ชาวฮนั่ ( 漢族 ) ชาวฮ่ัน เป็นประชากรส่วนใหญ่ในประเทศจีน ผลสารวจจานวนประชากรในปลายครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 พบวา่ มีชาวฮน่ั ราว 1,200 ลา้ นคนอาศยั ในประเทศจีน และนับเป็นกลุ่มชนชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมีหลักฐานว่าชาวฮ่ันถือกาเนิดมาต้ังแต่สมัยหวงตี้ ( 黃帝 ) อาศัยอยู่ในแถบดินแดนจงหยวน และกระจายอยู่ ท่ัวประเทศจีนมายาวนานกว่า 5,000 ปี นับต้ังแต่สมัยเซี่ย ซาง โจว ชุนชิว-จั้นก๋ัว จนมาเร่ิมเป็นปึกแผ่นในสมัยฉินและฮ่ัน สมัยฮั่นนี่เองที่เร่ิมมีคาเรียก 'ฮั่น' ซ่ึงเป็นกลุ่มชนทีม่ ีความเชอื่ ตามแบบลัทธเิ ต๋า ชาวฮ่ัน มีกิจกรรมด้านการเกษตรและหัตถกรรมท่ีเจริญก้าวหน้า อีกท้ังมีการประดิษฐ์เครื่องสาริด การถักทอ เครื่องเคลือบดินเผา สถาปัตยกรรม และศิลปะการวาดภาพทีเ่ ป็นหน้าตาของชนชาติ มาต้ังแต่ยุคโบราณ นอกจากนี้ ยงั รวมถึงผลงานวรรณกรรมรปู แบบต่างๆ ท่ีเปน็ ท่ียอมรับไปท่ัวด้วย และทีล่ ืมไมไ่ ด้กค็ อื การเป็นชนกลุ่มแรกของโลก ท่ีค้นพบและสร้างสรรค์ส่ิงประดิษฐ์ 4 อย่าง คือ กระดาษเทคนคิ การพมิ พ์ เขม็ ทิศ และดินปืน
บุคคลสาคัญเชื้อสายฮ่ันในแผ่นดินจีนไม่ว่าจะเป็นนักทฤษฎี นักปฏิวัตินักการเมือง กวี ศิลปินต่าง ๆ ท่ีถูกจารึกนามในหน้าประวัติศาสตร์จีนและของโลกท่ีเรารู้จักกนั ดี ไดแ้ ก่ ดร.ซุนยัตเซน็ เหมาเจ๋อตง โจวเอินไหล หลิวเสา้ ฉี จเู ต๋อ เติ้งเสี่ยวผิง หลู่ซวิ่น ฯลฯ ล้วนเป็นชาวฮ่ันท่ีสร้างคุณูปการต่อลูกหลานชนชาวฮ่ันในวันน้แี ละยงั รวมถึง ขงจ๊อื ปรชั ญาเมธผี ้เู รืองนามของจีน เปน็ เวลาเนิ่นนานหลายรอ้ ยปี ท่แี นวคิดของขงจ๊ือซึ่งเป็นรากฐานคณุ ธรรมคาสอนของชาวฮ่นั ได้แผ่อทิ ธิพลไปท่ัวทวปี เอเชยี ตะวนั ออก (East-Asia)ดา้ นประเพณีและวฒั นธรรม ชาวฮั่น มีวันสาคัญทางประเพณีได้แก่ เทศกาลตรุษจีน 春節 เทศกาลหยวนเซียว 元宵節 เทศกาลไหว้บะจ่าง 端午節 เทศกาลไหว้พระจันทร์中秋節 เป็นต้น
จีน เป็นหน่ึงในอารยธรรมที่เก่าแกแ่ ละซับซอ้ นท่ีสดุ ของโลก วฒั นธรรมจีนย้อนกลับไปได้นับพันๆปี ชาวฮ่ันบางส่วนเช่ือว่าพวกเขาล้วนมีบรรพบุรุษร่วมกัน ซ่ึงเล่าปรัมปราถึงหัวหน้าชนเผ่าอาวุโส จักรพรรดิเหลืองและจักรพรรดิยันเมื่อหลายพันปีก่อน ดังนั้นชาวฮ่ันบางส่วนจึงเรียกตนเองว่า “ ลูกหลานของจักรพรรดิเหลืองและ เหยียน” วลีที่มีความหมายโดยนัยสะท้อนบรรยากาศการเมืองที่แตกแยกดังในจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน ตลอดประวัติศาสตร์ของจีน วัฒนธรรมของจีนได้รับอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงจากลัทธิขงจ้ือ ซ่ึงได้สร้างรูปแบบความคิดแบบจีนมากมาย ลัทธิขงจ้ือเป็นหลักปรัชญาอย่างเป็นทางการตลอดช่วงประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของจีนยุคจกั รวรรดิ ความรอบรใู้ นหลกั คาสอนของขงจ้อื คอื หลักเกณฑอ์ ันแรกสาหรับการสอบเขา้ รับราชการดา้ นทอี่ ยอู่ าศยั บ้านแบบฮั่นแตกต่างจากที่หนึ่งไปอีกท่ีหนึ่ง ชาวฮ่ันในปักกิ่งอาศัยรวมกันท้ังครอบครัวในบ้านหลังใหญ่ท่ีมีลักษณะสี่เหลี่ยม บ้านแบบนี้เรียกว่า 四合院
บ้านเหล่านี้มีสี่ห้องทางด้านหน้าได้แก่ ห้องรับแขก, ครัว, ห้องน้า และส่วนของคนรับใช้ ข้ามจากประตูคู่บานใหญ่คือส่วนสาหรับผู้สูงอายุในครอบครัว ส่วนนี้ประกอบด้วยสามห้อง ห้องกลางสาหรับสักการะแผ่นจารึก 4 แผ่นได้แก่ สวรรค์, โลกมนุษย์, บรรพบุรุษ และอาจารย์ มีสองห้องท่ีอยู่ติดทางด้านซ้ายและขวาเป็นห้องนอนสาหรับปู่ย่าตายาย ส่วนด้านตะวันออกของบ้านสาหรับลูกชายคนโตกับครอบครัว ในขณะที่ด้านตะวันตกสาหรับลูกชายคนรองกับครอบครัว แต่ละด้านมีเฉลียงบางบ้านมีห้องรับแสงแดดสร้างจากผ้ามีโครงเป็นไม้หรือไม้ไผ่ ทุกๆด้านของบ้านสร้างอยู่ล้อมรอบลานบ้านตรงกลางสาหรับเล่าเรียน,ออกกาลังกายหรือชมวิวธรรมชาติดา้ นการแต่งกาย ทุกวันนี้ชาวฮั่นทั่วไปสวมใส่เสื้อผ้าตามแบบตะวันตก ส่วนน้อยสวมใส่เส้ือผ้าแบบชาวฮั่นด้ังเดิมเป็นประจาอย่างไรก็ตามชุดแบบจีนสงวนไว้สาหรับ เคร่ืองแต่งกายในศาสนาและพิธีการ ตัวอย่างเช่น พระในลัทธิเต๋าสวมใส่ชุดเดียวกับบัณฑิตในสมัยราชวงศ์ฮั่น ชุดพิธีการในญี่ปุ่นอย่างเช่นพระในลัทธิชินโตเหมือนมากกับชุดพิธีการใน
จีนในสมัยราชวงศ์ถัง ในปัจจุบันชุดจีนแบบดั้งเดิมที่นิยมมากที่สุดสวมใส่โดยหญิงสาวมากมายในโอกาสสาคัญๆ เช่น งานแต่งงานและงานปีใหม่เรียกว่าก่ีเพ้า อย่างไรก็ตามเคร่ืองแต่งกายเหล่านี้ไม่ใช่มาจากชาวฮ่ันแต่มาจากการดัดแปลงชุดแต่งกายของชาวแมนจู ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ปกครองประเทศจีนระหว่างศตวรรษท่ี 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ด้านภาษา ชาวฮ่ัน มีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตนเองเรียกว่า ภาษาฮ่ัน漢語 (ฮ่ันอว่ี) มีตัวอักษรเรียกว่า อักษรฮั่น 漢字 (ฮั่นจื่อ) ซึ่งยังแบ่งเป็นภาษาถนิ่ อีกหลายภาษา อาทิ ภาษาถ่ินทางภาคเหนือ (北方話) ภาษากวางตุ้ง (粵語)ชาวจีนพูดภาษาหลากหลายแบบ หน่ึงในชื่อของกลุ่มภาษาน้ันคือ \"ฮั่นอว่ี\"หมายถึงภาษาฮั่น (อวี่ แปลว่า ภาษา) ในทานองเดียวกันอักษรจีนที่ใช้เขียนภาษาเรียกว่า \"ฮ่ันจื่อ\" หรืออักษรฮ่ัน (จ่ือ แปลว่าตัวหนังสือ) ในขณะที่มีภาษาถิ่นอยู่มากมายแต่ภาษาเขียนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างมาก ความเป็นเอกภาพน้ีต้องยกให้ราชวงศ์ฉินซ่ึงได้สร้างมาตรฐานให้กับรูปแบบการเขียนอันหลากหลายของจนี ในยคุ นั้น เปน็ เวลานับพันๆปภี าษาเขียนโบราณถกู ใช้เปน็ รปู แบบการเขยี นมาตรฐานในหมู่ปัญญาชนซึ่งใช้คาศัพท์และหลักไวยากรณ์ซ่ึงอาจแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญกับภาษาพูดอันหลากหลาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: