พระพทุ ธศาสนา ม.๔-๖ หน่วยที่ ๘ พระไตรปิฎก
พระไตรปฎิ ก ๑. ความหมายและองคป์ ระกอบ ของพระไตรปิฎก พระไตรปิฎก คือ คัมภีร์ทาง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ท่ี บั น ทึ ก แ ล ะ ร ว บ ร ว ม คาสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามี ๓ ปิฎก หรือ ๓ หมวด ซึ่งพระไตรปิฎกฉบับพิมพ์ด้วย อกั ษรไทย มี ๔๕ เล่ม
พระไตรปิฎก พระวนิ ยั หมวดของพระไตรปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ๑. มหาวิภงั ค์ พระไตรปฎิ ก ๑. ธัมมสงั คณี ๒. ภิกขุนวี ภิ ังค์ ๒. วิภงั ค์ ๓. มหาวรรค พระสุตตนั ตปฎิ ก ๓. ธาตุกถา ๔. จุลวรรค ๔. ปคุ คลบัญญตั ิ ๕. ปริวาร ๑. ทฆี นกิ าย ๕. กถาวัตถุ ๒. มัชฌิมนกิ าย ๖. ยมก ๓. สงั ยุตตนกิ าย ๗. ปฏั ฐาน ๔. อังคตุ ตรนกิ าย ๕. ขุททกนิกาย
พระไตรปฎิ ก ๒. ความสาคัญและคณุ คา่ ของพระไตรปฎิ ก ๑) เปน็ ท่จี ด จารึก หรือบันทึกและรวบรวมคาสง่ั สอนของพระพทุ ธเจ้า ๒) เป็นแมบ่ ทเดมิ ในทางพระพุทธศาสนา ทส่ี ามารถนามาใชเ้ ปน็ มาตรฐานตรวจสอบ คาสอนและขอ้ ปฏิบตั ติ ่าง ๆ ในพระพทุ ธศาสนาได้ ๓) เราสามารถศกึ ษา ค้นควา้ เรื่องราวในสมัยพทุ ธกาล ประวตั คิ วามเป็นมาของ พระพทุ ธศาสนา และเรอื่ งราวของพระพทุ ธเจ้าผา่ นทางพระไตรปิฎกได้ ๔) เปน็ หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรท์ ่สี าคัญและเป็นประโยชนต์ ่อการศกึ ษา โดยเฉพาะดา้ นสงั คมศาสตร์
พระไตรปิฎก ๓. วิธกี ารศกึ ษาและค้นควา้ พระไตรปฎิ ก ในปัจจบุ นั มีการเกบ็ รวบรวม หรอื จัดทาพระไตรปฎิ กในรปู แบบส่อื ตา่ ง ๆ มากมาย ซึ่งเราสามารถศึกษาและค้นควา้ ได้ ดงั น้ี ๑) ศกึ ษาและคน้ ควา้ จากพระไตรปฎิ กฉบับภาษาบาลี ๒) ศกึ ษาและคน้ ควา้ จากพระไตรปฎิ กฉบับแปลเปน็ ภาษาไทย ๓) ศกึ ษาและคน้ ควา้ จากส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกสต์ า่ ง ๆ เชน่ จาก CD-ROM หรอื จากอนิ เทอร์เน็ต
พระไตรปฎิ ก ๔. การสงั คายนาพระไตรปฎิ ก การสงั คายนาครัง้ ที่ ๑ สาเหตุ พระภิกษุช่ือ สุภัททะ ซึ่งบวชเม่ือแก่แล้วจึงยังไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัย อย่างลึกซึ้ง ไม่มีความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนา ทาให้กล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัยและ ลบหลู่พระพทุ ธเจ้า พระมหากัสสปเถระทราบเร่ืองจึงเกิดความสลดใจว่า หากปล่อยให้เหตุการณ์ ดาเนินไปจะทาให้มีผู้ประพฤติปฏิบัติผิดพระธรรมวินัยเป็นเหตุให้พระธรรมวินัยถูกบิดเบือน คลาดเคลอ่ื น เกิดความเส่อื มเสียได้จึงทาการสังคายนาข้นึ
พระไตรปฎิ ก บุคคลท่ีเกี่ยวข้องกับการสังคายนา พระมหากัสสปเถระเป็นประธานและ เป็นผู้ซักถาม พระอานนท์เป็นผู้ตอบข้อซักถามทางพระธรรม พระอุบาลีเป็นผู้ตอบข้อซักถามทาง พระวนิ ัย พระสงฆ์เขา้ รว่ ม ๕๐๐ องค์ สถานที่ทาสังคายนา ถา้ สตั ตบรรณ เชิงเขาเวภาระ กรงุ ราชคฤห์ แคว้นมคธ องค์อปุ ถมั ภ์ พระเจา้ อชาตศตั รู ระยะเวลาในการทาสงั คายนา ใชเ้ วลา ๗ เดอื น
พระไตรปฎิ ก การสงั คายนาคร้ังที่ ๒ สาเหตุ มีพระสงฆ์กลุ่มหน่ึงชื่อว่า วัชชีบุตร ปฏิบัติผิดพระธรรมวินัย เช่น ฉันอาหารในเวลาเลยเท่ียงวันไปแล้ว และเก็บเกลือไว้ในเขาสัตว์เพื่อนาออกมาผสมอาหารฉัน พระยสกากัณฑกบุตรเห็นว่าหากปล่อยให้พระสงฆ์ทาผิดพระธรรมวินัยเช่นน้ีต่อไปจะเป็นเหตุ ให้เสอื่ มเสีย จงึ เสนอใหท้ าสงั คายนาเปน็ คร้งั ท่ี ๒
พระไตรปฎิ ก บุคคลที่เก่ียวข้องกับการสังคายนา พระยสกากัณฑกบุตรเป็นผู้ชักชวน พระเถระท้ังหลายให้ทาสังคายนา โดยมอบหน้าที่ให้พระเรวตเถระเป็นผู้ซักถามพระธรรมวินัย และมีพระสัพพกามีเถระเป็นผ้ตู อบคาถามเก่ยี วกับพระวินัยทง้ั หมด มพี ระสงฆเ์ ขา้ รว่ ม ๗๐๐ รูป สถานที่ทาสังคายนา วาลกิ ารามเมืองเวสาลี (ไพศาลี) แคว้นวชั ชี องค์อปุ ถมั ภ์ พระเจา้ กาลาโศกราช ระยะเวลาในการทาสังคายนา ใช้เวลา ๘ เดือน
พระไตรปฎิ ก การสังคายนาครง้ั ท่ี ๓ สาเหตุ เนื่องจากมคี นนอกศาสนาปลอมตัวเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนามากข้ึน พระโมคคลั ลีบุตรติสสเถระจึงได้ขอความร่วมมือจากพระเจ้าอโศกมหาราชให้ทาการสังคายนา ชาระสะสางพระพุทธศาสนาให้บริสุทธ์ิ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสังคายนา พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระเป็น ผู้ซักถาม มีพระมัชฌันติกเถระและพระมหาเทวเถระเป็นผู้ตอบคาถาม โดยมีพระสงฆ์เข้าร่วม จานวน ๑๐๐ รูป
พระไตรปฎิ ก สถานทท่ี าสงั คายนา อโศการาม เมืองปาฏลีบตุ ร องค์อุปถมั ภ์ พระเจ้าอโศกมหาราช ระยะเวลาในการทาสังคายนา ใชเ้ วลา ๙ เดือน เม่ือสิ้นสุดการสังคายนา พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งคณะสมณทูต ๙ สาย ออกเดินทางสู่ดินแดนต่าง ๆ ทั้งในชมพูทวีปและต่างประเทศ โดยพระสมทูตสายที่ ๘ มีพระโสณะและพระอุตรเถระเป็นประธาน ได้เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดน สุวรรณภมู ิ รวมถึงประเทศไทย
พระไตรปฎิ ก การสงั คายนาคร้งั ท่ี ๔ สาเหตุ เพื่อความม่ันคงของพระพุทธศาสนาและเป็นการวางรากฐานให้ ชาวศรีลังกาทอ่ งจาพุทธวจนะตามแนวที่จดั ระเบียบไวแ้ ลว้ ในอินเดยี บุคคลท่เี กี่ยวขอ้ งกับการสงั คายนา พระมหนิ ทเถระเป็นประธานและเป็นผู้ซักถาม พระอรฏิ ฐะเป็นผตู้ อบคาถาม มีพระสงฆ์เข้าร่วมจานวน ๖๘,๐๐๐ รูป สถานทีท่ าสงั คายนา ถูปาราม เมอื งอนุราชบุรี ประเทศศรีลังกา องคอ์ ุปถัมภ์ พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ระยะเวลาในการทาสงั คายนา ใชเ้ วลา ๑๐ เดอื น
พระไตรปฎิ ก การสังคายนาครั้งที่ ๕ สาเหตุ เกิดจากพระสงฆ์แตกแยกออกเป็น ๒ พวก คือ พวกมหาวิหารกับพวกอภัย คีรวี ิหาร จึงมีผ้เู กรงว่าตอ่ ไปคนรนุ่ หลังจะไมส่ ามารถจดจาพระธรรมวนิ ยั ได้ จงึ ทาการสงั คายนาข้นึ บุคคลท่ีเกี่ยวข้องกับการสังคายนา พระรักขิตมหาเถระและพระติสสเถระร่วม ดาเนินการ โดยมีพระสงฆเ์ ข้ารว่ มการประชมุ จานวน ๑,๐๐๐ รปู สถานทที่ าสังคายนา อาโลกเลณสถาน ณ มลตชนบทในลังกาทวีป องคอ์ ปุ ถัมป์ พระเจา้ วัฏฏคามณอี ภยั การสังคายนาครั้งน้ีมีความสาคัญ คือ เป็นคร้ังแรกท่ีมีการจารึกพระพุทธวจนะเป็น ลายลกั ษณอ์ กั ษรลงบนใบลานดว้ ยภาษาบาลี ซึง่ ถอื เป็นตน้ ฉบับของพระไตรปิฎกฝา่ ยเถรวาท
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: