โครงงานฉบับสมบูรณ์ กลุ่มที่6 502

บทที่ 1 บทนา 1. ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา เนื่องจากปัจจุบนั มีอตั ราการลม้ ป่ วยเพม่ิ มากข้ึน โดยมีสาเหตุจากการเครียดสะสม ทาให้ เกิดการพกั ผอ่ นไม่เพยี งพอ ร่างกายอ่อนลา้ โดยวธิ ีการแกป้ ัญหาท่ีนิยมใชก้ นั คือการรับประทาน ยาที่ส่งผลใหง้ ่วง ซ่ึงการกินในปริมาณมากกส็ ่งผลเสียต่อร่างกาย อาจก่อนใหเ้ กิดโรคในภายหลงั ได้ กลมุ่ ของขา้ พเจา้ จึงใหค้ ิดหาวธิ ีการแกไ้ ขปัญหาท่ีไม่ส่งผลต่อสุขภาพเมื่อมีการใชง้ านใน ระยะยาว กลุ่มของขา้ พเจา้ จึงตดั สินใจทาน้ามนั หอมระเหยท่ีช่วยในการนอนหลบั โดยน้ามนั หอม ระเหยท่ีทามีส่วนประกอบหลกั คือขิง เนื่องจากขิงมีสรรพคุณที่ช่วยใหผ้ อ่ นคลาย ลดความเครียด ช่วยกระตุน้ การทางานของร่างกาย ช่วยใหร้ ่างกายอบอนุ่ มีกล่ินหอม ส่งผลดีต่อการนอน และไม่ มีอนั ตรายต่อสุขภาพ ดงั น้นั กลมุ่ ของขา้ พเจา้ จึงมุง่ ศึกษาวธิ ีการทาน้ามนั หอมระเหยจากขิง และศึกษา เปรียบเทียบ สรรพคุณของขิงสายพนั ธุต์ ่างๆ เพอื่ ใหน้ ้ามนั หอมระเหยท่ีไดม้ ีสรรพคุณท่ีช่วยใน การนอนหลบั อยา่ งมีประสิทธิภาพ และส่งผลเสียต่อร่างกายนอ้ ยท่ีสุด

2 2. วตั ถุประสงค์ 1.เพอื่ ศึกษาคุณสมบตั ิของน้ามนั หอมระเหยที่ไดจ้ ากขิง 2.เพอ่ื ศึกษาวธิ ีการทาน้ามนั หอมระเหยโดยการตม้ 3.เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาท่ีกล่ินคงอยขู่ องน้ามนั หอมระเหยที่ได้ จากขิงไทยและขิงจีน 3. สมมุตฐิ าน ถา้ ขิงไทยส่งกล่ินหอมและมีสรรพคุณทางการแพทยม์ ากกวา่ ขิงจีน ดงั น้นั น้ามนั หอมระเหย ท่ีสกดั จากขิงไทยจะส่งกลิ่นนานกวา่ และมีประสิทธิภาพท่ีช่วยในการนอนหลบั มากกวา่ น้ามนั หอมระเหยท่ีสกดั จากขิงจีน 4. ขอบเขตของการศึกษา ในการศกึ ษาคร้ังน้ี เป็นการศกึ ษาคุณสมบตั ิของน้ามนั หอมระเหย จากขิง โดยการตม้ ดว้ ยน้าเปล่า ตม้ ส่วนเหงา้ ขิง สายพนั ธุ์ ุ ไทยและสายพนั ธุจ์ ีน จากน้นั ใหก้ ลุ่มตวั อยา่ งลอง ทดลองใชพ้ ร้อมบนั ทึกเวลาท่ีกลิ่นคงอยู่ โดยกลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีเป็น นกั เรียน ในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนปัว ปี การศึกษา 2565 จานวน 5 คน ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี ดาเนินการในปี การศกึ ษา 2565 5. ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ

3 1. ลดปัญหาการพกั ผอ่ นไม่เพียงพอ ที่ทาใหเ้ กิดความเครียดสะสม 2. ไดเ้ รียนรู้การทาน้ามนั หอมระเหยจากการตม้ 3. ลดการรับประทานยาท่ีส่งผลเสียต่อร่างกาย

4 บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วข้อง (เกร่ินนา) การศึกษาในคร้ังน้ี ผศู้ ึกษาไดศ้ ึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง โดยแบ่งเน้ือหา ของเอกสารและงานวจิ ยั ออกเป็นหวั ขอ้ ตา่ งๆ ดงั น้ี 1. ความหมายของ... ( ตวั แปรท่ีศึกษา : ถา้ มีมากกวา่ 1 ใหแ้ ยกขอ้ ) 1.ขิง คือ พืชลม้ ลุก มีเหงา้ ใตด้ ิน เปลือกนอกสีน้าตาลแกมเหลือง เน้ือในสีนวลมีกลิ่นหอมเฉพาะ แทงหน่อหรือลาตน้ เทียมข้ึนเป็นกอ ประกอบดว้ ยกาบหรือโคนใบหุม้ ซอ้ นกนั มีสรรพคุณท่ีช่วยใหผ้ อ่ น คลาย ลดความเครียด ช่วยกระตุน้ การทางานของร่างกาย ช่วยให้ ร่างกายอบอุ่น มีกลิ่นหอม ส่งผลดีต่อการนอน และไม่มีอนั ตรายต่อ สุขภาพ 2. น้ามนั หอมระเหย คือ สารที่ถูกสกดั จากส่วนต่าง ๆ ของพืช ไม่วา่ จะเป็นใบ เปลือกผล เปลือกไม้ หรือเน้ือไม้ โดยน้ามนั ท่ีสกดั ไดจ้ ะให้ กล่ินหอมท่ีมีเอกลกั ษณ์แตกต่างกนั ไปตามพืชแต่ละชนิด 2. แนวคิด/ทฤษฎีในเร่ือง... ( ตวั แปรที่ศึกษา : ถา้ มีมากกวา่ 1 ใหแ้ ยกขอ้ )

5 1.น้ามนั หอมระเหยมกั ถูกนามาใชใ้ นศาสตร์สุคนธบาบดั หรือท่ีเรียก กนั วา่ อโรมาเธอราพี (Aromatherapy) ซ่ึงเป็นการใชก้ ลิ่นหอมของ น้ามนั หอมระเหยท่ีสกดั จากพชื มาบาบดั หรือรักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจ โดยมีการใชน้ ้ามนั หอมระเหยเพื่อบาบดั ดว้ ยวธิ ีท่ี หลากหลาย เช่น สูดดมกลิ่น ทาลงบนผวิ หนงั นวดน้ามนั หรือนามา บริโภคโดยผสมกบั ชาหรือน้าผ้งึ เป็นตน้ 3. ความสาคญั ของ... ( ตวั แปรท่ีศึกษา : ถา้ มีมากกวา่ 1 ใหแ้ ยกขอ้ ) 1. น้ามนั หอมระเหยจากขิง ใชเ้ ป็นส่วนผสมเคร่ืองสาอางคใ์ ชใ้ นสปา ช่วยผอ่ นคลายอารมณ์ความเหนื่อยลา้ และเครียด ลดอาการปวดเมื่อย กลา้ มเน้ือ เมื่อนาไปเจือจางเพ่ือนวดบริเวณทอ้ งจะช่วยกระตุน้ การ บีบตวั ของลาไสแ้ ละกระเพาะอาหาร กระตุน้ การไหลเวยี นของเลือด และระบบยอ่ ยอาหาร เหมาะสาหรับผมู้ ีปัญหาทอ้ งอืดหรืออาหารไม่ ยอ่ ยเพือ่ ใหม้ ีอาการดีข้ึนมีสรรพคุณตา้ นเช้ือแบคทีเรียและเช้ือรา ช่วย ดูแลผวิ พรรณ 4. องคป์ ระกอบของ... ( ตวั แปรที่ศึกษา : ถา้ มีมากกวา่ 1 ใหแ้ ยกขอ้ ) 5. งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง 5.1 งานวจิ ยั ในประเทศ องคป์ ระกอบทางเคมีและฤทธ์ิการตา้ นอนุมูลอิสระของน้ามนั หอมระเหยขิง https://www.thaiscience.info/journals/Article/KMIT/10970428.pdf

6 5.2 งานวจิ ยั ตา่ งประเทศ นามาจาก ••ตารา••บทความทางวชิ าการ••สิ่งพิมพต์ า่ ง ๆ