระบบเบรค ฯลฯ ๓. การจัดการด้านสิง่ แวดล้อม ปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั ปรบั ปรงุ แกไ้ ขจดุ เสยี่ ง เชน่ รว่ มกนั สา� รวจและกา� หนดจดุ เสยี่ ง ในชมุ ชน จัดทา� ปา้ ยเตอื น จดั ทา� ป้ายจา� กัดความเรว็ ฯลฯ [ ]64 คูม่ ือสำ� หรบั เจำ้ หนำ้ ท่ี เพ่อื กำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน
กำรปฐมพยำบำลและกำรช่วยเหลอื เบอ้ื งต้น [ ]คมู่ อื ส�ำหรบั เจ้ำหนำ้ ที่ เพื่อกำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น 65
๓.๙ เรือ่ งกำรพลัดตกหกลม้ ในผู้สูงอำยุ สถำนกำรณ์กำรพลดั ตกหกลม้ ในผสู้ งู อำยุ ประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทยเพ่ิมขึน้ อย่างรวดเรว็ และตอ่ เนื่อง ทา� ให้อกี ๒ ปี จะเข้าสูส่ งั คม ผสู้ งู อายโุ ดยสมบรู ณ์ หรอื มปี ระชากรผสู้ งู อายมุ ากถงึ รอ้ ยละ ๒๐ และยงั พบปญั หาสขุ ภาพจากการบาดเจบ็ ทีพ่ บบอ่ ย คอื การพลดั ตกหกลม้ จากการสา� รวจพบว่ามี ๑ ใน ๓ ของผูส้ งู อายุ ๖๐ ปขี นึ้ ไป หกลม้ ทกุ ปี โดยผู้สูงอายุเพศหญิงพลัดตกหกล้มสูงกว่าเพศชาย ๑.๖ เท่า และใช้บริการรถพยาบาลฉุกเฉิน ๑๖๖๙ ด้วยสาเหตุการพลัดตกหกล้มวันละ ๑๔๐ คร้ัง ท้ังยังเป็นสาเหตุของผู้ป่วยในอันดับ ๑ และมีผู้สูงอายุ เสียชีวิตจากการหกล้มเฉล่ียวันละ ๒ คน ผลจากการหกล้มท�าให้ได้รับบาดเจ็บต้ังแต่เล็กน้อยจนรุนแรง จนสะโพกหกั กวา่ ๓,๐๐๐ คนตอ่ ปี ทา� ใหค้ ณุ ภาพชวี ติ ลดลง จากการทตี่ อ้ งพง่ึ พาผอู้ น่ื ในการดแู ล ชว่ ยเหลอื ในการปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจา� วัน การบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้ม มักเกิดภายนอกบ้าน ส่วนใหญ่เกิดจาก การล่ืน สะดุด และ ก้าวพลาดบนพ้ืนระดับเดียวกัน ร้อยละ ๖๖ ตกหรือล้มจากบันไดหรือข้ันบันได ร้อยละ ๕.๖ ในปัจจุบัน พบว่าผู้สูงอายุยังคงใช้ชีวิตประจ�าวันในส่ิงแวดล้อมดังกล่าว ดังน้ัน ควรมีการดัดแปลงบ้านและสถานท่ี สาธารณะใหเ้ หมาะสมกบั ผู้สงู วัย สำเหตุและปจั จัยทีเ่ ก่ียวข้อง ปจั จัยเสยี่ งด้านร่างกายและความสามารถทีล่ ดลง เชน่ การมองเหน็ การเดนิ การทรงตัว การรบั รู้ และการเจ็บปว่ ยด้วยโรคเรื้อรงั ตา่ ง ๆ เชน่ ไขข้ออักเสบ กระดกู พรุน ภาวะซึมเศร้า สมองเสื่อม เบาหวาน หลอดเลือดสมอง และพารก์ ินสนั เปน็ ตน้ ปจั จัยเส่ยี งด้านพฤตกิ รรม เช่น การใช้ยาท่เี ส่ยี งต่อการพลดั ตกหกลม้ (ไดร้ ับยากลมุ่ ต่าง ๆ ต่อไปน้ี ตั้งแต่ ๑ ชนิดข้ึนไป ได้แก่ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาลดความดันโลหิต และยาขับปัสสาวะ หรือได้รับยา ๔ ชนิดข้ึนไป โดยไม่รวมวิตามิน) การดื่มเคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณท่ีเกินพอดี ขาดการออกก�าลังกาย การสวมใส่รองเท้าที่พ้ืนล่ืน ไม่มีดอกยาง และสวมเส้ือผ้าท่ีไม่พอดี ยาวมากไป เปน็ ต้น ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น พื้นเปียก ล่ืน ต่างระดับ ไม่เรียบ แสงสว่างไม่เพียงพอ จัดวางของ ไม่เปน็ ระเบียบ มสี ่ิงกดี ขวางทางเดิน ไมม่ รี าวจับบรเิ วณบา้ น บนั ไดและหอ้ งน้า� เป็นต้น ปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น รายได้และระดับการศึกษา การมีส่วนร่วมและขาด การสนับสนนุ จากชุมชน และการเข้าถึงบริการสุขภาพ ข้อแนะนำ� ในกำรป้องกันกำรพลัดตกหกลม้ ในผ้สู งู อำยุ - ออกก�าลังกายอย่างสม�่าเสมอ ไม่น้อยกว่า ๑๕๐ นาที/สัปดาห์ เพื่อสร้างความแข็งแรงของ กลา้ มเนื้อและการทรงตัว เชน่ การเดนิ ไทเกก๊ รา� ไมพ้ ลอง ออกกา� ลังกายในน�า้ เปน็ ต้น [ ]66 ค่มู อื สำ� หรับเจำ้ หน้ำที่ เพอื่ กำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บำ้ น
ประเมนิ ความเสี่ยงตอ่ การพลัดตกหกลม้ ในผ้สู ูงอายุ ปีละ ๑ ครงั้ โดยสามารถประเมินความเส่ยี งฯ ออนไลน์ ได้ที่ www.thaincd.com และผ่านแอพลิเคชัน ทั้งระบบ Android และ IOS “การป้องกัน การพลัดตกหกล้มในผ้สู งู อายุ” ซ่ึงถ้าพบวา่ มีความเส่ยี งสงู แนะนา� ใหข้ อค�าปรกึ ษาจากเจา้ หน้าท่ี - หลีกเล่ยี งการใช้ยาทไี่ มจ่ �าเป็นและควรร้ผู ลข้างเคียงของยาทใ่ี ช้ - ใชร้ องเทา้ หมุ้ สน้ มดี อกยาง ไมล่ น่ื กรณที ไี่ ดร้ บั คา� แนะนา� ใหใ้ ชอ้ ปุ กรณช์ ว่ ยเดนิ ควรใชเ้ ปน็ ประจา� - ทกุ ครั้งที่หกลม้ ตอ้ งแจ้งญาติหรอื ผ้ดู แู ลให้ทราบ กำรปรับบำ้ นให้เหมำะสมต่อกำรดำ� เนินชีวติ ประจ�ำวนั - ควรอาศยั อยบู่ า้ นช้นั เดียว กรณบี า้ น ๒ ชนั้ ควรจัดใหผ้ ู้สูงอายพุ กั อยชู่ ้นั ล่าง - มแี สงสว่างเพียงพอท้ังในบ้านและบริเวณทางเดิน - พน้ื และทางเดินเรียบเสมอกนั ไม่ลืน่ ไม่มสี ่ิงกดี ขวาง - หอ้ งนา�้ มรี าวจบั พนื้ ไม่ล่ืน และใช้โถส้วมแบบชกั โครกหรือนง่ั ราบ การแก้ไขปัจจัยเสี่ยงหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน จะช่วยลดโอกาสการหกล้มได้ รวมท้ังให้ชุมชนและ เครอื ขา่ ยรว่ มปรบั ปรงุ บา้ นและสภาพแวดลอ้ มสาธารณะใหป้ ลอดภยั ตอ่ การใชช้ วี ติ ประจา� วนั ของผสู้ งู อายุ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพม่ิ เติมไดท้ ่ี สายด่วนกรมควบคมุ โรค โทร. ๑๔๒๒ แบบประเมินควำมเส่ียงต่อกำรพลดั ตกหกลม้ ในผ้สู งู อำยุ ปัจจัยเสย่ี ง คะแนน เพศ ๑ ....หญงิ ๐ ....ชาย ๑ การมองเห็นบกพรอ่ ง ๐ ....ไม่สามารถอ่านตวั เลขท่ีระยะ ๖/๑๒ เมตร ได้มากกว่าครึง่ ๒ ....อา่ นตวั เลขท่รี ะยะ ๖/๑๒ เมตร ได้มากกว่าครึ่ง ๐ การทรงตัวบกพร่อง ๑ ....ยืนตอ่ เท้าเปน็ เสน้ ตรงไม่ได้ หรือยืนไดไ้ ม่ถึง ๑๐ วนิ าที ....ยนื ตอ่ เท้าเปน็ เส้นตรงได้นาน ๑๐ วนิ าที ๐ การใชย้ า ....กนิ ยาตอ่ ไปนตี้ ั้งแต่ ๑ ชนิดขึ้นไป ได้แก่ ยานอนหลบั ยากล่อมประสาท ยาลดความดนั โลหติ ยาขบั ปัสสาวะ หรอื กนิ ยาชนิดใดกไ็ ด้ ตง้ั แต่ ๔ ชนิดขน้ึ ไป (ไมร่ วมวติ ามนิ ) ....ไมก่ นิ ยาตอ่ ไปน้ี ไดแ้ ก่ ยานอนหลบั ยากลอ่ มประสาท ยาลดความดนั โลหติ ยาขบั ปสั สาวะ หรอื กนิ ยาชนดิ ใดก็ได้ แตน่ อ้ ยกวา่ ๔ ชนิด [ ]คูม่ ือสำ� หรบั เจำ้ หน้ำที่ เพอ่ื กำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจ�ำบำ้ น 67
ปจั จัยเสี่ยง คะแนน ประวัติการหกล้ม ๕ ....มปี ระวัตหิ กลม้ ต้งั แต่ ๒ ครั้งขน้ึ ไปใน ๖ เดอื นที่ผา่ นมา ๐ ....ไมม่ ี ๑ สภาพบา้ น ทอี่ ยู่อาศยั ๐ ....อยบู่ า้ นยกพนื้ สงู ตั้งแต่ ๑.๕ เมตรขน้ึ ไป หรือบา้ น ๒ ชนั้ ต้องขึ้นลงโดยใช้บันได ....ไม่ไดอ้ ยูบ่ ้านลกั ษณะดังกลา่ ว รวมคะแนนความเสี่ยงตอ่ การพลดั ตกหกลม้ อ้างองิ จากการศกึ ษา Thai falls risk assessment test (Thai-FRAT) developed for community-dwelling Thai elderly. สรปุ ผลกำรประเมนิ ต่�ำกว่ำ ๔ คะแนน หมายถึง มีความเสี่ยงต�่าต่อการพลัดตกหกล้ม แนะน�าให้ออกก�าลังกาย อย่างสมา�่ เสมอ เพ่อื เพ่ิมความแข็งแรงของกล้ามเน้ือ สง่ เสรมิ การทรงตวั เชน่ เดนิ รา� ไมพ้ ลอง ร�ามวยจีน ไทเก๊ก และออกก�าลังกายในน�้า เป็นต้น พร้อมทั้งปรับส่ิงแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัยและเหมาะสม กบั การปฏิบัติกจิ วตั รประจา� วนั ๔ - ๑๑ คะแนน หมายถึง มีความเส่ียงต่อการพลัดตกหกล้ม ต้องขอรับค�าแนะน�าจากเจ้าหน้าท่ี หรอื บุคลากรสาธารณสขุ เรอ่ื งปจั จัยเสยี่ งและการป้องกัน ควรประเมนิ ความเสี่ยงตอ่ การพลัดตกหกลม้ ปีละ ๑ ครงั้ แบบทดสอบควำมรู้ก่อนและหลงั เรียน เรอื่ งกำรปอ้ งกนั พลัดตกหกลม้ ในผ้สู ูงอำยุ คำ� ชแี้ จง : ให้ผูเ้ รยี นใสเ่ ครือ่ งหมาย ในชอ่ งคา� ตอบทต่ี รงตามความคดิ เห็นของท่าน คำ� ถำม ใช่ ไม่ใช่ ๑. การพลัดตกหกล้มเปน็ ปัญหาทส่ี า� คญั หรอื พบบ่อยในผ้สู งู อายุ ๒. ผู้สูงอายทุ ี่เคยหกลม้ จะมโี อกาสหกล้มมากกว่าผ้ทู ีไ่ ม่เคยหกล้ม ๓. ผสู้ งู อายทุ ก่ี นิ ยานอนหลบั ยากลอ่ มประสาท ยาลดความดนั โลหติ หรอื ยาขบั ปสั สาวะทกุ วนั ทา� ใหเ้ สี่ยงต่อการพลดั ตกหกลม้ ๔. คนทที่ รงตัวไมด่ ี มโี อกาสพลัดตกหกล้มมากกวา่ คนทีม่ ีการทรงตวั ดี ๕. หากทา่ นเกดิ การหกลม้ ไมส่ ามารถขยบั รา่ งกายได้ หรอื เมอื่ ขยบั ขาแลว้ รสู้ กึ ปวดสะโพก หรอื โคนขาไม่ควรเคลอื่ นไหว หรอื เคลื่อนย้าย และโทรแจ้ง ๑๖๖๙ [ ]68 คมู่ ือส�ำหรบั เจำ้ หน้ำที่ เพือ่ กำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน
๓.๑๐ พษิ ภัยจำกสำรเคมยี ำฆำ่ แมลงและกำรชว่ ยเหลือเบือ้ งตน้ อสม. หมอประจา� บ้านตอ้ งศึกษา และฝกึ ฝนการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ที่ ให้มคี วามร้ดู งั นี้ [ ]คมู่ ือสำ� หรับเจำ้ หนำ้ ท่ี เพื่อกำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บำ้ น 69
[ ]70 ค่มู ือสำ� หรบั เจำ้ หนำ้ ที่ เพ่อื กำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น
วชิ าท่ี ๔ ภมู ิปญั ญาไทย สมุนไพรและการใชก้ ัญชาทางการแพทย์ ควำมส�ำคญั ของคุณค่ำภมู ิปัญญำทำงกำรแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ถอื วา่ เปน็ ระบบการแพทยแ์ บบองคร์ วม ระหวา่ ง กาย จติ สงั คมและ ธรรมชาติ ซ่ึงจะเห็นว่าการแพทย์แผนไทยไม่ได้มุ่งเน้นเป็นแต่เพียงการบ�าบัดโรคทางกาย หรือการรักษา เฉพาะส่วน แต่เป็นการดูแลสุขภาพของคนทั้งร่างกาย และจิตในระดับปัจเจกบุคคล ยังสอดคล้องกับ วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรมของชมุ ชนหรอื สงั คม และยงั เออ้ื ประสานความสมดลุ ของระบบนเิ วศน์ ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม โดยเน้นใหช้ ุมชนสามารถพึ่งพาตนเองทางด้านสขุ ภาพและอนามยั ได้ ดังน้ัน ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยจึงเป็นองค์ความรู้ ระบบความคิด ความเชื่อของชุมชนได้ จากประสบการณท์ ส่ี งั่ สม ปรบั ตวั และดา� รงชพี ตามสภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มทางสงั คม- วฒั นธรรมในแงก่ ารจดั การปอ้ งกนั การดแู ล และการรกั ษาสขุ ภาพของคนไทยทม่ี กี ารพฒั นาสบื ทอดกนั มา รากฐานหรือองค์ความรู้การแพทย์แผนไทยน้ันเป็นผลจากการใช้สติปัญญาปรับตัวตามสภาวการณ์ต่างๆ เปน็ ภมู ปิ ญั ญาอนั เกดิ จากประสบการณข์ องคนไทยเอง หรอื อาจเปน็ ภมู ปิ ญั ญาจากภายนอกทไี่ ดม้ กี ารแลก เปลี่ยนและถ่ายทอดซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต และเกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับกลุ่มชนชาติอ่ืน และรับเอามาปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับบริบททางสังคม-วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทย ท�าให้ เกดิ ความม่ันคงและยง่ั ยืนดา้ นสขุ ภาพของประชาชนชาวไทย ควำมรูก้ ญั ชำทำงกำรแพทย์ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ก�าหนดว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๕ หากแต่สามารถใช้ได้ในกรณีเพื่อทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย การใช้กัญชาทางการ แพทยต์ อ้ งอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของบคุ ลากรทางการแพทย์ อยา่ งไรกต็ าม มผี ปู้ ว่ ยจา� นวนมากมคี วามประสงค์ จะใช้กัญชา เพื่อการบ�าบัด รักษา บรรเทาอาการโรคของตนเอง สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ท่ีผลิตข้ึน แม้ว่าจะถูกกฎหมาย แต่ยังจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นต�ารับยา แพทย์สามารถ สง่ั จา่ ยในกรณีจ�าเปน็ สา� หรบั ผู้ปว่ ยเฉพาะรายเท่าน้นั สำรสกดั กญั ชำทำงกำรแพทย์ แบ่งได้ ๓ กลุ่ม ดังนี้ กลุม่ ท่ี ๑ สารสกัดกัญชาไดป้ ระโยชน์ในการรกั ษา ซง่ึ มขี อ้ มลู ทางวชิ าการสนับสนุนชัดเจน ๑.๑ ภาวะคลืน่ ไสอ้ าเจยี นในผปู้ ว่ ยที่ไดร้ บั ยาเคมีบ�าบัด ๑.๒ โรคลมชกั ทร่ี กั ษายากและโรคลมชกั ท่ดี ้อื ตอ่ ยารกั ษา ๑.๓ โรคกลา้ มเนอื้ หดเกร็ง ในผู้ปว่ ยโรคปลอกประสาทเส่อื มแขง็ ๑.๔ โรคปวดประสาททใ่ี ช้วธิ รี กั ษาอืน่ ๆแล้วไม่ได้ผล กลมุ่ ที่ ๒ สารสกดั กญั ชาทนี่ า่ จะไดป้ ระโยชนใ์ นการควบคมุ อาการของผปู้ ว่ ยซง่ึ มขี อ้ มลู ทางวชิ าการ สนบั สนุนหรอื วจิ ยั เพิม่ เตมิ ในประเด็นความปลอดภัยและประสทิ ธิผลเพ่ือสนับสนนุ การนา� มาใช้ เชน่ ๒.๑ โรคพาร์กินสัน ๒.๒ โรคอลั ไซเมอร์ [ ]ค่มู อื สำ� หรบั เจ้ำหนำ้ ท่ี เพอ่ื กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบำ้ น 71
๒.๓ โรควิตกกังวลท่วั ไป ๒.๔ โรคปลอกประสาทอกั เสบ ๒.๕ ผ้ปู ่วยมะเรง็ ระยะสุดทา้ ย ๒.๖ ผ้ปู ่วยทต่ี อ้ งดูแลแบบประคบั ประคอง ๒.๗ โรคอนื่ ๆ ท่มี ขี อ้ มลู สนบั สนนุ ทางวชิ าการว่าน่าจะไดป้ ระโยชน์ หมำยเหตุ กลมุ่ ที่ ๑ และกลมุ่ ท่ี ๒ ไมแ่ นะนา� ใชส้ ารสกดั กญั ชาเปน็ การรกั ษาเรม่ิ ตน้ การนา� สารสกดั กญั ชามาใชท้ างการแพทยจ์ า� เปน็ ตอ้ งคา� นงึ ถงึ ประสทิ ธผิ ลและความปลอดภยั เปน็ สา� คญั เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ว่ ยไดร้ บั ประโยชนส์ งู สุด กลมุ่ ที่ ๓ ผลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทางการแพทยอ์ าจไดป้ ระโยชนใ์ นการรกั ษา แตย่ งั ขาดขอ้ มลู จากงานวจิ ยั มาสนบั สนนุ ทช่ี ดั เจนเพยี งพอในดา้ นความปลอดภยั และประสทิ ธผิ ล ซง่ึ ตอ้ งมกี ารศกึ ษาวจิ ยั ในหลอดทดลอง และสตั ว์ทดลองกอ่ นมาศึกษาวิจัยในคน เชน่ การรกั ษาโรคมะเร็ง โรคอนื่ ๆ ขอ้ ควรระวงั ผู้ใช้สารสกดั กัญชาไมค่ วรขบั ขีย่ านพาหนะและไม่ควรทา� งานกับเครอื่ งจกั รกล หลกั การส�าคญั ในการใชย้ าสมุนไพรอยา่ งปลอดภัย ๑. การอ่านฉลากยาให้ละเอียดถ่ีถ้วน รวมถึงการปฏิบัติตามค�าส่ังใช้หรือค�าแนะน�าของแพทย์ แพทย์แผนไทย และเภสชั กรอยา่ งเครง่ ครัด เพอ่ื ใหส้ ามารถใชย้ าได้อยา่ ง ถกู คน ถกู โรค ถกู ขนาด ถกู ทาง หรือถกู วธิ ี และถูกเวลา คา� นงึ ถึงข้อหา้ ม ข้อควรระวงั ในการใช้ยา ๒. การเลือกซ้ือยาสมุนไพรจากร้านยาคุณภาพท่ีมีใบอนุญาตและมีเภสัชกรประจ�า และสินค้าน้ัน ต้องมีเลขทะเบียนต�ารับยา บรรจุอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ช�ารุด นอกจากนี้ก่อนซื้อยาสมุนไพร ควรดูฉลากยา ทุกคร้ัง เช่น ชื่อยา เลขทะเบียนต�ารับยา อย. ปริมาณของยาสมุนไพรท่ีบรรจุ เลขท่ี หรืออักษรแสดง ครั้งท่ีผลิต ช่ือผู้ผลิต และสถานท่ีผลิตยา วัน เดือน ปี ท่ีผลิตและหมดอายุของยา ไม่ควรซ้ือยาสมุนไพร จากแผงขายตามท้องตลาด หรือแบบแบ่งขาย เพราะอาจเส่ียงที่เป็นยาสมุนไพรที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการ ปนเป้อื นของเช้ือจุลนิ ทรีย์ตามมาด้วยมผี ลเสียตอ่ รา่ งกาย ๓. การแจ้งข้อมูลการใช้ยาแผนปัจจุบันหรือสมุนไพรให้กับแพทย์ แพทย์แผนไทย หรือเภสัชกร ทราบทุกคร้งั วา่ ก�าลงั ใช้ยาแผนปัจจบุ นั หรือสมุนไพรชนิดใดอยู่ เพอื่ ให้เกดิ ความปลอดภยั มากทสี่ ดุ เพราะ ยาแผนปัจจุบันกับยาสมุนไพรบางชนิดอาจไปออกฤทธ์ิขัดกันหรือเสริมฤทธิ์กัน ท�าให้เกิดผลข้างเคียง ท่ีไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในผู้สูงวัยท่ีมีโรคเรื้อรัง โรคประจ�าตัว ซึ่งจะมี การใช้ยา วิตามิน สมนุ ไพร หรอื ผลิตภัณฑเ์ สริมอาหารมากข้นึ ตามไปดว้ ย ๔. หญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร และเด็กไม่ควรท่ีจะใช้สมุนไพรถ้าไม่จ�าเป็น โดยเฉพาะสมุนไพร ทย่ี งั ไมม่ ขี อ้ มลู ยนื ยนั ความปลอดภยั เนอื่ งจากสารบางชนดิ ในสมนุ ไพร สามารถผา่ นรก ขบั ออกทางนา้� นม หรือมผี ลต่อการเจริญเตบิ โตขอทารกได้ [ ]72 คู่มอื ส�ำหรับเจ้ำหน้ำที่ เพ่ือกำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน
แนวทางการเฝา้ ระวังความปลอดภัยจากการใชย้ าสมนุ ไพร ๑. หมัน่ สังเกตความผดิ ปกตทิ ีอ่ าจเกดิ ขนึ้ ระหวา่ งการใช้สมุนไพร ๒. หากเกดิ อาการผิดปกตเิ กดิ ขึ้นในระหว่างการใชส้ มุนไพร ควรหยุดใช้ และปรึกษาแพทย์ แพทย์ แผนไทย หรือเภสัชกร ๓. บันทึกข้อมูลชนิดของสมุนไพร ความผิดปกติท่ีเกิดข้ึนจากการใช้สมุนไพรชนิดน้ัน เพื่อป้องกัน การเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้สมุนไพรซา้� วิชาท่ี ๕ เทคโนโลยีการส่ือสารทางการแพทย์ โทรเวชกรรม (Telemedicine) และแอปพลิเคชน่ั ด้านสุขภาพ กำรใชง้ ำนแอปพลเิ คชั่น SMART อสม. ดูไดท้ ี่ www.อสม. com - ให้เปิด ๒ คลปิ วีดโี อน้ี - แนะนา� Mobile Application Smart อสม. - วิธกี ารติดต้งั และใชง้ านแอปพลเิ คชั่น SMART อสม. - ให้ อสม. ทา� การลงทะเบยี น และเขา้ ใชง้ านในเมนตู า่ งๆ ภายใตก้ ารดแู ลของเจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ ทไ่ี ด้ลงทะเบยี นเปน็ เจา้ หนา้ ทไ่ี ว้ก่อนแล้ว โดยเนน้ เร่อื ง การสง่ แบบ อสม. ๑, การตดิ ตามผูป้ ว่ ย เป็นต้น [ ]คมู่ อื สำ� หรับเจำ้ หนำ้ ท่ี เพอ่ื กำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบ้ำน 73
กำรใช้งำนระบบ Telemedicine (คลิปวีดโี อแนะนา� และสอนการใช้งาน อยรู่ ะหวา่ งการจดั ท�าคลิปวดี ีโอและระบบ Telemedicine จะเสร็จในตน้ ปี ๒๕๖๓ น)้ี ...................................................................................... แอปพลเิ คชั่นดำ้ นสขุ ภำพอ่นื ๆ เว็บ www.อสม. com มหี ัวข้อแนะน�า app ด้านสขุ ภาพให้กดทีห่ ัวขอ้ นี้ จะพบกบั แอปพลเิ คช่ัน ด้านสุขภาพที่แนะนา� ส�าหรับ อสม. ...................................................................................... อสม. หมอประจา� บา้ น สามารถดขู ้อมูลวชิ าน้ไี ดท้ เ่ี วบ็ ไซด์ www.อสม. com [ ]74 คมู่ ือสำ� หรับเจำ้ หน้ำท่ี เพอื่ กำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน
วชิ าที่ ๖. วชิ าผู้น�าการสรา้ งสุขภาพแบบมีส่วนรว่ ม อสม. หมอประจ�าบา้ นตอ้ งศกึ ษา และฝึกฝนการปฏิบตั ิงานตามหน้าท่ี ให้มีความรู้ดงั นี้ ผู้นำ� กำรสรำ้ งสขุ ภำพแบบมีสว่ นร่วม: อสม. หมอประจ�าบ้านอบรมแลว้ เข้าใจในบทบาทการเปน็ ผนู้ า� สามารถสรา้ งทมี แกป้ ญั หาสขุ ภาพไดแ้ ก่ อสม. อสค. แกนนา� เครอื ขา่ ยตา่ งๆ หาทนุ เงนิ ของ (ทรพั ยากร ในชุมชน) มาจัดการแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกิดข้ึน การระบาดของโรค การเจ็บป่วย การบาดเจ็บ หรอื ตอ้ งการความช่วยเหลือดูแลในกลุม่ ผู้ป่วยเรอื้ รงั ผสู้ ูงอายุ ผ้พู ิการ ผู้ต้องการพง่ึ พิงต่างๆ มคี วามร้ดู ังน้ี ผนู้ ำ� คอื บุคคลทมี่ ีความสามารถใช้อทิ ธิพลใหค้ นอ่นื ทา� งานในระดบั ต่าง ๆ ท่ตี อ้ งการให้บรรลเุ ปา้ หมายและวัตถุประสงค์ท่ตี ้ังไว้ สามารถชกั จงู ให้คนอื่นทา� งานใหส้ �าเร็จตามต้องการ ๑. ความสามารถพน้ื ฐานเกย่ี วกบั ความรู้ ทศั นคติ และทกั ษะเฉพาะพฤตกิ รรม เพอ่ื สามารถ น�าไปใชใ้ นสถานการณท์ ี่ผู้นา� ต้องเผชญิ ๒. ความสามารถในการประยกุ ตค์ วามสามารถสว่ นบคุ คลในการเกยี่ วขอ้ งกบั บคุ คลอน่ื ไดแ้ ก่ - การบริหารจัดการ ได้แก่ การวางแผน การจัดองค์การ การบริหารงานบุคคล การอา� นวยการ การรว่ มมอื การรายงาน และการจัดการการเงิน - การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ได้แก่ การจูงใจ การแก้ไขความขัดแย้ง การจัดการ ความเครียด การใชอ้ �านาจและการให้อ�านาจ การใหอ้ ิสระและการสง่ั งาน การพฒั นา การศึกษา การฝึก อบรม และการติชม ภำวะผู้น�ำ คือ การท่บี ุคคลใดบุคคลหนง่ึ พยายามใชอ้ ิทธพิ ลของตน กระตนุ้ ช้ีน�า ผลกั ดนั ใหบ้ ุคคล อ่ืน เต็มใจและกระตือรือร้นในการท�าส่ิงต่าง ๆ ตามต้องการ ให้ส�าเร็จตามเป้าหมาย องค์ประกอบของ ภาวะผนู้ �า สามารถแยกตามตวั อักษร LEADERSHIP ไดด้ งั นี้ L = Love ความรัก หมายถึง ผู้น�าต้องเริ่มด้วยการมีความรักเสียก่อน คือ รักในหน้าท่ี การงาน รกั ร่วมงาน รกั ผ้ใู ต้บงั คบั บัญชา รักความก้าวหนา้ รกั ความยุติธรรม E = Education and Experience หมายถงึ คณุ สมบตั ทิ างดา้ นการศกึ ษาและประสบการณ์ ท่ีดี เปน็ แบบอย่างและสามารถสงั่ สอนแนะน�าผ้ใู ต้บังคับบญั ชาไดถ้ กู ต้อง A = Adaptability หมายถงึ ความสามารถในการปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับสถานการณ์ สิง่ แวดลอ้ ม ร้จู ักการแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ D = Decisiveness หมายถึง มีความสามารถในการพิจารณาตัดสินใจได้รวดเร็ว ถูกต้อง แนน่ อน กลา้ ได้กลา้ เสยี E = Enthusiasm ความกระตอื รอื รน้ มคี วามตงั้ อกตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ านและสนบั สนนุ ชกั นา� (Encourage) ใหผ้ ูใ้ ต้บังคับบัญชาปฏิบตั งิ านอย่างจริงจงั ดว้ ย R = Responsibility เป็นผู้มีความรับผิดชอบท้ังในหน้าท่ีความรับผิดชอบของตนเองและ ใตบ้ งั คบั บัญชา ไม่ทอดทิ้งหรือปดั ความรบั ผิดชอบให้ผูอ้ นื่ S = Sacrifice and sincere ต้องเป็นผู้เสียสละเพ่อื ส่วนรวม จรงิ ใจ ซง่ึ จะทา� ใหผ้ ใู้ ตบ้ งั คับ บัญชาเกดิ ความเคารพนบั ถอื [ ]คู่มือส�ำหรับเจ้ำหน้ำท่ี เพื่อกำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน 75
H = Harmonize เป็นผู้มีความนุ่มนวล ผ่อนปรน เพ่ือเสริมสร้างความสามัคคีและ ความเข้าใจอันดีต่อกนั ในหมูผ่ รู้ ว่ มงาน อาจรวมถงึ การถ่อมตัว (Humble) ตามกาลเทศะอันควร I = Intellectual capacity เปน็ ผมู้ คี วามเฉลียวฉลาด มไี หวพริบ ทนั คนทันต่อเหตุการณ์ เป็นผรู้ อบรู้ และมีความคดิ รเิ รม่ิ P = Persuasiveness เป็นผู้มีศิลปะในการจูงใจคน ซ่ึงจ�าเป็นจะต้องใช้หลักจิตวิทยา (Psychology) และตอ้ งมอี �านาจ (Power) ในตวั เองพอสมควร วธิ กี ำรถำ่ ยทอดควำมร้ทู มี่ ีประสิทธิภำพ วิธีการถ่ายทอดและแลกเปล่ียนความรู้ ด้วยวิธีการ “สอนงาน” ซึ่งจะช่วยดึงเอาความรู้ที่อยู่ใน ตัวบุคคลท่ีอยู่ในตัวผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเร่ืองหนึ่งเป็นพิเศษ มาถ่ายทอดให้คนอ่ืนได้เข้าใจและน�าไปใช้ ประโยชนใ์ นการปฏบิ ัติงานได้อย่างเหมาะสม การสอนงาน (Coaching) คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับงานโดยมีผู้เช่ียวชาญเป็นพี่เลี้ยงสอนงาน ให้อย่างมีขั้นตอน แล้วให้ผู้รับการสอนงานลงมือท�า มีการติดตามประเมินผล เพื่อให้ผู้รับการสอนงาน มีการน�าไปใช้ปรับปรุงการท�างานให้ดีข้ึน ช่วยพัฒนาทักษะในการท�างาน คิดเป็น ท�าเป็น ช่วยแก้ปัญหา ในการทา� งาน และเกิดความมนั่ ใจในการทา� งาน [ ]76 คู่มือสำ� หรบั เจำ้ หนำ้ ที่ เพอ่ื กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน
(รา่ ง) คา� สง่ั กระทรวงสาธารณสุข ท่ี ................./๒๕๖๒ เร่อื ง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการขบั เคล่อื นและยกระดบั อสม. หมอประจา� บา้ น ----------------------------- ตามท่ีรัฐบาลมีนโยบายด้านสาธารณสุข ในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุข ประจา� หมู่บ้าน (อสม.) เปน็ อสม. หมอประจา� บา้ น และเพิม่ บทบาทของ อสม. ในการเข้ามามสี ่วนร่วมดูแล สขุ ภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน เพ่ือใหส้ ามารถดแู ลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ปว่ ยตดิ บา้ น ตดิ เตยี ง หรอื ผู้ทีอ่ ย่ใู นภาวะพึง่ พิง เพือ่ ใหก้ ารด�าเนินงานยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจา� บ้าน บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปน็ ไป อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและสามารถน�าไปสู่การปฏิบัติ อาศัยอ�านาจ ตามความในมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไข เพ่ิมเติ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อด�าเนินการขับเคล่ือนและยกระดับ อสม. หมอประจา� บ้าน โดยมีองคป์ ระกอบ หน้าที่และอา� นาจ ดังน้ี ๑. คณะกรรมการอา� นวยการขบั เคลือ่ นและยกระดบั อสม. หมอประจา� บ้าน ประกอบดว้ ย ๑.๑ นายสา� เรงิ แหยงกระโทก ท่ีปรึกษา ผู้ชว่ ยรฐั มนตรปี ระจ�ากระทรวงสาธารณสขุ ๑.๒ นายธนติ พล ไชยนันทน์ ทป่ี รึกษา ที่ปรกึ ษารฐั มนตรีชว่ ยวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ๑.๓ ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ทป่ี รึกษา ๑.๔ รองปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ที่ได้รับมอบหมาย ประธานกรรมการ ๑.๕ อธบิ ดีกรมสนับสนุนบริการสขุ ภาพ รองประธานกรรมการ ๑.๖ เลขาธิการส�านักงานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ กรรมการ ๑.๗ เลขาธิการสถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชาติ กรรมการ [ ]คู่มือส�ำหรับเจ้ำหนำ้ ท่ี เพ่ือกำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน 77
๑.๘ อธิบดกี รมการแพทย์ กรรมการ ๑.๙ อธิบดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กรรมการ ๑.๑๐ อธิบดีกรมควบคุมโรค กรรมการ ๑.๑๑ อธิบดกี รมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ กรรมการ ๑.๑๒ อธบิ ดีกรมสุขภาพจิต กรรมการ ๑.๑๓ อธบิ ดีกรมอนามัย กรรมการ ๑.๑๔ เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยา กรรมการ ๑.๑๕ หวั หนา้ ผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ กรรมการ ๑.๑๖ นายเมธี จันทจ์ ารภุ รณ์ ข้าราชการบ�านาญ กรรมการ นายสรงคก์ ฎณ์ ดวงค�าสวสั ดิ์ ขา้ ราชการบ�านาญ กรรมการ ๑.๑๗ นายชาญวิทย์ วสันตธ์ นารตั น์ นายแพทย์ชา� นาญการ กรรมการ โรงพยาบาลชลบุรี (ปฏิบตั งิ านสา� นักงานรัฐมนตร)ี ๑.๑๘ รองอธิบดกี รมสนับสนุนบริการสุขภาพท่ไี ด้รบั มอบหมาย กรรมการ และเลขานกุ าร ๑.๑๙ ผ้อู �านวยการกองสนบั สนนุ สุขภาพภาคประชาชน กรรมการ กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ และผูช้ ่วยเลขานกุ าร ๑.๒๐ ผ้อู �านวยการกองสขุ ศกึ ษา กรรมการ กรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ และผู้ชว่ ยเลขานุการ ๑.๒๑ นางวรารตั น์ กจิ พจน์ กรรมการ กองสนับสนนุ สุขภาพภาคประชาชน และผู้ช่วยเลขานกุ าร กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ ๑.๒๒ หัวหน้ากล่มุ ยุทธศาสตรแ์ ละแผนงาน ผู้ชว่ ยเลขานุการ กองสนบั สนุนสขุ ภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบรกิ ารสขุ ภาพ ๑.๒๓ หัวหนา้ กลมุ่ พฒั นาการมีสว่ นรว่ ม ผูช้ ่วยเลขานุการ กองสนบั สนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ ให้คณะกรรมการอา� นวยการขบั เคล่อื นและยกระดบั อสม. หมอประจ�าบ้าน มีหนา้ ทีแ่ ละอา� นาจ ดังน้ี ๑. กา� หนดนโยบาย และแนวทางการยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจา� บา้ น ๒. เป็นท่ปี รึกษาการดา� เนนิ งานยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจา� บ้าน ๓. สนับสนุนการขับเคลอื่ นนโยบายการยกระดบั อสม.เป็น อสม. หมอประจา� บ้าน ๔. กา� กบั ตดิ ตามการขบั เคลือ่ นนโยบายการยกระดับ อสม.เป็น อสม. หมอประจ�าบ้าน [ ]78 คูม่ อื สำ� หรบั เจำ้ หน้ำที่ เพื่อกำรยกระดับ อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บ้ำน
๕. แต่งต้งั คณะอนุกรรมการและคณะท�างานในการสนับสนุนการดา� เนินงานทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ๖. ปฏิบตั ิงานอ่นื ๆ ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ๒. คณะกรรมการดา� เนินงานยกระดบั อสม. หมอประจา� บ้าน ประกอบดว้ ย ท่ีปรกึ ษา ๒.๑ อธบิ ดกี รมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ ประธานกรรมการ ๒.๒ รองอธิบดกี รมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพทไี่ ดร้ ับมอบหมาย กรรมการ ๒.๓ ผแู้ ทนสา� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ กรรมการ ๒.๔ ผ้อู า� นวยการสถาบันพัฒนาสขุ ภาพอาเซียน กรรมการ มหาวิทยาลยั มหิดล หรือผ้แู ทน กรรมการ ๒.๕ ผแู้ ทนกรมการแพทย์ กรรมการ ๒.๖ ผแู้ ทนกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กรรมการ ๒.๗ ผแู้ ทนกรมควบคุมโรค กรรมการ ๒.๘ ผ้แู ทนกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ กรรมการ ผูแ้ ทนกรมสุขภาพจิต กรรมการ ๒.๙ ผแู้ ทนกรมอนามยั กรรมการ ๒.๑๐ ผแู้ ทนสา� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา กรรมการ ๒.๑๑ ประธานชมรมนายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวัด กรรมการ ๒.๑๒ ผู้อ�านวยการสา� นักสนับสนุนระบบสขุ ภาพปฐมภูมิ กรรมการ ส�านักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ๒.๑๓ ผู้อ�านวยการกองสขุ ศึกษา กรรมการ กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กรรมการ ๒.๑๔ นักวิชาการสาธารณสขุ เชีย่ วชาญ กรรมการ (ด้านพฒั นาสขุ ภาพภาคประชาชน) และเลขานุการ กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กรรมการ ๒.๑๕ ผู้อ�านวยการกลุ่มแผนงาน และผู้ชว่ ยเลขานุการ สา� นกั บริหาร กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ๒.๑๖ ผ้อู �านวยการศูนยพ์ ฒั นาการสาธารณสขุ มลู ฐาน ชายแดนภาคใต้ จงั หวดั ยะลา ๒.๑๗ ผู้อา� นวยการกองสนบั สนนุ สุขภาพภาคประชาชน กรมสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ ๒.๑๘ นางวรารัตน์ กิจพจน์ กองสนับสนุนสขุ ภาพภาคประชาชน กรมสนับสนนุ บรกิ ารสุขภาพ [ ]คมู่ อื สำ� หรับเจ้ำหนำ้ ที่ เพื่อกำรยกระดบั อสม. เปน็ อสม. หมอประจ�ำบ้ำน 79
๒.๑๙ หัวหน้ากลมุ่ พฒั นาการมสี ่วนรว่ ม ผ้ชู ว่ ยเลขานุการ กองสนบั สนนุ สขุ ภาพภาคประชาชน กรมสนับสนนุ บริการสุขภาพ ๒.๒๐ นางสาวชลกร ภู่สกลุ สุข ผู้ช่วยเลขานุการ กองสนับสนนุ สขุ ภาพภาคประชาชน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ ให้คณะกรรมการดา� เนนิ งานยกระดบั อสม. หมอประจา� บา้ น มหี นา้ ทแี่ ละอา� นาจ ดงั น้ี ๑. กา� หนดกรอบ และวางแผนการพัฒนาศกั ยภาพ และยกระดบั อสม. หมอประจ�าบ้าน ๒. ศึกษา วิเคราะหแ์ ละจดั ทา� หลกั สตู ร เนอ้ื หาความรู้ และจัดระบบการเรยี นรู้การยกระดบั อสม. หมอประจา� บา้ น ๓. ศกึ ษา วิเคราะหแ์ ละจดั ท�าหลกั สูตรครฝู ึกอบรม อสม. หมอประจา� บา้ น ๔. ผลิต จัดหา ตรวจสอบและกล่นั กรองเน้อื หาทีเ่ ผยแพรผ่ า่ นส่ือต่างๆ ในการยกระดับ อสม. หมอประจา� บ้าน ๕. พฒั นาเครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะ อสม. หมอประจ�าบา้ น ๖. ติดตาม และประเมินผลหลกั สตู รเน้อื หาความรู้ และระบบการยกระดับ อสม. หมอประจ�าบ้าน ๗. รายงานผลการดา� เนนิ งานใหผ้ บู้ ริหาร และผ้เู ก่ยี วขอ้ งทราบ ๘. แตง่ ตง้ั คณะอนุกรรมการและคณะทา� งานในการสนบั สนุนการด�าเนินงานทเ่ี กี่ยวข้อง ๙. ปฏบิ ัติงานอนื่ ๆ ตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ๓. คณะกรรมการประชาสมั พันธ์การขับเคลื่อนนโยบายยกระดับ อสม. หมอประจ�าบา้ น ประกอบด้วย ๔.๑ รองปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ประธานกรรมการ ๔.๒ รองอธิบดกี รมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย รองประธานกรรมการ ๔.๓ ผ้อู �านวยการสา� นักสารนิเทศ กรรมการ สา� นกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรอื ผู้แทน ๔.๔ ผู้อา� นวยการกองพัฒนาศักยภาพผูบ้ รโิ ภค กรรมการ ส�านักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือผู้แทน ๔.๕ ผอู้ �านวยการศนู ย์ขอ้ มลู ขา่ วสาร กรรมการ ส�านักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือผแู้ ทน ๔.๖ ผ้อู า� นวยการส�านกั บริหาร กรรมการ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก หรอื ผู้แทน ๔.๗ ผู้อา� นวยการส�านักส่อื สารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรรมการ กรมควบคุมโรค หรอื ผแู้ ทน [ ]80 คู่มือสำ� หรบั เจำ้ หน้ำท่ี เพอื่ กำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน
๔.๘ ผู้อ�านวยการกลมุ่ พัฒนาระบบบรหิ าร กรรมการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือผู้แทน ๔.๙ ผ้อู �านวยการส�านักสอื่ สารและตอบโต้ความเสยี่ ง กรรมการ กรมอนามยั หรอื ผูแ้ ทน ๔.๑๐ หวั หนา้ กลุม่ งานเผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ กรรมการ ส�านกั งานเลขานุการ กรมสขุ ภาพจิต หรือผแู้ ทน ๔.๑๑ หัวหนา้ ฝา่ ยประชาสมั พนั ธ์ ส�านกั งานเลขานกุ าร กรรมการ กรมการแพทย์ หรอื ผูแ้ ทน ๔.๑๒ ผ้อู �านวยการสา� นักบรหิ าร กรรมการ กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ และเลขานกุ าร ๔.๑๓ หัวหน้ากล่มุ ประชาสมั พันธ์ กรรมการ กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ และผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร ใหค้ ณะกรรมการประชาสมั พนั ธ์การขับเคลอื่ นนโยบายยกระดับ อสม. มหี น้าทแ่ี ละอ�านาจ ดงั น้ี ๑. วางแผน ก�าหนดแนวทาง และด�าเนนิ การประชาสมั พันธ์ เผยแพร่การดา� เนนิ การยกระดับ อสม. หมอประจ�าบ้าน ผ่านสือ่ ท่ีหลากหลายรปู แบบ ๒. เผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์ การยกระดบั อสม. หมอประจ�าบ้าน ๓. บนั ทกึ ภาพ วิดโี อ และถ่ายทอดสดผ่านสื่อโซเชียลเพอ่ื ประชาสัมพันธ์ ๔. ประสานพนื้ ท่ีเย่ียมชมผลงาน ๕. แต่งตัง้ คณะอนุกรรมการและคณะท�างานในการสนับสนนุ การดา� เนินงานทีเ่ กย่ี วข้อง ๖. ปฏบิ ตั งิ านอืน่ ๆ ตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ท้ังนี้ ต้ังแต่บดั นีเ้ ปน็ ตน้ ไป สัง่ ณ วันท่ี ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๒ [ ]คมู่ อื ส�ำหรบั เจ้ำหนำ้ ท่ี เพ่ือกำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บ้ำน 81
ทปี่ รึกษำ ศาสตราจารย์พเิ ศษ ดร.นายส�าเรงิ แหยงกระโทก ผูช้ ่วยรฐั มนตรีประจา� กระทรวงสาธารณสุข ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธบิ ดกี รมสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ นายนตั ถะวุมิ ภิรมยไ์ ทย ผู้อ�านวยการกองสนับสนนุ สุขภาพภาคประชาชน คณะผูจ้ ดั ทำ� ๑. กรมกำรแพทยแ์ ผนไทยและกำรแพทยท์ ำงเลอื ก นางสาวธารทิพย์ โคกดอกไม้ แพทย์แผนไทยปฏิบตั กิ าร เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๘๖-๗๕๖-๑๖๐๙ นางสาวอบุ ลรัตน์ มโนศลิ ป์ แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๘๑-๔๓๙-๔๘๕๗ นางสาวปัทมวรรณ เรอื งเดช แพทย์แผนไทยปฏิบตั กิ าร เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๗-๓๖๐-๗๕๓๓ ๒. กรมสุขภำพจติ นายปองพล ชษุ ณะโชติ นักจิตวิทยาคลินกิ ชา� นาญการ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๘๙-๖๓๕-๔๘๒๘ ๓. กรมอนำมยั ๓.๑ ส�ำนกั ทนั ตสำธำรณสขุ นาย พูลพฤกษ์ โสภารัตน์ ทันตแพทยช์ า� นาญการพเิ ศษ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๘๙-๘๕๐-๘๒๑๗ นางสาวกนั ยา บุญธรรม ทันตแพทยช์ �านาญการ เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๘๑-๘๐๒-๘๙๗๘ นางสาวเขมณฏั ฐ์ เชอ้ื ชัยทศั น์ นักวชิ าการสาธารณสขุ ช�านาญการ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๙๕-๑๑๙-๖๒๒๖ นางสาวเดือนเพญ็ สาคร นักวิชาการสาธารณสขุ ปฏิบตั กิ าร เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๓-๖๔๙-๕๒๔๙ ๓.๒ สำ� นกั อนำมยั และส่งิ แวดลอ้ ม นางวิมลศริ ิ วเิ ศษสมบัติ นักวชิ าการสาธารณสุขปฏบิ ตั ิการพเิ ศษ นายเอกราช บัวทอง นกั วิชาการสาธารณสุขปฏบิ ัติการ นางสาวพรรณกิ าญจน วังก่มุ นักวชิ าการสาธารณสุข ๓.๓ สำ� นกั โภชนำกำร นางณัฐวรรณ เชาวน์ลิลิตกุล นักวชิ าการสาธารณสขุ เชย่ี วชาญ เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๕-๓๘๔-๕๙๗๔ [ ]82 คู่มอื สำ� หรับเจำ้ หนำ้ ที่ เพือ่ กำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจ�ำบ้ำน
๔. กรมควบคุมโรค ๔.๑ กองโรคไมต่ ิดตอ่ แพทย์หญิงศศธิ ร ตัง้ สวสั ด์ิ ผอู้ า� นวยการกองโรคไมต่ ิดตอ่ เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๒-๕๙๐-๓๘๙๓ กลุ่มเทคโนโลยีระบาดวทิ ยา และมาตรการชมุ ชน เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๘๙๒ กลุ่มยุทธศาสตร์ แผน และประเมินผล เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๒-๕๙๐-๓๘๘๗ ๔.๒ กองป้องกนั กำรบำดเจ็บ แพทยห์ ญิงศศธิ ร ตั้งสวัสดิ์ ผ้อู า� นวยการกองปอ้ งกนั การบาดเจ็บ เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๘๙๓ กลมุ่ ป้องกนั การบาดเจ็บทวั่ ไป เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๘๘๘ กลุ่มพฒั นามาตรการป้องกันการบาดเจบ็ จากการจราจร เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๘๘๙ ๔.๓ กองโรคตดิ ตอ่ นำ� โดยแมลง แพทย์หญิงชีวนนั ท์ เลศิ พิริยสวุ ัฒน์ ผอู้ า� นวยการกองโรคตดิ ต่อน�าโดยแมลง เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๑๔๕ กลุ่มโรคติดต่อนา� โดยยงุ ลาย เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๒-๕๙๐-๘๔๒๒ กลมุ่ มาลาเรีย เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๒-๕๙๐-๘๔๒๓ ๔.๔ กองวณั โรค แพทยห์ ญงิ ผลนิ กมลวทั น์ ผู้อา� นวยการกองวณั โรค เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๒-๒๑๑-๒๒๒๔ กลุ่มพฒั นาวิชาการและนวตั กรรม ต่อ ๑๐๐๒ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๒-๒๑๑-๒๒๒๔ ต่อ ๑๒๑๓ ๔.๕ กองโรคติดต่อทัว่ ไป นายแพทย์โสภณ เอยี่ มศริ ิถาวร ผอู้ า� นวยการกองโรคตดิ ต่อท่วั ไป เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๑๖๐, กลมุ่ โครงการตามพระราชดา� ริฯ โรคหนอนพยาธิ โรคในถ่นิ ทรุ กันดาร ๐๒-๕๙๐-๗๓๑๗ กลุ่มโรคติดตอ่ ระหวา่ งสัตวแ์ ละคน เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๒-๕๙๐-๓๑๘๑ กลมุ่ ยุทธศาสตร์ เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๒-๕๙๐-๓๑๗๖ เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๑๙๒ ๔.๖ กองยทุ ธศำสตรแ์ ละแผนงำน นายแพทย์จักรรัฐ พทิ ยาวงศ์อานนท์ เบอร์โทรศัพท์ ๐-๒๕๙๐-๓๐๘๖ ผู้อ�านวยการกองยุทธศาสตรแ์ ละแผนงาน เบอร์โทรศัพท์ ๐๒-๕๙๐-๓๐๙๑, ๐๒-๕๙๐-๓๐๘๔ กลุ่มพฒั นาและบริหารยทุ ธศาสตร์ [ ]คมู่ ือส�ำหรบั เจ้ำหนำ้ ที่ เพื่อกำรยกระดบั อสม. เป็น อสม. หมอประจำ� บำ้ น 83
๕. กรมวทิ ยำศำสตรก์ ำรแพทย์ นายสนั ตกจิ นลิ อดุ มศักด์ิ ผู้อ�านวยการศูนยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยช์ ลบุรี นายจุลภัทร คงเจริญกิจกุล นักวเิ คราะห์นโยบายและแผน กองแผนงานและวิชาการ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๒-๙๕๑-๐๐๐๐ ต่อ ๙๙๐๓๗ ๖. จังหวัดสรุ ินทร์ โรงพยำบำลสุรนิ ทร์ แพทย์หญงิ ชหู งส์ มหรรทศั นพงศ์ นายแพทย์เช่ยี วชาญ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๑-๕๔๒-๙๓๓๓ นายวรี ะศกั ด์ิ แก้วกาญจน์ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชา� นาญการ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๙๖๗-๑๙๒๔ นางเฉลมิ ศรี ยง่ิ ยงยุทธ พยาบาลวิชาชพี ช�านาญการ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๖๐๐-๔๒๔๕ สำ� นกั งำนสำธำรณสุขอ�ำเภอเมืองสรุ นิ ทร์ นายวชิ า ก่อแก้ว เจา้ พนกั งานสาธารณสขุ ช�านาญงาน เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๑-๘๗๗-๒๑๓๒ ๗. มูลนิธิสื่อเพ่ือเยำวชน นายพริ ิยะ ทองสอน ผูอ้ า� นวยการมลู นธิ สิ ือ่ เพ่ือเยาวชน เบอร์โทรศพั ท์ ๐๘๑-๓๑๐-๓๕๐๕ ๖. กรมสนบั สนนุ บริกำรสขุ ภำพ กองสนบั สนนุ สขุ ภำพภำพภำคประชำชน นางวรารตั น์ กิจพจน์ นักวิชาการสาธารณสุขชา� นาญการพิเศษ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๙๐-๑๙๗-๖๑๘๘ นางศุภัคชญา ภวงั ค์คะรตั นกั วิชาการสาธารณสขุ ชา� นาญการพเิ ศษ เบอร์โทรศพั ท์ ๐๘๔-๓๖๑-๔๖๖๒ นายสมภพ อาจชนะศึก นกั วิชาการสาธารณสุขช�านาญการพิเศษ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๐-๐๑๓-๖๔๗๗ นางสาวชลกร ภูส่ กุลสขุ นักวชิ าการสาธารณสุขช�านาญการพิเศษ เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๙๓-๕๗๕-๔๔๒๐ นางสาวรตี สงวนรัตน์ นักวิชาการสาธารณสุขชา� นาญการ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๓๙๘-๔๑๘๘ นางสาวอกนิษฐ์ โพธิ์ศรี นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบตั กิ าร เบอร์โทรศพั ท์ ๐๘๔-๔๒๕-๕๐๗๕ นางสาววชิราพรรณ มุสกิ า นักวชิ าการสาธารณสขุ ปฏิบตั ิการ เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๐-๑๙๒-๑๗๐๖ นางสาวศรวณยี ์ วงศก์ ระจ่าง นักวชิ าการสาธารณสุขปฏบิ ตั กิ าร เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๒-๒๖๘-๒๗๓๑ [ ]84 ค่มู อื สำ� หรบั เจ้ำหน้ำท่ี เพอ่ื กำรยกระดับ อสม. เปน็ อสม. หมอประจำ� บำ้ น
Search