Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาตามเกณฑ์การประเมินของ ก.ค.ศ.

สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาตามเกณฑ์การประเมินของ ก.ค.ศ.

Published by Naruemol Poopinta, 2021-01-19 12:49:27

Description: สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาตามเกณฑ์การประเมินของ ก.ค.ศ.

Search

Read the Text Version

สมรรถนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา สมรรถนะของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาตามเกณฑก์ ารประเมนิ ของ คณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สมรรถนะของผู้บริหำรสถำนศึกษำตำมเกณฑ์กำรประเมินของคณะกรรมกำรข้ ำรำชกำรครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (ก.ค.ศ.) (สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำร ศึกษำ, 2549 : 10 – 22) ประกอบดว้ ยสมรรถนะหลักและสมรรถนะประจำสำยงำน โดยมีรำยละเอียด ดงั นี้  สมรรถนะหลกั 4 สมรรถนะ ดังนี้ 1. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 2548 (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 10 - 11) กลำ่ วว่ำ กำรมุ่งผลสัมฤทธิ์ หมำยถึง ควำมมุ่งมั่นในกำรปฏิบัติงำนในหน้ำที่ให้มีคณุ ภำพถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ มีควำมคิดริเริ่ม สร้ำงสรรค์ และมีกำรพฒั นำผลงำนให้มีคุณภำพอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง ประกอบดว้ ย 3 ตัวบ่งชี้ คือ ตัวบ่งชีท้ ี่ 1 คณุ ภำพงำนด้ำนควำมถกู ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ตัวบ่งชี้ที่ 2 ควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์กำรนำนวัตกรรม/ทำงเลือกใหม่ๆ มำใช้เพื่อ เพิ่ม ประสิทธิภำพของงำน ตวั บ่งชีท้ ี่ 3 ควำมมุ่งมน่ั ในกำรพฒั นำผลงำนอย่ำงต่อเนื่อง ชำนำญ สุรินำม (2554 : 23) กล่ำวว่ำ กำรมุ่งผลสัมฤทธิ์ หมำยถึง กำรที่บรหิ ำรงำน เป็น ระบบโดยมีควำมมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติงำนให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยคำนึงถึงผลผลิตและผลลัพธ์ โดยผลสำเร็จ ที่เกิดขึ้นจำกกำรทำงำนได้ผลผลิตตำมเป้ำหมำยและเกิดผลลัพธ์ตรงตำมวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นกำร บริหำรที่มีทิศทำงในกำรปฏิบัติ โดยเฉพำะกำรกำหนดหลักปัจจัยแห่งควำมสำเร็จและตัวชี้วัดผลกำร ดำเนินงำน ซึ่งเป็นกำรบริหำรงำนที่ก่อให้เกิดผลดีต่อองค์กร อีกท้ังให้องค์กรมีกำรสร้ำงสรรค์พัฒนำ ผลงำนให้มีคณุ ภำพอยำ่ งตอ่ เนื่องเสมอ สมภพ ดวงชอุ่ม (2554 : 25) กล่ำวว่ำ กำรมุ่งผลสัมฤทธิ์ หมำยถึง กำรจัดหำให้ได้ ทรัพยำกรกำรบริหำรมำใช้อย่ำงประหยัด (Economy) โดยบริหำรทรัพยำกรอย่ำงมีประสิทธิภำพ (Efficiency) และให้ได้ผลงำนที่บรรลุเป้ำหมำยขององค์กร (Effectiveness) ซึ่งมีเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับ เรือ่ งกำรบริหำรมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ ดงั นี้ 1) กำรวัดผลกำรปฏิบตั ิงำน (Performance Measurement) 2) กำรเทียบงำน (Benchmarking) 3) คณุ ภำพกำรให้บรกิ ำร (Service Quality) 4) กำรตรวจสอบผลกำรปฏิบตั ิงำน (Performance Auditiing) จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 1 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลยั พะเยำ

สมรรถนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา 5) กำรประเมินผลโครงกำร (Project Evaluation) 6) กำรมอบอำนำจและให้อิสระในกำรทำงำน (Devolution and Autonomy) 7) กำรวำงแผนองค์กรและแผนกลยุทธ์ (Corporate and Strategic Planning) 8) กำรทำสญั ญำผลกำรปฏิบัตงิ ำน (Performance Contracting) บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 37) กลำ่ วว่ำ กำรมุ่งผลสัมฤทธิ์ หมำยถึง ควำมรู้ควำมเข้ำใจ ในกำรวำงแผนพัฒนำกำรศึกษำ กำรจัดโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนที่เป็นระบบ สอดคลอ้ งกับหลักกำร กระจำยอำนำจและเป้ำหมำยของโรงเรียน ควำมมุ่งมั่น กระตอื รือร้น มีควำมคิดริเร่มิ สร้ำงสรรค์ มีกำร นำนวตั กรรมมำใช้เพิ่มประสทิ ธิภำพในกำรบรหิ ำรงำน มีกำรนิเทศ แก้ไข ติดตำม และประเมินผล จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรมุ่งผลสัมฤทธิ์ หมำยถึง ผู้บริหำรมีควำมมุ่งมัน่ ใน กำรปฏิบัติงำนให้สำเร็จตำมเป้ำหมำยที่ตั้งไว้ มีควำมคิดริเริม่ สร้ำงสรรค์ และนำนวัตกรรมใหม่ๆ มำใช้ เพิ่มประสิทธิภำพในกำรบริหำรงำน มุ่งม่ันในกำรผลิตผลงำน พัฒนำ และเผยแพร่ผลงำนทำงวิชำกำร ให้เป็นทีป่ ระจักษ์ 2. การบรกิ ารที่ดี สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 12) กลำ่ วว่ำ กำรบริกำรที่ดี หมำยถึง ควำมต้ังใจในกำรปรับปรุงระบบบริกำรให้มีประสิทธิภำพเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของผู้ใช้บริกำร ประกอบดว้ ย 2 ตัวบ่งชี้ คือ ตวั บ่งชีท้ ี่ 1 กำรปรบั ปรงุ ระบบบริกำร ตัวบ่งชีท้ ี่ 2 ควำมพึงพอใจของผู้รับบริกำรหรือผู้เกีย่ วข้อง ชำนำญ สุรินำม (2554 : 24) กล่ำวว่ำ กำรบริกำรที่ดี หมำยถึง กำรบริกำรที่ผู้บริหำร สถำนศึกษำต้องนำไปใช้ในสถำนศึกษำ จะต้องมีผู้รับบริกำร มีคนให้บรกิ ำร มีระบบกำรทำงำน และกล ยุทธ์ในกำรให้บริกำร ซึ่งหมำยถึงกำรปรับปรุงงำนที่มีอยู่ให้สมบูรณ์ตรงตำมควำมต้องกำรของ ผู้รับบริกำรและผู้ให้บริกำร หรือบุคคลทั้งภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำที่รับบริกำรเกิดควำมพึง พอใจในบรกิ ำร บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 43) กล่ำวว่ำ กำรบริกำรที่ดี หมำยถึง กำรศึกษำควำม ต้องกำรของผู้รับบริกำร นำข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำควำมต้องกำรของผู้รับบริกำรมำปรับปรุงและ พัฒนำระบบในกำรให้บริกำร มีควำมตั้งใจ เต็มใจ และกระตือรือร้นในกำรให้บริกำรแก่ ผู้มำใช้บริกำร กำรจัดระบบกำรให้บริกำรบนพื้นฐำนควำมต้องกำรของผู้รับบริกำร กำรศึกษำควำมพึงพอใจของ ผู้รบั บริกำรเพื่อนำผลมำปรับปรงุ และพฒั นำกำรให้บริกำร จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปปู ินตำ เลขที่ 12 2 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ

สมรรถนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา นิลลำรัตน์ โตมำก (2557 : 25) กล่ำวว่ำ กำรบริกำรที่ดี หมำยถึง กำรศึกษำควำม ต้องกำรของผู้รับบริกำรท้ังบุคคลภำยในและภำยนอก แล้วนำข้อมูลท่ีได้จำกกำรศึกษำควำมต้องกำร ของผู้รับบริกำรมำจัดระบบบนพื้นฐำนควำมต้องกำรของผู้รับบริกำร โดยมีกำรปรับปรุงพัฒนำกำร ให้บริกำรให้มีประสิทธิภำพเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของผู้รับบริกำร และมีควำมตั้งใจ เต็มใจ กระตอื รือรน้ ในกำรให้บรกิ ำรแก่ผู้รบั บริกำร จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรบริกำรที่ดี หมำยถึง ผู้บริหำรศึกษำสภำพและ ปัญหำกำรให้บริกำรของสถำนศึกษำครอบคลมุ ทุกด้ำน ศึกษำควำมพึงพอใจของบุคลำกรที่เกีย่ วข้องท้ัง ภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ เพื่อปรับปรงุ ระบบกำรให้บริกำรทีด่ ีอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง 3. การพฒั นาตนเอง สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 12 -13) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำตนเอง หมำยถึง กำรศึกษำค้นคว้ำหำควำมรู้ ติดตำมองค์ควำมรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในวงวิชำกำรและวิชำชีพ เพื่อพฒั นำตนเองและพัฒนำงำน ประกอบดว้ ย 3 ตัวบ่งชี้ คือ ตัวบ่งชี้ที่ 1 กำรศึกษำค้นคว้ำหำควำมรู้ด้วยกำรเข้ำประชุมทำงวิชำกำรอบรมสัมมนำ หรือวิธกี ำรอื่น ๆ ตวั บ่งชีท้ ี่ 2 กำรรวบรวมและประมวลควำมรู้ในกำรพฒั นำองค์กรและวิชำชีพ ตัวบ่งชีท้ ี่ 3 กำรแลกเปลย่ี นควำมคิดเห็นดำ้ นวิชำกำรในหมู่เพื่อนร่วมงำน จีระ งอกศิลป์ (2550 : 98) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำตนเอง หมำยถึง กำรเพิ่มพูนควำมรู้ ควำมเข้ำใจทักษะควำมชำนำญและควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติหน้ำที่ของตนเอง รวมทั้งกำรพัฒนำ ร่ำงกำยและจิตใจให้มีสุขภำพที่สมบูรณ์มำกที่สดุ กำรพัฒนำตนเองเป็นหัวใจสำคัญในกำรบริหำรและ จัดกำรศึกษำ คนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ กำรพัฒนำบุคลิกภำพ กำรพัฒนำ คุณธรรมจริยธรรม กำรพฒั นำวิชำชีพ ชำนำญ สรุ ินำม (2554 : 23) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำตนเอง หมำยถึง กำรทีจ่ ะพฒั นำตนเอง ให้ดีมีคุณภำพมีหลำกหลำยวิธีไม่ว่ำจะเริ่มต้นที่กำรศึกษำ อบรม หำควำมรู้ใหม่ๆ รวบรวมข้อมูลหรือ ควำมรู้ที่ได้และนำไปแลกเปล่ียนกับบุคคลอื่นอยู่เสมอ หรือใช้หลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียง หรือหลัก พุทธศำสนำ อำทิเชน่ กำรฝกึ สมำธิ กำรปฏิบัตติ ำมหลักธรรมต่ำงๆ เป็นต้น บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 40) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำตนเอง หมำยถึง กำรศึกษำค้นคว้ำ และหำควำมรู้ กำรจัดกำรควำมรู้ในโรงเรียนเพื่อพัฒนำวิชำชีพครูและระบบกำรบริหำรจัดกำรกำรใช้ เทคโนโลยีใหม่ๆ ในกำรแสวงหำและพัฒนำควำมรู้ด้วยตนเอง และกำรนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี ใหม่ๆ มำใช้ในระบบกำรบริหำรจดั กำร จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปปู ินตำ เลขที่ 12 3 รหสั นิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลยั พะเยำ

สมรรถนะของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรพัฒนำตนเอง หมำยถึง ผู้บริหำรสำมำรถศึกษำ ค้นคว้ำองค์ควำมรู้ อบรม สัมมนำเกี่ยวกบั กำรบรหิ ำร รวบรวมองค์ควำมรู้ ผลติ ผลงำนทำงวิชำกำรเพือ่ พฒั นำตนเองและพัฒนำงำน พร้อมท้ังแลกเปล่ยี นเรียนรู้เกีย่ วกบั กำรบรหิ ำรให้เปน็ ปัจจบุ ันอยู่เสมอ 4. การทางานเป็นทีม สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 2548 (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 13 - 15) กลำ่ วว่ำ กำรทำงำนเปน็ ทีม หมำยถึง กำรให้ควำมร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุน เสริมแรง ให้กำลังใจแก่เพื่อนร่วมงำน กำรปรับตัว เข้ำกับบุคคลอื่นหรือแสดงบทบำทผู้นำ ผู้ตำมได้อยำ่ งเหมำะสม ประกอบดว้ ย 4 ตัวบ่งชี้ คือ ตวั บ่งชีท้ ี่ 1 กำรให้ควำมรว่ มมือชว่ ยเหลอื สนบั สนุนเพือ่ นร่วมงำน ตวั บ่งชีท้ ี่ 2 กำรแสดงบทบำทผู้นำหรือผู้ตำมได้อยำ่ งเหมำะสม ตวั บ่งชีท้ ี่ 3 กำรปรบั ตัวเข้ำกับสถำนกำรณ์และกลุ่มคนทีห่ ลำกหลำย ตวั บ่งชีท้ ี่ 4 กำรเสริมแรงให้กำลังใจส่งเสริมสนบั สนนุ เพือ่ นร่วมงำนในกำรปฏิบตั งิ ำน ยงยทุ ธ เกษสำคร (2548 : 187) กล่ำวว่ำ กำรทำงำนเปน็ ทีม หมำยถึง กำรที่บุคคลต้ังแต่ 2 บุคคลขั้นไป มำทำงำนร่วมกัน เพือ่ ให้บรรลุจุดมุ่งหมำยเดยี วกันอย่ำงมีประสทิ ธิภำพและผู้ปฏิบตั ิงำน ต่ำงกเ็ กิดควำมพึงพอใจในกำรทำงำนนั้น กำรทำงำนเป็นทีมช่วยเพิ่มประสิทธิภำพขององค์กรเนื่องจำก ทำให้วัตถุประสงค์รวมขององค์กรประสบควำมสำเร็จสูงสุด โดยสมำชิกในทีมมีควำมพอใจในงำนที่ กระทำ และมีควำมพึงพอใจเพื่อนร่วมงำน ชำนำญ สุรินำม (2554 : 25) กล่ำวว่ำ กำรทำงำนเปน็ ทีม หมำยถึง บุคคลต้ังแต่สองคน ขึ้นไปมำร่วมปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่ำงสมำชิกในกลุ่ม อีกท้ังส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะ ปฏิบตั งิ ำนตำมภำรกจิ ที่ได้รบั มอบหมำยให้สำเรจ็ และบรรลุตำมวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยทกุ คนในกลุ่มมี ควำมรสู้ กึ ว่ำตนเองมีส่วนในกำรปฏิบัตงิ ำนทีร่ บั ผิดชอบและเปน็ เจ้ำของงำนนั้น สมภพ ดวงชอุ่ม (2554 : 30) กล่ำวว่ำ กำรทำงำนเป็นทีม หมำยถึง กลุ่มบุคคลที่มี จุดประสงค์เดียวกันร่วมกันปฏิบัติงำนอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง หรือหลำยอย่ำงโดยมีกำรพึ่งพำอำศัยซึ่งกัน และกัน มีปฏิสมั พันธ์กันระหว่ำงสมำชิกตำมบทบำทหน้ำทีข่ องแต่ละบุคคลเพื่อให้งำนบรรลุจดุ มงุ่ หมำย ที่วำงไว้ร่วมกัน อำจเป็นทีมงำนถำวรหรือทีมงำนช่ัวครำวเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง โดยเฉพำะควำมสำคัญของกำรทำงำนเปน็ ทีม กำรทำงำนเป็นทีมมีควำมสำคัญในองค์กรเป็นอย่ำงมำก ไมเ่ พียงแตท่ ีมงำนจะช่วยทำให้วตั ถปุ ระสงค์ของหน่วยงำนบรรลเุ ป้ำหมำยเท่ำนน้ั บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 43) กล่ำวว่ำ กำรทำงำนเปน็ ทีม หมำยถึง กำรให้ควำมรว่ มมือ ช่วยเหลือและสนับสนุนบุคลำกรในกำรปฏิบัติงำน กำรแสดงบทบำทผู้นำหรือผู้ตำม ควำมสำมำรถใน กำรปรบั ตัวให้เข้ำกบั สถำนกำรณแ์ ละกลุ่มคนที่หลำกหลำย กำรบรหิ ำรแบบประชำธิปไตย กำรส่งเสริม จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 4 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ

สมรรถนะของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา กำรมีสว่ นร่วมในกำรแสวงหำควำมคิดเห็นและกำรทำงำนเป็นทีม กำรเป็นผู้สร้ำงขวัญและกำลงั ใจแก่ บุคลำกร จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรทำงำนเป็นทีม หมำยถึง ผู้บริหำรสำมำรถสร้ำง ทีมงำน เป็นผู้นำทีม ทำงำนร่วมกับผู้อื่น ให้ควำมร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุน เสริมแรง ให้กำลังใจแก่ ผู้ร่วมงำน เปิดโอกำสให้สมำชิกในทีมงำนได้แสดงควำมคิดเห็น ปรับวิธีคิด วิธีปฏิบัติตน ให้สอดคล้อง กับสถำนกำรณ์ สนบั สนนุ ดำ้ นทรพั ยำกรให้ผู้ร่วมงำนปฏิบตั ิงำนสำเร็จ จำกข้อมูลข้ำงต้น สรุปว่ำ สมรรถนะหลัก หมำยถึง พฤติกรรมที่เป็นผลมำจำก ควำมสำมำรถของผู้บรหิ ำรสถำนศึกษำทีม่ ุ่งมน่ั ในกำรปฏิบัติงำนให้สำเร็จตำมเป้ำหมำยทีต่ ั้งไว้ มุ่งมนั่ ใน กำรผลติ ผลงำน และเผยแพร่ผลงำนทำงวิชำกำรให้เปน็ ที่ประจกั ษ์ สำมำรถศึกษำสภำพและปัญหำกำร ให้บริกำรของสถำนศึกษำเพื่อปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง สำมำรถศึกษำค้นคว้ำองค์ควำมรู้ รวบรวมองค์ ควำมรู้ ผลิตผลงำนทำงวิชำกำรเพือ่ พัฒนำตนเองและพัฒนำงำนแลกเปลย่ี นเรียนรู้เกี่ยวกับกำรบริหำร อยู่เสมอ สำมำรถสร้ำงทีมงำน เปน็ ผนู้ ำทีม ทำงำนร่วมกับผู้อื่น สนับสนนุ ให้ผู้ร่วมงำนปฏิบัติงำนสำเร็จ  สมรรถนะประจาสายงาน 4 สมรรถนะ ดังน้ี 1. การวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 15 - 16) กลำ่ วว่ำ กำรวิเครำะห์และ สังเครำะห์ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรทำควำมเข้ำใจส่ิงต่ำงๆ แล้วแยกแยะประเด็นเป็นส่วนย่อย ตำมหลักกำรหรือกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำมำรถรวบรวมส่ิงต่ำงๆ จัดหำ จัดทำอย่ำงเป็นระบบ เพื่อ แก้ปญั หำหรือพัฒนำงำน รวมทั้งสำมำรถวิเครำะห์องค์กรหรืองำนในภำพรวมและดำเนินกำรแก้ปญั หำ อย่ำงเป็นระบบ ประกอบดว้ ย 3 ตวั บ่งชี้ คือ ตวั บ่งชี้ที่ 1 กำรวิเครำะห์สภำพปจั จบุ นั ปัญหำ ควำมต้องกำรของงำนและเสนอทำงเลอื ก หรือแนวทำงป้องกันแก้ไขปญั หำงำนในควำมรบั ผิดชอบ ตวั บ่งชีท้ ี่ 2 ควำมเหมำะสมของแผนงำน / โครงกำรในควำมรบั ผิดชอบ ตัวบ่งชีท้ ี่ 3 ควำมคิดเชิงระบบในกำรแก้ปญั หำหรือพัฒนำงำน ชำนำญ สุรินำม (2554 : 23) กล่ำวว่ำ กำรวิเครำะห์และสังเครำะห์ หมำยถึง กำรที่ สำมำรถแยกแยะปัญหำออกเปน็ ประเด็นต่ำงๆ ได้ครอบคลมุ ปญั หำ ซึ่งมที ้ังภำยในและภำยนอกที่ส่งผล ต่อกำรบริหำรขององค์กร เมื่อได้ประเด็นปัญหำที่ชัดเจนแล้วนำมำรวบรวมเป็นข้อมูลจัดระบบ เพื่อ นำมำแก้ไขปัญหำ ก็จะสำมำรถนำมำวำงแผนและกำหนดกลยุทธ์ในกำรบริหำรจัดกำรในองค์กรได้ อย่ำงเหมำะสม จดั ทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 5 รหสั นิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลยั พะเยำ

สมรรถนะของผบู้ ริหารสถานศึกษา บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 40) กล่ำวว่ำ กำรวิเครำะห์และสังเครำะห์ หมำยถึง กำรวิเครำะห์สภำพปัจจุบันปัญหำ และควำมต้องกำร กำรจัดองค์กร ควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับ แนวคิดทำงกำรศึกษำ กำรเป็นผู้นำในกำรจัดทำแผนยุทธศำสตร์ในกำรพัฒนำและกำรตรวจสอบ ติดตำมกำรดำเนนิ กำรวิเครำะห์ขอ้ มลู นิลลำรัตน์ โตมำก (2557 : 25) กล่ำวว่ำ กำรวิเครำะห์และสังเครำะห์ หมำยถึง กำรวิเครำะห์สภำพปัจจุบันปัญหำทั้งภำยในและภำยนอกที่ส่งผลต่อก ำรบริหำรงำนของสถำนศึกษำ สำมำรถแยกแยะปัญหำควำมต้องกำรกำรจัดองค์กร ควำมรู้ควำมเข้ำใจเกีย่ วกบั แนวคิดทำงกำรศึกษำ และกำรเป็นผู้นำในกำรจัดทำแผนยุทธศำสตร์ในกำรพัฒนำและตรวจสอบ ติดตำม กำรดำเนิน กำรวิเครำะห์ขอ้ มูล จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรวิเครำะห์และสังเครำะห์ หมำยถึง ผู้บริหำร สำมำรถศึกษำ วิเครำะห์ สังเครำะห์สภำพปัญหำ ควำมต้องกำร แนวทำงแก้ไขปัญหำกำรบริหำร สถำนศึกษำ วำงแผนและกำหนดโครงกำรในแผนปฏิบัตกิ ำรให้สอดคล้องกับบริบทและงบประมำณของ สถำนศึกษำ ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำ หำวิธกี ำรพฒั นำงำนบริหำรอย่ำงเป็นระบบ 2. การสือ่ สารและการจูงใจ สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 2548 (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 15 - 17) กล่ำวว่ำ กำรส่ือสำรและ กำรจูงใจ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรพูด เขียน ส่ือสำร โต้ตอบ ในโอกำสและสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ตลอดจนสำมำรถชักจูง โน้มน้ำวให้ผู้อื่นเห็นด้วย ยอมรับ คล้อยตำม เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมำยของกำร สอ่ื สำร ประกอบดว้ ย 3 ตวั บ่งชี้ คือ ตัวบ่งชีท้ ี่ 1 ควำมสำมำรถในกำรพูดและเขียนในโอกำสต่ำง ๆ ตัวบ่งชีท้ ี่ 2 ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำรผ่ำนส่อื เทคโนโลยี ตัวบ่งชี้ที่ 3 ควำมสำมำรถในกำรจูงใจโน้มน้ำวให้ผู้อื่นเห็นด้วยกำรยอมรับคล้อยตำม เพื่อบรรลจุ ดุ มุ่งหมำยของกำรสอ่ื สำร ชำนำญ สรุ ินำม (2554 : 34) กล่ำวว่ำ กำรสือ่ สำรและกำรจูงใจ หมำยถึง 1) กำรสอ่ื สำร คือ ควำมสำมำรถในกำรพดู เขียน และโต้ตอบในโอกำสและสถำนกำรณ์ต่ำงๆ โดยผู้ส่งและผู้รับจะต้อง นำข่ำวสำรส่ือสำรติดต่อกันให้เกิดผลสำเร็จตำมเป้ำหมำยที่วำงไว้และให้เข้ำใจตรงกัน โดยผ่ำนส่ือ รูปแบบต่ำงๆ 2) กำรจูงใจ คือ กำรชักจูงโน้มน้ำวจิตใจผู้อื่นให้เห็นด้วย ยอมรับ คล้อยตำมโดยกำร นำเอำปัจจัยต่ำงๆ มำเป็นแรงผลักดันให้บุคคลนั้นแสดงพฤติกรรมออกมำอย่ำงมีทิศทำง เพื่อบรรลุ จุดมุ่งหมำยหรือเป้ำหมำยที่ต้องกำร ไม่ว่ำจะเป็นกำรใช้ทฤษฎีกำรจูงใจเบื้องต้นของ Maslow ทฤษฎี ERG ทฤษฎีสองปัจจัยของ Frederick Herzberg ทฤษฎีกำรบริหำรของ McGreger ก็ล้วนแต่ให้ผู้ที่ได้รับ แรงผลักดันน้ันแสดงพฤติกรรมออกมำอย่ำงมีทิศทำง จดั ทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 6 รหสั นิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ

สมรรถนะของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 41) กล่ำวว่ำ กำรส่ือสำรและกำรจูงใจ หมำยถึง ควำม สำมำรถในกำรส่ือสำร ควำมรู้และควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี ควำมสำมำรถจูงใจและ โน้มน้ำวให้ผู้อื่นเห็นด้วย ยอมรับ และคล้อยตำมกำรเป็นผู้นำในกำรอภิปรำย และสรุปประเด็นในกำร ประชุม นิลลำรัตน์ โตมำก (2557 : 29) กล่ำวว่ำ กำรสอ่ื สำรและกำรจงู ใจ หมำยถึง กำรเปน็ ผนู้ ำ ในกิจกำรทว่ั ไป สำมำรถใช้เทคโนโลยี พูด เขียน ประสำนเครือข่ำย โต้ตอบในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ได้และ สำมำรถโน้มน้ำวให้ผู้อื่นยอมรับและคล้อยตำมเพื่อให้เกิดผลสำเร็จตำมเป้ำหมำย ที่วำงไว้และเข้ำใจ ตรงกัน จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรส่ือสำรและกำรจูงใจ หมำยถึง ผู้บริหำรสำมำรถ พดู เขียนและสือ่ สำรในโอกำสต่ำงๆ ใช้อุปกรณ์ทำงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในกำรส่ือสำร ผ่ำนเครือข่ำยสงั คม ออนไลน์ พูดจูงใจ โน้มน้ำวให้ผู้อื่นปฏิบัติงำนด้วยควำมยินดี และเต็มใจ สร้ำงควำมเชื่อม่ันให้ผู้อื่น ยอมรับนับถอื และปฏิบัติงำนให้บรรลตุ ำมจุดมงุ่ หมำยทีต่ ั้งไว้ 3. การพฒั นาศักยภาพบคุ ลากร สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 2548 (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 17 – 19) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำ ศักยภำพบุคลำกร หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรให้คำปรึกษำ แนะนำ และช่วยแก้ปัญหำให้แก่เพื่อน ร่วมงำนและผู้เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในกำรพัฒนำบุคลำกร ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่ำงรวมท้ังส่งเสริม สนับสนุน และให้โอกำสผู้ร่วมงำนไดพ้ ัฒนำในรปู แบบต่ำงๆ ประกอบดว้ ย 4 ตวั บ่งชี้ คือ ตวั บ่งชีท้ ี่ 1 กำรให้คำปรกึ ษำแนะนำและช่วยแก้ปญั หำแก่เพือ่ นร่วมงำนและผู้เกีย่ วข้อง ตวั บ่งชีท้ ี่ 2 กำรมีส่วนร่วมในกำรพฒั นำบุคลำกร ตัวบ่งชีท้ ี่ 3 ปฏิบตั ติ นเป็นแบบอย่ำงและสร้ำงเครือข่ำยกำรพฒั นำบคุ ลำกร ตวั บ่งชีท้ ี่ 4 กำรสง่ เสริมสนับสนนุ และให้โอกำสเพ่อื นร่วมงำนไดพ้ ัฒนำในรปู แบบ ต่ำง ๆ ชำนำญ สุรินำม (2554 : 39) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำศักยภำพบุคลำกร หมำยถึง กระบวนกำรต่ำงๆ เช่น กำรให้กำรอบรม สัมมนำ ศึกษำดูงำน ตลอดจนกำรให้คำปรึกษำนิเทศกำกับ ติดตำม เป็นต้น เพื่อที่มุ่งหวังให้เกิดควำมรู้ ทกั ษะ ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนและส่งผลให้องค์กร บรรลุตำมวตั ถปุ ระสงค์อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพและประสิทธิผล บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 45) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำศักยภำพบุคลำกร หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรให้คำปรึกษำ แนะนำ และช่วยแก้ปัญหำ ส่งเสริมสนับสนุนบุคลำกรเข้ำรับกำร อบรม กำรจดั อบรมศึกษำดูงำน และนำผลงำนทำงวิชำกำรไปเผยแพร่ กำรจัดระบบนิเทศ ตรวจสอบ ตดิ ตำมและปรับปรงุ กำรปฏิบตั งิ ำน จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปปู ินตำ เลขที่ 12 7 รหัสนิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ

สมรรถนะของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา นิลลำรัตน์ โตมำก (2557 : 29) กล่ำวว่ำ กำรพัฒนำศักยภำพบุคลำกร หมำยถึง กำรให้ คำปรกึ ษำ แนะนำ ช่วยเหลอื แก้ไขปัญหำให้แก่บคุ ลำกร และกำรส่งเสริม สนับสนุนบคุ ลำกรให้มีควำมรู้ ทกั ษะ และควำมสำมำรถในกำรปฏิบตั ิงำน เช่น กำรให้กำรอบรม สัมมนำ ศึกษำดูงำน ตลอดจนกำรนำ ผลงำนทำงวิชำกำรไปเผยแพร่ กำรจัดระบบนเิ ทศ ตรวจสอบ ติดตำมและปรับปรุงกำรปฏิบตั งิ ำน จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรพัฒนำศักยภำพบุคลำกร หมำยถึง ผู้บริหำร สำมำรถให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหำแก่บุคลำกรในสถำนศึกษำ ส่งเสริม สนับสนุน สร้ำง เครอื ข่ำย มีส่วนร่วมในกำรพฒั นำบุคลำกร เปิดโอกำสให้บคุ ลำกรพัฒนำศักยภำพของตนเอง ปฏิบตั ติ น เป็นแบบอย่ำงทีด่ ีให้แก่บุคลำกร 4. กำรมีวิสัยทศั น์ สำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 2548 (สำนักงำน คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ, 2549 : 19 – 22) กล่ำวว่ำ กำรมีวิสัยทัศน์ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรกำหนดวิสัยทัศน์ทิศทำงหรือแนวทำงกำรพัฒนำองค์กรที่เป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับ และเป็นไปได้ในทำงปฏิบัติ กำรยอมรับ แนวคิด/วิธีกำรใหม่ๆ เพื่อกำรพัฒนำงำน ประกอบดว้ ย 4 ตัวบ่งชี้ คือ ตวั บ่งชีท้ ี่ 1 กำรใช้กระบวนกำรมสี ว่ นร่วมในกำรกำหนดวิสัยทศั น์ หรือทิศทำงกำร พฒั นำ องค์กร ตัวบ่งชี้ที่ 2 ควำมทันสมัยและสร้ำงสรรค์ของวิสัยทัศน์หรือทิศทำงกำรพัฒนำงำน และ ควำมสอดคลอ้ งกบั นโยบำยขององค์กรที่สงั กัด ตวั บ่งชีท้ ี่ 3 ควำมเป็นรปู ธรรมควำมเปน็ ไปได้ หรือโอกำสควำมสำเรจ็ ตำมวิสยั ทัศน์ ตวั บ่งชีท้ ี่ 4 กำรยอมรับกำรปรบั เปลย่ี นเทคนิควิธีกำรเมื่อสถำนกำรณ์แวดล้อมเปล่ยี นไป ชำนำญ สุรินำม (2554 : 39) กล่ำวว่ำ กำรมวี ิสัยทัศน์ หมำยถึง กำรกำหนดภำพอนำคต ที่เป็นเอกลกั ษณ์และอุดมคติเพื่อชว่ ยให้ผู้บริหำรและผู้นำสำมำรถคะเนและใช้ประโยชน์ของกำรคะเนได้ ดีกว่ำผู้อื่น เพรำะกำรมองเห็นอนำคตที่ชัดเจนจะทำให้สำมำรถเตรียมกำรแก้ปัญหำและเตรียม ดำเนนิ กำรต่ำงๆ ได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ ซึง่ วิสัยทัศน์ทีด่ ีต้องมีลักษณะ ดงั นี้ 1) สนั้ ๆ กระชบั ชดั เจน 2) เข้ำใจง่ำยโดยบุคคลทุกระดบั 3) มีควำมหมำยครอบคลมุ เนอื้ หำที่ต้องกำร ครบถ้วน 4) มีควำมหมำยในเชิงท้ำทำย 5) หรเู ลศิ จับตอ้ งได้ เปน็ จริงได้ วดั ผลได้ 6) กระตนุ้ เพือ่ ให้เกิดควำมรสู้ กึ คึกคัก กระตอื รือรน้ 7) ก่อให้เกิดควำมสำมคั คี จัดทำโดย นำงสำวนฤมล ปปู ินตำ เลขที่ 12 8 รหสั นิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ

สมรรถนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา บรรลุ ชินน้ำพอง (2555 : 45) กล่ำวว่ำ กำรมีวิสัยทัศน์ หมำยถึง กำรวิเครำะห์จุดอ่อน จุดแข็ง วิกฤติ และโอกำส กำรใช้กระบวนกำรมีส่วนร่วมในกำรกำหนดยุทธศำสตร์หรือกลยุทธ์ที่ สอดคลอ้ งกบั พนั ธกจิ และเป้ำประสงค์เพื่อนำสู่แผนงำนและโครงกำร ดำฟต์ Daft, 2005 : 513 (อ้ำงถึงในพิชำภพ พันธุ์แพ, 2554 : 182) กล่ำวว่ำ กำรมี วิสยั ทศั น์ หมำยถึง ส่งิ ทีส่ ะท้อนมมุ มองที่แสดงให้เห็นถึงควำมท้ำทำยและควำมทะเยอทะยำนในอนำคต ซึ่งต้องอำศัยควำมพยำยำมอย่ำงดีที่สุดของบุคลำกร บำงองค์กรที่ประสบควำมสำเร็จ มีวิสัยทัศน์ที่ ยำวไกลและมีพลังเพรำะผู้นำองค์กรเหล่ำนั้นต้องกำรถ่ำยทอดว่ำองค์กรไปสู่จุดใด ดังน้ัน วิสัยทัศน์ที่ เข้มแข็งและจูงใจจะสง่ ผลต่อกำรทำงำนทีด่ ีขององค์กร เนื่องจำกสำมำรถที่จะแสวงหำควำมทุ่มเทจำก บคุ ลำกรได้อย่ำงเตม็ ที่ วิสยั ทัศน์เป็นส่วนประกอบสำคญั ของผู้นำปฏิรูป (Transformational Leadership) เนือ่ งจำกผู้นำแบบนี้สำมำรถถำ่ ยทอดวิสยั ทศั น์ให้แก่บคุ ลำกรได้อย่ำงชัดเจน อีกทงั้ ยงั แสดงให้บุคลำกร เหน็ ถึงอนำคตที่ดีกว่ำ จำกควำมหมำยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ กำรมีวิสัยทัศน์ หมำยถึง ผู้บริหำรสำมำรถใช้ กระบวนกำรมีส่วนร่วมในกำรกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อพัฒนำงำน และสถำนศึกษำอย่ำงสร้ำงสรรค์และ ทนั สมยั สอดคลอ้ งกับนโยบำยของต้นสงั กดั มีควำมเป็นรปู ธรรมเป็นไปได้ในทำงปฏิบตั ิ จำกที่กล่ำวมำข้ำงต้น สมรรถนะประจำสำยงำน หมำยถึง พฤติกรรมที่เป็นผลมำจำก ควำมสำมำรถของผู้บริหำรสถำนศึกษำในกำรวิเครำะห์สภำพปัญหำ ดำเนินกำรแก้ปัญหำอย่ำงเป็น ระบบ สำมำรถพดู เขียน เพื่อสอ่ื สำรในโอกำสต่ำงๆ สำมำรถจูงใจโน้มน้ำวให้ผู้อื่นปฏิบัติงำนบรรลุตำม จุดมุ่งหมำย สำมำรถให้คำแนะนำ ส่งเสริม สนับสนุน สร้ำงเครือข่ำย เพื่อพัฒนำศักยภำพของตนเอง และบุคลำกร สำมำรถใช้กระบวนกำรมีส่วนร่วมในกำรกำหนดวิสยั ทศั น์เพื่อพัฒนำงำนและสถำนศึกษำ อย่ำงสร้ำงสรรค์เป็นรูปธรรม สอดคลอ้ งกับนโยบำยของต้นสงั กัด จดั ทำโดย นำงสำวนฤมล ปูปินตำ เลขที่ 12 9 รหสั นิสิต 63204296 สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ มหำวิทยำลยั พะเยำ