หน่วยการเรยี นรทู ้ ี่ 5 งานธรุ กจิ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี โดย คุณครูกญั ญาณี แสนตรี
2. วตั ถปุ ระสงค ์ 3. ธรุ กจิ ของการทา ธรุ กจิ ประเภท ของ ธรุ กจิ 4. องคป์ ระ 1. งาน ความสาคญั ธรุ กจิ กอบ ของการ ของ ประกอบ ธรุ กจิ ธรุ กจิ 7. 5. ประโยชน์ จรรยาบรรณ ของธรุ กจิ ในการ 6. ประกอบธรุ กจิ คณุ ลกั ษณะ สาคญั ของผู ้ ประกอบธรุ กจิ
1. ความสาคญั ของ ธรุ กจิ ธรุ กจิ หรอื Business คอื กระบวนการหรอื กิจกรรมทาง เ ศ ร ษ ฐ กิจ ที่บุ ค ค ล ห รือ ก ลุ่ ม บุคคลรว่ มกนั ดาเนินกจิ กรรมที่ เ กี่ย ว กับ ก า ร ซือ้ ข า ย แ ล ะ เปลยี่ นสนิ คา้ และการบรกิ ารตา่ ง ๆ เ พื่อ มุ่ ง ห วัง ผ ล ก า ไ ร แ ล ะ ผลตอบแทนที่เป็ นตัวเงินหรือ ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ ที่ คุ้ม ค่ า จ า ก กระบวนการหรอื กจิ กรรมนั้นๆ 21/01/65
1. ความสาคญั ของ ธรุ กจิ 1.1 สรา้ งงาน สรา้ งอาชพี ใหก้ บั ประชาชน 1.2 เกดิ ความกา้ วหน้าใน ดา้ นต่าง ๆ เช่น การนา เทคโนโลยี และนวตั กรรม มาใช ้ 1.3 การกระตุน้ เศรษฐกจิ ในประเทศและสรา้ งเสรมิ รายไดใ้ หก้ บั ภาครฐั
2. วตั ถปุ ระสงค ์ ของการทาธรุ กจิ 2.1 กาไร ผูป้ ระกอบธุรกิจหวัง ค่ า ต อ บ แ ท น ที่ เ ป็ น ตั ว เ งิ น มากกวา่ จานวนเงนิ ทไี่ ดล้ งทุนไป 2.2 ใหส้ งิ่ ทดี่ ที สี่ ุดแกผ่ ูบ้ รโิ ภคใน ราคาที่เหมาะสมและสามารถ แขง่ ขนั กบั องคก์ รธรุ กจิ อนื่ ๆ ได ้ 2 . 3 ค ว า ม ม่ัน ค ง ท า ง ธุ ร กิจ 2 . 4 ค ว า ม ก า้ ว ห น้า แ ล ะ ก า ร เจรญิ เตบิ โตของธรุ กจิ 21/01/65
1. ธรุ กจิ การดาเนินงานเกยี่ วกบั การแปรรปู วตั ถดุ บิ ใหเ้ ป็ นสนิ คา้ ไดแ้ ก่ 3. การผลติ -ธรุ กจิ การเกษตร (การทานา,ทาสวน, ทาไร,่ ประมง , เลยี้ งสตั ว ์ , การป่ าไม)้ ประเภทของธรุ กจิ -ธรุ กจิ เหมอื งแร่ (ขดุ เจาะทรพั ยากรธรรมชาติ เชน่ นา้ มนั ถา่ นหนิ อญั มณี แรธ่ าต)ุ -ธรุ กจิ อตุ สาหกรรม (การแปรรปู อาหาร, ผลติ เครอื่ งยนต,์ ผลติ สง่ิ ทอ) -ธรุ กจิ กอ่ สรา้ ง (อฐิ หนิ ดนิ ปนู ทราย นามาสรา้ งทอ่ี ยอู่ าศยั สะพาน ถนน เขอ่ื น) 3.ธรุ กจิ ธรุ กจิ แบ่ง 2. ธรุ กจิ 3 . 1 แ บ่ ง ต า ม ลัก ษ ณ ะ ก า ร การ ตาม การ ดาเนิ นงาน เป็ น 3 กลุ่ม ดัง แผนภาพมายแมปปิ ้ง ใหบ้ รกิ าร ลกั ษณะการ พาณิชย ์ ปฏบิ ตั งิ าน ธรุ กจิ ประเภทนีค้ อื พ่อคา้ คนกลางที่ เนน้ การอานวยความสะดวกใหก้ บั ผบู้ รโิ ภค ไดแ้ ก่ นาสนิ คา้ จากผผู้ ลติ มาจาหน่ายตอ่ -ธรุ กจิ ทใี่ หบ้ รกิ ารดา้ นการเงนิ (ธนาคาร โรงรบั จานา สนิ เชอื่ ) ยงั ผบู ้ รโิ ภค เชน่ รา้ นคา้ ปลกี รา้ น -ธรุ กจิ ทอี่ านวยความสะดวกในการดาเนินชวี ติ ประจาวนั สะดวกซอื้ หา้ งสรรพสนิ คา้ (รา้ นเสรมิ สวย สถานบนั เทงิ บรกิ ารขนสง่ มวลชน โรงแรมและการ ท่องเทยี่ ว สถานเสรมิ ความงาม) 21/01/65
1. กจิ การ 2. หา้ ง 3. บรษิ ทั 3. เจา้ ของเพยี ง หนุ ้ สว่ น จากดั ประเภทของธรุ กจิ คนเดยี ว ธรุ กจิ 4. 3 . 2 แ บ่ ง ต า ม ลัก ษ ณ ะ ก า ร แบ่งตาม สหกรณ์ ดาเนิ นงาน เป็ น 6 กลุ่ม ดัง 6. ธรุ กจิ กฎหมาย แผนภาพมายแมปปิ ้ง สมั ปทาน 5. รฐั วสิ าหกจิ 21/01/65
ธรุ กจิ แบ่งตามกฎหมาย 1.กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว ( Single Proprietorship) คอื กจิ การทมี่ บี คุ คลคนเดยี วเป็ นเจา้ ของหรอื ลงทนุ คนเดยี ว ควบคมุ การดาเนินงานเอง ทง้ั หมดคนเดยี ว ตวั อย่าง เชน่ รา้ นคา้ ปลกี รา้ นคา้ สง่ รา้ นเสรมิ สวย การทาไร่ การทานา แผงลอย ลกั ษณะของกจิ การเจา้ ของคนเดยี ว 1.ใชเ้ งนิ ลงทนุ นอ้ ย 2. เจา้ ของกจิ การมคี วามรบั ผดิ ชอบในหนีส้ นิ ทงั้ หมดไม่จากดั จานวน เจา้ หนีม้ สี ทิ ธเิ รยี กรอ้ งเอาทรพั ยส์ นิ ของเจา้ ของได ้ ถา้ ทรพั ยส์ นิ ของกจิ การไม่เพยี งพอชาระหนี้ 3. เจา้ ของกจิ การไดร้ บั ผลตอบแทนจากการลงทนุ ทงั้ ผลกาไรและผลขาดทนุ เพยี งคนเดยี ว 4. การควบคมุ การดาเนินงานและตดั สนิ ใจทกุ อย่างคนเดยี วทาใหธ้ รุ กจิ คลอ่ งตวั
ธรุ กจิ แบง่ ตามกฎหมาย 2.กจิ การหา้ งหุน้ สว่ น ( Partnership) กจิ การทมี่ บี คุ คลตงั้ แต่ 2 คนขนึ้ ไปรว่ มกนั ลงทุนและดาเนินกจิ การ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ แบ่งผลกาไรทไี่ ดจ้ ากการดาเนินงาน ซงึ่ ธรุ กจิ ประเภทนีส้ บื ตอ่ มาจากธรุ กจิ เจา้ ของคนเดยี ว ลกั ษณะของกจิ การหา้ งหุน้ ส่วน 1. มผี รู ้ ว่ มเป็ นหนุ ้ ตงั้ แต่ 2 คนขนึ้ ไป ตกลงทาสญั ญารว่ มกนั ดาเนินงาน 2.มกี ารรว่ มกนั ลงทนุ โดยนาเงนิ สด ทรพั ยส์ นิ หรอื แรงงานมาลงทนุ ตามขอ้ ตกลง 3. มกี ารกระทากจิ การอย่างเดยี วกนั รว่ มกนั 4. มคี วามประสงคแ์ บ่งผลกาไรกนั ตามขอ้ ตกลง มี 2 ประเภท
2.1 หา้ งหุน้ ส่วนสามญั คอื หา้ ง ธรุ กจิ แบ่งตามกฎหมาย 2.2 หา้ งหุน้ ส่วนจากดั คอื หา้ ง หนุ้ สว่ นทผี่ ูเ้ ป็ นหนุ้ ส่วนทกุ คนตอ้ งรบั หนุ ้ สว่ นทตี่ อ้ งจดทะเบยี นเป็ นนิติ ผดิ ในหนีส้ นิ ทง้ั หมดของหา้ งหนุ ้ ส่วน ตามประมวลกฎหมาย บคุ คลตามกฎหมายหา้ งหนุ้ ส่วน โดยไม่จากดั จานวน ซงึ่ หา้ งหนุ ้ สว่ น แพ่งและพาณิชย ์ แบ่ง ประเภทนีต้ อ้ งใชค้ าวา่ “หา้ งหนุ้ สว่ น หา้ งหุน้ ส่วนออกเป็ น 2 จากดั ” ประกอบหนา้ ชอื่ ของหา้ ง สามญั จะจดทะเบยี นหรอื ไม่ก็ได ้ ประเภท หนุ้ สว่ นเสมอ
บรษิ ทั รกั ษาความปลอดภยั ธรุ กจิ แบง่ ตามกฎหมาย 3.1 บรษิ ทั เอกชนจากดั คอื บรษิ ทั ซงึ่ 3.กจิ การบรษิ ทั จากดั (Limited Company) 3.2 บรษิ ทั มหาชน ตงั้ ขนึ้ ดว้ ยการแบ่งทนุ ออกเป็ นหุน้ ซง่ึ แต่ จากดั หมายถงึ บรษิ ทั มหาชน ละหนุ ้ มมี ุลคา่ เทา่ ๆกนั โดยมผี ูถ้ อื หนุ ้ ตง้ั แต่ บรษิ ทั จากดั คอื การแบง่ ทนุ เป็ นหนุ้ มมี ูลคา่ หุน้ จากดั เป็ นบรษิ ทั ทจี่ ดั ตงั้ ขนึ้ เพอื่ เทา่ ๆ กนั โดยผูถ้ อื หนุ ้ ตา่ งรบั ผดิ จากดั เพยี งไม่เกนิ จานวน 7 – 99 คน ผูถ้ อื หนุ ้ ทกุ คนตา่ งรบั ผิด เงนิ ทตี่ นยงั ส่งใชไ้ ม่ครบมูลคา่ หนุ ้ ทตี่ นถอื การจดั ตง้ั บรษิ ทั วตั ถปุ ระสงคใ์ นการเสนอขายหนุ้ ตอ่ จากดั เพยี งไม่เกนิ จานวนเงนิ ทต่ี นยงั ส่งใช ้ ตอ้ งมผี ูร้ ว่ มกนั จนทะเบยี นในหนังสอื บรคิ ณหส์ นธดิ ว้ ยความ ประชาชน ซงึ่ ถอื หนุ้ ตง้ั แต่ 100 สมคั รใจ ตง้ั แต่ 7 คนขนึ้ ไป มี 2 ประเภท คนขนึ้ ไป โดยผูถ้ อื หนุ้ มคี วาม ไม่ครบมูลคา่ หุน้ ทต่ี นถอื เทา่ นั้น และ รบั ผดิ ชอบจากดั ไม่เกนิ จานวนเงนิ คณุ สมบตั ขิ องผูถ้ อื หนุ ้ ไม่เป็ นขอ้ คา่ หนุ ้ ทตี่ อ้ งชาระ และบรษิ ทั สาระสาคญั ดงั กลา่ วไดร้ ะบคุ วามประสงคเ์ ชน่ นั้น ไวใ้ นหนังสอื บรคิ ณหส์ นธิ โรงแรมแอมบาสตี้ จอมเทยี น พทั ยา
ธรุ กจิ แบ่งตามกฎหมาย 4. ธุรกจิ สหกรณ์ ( Co-operative Society) สหกรณ์ คอื ธรุ กจิ รปู แบบหนึ่งทจี่ ดั ตง้ั และดาเนินการโดยกลมุ่ บุคคลทมี่ คี วามประสงค ์ อย่างเดยี วกนั รว่ มกนั จดั ตงั้ ลงทนุ ดาเนินการและเป็ นเจา้ ของรว่ มกนั ดว้ ยความสมคั รใจ ลกั ษณะของกจิ การสหกรณ์ 1. เป็ นการรว่ มลงทนุ ของบคุ คลตง้ั แต่ 10 คนขนึ้ ไป โดยไม่จากดั จานวน 2. เป็ นการรว่ มมอื กนั เพอื่ แกไ้ ขความเดอื ดรอ้ นของบคุ คลทมี่ ปี ัญหาทางดา้ น เศรษฐกจิ และสงั คม โดยไม่คานึงถงึ สนิ ทรพั ย ์ 3. ผูส้ มคั รสมาชกิ ตอ้ งเป็ นไปดว้ ยความสมคั รใจ ไม่ใชก่ ารบงั คบั 4. สมาชกิ ทกุ คนมสี ทิ ธเิ ท่าเทยี มกนั ในการดาเนินงานสหกรณ์ 5. มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเอง และชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั ในหมู่สมาชกิ โดยไม่คานึงถงึ ผลกาไร 6. การจดั ตงั้ มกี ารจดทะเบยี นตามพระราชบญั ญตั กิ ารสหกรณ์
1. สหกรณก์ ารเกษตร 2. สหกรณก์ ารประมง 3.สหกรณน์ ิคม 6.สหกรณอ์ อมทรพั ย ์ 4.สหกรณร์ า้ นคา้ หรอื สหกรณธ์ นกจิ สหกรณ์ แบง่ ได ้ 6 ประเภท 5.สหกรณบ์ รกิ าร
ธรุ กจิ แบง่ ตามกฎหมาย 5. รฐั วสิ าหกจิ (State Enterprise) กจิ การรฐั วสิ าหกจิ หมายถงึ องคก์ รของรฐั บาล หน่วยงานธรุ กจิ ทรี่ ฐั บาลเป็ น เจา้ ของหรอื บรษิ ทั หา้ งหนุ ้ ส่วนนิตบิ คุ คลทสี่ ่วนราชการหรอื หน่วยงานธรุ กจิ ของรฐั บาลมที ุน รวมอย่ดู ว้ ย เกนิ กวา่ รอ้ ยละ 50 มกี ารบรหิ ารงานอยู่ระหวา่ งระบบราชการและระบบธรุ กจิ สาเหตุทรี่ ฐั บาลเขา้ มาดาเนินงานรฐั วสิ าหกจิ 1. เพอื่ หารายไดเ้ ขา้ รฐั บาลนอกเหนือจากการเก็บภาษอี ากร 2. เพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวมของประชาชน 3. เพอื่ ป้ องกนั การผูกขาดและการเอารดั เอาเปรยี บจากผปู ้ ระกอบการเอกชน 4. กจิ การบางอย่างตอ้ งใชเ้ งนิ ทนุ จานวนมาก 5. เพอื่ ความมน่ั คง ความสงบและความปลอดภยั ของประเทศชาติ 6. เพอื่ ควบคมุ การผลติ หรอื การบรโิ ภคสนิ คา้ บางชนิด 7. เพอื่ เป็ นการส่งเสรมิ เอกลกั ษณ์ วฒั นธรรมและเผยแพรช่ อื่ เสยี งของประเทศ
ตวั อยา่ งธรุ กจิ แบบรฐั วสิ าหกจิ
ธรุ กจิ แบ่งตามกฎหมาย 6. กจิ การแฟรนไชส ์ (Franchise) กจิ การแฟรนไชส ์ อาจเรยี กอกี อย่างวา่ ธรุ กจิ สมั ปทาน คอื ธรุ กจิ ทเี่ กดิ จากความสมั พนั ธร์ ะหว่าง บคุ คล 2 กลมุ่ ขนึ้ ไปหรอื มากกวา่ ซงึ่ มบี ทบาทและหนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบตา่ งกนั แตจ่ ะสง่ เสรมิ ซงึ่ กนั และกนั ในระบบธรุ กจิ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคจ์ ะกระจายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารไปสผู่ ูบ้ รโิ ภคอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ดงั น้ัน จากลกั ษณะของธรุ กจิ แฟรนไชสจ์ งึ มผี เู้ กยี่ วขอ้ งกบั ธรุ กจิ ประเภทนี้ 2 ฝ่ ายคอื 1. แฟรนไชซอร ์ หรอื เจา้ ของธรุ กจิ คอื ผใู้ หส้ มั ปทาน 2. แฟรนไชซ ์ คอื ผขู้ อรบั สมั ปทาน มี 2 ประเภท 1. ธรุ กจิ แฟรนไชสห์ รอื แบบสมั ปทานทใี่ ชส้ นิ คา้ และชอื่ การคา้ เชน่ ตวั แทนจาหน่ายนา้ อดั ลมโคคา- โคลา่ สถานีบรกิ ารน้ามนั เชลล ์ ตวั แทนจาหน่ายรถยนตฟ์ อรด์ 2. ธรุ กจิ แฟรนไชสห์ รอื แบบสมั ปทานทใี่ ชร้ ปู แบบทางธรุ กจิ เชน่ พซิ ซา่ ฮทั เคเอฟซี เซเวน่ -อเี ลฟเวน
ตวั อย่างธรุ กจิ แฟรนไชส ์ ธรุ กจิ แบ่งตามกฎหมาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: