รายงานผลการปฎิบัติงาน ครั้งที่ 1 ปี 65

๑๓

๑๔ แบบรายงานผลการปฏิบตั งิ านของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน โรงเรยี นอนบุ าลระแงะ สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต3 ของ นางจรภิ า ศิลประเสริฐ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ ++++++++++++++++++++++++

๑๕ ส่วนที่ 1 ข้อมลู พื้นฐาน 1.1 ข้อมูลพื้นฐาน ชอื่ นางจรภิ า นามสกุล ศลิ ประเสริฐ อายุ 58 ปี อายุราชการ 25 ปี คณุ วุฒิทางการศกึ ษา ครุศาสตรบ์ ณั ฑิต (คบ.) การประถมศกึ ษา ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ ตำแหนง่ เลขท่ี 1767 สถานศึกษา/หน่วยงาน โรงเรยี นอนุบาลระแงะ อำเภอ ระแงะ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต3 ส่วนราชการ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน รับเงินเดือนอันดับ คศ. 3 ข้นั 52,420 บาท 1.2 การรับราชการ 1.เร่ิมรบั ราชการในตำแหน่ง อาจารย์ ระดบั 3 เม่อื วันท่ี 1 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2540 2. เคยดำรงตำแหน่ง/วทิ ยฐานะ ท่สี ำคญั ดังนี้ วัน/เดือน/ปี ตำแหน่งและวิทยฐานะ รับเงนิ เดือน อันดับ ข้ัน (บาท) 1 มถิ ุนายน 2540 อาจารย์ 1(โรงเรยี นไอยรานุสรณ์ สปอ.ระแงะ) 1 ตุลาคม 2547 อาจารย์ 2(โรงเรียนไอยรานุสรณ์ สพท.นธ.เขต1) 3 6,360 24 ธนั วาคม 2547 ครู 6 11,460 1 พฤษภาคม 2550 ครชู ำนาญการ คศ. 2 11,460 18 มิถุนายน 2552 ครูชำนาญการ(โรงเรยี นระแงะ) คศ. 2 14,810 29 เมษายน 2559 ครชู ำนาญการพเิ ศษ(โรงเรยี นอนบุ าลระแงะ) คศ. 2 18,040 1 ตุลาคม 2561 ครูชำนาญการพิเศษ(โรงเรยี นอนุบาลระแงะ) คศ. 3 34,470 1 ตุลาคม 2562 ครูชำนาญการพเิ ศษ(โรงเรียนอนุบาลระแงะ) คศ. 3 41,580 1 ตลุ าคม 2563 ครูชำนาญการพิเศษ(โรงเรยี นอนุบาลระแงะ) คศ. 3 44,600 1 เมษายน 2564 ครูชำนาญการพิเศษ(โรงเรียนอนุบาลระแงะ) คศ. 3 48,390 1 ตุลาคม 2564 ครชู ำนาญการพเิ ศษ(โรงเรียนอนุบาลระแงะ) คศ. 3 49,870 คศ. 3 52,420 3. ไดร้ ับแตง่ ต้งั เปน็ วทิ ยฐานะปจั จุบนั เมอ่ื วันท่ี 29 เมษายน 2559

๑๖ 1.3 ขอ้ มลู เก่ียวกับเวลาการมาปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการ (1 ตลุ าคม 2564 ถึง 30 มนี าคม 2565) จำนวน รวม ครัง้ วนั ประเภท ครง้ั วนั -- 1 ตุลาคม 2564 ถงึ 30 มีนาคม 2565 - -- - -- มาสาย - - -- - -- ลาป่วย - - ลากจิ - ลาอุปสมบท - ลาคลอด - 1.4 ประวัติการเลอื่ นขน้ั เงินเดือน (ปกี ารศึกษา 2560 – 2564) วัน/เดอื น/ปี ตำแหนง่ /วิทยฐานะ การเลือ่ นขน้ั เงนิ เดือน หมายเหตุ 0.5/1.0/1.5 1 เมษายน 2560 ครูชำนาญการพเิ ศษ 37,200 ระดับดมี าก 1 ตลุ าคม 2560 ครูชำนาญการพเิ ศษ 0.5 38,620 ระดับดเี ดน่ 1 เมษายน 2561 ครชู ำนาญการพเิ ศษ 1.0 30,370 ระดับดีมาก 1 ตุลาคม 2561 ครูชำนาญการพิเศษ 0.5 41,580 ระดับดมี าก 1 เมษายน 2562 ครูชำนาญการพเิ ศษ 1.0 43,020 ระดบั ดมี าก 1 ตุลาคม 2562 ครชู ำนาญการพเิ ศษ 2.90% 45,350 ระดบั ดีมาก 1 เมษายน 2563 ครูชำนาญการพิเศษ 3.20% 46,860 1 ตลุ าคม 2563 ครูชำนาญการพเิ ศษ 3.05% 48,390 1 เมษายน 2564 ครูชำนาญการพเิ ศษ 3.10% 49,780 1 ตุลาคม 2564 ครูชำนาญการพเิ ศษ 3.00% 52,420 3.15% ๑.๕ งานท่ไี ด้รับมอบหมาย ไดแ้ ก่ 1) ครปู ระจำช้ันประจำชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1/1 จำนวนนักเรยี น 30 คน 2) ครูผู้สอนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 90 คน 3) ปฏิบัติหนา้ ที่ครเู วรวประจำวันศุกร์ 4) ผู้รับผิดชอบ กจิ กรรมประกวดหอ้ งเรียน 5) ผู้รบั ผิดชอบ กิจกรรมนเิ ทศภายใน

๑๗ 6) ผรู้ ับผิดชอบป้ายนเิ ทศ วนั ลอยกระทง 7) จำหน่ายสนิ คา้ รา้ นค้าสหกรณ์โรงเรียนประจำวนั จันทร์ 8) ตรวจการอยู่เวรยามของสถานศึกษาประจำเดอื นตลุ าคม 2564 -มกราคม 2565 9) อยู่เวรยามของสถานศึกษาประจำเดอื นกมุ ภาพันธ์ - มีนาคม 2565 10) ครพู ี่เลย้ี งนักศึกษาฝึกประสยการณห์ ลักสูตรครศุ าสตร์บณั ฑติ ช้ันปที ่ี 1 มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ยะลา (นกั ศกึ ษาวชิ าเอกการประถมศกึ ษา) 11) ครพู ่เี ล้ยี งนักศึกษาฝึกประสยการณ์หลักสตู รครุศาสตร์บณั ฑติ ช้ันปีท่ี 3 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ยะลา (นกั ศกึ ษาวชิ าเอกการประถมศกึ ษา)

๑๘ รายงานผลการปฏิบัติงานของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน ปีการศึกษา 256๔ ส่วนที่ ๑ ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ช่อื ผูร้ บั การประเมนิ นางจริภา ศลิ ประเสรฐิ ตอนที่ 1 ระดบั ความสำเร็จในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหน่ง องค์ประกอบท่ี ๑ ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๑ การประเมนิ องคป์ ระกอบที่ ๑ ตอนที่ ๑ (จำนวน ๖๐ คะแนน) ตง้ั แต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถงึ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ๑. ดา้ นการจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้ามีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานในหน้าที่ให้มีคุณภาพ ครบถ้วนสมบูรณ์ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีการพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพ เกิดประสิทธิภาพ เมื่อได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนประจำวิชา ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ข้าพเจ้าได้ใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการในการจัดทำแผนการ จัดการเรียนรู้ ให้มีความตอ่ เน่อื งสอดคลอ้ งกัน ตามขนั้ ตอนดังน้ี ๑.๑ การสร้างและหรอื พัฒนาหลกั สตู ร มกี ารปรบั ปรงุ โครงสร้างหลักสตู รคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563) ปรับปรุงหน่วยการจดั การเรยี นรู้ มาตรฐานตัวชี้วัดเพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นได้พฒั นาสมรรถนะและการเรยี นรู้ เตม็ ตามศักยภาพ ส่งผลให้นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ได้รบั การพัฒนาทักษะการบวกจำนวนทผี่ ลบวกไมเ่ กิน 100 และ มผี ลสมั ฤทธ์ิสูงขน้ึ ๒๕๖๔

๑๙ ๑.๒ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ ได้มกี ารจดั ทำแผนการจดั การเรียนรเู้ ร่อื ง พฒั นาทกั ษะการบวกจำนวนที่ผลบวกไม่เกิน 100 โดยใช้ กจิ กรรม Hands-On มีการวเิ คราะหผ์ ู้เรียนรายบุคคล เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คณุ ลกั ษณะประจำวชิ า คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะท่สี ำคญั ตามหลกั สตู ร โดยมีการปรบั ประยุกต์ให้สอดคล้อง กับบริบทของ สานศกึ ษา ผ้เู รียน และท้องถ่ิน สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีกับเพ่อื นครู ส่งผลให้นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจ ต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ มีความรู้ตามหลกั สูตร ที่ตอ้ งรู้ตามตวั ชว้ี ดั และมีคุณลกั ษะอนั พึงประสงคต์ ามที่กำหนดไว้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้

๒๐ 1.3 จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เพื่อพฒั นาทักษะการบวกของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 โดยใช้กจิ กรรม Hands-On ซ่ึงคาดว่ามผี ลตอ่ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนคณติ ศาสตร์ เรอ่ื งการบวกจำนวนท่ีผลบวกไม่เกิน 100 เป็น การม่งุ เน้นใหน้ ักเรยี นไดเ้ รยี นร้จู ากการปฏบิ ตั จิ ริง สง่ ผลให้นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 มีความพึงพอใจ ต่อการการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ และสามารถนำ ความรูท้ ไ่ี ดร้ ับไปประยกุ ต์ใช้ในรายวชิ าอ่ืนได้ นกั เรยี นได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและมีความรู้ตามตัวช้ีวัดตามหลักสตู ร สมรรถนะ/หลกั สูตรต้องรูแ้ ละสง่ ผลใหม้ ีความเข้าใจในเนอ้ื หาท่คี รูได้ทำการสอน การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

๒๑ 1.4 สร้างและหรอื พัฒนาสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยแี ละแหล่งเรียนรู้ ได้รเิ ร่มิ จัดทำเอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา คณติ ศาสตร์ มีการสร้างและหรือพัฒนาส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยี และ แหลง่ เรยี นรู้สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยมีการปรับประยุกต์ ให้สอดคลอ้ งกับความแตกต่าง ของผ้เู รยี น ส่งผลให้นกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ได้รบั การพัฒนาการเรียนโดยใชส้ อื่ ที่สามารถส่งเสริมพัฒนาการ กระบวนการคิด ทำให้นักเรยี นเกดิ ทักษะการเรยี นรทู้ ักษะการคดิ ทักษะการทำงาน ทักษะการแกป้ ัญหา ทักษะการ เช่อื มโยง และทักษะการสื่อสาร ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้สง่ ผลให้นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจและมสี มรรถนะตามตวั ช้ีวดั ตรง ตามหลกั สูตร จัดทำสื่อสำหรับการจดั กิจกรรม Hands-On

๒๒ 1.5 วัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ รเิ รม่ิ คดิ ค้น และพฒั นารปู แบบการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ มีการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ดว้ ย วธิ ีการ ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ ให้ผเู้ รียนพฒั นาการเรียนรอู้ ย่างต่อเนอื่ ง รวมท้งั ประเมนิ ตามสภาพจรงิ และนำผลการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้มาใชแ้ ก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ สง่ ผลให้นกั เรยี นไดร้ ับการวัดและประเมนิ ผลโดยใช้เครอ่ื งมือวดั ผลและแบบประเมนิ ผลตรงตามตวั ชวี้ ัดทีม่ ี ประสทิ ธภิ าพ น่าเชอ่ื ถือและจัดเกบ็ ข้อมูลอย่างเป็นระบบ วัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรูต้ ามสภาพ จรงิ

๒๓ 1.6 ศึกษา วเิ คราะห์ และสังเคราะห์ เพ่อื แกไ้ ขปัญหาหรือพัฒนาการเรยี นรู้ ไดศ้ ึกษาเอกสารและงานวจิ ัยเกีย่ วกบั การเรยี นการสอนคณติ ศาสตร์ โดยใชก้ จิ กรรม Hands-On นำผลการจัดการเรียนรมู้ าศึกษา วิเคราะห์ เพอ่ื พัฒนาการทักษะการบวกจำนวนของนกั เรยี น ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ส่งผลให้นกั เรยี นไดร้ บั การแก้ปญั หาโดยกระบวนการวจิ ัยในชนั้ เรยี น

๒๔ 1.7 จดั บรรยากาศทส่ี ่งเสริมและพฒั นาผู้เรียน ไดม้ กี ารจดั บรรยากาศท่ีเหมาะสม สอดคล้องกับความแตกต่างผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล สามารถ แก้ไข ปญั หาการเรยี นรู้ สร้างแรงบันดาลใจสง่ เสริมและพฒั นาผเู้ รียนให้เกดิ กระบวนการคิด และการเรียนรู้ ตลอดจนการ อยรู่ ่วมกันในสงั คม ส่งผลที่เกิดนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1/1 นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการจัดบรรยากาศในชัน้ เรยี น มคี วามรักและภาคภูมใิ จ สามารถอยรู่ ่วมกนั อย่างมคี วามสุข การจัดบรรยากาศทส่ี ่งเสรมิ และพฒั นาผเู้ รยี น

๒๕ 1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดขี องผเู้ รียน ในระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ได้มกี ารสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมอันดงี าม ปลูกฝ่ัง ค่านิยมความเปน็ ไทย มุ่งเน้นการสรา้ งจิตสำนึกท่ีดี ภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย มจี ติ สาธารณะ มคี ุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ โดยคำนงึ ถงึ ความแตกต่างของผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล สง่ ผลให้นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีที๑/1 มีความรกั และภาคภูมใิ จ ในความเปน็ ไทย มจี ิตใจโอบอ้อมอารี มีจิตสาธารณะ อบรมใหผ้ ้เู รียนมคี ุณธรรมในการอยู่ร่วมกนั มคี วามรกั ความสามคั คแี ละช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และ กัน มีมารยาท เชน่ มารยาทในการพูด มารยาทในการรบั ประทานอาหาร มีคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงคแ์ ละค่านยิ มความเป็นไทยท่ดี งี าม รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์

๒๖ ๒. ดา้ นการส่งเสรมิ และสนับสนนุ การจดั การเรยี นรู้ 2.1จดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา ไดจ้ ดั ทำจดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศของผ้เู รยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปี่ท่ี 1/1 และจัดทำธุรการชน้ั เรียน โดยมีขอ้ มลู เปน็ ปัจจบุ นั เพ่ือใชใ้ นการส่งเสรมิ สนบั สนนุ การเรยี นรู้แกป้ ญั หาและพฒั นา คณุ ภาพผูเ้ รียน ส่งผลใหน้ ักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑/1 มีระบบข้อมลู สารสนเทศ สะดวกต่อการใชง้ านและมี ประสทิ ธิภาพ และสามารถนำขอ้ มูลมาใชไ้ ด้ทนั ที

๒๗ 2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลชว่ ยเหลือผเู้ รียน ไดม้ ีการใชข้ ้อมลู สารสนเทศเก่ยี วกับนักเรียนรายบุคคลและประสานความร่วมมือกบั ผูม้ ีส่วนเกีย่ วขอ้ ง เพ่อื พฒั นาและแก้ไขปัญหานักเรียน โดยการดำเนนิ การตามระบบดูแลช่วยเหลือของทางโรงเรียนให้กบั ผปู้ กครอง ส่งผลให้นกั เรียนช้นั ป.1/1 มขี ้อมลู พนื้ ฐานเป็นรายบุคคล และสามารถช่วยเหลอื ในเรอ่ื งต่างๆ จากข้อมูลการเยยี่ ม บา้ น จดั หาทนุ การศึกษา นักเรียนยากจน และมกี ารสร้างความสมั พนั ธ์อันดรี ะหวา่ งครนู กั เรียนและผ้ปู กครอง ติดต่อสอื่ สารประสานความร่วมมอื กบั ผปู้ กครองผ่านไลน์เพ่ือพัฒนาและแกไ้ ข ปญั หาผูเ้ รยี น ตลอดจนสอบถามอาการปว่ ยของนักเรียนอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น โดยการจดั หาและมอบทุนทนุ การศกึ ษาให้กับนกั เรยี นยากจน

๒๘ 2.3 ปฏิบัตงิ านวชิ าการ และงานอื่น ๆ ของสถานศกึ ษา ได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิงานฝา่ ยบริหารวิชาการรับผิดชอบ กิจกรรมนิเทศภายใน กิจกรรมประเมนิ หอ้ งเรยี น กิจกรรมผลติ สื่อฯ รว่ มปฏิบัตงิ านทางวชิ าการ และงานอ่ืน ๆ ของสถานศึกษาเพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการ จัดการศกึ ษาของสถานศึกษา มสี ่วนรว่ มในการขบั เคล่ือนและพัฒนาการดำเนนิ งานของกลุ่มสาระฯ และงาน โครงการตา่ ง ๆ โดย การร่วมกบั คณุ ครูในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกจิ และเป้าหมาย และกำหนดตัวชว้ี ดั ความสำเร็จของกล่มุ สาระ มีการวางแผนในการดำเนนิ งานอยา่ งชดั เจน และเป็นรูปธรรม สง่ ผลให้นกั เรยี นได้รับการ สนับสนนุ ช่วยเหลือดแู ลในด้านวิชาการ ตามสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สอนออนไลนช์ ั้นป.1 ทำหน้าท่ีเป็นครูพี่เลยี้ งนักศึกษาฝกึ ประสบการณจ์ ากมหาวทิ ยาลยั ราชฎัชยะลาชน้ั ปที ี่ 3 ร่วมประชุม PLC ครทู ่ีสอนป.1 เพือ่ หาแนวทางในการจัดกจิ กรรมอา่ นออกเขยี นได้

๒๙ รว่ มประชุมประจำเดอื น 2.4 ประสานความรว่ มมือกับผปู้ กครอง ภาคเี ครอื ข่ายและหรือสถานประกอบการ ไดม้ ีการประสานความรว่ มมือกบั ผู้ปกครอง ภาคเี ครือข่ายและหรอื สถานประกอบการ เพอื่ ร่วมกันแก้ไข ปญั หาและพัฒนาผู้เรียน มีการตดิ ตอ่ สอ่ื สารกบั ผู้ปกครองอย่างสมำ่ เสมอ ทง้ั ท่างไลนก์ ลุ่มและไลนส์ ่วนตัว ตลอดจน การติดต่อส่ือสารทุกชอ่ งทางเพอื่ ประสานกบั ผู้ปกครองโดยเฉพาะในเรอื่ งของสิทธิประโยชนข์ องนักเรียน สง่ ผลให้ ผู้เรียนได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยครูประจำช้ันสามารถใชข้ อ้ มลู สารสนเทศ และข้อมูลจากการรายงานตาม ระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียน ในการนำส่งรายงานตา่ ง ๆ เพ่ือประโยชนข์ องผู้เรยี นได้ตามกำหนด ตดิ ตอ่ สอบถามอาการปว่ ยของนกั เรยี นอย่างสม่ำเสมอผ่านทางไลน์กลมุ่ และไลน์สว่ นตัว

๓๐ 3. ด้านการพฒั นาตนเองและวิชาชีพ ขา้ พเจ้าได้ใชเ้ วลาในชว่ งวนั หยดุ อบรมเพอ่ื พัฒนาความร้ดู า้ นทักษะดิจทิ ลั จากเพอ่ื นครูในโรงเรียนตลอดจน ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากช่องยูทูป ในการศึกษาการใช้งานการออกแบบงานด้วยแอฟต่างๆ เช่น canva เพ่ือ นำมาใชใ้ นการผลติ ส่อื นำเสนอการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในการจัดการเรียนสอนออนไลน์ 3.1 พฒั นาตนเองอยา่ งเปน็ ระบบและต่อเน่ือง ไดม้ ีการพฒั นาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพ่ือให้มีความรคู้ วามสามารถ ทกั ษะ โดยเฉพาะการใช้ เทคโนโลยดี จิ ิทัลเพ่อื การศึกษา สมรรถนะวชิ าชีพครแู ละความรอบร้ใู นเนื้อหาวชิ าและวธิ ีการสอน และนำผลการ พัฒนาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี มาใช้ในการจัดการเรียนรทู้ ี่มีผลตอ่ คณุ ภาพผูเ้ รียน โดยการเข้ารว่ มอบรม/สัมมนา/ ประชุมทางวิชาการ ที่เกย่ี วข้องกบั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ อย่างสม่ำเสมอ สง่ ผลให้นักเรยี นได้เรยี นรจู้ ากการนำ ความรแู้ ละประสบการณ์จากทต่ี นเองเขา้ รับการอบรมสัมมนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นรสู้ ง่ ผลใหส้ ามารถจัด กจิ กรรมทเี่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ มกี ารจัดกจิ กรรมทีห่ ลากหลายเรยี นรูก้ ารใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ สนบั สนนุ การเรยี นการ สอนเพ่ือให้ผเู้ รียนได้เรยี นรจู้ ากกจิ กรรมทเี่ หมาะสมกบั ความแตกต่างระหว่างบุคคลและได้พฒั นาทักษะอยา่ งเปน็ ระบบ

๓๑ 3.2 มสี ว่ นร่วมและเป็นผู้นำในการแลกเปลี่ยนเรียนรทู้ างวชิ าชพี มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้เพื่อพัฒนาการจัดการเรยี นการสอนให้มีคณุ ภาพสงู ข้นึ เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีกบั เพื่อนครู มีวิธกี ารท่ีเป็นการระดมความคดิ ของคณะครูจากการรว่ มกิจกรรมชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี (PLC) เพ่ือแกป้ ัญหา นกั เรียนและปรบั ปรุงพฒั นากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และนำมาใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สง่ ผลให้นกั เรยี น ได้รับการแก้ไขเม่ือเกิดปัญหาทางการเรียนและปญั หาอ่ืนๆ ที่พบเห็นอย่างต่อเน่อื ง เปน็ ระบบ ร่วมประชุม PLC ครูท่สี อนป.1 เพื่อหาแนวทางในการจัดการเรียนการสอนรปู แบบออนไลน์ 3.3 นำความรู้ความสามารถทักษะ ท่ไี ด้จากการพฒั นาตนเองและวิชาชพี มาใช้ ไดน้ ำความร้ทู ี่ไดจ้ ากการพฒั นาตนเองในเรื่องการใช้เทคโนโลยี มาพัฒนาส่ือการเรียนการสอน มกี ารพฒั นา ตนเองอย่างต่อเนอื่ ง มีความเสยี สละทุ่มเท มุ่งม่ันในการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน ส่งผลให้นกั เรยี นได้เรยี นร้จู าก กจิ กรรมท่ี เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั มีการใชเ้ ทคโนโลยมี าสนับสนนุ การเรยี นการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้จากกจิ กรรม ท่เี หมาะสมตามขว่ งวัย ศึกษาหาความรู้ในการผลิตส่ือสำหรับใช้สอนในรปู แบบออนไลน์

๓๒ องค์ประกอบที่ ๑ ตอนท่ี ๒ ตอนที่ 2 การประเมินองคป์ ระกอบท่ี ๑ ตอนที่ ๒ (จำนวน ๒๐ คะแนน) ต้งั แต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ตอนท่ี 2 ระดบั ความสำเร็จในการพฒั นางานท่ีเสนอเปน็ ประเด็นท้าทายในการพฒั นาผลลัพธ์การ จัดการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น ประเดน็ ท้าทาย เรือ่ ง การพฒั นาทักษะการบวกจำนวนที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 100 ของนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 โดยใชก้ ิจกรรม Hands-On 1. สภาพปัญหาการจดั การเรยี นรูแ้ ละคุณภาพการเรยี นรขู้ องผู้เรียน ผลการจัดการเรยี นรู้ในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้ือไวรสั COVID 19 ด้วยข้อจำกัดในเร่ืองของการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โรงเรียนไมส่ ามารถเปิดทำการสอนตาม ปกติได้ ในสว่ นของโรงเรียนอนบุ าลระแงะ สงั กัดสำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต 3 ดำเนินการจดั การเรียนการสอนในรูปแบบ ON Hand ON Demand และ ON Lien ส่งผลใหน้ กั เรยี นชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 คิดเลขชา้ ไม่มีเทคนิคการบวก และการใช้นวิ้ ชว่ ยนบั ยงั ไมค่ ล่องแคลว่ ข้าพเจ้าจึงอยากพฒั นา ทักษะการบวกของนกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 โดยใชก้ ิจกรรม Hands On ซ่งึ เป็นการเรยี นรโู้ ดยการปฏบิ ตั จิ รงิ ในสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ การออกแบบกจิ กรรมเน้นกระบวนการเรยี นรู้ท่ผี า่ นการกระทำ เปน็ การฝกึ ให้ผูเ้ รียน มีการคดิ เช่ือมโยงกับการปฏบิ ัติ กิจกรรม Hands On เปน็ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบบรู ณาการ กระตุ้นใหผ้ เู้ รยี น ใชก้ ระบวนการคดิ core concept และลงมอื ปฏบิ ัติ มกี ารประเมนิ ตามสภาพจรงิ และสะท้อนผลส่กู ารพฒั นาผ้เู รยี น ฝกึ การคิดอย่างเปน็ ระบบ เป็นการสง่ เสริมใหน้ กั เรียนมีทักษะการบวกเลขท่ีคล่องแคลว่ แมน่ ยำมากขน้ึ และมีเจตคติท่ี ดีตอ่ การเรียนคณติ ศาสตร์ซ่งึ จะนำไปสู่การมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนท่ดี ขี ้ึน และเปน็ พ้นื ฐานในการศึกษาในระดับสงู ตอ่ ไป 2. วิธกี ารดำเนนิ การใหบ้ รรลุผล 1. ศึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กีย่ วกับการพฒั นาทกั ษะการบวก 2. ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่เี กีย่ วกบั กิจกรรม Hands - On 2. วิเคราะหเ์ นื้อหา และออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรกู้ ารพัฒนาทกั ษะการบวกโดยใชก้ จิ กรรม Hands - On 3. จัดทำส่อื การเรยี นรู้ พฒั นาทักษะการบวก 4. กำหนดวิธีการวดั ผลประเมนิ ผลท้งั 3 ดา้ น คือ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ กระบวนการ สมรรถนะ (P) ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 5. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 20 ข้อ

๓๓ 3. ผลลัพธ์การพฒั นาที่คาดหวัง 3.1 เชิงปรมิ าณ นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรยี นอนุบาลระแงะ ร้อยละ 80 มีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนในการ พฒั นาทกั ษะการบวกจำนวนทมี่ ีผลบวกไม่เกิน 100 โดยใชก้ ิจกรรม Hands-On หลงั เรียน สูงกว่า ก่อนเรยี น 3.2 เชงิ คุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนอนุบาลระแงะ สามารถพัฒนาทักษะการบวก มีกระบวนการคิด ร้จู กั แก้ปัญหา สามารถนำความร้ทู ี่ไดจ้ ากการเรยี นรบู้ รู ณาการกบั รายวชิ าอนื่ และประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ ผลลพั ธ์ (Outcomes) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ส่งผลกระทบต่อประชากร โลกเป็นวงกวา้ ง โดยมจี ำนวนผปู้ ่วยตดิ เช้ือและผ้เู สยี ชีวิตเพิ่มขน้ึ เป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว องคก์ าร อนามัยโลกจงึ ไดป้ ระกาศให้โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) ในวนั ท่ี 11 มีนาคม พุทธศกั ราช 2563 (WHO, 2020, ยอ่ หน้า 17) อกี ทงั้ การแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรสั โคโรนายงั ทำให้พฤติกรรม มนุษย์ พฤติกรรมการบริโภคและการบริการเกิดการเปล่ียนแปลงทส่ี ำคญั ในหลายๆ ดา้ น สง่ ผลใหใ้ นหลายภาคส่วน เกิดผลกระทบ เช่น เศรษฐกจิ สังคม การท่องเที่ยว เทคโนโลยี และการศึกษา นอกจากน้ียังสง่ ผลใหส้ ถานศึกษาไม่ สามารถจดั การเรยี นการสอนไดต้ ามปกติ ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ได้ศึกษาหาความรู้ในการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน รปู แบบ active learning มีความมุ่งมน่ั พยายามในการจดั การเรียนการสอนเพอื่ ให้บรรลุเปา้ ประสงค์ท่ี วางไว้ แต่ดว้ ยสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคยงั คงมีความรุนแรงทำใหส้ ถานศึกษาไมส่ ามารถเปิดเรียนแบบปกติ มาเรียนที่โรงเรียนได้อย่างต่อเนื่อง ทางโรงเรียนมีความจำเป็นท่ีต้องเปิดเรียนรูปแบบ ออนไลน์ ผ่าน G00gle Meet ทำให้มีจำนวนนักเรียนหลายคนท่ีผู้ปกครองไม่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์เคร่ืองมือสื่อสารให้นักเรียนได้เข้า เรียนได้ ประกอบกับบางครอบครัวนักเรียนมีพ่ีน้องหลายคนที่ต้องเข้าเรียนอุปกรณ์จึงไม่เพียงพอ บางครอบครัวด้วย ความท่ีอยู่ห่างไกลตัวเมืองทำให้สัญญาณอินเตอร์เน็ตไปไม่ถึง อีกทั้งมีจำนวนนักเรียนไม่น้อยมาจากจากครอบครัว แตกแยกผู้ปกครองหย่าร้างนกั เรยี นอาศัยอยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย ญาติ ซง่ึ มีอายุค่อยข้างมากไม่มคี วามร้คู วามสามารถใน การเข้าถึงเครื่องมือส่ือสารยุค 4.0 ส่งผลให้การจดั การเรยี นการสอนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ในเร่ืองพัฒนาทักษะการ บวกจำนวนทมี่ ผี ลบวกไมเ่ กนิ 100 โดยใช้กิจกรรม Hands-On ยงั ไม่บรรลุตามจดุ ประสงค์ทไ่ี ดว้ างไว้ ทั้งน้ขี ้าพเจ้า หวังว่าในคราวท่ีโรงเรียนสามารถเปิดเรียนตามปกติได้ได้ข้าพเจ้าจะดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ กิจกรรม Hands-On เพือ่ พฒั นาการการคิดในรายวชิ าคณติ ศาสตร์ต่อไป

๓๔ องคป์ ระกอบที่ ๒ การประเมินการมสี ว่ นร่วมในการพฒั นาการศกึ ษา ประเมนิ องค์ประกอบที่ ๒ (จำนวน 1๐ คะแนน) ต้ังแต่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๖๔ ถงึ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ 1. ภาระงาน ตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 16 ชวั่ โมง/สัปดาหด์ งั นี้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/รายวชิ าคณติ ศาสตร์ จำนวน 15 ช่วั โมง/สัปดาห์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1/2 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1/3 จำนวน 5 ช่วั โมง/สปั ดาห์ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1/1 จำนวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 1.2 งานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 ช่ัวโมง/สัปดาห์ - จดั ทำแผนการจดั การเรียนรู้ - การวัดและประเมินผล - การสร้างและพฒั นาสื่อการสอน - ธุรการชั้นเรยี น - ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน 1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ - ปฏบิ ตั ิหนา้ ทค่ี รูประจำชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1/1 - ปฏิบตั ิหน้าท่ีฝา่ ยงานบริการวิชาการ - เวรประจำวัน 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2.5 ช่วั โมง/สปั ดาห์ - กจิ กรรมอ่าน-ออกเขียนได้-คิดเลขเป็น

๓๕ 2. งานพัฒนาคุณภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา -ได้รับมอบหมายปฏิบตั ิหนา้ ที่ครปู ระจำชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1/1 อบรมสั่งสอนใหน้ กั เรยี นมรี ะเบียบวนิ ยั มี มารยาทในการรบั ประทานอาหาร ตลอดการใช้ชีวิตอยู่รว่ มกนั ในห้องเรียนอยา่ งมคี วามสุข มีจิตใจแบออ้ มอารยี ์ เอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ รูจ้ ักการให้อภยั -ไดร้ บั มอบหมายปฏบิ ัตหิ น้าท่ีครูเวรประจำวันศกุ ร์ คอยรับ-ส่งนกั เรยี นท่หี น้าประตตู ลอดจนทำหน้าที่ ตรวจวดั ไข้ พ่นแอลกอฮอลเ์ พ่ือเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชอ้ื ไวรัส โดวดิ 19 -กิจกรรมจดุ นดั พบ ได้ร่วมกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 ในการทำกจิ กรรมจดุ นดั พบในตอนเชา้ ก่อน เขา้ เรียนโดยได้มีการฝกึ ให้นักเรียนมีจิตสาธารณะ ในการชว่ ยเหลือส่วนรวม ตลอดจนให้นกั เรยี นร้จู กั คุณค่าในตวั เอง

๓๖ - กิจกรรมจิตอาสา บำเพญ็ ประโยชน์ ร่วมกับคณะครูและนักเรยี นในการทำกจิ กรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ เนือ่ งในวันพ่อขุนรามคำแหง มหาราช และวันสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช โดยการพฒั นาบรเิ วณถนน คูระบายนำ้ นริเวณหน้าโรงเรียนอนบุ าลระ แงะ เป็นการส่งเสรมิ คุณธรรมในเร่ืองการบำเพ็ญประโยชน์เพอื่ ส่วนรวมให้กบั นักเรียน -กจิ กรรมทำบุญตักบาตรเนอ่ื งในวนั ข้ึนปีใหม่ ปี 2565 ร่วมกับสำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต 3 ในกจิ กรรมทำบตุ รตักบาตรเน่อื งใน โอกาสวันข้นึ ปีใหม่ซ่งึ เป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยอันดีงาม และเป็นการแสดงออกถึงความรักความ สามัคคีในหมูคณะ

๓๗ 3. งานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น - กิจกรรมอ่านออกเขียนได้-อ่านคล่องเขียนคล่อง คิดเลขเป็น คอื จุดเน้นของโรงเรียนอนุบาลระแงะ สอดคลอ้ งกับนโยบายของสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต 3 และสำนกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน คาดหวงั ให้นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ทุกคนอา่ นออก ในฐานะครปู ระจำชัน้ ประถมศึกษาปี ท่ี 1 เพอื่ ให้นักเรยี นในความรบั ผดิ ชอบมกี ารพัฒนาด้านการอา่ นสงู ขนึ้ จงึ ได้มีการประชุม PLC ครูประจำชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ทัง้ 3 หอ้ งเพือ่ ร่วมกนั หาวธิ ีการในการจดั กจิ กรรมอ่านออกเขยี นได้ ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่ ระบาดของเชอ้ื ไวรสั โควิด 19 ไดม้ กี ารแบ่งคำพน้ื ฐานและจัดทำคลปิ การฝึกอา่ นคำพน้ื ฐานพรอ้ มท้ังความหมาย ส่งให้ นกั เรียนฝึกอ่านและฝกึ เขียนคำพื้นฐานวันละ 5 คำ โดยใหน้ กั เรียนฝกึ อา่ นจนคล่องแลว้ อัดคลิปสง่ ครู ต้งั แตว่ นั จันทร์ ถงึ วันพฤหัสบดีบดี และในวันศุกรค์ รูมีการพบนักเรยี นทาง g00gle meet เพอ่ื ทบทวนคำพน้ื ฐานท่ไี ดเ้ รยี นไปแล้ว จำนวน 20 โดยมกี ารฝกึ ให้นักเรยี นเขยี นตามคำบอก และฝกึ แต่งประโยคจากคำพืน้ ฐานทไ่ี ดเ้ รยี นรูใ้ นสปั ดาห์น้ันๆ

๓๘ ๔. งานเชิงรกุ ของสถานศกึ ษา - การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโควิด 19 ขา้ พเจ้ามคี วามมุ่งมั่นพยายามในการศึกษาหาความรู้ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรยี นการสอนในยุค New Normal โดยการศึกษารูปแบบการสอนออนไลน์จากเพือ่ นครูทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถในโรงเรียน ตลอดจนศึกษาหา ความรู้ด้วยตัวเองจากคลิปตา่ ง ๆ จากช่องยูทูป จนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับนักเรยี นไดเ้ รยี นรู้อย่าง มคี วามสุขตามชว่ งวัย ในช่วงทไี่ ม่สามารถเปดิ เรียนปกติทโ่ี รงเรยี นได้แตก่ ารดำเนินกจิ กรรมต่างๆ ตลอดจนการจัดทำข้อมูลด้าน การศกึ ษายงั คงดำการตามปกติ เพอื่ รักษาผลประโยชนข์ องผ้เู รียนอยา่ งสุงสดุ ขา้ พเจา้ ได้มีการติดต่อสอ่ื สารกบั ผ้ปู กครองอย่างสมำเสมอ โดยตดิ ตอ่ ผ่านไลน์และการโทรศัพทห์ าโดยตรง มีการสอบถามทั้งด้านความเป็นอยู่และ แกป้ ญั หาการเรยี นสำหรบั นกั เรยี นที่ผู้ปกครองไมส่ ามารถสอนเน้ือหาในเรอื่ งน้ันๆ ได้ กจ็ ะอธิบายให้ผู้ปกครองฟังจน เขา้ ใจ สามารถนำความรนู้ ั้นไปสอนบุตรหลานได้ ในช่วงทผ่ี ่านมามกี ารระบาดหนกั ของโรคโควิด 19 สายพนั ธโ์ุ อไมครอน ทำให้โรงเรยี นอนบุ าลระแงะมี นักเรยี นปว่ ยจากการติดเชอ้ื ไวรสั จำนวนมาก โดยเฉพาะนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1/1 ในฐานะครูประจำช้ัน ขา้ พเจา้ มกี ารติดต่อสื่อกับผูป้ กครองอยา่ งต่อเนื่อง พรอ้ มท้ังรายงานจำนวนนกั เรยี นท่ีป่วยใหก้ บั ผู้รับผิดชอบทราบเปน็ ระยะ เพอ่ื ทที่ างโรงเรียนจะได้รายงานขอ้ มลู ใหก้ ับต้นสงั กดั ทราบต่อไป

๓๙ องคป์ ระกอบท่ี ๓ การประเมนิ การมีปฏบิ ตั ิตนในการรกั ษาวินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ การประเมนิ วอิชงาคช์ปีพระกอบท่ี ๓ (จำนวน 1๐ คะแนน) ต้งั แต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถงึ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๕ 1. ยึดมน่ั ในสถาบนั หลกั ของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอัน ข้าพเจ้าส่งเสริม สนับสนุนและพิทักษ์รักษาสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่การรักษา ผลประโยชน์และ ช่ือเสียงของประเทศชาติ การปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา การเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ รวมท้ัง ไม่ต่อต้าน การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ ทรงเปน็ ประมุข - แสดงออกถึงความภมู ใิ จในชาติ และคำนึงถึงผลประโยชนข์ องประเทศชาตเิ ป็นสำคญั - ไม่แสดงออกในลักษณะการดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือไม่กระทำการอันเป็นการ ทำลายความมั่นคงของ ชาติ รวมทั้งไม่กระทำการอนั เป็นการให้ร้ายหรอื ก่อให้เกดิ ความเสื่อมเสยี ต่อ ภาพลักษณ์ของประเทศ - ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และเคารพในความแตกตา่ งของการนับถือศาสนา - แสดงออกถึงความเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ - ปฏิบตั ติ ามรัฐธรรมนญู และกฎหมาย - ไม่กระทำการอันเป็นการต่อต้านการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข - มีความเป็นกลางทางการเมือง และไม่ใช้อำนาจหน้าที่เอ้ือประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมือง หน่ึงเปน็ การเฉพาะ 2. มคี วามซอื่ สัตย์ สจุ รติ มีจติ สำนึกท่ดี ี มีความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่และต่อผูเ้ กี่ยวข้องในฐานะ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ข้าพเจ้าพึงปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาด้วยความถูกต้องตามกฎหมายและ ตามทำนองคลองธรรม มี จิตสำนึกที่ถูกต้องในการปฏิบัติหน้าท่ี โดยมีความสุจริตใจเป็นที่ต้ัง และมีความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลของการ ปฏิบตั งิ าน - ปฏิบัตหิ น้าท่ีดว้ ยความซือ่ สัตย์สุจริต โดยไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มนี ัย เป็นการแสวงหาประโยชนโ์ ดยมิ ชอบ - ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง รวดเร็ว เต็มกำลังความสามารถ และ กล้ารับผิดชอบในความผิด พลาดท่เี กดิ ข้นึ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ รวมทั้งพรอ้ มรบั การตรวจสอบ - ปฏิบตั ิหนา้ ที่ด้วยความรบั ผิดชอบต่อสังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และคำนึงถงึ หลกั สากล ในการปฏิบัติตามหลักสิทธิ มนุษยชน การเปิดเผยข้อมลู ขา่ วสารทถ่ี ูกตอ้ ง และการใช้เทคโนโลยีสือ่ สังคมอยา่ งเหมาะสม

๔๐ 3. มีความกลา้ คดิ กล้าตดั สินใจ กล้าแสดงออก และกระทำในส่ิงที่ถกู ต้องชอบธรรม ข้าพเจ้าพึงมีความกล้าในการตัดสินใจปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความถูกต้องชอบธรรม และกล้าแสดง ความคิดเห็น หรือคัดค้านในส่ิงท่ีไม่ถูกต้อง รวมทั้ง ไม่ยอมทำในสิ่งท่ีไม่เหมาะสมเพียงเพื่อรักษา ประโยชน์หรือสถานภาพของ ตนเอง - กลา้ ยืนหยัดทำในสงิ่ ท่ถี กู ต้องชอบธรรม และกล้าคดั ค้านในสิ่งทีไ่ มถ่ กู ต้อง ไม่ชอบธรรม - เปิดเผยการทุจริตท่ีพบเห็นหรือรายงานการทุจริตประพฤติมิชอบต่อ ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีหน้าที่ รบั ผิดชอบโดยไม่ปลอ่ ยปละละเลย - ให้ความช่วยเหลือประชาชนทีถ่ ูกละเมดิ หรอื ได้รบั การปฏบิ ตั ทิ ่ีไม่เปน็ ธรรม - ไมห่ ลีกเล่ียงกฎหมายหรือใช้ชอ่ งวา่ งทางกฎหมายเพ่ือเอ้ือประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น 4. มีจติ อาสา จติ สาธารณะ มุ่งประโยชนส์ ่วนรวม โดยไม่คำนึงถึงประโยชนส์ ว่ นตนหรือพวกพ้อง ข้าพเจ้าพึงปฏิบัติหน้าท่ีโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมอันได้แก่ประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน เป็นท่ีตั้ง มีความเสียสละ และมีจิตสาธารณะในการปฏิบัติหน้าท่ีเพื่ออำนวย ประโยชน์สุขแก่ประชาชน รวมท้ังไม่ กระทำการอันมลี ักษณะเปน็ การแสวงหาประโยชนท์ ับซ้อน - สามารถแยกเรอื่ งสว่ นตัวออกจากหน้าทกี่ ารงาน ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมชิ อบ จากตำแหนง่ หนา้ ท่ี - มจี ิตสำนกึ ในการใชท้ รพั ย์สิน บุคลากร และเวลาของหนว่ ยงาน - ไม่แสดงพฤตกิ ารณอ์ นั เป็นการเออื้ ประโยชน์โดยมชิ อบต่อตนเองหรือพวกพ้อง - ไม่ประกอบกิจการหรอื เข้าไปเก่ียวข้องกับผลประโยชน์ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ของตน - มีจิตบรกิ ารทจี่ ะปฏบิ ตั หิ นา้ ทโี่ ดยคำนงึ ถงึ ความผาสกุ และประโยชนส์ ว่ นรวม ของประชาชน 5. มุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถโดยคำนึงถึงคุณภาพ การศึกษาเปน็ สำคัญ ขา้ พเจา้ พึงปฏิบัติหน้าทโี่ ดยคำนึงถึงเป้าหมาย ประโยชน์ และความคุ้มคา่ ในการใช้ทรัพยากร ของหน่วยงาน ด้วยการมุ่งถงึ ความเปน็ เลิศของงาน - ปฏบิ ตั งิ านด้วยความรับผิดชอบ เพื่อให้งานบรรลผุ ลสำเร็จตามเปา้ หมาย - ใช้ทรพั ยากรอย่างคุม้ คา่ และประหยัด - ใหบ้ รกิ ารและอำนวยความสะดวกแกป่ ระชาชนด้วยความรวดเรว็ และเตม็ ใจ - มุง่ พัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง - รกั ษาและพัฒนามาตรฐานการทำงานที่ดี - รับฟังความคดิ เหน็ พร้อมท่จี ะตอบชีแ้ จง และอธิบายเหตผุ ลให้แกผ่ ู้รว่ มงานและ ผู้มีสว่ นเกย่ี วข้อง - เชื่อมั่นในระบบการทำงานเป็นทีม

๔๑ 6. ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่อย่างเป็นธรรมและไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ ข้าพเจา้ พึงปฏบิ ัติหน้าที่ด้วยความเท่ียงธรรม ปราศจากอคติและไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ โดยไม่เปน็ ธรรม - ปฏิบตั ติ ่อประชาชนด้วยความเทีย่ งธรรม - ปฏิบัติหน้าท่ีโดยปราศจากอคติ ไม่นำความรู้สึกส่วนตัว ได้แก่ ความรัก ความโกรธ ความกลัว ความหลง มาใช้ในการตดั สินใจปฏิบตั ิหน้าทใ่ี นเรือ่ งตา่ ง ๆ - ไม่เลือกปฏิบัติดว้ ยเหตุผลของความแตกต่างในเร่ือง เชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ สภาพร่างกาย หรือสถานะ ทางเศรษฐกิจสังคม และความเช่อื ทางการเมือง 7. ดำรงตนเป็นแบบอยา่ งที่ดีและรกั ษาภาพลักษณ์ของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ข้าพเจ้าพึงวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ ในการดำรงตนและการดำเนินชีวิต ด้วยการรักษา เกยี รติศกั ดส์ิ รีของความเป็นขา้ ราชการและเจา้ หนา้ ที่ของรัฐ - ดำรงตนเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีดีโดยน้อมนำพระบรมราโชวาท หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง หลักคำสอนทางศาสนา จรรยาวิชาชีพ มาใช้ในการดำเนินชีวิตและ การปฏิบัติหน้าที่ - ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตย ดว้ ยการเคารพตอ่ กฎหมาย และมวี ินยั - ไม่กระทำการใด ๆ อนั อาจนำความเส่อื มเสียมาสทู่ างราชการ 8. เคารพศกั ดศ์ิ รคี วามเป็นมนษุ ย์ คำนงึ สิทธเิ ด็ก และยอมรับความแตกต่างของบคุ คล ขา้ พเจ้าไดป้ ฏิบตั ิตนเก่ียวกับการเอาใจใสช่ ่วยเหลือผู้เรียนและผ้รู ับบรกิ ารเตม็ ความสามารถตาม หลกั วิชาชีพอยา่ งสม่ำเสมอ เท่าเทียมกัน ดงั นี้ 1) แนะนำ ให้คำปรกึ ษาแก่ผู้ปกครองนักเรียน จดั ทำและบนั ทึกข้อมลู ในการขอรับทุนปจั จัยพืน้ ฐานนกั เรยี น ยากจน 2) พัฒนาสื่อ นวัตกรรมการเรยี นการสอน เพอ่ื พัฒนาการเรียนร้ขู องนักเรียน 3) ศึกษา คน้ คว้า ส่อื นวัตกรรมการเรียนการสอน ผา่ นเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ 4) อบรม ฝกึ ฝนและนำมาใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน เพื่อพัฒนานกั เรียน ดว้ ยความมงุ่ มน่ั ต้ังใจ เตม็ ศกั ยภาพ และบริสุทธใ์ิ จ 5) ประสานงานกับผูป้ กครองของนักเรยี น สำหรับแจ้งขอ้ มูลตา่ งๆ 6) จดั หาและสนับสนุนทุนการศกึ ษาใหน้ ักเรยี น อย่างเหมาะสมตามศักยภาพ 7) ใหค้ วามสะดวกแกบ่ ุคคลทมี่ าติดต่อราชการและอ่ืนๆ ด้วยไมตรจี ติ ท่ดี ี ๘) จดั การเรยี นการสอนด้วยเทคนิคและวิธที ี่หลากหลายรูปแบบ เชน่ การใช้ส่ือ ปฏิบตั ิจรงิ

๔๒ 9. ยึดถือและปฏบิ ตั ิตามจรรยาบรรณวิชาชีพ ข้าพเจา้ ไดป้ ฏบิ ตั ติ นเก่ยี วกบั การประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชพี และแบบแผนพฤติกรรมตาม จรรยาบรรณของวิชาชีพ ดงั น้ี 1) แต่งกายดว้ ยชุดทส่ี ุภาพเรียบร้อย 2) จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนด้วยความรบั ผดิ ชอบตามตารางสอนส่วนบคุ คลด้วยความม่งุ ม่ันและตั้งใจ เพื่อพัฒนานักเรียนอย่างเตม็ ศักยภาพ 3) ปฏบิ ตั งิ านตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจนสำเร็จลลุ ่วงตามเปา้ หมายท่วี างไวอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4) ศึกษา หาความรู้ วางแผนพัฒนาตนเอง พัฒนางานและสะสมผลงานอย่างต่อเน่ืองและสมำ่ เสมอ เชน่ การจัดทำเอกสารประกอบการสอน , ส่อื ประกอบการสอน , การเขา้ ร่วมอบรมพฒั นาด้านต่างๆ 5) ใช้งานวจิ ัยสำหรับค้นคว้า แสวงหาเทคนคิ การสอน เพื่อพัฒนาใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธท์ิ ่ีพงึ ประสงค์ 6) เอาใจใสด่ ูแลและชว่ ยเหลอื นักเรยี น ด้วยกัลยาณมิตรอย่างเตม็ ความสามารถเท่าเทียมกนั 7) ปฏบิ ัตศิ าสนกจิ ตามหลักการของศาสนาอิสลามอยา่ งครบถ้วน 8) ใชเ้ ทคโนโลยสี มยั ใหม่ ทันต่อการเปลยี่ นแปลง เพื่อพัฒนาศักยภาพของผเู้ รียน เช่น สอ่ื สังคมออนไลน์ 9) สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมและปลกู ฝังความเป็นระเบียบ มวี นิ ัย และความกระตือรือรน้ ในหน้าท่รี ับผิดชอบต่อการเรียน 10. มวี นิ ยั และการรักษาวนิ ัย ขา้ พเจ้า ได้ปฏิบตั ติ นเก่ยี วกบั การมวี ินัยในตนเอง ยอมรบั และถอื ปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนยี มและแบบแผนอนั ดีงามของสงั คม ดังนี้ 1) มีความตรงตอ่ เวลาในการเข้าและเลกิ ปฏบิ ตั งิ าน โดยการสแกนลายนิว้ มอื หรือลงลายมอื ชือ่ พรอ้ มลงเวลาในการปฏบิ ัติงานภายในระยะเวลาที่โรงเรยี นกำหนด 2) เขา้ รว่ มและปฏบิ ตั หิ นา้ ทคี่ รเู วรประจำวนั ในกจิ กรรมหนา้ เสาธงชว่ งเชา้ ทกุ วันโดยการพบปะอบรมนกั เรียน ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยในการแต่งกาย สอบถามปญั หา แนะนำ ตักเตือน และแจง้ ข่าวสาร 3) ปฏบิ ตั หิ นา้ ทีง่ านสอนตามตารางสอนส่วนบุคคลด้วยความตั้งใจ โดยการจัดเตรยี มส่อื /นวตั กรรมการสอน เครอ่ื งมอื ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรยี นการสอน 4) แต่งกายถกู ต้องตามข้อกำหนดของสถานศึกษา เชน่ สวมชดุ ขา้ ราชการในวันจนั ทร์ แต่งกายชุดลูกเสือในวันพุธ 5) ปฏิบตั ิงานอน่ื ๆ ตามที่ได้รบั มอบหมายอยา่ งสม่ำเสมอ

๔๓ ขอรบั รองว่ารายงานดงั กลา่ วขา้ งตน้ เปน็ ความจริงทุกประการ (ลงชอื่ ) ( นางจรภิ า ศิลประเสรฐิ ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพิเศษ วันที่ 1๕ เดือน มนี าคม พ.ศ. 2565 การตรวจสอบและรับรองของผู้บงั คบั บญั ชาช้ันตน้ ได้ตรวจสอบแล้วรับรองว่าการายงานผลงานที่เกดิ จากการปฏิบตั ิหน้าทีถ่ ูกต้องและเป็นความจริง (ลงช่ือ) ( นายบญั ญตั ิ แทนหนู ) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลระแงะ วันที่ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2565

๔๔ แบบประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ (ทกุ สงั กดั ) ส่วนที่ ๑ : ข้อมลู ของผู้ขอรับการประเมิน รอบการประเมิน  ครั้งท่ี ๑ ( ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕ )  ครง้ั ที่ ๒ ( ๑ เมษายน ๒๕๖๕ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ) ชือ่ ผู้รับการประเมนิ นางจรภิ า ศิลประเสริฐ ตําแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ เงินเดือน 52,420 บาท สถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลระแงะ สังกดั สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษา ประถมศกึ ษานราธิวาส เขต ๓ สอนระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 วิชาคณติ ศาสตร์ ชว่ั โมงการสอน 15 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จํานวนวนั ลาในรอบการประเมิน ................-....................วนั ประกอบด้วย ๑) ลาปว่ ย จาํ นวน …..-….. ครง้ั ……-….. วนั ๒) ลากจิ จํานวน .....-..... ครัง้ …-…… วนั ๓) ลาอ่ืน ๆ (โปรดระบุ) ..................-........................................... จาํ นวน …-…… ครัง้ ....-.......วนั ช่อื ผู้ประเมิน นายบญั ญัติ แทนหนู ตําแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลระแงะ คำชีแ้ จง แบบสรุปการประเมินผลการปฏิบัติงานงานน้ีมี ๓ หนา้ ประกอบดว้ ย ส่วนที่ ๑ : ข้อมูลของผู้รบั การประเมนิ เพือ่ ระบรุ ายละเอียดต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้องกบั ตวั ผู้รบั การประเมิน ส่วนที่ ๒ : สรุปผลการประเมิน ใช้เพ่ือกรอกค่าคะแนนการประเมินในองค์ประกอบท่ี ๑ การประเมิน ประสิทธิภาพและประสิทธิผล การปฏิบตั งิ านตามมาตรฐานตำแหนง่ องคป์ ระกอบท่ี ๒ การประเมินการมีส่วนรว่ ม ในการพัฒนาการศึกษา และองค์ประกอบท่ี ๓ การประเมิน การปฏิบัติตนในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ - สำหรับคะแนนองค์ประกอบที่ ๑ ให้นำมาจากแบบประเมินองค์ประกอบท่ี ๑ โดยนำคะแนนจาก ระดับความสำเรจ็ ในการพฒั นางาน ตามมาตรฐานตำแหน่ง และใหแ้ นบทา้ ยแบบสรุปฉบบั นี้ - สำหรบั คะแนนองคป์ ระกอบท่ี ๒ ให้นำามาจากแบบประเมนิ องค์ประกอบท่ี ๒ โดยนำคะแนนจาก ระดับความสำเรจ็ การมสี ่วนรว่ ม ในการพัฒนาการศึกษา และใหแ้ นบท้ายแบบสรุปฉบบั น้ี - สำหรับคะแนนองค์ประกอบที่ ๓ ให้นำมาจากแบบประเมินองค์ประกอบท่ี ๓ โดยนำคะแนนจาก การประเมินการปฏิบัติตน ในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ และให้แนบท้ายแบบ สรุปฉบับนี้ สว่ นที่๓ : ผลการประเมิน ผู้รับการประเมินลงนามรับรองการประเมินตนเอง และผู้บังคับบัญชาประเมินและ ลงความเห็นของการประเมนิ สว่ นที่ ๔ : การรับทราบผลการประเมิน ผู้บังคับบญั ชาแจ้งผลการประเมนิ และผรู้ ับการประเมินลงนามรับทราบ ผลการประเมิน

๔๕ สว่ นที่ ๒ : สรุปผลการประเมิน องคป์ ระกอบการประเมนิ คะแนน คะแนน คแนนประเมนิ ของ เตม็ ประเมนิ ตนเอง ผบู้ งั คับบญั ชา องคป์ ระกอบท่ี ๑ การประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ล 80 63 การปฏบิ ตั ิงานตามมาตรฐานตำแหนง่ 10 10 องค์ประกอบท่ี ๒ การประเมินการมีส่วนร่วมในการพฒั นาการศึกษา 10 10 องคป์ ระกอบที่ ๓ การประเมินการปฏบิ ัตติ นในการรกั ษาวนิ ัยคณุ ธรรม 100 83 จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ คะแนนรวม สว่ นท่ี ๓ : ผลการประเมิน ๓.๑ ผลการประเมินตนเอง ข้าพเจ้าขอรับรองวา่ ไดป้ ระเมินตนเองตรงตามความเป็นจรงิ (ลงช่อื )......................................... ผรู้ บั การประเมนิ (นางจรภิ า ศลิ ประเสรฐิ ) ตาํ แหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ วนั ที่ ๑5 มนี าคม ๒๕๖๕ ๓.๒ ผลการประเมิน และความเหน็ ของผู้บงั คับบญั ชา ๓.๒.๑ ผลการประเมิน มี ๕ ระดบั ดังน้ี  ดีเดน่ (ร้อยละ ๙๐.00 ขน้ึ ไป)  ดมี าก (รอ้ ยละ ๘๐.๐๐ - ๘๕.๔๔)  ดี (รอ้ ยละ ๗๐.00 – ๗๙.๙๙)  พอใช้ (ร้อยละ 50.00 – ๖๙.๙๙)  ปรับปรุง (รอ้ ยละ ๕๙.๙๙ ลงมา) ๓.๒.๒ ความเหน็ ของผู้บังคับบัญชา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)................................ ผบู้ งั คับบญั ชา (นายบญั ญัติ แทนหนู) ตาํ แหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนุบาลระแงะ วันที่...............................................

๔๖ สว่ นที่ ๔ : การรบั ทราบผลการประเมนิ ผ้รู ับการประเมิน  ไดร้ ับทราบผลการประเมินและความเห็นของผบู้ งั คบั บญั ชาแล้ว ……………………………………… (นางจรภิ า ศิลประเสริฐ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ วันที่ .................................................... ผู้รบั การประเมนิ  ไดแ้ จง้ ผลการประเมินและผู้รับการประเมนิ ไดล้ งนามรับทราบแล้ว  ไดแ้ จง้ ผลการประเมนิ เมอื่ วนั ท่ี...........................................................แลว้ แตผ่ ูร้ บั การประเมนิ ไม่ลงนามรับทราบ ลงช่ือ ……………………………………………. (...........................................) ตำแหน่ง ............................................. วนั ที่ .................................................... ลงชอ่ื ……………………………………………. พยาน (...........................................) ตำแหน่ง ............................................. วนั ที่ ....................................................

๔๗ แบบประเมนิ องคป์ ระกอบที่ ๑ การประเมนิ ประสิทธิภาพและประสิทธผิ ลการปฏบิ ัตงิ านตามมาตรฐาน ตําแหน่ง ตาํ แหน่งครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพิเศษ (ทกุ สงั กัด) ช่ือผู้รับการประเมิน นางจริภา ศิลประเสริฐ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ สังกัดโรงเรยี นอนุบาลระ แงะ ชื่อผู้ประเมิน นายบญั ญตั ิ แทนหนู ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลระแงะ สงั กดั สำนักงานเขตพ้นื ที การศกึ ษาประถมศกึ ษานราธิวาส เขต ๓  รอบการประเมิน คร้งั ที่ ๑ ( ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕ )  รอบการประเมิน ครั้งท่ี ๒ ( ๑ เมษายน ๒๕๖๕ - ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๕ ) ตอนท่ี 1 : ระดับความสาํ เร็จในการพัฒนางานตามมาตฐานตาํ แหน่ง (60 คะแนน) คาํ ชี้แจง การประเมินองค์ประกอบท่ี ๑ ตอนท่ี 1 คะแนนรวม 60 คะแนน มีด้วยกัน ๓ ด้าน ๑5 ตัวช้ีวัด ได้แก่ ด้านท่ี ๑ ดา้ นการจัดการเรียนรู้ 8 ตัวช้ีวัด ด้านท่ี ๒ ด้านการส่งเสริมและสนบั สนุนการจัดการเรียนรู้ ๔ ตัวช้ีวัด และด้านท่ี ๓ ด้านการพฒั นา ตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ ๓ ตวั ช้ีวัด โดยมรี ะดบั การประเมินและเกณฑ์การใหค้ ะแนน ดังน้ี เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ผู้รบั การประเมิน ประเมินตนเอง และให้ผู้บังคับบัญชาประเมิน โดยใช้เครื่องหมาย √ ในช่องระดับ และใหใ้ ส่คะแนนใน ช่องคะแนน โดยกำหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดังนี้ ๑) ระดับ ๑ หมายถึง ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ่ำกว่าระดับการปฏบิ ตั ทิ คี่ าดหวังมาก คิดเป็น 1 คะแนน ๒) ระดับ ๒ หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ำ่ กว่าระดบั การปฏบิ ตั ิทคี่ าดหวงั คดิ เป็น ๒ คะแนน ๓) ระดบั ๓ หมายถึง ปฏบิ ตั ิได้ตามระดบั การปฏบิ ตั ทิ ค่ี าดหวัง คดิ เปน็ ๓ คะแนน ๔) ระดับ ๔ หมายถงึ ปฏิบตั ไิ ดส้ ูงกวา่ ระดบั การปฏบิ ตั ทิ ีค่ าดหวัง คดิ เป็น ๔ คะแนน โดยให้นำคะแนนรวมมาเป็นคะแนนระดับความสำเร็จในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่งทมี่ ีฐานเป็นคะแนนเต็ม 60 คะแนน ผลการประเมินตนเอง ผลการประเมินของ ระดบั คณุ ภาพ/ ผูบ้ ังคับบญั ชา เหตุผล การปฏิบัติงาน รายละเอยี ด ๑. ดา้ นการจดั การเรียนรู้ ระดับ ระดบั 1 23 4 คะแนน 1 23 4 คะแนน ๑.๑ สรา้ งและหรือพัฒนา รเิ รม่ิ พัฒนารายวิชาและหนว่ ยการเรยี นรู้ ให้ 4 ..................................... หลักสูตร สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชว้ี ดั 3 ..................................... หรือผลการเรยี นรู้ ตามหลกั สูตร บริบทของ ..................................... ๑.๒ ออกแบบการจัดการ สถานศกึ ษา ผ้เู รยี น และทอ้ งถนิ่ สามารถแกไ้ ข ..................................... เรียนรู้ ปัญหาในการจัดการเรยี นรู้ เพอื่ ให้ผู้เรยี นได้ ..................................... พฒั นาสมรรถนะ และการเรยี นรเู้ ตม็ ตาม ..................................... ศักยภาพ ส่งผลใหค้ ณุ ภาพการจดั การเรยี นรู้ ......... สูงขึน้ และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี นการสรา้ งและ หรือพฒั นาหลักสูตร ..................................... ..................................... รเิ รมิ่ คดิ ค้น การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ ..................................... โดยเน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั สามารถแก้ไขปญั หา ..................................... และพฒั นาคุณภาพการจดั การเรยี นรู้ใหส้ งู ขนึ้ ..................................... เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะ ประจำวชิ า คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และ

๔๘ ผลการประเมินตนเอง ผลการประเมนิ ของ ระดบั คณุ ภาพ/ ผบู้ ังคับบญั ชา เหตุผล การปฏบิ ตั ิงาน รายละเอียด ระดับ ระดับ ๑.๓ จัดกิจกรรมการ 1 23 4 คะแนน 1 23 4 คะแนน เรียนรู้ สมรรถนะท่ีสำคญั ตามหลกั สตู ร มี ..................................... กระบวนการคดิ และคน้ พบองคค์ วามรดู้ ว้ ย ......... ตนเอง และสรา้ งแรงบนั ดาลใจ และเป้น แบบอย่างท่ีดใี นการออกแบบการจดั การ เรยี นรู้ มีการริเรม่ิ คิดคน้ และพัฒนานวัตกรรม การ 3 ..................................... จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ท่ีสามารถแกไ้ ขปัญหา ..................................... ในการจดั การเรยี นรู้ ทำใหผ้ เู้ รยี นไดพ้ ัฒนาเต็ม ..................................... ตามศกั ยภาพ เรยี นรแู้ ละทำงาน รว่ มกนั มี ..................................... กระบวนการคดิ และคน้ พบองค์ความร้ดู ้วย ..................................... ตนเองและสรา้ งแรงบันดาลใจ และเป็น ..................................... แบบอย่างทดี่ ใี นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ......... ๑.๔ สร้างและหรอื พัฒนา มีการริเริ่ม คดิ คน้ และพฒั นาสื่อ นวัตกรรม 3 ..................................... สอ่ื นวัตกรรม เทคโนโลยี เทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับ ..................................... และแหล่งเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สามารถแก้ไขปญั หาใน ..................................... การเรยี นรู้ของผู้เรยี น และทำให้ผู้เรียนมที กั ษะ ..................................... การคดิ และสามารถสร้างนวตั กรรมได้ และ ..................................... เป็นแบบอย่างทดี่ ีในการสรา้ งและหรอื พฒั นา ..................................... สอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยี และแหลง่ เรียนรู้ ......... ๑.๕ วดั และประเมนิ ผล มกี ารรเิ ร่ิม คิดคน้ และพัฒนารูปแบบการวดั 3 ..................................... การเรยี นรู้ และประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง ดว้ ย 3 ..................................... วิธีการท่หี ลากหลายเหมาะสม และสอดคลอ้ ง ..................................... ๑.๖ ศึกษา วิเคราะห์ และ กบั มาตรฐานการเรยี นรู้ และนำผลการวัดและ 4 ..................................... สังเคราะห์ เพอื่ แกไ้ ขปญั หา ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพอ่ื ให้ผเู้ รยี น 4 ..................................... หรอื พฒั นาการเรียนรู้ พฒั นาการเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และเปน็ ..................................... แบบอยา่ งทีด่ ีในการศกึ ษา วเิ คราะห์ และ ......... ๑.7 จัดบรรยากาศท่ี สงั เคราะห์ เพอ่ื แก้ไขปัญหาหรอื พฒั นาการ สง่ เสรมิ และพฒั นาผูเ้ รยี น เรียนรู้ ..................................... ..................................... มกี ารริเรมิ่ คิดคน้ วเิ คราะห์ และสงั เคราะห์ ..................................... เพือ่ แก้ไขปัญหาหรอื พฒั นาการเรียนรทู้ ีส่ ง่ ผล ..................................... ต่อคุณภาพผเู้ รยี น และนำผลการศกึ ษา ..................................... วิเคราะห์ และสังเคราะห์ มาใชแ้ ก้ไขปญั หา ..................................... หรือพฒั นาการจดั การเรยี นรใู้ ห้สงู ขน้ึ และเป็น ......... แบบอยา่ งที่ดี ในการศกึ ษา วเิ คราะห์ และ สังเคราะห์ เพ่ือแกไ้ ขปัญหาหรอื พฒั นาการ ..................................... เรียนรู้ ..................................... ..................................... มกี ารริเริ่ม คดิ คน้ และพัฒนาการจดั ..................................... บรรยากาศที่เหมาะสม สอดคล้องกับความ ..................................... แตกตา่ งผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล สามารถแก้ไข ..................................... ปญั หาการเรยี นรู้ และสร้างแรงบนั ดาลใจ ......... สง่ เสรมิ และพัฒนาผ้เู รยี น ให้เกดิ กระบวนการ คดิ ทกั ษะชีวิต ทกั ษะการทำงาน ทกั ษะการ ..................................... เรียนรแู้ ละนวตั กรรม ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ..................................... สื่อ และเทคโนโลยี และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี น การอบรมและพฒั นาคณุ ลกั ษณะทด่ี ขี อง ผเู้ รยี น ๑.8 อบรมและพัฒนา มกี ารอบรมบม่ นิสยั ใหผ้ ู้เรยี นมคี ณุ ธรรม คุณลกั ษณะที่ดขี องผเู้ รียน จริยธรรม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และ

๔๙ ผลการประเมนิ ตนเอง ผลการประเมินของ การปฏิบัตงิ าน รายละเอียด ผูบ้ งั คับบัญชา ระดับคุณภาพ/ เหตุผล ค่านยิ มความเปน็ ไทยทดี่ ีงาม โดยคำนงึ ถงึ 1 ระดับ 4 คะแนน 1 ระดับ 4 คะแนน ความแตกตา่ งของผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล และ 23 23 ..................................... สามารถแกไ้ ขปญั หาและพัฒนาผู้เรยี นได้ และ ..................................... เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี นการอบรมและพัฒนา ..................................... คุณลักษณะท่ีดขี องผูเ้ รียน ..................................... ......... ๒. ดา้ นการส่งเสริมและสนบั สนนุ การจดั การเรยี นรู้ ๒.๑ จดั ทำขอ้ มูล มีการริเรมิ่ คิดคน้ และพัฒนารูปแบบการ 4 ..................................... ..................................... สารสนเทศของผู้เรยี นและ จัดทำขอ้ มูลสารสนเทศของผเู้ รยี นและรายวชิ า ..................................... รายวชิ า โดยมขี ้อมลู เปน็ ปัจจบุ นั เพ่อื ใช้ในการส่งเสรมิ ..................................... ..................................... สนับสนนุ การเรยี นรู้ แกไ้ ขปัญหาและพฒั นา .................. คุณภาพผู้เรยี น และเป็นแบบอย่างท่ดี ี ๒.๒ ดำเนนิ การตามระบบ มีการใชข้ ้อมลู สารสนเทศเกี่ยวกบั ผเู้ รยี น 4 ..................................... ดแู ลชว่ ยเหลอื ผ้เู รยี น รายบุคคล และประสานความรว่ มมอื กับผ้มู ี ..................................... ส่วนเก่ยี วขอ้ ง เพอ่ื พัฒนาและแก้ไขปญั หา ..................................... ผเู้ รยี น และรเิ รมิ่ โครงการหรือจดั กจิ กรรมเชงิ ..................................... สร้างสรรค์ดว้ ยวิธกี ารที่หลากหลายในการดแู ล ..................................... ชว่ ยเหลอื ผ้เู รยี น และเปน็ แบบอย่างทด่ี ี ..................................... ......... ๒.๓ ปฏิบัติงาน วชิ าการ ร่วมปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าการ และงานอ่นื ๆ 3 ..................................... และงานอนื่ ๆ ของ ของสถานศกึ ษา เพือ่ ยกระดับคณุ ภาพการจดั 4 ..................................... ..................................... สถานศกึ ษา การศกึ ษาของสถานศกึ ษา โดยมีการพฒั นา ..................................... รูปแบบหรอื แนวทางการดำเนนิ งานใหม้ ี ..................................... ..................................... ประสิทธภิ าพสงู ขนึ้ และเปน็ แบบอยา่ งท่ีดี ......... ๒.๔ ประสานความ ประสานความรว่ มมอื กับผ้ปู กครอง ภาคี ..................................... ร่วมมอื กบั ผู้ปกครอง ภาคี เครือขา่ ย และหรือสถานประกอบการ เพอื่ ..................................... เครอื ข่าย และหรือสถาน รว่ มกันแกไ้ ขปญั หาและพัฒนาผเู้ รยี น เป็น ..................................... ประกอบการ แบบอยา่ งที่ดี ..................................... ..................................... ..................................... ......... ๓. ดา้ นการพฒั นาตนเอง และวชิ าชีพ ๓.๑ พฒั นาตนเอง อยา่ ง มกี ารพฒั นาตนเองอยา่ งเปน็ ระบบและ 4 ..................................... เป็นระบบและต่อเนอ่ื ง ต่อเนื่อง เพื่อใหม้ ีความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ ..................................... โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ การใชภ้ าษาไทยและ ..................................... ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอื่ สาร และการใช้ ..................................... เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล เพอื่ การศกึ ษา สมรรถนะทาง ..................................... วิชาชีพครแู ละความรอบรู้ในเนอ้ื หาวิชา และ ..................................... วิธีการสอน และเปน็ แบบอย่างทดี่ ี ......... ๓.๒ มสี ่วนรว่ มในการ มสี ่วนรว่ ม และเป็นผนู้ ำในการแลกเปลย่ี น 3 ..................................... แลกเปล่ยี นเรยี นรทู้ าง เรยี นรทู้ างวชิ าชพี เพอื่ แกไ้ ขปญั หาและสรา้ ง ..................................... วิชาชพี นวตั กรรม เพอื่ พัฒนาการจดั การเรยี นรู้ และ .....................................

๕๐ ผลการประเมินตนเอง ผลการประเมนิ ของ ระดับคุณภาพ/ ผู้บังคบั บญั ชา การปฏบิ ัติงาน รายละเอยี ด เปน็ แบบอย่างทด่ี ี ระดับ ระดับ เหตุผล 23 คะแนน 23 คะแนน 1 4 1 4 .................................. 3.3 นำความรู้ นำความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ ท่ไี ด้จากการ 4 ..................................... ความสามารถ ทักษะ ทไี่ ด้ พฒั นาตนเองและวชิ าชีพมาใชใ้ นการ ..................................... จากการพฒั นา ตนเองและ พัฒนาการจดั การเรยี นรู้ การพฒั นาคณุ ภาพ 53 ..................................... วชิ าชพี มาใช้ ผู้เรยี น รวมถงึ การพัฒนานวัตกรรมการจดั การ ..................................... เรยี นรทู้ ่มี ีผลต่อคณุ ภาพผู้เรยี น และเปน็ ..................................... แบบอยา่ งท่ดี ี ..................................... ......... คะแนนรวม ตอนท่ี ๒ : ระดับความสำเร็จในการพัฒนางานทีเ่ สนอเป็นประเดน็ ท้าทายในการพฒั นาผลลพั ธก์ ารเรยี นรขู้ อง ผู้เรยี น (๒๐ คะแนน) คำชแี้ จง การประเมินองค์ประกอบท่ี 1 ตอนท่ี ๒ คะแนนรวม ๒๐ คะแนน ซึ่งมีรายการประเมนิ ๒ รายการ รายการละ ๑๐ คะแนน โดยมีระดบั การประเมนิ และเกณฑ์การใหค้ ะแนน ดงั นี้ ระดับการประเมนิ ให้ผ้รู บั การประเมนิ ประเมนิ ตนเอง และใหผ้ ูบ้ ังคับบัญชาประเมนิ โดยใชเ้ คร่ืองหมาย √ ในช่องคะแนน ๑) ระดับ ๑ หมายถึง ปฏบิ ัติได้ต่ำกวา่ ระดบั การปฏบิ ตั ทิ ่ีคาดหวงั มาก ๒) ระดบั ๒ หมายถงึ ปฏิบตั ิได้ต่ำกวา่ ระดับการปฏบิ ัตทิ ่ีคาดหวัง ๓) ระดับ ๓ หมายถึง ปฏบิ ตั ิไดต้ ามระดบั การปฏบิ ตั ิที่คาดหวัง ๔) ระดบั ๔ หมายถึง ปฏิบตั ิไดส้ งู กว่าระดบั การปฏิบตั ิที่คาดหวัง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1) การประเมินตอนท่ี ๒ กำหนดให้มีเกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ ๔ ระดับ คือ ระดับ ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๒ และระดับ ๑ ในแต่ลระดบั คุณภาพกำหนดคา่ คะแนน ดงั น้ี ระดบั คะแนนเต็ม 10 คะแนนเตม็ 20 4 10.00 20.00 3 7.50 15.00 2 5.00 10.00 1 2.50 5.00 ๒) ใหน้ ำคะแนนรวมแปลงเป็นคะแนนระดบั ความสำเร็จในการพัฒนางานท่ีเสนอเปน็ ประเดน็ ทา้ ทายในการ พฒั นาผลลพั ธ์การเรียนรู้ ของผูเ้ รยี นที่มฐี านเป็นคะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน ดังน้ี คะแนนประเมนิ = คะแนนรวม x 20 40

๕๑ ผลการประเมินตนเอง ผลการประเมินของ ระดบั คณุ ภาพ/ ผบู้ ังคับบญั ชา เหตุผล รายการประเมิน 1 ระดบั 4 คะแนน 1 ระดบั 4 คะแนน ๑. วธิ ีดำเนนิ การ (20 คะแนน) 23 23 พจิ ารณาจากการดำเนนิ การทถี่ กู ตอ้ ง ครบถว้ น เป็นไปตามระยะเวลาที่  10 กำหนด ไว้ในข้อตกลง และสะทอ้ นให้เหน็ ถงึ ระดบั การปฏบิ ัตทิ ี่คาดหวงั ตาม ตำแหน่งและวทิ ยฐานะ ๒. ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ของผเู้ รียนท่คี าดหวงั (๒๐ คะแนน) ๒.1 เชิงปรมิ าณ (๑๐ คะแนน)  5 พจิ ารณาจากการบรรลเุ ป้าหมายเชงิ ปรมิ าณไดค้ รบถว้ น ตามข้อตกลง และมี  5 20 ความถกู ต้อง เชอ่ื ถือได้ ๒.๒ เชงิ คณุ ภาพ (10 คะแนน) พจิ ารณาจากการบรรลุเป้าหมายเชงิ คณุ ภาพได้ครบถ้วน ถูกต้อง เช่อื ถือได้ และปรากฏผลตอ่ คุณภาพผู้เรยี นไดต้ ามขอ้ ตกลง คะแนนรวม แปลงคะแนนรวมเปน็ คะแนนระดบั ความสำเร็จในการพัฒนางานทเี่ สนอเป็น 10 ประเดน็ ท้าทายในการพฒั นาผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ของผู้เรยี นท่ีมฐี านเปน็ คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน (โดยนำคะแนนรวมที่ได้มาคูณกับ ๒๐ แลว้ หารดว้ ย ๔๐) สรปุ คะแนนรวมแบบประเมินองคป์ ระกอบท่ี ๑ การประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลการปฏบิ ัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง รายการประเมนิ คะแนน คะแนน คะแนนประเมนิ เต็ม ประเมิน ของ ตนเอง ผู้บังคบั บัญชา ตอนท่ี ๑ ระดับความสำเร็จในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง ๖๐ 53 ตอนที่ ๒ ระดับความสำเรจ็ ในการพฒั นางานที่เสนอเป็นประเดน็ ท้า ๒๐ 10 ทาย ในการพฒั นาผลลพั ธ์การเรยี นร้ขู องผเู้ รียน คะแนนรวม ๘๐ 63 *****************************************

๕๒ แบบประเมินองคป์ ระกอบที่ 2 การประเมนิ การมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาการศึกษา ตําแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพเศษ (ทุกสังกัด) ชอ่ื ผรู้ บั การประเมิน นางจริภา ศลิ ประเสรฐิ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ สงั กดั โรงเรยี นอนุบาลระ แงะ ชือ่ ผปู้ ระเมนิ นายบัญญตั ิ แทนหนู ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรยี นอนุบาลระแงะ สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนที การศึกษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต ๓  รอบการประเมนิ ครัง้ ท่ี ๑ ( ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕ )  รอบการประเมิน ครั้งท่ี ๒ ( ๑ เมษายน ๒๕๖๕ - ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๕ ) ระดบั ความสาํ เรจ็ การมสี ่วนร่วมในการพฒั นาการศกึ ษา (๑๐ คะแนน) คําชี้แจง การประเมินระดับความสําเร็จการมีส่วนรา่ มในการพัฒนาการศึกษา คะแนนรวม ๑๐ คะแนน โดยพิจารณาจาก ปรมิ าณงาน ทไี่ ดร้ ับมอบหมายจากผ้บู งั คบั บญั ชาแลว้ เสรจ็ โดยมีระดับการประเมินและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี ระดับการประเมิน ให้ผูร้ ับการประเมนิ และผู้บงั คับบัญชาประเมินตามรายการประเมินตามสภาพการปฏิบัติงานจรงิ ของผู้รับการประเมิน โดย ใชเ้ ครือ่ งหมาย √ ในช่องระดับการประเมนิ และคํานวณตามเกณฑก์ ารประเมนิ ดังนี้ ๑) ระดับ ๑ หมายถงึ ปฏบิ ตั ิงานทผี่ บู้ งั คบั บญั ชามอบหมายแล้วเสรจ็ รอ้ ยละ ๑๙.๙๙ ลงมา ๒) ระดบั ๒ หมายถงึ ปฏบิ ตั ิงานทีผ่ บู้ งั คบั บญั ชามอบหมายแล้วเสรจ็ รอ้ ยละ ๒๐.๐๐ - ๓๙๔.๕๕๙ ๓) ระดับ ๓ หมายถงึ ปฏิบตั ิงานทีผ่ ้บู งั คบั บญั ชามอบหมายแลว้ เสรจ็ รอ้ ยละ ๔๐.00 - ๕๕.๕๕๔ ๔) ระดบั ๔ หมายถงึ ปฏิบตั ิงานท่ผี ู้บงั คบั บัญชามอบหมายแลว้ เสร็จ รอ้ ยละ 50.00 - ๗c.๕๙ ๕) ระดับ ๕ หมายถึง ปฏิบตั งิ านทผ่ี ูบ้ งั คับบญั ชามอบหมายแล้วเสรจ็ รอ้ ยละ ๘0.00 ขึ้นไป เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ใหน้ ําคะแนนรวมแปลงเปน็ คะแนนประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการพฒั นาการศึกษาทมี่ ีฐานเปน็ คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน โดย กาํ หนดเกณฑ์ การให้คะแนน ดงั นี้ คะแนนทไี่ ด้ = ระดับการประเมนิ x คา่ น้ำหนกั รายการประเมนิ ผลการประเมนิ ตนเอง คะแนนท่ี ผลการประเมนิ ของผู้บงั คบั บัญชา คะแนนท่ี ระดบั การประเมนิ (ก) คา่ นำ้ หนกั ได้ ระดบั การประเมิน (ก) ค่าน้ำหนกั ได้ ความสำเร็จของงานทไ่ี ด้รบั 1 2 3 4 5 (ข) 1 2 3 4 5 (ข) มอบหมายจากผู้บงั คบั บญั ชา (ก X ข) (ก X ข) 2 2 คะแนนรวม 10 10 ****************************

๕๓ แบบประเมินองคป์ ระกอบท่ี 3 การประเมินการปฏิบตั ิตนในการรกั ษาวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี ตําแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ (ทกุ สงั กัด) ชอื่ ผูร้ บั การประเมนิ นางจรภิ า ศลิ ประเสริฐ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพเิ ศษ สงั กัดโรงเรยี นอนุบาลระ แงะ ช่อื ผู้ประเมนิ นายบัญญตั ิ แทนหนู ตำแหน่งผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลระแงะ สังกัดสำนกั งานเขตพน้ื ที การศึกษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต ๓  รอบการประเมิน ครง้ั ที่ ๑ ( ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕ )  รอบการประเมนิ คร้ังท่ี ๒ ( ๑ เมษายน ๒๕๖๕ - ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๕ ) การประเมนิ การปฏิบัตติ นในการรักษาวินยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ (๑๐ คะแนน) คําชี้แจง การประเมนิ การปฏบิ ตั ิตนในการรักษาวินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี มีรายการประเมิน 10 รายการ โดยพิจารณาจากพฤตกิ รรมในการปฏบิ ตั ติ นในการรักษาวนิ ยั คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี โดยมเี กณฑก์ าร ให้คะแนน ดังนี้ 1) คะแนน ๑ หมายถึง ปฏิบัตไิ ดต้ ํ่ากว่าระดับทคี่ าดหวงั มาก ๒) คะแนน ๒ หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดต้ ํ่ากว่าระดบั ทคี่ าดหวงั ๓) คะแนน ๓ หมายถงึ ปฏบิ ัตไิ ดต้ ามระดบั ท่ีคาดหวงั ๔) คะแนน ๔ หมายถึง ปฏบิ ตั ไิ ดส้ ูงกวา่ ระดับท่ีคาดหวัง โดยใหน้ าํ คะแนนรวมแปลงเปน็ คะแนนประเมนิ การปฏบิ ตั ติ นในการรักษาวนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี ท่ีมฐี านเปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน โดยกําหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนน ดงั นี้ คะแนนประเมิน = คะแนนรวม 4 ท่ี รายการประเมิน ผลการประเมินตนเอง ผลการประเมนิ ของ ผบู้ งั คับบัญชา 1 ยึดมนั่ ในสถาบนั หลักของประเทศ อนั ไดแ้ ก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครอง ระบอบ คะแนน 1 23 4 คะแนน ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข 1234  2 มีความซ่อื สตั ย์ สจุ ริต มจี ิตสำนกึ ทด่ี ี มีความรับผิดชอบตอ่ หนา้ ทีแ่ ละตอ่ ผเู้ กย่ี วขอ้ ง ในฐานะข้าราชการ   ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา   3 มีความกล้าคดิ กล้าตดั สนิ ใจ กลา้ แสดงออก และกระทำในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ชอบธรรม  4 มีจิตอาสา จติ สาธารณะ มุ่งประโยชนส์ ว่ นรวม โดยไม่คำนึงถึงประโยชนส์ ่วนตน หรอื พวกพ้อง  5 มุ่งผลสัมฤทธขิ์ องงาน มงุ่ มัน่ ในการปฏบิ ัตงิ านอย่างเตม็ กำลังความสามารถ โดยคำนึงถงึ คุณภาพ   การศกึ ษาเปน็ สำคญั 6 ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีอยา่ งเปน็ ธรรมและไม่เลอื กปฏบิ ัติ 7 ดำรงตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดแี ละรกั ษาภาพลกั ษณข์ องขา้ ราชการครแู ละบุคลากร ทางการศึกษา 8 เคารพศักด์ศิ รคี วามเป็นมนษุ ย์ คำนึงถึงสทิ ธเิ ด็ก และยอมรับความแตกต่างของบุคคล 9 ยึดถอื และปฏิบตั ิตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ

๕๔ ผลการประเมนิ ตนเอง ผลการประเมินของ ผ้บู ังคบั บญั ชา ท่ี รายการประเมนิ คะแนน คะแนน 10 มวี นิ ยั และการรกั ษาวินยั 1 23 4 1 2 3 4 คะแนนรวม  แปลงคะแนนรวมเปน็ คะแนนการประเมินการปฏบิ ตั ิตนในการรกั ษาวินยั คุณธรรม จริยธรรม 1 และ 40 จรรยาบรรณวชิ าชพี ทมี่ ีฐานคะแนนเตม็ เปน็ ๑๐ คะแนน 10 (โดยนำคะแนนรวมหารด้วย ๔) **************************