ความรู้เกี่ยวกับ E-BOOK จัดทำโดย ยุวรี หันบัญญัติ
คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือการนำเอาข้อมูลจากระบบการทำ เอกสารปกติมาจัดทำเป็นหนังสือที่อ่านผ่านโปรแกรมและแอพพลิ เคชั่นในระบบอิเล็กทรอนิกส์ จึงเรียกว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ยุวรี หันบัญญัติ 2566
สารบัญ เรื่อง หน้า ความหมายของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 วิวัฒนาการของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) 2 ประเภทของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 3 โครงสร้างทั่วไปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 7 ประโยชน์ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ E-Book 8 ความแตกต่างของ E-Book และหนังสือทั่วๆไป 12 โปรแกรมที่ใช้สร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 13
1 ความหมายของ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ E-Book ย่อมาจากคำว่า Electronic Book หมายถึงหนังสือที่สร้างขึ้น ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดย ปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่าเอกสารผ่านทางหน้าจอ คอมพิวเตอร์ ทั้งในระบบออฟไลน์ และออนไลน์ วิวัฒนาการของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) แนวความคิดเกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นภายหลังปี ค.ศ. 1940 โดยปรากฏในนวนิยายวิทยาศาสตร์ ต่อมาได้มีการพัฒนาโดยนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย สแกนหนังสือจัดเก็บข้อมูลเป็นแฟ้มภาพตัวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และ นำแฟ้มภาพตัวหนังสือมาผ่านกระบวนการแปลงภาพเป็นข้อความด้วย การทำOCR(OpticalCharacter Recognition) โดยใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์เพื่อแปลงภาพตัวหนังสือให้เป็นข้อความที่สามารถแก้ไข เพิ่มเติมได้การถ่ายทอดข้อมูลจะถ่ายทอดผ่านทางแป้นพิมพ์และ ประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือและข้อความด้วยคอมพิวเตอร์ดังนั้น หน้ากระดาษจึงเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นแฟ้มข้อมูลแทนทั้งยังมีความ สะดวกต่อการเผยแพร่และจัดพิมพ์เป็น เอกสาร(Documentsprinting)ทำให้รูปแบบของหนังสือิเล็กทรอนิกส์ยุค แรกๆมีลักษณะเป็นเอกสารประเภทไฟล์.doc .txt .rtf และ .pdf
2 เมื่อมีการพัฒนาภาษา HTML (Hypertext Markup Language) ข้อมูล ต่าง ๆ จึงถูกออกแบบ และตกแต่งในรูปของเว็บไซต์ โดยปรากฏ ในแต่ละหน้าของเว็บไซต์ซึ่งเรียกว่า “web page” ผู้อ่านสามารถเปิด ดูเอกสารเหล่านั้นได้ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ (Web browser)ซึ่งเป็น โปรแกรมประยุกต์ที่สามารถแสดงผลข้อความภาพ และการ ปฏิสัมพันธ์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัท ไมโครซอฟท์ ได้ผลิตเอกสาร อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้คำแนะนำในรูปแบบ HTML Help ขึ้นมา มีรูป แบบของไฟล์เป็น .CHM โดยมีตัวอ่าน คือ Microsoft Reader หลังจากนั้นมีบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จำนวนมาก ได้ พัฒนาโปรแกรมจนกระทั่งสามารถผลิตเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ออกมา เป็นลักษณะเหมือนกับหนังสือทั่วไป กล่าวคือ สามารถแทรก ข้อความ แทรกภาพ จัดหน้าหนังสือได้ตามความต้องการของผู้ผลิต และที่พิเศษกว่านั้น คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ สามารถสร้าง จุดเชื่อมโยงเอกสาร (Hypertext) ไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ทั้ง ภายใน และภายนอกได้ อีกทั้งยังสามารถแทรกเสียง ภาพ เคลื่อนไหวต่างๆ ลงไปในหนังสือได้ คุณสมบัติเหล่านี้ไม่สามารถ ทำได้ในหนังสือทั่วไป
3 ประเภทของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แบ่งออกเป็น 10 ประเภท ดังนี้ คือ 1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือแบบตำรา (Textbook) มีรูปแบบหนังสือปกติที่พบเห็นทั่วไป เป็นการแปลงหนังสือจาก สภาพสิ่งพิมพ์ปกติ เป็นสัญญาณดิจิตอล เพิ่มศักยภาพเดิมการนำ เสนอ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้วย ศักยภาพของคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน เช่น การเปิดหน้าหนังสือ การ สืบค้น การคัดเลือก เป็นต้น 2. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือเสียงอ่าน เมื่อเปิดหนังสือ จะมีเสียงคำอ่าน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้ เหมาะสำหรับหนังสือเด็กเริ่มเรียน หรือหนังสือฝึกออกเสียง หรือ ฝึกพูด (Talking Book ) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดนี้เป็นการเน้น คุณลักษณะด้านการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร และเสียงเป็น คุณลักษณะหลัก นิยมใช้กับกลุ่มผู้อ่านที่มีระดับลักษณะทางภาษา โดยเฉพาะด้านการฟังหรือการอ่านค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับการเริ่ม ต้นเรียนภาษาของเด็กๆ หรือผู้ที่กำลังฝึกภาษาที่สอง หรือฝึกภาษา ใหม่ เป็นต้น
4 3. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือภาพนิ่ง หรืออัลบั้มภาพ (static Picture Book)เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ที่มีคุณลักษณะหลักเน้นจัด เก็บข้อมูล และนำเสนอข้อมูลในรูปแบบภาพนิ่ง(static picture) หรือ อัลบั้มภาพเป็นหลัก เสริมด้วยการนำศักยภาพของคอมพิวเตอร์มาใช้ใน การนำเสนอ เช่น การเลือกภาพที่ต้องการ การขยายหรือย่อขนาดของ ภาพของคอมพิวเตอร์ การขยายหรือย่อขนาดของภาพหรือตัวอักษร การสำเนาหรือการถ่ายโอนภาพ การแต่งเติมภาพ การเลือกเฉพาะ ส่วนของภาพ (cropping) หรือเพิ่มข้อมูล เชื่อมโยงภายใน (Linking information) เช่น เชื่อมข้อมูลอธิบายเพิ่มเติม เชื่อมข้อมูลเสียง ประกอบ เป็นต้น 4. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือภาพเคลื่อนไหว (Moving Picture Book) เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นการนำเสนอข้อมูลใน รูปแบบภาพวีดีทัศน์ (Video Clips) หรือภาพยนตร์สั้น ๆ (Films Clips) ผนวกกับข้อมูลสนเทศที่อยู่ในรูปตัวหนังสือ (Text Information) ผู้อ่าน สามารถเลือกชมศึกษาข้อมูลได้ ส่วนใหญ่นิยมนำเสนอข้อมูล เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ หรือเหตุการณ์สำคัญ เช่น ภาพเหตุการณ์ สงครามโลก ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของบุคคลสำคัญๆ ของโลกใน โอกาสต่างๆ ภาพเหตุการณ์ความสำเร็จหรือสูญเสียของโลก เป็นต้น
5 5. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือสื่อประสม (Multimedia Book) เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นเสนอข้อมูลเนื้อหาสาระ ในลักษณะ แบบสื่อประสมระหว่างสื่อภาพ (Visual Media) เป็นทั้งภาพนิ่งและภาพ เคลื่อนไหวกับสื่อประเภทเสียง (Audio Media)ในลักษณะต่าง ๆ ผนวกกับศักยภาพของคอมพิวเตอร์อื่นเช่นเดียวกับหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่กล่าวมาแล้ว 6. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือสื่อหลากหลาย (Polymedia book) เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสมแต่มีความหลากหลายในคุณลักษณะด้าน ความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลภายในเล่มที่บันทึกในลักษณะต่าง ๆ เช่น ตัวหนังสือภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียงดนตรี และอื่นๆ เป็นต้น 7. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือเชื่อมโยง ( Hypermedia Book) เป็นหนังสือที่มีคุณลักษณะสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาสาระภายในเล่ม (Internal Information Linking) ซึ่งผู้อ่านสามารถคลิกเพื่อเชื่อมไปสู่ เนื้อหาสาระที่ออกแบบเชื่อมโยงกันภายใน การเชื่อมโยงเช่นนี้มี คุณลักษณะเช่นเดียวกับบทเรียนโปรแกรมแบบแตกกิ่ง ( Branching Programmed Instruction) นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อม โยงกับแหล่งเอกสารภายนอก (External or Information Sources) เมื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
6 8. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสืออัจฉริยะ (Intelligent Electronic Book) เป็นหนังสือประสม แต่มีการใช้โปรแกรมชั้นสูงที่สามารถมี ปฏิกิริยา หรือ ปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่านเสมือนหนังสือมีสติปัญญา (อัจฉริยะ) ในการไตร่ตรอง หรือคาดคะเนในการโต้ตอบหรือปฏิกิริยา กับผู้อ่าน 9. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อหนังสือทางไกล (Telemedia Electronic Book) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้มีคุณลักษณะหลัก ต่างๆ คล้ายกับ Hypermedia Electronic Books แต่เน้นการเชื่อมโยง กับแหล่งข้อมูลภายนอกผ่านระบบเครือข่าย (Online Information Sourcess) ทั้งที่เป็นเครือข่ายเปิด และเครือข่ายเฉพาะสมาชิกของ เครือข่าย 10. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือไซเบอร์สเปซ (Cyberspace book) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้มีลักษณะเหมือนกับหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ แบบที่กล่าวมาแล้วผสมกัน สามารถเชื่อมโยง แหล่งข้อมูลทั้งจากแหล่งภายในและภายนอกสามารถนำเสนอข้อมูล ในระบบสื่อที่หลากหลาย สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่านได้หลากหลาย
7 โครงสร้างทั่วไปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีความคล้ายคลึงกับ หนังสือทั่วไปที่พิมพ์ด้วยกระดาษ หากจะมีความแตกต่างที่เห็นได้ ชัดเจนก็ คือ กระบวนการผลิต รูปแบบ และวิธีการอ่านหนังสือ ลักษณะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีความคล้ายคลึงกับ หนังสือทั่วไปที่พิมพ์ด้วยกระดาษ หากจะมีความแตกต่างที่เห็นได้ ชัดเจนก็คือกระบวนการผลิต รูปแบบ และวิธีการอ่านหนังสือ โครงสร้างทั่วไปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 1. หน้าปก (Front Cover) หมายถึง ปกด้านหน้าของหนังสือซึ่งจะอยู่ ส่วนแรก เป็นตัวบ่งบอกว่าหนังสือเล่มนี้ชื่ออะไร ใครเป็นผู้แต่ง 2. คำนำ (Introduction) หมายถึง คำบอกกล่าวของผู้เขียนเพื่อสร้าง ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูล และเรื่องราวต่างๆ ของหนังสือเล่ม นั้น 3. สารบัญ (Contents) หมายถึง ตัวบ่งบอกหัวเรื่องสำคัญที่อยู่ภายใน เล่มว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง อยู่ที่หน้าใดของหนังสือ สามารถเชื่อม โยงไปสู่หน้าต่างๆ ภายในเล่มได้ 4. สาระของหนังสือแต่ละหน้า (Pages Contents) หมายถึง ส่วน ประกอบสำคัญในแต่ละหน้า ที่ปรากฏภายในเล่ม ประกอบด้วย 4.1 หน้าหนังสือ (Page Number) 4.2 ข้อความ (Texts)
8 4.3 ภาพประกอบ (Graphics) .jpg, .gif, .bmp, .png, .tiff – เสียง (Sounds) .mp3, .wav, .midi – ภาพเคลื่อนไหว (Video Clips, flash) .mpeg, .wav, .avi – จุดเชื่อมโยง (Links) 5. อ้างอิง (Reference) หมายถึง แหล่งข้อมูลที่ใช้นำมาอ้างอิง อาจ เป็นเอกสาร ตำรา หรือ เว็บไซต์ 6. ดัชนี (Index) หมายถึง การระบุคำสำคัญหรือคำหลักต่างๆ ที่อยู่ ภายในเล่ม โดยเรียงลำดับตัวอักษรให้สะดวกต่อการค้นหา พร้อมระบุ เลขหน้าและจุดเชื่อมโยง 7. ปกหลัง (Back Cover) หมายถึง ปกด้านหลังของหนังสือ ซึ่งอยู่ ส่วนท้ายเล่ม ประโยชน์ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-Book สำหรับผู้อ่าน 1. ขั้นตอนง่ายในการอ่าน และค้นหาหนังสือ 2. ไม่เปลืองเนื้อที่ในการเก็บหนังสือ 3. อ่านหนังสือได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
9 สำหรับห้องสมุด 1. สะดวกในการให้บริการหนังสือ 2. ไม่ต้องใช้สถานที่มากในการจัดเก็บหนังสือ และไม่เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนนี้ 3. ลดงานที่เกิดจากการซ่อม จัดเก็บ และการจัดเรียงหนังสือ 4. ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานมาดูแลและซ่อมแซมหนังสือ 5. มีรายงานแสดงการเข้ามาอ่านหนังสือ สำหรับสำนักพิมพ์และผู้เขียน 1. ลดขั้นตอนในการจัดทำหนังสือ 2. ลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในการจัดพิมพ์หนังสือ 3. ลดค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางอื่นๆ 4. เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายหนังสือ 5. เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ตรงถึงผู้อ่าน ข้อดีและข้อเสียของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ข้อดีของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มีดังต่อไปนี้ 1. อ่านที่ไหน เมื่อไหร่ ได้ตลอดเวลา เนื่องจากพกไปได้ตลอดและได้ จำนวนมาก 2. ประหยัดการตัดไม้ทำลายป่า เพราะไม่ต้องตัดไม้มาทำกระดาษ 3. เก็บรักษาได้ง่าย ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บประหยัดค่าเก็บรักษา
10 4. ค้นหาข้อความได้ ยกเว้นว่าอยู่ในลักษณะของภาพ 5. ใช้พื้นที่น้อยในการจัดเก็บ (cd 1 แผ่นสามารถเก็บ e-Book ได้ ประมาณ 500 เล่ม) 6. อ่านได้ในที่มืด หรือแสงน้อย 7. ทำสำเนาได้ง่าย 8. จำหน่ายได้ในราคาถูกกว่าในรูปแบบหนังสือ 9. อ่านได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพราะไม่ยับหรือเสียหายเหมือน กระดาษ 10. สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทาง แค่คลิกเดียวก็สามารถเลือกอ่าน หนังสือที่ต้องการได้ทันที 11. เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาธรรมชาติ โดยลดการใช้กระดาษกับ True e-Book ข้อเสียของ e-Book มีดังต่อไปนี้ 1. ต้องอาศัยพลังงานในการอ่านตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือ แบตเตอรี่ 2. เสียสุขภาพสายตา จากการได้รับแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 3. ขาดความรู้สึก หรืออรรถรส หรือความคลาสสิค 4. อาจเกิดปัญหากับการลง hardware หรือ software ใหม่หรือ แทนที่อันเก่า
11 4. อาจเกิดปัญหากับการลง hardware หรือ software ใหม่หรือ แทนที่อันเก่า 5. ต้องมีการดูแลไฟล์ให้ดี ไม่ให้เสียหรือสูญหาย 6. การอ่านอาจเกิดอันตรายต่อสายตา 7. เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ง่าย 8. ไม่เหมาะกับบาง format เช่น รูปวาด รูปถ่าย แผนที่ใหญ่ เป็นต้น
12 ความแตกต่างของหนังสือ E-book กับหนังสือทั่วไป หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หนังสือทั่วไป ไม่ใช้กระดาษ (อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้) 1. ใช้กระดาษ 2. มีข้อความและภาพประกอบธรรมดา สามารถสร้างให้มีภาพเคลื่อนไหวได้ 3. ไม่มีเสียงประกอบ สามารถใส่เสียงประกอบได้ สามารถแก้ไขและปรับปรุงข้อมูล (update) ได้ง่าย 4. สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ยาก สามารถสร้างจุดเชื่อมโยง (links) ออกไปยังข้อมูล 5. มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ภายนอกได้ มีต้นทุนในการผลิตหนังสือต่ำ 6. มีต้นทุนการผลิตสูง ไม่มีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์ สามารถทำสำเนาได้ 7. มีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์ ง่ายไม่จำกัด สามารถอ่านผ่านคอมพิวเตอร์ และสั่งพิมพ์ผลได้ 8. สามารถเปิดอ่านจากเล่ม อ่านได้อย่างเดียว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 เล่ม สามารถอ่านพร้อมกัน 9. สามารถอ่านได้ 1 คนต่อหนึ่งเล่ม ได้จำนวนมาก (ออนไลน์ผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต) สามารถพกพาสะดวกได้ครั้งละจำนวนมากในรูป 10. สามารถพกพาลำบาก และต้องเดินทางไปใช้ที่ แบบของไฟล์คอมพิวเตอร์ และสามารถเข้าถึงโดย ห้องสมุดและศูนย์สารนิเทศต่าง ๆ ไม่จำกัดเรื่องสถานที่และเวลา
13 โปรแกรมที่ใช้สร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมสำหรับสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีหลายแบบหลาย ประเภท ความยากง่ายซับซ้อนในการใช้งานก็ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ ลักษณะของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการสร้างทั้งโปรแกรมสร้าง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบ pdf และโปรแกรมสำหรับสร้าง e-book แบบ ePub หรือ Filp เช่น แนว โปรแกรมที่ใช้สร้างเอกสาร อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word Microsoft Power Point และอื่นๆ ภาพตัวอย่าง โปรแกรม Microsoft Word 3ภาพตัวอย่าง โปรแกรม Microsoft Power Point โปรแกรม desktop author เป็นโปรแกรม สำหรับสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับ ความนิยมซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความใส่รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหวไฟล์ swf วีดีโอ
และยังสามารถนำเข้าไฟล์ PDF ได้ 14 โปรแกรม Flip Album เป็นโปรแกรมสำหรับสร้าง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่าง มาก ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความ ใส่รูปภาพ ภาพ เคลื่อนไหว โปรแกรม E-Book ระบบออนไลน์ 1. Anyflip.com 2.FlipHTML5
15 3.PUBHTML
Email : [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: