ธรระสอนใจ พระไพศาล วสิ าโลอยา่ ประมาทหรือชะลา่ ใจวา่ ฉนั มคี วามสขุ แล้ว จะปฏิบตั ธิ รรมไปทาไม มนั ไมม่ ีหลกั ประกนั เลย วา่ พรุ่งนีเ้ราจะยงัมีความสขุ เราจะยงั มีชีวติ อยู่ เคยคดิ เคยเผ่ือใจไว้บ้างไหม วา่ สกั วนั หนง่ึ เราอาจเป็นมะเร็ง สามี ภรรยา ลกู อาจมอี นั เป็นไป ทรัพย์สนิ เงินทองอาจสญู เสีย ถกู ทาลาย มนั ไมแ่ น่ใชไ่ หม เมอื่ วนั ท่ี ๒๖ ธนั วาคม ๒๕๔๗ ที่ภเู กต็ พงั งา เช้าวนั นนั้ แดดใส ฟ้ าสวยไมม่ ีใครคดิ เลยวา่ อีกไมก่ ่ีนาทีนรกจะแตกเพราะสนึ ามซิ ดั กระหน่าถ้าเราตระหนกั ว่าชีวติ นีไ้ มม่ อี ะไรจีรังยง่ั ยืน เราจาต้องเตรียมตวั เตรียมใจรับกบั ความผนั ผวนปรวนแปรในชีวติ สาหรับคนท่ีมีความทกุ ข์อยแู่ ล้วตอนนี ้กย็ ่งิ ต้องรีบปฏิบตั ธิ รรม เวลาเราทกุ ข์ เรามกั โทษคนอ่ืน แตเ่ ราเคยหนั มามองตวั เองไหมวา่ ที่ทกุ ข์นี่อาจเป็นเพราะใจของเราเปิดรับเอาความทกุ ข์เข้ามามีเร่ืองเลา่ วา่ มภี รรยาคนหนงึ่ ตืน่ เช้าก็ลกุ ขนึ ้ มาบริหารกายในห้องนอน มองผา่ นหน้าตา่ ง ก็เห็นราวตากผ้าของเพ่ือนบ้าน จึงพดู ขนึ ้ มาให้สามที ี่กาลงั นอนอย่วู า่ “คณุ ดสู ิ บ้านนีซ้ กั เสอื ้ ผ้าไมส่ ะอาดเลย ผ้าปทู ี่นอน ปลอกหมอนมีรอยดา่ ง บ้านก็รวย แตท่ าไมไมซ่ กั ให้สะอาด” สามฟี ังกไ็ มว่ า่ อะไร รุ่งขนึ ้ เธอกบ็ น่ เหมือนเดมิ วนั ที่สามตืน่ ขนึ ้ มาเธอกท็ าเหมอื นเดมิ มองไปนอกหน้าตา่ ง แตค่ ราวนีเ้ ธอแปลกใจว่า ทาไมเสอื ้ ผ้าของบ้านนนั้ สะอาดแล้ว จึงถามสามีว่า “คณุ ไปบอกบ้านนนั้ หรือวา่ ซกั ผ้าไมส่ ะอาด” สามีตอบวา่ “เปลา่ หรอก ผมไม่ได้บอกเขา ผมเพยี งแตเ่ ช็ดกระจกหน้าตา่ งบ้านของเราให้สะอาดเทา่ นนั้ ”ภรรยานนั้ เหน็ วา่ เสอื ้ ผ้าของเพอื่ นบ้านไมส่ ะอาด แตค่ วามจริงแล้วไมใ่ ช่หรอก มนั เป็นเพราะกระจกบ้านของตวั เองตา่ งหากท่ีไม่สะอาด เร่ืองนีส้ อนเราวา่ เวลาเรามองวา่ ใครมีปัญหานนั้ บางครัง้ ปัญหาอาจอยทู่ ี่ตวั เราเอง แตเ่ รามกั มองไมค่ อ่ ยเหน็ พอใจเราเป็นลบ เรากม็ องคนอื่นเป็นลบอยา่ ประมาทหรือชะลา่ ใจวา่ ฉนั มีความสขุ แล้ว จะปฏบิ ตั ธิ รรมไปทาไม มนั ไมม่ ีหลกั ประกนั เลย วา่ พรุ่งนีเ้ราจะยงัมคี วามสขุ เราจะยงั มชี ีวติ อยู่ เคยคดิ เคยเผอ่ื ใจไว้บ้างไหม วา่ สกั วนั หนึง่ เราอาจเป็นมะเร็ง สามี ภรรยา ลกู อาจมอี นั เป็นไป ทรัพย์สนิ เงินทองอาจสญู เสีย ถูกทาลาย มนั ไมแ่ น่ใช่ไหม เมื่อวนั ที่ ๒๖ ธนั วาคม ๒๕๔๗ ที่ภเู ก็ตพงั งา เช้าวนั นนั้ แดดใส ฟ้ าสวย ไมม่ ีใครคดิ เลยวา่ อีกไมก่ ่ีนาทีนรกจะแตกเพราะสนึ ามซิ ดั กระหน่าถ้าเราตระหนกั ว่าชีวติ นีไ้ มม่ อี ะไรจีรังยง่ั ยืน เราจาต้องเตรียมตวั เตรียมใจรับกับความผนั ผวนปรวนแปรในชีวติ สาหรับคนท่ีมคี วามทกุ ข์อยแู่ ล้วตอนนี ้กย็ ิ่งต้องรีบปฏิบตั ธิ รรม เวลาเราทกุ ข์ เรามกั โทษคนอื่น แตเ่ ราเคยหนั มามองตวั เองไหมวา่ ที่ทกุ ขน์ ่ีอาจเป็นเพราะใจของเราเปิดรับเอาความทกุ ข์เข้ามามีเร่ืองเลา่ วา่ มภี รรยาคนหนง่ึ ต่นื เช้าก็ลกุ ขนึ ้ มาบริหารกายในห้องนอน มองผา่ นหน้าตา่ ง กเ็ ห็นราวตากผ้าของเพอื่ นบ้าน จึงพดู ขนึ ้ มาให้สามที ี่กาลงั นอนอยวู่ า่ “คณุ ดสู ิ บ้านนีซ้ กั เสอื ้ ผ้าไมส่ ะอาดเลย ผ้าปทู ี่นอน ปลอกหมอนมีรอยดา่ ง บ้านกร็ วย แตท่ าไมไมซ่ กั ให้สะอาด” สามฟี ังก็ไมว่ า่ อะไร รุ่งขนึ ้ เธอก็บน่ เหมอื นเดมิ วนั ท่ีสามต่ืนขนึ ้ มาเธอกท็ าเหมอื นเดมิ มองไปนอกหน้าตา่ ง แตค่ ราวนีเ้ ธอแปลกใจว่า ทาไมเสอื ้ ผ้าของบ้านนนั้ สะอาดแล้ว จงึ ถามสามีวา่ “คณุ ไปบอกบ้านนนั้ หรือวา่ ซกั ผ้าไมส่ ะอาด” สามีตอบวา่ “เปลา่ หรอก ผมไม่ได้บอกเขา ผมเพยี งแตเ่ ช็ด
กระจกหน้าตา่ งบ้านของเราให้สะอาดเท่านนั้ ”ภรรยานนั้ เหน็ วา่ เสอื ้ ผ้าของเพ่ือนบ้านไมส่ ะอาด แตค่ วามจริงแล้วไมใ่ ช่หรอก มนั เป็นเพราะกระจกบ้านของตวั เองตา่ งหากที่ไม่สะอาด เรื่องนีส้ อนเราวา่ เวลาเรามองวา่ ใครมีปัญหานนั้ บางครัง้ ปัญหาอาจอย่ทู ่ีตวั เราเอง แตเ่ รามกั มองไมค่ อ่ ยเหน็ พอใจเราเป็นลบ เรากม็ องคนอ่ืนเป็นลบ แนน่ อนบางครัง้ คนอ่ืนท่ีอย่รู อบตวั เราเชน่ เจ้านาย สามี เพือ่ นร่วมงาน กม็ ีสว่ นเป็นปัญหาด้วย แตถ่ ้าเราไมเ่ ปิดใจรับเอาสงิ่ เหล่านีเ้ข้ามาท่ิมแทงใจเราเรากไ็ มท่ กุ ข์พระพทุ ธเจ้าตรัสวา่ “มือท่ีไมม่ ีแผล จบั ต้องยาพิษก็ไมอ่ นั ตราย” แตถ่ ้ามีแผลเมื่อไร แล้วไปถกู ต้องยาพษิ เข้าอนั ตรายกเ็ กดิ กบั ตวั ใจเราก็เชน่ กนั ถ้าใจเรามีแผล อะไรตอ่ อะไรแม้เลก็ น้อยมากระทบก็เจบ็ เวลามอื มแี ผลแม้แตย่ อดหญ้ามาถกู ต้องเรายงั รู้สกึ เจบ็ เลยใชไ่ หมท่ีจริงเวลาใครตอ่ วา่ ดา่ ทอเรา ถ้าเราไมเ่ อาใจไปรับ ก็ไมเ่ จ็บ สมมตุ วิ ่าเราเดนิ เลน่ ในสวนมะพร้าว มีลงิ เกเรตวัหนง่ึ ขว้างมะพร้าวใสเ่ รา ถ้าเราเหน็ เราจะเอาตวั เข้าไปรับไหม คนที่มสี ตดิ ีกต็ ้องพยายามหลบลกู มะพร้าวทงั้ นนั้ แตเ่ วลามีคนสาดคาดา่ ใสเ่ รา ทาไมเราไมห่ ลบ ทาไมจงึ เอาใจรับหลวงพอ่ ชาเคยกลา่ ววา่ เวลามีใครด่าเราวา่ เป็นหมเู ป็นหมา กอ่ นจะโกรธให้เราคลาดทู ี่ก้นกอ่ นวา่ มีหางงอกออกมาหรือไม่ ถ้าไมม่ หี างกอ็ ยา่ ไปโกรธเขา ถ้าโกรธแสดงวา่ เรายอมรับวา่ เป็นอยา่ งที่เขาวา่ จริง ๆถ้าลงิ ขว้างมะพร้าวใสเ่ รา แทนท่ีเราจะหลบ กลบั เอาตวั เข้าไปรับแล้วเจ็บ อย่างนีจ้ ะโทษใคร คาดา่ ที่พงุ่ มาหาเราถ้าเราหลบหลีก ไมเ่ อาใจไปรับ เรากไ็ มท่ กุ ข์ คาดา่ วา่ นนั้ เหมอื นจดหมาย ถ้าเอาไปหย่อนในต้ไู ปรษณีย์แล้วไมม่ ีผ้รู ับ สดุ ท้ายจดหมายนนั้ กจ็ ะตกี ลบั มายงั ผ้สู ง่ หรือเจ้าของ ฉนั ใดก็ฉนั นนั้ คาดา่ ถ้าเราไมร่ ับไว้ มนั ก็จะกลบั ไปหาคนดา่ ดงั นนั้ เราอยา่ ไปรับเอามาท่ิมแทงใจเราท่านอาจารย์ชยสาโรเคยกล่าวว่า “โลกนีไ้ ม่มสี ง่ิ ใด ไมม่ ีคนใด จะบงั คบั ให้เราทกุ ข์ได้ มีแต่สง่ิ ท่ีชวนให้เราทกุ ข์ชวนให้เราพอใจ ชวนให้เราไมพ่ อใจ มนั มาเชญิ เรา เราจะรับเชญิ หรือไมร่ ับเชิญ มนั เป็นเรื่องของเรา เขาบงั คบัไมไ่ ด้” เมื่อมอี ะไรมาชวนให้ทกุ ข์ เราเลือกได้วา่ จะรับคาชวนหรือไม่ เราไมร่ ับก็ได้ เป็นสทิ ธิของเรา จงึ พดู ได้วา่คนเราทกุ ข์เพราะใจเรามีสว่ นร่วมมือด้วย ความเจบ็ ความป่ วยก็เช่นกนั โรคภยั ไข้เจ็บทาให้กายป่ วย แตท่ ่ีทกุ ข์ใจด้วยก็เพราะใจไปผสมโรงด้วยคณุ ป้ าคนหนง่ึ ไมส่ บายไปหาหมอหลายครัง้ ไมร่ ู้วา่ เป็นอะไร วนั หนึ่งหมอบอกวา่ ป้ าเป็นมะเร็งตบั นะ อยู่ได้ไมเ่ กนิ ๓ เดือน ป้ าตกใจมาก กลบั บ้านกก็ ินไมไ่ ด้นอนไมห่ ลบั ทงั้ ตื่นตระหนกและหมดอาลยั ตายอยากในชีวติ อยไู่ ด้แค่ ๑๒ วนั ก็ตาย อย่างนีเ้รียกวา่ ตายเร็วเพราะวติ กกงั วลสารพดั บางคนป่ วยเป็นมะเร็ง หมอบอกวา่
อยไู่ ด้ ๓ เดือน แตอ่ ยไู่ ด้ ๓-๕ ปีกม็ ี ดงั นนั้ ความเจ็บป่ วยนนั้ มนั ไม่ใชเ่ ร่ืองของกายอย่างเดยี ว ใจก็สาคญั ด้วย หากวติ กกงั วลแทนท่ีจะมสี ติ ปลอ่ ยให้ใจฟ้ งุ ซ่านไปตา่ ง ๆ นานา ก็จะตายเร็ว ถ้าไมอ่ ยากตายเร็ว ก็ควรหนั มาปฏบิ ตั ิธรรมการปฏิบตั ธิ รรมAdvertisements
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: