พายุ

กระบวนการเกิดของพายุ

พายุฝนฟ้าคะนอง ลม ฟ้า อากาศ สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง หรือเกิดความแปรปรวนได้ เช่น เกิดลมพัดแรง ฝนตกหนัก ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า เกิดลูกเห็บตก ซึ่งการแปรปรวนของลมฟ้า อากาศ อาจเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเกิดพายุ ลม ฟ้า อากาศ

พายุที่พบบ่อยในประเทศไทย พายุฝนฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน ลม ฟ้า อากาศ

พายุ ฟนฟ้าคะนอง/ พายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง เกิดขึ้นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่มัก จะเกิดขึ้นได้บ่อยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย จะมีความรุนแรงมากกว่าในช่วงอื่น และมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “พายุฤดูร้อน” พายุฝนฟ้าคะนอง

การเกิดและพัฒนาของพายุฤดูร้อน อากาศที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง ลอยตัวสูงขึ้น ทำให้มีการลดลงของ อุณหภูมิตามความสูง และไอน้ำใน อากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้ำ อย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิของกลุ่ม อากาศจะลดลงจนไอน้ำเริ่มกลั่นตัว เป็นหยดน้ำ เกิดเป็นเมฆคิวมูลัส ระยะเจริญเติบโต การเกิดและพัฒนาของพายุฝนฟ้าคะนอง

การเกิดและพัฒนาของพายุฤดูร้อน ระยะเติบโตเต็มที่จะส่งผลกระทบ มากที่สุด เนื่องจากเป็นระยะที่เกิด ยอดของเมฆปะทะกับรอยต่อของชั้น ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง หรือ โทรโพสเฟียร์และชั้นสตราโตสเฟียร์ อาจเกิดลูกเห็บ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ ทำให้ไม่สามารถลอยตัวสูงขึ้นไปได้อีก ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ยอดเมฆจึงเกิดการแผ่ออกด้านข้าง ในแนวราบ ต่อมาเกิดฝนตกหนัก ลมแรง เกิดฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และอาจ เกิดลูกเห็บตก ระยะเติบโตเต็มที่ การเกิดและพัฒนาของพายุฝนฟ้าคะนอง

การเกิดและพัฒนาของพายุฤดูร้อน ฝนจะค่อย ๆ หมดไป ทำให้ลมที่พัดลงสู่ พื้นโลกมีอัตราเร็วลดลง เมฆเริ่มสลายตัว ระยะสลายตัว การเกิดและพัฒนาของพายุฝนฟ้าคะนอง

พายุหมุนเขตร้อน พายุหมุนเขตร้อน เป็นพายุที่ก่อตัวเหนือมหาสมุทร บริเวณศูนย์สูตร เมื่อน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 26-27 องศาเซลเซียส ขึ้นไป น้ำจะระเหยกลายเป็น ไอน้ำปริมาณมากและเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นบริเวณกว้าง ทำให้อากาศที่อยู่บริเวณโดยรอบ เคลื่อนเข้ามาแทนที่ พายุฝนฟ้าคะนอง

พายุหมุนเขตร้อน โดยอากาศจากบริเวณรอบๆ ที่เคลื่อนเข้ามาแทนที่นี้จะ พัดเวียนเป็นเกียวเข้าหาศูนย์กลางของพายุ โดยยิ่งใกล้ ศูนย์กลางมากเท่าไรอากาศจะยิ่งเคลื่อนที่พัดเวียน เกือบเป็นวงกลม และมีอัตราเร็วลมที่สูงที่สุด จากนั้นลม จึงพัดหมุนเป็นเกียวขึ้นไป และกระจายออกด้านบน พายุฝนฟ้าคะนอง

พายุหมุนเขตร้อน บริเวณศูนย์กลางพายุ เป็นบริเวณที่ลมสงบและไม่เกิดเมฆ เมื่อ มองจากด้านบนจะเห็นเป็นวงกลม เรียกว่า ตาพายุ และเมื่อพายุ หมุนเขตร้อนเคลื่อนที่เข้าสู่แผ่นดินหรือเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่น้ำ มีอุณหภูมิต่ำกว่า 26-27 องศาเซลเซียส อัตราความเร็วลมที่พัด รอบพายุจะลดลง ทำให้พายุลดกำลัง หรือสลายตัว พายุฝนฟ้าคะนอง

ความแตกต่างกันของพายุฝน ฟ้าคะนอง และพายุหมุนเขตร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน ความเหมือน เกิดจาการระเหยของน้ำบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง และลอยขึ้นไปสู่บรรยากาศ จากนั้นเกิดการควบแน่นเป็ นละอองน้ำและก่อตัวเป็ นเมฆขนาดใหญ่จนกลายเป็ นพายุ ความแตกต่างของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน

ความแตกต่างกันของพายุฝน ฟ้าคะนอง และพายุหมุนเขตร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน ความแตกต่าง พายุฝนฟ้ าคะนองก่อตัว พายุหมุนเขตร้อน ก่อตัวในมหาสมุทร ซึ่งมี เหนือพื้นดินขนาดไม่ใหญ่ กำลังไม่รุนแรง ประมาณไอน้ำมหาสาร ทำให้พายุมีขนาดใหญ่ และ มาก จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง มีกำลังรุนแรงมาก จึงก่อให้เกิดความเสียหายที่ มากนัก รุนแรง เกิดในระยะเวลาสั้นๆ ครอบคลุมพื้นที่ เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อตัวจนสลายตัวไม่เกิน 7 วัน ส่ง ไม่กว้าง ผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง หลายร้อยตาราง กิโลเมตร เป็นเวลานานหลายวัน ความแตกต่างของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน

พายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือฝั่ งตะวันตก แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ตามอัตราเร็วลมสูงสุดบริเวณใกล้ศูนย์สูตร พายุดีเปรสชัน พายุโซนร้อน พายุใต้ฝุ่น น้ อยกว่า 63 กม./ชม. ขึ้นไป ตั้งแต่ 63 กม./ชม. แต่น้ อยกว่า 118 กม./ชม. 118 กม./ชม. ขึ้นไป

พายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรอิเดีย ทะเลอาหรับ และอาวเบงกอล เรียกว่า พายุไซโคลน พายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ฝั่ งตะวันออก และมหาสมุทรแอตแลนติก เรียกว่า พายุเฮอร์ริเคน

การปฏิบัติตัวให้ปลอดภัยจากพายุฝนฟ้าคะนอง 1) ควรอยู่ห่างจากต้นไม้ ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า หรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง 2) คอยติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อ เตรียมรับมือกับภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่น น้ำท่วม ดิน โคลนถล่ม ถนนตัดขาด เป็นต้น การปฏิบัติตัวให้ปลอดภัยจากพายุฝนฟ้าคะนอง

ขอบคุณ อ้างอิง : HTTPS://WWW.IPST.AC.TH/KNOWLEDGE/KNOWLEDGE- INFOGRAPHIC/11687/THUNDERSTORMS.HTML