สมรรถนะของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา องคป์ ระกอบของสมรรถนะ สำนักงำนเลขำธิกำรคุรุสภำ (2549 : 59) จำกโมเดลภูเขำนำแข็งในภำพประกอบที่ 1 แมคเคลล์ แลนด์ ได้แบ่งองค์ประกอบของสมรรถนะออกเป็น 5 ส่วน และได้อธิบำยควำมหมำยของแต่ละ องค์ประกอบไว้ดังนี 1) ทักษะ (Skill) หมำยถึง ส่ิงทีบ่ ุคคลทำไดด้ ี และสำมำรถแสดงให้ผู้อื่นเห็นได้ ถึงควำมชำนำญ เช่น ควำมสำมำรถในกำรนำเสนอ (Presentation) ควำมสำมำรถในกำรเจรจำต่อรอง (Negotiation) ควำมสำมำรถในกำรติดต่อส่อื สำร (Communication) เปน็ ต้น 2) ควำมรู้ (Knowledge) หมำยถึง ข้อมูลทีบ่ ุคคลได้สะสมไว้จนเกิดเป็น ควำมเชี่ยวชำญเฉพำะ ดำ้ น เช่น ควำมรู้ดำ้ นกำรวำงแผน ควำมรู้ดำ้ นกำรบริหำรงำนบุคคล ควำมรู้ดำ้ นเทคโนโลยีสำรสนเทศ ฯลฯ 3) อัตมโนทัศน์ (Self-concept) ได้แก่ กำรมีเจตคติ ค่ำนิยม และภำพลักษณ์ ที่เกี่ยวกับตนเอง หรือสง่ิ ทีบ่ คุ คลเชือ่ ว่ำตนเองเปน็ เช่น กำรมองตนเองว่ำเปน็ คนซื่อสตั ย์ กล้ำหำญ รับผิดชอบ ฯลฯ 4) ลกั ษณะนิสัย (Trait) หมำยถึง คุณลักษณะเฉพำะประจำตัวบคุ คลท่แี สดงออกมำให้ผู้อื่นเห็น ได้ เช่น ควำมนำ่ เชือ่ ถือไว้วำงใจ ควำมยดื หยนุ่ ควำมเมตตำกรณุ ำ ฯลฯ 5) แรงจูงใจ (Motive) หมำยถึง ควำมคิดที่เกิดขนึ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิด พฤติกรรม เช่น คน ที่คำดหวังในควำมสำเร็จสูงจะเกิดแรงขับเพื่อมุ่งสู่ควำมสำเร็จ หรือ คนที่ไม่มีเพื่อนและต้องกำรเพื่อน อย่ำงมำกก็จะเกิดแรงขับเพื่อสร้ำงควำมสมั พนั ธ์กบั ผู้อืน่ เปน็ ต้น องค์ประกอบของสมรรถนะตำมทีแ่ มคเคลล์แลนดไ์ ด้เสนอไว้ครงั แรกนัน ต่อมำมีผู้นำไปจดั กลุ่ม ใหม่เพื่อใช้ในกำรศึกษำวิจัย อย่ำงเช่น ไบรอันและพูสตี (Bryant and Poustie, 2001) จัดแบ่ง องค์ประกอบของสมรรถนะออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ควำมรู้ (Knowledge) หมำยถึง ส่ิงที่บคุ คลรู้และเข้ำใจเปน็ ควำมรู้ดำ้ นวิชำกำร เช่น ผู้บริหำร จะต้องมีควำมรู้ด้ำนกำรบรหิ ำร แพทยต์ ้องมีควำมรู้ด้ำนกำรรักษำคนไข้ เป็นต้น 2) ทักษะ (Skill) หมำยถึง ส่ิงที่จำเป็นต่อกำรปฏิบัติงำน ซึ่งช่วยทำให้บุคคล นำควำมรู้นันไป ใช้ได้ เช่น ผู้บริหำรต้องมีทักษะด้ำนควำมคิดรวบยอด ทักษะด้ำนมนุษย์ และทักษะด้ำนเทคนิควิธีครู ต้องมีทักษะดำ้ นกำรสอน เป็นต้น 3) เจตคติและค่ำนิยมที่เหมำะสม (Appropriate attitude and value) หมำยถึง ส่งิ ทีบ่ ุคคลแสดง ออกมำ เป็นคุณลักษณะด้ำนพฤติกรรมซึ่งมีผลกระทบต่อกำรใช้ควำมรู้และทักษะของบุคคลนัน เป็น องค์ประกอบที่ทำให้คนมคี วำมอดทนหรือเกิดควำมท้อถอยต่อ กำรปฏิบตั งิ ำน จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปปู ินตำ เลขที่ 12 1 รหสั นิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลยั พะเยำ
สมรรถนะของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ภำพที่ 2 แสดง Iceberg Model Competency ควำมสัมพันธ์ในเชิงอธิบำยเปรียบเทียบ ทีม่ ำ : สเปนเซอร์ และ สเปนเซอร์ (Spenser & Spenser : 1993) จำกภำพดังกล่ำว คุณลักษณะของบุคคลนันเปรียบเสมือนภูเขำนำแข็งที่ลอยอยู่ในนำ โดยมี สว่ นหนึ่งเป็นส่วนน้อยลอยอยู่เหนือนำ ได้แก่ ควำมรู้ที่บคุ คลมีในตัวตน และส่วนของทักษะ คือ ควำม เชี่ยวชำญ ชำนำญพิเศษในด้ำนต่ำงๆ ส่วนที่ลอยอยู่เหนือนำนีเป็นส่วนที่สังเกตและวัดได้ง่ำย สำหรับ สว่ นของภูเขำนำแข็งที่อยู่ใต้นำเปน็ ส่วนที่มีมำกกว่ำ สังเกตและวัดได้ยำกกว่ำ และเป็นส่วนที่มีอิทธิพล ต่อพฤติกรรมของบุคคลมำกกว่ำ ได้แก่ บทบำทที่แสดงออกต่อสังคม (Social Role) ภำพลักษณ์ของ บุคคลที่มีต่อตนเอง (Self – Image) คุณลักษณะส่วนบุคคล (Traits) และแรงจูงใจ (Motive) ส่วนที่อยู่ เหนือนำนันเป็นส่วนสัมพันธ์กับเชำว์ปัญญำของบุคคล อย่ำงไรก็ตำมองค์ควำมรู้และทักษะที่มีอยู่ของ บุคคล ยังเพียงพอที่จะทำให้เขำเป็นผู้มีผลกำรปฏิบตั งิ ำนที่โดดเด่น บคุ คลจำเป็นต้องมีแรงผลักดันเบือง ลกึ คณุ ลักษณะสว่ นบุคคลที่เหมำะสมด้วย จึงจะทำให้เขำสำมำรถเปน็ ผู้ที่มีผลงำนที่โดดเดน่ ได้ เมื่อรวมส่วนของนำแข็งที่อยู่เหนือนำกับใต้นำเข้ำดว้ ยกันทำให้พบว่ำสมรรถนะประกอบด้วย 3 สว่ น คือ ควำมรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) และคุณลักษณะส่วนบุคคลหรือเจตคติ (Attribute)ซึ่งตำม ทัศนะของแมคเคลล์แลนด์ กล่ำวไว้ว่ำ สมรรถนะเป็นส่วนประกอบมำจำกควำมรู้ ทักษะ และเจตคติ/ แรงจงู ใจ ก่อให้เกิดสมรรถนะดงั ภำพที่ 3 จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 2 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ
สมรรถนะของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ภำพที่ 3 สมรรถนะเป็นส่วนประกอบทีเ่ กิดขนึ มำจำกควำมรู้ ทักษะ เจตคติ ที่มำ : จขรศกั ด์ิ ศิริมัย (2554 : 9) ตำมหลักแนวคิดของ แมคเคลล์แลนด์ (David C. McClelland : 1973) สมรรถนะจึงสำมำรถจดั แบ่งไดเ้ ปน็ 2 กลุ่ม คือ 1) สมรรถนะขันพืนฐำน (Threshold Competencies) หมำยถึง ควำมรู้หรือทักษะพืนฐำนท่ีจำเป็น ของบคุ คลทีต่ ้องมีเพื่อให้สำมำรถที่จะทำงำนทีส่ งู กว่ำหรือซบั ซ้อนกว่ำได้ 2) สมรรถนะที่ทำให้เกิดควำมแตกต่ำง (Differentiating Competencies) หมำยถึงปัจจัยที่ทำให้ บคุ คลมีผลกำรทำงำนที่ดีกว่ำหรือสูงกว่ำมำตรฐำน สงู กว่ำคนทั่วไป จึงทำให้เกิดควำมสำเรจ็ ทีแ่ ตกต่ำง กัน สำหรับควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ที่แสดงในรูปภเู ขำนำแข็ง สมรรถนะ และผลงำนเป็นกำรแสดงให้เห็นว่ำ ควำมรู้ ทักษะ ควำมสำมำรถและคณุ ลกั ษณะอืน่ ๆ ของบุคคลส่งผล ให้บคุ คลมีสมรรถนะหรือพฤติกรรมในกำรทำงำนในรปู แบบต่ำงๆ และสมรรถนะต่ำงๆ มีควำมสมั พนั ธ์ กับผลงำนของบุคคล (กระทรวงมหำดไทย, 2549 : 5) ดังแสดงในภำพที่ 4 คณุ ลกั ษณะของบคุ คล ภำพที่ 4 แสดงควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงควำมแตกต่ำงของบุคคลกบั สมรรถนะและผลงำน ที่มำ : กระทรวงมหำดไทย, 2549 : 5 จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปปู ินตำ เลขที่ 12 3 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลยั พะเยำ
สมรรถนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา จำกข้อมูลข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ องค์ประกอบของสมรรถนะแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ ทักษะ ( Skill) ควำมรู้ (Knowledge) อัตมโนทศั น์ (Self-concept) ลกั ษณะนสิ ัย(Trait) และแรงจูงใจ (Motive) ทัง 5 สว่ น นีเป็นแรงผลักดันให้เกิดพฤติกรรมที่บุคคลแสดงออกมำ ทำให้ทรำบถึงควำมรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) เจตคติและค่ำนิยมที่เหมำะสม (Appropriate attitude and value) เป็นประโยชน์ต่อกำรนำ สมรรถนะไปใช้ให้ตรงควำมจำเป็น และเปน็ แนวทำงในกำรพฒั นำสมรรถนะให้เพิม่ ขนึ จดั ทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 4 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: