เร่ือง การเปรียบเทียบป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง จดั ทาโดย นางสาว ศศิธร ไชยศิลป์ เลขท่ี 6 นางสาว ชชั ชนก การด่วน เลขที่ 7 นาย สราวธุ ปาละ เลขท่ี 9 นางสาว อวยพร นนั ศริ ิ เลขที่ 11 นาย พชั รดนยั หลา้ วงศส์ าย เลขท่ี 35 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/2 เสนอต่อ คุณครู ดารง คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว สพม. น่าน เขต 37
เร่ือง การเปรียบเทียบป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง จดั ทาโดย นางสาว ศศิธร ไชยศิลป์ เลขท่ี 6 นางสาว ชชั ชนก การด่วน เลขที่ 7 นาย สราวธุ ปาละ เลขท่ี 9 นางสาว อวยพร นนั ศริ ิ เลขที่ 11 นาย พชั รดนยั หลา้ วงศส์ าย เลขท่ี 35 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/2 เสนอต่อ คุณครู ดารง คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว สพม. น่าน เขต 37
บทคดั ย่อ โครงงาน เร่ือง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง มี จุดมุง่ หมายเพื่อศึกษาวธิ ีการทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง และเพอ่ื เปรียบเทียบประสิทธิภาพป๋ ุย หมกั จากมะละกอและฟักทองตอ่ การเจริญเติบโตของตน้ ผกั บุง้ โดยนามะละกอและฟักทองมาทาเป็นป๋ ุยหมกั ชีวภาพ แลว้ นามาทดลองปลูกตน้ ผกั บุง้ เป็นเวลา 14 วนั สังเกตและบนั ทึกผลการเจริญเติบโตของผกั บุง้ โดยวดั จากความสูงของตน้ ผกั บุง้ และปริมาณการงอกของตน้ ผกั บุง้ เพื่อเปรียบเทียบกนั ดงั น้นั ป๋ ุยหมกั ชีวภาพจาก ฟักทองทาใหต้ น้ ผกั บุง้ มีการงอกและการเจริญเติบโตไดด้ ีกวา่ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอ
กติ ตกิ รรมประกาศ ในการทาโครงงานคร้ังน้ีบรรลุวตั ถุประสงคส์ าเร็จลุล่วงดว้ ยความกรุณาและช่วยเหลือเป็ นอยา่ งดียงิ่ จาก อาจารยท์ ่ีปรึกษา อาจารย์ ดารง คนั ธะเรศย์ อาจารยป์ รึกษาโครงงาน ท่ีกรุณาเสียสละเวลาใหค้ าแนะนา ตรวจ แกไ้ ขขอ้ บกพร่องดว้ ยความเอาใจใส่ และขอขอบคุณเพ่อื น ๆ ที่คอยถามความเป็นไปของโครงงานอยเู่ สมอ ผู้ ศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาของอาจารยแ์ ละขอขอบคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ ที่น้ี ขอขอบคุณอาจารย์ ดารง คนั ธะเรศย์ ผเู้ ช่ียวชาญสาหรับคาแนะนาและกาลงั ใจเม่ือเกิดปัญหาในการทา โครงงาน และขอขอบคุฯอาจารยส์ าขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ทุกทา่ นท่ีอบรมสง่ั สอนใหค้ าแนะนามาโดยตลอด ขอขอบพระคุณบิดามารดาที่สนบั สนุนในการศึกษาและกาลงั ใจ และขอขอบคุณเป็นอยา่ งยง่ิ สาหรับ ผเู้ ขียนเอกสารคน้ ควา้ ตารา หนงั สือ ท่ีทาใหเ้ ขา้ ใจการทาโครงงานแจม่ ชดั ข้ึน คุณค่าและประโยชนอ์ นั พึงมีจากการศึกษาโครงงานน้ี ผจู้ ดั ทาขอมอบเป็นเคร่ืองบูชาพระคุณบิดามารดา ผใู้ หช้ ีวติ ผมู้ ีพระคุณ ตลอดจนอาจารยแ์ ละทุกคนที่มีส่วนร่วมสร้างพ้ืนฐานการศึกษาใหแ้ ก่ผจู้ ดั ทา คณะผจู้ ดั ทา
สารบญั หน้า ก เร่ือง ข บทคดั ยอ่ ค กิตติกรรมประกาศ สารบญั 1 บทที่ 1 บทนา 1 2 1.1 ที่มาและความสาคญั 2 1.2 วตั ถุประสงค์ 2 1.3 สมมติฐาน 3 1.4 ขอบเขตของการทาโครงงาน 1.5 แผนการกาหนดเวลาการปฏิบตั ิงาน 4 1.6 ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 7 บทที่ 2 เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 8 2.1 ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 9 2.2 มะละกอ 11 2.3 ฟักทอง 13 2.4 กากน้าตาล 14 2.5 สรรพคุณของน้า EM 2.6 ระยะเวลาในการหมกั ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 16 2.7 กระบวนการหมกั ของป๋ ุยหมกั บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินโครงงาน 3.1 วสั ดุอุปกรณ์และสารเคมี
เรื่อง หน้า 3.2 ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 17 บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 18 4.1 ผลการทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 18 4.2 ตารางบนั ทึกผลการนาป๋ ุยหมกั ไปใช้ 19 บทท่ี 5 สรุป วเิ คราะห์ และอภิปรายผล 19 5.1 สรุปผลการทดลอง 20 5.2 วเิ คราะห์ และอภิปรายผล เอกสารอา้ งอิง
บทท่ี 1 บทนา ทมี่ าและความสาคัญของโครงงาน ป๋ ุยหมกั เป็นสิ่งที่มีค่ามากในทางเกษตรกรรม แตก่ ็ยงั ไม่ไดร้ ับความสนใจหรือแพร่หลายเท่าที่ควร อาจจะ เป็นเพราะสาเหตุหลายประการดว้ ยกนั เช่น เกษตรกรยงั ไม่ตระหนกั ถึงความสาคญั ท่ีแทจ้ ริงของป๋ ุยหมกั วา่ มี คุณคา่ เพยี งใดในการช่วยปรับปรุงดินใหด้ ีข้ึน หรือช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินใหด้ ีอยเู่ สมอ ไม่เส่ือง โทรมลงเร่ือย ๆ อยา่ งเช่นในปัจจุบนั น้ี เหตุผลสาคญั อีกประการหน่ึงกค็ ือ เกษตรกรยงั ขาดแหล่งขอ้ มูลท่ีจะใหค้ วามรู้ความเขา้ ใจในการทาป๋ ุย หมกั อยา่ งถูกวธิ ี เป็นสาเหตุใหก้ ารทาป๋ ุยหมกั ก็ตอ้ งใชใ้ นปริมาณมาก และมกั ไมเ่ ห็นผลอยา่ งชดั เจนใน ระยะเวลาอนั ส้ัน การทาป๋ ุยหมกั ไวใ้ ชเ้ องกต็ อ้ งใชแ้ รงงานคอ่ นขา้ งมาก ตอ้ งดูแลเอาใจใส่อยเู่ สมอ การผลิต ป๋ ุยหมกั จึงจะไดผ้ ลอยา่ งเตม็ ท่ี การที่เกษตรกรจะผลิตป๋ ุยหมกั ข้ึน มาใชก้ นั อยา่ งจริง ๆ จงั ๆ จึงตอ้ งอาศยั ท้งั ความรู้ ความเขา้ ใจในการทาป๋ ุยหมกั และจะตอ้ งมีความมุ่งมนั่ ความต้งั ใจจริงที่จะปรับปรุงท่ีดินของตน้ ให้ เป็นผนื ดินท่ีอุดมสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพในการเพาะปลูก เนื่องจากในปัจจุบนั เกษตรกรมกั จะใชส้ ารเคมีในการเพ่มิ ผลผลิตทางการเกษตรเป็นจานวนมาก ซ่ึงอาจมี คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีสูงข้ึนและอาจเป็ นอนั ตราย ต่อผบู้ ริโภค กลุ่มของขา้ พเจา้ จึงเกิดความคิดที่อยากจะนาส่ิงท่ีอยใู่ กล้ ตวั มาทาลองทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพแลว้ นามาทดลองใชก้ บั ตน้ ผกั บุง้ วา่ ป๋ ุยหมกั ชนิดใดที่จะสามารถทาใหต้ น้ ผกั บุง้ เจริญเติบโตไดด้ ีกวา่ กนั วตั ถุประสงค์ของการทาโครงงาน 1.เพ่ือเปรยี บเทียบประสิทธิภาพของป๋ ยุ หมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง 2.เพ่ือศกึ ษาการทาป๋ ยุ หมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง 3.เพ่ือการศกึ ษาการผลิตป๋ ยุ หมกั ใหม้ ีประสิทธิภาพ 4.เพ่ือทราบวธิ ีการปรบั สภาพดนิ ท่ีเส่ือมโทรม ใหม้ ีสภาพดนิ ท่ีสามารถปลกู พืชได้ 5.เป็นแนวทางเพ่มิ ผลผลติ ทางการเกษตร 6.เป็นแนวทางชว่ ยใหล้ ดตน้ ทนุ การผลิต 7.เพ่ือใหผ้ บู้ รโิ ภคผลผลิตทางการเกษตรไมไ่ ดร้ บั สารเคมีตกคา้ ง
สมมตฐิ านของการศึกษา 1. ป๋ ุยหมกั ชีวภาพท่ีทาจากมะละกอทาใหต้ น้ ผกั บุง้ เจริญเติบโตไดด้ ีกวา่ 2. ป๋ ุยหมกั ชีวภาพช่วยทาใหห้ นา้ ดินมีประสิทธิภาพ 3. ป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากวสั ดุท่ีเหลือจากเศษพชื ผกั ทางการเกษตร ส่งผลตอ่ การไล่แมลงและศตั รูพชื 4. ป๋ ุยชีวภาพสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ในการช่วยบารุงการเจริญเติบโตของตน้ ไมไ้ ด้ ขอบเขตของการทาโครงงาน ช่วงเดือนตุลาคม – เดือนธนั วาคม แผนการกาหนดเวลาปฏบิ ตั งิ าน สปั ดาห์ท่ี 1 สัปดาห์ท่ี 2-3 1.ศึกษาประเดน็ ปัญหา สปั ดาห์ท่ี 4-5 สปั ดาห์ที่ 6 2..ศึกษาวธิ ีการทาป๋ ุยหมกั สัปดาห์ที่ 7 3..ทาการทดลองและบนั ทึกผล 4.สรุปผลการทดลอง 5.นาผลการศึกษาคน้ ควา้ มาเขียนรายงานเชิงวจิ ยั 5บท
ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 1. ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ย 2. สามารถใชป้ ๋ ุยหมกั ชีวภาพบารุงตน้ ไมแ้ ทนป๋ ุยเคมีได้ 3. ไดป้ ๋ ุยที่เป็นมิตรกบั ส่ิงเเวดลอ้ ม 4. เกษตรกรลดการใชป้ ๋ ุยเคมีเเละหนั มาใชป้ ๋ ุยหมกั เเทน 5. ลดการเจบ็ ป่ วยของเกษตรกรจากการใชส้ ารเคมี 6. ผบู้ ริโภคไดร้ ับผลผลิตปลอดสารพิษ 7. ป๋ ุยหมกั ชีวภาพช่วยปรับสภาพดินท่ีเสื่อมโทรมได้ 8. ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร 9. รู้จกั การทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพหลายวธิ ี
บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง งานวจิ ยั เรื่อง “ การเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของตน้ ผกั บุง้ จากป๋ ุยหมกั ชีวภาพ ” ไดศ้ ึกษาเอกสารท่ี เก่ียวขอ้ ง ดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1 ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพคืออะไร? ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ คือ ป๋ ุยอินทรียท์ ่ีไดจ้ ากหมกั บ่มสารอินทรียด์ ว้ ยจุลินทรียท์ ี่ทาหนา้ ที่ยอ่ ยสลายอินทรียว์ ตั ถุ ใหส้ ลายตวั และผพุ งั ไปบางส่วน ทาใหไ้ ดป้ ๋ ุยที่มีลกั ษณะสีคล้าดา มีลกั ษณะเป็นผง ละเอียดเหมาะ สาหรับการ ปรับปรุงดิน และใหธ้ าตุอาหารแก่พืช ( 2558 , ออนไลน์ : https://puechkaset.com/ป๋ ยุ หมกั / เม่ือ 27/09/2563 ) ความเป็นมาของป๋ ุยหมกั Sir Albert Howard ถือวา่ เป็นผรู้ ิเริ่ม และมีการศึกษาเก่ียวกบั ป๋ ุยหมกั ไวเ้ ป็นผแู้ รกๆ โดยกาหนดแนว ทางการทาป๋ ุยหมกั ไวว้ า่ ป๋ ุยหมกั ที่ดีตอ้ งใชเ้ ศษพืชกบั มูลสัตวใ์ นอตั ราส่วน 3 : 1 และควรนาวสั ดุมากองรวมกนั เป็นช้นั ๆ พร้อมใหค้ ลุกกลบั กองป๋ ุยหมกั อยา่ งสม่าเสมอ ต่อมาสถาบนั ICAR เมือง Bangalore ประเทศอินเดียได้ พฒั นาวธิ ีการทาป๋ ุยหมกั แบบใหมข่ ้ึน ดว้ ยการนาดินมากลบกองป๋ ุยหมกั เพ่ือทาใหเ้ กิดสภาพไร้อากาศ แต่วธิ ีน้ีจะ มีการยอ่ ยสลายของจุลินทรียช์ า้ กวา่ แบบมีอากาศ แต่จะมีขอ้ ดีที่ไมต่ อ้ งดูแลมาก เรียกวธิ ีน้ีวา่ Bangalore Method ระหวา่ งปี ค.ศ. 1920-1930 ประเทศในแถบทวปี ยโุ รปไดม้ ีการพฒั นากระบวนการทาป๋ ุยหมกั และมีการนา เครื่องจกั รเขา้ มาช่วยในการจดั การ ทาใหส้ ามารถทาป๋ ุยหมกั ไดใ้ นปริมาณมาก และทาไดส้ ะดวกข้ึน ซ่ึงขณะน้นั Dr. Giovanni Beccari ประเทศอิตาลี ไดค้ ิดคน้ กระบวนหมกั แบบไม่ใชอ้ ากาศในข้นั แรก และตอ่ มาจะใช้ กระบวนการหมกั แบบใชอ้ ากาศ เรียกวธิ ีน้ีวา่ Beccari Process และต่อมาประเทศฝร่ังเศสไดป้ รับปรุง กระบวนการหมกั ดว้ ยการพน่ อากาศเขา้ ในกองป๋ ุยหมกั เพ่ือใหม้ ีการถ่ายเทอากาศ และระบายของเหลวออก เรียก วธิ ีน้ีวา่ Verder Process ปี ค.ศ. 1931 Jean Bordas ไดด้ ดั แปลงกรรมวธิ ีการหมกั แบบ Indore Process โดยตดั ข้นั ตอนแรกท่ีปล่อยใหย้ อ่ ย สลาย โดยกระบวนการท่ีไม่ตอ้ งการอากาศออก แตม่ ีการพน่ อากาศเขา้ ไปในถงั ท่ีใชส้ าหรับทาป๋ ุยหมกั ใน ประเทศเนเธอร์แลนด์เม่ือปี 1932 ไดม้ ีการใชว้ ธิ ี V.I.M. Process โดยยดึ วธิ ีการของ Indore Process เป็นหลกั ซ่ึง ใชข้ ยะเทศบาลเป็นวตั ถุดิบในการทาป๋ ุยหมกั เป็นกองยาวและสูงมีการระบายน้าส่วนเกินออกและนากลบั ไปพน่ ในกองใหม่อีกคร้ังหน่ึง และอาศยั เครื่องสาหรับบดขยะใหล้ ะเอียด ต่อมาในประเทศสหรัฐอเมริกา
ในช่วงปี ค.ศ. 1942 J.I Rodale ไดส้ ่งเสริมใหใ้ ชป้ ๋ ุยหมกั จากวธิ ี Indore Process สาหรับการเพาะปลูก ต้งั แตน่ ้นั มา ไดก้ ารศึกษาวจิ ยั เก่ียวกบั หลกั การการผลิตป๋ ุยหมกั ไดอ้ ยา่ งแพร่หลาย โดยไดม้ ีการปรับปรุง และพฒั นา กระบวนการผลิตป๋ ุยหมกั มาตลอด ( 2559,ออนไลน์ : https://sites.google.com/site/karchipuychiwiphaph/khwam-pen-ma-khxng-puy-hmak เม่ือ 27/09/2563 ) วธิ ีใชป้ ๋ ุยหมกั 1. ผสมป๋ ุยหมกั ชีวภาพกบั ดินในแปลงปลูกผกั ทุกชนิดในอตั รา 1 กิโลกรัมต่อพ้ืนที่ 1 ตารางเมตร 2. พชื ผกั อายเุ กิน 2 เดือน เช่น กะหล่าปลี ถวั่ ฝักยาว แตง และฟักทอง ใชป้ ๋ ุยหมกั ชีวภาพคลุกกบั ดิน รอง กน้ หลุมก่อนปลูกกลา้ ผกั ประมาณ 1 กามือ 3. ไมผ้ ลควรรองกน้ หลุมดว้ ยเศษหญา้ ใบไมแ้ หง้ ฟาง และป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 1-2 กิโลกรัม สาหรับไมท้ ่ี ปลูกแลว้ ใส่ป๋ ุยหมกั ชีวภาพแนวทรงพุม่ 1-2 กามือ ต่อ 1 ตารางเมตร แลว้ คลุมดว้ ยหญา้ แหง้ ใบไมแ้ หง้ หรือฟาง แลว้ รดน้าสกดั ชีวภาพใหช้ ุ่ม 4. ไมด้ อก ไมป้ ระดบั ไมก้ ระถาง ควรใส่ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ เดือนละ 1 คร้ังๆ ละ 1 กามือ ( 2555 , ออนไลน์ : https://sites.google.com/site/puyhmak/puy-hmak-chiwphaph-khux เม่ือ 27/09/2563 ) หลกั พจิ ารณาป๋ ุยหมักพร้อมใช้ 1. ป๋ ุยหมกั จะมีสีน้าตาลเขม้ ถึงดา 2. อุณหภูมิทวั่ กองป๋ ุยหมกั มีค่าใกลเ้ คียงกนั เน่ืองจากเกิดปฏิกิริยาการหมกั เกือบหมดแลว้ 3. หากใชน้ ิ้วมือบ้ี กอ้ นป๋ ุยหมกั จะแตกยยุ่ ออกจากกนั ง่าย 4. พบเห็ด เส้นใยรา หรือ พชื อ่ืนข้ึน 5. กล่ินของกองป๋ ุยหมกั จะมีกลิ่นฉุนที่เกิดจากการหมกั 6. หากนาป๋ ุยหมกั ไปวเิ คราะห์ในหอ้ งปฏิบตั ิการจะพบอตั ราส่วนของคาร์บอน และไนโตรเจนประมาณ 20:1 หรือคาร์บอนมีคา่ นอ้ ยกวา่ 20 (ไนโตรเจนยงั คงเป็น 1) ( 2555 , ออนไลน์ : https://sites.google.com/site/karchipuychiwiphaph/hlak-phicarna-puy-hmak-phrxm- chi เมื่อ 27/09/2563 )
ประโยชน์ป๋ ยุ หมัก 1. เพ่ิมความอุดมสมบูรณ์ของดิน ท้งั ปริมาณอินทรียว์ ตั ถุ แร่ธาตุอาหาร ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม 2. ช่วยในการยอ่ ยสลายซากพืช ซากสตั วใ์ นดิน ทาใหธ้ าตุอาหารถูกพชื นาไปใชไ้ ดร้ วดเร็วข้ึน 3. ช่วยเพม่ิ จุลินทรียท์ ่ีมีประโยชน์ในดิน 4. ช่วยตา้ นการแพร่ของจุลินทรียก์ ่อโรคพชื ชนิดต่างๆในดิน 5. ทาใหด้ ินมีความร่วนซุย จากองคป์ ระกอบของดินท่ีมีดิน อินทรียว์ ตั ถุ น้า และอากาศในสัดส่วนที่ เหมาะสม 6. ช่วยปรับสภาพ pH ของดิน ใหเ้ หมาะสมกบั การปลูกพชื 7. ช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการดึงแร่ธาตุของพชื จากป๋ ุยเคมีหรือป๋ ุยอ่ืนที่เกษตรกรใส่ 8. ช่วยดูดซบั ความช้ืนไวใ้ นดินใหน้ านข้ึน ทาใหด้ ินชุ่มช้ืนตลอดเวลา ( 2555 , ออนไลน์ : https://sites.google.com/site/karchipuychiwiphaph/prayochn-puy-hmakเม่ือ 27/09/2563 ) จากขอ้ มูลขา้ งตน้ สรุปไดว้ า่ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพเป็นป๋ ุยหมกั จุลินทรีย์ เม่ือใส่ลงดินท่ีมีความช้ืนพอ เช้ือจุลินทรียท์ ่ีไดจ้ ากน้าสกดั ชีวภาพ จะทา หนา้ ท่ียอ่ ยสลายอินทรียว์ ตั ถุ ใหเ้ ป็นสารอินทรียท์ ่ีเป็นประโยชนต์ ่อตน้ ไม้ จึงไม่จาเป็ นตอ้ งใหใ้ นปริมาณมากๆ และในดินตอ้ งมีอินทรียว์ ตั ถุ พวกป๋ ุยหมกั ป๋ ุยคอก หญา้ แหง้ และใบไมแ้ หง้ และมีความช้ืนอยา่ งเพียงพอ เป็ นตน้ จึงจะไดป้ ระโยชน์เตม็ ท่ีจากการใส่ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ และบ่อยคร้ังเท่าไรเพ่ือใหไ้ ดป้ ระโยชนส์ ูงสุดน้นั ท่านตอ้ งให้ ความสงั เกตเอาเอง เพราะพชื แตล่ ะชนิด และในแตล่ ะพ้ืนที่มีการตอบสนองต่อป๋ ุยหมกั ชีวภาพไมเ่ หมือนกนั
2.2 มะละกอ มะละกอมีถ่ินด้งั เดิมอยใู่ นทวปี อเมริกาแถบร้อน โดยมีการสันนิษฐานกนั วา่ มะละกอถูกนาเขา้ มาพร้อมกบั ชาวยโุ รปต้งั แตส่ มยั กรุงศรีอยธุ ยา จากน้นั จึงไดก้ ระจายพนั ธุ์ไปปลูกในทุกภาคของประเทศไทย โดยมะละกอใน ชื่อภาษาองั กฤษก็คือ papaya มีช่ือทางวทิ ยาศาสตร์วา่ Carica papaya Linn. ลกั ษณะของมะละกอเป็นไมย้ นื ตน้ เน้ืออ่อน ตน้ สูงประมาณ 3-6 เมตร ลาตน้ ต้งั ตรงไม่แตกก่ิงกา้ นสาขา ขา้ ง ในลาตน้ กลวง ไมม่ ีแก่นกลาง ลกั ษณะผวิ ลาตน้ ขรุขระและเป็นร่องตามยาว ตน้ อวบน้ามียางขาว ส่วนลกั ษณะ ใบมะละกอจะเป็นใบเด่ียวสลบั รอบตน้ ออกใบเยอะบริเวณยอด ใบเป็นรูปฝ่ ามือเวา้ เป็ นแฉกลึก 7 แฉก ขนาดใบ ใหญ่ ดอกมีหลายประเภท คือ ดอกตวั ผู้ ดอกตวั เมีย และดอกสมบูรณ์เพศ ประโยชน์ของมะละกอ *ประโยชน์ของรากมะละกอ ช่วยขบั ปัสสาวะ โดยนามาตม้ กบั น้าสุกแลว้ กรองเอาแตน่ ้ามาด่ืมเป็นยาขบั ปัสสาวะ *ประโยชน์ของใบมะละกอ บารุงหวั ใจ ขบั ปัสสาวะ แกไ้ ข้ แกบ้ ิด แกป้ อดบวม ขบั พยาธิ โดยนาใบมะละกอไปตม้ กบั น้าสะอาดแลว้ กรองแตน่ ้ามาดื่ม หรือหากใครมีอาการปวดขอ้ ปวดเขา่ ปวด บวม แดง บริเวณไหน ใหน้ าใบมะละกอไปยา่ งไฟ แลว้ นามาห่อหรือประคบอุน่ ๆ ในจุดท่ีปวด อาการปวดก็จะลดลง * ประโยชน์ของผลมะละกอดิบ ผลมะละกอดิบท่ีเรานามาตาส้มตาหรือนาไปแกงส้ม มีฤทธ์ิเป็นยาระบายออ่ น ๆ ช่วยขบั ลม และขบั ปัสสาวะได้ * ประโยชน์ของผลมะละกอสุก กินเป็นผลไมแ้ กท้ อ้ งผกู เน่ืองจากมีฤทธ์ิเป็นยาระบายออ่ น ๆ และมีไฟเบอร์สูง บารุงธาตุ แกก้ ระเพาะอาหาร อกั เสบ บารุงน้านม และช่วยยอ่ ยอาหาร * ประโยชน์ของเมลด็ มะละกอ เมลด็ แก่ของมะละกอสามารถนาไปตากแหง้ ผสมกบั เมล็ดฟักทองในปริมาณเทา่ ๆ กนั แลว้ ผสมกบั น้า 1 ถว้ ย แลว้ นาไปพอกแผลมีหนอง หรือพอกบนขอ้ ที่มีอาการปวด * ประโยชนข์ องยางมะละกอ
ยางมะละกอมีเอนไซ์ปาเปน ซ่ึงเป็นเอนไซมช์ ่วยยอ่ ยเน้ือสัตว์ คนจึงมกั นายางมะละกอตม้ ลงไปกบั เน้ือสัตว์ หรือใชย้ างมะละกอหมกั เน้ือสัตวด์ ิบ เพื่อใหเ้ น้ือมีความเป่ื อยและนุ่ม (2563 , ออนไลน์ : https://health.kapook.com/view102918.html เม่ือ 21/09/63) จาก ประโยชน์ของมะละกอ ดงั กล่าว สรุปไดว้ า่ ในเเตล่ ะส่วนของมะละกอท้งั ใบ ราก ผลจนเเมก้ ระทง่ั ยางมะละกอ กล็ ว้ นมีสรรพคุณมากมาย ซ่ึง สามารถนามาเป็นยาลดอาการต่างๆ ใชใ้ นการทาอาหารรวมไปถึงใชท้ าอาหารเพื่อสุขภาพ นอกจากน้ียงั เป็น ยาระบาย ช่วยในเร่ืองระบบขบั ถ่ายใหด้ ีข้ึน 2.3 ฟักทอง ฟักทองมีประโยชน์และคุณคา่ ทางอาหารมากมาย นอกจากน้ียงั มีสรรพคุณทางยาอีกดว้ ย ฟักทอง ถือเป็นพชื ที่ เป็นท้งั ผกั และผลไม้ มีสีเหลือง สาหรับฟักทองน้นั เราสามารถใชเ้ ป็นผกั ไดเ้ ช่นเอามาแกง อยา่ งน้ีเขาเรียกฟังทอง เป็นผกั แต่ถา้ เอามาน่ึงทานทาขนม อนั น้ีเรียกเป็นผลไม้ นอกจากน้ี ฟักทองน้นั เป็นพชื ที่มีคุณคา่ ทางอาหารสูงตวั หน่ึงท่ีเราควรทาความรู้จกั ท้งั ในแง่ของสารอาหารและในแง่ของพืช สมุนไพรไทยกนั 1. ฟักทองน้นั เป็ นพืชท่ีใหพ้ ลงั งานต่า อาจขดั กบั ความคิดของหลายๆคน แตจ่ ากการวิจยั เทียบกบั พืชชนิด อื่นถือวา่ ใหพ้ ลงั งานต่า มีไขมนั นอ้ ย จึงเหมาะแก่คนท่ีตอ้ งการควบคุมน้าหนกั แต่จะตอ้ งควบคุม ปริมาณน้าตาลและครีมท่ีเติมเขา้ ไปดว้ ย นอกจากน้ีฟักทองยงั มีกากใยสูงสามรถช่วยระบบขบั ถ่ายได้ เป็นอยา่ งดี 2. เน้ือฟักทอง มีวติ ามินเอสูง รวมท้งั ฟอสฟอรัส แคลเซียม วติ ามินซี แป้ง และท่ีจะลืมไปไมไ่ ดเ้ ลยก็คือ “เบตา้ แคโรทีน” ซ่ึงเป็นสารตา้ นอนุมูลอิสระอยใู่ นเน้ือสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิด มะเร็ง โรคหลอดเลือดหวั ใจ และโรคหวั ใจได้ แถมเบตา้ แคโรทีน ยงั ช่วยตา้ นความชรา ป้องกนั โรค ผวิ หนงั บรรเทาอาการปวดเมื่อยของขอ้ เขา่ และบ้นั เอวไดเ้ ป็นอยา่ งดี 3. คาร์โบไฮเดรตในฟักทอง ช่วยรักษาและบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหาร และลาไส้ในส่วนบนได้ ดว้ ย สาหรับคนท่ีเป็นโรคกระเพาะทานสามารถนาฟักทองน่ึงแลว้ ทาน จะช่วยบรรเทาอาการปวดทอ้ ง ใหเ้ บาบางแบบไม่ตอ้ งพ่ึงยาเลยทีเดียว 4. มีการการวจิ ยั รายงานวา่ ฟักทองสามารถช่วยบรรเทาอาการหอบหืดท่ีเกิดจากหลอดลมอกั เสบใน ผสู้ ูงอายไุ ด้
5. การรับประทานฟักทองท้งั เปลือกจะสามรถกระตุน้ การหลง่ั อินซูลิน ซ่ึงสารตวั น้ีเป็นสารท่ีควบคุม ระดบั น้าตาลในร่างกาย หากขาดสารตวั น้ี หรือการหลงั่ อินซูลินผดิ ปรกติ จะทาใหเ้ กิดโรคเบาหวานได้ นอกจากน้ีการรับประทานท้งั เปลือกยงั สามรถควบคุมความดนั โลหิต บารุงตบั บารุงไต บารุงดวงตา และสร้างเซลลใ์ หมท่ ดแทนเซลลเ์ ก่าท่ีเส่ือมสภาพไดอ้ ีกดว้ ย 6. ในฟักทองมีคอลลาเจนตามธรรมชาติ จึงช่วยเสริมสร้าง คอลาเจนใตผ้ วิ หนงั ช่วยทาใหผ้ วิ พรรณผอ่ งใส 7. สตรีหลงั คลอดบุตรหากทางฟักทอง ซ่ึงตามตาราสมุนไพรไทยเขาเรียก “มีฤทธ์ิอุน่ ” จะช่วยยอ่ ยอาหาร ทาใหก้ ระเพาะอุน่ บารุงกาลงั และลดการอกั เสบแกป้ วดไดด้ ีมากๆ จาก ประโยชนข์ องฟักทองดงั กล่าว สรุปไดว้ า่ ฟักทองมีธาตุอาหารสูงมากๆ รวมถึงมี เบตา้ แคโรทีน ที่เป็นสารตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคท่ี เกี่ยวกบั หวั ใจ เเละฟักทองยงั ช่วยบรรเทาอาการต่างๆไดด้ ี ไม่วา่ จะเป็นโรคท่ีเก่ียวกบั กระเพาะอาหาร ลาไส้ อาการหอบหืด นอกจากน้ีการรับประทานฟักทองท้งั เปลือกยงั ช่วยบารุงตบั ไต ดวงตา ควบคุมความดนั โลหิต เเละช่วยเสริมสร้างส่วนของเซลลท์ ่ีเส่ือมสมรรถภาพอีกดว้ ย 2.4 กากนา้ ตาล กากนา้ ตาล (molasses) เป็นของเหลวที่มีลกั ษณะหนืดขน้ มีสีดาอมน้าตาล ซ่ึงเป็นผลผลิตอยา่ งหน่ึงใน กระบวนการผลิตน้าตาลทราย โดยมีออ้ ยเป็นวตั ถุดิบ กากน้าตาลน้ี จะแยกออกจากกระบวนการผลิตน้าตาล ทรายในข้นั ตอนสุดทา้ ย ดว้ ยการแยกออกจากเกลด็ น้าตาลโดยวธิ ีการป่ัน (Centrifuge) ซ่ึงไมส่ ามารถตกผลึกเป็น เกลด็ น้าตาลไดด้ ว้ ยวธิ ีทว่ั ไป และไมน่ ากลบั มาใชผ้ ลิตน้าตาลทรายอีก (ปริษฎางค์ วงศ์ปราชญ์, 2547, การ ปรับปรุงการผลติ เอทานอลจาก-กากนา้ ตาลอ้อยโดย Saccharomyces cerevisiae SKP1-ในการเลยี้ งเชื้อแบบ เฟด-แบตช์, จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . )
ประโยชน์กากนา้ ตาล 1. กากน้าตาล ใชเ้ ป็นวตั ถุดิบสาคญั ในการผลิตเอทานอล เพื่อใชเ้ ป็นส่วนผสมของน้ามนั เบนซิน 91 หรือ 95 หรือท่ีเรียกวา่ แกส๊ โซฮอลล์ ท้งั น้ี กากน้าตาลปริมาณ 1 ตนั จะผลิตเอทานอลไดป้ ระมาณ 250 ลิตร (อนุชิต แสง วลิ ยั ,2560,กากนา้ ตาลคุณไกรเชียงใหม่ ) 2. กากน้าตาลถูกใชเ้ ป็นวตั ถุดิบในอุตสาหกรรมหลายประเภท ไดแ้ ก่ – อุตสาหกรรมผลิตแอลกอฮอล์ และสุรา – อุตสาหกรรมผลิตกรดมะนาว กรดน้าส้ม และกรดแลคติก – อุตสาหกรรมผลิตผงชูรส ซอส และซีอ๊ิว – อุตสาหกรรมผลิตยสี ต์ และขนมปัง – อุตสาหกรรมผลิตอาหารสตั ว์ (นายชูชาติ สุขมาก,2560,ข่าวเกษตรน่ารู้) 3. กากน้าตาลใชเ้ ป็นส่วนผสมของหญา้ หมกั หรือใชผ้ สมในอาหารขน้ เพ่ือเพมิ่ แหล่งคาร์โบไฮเดรต และเป็น ส่วนสาคญั ท่ีช่วยกระตุน้ การหมกั ใหเ้ กิดรวดเร็วมากข้ึน เพราะช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรีย ผลิตกรด นอกจากน้นั ยงั ช่วยปรับปรุงรสของอาหารหยาบ และส่งเสริมการเติบโตของแบคทีเรียในกระเพาะ( ณฐั ธิดา เซี่ยงจ๊ง, 2554, ผลของการใช้กากนา้ ตาลและวนี ัสต่อสมบตั ิทางเคมี- ของกระถนิ หมักเพ่ือเป็ นอาหารสาหรับสัตว์เคีย้ วเอื้อง. มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. ) 4. กากน้าตาลใชเ้ ป็นส่วนผสมของป๋ ุยหมกั หรือสารปรับปรุงดิน เพราะในกากน้าตาลมีธาตุอาหารท่ีครบถว้ น (บุญเทยี ม พนั ธ์ุเพง็ , 2523, การคัดเลือกสายพนั ธ์ุยสี ต์เพ่ือหมักแอลกอฮอล์จากกากนา้ ตาลและนา้ อ้อย, มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. ) 5. กากน้าตาลใชเ้ ป็นส่วนผสมของน้ามกั ชีวภาพ เป็นแหล่งอาหารสาคญั เพอื่ ใหจ้ ุลินทรียผ์ ลิตกรดเติบโต และ ช่วยปรับปรุงคุณสมบตั ิทางธาตุอาหาร และกลิ่นของน้าหมกั (Dale 2018: Online) 6. กากน้าตาลเป็นผลพลอยไดท้ ่ีสร้างรายไดใ้ หแ้ ก่อุตสาหกรรมผลิตน้าตาล ดว้ ยการส่งจาหน่ายยงั ต่างประเทศ เพื่อใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นตา่ งๆ ท้งั ในอุตสาหกรรม และการเกษตร โดยส่งออกเป็ นอนั ดบั 2 ของโลก รองจาก ประเทศบราซิล เพราะบราซิลเป็นประเทศผลิตน้าตาลอนั ดบั แรกของโลก (กนกวรรณ พนั ธ์ุดี, 2550, อทิ ธิพล ของกากนา้ ตาลต่อการทาป๋ ุยหมักแบบกองจากมนั สาปะหลงั , มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบุรีทมี่ า : http://puechkaset.com/)
ประโยชน์ของกากน้าตาลสามารถใชไ้ ดใ้ นหลายอุตสาหกรรมเช่น ใชท้ าป๋ ุย ใชเ้ ล้ียงสัตวใ์ ชผ้ ลิตแอลกอฮอล์ ใช้ ในอุตสาหกรรมยสี ต์ ใชท้ าผงชูรส และใชท้ ากรดน้าส้ม แต่ส่วนใหญ่จะใชผ้ ลิตแอลกอฮอล์ และใชเ้ ป็นอาหาร สัตว์ สาหรับในประเทศไทยส่วนใหญ่จะใชใ้ นอุตสาหกรรมการผลิตแอลกอฮอลส์ าหรับการผลิตสุรา และการ ผลิตเอทานอล เพ่อื ใชเ้ ป็นส่วนผสมในการผลิตแก๊สโซฮอล์ นอกจากน้ี ยงั ใชใ้ นอุตสาหกรรมการผลิตผงชูรส อุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมการผลิตยสี ต์ ตลอดจนการนากากน้าตาลไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น อุตสาหกรรมรายยอ่ ยต่าง ๆ เช่น นากากน้าตาลไปใชห้ มกั ทาป๋ ุยน้า ใชท้ าน้าสกดั ชีวภาพ ใชเ้ พาะเล้ียง เช้ือจุลินทรีย์ เพื่อใชใ้ นฟาร์มกุง้ ตลอดจนใชใ้ นการบาบดั น้าทิ้ง 2.5 สรรพคุณของนา้ EM E.M. ย่อมาจากคาว่า Effective Micro-organisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรียท์ ี่มีประสิทธิภาพโดยใช้ เทคนิคทาง ชีวภาพ รวบรวมเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ หมวดสร้างสรรคท์ ี่มีอยใู่ นธรรมชาติมาใชป้ ระโยชน์ ช่วยปรับปรุงสภาพ ความสมดุลของสิ่งมีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ มใหด้ ีข้ึน จุลินทรียห์ มวดสร้างสรรคท์ ี่มีใน EM ไดแ้ ก่ กลุ่มจุลินทรีย์ สงั เคราะห์แสง แลกโตบาซิลสั เพนนิซีเลี่ยม ไตรโคเดอมา ฟูซาเรียม สเตรปโตไมซิส อโซโตแบคเตอ ไร โซเบียม ยสี ต์ รา ฯลฯ จุลินทรียใ์ น EM ส่วนใหญ่เป็ นจุลินทรียท์ ี่ไม่ตอ้ งการอากาศ และมีพลงั “แอนติออกซิเดชน่ั ” ซ่ึง เป็น พลงั สร้างสรรคข์ องชีวติ ป้องกนั มิใหม้ ีการทาลายชีวภาพที่สาคญั ของ เซลลไ์ ดป้ ้องกนั ฤทธ์ิของสารพิษไดห้ ลาย ชนิด รักษาสภาพธรรมชาติของเซลล์ ไดม้ ิใหเ้ ส่ือมสภาพรักษาสุขภาพของคนและสตั ว์ มิใหเ้ ป็นโรคหรือ เจบ็ ป่ วยไดง้ ่าย ( 2560 , ออนไลน์ : http://worldchemical.co.th/th/page-57-ประโยชน์ของจุลนิ ทรีย์-em.html เมื่อ 27/09/2563) สรรพคุณของนา้ EM 1. ดา้ นการเกษตร ใช้ราด-รด ลงดนิ ในอตั รา อีเอม็ ขยาย 1 ชอ้ นโตะ๊ +กากน้าตาล 1 ชอ้ นโตะ๊ + น้า 5 ลิตร -ฉีดพน่ พชื ผกั และเห็ดทุกชนิดทุกๆ 5 วนั /คร้ัง -ไมผ้ ล และ นาขา้ ว 30 วนั /คร้ัง พชื ผกั จะงอกงามแขง็ แรง ดินร่วนซุย อุม้ น้าไดด้ ี ไม่มีศตั รูพืชรบกวน ไม่ตอ้ ง ใชป้ ๋ ุยเคมี จะทาใหพ้ ืชผกั ผลไม้ ขา้ วและเห็ด มีรสชาติอร่อยเป็นธรรมชาติ เกบ็ ไวไ้ ดน้ านไม่เน่าเสียง่าย ใช้ดบั กลนิ่ ในห้องนา้ อตั รา 1/1/500 หรือ จุลินทรียอ์ ีเอม็ 1 ชอ้ น+กากน้าตาล 1 ชอ้ น+น้าสะอาด 5 ลิตร เทราดลงโถส้วมทุก 7 วนั จะทาใหด้ บั กล่ินเหมน็ ห้องน้าไมเ่ ตม็ ง่าย
ใช้ผสมนา้ ให้สัตว์เลยี้ งกินทกุ วนั อตั รา 1/5,000 หรือ จุลินทรียอ์ ีเอม็ ประมาณ 1 ชอ้ นโตะ๊ +น้าสะอาด 5 ลิตร ผสมน้าใหส้ ตั วเ์ ล้ียงกิน เช่น ใหเ้ ป็ด ไก่ สุกร สัตวเ์ ล้ียงแข็งแรง ไมเ่ กิดโรค มูลของสตั วเ์ ล้ียงไมม่ ีกล่ินเหมน็ เป็ด ไก่ ที่เคยเกิดโรคระบาดหลงั หนา้ ร้อนสามารถแกไ้ ขปัญหาน้ีไดง้ ่าย ทุกเชา้ ควรเปล่ียนน้าใหม่ใส่จุลินทรีย์ อีเอม็ ทุกวนั ไม่ควรใหค้ า้ งคืน ใช้เป็ นส่วนผสมในการผลติ ป๋ ุยหมกั จุลินทรียช์ ีวภาพตน้ ทุนต่า ฮอร์โมนบารุงการเจริญเติบโต สารสกดั ไล่แมลง เพ่อื ช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพของป๋ ุยหมกั และฮอร์โมน ใหม้ ีจุลินทรียท์ ี่มีประโยชน์บารุงการ เจริญเติบโตของพชื ผกั ผลไมท้ ุกชนิด และสตั วเ์ ล้ียง ใหม้ ีความสมบูรณ์ตรงตามความตอ้ งการทางดา้ น โภชนาการอยา่ งเหมาะสม ( จ.ส.อ.พงษ์ศักด์ิ ชนารี , 2553 , EM ขยายง่าย ประโยชน์มหาศาล ) 2. ดา้ นการประมง ช่วยควบคุมคุณภาพในบ่อเล้ียงสตั วน์ ้าได้ ช่วยลดปริมาณข้ีเลนในบ่อและทาใหเ้ ลนไมเ่ น่าเหมน็ สามารถนาไปผสมป๋ ุยหมกั ใชพ้ ชื ตา่ ง ๆ ได้ ( 2560 , ออนไลน์ : http://worldchemical.co.th/th/page-57-ประโยชน์ของจุลนิ ทรีย์-em.html เม่ือ 27/09/2563 ) 3. ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ช่วยปรับสภาพเศษอาหารจากครัวเรือนใหก้ ลายเป็นป๋ ุยหมกั ท่ีมีประโยชนต์ ่อพืชผกั ได้ ช่วยดบั กล่ินเหมน็ จากกองขยะท่ีหมกั หมมมานานได้ ( 2558 , ออนไลน์ : https://ewt.prd.go.th/ewt/region1/ewt_news.php?nid=29169&filename=index เม่ือ 27/09/2563 ) 4. ดา้ นปศุสตั ว์ ช่วยกาจดั กล่ินเหมน็ จากฟาร์มสตั ว์ ไก่ สุกร ไดภ้ ายใน 24 ชม. ช่วยกาจดั น้าเสียจากฟาร์มไดภ้ ายใน 1 – 2 สปั ดาห์ ช่วยป้องกนั โรคอหิวาและโรคระบาดต่างๆ ในสัตวแ์ ทนยาปฏิชีวนะ และอ่ืนๆได้ ช่วยกาจดั แมลงวนั ดว้ ยการตดั วงจรชีวติ ของหนอนแมลงวนั ไม่ใหเ้ ขา้ ดกั แดเ้ กิดเป็ นตวั แมลงวนั
ช่วยเสริมสุขภาพสัตวเ์ ล้ียง ทาใหส้ ัตวแ์ ขง็ แรง มีความตา้ นทานโรค ใหผ้ ลผลิตสูง และอตั ราการ รอดสูง ช่วยกาจดั กล่ินเหมน็ จากฟาร์มสตั ว์ ไก่ สุกร ไดภ้ ายใน 24 ชม. ช่วยกาจดั น้าเสียจากฟาร์มไดภ้ ายใน 1 – 2 สัปดาห์ ช่วยป้องกนั โรคอหิวาและโรคระบาดตา่ งๆ ในสตั วแ์ ทนยาปฏิชีวนะ และอื่นๆได้ ช่วยกาจดั แมลงวนั ดว้ ยการตดั วงจรชีวติ ของหนอนแมลงวนั ไมใ่ หเ้ ขา้ ดกั แดเ้ กิดเป็ นตวั แมลงวนั ช่วยเสริมสุขภาพสัตวเ์ ล้ียง ทาใหส้ ัตวแ์ ขง็ แรง มีความตา้ นทานโรค ใหผ้ ลผลิตสูง และอตั ราการ รอดสูง ( สราวธุ ศรีภูมมิ า , 2555 , ป๋ ุยหมักชีวภาพ (บ้านขวั แคร่) ) จากสรรพคุณของนา้ EM ดงั กล่าว สรุปได้ว่า น้า EM เป็นกลุ่มจุลินทรียท์ ี่มีชีวติ ไม่สามารถใชร้ ่วมกบั สารเคมีหรือ ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเช้ือตา่ ง ๆ ได้ ไม่ เป็นอนั ตรายตอ่ สิ่งมีชีวิต เช่น คน สตั ว์ พืช และแมลงท่ีเป็ นประโยชน์ ช่วยปรับสภาพความสมดุลของส่ิงมีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ ท่ีทุกคนสามารถนาไปแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง 2.6 ระยะเวลาในการหมกั ป๋ ยุ หมักชีวภาพ การผลติ ป๋ ุยหมักจากเศษอาหารผลงานวจิ ัย ม.แม่โจ้ ใชเ้ วลาท้งั สิ้น 30 วนั จะไดป้ ๋ ุยหมกั ที่ไดจ้ ากเศษอาหารในปริมาตรที่ลดลงร้อยละ 40 หากมีความช้ืนอยคู่ วรทา ใหแ้ หง้ สนิท เพอื่ ใหจ้ ุลินทรียเ์ หล่าน้ีสงบตวั หรือไมท่ าปฏิกิริยาตอ่ ไป ป๋ ุยหมกั จะมีสีดาคล้า มีขนาดเล็กลง ยยุ่ และเปื่ อย มีน้าหนกั เบา และที่สาคญั คือไม่มีกล่ินเหมน็ (2560 , ออนไลน์: https://www.nstda.or.th/th/news/5109 เม่ือ 21/8/2563) การผลติ ป๋ ยุ หมกั อนิ ทรีย์ชีวภาพ นาส่วนผสมขา้ งตน้ ใส่ลงในถงั หมกั พร้อมคลุมผา้ ปิ ด รอประมาณ 1 เดือน กจ็ ะไดป้ ๋ ุยที่พร้อมแก่การใชง้ าน (2560 , ออนไลน์:http://www3.oae.go.th/rdpcc/images/filesdownload/km/Knowledge/productions/13.pdf เมื่อ 21/8/2563)
วธิ ีผลติ ปยุ นา้ ชีวภาพจากปลาโดยหัวเชื้อปุยหมัก สารเร่งซุปเปอร์พด.2 หมกั ไวประมาณ 25–30 วนั ในระหวา่ งน้ีน้าในถงั จะเริ่ม ลดลง ใหเ้ ติมน้าสะอาดลงไปอีก ใชอ้ อกซิเจนตลอด (2560 , ออนไลน์ : https://www.ldd.go.th/menu_Dataonline/G2/G2_20.pdf เม่ือ 21/8/2563) จากระยะเวลาในการหมกั ป๋ ยุ ชีวภาพ ดังกล่าว สรุปได้ว่า ระยะเวลาในการหมกั นานประมาณ 30 วนั หรือจนกระทง่ั ไดป้ ๋ ุยหมกั ที่มีลกั ษณะตรงตามสูตรท่ีแต่ละ แหล่งขอ้ มูลไดก้ ล่าวเอาไวเ้ พื่อใหป้ ๋ ุยหมกั ท่ีได้ มีประสิทธิภาพสูงสุด 2.7 กระบวนการหมกั ของป๋ ุยหมัก 1. การหมกั แบบใชอ้ อกซิเจน เมื่อวสั ดุหมกั เกิดการยอ่ ยสลายจนไดส้ ารอินทรียต์ ้งั ตน้ ไดแ้ ก่ ไขมนั โปรตีนคาร์โบไฮเดรต เซลลูโลส ลิกนิน ฯลฯ สารเหล่าน้ี จะถูกจุลินทรียจ์ าพวกที่ใชอ้ อกซิเจนยอ่ ยสลายดว้ ยการดึงออกซิเจนมาใชใ้ น กระบวนการ และสุดทา้ ยจะไดผ้ ลิตภณั ฑเ์ ป็ นฮิวมสั น้า กา๊ ซ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แอมโมเนีย (NH3) ซลั เฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และพลงั งานความร้อน 2. การหมกั แบบไม่ใชอ้ อกซิเจน สารอินทรียจ์ ะถูกยอ่ ยสลายในสภาพที่ไม่มีออกซิเจน โดยอาศยั การทางานของจุลินทรียจ์ าพวกที่ไมใ่ ช้ ออกซิเจน 2 กลุ่ม คือ จุลินทรียส์ ร้างกรด และจุลินทรียส์ ร้างมีเทน ซ่ึงจะทาใหเ้ กิดผลิตภณั ฑส์ ุดทา้ ย ไดแ้ ก่ ก๊าซมี เธน (CH4) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แอมโมเนีย (NH3) และพลงั งานความร้อน
จุลนิ ทรีย์ของป๋ ุยหมกั กระบวนการยอ่ ยสลายในกองป๋ ุยหมกั เกิดจากกิจกรรมของจุลินทรียก์ ลุ่มที่ใชอ้ อกซิเจน และกลุ่มท่ีไมใ่ ช้ ออกซิเจน ซ่ึงท้งั สองกลุ่มจะทาหนา้ ท่ีในการยอ่ ยสลายสารอินทรียท์ ี่มีโมเลกลุ ใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง จนกระทง่ั เกิดการยอ่ ยสลายเสร็จสมบูรณ์จนไดส้ ารอินทรียว์ ตั ถุท่ีเรียกวา่ ป๋ ุยหมกั (Compost) กระบวนการยอ่ ยสลาย ดงั กล่าวจะเกิดข้ึนอยา่ งต่อเนื่องโดยจุลินทรียห์ ลายชนิดรวมกนั และอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม ซ่ึงสามารถ แบง่ ไดเ้ ป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะอุณหภูมิปานกลาง (Mesophilic Phase) เป็นช่วงแรกของการยอ่ ยสลาย จานวนจุลินทรียค์ อ่ ยๆเพิ่มจานวน ข้ึน ซ่ึงจะมีอุณหภูมิประมาณ 20-45 °C 2. ระยะอุณหภูมิสูง (Thermophilic Phase) เป็นช่วงที่มีการเพิม่ จานวนจุลินทรียเ์ กือบคงท่ี และเกิดการยอ่ ยสลาย ทวั่ ท้งั กอง โดยอุณหภูมิจะเพิ่มสูงข้ึนถึง 45 – 60 °C หรือมากกวา่ ซ่ึงอุณหภูมิที่เหมาะสมจะตอ้ งไมต่ ่ากวา่ 45 °C เป็นช่วงท่ีเกิดการยอ่ ยสลายมากที่สุดจนทาใหเ้ กิดความร้อนสะสมในกองป๋ ุยหมกั 3. ระยะอุณหภูมิลดลง (Maturation Phase) เป็นช่วงท่ีจุลินทรียบ์ างส่วนเร่ิมตายลง ปริมาณอินทรียถ์ ูกยอ่ ยสลาย จนหมด อตั ราการยอ่ ยสลายจึงลดลง ทาใหอ้ ุณหภูมิของกองป๋ ุยหมกั ลดลงตามมา ซ่ึงเป็นระยะที่จะเสร็จสิ้นการ ยอ่ ยสลาย (2554,ออนไลน์ : https://sites.google.com/site/karchipuychiwiphaph/krabwnkar-hmak-khxng-puy- hmakg เมื่อ28/09/2563)
บทที่ 3 วธิ ีทา วธิ ีการดาเนินการ 1. วสั ดุอุปกรณ์และสารเคมี 1.1 ฟักทอง จานวน 1.3 กิโลกรัม 1.2 มะละกอ จานวน 1.3 กิโลกรัม 1.3 น้าเปล่า ปริมาตร 10 ลิตร 1.4 น้า EM ปริมาตร 2 ลิตร 1.5 กากน้าตาล ปริมาตร 1 กิโลกรัม 1.6 ไมค้ น ยาว 60 เซนติเมตร ใชส้ าหรับคน 1.7 เมล็ดผกั บุง้ ยห่ี อ้ กรองทอง จานวน 1 ซอง 1.8 ตะกร้าขนาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลาง 26 เซนติเมตร จานวน 3 ใบ 1.9 ถงั ขนาดความจุ 8000 กรัม จานวน 2 ถงั 1.10 ดิน จานวน 3 กิโลกรัม 1.11 เขียง จานวน 1 อนั 1.12 เคร่ืองชงั่ จานวน 1 อนั 1.13 มีด จานวน 1 ดา้ ม 1.14 สายวดั จานวน 1 อนั 1.15 ถว้ ยตวง จานวน 1 ถว้ ย 1.16 สติ๊กเกอร์ช่ือ
2. ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 2.1 วธิ ีทา 2.1.1 เตรียมฟักทองที่แก่จดั จานวน 1.3 กิโลกรัม ลา้ งทาความสะอาด แลว้ นามาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ( เอา เปลือกและเมลด็ ออกดว้ ย ) 2.1.2 นาถงั ขนาดความจุ 8000 กรัม เติมน้าเปล่าปริมาตร 5 ลิตร 2.1.3 เติมน้า EM ปริมาตร 1 ลิตร เทกากน้าตาลปริมาตร 500 มิลลิลิตร ใส่ฟักทองท่ีเตรียมไวล้ งไป 2.1.4 ทาซ้าขอ้ 2.1.1. - 2.1.3 โดยเปลี่ยนจากฟักทองเป็นมะละกอ 2.2.5 หมกั ป๋ ุยหมกั ท้งั 2 ชนิดเป็นเวลา 1 เดือน 2.2 วธิ ีการทดสอบการปลูกผกั บุง้ 2.2.1 นาตะกลา้ กลม ขนาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลาง 26 เซนติเมตร จานวน 3 ใบ มาใส่ดินประมาณคร่ึง ตะกร้า และติดสต๊ิกเกอร์ช่ือท้งั 3 ใบ 2.2.2 ปลูกตน้ ผกั บุง้ โดยปลูกตะกร้าละ 20 เมลด็ 2.2.3 ตะกร้าท่ี 1 รดน้าเปล่า ปริมาณ 1 ถว้ ยตวง รดตน้ ผกั บุง้ ทุกวนั เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตะกร้าที่ 2 ใชป้ ๋ ุยหมกั ชีวภาพจากฟักทองและน้าเปล่า ปริมาณอยา่ งละ 1 ถว้ ยตวง รดตน้ ผกั บุง้ ทุกวนั เป็นเวลา 1 สปั ดาห์ ตะกร้าที่ 3 ใชป้ ๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอและน้าเปล่า ปริมาณอยา่ งละ 1 ถว้ ยตวง รดตน้ ผกั บุง้ ทุกวนั เป็นเวลา 1 สปั ดาห์ 2.2.4 สงั เกตการเจริญเติบโตของตน้ ผกั บุง้ บนั ทึกผลลงในตารางและนามาเปรียบเทียบ
บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 4.1 ผลการทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 4.1.1 การทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอ น้าป๋ ุยหมกั มีสีน้าตาลออกดา ขณะที่ยงั ไมไ่ ดค้ นจะมีมะละกอตกตะกอนอยกู่ น้ ถงั เม่ือคนจะมี มะละกอลอยข้ึนมา และมีฟองอากาศ มีกลิ่นเหมน็ โชยข้ึนมา 4.1.2 การทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากฟักทอง น้าป๋ ุยหมกั มีสีน้าตาลออกดา ขณะที่ยงั ไมไ่ ดค้ นจะมีฟักทองตกตะกอนอยกู่ น้ ถงั เมื่อคนจะมี ฟักทองลอยข้ึนมา และมีฟองอากาศ มีกล่ินเหมน็ โชยข้ึนมา 4.2 ตารางบนั ทึกผลการนาป๋ ุยหมกั ไปใช้ ช่ือป๋ ุยหมกั ตารางเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของตน้ ผกั บุง้ วนั ที่ น้าธรรมดา น้าธรรมดา + ป๋ ุย น้าธรรมดา + ป๋ ุย วนั ที่ 5 ตุลาคม 63 หมกั จากมะละกอ หมกั จากฟักทอง วนั ที่ 7 ตุลาคม 63 วนั ท่ี 9 ตุลาคม 63 วนั ที่ 11 ตุลาคม 63 วนั ที่ 13 ตุลาคม 63 วนั ที่ 15 ตุลาคม 63 วนั ที่ 17 ตุลาคม 63
บทที่ 5 สรุป วเิ คราะห์ และอภิปรายผล 5.1 สรุปผลการทดลอง จากการศึกษา เร่ือง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากมะละกอและฟักทอง โดยนา มะละกอและฟักทองมาทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพ ปรากฏวา่ สามารถนามาทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพได้ และจากการศึกษาการ เปรียบเทียบประสิทธิภาพของป๋ ุยหมกั ท้งั สองชนิดโดยใชป้ ลูกผกั บุง้ ทาการศึกษาและทดลองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ปรากฏวา่ ตน้ ผกั บุง้ ที่ปลูกโดยใชป้ ๋ ุยหมกั ชีวภาพฟักทองเจริญเติบโตไดด้ ีกวา่ ตน้ ผกั บุง้ ที่ปลูกโดยใชป้ ๋ ุยหมกั ชีวภาพฟักทอง 5.2 วเิ คราะห์ และอภิปรายผล จากการศึกษาการเปรียบเทียบประสิทธิภาพจากมะละกอและฟักทอง โดยการนามารดผกั บุง้ ผลปรากฎ วา่ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากฟักทองมีประสิทธิภาพดีกวา่ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพมะละกอ เพราะในป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากฟักทอง มีธาตุอาหารหลกั ของพืช คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม สูงกวา่ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพมะละกอ ซ่ึงตน้ ผกั บุง้ เป็นผกั กินใบ ตอ้ งการธาตุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เพ่อื บารุงใบและลาตน้ ซ่ึงในป๋ ุยหมกั ชีวภาพจากฟักทองมีธาตุอาหารท่ีตน้ ผกั บุง้ ตอ้ งการครบถว้ น จึงมีผลทาใหต้ น้ ผกั บุง้ มีการเจริญเติบโตมากกวา่ ป๋ ุย หมกั ชีวภาพมะละกอ ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐาน
เอกสารอ้างองิ เอกสารประเภทเวบ็ ไซต์ เขา้ ถึงไดจ้ าก https://erc.kapook.com/article16.php?fbclid=IwAR17UA58qzsYWnxMMEf6rMiKDAqFd02rT1 OOE8lQPLhB2xVQNfBnCygAz5k วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มูล 29 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก https://home.kku.ac.th/phlib/doc/LibSkills/RefKKUstyle.pdf?fbclid=IwAR1d- umGfQ5wa9asF6N7GDHpEhCnF1H51HINdv3pd19I5nTz9b3Dvtnayc8 วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มูล 29 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.greenpeace.org/thailand/story/1805/nature-compost/?fbclid=IwAR0- wcR9XveOt54t_lOPpVucKvMM8XvUXVghcBzafze3d0PIiJwnr2-bwhM วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 29 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก https://sites.google.com/site/krukatika001/wicha-is1/kar-kheiyn-thima-laea-khwam- sakhay?fbclid=IwAR0-wcR9XveOt54t_lOPpVucKvMM8XvUXVghcBzafze3d0PIiJwnr2-bwhM วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 29 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก https://sites.google.com/site/karchipuychiwiphaph/prayochn-puy- hmak?fbclid=IwAR0-wcR9XveOt54t_lOPpVucKvMM8XvUXVghcBzafze3d0PIiJwnr2-bwhM วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 29 สิงหาคม 2563
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: