สุขศึกษา ม.2 หน่วยที่ 5 เพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น โรคติดต่อ

เพศสัมพันธ์ ในวยั เรยี น

1 ปญั หาและผลกระทบของการมีเพศสมั พันธใ์ นวัยเรยี น 2 สถานการณเ์ สย่ี งตอ่ การมเี พศสัมพนั ธ์ในวยั เรียน 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 4 5 การหลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมทเ่ี สย่ี งตอ่ การเกิดโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ และการตง้ั ครรภไ์ มพ่ รอ้ ม 6 การปอ้ งกนั ตนเองจากโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์และการต้ังครรภไ์ มพ่ รอ้ ม



= ทางอวยั วะเพศ ปาก และทวารหนัก โดยกลา่ วได้วา่ คอื ร่วม เพศทางอวั ยวะเพศชายกบั วยั วะเพศหญงิ และทางอวั ยวะเพศ ชายกบั ทวารหนัก การใชป้ ากกบั ทางอัวยวะเพศชาย อวัยเพศ หญิงหรอื ทวารหนกั ก็ติดโรคได้

1 2 3 เช้ือแบคทเี รยี เช้อื ไวรสั เชือ้ ราและ โปรโตซัว “ รักษาหาย แต่เปน็ ซ้าํ ได้ “ “ รักษาไม่หายขาด “ “ เปน็ ได้ แม้ไม่มีเพศสมั พนั ธ์ “

โรคติดต่อ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์กบั เอดส์ไม่ใช่โรคเดียว ทางเพศสมั พนั ธ์ กนั แตต่ ิดได้ทางเดียวกัน คอื การร่วมเพศ สําหรับ โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธบ์ างโรคกเ็ หมือนโรคเอดสท์ ่ี สามารถถา่ ยทอดส่ลู ูกขณะอยู่ในครรภแ์ ละติดทาง เลอื ดได้ คือ HIV และซฟิ ลิ ิส  ถ้าร่วมเพศโดยไมป่ ้องกัน • อาจตดิ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ • อาจติด HIV • อาจท้องไม่พร้อม

“ทาํ ไมตอ้ งระวงั ไม่ให้ตดิ โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ”์

ทําไมต้องระวงั ไมใ่ หต้ ดิ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ มอี าการที่ทําให้เราทรมาน และถา้ รักษาไม่ดี ทาํ ใหโ้ รคด้ือยา บางโรคจะลกุ ลามทาํ ลายอวยั วะทสี่ าํ คญั ทําใหพ้ กิ ารและตายได้ บางโรคติดไปถงึ ลกู ในครรภ์ ทาํ ให้ลกู ตายหรือพิการ ทําใหเ้ สยี เวลา เสียเงนิ คา่ รักษา

“โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ ระบาดทไ่ี หน” ตอนน้ีโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ระบาดใน ทกุ จงั หวัด ท้ังในเมอื งและชนบท

“ใครบ้างทต่ี ิดโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์” ทั้งชายและหญงิ คนทต่ี ิดโรคนกี้ ันมาก คือ วัยรุน่ อายุ 15 – 24 ปี

“การร่วมเพศคร้ังหนง่ึ สามารถตดิ ไดท้ ั้ง โรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์และเอดส์ หรือไม”่ การรว่ มเพศโดยไม่ป้องกนั ก็ติดได้ทงั้ โรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธแ์ ละเอดส์

“ถา้ ตดิ โรคแล้วควรทาํ อย่างไร” ถ้ามีอาการหรอื สงสัยวา่ ติดโรค ควรรีบไป พบแพทย์ เพอ่ื ตรวจรักษา

“จะปอ้ งกนั โรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ ได้อยา่ งไร” หลกี เล่ยี งการมีเพศสมั พันธใ์ นวัยเรยี น เมอ่ื ไมพ่ ร่อมทจ่ี ะมพี ศสัมพันธก์ ็ให้ปฏิเสธ หรือหลีกเล่ยี งการอยใู่ นสถานทล่ี ับสองตอ่ สอง

“โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ ท่กี าํ ลงั ระบาดและพบบอ่ ยในปัจจบุ นั มีโรคอะไรบ้าง” ปัจจบุ ันมี 7 โรคดังน้ี

1 2 ตดิ ต่อ : ช่องคลอด ติดต่อ : อวยั วะเพศ ปาก ทวารหนัก ปาก ทวารหนัก และภายในครรภ์ อาการ : หนองไหลที่อวัยวะเพศ อาการ : มีแผลขอบแขง็ ท่อี วยั วะเพศ ปาก และทวารหนัก และทอ่ี น่ื ๆ แต่ไม่มอี าการเจ็บแผล ข้อควรระวัง : หากไมร่ กั ษา สามารถถา่ ยทอดผ่านช่อง มีผ่นื ข้นึ ผมรว่ ง อาจทําให้เป็นหมันได้ คลอดไปส่ทู ารกได้ ทําให้ ข้อควรระวัง : หากไม่รกั ษา อวยั วะสําคัญจะ เดก็ ตาบอด ถกู ทาํ ลาย ทาํ ใหร้ ่างกายพกิ ารและตายได้ มารดาที่ติดเชือ้ อาจแทง้ และลูกตายในครรภ์ได้ หรอื ลูกที่เกิดมา อาจพกิ ารได้

3 4 5 อาการ : แสบหรอื คันที่ทอ่ ปสั สาวะ อาการ : เป็นติง่ เนอื้ คล้ายหงอนไก่ อาการ : มตี มุ่ ใส ๆ ทําใหเ้ กิดความ ผหู้ ญงิ มกี ารตกขาวมากผดิ ปกติ บริเวณช่องคลอด อวัยวะเพศ แสบรอ้ นบรเิ วณอวยั วะเพศ ปาก หากน้ําเชื้อมาสมั ผัสที่ตา จะเกดิ ทวารหนกั และปาก ตดิ ต่อจากการร่วมเพศทางปาก ท่อปัสสาวะ ทวารหนกั “ หนองในเทยี มท่ีตา ” ทวารหนกั และอวัยวะเพศ ติดตอ่ จากการจบู การร่วมเพศทาง ถา่ ยทอดจากแมส่ ่ลู ูกผ่านช่องคลอด ผูห้ ญงิ ทเ่ี ป็นโรคนี้ มโี อกาสเปน็ มะเรง็ ปาก ทวารหนกั อวัยวะเพศ ทาํ ใหล้ ูก “เยือ่ บุตาอักเสบ” ปากมดลกู สงู กวา่ คนปกติ รกั ษาไมห่ ายขาด สามารถกลับมา เปน็ ใหมไ่ ดเ้ มอ่ื ร่างกายออ่ นแอ

6 7 อาการ : มีต่มุ นูนแดงทอี่ วัยวะเพศ อาการ : มีแผลตน้ื ๆ ทอี่ วยั วะเพศ ขอบแผลไมแ่ ข็ง เจบ็ และมเี ลือดออก ตอ่ มนา้ํ เหลืองทีข่ าหนีบอกั เสบ เกิดเปน็ ฝี ผ้หู ญิงหากเป็นแผลท่ผี นงั มดลกู จะทําใหเ้ จบ็ เวลามีเพศสมั พนั ธ์ ผหู้ ญงิ หากไมร่ กั ษา จะทําให้ปวด ทอ้ งน้อยเรือ้ รัง หรือทอ้ งนอกมดลูกได้

โรคเอดส์ (AIDS) โรคเอดส์ คือ อาการภมู ิคมุ้ กันบกพร่อง เป็นระยะสดุ ทา้ ย ของการตดิ เชอื้ HIV โดยจะทําใหร้ ะบบภูมคิ มุ้ กนั ของรา่ งกายถูก ทาํ ลาย จนไมส่ ามารถต้านทานโรคตา่ ง ๆ ได้ ซึ่งระดบั ภูมคิ ุ้มกนั ของร่างกายวัดจากจํานวนเซลลเ์ มด็ เลือดขาวชนดิ หน่งึ ทีเ่ รยี กว่า CD4 หากผู้ตดิ เช้ือหรือผู้ปว่ ยไม่ได้รับการรกั ษาจะทาํ ใหป้ ่วยจน เสียชวี ิตได้ ดังนั้น ผู้ทีม่ พี ฤตกิ รรมเส่ยี งตอ่ การติดเชือ้ เชน่ การมี เพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามยั ควรเข้ารับการตรวจเลือด หากพบการติดเช้ือ และเรมิ่ รักษาได้เรว็ กนิ ยาต่อเนอื่ งสมํา่ เสมอ จะทําให้สามารถมีชวี ิตยืนยาวไดต้ ามปกติ เชือ้ HIV จะติดต่อ 3 ทาง คือ เพศสัมพนั ธ์ การติดเชือ้ ทางเลอื ด และการถ่ายทอดเชื้อ จากแม่ส่ลู กู

1 เฉลยี่ ประมาณ 5-7 ปี 1 นับตั้งแตไ่ ด้รบั เช้อื หากไดร้ บั การักษา มกี ารดแู ลสุขภาพ 2 1 ตนเองจะทาํ ใหร้ ะดบั 3 2 ภมู ิคุ้มกันยังคงอยู่ในระดบั ดี 3 2 เรม่ิ มอี าการจากโรคฉวย โอกาสตา่ ง ๆ ไดง้ ่าย หากไม่ รักษาจะเข้าสรู่ ะยะเอดส์เต็ม 3 ขน้ั ร่างกายมภี มู ิต้านทาน ลดลงมาก ทาํ ใหต้ ิดเชือ้ ฉวยโอกาสไดง่าย

เช้อื ไวรสั ที่ทาํ ลายระบบภมู คิ มุ้ กนั ของคน ทําใหภ้ ูมคิ มุ้ กันบกพรอ่ ง และปว่ ยเป็นเอดส์ อาการภมู คิ มุ้ กนั บกพร่อง เปน็ ระยะสุดทา้ ยของการตดิ เช้ือ HIV ระบบภูมิคมุ้ กันถูกทาํ ลายจนไม่สามารถต้านทานโรคต่าง ๆ ได้ HIV ตดิ ต่อทางไหนได้บ้าง

ความจรงิ เกี่ยวกบั HIV ยงุ กัดไมท่ าํ ให้ กินข้าวดว้ ยกัน คนท่มี ีสุขภาพ ติดเชอื้ HIV ไม่ติดเชอื้ HIV แข็งแรงอาจมเี ชื้อ HIV ในรา่ งกาย 

บริการตรวจ HIV บรกิ ารตรวจ HIV ปีละ 2 ครั้ง ได้ทโี่ รงพยาบาล ของรฐั ทกุ แห่งทจี่ ดั บริการภายใตห้ ลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ โดยแสดงบัตรประชาชนท่มี ี เลขประจําตัว 13 หลกั

HIV รกั ษาฟรี ปัจจุบันทางการแพทย์มวี ธิ กี ารตรวจรักษาทก่ี า้ วหนา้ มากขึ้น ตรวจรกั ษาได้รวดเร็วข้นึ ยาทใ่ี ชร้ กั ษามปี ระสทิ ธิผล เมือ่ ตดิ เชอ้ื HIV สามารถรักษาด้วยยาตา้ นไวรสั ไดท้ นั ทที กุ ระดับ CD4 ฟรีทกุ สทิ ธิ์ การเริม่ รักษาเร็วมผี ลดี ไวรัส HIV จะลดลงอยา่ งมาก ภมู คิ มุ้ กนั จะสูงขน้ึ ลดการเจ็บปว่ ยจากโรคติดเช้อื ฉวยโอกาส บรกิ ารรักษาฟรสี ายด่วนปรกึ ษาเอดส์ 1663 สอบถามขอ้ มูลเพ่มิ เตมิ สายด่วนควบคุมโรค 1422

“โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ ทก่ี ําลงั ระบาดและพบบ่อยในปจั จบุ นั ” ปจั จุบันมี 7 โรคดงั น้ี โรคซฟิ ลิส โรคหนองใน โรคหนองในเทียม โรคหูดหงอนไก โรคเรมิ อวัยวะเพศ แผลริมอ อน กามโรคของต อมและท อนํา้ เหลือง (ฝ มะม วง)

การตั้งครรภใ์ นวัยร่นุ

กรมสวัสดกิ าร คลนิ กิ ดาวชมพู และคุ้มครองแรงงาน บ้านพักเด็ก และครอบครวั สาํ นักอนามัย การเจรญิ พนั ธ์ุ คณะกรรมการคาทอลิกเพอ่ื การพัฒนาสงั คม แผนกสตรี สภาพระสังฆราช สภาคาทอลกิ แหง่ ประเทศไทย

การทําแทง้ ผดิ กฎหมาย หมายถึง การลับลอบทําแทง้ ไมว่ า่ จะดว้ ย เหตุผลใด ๆ ก็ตาม รวมถึงการทาํ แท้งโดยแพทยท์ ่นี อกเหนือข้อบ่งชท้ี ่ี กฎหมายระบไุ ว้ สุขภาพของวยั รนุ่ ตัง้ ครรภ์ : หลังทาํ แท้งอาจทําใหป้ ากมดลูกฉีกขาด อาจเสียชีวติ จากการตกเลือดและหลอดเลอื ดอดุ ตนั จากฟองอากาศ การมบี ตุ รในอนาคต : ระบบสบื พนั ธเ์ สยี หาย คอื มดลูกฉกี ขาด โพรงมดลกู ตีบตัน นําปสู่ การแท้งบอ่ ย มีบุตรยาก หรอื อาจเป็นหมนั

สถานที่ทสี่ ามารถ ข้อปฏิบตั กิ อ่ นยุติการตั้งครรภ์ วธิ กี ารยตุ กิ ารตั้งครรภ์ ให้บรกิ ารยตุ กิ ารตง้ั ครรภ์ ทราบอายคุ รรภ์ ยตุ กิ ารต้งั ครรภด์ ้วยยา อายุครรภไ์ มเ่ กนิ 12 เป็นการตัง้ ครรภป์ กตใิ นโพรงมดลกู ยุติการต้งั ครรภด์ ว้ ยวิธีทางศัลยกรรม สปั ดาห์ : ยุติท่คี ลินกิ ทาํ ได้จนถึงอายุครรภ์ 12-14 สัปดาห์ อายุครรภเ์ กิน 12 สัปดาห์ : ยตุ ทิ โ่ี รงพยาบาลเท่าน้นั ใช้เครอ่ื งดูดสูญญากาศ

การปอ้ งกันตนเองจากโรคตดิ ตอ่ การป้องกนั โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ท่ีได้ผลดี ทางเพศสัมพันธ์ คือ การงดมีเพศสัมพันธ์ การมีสามีหรือภรรยาคน เดียว การสวมถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี ซึ่งไม่ และการต้ังครรภ์ไม่พร้อม สามารถป้องกันโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ได้ ร้อยละ 100 แต่ลดอุบัติเหตุการของการติดเชื้อลง ได้อยา่ งมาก

ถงุ ยางอนามยั ถุงยางอนามัย คือ เครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่งท่ีต้อง ผ่านการตรวจสอบจากสํานักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.)

ถงุ ยางอนามยั เลอื กอยา่ งไร ถุงยางอนามัย ผลิตจากยางพารา ไม่สามารถใช้กับ สารหลอ่ ลืน่ ทมี่ นี ้าํ มันเชน่ น้าํ มนั ทาผวิ เบบี้ออยล์ ถุงอนามัยสตรี ผลิตจากในที่ไนทริลโพลีเมอร์ บาง เพยี ง 0.048 มิลลิเมตร ทนทานกวา่ ถุงยางอนามยั ใชก้ บั สารหลอ่ ลนื่ ทีม่ นี ํา้ มนั ได้ การเกบ็ รักษาถงุ ยางอนามัย อย่าเก็บถุงยางอนามัยในท่ีมีความชื้นสูง ร้อนหรือสัมผัส แสงแดดโดยตรง เพราะจะทําให้ถุงยางอนามัยเสื่อม คณุ ภาพและแตกงา่ ย

ถงุ ยางอนามยั เลอื กอย่างไร 1. ฉกี ซองระวังอยา่ ใหเ้ ลบ็ สะกดิ ถุงยางอนามยั 2. บบี ปลายถุงยางอนามัยไล่ลมออกกอ่ นเสมอ หากปลอ่ ยใหม้ ีฟอง อากาศทป่ี ลายถงุ ยางอนามยั จะทําใหฉ้ ีกขาดขณะมเี พศสมั พนั ธ์ 3. สวมถุงยางอนามยั ขณะท่อี วยั วะเพศแข็ง ตัวบีบปลายถงุ ยาง อนามัยขณะสวมแลว้ รูดใหส้ ุดโคน 4. เมือ่ เสรจ็ กจิ ใหร้ บี ถอดถุงยางอนามยั ออกขณะทีอ่ วัยวะเพศแขง็ ตวั อยู่ โดยใช้นิว้ สอดเขา้ ไปในขอบถุงยางอนามัยแลว้ รดู ออกหรือใช้ กระดาษทชิ ชหู่ อ่ ห้มุ แล้วรูดออกและทง้ิ ในถงั ขยะทม่ี ิดชิด

สรุป 1 การงดการมเี พศสัมพันธ์ 2 การมสี ามหี รอื ภรรยาคนเดยี ว การปอ้ งกนั ตนเอง 3 สวมถงุ ยางอนามยั อยา่ งถกู วธิ ี จากโรคตดิ ต่อ ทางเพศสัมพันธ์ และการต้งั ครรภไ์ มพ่ ร้อม