Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบประสาท-ต่อมไร้ท่อ

Description: ระบบประสาท-ต่อมไร้ท่อ

Search

Read the Text Version

1 ชดุ ที่ 1 ระบบประสาทและระบบตอ่ มไรท้ อ่ 1. อธิบายโครงสร้างและหน้าทข่ี อง ระบบประสาทและระบบตอ่ มไรท้ อ่ ได้ 2. อธิบายความสาคญั และวธิ ีดแู ลรักษาระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ท่อได้ 3. อธิบายความสัมพันธ์ของระบบประสาทและระบบตอ่ มไรท้ อ่ ได้ 4. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของระบบประสาทและระบบตอ่ มไรท้ อ่ ที่มตี ่อสุขภาพ การเจริญเตบิ โต และพัฒนาการของตนเอง 5. ปฏิบตั ิตนดูแลรักษาระบบประสาทและระบบต่อมไร้ท่อ อยา่ งสมา่ เสมอ ใบความรู้ เรอ่ื ง ระบบประสาท ตวั ชว้ี ัด 1. อธิบายความสาคัญของระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ทอ่ ท่ีมผี ลต่อสขุ ภาพ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของวยั รุน่ (พ 1.1 ม.1/1) 2. อธิบายวิธดี ูแลรักษาระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ทอ่ ใหท้ างานตามปกติ (พ 1.1 ม.1/2) การทางานของระบบตา่ งๆ ในรา่ งกายมคี วามสมั พนั ธก์ นั และมีความสาคัญตอ่ การดารงชีวติ ของมนษุ ย์ หาก ระบบใดระบบหนึง่ ทางานไม่ปกติ ย่อมส่งผลต่อภาวะสขุ ภาพโดยรวม ซึ่งระบบทมี่ คี วามสาคัญต่อการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ โดยเฉพาะในชว่ งวัยร่นุ คือ ระบบประสาทและระบบต่อมไร้ทอ่ การเรยี นรกู้ ารทางานของระบบประสาทและระบบต่อมไร้ทอ่ จะทาให้เรา สามารถดูแลรกั ษาระบบประสาทและระบบต่อมไร้ทอ่ ใหท้ างานไดต้ ามปกติ เพอ่ื ให้มีการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการเหมาะสมตามวยั 1. ระบบประสาท (Nervous System) 1.1 ความสาคญั ของระบบประสาทที่มีผลต่อสุขภาพ การเจริญเตบิ โต และพฒั นาการของวัยรนุ่ สมอง ไขสนั หลัง เสน้ ประสาท ภาพท่ี 1 ระบบประสาทเป็นศูนยก์ ลางของความคิด ความจา สติปญั ญารวมทัง้ การเรยี นรู้ ทม่ี า http://www.gettyimages.com

2 ระบบประสาท ประกอบดว้ ยสมอง ไขสันหลงั และเสน้ ประสาท ซง่ึ ทาหน้าทคี่ วบคุมและประสานการทางานของระบบ ตา่ ง ๆ ในรา่ งกายใหด้ าเนนิ ไปดว้ ยดี โดยมีสมองเปน็ อวัยวะหลกั ระบบประสาทจึงมีความสาคญั ตอ่ ภาวะสขุ ภาพ การเจริญเตบิ โต ของร่างกาย และพฒั นาการด้านตา่ ง ๆ คือ เปน็ ตัวควบคุมการทางานและรับความรู้สกึ ของอวัยวะทกุ ส่วนในร่างกาย รวมถึง ความรู้สกึ นกึ คดิ อารมณ์ และความทรงจาต่าง ๆ ซง่ึ เม่ือไดร้ บั การกระต้นุ จากภายในและภายนอก จะมกี ารสง่ กระแสประสาท กลับไปกลับมา ระหว่างสมองและอวยั วะส่วนต่าง ๆ ให้ทางานตามที่ตอ้ งการ เชน่ การเคลือ่ นไหว ของอวยั วะในอิรยิ าบถตา่ ง ๆ ทางาน นอกจากน้ันยงั ควบคุมการเตน้ ของหวั ใจ อตั ราการหายใจ ความดันโลหิต อุณหภมู ใิ นรา่ งกาย การย่อยอาหาร และการ ทางานของระบบอน่ื ๆ ของร่างกาย 1.2 โครงสร้างของระบบประสาท ระบบประสาทเป็นระบบศนู ย์กลางทคี่ วบคุมการทางานของรา่ งกาย เปน็ ระบบทที่ าหนา้ ที่ รบั ความรู้สกึ ควบคุมความคิด ถ้าทอี นั ตรายใด ๆ เกดิ ขน้ึ กบั สมอง ก็จะทาให้ร่างกายพิการหรือเสียชวี ิตได้ ระบบประสาทแบง่ เปน็ ระบบประสาทสว่ นกลาง (Central Nervous System) และ ระบบประสาท ส่วนปลาย (Peripheral Nervous System) 1) ระบบประสาทสว่ นกลาง ไดแ้ ก่ สมอง และไขสันหลงั (1) สมอง (Brain) เป็นอวัยวะทีม่ ขี นาดใหญ่กวา่ สว่ นอนื่ ๆ อยู่ในกะโหลกศรี ษะ สมองแบง่ ออกเปน็ สมอง สมองสว่ นหนา้ สมองสว่ นกลาง สมองส่วนทา้ ย พอนส์ เซรเี บลลมั เซรีบรมั ทาลามัส ไฮโพทาลามัส เมดลั ลาออบลองกาตา ดา สมองสว่ นทา้ ย ส่วนประกอบของสมอง ทีม่ า http://www.gettyimages.com/

3 เซรีบรมั เซรเี บลลัม ทาลามสั ไฮโพทาลามสั สมองส่วนกลาง พอนส เมตัลลาออบลองกาต ภาพที่ 2 ส่วนประกอบของสมอง ทม่ี า http://www.gettyimages.com/ 1. สมองสว่ นหน้า (Forebrain) ประกอบด้วย เซรบี รมั (Cerebrum) ทาลามสั (Thaiamus) และไฮโพทาลามสั (Hypothalamus) สมองสว่ นหนา้ หน้าท่ี เซรีบรัม ทาลามสั ทาหน้าทดี่ ้านความคดิ ความจา เชาวน์ปญั ญา เปน็ ศนู ยก์ ลาง ควบคมุ การทางานดา้ นตา่ ง ๆ การสมั ผัส การพูด การมองเห็น รับรส การได้ยนิ การดม กลิ่น และการทางานของกล้ามเนอ้ื ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ศนู ยร์ วบรวมกระแสประสาททผี่ ่านเขา้ ออก และแยกกระแสประสาทไปยังสมอง ไฮโพทาลามัส เปน็ ศูนยค์ วบคุมกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การ ทางานพื้นฐานของรา่ งกาย ไดแ้ ก่ ความหวิ ความดนั โลหิต ความต้องการทางเพศ การหลั่งฮอรโ์ มนของต่อมไรท้ ่อ และการแสดง อารมณ์ความรสู้ ึก 2. สมองส่วนกลาง (Midbrain) ทาหน้าท่ี เก่ียวกับการมองเหน็ การไดย้ ิน และการสมั ผัส

4 3. สมองสว่ นทา้ ย (Hindbrain) ประกอบด้วย พอนส์ (Pons) เมดลั ลาออบลองกาตา (Medulla Oblongata) และเซรีเบลลัม (Cerebellum) สมองสว่ นท้าย หนา้ ที่ พอนส์ ทาหน้าทก่ี ารเค้ียวอาหาร การหลัง่ นา้ ลาย การเคลือ่ นไหวของใบหนา้ และควบคมุ การหายใจ เมดัลลาออบลองกาดา ทาหนา้ ทคี่ วบคุมการทางานของระบบประสาทอตั โนมัติ เช่น การหายใจ ความดันโลหติ การกลืน การจาม การสะอกึ เซรเี บลลัม และการอาเจียน ทาหน้าทป่ี ระสานการเคลื่อนไหวของร่างกาย และควบคุมการทรงตวั ของร่างกาย (2) ไขสันหลงั (Spinal Cord) เปน็ สว่ นทตี่ ่อออกมาจากก้านสมอง อยู่ภายในกระดูกสันหลงั มีหน้าทถ่ี ่ายทอดกระแสประสาท ระหว่างสมองและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมทง้ั ควบคุม การเกดิ ปฏิกริ ิยาตอบสนองตอ่ สงิ่ กระตุน้ อยา่ งฉบั พลนั ทนั ที เชน่ หลับตา เมื่อฝนุ่ ละอองเข้าตา ยกเทา้ ขึ้นเมอ่ื ถกู หนามตาเทา้ สมอง ไขสนั หลัง เสน้ ประสาท ภาพที่ 3 การเชอื่ มต่อของสมอง ไขสนั หลงั และเสน้ ประสาท

5 สมองและไขสันหลังจะเป็นศนู ยก์ ลางการรับรู้ และกระตนุ้ ความรสู้ กึ จากสิง่ เรา้ ทง้ั ภายใน และภายนอกแล้วส่งผา่ นไปยงั เส้นประสาทท่ีกระจายตามสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกาย 2) ระบบประสาทส่วนปลาย ได้แก่ เส้นประสาทสมอง เส้นประสาทไขสนั หลงั และระบบประสาทอัตโนมตั ิ (Autonomic Nervous System) ทาหน้าทรี่ บั และนาความรูส้ ึกเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง ไดแ้ ก่ (1) เส้นประสาทสมอง หรอื เส้นประสาททแี่ ยกออกจากสมอง ทาหน้าทร่ี ับความรสู้ กึ เก่ียวกับการได้กล่ิน การมองเหน็ การ เคล่ือนไหวของตา (2) เสน้ ประสาทไขสันหลัง เป็นเสน้ ประสาทท่อี อกมาจากไขสันหลัง ทาหน้าทถ่ี า่ ยทอดกระแสประสาทไปสู่อวยั วะตา่ ง ๆ ของ รา่ งกาย เชน่ แขน ขา (3) ระบบประสาทอตั โนมตั ิ ควบคุมการทางานของประสาททอ่ี ยู่นอกเหนอื การควบคุม ของจิตใจใหเ้ ปน็ ไปตามปกติ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน (3.1) ระบบประสาทซิมพาเทตกิ (Sympathetic Nerve) เป็นระบบประสาท ท่มี ักกระตุน้ การทางานมากกว่ายบั ยัง้ การทางาน เช่น หวั ใจเต้นเร็ว ชพี จรเตน้ แรงเม่อื ตกใจกลวั (3.2) ระบบประสาทพาราซมิ พาเทตกิ (Parasympathetic Nerve) เป็นระบบประสาททม่ี ักจะยบั ย้ังการทางานมากกวา่ ทจี่ ะกระตนุ้ การทางานเพ่อื ปรบั ไมใ่ หร้ ่างกายทางานมากเกนิ ไป เชน่ ลดอัตราการเต้นของหัวใจเมื่อคลายความตกใจกลัวระบบประสาทซิมพาเท ตกิ และพาราซมิ พาเทติก จะทาหนา้ ท่ตี รงกันเสมอ เพือ่ ให้รา่ งกายอยใู่ นภาวะปกติ 1.3 การทางานของระบบประสาท การทางานของระบบประสาท ประกอบดว้ ย 1) อวยั วะรับความรู้สึก (Sense Organs) รบั รู้ความรสู้ กึ ตา่ ง ๆ ท่เี กิดข้นึ จากการสัมผัส ไดแ้ ก่ ตา หู จมูก สิ้น ผิวหนงั และกลา้ มเนือ้ 2) เสน้ ประสาท (Nerves) ทาหน้าทีร่ บั และส่งกระแสประสาท หรือกระแสความรู้สึกตา่ ง ๆ ของร่างกายผ่านเขา้ สูไ่ ขสนั หลงั ไปยัง สมอง และจากสมองไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย 3) สมอง (Brian) และไขสนั หลงั (Spinal Cord) สมองควบคมุ ความคดิ ความจาและความรู้สกึ เช่นการมองเห็น การได้ยนิ กล่นิ รส สัมผสั ส่วนไขสนั หลงั จะเป็นทางผ่านของกระแสประสาทไปสูอ่ วยั วะท่อนล่าง 4) ประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous) ควบคมุ การยอ่ ยอาหาร การเตน้ ของหัวใจ และกจิ กรรมอน่ื ๆ ท่ีไมไ่ ดอ้ ย่ภู ายใต้การ ควบคุมของประสาทสว่ นกลาง ถา้ ระบบประสาทอตั โนมัตทิ างานผิดปกติ อาจทาใหเ้ กดิ อาการหวั ใจเตน้ เร็วหรอื ช้าเกินไป ความดนั โลหติ ต่าหรอื สูง ระบบการย่อยอาหารผดิ ปกติ ทาใหเ้ กิดอาการ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสยี ทอ้ งอดื อาหารไมย่ อ่ ย

6 1.4 วิธดี แู ลรกั ษาระบบประสาทใหท้ างานตามปกติ 1. รบั ประทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ ได้แก่ ภาพท่ี 4 การรูจ้ ักเลือกรบั ประทานอาหารครบ 5 หมสู่ ่งผลตอ่ การทางานของระบบประสาท ท่ีมา www.Facebook.com/kapook.com 2. พกั ผอ่ นให้เพยี งพอ โดยเขา้ นอนแต่หวั คา่ ต่ืนนอนตง้ั แตเ่ ชา้ จะทาใหส้ มองเจริญเตบิ โตเตม็ ท่ี ภาพที่ 5 การผักผ่อนให้เกิดความผ่อนคลายเป็นการดแู ลใหร้ ะบบประสาททางานไดต้ ามปกติ ที่มา http://www.gettyimages.com/

7 3. ออกกาลงั กายอย่างสม่าเสมอ จะช่วยพัฒนาการทางานของระบบประสาทใหส้ ามารถทางานได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ และ กิจกรรมการออกกาลังกายยังเปน็ ปจั จัยสาคญั ที่ช่วยสง่ เสรมิ การประสานการทางานระหวา่ งประสาทกับกล้ามเนื้อหรอื กลไกของ ทกั ษะกีฬาต่าง ๆ ภาพท่ี 6 การออกกาลงั กายทาให้รา่ งกายแขง็ แรงระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ท่อทางานไดต้ ามปกติ ท่ีมา http://www.gettyimages.com/ 4. สงั เกตหรอื สารวจความผิดปกตขิ องระบบประสาท เช่น ปวดศรี ษะ กลา้ มเน้ือออ่ นแรง ชา ซึม หมดสติ ชัก 5. ไมส่ บู บุหรี่ เพราะอาจทาใหเ้ กดิ โรคหลอดเลอื ดสมองตีบ 6. ระมดั ระวงั การเกิดอบุ ัตเิ หตุ ทเี่ กิดจากการขบั ข่ีรถจกั รยานยนต์โดยไมส่ วมหมวกนริ ภัย ทาให้สมองได้รบั การกระทบกระเทือน อย่างหนัก ส่งผลใหส้ มองตาย ทาใหพ้ กิ าร หรือเป็นเจา้ หญงิ หรอื เจา้ ชายนิทรา ภาพท่ี 7 การสวมหมวกนริ ภัยชว่ ยป้องกันสมองเม่อื ไดร้ บั การกระทบกระเทือนจากอุบตั ิเหตุ ทม่ี า http://www.gettyimages.com/

8 แบบฝกึ หดั ท่ี 1 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขียนอธบิ ายสว่ นประกอบของระบบประสาท (Neuron) (10 คะแนน) ส่วนประกอบของสมอง

9 แบบฝึกหดั ที่ 2 คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนบอกหน้าทข่ี องสว่ นต่างๆ ต่อไปน้ใี หถ้ กู ต้อง (10 คะแนน) 1. เซรีบรมั ...................................................................................................................... 2. ออลแฟกทอรบี ลั บ์ ...................................................................................................................... 3. ทาลามัส ...................................................................................................................... 4. ไฮโพทาลามัส ...................................................................................................................... 5. สมองสว่ นกลาง ...................................................................................................................... 6. เซรีเบลลมั ...................................................................................................................... 7. พอนส์ ...................................................................................................................... 8. เมดลั ลาออบลองกาตา ...................................................................................................................... 9. ไขสันหลงั ...................................................................................................................... 10. เส้นประสาทไขสนั หลงั ......................................................................................................................

10 แบบฝึกหดั ที่ 3 คาชแ้ี จง ให้นักเรียนวิเคราะห์พฤตกิ รรมทก่ี าหนดให้ จากนนั้ ใหเ้ ขยี นเครื่องหมาย เพื่อตอบคาถามวา่ เกิดข้ึนได้จากการทางาน ของสมองหรอื ไขสนั หลงั (10 คะแนน) พฤติกรรม สมอง ไขสนั หลงั 1. กระตกุ ขาเมื่อถกู เคาะบรเิ วณเอน็ ของหวั เขา่ 2. เขยี นเรียงความส่งเข้าประกวด 3. มองตูป้ ลาทจี่ ัดไวอ้ ย่างสวยงาม 4. ชักมือหนีเมอื่ โดนเตารีดที่รอ้ น 5. ชกั เท้าออกเมื่อเหยียบกน้ บหุ ร 6. หดั รอ้ งเพลงกับเพอ่ื นๆ 7. พรวนดินในแปลงกุหลาบท่ปี ลกู ไว้ 8. ขณะตื่นเต้น หวั ใจจะเต้นเร็ว 9. กะพรบิ ตาเม่ือมีลมพายุ 10. นอนหลับเมอ่ื รู้สกึ เหนอื่ ยและเพลยี

11 ใบความรู้ เร่อื ง ระบบต่อมไรท้ ่อ ระบบต่อมไรท้ อ่ (Endocrine System) 2.1 ความสาคัญของระบบต่อมไรท้ ่อทีม่ ีผลตอ่ สขุ ภาพ การเจริญเติบโตและพัฒนาการ ของวัยร่นุ ตอ่ มไรท้ อ่ มคี วามสาคญั ต่อร่างกายในการควบคุมอวัยวะภายในรา่ งกายใหท้ างานสมั พนั ธก์ นั และควบคมุ การทางานของรา่ งกายใหอ้ ยใู่ นภาวะสมดลุ โดยการสรา้ งและหลง่ั สารเคมที ี่เรียกวา่ ฮอร์โมน (Hormone) ซึง่ ทาหน้าท่ี เกย่ี วกับการควบคมุ การเจริญเตบิ โต การทางานของอวัยวะภายในรา่ งกาย เพือ่ ให้มสี ขุ ภาพทด่ี แี ละพฒั นาการเป็นไปตามวยั 2.2 ตอ่ มไร้ทอ่ ในร่างกายและหนา้ ท่กี ารทางาน 1. ต่อมใตส้ มอง (Pituitary gland) ตง้ั อยใู่ นกะโหลกศรี ษะบรเิ วณใตส้ มอง ผลิตฮอรโ์ มนควบคุมการเจริญเตบิ โตของ ร่างกาย (Growth hormone) โดยเฉพาะกระดกู และกล้ามเนือ้ ต่อมใตส้ มองแบง่ เปน็ 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ต่อมใตส้ มองส่วนหนา้ และต่อม ใตส้ มองสว่ นหลัง ภาพท่ี 8 ระบบต่อมไรท้ อ่ ในเพศหญงิ และเพศชาย ทีม่ า http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone

12 ตอ่ มใตส้ มอง ตอ่ มใต้สมองส่วนหน้า ผลติ ฮอรโ์ มนท่ี ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหลัง ผลิตฮอร์โมน ควบคุมการทางาน ของอวัยวะสบื พนั ธ์ุ ออกซิโทซิน (Oxytocin) ในเพศหญงิ ทาหน้าท่ี และควบคุม การเจรญิ เตบิ โตของร่างกาย กระตนุ้ มดลกู ให้บบี ตวั ขณะคลอดบุตร และกระตุ้น การหลั่งนานมในระหวา่ งเลียงบตุ ร ในเพศชายจะ หน้าที่ของตอ่ มใตส้ มอง ชว่ ย ในการหล่ังอสุจิ และฮอรโ์ มนวาโซเพรสซิน (Vasopressin) ช่วยรกั ษาสมดลุ ของนาในรา่ งกาย และการขบั ปสั สาวะ กระตุ้นและควบคมุ การบีบตวั ของกลา้ มเนือหลอดเลอื ดแดงทาให้ความดนั โลหติ สงู ขึน 2. ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) ตง้ั อยู่ด้านหนา้ ของลาคอ ผลติ ฮอรโ์ มนชอ่ื ว่า ไทรอกซิน (Tjyroxine) โดยใชไ้ อโอดนี เปน็ ตวั สรา้ ง ชว่ ยในการเจรญิ เตบิ โตของกระดูก สมอง และระบบประสาท ชว่ ยเปลย่ี นแปลงรปู ร่างจากเดก็ ไปเป็นผูใ้ หญ่ ฮอรโ์ มนไทรอก ซนิ ช่วยควบคุมการเผาผลาญอาหาร ในร่างกาย ถ้าต่อมไทรอยดท์ างานผดิ ปกติ ทาใหร้ ่างกายมีไทรอกซินนอ้ ยเกนิ ไป ในวยั เดก็ จะมี ร่างกาย เตย้ี แคระเกร็น พดู ชา้ โตช้า พุงยน่ื ปัญญาออ่ น ในผ้ใู หญม่ อี าการบวมท่มี อื เทา้ ใบหน้า ผวิ แหง้ ตก สะเกด็ ความจาเส่ือม เกดิ โรคคอพอก แต่ถ้าไทรอกซินมากเกินไป รา่ งกายจะซบู ผอม นา้ หนกั ลด กนิ จุ ออ่ นแอ เกิดโรคคอพอกเปน็ พิษ ตอ่ มไทรอยด์ (Thyroid Gland) ภาพที่ 9 ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) ท่ีมา http://www.gettyimages.com

13 3. ต่อมพาราไทรอยด์ (Parathyroid Gland) เป็นต่อมเล็ก ๆ 4 ตอ่ ม ตง้ั อยู่ดา้ นหลัง ต่อมไทรอยด์ ผลิตฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (Parathyroid hormone) ทาหน้าทเี่ กี่ยวกับการควบคุม ความสมดุลของธาตแุ คลเซยี ม และฟอสฟอรัสในกระแสเลอื ดใหค้ งที่ ภาพท่ี 10 ทตี่ ั้งของต่อมพาราไทรอยด์ (Parathyroid gland) ท่มี า http://www.gettyimages.com ตอ่ มไทมสั (Thymus Gland) 4) ตอ่ มไทมัส (Thymus Gland) ตง้ั อยู่ในทรวงอกสว่ นบน ในวัยเด็ก ต่อมนี้จะมีขนาด ใหญ่ แตเ่ มื่ออายมุ ากขนึ้ จะเลก็ ลงและฝ่อไปในที่สุด ต่อมน้ที าหนา้ ทเ่ี กีย่ วกบั การสรา้ งระบบ ภมู ิคุ้มกันโรคใหก้ ับร่างกาย ภาพที่ 11 ทต่ี ัง้ ของตอ่ มไทมัส ท่ีมา http://www.gettyimages.com 5. ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) ลักษณะเปน็ ก้อนสีเหลือง ๆ คลา้ ยรูปสามเหลี่ยมหรือรปู พระจนั ทร์เส้ียวอยสู่ ่วนบนของไตทง้ั 2 ข้าง ข้างละ 1 ต่อม ผลิตฮอร์โมนอะดรีนาลิน (Adrenalin) เมอื่ เวลาโกรธหรือกลวั ต่อมนจี้ ะผลติ ฮอรโ์ มนออกมามากกวา่ ปกติ ทาให้ กลา้ มเน้อื มแี รงมากขน้ึ ผลักดนั ใหร้ า่ งกายพร้อมทจ่ี ะสู้หรอื ว่งิ หนี นอกจากนีต้ อ่ มหมวกไตยงั ผลติ ฮอรโ์ มนเพศชายและเพศหญงิ ถ้า ต่อมน้ที างานผิดปกติ จะทาให้เดก็ ชายมพี ัฒนาการทางเพศเร็วข้ึน เด็กหญงิ จะมลี กั ษณะทางเพศคอ่ นไปทางเพศชาย

14 ตอ่ มหมวกไต ไต ต่อมหมวกไต ภาพที่ 12 ที่ต้งั ของตอ่ มหมวกไต (Adrenal Gland Gland)gland)Gland) ที่มา http://www.gettyimages.com 6. ตบั ออ่ น (Pancreas) เปน็ ส่วนของตอ่ มไรท้ ่อทต่ี งั้ อยทู่ างด้านหลงั ของกระเพาะอาหาร ผลติ ฮอร์โมนทส่ี าคัญ คอื อินซลู ิน (Insulin) เป็นฮอร์โมนทค่ี วบคมุ ระดบั นา้ ตาลในกระแสเลือด โดยเปล่ียนนา้ ตาลกลูโคส (Glucose) ให้เปน็ ไกลโคเจน (Glycogen) เกบ็ ไว้ทีต่ ับ ทาให้ระดับน้าตาลในเลอื ดอยรู่ ะดับปกติ ถา้ ตบั อ่อนผลติ อินซูลินได้นอ้ ยกวา่ ปกตกิ ็จะทาใหม้ ีระดบั น้าตาลในเลอื ดสงู เกดิ เปน็ โรคเบาหวาน แต่ถ้าผลติ อนิ ซูลินมากเกนิ ไป ปรมิ าณนา้ ตาลในเลือดจะต่ากว่าปกตทิ าใหห้ ิวง่าย ใจส่นั มอื สนั่ เหงอื่ ออกมาก พดู จาสบั สน ภาพที่ 13 ท่ีตง้ั ของตบั อ่อน (Pancreas) ทม่ี า http://www.gettyimages.com ตับ ตบั ออ่ น

15 7. ต่อมเพศ (Gonad Gland) ในเพศชายคอื อัณฑะ ในเพศหญิงคือรงั ไข่ อย่ใู นทอ้ งสว่ นลา่ ง มีหนา้ ทส่ี ร้างเซลล์สบื พันธ์แุ ละ ฮอร์โมนท่มี อี ิทธิพลต่อการควบคมุ และพัฒนาการทางเพศ หลอดเกบ็ อสจุ ิ ต่อมลกู หมาก อณั ฑะ ท่อนาไข่ มดลูก รงั ไข่ ทm ภาพที่ 14 ต่อมเพศของเพศชายและเพศหญิง (Gonad Gland) ทม่ี า http://www.gettyimages.com

16 หนา้ ท่ีต่อมเพศชาย ต่อมเพศหญงิ ตอ่ มเพศ ต่อมเพศชายหรืออัณฑะ มีหน้าท่ีผลิตอสุจิและ ต่อมเพศหญิงหรือรังไข่ มีหน้าท่ีผลิตไข่ และฮอร์โมนเอ ฮอร์โมนเทสทอสเทอโรน(Testosterlone) ควบคุม สโทรเจน (Estrogen) และโพรเจสเทอร์โรน (Progesterrone) การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของเพศชาย ได้แก่ มี ควบคุมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเพศหญิง ได้แก่ หนวดเครา มีขนตามหน้าอก รักแร้ อวัยวะเพศ หน้า การมหี น้าอก เต้านมโตข้นึ สะโพกขยาย มขี นข้ึนที่รักแร้และ แขง้ กลา้ มเนือ้ แขง็ แรง การหล่ังอสุจิ และพัฒนาการ อวัยวะเพศ มีการตกไข่และมีประจาเดือน นอกจากน้ัน ดา้ นจติ ใจ มคี วามต้องการทางเพศ เมื่อเขา้ สวู่ ัยรนุ่ ฮอรโ์ มน เอสโทรเจน จะทาหน้าท่ีหยุดการตกของไข่ไม่ให้ไปสุก ระหว่างตั้งครรภ์ เพ่ือป้องกันการมีประจาเดือนระหว่าง ตั้งครรภ์ 2.3 วิธดี แู ลรักษาระบบตอ่ มไรท้ อ่ ให้ทางานตามปกติ 1) รับประทานอาหารทใี่ หส้ ารอาหารท่ีมีประโยชนต์ อ่ ตอ่ มไรท้ อ่ เชน่ - แคลเซียม ไดจ้ าก นม ถว่ั เหลือง และปลาตวั เลก็ ตัวน้อยท่ีรบั ประทานไดท้ ง้ั ตัว - ฟอสเฟส ได้จาก กงุ้ ปู เมล็ดทานตะวนั เมลด็ ฟกั ทอง มะม่วงหิมพานต์ ใบขเ้ี หล็ก มะระขน้ี ก และข้าวโอต๊ - เหล็ก ไดจ้ าก ตับ เลอื ดหมู ไข่แดง ถวั่ เมล็ดแหง้ และผกั ท่มี ีสเี ขยี วเข้ม - ไอโอดนี ไดจ้ าก อาหารทะเล เกลอื ทะเล และเกลือเสริมไอโอดนี 2) ออกกาลังกายด้วยกจิ กรรมที่เหมาะสมกับเพศและวัย 3) พักผ่อนให้เพยี งพอ ควรนอนหลับวันละไมต่ ่ากวา่ 8 ชวั่ โมง 4) หลีกเล่ยี งปัจจัยเสีย่ งทก่ี ่อใหเ้ กิดผลกระทบกับต่อมไรท้ ่อ เช่น การหลกี เล่ียงเครือ่ งดม่ื ทมี่ ีแอลกอฮอล์ การรบั ประทานยาทีอ่ าจมผี ลกับตอ่ มไรท้ อ่ 5) สงั เกตและสารวจสภาพร่างกายของตนเองสม่าเสมอ หากพบอาการผดิ ปกตหิ รอื มพี ัฒนาการชา้ เกินไป ควรบอกพอ่ แม่ ผู้ปกครองและรีบปรกึ ษาแพทย์ 3. การประสานสมั พันธข์ องระบบประสาทและระบบตอ่ มไรท้ อ่ การดารงชีวิตไดอ้ ยา่ งปกติ จาเปน็ ต้องมีการทางานทส่ี อดคล้องกันอยา่ งเหมาะสมของระบบตา่ งๆ ระบบประสาทและ ระบบต่อมไร้ท่อนน้ั มกี ารทางานประสานกนั อยา่ งใกล้ชิด เรียกว่า ระบบประสานงาน (Coordination) โดยระบบประสาทจะ ควบคุมการทางานของกลา้ มเนอื้ การรบั รู้ การตอบสนองส่งิ เรา้ ตา่ งๆ ระบบต่อมไรท้ อ่ จะสรา้ งฮอรโ์ มนเพือ่ ควบคมุ ลักษณะท่ี เปล่ยี นแปลงของร่างกายแบบคอ่ ยเปน็ ค่อยไปของวยั รนุ่ ทเ่ี กิดข้ึนอยา่ งต่อเนอ่ื งและควบคมุ การทางานของอวยั วะต่างๆ ตัวอย่างการ ทางานประสานกนั ของระบบประสาทและระบบต่อมไร้ทอ่ เชน่ ไฮโพทาลามสั ที่อยู่ในสมอง ทาหน้าทีผ่ ลติ และหลั่งฮอรโ์ มนไปเกบ็ ไว้ในตอ่ มใต้สมองส่วนหลัง รวมทั้งผลติ และหลงั่ ฮอรโ์ มนที่ ควบคมุ การหลงั่ หรอื ยบั ยงั้ ฮอรโ์ มนแต่ละชนดิ จากตอ่ มใต้สมองสว่ นหนา้

17 แบบฝึกหดั ที่ 4 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขียนอธบิ ายส่วนประกอบของระบบตอ่ มไรท้ อ่ (10 คะแนน) ภาพแสดงสว่ นประกอบของสมองระบบตอ่ มไรท้ ่อในเพศหญงิ และเพศชาย

18 แบบฝกึ หดั ท่ี 5 คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถูกต้อง (10 คะแนน) 1. นกั เรียนคดิ วา่ ระบบประสาทมคี วามสาคญั ตอ่ การดารงชีวติ ของมนุษยอ์ ย่างไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ไอโอดีนมคี วามสาคัญตอ่ ระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ท่ออยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นักเรยี นจะดูแลรกั ษาระบบประสาทให้ทางานตามปกติไดอ้ ย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การทางานผดิ ปกตขิ องระบบตอ่ มไรท้ อ่ แสดงออกทางร่างกายไดอ้ ย่างไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การดูแลรกั ษาระบบต่อมไร้ท่อใหท้ างานตามปกติทาได้อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. เพราะเหตุใดระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ท่อจึงตอ้ งมีการทางานรว่ มกนั …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………

19 7. ระบบประสาทและระบบตอ่ มไร้ท่อมีความสาคญั อย่างไรต่อสขุ ภาพ การเจริญเติบโต และพฒั นาการของวยั รนุ่ …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. ระบบประสาทซมิ พาเทติก และระบบประสาทพาราซมิ พาเทติก มีการทางานอย่างไร ในระบบประสาทอตั โนมัติ …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. ถ้ารา่ งกายขาดธาตไุ อโอดีน จะมผี ลอย่างไรต่อระบบต่อมไรท้ ่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. ไตและต่อมหมวกไตทาหนา้ ทอ่ี ะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ..........................................................................................................

20 แบบฝึกหดั ที่ 6 คาชี้แจง ให้นักเรยี นนาข้อความในกรอบไปเตมิ หนา้ คาถามใหส้ ัมพันธ์กนั (10 คะแนน) โกรทฮอร์โมน โพรแลกตนิ ออกซโิ ทซนิ วาโซเพรสซนิ เอสโตรเจนและ ไทรอกซิน อินซลู ินและ โพรเจสเทอโรน กลโู คคอรต์ ิคอยด์ แคลซิโทนิน กลคู ากอน อะดรนี าลนี _________________ 1. กระตนุ้ การเจรญิ เตบิ โตของเต้านม _________________ 2. ควบคุมระดบั น้าตาลในกระแสเลือด _________________ 3. ควบคมุ การทางานของไตและนา้ ในรา่ งกาย _________________ 4. ฮอร์โมนของเพศหญงิ _________________ 5. กระตนุ้ ประสาทใหร้ า่ งกายเตรยี มพรอ้ มเวลาฉุกเฉนิ _________________ 6. ควบคุมการเจริญเตบิ โตของร่างกาย _________________ 7. ควบคมุ กระบวนการเมแทบอลซิ ึมในรา่ งกาย _________________ 8. การหลงั่ นา้ นมขณะเดก็ ดูดนม _________________ 9. ควบคมุ ปริมาณแคลเซยี มในเลอื ด _________________ 10. ควบคุมการเผาผลาญในรา่ งกาย