Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ดนตรี ป.5.

ดนตรี ป.5.

Published by kimook_07, 2020-05-30 11:40:03

Description: ดนตรี ป.5.

Search

Read the Text Version

หนงั สืออ่านเพิ่มเติมวิชาดนตรี ระดบั ชนั้ ป.5 เร่ือง เครอื่ งดนตรีไทยประเภทประกอบจงั หวะ และดาเนินทานอง จดั ทาโดย ครทู ิพยส์ ดุ า จนั ทรส์ ว่าง

ส่ือ E-Book เครื่องดนตรีไทยประเภท ประกอบจังหวะ และดำเนินทำนอง

ก คานา หนังสืออ่านเพิ่มเติมวิชาดนตรี ระดับชั้นป.๕เรื่อง เคร่ืองดนตรีไทย ประเภทประกอบจงั หวะและดาเนินทานอง เป็ นส่ือการเรียนรปู้ ระเภทส่ิงพิมพจ์ ดั ทา ข้ึนตามโครงการส่งเสริมสนับสนนุ ให้ สถานศึกษาผลิตสือ่ การเรยี นรู้ การจดั ทา หนังสืออ่านเพิ่มเติมน้ีเพื่อให้ผ้เู รียน สามารถแสวงหาความรใู้ หก้ บั ตวั เองได้

ข มาตมาตรฐานการเรยี นรู้ ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออก ทางดนตรอี ยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณค์ ณุ คา่ ดนตรี ถ่ายทอด ความรสู้ ึก ความคิดต่อดนตรอี ยา่ ง อิสระ ช่ืนชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวิตประจาวนั ตวั ช้ีวดั ศ ๒.๑ ป.๕/๔

ค สาระสาคญั เครอื่ งดนตรปี ระกอบจงั หวะ คือ เครื่องดนตรที ่ีเกิดเสียงดงั ข้ึนจากการ ตีกระทบ การสนั่ , การเขย่า, การเคาะ, การตี อาจจะใชไ้ มต้ ี หรืออาจจะใชส้ ิ่งหนึ่งกระทบเขา้ กบั อีกสงิ่ หนึ่งเพ่ือทาใหเ้ กดิ เสียง เครอ่ื งดนตรดี าเนินทานอง คือ เคร่ืองดนตรีที่ทาหนา้ ที่บรรเลงเพลง ใหเ้ กิดเสียง โดยใชเ้ สียงของตวั โนต้ ทงั้ ๗ เสียง ทาใหเ้ กดิ ทานองเพลงข้ึนมา

ง สารบญั เร่ือง หนำ้ เครอ่ื งดนตรไี ทย 1 - เครื่องดนตรีไทยประกอบจงั หวะ 3 - เคร่อื งดนตรไี ทยดำเนินทำนอง 13 อำ้ งอิง 25 แหล่งขอ้ มลู เพิ่มเติม 26 ผูจ้ ดั ทำ 27

บทท่ี 1 1 เครอื่ งดนตรไี ทย

2 นกั เรยี นทราบไหมคะ ว่าเราทราบเรอื่ งราวท่ีเกย่ี วขอ้ ง กบั ดนตรไี ทยครง้ั แรกจาก หลกั ศิลาจารกึ ของพ่อขนุ รามคาแหงมหาราช ดนตรไี ทยมี ประวตั ิศาสตร์ ยาวนานมากเลยคะ่

3 เครอ่ื งดนตรไี ทยประกอบจงั หวะ คือ เครอ่ื งดนตรที ี่เกิดเสียงดงั ข้ึน จากการตีกระทบ การสนั่ , การเขยา่ , การเคาะ, การตี อาจจะใชไ้ มต้ ี หรอื อาจจะใชส้ ง่ิ หน่ึงกระทบ เขา้ กบั อีกสิ่งหนึ่งเพื่อทาใหเ้ กิดเสยี ง

4 เป็ นเครอื่ งตีกากบั จงั หวะ ทาดว้ ยโลหะ รปู รา่ งกลม เวา้ กลาง ปากผาย คลา้ ยฝาขนม ครก ไมม่ ีจกุ สารบั หน่ึงมีสองฝาเจาะรตู รงกลาง ที่เวา้ สาหรบั รอ้ ยเชือกโยงฝาทงั้ สองเพ่ือ สะดวกในการถือตี

5 ฉาบเป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทตี ทาดว้ ย โลหะคลา้ ยฉ่ิง แต่หลอ่ ใหบ้ างกว่า ฉาบมี ๒ ชนิดคือฉาบเลก็ และ ฉาบใหญ่

6 เป็ นเครื่องตีกากับจังหวะอีกชนิดหน่ึง ที่ทา ดว้ ยไมเ้ น้ือแข็ง เหลาใหเ้ ป็ นสี่เหลี่ยม ดา้ นบนลบ เหลี่ยมเลก็ นอ้ ย เพื่อไมใ่ หบ้ าดมือและสามารถกล้ิง ตวั ของมนั เอง กลอกกระทบกนั ไดส้ ะดวก ดา้ นลา่ ง นนู โคง้ เล็กนอ้ ย

7 ทาดว้ ยไมไ้ ผ่ซีก ๒ อนั เหลาใหเ้ รียบและ เกล้ียง หนาตามขนาดของเน้ือไม้ หวั และ ทา้ ยกว่าใหญ่ลดหลนั่ กนั เล็กนอ้ ย ตีดว้ ยมือ ทง้ั สองขา้ ง โดยจบั ขา้ งละอนั ใหด้ า้ นท่ีเป็ น ผิวไมก้ ระทบกนั ตีลงบริเวณใกลก้ บั ตอน หวั มีเสียงดงั กรบั กรบั

8 เป็ นเครื่องตีกากบั จังหวะที่ทาด้วยไม้ ผสม โลหะ รอ้ ยเชือกติดกนั เป็ นพวง ทงั้ ไมแ้ ละโลหะทา เป็ นแผ่นบางๆสลบั กนั โดยช้ินนอกสดุ ๒ ช้ิน จะ เหลาหนา หวั และทา้ ยงอนโคง้ งอน ดา้ นจบั เล็ก ตอนปลายใหญ่ ร้อย เชือกทางด้านปลาย ให้ หลวมพอประมาณ เวลาตีมือหนึ่งจะจบั กรบั ตอน ปลาย ใหห้ วั ตีลงบนมืออีกขา้ งหนึ่ง

9 ลกั ษณะของโหม่งคือจะมีเชือกรอ้ ยรทู ง้ั ๒ ท่ีใบฉตั ร แขวนหอ้ ยทางตั้งกบั ขาหยงั่ หรือคานไม้ ตรงหวั ไมท้ ่ีใชต้ ีพนั ดว้ ยผา้ กบั เชือกใหเ้ ป็ นป่ มุ ไตอ่อนน่มุ เวลาตีจะมีเสียง ดงั

10 ตะโพน เป็ นเครื่องดนตรีที่ขึงดว้ ยหนงั ตวั ตะโพนทาดว้ ยไมส้ กั หรอื ไมข้ นนุ เรยี กวา่ ห่นุ ขดุ แต่งใหเ้ ป็ นโพรงภายใน ข้ึนหนงั ๒ หนา้ ดึงดว้ ยสายหนงั โยง

11 เป็ นกลองขึงหนงั สองหนา้ ขนาดใหญ่ใช้ ไม้ตีให้เกิดเสียง ห่นุ กลองมีรปู ร่างเป็ น ทรงกระบอกป่ องตรงกลาง ทาจากไมเ้ น้ือ แข็งเจาะควา้ นทะลเุ ป็ นกล่องเสียง ขึงหนา้ กลองทง้ั สองหนา้ ดว้ ยหนงั โค กระบือ แลว้ ยึดติดกบั ห่นุ กลองดว้ ยหมดุ ที่ทาจากโลหะ งาชา้ ง กระดกู สตั ว์

12 เป็ นเครอื่ งดนตรปี ระเภทเครือ่ งตี ที่มีรปู รา่ งยาวเป็ นรปู ทรงกระบอก ข้ึนหนงั สองขา้ งดว้ ยหนงั ลกู ววั หรอื หนงั แพะ

13 เครอื่ งดนตรไี ทยดาเนินทานอง คือ เครื่องดนตรีท่ีทาหนา้ ท่ีบรรเลง เพลงใหเ้ กิดเสียง โดยใชเ้ สียงของตวั โน้ตท้ัง 7 เสียง ทาให้เกิดทานอง เพลงข้ึนมา

14 เ ป็ น เ ค รื่ อ ง ตี ช นิ ด ห น่ึ ง ท่ี วิวัฒนาการมาจากกรบั เรียกไม้ กรบั ท่ีประดิษฐ์เป็ นขนาดต่างๆกนั น้ันว่า ลกู ระนาด เรียกลกู ระนาดที่ ผกู ติดกนั เป็ นแผน่ เดียวกนั ว่า ผืน ระนาดเอกใชใ้ นงานมงคล

15 เป็ นเครอ่ื งดนตรที ี่สรา้ งข้ึนมาใน รชั กาลที่ 3 เป็ นการสรา้ งเลยี นแบบ ระนาดเอก ใชไ้ มช้ นิดเดียวกนั กบั ระนาดเอก

16 นามาวางดี ดกับพ้ื นเพ่ื อความ สะดวก มีประวตั ิ และมีหลกั ฐานครงั้ แรกในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา

17 เป็ นเครื่องดนตรีที่วิวฒั นาการ ม า จ า ก ฆ้ อ ง ร า ง ข อ ง อิ น โ ด นี เ ซี ย สันนิษฐานว่ามีมาต้ังแต่สมัยสโุ ขทัย ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ฆ้ อ ง ว ง ใ ห ญ่ ประกอบดว้ ยลกู ฆอ้ ง เเละวงฆอ้ งลกู ฆอ้ ง มี 16 ลกู ทาจากทองเหลอื ง

18 เป็ นเครื่องดนตรีไทยสรา้ งใน สมยั รชั กาลท่ี ๓ มีลกั ษณะเหมือนกบั ฆอ้ ง วงใหญ่ แต่ลกู ฆอ้ งมีขนาดเล็กกว่า มีลกู ฆอ้ ง ๑๘ ลกู บรรเลงทานองคลา้ ย ระนาดเอก

19 เป็ นซอสองสาย มีเสียงแหลม กอ้ งกงั วาน คนั ทวนยาว กะโหลกของ ซอด้วงน้ี ในปั จจบุ ันใช้ไมจ้ ริง หรือ งาชา้ งทาก็ได้ แต่ท่ีนิยมว่าเสียงดีนนั้ กะโหลกซอดว้ งตอ้ งทาดว้ ยไมไ้ มเ้ น้ือ แข็ง ส่วนหนา้ ซอนิยมใชห้ นงั งเู หลือม ขึง

20 เป็ นซอสองสาย ตัวกะโหลก ทาด้วยกะลามะพรา้ ว โดยตัดปาด กะลาออกเสียดา้ นหนึ่ง และใชห้ นงั ลกู ววั ขึงข้ึนหนา้ ซอเจาะกะโหลกใหท้ ะล ุ ตรงกลาง เพ่ือใสค่ นั ทวนท่ีทาดว้ ยไม้ จรงิ ผา่ นกะโหลกลงไป

21 เป็ นเคร่ืองดนตรีไทยชนิด หนึ่ง จาพวกเครื่องสาย มีขนาดใหญ่ กว่าซอดว้ งหรือซออู้ และมีลกั ษณะ พิเศษ คือมีสามสาย มีคันชักอิสระ กะโหลกซอมีขนาดใหญ่ นับเป็ น เ ค ร่ื อ ง ด น ต รี ที่ มี ค ว า ม ส ง่ า ง า ม ช้ ิ น หนึ่งในวงเครอื่ งสาย

22 เป็ นขล่ยุ ขนาดกลางมี เสียง มาตราฐานใชเ้ ทียบเสียงดนตรีไทย โดย เป็ นเคร่ืองดนตรีไทย ประเภทเครื่องเป่ า ชนิดไม่มีล้ิน ทาจากไมร้ วกปลอ้ งยาวๆ ด้านหน้าเจาะรเู รียงกัน สาหรบั ปิ ดเปิ ด เพ่ือเปลี่ยนเสียง ตรงที่เป่ าไม่มีล้ินแต่มี ดาก ซ่ึงทาดว้ ยไมอ้ ดุ เหลาเป็ นท่อนกลมๆ ยาว

อำ้ งอิง 23 https://www.youtube.com/watch?v=XwYT7PJ34sU&t=3s https://www.youtube.com/watch?v=FqNRSFs0dyM&t=3s https://th.wikipedia.org/wiki https://sites.google.com/site/1431dontrithai/musical- instrument_thaihtml https://www.pinterest.com

ผูจ้ ัดทำ 24 ช่ือ นางสาวทิพยส์ ดุ า จนั ทรส์ ว่าง ตาแหนง่ ครู รบั เงินเดือนอนั ดบั คศ.1 โรงเรียนวดั รวก เขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร วิชา ดนตรี ชน้ั ประถมศึกษาปี ท่ี 5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook