Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนรู้บัญชีตั๋วเงิน

แผนการเรียนรู้บัญชีตั๋วเงิน

Published by ปัทมา ปลั่งเปลื่อง, 2021-03-14 14:10:49

Description: แผนการเรียนรู้บัญชีตั๋วเงิน

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 8 เรื่อง การบัญชีเกยี่ วกบั ตั๋วเงินขาดความเช่ือถอื แผนจัดการเรียนรู้ที่ 16 เรือ่ ง การคานวณและบันทกึ บญั ชีเกย่ี วกบั ต๋ัวเงินขาดความเช่ือถือ รายวชิ า การบญั ชตี ว๋ั เงิน รหัสวชิ า ง 32289 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 น้าหนักเวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลาทใี่ ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 5 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... สาระสาคัญ ในทางปฏิบัติผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินหรือผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินตามต๋ัวต้องไปแจ้งความเพ่ือขอทาคาคัดค้าน (Protest) ทที่ ีว่ ่าการอาเภอ ภายในกาหนดเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันครบกาหนดของต๋ัวเงิน ผู้ที่ดาเนินการจัดทา คาคัดค้านอาจจะเป็นนายอาเภอ หรือผู้ทาการแทนนายอาเภอ หรือทนายความ หลังจากผู้ได้รับอนุญาตได้ทา คาคัดค้านและเสียคา่ ธรรมเนยี มในการทาคาคัดค้าน (Protest Fee) แล้ว ผู้ทาคาคัดค้านต้องส่งมอบคาคัดค้าน นี้ไปยงั ผจู้ ่ายเงนิ ตามตัว๋ เพ่ือให้ชาระหน้ตี อ่ ไป จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2. บอกประเภทของตว๋ั เงนิ ขาดความเชือ่ ถือได้ 3. สามารถคานวณดอกเบยี้ พ้นกาหนดของต๋วั เงนิ ขาดความเช่อื ถือได้ 4. สามารถบนั ทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงินขาดความเช่ือถือตามประเภทต่าง ๆ ได้ เนื้อหาสาระ 2. ประเภทของตัว๋ เงนิ ขาดความเชอ่ื ถือและการบันทึกบัญชี กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ผู้สอนอธิบายความหมายของต๋ัวเงินขาดความเชื่อถือและประเภทของต๋ัวเงินขาดความเชื่อถือและ การบนั ทกึ บญั ชี โดยนาตัวอย่างมาใชเ้ ปน็ กรณีศกึ ษา ผเู้ รยี นสาธติ การบันทึกบัญชีหน้าช้ันเรียน โดย มีผูส้ อนและเพื่อนๆ ในชน้ั เรยี นรว่ มกันเสนอแนะใหค้ วามชว่ ยเหลือ ขั้นสอน 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. ผู้เรียนทุกคนสารวจกิจการร้านค้าทั่วไป และนามาเล่าให้เพื่อนในช้ันเรียนฟังว่าแต่ละกิจการนา ประสบการณ์เก่ียวกับความหมาย ประเภท และการบันทึกบัญชีเก่ียวกับต๋ัวเงินขาดความเช่ือถือไป ใชอ้ ย่างไรบ้าง 4. ผูส้ อนจัดการเรียนการสอนแบบเนน้ การปฏสิ มั พันธ์ (Interactive Instruction) โดยการ อภิปรายเก่ยี วกับการบันทึกบญั ชตี ๋ัวเงนิ ขาดความเชือ่ ถอื ด้วยสื่อแผ่นใส 3. ผูเ้ รยี น ช่วยกันแลกเปลย่ี นความรู้ ความคิดเหน็ ฝึกการจัดระบบความคิด การโต้แย้งอย่างมีเหตุผล จนได้ข้อสรุปจึง จัดทาโจทย์กรณีศกึ ษา

4. ผเู้ รียนรว่ มกนั อภิปรายเพ่ือฝึกให้คิดอย่างหลากหลายและแสดงออกได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผลใน การบนั ทกึ บญั ชรี วมทัง้ การคานวณทเ่ี กยี่ วข้อง ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์ 7. ผู้เรียนสรุป และช่วยกันวิเคราะห์โดยแสดงการคานวณข้อมูลเพื่อนาไปบันทึกบัญชีและแสดงการ คานวณประกอบ เพ่อื นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการศึกษาและการทางานต่อไป 8. ทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรหู้ นว่ ยที่ 8 ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวชิ า การบัญชตี ว๋ั เงิน ของบรษิ ัทสานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. ใบงาน หลักฐาน 1. คะแนนท่ีได้จากแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น/หลงั เรียน 2. คะแนนที่ไดจ้ ากแบบประเมินผลการเรยี นรู้ การวัดผลและการประเมินผล วธิ วี ัดผล 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล 3. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 เครอ่ื งมอื วัดผล 1. ใบงาน 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 8 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑ์ผา่ นใบงาน คือ พอใช้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล เกณฑผ์ ่าน ต้องไมม่ ีช่องปรบั ปรุง 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขนึ้ ไป 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 เกณฑผ์ ่าน ทาถกู ตอ้ ง 50% ขนึ้ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ ให้นักเรียนทากิจกรรมเสนอแนะท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ใบงานท่ี 8.1 เร่ือง ความหมายของต๋ัวเงินขาด ความเชื่อถือและประเภทของต๋ัวเงินขาดความเชื่อถือ ใบงานท่ี 8.1 เรื่อง ดอกเบ้ียพ้นกาหนด และประเมิน กิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ทุกคร้ังที่ทากิจกรรม

ใบงาน เรอื่ ง 1. ความหมายของต๋วั เงนิ ขาดความเชือ่ ถือ 2. ประเภทของตว๋ั เงินขาดความเช่ือถือและการบนั ทึกบัญชี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของตั๋วเงินขาดความเช่ือถือได้ 2. บอกประเภทของตวั๋ เงนิ ขาดความเชื่อถือได้ ข้นั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม 1. แบ่งผ้เู รียนเป็น 4 กลมุ่ เพอ่ื ศึกษารายละเอยี ดเกย่ี วกับตว๋ั เงนิ ขาดความเช่ือถือ โดยการแลกเปลี่ยน ความรู้ การแลกเปลยี่ นความคิดเห็น การถาม - ตอบ และการทางานกลมุ่ ย่อยแบบร่วมมือกนั เพือ่ กระตุ้นใหผ้ เู้ รียนมีปฏิกิริยาตอบสนองตอ่ ความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเหน็ ของผูส้ อนและ เพอ่ื นๆ กลมุ่ ที่ 1 นาเสนอตั๋วเงนิ จ่ายขาดความเชอื่ ถือ พรอ้ มตวั อย่างประกอบ กลมุ่ ที่ 2 นาเสนอตั๋วเงินรับในมือขาดความเช่ือถอื พร้อมตัวอยา่ งประกอบ กลมุ่ ท่ี 3 นาเสนอตัว๋ เงนิ รบั ขายลดขาดความเชอ่ื ถือ พรอ้ มตัวอยา่ งประกอบ กลมุ่ ที่ 4 ความหมายและประเภทของตว๋ั เงินขาดความเช่ือถือ พร้อมตวั อยา่ งประกอบ 2. ทุกคนแสดงความคดิ เห็นร่วมกันในช้นั เรียนและนาส่งผลงาน ใบงาน เรือ่ ง 1. ความหมายของต๋วั เงนิ ขาดความเชอื่ ถือ 2. ประเภทของตว๋ั เงนิ ขาดความเชื่อถือและการบนั ทึกบญั ชี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ บนั ทกึ บัญชเี กีย่ วกบั ตัว๋ เงินขาดความเชอ่ื ถอื ตามประเภทตา่ งๆ ได้ ขนั้ ตอนการดาเนนิ กิจกรรม 1. กลุ่มผูเ้ รียนศึกษาแหล่งขอ้ มูลจากสถานประกอบการจริงมากลมุ่ ละ 1 กิจการ เพอื่ นามาวเิ คราะห์ และอน่ื ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง 2. ตวั แทนของกล่มุ นาเสนอรายละเอยี ดข้อมลู ตามข้อ 1 3. ผ้เู รียนทกุ คนร่วมแสดงความคิดเหน็ และให้ข้อเสนอแนะ 4. นาผลงานสง่ ผสู้ อนเพือ่ ประเมนิ ผล

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 9 เรือ่ ง การบัญชเี กี่ยวกับเงนิ สดย่อย แผนจัดการเรยี นรูท้ ี่ 17 เรอื่ ง การบัญชีเกยี่ วกับเงนิ สดย่อย รายวชิ า การบญั ชตี ั๋วเงนิ รหัสวิชา ง 32289 ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 น้าหนกั เวลาเรียน 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ใี ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชวั่ โมง ............................................................................................................................. ............................. สาระสาคญั การดาเนินงานธุรกิจในปจั จบุ ันนี้ จะมีระบบการควบคุมภายใน เพอ่ื ป้องกนั การทจุ ริตท่จี ะเกิดขึ้น เชน่ การควบคุมเก่ยี วกบั การใช้จา่ ยเงนิ สด โดยมหี ลักการควบคมุ วา่ รายรบั ของกจิ การทุกรายการจะต้องนาฝาก ธนาคารทกุ วัน สว่ นรายจา่ ยทุกรายการใหจ้ า่ ยเปน็ เช็ค ยกเวน้ รายจา่ ยท่มี ีจานวนเงนิ เล็กๆ น้อยๆ เชน่ คา่ เคร่ือง เขยี น คา่ พาหนะ ค่าไปรษณีย์โทรเลข ค่าเครื่องดม่ื เป็นต้น ค่าใช้จา่ ยเหล่าน้ีมักจะเกดิ ขน้ึ บ่อยครั้งเกือบทุกวนั จึงไมส่ ะดวกในการทีจ่ ะจ่ายด้วยเชค็ เพราะฉะน้นั กิจการจึงกนั เงินไวส้ ่วนหนง่ึ สาหรับจ่ายเก่ียวกับคา่ ใชจ้ ่าย เล็กๆ น้อยๆ นี้ เรียกว่า เงนิ สดย่อย (Petty Cash) โดยกจิ การจะมอบหมายให้พนักงานคนหน่งึ คนใดเปน็ ผ้รู ักษา เงนิ สดย่อย (Petty Cashier) และทาหน้าทีจ่ า่ ยเงินสดย่อยน้ีเมื่อมผี ู้มาขอเบิก และยังทาหน้าท่เี กบ็ รวบรวม หลักฐานตา่ งๆ ในการขอเบิก คือ ใบสาคัญจ่ายเงินสดย่อย (Petty Cashier Voucher) ทุกรายการ เพื่อทีจ่ ะขอเบกิ ชดเชยเงินสดย่อยในโอกาสต่อไป จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของเงนิ สดยอ่ ยได้ 2. บอกหน้าท่ีและประโยชนข์ องเงินสดย่อยได้ 3. อธบิ ายการตั้งวงเงินสดย่อย การเบกิ เงินสดชดเชยเงนิ สดยอ่ ย การเพิม่ หรือลดวงเงนิ สดยอ่ ยและการ บนั ทึกบัญชเี กย่ี วกบั เงนิ สดยอ่ ยท้งั หมดได้ เน้ือหาสาระ 1. ความหมายของเงนิ สดย่อย 2. หนา้ ที่และประโยชน์ของเงินสดย่อย 3. การตง้ั วงเงินสดยอ่ ย การเบกิ เงินสดชดเชยเงนิ สดย่อย การเพม่ิ หรือลดวงเงนิ สดยอ่ ยและการบนั ทึก บัญชเี กี่ยวกับเงินสดย่อยทง้ั หมด กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ผูส้ อนทบทวนเน้ือหาสปั ดาหท์ ี่ 12 เน่อื งจากเป็นหัวข้อที่สมั พันธ์กนั และต้องการให้ผูเ้ รียนเกดิ การ เรียนรไู้ ดด้ ขี ้นึ กว่าเดิม โดยการตงั้ คาถามให้ผู้เรยี นชว่ ยกันตอบท้ังห้องเรยี น (แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ในสปั ดาห์นี้)

ขนั้ สอน 2. ผสู้ อนอภปิ รายความหมายเงนิ สดย่อย และหนา้ ทีข่ องผู้รักษาเงินสดย่อย โดยผู้สอนยกตวั อยา่ งการ ซอ้ื ทรัพยส์ นิ บางรายการในราคา 200 บาท ไม่จาเปน็ ตอ้ งจ่ายด้วยเช็คเพราะเปน็ คา่ ใช้จ่ายจานวน เล็กนอ้ ยให้ไปเบกิ ชดเชยเงนิ สดยอ่ ยตามระบบควบคมุ ของกิจการ 3. ผสู้ อนอธบิ ายประโยชน์ของเงินสดย่อย โดยใช้สื่อแผ่นใสประกอบการอภปิ รายและยกตวั อย่าง กรณีศึกษาเพื่อใหผ้ ู้เรยี นรว่ มกันวิเคราะห์ 4. ผู้เรียนจับคู่จดั ทาโจทยก์ รณศี ึกษาทผี่ ู้สอนกาหนดให้ พร้อมเฉลย 5. สมุ่ ผเู้ รียนบางคใู่ ห้ออกมาอภิปรายหนา้ ชนั้ เรยี นพร้อมส่อื ความหมายท่ีทาให้เพือ่ น ๆ ในห้องเรยี น เข้าใจได้งา่ ยขึน้ กวา่ การอภปิ รายอยา่ งเดียว ขัน้ สรุปและการประยุกต์ 6. ผเู้ รยี นช่วยกนั สรุป โดยกาหนดรายการค้าข้นึ มาแลว้ ชว่ ยกนั วเิ คราะหเ์ พ่ือนาไปบันทึกบญั ชีและ แสดงการคานวณประกอบ เพื่อนาไปประยุกตใ์ ช้ในการศกึ ษาและการทางานต่อไป 7. ทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 9 ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวิชา การบัญชตี วั๋ เงิน ของบรษิ ัทสานกั พมิ พ์เอมพันธ์ 2. ใบงาน หลักฐาน 1. คะแนนที่ได้จากแบบประเมินผลการเรยี นรู้หลังเรยี น 2. คะแนนท่ีไดจ้ ากแบบประเมินผลการเรียนรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธวี ดั ผล 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 9 เคร่ืองมอื วัดผล 1. ใบงาน 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 9 เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านใบงาน คือ พอใช้ 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑ์ผ่าน ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรงุ 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 50% ขนึ้ ไป 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 8 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ต้อง 50% ขนึ้ ไป

กิจกรรมเสนอแนะ ให้นักเรียนทากิจกรรมเสนอแนะท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ใบงานที่ 9.1 เรื่อง บันทึกรายการข้างต้นใน สมุดเงินสดย่อย

ใบงาน เรือ่ ง 1. ตง้ั วงเงนิ สดยอ่ ยและบันทกึ บญั ชี 2. จัดทารายงานการจ่ายเงินสดย่อย เม่ือวนั ท่ี 1 กุมภาพันธ์ 2563 รา้ นอทุ มุ พรการค้า ไดจ้ ่ายเชค็ เพ่ือต้ังวงเงินสดย่อยใหแ้ ก่ น.ส.สนุ ทรี สวัสดี ซง่ึ เป็นผู้รักษาเงนิ สดย่อย จานวนเงนิ 2,000 บาท และได้กาหนดใหเ้ บิกชดเชยทุกวันส้ินเดอื น ต่อไปนี้ เปน็ รายจ่ายตา่ ง ๆ ของผรู้ ักษาเงินสดย่อย ในระหวา่ งเดอื นกมุ ภาพันธ์ 2563 ดังนี้ ก.พ. 2 จ่ายเงนิ ซื้อปากกา 50 บาท ดนิ สอดา 30 บาท ยางลบ 10 บาท ไม้บรรทัด 20 บาท ตาม ใบสาคัญจา่ ยเงินสดย่อยเลขที่ 101 5 จ่ายเงินซอ้ื กระดาษถ่ายเอกสาร 2 รมี รมี ละ 150 บาท ตามใบสาคญั จา่ ยเงินสดยอ่ ย เลขท่ี 02 7 จ่ายเงนิ ซ้อื น้าอัดลมรบั รองลูกคา้ 35 บาท ตามใบสาคัญจ่ายเงนิ สดย่อยเลขท่ี 03 9 จา่ ยเงนิ ซอื้ แสตมป์ 10 ดวง ดวงละ 3 บาท ตามใบสาคญั จา่ ยเงนิ สดย่อยเลขท่ี 04 11 จา่ ยคา่ รถแท็กซใ่ี ห้พนักงาน 250 บาท ตามใบสาคญั จ่ายเงินสดยอ่ ยเลขที่ 05 17 จ่ายคา่ ซ้ือไม้กวาด 60 บาท ตามใบสาคัญจา่ ยเงินสดย่อยเลขที่ 06 21 จา่ ยคา่ ส่งพัสดุไปรษณยี ์ 50 บาท ตามใบสาคญั จ่ายเงินสดย่อยเลขที่ 07 25 จ่ายค่าซอ่ มเครื่องพมิ พ์ดดี 450 บาท ตามใบสาคญั จา่ ยเงนิ สดย่อยเลขที่ 08 28 ผูร้ ักษาเงนิ สดย่อย รวบรวมใบสาคญั จา่ ยเงินสดย่อย เพื่อขอเบิกชดเชยตามวธิ ี Imprest System และได้รบั เชค็ ชดเชยเรยี บรอ้ ยแล้ว

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 10 เรอื่ ง ความรู้ท่ัวไปและการบนั ทึกบัญชีเกย่ี วกับเชค็ แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 19 เร่ือง ความร้ทู ่ัวไปเกย่ี วกับเช็ค รายวชิ า การบัญชตี ัว๋ เงิน รหัสวิชา ง 32289 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ช่วั โมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชั่วโมง ............................................................................................................................. ............................. สาระสาคญั เช็คเป็นเอกสารที่สามารถชาระหน้ีได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกับเงินสด ซึ่งกิจการทุกกิจการเห็น ความสาคัญของการใช้เช็คในการดาเนินธุรกิจ เพราะการใช้เช็คจะปลอดภัยและสะดวกมากกว่าการใช้เงินสด ในการใช้เช็คน้ัน กิจการจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคาร และกิจการจะต้องทาการซ้ือสมุด เช็คเพอื่ เขยี นเบกิ เงินจากธนาคาร จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของเช็คได้ 2. บอกชนดิ ของเชค็ ได้ 3. บอกวิธกี ารสลกั หลงั เชค็ ได้ 4. บอกวิธกี ารเขียนเชค็ ได้ เน้อื หาสาระ 1. ความหมายของเชค็ 2. ชนดิ ของเช็ค 3. วิธกี ารสลักหลงั เชค็ 4. วธิ ีการเขยี นเช็ค กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ผู้สอนเลา่ รายละเอยี ดประสบการณเ์ กีย่ วกับการซ้ือขายสินค้า ทีม่ คี วามจาเป็นตอ้ งใช้เชค็ เปน็ ตรา สารเพอ่ื ชาระหน้ีไดต้ ามกฎหมาย และสอบถามผูเ้ รยี นว่าใครมปี ระสบการณใ์ นเรื่องของเช็คบา้ ง ซึ่ง ทุกกจิ การมักจะใชเ้ ชค็ ในการดาเนนิ ธุรกิจเพราะจะปลอดภัยและสะดวกมากกว่าการใชเ้ งินสด กจิ การที่จะใช้เช็คได้นัน้ จะต้องเปิดบัญชีเงนิ ฝากกระแสรายวันกบั ธนาคารเทา่ นนั้ ข้ันสอน 2. ผู้สอนอภปิ รายความหมายของเช็ค ประเภทการฝากเงนิ กบั ธนาคาร การขอเปิดบญั ชกี ระแสรายวัน การฝากเงินเขา้ บญั ชีเงินฝากกระแสรายวนั ชนิดของเช็คและการสลักหลงั เชค็ และถามผู้เรียนเป็น

รายบุคคลเกี่ยวกับหวั ข้อเรื่องขา้ งตน้ ท่ีไดศ้ ึกษาไปแล้ว และได้มอบหมายใหผ้ ูเ้ รียนนาแบบฟอร์มเชค็ ซง่ึ ถ่ายเอกสารจากฉบับจริงมาเพ่อื ศกึ ษารายละเอยี ดของเช็คดังกล่าว 3. ให้ผู้เรียนวิเคราะหร์ ายการบัญชตี ามข้อ 2 และนามาสรปุ ร่วมกนั หนา้ ชนั้ เรยี น และเสนอแนะ ข้อคิดเหน็ ร่วมกนั ขั้นสรปุ และการประยุกต์ 4. ผสู้ อนและผเู้ รียนสรุปรว่ มกนั โดยใหผ้ ู้เรยี นชว่ ยกนั ตั้งคาถามแล้วสุม่ เลอื กผ้เู รียนคนอื่นๆ ตอบ เปน็ การแลกเปลย่ี นข้อคิดเหน็ ซ่งึ กันและกนั เพ่อื สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 5. ทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 10 สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนวชิ า การบัญชตี ว๋ั เงิน ของบรษิ ัทสานกั พมิ พ์เอมพันธ์ 2. ใบงาน หลกั ฐาน 1. คะแนนท่ีไดจ้ ากแบบประเมินผลการเรียนรหู้ ลังเรียน 2. คะแนนที่ไดจ้ ากแบบประเมินผลการเรียนรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ วี ัดผล 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 เครอื่ งมือวัดผล 1. ใบงาน 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 8 เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านใบงาน คือ พอใช้ 2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไม่มชี ่องปรับปรุง 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 4. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 เกณฑ์ผ่าน ทาถูกต้อง 50% ขนึ้ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมเสนอแนะทเี่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ใบงานที่ 10.1 เร่ือง ความหมาย ชนดิ วิธกี ารเขียนและ สลกั หลงั เช็ค

ใบงาน เรอ่ื ง 1. ความหมาย ชนดิ ของเช็ค 2. วิธีการเขยี นและสลักหลังเช็ค จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของเชค็ ได้ 2. บอกชนิดของเชค็ ได้ 3. บอกวิธีการสลกั หลังเช็คได้ 4. บอกวิธกี ารเขยี นเชค็ ได้ ขัน้ ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม 1. แบง่ ผู้เรียนเป็น 2 กลมุ่ เพ่ือศกึ ษารายละเอียดเก่ียวกบั ความรู้ทวั่ ไปเกีย่ วกบั เช็ค โดยการแลกเปลีย่ น ความรู้ การแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ การถาม - ตอบ และการทางานกลุม่ ย่อยแบบร่วมมอื กัน เพ่อื กระตุ้นใหผ้ ู้เรยี นมีปฏิกริ ิยาตอบสนองต่อความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเห็นของผสู้ อนและ เพือ่ นๆ กลุ่มท่ี 1 นาเสนอความหมาย ชนิดของเช็ค พร้อมตวั อยา่ งประกอบ กลุ่มท่ี 2 นาเสนอวธิ ีการเขยี นและสลกั หลังเช็ค พรอ้ มตัวอย่างประกอบ 2. ทุกคนแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกนั ในชนั้ เรียนและนาสง่ ผลงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 เรอื่ ง ความรูท้ ว่ั ไปและการบันทึกบัญชเี ก่ยี วกบั เช็ค แผนจัดการเรยี นรูท้ ่ี 20 เรือ่ ง การบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกับเชค็ รายวชิ า การบญั ชีตั๋วเงนิ รหัสวชิ า ง 32289 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 น้าหนกั เวลาเรียน 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... สาระสาคญั เช็คเป็นเอกสารท่ีสามารถชาระหน้ีได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกับเงินสด ซึ่งกิจการทุกกิจการเห็น ความสาคัญของการใช้เช็คในการดาเนินธุรกิจ เพราะการใช้เช็คจะปลอดภัยและสะดวกมากกว่าการใช้เงินสด ในการใช้เช็คน้ัน กิจการจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคาร และกิจการจะต้องทาการซื้อสมุด เชค็ เพอ่ื เขยี นเบกิ เงนิ จากธนาคาร จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5. จดั ทาทะเบียนเช็คลงวนั ทล่ี ่วงหนา้ ได้ 6. บันทกึ บัญชีเกี่ยวกบั เช็คได้ 7. บันทึกบญั ชที ี่เกย่ี วกบั การฝากและการถอนเงินจากธนาคารได้ เนื้อหาสาระ 1. ทะเบียนเช็คลงวนั ท่ลี ว่ งหน้า 2. บนั ทึกบัญชเี ก่ยี วกบั เช็ค 3. บนั ทกึ บัญชที ่ีเกีย่ วกับการฝากและการถอนเงินจากธนาคาร กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ผสู้ อนกลา่ วถึงธนาคารกรุงเทพ ซงึ่ เปน็ สถาบนั การเงนิ หน่ึงทอ่ี านวยความสะดวกในการให้บรกิ ารแก่ ประชาชนโดยทัว่ ไป และนับเปน็ หนงึ่ ในธนาคารอนื่ ๆ ทว่ั ประเทศทมี่ ีการนาเชค็ มาใชใ้ นธรุ กจิ เชน่ การโอนเช็ค การจา่ ยชาระหนี้ด้วยเช็ค การรบั ชาระหน้จี ากลูกหนี้ด้วยเช็ค หรืออน่ื ๆ เหล่าน้ีเปน็ ตน้ ซ่งึ ผู้เรยี นจะสังเกตเห็นได้เปน็ อยา่ งดี จากนน้ั ผเู้ รยี นร่วมแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับชีวติ ประจาวนั ของพวกเขาทไี่ ดเ้ กี่ยวพนั กับเชค็ บ้าง ซึง่ ข้นึ อยกู่ บั ครอบครัวของแตล่ ะบคุ คลแตกต่างกนั ออกไป ขน้ั สอน 2. ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. มอบหมายใหผ้ ้เู รยี นนาแบบฟอร์ม หรือเขยี นแบบฟอรม์ เชค็ ขึ้น โดยให้นามาในชัว่ โมงท่มี กี ารเรยี น การสอนคนละ 1 ฉบบั เพ่อื ฝึกทกั ษะในการเรยี นและประกอบคาอธิบายตามทฤษฎี และปฏิบตั ไิ ป พร้อม ๆ กัน

 การเขยี นเช็ค  ระยะเวลาการนาเชค็ ไปขน้ึ เงินกบั ธนาคาร  กรณีท่ธี นาคารจะไมจ่ ่ายเงนิ ตามเช็ค  ทะเบยี นเช็คลงวันท่ลี ่วงหน้า  การบันทกึ บัญชเี ก่ยี วกบั เชค็  การบนั ทึกบัญชีที่เก่ยี วกบั การฝากและการถอนเงินจากธนาคาร 4. ผเู้ รียนกรอกแบบฟอรม์ รายละเอียดเกย่ี วกับเช็ค และนามาวพิ ากษว์ จิ ารณ์รว่ มกนั ขน้ั สรปุ และการประยุกต์ 5. ผู้เรียนช่วยกันสรปุ องคป์ ระกอบของการเขยี นเช็คโดยให้ผู้เรียนเขียนแบบฟอรม์ และบอกรายละเอยี ด ตามหัวข้อดังกลา่ วข้างตน้ 6. ทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรหู้ น่วยที่ 10 สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวิชา การบญั ชีตว๋ั เงิน ของบริษัทสานกั พิมพเ์ อมพันธ์ 2. ใบงาน หลักฐาน 1. คะแนนท่ีได้จากแบบประเมินผลการเรียนรูห้ ลงั เรยี น 2. คะแนนที่ไดจ้ ากแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1. ตรวจใบงาน 2. สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคล 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 10 เครื่องมอื วัดผล 1. ใบงาน 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 8 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ ่านใบงาน คือ พอใช้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไม่มชี ่องปรับปรงุ 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ เกณฑผ์ า่ น 50% ข้ึนไป 4. แบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 10 เกณฑผ์ ่าน ทาถูกตอ้ ง 50% ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ให้นักเรียนทากิจกรรมเสนอแนะท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ใบงานที่ 10.1 เร่ือง บันทึกรายการในสมุด รายวันทัว่ ไป

ใบงาน เรื่อง 1. บันทึกรายการข้างตน้ ในสมุดรายวันทวั่ ไป จุดประสงค์การเรียนรู้ 5. จดั ทาทะเบยี นเช็คลงวนั ที่ล่วงหนา้ ได้ 6. บนั ทกึ บัญชเี กย่ี วกับเช็คได้ 7. บนั ทกึ บญั ชีทีเ่ ก่ียวกบั การฝากและการถอนเงนิ จากธนาคารได้ ขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม 1. ผู้เรียนศึกษารายละเอยี ดเก่ียวกับการบนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกับเชค็ การฝากเงนิ และถอนเงินจากธนาคาร เก่ียวกบั เชค็ โดยการแลกเปล่ียนความรู้ การแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ การถาม - ตอบ และการ ทางานกลุม่ ย่อยแบบร่วมมอื กัน เพื่อกระต้นุ ใหผ้ เู้ รยี นมีปฏกิ ิรยิ าตอบสนองต่อความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเหน็ ของผูส้ อนและเพ่ือนๆ 2. ทุกคนแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกนั ในช้ันเรยี นและนาสง่ ผลงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 เร่ือง งบพิสูจน์ยอดเงนิ ฝากธนาคาร แผนจัดการเรียนรูท้ ี่ 20 เรอื่ ง งบพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคาร รายวชิ า การบัญชีตวั๋ เงนิ รหัสวชิ า ง 32289 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 5 ชั่วโมง ............................................................................................................................. ............................. สาระสาคัญ ในปจั จบุ ันนธ้ี ุรกิจส่วนใหญ่มักจะเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไว้กับธนาคาร เพ่ือที่จะได้ควบคุมเงิน สดและป้องกันการทุจริต เพราะธุรกิจที่เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารนี้ จะใช้เช็คในการเบิก จ่ายเงิน จึงทาให้เกิดปัญหาว่า ในบางครั้งยอดเงินฝากตามบัญชีเงินฝากกระแสรายวันที่ธนาคารแจ้งมายัง กิจการไม่ตรงกับยอดบัญชีเงินฝากตามบัญชีเงินฝากกระแสรายวันท่ีกิจการบันทึกไว้ เพราะฉะนั้นกิจการจึง จาเป็นต้องทาการตรวจสอบหาข้อผิดพลาดว่า สาเหตุท่ียอดไม่ตรงกันนั้นเกิดจากอะไร โดยการทางบพิสูจน์ ยอดเงนิ ฝากธนาคาร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของใบแจ้งยอดเงนิ ฝากธนาคารได้ 2. อธบิ ายเหตผุ ลและความจาเป็นในการจัดทางบพิสจู นย์ อดเงนิ ฝากธนาคารได้ 3. จัดทางบพิสจู นย์ อดเงนิ ฝากธนาคารได้ 4. บอกความหมายของเงนิ เบิกเกนิ บญั ชธี นาคารได้ 5. จดั ทางบพสิ ูจนย์ อดเงนิ เบกิ เกินบญั ชธี นาคารได้ เน้อื หาสาระ 1. ความหมายของใบแจ้งยอดเงินฝากธนาคาร 2. เหตผุ ลและความจาเปน็ ในการจดั ทางบพสิ ูจนย์ อดเงนิ ฝากธนาคาร 3. งบพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคาร 4. ความหมายของเงนิ เบิกเกินบัญชีธนาคาร 5. งบพิสูจน์ยอดเงินเบิกเกนิ บัญชธี นาคาร กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ในการดาเนินกิจการซง่ึ ต้องติดตอ่ กบั ธนาคารเป็นสว่ นมาก จะเห็นไดว้ า่ มีทั้งข้อดีและข้อเสยี แตกต่าง กันออกไป ผูส้ อนแบง่ ผู้เรยี นออกเป็น 2 ฝ่าย  ฝ่ายที่ 1 เปน็ กิจการรา้ นคา้ /หา้ งรา้ น /บริษัทจากดั หรืออื่น ๆ

 ฝา่ ยที่ 2 เป็นสถาบนั การเงนิ เช่นธนาคารกรงุ ไทย ฯลฯ เปน็ ต้น 2. ฝา่ ยที่ 1 และฝ่ายที่ 2 ตา่ งอภปิ รายการดาเนนิ การกิจการของตนเองว่าไดด้ าเนินตั้งแต่ตน้ จนส้นิ งวดนน้ั ปฏบิ ตั ิอยา่ งไรบ้าง และแตกต่างกนั ในลักษณะใดบา้ งระหว่าง 2 ฝ่ายเพื่อให้ผู้เรยี นเกดิ การ เรยี นรู้และเชอื่ มโยงสเู่ น้ือหาใหมใ่ นสัปดาห์น้ีตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขัน้ สอน 3. ผู้สอนอธิบายความหมายใบแจง้ ยอดเงนิ ฝากธนาคาร วธิ กี ารจัดทางบพสิ ูจน์ยอดเงนิ ฝากธนาคาร และเงินเบิกเกินบัญชธี นาคาร โดยการสาธิตการคานวณตามแบบฟอรม์ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นไดน้ าเปน็ ต้นแบบเพื่อศึกษาและเปน็ แนวทางในการฝึกทักษะต่อไป 4. ผู้เรยี นฝึกทักษะโดยการหาขอ้ มลู เพิ่มเติมจากธนาคารแต่ละแห่งเพ่ือนารายละเอยี ดมาแลกเปล่ยี น ความร้กู ันแตล่ ะธนาคารโดยไมซ่ ้ากัน และจดั เป็นรูปเล่มรายงาน 5. นาผลงานสง่ ผสู้ อนเพื่อประเมินผล ขั้นสรปุ และการประยกุ ต์ 6. ผเู้ รียนสรุปผลโดยการบอกข้อแตกต่างระหว่างกจิ การและธนาคาร แลว้ ช่วยกนั วเิ คราะห์พร้อมท้ัง บนั ทึกรายการของแต่ละด้านเพอื่ ให้เกิดความรู้ ความชานาญ และนาไปประยุกตใ์ ช้ใน ชีวติ ประจาวันต่อไป 7. ทาแบบประเมนิ ผลการเรียนร้หู น่วยที่ 11 สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ า การบัญชตี ๋ัวเงนิ ของบริษัทสานกั พิมพ์เอมพนั ธ์ 2. ใบงาน หลกั ฐาน 1. คะแนนท่ีได้จากแบบประเมินผลการเรยี นร้หู ลังเรยี น 2. คะแนนท่ีได้จากแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคล 3. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 11 เครือ่ งมอื วดั ผล 1. ใบงาน 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยที่ 11 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. เกณฑ์ผา่ นใบงาน คือ พอใช้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล เกณฑ์ผ่าน ตอ้ งไม่มีช่องปรบั ปรงุ

3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50% ขึน้ ไป 4. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 เกณฑ์ผา่ น ทาถูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ ให้นักเรียนทากิจกรรมเสนอแนะที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ใบงานท่ี 11 เร่ือง งบพิสูจน์ยอดเงินฝาก ธนาคาร บนั ทกึ รายการปรับปรงุ บัญชีในสมุดรายวนั ทวั่ ไปของกิจการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook