ข้อมลู พนื้ ฐานเพอ่ื การวางแผน 1.ประวัติความเปน็ มาของ กศน.ตำบลตะมะยูง ที่ต้ัง กศน.ตำบละมะยูง ตงั้ อยทู่ บ่ี า้ นคลองหงษ์ หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรีสาคร จังหวดั นราธวิ าส หา่ งจากสำนกั งาน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอศรีสาคร ประมาณ ๘ กิโลเมตร ประวัตคิ วามเป็นมา กศน.ตำบลตะมะยูง เป็นสถานท่ีของอาคารที่ได้รับจากองค์การบริหารส่วนตำบลตะมะยูงต้ังอยู่ หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรสี าคร จังหวดั นราธิวาส เพื่อใช้เป็นสถานทพ่ี บกลุ่ม และบริการประชาชน พร้อมเป็นกศน.ตำบล ปัจจุบันเปิดทำการให้บริการแก่นักศึกษา กศน.และประชาชนในพ้ืนที่ มีบุคลากรท่ี รับผิดชอบงาน กศน.ตำบลตะมะยูงโดยมี นางเจ๊ะกามารีเย๊าะ มะแซ หัวหน้า กศน.ตำบลตะมะยูง และ นายยาฮารี นากอ ครอู าสาฯประจำตำบลตะมะยูง เปิดบริการให้คำแนะนำ ปรึกษา ด้านการจัดการศึกษาขั้น พื้นฐาน มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยวิธีเรียนการพบกลุ่ม ต้ังแต่เวลา 08.30 น.–16.30 น. ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นในวันพุธ ตั้งแต่เวลา 08.30 น.–16.30 น. .และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในวัน พฤหัสบดี ต้ังแต่เวลา08.30น.–16.30 น. โดยมี นางเจ๊ะกามารีเย๊าะ มะแซ หัวหน้า กศน.ตำบลตะมะยูง และ นายยาฮารี นากอ ครูอาสาฯประจำตำบลตะมะยูง เปน็ ผ้ใู หบ้ ริการ 2. สภาพทางกายภาพของชุมชน (ตำบล/แขวง) ขนาดพืน้ ที่ ท่ีตง้ั และอาณาเขตติดตอ่ ลักษณะทางกายภาพ โครงสรา้ งพื้นฐาน การคมนาคมติดตอ่ สือ่ สาร กศน.ตำบละมะยงู ตัง้ อยูท่ ี่บา้ นคลองหงษ์ หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรสี าคร จังหวัด นราธิวาส ห่างจากสำนกั งาน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอศรีสาคร ประมาณ ๘ กโิ ลเมตร กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 1
สภาพทางภูมิศาสตรต์ ำบลศรีสาคร ลักษณะภูมปิ ระเทศ ส่วนใหญเ่ ปน็ ทรี่ าบสลับเนินเขาเหมาะสำหรบั ทำสวนยางพาราและ ปลูกไม้ผล เช่นลองกอง เงาะ มังคดุ ทุเรียน สภาพภมู ิอากาศ อำเภอศรีสาคร มภี ูมิอากาศเปน็ เขตร้อนชน้ื แบง่ เปน็ 2 ฤดู 1.ฤดูฝน ฝนตกชกุ ในเดือน พฤษภาคม –ธนั วาคม 2.ฤดูร้อน ในชว่ งเดือน มกราคม-เมษายน อณุ หภมู ิสูงสุด ประมาณ 32 องศาเซลเซยี ส อณุ หภูมิต่ำสด ประมาณ 18 องศาเซลเซียส อณุ หภมู ิเฉลี่ย ประมาณ 25 องศาเซลเซยี ส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ประมาณ 2,518.5 มลิ ลิเมตร อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือติดตอ่ กับตำบลรือเสาะ อ.รอื เสาะ จ.นราธิวาส พื้นท่ี อบต. รือเสาะ ทิศใต้ตดิ ตอ่ กบั ตำบลซากออ.ศรีสาคร จ.นราธวิ าส พื้นที่ อบต. ซากอ ทิศตะวันออกติดตอ่ กบั ตำบลเชงิ ครี อี . ศรีสาคร จ.นราธวิ าส พืน้ ที่ อบต. เชงิ คีรี ทิศตะวนั ตกติดตอ่ กับตำบลโคกสะตอ อ. รอื เสาะ จ.นราธวิ าส พื้นท่ี อบต. โคกสะตอ แหลง่ น้ำท่สี ำคญั • ตำบลตะมะยงู มแี หลง่ นำ้ ตามธรรมชาตจิ ำนวน 7 แหง่ คือ คลองไอร์ดาฮง, คลองไอร์ริ, คลองไอรป์ ีเย๊าะ , คลองลโู บะ๊ บาตู, คลองจือแรง, แม่นำ้ สายบรุ ี, บึงตอหลัง • บอ่ น้ำตน้ื จำนวน 666 แห่ง , บอ่ โยก 8 แหง่ , ประปาภเู ขา 2 แห่ง จำนวนประชากร มีประชากรท้งั สิ้น 5,224 คน แยกเปน็ ชาย 2,641 คน หญงิ 2,583 คน ประชากรมคี วามหนาแนน่ เฉลย่ี 194 คน / ตารางกิโลเมตร หมู่ที่ บ้าน ประเภท จำนวนครวั เรอื น ชาย หญิง รวมท้งั ส้นิ 156 1 บา้ นตอหลัง 389 414 803 256 2 บ้านตะมะยูง 186 3 บ้านคลองหงษ์ 572 544 1,116 291 285 576 กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 2
4 บา้ นลูโบ๊ะบาตู 573 527 1,100 219 5 บ้านจือแรง 466 495 961 198 6 บ้านบือแนนากอ 350 318 668 148 2,641 2,583 5,224 1,163 รวมทงั้ ส้นิ จำนวนครัวเรือน 1,163 ครัวเรอื นผลิตภัณฑม์ วลรวมรายไดผ้ ลติ ภณั ฑม์ วลรวมเป็นผลผลติ ทาง การเกษตร เชน่ ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกจิ ประจำอำเภอทำรายได้ใหก้ บั ประชาชน และมผี ลไม้ เช่น ลองกอง เงาะ มังคุด ทกุ เรียนและผลไม้ อนื่ ๆ มากมาย สภาพทางเศรษฐกิจ ประชากรส่วนใหญ่ของตำบลตะมะยูงประกอบอาชีพ เกษตรกรรมทำสวนยางพาราสวนไมผ้ ล , รับจ้างกรีดยาง และรับจ้างทั่วไป ตารางแสดง : พื้นท่ที ำการเกษตรในตำบลตะมะยงู หมู่ท่ี พน้ื ท่ีท้ังหมด(ไร)่ พื้นที่ทำการเกษตร พน้ื ที่ หมายเหตุ (ไร)่ ท่อี ยู่อาศยั (ไร)่ ช่อื หมู่บา้ น 1 2,625 2,350 2 3,351 3,193 125 ตอหลัง 3 3,382 3,012 189 ตะมะยูง 4 2,775 2,520 280 คลองหงส์ 5 3,531 3,248 175 ลโู บ๊ะบาตู 6 3,468 3,285 185 จือแรง รวม 19,132 17,608 97 บือแนนากอ 1,051 แหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน ลำดบั ที่ ชื่อ กศน.ตำบล ทต่ี ้งั หมายเหตุ ๑ กศน.ตำบลตะมะยงู หมู่ที่ ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง ๒ บ้านหนงั สือชุมชน หมทู่ ี่ ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง ๓ รพ.สต.ตำบลตะมะยูง หมทู่ ี่ ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยงู ๔ สถาบันศกึ ษาปอเนาะฯอคี อบี หมทู่ ่ี ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยงู ๕ อบต.ตะมะยูง หมู่ท่ี ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยงู ๖ โรงเรยี นศรวี ารนิ ทร์ หมู่ท่ี ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง ๗ โรงเรยี นบ้านบือแนนากอ หมทู่ ่ี ๖ บ้านบือแนนากอ ตำบลตะมะยงู ๘ ศนู ยเ์ ดก็ เล็กบ้านจอื แรง หมู่ท่ี ๕ บ้านจอื แรง ตำบลตะมะยงู 5. ปัญหาและความตอ้ งการทางการศกึ ษาของประชาชนท่จี ำแนกตามลกั ษณะของกลุ่มเปา้ หมาย กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 3
ด้านการรู้หนังสือ ด้านการศึกษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สายสามัญ) ด้านอาชีพ ด้านการพัฒนา ทกั ษะชวี ิต ด้านการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ด้านปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษาตามอธั ยาศัย ส่วนที่ 2 การวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ ม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis) ข้อมลู การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis) กศน.ตำบลตะมะยูง ปัจจยั ภายใน การวิเคราะห์ จดุ แขง็ และจุดอ่อน 1. การวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายใน 1.1 จดุ แขง็ ของ กศน.ตำบล/แขวง (Strengths - S) ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน.ตำบล/แขวง วิทยากร) ด้านงบประมาณ ด้านอาคารสถานท่ี สอื่ วัสดอุ ุปกรณ์ และด้านโครงสรา้ งองคก์ ร/การบริหารจัดการ คา่ นิยมองคก์ ร .มีการมอบหมายงานตามความถนัดและความสามารถ 1.ผเู้ รยี นนำเอาความรไู้ ปพัฒนาคุณภาพชวี ติ 2.ผู้เรียนสามารถศกึ ษาตอ่ ไดจ้ ำนวนมาก 3.บุคลากรมุ่งมัน่ พฒั นาคุณภาพขององคก์ รและผลผลิตอย่างต่อเนอ่ื ง 4.บุคลากรมีความรู้ความสามารถ และมีความรบั ผิดชอบ 5.บคุ ลากรสามารถใหค้ ำปรึกษาและแก้ไขปัญหาแกเ่ พ่อื นร่วมงานได้ 6.บคุ ลากรมมี นุษยส์ ัมพันธด์ ี 7.บุคลากรปฏบิ ัติงานสามารถเข้าถึงกล่มุ เป้าหมายได้ดี 8.งบประมาณทไี่ ด้รบั จัดสรรจากตน้ สงั กดั มีเพียงพอ 9.มกี ารวางแผนใช้งบประมาณอย่างคุ้มคา่ 10.องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ให้การสนับสนุนงาน กศน. 1.2 จดุ อ่อนของ กศน.ตำบล / แขวง (Weaknesses - W) ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน. ตำบล/แขวง วทิ ยากร) ดา้ นงบประมาณ ดา้ นอาคารสถานที่ ส่ือ วัสดอุ ปุ กรณ์ และด้านโครงสร้างองค์กร/การบริหารจดั การ ค่านิยมองคก์ ร 1.นโยบายบางอยา่ งไมอ่ ยใู่ นแผนแตต่ อ้ งปฏิบัติ 2.ผลผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนโดยภาพรวมยังตำ่ 3.บคุ ลากรส่วนหน่งึ เป็นลูกจา้ งชวั่ คราวขาดความมัน่ คงเร่ืองรายได้และสวสั ดกิ าร 4.การใชง้ บประมาณมีข้อจำกัดบางประการ 5.ขาดวสั ดุอปุ กรณ์เพื่อใช้ในการเรียนการสอนใน กศน.ตำบล 6.สอื่ และอปุ กรณ์ท่มี ีอยยู่ งั ใชไ้ ม่คุม้ ค่าเท่าท่ีควร 7.ขาดบุคลากรดูแลอาคารสถานที่ 8.มกี ารบริหารอยา่ งเป็นระบบแต่ยังไมค่ รบกระบวนการ ปจั จยั ภายนอก การวิเคราะห์ โอกาสและอุปสรรค ปัจจยั O = Opportunities T = Threats 1. งานการศึกษา 1. สังคมชนบททำให้สามารถจดั กิจกรรมได้ 1. สภาพสังคมเปลี่ยนไปทำใหว้ ถิ ชี ีวิต เปลยี่ น กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 4
ข้นั พนื้ ฐาน สะดวก 2. ขาดการปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างหนว่ ยงานกบั ชมุ ชน 2. สถานศึกษาเขา้ ไปมีสว่ นรว่ มในการจดั อย่างตอ่ เนือ่ ง กิจกรรมของชมุ ชน 3. การประชาสมั พนั ธ์ยงั ไมค่ รอบคลุมทกุ กิจกรรม 3. ประชาชนต้องการไดร้ บั การศึกษาเพ่มิ ขน้ึ ละเป้าหมาย 4. มีภูมิปัญญาและแหล่งเรยี นรคู้ รอบคลมุ ทุก 4. ผเู้ รยี น/ผ้รู ับบริการ ยังขาดความ เขา้ ใจงาน ปจั จยั O = Opportunities T = Threats 2. งานการศึกษา พน้ื ที่ทำให้ ผ้รู ับบรกิ ารไดศ้ กึ ษาค้นคว้าด้วย ของศูนย์ กศน. ตอ่ เนื่อง ตนเอง 5. ประชากรบางสว่ นมคี วามจำเป็นในการ 3. งานการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั ประกอบอาชพี สูง จนไมม่ เี วลาให้กับการศึกษา 6. สถานะและบทบาททางสงั คมมีผลตอ่ การเข้า ร่วมกิจกรรมในบางกิจกรรม 1. ผ้เู รียน/ผู้รบั บริการ ประกอบอาชพี 1. ปญั หาการวา่ งงานทำให้ขาดความสนใจในการ เกษตรกรรม และอยใู่ นวัยทำงานท่มี ีรายได้ เข้ารว่ มกจิ กรรม น้อย ทำให้สามารถเขา้ ไปสนบั สนุนสง่ เสรมิ 2. ประชาชนสว่ นใหญม่ อี าชีพรบั จ้างจึงไม่ค่อยไม่ การทำเกษตรอนิ ทรีย์ เกษตร มีเวลาให้การศึกษา ผสมผสาน การปลูกผกั ปลอดสารพิษ 1. พ.ร.บ การศกึ ษาเปิดโอกาสใหท้ อ้ งถนิ่ มี 1. มีการแบ่งพรรค แบง่ พวก ขาดความสามัคคีใน สว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษามากขน้ึ ทำให้ ชมุ ชน จากปญั หาดา้ นการเมืองทำใหก้ ารทำงาน เกิดการระดมความคดิ ในการพฒั นาการศกึ ษา ไมค่ ลอ่ งตัว 2. ไดร้ บั ความรว่ มมือจากภาคเี ครอื ขา่ ย 2. ผ้นู ำบางส่วน ไม่เหน็ ความสำคัญ และไม่ องค์กรทอ้ งถ่นิ ประชาชนหรอื ชุมชนบางส่วน สนับสนุนการศึกษา ในดา้ นการจดั การศกึ ษา กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 5
สว่ นท่ี 3 แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดำเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ของ กศน.ตำบล/แขวง 1. ช่ือสถานศกึ ษา กศน.ตำบตะมะยูง 2. ทีต่ ง้ั /การตดิ ต่อ บ้านคลองหงษ์ หมู่ที่ ๓ ตำบลตะมะยงู อำเภอศรสี าคร จงั หวัดนราธิวาส ๙๖๒๑๐ 3. สงั กดั สำนกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั นราธิวาส สำนกั งาน กศน. สำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ อตั ลกั ษณ์ กศน.ตำบลตะมะยงู “ใฝเ่ รียนรู้ คู่คณุ ธรรมมจี ติ สาธารณะ” เอกลกั ษณ์กศน.ตำบลตะมะยงู “มคี วามรู้ คู่สามัคคี ตามวิถพี อเพยี ง” ปรชั ญา สรา้ งโอกาสทางการศึกษา พัฒนาคุณภาพชวี ติ บนพน้ื ฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง วสิ ัยทัศน์ กศน.ตำบลตะมะยูง เปน็ หนว่ ยงานหลกั ทจ่ี ดั การศึกษาใหแ้ ห่ประชาชนซง่ึ อยนู่ อกระบบโรงเรียนให้มี ความรู้ สามารถนำความรไู้ ปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชีวิตของตนให้ดีข้ึน และพัฒนาชมุ ชนอย่างยัง่ ยนื ตาม แนวเศรษฐกจิ พอเพียง พนั ธกจิ 1.จดั และสง่ เสรมิ การเรยี นรู้คูค่ ุณธรรมให้กบั ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายตามความต้องการในรปู แบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 2.จัดและส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรูเ้ พื่อพฒั นาทกั ษะการทำงานพฒั นาคณุ ภาพและชดเชยโอกาส ทางการศึกษา ๓.สร้างความเข้มแข็งของภาคีเครอื ข่ายในการร่วมจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ใหเ้ ปน็ กลไกในการสง่ เสรมิ การเรียนรตู้ ลอดชีวติ 3.พัฒนาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยสำหรบั ประชาชน กลมุ่ เป้าหมายเพอื่ ให้มีคุณธรรมนำความรแู้ ละทักษะการดำเนนิ ชีวติ บนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง กลยุทธ์การดำเนนิ งาน ๕ประการ 1.ลุยถงึ ท่ีเขา้ ถึงกลมุ่ เป้าหมายทีห่ ลากหลายและทั่วถึง 2.จัดกิจกรรมหลากหลายโดนใจผู้เรยี น / ปรบั วธิ เี รียนเปลยี่ นวิธีสอนให้สอดคล้องกบั สภาพและความ ต้องการของกลมุ่ เปา้ หมายอยา่ งท่วั ถึงและหลากหลาย 3.ขยายแหลง่ เรยี นรแู้ ละเทคโนโลยี / พฒั นาแหล่งเรียนรูแ้ ละภมู ิปัญญาใหเ้ ปน็ ฐานความร้ขู องชมุ ชน 4.ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายและกระจายบรกิ ารการศกึ ษา / ในการจดั การเรียนรูต้ ลอดชีวิตแก่ชุมชนท่ีพลาด โอกาสทางการศกึ ษาและใหช้ ุมชนเลอื กรับบรกิ ารตามความสนใจและความถนัดของตนเอง กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 6
5.พัฒนาประสิทธิภาพการบรหิ ารจดั การ / จดั ระบบบริหารเพ่อื เพม่ิ ประสิทธภิ าพการบริการประชาชนอยา่ ง ทัว่ ถึง เป้าประสงค์ และมีคณุ ภาพ เพือ่ ใหป้ ระชาชนไดร้ บั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างทั่วถงึ บนพน้ื ฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เพือ่ สรา้ งสังคมแหง่ การเรยี นรู้ คูค่ ณุ ธรรม กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 7
นโยบายและจดุ เนนการดําเนินงาน สาํ นกั งาน กศน. ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2564 วสิ ัยทัศน คนไทยทุกชวงวัยไดรับโอกาสทางการศกึ ษา และการเรียนรูตลอดชีวิตอยางมีคณุ ภาพ มที ักษะท่ีจําเปน และสมรรถนะทส่ี อดรับกบั ทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดํารงชีวิตไดอยางเหมาะสม บนรากฐานของหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พนั ธกิจ 1. จัดและสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีคุณภาพ สอดคลองกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือยกระดับการศึกษาและ พัฒนา สมรรถนะ ทักษะการเรยี นรูของประชาชนกลุมเปาหมายใหเหมาะสมในแตละชวงวัย ใหพรอมรับการ เปล่ียนแปลงและการปรับตัวในการดํารงชีวิตไดอยางเหมาะสม กาวสูการเปนสังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต อยางย่งั ยนื 2. พัฒนาหลักสตู ร รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู ส่ือและนวตั กรรมเทคโนโลยีทางการศึกษาการ วัดและประเมินผลในทุกรปู แบบใหมีคุณภาพและมาตรฐานสอดคลองกับรูปแบบการจัดการเรยี นรูและบรบิ ทใน ปจจุบนั 3. สงเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนําเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพ่ิมชองทางและ โอกาสการเรยี นรู รวมถึงการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการจัดและใหบริการการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ใหกับประชาชนกลุมเปาหมายอยางท่ัวถงึ 4. สงเสรมิ สนบั สนุน แสวงหา และประสานความรวมมือเชงิ รุกกบั ภาคีเครือขาย ใหเขามามีสวนรวม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรยี นรูตลอดชีวิตในรูปแบบ ตาง ๆ ใหกบั ประชาชน 5. พัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภายในองคกรใหมีเอกภาพ เพื่อการบรหิ ารราชการท่ีดบี นหลักของ ธรรมาภบิ าล มปี ระสิทธภิ าพ ประสิทธิผล และคลองตัวมากยง่ิ ขน้ึ 6. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรใหมีความรู ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรมและ จรยิ ธรรมทดี่ ี เพ่ือเพม่ิ ประสิทธิภาพของการใหบรกิ ารทางการศึกษาและการเรียนรูท่ีมคี ุณภาพมากยง่ิ ขึน้ เปาประสงค 1. ประชาชนผูดอย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนท่ัวไปไดรับโอกาสทางการ ศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การศึกษาตอเน่ือง และการศึกษาตาม อัธยาศัยท่มี ีคุณภาพอยางเทาเทียมและท่ัวถึง เปนไปตามบริบท สภาพปญหาและความตองการของแตละกลุม เปาหมาย 2. ประชาชนไดรับการยกระดับการศกึ ษา สรางเสรมิ และปลกู ฝงคณุ ธรรม จริยธรรม หนาทีค่ วามเปน กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 8
พลเมอื งที่ดีภายใตการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริยเปนประมุข ที่สอดคลองกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันนําไปสูการยกระดับคุณภาพชีวติ และเสริมสรางความเขมแข็งใหชุมชน เพื่อ พัฒนาไปสูความมั่นคงและยั่งยนื ทางดานเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร และส่งิ แวดลอม 3. ประชาชนไดรับการพฒั นาทักษะการเรียนรูและแสวงหาความรูดวยตนเองผานแหลงเรียนรู ชองทางการเรยี นรู และกิจกรรมการเรยี นรูรูปแบบตาง ๆ รวมท้งั มเี จตคตทิ างสังคม การเมือง วิทยาศาสตร และเทคโนโลยีทเี่ หมาะสม สามารถคิด วิเคราะหแยกแยะอยางมีเหตุผล และนาํ ไปประยุกตใชในชีวิตประจาํ วัน รวมถึงการแกปญหาและพัฒนาคุณภาพชีวติ ไดอยางสรางสรรค 4. หนวยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสตู ร สอื่ นวตั กรรม ชองทางการเรยี นรู และกระบวนการ เรยี นรูในรปู แบบท่หี ลากหลาย ทนั สมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรูในสถานการณตาง ๆ เพอื่ แกปญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความตองการของประชาชนและชุมชน รวมท้ังตอบสนองกับการเปล่ียนแปลง บริบทดานเศรษฐกจิ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตรและสิ่งแวดลอม 5. หนวยงานและสถานศึกษา กศน.สามารถนําเทคโนโลยีทางการศึกษาและเทคโนโลยดี ิจทิ ัลมาพฒั นา เพ่ือเพ่ิมชองทางการเรยี นรู และนํามาใชในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรูและโอกาสการเรียนรูให กบั ประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือขายทุกภาคสวน มีสวนรวมในการจัด สงเสริม และสนับสนุนการศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั รวมทั้งการขับเคล่อื นกจิ กรรมการเรียนรูของชมุ ชน 7. หนวยงานและสถานศึกษามรี ะบบการบริหารจัดการองคกรทีท่ ันสมัย มีประสทิ ธภิ าพ และเปนไป ตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททกุ ระดับไดรบั การพฒั นาเพ่อื เพม่ิ ทกั ษะและสมรรถนะในการปฏิบัตงิ าน และการใหบรกิ ารทางการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถงึ การปฏบิ ตั ิงานตามสายงานอยาง มีประสทิ ธภิ าพ ตัวชวี้ ดั รายละเอยี ดตวั ชีว้ ดั คาเปาหมาย 1. ตัวช้วี ัดเชิงปริมาณ 1.1 รอยละของผูเรียนทีไ่ ดรบั การสนบั สนุนคาใชจายการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษา รอยละ 80 ขน้ั พืน้ ฐานตามสิทธทิ ี่กําหนดไว (เทียบกับเปาหมายตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจาย 756,675 คน ประจําป) 1.2 จาํ นวนของผูลงทะเบียนเขารวมกจิ กรรมการเรยี นร/ู ไดรบั บริการกิจกรรมการศึกษา 9,800 คน ตอเน่อื ง ที่สอดคลองกับสภาพ ปญหา และความตองการ ไมนอยกวา 1.3 จํานวนของผูรับบริการ/เขารวมกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย 3,000 ฉบับ 1.4 จํานวนบันทึกขอตกลงความรวมมือ (MOU) รวมกับภาคเี ครอื ขาย 1,787 แหง 1.6 จํานวนแหลงเรียนรใู นระดบั ตาํ บลทม่ี คี วามพรอมในการใหบรกิ าร/การจดั กิจกรรม 424,500 คน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 100 คน 1.7 จาํ นวนประชาชนทเี่ ขารับการพัฒนาทกั ษะอาชพี เพ่อื สรางรายไดและการมีงานทาํ 1.8 จาํ นวน ครู กศน. ตําบล ทีไ่ ดรบั การพฒั นาศกั ยภาพดานการจดั การเรยี นการสอน กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 9
ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 1.9 จาํ นวนประชาชนทีไ่ ดรับการฝกอบรมภาษาตางประเทศเพือ่ การสื่อสารดานอาชพี 22,272 คน 1.10 จาํ นวนผูผานการอบรมหลกั สูตรการดูแลผูสูงอายุ 6,800 คน 1.11 จํานวนประชาชนทผ่ี านการอบรมจากศูนยดจิ ทิ ัลชมุ ชน 185,600 คน รายละเอียดตัวชีว้ ดั คา่ เปาหมาย 1.12 จาํ นวนสือ่ การเรียนออนไลน หลักสตู รการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอรเพื่องาน ไมนอยกวา 30 อาชีพ วิชา 1.13 จาํ นวนบคุ ลากรสงั กัดสํานักงาน กศน. ที่ไดรับการพัฒนาศักยภาพและความกาว หน 2,807 คน าตามสายงานในอาชพี 1.14 จํานวนบุคลากรสงั กดั สํานักงาน กศน. ทเ่ี ขารบั การอบรมดานการปกปองและเชดิ ชู 10,000 คน สถาบันหลักของชาติ ดานความปรองดองสมานฉันท ดานการมจี ิตสาธารณะ และดานทกั ษะในการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน 1.15 จํานวนบทความเพ่ือการเรียนรูตลอดชีวิตในระดับตาํ บล ในหัวขอตางๆ อาทิ อาชีพ 8,000 ฉบบั ชุมชน วฒั นธรรมทองถ่นิ ภมู ปิ ญญา 1.16 จํานวนศูนยการเรยี นรตู นแบบ (Co-Learning Space) 77 แหง 2. ตัวช้วี ดั เชงิ คุณภาพ 2.1 รอยละของนกั ศึกษาที่คาดวาจะจบในทุกระดับ ทีส่ ําเร็จการศึกษาในแตละภาคเรยี น รอยละ 75 2.2 รอยละของผูจบหลักสตู ร/กจิ กรรมการศึกษาตอเนื่อง ท่สี ามารถนาํ ความรูความเขาใจ รอยละ 80 ไปใชพฒั นาตนเองไดตามจุดมุงหมายของหลักสูตร/กิจกรรม 2.3 รอยละของผูผานการพัฒนาทกั ษะอาชีพ สามารถนําความรูไปใชในการประกอบ รอยละ 80 อาชีพหรอื พัฒนาตนเองได 2.4 รอยละของผูเรียนในเขตพนื้ ที่จังหวดั ชายแดนภาคใตทไ่ี ดรับการพัฒนาศักยภาพ รอยละ 80 หรือทกั ษะดานอาชพี สามารถมงี านทําหรือนําไปประกอบอาชีพได 2.5 รอยละของประชาชนท่ไี ดรบั บรกิ าร/ เขารวมกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั รอยละ 80 มคี วามรูความเขาใจ/ เจตคต/ิ ทักษะ ตามจุดมุงหมายของกิจกรรมท่ีกาํ หนด 2.6 รอยละของผูสูงอายุที่เปนกลุมเปาหมาย มีโอกาสมาเขารวมกิจกรรมการศึกษา รอยละ 80 ตลอดชวี ิต 2.7 รอยละของบคุ ลากรท่ีไดรบั การพฒั นา ทม่ี ีการพฒั นาตนเองในดานพฤตกิ รรม รอยละ 90 บุคลิกภาพ ทศั นคติ คานยิ มทพ่ี ึงประสงค ภาวะผูนํา และมีจรรยาบรรณวชิ าชพี ทเ่ี หมาะสมย่ิงขึ้น กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 10
จุดเนนการดาํ เนินงานประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ 1. นอมนําพระบรมราโชบายดานการศกึ ษาสูการปฏิบัติ 1.1 สบื สานศาสตรพระราชา โดยการสรางและพัฒนาศูนยสาธิตและเรียนรู “โคก หนอง นา โมเดล”เพื่อเปนแนวทางในการจดั การบริหารทรัพยากรรูปแบบตาง ๆ ท้ังดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุตาง ๆ และสงเสริมการใชพลังงานทดแทนอยางมีประสิทธิภาพ 1.2 จัดใหมี “หนึง่ ชมุ ชน หนึง่ นวัตกรรม การพฒั นาชมุ ชน” เพอื่ ความกนิ ดี อยูดี มงี านทาํ 1.3 การสรางกลุมจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งปลูกฝงผูเรียนใหมีหลักคิดที่ถูกตองดาน คุณธรรมจริยธรรม มีทัศนคติท่ีดีตอบานเมือง และเปนผูมีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผาน กิจกรรมการพฒั นาผูเรียนโดยการใชกระบวนการลูกเสอื และยุวกาชาด 2. สงเสริมการจดั การศึกษาและการเรียนรูตลอดชวี ติ สาํ หรับประชาชนที่เหมาะสมกบั ทกุ ชวงวยั 2.1 สงเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทํา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และ การสรางนวัตกรรมและผลิตภัณฑที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความตองการของ ประชาชนผูรบั บรกิ าร และสามารถออกใบรบั รองความรูความสามารถเพ่อื นําไปใชในการพัฒนาอาชพี ได 2.2 สงเสรมิ และยกระดับทักษะภาษาอังกฤษใหกบั ประชาชน (English for All) 2.3 สงเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสําหรบั ผูที่เขาสสู ังคมสงู วัย อาทิ การฝกอบรมอาชีพ ท่เี หมาะสมรองรบั สงั คมสูงวยั หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวติ และสงเสริมสมรรถนะผูสูงวัย และหลกั สตู รการ ดูแลผสู งู วยั โดยเนนการมสี วนรวมกบั ภาคีเครือขายทกุ ภาคสวนในการเตรียมความพรอมเขาสูสังคมสูงวยั 3. พัฒนาหลักสูตร ส่ือ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหลงเรียนรู และรูปแบบการจัด การศกึ ษาและการเรยี นรู ในทุกระดับ ทกุ ประเภท เพอื่ ประโยชนตอการจดั การศกึ ษาทเ่ี หมาะสม กบั ทกุ กลุมเปาหมาย มีความทนั สมัย สอดคลองและพรอมรองรับกับบริบทสภาวะสงั คมปจจุบนั ความตองการ ของผูเรียน และสภาวะการเรียนรูในสถานการณตาง ๆ ทจี่ ะเกิดขน้ึ ในอนาคต 3.1 พัฒนาระบบการเรียนรู ONIE Digital Learning Platform ที่รองรับ DEEPของ กระทรวงศึกษาธกิ ารและชองทางเรียนรูรปู แบบอนื่ ๆ ท้ัง Online On-site และ On-air 3.2 พัฒ นาแหลงเรียน รูประเภทตาง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/Digital Library ศูนยการเรียนรูทุกชวงวัย และศูนยการเรียนรูตนแบบ กศน. (Co- Learning Space) เพือ่ ใหสามารถ “เรยี นรูไดอยางทัว่ ถงึ ทุกที่ ทกุ เวลา” 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝกอบรมแบบออนไลน มีระบบการเทียบโอน ความรูระบบสะสมหนวยการเรียนรู (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการใหบริการระบบทดสอบ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส(E-exam) 4. บูรณาการความรวมมือในการสงเสรมิ สนับสนุน และจัดการศกึ ษาและการเรียนรูใหกบั ประชาชนอยางมีคณุ ภาพ กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 11
4.1 รวมมือกับภาคีเครือขายทัง้ ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองคกรปกครองสวนทองถ่ิน รวมท้งั สงเสรมิ และสนบั สนนุ การมีสวนรวมของชุมชน อาทิ การสงเสริมการฝกอาชีพทเี่ ปนอตั ลกั ษณและบริบท ของชุมชนสงเสริมการตลาดและขยายชองทางการจําหนายเพือ่ ยกระดบั ผลิตภัณฑ/สินคา กศน. 4.2 บรู ณาการความรวมมอื กับหนวยงานตาง ๆ ในสงั กัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ทง้ั ในสวนกลาง และภมู ภิ าค 5. พัฒนาศกั ยภาพและประสิทธิภาพในการทํางานของบุคลากร กศน. 5.1 พฒั นาศักยภาพและทกั ษะความสามารถดานเทคโนโลยดี ิจทิ ัล (Digital Literacy & Digital Skills) ใหกบั บุคลากรทกุ ประเภททกุ ระดับ รองรบั ความเปนรฐั บาลดิจิทัลอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั พัฒนาครใู หมที ักษะความรู และความชํานาญในการใชภาษาองั กฤษ การผลิตสือ่ การเรียนรูและการจัดการ เรยี นการสอนเพอื่ ฝกทักษะการคิดวเิ คราะหอยางเปนระบบและมเี หตุผล เปนขนั้ ตอน 5.2 จัดกจิ กรรมเสริมสรางความสมั พนั ธของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพ่ิมประสิทธภิ าพ ในการทํางานรวมกนั ในรูปแบบตาง ๆ อาทิ การแขงขนั กีฬา การอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารพฒั นาประสิทธิภาพใน การทํางาน 6. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสรางและระบบบริหารจัดการองคกร ปจจยั พนื้ ฐานในการจัดการศกึ ษา และการประชาสัมพนั ธสรางการรับรูตอสาธารณะชน 6.1 เรงผลกั ดันรางพระราชบญั ญัตสิ งเสริมการเรยี นรู พ.ศ. .... ใหสําเร็จ และปรับโครงสราง การบริหารและอัตรากําลังใหสอดคลองกับบรบิ ทการเปลีย่ นแปลง เรงการสรรหา บรรจุ แตงตง้ั ที่มี ประสิทธิภาพ 6.2 นาํ นวตั กรรมและเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลมาใชในการบรหิ ารจัดการ พัฒนาระบบการทํางาน และขอมูลสารสนเทศดานการศกึ ษาที่ทันสมัย รวดเรว็ และสามารถใชงานทนั ที โดยจดั ตั้งศนู ยขอมลู กลาง กศน. เพ่ือจัดทําขอมลู กศน. ท้งั ระบบ (ONE ONIE) 6.3 พฒั นา ปรับปรงุ ซอมแซม ฟนฟอู าคารสถานท่ี และสภาพแวดลอมโดยรอบของหนวย งานสถานศกึ ษา และแหลงเรยี นรูทุกแหง ใหสะอาด ปลอดภัย พรอมใหบริการ 6.4 ประชาสมั พันธ/สรางการรับรใู หกบั ประชาชนทว่ั ไปเก่ียวกบั การบริการทางวชิ าการ/กจิ กรรมดานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย และสรางชองทางการแลกเปลยี่ นเรยี นรูดานวิชาการ ของหนวยงานและสถานศึกษาในสงั กดั อาทิ ขาวประชาสมั พนั ธ ผานสอื่ รปู แบบตาง ๆ การจัดนทิ รรศการ/ มหกรรมวิชาการ กศน. การจัดการศึกษาและการเรยี นรูในสถานการณการแพรระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ของสํานกั งาน กศน. จากสถานการณการแพรระบาดของเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) เมอ่ื เดือนธนั วาคม 2562 สงผลกระทบตอระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทกุ ระดับช้ัน ซึ่งรัฐบาลและ กระทรวงศึกษาธิการไดออกประกาศและมีมาตรการเฝาระวงั เพอื่ ปองกันการแพรกระจายของเชือ้ ไวรัสดังกลาว อาทิ กําหนดใหมีการเวนระยะหางทางสงั คม (Social Distancing) หามการใชอาคารสถานทีข่ องโรงเรยี นและ สถาบันการศกึ ษาทุกประเภท เพ่อื จัดการเรยี นการสอน การสอบ ฝกอบรม หรอื การทาํ กจิ กรรมใด ๆ ท่มี ผี ูเขาร วมเปนจํานวนมาการปดสถานศกึ ษาดวยเหตุพิเศษ การกําหนดใหใชวิธีการจดั การเรียนการสอนรปู แบบใหม กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 12
อาทิ การจัดการเรียนรูแบบออนไลน การจดั การเรยี นรผู านระบบการออกอากาศทางโทรทศั น วิทยุ และ โซเซียลมีเดยี ตาง ๆ รวมถงึ การสื่อสารแบบทางไกลหรอื ดวยวธิ ีอเิ ล็กทรอนิกส ในสวนของสาํ นักงาน กศน. ไดมีการพฒั นา ปรบั รปู แบบ กระบวนการ และวธิ ีการดาํ เนินงาน ในภารกิจตอเนอ่ื งตาง ๆ ในสถานการณการใชชวี ิตประจาํ วัน และการจัดการเรียนรูเพ่ือรองรบั การชีวิตแบบ ปกตวิ ถิ ใี หม(New Normal) ซง่ึ กจิ กรรมการเรียนรูตาง ๆ ไดใหความสาํ คัญกบั การดาํ เนนิ งานตามมาตรการ การปองกันการแพรระบาดของเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) อาทิ การจัดกจิ กรรมการเรียนรูทุก ประเภทหากมคี วามจําเปนตองมาพบกลุม หรอื อบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาตองมีมาตรการปองกันที่เขมงวด มเี จลแอลกอฮอล์ลางมอื ผูรบั บรกิ ารตองใสหนากากอนามัยหรือหนากากผา ตองมกี ารเวนระยะหางระหวาง บุคคลเนนการใชสอื่ ดิจิทัลและเทคโนโลยอี อนไลนในการจดั การเรียนการสอน ภารกจิ ตอเนอ่ื ง 1. ดานการจดั การศึกษาและการเรียนรู 1.1 การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแตปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานโดย ดําเนินการใหผูเรียนไดรับการสนับสนุนคาจัดซ้ือหนังสือเรียน คาจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผูเรียน และคา จดั การเรียนการสอนอยางทั่วถึงและเพียงพอเพ่ือเพ่ิมโอกาสในการเขาถึงบริการทางการศึกษาท่ีมีคณุ ภาพโดย ไมเสียคาใชจาย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานใหกับกลุมเปาหมายผูดอย พลาดและ ขาดโอกาสทางการศึกษา ผานการเรียนแบบเรียนรูดวยตนเอง การพบกลุม การเรียนแบบช้ันเรยี น และการจดั การศกึ ษาทางไกล 3) พัฒนาประสิทธิภาพ คณุ ภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพน้ื ฐาน ทง้ั ดานหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน สื่อและนวตั กรรม ระบบการวัดและประเมนิ ผล การเรยี น และระบบการใหบรกิ ารนกั ศกึ ษาในรูปแบบอ่นื ๆ 4) จัดใหมีการประเมนิ เพื่อเทยี บระดบั การศึกษา และการเทียบโอนความรูและประสบการณ ท่มี ีความโปรงใส ยตุ ิธรรม ตรวจสอบได มมี าตรฐานตามที่กาํ หนด และสามารถตอบสนองความตองการ ของกลุมเปาหมายไดอยางมีประสิทธิภาพ 5) จัดใหมีกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพผูเรยี นทีม่ คี ุณภาพท่ผี ูเรยี นตองเรยี นรูและเขารวมปฏบิ ัติ กจิ กรรม เพ่ือเปนสวนหนง่ึ ของการจบหลกั สูตร อาทิ กจิ กรรมเสรมิ สรางความสามัคคี กจิ กรรมเก่ยี วกับการปอง กันและแกไขปญหายาเสพติดการแขงขันกีฬา การบําเพ็ญสาธารณประโยชนอยางตอเน่ือง การสงเสริมการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ทรงเปนประมุข กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี และยวุ กาชาด กิจกรรมจติ อาสา และการจดั ต้งั ชมรม/ชุมนมุ พรอมทั้งเปดโอกาสใหผูเรียนนาํ กิจกรรมการบาํ เพ็ญประโยชนอื่น ๆนอกหลักสตู รมาใชเพม่ิ ช่ัวโมงกิจกรรมใหผเู รยี นจบตามหลักสตู รได 1.2 การสงเสริมการรูหนงั สอื 1) พัฒนาระบบฐานขอมูลผูไมรูหนังสือ ใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัยและเปนระบบ เดยี วกนั ท้ังสวนกลางและสวนภูมิภาค 2) พฒั นาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเคร่อื งมอื วัดผลและเครือ่ งมือการดําเนินงานการส งเสรมิ การรูหนังสือที่สอดคลองกับสภาพและบริบทของแตละกลุมเปาหมาย กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 13
3) พัฒนาครู กศน.และภาคีเครือขายท่ีรวมจัดการศึกษา ใหมีความรู ความสามารถ และทักษะ การจัดกระบวนการเรียนรูใหกับผูไมรูหนังสืออยางมีประสิทธิภาพ และอาจจัดใหมีอาสาสมัครสงเสริมการรู หนงั สือในพน้ื ที่ท่มี ีความตองการจําเปนเปนพิเศษ 4) สงเสริมสนบั สนุนใหสถานศึกษาจัดกิจกรรมสงเสรมิ การรูหนังสือการคงสภาพการรูหนงั สือการ พฒั นาทักษะการรูหนงั สือใหกับประชาชนเพอ่ื เปนเคร่อื งมือในการศกึ ษาและเรยี นรูอยางตอเน่ืองตลอดชวี ิต ของประชาชน 1.3 การศึกษาตอเน่ือง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทําอยางย่ังยืน โดยใหความสาํ คัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทําในกลุมอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรอื การ บริการรวมถงึ การเนนอาชีพชางพ้ืนฐาน ท่สี อดคลองกับศักยภาพของผูเรยี น ความตองการและศกั ยภาพของแต ละพนื้ ท่ีมีคุณภาพไดมาตรฐานเปนที่ยอมรบั สอดรบั กบั ความตองการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ ตลอดจนสรางความเขมแขง็ ใหกับศูนยฝกอาชพี ชุมชน โดยจัดใหมีการสงเสรมิ การรวมกลุมวิสาหกิจชุมชน การ พัฒนาหนึ่งตาํ บลหน่ึงอาชพี เดน การประกวดสินคาดีพรเี ม่ียม การสรางแบรนดของ กศน. รวมถึงการสงเสริม และจัดหาชองทางการจําหนายสินคาและผลิตภัณฑ และใหมีการกํากับ ติดตาม และรายงานผลการจัด การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาํ อยางเปนระบบและตอเน่ือง 2) จดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาทักษะชวี ิตใหกบั ทุกกลุมเปาหมาย โดยเฉพาะคนพกิ าร ผูสงู อายุ ท่ีสอดคลองกับความตองการจําเปนของแตละบุคคล และมุงเนนใหทุกกลุมเปาหมายมีทักษะการดํารงชีวิต ตลอดจนสามารถประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองไดมีความรูความสามารถในการบริหารจัดการชีวติ ของตนเองให อยูในสังคมไดอยางมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณตาง ๆ ท่ีเกิดขึ้นในชีวิตประจําวันไดอยางมี ประสิทธิภาพและเตรียมพรอมสําหรับการปรับตัวใหทันตอการเปล่ียนแปลงของขาวสารขอมูลและเทคโนโลยี สมัยใหมในอนาคตโดยจัดกิจกรรมท่ีมีเน้ือหาสําคัญตาง ๆ เชน การอบรมจิตอาสา การใหความรูเพื่อการปอง การการแพรระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคณุ ธรรมและจริยธรรม การปองกันภยั ยาเสพตดิ เพศศกึ ษา การปลูกฝงและการสรางคานิยมทพ่ี ึงประ สงคความปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ยสนิ ผานการอบรมเรยี นรูในรปู แบบตาง ๆ อาทิ คายพัฒนาทกั ษะชีวติ การ จัดต้งั ชมรม/ชุมนุมการอบรมสงเสรมิ ความสามารถพิเศษตางๆ เปนตน 3) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชุมชน โดยใชหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู แบบบรู ณาการในรูปแบบของการฝกอบรมการประชมุ สัมมนา การจดั เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรูการจดั กิจกรรมจิต อาสา การสรางชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอ่ืนๆ ที่เหมาะสมกับกลุมเปาหมาย และบริบทของชุมชนแตละ พ้ืนที่ เคารพความคิดของผูอ่นื ยอมรบั ความแตกตางและหลากหลายทางความคิดและอดุ มการณ รวมทั้งสงั คม พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการใหบุคคลรวมกลุมเพื่อแลกเปล่ียนเรียนรูรวมกัน สรางกระบวนการจิต สาธารณะการสรางจิตสํานึกความเปนประชาธิปไตยการเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบตอหนาท่ี ความเปนพลเมืองท่ีดีภายใตการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข การสงเสริม คุณธรรม จริยธรรมการเปนจิตอาสา การบําเพ็ญประโยชนในชุมชนการ บริหารจัดการน้ํา การรับมือกับสา ธารณภัยการอนุรักษพลังงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม การชวยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนา สงั คมและชุมชนอยางยง่ั ยนื 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผานกระบวนการเรียนรูตลอด ชีวิตในรูปแบบตางๆ ใหกับประชาชน เพื่อเสริมสรางภูมิคุมกัน สามารถยืนหยัดอยูไดอยางม่ันคง และมีการ บรหิ ารจัดการความเส่ียงอยางเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศสูความสมดุลและยง่ั ยนื กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 14
1.4 การศึกษาตามอธั ยาศยั 1) พฒั นาแหลงการเรยี นรูท่ีมบี รรยากาศและสภาพแวดลอมที่เออ้ื ตอการอานและพฒั นาศกั ยภาพ การเรียนรูใหเกิดข้ึนในสังคมไทย ใหเกิดขึ้นอยางกวางขวางและท่ัวถึง เชน การพัฒนา กศน. ตําบล หองสมุด ประชาชนทุกแหงใหมีการบริการท่ีทันสมัย สงเสรมิ และสนับสนุนอาสาสมัครสงเสริมการอาน การสรางเครือข ายสงเสริมการอาน จัดหนวยบริการหองสมุดเคลื่อนที่ หองสมุดชาวตลาด พรอมหนังสือและอุปกรณเพ่ือจัด กิจกรรมสงเสริมการอานและการเรียนรูที่หลากหลายใหบริการกับประชาชนในพื้นท่ีตางๆ อยางทั่วถึง สม่ําเสมอ รวมทงั้ เสริมสรางความพรอมในดานบุคลากร ส่อื อุปกรณเพอื่ สนบั สนุนการอาน และการจดั กิจกรรม เพือ่ สงเสริมการอานอยางหลากหลายรปู แบบ 2) จดั สรางและพฒั นาศนู ยวทิ ยาศาสตรเพอื่ การศึกษา ใหเปนแหลงเรยี นรูวิทยาศาสตรตลอดชวี ิต ของประชาชน เปนแหลงสรางนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตรและเปนแหลงทองเท่ียวเชิงศลิ ปะวิทยาการประจําท องถ่ินโดยจัดทําและพัฒ นานิทรรศการส่ือและกิจกรรมการศึกษาท่ีเน นการเสริมสร างความรูและสรางแรง บันดาลใจดานวิทยาศาสตรสอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห การคิดเชิงสรางสรรค และปลูกฝงเจตคติทาง วทิ ยาศาสตรผานการกระบวนการเรียนรูท่ีบูรณาการความรูดานวิทยาศาสตร ควบคูกับเทคโนโลยี วิศวกรรม ศาสตรและคณิตศาสตรรวมทั้งสอดคลองกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมทงั้ ระดับภูมิภาคและระดับโลกเพื่อใหประชาชนมีความรูและสามารถนําความรูและทักษะไปประยุกตใชใน การดําเนินชวี ติ การพฒั นาอาชีพ การรักษาสงิ่ แวดลอม การบรรเทาและปองกนั ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ รวมท้งั มี ความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกท่ีเป นไปอยางรวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ไดอยางมีประสิทธภิ าพ 3) ประสานความรวมมอื หนวยงาน องคกร หรือภาคสวนตางๆ ทม่ี แี หลงเรยี นรูอ่นื ๆ เพื่อสงเสริม การจัดการศึกษาตามอัธยาศยั ใหมรี ูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความตองการของประชาชน เชน พิพิธ ภัณฑศูนยเรยี นรู แหลงโบราณคดี วดั ศาสนาสถาน หองสมดุ รวมถึงภมู ปิ ญญาทองถน่ิ เปนตน 2. ดานหลกั สูตร สอ่ื รูปแบบการจดั กระบวนการเรียนรู การวดั และประเมนิ ผลงานบรกิ าร ทางวชิ าการ และการประกนั คุณภาพการศึกษา 2.1 สงเสรมิ การพัฒนาหลกั สตู ร รปู แบบการจดั กระบวนการเรียนรูและกจิ กรรมเพ่ือสงเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน สมรรถนะ และหลักสูตรทองถ่ินท่ีสอดคลองกับสภาพบริบทของพื้นที่และความตองการของกลุมเปาหมายและ ชมุ ชน 2.2 สงเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน ส่ืออิเล็กทรอนิกสและสื่ออ่ืน ๆ ที่เอื้อตอการเรียนรูของผู เรยี นกลุมเปาหมายท่วั ไปและกลมุ เปาหมายพิเศษ เพอ่ื ใหผเู รยี นสามารถเรยี นรูไดทุกที ทุกเวลา 2.3 พฒั นารปู แบบการจดั การศกึ ษาทางไกลใหมีความทันสมัย หลากหลายชองทางการเรียนรู ดวยระบบหองเรยี นและการควบคมุ การสอบรูปแบบออนไลน 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทยี บโอนความรูและประสบกา รณเพื่อใหมีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความตองการของกลุมเปาหมายไดอยางมปี ระสิทธิภาพ รวมท้งั มกี ารประชาสัมพนั ธใหสาธารณชนไดรบั รูและสามารถเขาถึงระบบการประเมนิ ได กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 15
2.5 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสตู ร โดยเฉพาะหลักสูตรใน ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานใหไดมาตรฐานโดยการนําแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส(e- Exam) มาใชอยางมีประสิทธภิ าพ 2.6 สงเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจยั เพ่ือพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจดั กระบวนการเรียนรู การวัดและประเมินผล และเผยแพรรูปแบบการจัด สงเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังใหมีการนําไปสูการปฏิบัติอยางกวางขวางและมีการพัฒนาใหเหมาะสมกับ บรบิ ทอยางตอเนอื่ ง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาใหไดมาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการ ประกันคุณภาพภายในทส่ี อดคลองกบั บรบิ ทและภารกจิ ของ กศน. มากขึ้น เพื่อพรอมรบั การประเมินคุณภาพ ภายนอกโดยพัฒนาบุคลากรใหมีความรู ความเขาใจ ตระหนักถึงความสําคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถดําเนินการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาไดอยางตอเนื่องโดยใชการประเมินภายในดวย ตนเอง และจัดใหมีระบบสถานศึกษาพี่เลี้ยงเขาไปสนับสนุนอยางใกลชิด สําหรับสถานศึกษาท่ียังไมไดเขารับ การประเมนิ คุณภาพภายนอก ใหพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษาใหไดคุณภาพตามมาตรฐานทก่ี ําหนด 3. ดานเทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศนเพื่อการศึกษาเพ่ือใหเช่ือมโยงและ ตอบสนองตอการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพ่ือกระจาย โอกาสทางการศึกษาสําหรับกลุมเปาหมายตางๆ ใหมีทางเลือกในการเรียนรูที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองใหรูเทาทันสือ่ และเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการสื่อสาร เชน รายการพัฒนาอาชีพเพอื่ การ มีงานทาํ รายการติวเขมเตมิ เต็มความรู รายการ รายการทํากินกไ็ ด ทําขายกด็ ี ฯลฯ เผยแพรทางสถานีวทิ ยุศึกษา สถานีวทิ ยโุ ทรทัศนเพ่ือการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV) และทางอินเทอรเน็ต 3.2 พฒั นาการเผยแพรการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั โดยผานระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และชองทางออนไลนตาง ๆ เชน Youtube Facebook หรือ Application อ่ืน ๆ เพื่อส งเสริมใหครู กศน. นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใชในการสรางกระบวนการเรียนรูดวยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยศุ ึกษาและสถานีโทรทศั นเพอื่ การศกึ ษาเพอ่ื เพ่ิมประสทิ ธภิ าพการผลติ และการออกอากาศใหกลุมเปาหมายสามารถใชเปนชองทางการเรียนรูที่มีคุณภาพไดอยางตอเน่ืองตลอดชีวิต โดยขยายเครือขายการรับฟงใหสามารถรับฟงไดทกุ ที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนที่ทั่วประเทศและเพ่ิมชองทางให สามารถรับชมรายการโทรทัศนไดทั้งระบบ Ku -Band C -Band Digital TV และทางอินเทอรเน็ต พรอมที่ จะรองรบั การพัฒนาเปนสถานวี ทิ ยโุ ทรทัศนเพ่ือการศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พฒั นาระบบการใหบริการสอื่ เทคโนโลยเี พ่อื การศกึ ษาเพื่อใหไดหลายชองทางทง้ั ทาง อินเทอรเนต็ และรูปแบบอ่ืน ๆอาทิApplication บนโทรศัพทเคลอื่ นที่ และ Tablet รวมทงั้ สื่อ Offline ใน รปู แบบตางๆเพ่อื ใหกลมุ เปาหมายสามารถเลือกใชบริการเพ่ือเขาถึงโอกาสทางการศกึ ษาและการเรียนรูไดตาม ความตองการ 3.5 สํารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลดานการใชส่ือเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอยางตอเน่ืองเพื่อนํา ผลมาใชในการพัฒนางานใหมีความถูกตอง ทันสมัยและสามารถสงเสริมการศึกษาและการเรียนรูตลอดชีวิต ของประชาชนไดอยางแทจริง กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 16
4. ดานโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ หรือโครงการอนั เกย่ี วเน่อื งจากราชวงศ 4.1 สงเสรมิ และสนบั สนนุ การดําเนินงานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดําริหรือโครงการ อันเกี่ยวเน่อื งจากราชวงศ 4.2 จดั ทําฐานขอมูลโครงการและกจิ กรรมของ กศน.ที่สนองงานโครงการอนั เนอื่ งมาจาก พระราชดาํ ริหรอื โครงการอันเกี่ยวเน่ืองจากราชวงศเพ่อื นาํ ไปใชในการวางแผน การติดตามประเมินผลและการ พฒั นางานไดอยางมีประสิทธภิ าพ 4.3 สงเสริมการสรางเครือขายการดําเนนิ งานเพื่อสนับสนนุ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เพือ่ ใหเกดิ ความเขมแขง็ ในการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 4.4 พัฒนาศูนยการเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แมฟาหลวง”เพื่อใหมีความพรอมในการจัด การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยตามบทบาทหนาทที่ ี่กําหนดไวอยางมปี ระสิทธิภาพ 4.5 จัดและสงเสริมการเรียนรูตลอดชีวติ ใหสอดคลองกบั วิถชี ีวติ ของประชาชนบนพืน้ ทสี่ ูง ถ่ินทุรกนั ดารและพืน้ ที่ชายขอบ 5. ดานการศกึ ษาในจงั หวัดชายแดนภาคใต พืน้ ที่เขตเศรษฐกจิ พเิ ศษและพ้ืนท่ีบริเวณ ชายแดน 5.1 พัฒนาการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ในจงั หวดั ชายแดนภาคใต 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมสงเสริมการศึกษาและการเรียนรูท่ีตอบสนองป ญหาและความตองการของกลุมเปาหมายรวมทงั้ อตั ลักษณและความเปนพหุวฒั นธรรมของพ้นื ท่ี 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานอยางเขมขนและต อเน่อื งเพอ่ื ใหผเู รยี นสามารถนาํ ความรูท่ไี ดรับไปใชประโยชนไดจริง 3) ใหหนวยงานและสถานศึกษาจัดใหมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแกบุคลากร และนักศกึ ษา กศน.ตลอดจนผูมาใชบรกิ ารอยางทัว่ ถงึ 5.2 พฒั นาการจดั การศกึ ษาแบบบูรณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ 1) ประสานความรวมมือกับหนวยงานที่เก่ียวของในการจัดทําแผนการศึกษาตาม ยุทธศาสตรและบรบิ ทของแตละจงั หวัดในเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ 2) จัดทําหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพื้นท่ี โดยเนนสาขาที่เปนความตองการของ ตลาดใหเกิดการพฒั นาอาชีพไดตรงตามความตองการของพ้ืนท่ี 5.3 จัดการศึกษาเพ่ือความม่ันคงของศูนยฝกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน (ศฝช.) 1) พัฒนาศูนยฝกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพื่อใหเปนศูนยฝกและ สาธิตการประกอบอาชีพดานเกษตรกรรม และศูนยการเรียนรูตนแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดําริ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สาํ หรบั ประชาชนตามแนวชายแดนดวยวธิ ีการเรียนรูท่หี ลากหลาย 2) มุงจัดและพฒั นาการศึกษาอาชพี โดยใชวธิ ีการหลากหลายใชรปู แบบเชิงรุกเพื่อการเข าถงึ กลุมเปาหมาย เชน การจัดมหกรรมอาชพี การประสานความรวมมือกับเครือขาย การจดั อบรมแกนนําดาน อาชีพทเี่ นนเรือ่ งเกษตรธรรมชาตทิ ่สี อดคลองกบั บริบทของชุมชนชายแดน ใหแกประชาชนตามแนวชายแดน 6. ดานบุคลากรระบบการบริหารจดั การ และการมสี วนรวมของทุกภาคสวน 6.1 การพัฒนาบุคลากร กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 17
1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทใหมีสมรรถนะสูงข้ึนอยางตอเนื่อง ทั้งกอนและ ระหวางการดํารงตําแหนงเพ่ือใหมเี จตคติทีด่ ีในการปฏิบัติงานใหมคี วามรูและทักษะตามมาตรฐานตําแหนง ให ตรงกับสายงานความชํานาญ และความตองการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ ดําเนินงานของหนวยงานและสถานศึกษาไดอยางมีประสิทธิภาพรวมท้ังสงเสริมใหขาราชการในสังกัดพัฒนา ตนเองเพอ่ื เล่อื นตําแหนงหรือเลื่อนวทิ ยฐานะโดยเนนการประเมนิ วทิ ยฐานะเชงิ ประจักษ 2) พัฒนาศึกษานิเทศก กศน. ใหมีสมรรถนะที่จําเปนครบถวน มีความเปนมืออาชีพ สามารถปฏิบัติการนิเทศไดอยางมีศักยภาพ เพ่ือรวมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศัยในสถานศกึ ษา 3) พัฒนาหัวหนา กศน.ตําบล/แขวงใหมีสมรรถนะสูงข้ึน เพ่ือการบริหารจัดการ กศน. ตําบล/แขวงและการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอยางมีประสิทธิภาพ โดยเนนการเปนนักจัดการความรู และผูอํานวยความสะดวกในการเรียนรูเพ่ือใหผูเรียนเกิดการเรียนรูที่มปี ระสทิ ธภิ าพอยางแทจรงิ 4) พัฒนาครู กศน. และบคุ ลากรทเี่ กีย่ วของกับการจัดการศกึ ษาใหสามารถจัดรปู แบบการ เรียนรูไดอยางมีคุณภาพโดยสงเสริมใหมีความรูความสามารถในการจัดทําแผนการสอน การจัดกระบวนการ เรยี นรู การวัดและประเมินผล และการวจิ ัยเบื้องตน 5) พัฒนาศักยภาพบคุ ลากร ทีร่ ับผิดชอบการบรกิ ารการศึกษาและการเรียนรู ใหมีความรู ความสามารถและมคี วามเปนมืออาชีพในการจดั บริการสงเสรมิ การเรียนรูตลอดชวี ติ ของประชาชน 6) สงเสรมิ ใหคณะกรรมการ กศน. ทกุ ระดับ และคณะกรรมการสถานศกึ ษา มีสวนรวมใน การบริหารการดําเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน.อยางมีประสทิ ธิภาพ 7) พฒั นาอาสาสมคั ร กศน. ใหสามารถทาํ หนาทส่ี นับสนนุ การจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยไดอยางมีประสิทธภิ าพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสรมิ สรางความสัมพันธระหวางบุคลากรรวมท้ังภาคีเครือขายทั้ง ในและตางประเทศในทุกระดับ โดยจัดใหมีกิจกรรมเพ่ือเสริมสรางสัมพันธภาพและเพ่ิมประสิทธิภาพในการ ทํางานรวมกันในรูปแบบที่หลากหลายอยางตอเน่ืองอาทิ การแขงขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา ประสทิ ธภิ าพในการทํางาน 6.2 การพฒั นาโครงสรางพน้ื ฐานและอตั รากาํ ลงั 1) จัดทาํ แผนการพัฒนาโครงสรางพ้นื ฐานและดาํ เนินการปรบั ปรุงสถานท่ีและวัสดอุ ปุ กรณ ใหมคี วามพรอมในการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู 2) สรรหา บรรจุ แตงตั้ง และบริหารอัตรากําลงั ที่มอี ยูทัง้ ในสวนทีเ่ ปนขาราชการ พนกั งาน ราชการและลูกจาง ใหเปนไปตามโครงสรางการบริหารและกรอบอตั รากําลงั รวมทั้งรองรับกบั บทบาทภารกิจ ตามทกี่ าํ หนดไวใหเกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ในการปฏบิ ัติงาน 3) แสวงหาความรวมมือจากภาคีเครือขายทุกภาคสวนในการระดมทรพั ยากรเพอ่ื นํามาใช ในการปรับปรุงโครงสรางพื้นฐานใหมีความพรอมสําหรับดําเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย และการสงเสริมการเรียนรูสาํ หรบั ประชาชน 6.3 การพัฒนาระบบบรหิ ารจัดการ 1) พฒั นาระบบฐานขอมลู ใหมคี วามครบถวน ถูกตอง ทันสมัย และเชอ่ื มโยงกันทัว่ ประเทศ อยางเปนระบบเพื่อใหหนวยงานและสถานศึกษาในสงั กัดสามารถนาํ ไปใชเปนเครอ่ื งมือสาํ คัญในการบริหารการ วางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมท้ังจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 18
2) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกํากับ ควบคุม และเรงรดั การเบกิ จายงบประมาณใหเปนตามเปาหมายทก่ี าํ หนดไว 3) พัฒนาระบบฐานขอมูลรวมของนักศึกษา กศน. ใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัย และเชอ่ื มโยงกันทั่วประเทศ สามารถสบื คนและสอบทานไดทนั ความตองการเพือ่ ประโยชนในการจดั การศึกษา ใหกับผูเรยี นและการบรหิ ารจัดการอยางมปี ระสทิ ธิภาพ 4) สงเสรมิ ใหมีการจดั การความรูในหนวยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษา วจิ ยั เพ่อื สามารถนํามาใชในการพัฒนาประสิทธภิ าพการดาํ เนนิ งานทส่ี อดคลองกับความตองการของประชาชน และชมุ ชนพรอมท้งั พฒั นาขดี ความสามารถเชิงการแขงขนั ของหนวยงานและสถานศึกษา 5) สรางความรวมมือของภาคีเครือขายทุกภาคสวน ท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมทั้งใน ประเทศและตางประเทศ รวมทั้งสงเสริมและสนับสนุนการมีสวนรวมของชุมชนเพื่อสรางความเขาใจ และให เกิดความรวมมอื ในการสงเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรูใหกับประชาชนอยางมคี ุณภาพ 6) สงเสริมการใชระบบสํานักงานอิเล็กทรอนิกส (e -office) ในการบริหารจัดการ เชน ระบบการลา ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกส ระบบการขอใชรถราชการ ระบบการขอใชหองประชมุ เปนตน 7) พัฒนาและปรับระบบวธิ ีการปฏิบัติราชการใหทันสมัย มีความโปรงใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมิชอบ บริหารจดั การบนขอมลู และหลักฐานเชิงประจักษ มงุ ผลสัมฤทธิม์ คี วามโปรงใส 6.4 การกาํ กับ นิเทศติดตามประเมนิ และรายงานผล 1) สรางกลไกการกํากับ นิเทศ ติดตาม ประเมนิ และรายงานผลการดําเนินงานการศกึ ษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยใหเช่อื มโยงกบั หนวยงาน สถานศกึ ษา และภาคเี ครือขายท้ังระบบ 2) ใหหนวยงานและสถานศึกษาทีเ่ กยี่ วของทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกํากบั ตดิ ตาม และรายงานผลการนํานโยบายสูการปฏิบัติ ใหสามารถตอบสนองการดําเนินงานตามนโยบายในแตละเรื่องได อยางมปี ระสทิ ธิภาพ 3) สงเสริมการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และส่ืออื่น ๆ ที่เหมาะสม เพอ่ื การ กํากับนเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยางมปี ระสิทธิภาพ 4) พัฒนากลไกการตดิ ตามประเมนิ ผลการปฏิบตั ิราชการตามคํารับรองการปฏบิ ัตริ าชการ ประจําปของหนวยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวช้ีวัดในคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําป ของสาํ นักงานกศน.ใหดาํ เนินไปอยางมปี ระสิทธิภาพ เปนไปตามเกณฑ วธิ กี าร และระยะเวลาทก่ี ําหนด 5) ใหมีการเช่ือมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหนวยงานภายในและภายนอกองคกร ตง้ั แตสวนกลางภูมิภาค กลุมจงั หวัด จังหวัดอาํ เภอ/เขตและตาํ บล/แขวง เพ่อื ความเปนเอกภาพในการใชขอมูล และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 19
ยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ปี สาระสำคญั ของยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ –๒๕๗๙) ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๙ มาตรา ๖๕ได้ กำหนดให้มี “ยุทธศาสตร์ชาติ”เพื่อเปน็ ยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาประเทศในระยะยาว พร้อมกบั การปฏิรูปและ การพัฒนาระบบและกลไกการบริหารราชการแผ่นดินในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ให้สามารถนำไปสู่การ ปฏิบตั ิอย่างจริงจงั ซึง่ จะชว่ ยยกระดบั คุณภาพของประเทศไทยในทุกภาคสว่ นและนำพาประเทศไทยใหห้ ลุดพ้น หรือบรรเทาความรุนแรงของสภาพปัญหาที่เกิดข้ึนในปัจจุบัน ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาความเหล่ือมล้ำ ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาความขัดแย้งในสังคมรวมถึงสามารถรับมือกับภัยคุกคามและบริหาร จดั การความเสี่ยงท่จี ะเกดิ ขึน้ ในอนาคตและสามารถเปลี่ยนผา่ นประเทศไปพร้อมๆ กบั การเปล่ยี นแปลงภมู ทิ ศั น์ ใหม่ของโลกได้ ซ่ึงจะทำให้ประเทศไทยยงั คงรักษาบทบาทสำคัญของเวทโี ลก สามารถดำรงรักษาความเปน็ ชาติ ให้มีความมั่นคง และคนไทยในประเทศมีความอยู่ดมี ีสุขอยา่ งถ้วนหน้ากัน สาระสำคัญของยทุ ธศาสตร์ชาติ จะ ประกอบด้วย วิสยั ทศั น์และเป้าหมายของชาตทิ ี่คนไทย ทุกคนต้องบรรลุรว่ มกัน รวมทั้งนโยบายแหง่ ชาติและ มาตรการเฉพาะ ซ่ึงเป็นแนวทาง ทศิ ทาง และวิธีการที่ทุกองค์กรและคนไทยทุกคนต้องมุ่งดำเนินการไปพร้อม กันอย่างประสานสอดคล้อง เพ่ือให้บรรลุซึ่งส่ิงที่คนไทยทุกคนต้องการ คือ “ประเทศไทยม่ันคง ม่ังค่ัง และ ย่ังยืน ในทุกสาขากำลังอำนาจของชาติ”อันได้แก่ การเมืองภายในประเทศ การเมืองต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา การศึกษา การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดล้อม และเทคโนโลยีและการส่ือสาร ดังน้ีวิสัยทัศน์: ประเทศมีความม่ันคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศที่ พฒั นาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักการ: เชิดชูสถาบัน ประยุกต์ใช้หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นฐานในการพัฒนาประเทศ และค่านิยมความเป็นไทยเพ่ือสร้างความปรองดอง ซ่ึง มีองคป์ ระกอบคอื ๑) แนวคิด : เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางท่ีควรจะเป็น โดยมี พ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตด้ังเดิมของคนไทย และเป็นการมองโลกเชิงระบบท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเนน้ การรอดพน้ จากภยั เพ่ือความม่ันคง ๒) คุณลักษณะ : เศรษฐกจิ พอเพียง สามารถนำมาประยุกตใ์ ช้กบั การปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเน้น การปฏิบัตบิ นทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นข้ันเป็นตอน ๓) คำนิยาม :ความพอเพียงประกอบด้วย ๓ คุณลกั ษณะ ได้แก่ ความพอประมาณคือความพอดที ี่ไม่ น้อยหรือมากเกินไป ความมีเหตุมีผล คือการตัดสินใจโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัย และคำนึงถึงผลท่ีคาดว่าจะ เกิดข้ึนอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว คือการเตรียมพร้อมรับผลกระทบและความเปลี่ยนแปลงที่ คาดการณ์ว่าจะเกิดขึน้ ในอนาคต ๔) เง่ือนไข : การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงน้ัน ต้องอาศัยทั้ง ความรแู้ ละคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ๒ เงื่อนไข ไดแ้ ก่ เงือ่ นไขความรู้ อันประกอบด้วยความร้เู กีย่ วกับวชิ าการต่างๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ งอย่างรอบด้าน ความรอบคอบทจี่ ะใชค้ วามรู้นัน้ มาพิจารณาให้เชอ่ื มโยงกนั เพื่อประกอบการวางแผน มีความระมัดระวังในข้ันตอนการปฏิบัติ และเง่ือนไขคุณธรรมอันประกอบด้วย มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีความ อดทน มีความเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดำรงชวี ติ วตั ถปุ ระสงค์: ๑) เพอื่ สร้างความปรองดองสมานฉนั ท์ กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 20
๒) เพ่ือเพิ่มกระจายโอกาสและคณุ ภาพการให้บริการของรัฐอยา่ งทวั่ ถึง เท่าเทยี ม เป็นธรรม ๓) เพื่อลดตน้ ทนุ ให้ภาคการผลิตและบริการ ๔) เพอ่ื เพม่ิ มูลค่าสนิ ค้าเกษตร อุตสาหกรรม และบรกิ ารดว้ ยนวตั กรรม ยทุ ธศาสตร์หลัก: ๑) ยทุ ธศาสตรส์ รา้ งความม่ันคงใหก้ บั ประเทศ ๒) ยทุ ธศาสตรส์ รา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ ๓) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาและเสริมสร้างศกั ยภาพคน ๔) ยทุ ธศาสตรส์ รา้ งโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทยี มกันทางสงั คม ๕) ยุทธศาสตร์การเติบโตบนคณุ ภาพชวี ติ ท่เี ป็นมติ รกับสงิ่ แวดล้อม ๖) ยุทธศาสตรก์ ารปรับสมดุลและพฒั นาระบบ ๒.๑ เปา้ หมายความม่นั คง ๒.๑.๑ การมีความม่ันคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงทั้งภายในประเทศและ ภายนอกประเทศในทุกระดับ ท้ังระดับประเทศ สังคม ชมุ ชน ครวั เรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคง ในทกุ มติ ิ ทั้งมติ ิเศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม และการเมือง ๒.๑.๒ ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางและท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความม่ันคง เปน็ กลไกทีน่ ำไปสกู่ ารบรหิ ารประเทศทตี่ อ่ เนอื่ งและโปร่งใสตามหลกั ธรรมาภิบาล ๒.๑.๓ สังคมมคี วามปรองดองและความสามคั คี สามารถผนกึ กำลงั เพือ่ พัฒนาประเทศ ชุมชน มคี วามเข้มแขง็ ครอบครวั มคี วามอบอ่นุ ๒.๑.๔ ประชาชนมคี วามมั่นคงในชวี ิต มงี านและรายได้ที่ม่ันคงพอเพียงกับการดำรงชีวติ มที ี่ อย่อู าศยั และความปลอดภัยในชีวิตทรพั ย์สิน ๒.๑.๕ ฐานทรัพยากรและส่งิ แวดลอ้ ม มีความมนั่ คงของอาหาร พลงั งาน และน้ำ ๒.๒ เปา้ หมายความมง่ั คั่ง ๒.๒.๑ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ยกระดับเป็นประเทศในกลุ่ม รายได้สูง ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน มากขน้ึ ๒.๒.๒ เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขนั สงู สามารถสรา้ งรายไดท้ ัง้ ภายในและภายนอก ประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสำคัญของการเช่ือมโยงในภูมิภาค ทั้งการ คมนาคมขนสง่ การผลิต การค้าการลงทุนและการทำธุรกจิ มีบทบาทสำคญั ในระดับภูมภิ าคและระดับโลก เกิด สายสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและการค้าอยา่ งมพี ลัง ๒.๒.๓ ความสมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้างการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่องได้แก่ทุนมนุษย์ ทุน ทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนท่ีเป็นเคร่ืองมือเคร่ืองจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากร ธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อม ๒.๓ เปา้ หมายความยัง่ ยืน ๒.๓.๑ การพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ เพ่ิมขนึ้ อย่างต่อเนือ่ ง ซ่งึ เป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่ไม่ใชท้ รัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะ ต่อสง่ิ แวดล้อมจนเกนิ ความสามารถในการรองรบั และเยยี วยาของระบบนเิ วศน์ กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 21
๒.๓.๒ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของ ประชาคมโลก ซึ่งเป็นท่ียอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมมีคุณภาพดี ขนึ้ คนมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม มีความเอ้ืออาทร เสียสละเพอ่ื ผลประโยชน์สว่ นรวม ๒.๓.๓ ประชาชนทุกภาคส่วนในสงั คมยดึ ถือและปฏบิ ตั ติ ามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ สาระสำคัญของแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) สำหรับใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศไทยในระยะ ๕ ปี ซึ่งเป็นการแปลงยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือเตรียมความพร้อมและ วางรากฐานในการยกระดับประเทศไทยใหเ้ ป็นประเทศที่พฒั นาแลว้ มีความมั่นคง ม่งั ค่ัง ยั่งยนื ด้วยการพฒั นา ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซ่ึงการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) ไดก้ ำหนดสาระสำคญั ไว้ ดังนี้ วสิ ยั ทัศน์: มุ่งสกู่ ารเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศ ทม่ี ีรายได้สูง มคี วามม่นั คงและยั่งยนื สังคมอยู่ร่วมกนั อย่างมคี วามสุข และนำไปสกู่ ารบรรลวุ สิ ยั ทศั นร์ ะยะยาว “มั่นคง มง่ั ค่ัง ยั่งยนื ”ของประเทศ หลักการ : ๑) น้อมนำและประยกุ ต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในทุกมติ ิการพัฒนาอย่างบูรณา การบนทางสายกลางมีความพอประมาณ มเี หตุผล และมีระบบภมู ิคุม้ กันท่ีดี ๒) คำนึงถึงการพัฒนาท่ีย่งั ยืนโดยให้คนเปน็ ศนู ยก์ ลาง เพ่อื สรา้ งความมั่นคงของชาติและเป็น กลไกสำคัญในการขับเคล่ือนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหาร จดั การ และ ๓) มุ่งเสริมสร้างกลไกการพัฒนาประเทศ ท้ังกลไกที่เป็นกฎหมายและกฎ ระเบียบต่างๆ เพื่อให้เอ้ือต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกระดับ ควบคู่กับการพัฒนากลไกในรูปแบบของคณะกรรมการใน การขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตรร์ ะดบั ประเทศและระดบั พื้นท่ี วตั ถปุ ระสงค:์ ๑) เพ่ือให้คนไทยทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถ สามารถพัฒนาตนเองได้ต่อเนื่อง ตลอดชวี ิต ๒) เพอื่ ให้ระบบเศรษฐกจิ มโี ครงสรา้ งที่เข้มแข็ง มีเสถยี รภาพ แขง่ ขันได้ ยง่ั ยนื ๓) เพ่ือรักษาทุนธรรมชาติและคุณภาพส่งิ แวดล้อมสูค่ วามสมดลุ ของระบบนเิ วศน์ ๔) เพื่อสร้างความม่ันคงภายในประเทศ ป้องกันและลดผลกระทบจากภัยคุกคามข้ามชาติ และ ๕) เพอ่ื ใหก้ ารทำงานเชงิ บูรณาการในลักษณะเชอื่ มโยงระหวา่ งหนว่ ยงานท่ียดึ หนา้ ท่ีและพืน้ ที่ ทำใหภ้ าครัฐมปี ระสิทธิภาพและปราศจากคอรปั ชั่น ยทุ ธศาสตร:์ ๑) ยทุ ธศาสตร์การเสรมิ สร้างและพัฒนาศกั ยภาพทุนมนษุ ย์ ๒) ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความเปน็ ธรรมและความเหลื่อมล้ำในสังคม ๓) ยทุ ธศาสตรก์ ารสรา้ งความเข้มแขง็ ทางเศรษฐกจิ และแข่งขนั ไดอ้ ย่างยงั่ ยืน กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 22
๔) ยทุ ธศาสตรก์ ารเติบโตที่เป็นมิตรกับสง่ิ แวดลอ้ มเพ่ือการพัฒนาอย่างยัง่ ยนื ๕) ยทุ ธศาสตรก์ ารความมน่ั คงแหง่ ชาตเิ พ่ือการพฒั นาประเทศสู่ความม่งั ค่งั และยงั่ ยนื ๖) ยุทธศาสตรก์ ารบริหารจดั การในภาครฐั การป้องกนั การทจุ ริตประพฤติมิชอบและ ธรรมาภบิ าลในสังคมไทย ๗) ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาโครงสร้างพืน้ ฐานและระบบโลจิสติกส์ ๘) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวตั กรรม ๙) ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาภาค เมือง และพ้นื ทเ่ี ศรษฐกิจ ๑๐) ยทุ ธศาสตรค์ วามรว่ มมือระหว่างประเทศเพ่อื การพฒั นา เป้าหมายรวม: ๑) คนไทยมีคุณลักษณะเป็นคนไทยท่ีสมบูรณ์ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเป็น พลเมืองต่ืนรู้ ท าประโยชน์ต่อสว่ นรวม เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ทางสังคม มีความสุขทั้งมติ ิทางกาย ใจ สังคม และจิตวิญญาณ มีวิถีชีวิตที่พอเพียง มีความเป็นไทย และมีความสามารถเชิงการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมี ศักดศ์ิ รี ๒) ความเหล่ือมล้ำทางด้านรายได้และความยากจนลดลง เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง ประชาชนทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร การประกอบอาชีพ และบริการทางสังคมท่ีมีคุณภาพอย่าง ทว่ั ถงึ และเป็นธรรม ๓) ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐาน บริการและดิจิทัล เน้นอุปสงค์นำการผลิตมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาด เล็กที่เข้มแข็งมีการลงทุนในการผลติ และบรกิ ารฐานความร้ชู ้ันสงู ใหม่ๆ โดยกระจายฐานการผลิตและ การ ให้บริการสู่ภูมิภาคเพื่อลดความเหล่ือมล้ำโดยเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวเฉล่ียร้อยละ ๕ ต่อปี และมปี ัจจัยสนบั สนุน อาทิ ระบบโลจิสติกส์ พลงั งาน และการลงทนุ วิจัยและพฒั นา ๔) ทุนทางธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมสามารถสนับสนุนการเติบโตท่ีเป็นมิตรกับ สง่ิ แวดล้อม มคี วามม่นั คงทางอาหาร พลงั งาน และนำ้ ๕) มีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย สังคมปลอดภัย สามัคคี สร้างภาพลักษณ์ท่ีดี และ เพิ่มความเชื่อม่ันของนานาประเทศต่อประเทศไทยความขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดในสังคมลดลง ปญั หาอาชญากรรมลดลง ปริมาณความสูญเสียจากภัยโจรสลัดและการลักลอบขนสง่ สินค้า และการค้ามนุษย์ ลดลง มคี วามพร้อมในการปกป้องประชาชนจากการกอ่ การร้ายและภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ ๖) มีระบบบริหารจัดการภาครัฐท่ีมีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ กระจาย อำนาจและมีส่วนร่วมจากประชาชน ลดปัญหาคอร์รัปชั่น การใช้จ่ายภาครัฐต้องมีประสิทธิภาพสูง และมี บคุ ลากรท่ีมคี วามรคู้ วามสามารถและปรบั ตวั ไดท้ ันกบั ยุคดจิ ิทัลเพม่ิ ข้ึน กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 23
แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ –๒๕๗๙ สาระสำคัญของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษาได้จดั ทำแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ เพอ่ื ใชเ้ ป็น แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ ท้ังที่อยู่ในกระทร วง ศึกษาธิการและนอกกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำไปใช้เป็นกรอบและแนวทางการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้ สำหรับพลเมืองทุกช่วงวัยต้ังแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายท่ีสำคัญของแผนคือ การมุ่งเน้นการ ประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา และการศึกษาเพื่อการมีงานทำและสรา้ งงานได้ ภายใต้บริบท เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกท่ีขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งความ เป็นพลวตั ร เพ่ือให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ซ่ึงภายใตก้ รอบแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ ได้กำหนดสาระสำคัญสำหรับบรรลุเป้าหมายของ การพัฒนาการศึกษาใน ๕ ประการ ได้แก่ การเข้าถึง (Access)ความเท่าเทียม (Equity) คุณภาพ (Quality) ประสทิ ธภิ าพ (Efficiency) และตอบโจทย์บรบิ ทท่เี ปลยี่ นแปลง (Relevancy) ในระยะ ๑๕ ปีขา้ งหน้า ดงั นี้ วสิ ัยทัศน์: ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการศึกษาท่ีมีคณุ ภาพและประสิทธิภาพ เพ่ือเป็นกลไก หลักของการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของทุนมนุษย์ และรองรับการศึกษา การเรียนรู้ และความ ทา้ ทายทเ่ี ปน็ พลวัตรของโลกศตวรรษท่ี ๒๑ หลักการ :๑) รัฐมหี น้าท่ีจัดการใหพ้ ลเมืองทุกคนได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถ พัฒนาขีดความสามารถที่มีอยู่ในตวั ตนของแต่ละบุคคลให้เต็มตามศกั ยภาพ จากการมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ น ในสังคม ๒) รัฐจะประกันโอกาสและความเสมอภาค ในการเข้าถึงบริการการศึกษาท่ีมีคุณภาพและ มาตรฐานตามศักยภาพและความสามารถของแตล่ ะบุคคล ๓) แยกบทบาท อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของรฐั ในฐานะผู้กำกับนโยบายและแผน ผู้กำกบั การศกึ ษา ผู้ประเมนิ ผลการศกึ ษา ผูส้ ง่ เสรมิ สนบั สนนุ และผู้จดั การศกึ ษาออกจากกัน ๔) รัฐพงึ ปฏบิ ตั ติ อ่ สถานศกึ ษาภายใต้กฎกตกิ า ระเบียบ วธิ ีปฏิบัติ ท่ีเปน็ มาตรฐานเดยี วกัน ๕) ทุกภาคส่วนของสังคม ซ่ึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ท้ังทางตรงและทางอ้อมจากการได้รับ การศกึ ษาของพลเมืองต้องมสี ่วนรว่ มระดมทุน และรว่ มรับภาระคา่ ใช้จ่ายเพือ่ การศกึ ษา ๖) สถานศึกษาต้องบรหิ ารและจัดการที่แสดงความรับผิดชอบ (Accountability) ตอ่ คุณภาพ และมาตรฐานของบรกิ ารการศึกษาทีใ่ หแ้ กผ่ ูเ้ รียน ๗) รัฐจะกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนากำลังคน จำแนกตามระดับ/ประเภทการศึกษา คณะ/สาขาวิชาที่สนองตอบต่อความตอ้ งการของตลาดแรงงานและการพฒั นาประเทศ และ ๘) หลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องมีความยืดหยุ่นหลากหลาย สนองตอบ ความตอ้ งการของผู้เรยี น ทง้ั ผู้ที่อยู่ในวยั เรียน และผู้ทอี่ ยใู่ นกำลงั แรงงาน ยุทธศาสตร์: ๑) ยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน กระบวนการเรียนรู้ การวัดและ ประเมนิ ผล กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 24
๒) ยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากร ทาง การศึกษา ๓) ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรมรองรับความต้องการของ ตลาดงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ ๔) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบขอ้ มลู สารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัล ๕) ยทุ ธศาสตร์พฒั นาคณุ ภาพคนทุกช่วงวยั และการสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้ ๖) ยุทธศาสตรพ์ ัฒนาระบบบริหารจัดการ และการมีส่วนรว่ มในการจัดการศึกษาของทกุ ภาค ส่วน ๗) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาระบบการเงินเพ่ือการศึกษา เป้าหมายสดุ ท้าย: ๑) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถของทุนมนุษย์ (Productivity) ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและการ พัฒนาประเทศ เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดักของประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศท่ีพัฒนา แล้วอย่างยั่งยืน ภายใต้พลวตั รของโลกศตวรรษท่ี ๒๑ ๒) ประชากรทุกช่วงวยั สามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการเรยี นรู้ จากระบบการศึกษาท่มี ีความยดื หย่นุ หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของผเู้ รียน เพื่อยกระดบั ชนชั้น ของสังคม ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge Based Economy) ท่ีเอื้อต่อการสร้างสังคมแห่ง ปญั ญาและการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้อื ตอ่ การเรียนรู้ ที่ประชาชนสามารถแสวงหาความรู้และเรียนร้ไู ด้อย่าง ตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ ๓) ผูเ้ รียนแต่ละระดับการศึกษา ได้รบั การพัฒนาขดี ความสามารถเตม็ ตามศักยภาพท่ีมีอยู่ใน ตัวตนของแต่ละบุคคล และมีคุณลักษณะนิสัยท่ีพึงประสงค์ มีองค์ความรู้ที่สำคัญและทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษท่ี ๒๑ รวมทั้งทกั ษะการดำรงชีวติ และทักษะความรคู้ วามสามารถ และสมรรถนะในการปฏิบัตงิ านที่ ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ ๔) ภาคการศึกษามีทรพั ยากรและทนุ ที่เพียงพอสำหรับการจัดการศึกษาทม่ี ีคุณภาพมาตรฐาน จากการส่วนร่วมในการระดมทุนและสนองทุนเพ่ือการศึกษาจากทุกภาคส่วนในสังคม ผ่านการ เสียภาษีตาม สิทธแิ ละหนา้ ท่ีของพลเมอื ง การบรจิ าค และการร่วมรบั ภาระคา่ ใชจ้ ่ายทางการศึกษา ๕) สถานศกึ ษามีระบบบริหารจดั การที่มปี ระสิทธิภาพ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดบั สากล สามารถให้บริการที่ตอบสนองความต้องการบริบทเชิงพื้นท่ี ระดับประเทศและระดับภูมิภาคในฐานะที่เป็น ศนู ยก์ ลางของการบริการดา้ นการศึกษาในภมู ิภาคอาเซียน (Hub for Education) และเปน็ ภาคเศรษฐกิจหนึ่ง ของระบบเศรษฐกิจของประเทศและของภมู ภิ าค ทส่ี ร้างรายได้ใหก้ ับประเทศไทย ความเชื่อมโยงระหว่างยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๔) และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ กับทิศ ทางการพฒั นาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการในมิตดิ า้ นต่างๆ ๕.๑ มติ ิดา้ นความมน่ั คง ๕.๑.๑ ยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ ปี : ยุทธศาสตร์การสร้างความม่ันคงให้กับประเทศ ความ มน่ั คงเป็นเร่ืองที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการเจริญเติบโตและความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ ความเช่ือม่ันกับนานาชาติด้านการลงทุนและการท่องเท่ียว และ ความสงบสุขของสังคมโดยรวม กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 25
ดงั นั้นเพอ่ื บรรลุเป้าหมายในการสร้างเสถียรภาพภายในประเทศ ลด/ป้องกันภยั คุกคามจากภายนอก และสรา้ ง ความเชือ่ มัน่ ในอาเซียนและประชาคมโลก มกี รอบแนวทางทต่ี อ้ งใหค้ วามสำคญั ดงั นี้ ๑) เสรมิ สร้างความม่ันคงของสถาบนั หลักของชาตแิ ละการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข สรา้ งจิตสำนึกของคนในชาติให้มคี วามจงรักภักดี และธำรงรักษาสถาบันหลัก คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ๒) ปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศ ขจัดคอร์รัปช่ันสร้างความเป็นธรรม ลดความเหล่ือมล้ำ กระจายอำนาจและสรา้ งความเชือ่ มนั่ ในกระบวนการยุตธิ รรม ๓) ป้องกนั และแกไ้ ขการกอ่ ความไม่สงบในจังหวดั ชายแดนภาคใตเ้ น้นเสรมิ สร้างกระบวนการ สันตสิ ุขและสนั ติวธิ ี ขจดั ความขดั แย้ง ลดความรุนแรงตามแนวทาง “เข้าใจ เขา้ ถึง พฒั นา” ๕.๑.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยุทธศาสตร์ความม่ันคงเพื่อให้ เกิดความม่ันคงในการพัฒนาประเทศระยะยาวตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี ท่ีมีความสัมพันธ์ ระหว่างการเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คมจติ วทิ ยา จึงกำหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องยุทธศาสตร์ความมนั่ คง ดงั น้ี ๑)เพื่อแก้ไขปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงภายใน ไม่ให้ลุกลามเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะภัยคุกคามต่อสถาบันหลักของประเทศ ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกใน สงั คมไทยและความรุนแรงในพน้ื ทจ่ี ังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ไดร้ ับการแก้ไขในระดับหนึ่งและไม่ขยายตวั ตอ่ ไป ๒) เพื่อให้ทุกภาคส่วนท้ังหน่วยงานรัฐ เอกชนและภาคประชาชนมีความพร้อมในการผนึก กำลังรับภัยคกุ คามและมีขดี ความสามารถในการบริหารจัดการด้านความมั่นคง มศี ักยภาพในการป้องกันและ แกไ้ ขสถานการณ์ที่อาจเกดิ ขึน้ จากภยั คุกคาม เชน่ ภยั คกุ คามทางเทคโนโลยสี ารสนเทศและไซเบอร์ ๓) เพ่ือให้นโยบายดา้ นความมั่นคงกับนโยบายเสถียรภาพและการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจ สงั คม ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อมในทกุ มติ ิ ใหส้ ามารถพัฒนาไปในทิศทางเดียวกนั อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๔) เพ่ือสรา้ งความร่วมมอื ดา้ นความมั่นคงกับมติ รประเทศทั้งในระดับโลกภูมภิ าคและประเทศ รอบบ้าน เปน็ เครอ่ื งมอื รักษาผลประโยชนข์ องชาติและความสงบสขุ ของประเทศ ๕) เพ่ือลดความเสี่ยงจากภัยก่อการร้ายและการโจมตีด้านไซเบอร์ ไม่ให้มีผลกระทบต่อการ พฒั นาประเทศ ๖) เพื่อลดและบรรเทาปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสาธารณภัยต่างๆ ได้แก่ ภยั แล้ง ภัยหนาว อทุ กภยั ดนิ โคลนถล่ม ไฟป่าและหมอกควัน เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกับกรอบทิศทางและวัตถุประสงค์ภายใต้มิติด้านความม่ันคงของ ประเทศในข้างต้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรอื แนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือผลกระทบภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารเพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชน สามารถไดร้ ับการเสริมสร้างทั้งทางทฤษฎแี ละปฏิบัตใิ หเ้ กิดความสำนกึ ทจี่ ะช่วยกันแก้ไขปญั หา และพัฒนาสังคมไทยในปัจจุบนั โดยเฉพาะการแกป้ ัญหาขอ้ โต้แยง้ ดว้ ยสนั ติวิธี การอยู่ร่วมกันดว้ ยความสามัคคี และการสร้างความม่ันคงให้กับประเทศชาติ อีกทั้งควรกำหนดให้ประชากรวัยเรียนในพ้ืนที่จังหวัดชายแดน ภาคใต้ สามารถเข้าถงึ การจัดการศึกษาอย่างเสมอภาค เหมาะสมและสอดคล้องกับอตั ลกั ษณ์และความต้องการ ของพ้ืนท่ี ๕.๒ มิตดิ ้านเศรษฐกจิ ๕.๒.๑ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ปี :ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 26
๑) การพัฒนาภาคการผลิตและบรกิ ารประเทศไทยมีฐานการผลติ ที่หลากหลายท่ียังสามารถ พัฒนาคุณภาพให้เป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญได้ แต่ยังต้องเผชิญกับปัญหาซ่ึงต้องเร่งรัดดำเนินการ แกไ้ ข ดงั นี้ ๑.๑) พัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ พัฒนาอุตสาหกรรมส่งออกที่มีศักยภาพสูง โดย การผลกั ดนั ไทยเป็นฐานการผลิตและการส่งออกยานยนต์และชิ้นสว่ น พร้อมกับเน้นการสรา้ งมูลคา่ เพม่ิ ดว้ ยการ ยกระดับมาตรฐานและผลิตภณั ฑ์เฉพาะ พฒั นาเครอื ขา่ ยวสิ าหกจิ และบคุ ลากรและเทคโนโลยีการผลิตตลอดจน สรา้ งความเข้มแขง็ ให้กบั ผู้ประกอบการไทย นอกจากน้ี จะพัฒนาไทยใหเ้ ป็นฐานการผลิต การพฒั นาเทคโนโลยี เพ่ือผลิตสินค้าที่มีความละเอียดสูง และการส่งออกเคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญพร้อมท้ังมีตรา สนิ ค้าของไทยและเปน็ ทร่ี จู้ กั ในเอเชีย ๑.๒) การสร้างรายได้จากการท่องเท่ียว โดยพัฒนากลุ่มเมืองท่องเท่ียว และผลักดัน ให้ไทยเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมท้ังขับเคลื่อนการท่องเท่ียวให้สามารถสร้างรายได้เพ่ิมขึ้นอย่าง ตอ่ เนื่อง โดยจะให้ความสำคัญกับการตลาด การดึงดูดนักท่องเที่ยวท้ังในและต่างประเทศ พัฒนาระบบ โลจิ สติกส์เพ่ือการท่องเท่ียว สร้างความเช่ือม่ันและความปลอดภัย และพัฒนาการท่องเท่ียวเชิงศิลปะและ วัฒนธรรม เชือ่ มโยงสนิ ค้า OTOP กบั การท่องเทยี่ วและส่งเสริมการทอ่ งเทีย่ วเชิงสขุ ภาพและสปา ๑.๓) ศนู ย์กลางการให้บรกิ ารสุขภาพ พัฒนาไทยเปน็ ศูนย์กลางใหบ้ ริการสุขภาพของ ภูมิภาคอาเซียนเพ่ือสร้างรายได้ แล้วนำไปยกระดับคุณภาพบริการเพื่อลดความเหล่ือมล้ำภายในประเทศโดย การเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันด้านบริการสุขภาพ (Health Services) โดยเฉพาะในโรงพยาบาล เอกชนที่มีความพร้อม และส่งเสริมและพัฒนาสถานบริการสุขภาพ (Wellness Health) เช่น สปานวดแผน ไทย เป็นต้น ในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทีส่ ำคัญ รวมทั้งเพม่ิ ศักยภาพในการผลติ ยาสมนุ ไพรและผลติ ภัณฑส์ มุนไพรใหไ้ ด้ มาตรฐานและสง่ เสริมการตลาดในเชงิ รุก ตลอดจนพัฒนาใหไ้ ทยเป็นศนู ย์กลางการศึกษาวชิ าการ และงานวิจัย ดา้ นการแพทย์ของภมู ภิ าค ๒)พัฒนาผู้ประกอบการและเศรษฐกิจชุมชนผลการวิเคราะห์ของท้ัง World Economic Forum (WEF) แล ะ International Institute for Management Development (IMD) พ บ ว่ า ศั ก ย ภ าพ ขอ ง ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับต่างประเทศยังไม่สูง จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดเล็ก ผู้ประกอบการสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และวิสาหกิจชุมชนโดยมีแนวทางใน การดำเนนิ การทส่ี ำคัญ ดังน้ี ๒.๑) พัฒนาทกั ษะและองค์ความรู้ของผปู้ ระกอบการไทยในการสรา้ งสรรค์สนิ ค้าและบรกิ าร รูปแบบใหม่ให้มจี ุดเดน่ และสามารถตอ่ ยอดด้วยความคิดและนวัตกรรม รวมทั้งสรา้ งความได้เปรียบจากความ หลากหลายและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและความเป็นไทย เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของตลาดไลฟ์สไตล์ และก้าวทันตอ่ กระแสการเปล่ียนแปลงของสังคมโลก ตลอดจนส่งเสริมสถาบันการศึกษาในทอ้ งถนิ่ ใหเ้ ป็นแหล่ง รวบรวมและศกึ ษาเกยี่ วกบั ภมู ิปญั ญาชาวบ้านในการพฒั นาผลิตภณั ฑท์ ่มี ีความเป็นเอกลักษณ์และพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพื่อสนองตอบผู้บริโภคทุกระดับและรณรงค์ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ ผปู้ ระกอบการเห็นความสำคัญในการสร้างเคร่ืองหมายการคา้ ของตนเองและสรา้ งภาพลักษณ์สินค้าไทยให้เป็น ทยี่ อมรับของคนท่ัวโลก ๒.๒) พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ยสู่สากล (SMEs) ให้มีการรวมกลมุ่ คลัสเตอร์ที่ เข้มแข็งเพ่ือเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้เอ้ือต่อการดำเนินธุรกิจ และ เสรมิ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขนั อาทิ พัฒนาและยกระดบั ผรู้ ับช่วงการผลิตและพัฒนาผลิตภณั ฑ์ และ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพ่ิมมูลค่า เป็นต้น รวมท้ังส่งเสริมให้เติบโตอย่างสมดุลตามศักยภาพของพื้นท่ี ด้วย กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 27
การกำหนดธรุ กิจทม่ี ศี ักยภาพและเชือ่ มเครือข่ายธรุ กิจในแต่ละพน้ื ท่ี เพ่มิ มูลค่าสินค้าและบรกิ ารด้วยภมู ปิ ัญญา และเอกลักษณ์ของท้องถิ่นตลอดจนสนบั สนนุ SMEs ทม่ี ศี ักยภาพขยายการลงทนุ ไปในต่างประเทศ ๒.๓) พัฒนาวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ เพ่ือเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และกลุ่ม ประชาชน/เกษตรกรในชุมชน ใหเ้ ปน็ ฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมท้ังให้สามารถพ่ึงพาตนเอง โดย ในส่วนของการพฒั นาวิสาหกิจชุมชนจะเน้นการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ สร้างเครือข่ายตลาด จัดตัง้ กองทุน วิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการเรียนรู้ในการประกอบวิสาหกิจชุมชนและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าท่ีรัฐเพื่อ สนับสนุนวิสาหกจิ ชมุ ชนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ สำหรบั การพัฒนาสหกรณ์จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพ การเช่อื มโยงระบบการผลิตกับการตลาด ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใช้ระบบสหกรณ์เป็นกลไกใน การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมชมุ ชน รวมท้ังพัฒนาการเรยี นรูแ้ ละทักษะการสหกรณ์ สู่วถิ ชี ีวิตประชาชน นอกระบบการศกึ ษา ๓) การพัฒนาพื้นท่ีพิเศษและเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน พัฒนาเป็นฐานการผลิตใหม่ กระจายกิจกรรมเศรษฐกิจและความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างความมั่นคงในพ้ืนที่ชายแดนเชื่อมโยงกับประเทศ เพือ่ นบ้านท้งั ในด้านการผลติ ร่วมและช่องทางการตลาดร่วมกัน ๔) การลงทนุ พัฒนาโครงสร้างพนื้ ฐาน ๔.๑) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร เน้นการพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ICTท่ีเป็น อินเทอร์เน็ตความเร็วสงู ให้ทันสมัยและกระจายท่ัวถึง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถและเชย่ี วชาญ ระดับมาตรฐานสากล เพ่ิมขีดความสามารถของอตุ สาหกรรม ICT และใช้ ICTในการสร้างนวัตกรรมการบริการ ภาครัฐแบบบูรณาการประยุกต์ ICT เพื่อสร้างความเข้มแข็งของภาคการผลิต การศึกษาและพาณิชย์ อิเล็กทรอนกิ ส์ ๔.๒) การวิจัยและพัฒนา มีเปา้ หมายทเ่ี พ่มิ สดั ส่วนค่าใชจ้ า่ ยวจิ ัยและพฒั นาไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๓ โดยมีสัดส่วนรัฐต่อเอกชน ๒๐ : ๘๐ โดยบูรณาการงานวิจัยระหว่างหน่วยงานวิจัยหลักของประเทศและ สนับสนุนวิจัยท่ีมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศ อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา โลจิ สติกสแ์ ละหว่ งโซอ่ ุปทาน อาหารแปรรูป และสขุ ภาพและชวี เวชศาสตร์ อากาศยาน และผลิตภณั ฑไ์ บโอเบส รวมทั้งงานวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม นอกจากน้ีจะเพ่ิมจำนวนบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาเป็น ๗๐ คนต่อ ประชากร ๑๐,๐๐๐ คน เช่น พัฒนานักวิจัยและสนบั สนุนนักเรยี นทุนรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเพ่ิมประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นภาคการผลิต และบริการเปน็ ตน้ ๕) การเชอื่ มโยงกับภมู ภิ าคและเศรษฐกิจโลก ๕.๑) ส่งเสริมใหป้ ระเทศไทยเปน็ ฐานของการประกอบธุรกิจ การใหบ้ รกิ ารทางการศกึ ษาการ ให้บรกิ ารด้านการเงิน การให้บริการด้านสุขภาพ การใหบ้ ริการด้านโลจิสติกส์ และการลงทุนเพื่อการวิจยั และ พฒั นา รวมทง้ั เปน็ ฐานความร่วมมือในเอเชีย ๕.๒) เพิ่มบทบาทและการมีส่วนร่วมของไทยในองค์การระหว่างประเทศในการผลักดันการ พัฒนาในอนุภูมิภาคและภูมภิ าค รวมทั้งประเทศกำลังพัฒนาในภูมภิ าคอ่ืน ๆ และใหค้ วามช่วยเหลือท้งั ในดา้ น การเงนิ และทางเทคนิคกับประเทศกำลังพัฒนา ในการพัฒนาด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจสังคมและการ พฒั นาทนุ มนุษย์ ๕.๓) สนับสนุนการเปดิ เสรีทางการคา้ ท้ังในระดบั ทวภิ าคี ภูมิภาค และพหุภาคี และส่งเสริม การค้ากับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเดียวกัน(Intra-Regional Trade) มากข้ึนเปิดโอกาสให้ทุกภาค สว่ นทเ่ี ก่ียวข้องไดเ้ ข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทา่ ทเี จรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งรัดการใช้ประโยชน์จาก ข้อตกลงทม่ี ผี ลบังคบั ใชแ้ ล้ว ตลอดจนใช้โอกาสจากการเปิดเสรีการค้าและการลงทนุ กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 28
๕.๒.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยุทธศาสตร์สรา้ งความเข้มแข็งทาง เศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างย่ังยืนยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและระบบโลจิสติกส์ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง ภาค และพื้นท่ี เศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ด้านการตา่ งประเทศ ประเทศเพื่อนบา้ น และภูมภิ าค ๑) การเสริมสรา้ งและพัฒนาขีดความสามารถในการแขง่ ขันของภาคการผลิตและบริการอันจะนำมา ซ่ึงความเข้มแข็งของท้ังเศรษฐกิจในภาพรวมและเศรษฐกิจฐานราก ตามหลักการพัฒนาที่ย่ังยืนโดยมีแนว ทางการพัฒนา ดงั น้ี ๑.๑) พัฒนาปัจจัยสนับสนุนในการบริหารจัดการภาคเกษตร โดยสร้างบุคลาก รด้าน การเกษตร การผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่หรือดำเนินนโยบายบัณฑิตคืนถิ่น จัดทำหลักสูตรการศึกษาเพ่ือสร้าง เกษตรกรทมี่ ีความรแู้ ละความสามารถในการยกระดบั การผลิต แปรรูปการตลาดและการบริหารจดั การ ๑.๒) ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมศักยภาพในปัจจุบันให้เข้าสู่การใช้เทคโนโลยีข้ันก้าวหน้า เพ่ือผลิตสินค้าท่ีรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยส่งเสริมการท างานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมทั้งด้านการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมและเตรียมความ พร้อมของบคุ ลากรท่จี ะเขา้ สูภ่ าคอตุ สาหกรรม โดยผา่ นระบบการศึกษาทวิภาคแี ละสหกิจศกึ ษา ๑.๓) สร้างระบบกลไกและเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการเช่ือมโยงความ ร่วมมือของภาคธุรกิจในลักษณะคลัสเตอร์ ระหว่างภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ เช่น มาตรการที่ สนับสนุนสถาบันการศึกษา/สถาบันวิจัยและพัฒนา ให้มีบทบาทเป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงความร่วมมือ ระหวา่ งธุรกจิ หรอื สถานประกอบการตา่ ง ๆ ทรี่ วมตวั กันเป็นคลัสเตอร์ ๑.๔) วางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมสำหรับอนาคต มุ่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ผสาน โอกาสจากแนวโน้มบริบทโลก และการปรับเปลี่ยนเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีข้ันสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อัตโนมัติ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมการผลิตเคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และ อตุ สาหกรรมพลังงานชีวภาพ โดยวางแผนและพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมอนาคต ซ่ึงต้องดำเนินการ ร่วมกนั ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบนั วิจัยตา่ ง ๆ เพื่อให้ไปในทิศทางเดยี วกนั สง่ เสริมให้ ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และระบบการศึกษาเร่งรัดเพ่ือให้สามารถผลิตบุคลากรที่มี ทกั ษะรองรับอุตสาหกรรมอนาคตระยะแรกไดอ้ ยา่ งทนั การณ์ สำหรบั การวางแผนพัฒนากำลงั คนในระยะตอ่ ไป ๑.๕) เสรมิ สร้างขดี ความสามารถการแขง่ ขันในเชงิ ธุรกจิ ของภาคบรกิ ารที่มศี ักยภาพให้เตบิ โต และสนับสนุนภาคการผลติ เชน่ การบริการสุขภาพ การศกึ ษานานาชาติธรุ กจิ บรกิ ารขนส่งและโลจิสติกส์ ๑.๖) พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ ส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเท่ียว โดยพัฒนาทักษะฝีมือบุคลากรในภาคบริการและการท่องเท่ียวจัดฝึกอบรมมัคคุเทศก์ภาษาต่างประเทศท่ัว ประเทศ ๑.๗) ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มี ทักษะในการทำธุรกิจ รวมท้ังส่งเสริมให้มีการกำหนดหลักสูตรที่เกี่ยวกับทักษะการเป็นผู้ประกอบการทั้งใน ระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ระดับอุดมศกึ ษา และสายอาชีพใหม้ ีความรู้ความเข้าใจในการเริ่มตน้ ธุรกจิ ตลอดจน สร้างสภาพแวดลอ้ มในสถานศกึ ษาใหเ้ อื้อต่อการเรียนรูแ้ ละกระตุ้นการเป็นผ้ปู ระกอบการ ๒) เร่งส่งเสริมให้เกิดสังคมนวัตกรรม ผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ และพัฒนาสภาวะ แวดล้อมของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวตั กรรม ๒.๑) ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีบทบาทหลักด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและร่วมกำหนด กำหนดทิศทางการพัฒนานวัตกรรมกับสถาบันการศึกษาสถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคสังคมหรือชุมชน อาทิ กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 29
ปรับกฎระเบียบให้สามารถสนับสนุนทุนวิจัยในภาคเอกชน การร่วมทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าว กระโดด ๒.๒) เร่งสร้างความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มศักยภาพของภาครัฐ ทั้ง การเข้าถึงและการเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐและการเข้าถึงข้อมูลของภาครัฐจาก สาธารณชน ๒.๓) ส่งเสริมให้ภาคสงั คมนำงานวจิ ัยพัฒนาและเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปใช้ปรับปรุงคณุ ภาพ ชีวิต และสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต โดยอาศัยกลไกการดำเนินงานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่าง สถาบันการศึกษา สถาบันการวิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนหรือชุมชนไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เทคโนโลยเี พ่อื ผพู้ ิการ เทคโนโลยเี พือ่ ผสู้ งู อายุ ๒.๔) ใช้การตลาดนำการวิจัย เพื่อดำเนินการวิจัยท่ีมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยเช่ือมโยงการท างานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย สถาบนั การเงิน ภาครฐั ภาคธรุ กจิ ๒.๕) ส่งเสริมระบบการเรียนการสอนท่ีเช่ือมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM Education)และเพิ่มจำนวนนักเรียนที่สนใจในด้านดังกล่าว เพ่ือผลิ ตก าลังคนและครูในเชิงคุณภาพ พร้อมไปกับการเพ่ิมแรงจูงใจในอาชีพครวู ทิ ยาศาสตร์ ๒.๖) ส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเป็นผปู้ ระกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจในการเริม่ ต้นทำธรุ กิจ โดยมุ่งเน้นให้ภาคเอกชนเป็นผู้มีส่วนร่วมพัฒนาหลกั สูตรกับภาครัฐ สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยในการ ผลิตบคุ ลากรเพ่ือให้เกดิ การเชือ่ มโยงระหวา่ งการเรยี นรกู้ ับการทำงาน และส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นดา้ นวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไดม้ ีโอกาสฝึกงานในสาขาเทคโนโลยี (Technology Sector) และด้านเทคนิคต่างๆ และขยาย ผลการเคล่อื นย้ายบุคลากรวจิ ยั ภาครฐั ไปทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้มากยิ่งขนึ้ ๒ .๗) ปรับปรุงและพัฒนาระบบ รองรับเทคโนโลยีสำคัญๆให้เกิดประสิทธิภาพ อาทิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีกราฟิก เทคโนโลยีทางการศึกษาเทคโนโลยีเพอ่ื ผสู้ ูงอายุและผู้ พกิ าร เทคโนโลยีการขนสง่ และโลจิสติกส์ ๓) การสนบั สนุนการพฒั นาระบบขนส่งโลจิสตกิ ส์ และพฒั นาเศรษฐกจิ ดิจิทลั ๓.๑) สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เกิดจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรในระบบขนส่งให้มีความรูค้ วามสามารถในองค์ความรแู้ ละเทคโนโลยี สมัยใหม่ และสามารถปรบั ตวั ให้ทันต่อการเปลย่ี นแปลงของกระแสโลก โดยเฉพาะการพัฒนาบคุ ลากรด้านการ ขนส่งทางอากาศให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ร่วมหารือกบั สถาบันการศกึ ษาท่ไี ด้มาตรฐานด้านการบินเพอื่ พิจารณา วางแผนก าลังคนในอุตสาหกรรมการบินของประเทศ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางยกระดับมาตรฐานหลักสูตร และอปุ กรณก์ ารเรยี นการสอนของสถาบันการศกึ ษาต่าง ๆ ๓.๒) พัฒนาบุคลากรและวางแผนจัดการกำลังคนด้านโลจิสติกส์ให้สอดคล้องกับความ ต้องการของภาคธรุ กจิ โดยเน้นการเพม่ิ ผลิตภาพแรงงานโดยหนว่ ยงานภาครัฐรว่ มดำเนินการกับภาคเอกชนใน การปรบั ปรุงหลกั สูตรการศึกษาสาขาโลจิสติกส์ระดับอาชีวศึกษาและระดบั ปรญิ ญาฝึกอบรมวิชาชพี เฉพาะหรือ เทคนิคเฉพาะด้าน และส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการฝึกอบรมระดับปฏิบัติงาน เพ่ือให้กำลังคน ดา้ นโลจสิ ติกส์มคี ุณภาพ มาตรฐาน และสอดคล้องกับความตอ้ งการของภาคธรุ กิจ ๓.๓) สง่ เสริมนวัตกรรม การวจิ ยั และพัฒนาอตุ สาหกรรมดิจทิ ลั และเทคโนโลยอี วกาศของไทย โดยพัฒนาบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาให้มีความรู้ความสามารถรองรับต่อการ พัฒนาเทคโนโลยีดิจทิ ลั และสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต ๔) การพฒั นาในระดบั ภาค เมอื ง และพ้นื ทเ่ี ศรษฐกจิ กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 30
๔.๑) การพัฒนาภาคในระยะต่อไป จะให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชนอย่างต่อเน่ือง ทั่วถึง และเป็นธรรม โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ท้ัง ระบบท่ีเน้นการดำเนินการอย่างบูรณาการยึดประเด็นการพัฒนาที่สำคัญโดยเช่ือมโยงบทบาทและสร้าง เครือขา่ ยการมสี ว่ นร่วมของชุมชน สถาบัน และภาคีการพัฒนาที่เกีย่ วขอ้ ง ๔.๒) เสริมสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองศูนยก์ ลางธุรกิจติดต่อทางการค้า การเงิน การบริการ และความร่วมมือกับนานาชาติ รวมท้ังเป็นศูนยก์ ลางการศกึ ษาและการบริการดา้ นการแพทยแ์ ละสขุ ภาพระดับ นานานชาติ พัฒนาเมืองปริมณฑลให้เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการธุรกิจและการพาณิชย์ ศูนย์กลางขนส่ง และโลจิสติกส์ ศูนย์บริการด้านสุขภาพและการศึกษาและเมืองท่ีอยู่อาศัย พัฒนาเมืองเชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น และนครราชสีมา ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการค้า การบริการสุขภาพ การศึกษาโดยปรับปรุงเส้นทาง คมนาคมทง้ั สายหลักและสายรอง และเชือ่ มโยงกับโครงสร้างพืน้ ฐานของภาค ๔.๓) พัฒนาพ้ืนที่เศรษฐกจิ โดยพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและคณุ ภาพบริการสังคมเพื่อรองรับ การดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนและเป็นฐานเศรษฐกิจหลักของประเทศ ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาด้าน อาชีวศึกษา วิศวกรรมและเทคโนโลยี เพื่อผลิตบุคลากรเฉพาะทางให้สอดคล้องสามารถรองรับกิ จกรรม เศรษฐกิจในพ้ืนท่ีได้อย่างเหมาะสม สนับสนุนการศึกษาวิจัยให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาหรือ สถาบนั วิจัยในพื้นที่รว่ มดำเนนิ การ ๔.๔) พัฒนาพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดน ๑๐ พื้นที่ ได้แก่ ตาก สระแก้ว สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร ตราด กาญจนบุรี เชียงราย และนราธิวาส โดยส่งเสริมให้ภาคประชาชนและภาคีการ พัฒนาท่ีเก่ียวข้อง เข้ามามสี ว่ นร่วมและไดร้ ับประโยชน์จากการพฒั นา โดยเน้นการเสรมิ สรา้ งขีดความสามารถ ของวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชนให้สามารถใช้ประโยชน์จาก การพัฒนา ๕) การพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจและบริการ และการ ลงทนุ ทม่ี สี มรรถนะสูง และเป็นท่ียอมรบั ในภูมิภาค ทั้งการให้บริการทางการศกึ ษาการใหบ้ ริการดา้ นการเงิน การใหบ้ รกิ ารดา้ นสุขภาพ การใหบ้ รกิ ารดา้ นโลจิสตกิ ส์ และการลงทนุ เพ่อื วจิ ยั และพฒั นา รวมท้งั เปน็ ฐานความ ร่วมมือในเอเชีย และส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพ่ือขยายฐานการผลิตการค้า/การบริการของ ผูป้ ระกอบการไทย สร้างผลตอบแทนจากเงนิ ทุนและองค์ความรู้ของไทย และพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็น ชาติการคา้ (Trading Nation) ซงึ่ เป็นการปรับตัวรับการเปล่ียนแปลงดา้ นอุปาทาน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ จากการเป็นประชาคมอาเซยี นภายหลงั ปี พ.ศ.๒๕๕๘ โดยมุ่งพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์เทคโนโลยี และนวตั กรรม ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มุ่งเนน้ การวจิ ัยพัฒนาเพื่อสร้างสรรคค์ ุณค่าใหก้ ับธุรกิจ สนิ ค้า และบริการอย่าง ต่อเนือ่ ง สรา้ งความเป็นหุ้นส่วนการพฒั นากบั ประเทศในอนุภูมิภาค ภูมภิ าค และนานาประเทศ ท้ังในระดบั ทวิ ภาคี พหุภาคี เพิ่มบทบาทของประเทศไทยในการให้ความช่วยเหลือทางการพัฒนาแก่ประเทศกำลังพัฒนาใน ดา้ นตา่ งๆ เช่น การวจิ ัยและพัฒนา การพัฒนาทนุ มนษุ ย์ เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกับกรอบทิศทางและวัตถุประสงค์ภายใต้มิติด้านเศรษฐกิจข้างต้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือ ผลกระทบ ภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารเพ่อื ให้นักเรียน นักศึกษาทุกระดับทุก ประเภท ได้รับการฝกึ ปฏิบัติงานอาชีพตามความถนัดและความสนใจ พรอ้ มทง้ั ได้มโี อกาสปฏบิ ัติงานจริงในด้าน การจัดการ การใช้เทคโนโลยีการผลิต การซื้อการขาย การท างานรว่ มกันในรูปแบบสหกรณ์ตามกระบวนการ ให้ครบวงจร จนเกดิ ความตระหนักในความสำคัญของการเรยี นสายอาชีพ และควรกำหนดใหน้ กั เรียน นักศึกษา ที่สำเร็จในแต่ละระดับการศึกษาได้รับการศึกษาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความรู้ ทักษะความสามารถในด้านการ ประกอบอาชีพ ท่ีตรงกบั สภาพตลาดแรงงานในแต่ละท้องถิ่น/พื้นที่ ท่ีสำคัญควรกำหนดให้ผู้เรียนและผู้สำเร็จ กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 31
การศึกษาอาชีวศกึ ษา มีสมรรถนะตรงกับความตอ้ งการของตลาดแรงงานตามกรอบคุณวฒุ ิแหง่ ชาติ มปี ริมาณ เพียงพอสำหรับรองรบั ตลาดแรงงานในประเทศ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของ รฐั บาล ๕.๓ มิติดา้ นสงั คม ๕.๓.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ : ยุทธศาสตร์การสร้างโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทียม กนั ทางสังคมเพ่ือพัฒนาศกั ยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเตบิ โตของประเทศและลดความเหล่ือมล้าในสังคม โดยมีเป้าหมายท่ีจะพัฒนาคนให้มีคุณภาพและมีความมั่นคงทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีโอกาสในการ เข้าถึงทรัพยากรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมและมีการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีใน สังคมสูงวยั ซงึ่ มแี นวทางการดำเนินงานทีส่ ำคญั ดงั นี้ ๑) การสรา้ งความอยูด่ ีมีสุขของครอบครัวไทยให้เอื้อต่อการพัฒนาคนโดยเสริมสร้างศักยภาพ และบทบาทหน้าท่ีของสถาบันครอบครัวในการบ่มเพาะ วางรากฐานจริยธรรม คุณธรรมของสมาชิกใน ครอบครัว การสร้างความอบอนุ่ และความม่ันคงให้ครอบครัว และการสร้างสมดุลระหว่างการท างานและชวี ิต สว่ นตัว ๒) การพัฒนาศกั ยภาพคนในทกุ ช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศโดยในชว่ งวัย เด็กตั้งแต่แรกเกิดใหม้ ีพฒั นาการที่สมวยั ในทกุ ด้าน วยั เรยี น วยั รุ่นให้มที ักษะการเรยี นรู้ ทักษะชีวิต สามารถอยู่ ร่วมกับผู้อนื่ ภายใตบ้ ริบทสังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม วยั แรงงานให้มกี ารพัฒนายกระดับสมรรถนะฝีมือแรงงาน เพ่ือสรา้ งผลิตภาพเพม่ิ ให้กับประเทศ วัยผู้สูงอายุให้มีการท างานทีเ่ หมาะสมตามศักยภาพและประสบการณ์มี รายได้ในการด ารงชีวิต มกี ารสรา้ งเสริมและฟนื้ ฟูสุขภาพเพ่ือปอ้ งกันหรือชะลอความทุพพลภาพและโรคเร้อื รัง ตา่ งๆ ทก่ี ่อให้เกดิ ภาระแก่ปจั เจกบคุ คล ครอบครัว และระบบบริการสุขภาพ ๓) การสร้างความมั่นคงและการลดความเหลื่อมล้าทางด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยสร้าง ความมั่นคงทางดา้ นรายได้และการออม กระจายทรัพยากรให้ท่ัวถึงและเป็นธรรม ทงั้ ในด้านบริการสาธารณะ ข้ันพื้นฐานและฐานทรัพยากรต่างๆ โดยเฉพาะกลมุ่ ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มดอ้ ยโอกาส เช่น การเข้าถึงปัจจัย การผลิต/ท่ีดินทำกินของเกษตรรายย่อย การได้รับบริการด้านการศึกษาและสาธารณสุขท่ีมีคุณภาพของเด็ก ยากจนและการสร้างหลักประกันทางรายได้ให้กับแรงงานนอกระบบท่ีมีรายได้น้อย เป็นต้น รวมทั้งการ จัดรูปแบบสวัสดิการพ้ืนฐานท่ีจำเป็นและเหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมาย (customize welfare) ท่ีคำนึงถึงฐานะ ทางเศรษฐกิจและสังคมทแ่ี ตกตา่ งกนั โดยมแี นวทางการรับภาระคา่ ใช้จ่ายรว่ มกัน (cost sharing) ๔) การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียมและท่ัวถึงโดยการ ปฏริ ูปโครงสร้างและระบบบริหารจัดการการศกึ ษาจัดโครงสรา้ งจัดการการศกึ ษาใหมเ่ พือ่ สร้างความรบั ผดิ ชอบ ต่อผลลัพธ์ (Accountability) ปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษาเพื่อเพ่ิมคุณภาพและประสิทธิภาพการจัด การศึกษาโดยการจัดสรรงบประมาณตรงสู่ผู้เรียน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา ปรับระบบการผลิตและพัฒนาครูผู้สอน พัฒนาระบบการประเมินและการรับรองคุณภาพท่ีเน้นผลลัพธ์ที่ตัว ผู้เรียน โดยมุ่งจัดการเรยี นรูเ้ พื่อสร้างสมรรถนะกำลังคนทงั้ ระบบตั้งแตร่ ะดับปฐมวยั จนถึงการเรยี นรตู้ ลอดชีวิต การวจิ ัยและการใชเ้ ทคโนโลยีและส่ือเพื่อการเรียนรู้ ๕) การพฒั นาระบบสขุ ภาพบรู ณาการระบบหลักประกันสขุ ภาพภาครัฐ ๓ กองทุน เพอื่ ใหเ้ กิด ความเปน็ เอกภาพในการบริหารจดั การ มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธภิ าพ และลดความเหลือ่ มล้าในระบบ หลักประกันสุขภาพภาครัฐ พฒั นาการบรหิ ารจัดการระบบสขุ ภาพด้วยการมแี ละการใช้ระบบขอ้ มูลสารสนเทศ เพ่อื การบริหารทรัพยากรด้านสาธารณสุข การสง่ เสริมการอภิบาลระบบสุขภาพในลกั ษณะทม่ี ีการใชท้ รัพยากร ร่วมกัน การสนับสนนุ ความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาระบบบริการท่ีมีการลงทุน และใช้ทรัพยากรร่วมกัน การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์เพ่ือรองรับการเป็น กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 32
สังคมผสู้ ูงอายุ รวมทง้ั การสร้างโอกาสในการเป็นศนู ยก์ ลางสขุ ภาพนานาชาติท้ังในด้านศนู ยก์ ลางบรกิ ารสขุ ภาพ (Medical Service Hub) ศูนย์กลางบริการเพ่ือส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) โดยนำรายได้กลับมาใช้ ยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุขในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการให้ความสำคัญกับมิติสุขภาพในทุก นโยบายสาธารณะ (Health in All Policies) เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงผลกระทบของนโยบาย สาธารณะทมี่ ตี อ่ สุขภาพของประชาชน ๖) การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมโดยการฟื้นฟูบทบาท สถาบันศาสนาในการส่งเสริมศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมตามหลักคำสอนทางศาสนา การธำรงรักษา วัฒนธรรมทดี่ ีงามเพื่อเป็นฐานรากทเี่ ขม้ แข็งในสงั คมท่ามกลางวัฒนธรรมท่หี ลากหลาย และการบริหารจัดการ ทนุ ทางวัฒนธรรมเพอ่ื สรา้ งมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจ ๕.๓.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยทุ ธศาสตรก์ ารเสริมสรา้ งและพฒั นา ทุนศักยภาพมนุษย์ ยทุ ธศาสตรก์ ารสร้างความเป็นธรรมลดความเหล่ือมลา้ ในสงั คม ๑) เปา้ หมายการพัฒนา ๑.๑) คนไทยทุกกลุ่มวยั มีทักษะและความรู้ความสามารถท่ีจะเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ เดก็ ปฐมวยั มีพัฒนาการเตม็ ตามศกั ยภาพ สามารถเตบิ โตเปน็ คนดี มีคณุ ภาพ และทำประโยชนต์ ่อสังคมโดยรวม เด็กวัยเรียนมีนิสัยรักการอ่านและมีทักษะการเรียนรู้ในเชิงคิดสังเคราะห์ สร้างสรรค์ต่อยอดไปสู่การสร้าง นวัตกรรมความรู้ มีทักษะชวี ิตและอาชีพ ทักษะทางการเงิน ทักษะสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี วัยแรงงาน เพิ่มสมรรถนะท้ังความรู้ ทักษะ คุณลักษณะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน มีความรู้และทักษะ การบริหารจัดการทางการเงินท่ีเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ วัยสูงอายุ มีงานทำและรายได้ท่ี เหมาะสมกบั ศกั ยภาพผ้สู ูงอายุ ๑.๒) คนไทยมีการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิตพร้อมรับการเปล่ียนแปลงทั้งภายในและ ภายนอกประเทศ ๑.๓) คนไทยมพี ฤตกิ รรมเสย่ี งทางสขุ ภาพทีล่ ดลงและมีคณุ ภาพชวี ิตทดี่ ีขนึ้ ๑.๔) คนไทยมีจิตสำนึกพลเมอื งท่ีมที ัศนคตแิ ละพฤติกรรมทม่ี ปี ระโยชน์ต่อส่วนรวมมคี ณุ ธรรม จริยธรรมและมีคา่ นยิ มตามบรรทดั ฐานท่ีดขี องสังคมไทย ๑.๕) เพมิ่ โอกาสการเขา้ ถงึ บริการพน้ื ฐานทางสงั คมของภาครัฐ ๒) แนวทางการพฒั นา ๒.๑) พัฒนาศักยภาพคนทุกกลุ่มวัยให้มีทักษะและความรู้ความสามารถโดยส่งเสริมให้เด็ก ปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะสมองและทกั ษะทางสังคมทเี่ หมาะสม พฒั นาเด็กวยั เรียนใหม้ ีทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการท างานและการใช้ชีวิตท่ีพร้อมเข้าสู่ตลาดงาน ส่งเสริม แรงงานให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพท่ีสอดคล้องกับความต้องการ ทั้งทักษะขั้นพื้นฐาน ทักษะ เฉพาะในวิชาชีพ และทกั ษะในการเปน็ ผู้ประกอบการรายใหม่ พฒั นาศกั ยภาพของกลุ่มผู้สูงอายุให้มีโอกาสเข้า สตู่ ลาดงานเพิม่ ขึ้น ๒.๒) ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาและสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือตอ่ การเรียนรตู้ ลอดชวี ติ โดย ๒.๒.๑) ยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โดยขยายผลความร่วมมือ ระหว่างสถาบันอาชีวศึกษา สถาบันอุดมศึกษา ภาคเอกชน และผู้และผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศในการ พฒั นาสาขาท่มี คี วามเชยี่ วชาญเฉพาะด้าน การน าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน รวมทงั้ ขยายการจัดทำและการใชห้ ลักสตู รฐานสมรรถนะใหม้ ากขึน้ ๒.๒.๒) ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางท่ีมี ศกั ยภาพเข้าร่วมระบบทวิภาคี หรือสหกิจศึกษารวมท้ังสรา้ งความรู้ความเข้าใจใหก้ ับผู้ประกอบการ ครูฝึกหรือ กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 33
ครูพี่เล้ียงให้ทราบถึงบทบาทในการร่วมวางแผนการจัดการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และการติดตาม ประเมินผลผเู้ รียน ๒.๒.๓) พัฒนาคุณภาพครูโดยปรบั หลักสูตรการผลติ ครใู หอ้ งิ สมรรถนะ มจี ิตวญิ ญาณ ความเป็นครู ให้เป็นผู้แนะนำ รวมทั้งศึกษาแนวทางการกำหนด “สมรรถนะครูระดับชาติ”ท่ีจะนำไปสู่การ ออกแบบวิชาชีพครูทั้งระบบ ตัง้ แต่หลักสูตรการผลิตครูใหม่ การพัฒนาครูประจำการ การประเมินวิทยฐานะ ทางวิชาชีพ การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวติ ของครู ๒.๒.๔) พัฒนาส่ือการเรยี นรูท้ ี่หลากหลายให้เอื้อต่อคนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกท่ัวถึง ไม่จำกดั เวลาและสถานท่ี มกี ารจัดทำสอื่ ระบบการเรียนรู้โดยใชส้ ื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ทส่ี ามารถใช้งาน ผา่ นระบบอปุ กรณ์สอื่ สารเคลื่อนที่ รวมถึงใช้มาตรการทางภาษีจูงใจให้ภาคเอกชนผลิตหนังสือ สอื่ การอา่ นและ การเรยี นรู้ท่มี ีคณุ ภาพและราคาถกู ๒.๒.๕) ส่งเสรมิ การสรา้ งเครอื ขา่ ยระหว่างบา้ น วัด โรงเรยี น ในการพฒั นาแหลง่ การ เรียนรู้มีชีวิตในชุมชนและให้มีการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า อาทิ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดโบราณสถาน อุทยาน ประวัติศาสตร์ โรงเรียนผู้สูงอายุ และการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางสังคมท่ีแสดงถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม จารีต ประเพณี ศิลปหัตถกรรมทส่ี ืบทอดมาจากอดีต รวมท้ังพัฒนาระบบจัดการความรบู้ นฐานนวัตกรรมการเรียนรู้ท่ี สอดคลอ้ งกับภมู ิปัญญาท้องถิ่นและภูมิสงั คม ๒.๓) หล่อหลอมคนไทยให้มีความเป็นพลเมืองท่ีดีตามบรรทัดฐานของสังคมและส่งเสริมให้ ภาคธุรกิจทำธุรกิจเพื่อสังคม โดยสร้างค่านิยมในการดำเนินชีวิต การศึกษา และการท างานตามบรรทัดฐาน ของสังคม โดยการปลูกฝังและหล่อหลอมสมาชิกในครอบครัวให้มีความเอ้ืออาทร การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มี คณุ ธรรมจรยิ ธรรม สถาบันการศึกษามีการจดั การเรยี นการสอนท่ีมีกจิ กรรมเก่ียวกับคุณธรรม จรยิ ธรรมปรัชญา ชีวิต มีการเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมการท างานท่ีคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม ท างานเป็นทีม มี ระเบยี บวนิ ยั ยอมรับความคดิ เห็นตา่ ง ความมุมานะในการแสวงหาความรู้ ๒.๔) ให้ความชว่ ยเหลือทางสังคมเพ่ือเปน็ แต้มตอ่ แก่กลุ่มเป้าหมายประชากรร้อยละ ๔๐ ท่ีมี รายได้ต่ำสุด ให้ได้รับการศึกษาท่ีสูงขึ้นและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ และ ยกระดับรายได้ ให้ได้รับการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และสวัสดิการ (Welfare) ที่เหมาะสม อย่างทัว่ ถึงและเปน็ ธรรม สร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาทมี่ ีคณุ ภาพให้แก่กลมุ่ เป้าหมายฯ อยา่ งต่อเนือ่ งและมี คุณภาพโดยไม่ถูกจำกัดศกั ยภาพจากสภาพครอบครวั พ้ืนที่ และสภาพรา่ งกาย โดยการพัฒนาศูนยเ์ ด็กเล็กให้มี คณุ ภาพและได้มาตรฐาน การดูแลและป้องกันนักเรียนทย่ี ากจนท่ีอาศยั ในพ้ืนที่หา่ งไกลโรงเรียน ไม่ให้เด็กออก จากโรงเรียนกลางคันโดยให้ความช่วยเหลือแก่เด็กนักเรียนยากจนท่ีครอบคลุมตั้งแต่การสร้างรายได้ของ ครวั เรือน การสนับสนุนค่าเดินทางไปยังสถานศึกษา การให้ทุนการศึกษาต่อระดับอดุ มศึกษาแกเ่ ด็กเรียนดีและ ยากจน โดยมีเงื่อนไขเมื่อจบการศึกษาแล้วต้องกลับไปทำงานท่ีบ้านเกิด และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพ่ือ ส่งเสรมิ การเรียนรใู้ นพ้นื ทีห่ า่ งไกล ๒.๕) กระจายการให้บริการภาครัฐท้งั ด้านการศึกษาสาธารณสุข โครงสร้างพ้ืนฐาน และการ จัดสวัสดิการในภูมิภาคให้มีความครอบคลุมและท่ัวถึงท้ังในเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมท้ังการจัดสรร ทรัพยากรใหม้ กี ารกระจายตัวอยา่ งเป็นธรรม ตลอดจนการสร้างปัจจัยแวดล้อมทางธรุ กิจ รวมท้ังกฎหมายกฎระเบียบให้เกิดการแข่งขันที่ เป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภายใต้มิติด้านสังคมข้างต้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือ ผลกระทบ ภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ผู้เรียนและสถานศึกษาในส่วน ภูมิภาค/ชนบท ได้รับการยกระดับคุณภาพการให้บริการทางการศึกษาเกิดความเสมอภาคทางการศึกษาทุก กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 34
ระดับ ทุกประเภท โดยเฉพาะระดับก่อนประถมศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น โดยประสาน ทรัพยากรทางการศึกษาในจังหวัด/ท้องถิ่น เพ่ือให้บรรลุตามเป้าหมาย และควรกำหนดให้ระบบและวิธีการ ส่งเสริม คัดเลือกเพ่ือการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ได้รับการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้เกิดความเป็นธรรม ความเสมอภาคแก่นักเรยี น นักศึกษาทุกระดับทุกประเภทการศึกษา รวมท้ังควรกำหนดให้ผู้เรียนและผู้สำเร็จ การศึกษาอุดมศึกษามีปริมาณเหมาะสมสอดคล้องในสาขาความต้องการแต่ละสายอาชีพ มีองค์ความรู้และ ทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ มีเจตคตแิ ละคณุ ลักษณะนสิ ยั ท่ีพึงประสงค์ ๕.๔ มิตดิ า้ นการบรหิ ารจัดการภาครฐั ที่มปี ระสิทธภิ าพ ๕.๔.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ : ยุทธศาสตร์การปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหาร จัดการภาครัฐ เพ่ือตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างมีประสทิ ธภิ าพ เกิดประสิทธิผล มีความคุ้มค่า โปร่งใส และเกิดความเป็นธรรมในการให้บริการสาธารณะ และเพ่ือให้สอดคล้องกับทิศทางและบริบทการ เปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินงานท่ีสำคัญคือ การเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐโดยการปรับ โครงสร้างระบบราชการใหส้ ามารถตอบสนองการเปลยี่ นแปลงและความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธภิ าพ เชน่ พัฒนา e-government และ e-service เพ่อื เพิ่มประสิทธภิ าพในการท างานและการ ให้บริการ เป็นต้น และพัฒนาและบรหิ ารกำลังคนภาครฐั เพื่อปรับบทบาทให้สอดคล้องกับภารกิจที่มีอยู่ และ เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เช่น พัฒนาหลักสูตรและดำเนินการฝึกอบรมต่าง ๆ จัดทำร่าง ยทุ ธศาสตร์บริหารกำลงั คนภาครัฐ วิเคราะห์อตั รากำลังคนภาครัฐตามยุทธศาสตร์ประเทศ เป็นต้น รวมท้ังลด ปัญหาคอร์รัปชั่น เพื่อสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการภาครัฐ และสร้างความเชื่อม่ันศรัทธาในการ บริหารงานของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สร้างและใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานและลดขั้นตอนในการ ทำงาน นำระบบ ICT มาใช้ในการดำเนินงาน ตลอดจนปฏิรูปกฎหมายให้ทันสมัยเพื่อเสริมสร้างขีด ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ ๕.๔.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๑๒ :ยุทธศาสตรก์ ารเพ่ิมประสทิ ธภิ าพ การบริหารจดั การในภาครัฐและธรรมาภิบาลในสังคมไทย ๑) เปา้ หมาย ๑.๑) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการให้บริการของภาครัฐและ ประสทิ ธิภาพในการประกอบธรุ กิจของประเทศ ใหอ้ ยใู่ นอนั ดับสองของอาเซียน ๑.๒) เพมิ่ จำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ แต่ละประเภท ทีม่ ีการบริหารจัดการท่ีดี ๑.๓) เพ่มิ คะแนนดชั นีภาพลกั ษณค์ อร์รปั ชั่นอยสู่ ูงกว่ารอ้ ยละ ๕๐ ๑.๔) ลดข้อร้องเรียนของประชาชนท่ีไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอ ภาคและเปน็ ธรรม ๒)แนวทางการพัฒนา ๒.๑) ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจและคุณภาพบุคลากรภาครัฐ ให้มีความ โปร่งใส ทันสมัย คล่องตัว มีขนาดท่ีเหมาะสม เกิดความคมุ้ คา่ สามารถให้บรกิ ารประชาชนในรูปแบบทางเลือก ท่ีหลากหลายและมีคุณภาพ โดยกำหนดภารกิจขอบเขตอำนาจหน้าที่ของการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วน ภมู ิภาค และส่วนทอ้ งถ่ินให้ชัดเจนและไมซ่ ้ำซ้อน พัฒนาบคุ ลากรและปฏิรปู ระบบริหารจดั การกำลังคนภาครัฐ ให้มีประสิทธิภาพ มีความรคู้ วามสามารถสอดคล้องกับการปฏิบัติงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทลั จัดทำยุทธศาสตร์ การพัฒนารัฐวสิ าหกิจในระยะยาวให้มคี วามชดั เจนและสามารถปฏิบตั ิได้จริง ๒.๒) ปรับปรุงกระบวนการงบประมาณและสร้างกลไกในการติดตามตรวจสอบการเงินการ คลังภาครัฐ เพ่ือให้การจัดสรรและการใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ และให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมใน การตัดสนิ ใจกระบวนการงบประมาณ โดยแก้ไขพระราชบญั ญัตวิ ธิ ีการงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ และกฎหมายท่ี กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 35
เก่ียวข้อง เช่น พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการ บริหารงานจังหวัดและกล่มุ จังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ.๒๕๕๑ รวมท้ังปรับปรงุ กระบวนการจัดทำแผนพัฒนา ระดับพน้ื ที่ให้เชื่อมโยงต้ังแต่ระดบั ชุมชนถึงระดับจังหวัดซง่ึ ค่าของบประมาณของจงั หวัดควรมีความชัดเจนว่า เป็นวงเงินตามภารกิจของกระทรวงและวงเงินตามค่าขอของจังหวัด นอกจากนี้ให้ปรับปรุงระบบติดตาม ประเมินผลใหส้ ามารถวัดผลสมั ฤทธ์ิการใช้จ่ายงบประมาณได้อยา่ งแท้จริง ๒.๓) เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการสาธารณะให้ได้มาตรฐาน สากล โดยปรับ รูปแบบและวิธีดำเนินการของภาครัฐให้มีความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคมในลักษณะรูปแบบ ประชารัฐปรับรูปแบบการให้บริการของรัฐจากรูปแบบเดิมไปสู่การให้บรกิ ารผ่านระบบดิจิทัลอย่างเป็นระบบ สร้างระบบโครงสร้างพ้ืนฐานกลางของภาครัฐและเอกชน (Data Center) ผ่านบรกิ ารเครือข่ายภาครัฐ บูรณา การขอ้ มลู ขา้ มหนว่ ยงานผ่านระบบดิจทิ ัลรองรบั การใช้ประโยชนจ์ ากข้อมูลภาครฐั ร่วมกนั ๒.๔) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้สังคมไทยมีวินัย โปร่งใส และยุติธรรม โดยปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีของสังคมไทยให้กับเด็กและเยาวชน ผ่านกลไกครอบครัว สถาบันการศึกษาส่ือมวลชน และเครอื ข่ายทางสังคม ยกระดับมาตรฐานจริยธรรมของข้าราชการและเจ้าหนา้ ที่ ของรัฐผ่านกลไกการบรหิ ารงานบุคคล วางระบบและกระบวนการจดั การตอ่ การทุจริตให้มีประสทิ ธภิ าพ ๕.๔.๓ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ -๒๕๗๔ : ยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตรการเรียน การสอน กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคน การวจิ ัยและนวัตกรรม รองรับ ความต้องการของตลาดงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศยุทธศาสตร์การพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล ยุทธศาสตรพ์ ัฒนาคุณภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคม แห่งการเรียนรู้ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของทุกภาค ส่วน ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบการเงินเพือ่ การศึกษา ๑) ความคาดหวงั : ๑.๑) ลดความแตกตา่ งในคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาระหวา่ งสถานศึกษา ๑.๒) เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงบรกิ ารการศกึ ษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ๑.๓) กระจายอำนาจและความรบั ผดิ ชอบไปสสู่ ถานศกึ ษาเพื่อการพฒั นาที่ยั่งยืน ๑.๔) เพ่ิมประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าของการบริหารจัดการ เพ่ือรองรับการแข่งขัน อยา่ งเปน็ ธรรมภายใตก้ ำกับของรฐั ๑.๕) สร้างการมสี ว่ นรว่ มในการระดมทุนและการสนองทุนเพอ่ื การศึกษาจากทกุ ภาคส่วนของ สังคม ๒) มาตรการ: ๑.๑) ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศที่บูรณาการและเชื่อมโยง ระหว่างหน่วยงานส่วนกลาง หนว่ ยงานส่วนภูมิภาค และสถานศึกษา ภายในหน่วยงานและระหว่างหนว่ ยงาน เพ่ือการกำกับ ติดตามประเมินผล การบรหิ ารจัดการ และการตัดสินใจเชิงนโยบายของผบู้ ริหาร พัฒนาระบบ ฐานข้อมูลสารสนเทศท่ีบูรณาการและเชื่อมโยงกับระบบการประกันคุณภาพภายในการประเมินคุณภาพ ภายนอก การตดิ ตามประเมนิ ผลของหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ๑.๒) จัดทำแผนที่ตั้งสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใช้ระบบ GIS เพื่อกำหนดจำนวนและท่ีต้ัง สถานศกึ ษาท่เี หมาะสม สอดคลอ้ งกับความต้องการของผเู้ รยี น จัดทำแผนและข้ันตอนการควบรวมสถานศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน แบ่งกลุ่มสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามศักยภาพและความพร้อม เพ่ือลดความแตกต่างของคุณภาพ และมาตรฐานระหว่างสถานศึกษา กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 36
๑.๓) ส่งเสริมให้สถาบันอาชีวศึกษา /สถาบันอุดมศึกษาผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาท่ีมี ความเช่ียวชาญ เพ่ือให้สถาบันมีขนาดและจำนวนการผลิตที่สอดคล้องกับจำนวนผู้เรียนที่มีแนวโน้มลดลง รวมทง้ั สนบั สนุนให้สถาบันอดุ มศึกษาทั้งของรับและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยอาศยั กลไก ทางการเงินดา้ นอปุ สงค์ ผา่ นกองทุนเงินใหก้ ้ยู ืมทผี่ ูกกบั รายไดใ้ นอนาคต ๑.๔) ปรับโครงสร้างการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และสถานศึกษา ตามแนว ทางการกระจายอำนาจไปสูส่ ถานศึกษา รวมทัง้ ปรับบทบาทของหน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานส่วนภูมิภาคให้ ทำหน้าท่ีเป็นผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมินผล ส่งเสริมสนับสนุน และกระจายอำนาจให้ สถานศึกษาทำหนา้ ทเี่ ปน็ ผูจ้ ัดการศกึ ษา ๑.๕) ปรบั ระบบการจดั สรรเงินอุดหนุนรายหัวของรฐั และเอกชนท่ีสะท้อนคุณภาพมาตรฐาน ประสิทธิภาพ ประสิทธผิ ล ตามความแตกต่างของคุณลกั ษณะสถานศึกษาและคุณลักษณะของผู้เรียนด้วยความ เปน็ ธรรม และสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหภ้ าคเอกชนทมี่ ีศักยภาพและความพร้อมเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการบรหิ ารและ จัดการศกึ ษา ๑.๖) กำหนดแผนความต้องการการผลิตครูใหม่ การพัฒนาครูประจำการ โดยจำแนกตาม สาขาวิชาทข่ี าดแคลน และกำหนดให้มีแผนพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เก่ียวข้องกับ ระบบการบริหารงานบุคคลของครู ผ้บู รหิ าร และบุคลากรทางการศกึ ษา ๑.๗) ปรับเปล่ียนระบบการจัดสรรเงินจากเดิมท่ีจดั สรรผ่านด้านอุปทานหรือสถานศึกษา มา เป็นจดั สรรผ่านด้านอุปสงค์หรือตัวผู้เรียนในสัดสว่ นที่เหมาะสม และกำหนดแผนและขั้นตอน การเปล่ยี นผ่าน ระบบการจัดสรรเงินเพื่อการศึกษา เพื่อมิให้สถานศึกษาได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบ การจดั สรรเงิน สนับสนุนการจัดต้ังกองทุนเงินให้เปล่าสำหรบั ผู้เรียนที่ด้อยโอกาสและยากจน ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาท่ีมี คุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งออกแบบและพัฒนาระบบบัญชีสถานศึกษาตามเกณฑ์คงค้างเพ่ือ การรายงาน การเงิน ๑.๘) พฒั นาระบบและกลไกการสง่ เสริมสนับสนนุ ใหท้ กุ ภาคส่วนของสงั คมเขา้ มามีสว่ นร่วมใน การผลิตและพัฒนาส่ือ ตำรา สิ่งพมิ พแ์ ละส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ท่มี ีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทัง้ สอื่ เพอ่ื การพัฒนา ผูบ้ รหิ าร ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จำแนกตามระดับ/ประเภทการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่อื สารทท่ี ันสมัย ๑.๙) ส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ของชุมชนในทุกพ้ืนท่ี โดยการจัดตั้งศูนย์การเรียนท้องถ่ิน ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาทักษะ ความรู้และความสามารถในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชากรทุกช่วงวัย รวมท้ังสนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ้ืนท่ีพิเศษ และพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามความเหมาะสมของพน้ื ที่ เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกบั เป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภายใต้มิตดิ ้านบริหารจัดการ ภาครัฐทม่ี ีประสิทธิภาพในข้างตน้ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารควรมกี ารกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงาน ให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือผลกระทบภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษา เพื่อให้โครงสร้างของการบริหาร การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการปรับปรงุ ให้มีประสิทธภิ าพ มีความคลอ่ งตวั โดยกระจายอำนาจ หรือมอบอำนาจจากสว่ นกลางลงไปสู่หนว่ ยปฏิบัติ สว่ นภูมิภาค กำหนดกลไกและส่งเสรมิ ให้ทกุ ภาคส่วนมีสว่ น รว่ มในการจัดการศึกษาและสนับสนนุ ทรัพยากรเพอ่ื การศกึ ษารวมทงั้ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศกึ ษา กบั องค์กรหรือหน่วยงาน กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 37
ยทุ ธศาสตรก์ ารศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579) 1 แนวคิดการจดั การศึกษา 1.1 หลักการจดั การศึกษา 1) หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for all) เป็นการจัดการศึกษาเพื่อให้ ประชาชนทุกคน ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงวัยมีโอกาสในการศึกษาและการ เรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือให้แต่ละบุคคลได้พัฒนา ตามความพร้อมและความสามารถให้บรรลุขีดสูงสุด มีความรู้ ทกั ษะ และคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ในการดำรงชวี ิต และการอยู่ร่วมกบั ผู้อ่ืนในสังคม รวมทั้งมีสมรรถนะใน การท างานเพ่ือการประกอบอาชีพ ตามความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน และการพฒั นาเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศ อันจะนำไปพัฒนาตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ แผนยุทธศาสตร์การศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องกำหนดเป้าหมายการจัดการศึกษาทีค่ รอบคลุม โดย ไมป่ ลอ่ ยปละละเลย หรอื ท้งิ ใครไวข้ า้ งหลัง 2) หลักการจัดการศึกษาเพ่ือความเท่าเทียม (Inclusive Education) เป็นการจัดการศึกษา สำหรับผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เรียนกลุ่มปกติ กลุ่มด้อยโอกาสท่ีมีความยากลำบาก และขาด โอกาสเนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจและภูมิสังคม ซึ่งรฐั ต้องดูแลจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษา สนับสนุน ผู้เรียนกลุ่มนี้ให้ได้รับการศึกษาตามศักยภาพและ ความพร้อมอย่างเท่าเทียม กลุ่มท่ีมีความต้องการจำเป็น พิเศษ ซ่ึงหมายรวม กลุ่มผู้มีความบกพร่อง ทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม อารมณ์ การสื่อสารและการ เรียนรู้ หรอื ร่างกายพิการ หรือ ทุพพลภาพ รวมท้งั บุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองไดห้ รือไม่มผี ูด้ ูแล รัฐตอ้ งจัดให้ บคุ คลดังกล่าวมีสทิ ธิ และโอกาสได้รบั การศกึ ษารว่ มกับเด็กปกติในกรณีที่สามารถเรยี นได้ เพื่อใหเ้ ขาได้มีโอกาส เรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นในสังคม หรือจัดให้เป็นพิเศษตามระดับ ความ บกพร่อง นอกจากนี้บุคคลซ่ึงมีความสามารถพิเศษ รัฐต้องจัดรูปแบบการศึกษาท่ีเหมาะสม โดยคำนึงถึง ความสามารถของบุคคลนั้น ด้วยเหตุผลสำคัญคือบุคคลที่มีความสามารถพิเศษเป็นทรัพยากร ท่ีสำคัญของ ประเทศ หากจัดการศึกษารูปแบบปกติ อาจทำให้ไม่สามารถพัฒนาบุคคลดังกล่าวให้มีความรู้ ความสามารถ ตามศักยภาพของเขาได้ รัฐจึงมีหน้าที่ลงทุนพิเศษสำหรับบุคคลเหล่าน้ี และถือเป็นสิทธิ ของบุคคลซ่ึงมี ความสามารถพิเศษที่จะได้รับบริการทางการศึกษาซ่ึงเหมาะสมสำหรับการพัฒนาศักยภาพ ของตน แผน ยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทาง การพัฒนาท่ีครอบคลุม การดูแลและพัฒนาบคุ คลทกุ กล่มุ เป้าหมายอย่างเท่าเทียมและทว่ั ถึง 3) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการดำรงชีวติ และการประพฤตปิ ฏิบตั ิตน ของประชาชนทุกระดับ เพื่อการดำรงชีวิตในสังคมอย่างพอเพียง เท่าทันและเป็นสุข การศึกษาจึงต้องพัฒนา ผู้เรียนให้มีความรอบรู้ มีทักษะที่พร้อมรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและวัฒนธรรมจากโลก ภายนอก โดยยึดหลัก ความพอประมาณ ท่เี ปน็ ความพอดีที่ไมน่ ้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผู้อ่ืนการตัดสนิ ใจท่ีมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจยั ท่ีเก่ียวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะ เกิดข้ึน จากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ และมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว ซ่ึงเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับ ผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึนโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ คาดวา่ จะเกิดข้ึนในอนาคตทัง้ ใกลแ้ ละไกล โดยใชค้ วามรอบรู้เก่ียวกบั วิชาการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องอย่างรอบด้าน กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 38
มีความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและ ความ ระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สจุ ริต อดทน พากเพยี ร และใช้สติปัญญา ในการดำเนินชีวิต 4) หลักการมสี ่วนรว่ มของทุกภาคส่วน (all for Education) การจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพให้กับประชาชนทุกคน เป็นพันธกิจที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของสังคมทุกภาคส่วน เนื่องจากรัฐต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ในการจัดการศึกษาที่ต้องครอบคลุมทุกช่วงวัย ทุกระดับการศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยรูปแบบ วิธีการที่หลากหลาย สนองความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล และสนองยุทธศาสตร์ชาติและ ความจำเป็นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐจึงต้องให้ ความสำคัญและสนับสนุน การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วน ท้องถนิ่ เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่นในการ จดั การศึกษา โดยบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรต่าง ๆ จะได้รับการส่งเสรมิ ให้เข้าร่วมจัดการศึกษา เสนอแนะ กำกับ ติดตาม และสนับสนุนการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ตามความพร้อมเพ่ือประโยชน์ของสังคม โดยรวม 5) หลกั การอยูร่ ่วมกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรม การจัดการศกึ ษาให้อยู่ร่วมกนั อยา่ งมีความสขุ มี ความมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาคน ให้มีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตร่วมกับคนอ่ืนอย่างมีความสุข โดยเฉพาะการอยู่ ร่วมกันในสังคม พหุวัฒนธรรม เป็นการอยู่ร่วมกันของบุคคลที่มีความแตกต่างทางดา้ นเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งทัศนคติ ความเช่ือ ดังนั้น การเรียนรู้เพ่ือยอมรับในความแตกต่างและความ หลากหลาย ของสงั คมพหวุ ฒั นธรรม จำเปน็ อย่างยิง่ ท่จี ะตอ้ งเรยี นรู้ เพ่ือการอยูร่ ่วมกันอยา่ งสันติ 1.2 เป้าหมายการพั ฒ นาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) เป็น เป้าหมายที่ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จำนวน 193 ประเทศได้ลงมติ รับรองในการประชุมสมัชชา ใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. 2558 โดยจะใช้เป็นวาระแห่งการพฒั นา ของโลกในอีก 15 ปีขา้ งหน้า (ค.ศ. 2016 - 2030) มีทง้ั หมด 17 เปา้ หมาย โดยเปา้ หมายดา้ น การศึกษา คอื เป้าหมายท่ี 4 สร้างหลกั ประกันวา่ ทุก คนมีการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่า เทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตแผน ยทุ ธศาสตร์การศกึ ษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้จงึ ตอ้ งพฒั นาคุณภาพและประสทิ ธภิ าพ การจดั การศึกษาของประเทศเพ่อื สรา้ ง หลักประกนั วา่ เดก็ ปฐมวัยทุกคนจะได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนเข้า เรียนประถมศกึ ษาทกุ คนสำเร็จ การศึกษาระดบั ประถมศกึ ษาและมัธยมศกึ ษาทม่ี คี ุณภาพและมผี ลลพั ธ์ทางการ เรยี นทมี่ ีประสิทธผิ ลทุกคน สามารถเข้าถึงการศกึ ษาระดับอาชวี ศกึ ษาและอุดมศกึ ษาด้วยคา่ ใช้จ่ายที่เหมาะสม และมีคณุ ภาพกำลงั แรงงานมที ักษะทีจ่ ำเป็นรวมถงึ ทกั ษะทางเทคนคิ และอาชีพสำหรับการจ้างงาน การมีงานที่ ดีและ การเปน็ ผู้ประกอบการ กลุ่มผู้พิการและด้อยโอกาสเข้าถึงการศึกษาและการฝกึ อาชีพทุกระดับอย่างเท่า เทียม มกี ารเพิม่ จำนวนครูทม่ี คี ุณภาพ เพ่อื การศกึ ษาสำหรับการพัฒนาอยา่ งยัง่ ยืนและ การมวี ถิ ชี วี ิตทย่ี ั่งยืน 1.3 ยุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ซงึ่ ได้กำหนดเปา้ หมาย การพัฒนาประเทศอย่างยัง่ ยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพอื่ ใชเ้ ป็น กรอบในการจดั ทำแผนต่าง ๆ ใหส้ อดคล้องและ บูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกัน ไปสู่เป้าหมายกรอบยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าว ครอบคลุม นโยบายการพัฒนาประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (Growth & Competitiveness) การสร้าง โอกาสบนความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม (Inclusive Growth) และการปรับสมดลุ และ พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐ 1.4 แผนการศึกษาแห่งชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ได้กำหนดเป้าหมายของการจัด การศึกษาของประเทศ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทาง ในการจัดทำแผนต่างๆ ใหส้ อดคล้องและบูรณาการกันให้เกิด เปน็ พลงั ขบั เคลอื่ นรว่ มกันไปสูเ่ ปา้ หมาย เปา้ หมายการศกึ ษาครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ การเขา้ ถงึ โอกาสทางการ กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 39
ศึกษา (Access)ความเท่าเทียม ทางการศึกษา (Equity)ด้านคุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ (Efficiency) และการตอบโจทย์ บรบิ ทท่ีเปลยี่ นแปลง (Relevancy) 2 วิสยั ทศั น์ (Vision) “ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใตไ้ ดร้ ับการศึกษาและเรียนรูต้ ลอดชวี ติ อยา่ ง มีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ การเปล่ยี นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21” 3 พันธกจิ (Mission) 1. เสริมสร้างความมั่นคงแก่สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรมบนพื้นฐานหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ พอเพียง 2. พัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับสู่มาตรฐานสากลและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันสู่ ความมน่ั คง ม่งั คง่ั ย่งั ยนื 3. พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ ตามหลัก ธรรมาภบิ าล 4 เป้าประสงคห์ ลัก มั่นคง 1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดม่ันสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มี จิตสำนกึ ในความเป็นพลเมือง มีคุณธรรม จริยธรรม อยู่รว่ มกันอย่างมคี วามสขุ ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรม มัง่ คัง่ 2. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใตม้ ีทกั ษะการดำรงชีวติ ในศตวรรษ ที่ 21 โดยเน้น ทกั ษะ การเรยี นรู้ ทักษะชวี ติ ทกั ษะการทำงาน รวมท้งั ทกั ษะการส่ือสาร และเทคโนโลยี สามารถ พ่งึ พาตนเองได้ 3. กำลังคนมีคุณภาพมีทักษะท่ีสำคัญและมีสมรรถนะตรงความต้องการของตลาดงาน เป็น ฐานรองรับการขับเคลือ่ นประเทศไทย 4.0 ย่งั ยนื 4. หน่วยงานการศึกษาและสถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส มีการบูรณาการการท างานทกุ ระดับในพ้ืนทีแ่ ละมีส่วนร่วมจากประชาชน 5. ผเู้ รยี นทุกกลุ่มเปา้ หมายไดร้ บั บริการทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเทา่ เทยี ม 6. ประชาชนมีคุณภาพชวี ิตที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ่ึงพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 5 ยุทธศาสตร์ เปา้ หมาย ตัวชวี้ ัด กลยุทธ์ และแนวทางปฏิบัติของกลยุทธ์ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 การศกึ ษาเพอื่ เสรมิ สร้างความมน่ั คง เป้าหมายเชิงยทุ ธศาสตร์ 1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อสถาบันหลัก และการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข 2. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใตอ้ ยูร่ ่วมกันอยา่ งมคี วามสขุ ในสงั คมพหุวฒั นธรรม 3. ประชาชนในจังหวดั ชายแดนภาคใต้มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความเป็นพลเมอื งไทย และพล โลก สามารถดำรงตนได้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กลยทุ ธแ์ ละแนวทางการปฏิบตั ิของกลยทุ ธต์ ามยุทธศาสตรท์ ี่ 1 กลยุทธ์ที่ 1 เสริมสร้างความภาคภูมิใจ และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั ริย์ 1) พัฒนาหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความภาคภูมใิ จ ความจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ 2) ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมท่ีเสริมสร้างความภาคภูมิใจและความ จงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 40
3) ผลิตสื่อสร้างสรรค์ในทุกช่องทางการสื่อสารที่เสริมสร้างความม่ันคงแกส่ ถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 4) ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่าน กระบวนการเรียนการสอนกิจกรรมสภานักเรียนและการจดั กิจกรรมเสริมในรปู แบบต่างๆ กลยทุ ธ์ท่ี 2 เสริมสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสขุ ในสงั คมพหวุ ัฒนธรรม 1) สง่ เสรมิ ใหส้ ถานศึกษาจัดการเรยี นรูก้ ารอย่รู ว่ มกันในสงั คมพหุวฒั นธรรม 2) ส่งเสริมให้สถานศึกษานำกระบวนการสันติศึกษา ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อการอยู่ รว่ มกันอย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมต่างๆจัดตั้งพัฒนาศูนย์การเรียนรู้หรือแหล่งเรียนรู้พหุวัฒนธรรม จังหวัด ชายแดนภาคใตใ้ นสถานศกึ ษา กลยุทธ์ท่ี 3 ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมท่ีเน้นความมีวินัย ในตนเอง ความเป็นพลเมืองไทย พลโลก และการดำรงตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความมนั่ คงทางดา้ นเศรษฐกิจและ สงั คม 1) พฒั นาผ้นู ำ ผบู้ ริหารการศกึ ษาและผูบ้ ริหารสถานศึกษาท้ังภาครฐั และเอกชนผ่านหลักสูตร และกิจกรรมการพัฒนาที่หลากหลายเข้มข้น ให้มีศักยภาพในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของแต่ละพ้ืนท่ี อยา่ งตอ่ เน่อื งย่งั ยนื 2) ส่งเสริมการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต และความเปน็ อตั ลักษณข์ องพ้นื ท่ี 3) ส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ความเป็น พลเมือง ไทยและพลโลกเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงใน อนาคต 4) ปลูกฝังความมีวินัยในตนเองผ่านกิจกรรมต่างๆที่หลากหลายเช่น ลูกเสือ-เนตรนารี ยุวกาชาด กิจกรรมกีฬาคา่ ยเยาวชนกลุ่มเยาวชนจิตอาสาอย่างหลากหลาย ภายใต้ความรว่ มมือจากผู้ปกครอง ชุมชน และผลติ สื่อสรา้ งสรรคใ์ นการสง่ เสรมิ การปลกู ฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 5) ส่งเสรมิ การน้อมนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัตทิ ี่เป็นรูปธรรม โดย การ พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสถานศึกษาพอเพียงที่ยั่งยืน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในสถานศึกษา และชุมชนให้ครอบคลมุ ทกุ พื้นท่ี ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมายเชิง ยุทธศาสตร์ 1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถตามช่วงวัย และมี ศกั ยภาพ รองรับการพัฒนาพืน้ ที่ เขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกจิ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ 2. ประชาชนในจงั หวดั ชายแดนภาคใตม้ ีการเรียนรตู้ ลอดชีวติ พรอ้ มรับบริบทการเปลีย่ นแปลง ทงั้ ภายในและภายนอกประเทศ กลยทุ ธแ์ ละแนวทางการปฏิบตั ิของกลยุทธ์ตามยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 กลยุทธท์ ี่ 1 ส่งเสริมและพฒั นาผู้เรียนใหม้ คี ุณภาพและมที ักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21 1) ส่งเสรมิ การเรยี นรแู้ ละพัฒนาการเดก็ ปฐมวัยให้มีพฒั นาการท่ีเหมาะสมตามวัยการพัฒนา ศกั ยภาพของครูและผู้สอนการพัฒนาคุณภาพสภาพแวดลอ้ มและห้องเรียนปฐมวยั การใชว้ รรณกรรมเป็น ฐาน และการพฒั นาการสร้างองค์ความร้แู กผ่ ู้ปกครองและการจัดหาผลติ สอ่ื สร้างสรรคท์ ่ีเหมาะสมกับ การเรียนรู้โดย การบูรณาการร่วมกันของทุกหนว่ ยงานท่รี ับผิดชอบท้งั ภาครัฐ สว่ นท้องถิน่ และเอกชน กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 41
2) พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาข้ันพื้นฐานใหม้ ีคุณภาพ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางและ บรบิ ท ของพน้ื ท่ี 3) จัดทำและพัฒนาหลักสูตรด้านอาชีพเชื่อมโยงกันตั้งแต่ระดับประถม มัธยมศึกษ า อาชีวศกึ ษา อดุ มศึกษาการศกึ ษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัย ตามบรบิ ทของพน้ื ที่ 4) พัฒนารูปแบบการเรยี นรูท้ ่ีจำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ คดิ วเิ คราะห์ การสรา้ งและพฒั นานวัตกรรม อาทิ การเรียนการสอนแบบสะเตม็ ศกึ ษา การสอนแบบโครงงาน 5) ส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตอ่ เน่ืองตลอดชีวติ โดยเน้นการพัฒนาศนู ย์การ เรยี นร้รู ะดบั ตำบล ใหม้ คี วามพร้อมและไดม้ าตรฐาน 6) พัฒนาทักษะการใช้ภาษาแม่ และภาษาท่ี 2 เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู กลาง ภาษาจีน ภาษาอาหรบั 7) การใช้ICT เพื่อการสื่อสาร การประกอบอาชีพ และการจัดตั้งศูนยภ์ าษาและเทคโนโลยี ที่ ทนั สมยั ใหค้ รอบคลมุ พ้ืนที่ กลยุทธท์ ี่ 2 ผลติ และพัฒนาครู ใหม้ ีศักยภาพ และขดี ความสามารถในการจัดการเรียน การสอน ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของพืน้ ที่ 1) ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษา กำหนดคุณลักษณะและผลิตครู ให้สอดคล้องกับบริบทของ พนื้ ที่ 2) จดั ต้ังศูนยพ์ ฒั นาครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้สอนสำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย เน้นอดุ มการณข์ องการเปน็ ครู 3) ส่งเสริมการพัฒนาครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา ในรูปแบบที่หลากหลาย สอดคล้อง กับความต้องการท่ีแท้จริง เน้นการสร้างเครือข่ายการพัฒนาในรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง วิชาชีพ (PLC) และสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาทั้งภาครัฐและ เอกชน 4) จดั ให้มีการนำผลการพัฒนามาใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน พัฒนาประเมินผลการปฏิบตั ิงานอย่าง เป็น ระบบครบวงจร กลยุทธ์ท่ี 3 ส่งเสริมและพัฒนา สื่อการเรียนรู้ต่างๆ แหล่งเรียนรู้ให้มีมาตรฐาน เปิด โอกาสให้ ประชากรทกุ ช่วงวัยไดเ้ ข้าถงึ แหลง่ เรยี นรู้ ท่สี อดคลอ้ งกับบริบทของพนื้ ท่ี 1) จัดหา พัฒนา สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาท่ีสอดคล้องกับ ความ ต้องการ จำเป็นและบริบทของพ้ืนท่ีโดยจัดต้ัง “ศูนย์ผลิต พัฒนาส่ือและเทคโนโลยีการศึกษา” ท่ีเหมาะกับ สภาพสังคมโดยความรว่ มมอื ของหน่วยงาน ท้งั ภาครัฐ เอกชนและองค์กรเอกชน เพ่ือสาธารณประโยชน์ (NGO) 2) สร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ท่ีทันสมัย ได้แก่อุทยานการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ทาง ประวตั ิศาสตร์ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ชมุ ชน ห้องสมุดชุมชน 3) สง่ เสรมิ สนับสนุนใหม้ ีการรวบรวม อนรุ ักษ์ และใช้ ปราชญ์ชาวบ้านและภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ท่สี อดคลอ้ งกับอัตลักษณ์ของพน้ื ที่ 4) ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายสังคมรูปแบบต่างๆ เพ่ือ สร้าง สงั คมแหง่ การเรียนรู้และการเรยี นรูต้ ลอดชวี ติ กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาศักยภาพกลุ่มผู้สูงวัยให้สามารถประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและ การ ดำรงชีวติ อยา่ งมคี วามสุข 1) ส่งเสริมการรวมกลุ่มการเรียนรู้ร่วมกันของผู้สูงวัย โดยการจดั ต้ังศูนย์ฝึกอาชีพผู้สูงวัย ใน ชุมชนให้ครอบคลุมพน้ื ที่ กศน.ตำบลตะมะยูง หนา้ 42
2) ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของผู้สูงวัยในชุมชน ส่งเสริม ให้ผู้สูงวัยท่ีเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ครูผู้ทรงคุณค่าที่มีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการ สอน ในสถานศกึ ษาตามความสมัครใจ ยุทธศาสตรท์ ี่ 3 การผลติ และพัฒนากำลงั คนใหม้ ีสมรรถนะในการแขง่ ขนั เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ 1. ประชากรวยั แรงงานมีทักษะและสมรรถนะท้ังความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะด้านอาชีพ สอดคลอ้ งกับ ความตอ้ งการของตลาดงาน และไดร้ บั การส่งเสริมสนับสนนุ ส่คู วามเป็นเลิศ 2. ประชากรวยั ทำงานมคี วามเช่ยี วชาญ และมีความเปน็ เลิศเฉพาะด้าน กลยทุ ธ์และแนวทางการปฏบิ ัตขิ องกลยทุ ธ์ตามยุทธศาสตรท์ ี่ 3 กลยุทธ์ท่ี 1 ผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพและปริมาณให้สัมพันธ์กับความต้องการ ของ ตลาดแรงงานในพน้ื ท่รี ะดับประเทศและระดบั สากล 1) ศึกษาและจัดทำข้อมูลความต้องการการผลิตและพัฒนากำลังคน ทั้งด้านปริมาณและ คุณภาพ ตามนโยบายเมืองต้นแบบสามเหล่ียมม่ันคง ม่ังคั่งและย่ังยืน และตามกรอบความร่วมมือกลุ่ม ประชาคม เศรษฐกจิ อาเซยี นและสากล 2) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ ฝมี อื แรงงานผู้เรียนสมู่ าตรฐานสากล 3) พัฒ นาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ สอดคลอ้ งกบั หลักสูตรด้านอาชีพ 4) พัฒนาระบบการแนะแนวให้มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาครูท่ีปรึกษาให้เป็น ครู แนะแนว และเพมิ่ ประสิทธภิ าพการแนะแนวอาชีพ เพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีพใหส้ ูงขึ้น 5) เพม่ิ ปรมิ าณผู้เรยี นหลกั สตู รทวิศึกษา/ทวิภาคี ภายใต้ความรว่ มมือกับสถานประกอบการ กลยุทธ์ที่ 2 สง่ เสริมการผลิตและพฒั นากำลงั คนท่ีมคี วามเช่ียวชาญและเปน็ เลศิ เฉพาะด้าน 1) พฒั นาหลกั สตู รสมรรถนะในสาขาที่ตรงกบั ความต้องการของตลาดและการพฒั นาประเทศ 2) ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนระดับอาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะ และมีความพร้อมสู่ความ ตอ้ งการของตลาดงาน เชน่ อุตสาหกรรมฮาลาล อาหารทะเลแปรรปู 3) พฒั นาหลักสูตรเพอื่ เสรมิ ความเชยี่ วชาญในสาขาต่างๆ แบบครบวงจร ทง้ั กระบวนการผลิต แปรรูปการจดั จำหน่าย การตลาดและการดำเนนิ การในเชิงธุรกจิ 4) ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษามีความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยการใช้งานวิจัยท้องถิ่นและ การสรา้ งนวัตกรรม เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมในพน้ื ที่ 5) สานฝันกีฬา สู่ความเป็นเลิศและอาชีพ พร้อมร่วมกับหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ ผลักดันให้มี การ สร้างความพร้อมรองรบั การแข่งขนั กีฬาระดับภาค ระดับชาตแิ ละระดับนานาชาติ 6) ส่งเสริมสนับสนุนการจัดห้องเรียนพิเศษ(ห้องเรียนกีฬา ห้องเรียนศิลปะ ห้องเรียนดนตรี หอ้ งเรียนอาชีพ) แผนการเรียนเฉพาะด้าน (แผนการเรียนวิทย์–กีฬา แผนการเรียนศิลป์ภาษา–กีฬา แผนการ เรยี นศิลป์ –อาชพี ) 7) พัฒนาสถานศึกษาที่เน้นการเรียนการสอน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างน้อย จงั หวัดละ 1 แหง่ 8) พัฒนาระบบการจัดกจิ กรรมการแขง่ ขันวิชาการให้มีประสิทธิภาพเน้นการดำเนินงานทเ่ี ป็น ระบบครบวงจรและการมีสว่ นรว่ มอย่างท่ัวถึงของทุกภาคและส่งเสรมิ การจดั ประกวด แขง่ ขันส่ิงประดิษฐ์ และ นวัตกรรมในประเทศและระหวา่ งประเทศ กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 43
9) พัฒนาสถานศึกษาท่ีมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ให้มีความพร้อม เพื่อยกระดับเป็น โรงเรียน ที่มีวัตถุประสงค์พิเศษด้านต่างๆ และพัฒนาสู่การศึกษาระดับนานาชาติ และการจัดการศึกษาใน รูปแบบ โรงเรยี นพักนอนตามความเหมาะสมตามบรบิ ทพ้นื ที่ กลยุทธ์ที่ 3 การเพ่ิมโอกาสการเรยี น และการฝึกอบรมวิชาชีพใหก้ ับกลุม่ ผอู้ ยูน่ อกระบบ 1) พัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑช์ ุมชนสู่มาตรฐานเพือ่ ยกระดับเป็นผลิตภัณฑส์ รา้ งสรรค์ ของ ชมุ ชน 2) ฝึกอาชีพระยะสั้นตามความต้องการของตลาดงาน 3) จดั การเทียบโอนประสบการณใ์ นการท างานเพื่อให้คุณวฒุ ิทางการศึกษา 4) ส่งเสริม สนับสนุนอบรมวิชาชีพเพื่อการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิมหรือสร้างอาชีพใหม่ สำหรบั ผู้ประกอบอาชพี อสิ ระ ยุทธศาสตร์ท่ี 4 การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทยี มกนั ทางการศกึ ษา เป้าหมายเชงิ ยุทธศาสตร์ 1. ประชาชนกลุ่มท่ีด้อยโอกาสทางสังคมได้รับการช่วยเหลือให้มีความพร้อมในการเข้าถึง บริการการศกึ ษา 2. ประชาชนได้รบั โอกาสในการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศกึ ษาอย่างมคี ุณภาพต่อเนอ่ื งตลอดชวี ติ กลยุทธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ตั ขิ องกลยทุ ธต์ ามยุทธศาสตร์ที่ 4 กลยทุ ธท์ ่ี 1 ลดความเหล่อื มล้ำทางการศกึ ษา 1) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ด้อยโอกาสทุกกลุ่มมีความพร้อมในการศึกษา อาทิ การสนับสนุน ทนุ การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส คนพิการ หรือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ทนุ การศึกษา สำหรับผู้เรยี นในการศึกษาต่อ 2) ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ใหผ้ ูด้ อ้ ยโอกาส คนพิการได้รบั การศกึ ษาทมี่ ีคณุ ภาพเสมอภาค 3) การจัดการศึกษาทางไกลโดยใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาและการสื่อสาร อาทิ DLIT, DLTV, ETV อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4) ขยายเครือข่ายบริการอินเทอร์เน็ตความเรว็ สูงครอบคลุมทุกพ้ืนพื้นท่ี เพียงพอกับผู้เรียน และ จดั ใหม้ ีศนู ย์บริการอนิ เทอร์เน็ต ในสถานศึกษาทมี่ คี วามพร้อมในการใหก้ ารบรกิ ารชมุ ชน กลยทุ ธ์ที่ 2 เพ่มิ โอกาสการเขา้ ถึงการศึกษาทีม่ คี ุณภาพอยา่ งเท่าเทยี มและทั่วถึง 1) พัฒนาระบบข้อมูลด้านการศึกษาท่ีมีมาตรฐานเชื่อมโยงและเข้าถึงได้ระหว่างหน่วยงาน การศึกษาและหน่วยภายนอกท่ีเก่ียวข้องโดยการจัดทำแผนที่การศึกษา (Education Mapping) และ น า SMART Card มาใชใ้ นการใหบ้ ริการการศกึ ษา 2) รณรงค์ให้ประชากรวัยเรียนได้เข้าถึงบริการระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านการ ประชาสัมพนั ธ์ เชงิ รุกและความรว่ มมือของเครอื ข่ายชุมชน และหน่วยงานในพนื้ ท่ี 3) เร่งพฒั นาสถานศกึ ษาใหม้ มี าตรฐานการศกึ ษาทท่ี ัดเทียมและใกล้เคียงกัน 4) พัฒนาระบบการเทียบโอนผลการเรียนรูร้ ะหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศกึ ษาตามอัธยาศยั และประสบการณจ์ ากการทำงาน ยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดการศึกษาเพอื่ เสริมสร้างคุณภาพชวี ิตทเี่ ปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม เป้าหมายยุทธศาสตร์ 1. ประชาชนมีองค์ความรู้จิตสำนึกในการใช้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ ม 2. สถานศึกษาชมุ ชนมีความเข้มแข็งในการอนุรักษฟ์ ้นื ฟู ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 44
กลยุทธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ัตขิ องกลยุทธต์ ามยุทธศาสตร์ที่ 5 กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสรมิ สนบั สนุนการสร้างจติ สำนกึ รบั ผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม 1) จัดทำหลักสูตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในระดับการศึกษาต่างๆ ท้งั ในระบบและนอกระบบ 2) ปลูกฝัง และส่งเสรมิ การสรา้ งสำนกึ รกั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม 3) พฒั นาครู ผู้สอนและบคุ ลากรทางการศกึ ษาเก่ียวกับการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร กับส่ิงแวดลอ้ ม 4) กำหนดมาตรฐานสถานศกึ ษาน่าอยนู่ ่าเรียนรู้ และพัฒนาสถานศกึ ษาเข้าสู่มาตรฐาน พร้อม ทง้ั ยกย่องเชดิ ชูเกียรตสิ ถานศกึ ษาทีผ่ า่ นเกณฑ์มาตรฐาน 5) สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ในสถานศกึ ษาและชุมชน กลยุทธ์ท่ี 2 พัฒนาองค์ความรู้การคิดค้นนวัตกรรมเพ่ือเสริมสร้างคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับ สงิ่ แวดล้อม 1) พัฒนาฐานขอ้ มูลแหล่งเรยี นรู้ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มในชุมชน 2) สร้างความรคู้ วามเขา้ ใจในการใชแ้ ละอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม 3) ส่งเสริมให้สถานศึกษา ศึกษาวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรมท่ีเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม โดยมงุ่ เนน้ การแสวงหาแหล่งพลังงานใหมท่ เ่ี ปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6 การพัฒนาระบบการบริหารจดั การศึกษา เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์ 1. ผู้เรียน ครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยส์ ิน มีขวัญกำลังใจในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี 2. หน่วยงาน/สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการและมีการทำงานเชิงการบูรณาการกับ ทุก หนว่ ยงานในพื้นที่อยา่ งมปี ระสิทธิภาพทนั สมยั โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ 3. ทกุ ภาคส่วนเขา้ มามีส่วนในการจัดการศกึ ษาในรูปแบบการสานพลังประชารัฐ กลยุทธ์และแนวทางการปฏิบตั ิของกลยทุ ธ์ตามยุทธศาสตรท์ ี่ 6 กลยุทธ์ที่ 1 รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เรียน ครู คณาจารย์ บุคลากร ทาง การศกึ ษา สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษา 1) สรา้ งความเขม้ แข็งของเครือขา่ ยทกุ ภาคสว่ นในการเฝา้ ระวังเหตุการณ์ความไมส่ งบ 2) ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่ได้รับรู้ข่าวสารและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานการณ์ จริง 3) ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่ร่วมกันกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพ้ืนท่ีตนเอง ในการดแู ลชีวิตและทรพั ย์สินของผู้เรียน ครู บคุ ลากรทางการศึกษา สถานศกึ ษาและหน่วยงานทางการศกึ ษา 4) นำเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้ในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ความไม่สงบในสถานศึกษาและ หนว่ ยงานทางการศกึ ษา กลยุทธ์ท่ี 2 การเสรมิ สรา้ งขวญั และกำลังใจแกผ่ ปู้ ฏิบตั หิ นา้ ทีใ่ นพนื้ ที่จังหวดั ชายแดนภาคใต้ 1) สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าท่ีของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ทุกระดบั โดยการยกยอ่ ง เชิดชเู กียรตเิ ป็นกรณพี ิเศษสำหรับพ้ืนทีจ่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ กศน.ตำบลตะมะยงู หน้า 45
2) สง่ เสริมใหม้ ีค่าตอบแทนพิเศษแก่ข้าราชการครูและบุคลากรท่ปี ฏิบัติหน้าท่ีในพ้ืนท่ีจังหวัด ชายแดนภาคใต้และส่งเสริมให้ผ้ปู ฏิบัตหิ น้าทีใ่ นจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ไดม้ โี อกาสบรรจเุ ขา้ รับราชการ เปน็ กรณี พิเศษ 3) ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ มี สวัสดิการดา้ นทอ่ี ย่อู าศยั 4) ผลักดันให้มกี ารกำหนดเกณฑก์ ารประเมินวทิ ยฐานะ หรือเกณฑ์การประเมินความก้าวหน้า ในวิชาชพี ของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใตเ้ ป็นกรณพี เิ ศษ กลยทุ ธ์ที่ 3 พัฒนาประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการศกึ ษา 1) พัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาแต่ละ ระดบั ทีค่ รอบคลมุ ท้ังมาตรฐาน รูปแบบการประเมินรปู แบบการพัฒนาตามผลการประเมิน และการรับรอง ผล การประเมิน 2) สร้างความเข้มแข็งของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบทุกระดับท้ังภาครัฐ เอกชน ให้ สอดคล้อง กบั เจตนารมณ์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3) พัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานทางการศึกษาสู่ความเป็นองค์กรท่ีมี ขีด สมรรถนะสูง โดยใช้รูปแบบการบริหารสมัยใหมแ่ ละนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการเพิ่ม ประสิทธิภาพการ บริหารจดั การศกึ ษาทัง้ ระบบทกุ ระดบั สู่ SMART Office 4) ปรับปรงุ ประสิทธิภาพการติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานทางการศกึ ษา และสถานศึกษา ให้เป็นระบบครบวงจร 5) สร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาให้เป็นที่ยอมรับ ด้วยการ ส่อื สาร องค์กร การประชาสมั พนั ธ์ และการตลาดเชงิ รุกแบบมอื อาชพี กลยุทธ์ที่ 4 ส่งเสริมการท างานเชิงบูรณาการการศึกษากับหน่วยงานทุกระดับและการมี ส่วน รว่ มการจดั การศึกษา 1) ส่งเสริมให้มีการบูรณาการ การจัดการศึกษาระหว่างหน่วยงานการศึกษาและหน่วยงาน อื่น ในพนื้ ที่เพื่อให้เกดิ ประโยชน์สงู สุดในการใชท้ รัพยากรรว่ มกนั 2) สรา้ งความเข้มแข็งขององค์คณะบุคคลทางการศึกษาและภาคีเครือข่าย ในการบูรณาการ การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในพื้นที่ 3) เสริมสรา้ งความเข้มแข็งของศนู ยป์ ระสานงานและบริหารการศกึ ษาจงั หวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) ให้เป็นองค์กรในการบูรณาการ การจัดการศึกษาทุกระดับทุกประเภท ในพื้นที่ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 4) สง่ เสรมิ การมีส่วนรว่ มการจดั การศึกษาของทกุ ภาคส่วนในการ “สานพลังประชารัฐ” 5) แสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศเพือ่ การแลกเปลี่ยนเรยี นร้ใู นการจดั การศกึ ษาระหวา่ ง กัน และให้มีการแลกเปล่ียนบุคลากรเพ่ือการเช่ือมความสัมพันธ์และการพัฒนาร่วมกันทั้งนี้เน้นการมี พันธ สญั ญาทเี่ ป็นรปู ธรรมต่อเนือ่ งและเปน็ ประโยชน์ทงั้ สองฝ่าย กศน.ตำบลตะมะยูง หน้า 46
ส่วนท่ี ๓ ตารางสรุปบญั ชแี ผนปฏบิ ัติราชการประจำปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ที่ โครงการ/กจิ กรรม เปา้ หมาย แผนการดำเนนิ งาน รบั จัดสรร แผนการใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งปี ไตรมาส ไตรมาส งบประมาณทัง้ ไตรมาส ไตรมาส ๑ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๑-๒ ๓-๔ ๑-๒ ๓-๔ ๒ โครงการกิจกรรมส่งเสรมิ การรู้หนงั สือ ๓๔๔ คน ๑๗๒ คน ๑๗๒ คน ปี ๓ การศึกษาเพ่อื พฒั นาทกั ษะชีวิต ๕๐ คน ๒๗ คน ๒๓ คน ๐.- ๐.- ๐.- ๔ กิจกรรมการศึกษาเพอ่ื พฒั นาสงั คม ๔๓ คน ๒๓ คน ๒๐ คน ๑๔,๘๕๐.- ๑๒,๖๕๐.- ๒๘ คน ๒๗,๕๐๐.- ๒,๖๔๕.- ๒,๓๐๐.- และชุมชน ๑๕ คน ๑๓ คน ๔,๙๔๕.- ๖,๐๐๐.- ๕,๒๐๐.- ๕ การจดั กระบวนการเรียนรูเ้ ศรษฐกิจ ๑๑,๒๐๐.- ๑๐ คน ๗ คน ๓ คน ๒,๔๕๐.- ๑,๔๕๖.- พอเพยี ง ๓,๙๐๖.- ๖ การศกึ ษาตามอัธยาศยั ๔๐๐ คน ๒๐๐ คน ๒๐๐ คน ๐.- ๐.- ๒๒๐ คน ๑๑๐ คน ๑๑๐ คน ๐.- ๐.- ๐.- กิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน ๒๐๐ คน ๑๐๐ คน ๑๐๐ คน ๐.- ๐.- ๐.- หอ้ งสมุดประชาชน ๒๐ คน ๑๐ คน ๑๐ คน ๐.- ๐.- ๐.- บ้านหนังสอื ชมุ ชน ๑๖๐ คน ๘๐ คน ๘๐ คน ๐.- ๐.- ๐.- หน่วยบริการเคล่ือนทีร่ ถโมบาย ๐.- อาสาสมัครส่งเสรมิ การอา่ น ๑๐ คน ๔ คน ๖ คน ๓,๖๐๐.- ๕,๔๐๐.- หอ้ งสมดุ เคลื่อนทีส่ ำหรับชาวตลาด ๓๒ คน ๑๖ คน ๑๖ คน ๙,๐๐๐.- ๖,๖๘๘.- ๖,๖๘๘.- ๗ โครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน ๑๓,๓๗๖.- จดั อาชพี (๑ อำเภอ ๑ อาชพี ) ๓๐ คน ๑๔ คน ๑๖ คน ๑๐,๘๐๐.- ๑๑,๐๐๐.- พัฒนาอาชีพระยะส้ัน ๒๑,๘๐๐.- (กล่มุ สนใจ ไม่เกนิ ๓๐ ชว่ั โมง) ๔ คน ๒ คน ๒ คน ๒,๔๐๐.- ๒,๔๐๐.- ชั้นเรียนวิชาชพี (๓๑ ชวั่ โมงข้นึ ไป) ๒๘,๘๐๐.- ๘ โครงการสง่ เสริมภาษาเพอื่ การเรียนรู้ ๗ คน ๗ คน ๐ คน ๕,๐๓๓.- ๐.- และสือ่ สาร ๘ คน ๘ คน ๐ คน ๕,๐๓๓.- ๕,๔๗๓.- ๐.- โครงการฝึกประสบการณภ์ าษาส่กู าร ๓๐ คน ๐ คน ๓๐ คน ๕,๔๗๓.- ๐.- ๗,๙๒๐.- ประกอบอาชีพ ๗,๙๒๐.- ฝกึ ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร ๕ คน ๓ คน ๒ คน ๓,๖๐๐.- ๒,๔๐๐.- ภาษาไทย ๖,๐๐๐.- ภาษาต่างประเทศ กศน.ตำบลตะมะยงู ๙ โครงการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คม หนา้ 47 ดจิ ทิ ัล ๑๐ โครงการภาษาต่างประเทศเพือ่ การ
สอื่ สารดา้ นอาชพี ๑๒ โครงการกฬี า กศน.สาสัมพันธ์ ๔ คน ๔ คน ๐ คน ๔,๐๐๐.- ๔,๐๐๐.- ๐.- ชายแดนใต้ “กิจกรรมจัดแข่งขนั ระดับ อำเภอ” กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 48
แผนปฏบิ ตั กิ ารประจ สำนกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษาน (งาน/โคร กศน ท่ี ชอ่ื งาน/โครงการ วตั ถุประสงค์ กจิ กรรมหลัก เชิงปร ๑ โครงการสนบั สนนุ ๑ เพื่อสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนได้ ๑.สำรวจ/ประชาสัมพันธ์ ผู้เรยี นการศ ค่าใชจ้ า่ ยในการจดั เรยี นร้ใู นรูปแบบการศึกษา กลมุ่ เป้าหมาย ระบบระดบั การศึกษาตง้ั แต่ นอกระบบ ระดบั การศึกษา ๒.รับสมัครนกั ศึกษา ขัน้ พื้นฐาน ระดบั อนุบาลจน ขน้ั พ้ืนฐานที่เหมาะสมกบั ๓.ขึ้น/ลงทะเบียนเรยี น ของ กศน.ต จบการศกึ ษาขัน้ ตนเอง ๔.วางแผนการ ศรีสาคร ไ พน้ื ฐาน ๒ เพื่อสง่ เสรมิ กจิ กรรม ดำเนินงาน รปู แบบการ พัฒนาคุณภาพผเู้ รียนท่ี ๕. ดำเนินการจดั กจิ กรรม เหมาะสมก ภาครัฐใหก้ ารสนับสนนุ -จัดกจิ กรรมการศึกษา ผ่านการจดั ๓ เพอ่ื ส่งเสริมการจดั ขนั้ พนื้ ฐาน การศึกษาข กิจกรรมการเรียนรู้ตลอด -จดั กิจกรรมพฒั นา ตามหลกั สูต ชีวติ ของชุมชนโดยใช้ คณุ ภาพผู้เรยี น ได้รบั การส กศน.ตำบล : แหลง่ เรยี นรู้ -จดั ซอ้ื หนังสือเรยี น คา่ ใชจ้ า่ ยต ชมุ ชนใหเ้ กิดประโยชน์ ๖.นเิ ทศ/ติดตามผลการ กำหนดไว้ สงู สดุ ดำเนินงานกิจกรรม ๓๔๔ คน ๔ เพ่อื สนับสนุนสื่อการ ๗. สรปุ และประเมินผล เรียนรูใ้ หน้ กั ศกึ ษาขน้ั การดำเนนิ งานโครงการ พ้ืนฐาน ๘. รายงานผลตอ่ ผ้บู งั คับบญั ชา กศน.ตำบลตะมะยงู หนา้ 49
จำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ นกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รงการในภาพรวม) น.ตำบลตะมะยงู ตัวชว้ี ัดความสำเร็จ เปา้ หมาย งบประมาณ รมิ าณ เชิงคุณภาพ ประเภท จำนวนกลุ่ม งบอุดหนนุ งบรายจา่ ย อืน่ กลุ่มเปา้ หมาย เปา้ หมาย(คน) ศกึ ษานอก ร้อยละ ๘๐ ของ -นักศกึ ษา -ประถม - ค่าจัดการเรยี น - บการศกึ ษา นกั ศกึ ษาการศึกษาข้ัน การศึกษา ศึกษา การสอน ๐.-บาท น ทุกระดบั พน้ื ฐานทุกระดบั ชั้น มี ตำบล ทักษะในการเรียนรแู้ ละ นอกระบบ ๘ คน - ค่ากจิ กรรม ไดเ้ รยี นรูใ้ น มีคณุ ลักษณะอันพงึ รศกึ ษาที่ ประสงคข์ องสงั คม มี ระดบั -มธั ยมศึกษา พฒั นาคณุ ภาพ กบั ตนเอง ผลสัมฤทธทิ์ างการ ดกจิ กรรม เรียนท่ีสูงข้นึ และมี การศึกษาขั้น ตอนต้น ผูเ้ รียน ๐.-บาท ขน้ั พ้ืนฐาน คณุ ภาพ มคี ุณธรรม ตร และ จรยิ ธรรม และ อันจะ พื้นฐาน ๑๔๐ คน - คา่ หนงั สือเรยี น สนับสนนุ นำไปสู่การอยรู่ ่วมกัน ตามสทิ ธิที่ ในชมุ ชน สังคมได้ -มัธยมศึกษา ๐.-บาท จำนวน อยา่ งมีความสขุ เกดิ ตอนปลาย เรียนรู้อย่างตอ่ เนื่อง ตลอดชีวติ ๒๐๔ คน รวม ๐.- -
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129