Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ

แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ

Published by nurse4thai, 2021-01-27 20:21:05

Description: แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ

Keywords: แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ,แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพจิต,ป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ

Search

Read the Text Version

แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และป้องกันปญั หาสขุ ภาพจิตในผู้สูงอายุ สำ�หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ต�ำ บล พิมพค์ ร้งั ที่ 1 มกราคม 2560 จ�ำ นวนพมิ พ์ 2,000 เล่ม จดั พิมพแ์ ละเผยแพร่โดย สำ�นักสง่ เสริมและพฒั นาสขุ ภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ ถนนติวานนท์ อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดนนทบุรี 11000 โทรศพั ท์ 0 2590 8159 โทรสาร 0 2590 8078 พิมพท์ ี ่ โรงพมิ พ์สำ�นักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ประเทศไทยมจี �ำ นวนผสู้ งู อายเุ พมิ่ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยพบวา่ ในปี 2557 มผี สู้ งู อายมุ ากกวา่ 10 ลา้ นคน หรือ ร้อยละ 14.6 ของประชากรทั้งหมดและคาดว่า ในปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่าง สมบูรณ์ (Compleate Age Society) ซงึ่ จะมีผลกระทบต่อการเปล่ียนแปลงทัง้ ในด้านสังคม และเศรษฐกิจ ของประเทศโดยเฉพาะระบบบริการทางด้านสาธารณสุขท่ีมีความท้าทายเก่ียวกับสุขภาพและความผาสุข ของผสู้ งู อายใุ นหลายด้าน ทงั้ การเปลี่ยนแปลงทางร่างการ สังคม ความเปน็ อยู่ สภาวะทเ่ี สือ่ มลง ส่ิงเหลา่ นี้ มีผลกระทบต่อจิตใจผู้สูงอายุอย่างมาก ดังนั้นหน่วยงานสาธารณสุข ควรมีองค์ความรู้และมีแนวทางใน การดำ�เนนิ งานทางด้านสขุ ภาพจติ ผสู้ ูงอายุ เพ่ือสามารถใหบ้ รกิ ารรองรับผสู้ ูงอายุได้อย่างเป็นองคร์ วม แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ สงู อายุ ฉบบั น้ี มคี วามมงุ่ หวงั ให้ บุคลากรสาธารณสุขในคลินิกโรคเรื้อรังและบุคลากรท่ีดำ�เนินงานด้านสุขภาพจิตรวมถึงทีมหมอครอบครัว ผจู้ ดั การดแู ลผสู้ งู อายุ (Care Manerger) ในโรงพยาบาลชมุ ชน รวมทงั้ บคุ ลากรในโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ต�ำ บล มีองคค์ วามรู้ มที กั ษะ และมแี นวทางใหบ้ รกิ ารสง่ เสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ ซึ่งจะ ท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายไุ ดร้ บั การดแู ลทงั้ ดา้ นการเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย การสรา้ งความเบกิ บาน การสรา้ งความสงบในจติ ใจ ตนเอง การปอ้ งกนั สมองเสื่อม การเสริมสรา้ งความรู้สึกมคี ุณคา่ รวมทั้งการเฝา้ ระวังคดั กรองภาวะซมึ เศรา้ การใหส้ ขุ ภาพจติ ศกึ ษา การใหค้ �ำ ปรกึ ษาชว่ ยเหลอื ทางสงั คมจติ ใจ รวมถงึ การไดร้ บั การเยยี่ มบา้ นเพอ่ื ดแู ลทาง สงั คมจติ ใจ ทัง้ ผสู้ งู อายุกล่มุ ท่ีพง่ึ พาตนเองได้ และกลุ่มทต่ี ้องพ่งึ พงิ ระยะยาวรวมถงึ ผ้ดู ูแลในชุมชน กรมสุขภาพจิต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหา สขุ ภาพจติ สงู อายสุ �ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชนและโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดบั ต�ำ บล จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผ้สู งู อายทุ ้งั ที่มารับบริการท่ีคลนิ กิ โรคเร้อื รงั และผู้สูงอายุทอี่ ยูใ่ นชุมชนได้ตอ่ ไป ส�ำ นักสง่ เสรมิ และพัฒนาสขุ ภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ งู อายุ ก ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดับตำ�บล



ค�ำ น�ำ หน้า ก สารบัญ ข บทนำ� 1 บทที่ 2 สขุ ภาพจิตผู้สงู อาย ุ 3 บทท่ี 3 การสง่ เสริมสุขภาพจติ และการปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจิตในผ้สู งู อาย ุ 14 บทท่ี 4 แนวทางการด�ำ เนนิ งานส่งเสรมิ สขุ ภาพจติ และการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตผู้สูงอายุ 18 ในโรงพยาบาลชุมชน บทท่ี 5 แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และการปอ้ งกันปัญหาสุขภาพจิตผสู้ ูงอาย ุ 21 ในชุมชน ภาคผนวก : องค์ความรแู้ ละทักษะทจ่ี �ำ เป็น 24 แนวทางชว่ ยเหลือผ้สู งู อายมุ ีปัญหาสขุ ภาพจิต 25 1. แนวทางการช่วยเหลือเมื่อผสู้ ูงอายทุ ่ีมคี วามเครยี ด 25 2. แนวทางการช่วยเหลือผู้สงู อายทุ ่ีมีความวิตกกังวล 26 3. รู้สกึ วา่ ลูกหลานไม่เคารพ 27 4. รสู้ ึกว่าตนเองถูกลูกหลานทอดทง้ิ 27 5. จู้จข้ี บ้ี ่น 28 6. รูส้ กึ วา่ ตนเองไม่มีคุณค่า 29 7. นอนไม่หลบั 30 กิจกรรมการเสรมิ สรา้ งสขุ 5 มติ ิ 32 การเย่ยี มบา้ นและการดแู ลผู้ป่วยสูงอายทุ บ่ี า้ น 35 (Home Visit and Home Care in Elderly) แบบประเมินโรคซมึ เศรา้ 39 แบบประเมนิ ฆา่ ตัวตาย 8 คำ�ถาม (8Q) 41 บรรณานกุ รม 43 แนวทางการดำ�เนินงานส่งเสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ ูงอายุ ข สำ�หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ตำ�บล



จากสถานการณ์โครงสร้างประชากรผู้สูงอายุที่มีจำ�นวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพบว่าในปี 2557ประเทศไทยมีผสู้ ูงอายทุ ่ีอายุ 60 ปี ขนึ้ ไปมีจำ�นวนมากว่า 10 ลา้ นคน (10,014,699 คน) หรือรอ้ ยละ 14.9 ของประชากรทั้งหมด และในปี 2559 มีจ�ำ นวนถงึ ร้อยละ 16.4 และคาดวา่ ภายใน 6 ปี ประเทศไทย จะเข้าส่สู ังคมสูงวยั อยา่ งสมบรู ณ์ (เกณฑร์ ้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ) ผสู้ งู วัยประสบปัญหาความ ยากลำ�บากในการดำ�รงชีวิตในหลายๆ ด้าน อาทิ เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ โดยพบว่าผู้สูงอายุไทยร้อยละ 26 มพี ฤตกิ รรมสขุ ภาพที่พึงประสงค์ และรอ้ ยละ 95 มปี ญั หาสขุ ภาพได้แก่ โรคความดันโลหิตสงู (41.4%) เบาหวาน (18.2%) ขอ้ เขา่ เส่ือม (8.6%) พิการ (6%) ซึมเศรา้ (1%) ตามล�ำ ดบั (งานวิจัยเชงิ สำ�รวจครงั้ ล่าสดุ ของ HITAP ซึ่งได้ศึกษาวจิ ัยเชิงส�ำ รวจครัวเรือนภาคตดั ขวาง (cross-sectional household survey) โดย พบว่า ผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคมที่เจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง มีความชุกของการเกิดภาวะซึมเศร้าร้อยละ 28.6 นอกจากน้ีผู้สูงอายุในชุมชนเป็นโรคซึมเศร้า ร้อยละ 1 - 5 และพบว่าผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้าน มีภาวะ ซึมเศร้า ร้อยละ 13 ผู้สูงอายุกลุ่มติดเตียงมีอุบัติการณ์การเกิดโรคซึมเศร้า ร้อยละ 22.6 ขณะเดียวกันผล การสำ�รวจสขุ ภาพจิตในผสู้ งู อายุ ด้วยแบบวดั ความสุขฉบบั ส้ัน 15 ขอ้ ผลคะแนนเฉลย่ี ของผสู้ ูงอายตุ าํ่ กว่า คนทว่ั ไป โดยประมาณ 1 ใน 3 ของผู้สงู อายเุ ปน็ ผทู้ ่ีมีความเปราะบางทางจติ ใจ ซึง่ “ความเปราะบางทาง ดา้ นจติ ใจ” มีสาเหตุมาจากปัญหาการเจบ็ ป่วย สมั พนั ธภาพในครอบครวั ความรู้สึกมีคุณค่าในตวั เองลดลง และคา่ นยิ มตอ่ ผสู้ งู อายใุ นสงั คมไทยเปลย่ี นไป และปญั หาสขุ ภาพจติ ทพี่ บบอ่ ยในผสู้ งู อายคุ อื ความวติ กกงั วล โรคซมึ เศรา้ นอนไม่หลบั ภาวะสมองเส่ือม และปญั หาเรอื่ งเพศ จากสภาพการณ์ดังกล่าว การดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุนับว่ามีความสำ�คัญ โดยเฉพาะผู้สูงอายุท่ีมี ปัญหาสุขภาพ เน่ืองจาก ผู้สูงอายุกลุ่มน้ีมีความวิตกกังวล และมีความเครียด บางคนมีความเหนื่อยหน่าย ตอ่ การมารกั ษา และมคี วามร้สู ึกทอ้ แท้ ยง่ิ สง่ ผลต่ออาการและภาวะของโรคเพม่ิ มากข้นึ ดงั น้นั การให้ การ ส่งเสริมสุขภาพจิต การเฝ้าระวังคัดกรองปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงการดูแลทางสังคมจิตใจด้วยการใช้ทักษะ สื่อสาร เพอ่ื ใหผ้ ู้สงู อายุ รบั รู้ เขา้ ใจถงึ ปจั จัยต่างๆ ทางด้านสังคม จติ ใจ ท่มี ีผลต่อภาวการณเ์ จบ็ ปว่ ยที่เกดิ ขน้ึ และสามารถหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของตนเองได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุรับมือกับสภาวะ อารมณ์ สงั คม และ สงิ่ แวดล้อมทีเ่ ปล่ียนแปลงไปได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพม่ิ ขีดความสามารถของสถานบริการ ในการรองรับปญั หาสุขภาพจิตผู้สูงอายุทป่ี ระเทศไทยต้องเผชญิ ในทศวรรษนี้ แนวทางการดำ�เนนิ งานสง่ เสริมสขุ ภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจติ ในผู้สงู อายุ 1 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดับตำ�บล

จากแนวคิดดังกล่าว สำ�นักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต จึงได้จัดทำ�แนวทางการ ดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตสำ�หรับบุคลากรสถานบริการสาธารณสุขเพ่ือใช้ เป็นแนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุท้ังที่มารับบริการที่ สถานพยาบาล และผสู้ งู อายทุ ี่อยู่ในชมุ ชน สง่ ผลให้ผสู้ ูงอายุมีสขุ ภาพดี ทงั้ กายและใจ ต่อไป วัตถุประสงค์การน�ำ ไปใช้ 1. เพ่ือให้บุคลากรสาธาณสุข ใน คลินิก NCD และคลินิกสูงอายุ ในโรงพยาบาลชุมชน ใช้เป็น แนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุท่ีมารับ บรกิ ารท่ี คลินิก 2. เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุข ใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล (รพ.สต.) รวมทั้งทีมหมอ ครอบครัวใช้เป็นแนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ผู้สงู อายุในชุมชน ทั้งผสู้ ูงอายุ ติดบ้าน ตดิ เตยี ง และผู้สูงอายกุ ลมุ่ ตดิ สงั คมในชุมชน ประโยชนข์ องการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ 1. ประโยชน์ตอ่ หนว่ ยงาน มรี ะบบการดแู ลสขุ ภาพผสู้ งู อายอุ ยา่ งมคี ณุ ภาพทคี่ รอบคลมุ กาย ใจ และสงั คมอยา่ งเปน็ องคร์ วม สง่ ผลใหเ้ กดิ ความพึงพอใจ ต่อการให้บรกิ าร 2. ประโยชนต์ อ่ ผู้ปฏบิ ัตงิ าน ผู้ปฏิบตั งิ านมแี นวทางในการดำ�เนนิ งาน มีความรู้ มีทกั ษะในการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกัน ปญั หาสุขภาพจติ ผ้สู งู อายุ ส่งผลใหส้ ามารถดูแลผ้สู งู อายุ ไดอ้ ย่างครอบคลมุ ท้ังกาย ใจ และสังคม 3. ประโยชนต์ ่อผรู้ ับบริการ ผสู้ งู อายทุ มี่ ารบั บรกิ าร ไดร้ บั การดแู ลสขุ ภาพอยา่ งเปน็ องคร์ วมทง้ั กายใจ และสงั คม สง่ ผลใหเ้ ปน็ ผสู้ งู อายมุ สี ขุ ภาพแขง็ แรง ไมม่ ปี ญั หาสขุ ภาพจติ สามารถดแู ลตนเองได้ ด�ำ รงชวี ติ ประจ�ำ วนั ได้ และมคี ณุ ภาพ ชวี ิตท่ดี ี ต่อไป 2 แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ในผ้สู ูงอายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดบั ตำ�บล

ความหมายของผู้สงู อายุ ผู้สูงอายุ คอื บุคคลท่มี อี ายมุ ากกว่า 60 ปีข้ึนไป (พรบ. ผูส้ ูงอายแุ หง่ ชาติ, 2540) มกี ารแบ่ง เกณฑผ์ ู้สงู อายุตามสภาพของการมีอายุเพิม่ ข้ึนในลักษณะของการแบง่ ช่วงอายขุ องประเทศไทย ดังน้ี ผ้สู งู อายุ (Elderly) คอื อายุระหว่าง 60 ปี - 69 ปี คนชรา (Old) คือ อายรุ ะหว่าง 70 - 79 ปี คนชรามาก (Very old) คือ อายตุ ง้ั แต่ 80 ปี ข้นึ ไป ธรรมชาติผสู้ งู อายุ ผ้สู ูงอายจุ ะมีการปรับและพัฒนาองคป์ ระกอบจติ ใจระดบั ต่างๆ กนั ไป โดยท่วั ไปจะมีการปรบั ระดบั จติ ใจในทางทดี่ งี ามมากขนึ้ สามารถควบคมุ จติ ใจไดด้ กี วา่ จงึ พบวา่ เมอื่ คนมอี ายมุ ากขน้ึ จะมคี วามสขุ มุ มากขนึ้ ดว้ ย ผสู้ งู อายมุ ลี กั ษณะของโครงสรา้ งทางจติ ใจเฉพาะเปน็ ของตนเอง ซง่ึ จะเปน็ รากฐานของการแสดงออกของ คน แต่ลักษณะการแสดงออกข้นึ อยูก่ บั ปัจจยั ต่างๆรว่ มด้วย ได้แก่ บุคลกิ ภาพเดมิ การศึกษา ประสบการณ์ สภาพสังคมในวัยเด็ก อยา่ งไรก็ดมี กั พบบอ่ ยๆ ว่าผสู้ ูงอายจุ ะมปี ญั หาทางด้านสงั คมและจติ ใจซ่งึ เป็นการปรับ ตัวเชงิ ลบ และการเปลยี่ นแปลงทเ่ี ห็นได้ชัดเจน แบ่งได้ 3 ดา้ น ได้แก่ การเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย ทาง ด้านสังคม และทางด้านจิตใจ ดังนี้ 1. การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จำ�แนกออกตามระบบของรา่ งกายได้ดังน้ี (สุทธิชัย จติ ะพันธ์กุล, 2542) 1.1 ระบบคุ้มกัน พบว่ามีการฝ่อของต่อมธัยมัส (thymus) ทำ�ให้ธัยมิคแฟคเตอร์ (thymic factor) ซ่งึ เปน็ ตัวสร้างภมู คิ ุ้มกันของร่างกายลดน้อยลง จงึ มักพบว่าผสู้ ูงอายจุ ะมีอาการตดิ เชือ้ ง่าย และมี อุบัตกิ ารณข์ องมะเร็งในวัยชราสงู เนอื่ งจากเซลล์กำ�จดั เชื้อโรคตามธรรมชาติลดลง 1.2 ผวิ หนงั พบวา่ ความหนาแนน่ และจ�ำ นวนเซลลใ์ นชนั้ หนงั แทล้ ดลงท�ำ ใหผ้ วิ หนงั เปราะบาง แหง้ เปน็ ขยุ งา่ ย หรอื เมอ่ื โดนแสงแดดนานๆ จะท�ำ ใหเ้ กดิ มะเรง็ ผวิ หนงั ไดง้ า่ ย แตใ่ ยคอลลาเจน และใยอลี าสตกิ ซง่ึ เปน็ ความยดื หยนุ่ ของเสน้ เลอื ด กลบั แขง็ หนาเพมิ่ ขน้ึ จงึ มกั พบพรายยา้ํ (ผน่ื แดงเปน็ จ�้ำ เลอื ดออก) ทีผ่ วิ หนงั ผูส้ ูงอายไุ ด้บ่อย 1.3 ตา พบวา่ ไขมนั รอบดวงตาและหนงั ตามปี รมิ าณลดลง เกดิ หนงั ตาตก ขอบหนงั ตามว้ นเขา้ หรอื ขอบ หนงั ตามว้ นออกง่าย นอกจากนย้ี งั เกิดการหนาตัวและแข็งขน้ึ ของเลนซต์ ามผี ลต่อสายตา หรือการ ขนุ่ มวั ของกระจกตาหรอื การเกดิ ตอ้ กระจกมากขน้ึ นอกจากนี้ เซลลร์ บั แสงลดลงเปน็ ผลใหค้ วามไว ตอ่ แสงของจอตาลดลงท�ำ ใหม้ องเห็นในความมดื ลดลง ทำ�ใหเ้ กดิ พลัดตกหกลม้ งา่ ยข้นึ แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสริมสุขภาพจติ และปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจติ ในผู้สงู อายุ 3 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดับตำ�บล

1.4 การได้ยินและการควบคุมการทรงตัว พบว่ามีการเส่ือมของเซลล์ขนบริเวณส่วนฐานของโคเคลีย (cochlea) และเซลลป์ ระสาทบรเิ วณ spiral ganglia ท�ำ ใหก้ ารไดย้ นิ ลดลง ความสามารถในการรบั ฟงั เสยี งความถสี่ งู ลดลง การแยกค�ำ แยล่ ง และการก�ำ หนดต�ำ แหนง่ ทมี่ าของเสยี งลดลงจงึ มกั พบวา่ ผสู้ งู อายจุ ะสญู เสยี การไดย้ นิ โดยเฉพาะเสยี งทมี่ คี วามถสี่ งู หรอื หตู งึ นอกจากนยี้ งั มกี ารเปลย่ี นแปลง ของจ�ำ นวนเซลลป์ ระสาทเวสตบิ ลู าร์ (vestibular nerve) ซง่ึ ใชใ้ นการควบคมุ การทรงตวั จงึ มกั พบ วาผสู้ งู อายจุ ะมปี ญั หาเรอ่ื งการควบคมุ การทรงตวั นอกจากนเ้ี ซลลป์ ระสาทเวสตบิ ลุ ารท์ ลี่ ดนอ้ ยลง ยังเป็นปัจจยั หน่งึ ท่ีท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายมุ ีอาการมนึ งง (dizziness) และอาการบา้ นหมุน (vertigo) งา่ ย กวา่ คนอายนุ อ้ ย 1.5 ระบบการรบั รสและการดมกลน่ิ พบวา่ ตมุ่ รบั รสมจี �ำ นวนลดลง ซง่ึ จะท�ำ ใหก้ ารไวตอ่ การรบั รสลด ลง โดยความไวของตมุ่ รับรสจะลดลงตามลำ�ดับคอื รสเค็ม รสขม รสเปรี้ยว รสหวาน นอกจากนี้ เซลล์เยอื่ บแุ ละเซลล์ประสาทท่ีเกี่ยวข้องกบั การดมกล่นิ จะมจี ำ�นวนลดลงเมอื่ อายุ 60 ปเี ปน็ ตน้ ไป จึงพบวา่ ผสู้ ูงอายจุ ะรับประทานอาหารทีม่ รี สเค็มจดั การไม่ไดก้ ลิน่ แกส๊ หุงตม้ เมือ่ เกดิ แก๊สรั่ว เบือ่ อาหารเพราะไมไ่ ด้กลนิ่ เป็นตน้ 1.6 การรับความร้สู กึ ตามรา่ งกาย พบวา่ Meissner corpuscle (เซลล์ทป่ี ลายประสาทใต้ช้ันผิวหนัง ท�ำ หนา้ ทร่ี บั ความร้สู กึ ชนิดสัมผัสเบา ๆ และแยกจุดสัมผัสได)้ และ Pacinion corpuscle (เซลล์ ทีป่ ลายประสาทใตช้ น้ั ผิวหนงั ทำ�หน้าท่ีรับความรูส้ ึกตอ่ แรงกดและแรงส่ันสะเทือน) มีคุณภาพและ จ�ำ นวนลดลง รวมทงั้ จะเคลอื่ นหา่ งจากชน้ั หนงั ก�ำ พรา้ มากขนึ้ มกั พบวา่ ผสู้ งู อายจุ ะมคี วามไวในการ รบั ความรสู้ กึ เจบ็ ปวด อณุ หภมู ิ สมั ผสั และการสน่ั เทาของรา่ งกาย ลดลงมาก นอกจากนคี้ วามไวตอ่ การรบั ความรสู้ กึ ทซี่ บั ซอ้ นลดลงไดแ้ ก่ ความสามารถในการรบั รตู้ �ำ แหนง่ ทต่ี า่ งกนั ความสามารถใน การรบั รวู้ ตั ถุ และความสามารถรบั รสู้ ว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย จงึ พบวา่ ผสู้ งู อายจุ ะมอี าการชาบรเิ วณ สว่ นปลายของรา่ งกายโดยเฉพาะปลายมอื ปลายเทา้ เมอ่ื ถกู ของมคี มบาดหรอื มบี าดแผลจงึ ไมค่ อ่ ย รู้สกึ 1.7 สมองและไขสนั หลงั พบว่าสมองมีนํา้ หนกั ลดลงประมาณรอ้ ยละ 6-11 และจำ�นวนเซลลค์ วบคมุ กล้ามเนื้อของไขสันหลังมีจำ�นวนลดลงเม่ือเข้าสู่วัยชรา อาจมีการลดลงถึงร้อยละ 50 นอกจากน้ี ยังมกี ารลดลงของโปรตนี อะไมลอยด์ (amyloid protein) ส่งผลใหเ้ กิดการผดิ ปกตขิ องการสรา้ ง การหล่ังของสารส่อื น�ำ ประสาท โดยเฉพาะสารโดปามนี (dopamine) ซง่ึ ส่งผลต่อการนอนหลับ การเคลื่อนไหวและการทรงตัวได้ จะเหน็ ว่าผู้สงู อายจุ ะมีท่าเดนิ ทก่ี า้ วสนั้ ๆ และชา้ ลง หรือเทา้ ทั้ง สองข้างแตะพ้นื พรอ้ มกนั ในขณะเดินเป็นระยะเวลานาน หลงั งอ ตวั เอนไปข้างหน้า แขนกางออก และแกวง่ นอ้ ย เวลาหมนุ ตวั เลยี้ วจะแขง็ และมกี ารบดิ ของเอวนอ้ ย ดคู ลา้ ยกบั การหมนุ ไปพรอ้ มกนั ทง้ั ตวั (en block turn) ทำ�ให้ผ้สู งู อายุเส่ยี งต่อการหกลม้ และความพยายามในการยึดจับสง่ิ ของ ใกล้เคียงกจ็ ะช้าลงจากสารส่อื นำ�ประสาทดังกลา่ ว นอกจากนีจ้ ะพบวา่ ผู้สูงอายุจะมีความสามารถ ในการจำ�ลดลงจากการฝอ่ ของสมอง บางรายอาจนำ�ไปส่กู ลุ่มอาการสมองเสื่อมได้ 4 แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสริมสขุ ภาพจติ และปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจิตในผสู้ งู อายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพระดับตำ�บล

1.8 ระบบหัวใจและหลอดเลือด พบว่า ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลงโดยเฉพาะหลอดเลือด เอออต้า (aorta) ท�ำ ใหค้ วามดนั โลหิตซสิ โตลิคมีแนวโนม้ เพิม่ สงู ขึ้น กล้ามเนือ้ หัวใจเสื่อม ลิ้นหวั ใจ เอออรต์ กิ เคลอื่ นไหวไดล้ ดลงท�ำ ใหเ้ กดิ เสยี ง systolic ejection murmur เบาๆในผสู้ งู อายุ นอกจาก น้อี าจมีการจบั เกาะของแคลเซยี มท่ีล้นิ หัวใจไมทรลั ท�ำ ใหเ้ กิดเสยี ง pansystolic murmur ได้ จงึ มักพบว่าผู้สูงอายุจะมีปัญหาเร่ืองการเต้นของหัวใจเพ่ือตอบสนองต่อการออกกำ�ลังกายมีแนวโน้ม ลดลงเม่อื อายุมากข้นึ จึงเปน็ ผลให้ผูส้ งู อายุออกกำ�ลังกายได้ลดลง รวมทง้ั ภาวะความดันโลหติ ตก เมื่อเปลีย่ นท่าโดยเฉพาะผสู้ งู อายุที่มโี รคความดันโลหติ สงู หรอื หกลม้ บอ่ ยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ 1.9 ระบบทางเดินหายใจ พบว่าอายุมากขึ้นจะพบแคลเซียมจับบริเวณหลอดลมและกระดูกอ่อนของ ซ่โี ครง มกี ารยดึ ตวั ของข้อต่อของกระดูกบริเวณหน้าอก (costovertebral และ costochondral) มากขนึ้ และมวลกลา้ มเนอื้ ทรวงอกลดลง มกี ารโคง้ งอของหลงั (หลงั โกง) ท�ำ ใหเ้ สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางแนว หน้าหลังของทรวงอกเพมิ่ ขนึ้ นอกจากนี้ผนังถงุ ลมจะบางลง ยดื หยนุ่ ไม่ดี หลอดลมเล็กๆจะปดิ เรว็ ข้นึ ทำ�ใหก้ ารระบายอากาศไม่ดี และการสรา้ งแอนติบอดีแ้ ละระบบภมู คิ ุ้มกันชนิดเซลล์ดอ้ ยลง มัก พบวา่ ผสู้ งู อายจุ ะเหนื่อยงา่ ยข้นึ และความทนลดลงในระหว่างออกกำ�ลังกาย รวมท้งั มกี ารตดิ เชอ้ื ในระบบทางเดนิ หายใจงา่ ยข้นึ 1.10 ระบบต่อมไร้ท่อ พบว่าต่อมไร้ท่อต่างๆมีน้ําหนักลดลง มีลักษณะของการฝ่อปรากฏเม่ืออายุมาก ขน้ึ นอกจากนย้ี งั มลี ดลงของการตอบสนองตอ่ ฮอรโ์ มน และรเี ซปเตอรท์ เี่ หน็ ไดช้ ดั เจนคอื การลดลง ของไทรอยดฮ์ อรโ์ มน และการหลง่ั อนิ ซลู นิ สง่ ผลใหค้ วามทนตอ่ นาํ้ ตาลกลโู คสลดลงเมอ่ื อายมุ ากขน้ึ และนาํ้ ตาลในเลอื ดสงู เม่อื เจ็บปว่ ย นอกจากน้ียังพบการเปลยี่ นแปลงของฮอร์โมน aldosterone หรือ epinephrine เป็นตน้ ส่งผลใหก้ ารตอบสนองของรา่ งกายตอ่ ภาวะเครียดทร่ี ุนแรงเม่อื เกดิ สิ่ง กระตุ้นให้เครยี ด หรอื หงดุ หงิด 1.11 ระบบสืบพันธ์ุ พบว่าในเพศหญิงเมื่อหมดประจำ�เดือน อวัยวะเพศภายนอกมีลักษณะฝ่อ เซลล์ ที่บผุ ิวมคี วามยดื หย่นุ ลดลง ตอ่ มเมอื กหลง่ั นา้ํ เมอื กลดลง นํา้ หนักของมดลกู ลดลง ปกี มดลกู เลก็ ลง และ รังไข่ฝ่อไป การท่ีฮอร์โมนเพศลดลง เป็นผลให้หญิงในวัยหมดประจำ�เดือนมีอาการทางกาย และจติ ใจ นอกจากนยี้ งั มปี ญั หากระดกู พรนุ จากการขาดฮอรโ์ มนเพศทช่ี ว่ ยในการดดู ซมึ แคลเซยี ม สรู่ า่ งกายขณะทเี่ พศชายนา้ํ หนกั ของลกู อณั ฑะลดลง มกี ารฝอ่ ของทอ่ ในการสรา้ งนาํ้ อสจุ ิ การสรา้ ง และคุณสมบัติของอสุจิลดลง ฮอร์โมนเพศชายน้อยลงทำ�ให้มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และ ปัญหาเส่อื มสมรรถนะทางเพศ 1.12 ไตและระบบทางเดินปัสสาวะ พบว่า ขนาดของไตและจำ�นวนเลือดท่ีไปเลี้ยงไตมีปริมาณลดลง แต่มีการหนาตัวของเย่ือบุผนัง (Basement membrane) เพิ่มขึ้น และใยคอลลาเจนบริเวณ เส้นเลือดบริเวณตัวกรองของท่อหน่วยไตเพิ่มข้ึน ส่งผลให้การทำ�งานของไตลดลงราวร้อยละ 50 เมือ่ อายุ 60 ปีเปน็ ต้นไป นอกจากนีใ้ นเพศหญิงจะมีการหยอ่ นตวั ของผนงั มดลูกและผนังกระเพาะ ปัสสาวะส่วนล่าง ส่วนเพศชายกล้ามเน้ือของกระเพาะปัสสาวะก็จะอ่อนตัวและเย่ือบุผนังด้านใน ของทอ่ ปสั สาวะฝอ่ ลงเชน่ กัน ทำ�ให้มีปญั หาเรอื่ งการปสั สาวะ แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสริมสุขภาพจิตและปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจิตในผสู้ งู อายุ 5 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ตำ�บล

1.13 ระบบทางเดนิ อาหาร พบวา่ ฟนั เกดิ การกรอ่ น รากฟนั เปราะแตกงา่ ยขน้ึ การยดึ เกาะของฟนั ดอ้ ยลง หลดุ รว่ งงา่ ย เยอ่ื บผุ วิ ในชอ่ งปากบางลงและฝอ่ เชน่ เดยี วกบั ตมุ่ รบั รส นอกจากนยี้ งั มกี ารท�ำ งานทไ่ี ม่ ประสานกนั ของรอยตอ่ ระหวา่ งกลา้ มเนอื้ ลายกบั กลา้ มเนอ้ื เรยี บของหลอดอาหาร การหดรดั ตวั ของ หลอดอาหารเป็นวงทำ�ให้เกิดอาการกลืนลำ�บากหรือสำ�ลักได้บ่อย ทำ�ให้ติดเชื้อในทางเดินอาหาร ได้ง่าย นอกจากน้ีกระเพาะอาหารบางลง ระบบการย่อยอาหารประเภทไขมันจะใช้การผ่านไปท่ี ลำ�ไส้นานข้ึนทำ�ให้ผู้สูงอายุเกิดอาการของโรคกระเพาะอาหารได้บ่อยหลังรับประทานอาหารมัน ส่วนล�ำ ไสใ้ หญจ่ ะมกี ลา้ มเน้อื ในผนงั ลำ�ไส้บางลง และฝอ่ การบบี ตัวลดลง การหดตวั ของกล้ามเนื้อ หูรูดตรงปากทวารหนักน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำ�ให้เกิดปัญหาเร่ืองท้องผูก หรือปัญหาการกลั้น อจุ จาระไม่ไดเ้ พ่ิมสูงขน้ึ 1.14 ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก พบว่าทั้งเพศหญิงและเพศชายการสลายของกระดูกจะมีมากกว่า การสร้างมวลกระดกู ทำ�ให้มวลกระดูกลดลง จะมีการลดลงของมวลกระดูกราวรอ้ ยละ 2 - 4 ตอ่ ปี สำ�หรับผ้หู ญิงหลังหมดประจำ�เดอื นใน 5 ปแี รก โดยเฉพาะกระดกู ชน้ิ ใหญ่ เชน่ สะโพก สนั หลงั ข้อ ต่างๆ นอกจากน้ีทั้งสองเพศกล้ามเน้ือร่างกายจะมีเซลล์ไขมันและเน้ือเยื่อเกี่ยวพันมากขึ้น ทำ�ให้ กล้ามเนือ้ ลายมคี วามแข็งแกร่งนอ้ ยลง ขณะเดียวกนั เสน้ ประสาทและรอยต่อของเสน้ ประสาทกบั กลา้ มเน้อื ลายลดลง ทำ�ให้กลา้ มเนอ้ื เกร็งตวั ไมไ่ ดน้ านเมื่อเทียบกบั คนอายุน้อย 1.15 องคป์ ระกอบทว่ั ไปของรา่ งกายและระบบโลหติ พบวา่ นาํ้ หนกั รา่ งกายและความสงู ลดลงเนอ่ื งจาก การยุบตัวลงของหมอนรองกระดกู ภาวะ Metabolism ทีท่ �ำ หน้าท่เี ผาผลาญอาหารทำ�งานได้ลด ลง ท�ำ ใหเ้ กดิ การสะสมของไขมนั โดยเฉพาะหนา้ ทอ้ งและภายในชอ่ งทอ้ ง รวมทงั้ การสรา้ งและเกบ็ ความรอ้ นลดลง จะพบวา่ ผสู้ งู อายทุ นทานตอ่ ความเยน็ ลดลง เมอ่ื อยใู่ นทอี่ ณุ หภมู ติ า่ํ โดยอณุ หภมู ทิ ่ี ผวิ หนงั ของผู้สงู อายจุ ะลดลงอยา่ งรวดเรว็ เม่ือจับดูจะร้สู กึ ว่าผวิ หนังของผู้สงู อายจุ ะเย็น 2. การเปล่ียนแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม 2.1 การปลดเกษยี ณหรือการออกจากงาน (สุจรติ สุวรรณชพี , 2554) ก่อนเกษียณงานคือภาระหน้าท่ีท่ีต้องแบกไว้ แต่เมื่อเกษียณการได้ทำ�งานกลับเป็นความรู้สึก ตรงขา้ ม การท�ำ งานกลายเปน็ สง่ิ ทม่ี คี ณุ คา่ ยงิ่ ไดร้ บั การยอมรบั ใหท้ �ำ งานตอ่ กลายเปน็ สง่ิ ทผ่ี สู้ งู อายุ โหยหาเพราะการท�ำ งานท�ำ ใหบ้ คุ คลมคี วามมน่ั คง มศี กั ดศิ์ รี พง่ึ พาตนเองไดแ้ สดงถงึ ความสามารถ ศกั ยภาพของตนเอง การปลดเกษยี ณหรอื ออกจากงานจงึ เปน็ เรอ่ื งทส่ี �ำ คญั ถา้ เปน็ การเปลย่ี นแปลง แบบคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไปโดยการทผี่ สู้ งู อายคุ อ่ ยๆถอยตวั เองออกจากงานและเปน็ ไปดว้ ยความสมคั รใจ จะมีผลทางด้านจิตสังคมไม่มากนัก แต่ในทางตรงกันข้ามหากเกิดขึ้นแบบทันทีทันใด หรือบุคคล นน้ั ยงั ยดึ ตดิ กบั งานจะทำ�ให้บคุ คลปรับตัวไมท่ นั เกิดความเครยี ด ไมม่ ีความสขุ และเกดิ ความรสู้ ึก สญู เสยี ได้ ซ่ึงอธิบายไดด้ ังนค้ี ือ 6 แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ในผ้สู งู อายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดบั ต�ำ บล

2.1.1 สญู เสยี สถานภาพและบทบาททางสงั คมจากทเ่ี คยเปน็ บคุ คลทมี่ บี ทบาทและต�ำ แหนง่ ตา่ งๆ มากมาย เปน็ ผนู้ �ำ มคี นเคารพนบั ถอื ในสงั คม เปลยี่ นเปน็ สมาชกิ คนหนงึ่ ของสงั คม มบี ทบาท ลดลงทำ�ให้สูญเสียความมั่นคงของชีวิตและรู้สึกว่าตนเองหมดความสำ�คัญในสังคม อยู่ใน สภาวะท่ีไร้คุณค่า สูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง ทำ�ให้ผู้สูงอายุมีภาพลักษณ์ท่ีไม่ดีต่อ ตนเอง (Poor Self-Image) หรอื ร้สู ึกว่าตนเองก�ำ ลังเร่มิ เป็นภาระของครอบครวั 2.1.2 สูญเสียการสมาคมกับเพื่อนฝูง เมื่อปลดเกษียณโอกาสที่ผู้สูงอายุจะสมาคมกับเพื่อนฝูง ลดลง เนอ่ื งจากปัญหาทางดา้ นร่างกาย เชน่ มีโรคประจำ�ตวั ทำ�ให้ช่วยตนเองได้น้อย การ เคลื่อนไหวเชอ่ื งชา้ ทำ�ให้ไมส่ ะดวกในการเดนิ ทาง เป็นต้น นอกจากน้ีปญั หาทางด้านจติ ใจ และการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ ก็มสี ่วนท�ำ ใหผ้ ู้สูงอายสุ มาคมกับเพ่ือนฝงู ลดลง 2.1.3 สญู เสยี สภาวะทางการเงนิ ทด่ี ี เนอื่ งจากขาดรายไดห้ รอื รายไดล้ ดลง ขณะทค่ี า่ ครองชพี กลบั สงู ขึน้ เรื่อยๆ อาจท�ำ ให้ผสู้ งู อายุมีปญั หาในการดำ�รงชพี 2.1.4 แบบแผนการด�ำ เนนิ ชวี ติ เปลย่ี นแปลงไปเพราะไมต่ อ้ งออกจากบา้ นไปท�ำ งานท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายุ ต้องปรบั เปลยี่ นแบบแผนการดำ�เนนิ ชวี ติ ของตนเองใหม่ ขาดความคุน้ เคย เกิดความร้สู ึก อึดอดั ใจ เกดิ ความเครยี ด 2.2 การเปลยี่ นแปลงของสังคมครอบครัว (ศรเี รอื น แกว้ กงั วาน, 2538) ปจั จุบันสังคมไทยเปน็ สังคมเดย่ี วมากข้ึน เมอ่ื ลูกโตขนึ้ กจ็ ะแตง่ งานแยกครอบครัวออกไป หรอื ในชนบทกจ็ ะออกไปประกอบอาชพี ตา่ งถนิ่ ท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายตุ อ้ งอยกู่ นั ตามล�ำ พงั ถกู ทอดทง้ิ และขาด ท่พี ่งึ โดยเฉพาะในรายท่ฐี านะทางเศรษฐกจิ ไม่ดี ปัญหาของผูส้ งู อายุก็จะมมี ากขึ้น นอกจากนก้ี าร ตายจากไปของคูค่ รองจะท�ำ ให้ผูส้ ูงอายุทยี่ งั มีชวี ิตต้องประสบกับความเหงาที่ค่อนข้างรุนแรง หรือ การตายจากของคนวยั เดยี วกนั ท�ำ ใหร้ สู้ กึ หดหู่ เศรา้ หมอง รวมทงั้ ขาดรายได้ (ในเพศหญงิ ) หรอื ขาด คนปรนนบิ ตั ิ (ในเพศชาย) และขาดการตอบสนองทางเพศ ประกอบกบั ผสู้ งู อายสุ ว่ นใหญม่ กั มคี วาม ผกู พนั กบั สง่ิ แวดลอ้ มทอี่ ยอู่ าศยั และสงั คมชมุ ชนทเี่ คยชนิ ไมอ่ ยากเปลย่ี นแปลงหรอื ลดบทบาทตวั เองจากหวั หนา้ ครอบครวั ไปเปน็ สมาชกิ ครอบครวั จงึ ไมอ่ ยากจากบา้ นไปอยรู่ วมกบั ครอบครวั ของ ลกู หลาน ซงึ่ อาจเกดิ ปญั หาการไมใ่ หเ้ กยี รตกิ นั ขาดความเคารพนบั ถอื ขาดความสนใจ และเกอื้ กลู ต่อกัน ดังนั้นผู้สูงอายุจึงจ�ำ เป็นต้องพึ่งพาตนเองมากข้ึน ในรายท่ีไม่สามารถท�ำ ได้และจ�ำ เป็นต้อง พึง่ พาผอู้ ่ืนอาจทำ�ใหเ้ กิดความกดดันทางดา้ นจิตใจ เกิดความรสู้ กึ เหงา วา้ เหว่ เดียวดาย และไมม่ ี ศกั ดิศ์ รี 2.3 การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกจิ และสังคม สงั คมไทยมกี ารเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็วจากสงั คมเกษตรกรรมเป็นสงั คมอุตสาหกรรม ความ เจรญิ ก้าวหน้ามมี ากขึน้ จากข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปี พ.ศ. 2551 (อา้ งถงึ ใน อมรา สุนทรธาดา และสพุ ตั รา เลิศชยั เพชร, 2552) พบวา่ ปจั จบุ นั มโนทศั นข์ องคนส่วนใหญต่ อ่ ผสู้ งู อายเุ ปลยี่ นแปลงไป คนสว่ นใหญย่ ดึ ถอื ดา้ นวตั ถนุ ยิ ม วดั คณุ คา่ ของคนโดยอาศยั ความสามารถ แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิตในผู้สงู อายุ 7 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดับต�ำ บล

ในการท�ำ งานหาเงนิ ดงั นนั้ ลกู หลานเรมิ่ มเี จตคตติ อ่ ผสู้ งู อายเุ ปลย่ี นไป ผสู้ งู อายมุ คี ณุ คา่ ลดลงเพราะ ไม่ตอ้ งพงึ่ พาการถ่ายทอดความรู้ อาชีพ และประสบการณเ์ หมือนในอดีต ท�ำ ใหผ้ ้สู งู อายถุ ูกมองว่า ขาดคุณค่า ขาดความสามารถ มีความคิดไมท่ ันสมยั สขุ ภาพออ่ นแอ ท�ำ ใหผ้ สู้ ูงอายุเกดิ ความรู้สกึ ไมม่ นั่ คงปลอดภยั กลายเปน็ คนทตี่ ้องอาศยั ผอู้ ่นื มากขึน้ อยา่ งไรกต็ ามภาวะเหล่านข้ี น้ึ อยกู่ ับความ สามารถของผสู้ งู อายแุ ตล่ ะรายในการเผชญิ กบั ปญั หา ปรชั ญาในการด�ำ เนนิ ชวี ติ ความเชอ่ื ความหวงั ความรู้สึกมีคุณค่ามีศักด์ิศรีของตนเอง และความรู้สึกปลอดภัยในสังคม ในรายท่ีแรงกดดันมากๆ และไม่สามารถปรับตัวได้ บุคลิกภาพจะเสียไป กลายเป็นภาระต่อสังคม ก่อให้เกิดปัญหาทางจิต อาจท�ำ ร้ายตัวเอง และผอู้ นื่ ได้ 2.4 การเปล่ียนแปลงทางวฒั นธรรม (สถาบนั พัฒนบรหิ ารศาสตร์, 2553) ปจั จบุ นั วฒั นธรรมไทยเปลยี่ นแปลงเปน็ วฒั นธรรมทางตะวนั ตกมาขน้ึ ขณะทผ่ี สู้ งู อายยุ งั มคี วาม คดิ เหน็ ที่คงที่ ยดึ มน่ั กบั คตนิ ิยมของตนเอง ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวัฒนธรรมด้ังเดมิ ซงึ่ เปน็ ผลมาจากความสามารถในการเรยี นรแู้ ละความจ�ำ เกย่ี วกบั สงิ่ ใหมๆ่ ลดลง แตย่ งั สามารถจ�ำ เรอื่ งราว เกา่ ๆ ซงึ่ เป็นสงิ่ ทป่ี ระทับใจได้ดี จงึ ท�ำ ใหผ้ ู้สงู อายเุ กดิ การตอ่ ตา้ นความคิดใหม่ๆ ก่อให้เกดิ ชอ่ งว่าง ระหวา่ งวยั มากขน้ึ ผสู้ งู อายกุ ลายเปน็ คนลา้ สมยั จจู้ ข้ี บ้ี น่ นอ้ ยใจงา่ ย ท�ำ ใหล้ กู หลานไมอ่ ยากเลย้ี งดู กลายเป็นส่วนเกนิ ของครอบครัว ผู้สงู อายจุ ึงแยกตวั เองและเกดิ ความรสู้ ึกเบอ่ื หน่าย ท้อแท้ ไมม่ ี ความสขุ 3. การเปล่ียนแปลงทางด้านอารมณแ์ ละจิตใจ (สมภพ เรืองตระกูล, 2547) การเปลย่ี นแปลงสภาพรา่ งกายและสงั คม มผี ลโดยตรงตอ่ สภาพจติ ใจของผสู้ งู อายุ การมองรปู ลกั ษณ์ ของตนเอง และมโนทัศน์ต่อตนเองจะเปล่ียนแปลงไป ผู้สูงอายุจะปรับสภาวะทางจิตใจและอารมณ์ไป ตามการเปล่ียนแปลงของร่างกาย และส่ิงแวดล้อมโดยอัตโนมัติ เป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ทางจิตใจ อยา่ งต่อเน่ือง ผู้สูงอายุจะมีการปรับและพัฒนาโครงสร้างขององค์ประกอบจิตใจระดับต่างๆกันไป โดยทั่วไปจะ มกี ารปรับระดับจิตใจในทางท่ีดีงามมากขึ้น สามารถคุมจติ ใจไดด้ กี วา่ จึงพบวา่ เม่ือคนมอี ายมุ ากข้ึนจะมี ความสขุ มากขน้ึ ดว้ ย ผสู้ งู อายมุ ลี กั ษณะของโครงสรา้ งทางจติ ใจเฉพาะเปน็ ของตนเอง ซง่ึ จะเปน็ รากฐาน ของการแสดงออกของคน แต่ลักษณะการแสดงออกขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆร่วมด้วย ได้แก่ บุคลิกภาพ เดิม การศึกษา ประสบการณ์ สภาพสงั คมในวยั เด็ก อย่างไรก็ดีมกั พบบ่อยๆว่าผู้สูงอายุจะมีความเครียด เนอื่ งจากโรคทางกายแบบเฉยี บพลนั และเรอื้ รงั การสญู เสยี อาชพี การงาน มกี ารเสยี ชวี ติ ของบคุ คลผเู้ ปน็ ทร่ี ัก และความเหงาโดดเดีย่ วเนือ่ งจากการขาดคนดแู ล มกี ารอธบิ ายลกั ษณะการเปล่ยี นแปลงทางอารมณ์และจติ ใจของผู้สงู อายุไว้ ดังนี้ 3.1 ด้านบุคลิกภาพ (Personality) บุคลิกภาพของบุคคลมีพื้นฐานมาจากวัยเร่ิมต้นของชีวิตโดยมี พฒั นาการทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คมและสตปิ ญั ญาเปน็ สว่ นประกอบทสี่ �ำ คญั และอรี คิ สนั เชื่อว่าบุคลิกภาพต้องมีการพัฒนาตลอดเวลาและตลอดชีวิต ในวัยสูงอายุบุคลิกภาพมักไม่ต่างไป 8 แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสริมสุขภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ต�ำ บล

จากเดิม แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทางด้านบุคลิกภาพในวัยสูงอายุ อีริค อิริคสัน (Erik Erikson) เชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากการเปล่ียนแปลงของอัตมโนทัศน์ การยอมรับของสังคม สถานการณ์ท่ี เกดิ ขึ้น และการรับรู้ (อ้างถึงใน ลกั ขณา สรวิ ฒั น,์ 2544) Neugarten (1964) ไดแ้ บง่ บคุ ลิกภาพ ของผสู้ งู อายไุ ว้ 4 แบบ ไดแ้ ก่ 3.1.1 บคุ ลกิ แบบผสมผสาน (Integrated personalities) ซึ่งเปน็ บุคลิกภาพที่ดีสามารถพบได้ ในผูส้ ูงอายุ ไดแ้ ก่  แบบ Reorganizer คอื ผู้สูงอายทุ ค่ี ้นหากจิ กรรม เพอ่ื ปรับปรงุ ความสามารถดง้ั เดมิ ท่ี หายไป มกี ารท�ำ กิจกรรมประจำ�วนั และพงึ พอใจต่อชวี ิตค่อนข้างมาก  แบบ Focused คอื ผสู้ ูงอายทุ ่มี ีกจิ กรรมและระดับความพึงพอใจต่อชีวติ ปานกลาง  แบบ Disengaged คือผู้สูงอายุท่ีถดถอยตนเองออกจากสังคม มีกิจกรรมน้อยแต่พึง พอใจตอ่ ชวี ติ ท่ตี นเองไดเ้ ลอื กแล้ว 3.1.2 บุคลกิ แบบตอ่ ตา้ น (Defended personalities) แบง่ เปน็ 2 แบบดงั นี้  แบบ Holding on คอื ผสู้ งู อายุทีเ่ กลยี ดกลวั ความชรา พยายามยดึ รูปแบบบุคลิกภาพ ของตนในวัยกลางคนไว้ และมคี วามพงึ พอใจในระดบั สงู ตอ่ การยึดถอื เช่นน้ี  แบบ Constricted คือ ผู้สูงอายุท่ีเกลียดกลัวความชรา ชอบจำ�กัดบทบาทและ พฤติกรรมของตนเอง จะมคี วามพงึ พอใจสูงถ้าได้ท�ำ ตามบทบาททต่ี นเองตอ้ งการ 3.1.3 บคุ ลกิ แบบเฉยชา และพึง่ ผ้อู น่ื (Passive-dependent personalities) แบ่งเปน็  แบบ Succurance seeking คอื ผสู้ งู อายทุ ต่ี อ้ งพง่ึ พาผอู้ นื่ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการ ด้านอารมณข์ องตนเอง  แบบ Apathy คอื ผสู้ งู อายทุ ไี่ มส่ นใจใยดสี ง่ิ แวดลอ้ ม มกี จิ กรรมนอ้ ย มพี ฤตกิ รรมเฉยชา มีความพงึ พอใจตอ่ ชวี ติ ต่ํา 3.1.4 บคุ ลกิ ภาพแบบขาดการผสมผสาน (Disintegrated and disorganized personalities) คือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถปรับตัวให้ยอมรับความชราของตนได้ ขาดการควบคุมอารมณ์ มีการบกพร่องด้านความคิดอ่าน และสภาวะจิตใจอย่างเห็นได้ชัด มีพฤติกรรมและความ พึงพอใจในชีวิตระดบั ตํา่ 3.2 ด้านการเรียนรู้ (Learning) เม่อื เข้าสวู่ ยั สงู อายกุ ารเรียนร้จู ะลดลงมากโดยเฉพาะหลงั อายุ 70 ปี แมก้ ารเรียนร้ขู องผู้สูงอายุจะลดลง แต่ก็ยงั สามารถเรียนร้สู งิ่ ใหมๆ่ ได้ ถา้ การเรยี นรูน้ ั้นสัมพนั ธก์ บั ประสบการณ์เดิมท่ีผ่านมา ระยะเวลาที่ใช้ในการเรียนรู้และความต้ังใจจริงของผู้สูงอายุ ดังน้ันจึง ควรลดความคาดหวงั ตอ่ การเรยี นรขู้ องผสู้ งู อายุ โดยการเรยี นรทู้ ผี่ สู้ งู อายทุ �ำ ไดด้ แี ละเรยี นไดเ้ รว็ คอื การเรยี นรเู้ ฉพาะอยา่ งโดยไมเ่ รง่ รดั แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจิตในผสู้ ูงอายุ 9 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดบั ตำ�บล

3.3 ด้านความจำ� (Memory) ผู้สูงอายุจะมีความจำ�เรื่องราวในอดีตได้ดี แต่จะมีความจำ�เก่ียวกับ สิ่งใหม่ๆ ลดลง ซ่ึงอาจเป็นผลมาจากการเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย และทางด้านจิตสังคม การกระต้นุ ความจำ�ของผูส้ ูงอายุ จะต้องอาศยั การปฏิบตั เิ ปน็ ล�ำ ดับขัน้ ตอน เช่นการเขียนหนงั สอื ตัวโต การใช้สีกระตุน้ การมองเหน็ ไม่ควรเน้นหรือถามซา้ํ ในเรื่องท่ีผสู้ ูงอายุจ�ำ ไม่ได้ การจดบนั ทกึ จะช่วยผู้สงู อายจุ �ำ ไดม้ ากขึน้ 3.4 ดา้ นสติปญั ญา (Intelligence) ความสามารถทางสมองจะเรม่ิ ลดลงเม่ืออายุ 30 ปีเปน็ ต้นไป ใน ผู้สูงอายุจะเกี่ยวข้องกับระดับการศึกษา การเรียนรู้ในอดีต ประสบการณ์ในการแก้ปัญหา และ สภาวะสุขภาพในขณะนั้น โดยท่ัวไปการเส่ือมทางสติปัญญาจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เท่ากันทุกคน คุณลกั ษณะความเสอื่ มทางปญั ญาทพ่ี บในผู้สงู อายุได้แก่  ความสามารถในการใชเ้ หตผุ ล (Inductive reasoning)  ความสามารถในการค�ำ นวณบวกลบตวั เลข (Numerical ability)  ความสามารถในการคดิ เรื่องนามธรรม (Abstract ability)  ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ลดลง (Creative ability) แต่จะดีข้ึนถ้าผู้สูงอายุใช้ ประสบการณเ์ ดิมท่ีผา่ นมาช่วย อยา่ งไรก็ตามก็ยังใช้เวลาในการคิดนานกว่าวัยหนมุ่ สาว  ความสามารถในการคดิ ตดั สนิ ใจชา้ ลง (Judgment ability) ตอ้ งใหบ้ คุ คลอน่ื ชว่ ยในการตดั สนิ ใจ 3.5 ด้านสมรรถภาพการรับรู้ข้อมูลและการนำ�ความรู้สู่การปฏิบัติ (Competence and Performance) ลดลงโดยส่วนใหญ่สมรรถภาพในการนำ�ความรู้สู่การปฏิบัติต่ํากว่าสมรรถภาพ การรับรู้ข้อมูล เน่ืองจากหลายปัจจัย เช่น สมองทำ�งานลดลง การรับรู้น้อยลง ความจำ�สั้นลง การตอบสนองชา้ ลง ผสู้ งู อายมุ กั กลวั สง่ิ ทต่ี นเองไมร่ แู้ ละตน่ื เตน้ เมอื่ ตอ้ งเผชญิ กบั สถานการณใ์ หมๆ่ เนื่องจากไม่แน่ใจว่าตนเองจะตอบสนองได้หรือไม่ กลัวความล้มเหลว ผู้สูงอายุจึงต้องการการส่ง เสรมิ สนบั สนนุ และตอ้ งการแรงจูงใจเพื่อกระต้นุ ในการท�ำ กิจกรรมใหม่ๆ 3.6 ดา้ นเจตคติ ความสนใจ และคณุ คา่ (Attitude, Interest and Values) พบวา่ จะแตกต่างกัน ไปในแตล่ ะบุคคล ซงึ่ มีอิทธพิ ลมาจาก เพศ สังคม อาชพี เชอ้ื ชาติ และวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลง เจตคติของผู้สูงอายุไม่ใช่ส่ิงง่าย การสอนเพ่ือให้ผู้สูงอายุรับรู้เรื่องราวใหม่ โดยการเปลี่ยนแปลง เจตคติของผู้สูงอายจุ ะช่วยใหผ้ สู้ งู อายุปรบั เปลย่ี นเจตคติได้ 3.7 ดา้ นการรบั รเู้ กยี่ วกบั ตนเองและความรสู้ กึ มคี ณุ คา่ ในตนเอง(Self-conceptandSelf-esteem) ถา้ เปน็ ไปในทางบวกจะชว่ ยใหผ้ สู้ งู อายสุ ามารถปรบั ตวั และแกป้ ญั หาไดด้ ี ความรสู้ กึ มคี ณุ คา่ ในตวั เอง มผี ลมาจากกระบวนการความคิด อารมณ์ ความปรารถนา คณุ ค่า และพฤติกรรม นอกจากนั้นยัง เก่ียวข้องกับงาน และสังคมของผู้สูงอายุด้วย ดังน้ันการเตรียมงานท่ีเหมาะสมสำ�หรับผู้สูงอายุจึง เปน็ วธิ กี ารหนง่ึ ทจี่ ะชว่ ยสง่ เสรมิ ความรสู้ กึ ทม่ี คี ณุ คา่ ในตวั เอง เชน่ การท�ำ งานอดเิ รก การเปน็ อาสา สมคั รทำ�งานช่วยเหลือสงั คม การทำ�งานท่ีผูส้ ูงอายุชอบ เป็นตน้ 10 แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสรมิ สุขภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ ูงอายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดบั ต�ำ บล

ปญั หาสุขภาพจิตในผ้สู งู อายุ การสงั เกตปญั หาสุขภาพจติ ในผสู้ งู อายุ 1. สังเกตอาการง่ายๆ จากการดำ�เนนิ ชีวติ ประจำ�วนั ได้แก่ การกนิ ผดิ ปกติ อาจจะกินมากขึ้นกว่าเดิม ย่งิ ไม่ สบายใจกย็ งิ่ กินมาก หรือบางคนก็ตรงขา้ ม คือกนิ น้อยลง เบ่อื อาหาร ซบู ผอมลงทัง้ ๆ ทีไ่ ม่มปี ัญหาทาง รา่ งกาย บางคนมีอาการทอ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ 2. การนอน อาจจะมกี ารนอนหลบั มากกวา่ ปกติ เชน่ มอี าการงว่ ง เหงา ซมึ เซอื่ ง อยากนอนตลอดเวลา หรอื บางคนกต็ รงขา้ มคือ นอนไม่หลบั ตกใจตนื่ ตอนดกึ แลว้ ไม่สามารถหลบั ตอ่ ไดอ้ กี บางคนอาจมีอาการฝนั รา้ ยติดต่อกันบ่อยๆ 3. อารมณ์ผิดปกติ หงุดหงิดบ่อยข้ึน เศร้าซมึ เคร่งเครียด ฉนุ เฉยี ว วิตกกังวลมากข้ึนกว่าเดิมจนสงั เกตเห็น ได้และสรา้ งความลำ�บากใจให้กบั คนรอบขา้ ง 4. พฤตกิ รรมการแสดงออกทเ่ี ปลยี่ นไปจากเดมิ เชน่ เคยเปน็ คนรา่ เรงิ แจม่ ใส ชา่ งพดู ชา่ งคยุ กก็ ลบั ซมึ เศรา้ เงียบขรมึ ไม่พูดไมจ่ า บางคนกห็ ันไปพ่ึงยาเสพติด เหล้า บุหร่ี เป็นต้น บางคนอาจเคยพดู น้อยกก็ ลาย เปน็ คนพดู มากหรอื แสดงความสนใจในเรื่องเพศอยา่ งผดิ ปกติ เปน็ ต้น 5. มอี าการเจบ็ ปว่ ยทางกาย ซงึ่ หาสาเหตไุ มพ่ บ เชน่ ปวดเมอื่ ยตามตวั ปวดศรี ษะ ปวดกระดกู วงิ เวยี นศรี ษะ ปวดทอ้ ง เป็นต้น 6. ผสู้ งู อายทุ มี่ าใชบ้ รกิ ารทคี่ ลนิ กิ โรคเรอื้ รงั แมจ้ ะมาตรวจตามนดั หลายครงั้ คนุ้ ชนิ กบั สถานท่ี แตล่ กึ ๆ แลว้ บางรายกม็ อี าการตนื่ เตน้ บางรายกห็ วาดกลวั กบั หตั ถการทางการแพทย์ สง่ิ ทแ่ี สดงออก เชน่ มคี วามดนั โลหิตสงู ขึน้ เดินไปเดินมา ลุกขน้ึ ถามโนน่ ถามน่ี บคุ ลากรสาธารณสขุ จ�ำ เปน็ ต้องจบั ความรู้สกึ เหลา่ นใ้ี ห้ ได้ ต้องอาศยั การสงั เกตพฤตกิ รรมและการแสดงออก การซักถามทั้งผปู้ ว่ ยสูงอายหุ รือผู้ใกลช้ ิด (ส�ำ นกั พฒั นาสขุ ภาพจิต, 2555) ปัญหาสุขภาพจิตที่พบบอ่ ยในผ้สู งู อายุ สาระส�ำ คัญ : มักพบเสมอวา่ ปญั หาทรี่ บกวนจิตใจผ้สู งู อายสุ ่วนใหญ่มกั เป็นเรอ่ื งสัมพนั ธภาพในการ อยู่รว่ มกบั ผูอ้ ื่นโดยเฉพาะคนในครอบครวั และส่ิงที่ผสู้ งู อายุไวต่อความรสู้ ึกมากทีส่ ดุ คือการเสียหน้า การเสีย คุณค่าและการเสียความเคารพจากผู้อ่ืน ส่วนปัญหาสุขภาพจิตท่ีพบบ่อยในผู้สูงอายุ คือ เร่ืองความเครียด วติ กกงั วล เหงา/วา้ เหว่ จ้จู ้ี ขบี้ ่น กลัวการถูกทอดทิง้ รู้สกึ วา่ ตนเองไมม่ ีคณุ ค่า นอนไมห่ ลับ แนวทางการด�ำ เนนิ งานส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผ้สู งู อายุ 11 สำ�หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดับตำ�บล

1. ความเครียด เป็นสภาวะจิตใจและร่างกายท่ีเปล่ียนแปลงไป ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวเพ่ือเตรียมพร้อมในการ รบั มอื ตอ่ สงิ่ กระตนุ้ หรือส่ิงเรา้ ต่างๆในส่งิ แวดลอ้ มทบี่ บี ค้นั กดดัน คกุ คามใหเ้ กดิ ความทุกข์ ความไม่สบายใจ หรือความไมพ่ อใจ (กรมสุขภาพจิต, 2541) อาการที่แสดงวา่ ผสู้ ูงอายุเกดิ ความเครยี ด 1. อารมณต์ งึ เครยี ด ย้ิมไม่ออก สนกุ ไม่ออก หวั ใจเตน้ แรง 2. ผิวหนงั เย็นหรอื แห้ง บางครง้ั ชาตามปลายมอื ปลายเท้า 3. มนึ ทง้ั หัว หรอื ปวดท้ายทอย 4. หงดุ หงิดง่าย ดูไม่มคี วามสขุ หรือเบ่ือหน่ายกบั ชีวิต 5. คิดเร่ืองต่างๆไมค่ ่อยออก 6. ไมอ่ ยากพูดคุยกับใคร 7. ขาดความกระตอื รอื รน้ ไมค่ อ่ ยมีพลงั หรอื แรงกระตุ้นในการท�ำ งาน 8. เวลาเหลือจนไมร่ วู้ ่าจะทำ�อะไร 9. นอนหลับยากข้ึน หรอื ไมห่ ลับเลย 10. มีปัญหาด้านการรับประทานอาหาร อาจทานมากหรือน้อยกวา่ ปกติ 11. ไมค่ อ่ ยอยากออกไปเจอญาติ มติ ร เพอ่ื น หรือใครๆ 12. ไม่ค่อยสนใจงานอดิเรก หรอื กิจกรรมท่ีตนเองเคยสนใจทำ� หรือเข้ารว่ ม 13. รสู้ ึกหงุดหงดิ โกรธ คนหรอื สภาวการณ์รอบๆ ตัว 2. ความวิตกกังวล (พบในทุกกลมุ่ ) มคี วามวติ กกงั วลทตี่ อ้ งพง่ึ พาลกู หลาน มกั แสดงออกเดน่ ชดั เปน็ ความกลวั ขาดความเชอื่ มน่ั ในตนเอง เชน่ กลวั ไมม่ คี นเคารพยกยอ่ งนบั ถอื กลวั วา่ ตนเองไรค้ า่ กลวั ถกู ทอดทงิ้ กลวั เปน็ คน งกๆ เงน่ิ ๆ กลวั ถกู ท�ำ รา้ ย กลวั นอนไมห่ ลบั กลวั ตาย ความวติ กกงั วลแสดงออกทาง ดา้ นรา่ งกาย เชน่ เปน็ ลม แนน่ หนา้ อก หายใจไมอ่ อก อาหารไมย่ อ่ ย ไม่มีแรง ออ่ นเพลยี นอนไม่หลบั กระสับ กระส่าย 3. ซึมเศร้า ภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ งู อายเุ ปน็ การเจบ็ ปว่ ยทางจติ ใจชนดิ หนงึ่ ทต่ี อบสนองตอ่ ความผดิ หวงั ความสญู เสยี หรอื การถวลิ หาสง่ิ ทขี่ าดหายไป เมอ่ื เกดิ ขนึ้ แลว้ จะท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายรุ สู้ กึ ไมม่ คี วามสขุ จติ ใจหมน่ หมอง หดหู่ หมด ความกระตอื รอื รน้ เบอ่ื หนา่ ยสง่ิ ตา่ งๆ รอบตวั แยกตวั เอง ชอบอยเู่ งยี บๆ คนเดยี ว ทอ้ แท้ บางครง้ั มคี วามรสู้ กึ สนิ้ หวงั มองชวี ติ ไมม่ คี ณุ คา่ มองตนเองไรค้ า่ เปน็ ภาระตอ่ คนอนื่ ถา้ มอี าการรนุ แรงจะมอี นั ตรายจากการท�ำ รา้ ย ตนเองได้ มีรายงานการฆ่าตวั ตายในผู้สูงอายุ ซ่งึ พบว่า ร้อยละ 90 มคี วามสมั พันธ์กบั ภาวะซึมเศรา้ อยา่ งไร 12 แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสริมสขุ ภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ในผู้สูงอายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพระดบั ต�ำ บล

กต็ าม มบี างรายที่แสดงออกด้วยการหงุดหงดิ โมโหงา่ ย ทะเลาะกบั บตุ รหลานบอ่ ยครั้ง น้อยใจงา่ ย มักมาพบ แพทยด์ ว้ ยอาการใจสนั่ ปวดหวั ปวดหลงั ปวดทอ้ ง ออ่ นเพลยี ไมม่ แี รง นอนไมห่ ลบั หรอื ทอ้ งอดื ทอ้ งเฟอ้ เมอื่ แพทยต์ รวจแลว้ ไมพ่ บความผดิ ปกตใิ ดๆ ทร่ี นุ แรง ภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ งู อายเุ กดิ ขน้ึ ไดจ้ ากหลายสาเหตรุ ว่ มกนั ท้ังสาเหตุทางด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพสังคม ส่งิ แวดลอ้ ม 4. รสู้ ึกวา่ ลกู หลานไมเ่ คารพ (พบในทกุ กลุ่ม) 5. รู้สึกว่าตนเองถูกลูกหลานทอดทิง้ (กล่มุ ติดสงั คม) 6. จู้จีข้ ีบ้ ่น (พบในทกุ กล่มุ ) 7. รสู้ ึกวา่ ตนเองไมม่ ีคุณค่า ในวัยสงู อายุความเช่ือมนั่ ในตนเองลดลง ความภาคภูมิใจในตวั เองลดนอ้ ยถอยลง บางรายต้องพึ่งพงิ ผอู้ ่นื เพราะปญั หาความเสอื่ มถอยของสมรรถภาพร่างกายและสติปัญญา บางรายรสู้ กึ น้อยอกน้อยใจหรอื ซึม เศรา้ ไมส่ ามารถสรา้ งก�ำ ลงั ใจเมอ่ื เกดิ ความรสู้ กึ นอ้ ยอกนอ้ ยใจได้ บางรายจจู้ ข้ี บี้ น่ และรสู้ กึ สญู เสยี ภาพลกั ษณ์ ต่อตนเอง 8. นอนไม่หลับ (พบในทุกกลุ่ม) ผู้สงู อายทุ ่ีมปี ัญหานอนไมห่ ลบั มักจะชอบตนื่ ข้ึนกลางดกึ หรือไม่กต็ ่ืนเช้ากวา่ ปกติ และเมอ่ื ตื่นแล้วก็ หลบั ตอ่ ยาก ตอ้ งลุกขึน้ มาทำ�โนน่ ท�ำ น่ี ซึ่งจะรบกวนสมาธคิ นอืน่ ในบ้านท่ีกำ�ลงั นอนหลับอยดู่ ้วย ทง้ั น้ีสาเหตุ ของการนอนไม่หลับ อาจเกดิ จากการนอนกลางวนั มากเกินไป ไมค่ อ่ ยได้ออกกำ�ลังกายหรือใชแ้ รงงาน ท�ำ ให้ รสู้ กึ ออ่ นเพลยี เมอ่ื ไดเ้ วลานอนอาจวติ กกงั วลบางเรอ่ื งอยู่ ทน่ี อนไมส่ บาย อากาศรอ้ นหรอื เยน็ เกนิ ไป มปี ญั หา ทางร่างกายทีร่ บกวนการนอน เชน่ ปวดหลงั เบาหวานตอ้ งลกุ มาปสั สาวะบอ่ ยจนรบกวนการนอน เป็นต้น แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสรมิ สุขภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ ูงอายุ 13 ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดบั ต�ำ บล

การส่งเสริมสุขภาพจิตผูส้ ูงอายุ การส่งเสรมิ สขุ ภาพจติ (Mental Health Promotion) หมายถงึ กระบวนการสง่ เสรมิ และพัฒนา ศกั ยภาพของบคุ คล ครอบครวั กลมุ่ บคุ คล ชมุ ชน สามารถควบคมุ วถิ ชี วี ติ และปรบั ตวั ใหม้ สี ขุ ภาพจติ ดภี ายใต้ สังคมและสิ่งแวดล้อมทเ่ี ปล่ยี นแปลง (Sartorius,1998) โดยเนน้ 2 ค�ำ หลัก ประกอบดว้ ย 1. การเพม่ิ สมรรถนะบคุ คล ครอบครวั ชมุ ชนในการเขา้ ใจความตอ้ งการตนเอง สามารถควบคมุ วิถชี ีวติ ตนเองรวมท้งั ปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สถานการณต์ ่างๆ 2. การเพ่ิมความเข้มแข็งทางใจ (Resillience) โดยใช้กลยุทธ์ในการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยการ เพ่ิมปัจจัยบวกด้านสิ่งแวดล้อมและเพ่ิมความเข้มแข็งทางใจระดับบุคคล ด้วยการเคารพใน วฒั นธรรม ความเทา่ เทยี มทางสงั คม ความยตุ ธิ รรม ความเชอื่ มโยงบรบิ ทตา่ งๆเขา้ ดว้ ยกนั รวม ทง้ั ค�ำ นงึ ศกั ด์ศิ รขี องบุคคล(Health Cannada,2000; CDHA, 2000; U.K.Department of Health) ส�ำ หรบั การสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ นพสจุ รติ สวุ รรณชพี (2557) กลา่ ววา่ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ ควรเนน้ ท่ี เรอ่ื งความเขม้ แขง็ ทางใจ (Resillience) โดยการพฒั นาใหผ้ สู้ งู อายเุ กดิ การด�ำ เนนิ ชวี ติ ดขี น้ึ หรอื พฒั นาใหด้ ขี น้ึ ตามศกั ยภาพทเ่ี ปน็ อยู่ โดยการพฒั นาใหเ้ ปน็ คนดี ในสายตาผอู้ น่ื การพฒั นาใหเ้ ปน็ คนเกง่ สรรค์สร้างส่ิงใหม่ พัฒนาใหเ้ ป็นคนมคี วามสุข สามารถหาความสุขได้ มลี กั ษณะเอ้ือตอ่ การมคี วามสุข และ สามารถมีความสุขที่ยงั่ ยืน การปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจิตในผู้สูงอายุ การปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ (Mental Health Prevention) หมายถงึ กระบวนการลดอัตราการ เกดิ ความชกุ การกลบั เปน็ ซาํ้ ของผมู้ ปี ญั หาทางจติ ยดื ระยะเวลาของการเกดิ อาการเจบ็ ปว่ ยทางจติ ใหน้ านขน้ึ รวมทง้ั การลดผลกระทบจากความเจบ็ ป่วยของผูป้ ว่ ย ครอบครวั ชมุ ชนและสงั คม (Mrazek & Haggerty, 1994) ส�ำ หรับการป้องกนั ปญั หาสุขภาพจติ ในผูส้ ูงอายุ นพสจุ ริต สวุ รรณชีพ (2557) กลา่ วว่าการป้องกัน ปญั หาสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ เปน็ การมงุ่ เนน้ ไปทก่ี ารจดั การกบั ปญั หาและการปอ้ งกนั ปญั หาทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ มี 2 ระดบั ดงั นี้ 14 แนวทางการดำ�เนนิ งานสง่ เสริมสุขภาพจติ และป้องกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผ้สู งู อายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดับตำ�บล

ระดับที่ 1 Psychosocial Prevention ได้แก่ 1.1 การพัฒนาภูมิคุ้มกันในการจัดการกับปัญหาที่จะมากระทบกระเทือนจิตใจ เช่น การสร้างภูมิคุ้มกนั การฝกึ ทักษะการแกป้ ัญหา การฝึกควบคุมอารมณ์ และสามารถ ลดปัญหาหรือเปล่ียนปญั หาทเี่ กดิ ขึ้นใหเ้ ปน็ โอกาส 1.2 การพัฒนาระบบในการชว่ ยแกป้ ัญหาให้แก่ผู้สงอายุ ไดแ้ ก่ การใหก้ ารปรึกษา ระดบั ที่ 2 Psychiatric Prevention ไดแ้ ก่ 2.1 ระดับทเี่ รมิ่ มีอาการทางจติ แตย่ งั ไมถ่ ึงกับเป็นโรค เชน่ ความเครยี ด วติ กกังวล เศร้า แต่ยังสามารถ Function ได้และยังไม่รบกวนต่อการดำ�เนินชีวิตการทำ�งานหรือการ อยใู่ นสงั คม หรอื อยใู่ นระดบั เสย่ี งตอ่ การลกุ ลามเปน็ โรคทางจติ เวช สามารถปอ้ งกนั โดย การรกั ษาตามอาการทเ่ี กดิ ขน้ึ รวมทงั้ ปอ้ งกนั อาการทเ่ี กดิ ขน้ึ (Symptom treatment/ Prevention) 2.2 ยงั ไมม่ อี าการของโรคแตม่ คี วามเสยี่ งสงู จากประวตั ิ พอ่ แม่ พนี่ อ้ ง ซง่ึ อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของ แพทยท์ จี่ ะใหก้ ารรกั ษา ปอ้ งกนั โดยใหก้ ารรกั ษาเสมอื นเปน็ โรคแลว้ (สจุ รติ สวุ รรณชพี , 2557) จากแนวคดิ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และการปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายดุ งั กลา่ วไดน้ �ำ มาก�ำ หนด กรอบแนวทางการด�ำ เนนิ งาน สง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ในผสู้ งู อายใุ นโรงพยาบาลชมุ ชน และผ้สู ูงอายุในชุมชน ดังตาราง แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกนั ปญั หาสุขภาพจิตในผูส้ ูงอายุ 15 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดบั ตำ�บล

กรอบการด�ำ เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิตในผูส้ งู อายุ 1 มุ่งเน้นการพัฒนาความสุขเชิงจิตวิทยาให้แก่ผู้สูงอายุ โดยดำ�เนินการตาม กจิ กรรม การสรา้ งสขุ 5 มติ ิ ได้แก่ การส่งเสริม 1. สุขสบาย หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการดูแลสุขภาพร่างกาย ให้มี สุขภาพจิต สมรรถภาพร่างกายท่ีแข็งแรง คล่องแคล่ว มีกำ�ลัง สามารถตอบสนองต่อความ ตอ้ งการทางกายภาพไดต้ ามสภาพทเ่ี ปน็ อยู่ มเี ศรษฐกจิ หรอื ปจั จยั ทจ่ี �ำ เปน็ พอเพยี ง ไม่มีอุบัติภยั หรืออนั ตราย มีสภาพแวดล้อมท่ีส่งเสรมิ สขุ ภาพ ไมต่ ดิ ส่งิ เสพตดิ 2. สขุ สนกุ หมายถงึ ความสามารถของผสู้ งู อายใุ นการเลอื กวถิ ชี วี ติ ทรี่ น่ื รมย์ สนกุ สนาน ดว้ ยการท�ำ กจิ กรรมทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ อารมณเ์ ปน็ สขุ จติ ใจสดชนื่ แจม่ ใส กระปรกี้ ระเปรา่ มีคุณภาพชีวิตท่ดี ี ซงึ่ กจิ กรรมทีเ่ หลา่ นีส้ ามารถลดความซมึ เศร้า ความเครยี ดและ ความวิตกกงั วลได้ 3. สขุ สง่า หมายถงึ ความรูส้ ึกพึงพอใจในชีวิต ความภาคภูมิใจในตนเอง ความเชื่อม่นั ในตนเอง เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง การยอมรับนบั ถือตนเอง ใหก้ �ำ ลงั ใจตนเองได้ เห็น อกเห็นใจผู้อ่ืน มีลักษณะเอื้อเฟ้ือแบ่งปัน และมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้อ่ืนใน สงั คม 4. สขุ สวา่ ง หมายถงึ ความสามารถของผสู้ งู อายดุ า้ นความจ�ำ ความคดิ อยา่ งมเี หตมุ ผี ล การสอื่ สาร การวางแผนและการแกไ้ ขปญั หา ความสามารถในการคดิ แบบนามธรรม รวมทั้งความสามารถในการ จัดการส่ิงตา่ งๆไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 5. สุขสงบ หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการรับรู้-เข้าใจความรู้สึกของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์ และสามารถจัดการกับสภาวะอารมณ์ที่เกิดข้ึนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สามารถผ่อนคลาย ให้เกิดความสุขสงบกับตนเองได้ รวมทั้งความ สามารถในการปรบั ตัวยอมรับสภาพสง่ิ ทีเ่ กิดข้ึนตามความเป็นจริง โดยด�ำ เนนิ การทง้ั ในผสู้ งู อายกุ ลมุ่ พงึ่ พาตนเองได้ (กลมุ่ ตดิ สงั คม) กลมุ่ ตดิ บา้ น กลมุ่ ตดิ เตยี ง รวมถงึ กลมุ่ ผสู้ งู อายทุ ม่ี ารบั บรกิ ารในคลนิ กิ โรคเรอ้ื รงั ในโรงพยาบาลชมุ ชน โดยมรี ปู แบบกจิ กรรมท่ีแตกตา่ งตามสภาพรา่ งกายของผสู้ งู อายุ 16 แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และป้องกนั ปญั หาสุขภาพจติ ในผู้สูงอายุ ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดบั ตำ�บล

การเฝา้ ระวงั และคดั กรองกลมุ่ เสยี่ งในผสู้ งู อายโุ รคเรอื้ รงั ทม่ี ารบั บรกิ ารทค่ี ลนิ กิ 2 โรคเรอ้ื รงั ในโรงพยาบาลและ ผสู้ งู อายทุ ต่ี ดิ บา้ น/ตดิ เตยี ง ในชมุ ชน โดยด�ำ เนนิ การ คดั กรองโรคซึมเศร้า 2 คำ�ถาม (2Q) ถ้าหากพบคำ�ตอบ “มี” ในข้อใดขอ้ หน่ึง การเฝ้าระวัง หรอื ทั้ง 2 ขอ้ ประเมินอาการโรคซมึ เศรา้ ต่อ ด้วยด้วยแบบประเมิน 9 ค�ำ ถาม (9Q) และการคัดกรอง ถ้าพบมีคะแนนต้ังแต่ 7 คะแนนขึ้นไป ประเมินการฆ่าตัวตายด้วยแบบประเมิน ปัญหาสุขภาพจติ 8 ค�ำ ถาม (8Q) 3 รักษาอาการทางกาย และใหก้ ารวินจิ ฉยั ภาวะซมึ เศรา้ พรอ้ มทง้ั ให้การรกั ษา สง่ ตอ่ เพอ่ื พบแพทย์ 1. ใหส้ ขุ ภาพจติ ศกึ ษา เมอื่ ผลคดั กรองโรคซมึ เศรา้ (2Q) พบค�ำ ตอบ “ม”ี ในขอ้ ใด 4 ขอ้ หน่ึง หรือทั้ง 2 ข้อ การดแู ล 2. ประเมนิ ปญั หาทางสังคมจิตใจ ช่วยเหลือทาง 3. ให้คำ�ปรกึ ษาตามปัญหา ดา้ นสงั คมจติ ใจ 5 ดำ�เนินการร่วมกันระหว่าง ทีมหมอครอบครัว Care Manerger Care Giver เพื่อวางแผน/ติดตามการดูแลทบี่ ้าน 1. ในการเฝ้าระวังและการคดั กรองปัญหาสุขภาพจิตผูส้ งู อายุ และญาติทด่ี แู ล 2. ใหก้ ารดูแลช่วยเหลอื ทางสังคมจิตใจผสู้ งู อายุ และญาติท่ีดูแล วางแผน 17 การดูแลและการเยีย่ มบ้าน เพือ่ ดูแลด้านสังคมจติ ใจ แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสรมิ สุขภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ในผู้สงู อายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดับต�ำ บล

ผสู้ งู อายุ 2 ใน 3 มกั เจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคเรอื้ รงั และหากปรบั ตวั ไมไ่ ด้ จะมคี วามเครยี ด หงดุ หงดิ ทอ้ แท้ ไมม่ กี �ำ ลงั ใจในการปรบั วิถชี วี ติ บางรายอาจมีอาการกลวั วิตกกังวลต่อสภาวะโรคที่เปน็ และผู้สูงอายุกล่มุ น้ี ส่วนใหญ่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน ในแผนกผู้ป่วยนอกโรคเรื้อรัง ดังนั้นแนวทางดำ�เนินงานจะ มุ่งเนน้ ไปทคี่ ลินิก โรคเรอ้ื รังและคลินิกผู้สูงอายุซ่ึงมีผ้สู ูงอายมุ ารบั บริการ แผนภาพ 1 แสดงผังไหลแนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและการป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ผู้สูงอายุ ในโรงพยาบาลชุมชน ผูส้ งู อายุทกุ คนท่มี ารับบรกิ ารที่คลินิก NCD หรอื คลนิ ิกสงู อายุในโรงพยาบาลชุมชน สงั เกตอาการ /คัดกรองโดยใช้แบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 2 ค�ำ ถาม (2Q) (หรือแบบคดั กรองซมึ เศร้าอืน่ ๆ ตามบริบทของพน้ื ท)่ี มี ผล ไมม่ ี ในข้อใดข้อหนง่ึ หรอื ทงั้ 2 ข้อ 2Q (ผลการคดั กรองใหผ้ ลเป็นบวก) 1. ส่งต่อผู้รับผิดชอบงานสุขภาพจิต/Psychosocail care  ใหบ้ รกิ ารฝ่ายกายตามปกตใิ นคลินิก เพอื่ ประเมนิ โรคซมึ เศรา้ 9Q และประเมนิ ฆา่ ตวั ตาย 8Q NCD หรอื คลนิ กิ สูงอายุ  จัดกิจกรรมสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และ 2. ให้สขุ ภาพจติ ศึกษา ป้องกันปญั หาสขุ ภาพจิตผสู้ ูงอายุ 3. ประเมนิ ปัญหาทางจิตสงั คม (โปรแกรมสรา้ งสขุ 5 มิติ) 4. ใหค้ �ำ ปรกึ ษาตามปญั หาท่ีพบ 5. สง่ ตอ่ ทมี หมอครอบครัวเพ่ือเยยี่ มบา้ น ติดตามประเมินผลเปน็ ระยะๆ 18 แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ ูงอายุ สำ�หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ต�ำ บล

ในการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และการปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ ในโรงพยาบาลชมุ ชน มกี ารด�ำ เนินใน สถานที่ ขั้นตอนการด�ำ เนินงาน รวมท้งั ผูร้ บั ผดิ ชอบงาน ดังตาราง Setting กจิ กรรม เคร่ืองมือที่ใช้ ผู้รับผิดชอบ คลินิก 1. สงั เกตอาการผสู้ ูงอายุ/คัดกรอง แบบคดั กรอง บุคลากร NCD / โรคซึมเศรา้ ทกุ ครงั้ ทมี่ ารับบรกิ าร 2Q คลนิ ิก NCD/สงู อายุ คลนิ ิกสูง VCD สร้างสขุ 5 อายุ 2. กรณตี อบ ไมม่ ีท้งั 2 ข้อจดั กิจกรรม มติ ิในผูส้ ูงอายุ หรือ เปิด VCD สรา้ งสุข 5 มิติ เพื่อสง่ เสริมสขุ ภาพจิตผู้สูงอายุ 3. กรณตี อบว่ามี ข้อใดขอ้ หน่ึง หรือ 2 ขอ้ ทักษะการ สง่ ตอ่ ผูร้ บั ผดิ ชอบงานสุขภาพจติ / แจง้ ผลและให้ Psychosocail clinic สุขภาพจติ ศึกษา แผนก 4. แจง้ ผลและใหส้ ขุ ภาพจิตศกึ ษา บุคลากรแผนกสขุ ภาพจิต/ สุขภาพจติ 5. ประเมินโรคซึมเศร้า และฆา่ ตัวตาย แบบประเมิน Psychosocail clinic /Psycho- socail 9Q/8Q clinic 6. สง่ พบแพทย์เพือ่ วินจิ ฉัย กรณี ผล 9Q ≥7 7. กรณไี มเ่ ป็นโรคซึมเศร้า ดำ�เนนิ การ ทักษะให้คำ� ประเมนิ ปญั หาทางสังคมจติ ใจและให้ ปรกึ ษา ค�ำ ปรกึ ษา 8. กรณีเป็นโรคซึมเศรา้ ด�ำ เนนิ การตาม แนวทางการ แนวทางการดูแลเฝ้าระวังโรคซมึ เศร้า ดแู ลเฝ้าระวงั โรคซึมเศร้า แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสรมิ สขุ ภาพจติ และป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิตในผู้สูงอายุ 19 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดับต�ำ บล

Setting กจิ กรรม เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ ผรู้ ับผดิ ชอบ ทีมหมอครอบครวั ทมี หมอ 9. วางแผนการดูแลและแผนการเยีย่ ม ทกั ษะเย่ียมบ้าน ครอบครัว บ้านในชุมชน เพอ่ื ดูแลทาง และ Care ด้านจิตสังคม Manerger 10. เย่ียมบ้าน ติดตามดว้ ยแบบประเมนิ แบบคดั กรอง 9Q ใน 1 เดอื น (กรณี 9Q > 7) และ 2Q ตดิ ตามประเมนิ 2Q ทกุ ครงั้ ท่ีเยี่ยม แบบประเมิน บ้าน 9Q/8Q 11.คัดกรองปญั หาสขุ ภาพจิต ให้สุขภาพ แบบคัดกรอง จติ ศกึ ษา ใหก้ ารปรกึ ษาช่วยเหลือทาง 2Q สังคมจิตใจแก่ผสู้ งู อายแุ ละญาตผิ ดู้ ูแล แบบประเมนิ 9Q/8Q แบบประเมนิ ความเครยี ด 5 ข้อ 20 แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจิตในผู้สูงอายุ สำ�หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดับตำ�บล

การด�ำ เนนิ งานดแู ลสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายใุ นชมุ ชน เปน็ การด�ำ เนนิ งานทม่ี งุ่ เนน้ ทงั้ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ ในผสู้ งู อายทุ พ่ี ง่ึ พาตนเองไดใ้ นชมรมผสู้ งู อายุ และขณะเดยี วการสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และเฝา้ ระวงั การคดั กรอง ปัญหาสุขภาพจติ ในผสู้ ูงอายุท่ตี ดิ บ้าน ตดิ เตียง โดยอาศัยความรว่ มมอื หลายภาคส่วนในชุมชน แผนภาพ 2 ผังไหลแนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตผู้สูงอายุ ในชุมชน ผู้สูงอายุในชุมชน ประเมิน ADL ตดิ สงั คม ติดบา้ น/ตดิ เตียง  จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิต คัดกรอง และป้องกันปัญหาสุขภาพจิต โรคซึมเศรา้ ด้วย 2Q ผู้สูงอายุ (จัดกิจกรรมสร้างสุข 5 มิตสิ ำ�หรับผสู้ งู อายุ) ผลการ ใหค้ ำ�ตอบ  ใชท้ กั ษะการสอ่ื สารเพอ่ื สรา้ ง คัดกรอง “ไมม่ ”ี ความภาคภูมใิ จผ้สู งู อายุ ดว้ ย 2Q ? ท้งั 2 คำ�ถาม  ดแู ลสุขภาพจิตผดู้ ูแล ให้ค�ำ ตอบ “มี” ผู้สงู อายุ 1 คำ�ถาม หรอื ท้งั 2 ค�ำ ถาม ประเมนิ อาการ โรคซึมเศร้าด้วย 9Q ต้งั แต่ 7 คะแนนข้นึ ไป ผลการ น้อยกวา่ 7 คะแนน = มอี าการของโรคซมึ เศรา้ ประเมิน = ไมม่ ีอาการของโรคซึมเศร้า 9Q  ประเมนิ การฆา่ ตัวตายด้วยแบบประเมินการฆา่ ตัวตาย 8 คำ�ถาม (8Q)  ให้การช่วยเหลือด้านสังคมจิตใจแก่ผู้สูงอายุโดยทีมสุขภาพจิตหรือทีม หมอครอบครวั หรอื ส่งต่อพบแพทย์  การให้สุขภาพจิตศกึ ษาแกผ่ ู้สงู อายแุ ละผดู้ ูแลผสู้ งู อายุ ติดตามประเมนิ ผลเป็นระยะๆ 21 แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจติ ในผู้สูงอายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดับตำ�บล

ในการดำ�เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตผู้สูงอายุ ในชุมชนมีการ ด�ำ เนินงานตามข้ันตอน ดังน้ี กจิ กรรม เครื่องมือทใ่ี ช้ ผ้ดู ำ�เนินการ 1. การสำ�รวจข้อมลู ผ้สู งู อายุในชมุ ชนในพนื้ ทรี่ บั ผิดชอบ อสม. 2. ประเมินความสามารถในการด�ำ เนนิ ชีวติ ประจำ�วัน แบบประเมนิ ADL Care giver/ (Activities of Daily Living : ADL) เพือ่ จ�ำ แนกกลุ่ม รพ.สต. ผสู้ งู อายุ 3. สนบั สนนุ ใหเ้ ข้ารว่ มกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกนั คูม่ ือจัดกิจกรรม รพ.สต./แกนนำ� ปญั หาสุขภาพจติ ผ้สู ูงอายุ (กิจกรรมสร้างสขุ 5 มิติสำ�หรับ สรา้ งสขุ 5 มิติ ผู้สงู อายุ ผู้สงู อายุ) ในชมรมผูส้ ูงอายใุ นกรณีเป็นผู้สูงอายุตดิ สงั คม สำ�หรบั ผ้สู งู อายุ ซ่ึงหมายถงึ ผู้สูงอายทุ ีย่ ังสามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ดี ดำ�เนิน ชวี ิตในสงั คมไดอ้ ย่างอิสระ สามารถท�ำ กิจวตั รประจ�ำ วันพนื้ ฐานและกจิ วตั รประจำ�วันตอ่ เนอ่ื งได้ เป็นผทู้ ี่มีสขุ ภาพทว่ั ไป ดี ไม่มีโรคเรื้อรงั หรอื เปน็ เพียงผ้ทู ม่ี ภี าวะเสยี่ งต่อการเกดิ โรค หรือเปน็ ผู้ท่ีมีโรคเรอ้ื รงั 1 - 2 โรคทย่ี ังควบคุมโรคได้ 4. เยีย่ มบา้ นผ้สู งู อายุ กลุ่มติดบ้าน ติดเตยี ง Care giver/FCT 5. เฝา้ ระวงั และคัดกรองปญั หาสขุ ภาพจิต โรคซึมเศรา้ ดว้ ย - แบบคัดกรอง Care giver/FCT แบบประเมนิ 2Q ถ้าพบว่าผลเปน็ ลบ คือ ตอบ “ไม่มี” 2Q ทง้ั 2 ค�ำ ถาม ดำ�เนนิ การใชท้ ักษะการสือ่ สารเพ่อื สรา้ งความ - ทกั ษะการ ภาคภมู ิใจผสู้ งู อายุ และดแู ลสุขภาพจติ ผดู้ แู ลผ้สู งู อายโุ ดย สอ่ื สารเพอ่ื สรา้ ง การใหค้ �ำ ปรึกษา ความภาคภมู ใิ จ ผู้สงู อายุ 5.1 กรณี ผลคดั กรองโรคซมึ เศรา้ 2 ค�ำ ถาม (2Q) ให้คำ� แบบประเมิน 9 FCT/รพ.สต. ตอบ “ม”ี 1 คำ�ถาม หรือ ทงั้ 2 คำ�ถาม ด�ำ เนนิ การ ค�ำ ถาม ประเมินโรคซมึ เศรา้ 9 ค�ำ ถาม (9Q) ตอ่ 5.2 กรณีผลประเมินโรคซึมเศรา้ 9Q มีคะแนนนอ้ ยกว่า 7 ทักษะการสือ่ สาร FCT/รพ.สต. แสดงวา่ ไมม่ อี าการโรคซมึ เศรา้ ด�ำ เนินการดำ�เนนิ การ เพ่อื สรา้ งความภาค ใชท้ ักษะการส่ือสารเพ่อื สร้างความภาคภมู ใิ จผสู้ ูงอายุ ภมู ิใจผู้สงู อายุ และดแู ลสขุ ภาพจติ ผดู้ แู ลผู้สูงอายุโดยการให้คำ�ปรกึ ษา และให้ความรเู้ กยี่ วกับผสู้ งู อายุ 22 แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสริมสขุ ภาพจิตและป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ในผ้สู งู อายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพระดบั ต�ำ บล

กจิ กรรม เครื่องมือท่ใี ช้ ผ้ดู ำ�เนินการ FCT/รพ.สต. 5.3 กรณีผลประเมนิ โรคซึมเศร้า 9Q มีคะแนน ≥ 7 ดำ�เนนิ แบบประเมนิ การ การประเมนิ การฆ่าตัวตายดว้ ยแบบประเมนิ การฆา่ ตัว ฆา่ ตัวตาย FCT/รพ.สต. ตาย 8 ค�ำ ถาม (8Q) 8 คำ�ถาม (8Q) แพทย์ 6. การใหก้ ารดูแลช่วยเหลอื ผูส้ ูงอายทุ ่ีผลประเมนิ โรคซมึ เศรา้ - ทักษะการช่วย Care giver/ 9Q มคี ะแนน ≥ 7 โดย การชว่ ยเหลือด้านสงั คมจิตใจ ให้ เหลือด้านสังคม รพ.สต./FCT สขุ ภาพจติ ศกึ ษาแก่ผ้สู งู อายุและผดู้ ูแลผสู้ งู อายุ จติ ใจ - สุขภาพจติ ศึกษา 7. สง่ ตอ่ พบแพทย์เพ่อื รับการวนิ ิจฉยั และการรักษาตอ่ 8. ตดิ ตามผลเปน็ ระยะ ตามแผนการเยย่ี มบ้าน แบบคัดกรอง 2Q โดยการคดั กรองซึมเศรา้ 2 คำ�ถาม และ 9 คำ�ถามตามลำ�ดับ แบบประเมิน 9Q แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ ในผ้สู งู อายุ 23 ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดบั ต�ำ บล

24 แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และป้องกันปญั หาสขุ ภาพจติ ในผสู้ งู อายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดบั ต�ำ บล

แนวทางชว่ ยเหลือผูส้ ูงอายุมีปัญหาสขุ ภาพจิต 1. แนวทางการช่วยเหลือเมื่อผูส้ งู อายมุ ีความเครียด 1. หลังจากสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดข้ึนกับผู้สูงอายุ หรือผู้สูงอายุมาขอรับคำ�แนะนำ�เร่ือง เครียดวติ กกงั วล นอกจากการกลา่ วทกั ทายโดยท่ัวไป แล้วอาจเพ่ิมความไว้วางใจจากผสู้ ูงอายุ ดว้ ยวธิ กี ารสรา้ งสมั พนั ธภาพกบั ผสู้ งู อายุ วธิ งี า่ ยๆและใหผ้ ลดคี อื การถามสารทกุ ขส์ ขุ ดบิ จากนนั้ ใหบ้ คุ ลากรสาธารณสขุ ใชท้ กั ษะการสอ่ื สารเพอ่ื ส�ำ รวจปญั หาความเครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ ดว้ ยการถาม ค�ำ ถามปลายเปดิ เพือ่ กระต้นุ ให้ผู้สงู อายไุ ด้ส�ำ รวจและบอกเล่าความคิด ความรสู้ ึกของตนเอง เชน่ การใช้ค�ำ ถาม “อะไร” หรือ “อย่างไร” เช่น “คุณปา้ พอจะเลา่ รายละเอียดของอาการที่ เกดิ ขน้ึ ใหด้ ิฉนั ฟังได้ไหมคะ” “อาการทเี่ กิดข้นึ เป็นอยา่ งไรอีกคะ” เป็นต้น 2. ใช้ทักษะในการสือ่ สาร เช่นการทวนซ้ํา หรือการสะท้อนอารมณ์เพอ่ื ยืนยันความรู้สึกทเี่ กดิ ขน้ึ ของผสู้ งู อายุ และทำ�ให้ผูส้ งู อายมุ องเหน็ ปญั หาท่ีเกดิ ขึน้ กบั ตนเองชดั ขึน้ 3. สรปุ ความเพื่อใหผ้ ูส้ ูงอายุได้เขา้ ใจปญั หาโดยเฉพาะสาระส�ำ คัญ 4. ชว่ ยเหลอื ผสู้ งู อายใุ หส้ ามารถเชอ่ื มโยงถงึ ทม่ี าของปญั หา เกดิ ความเขา้ ใจในปญั หาและยอมรบั สิ่งทเี่ กดิ ข้ึนได้ โดยบุคลากรสาธารณสขุ อาจใชท้ ักษะการตอบโต้ดงั น้ี 4.1 การให้ข้อมูล เช่น “จากท่ีฟังมาดูเหมือนว่าคุณป้าจะหงุดหงิด โกรธ ท่ีลูกหลานไม่ให้ ความสำ�คัญ/ไม่ให้ความเคารพ/ไม่มาเยี่ยมเยียน/ไม่พอใจการกระทำ�ของลูกหลาน จนท�ำ ใหค้ ณุ ปา้ เกิดอาการนอนไมห่ ลับ ตนื่ มากม็ นึ หวั ปวดทา้ ยทอย” 4.2 การหาผลจากการกระท�ำ เชน่ “ลองนกึ อกี ครง้ั ซิคะว่าอะไรท่เี ปน็ ต้นเหตทุ ที่ �ำ ให้คณุ ป้า เกดิ ความเครยี ด เชน่ ไมพ่ อใจอะไร/ไมพ่ อใจใคร/ไมพ่ อใจการกระท�ำ แบบไหนของลกู หลาน” 4.3 การใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั ตอ่ สงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในมมุ มองของบคุ ลากรสาธารณสขุ เชน่ “จากทคี่ ณุ ปา้ เลา่ มาทง้ั หมด แสดงว่าอาการนอนไม่หลบั ตนื่ มากม็ ึนหวั ปวดท้ายทอย เกดิ ขนึ้ หลงั จากทร่ี ู้สกึ ไมพ่ อใจกับพฤตกิ รรมของคณุ ลุง” 4.4 การตคี วามสง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เชน่ “จากทคี่ ณุ ปา้ เลา่ มาทง้ั หมด ดเู หมอื นการกระท�ำ ของลกู หลาน เรอ่ื ง ทำ�ใหป้ ้าหงุดหงดิ ไม่พอใจ เกบ็ เอามาคดิ จนเกิดเครยี ด และท�ำ ใหน้ อนไมห่ ลับ” 5. การวางแผนในการแกป้ ญั หา ซง่ึ บคุ ลากรสาธารณสขุ สามารถชว่ ยกระตนุ้ ใหผ้ สู้ งู อายมุ ที างเลอื ก ในการแกป้ ญั หามากขนึ้ ตระหนกั ถงึ ผลทจี่ ะตามมาจากการเลอื กในการแกป้ ญั หาในแตล่ ะทาง ซ่ึงบุคลากรทางการแพทย์อาจใช้วิธดี งั ตอ่ ไปนี้ 5.1 การให้ความรู้ เช่น การแนะนำ�เร่ืองที่เป็นสาเหตุของความเครียด วิธีการปฏิบัติตัว การนอนในบรรยากาศที่เหมาะสม วธิ กี ารพูดคุยกับลูกหลาน/ค่ชู วี ิตแบบสรา้ งสรรค์ แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสริมสขุ ภาพจติ และป้องกนั ปญั หาสุขภาพจติ ในผู้สงู อายุ 25 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดบั ต�ำ บล

5.2 การใหค้ �ำ แนะน�ำ เชน่ ใหผ้ สู้ งู อายลุ องนกึ ถงึ สาเหตทุ เ่ี กดิ ขนึ้ วา่ ปญั หาอยตู่ รงไหน จากนน้ั ใหถ้ ามตวั เองวา่ ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ตวั เองมสี ว่ นในปญั หามากนอ้ ยแคไ่ หน และจะแกป้ ญั หา ทเ่ี กดิ ขน้ึ อยา่ งไร เชน่ กรณที ผี่ สู้ งู อายไุ มพ่ อใจเรอ่ื ง ลกู หลานไมม่ าเยยี่ ม/ไมเ่ คารพ/ไมด่ แู ล “คุณป้าคิดว่าทำ�ไม่ลูกหลานถึงไม่มาหา/เขาทำ�งานหรือเปล่า/แล้วถ้าเขามาจะ กระทบกบั การงานของเขาหรือไม่” “เวลาเขามาเยี่ยมแล้วเคยแสดงความเป็นห่วงลูกหลานด้วยการถามถึงสารทุกข์ สุขดิบของลูกหลานหรือไม่ (เพ่ือแสดงถึงความเป็นผู้ให้ของผู้สูงอายุ) หรือต้องรอให้ลูก หลานถามถึงทุกข์สุขของตัวเอง (แสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุเป็นแต่เพียงผู้รับซ่ึงต้องปรับ ทัศนคตขิ องผสู้ งู อายดุ ้วย” “เวลาชวนคุย คุยถงึ เรอ่ื งของลูกหลานบ้างหรอื ไม่ (ดูวา่ ผู้สงู อายขุ ้บี น่ หรอื ไม)่ ” “เวลาลูกหลานมามีสหี นา้ ยิม้ แย้มแจ่มใสเมอื่ พบหน้ากันหรือไม”่ “เคยชว่ ยเหลอื อะไรลกู หลานบา้ งไหม เชน่ เลยี้ งหลาน/ใหค้ วามร/ู้ เลา่ ประสบการณ์ เกีย่ วกับเร่อื งงาน” “เคยชมลกู หลานบ้างหรือไม”่ 5.3 การแนะแนวทาง เชน่ การใหค้ �ำ แนะน�ำ เรอ่ื งการปรบั มมุ มองใหก้ วา้ งขนึ้ และใหล้ กู หลาน/ คชู่ วี ติ ไดร้ บั รปู้ ญั หาและเขา้ มารว่ มกนั แกป้ ญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ /การฝกึ ทกั ษะการตง้ั ค�ำ ถามเพอ่ื ไม่ใหเ้ ปน็ คนที่นา่ เบ่อื /วิธีการคลายเครยี ด เปน็ ตน้ 5.4 การชกั จงู เชน่ “ดเู หมอื นวา่ การแกป้ ญั หาเรอ่ื งการกระท�ำ ของคนอนื่ เปน็ สง่ิ ทเ่ี ปน็ ไปไดย้ าก และย่ิงทำ�ให้สถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นยิ่งตึงเครียดหรือกระตุ้นให้คุณป้ารู้สึกเครียดมากขึ้น ดูเหมนื ไม่ท�ำ ใหอ้ ะไรดขี นึ้ เลย ลองแก้ไขทีค่ วามคิด ความรูส้ ึกของตวั เองจะงา่ ยกว่าหรอื เปล่าคะ ลองปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ ความเอาใจใส่กับผู้อื่นให้น้อยลงแต่ให้เพิ่มความ หว่ งใยตอ่ สขุ ภาพและจติ ใจของตัวเองใหม้ ากขึ้น” 5.5 การฝกึ วธิ กี ารจดั การกบั ความเครยี ด ทเี่ หมาะสมเชน่ การฝกึ ลมหายใจ การฝกึ สติ เปน็ ตน้ 2. แนวทางการชว่ ยเหลือผสู้ ูงอายุทีม่ ีความวิตกกังวล จะมแี นวทางการชว่ ยเหลอื เชน่ เดยี วกบั ปญั หาความเครยี ดแตค่ วามวติ กกงั วลในผสู้ งู อายุ บางอยา่ ง เปน็ ปญั หาการวติ กกงั วลไปเอง เชน่ ความเปน็ หว่ งลกู หลาน ความกงั วลอนั เกดิ จากปญั หาของตนเอง ควรแกท้ ่ี ความคดิ ดว้ ยการสอนวธิ ปี รบั มมุ มองใหก้ วา้ งและอาจดงึ ลกู หลานเขา้ มาสรา้ งความเชอื่ มนั่ ใหก้ บั ผสู้ งู อายุ กลา่ ว โดยสรปุ ว่า ความวติ กกังวลน้นั ต้องร้วู า่ เร่ืองอะไร แกอ้ ย่างไร ถา้ วติ กกังวลในเรอื่ งท่แี กไ้ ขไมไ่ ด้กใ็ ห้คนอ่ืนช่วย แก้หรอื ให้ทำ�ใจ 26 แนวทางการดำ�เนินงานส่งเสริมสขุ ภาพจิตและป้องกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผู้สงู อายุ ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ต�ำ บล

3. รู้สึกว่าลูกหลานไมเ่ คารพ แนวทางการช่วยเสริมสร้างกำ�ลงั ใจเมอื่ ผสู้ งู อายุรู้สึกนอ้ ยอกน้อยใจ 1. รับฟังปัญหาที่เกิดข้ึน เพ่ือให้ผู้สูงอายุได้ระบายความรู้สึกคับข้องใจ พร้อมจับประเด็นความ รสู้ ึกทางลบ /ประเดน็ ที่เป็นปญั หา 2. แสดงความเห็นอกเห็นใจและให้ผู้สูงอายทุ บทวนพฤตกิ รรมการแสดงออกของตนเอง เช่น 2.1 ให้ผูส้ งู อายถุ ามตนเองว่าบน่ มากเกินไปหรือไม่ 2.2 ให้ไปฟงั คนอ่นื บน่ วา่ แลว้ จะรู้สกึ อยา่ งไร 2.3 เป็นผวู้ ิจารณ์พรํ่าเพรอ่ื หรอื ไม่ เชน่ ดุดา่ ว่ากล่าวลูกหลานมากเกนิ ไปหรอื เปล่า 2.4 ให้ผู้สูงอายุถามตนเองเป็นผู้ให้ท่ีดีหรือไม่ ถ้าดี ให้อะไรได้บ้าง เช่น ให้ความช่วยเหลือ ลูกหลานอาทิ งานบ้าน/ดูแลหลาน ให้ความรู้ - ประสบการณ์ เป็นตน้ 3. ชว่ ยคดิ และหาทางออกของปญั หารว่ มกัน 4. ปรับวิธีคิด ไม่ควรยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง หรือเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่หรือถูกต้อง เสมอ พร้อมให้ขอ้ คดิ เชน่ “ใหค้ ิดถงึ อกเขา ไม่ใช่คิดถงึ แต่อกเรา” 5. ชน่ื ชมและใหก้ �ำ ลงั ใจ ดว้ ยการใหผ้ สู้ งู อายเุ ลา่ ในเรอ่ื งทต่ี นเองภาคภมู ใิ จ หรอื เคยท�ำ ส�ำ เรจ็ มาแลว้ 4. รสู้ ึกว่าตนเองถกู ลูกหลานทอดทิ้ง (กลุ่มติดสังคม) แนวทางการชว่ ยเสรมิ สร้างกำ�ลังใจเมอ่ื ผู้สูงอายกุ ลัวการถกู ทอดทิง้ 1. สนบั สนนุ ใหผ้ สู้ งู อายคุ บหาเพอื่ นบา้ น พดู คยุ กบั กลมุ่ เพอ่ื นในวยั เดยี วกนั ในชมรมผสู้ งู อายุ หรอื พดู คยุ กับเพื่อนบ้าน และสร้างเครือขา่ ยกับคนในชุมชนให้มากท่ีสดุ 2. ฝกึ ทกั ษะทจ่ี �ำ เปน็ ในการอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ นื่ ใหก้ บั ผสู้ งู อายุ เชน่ การใหก้ ารปรกึ ษา การเปน็ ผฟู้ งั ทดี่ ี การลดอัตตา การสอ่ื สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ และการจดั การกบั ความเครยี ด 3. ชกั ชวนใหผ้ ้สู ูงอายุหันมาท�ำ กจิ กรรมทางศาสนา ศึกษาธรรมะ ปฏบิ ตั ิธรรม 4. ส่งเสรมิ ใหผ้ ้สู ูงอายทุ �ำ กจิ กรรมทส่ี นใจต่างๆตามความเหมาะสม หางานอดิเรกทช่ี อบทำ� 5. แนะนำ�ให้ผู้สูงอายุรู้จักเป็นผู้ฟังท่ีดี รู้จักพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ ไม่ตำ�หนิ ตัวอย่างเช่น การ แนะน�ำ ผสู้ งู อายวุ า่ ตอ้ งระลกึ ไวเ้ สมอวา่ “การไปหาลกู หลานเมอ่ื คดิ ถงึ ไมเ่ ปน็ การเสยี ศกั ดศิ์ ร”ี “การไปเยย่ี มเยยี นลกู หลานจะชว่ ยสรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ใี นครอบครวั และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี ห้ กบั คนรุ่นถัดไป แนวทางการช่วยเสรมิ สรา้ งก�ำ ลังใจเม่อื ผสู้ ูงอายุกลวั การถกู ทอดทงิ้ กลุ่มติดบ้าน/ติดเตียง 1. ประสานเครอื ข่ายทางสังคมใหด้ แู ลช่วยเหลือ เยย่ี มบ้าน พรอ้ มสอนวธิ กี ารพดู คุยใหก้ ำ�ลังใจ 2. เมอื่ ไปเยย่ี มบา้ น ตอ้ งพดู คยุ และใหก้ �ำ ลงั ใจ ถา้ ไมส่ ะดวกในการไปเยยี่ มลกู หลาน ใหใ้ ชอ้ ปุ กรณ์ สอ่ื สาร หรอื พดู คุยกับเพื่อนบ้านใกลเ้ คียง เพอ่ื ปอ้ งกนั ความรูส้ กึ โดดเด่ยี ว และไร้ทพ่ี ึง่ แนวทางการดำ�เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจิตในผู้สงู อายุ 27 สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต�ำ บล

3. บุคลากรสาธารณสุขตอ้ งบอกกับผู้สงู อายุวา่ “เม่อื ลกู หลานมาเยี่ยม ต้องไม่ไปบ่นวา่ ลูกหลาน จงึ จะทำ�ใหล้ ูกหลานไมร่ ูส้ กึ วา่ ผ้สู ูงอายุจู้จีข้ ี้บ่น” 4. ชักชวนให้ผูส้ ูงอายุท�ำ กจิ กรรมทส่ี นใจต่างๆ ท่เี หมาะสมกบั ศกั ยภาพ 5. สอนวธิ กี ารตัง้ ค�ำ ถามเชงิ บวก เพือ่ ให้ผูส้ งู อายมุ ีหวั ขอ้ ในการสนทนา ที่ไมใ่ ช่การบ่น การตำ�หนิ การติเตียน เช่น การต้ังคำ�ถามท่ีลูกหลานสนใจ หรือชวนพูดคุยเรื่องท่ีลูกหลานกำ�ลังทำ�อยู่ บคุ ลากรสาธารณสขุ ต้องระลึกวา่ “การพดู คยุ กบั ลกู หลานจะท�ำ ใหผ้ สู้ ูงอายุตามทันเหตกุ ารณ์ และโลกปจั จบุ นั ได้และยังท�ำ ใหล้ ูกหลานภาคภมู ใิ จ และต้องไมล่ มื กลา่ วค�ำ ขอบใจให้ลกู หลาน เพือ่ เป็นแบบอยา่ งทีใ่ ห้กับลูกหลาน” 5. จูจ้ ี้ขี้บ่น (พบในทุกกล่มุ ) แนวทางการชว่ ยเหลือ วธิ ีการให้คำ�แนะนำ�ลกู หลาน/ญาต/ิ ผู้ดแู ล ดงั น้ี 1. แนะน�ำ ใหล้ กู หลาน/ญาต/ิ ผดู้ แู ลรบั ฟงั ผสู้ งู อายทุ บ่ี น่ ในชว่ งแรกเพอื่ เปดิ โอกาสใหไ้ ดร้ ะบายความ ไมส่ บายใจหรอื ความคบั ขอ้ งใจ 2. แนะน�ำ ใหล้ กู หลาน/ญาต/ิ ผดู้ แู ล เปน็ ฝา่ ยชวนคยุ หมนั่ ซกั ถามเพอื่ ใหผ้ สู้ งู อายตุ อบค�ำ ถามและ ลืมเรื่องราวตา่ งๆ ทบี่ น่ วา่ ไป 3. บุคลากรสาธารณสุขต้องสอนเทคนิคการตั้งคำ�ถามให้กับลูกหลาน/ญาติ/ผู้ดูแล โดยคำ�ถามท่ี ดตี อ้ งเป็นคำ�ถามที่ใหผ้ ูส้ ูงอายุในบา้ นคดิ และตอบ คำ�ถามทด่ี ตี ้องเป็นส่งิ ทล่ี กู หลานหรอื ผดู้ แู ล อยากรู้เพื่อน�ำ ไปเป็นประเดน็ การคยุ การตง้ั ค�ำ ถาม 4. แนะน�ำ ใหล้ กู หลาน/ญาต/ิ ผดู้ แู ลชกั ชวนหรอื หากจิ กรรมใหผ้ สู้ งู อายทุ �ำ ซง่ึ เปน็ งานหรอื กจิ กรรม ที่ทำ�แล้วเพลิดเพลิน ไมห่ มกมนุ่ อยู่กบั ความคิดเดิมๆ อาจเปน็ กจิ กรรมทผี่ สู้ ูงอายุชืน่ ชอบหรอื กิจกรรมแปลกใหม่เพอื่ สรา้ งประสบการณ์แปลกใหมแ่ ละดงึ ความสนใจออกจากเร่ืองที่บ่น 5. ลูกหลาน/ญาติ/ผู้ดูแล ไม่ชวนทะเลาะหรือเก็บเรื่องที่ผู้สูงอายุบ่นมาเป็นอารมณ์แต่พยายาม ท�ำ ความเข้าใจธรรมชาตขิ องผสู้ ูงอายุทมี่ ลี กั ษณะย้าํ คดิ ย้าํ ท�ำ และตดิ อยู่กับอดีต ไมค่ วรตอบโต้ ด้วยอารมณ์ท่รี ุนแรง วธิ กี ารชว่ ยเหลอื ผสู้ ูงอายุ ดงั นี้ 1. บคุ ลากรสาธารณสขุ รบั ฟงั ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ เพอ่ื ใหผ้ สู้ งู อายไุ ดร้ ะบายความไมส่ บายใจหรอื ความ คบั ขอ้ งใจ 2. ใชค้ ำ�ถามเพื่อสะทอ้ นใหผ้ ู้สูงอายุได้เหน็ ภาพของตนเองวา่ ผสู้ ูงอายบุ ่นมากเกนิ ไปหรอื ไม่ ดว้ ยคำ�พูดง่ายๆ วา่ “ถ้ามีคนพูดเช่นน้ใี หค้ ุณปา้ ฟงั แลว้ จะรู้สึกอย่างไร” หรือ ถา้ มคี นวิจารณ์ คณุ ลุงแล้วคณุ ลุงจะรู้สกึ อยา่ งไร” 3. ช่วยผสู้ ูงอายฝุ กึ วิธีการตง้ั คำ�ถามอยา่ งสร้างสรรค์ ชวนคิด เพ่อื เปน็ ประเดน็ ในการพดู คยุ แทน การบน่ ว่า 28 แนวทางการด�ำ เนนิ งานส่งเสริมสุขภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจิตในผสู้ ูงอายุ ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต�ำ บล

6. ร้สู ึกว่าตนเองไมม่ ีคณุ คา่ ในวัยสงู อายุความเช่อื มั่นในตนเองลดลง ความภาคภูมิใจในตัวเองลดน้อยถอยลง บางรายตอ้ งพึ่ง พงิ ผู้อื่นเพราะปัญหาความเสอื่ มถอยของสมรรถภาพร่างกายและสตปิ ญั ญา บางรายรู้สกึ นอ้ ยอกนอ้ ยใจหรือ ซึมเศร้า ไม่สามารถสร้างกำ�ลังใจเมื่อเกิดความรู้สึกน้อยอกน้อยใจได้ บางรายจู้จ้ีขี้บ่นและรู้สึกสูญเสียภาพ ลักษณ์ต่อตนเอง แนวทางการชว่ ยสรา้ งความรสู้ ึกมคี ุณคา่ ในตนเอง (ในผสู้ งู อายกุ ลมุ่ ติดสงั คม) 1. ฝกึ ให้ผสู้ งู อายชุ ่วยเหลอื ตัวเองในเรื่องง่าย เชน่ กจิ วัตรประจ�ำ วัน งานบา้ นเลก็ ๆ น้อย หรือการ ดแู ลเดก็ ๆ เพ่ือไม่ให้รู้สึกเป็นภาระกับคนอืน่ 2. ให้ผู้สูงอายุใกล้ชิดกับเพื่อนผู้สูงอายุคนอื่นๆ เพื่อฝึกให้เกิดการช่วยเหลือกันเอง เช่น การจัด กจิ กรรมเยยี่ มบา้ น จติ อาสาในรปู แบบตา่ งๆ เพอื่ ท�ำ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และเสยี สละเพอ่ื สว่ นรวม (อาจเป็นแรงงานหรือทรพั ย์ หรือความรกู้ ็ได้) 3. ฝกึ ใหผ้ สู้ งู อายชุ ว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ เชน่ การตง้ั ชมรมตา่ งๆ และชมุ ชนควรจดั เวทใี หผ้ สู้ งู อายไุ ดแ้ สดง ความคิดเห็น หารอื ในประเดน็ ต่างๆ เพ่อื กระตุน้ สมองป้องกันภาวะสมองเสอ่ื ม เปน็ ต้น 4. ฝกึ ให้ผสู้ ูงอายุเปน็ ผใู้ ห้การปรกึ ษา/วทิ ยากร/นักจัดรายการวทิ ยชุ ุมชน ฯลฯ ให้ทอ้ งถนิ่ เพอื่ ให้ ผสู้ งู อายเุ กดิ ความภาคภมู ใิ จและเกดิ ความรสู้ กึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของชมุ ชน มพี ลงั ในการด�ำ เนนิ ชวี ติ และป้องกันภาวะซึมเศร้า แนวทางการสรา้ งคุณคา่ ในตนเอง (ในกลมุ่ ผสู้ ูงอายกุ ล่มุ ติดบ้าน) ในกลุม่ นจี้ ะเน้นการเย่ียมบา้ นเป็นหลัก บุคลากรสาธารณสุขตอ้ งอาศยั ทกั ษะการสือ่ สาร 1. ใหท้ กั ทาย พูดคยุ เพอ่ื สร้างสมั พันธภาพ และให้กำ�ลังใจ โดยปกติผูส้ งู อายกุ ลุ่มน้จี ะรูส้ ึกดใี จท่ี มคี นมาเยยี่ ม อยากพดู คุย อยากทักทาย อยากเล่าเรื่องต่างๆให้ผอู้ ื่นฟังอย่แู ล้ว 2. ให้ถามความเห็นในเรื่องที่ผู้สูงอายุถนัด และให้เล่าเรื่องราวให้ฟัง พร้อมทั้งจดบันทึกเพ่ือให้ ผู้สูงอายุเห็นวา่ เร่อื งทเ่ี ล่า มีคนสนใจ และส�ำ คัญ 3. ให้ค้นหาศักยภาพ เพ่ือประเมินความสามารถและส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ให้มากท่ีสุด เช่น “ในแตล่ ะวนั คณุ ลงุ มกี จิ วัตรประจำ�วันอะไรบ้าง และกจิ กรรมท่ีชอบคอื อะไร/อยากทำ�อะไร” “คิดวา่ ตวั เองเป็นแบบอยา่ งท่ีดีใหก้ ับลกู หลานเร่ืองอะไรบา้ ง” 4. ประเมินสิ่งท่ีผู้สูงอายุบอกเล่าและทำ�ให้เกิดการทำ�กิจกรรมตามท่ีเห็นสมควรเช่น อยากทำ� กจิ กรรมดอกไมป้ ระดษิ ฐค์ วรจดั หาอปุ กรณ์ หรอื ประสานหนว่ ยงานตา่ งๆเพอ่ื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื 5. แนะนำ�และอำ�นวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม/ชมรม/กลุ่มต่างๆ ในชุมชน โดยประสานกับหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง แนวทางการด�ำ เนนิ งานส่งเสริมสขุ ภาพจติ และป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ ในผูส้ งู อายุ 29 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดับตำ�บล

แนวทางการสร้างคุณค่าในตนเอง (ในกลุ่มผูส้ ูงอายกุ ลมุ่ ติดเตยี ง) ในกลุม่ นจี้ ะเนน้ การเย่ียมบ้าน ต้องเน้นการฟงั และการให้กำ�ลงั ใจเป็นหลัก 1. ใหท้ กั ทาย สรา้ งสมั พนั ธภาพ มกั พบเสมอวา่ ผสู้ งู อายกุ ลมุ่ ตดิ เตยี งไมค่ อ่ ยอยากพดู คยุ บคุ ลากร สาธารณสุขต้องพยายามให้ผู้สูงอายุพูดคุยเพื่อเล่า ระบาย ความทุกข์ ความไม่สบายกาย ไมส่ บายใจ และบุคลากรควรรบั ฟงั อยา่ งตั้งใจ 2. ให้ผู้สูงอายุเล่าความภาคภูมิใจในอดีต เรื่องชื่นชม ให้กำ�ลังใจ พร้อมกับค้นหาส่ิงท่ีดีๆ ในเรอ่ื งเลา่ 3. ถ้าไมม่ ีเร่อื งเล่า บคุ ลากรสาธารณสขุ ควรให้ผูส้ งู อายเุ ลา่ เรอื่ งราวของชุมชนในอดีต วฒั นธรรม ประเพณีของชุมชน บุคคลสำ�คัญในชุมชน เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ประสานกับโรงเรียน ให้นักเรยี นมาถอดความร้กู บั ผูส้ งู อายุในประเดน็ เหล่านี้ 4. ประเมินปัญหาสุขภาพจติ /ภาวะซมึ เศรา้ หากพบปัญหาให้ค�ำ ปรึกษาเบ้ืองตน้ หรือส่งตอ่ 5. ใช้เครือขา่ ยทางสงั คมในการดแู ลผู้สงู อายตุ ดิ เตียง เช่น อสม. ชมรมผ้สู งู อายุ 7. นอนไม่หลับ (พบในทกุ กลุม่ ) ผู้สงู อายทุ มี่ ปี ญั หานอนไม่หลับ มกั จะชอบตืน่ ข้นึ กลางดึกหรือไมก่ ็ต่นื เชา้ กว่าปกติ และเมื่อตื่นแล้ว กห็ ลบั ตอ่ ยาก ตอ้ งลกุ ขน้ึ มาท�ำ โนน่ ท�ำ น่ี ซง่ึ จะรบกวนสมาธคิ นอน่ื ในบา้ นทกี่ �ำ ลงั นอนหลบั อยดู่ ว้ ย ทงั้ นส้ี าเหตุ ของการนอนไม่หลบั อาจเกดิ จากการนอนกลางวันมากเกินไป ไม่คอ่ ยไดอ้ อกกำ�ลงั กายหรือใช้แรงงาน ท�ำ ให้ รสู้ กึ ออ่ นเพลยี เมอ่ื ไดเ้ วลานอนอาจวติ กกงั วลบางเรอ่ื งอยู่ ทน่ี อนไมส่ บาย อากาศรอ้ นหรอื เยน็ เกนิ ไป มปี ญั หา ทางรา่ งกายทีร่ บกวนการนอน เช่น ปวดหลัง เบาหวานตอ้ งลุกมาปัสสาวะบ่อยจนรบกวนการนอน เป็นต้น แนวทางการช่วยเหลือ 1. หลังจากสร้างสัมพันธภาพถามสารทุกข์สุขดิบแล้ว ควรจะประเมินลักษณะการนอนว่านอน ประมาณกีช่ วั่ โมง โดยปกตผิ ู้สงู อายคุ วรนอนอย่างนอ้ ย 4 - 6 ชัว่ โมงต่อคืนและติดต่อกันใน ชว่ งเดียวกนั 2. ประเมนิ ดา้ น “คณุ ภาพ” หรอื “ปริมาณ” ของการนอนเพอื่ กำ�จดั สาเหตทุ เ่ี กดิ ข้ึน ด้วยการให้ ผู้สูงอายลุ องนึกเปรียบเทียบดกู ับการนอนวา่ ช่วงใดทรี่ ู้สึกว่าหลบั ไม่ดีเป็นช่วงไหน เชน่ นอน หลับไม่ดีช่วงต้น คือต้องนอนกล้ิงไปมาอยู่นานกว่าจะหลับ(แสดงถึงปริมาณการนอนไม่พอ) หรอื นอนหลับไมด่ ีช่วงกลาง คือนอนหลับแล้วตนื่ ขน้ึ มากลางดึกแล้วกวา่ จะหลบั กย็ ากแตก่ ็ยัง หลับได้ (แสดงถงึ ปรมิ าณการนอนไมพ่ อ) หรือนอนไม่หลบั ในชว่ งทา้ ยคือหลบั ไปนานแลว้ ตื่น ข้นึ มาแล้วจะนอนไมห่ ลบั ชว่ งดึกๆจนกระทัง่ สวา่ งคาตา (แสดงถงึ คุณภาพการนอนท่ีไมด่ )ี 3. ประเมินความรุนแรงของปัญหาการนอนท่ีเกิดข้ึนต่อว่า “ก่อนหน้าน้ีท่ีนอนได้ไม่มีปัญหาน่ะ นอนอยา่ งไร...” “ตัวคุณปา้ เองลองนกึ ดูสคิ ะว่าอะไรทจี่ ะเป็นสาเหตุทีค่ ุณปา้ นอนไมห่ ลับ” 30 แนวทางการด�ำ เนนิ งานส่งเสรมิ สขุ ภาพจิตและปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ งู อายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดับต�ำ บล

4. กรณีของคณุ ภาพการนอนไมด่ ตี อ้ งพยายามหาสาเหตทุ เ่ี กิดข้นึ และแก้ไขตามสาเหตุโดยพบวา่ สาเหตุของการนอนไม่หลบั มักจะเกดิ จาก  การใช้สารกระตุ้นต่อจิตประสาท อาทิ เหล้า บุหร่ี กาแฟ (ชา ชาเขียว ชาขาว โค้ก ช๊อกโกแลต เครอ่ื งด่ืมชกู ำ�ลงั ฯลฯ ทมี่ ีคาเฟอีน)  ปัจจยั กระตุ้นภายนอก เชน่ แสง เสียง สะเทอื น สน่ั หนาว ร้อน  ปัจจัยกระตนุ้ ภายใน เช่น เครยี ด ครุน่ คิดเร่ืองใดเรอ่ื งหน่งึ นานๆ หรือโรคเร้อื รงั ที่เปน็ เชน่ โรคเบาหวานท่ตี อ้ งตื่นบ่อยเพ่ือปสั สาวะ นอกจากน้ีอาจช่วยเหลอื ดว้ ยการปรับสุขลักษณะการนอนใหด้ ี ด้วยการให้คำ�แนะนำ�ดังนี้ 1. เข้านอนและตืน่ นอนใหเ้ ปน็ เวลา 2. ออกกำ�ลงั กายอยา่ งสม่�ำ เสมอ ไม่ควรออกกำ�ลังกายก่อนนอน และเมอื่ ออกกำ�ลังกายกใ็ ห้ ออกก�ำ ลังกายให้พอเมื่อยแตไ่ ม่ถงึ กับเหนอ่ื ยจะชว่ ยท�ำ ให้หลับได้ง่ายขึ้น 3. จดั ส่ิงแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสม หลีกเลี่ยงเสียงดัง หรอื อากาศร้อน 4. ทำ�จิตใจใหส้ บายก่อนนอน หลกี เล่ยี งส่ิงทกี่ ระตุ้นจติ ใจ 5. ไมใ่ ชเ้ ตยี งทำ�กจิ กรรมอน่ื ๆ เชน่ อา่ นหนังสือ รับประทานอาหาร 6. หากนอนไมห่ ลบั นานเกนิ 30 นาที ใหล้ กุ จากเตยี ง ท�ำ กจิ กรรมอะไรก็ไดจ้ นง่วง แลว้ จึงเขา้ นอนใหม่ 7. งดการใช้สารกระต้นุ ต่อจิตประสาท เชน่ สรุ า กาแฟ ก่อนนอน 8. หากิจกรรมให้ผสู้ งู อายุท�ำ ในตอนกลางวัน 9. ดูแลรักษาโรคทางกายให้ทุเลา กรณีมีปัญหาเร่ืองเครียดวิตกกังวล คงต้องหาสาเหตุ ปลอบโยนให้หายกงั วล 10. หากอาการนอนไม่หลับยังคงอยู่เป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพ่ือให้การบำ�บัดรักษา ตอ่ ไป 5. กรณีทป่ี รมิ าณเวลานอนไมพ่ อ ก็ต้องช้ีใหผ้ ้สู งู อายุเห็นประเด็นปญั หาหรือสาเหตทุ ีเ่ กิดขน้ึ และ ตอ้ งใหผ้ สู้ งู อายรุ จู้ กั จดั การชวี ติ ตนเองท�ำ ใหเ้ วลานอนมากขน้ึ ใหไ้ ด้ เรมิ่ จากค�ำ พดู วา่ “กอ่ นหนา้ น้ี ทำ�อยา่ งไรจึงนอนไดเ้ ต็มอิม่ นอนไดน้ าน” “ช่วงนีค้ ิดวา่ อะไรเปน็ สาเหตุท่ีทำ�ใหร้ ู้สึกว่าตนเอง นอนไม่พอ พยายามลองนึกดูเพื่อจะได้ช่วยกันวางแผนการนอนให้ดีขึ้น” และเม่ือหาสาเหตุ ได้อาจให้ค�ำ แนะนำ�เพม่ิ เตมิ ไดด้ ังน้ี  สามารถนอนพักได้ทุกเวลา ไม่ตอ้ งกังวลว่าจะนอนไม่พอ  ถ้านอนไมห่ ลบั จะลุกข้นึ มาทำ�กจิ กรรมอะไรกไ็ ดเ้ ชน่ ฟงั วทิ ยุ ดทู วี ี จนง่วงแลว้ ค่อยหลบั ต่อ  รว่ มกันกับผูส้ งู อายุในการวางแผนการนอนใหมใ่ หเ้ หมาะสมกับสภาพความเปน็ จรงิ  ปรับสุขลักษณะการนอนใหด้ ีดงั ค�ำ แนะน�ำ ขา้ งตน้ แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสริมสุขภาพจติ และป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ในผู้สูงอายุ 31 ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดบั ต�ำ บล

กิจกรรมการเสริมสรา้ งสุข 5 มิติ การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตโดยใช้กิจกรรมการเสริมสร้างความสุข 5 มิติ มีรายละเอียดดังน้ี (ส�ำ นักพัฒนาสขุ ภาพจติ , 2556) 1. สุขสบาย (Health) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการดูแลสุขภาพร่างกายให้มีสมรรถภาพ ร่างกายท่ีคล่องแคล่วมีกำ�ลัง สามารถตอบสนองต่อความต้องการทางกายภาพได้ตามสภาพท่ีเป็นอยู่ มเี ศรษฐกจิ หรอื ปัจจัยทจ่ี ำ�เปน็ พอเพยี ง ไมม่ ีอุบตั เิ หตหุ รืออันตราย มีสภาพแวดล้อมทสี่ ง่ เสริมสขุ ภาพ ไม่ติดสงิ่ เสพตดิ วิธีส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ ความสุขสบาย จุดประสงค์: เพ่ือใหเ้ กิดความคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวไม่เกิดอุบตั เิ หตงุ า่ ย 1. แนะน�ำ เรอื่ งการออกก�ำ ลงั กายทใ่ี ชก้ ลา้ มเนอื้ มดั ใหญ่ เชน่ ฝกึ กายบรหิ ารเพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ของระบบการเคลื่อนไหวและควรออกกำ�ลังกายให้ครบทุกสัดส่วน ทุกข้อต่อของร่างกาย ท้ังนี้ การออกกำ�ลังกายไม่ควรออกกำ�ลังกายแบบรุนแรงและควรทำ�เป็นประจ�ำ ทุกวัน วันละ 15-30 นาที 2. ขณะออกกำ�ลังกายต้องฝึกการควบคุมการหายใจให้เป็นจังหวะตามการออกกำ�ลังกาย โดย หายใจใหล้ กึ และผอ่ นลมหายใจออกทางปาก ไมก่ ลน้ั หายใจขณะออกก�ำ ลงั กายเพราะจะท�ำ ให้ ความดันโลหิตสงู ได้ 3. หลังการออกกำ�ลังกายอย่างเต็มที่ไม่ควรหยุดแบบทันที ควรออกกำ�ลังกายต่อ แต่ให้ช้าลง ประมาณ 5 - 10 นาที แลว้ จงึ หยดุ 4. ใชแ้ รงกายในชวี ติ ประจ�ำ วนั และท�ำ งานอดเิ รกทช่ี อบ เชน่ กวาดบา้ น ท�ำ สวน ซอ่ มแซมเครอ่ื งใช้ ไมส้ อย เปน็ ต้น 5. ระมดั ระวงั การพลดั ตกหกลม้ 2. สุขสนุก (Recreation) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการเลือกวิถีชีวิตที่รื่นรมย์ สนุกสนาน ด้วยการทำ�กิจกรรมที่กอ่ ให้เกดิ อารมณ์เป็นสขุ จติ ใจสดชน่ื แจม่ ใส กระปรี้กระเปรา่ วิธีสง่ เสริมใหเ้ กดิ ความสุขสนุก จดุ ประสงค์ : เพอื่ คลายเครยี ด 1. แนะน�ำ เรอื่ งเขา้ รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการ หรอื กจิ กรรมตา่ งๆทสี่ รา้ งความสดชน่ื และมชี วี ติ ชวี า อย่างสรา้ งสรรค์และดงี าม 2. แนะน�ำ เรอื่ งการเลน่ กฬี า ดนตรี ศลิ ปะหรอื งานอดเิ รกทช่ี อบ เชน่ เปตอง ร�ำ ไมพ้ ลอง เตน้ แอโรบคิ เต้นฮูลาฮปู รำ�วงพนื้ บา้ น หรือเล่นดนตรพี ้ืนบ้าน เปน็ ตน้ 32 แนวทางการด�ำ เนินงานสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจิตในผสู้ ูงอายุ ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพระดับต�ำ บล

3. สขุ สงา่ (Integrity) หมายถงึ ความรสู้ กึ พงึ พอใจในชวี ติ ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง ยอมรบั นบั ถอื ตนเอง ใหก้ �ำ ลงั ใจตนเองได้ เหน็ อกเหน็ ใจผอู้ น่ื มลี กั ษณะเออ้ื เฟอ้ื แบง่ ปนั และมสี ว่ นรว่ มใน การช่วยเหลือผูอ้ ืน่ ในสังคม วิธสี ง่ เสริมใหเ้ กดิ ความสขุ สง่า จุดประสงค์ : เพ่อื ส่งเสรมิ ความภาคภูมิใจและความมคี ุณคา่ ในตนเอง 1. แนะนำ�ให้ผู้สูงอายุพยายามช่วยเหลือตนเองในเร่ืองง่ายๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับคนอ่ืน เช่น กจิ วัตรประจ�ำ วัน งานบ้านเลก็ ๆน้อยๆ การดแู ลเดก็ เปน็ ตน้ 2. แนะนำ�ให้ผู้สูงอายุรู้จักฝึกการเป็นผู้ฟังท่ีดีเพื่อสร้างปฎิสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น ด้วยการไม่แทรก หรือขัดจงั หวะขณะทผ่ี ูอ้ ื่นพดู ยกเวน้ กรณที ส่ี งสัยสิง่ ที่ผพู้ ูดก�ำ ลังพดู ต้องฟังอยา่ งต้ังใจเพอ่ื จะ ไดเ้ ก็บเรอื่ งราว ความคิด อารมณ์ ความรู้สึกของผ้พู ดู ขณะพูด เพื่อเป็นผใู้ หค้ ำ�แนะน�ำ ปรกึ ษา ในเรื่องทต่ี นเองถนดั หรอื มีประสบการณ์ 3. ฝกึ วธิ กี ารตง้ั ค�ำ ถามเพอื่ จะไดใ้ ชเ้ ปน็ หวั ขอ้ ในการพดู คยุ สนทนากบั ผอู้ น่ื อาจเรม่ิ ตน้ ดว้ ยการชวน พดู คยุ เรือ่ งทลี่ ูกหลานกำ�ลงั ทำ�อยู่ เรือ่ งเทคโนโลยี เรือ่ งข่าวสารทก่ี �ำ ลงั เปน็ ประเด็น เพ่ือจะได้ ทันเหตกุ ารณ์และโลกในปัจจบุ ันได้ 4. แนะนำ�เร่ืองการเป็นคนไม่จู้จี้ขี้บ่นและระวังการใช้คำ�พุดท่ีรุนแรงที่อาจทำ�ให้การสนทนาไม่ สรา้ งสรรค์ (กล่าวแล้วในบทที่ 1) 5. แนะนำ�ให้ผู้สูงอายุหากิจกรรมท่ีทำ�ให้เพลิดเพลิน ไม่หมกมุ่นอยู่กับความคิดเดิมๆ อาจเป็น กจิ กรรมที่ช่ืนชอบ หรือกิจกรรมแปลกใหม่เพ่อื สร้างประสบการณก์ ารเรยี นรสู้ งิ่ ใหม่ 6. แนะน�ำ ให้ผู้สงู อายชุ ว่ ยเหลอื กิจกรรมต่างๆทั้งในครอบครวั และชมุ ชนตามศักยภาพท่ตี นเองมี 4. สุขสว่าง (Cognition) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุด้านความจำ� ความคิดอย่างมีเหตุผล การส่ือสาร การวางแผน และการแก้ไขปัญหา ความสามารถในการคิดแบบนามธรรม รวมทั้งความ สามารถในการจดั การสิ่งต่างๆ ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ วธิ สี ่งเสรมิ ให้เกิดความสุขสวา่ ง จุดประสงค:์ เพอื่ ชะลอความเสอื่ มของสมองในดา้ นต่างๆ 1. แนะน�ำ ผสู้ งู อายเุ รอื่ งการฝกึ การเรยี นรสู้ ง่ิ ใหมๆ่ ทไี่ มค่ นุ้ เคยหรอื ไมเ่ คยรมู้ ากอ่ นเชน่ ท�ำ กจิ กรรม ดว้ ยมอื ขา้ งทไ่ี มถ่ นัด ทำ�กจิ วตั รประจ�ำ วันท่ีไม่เคยท�ำ 2. แนะนำ�ผู้สูงอายุเร่ืองการรวมกลุ่มกับเพ่ือนๆ หรือกลุ่มวัยอื่นๆเพ่ือพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยน ความคดิ เหน็ ซึ่งจะชว่ ยใหเ้ กิดความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ เรอ่ื งการวางแผน และความคดิ เรื่อง การบรหิ ารจัดการได้ดี แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผ้สู ูงอายุ 33 สำ�หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพระดบั ตำ�บล

3. แนะนำ�ผสู้ ูงอายใุ นการฝึกกจิ กรรมที่จะชว่ ยประสานสหสมั พันธร์ ะหว่างมอื ตา และเท้า เพื่อ ป้องกันอุบัติเหตุ เกิดความคล่องแคล่วและสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ด้วยการฝึกหยิบจับ วัตถุชน้ิ เลก็ ๆ เช่น ร้อยลกู ปัด นงั่ ป้นั กระดาษหนังสอื พมิ พ์ 1 คดู่ ว้ ยเท้าขณะดูทีวใี ห้กลมที่สุด เป็นต้น 4. แนะน�ำ ผสู้ งู อายเุ รอ่ื งการเลน่ เกมสท์ สี่ ามารถฝกึ ฝนดา้ นความจ�ำ หรอื ฝกึ สมองไดแ้ ตค่ วรเปน็ เกมส์ ทีท่ �ำ ใหเ้ กดิ การแลกเปลี่ยนขอ้ คิดเหน็ กนั ในกลมุ่ ผสู้ ูงอายุ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การแก้ปัญหา เกดิ การคดิ เชงิ บรหิ ารจดั การ เกดิ การจดั ล�ำ ดบั ความคดิ อนั เปน็ การชะลอความเสอ่ื มของสมอง เปน็ ตน้ เชน่ หมากรุก อกั ษรไขว้ ตอ่ คำ� ตอ่ เพลง คดิ เลข หรอื การจดจำ�ข้อมลู ตา่ งๆ เชน่ วัน เวลา สถานท่ี บุคคล หมายเลขโทรศพั ท์ เปน็ ต้น 5. สอนผู้สูงอายุในเรื่องการฝึกคิดแบบมีเหตุผล พยายามใช้เหตุผลตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ไตร่ตรองใหร้ อบคอบจะได้ไม่ตกเปน็ เหยอ่ื ใหใ้ ครหลอกได้ อาจเร่ิมจากเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้นึ แล้ว ใหบ้ อกเหตผุ ลเพอ่ื ตรวจสอบหาขอ้ เทจ็ จรงิ มาใชส้ นบั สนนุ หรอื คดั คา้ น หรอื ฝกึ คาดคะเนความ เปน็ ไปไดข้ องเหตกุ ารณ์ หรือขอ้ มลู โดยมกี ารน�ำ ขอ้ มลู ทีเ่ ช่อื ถอื ได้มาอา้ งอิง และสรปุ เป็นการ คาดคะเนของตนเอง 5. สขุ สงบ (Peacefulness) หมายถึง ความสามารถของผูส้ งู อายใุ นการรับรู้ เขา้ ใจความรสู้ ึกของตนเอง รจู้ กั ควบคมุ อารมณ์ และสามารถจดั การกบั สภาวะอารมณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถผอ่ น คลายใหเ้ กดิ ความสขุ สงบกบั ตนเองได้ รวมทง้ั สามารถปรบั ตวั และยอมรบั สภาพทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามความเปน็ จรงิ วิธีส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ ความสขุ สงบ จุดประสงค์ : เพื่อปรบั ความคิด บรหิ ารจิตใหเ้ กดิ สติ สมาธิ 1. แนะน�ำ วธิ กี ารผอ่ นคลายตา่ งๆ เชน่ การนง่ั ในทา่ สบาย ฝกึ หายใจชา้ ๆลกึ ๆ ใชก้ ลา้ มเนอ้ื กระบงั ลม บรเิ วณทอ้ งช่วย โดยหายใจเขา้ ท้องป่อง กลน้ั หายใจไวน้ ับเลข 1 - 4 และหายใจออกช้าๆ นับ 1-8 ให้ท้องแฟบ ท�ำ ซ้ําๆ เมื่อรู้สึกเครยี ด หงดุ หงดิ โกรธ หรอื ไมส่ บายใจ 2. แนะน�ำ เรอื่ งการฝกึ คดิ ยดื หยนุ่ ใหม้ ากขน้ึ อยา่ เขม้ งวด จบั ผดิ หรอื ตดั สนิ ผดิ ถกู ตนเอง และผอู้ น่ื อยู่ ตลอดเวลา รจู้ กั ผอ่ นหนกั เปน็ เบา ลดทฐิ มิ านะ รจู้ กั ใหอ้ ภยั ไมถ่ อื โทษโกรธเคอื ง และปลอ่ ยวาง ชีวติ จะได้มีความสุขมากขน้ึ 3. แนะน�ำ เรอ่ื งการฝกึ คดิ แตเ่ รอ่ื งดๆี เชน่ คดิ ถงึ ประสบการณท์ ดี่ ี คดิ ถงึ ความส�ำ เรจ็ ในชวี ติ ทผี่ า่ นมา คำ�ชมเชยท่ีได้รับ ความมีนํ้าใจของเพื่อนบ้าน เปน็ ตน้ 4. แนะน�ำ เรอื่ งการฝกึ คดิ ถงึ คนอน่ื บา้ ง อยา่ คดิ หมกมนุ่ กบั ตนเองเทา่ นนั้ เปดิ ใจใหก้ วา้ ง รบั รคู้ วาม เป็นไปของคนอน่ื เรม่ิ ตน้ ง่ายๆจากคนใกลช้ ดิ ด้วยการใสใ่ จช่วยเหลอื สนใจเอาใจใสค่ นใกล้ชดิ เราบ้าง จากนั้นหันกลับไปมองคนรอบข้างทีม่ ปี ัญหาหนกั หน่วงในชวี ิต 5. แนะนำ�การทำ�กิจกรรมที่สามารถฝึกสติ ฝึกสมาธิ เช่นการเข้าร่วมกิจกรรมในวันสำ�คัญ เช่น วันพ่อแห่งชาติ วนั แมแ่ หง่ ชาติ เปน็ ต้น 34 แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสริมสุขภาพจิตและปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจิตในผสู้ งู อายุ ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต�ำ บล

การเยี่ยมบ้านและการดแู ลผู้ป่วยสงู อายทุ ีบ่ ้าน (Home Visit and Home Care in Elderly) การเยี่ยมบ้านและการดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่บ้านถือเป็นกิจกรรมที่เป็นหัวใจสำ�คัญของการดูแลผู้ป่วย อย่างต่อเนื่อง นอกจากต้องดแู ลผสู้ ูงอายุท่ีเจบ็ ปว่ ยทีบ่ ้านแล้วยังต้องดูแลสมาชิกในครอบครวั ขณะเยย่ี มบา้ น เพอ่ื ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ดงั นน้ั บคุ ลากรสาธารณสขุ ตอ้ งเพมิ่ ความตระหนกั วา่ “การเยย่ี มบา้ นถอื เปน็ งาน บรกิ ารทชี่ ว่ ยแบง่ เบาภาระของครอบครวั และมสี ว่ นรว่ มในการดแู ลผปู้ ว่ ยทบี่ า้ นรว่ มกบั โรงพยาบาล” จะเหน็ วา่ การเยยี่ มบา้ นและการดแู ลผปู้ ว่ ยทบี่ า้ นเปน็ กจิ กรรมเชงิ รกุ และเชงิ ลกึ ทท่ี �ำ ใหเ้ รามองภาพการดแู ลผปู้ ว่ ยทงั้ รา่ งกาย จติ ใจ และสงั คมรอบตวั ผปู้ ว่ ยสงู อายุ กระบวนการดงั กลา่ วตอ้ งอาศยั ทกั ษะหลายๆดา้ นเพอื่ ใหภ้ ารกจิ บรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะทักษะทางด้านจิตวิทยาในการสื่อสารเพ่ือให้เกิดความม่ันใจ ลดความวิตกกังวล นอกเหนือจากความรู้พ้ืนฐานด้านการแพทย์ต่อการดูแลความเจ็บป่วยหรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำ�หรับ การเจบ็ ป่วยแลว้ การดูแลผู้ป่วยสูงอายุท่ีบ้านต้องไม่ลืมหลักการสำ�คัญว่าการจะเยี่ยมบ้านหรือให้การดูแลท่ีบ้านใน ครั้งแรกนั้น ควรเร่ิมต้นท่ีความต้องการของผู้ป่วยและญาตินำ�มาก่อนเสมอซึ่งจะเป็นการสร้างสัมพันธภาพ ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยและญาติ ที่ดีและเป็นกุญแจสำ�คัญท่ีทำ�ให้เราเข้าถึงครอบครัวของ ผปู้ ว่ ยสงู อายไุ ด้ โดยเฉพาะในธรรมเนยี มแบบไทยๆ การไปเยยี่ มเยอื นคนอน่ื ถงึ บา้ น ถอื วา่ เปน็ เรอื่ งส�ำ คญั และ ให้เกียรติเจ้าของบ้าน (วิโรจน์ วรรณภิระ, 2555) การเยีย่ มบา้ นเพือ่ ดูแลความเจบ็ ป่วย สำ�หรบั ผู้สูงอายแุ ลว้ มักเปน็ การดูแลผ้ปู ่วยสงู อายุในระยะเฉยี บพลนั และการดูแลผปู้ ว่ ยสูงอายุดว้ ย โรคเรอื้ รงั กรณกี ารดแู ลผสู้ งู อายใุ นระยะเฉยี บพลนั การเยยี่ มบา้ นสว่ นใหญจ่ ะเนน้ การชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ เพอ่ื ให้ผู้ปว่ ยสูงอายุปลอดภยั จากความเจบ็ ปว่ ยแบบเฉยี บพลัน การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม การสบื สวนโรค และการ ตดิ ตามเฝา้ ระวงั โรคซงึ่ จะเนน้ ทางดา้ นรา่ งกายมากกวา่ จติ ใจ และเปน็ การใหก้ ารชว่ ยเหลอื ทตี่ อ้ งอาศยั ความรู้ พ้นื ฐานทางกายภาพ การเย่ียมบ้านผู้ป่วยสูงอายุด้วยโรคเรื้อรัง เพ่ือให้การดูแลทางด้านสังคมจิตใจ จะเน้นการดูแลทาง ดา้ นจติ ใจ อารมณ์ สงั คม และจติ วญิ ญาณ ทส่ี ง่ ผลตอ่ ปรบั ตวั และพฤตกิ รรมของผปู้ ว่ ยสงู อายุ รวมทง้ั ประเมนิ ประสิทธิภาพของครอบครัวต่อการดูแลผู้ป่วยสูงอายุเมื่อกลับไปอยู่บ้าน ประเมินความปลอดภัย ท่ีพัก สิ่งแวดล้อม และความต้องการความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ-สังคม รวมทั้งให้การส่งเสริมและป้องกัน ปัญหาสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วย และญาติด้วยการนำ�เทคนิคการส่ือสาร การสนับสนุนทางสังคมและการสร้าง สัมพันธภาพมาเป็นกลไกสำ�คัญในการดำ�เนนิ การ กระบวนการดูแลทางด้านสังคมจิตใจ เม่ือเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุท่ีเจ็บป่วยด้วยโรคเร้ือรังก็เช่นเดียวกับ กระบวนการเยี่ยมบา้ นอื่นๆ ดงั น้ี 1. ระยะกอ่ นเยีย่ มบา้ น บคุ ลากรสาธารณสขุ ทจ่ี ะใหก้ ารดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจรว่ มกบั สหวชิ าชพี อน่ื ๆ มวี ธิ กี ารด�ำ เนนิ การ ดังนี้ 1.1 ตอ้ งก�ำ หนดเปา้ หมายในการเยย่ี มบา้ น เพอ่ื ใหก้ ารดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจใหช้ ดั เจน ทง้ั ผปู้ ว่ ย จ�ำ นวนสมาชิกในครอบครัวทจี่ ะเขา้ เยย่ี ม แนวทางการด�ำ เนนิ งานสง่ เสรมิ สุขภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ ในผู้สูงอายุ 35 สำ�หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพระดับตำ�บล

1.2 วางแผนในการเย่ียมบ้าน ด้วยการเข้าใจข้อมูลพ้ืนฐาน สถานการณ์การเจ็บป่วยในอดีต ปัจจบุ นั ประวตั สิ ่วนตัวของผ้ปู ่วยสงู อายุ และวธิ กี ารประเมนิ ทางสงั คมจติ ใจ เพ่ือชว่ ยตอบ สนองความตอ้ งการของผปู้ ว่ ยและครอบครวั ในการลดความวติ กกงั วล ความเครยี ด เปน็ ตน้ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และปัญหาทางด้านสังคมจิตใจของผู้ป่วยซึ่งจะต้องวิเคราะห์ตาม ประเดน็ ต่อไปนี้ คือ 1.2.1 ปญั หาทเ่ี ผชญิ อยใู่ นขณะนม้ี อี ะไรบา้ ง ผปู้ ระเมนิ จะตอ้ งใชท้ กั ษะการถามเปดิ เพอ่ื ให้ ไดข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ปญั หาและวเิ คราะหด์ วู า่ เขามองปญั หาอยา่ งไร สง่ิ ส�ำ คญั คอื ควรเพง่ เลง็ ทป่ี ญั หาในปจั จบุ นั มากกวา่ อดตี ท�ำ ความเขา้ ใจวา่ ปญั หามอี ะไรบา้ ง ปญั หาอยทู่ ี่ ใคร และเกีย่ วข้องกับใคร 1.2.2 ปญั หาเรง่ ดว่ น ทค่ี วรไดร้ บั การแกไ้ ขเปน็ อนั ดบั แรก ซง่ึ ตอ้ งประเมนิ จากความตอ้ งการ ของผ้ปู ว่ ยดว้ ย 1.2.3 ภาวการณ์เจ็บป่วยทางกายมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับ ชนดิ ของโรคท่เี ปน็ และการสนบั สนนุ ของผู้ใกลช้ ิด 1.2.4 สงั เกตสงิ่ ทจี่ ะบง่ บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผปู้ ว่ ยและสมาชกิ ภายในครอบครวั เพอ่ื ใหไ้ ดข้ ้อมลู ละเอียดและครอบคลมุ ในการใหก้ ารช่วยเหลอื ทางสงั คมจติ ใจต่อไป 1.2.5 ประวตั กิ ารปรบั ตวั ของสมาชกิ ครอบครวั แตล่ ะคน คา่ นยิ ม เปา้ หมายในชวี ติ บทบาท ปญั หาสขุ ภาพจติ เปน็ ตน้ ตอ้ งสงั เกตวา่ ครอบครวั โดยรวมมคี วามเหน็ ความคาดหวงั และมองสมาชกิ แตล่ ะคนอยา่ งไรในแงม่ มุ ทต่ี า่ งกนั สง่ิ เหลา่ นสี้ �ำ คญั และสง่ ผลตอ่ การ ปรบั ตัวของผปู้ ่วยเมอ่ื เจ็บป่วยเป็นอย่างมาก 1.2.6 การสนับสนนุ ทางสังคม ซ่งึ ได้แกค่ รอบครวั ญาตพิ น่ี ้อง เพ่อื น ผู้ใกลช้ ิด ใหก้ ารดูแล ช่วยเหลือ ประคับประคองจิตใจมากน้อยเพียงใด ประเมินอิทธิพลของระบบอื่นๆ เชน่ ระบบเศรษฐกจิ และศาสนา ทมี่ ตี อ่ ครอบครวั และการเจบ็ ปว่ ย เชน่ ความจ�ำ เปน็ ทางเศรษฐกิจที่ทำ�ให้ผู้ป่วยเป็นภาระในครอบครัว ประกอบอาชีพไม่ได้ ไม่มีใคร พยาบาลผปู้ ว่ ย เป็นต้น 1.2.7 ผู้ปว่ ยสูงอายแุ ละญาติ มีแรงจงู ใจ เปา้ หมาย หรือความคาดหวงั อะไรจากการบ�ำ บดั หรือการให้ การดูแลทางสังคมจิตใจ เช่น ความต้องการการช่วยเหลือระยะยาว แรงจูงใจในการบำ�บัดเป็นส่ิงสำ�คัญซ่ึงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและครอบครัว เพราะจะเปน็ กำ�ลงั ใจในการร่วมกันแก้ปัญหา 1.2.8 ผู้ป่วยสูงอายุมีความรู้ความสามารถหรือประสบการณ์อะไรบ้างท่ีเคยประสบความ สำ�เร็จหรือรู้สึกภาคภูมิใจ (ใช้เป็นเคร่ืองมือซักถามเพื่อให้ผู้ป่วยสูงอายุเกิดความ ภาคภูมิใจก่อนยุติการเย่ียมบ้าน) ท้ังนี้ข้อมูลความรู้ ประสบการณ์ ความสำ�เร็จใน อดีตใหถ้ ามจากลกู หลานก่อน ถา้ มีมลี กู หลานจึงจะถามจากคนรู้จกั 36 แนวทางการดำ�เนนิ งานส่งเสริมสุขภาพจิตและปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผสู้ งู อายุ สำ�หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดบั ตำ�บล

2. ระยะเยยี่ มบา้ น เปน็ ระยะการปฏบิ ตั ใิ นการประเมนิ ทางดา้ นสงั คมจติ ใจ เพอื่ ใหเ้ กดิ การสง่ เสรมิ และปอ้ งกนั ปญั หา สขุ ภาพจติ แกผ่ ปู้ ว่ ย และญาติ และใหก้ ารชว่ ยเหลอื โดยด�ำ เนนิ การตามแผนทว่ี างไว้ หรอื ปรบั ไดต้ ามสภาพการณ์ ทกั ษะที่ส�ำ คัญในระยะน้ี  ทกั ษะในการสอ่ื สารเพือ่ สร้างความสมั พนั ธ์และความไว้วางใจใหเ้ กดิ ขึ้น  ทกั ษะในการกระตุน้ เพอ่ื ให้ผู้สงู อายุและญาติพูดคยุ และนำ�สู่การค้นหาปัญหา  ทกั ษะการสะทอ้ นอารมณเ์ พอื่ รบั รคู้ วามรสู้ กึ และอารมณต์ า่ งๆ ทผ่ี รู้ บั บรกิ ารไดแ้ สดงออกมา และเป็นการสะท้อนความรสู้ กึ  ทกั ษะการทวนซา้ํ เพอื่ ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารไดเ้ ขา้ ใจชดั เจนขน้ึ ในเรอ่ื งทต่ี อ้ งการขอความชว่ ยเหลอื และเปน็ การเนน้ ยาํ้ ใหผ้ มู้ ารบั บรกิ ารเขา้ ใจความตอ้ งการของตนเอง ตลอดจนผใู้ หบ้ รกิ ารจะ ไดเ้ ขา้ ใจเนื้อหาทเี่ กิดขนึ้ ข้ันตอนการใหบ้ ริการเมอื่ พบผ้ปู ว่ ยและญาติ 1. สร้างสัมพันธภาพ ด้วยการทักทาย ถามสารทุกข์สุขดิบ การแนะนำ�ตัวเอง การพูดคุยสนทนา เรอ่ื งที่มาเยยี่ มเยยี น สนทนาเรื่องทัว่ ไปเพอ่ื สรา้ งความคนุ้ เคย ลดความตน่ื เต้นกงั วลใจ โดยปกติ ผู้สูงอายุท่ีอยู่บ้าน เมื่อมีผู้ไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านมักจะรู้สึกดีใจ และให้ความร่วมมือในการรักษา เป็นทุนเดิม จากนั้นให้ถามเรื่องสุขภาพกายก่อนถ้าผู้ป่วยสูงอายุยังสามารถโต้ตอบได้ แต่ถ้า ผู้สูงอายทุ ่ไี มม่ ีอาการทางจิตใจมากนักสามารถพูดคุยเร่ืองดีๆในอดตี ได้เลย และในผสู้ ูงอายุกลมุ่ ติดเตยี งถา้ พอจะน่งั เอนหลังไดก้ ารพดู คยุ จะสื่อสารได้ดขี นึ้ สง่ิ ทไ่ี มค่ วรกระท�ำ คอื การพดู จาทกั ทายทที่ �ำ ใหผ้ สู้ งู อายรุ สู้ กึ วา่ ตนเองเปน็ เดก็ เลก็ ไมใ่ ชผ่ ใู้ หญ่ ท่ีน่าเคารพ หรือคำ�ทักทายที่ทำ�ให้รู้สึกว่าผู้สูงอายุกำ�ลังทำ�ตัวให้เป็นภาระของคนรอบข้างหรือ ครอบครัว เพราะส่ิงเหล่าน้ีล้วนบั่นทอนความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง และยังสร้างความรู้สึกคับ ขอ้ งใจให้กับผู้สูงอายดุ ้วยว่าตนเองทำ�ให้คคู่ รอง/ลูกหลาน ล�ำ บาก ตวั อยา่ ง ขอ้ เท็จจรงิ จากการสัมภาษณ์ผู้สงู อายุตดิ บา้ น ตดิ เตยี ง ซึ่งสามารถพดู คยุ ไดด้ ีแต่มี ปญั หาเรอ่ื งการเคล่ือนไหวเนื่องจากปัญหาหลอดเลือดในสมอง ที่ได้สะท้อนถงึ คำ�พดู ทีบ่ คุ ลากร สาธารณสุขซึ่งมาเยี่ยมบ้านเพื่อทำ�แผลกดทับและการใส่สายสวนปัสสาวะ และทำ�ให้ผู้สูงอายุ รูส้ ึกว่าตนเองเป็นเด็กเล็ก ไม่นา่ เคารพ และรู้สึกนอ้ ยใจ “ป้ามาลี วนั นี้เจา้ หน้าที่มาเย่ียม ไหน ลองย้มิ หน่อยซิจ๊ะ อืม...เกง่ จัง ยงั นอนนาํ้ ลายยืดอยรู่ เึ ปลา่ เนี่ย” และค�ำ พดู ทที่ �ำ ใหร้ สู้ กึ วา่ ตนเองก�ำ ลงั เปน็ เดก็ นกั เรยี นทท่ี �ำ ตวั ใหเ้ ปน็ ภาระกบั คนรอบขา้ งเชน่ “ปา้ มาลเี หน็ มาทไี รกเ็ อาแตน่ อนทกุ ทเี ลย บอกใหพ้ ยายามลกุ นง่ั บา้ งกไ็ มท่ �ำ ถา้ พดู แลว้ ไมเ่ ชอื่ กนั อยา่ งน้ีจะให้ทำ�โทษอย่างไรดี รู้ไม๊วา่ นอนมากๆ จะทำ�ให้แผลที่กน้ กบมันแยล่ ง ต้องพยายามลกุ นง่ั บา้ ง บอกอะไรกไ็ มเ่ คยเชอื่ เลย” หรอื “ลงุ จอม ปา้ มาลเี ปน็ อยา่ งไรบา้ ง ลกุ นงั่ บา้ งหรอื ยงั หรอื เอาแต่นอน ด้ือหรือจ๊ะ เด๋ียวแผลก็ไม่หายกันพอดี ถ้าอยากแผลหายเร็วก็ต้องพยายามช่วยกัน ห้ามดอื้ อย่าแผลงฤทธ์ิซ”ิ แนวทางการด�ำ เนนิ งานส่งเสรมิ สุขภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ ในผู้สงู อายุ 37 ส�ำ หรบั โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดับตำ�บล

2. หลังจากคุ้นเคยแล้วให้ใช้คำ�ถามเพื่อคน้ หาปัญหา สำ�รวจปัญหา และวเิ คราะห์ปญั หาที่มีผลกระ ทบต่อพฤติกรรมสุขภาพผูป้ ว่ ย ตามแผนทว่ี างไว้ ทกั ษะทีจ่ ำ�เปน็ คือการการกระตุ้นใหผ้ สู้ ูงอาย/ุ ญาติเลา่ เรอ่ื ง ไดร้ ะบายปัญหา และความตอ้ งการด้านการชว่ ยเหลอื ในการตง้ั ค�ำ ถามเพอื่ ส�ำ รวจปญั หาไมค่ วรตงั้ ค�ำ ถามในเชงิ ประชดประชนั ดถู กู เชน่ “เอะ๊ ท�ำ ไม นาํ้ ตาลยงั สงู แอบไปท�ำ อะไรมานาํ้ ตาลขน้ึ อกี แลว้ ” หรอื “โอโห นาํ้ ตาลสงู ขนาดเชอ่ื มกลว้ ยไดเ้ ลย นะเนยี่ ไหนไปท�ำ อะไรมานาํ้ ตาลถงึ พงุ่ สงู เกนิ เพดานขนาดน้ี ลองเลา่ ใหฟ้ งั หนอ่ ยซ”ิ หรอื “แหม ... ญาตดิ ูแลยังไงท�ำ ไมนาํ้ ตาลคณุ ลงุ ถึงคมุ ไมไ่ ด้ ไหนทำ�อาหารยงั ไง เล่ามาเลย” หรือ “เมื่อกไ้ี ปดู ในครวั แหมเห็นแต่ขนมหวานในโต๊ะทานข้าว มิน่าเล่านํ้าตาลถงึ ไม่ลง” 3. การสรุปปญั หา จากขอ้ มูลตา่ ง ๆ รวมทั้งการสงั เกตปฏิสมั พนั ธท์ เี่ กิดขนึ้ ท้ังตัวผ้ปู ่วยและญาติผู้ ประเมินจะได้คำ�ตอบว่าปัญหาท่ีแท้จริงคืออะไรเป็นความขัดแย้งในตัวบุคคล หรือเป็นปัญหา ความสมั พนั ธ์ หรอื ปญั หาอยทู่ รี่ ะบบใด ผปู้ ว่ ยมภี าวะจติ สงั คมทต่ี อ้ งไดร้ บั การชว่ ยเหลอื ในเรอื่ งใด อาจมภี าวการณซ์ มึ เศรา้ การพยายามฆา่ ตวั ตาย ภาวะการณเ์ จบ็ ปว่ ยอนั เนอื่ งมาจากลกั ษณะของ โรคทร่ี นุ แรงรกั ษาไมห่ าย หรอื ความพกิ าร การเจบ็ ปว่ ยทางจติ เวชเปน็ ตน้ สง่ิ ทพ่ี งึ ระลกึ ถงึ เสมอใน การประเมนิ คอื ความแตกตา่ งระหวา่ งเชอ้ื ชาตแิ ละวฒั นธรรม ผปู้ ระเมินจะต้องไมใ่ ช้มาตรฐาน ของตนเองมาตัดสิน ควรเป็นเพื่อนคู่คิดช่วยเหลือผู้สูงอายุ/ญาติให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วย ตัวเอง กระตนุ้ ใหห้ าหนทางแกป้ ัญหาเอง ชว่ ยให้ขอ้ มลู ที่ยงั ขาดหายไป และเช่อื มโยงให้เกดิ ช่อง ทางในการน�ำ ไปสูก่ ารแก้ปญั หาหรือหาทางเลือกในการรกั ษา 4. ให้การชว่ ยเหลือเพ่อื ใหก้ ารดูแลทางสังคมจติ ใจ การวางแผนการดูแลทางสังคมจิตใจจะได้ผลดีก็ต่อเม่ือมีความกระจ่างในปัญหาที่เกิดข้ึน ดังนนั้ จงึ จำ�เป็นอยา่ งยิง่ ที่ผูป้ ระเมินจะตอ้ งอธิบาย ใหผ้ ู้ปว่ ยและญาติเขา้ ใจถึงการดูแลทางสังคม จติ ใจ ผลการประเมินเพ่อื สรุปวา่ ปัญหาอยู่ทใี่ ด เพื่อวางแผนร่วมกันในการบำ�บดั ตอ่ ไป วิธกี ารใหก้ ารช่วยเหลอื ดูแลทางด้านสังคมจติ ใจทสี่ ำ�คญั ไดแ้ ก่ 1. การใหค้ ำ�แนะน�ำ ในเรอ่ื งท่ผี ู้สงู อายุ/ญาตไิ ม่มีความกระจา่ ง 2. ใช้เทคนคิ การใหค้ ำ�ปรึกษาเบื้องตน้ ไดแ้ ก่  การประเมนิ สภาพอารมณผ์ ้สู งู อายุ  คน้ หาปัญหาทรี่ บกวนผสู้ ูงอาย/ุ ญาติ  วิธีการท่ผี ู้สูงอายุ/ญาตจิ ัดการกับปัญหา  แสดงความเห็นอกเหน็ ใจ 3. การประเมนิ สภาพอารมณ์ ภาวะซึมเศร้า ดว้ ย 2Q/9Q/8Q ถ้าพบวา่ มปี ญั หาใหส้ ง่ ตอ่ การรกั ษา 4. ระยะหลังเย่ียมบ้าน จะเป็นการทบทวน สรุปปัญหา และวางแผนติดตามหรือการเยี่ยม ในคร้งั ตอ่ ไป 38 แนวทางการดำ�เนนิ งานส่งเสริมสขุ ภาพจิตและป้องกันปญั หาสุขภาพจติ ในผู้สงู อายุ สำ�หรับ โรงพยาบาลชมุ ชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพระดบั ตำ�บล

แบบคดั กรองโรคซึมเศร้า แบบคดั กรองโรคซึมเศรา้ ดว้ ย 2Q ค�ำ ถาม ขอ้ คำ�ถาม มี ไมม่ ี 1 ใน 2 สัปดาห์ท่ผี า่ นมารวมวันน้ที ่านรูส้ ึก - หดหู่ เศร้า หรอื ท้อแท้ส้นิ หวงั หรือไม่ 2 ใน 2 สัปดาหท์ ่ีผ่านมารวมวันนท้ี า่ นรสู้ ึก - เบอื่ ทำ�อะไรกไ็ มเ่ พลิดเพลนิ หรือไม่ ผู้ที่ได้ผลเป็นบวกจากการคัดกรองคือผู้ท่ีมีแนวโน้มจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซ่ึงจำ�เป็นต้องได้รับการ วินิจฉัยและประเมินความรุนแรงของอาการซึมเศร้าเพ่ือให้การดูแลช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพรวมท้ัง การประเมินแนวโนม้ การฆา่ ตวั ตายด้วย เนอ่ื งจากผ้สู ูงอายุทม่ี โี รคซึมเศร้าจะมีอตั ราการฆา่ ตวั ตายสงู ในการ ประเมนิ ความรนุ แรงของอาการซมึ เศรา้ ในระบบดแู ลเฝา้ ระวงั นนั้ จะอาศยั เครอ่ื งมอื การประเมนิ ล�ำ ดบั ถดั ไป คือ การประเมนิ โรคซึมเศร้าดว้ ย 9Q และแบบประเมนิ การฆ่าตวั ตายดว้ ย 8Q เพื่อให้มีความถูกตอ้ งและเกิด ประสิทธิภาพในการใชเ้ ครื่องมือควรจะด�ำ เนินการประเมนิ ไปพร้อมๆกับการให้สุขภาพจติ ศึกษาทีถ่ กู ตอ้ ง แบบประเมนิ โรคซึมเศร้าด้วย 9Q ภาษากลาง ภาษาอสี าน ไมม่ ีเลย เปน็ บางวัน เปน็ บ่อย เปน็ ทุกวัน ในชว่ ง 2 สปั ดาหท์ ผี่ ่านมา ใน 2 สปั ดาห์ที่ผา่ นมารวม (บ่เคยมี (เป็นลางเทือ) (เป็นดู๋) (เป็นชมุ ่ือ) รวมทัง้ วันนท้ี ่านมอี าการ เมอ่ื นเ้ี จ้ามีอาการมูนีด่ ชู๋ �ำ ได๋ บ่เคยเป็น) 1-7 วัน > 7 วัน 3 เหลา่ นีบ้ ่อยแคไ่ หน 3 3 1. เบือ่ ไมส่ นใจอยากทำ�อะไร บอ่ ยากเฮด็ หยงั บส่ นใจเฮด็ หยงั 0 1 2 3 2. ไมส่ บายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้ บ่ม่วนบช่ ื่น เซ็ง หงอย 012 3 3. หลับยาก หรอื หลบั ๆ ต่นื ๆ นอนบ่หลับ หรือหลับๆ ต่ืนๆ 0 1 2 หรือหลับมากไป หรอื นอนบอ่ ยากลกุ 3 4. เหนื่อยง่าย หรือ ไม่ค่อย เม่ือย บม่ แี ฮง 012 มแี รง 5. เบื่ออาหาร หรือ กินมาก บอ่ ยากเขา่ บอ่ ยากนา่ ม หรอื กนิ 0 1 2 เกนิ ไป หลายโพด 6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่า คึดว่าเจ้าของบ่ดี 012 ตัวเองล้มเหลวหรือทำ�ให้ ตนเองหรอื ครอบครวั ผดิ หวงั แนวทางการดำ�เนนิ งานส่งเสริมสุขภาพจติ และป้องกันปญั หาสขุ ภาพจิตในผ้สู งู อายุ 39 สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพระดบั ต�ำ บล

ภาษากลาง ภาษาอสี าน ไม่มเี ลย เป็นบางวนั เป็นบอ่ ย เปน็ ทุกวนั ในช่วง 2 สปั ดาหท์ ีผ่ า่ นมา ใน 2 สัปดาห์ทผ่ี ่านมารวม (บเ่ คยมี (เป็นลางเทอื ) (เป็นดู๋) (เปน็ ชมุ ื่อ) รวมทัง้ วนั นท้ี ่านมีอาการ เม่ือนเ้ี จา้ มีอาการมนู ีด่ ูช๋ ำ�ได๋ บเ่ คยเป็น) 1-7 วัน > 7 วนั 3 เหล่าน้ีบ่อยแคไ่ หน 3 7. สมาธไิ มด่ เี วลาท�ำ อะไร เชน่ คดึ หยงั กะบอ่ อก เฮด็ หยงั กะลมื 0 1 2 3 ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรือ ท�ำ งานทตี่ อ้ งใชค้ วามตง้ั ใจ 8. พูดชา้ ทำ�อะไรช้าลงจนคน เว่ากะซ่า เฮ็ดหยังกะซ่า หรือ 0 1 2 อ่ืนสังเกตเห็นได้ หรือกระ หนหวย บ่เปน็ ตาอยู่ สบั กระสา่ ย ไม่สามารถอยู่ นง่ิ ได้ เหมือนท่เี คยเปน็ 9. คิดทำ�ร้ายตนเอง หรือคิด คึดอยากตาย บ่อยากอยู่ 0 1 2 วา่ ถ้าตายไปคงจะดี ตารางการแปรผลการประเมินโรคซมึ เศรา้ ด้วย 9Q คะแนนรวม การแปรผล 7 - 12 คะแนน เป็นโรคซึมเศร้า ระดบั นอ้ ย (Major Depression, Mild) 13 - 18 คะแนน เปน็ โรคซึมเศรา้ ระดับปานกลาง (Major Depression, Moderate) > 19 คะแนน เปน็ โรคซมึ เศรา้ ระดับรนุ แรง (Major Depression, Severe) ข้อจำ�กัดในการใช้ ใชป้ ระเมนิ อาการซมึ เศรา้ ในชว่ ง 2 สปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมาเทา่ นนั้ และไมใ่ ชป้ ระเมนิ กบั ผปู้ ว่ ยโรคจติ เวชอน่ื ๆ 40 แนวทางการดำ�เนนิ งานส่งเสริมสขุ ภาพจติ และป้องกันปัญหาสขุ ภาพจิตในผู้สูงอายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพระดับตำ�บล

แบบประเมินฆา่ ตวั ตาย 8 คำ�ถาม (8Q) ขอ้ แนะนำ� ถามคำ�ถามภาษาท่ีสอดคล้องกับท้องถิ่นหรือเหมาะสมกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ควรถามให้ได้คำ�ตอบ ทีละข้อ ถ้าไม่เข้าใจให้ถามซ้ํา ไม่ควรอธิบายขยายความเพิ่ม พยายามให้ได้คำ�ตอบทุกข้อ จากนั้นรวมคะแนนแล้วแปรผลตามตารางแปรผล ควรแจ้งผลตามนาวทางการแจ้งผลอย่าง เหมาะสมพร้อมให้คำ�แนะน�ำ ในการปฎบิ ตั ิตัวหรือการดูแลรักษาในข้นึ ตอนตอ่ ไป ลำ�ดับ ระยะ ภาษากลาง ภาษาอีสาน ท้องถิน่ ภาษาใต้ ไมม่ ี มี คำ�ถาม เวลา (บม่ )ี 1 คดิ อยากตาย หรอื คดิ วา่ ตาย คึดอยากตาย หรือคึดว่า คิดอยากตายหรือว่าคิดว่า 0 1 ไปดีกวา่ ตายไป คือสิดกี ว่าอยู่...บ่ ตายไปเสียดีหวา ใน ่ชวง 1 เ ืดอนที่ ่ผานมา (ในเดือน ่ทีผ่านมารวมเมื่อ ่นี) 2 อยากท�ำ ร้ายตัวเอง อยากทำ�ร้ายตัวเอง หรือ อยากทำ�ร้ายตัวเองหรือว่า 0 2 หรือท�ำ ใหตงั เองบาดเจ็บ เฮด็ ใฮ่เจา้ บาดเจ็บ..บ่ ทำ�ใหต้ วั เองบาดเจบ็ 3 คิดเก่ียวกบั การฆา่ ตัวตาย คึดเกีย่ วกับสิขา่ โต คดิ ฆ่าตัวตายม้ังมา่ ย 06 ตาย....บ่ (ถ้าตอบว่าคิดเกี่ยวกับฆ่า (ถา้ ตอบว่าคิดเกยี่ วกับฆ่าตวั (ถ้าตอบว่าคิดเกี่ยวกับ ได้ ไม่ได้ ตัวตายให้ถามต่อ)…. ท่าน ตายให้ถามต่อ)...... คุมเจ้า ฆ่าตัวตายให้ถามต่อ)...... 0 8 สามารถควบคุมความอยาก ของบ่ใฮ่คึดได้บ่ หรือ บอก (สรรพนาม) นึกว่ายับย้ัง ฆ่าตัวตายท่ีท่านคิดอยู่น้ัน ได้บ่ว่า สบิ ่เฮ็ดตามความคึด ความคดิ นน้ั ไดม้ า่ ย หรอื บอก ได้หรือไม่ หรือบอกได้ไหม สิขา่ โตตาย ในตอนน่ี ไดม้ า่ ยวา่ จะไม่ทำ�ตามที่คิด ว่าคงจะไม่ทำ�ตามความคิด นน้ั ในขณะนี้ 4 มีแผนการทจี่ ะฆ่าตวั ตาย มแี ผนการสขิ ่าโตตาย วางแผนจะหา่ ตวั ตายมง่ั มา่ ย 0 8 5 ได้เตรียมการท่ีจะทำ�ร้าย ไดเ้ ตรยี มการสิเฮ็ดท�ำ รา้ ยโต เตรียมจะทำ�ร้ายตัวเอง หรือ 0 9 ตนเอง หรือการเตรียมการ เจา้ ของ หรอื เตรยี มการสขิ า่ ว่าเตรียมจะฆ่าตัวตายให้ จะฆา่ ตวั ตาย โดยตัง้ ใจว่าจะ โตตายโดยตั้งใจสิใฮ่เจ้าของ พ้นๆ ใหต้ ายจรงิ ๆ ตาย อหิ ลี 6 ไดท้ �ำ ใหต้ นเองบาดเจบ็ แตไ่ ม่ เคยเฮ็ดใฮ่เจ้าของบาดเจ็บ เคยทำ�ให้ตัวเองเจ็บแต่ไม่ 0 4 ตั้งใจที่จะทำ�ใหเ้ สยี ชีวติ แตบ่ ไ่ ดต้ ง้ั ใจ สใิ ฮเ่ จา้ ของตาย ตั้งใจจะให้ถึงตาย 7 ได้พยายามฆ่าตัวตายโดย พยายามข่าโตตาย โดยหวัง พยายามจะฆา่ ตวั ตายให้ 0 10 คาดหวัง/ตั้งใจที่จะใหต้ าย สิใฮเ่ จา้ ของตาย อหิ ลี หมันตายตามทีต่ ้งั ใจ ชา่ ยม่าย แนวทางการดำ�เนินงานสง่ เสริมสุขภาพจิตและปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ ในผสู้ งู อายุ 41 สำ�หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ตำ�บล

ลำ�ดบั ระยะ ภาษากลาง ภาษาอสี าน ทอ้ งถ่ินภาษาใต้ ไม่มี มี คำ�ถาม เวลา (สรรพนาม) (บ่ม)ี เคยพยายามฆา่ ตวั ตาย 8 ตลอด ทา่ นเคยพยายามฆา่ ตวั ตาย เคยพยายามข่าโตตาย ม้ังม่าย 04 ชีวิตท่ี ผ่าน มา (ใน ชีวติ ทงั เบิ่ดถิ ผ่าน มา) คะแนนรวม การแปลผล คะแนนรวมท้งั หมด 0 ไมม่ แี นวโนม้ ฆา่ ตัวตายในปจั จบุ ัน 1-8 มแี นวโน้มที่จะฆ่าตัวตายในปจั จุบนั ระดับน้อย 9-16 มแี นวโน้มที่จะฆ่าตัวตายในปจั จุบนั ระดบั กลาง > 17 มแี นวโน้มทจ่ี ะฆ่าตวั ตายในปจั จบุ ัน ระดบั รุนแรง หลงั การประเมินด้วย Q8 ให้แจ้งผลและด�ำ เนนิ การตามแนวทางการจดั การตามระดับความรุนแรง ของแนวโนม้ ท่จี ะฆา่ ตัวตาย ถ้าคะแนน 8Q > 17 ใหส้ ง่ ต่อโรงพยาบาลท่มี ีจิตแพทย์ด่วน 42 แนวทางการดำ�เนนิ งานส่งเสริมสุขภาพจติ และปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ในผู้สงู อายุ สำ�หรบั โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพระดบั ตำ�บล

ภาษาไทย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ . (2550). คมู่ อื การดูแลจิตใจในภาวะวิกฤต (พื้นฐาน). พิมพ์ครง้ั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร: ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ�กดั . กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ .(2541). คมู่ อื การด�ำ เนนิ งานในคลนิ กิ คลายเครยี ด. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. Design Con.Co.,Ltd. ชษิ ณุ พนั ธเุ์ จรญิ . (2552). คมู่ อื ทกั ษะการสอื่ สารเพอื่ ดแู ลผปู้ ว่ ยเรอื้ รงั . พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั ธนาเพลสจ�ำ กดั . โรงพยาบาลพระศรมี หาโพธ์ิ กรมสขุ ภาพจิต. (2552). แนวทางการดแู ลเฝา้ ระวังโรคซมึ เศรา้ ระดบั จงั หวดั (ฉบับปรับปรงุ ครั้ง ที่ 1).พมิ พ์ครั้งท่ี 2. อุบลราชธาน:ี ศิริธรรมออฟเซท็ . วรรณภา อรุณแสงและลัดดา ดำ�ริการเลิศ. (2553). การจัดการความรู้และสังเคราะห์แนวทางปฏิบัติของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล: แนวปฏิบัติในการบริการผู้สูงอายุ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสขุ (สวรส.) วารี ละกติ .ิ (2551). จติ สงั คมผสู้ งู อาย.ุ สบื คน้ เมอ่ื 1 มนี าคม 2556. เขา้ ถงึ ไดท้ ่ี http://www.stou.ac.th/stou.ac.th/ elder/main1_11html วโิ รจน์ วรรณภิระ. (2555). การเย่ียมบ้านและการดูแลผ้ปู ่วยท่บี า้ น (Home visit and Home Care). เอกสารอัดสำ�เนา. เอกสารประกอบการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการศูนย์เรียนรู้เวชศาสตร์ครอบครัวเขต 18 โรงพยาบาล ก�ำ แพงเพชร. 23 - 24 มนี าคม พ.ศ. 2555. โดยภาควชิ าเวชศาสตรช์ มุ ชน ครอบครวั และอาชวี เวชศาสตร์ คณะ แพทยศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. สมภพ เรอื งตระกูล. (2547). ต�ำ ราจิตเวชผ้สู ูงอายุ. พิมพ์คร้ังที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: เรือนแกว้ การพมิ พ.์ สจุ ริต สุวรรณชพี . (2556). ถอดเทปการสัมภาษณป์ ระสบการณก์ ารดูแลรักษาและให้การชว่ ยเหลือ ผูส้ งู อายุทาง สจุ รติ สวุ รรณชีพ. (2555). ถอดเทปการสัมภาษณ์ประสบการณจ์ ติ แพทยใ์ นการดูแลรกั ษาผ้สู ูงอาย.ุ วนั ท่ี 2 ธนั วาคม 2554. ณ หอ้ งประชุมสำ�นักพฒั นาสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ . สำ�นักพัฒนาสขุ ภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต. (2556). คู่มอื ความสุข 5 มิติ สำ�หรบั ผู้สงู อาย.ุ พมิ พ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: บียอนดพ์ บั ลสิ ช่ิง จ�ำ กดั . สำ�นักพฒั นาสุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ . (2556). ค่มู ือแนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผสู้ ูงอายุเพอื่ ปอ้ งกันปัญหา สุขภาพจิต พิมพ์คร้ังที่ 3 กรุงเทพมหานคร: บียอนดพ์ ับลิสช่ิง จ�ำ กัด. รพศ.ปี 2556. พิมพค์ รงั้ ที่ 1.กรงุ เทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ�ำ กัด. สำ�นักสง่ เสรมิ และพฒั นาสุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ (2557) ร่าง แนวทางการส่งเสริมสุขภาพจติ และป้องกันปญั หาสขุ ภาพ จิตผสู้ งู อายุในชุมชน ภาษาอังกฤษ Gorge, G. (1976). Death, Grief and Mourning. New York: Doubleday Anchor Books. Lymbommirsky; S. (2008). How of Happiness : A Scientific Approach to Getting the Life You Want. New York: The Penguin Press. Roy Spilling. (1987). Terminal Care at Home. New York: Oxford University Press. แนวทางการด�ำ เนินงานส่งเสรมิ สขุ ภาพจติ และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในผ้สู ูงอายุ 43 ส�ำ หรับ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพระดบั ตำ�บล