Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สงครามครูเสด

สงครามครูเสด

Published by 23.เนตรชนก ไกรวัลย์, 2021-12-07 19:08:09

Description: สงครามครูเสด

Search

Read the Text Version

สงคราม ค รู เ ส ด CRUSADES เนตรชนก ไกรวัลย์ 7 4 0 9 ถ น2น0บ1า6ง น า ต ร า ด สงครามทางศาสซอยสุขุมวิท 4นาใ1 กทม. นช่ว37076 งยุคกลาง นาตราด ซ อ ย สุ ขุ ม วิท 4 1 ก ท ม . 3 7 0 7 6 HTTPS://WWW.KROOBANNOK.COM/1355

สงครามครูเสด สงครามระหว่างศาสนา ซึ่งอาจหมายถึง สงครามระหว่างชาวคริสต์ต่างนิกายด้วยกันเอง หรือชาวคริสต์กับผู้นับถือศาสนาอื่นก็ได้ แต่โดย ส่วนใหญ่มักหมายถึงสงครามครั้งใหญ่ระหว่าง ชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ในช่วงศตวรรษที่ 11 ถึง 13 ในตอนเริ่มสงครามนั้นชาวมุสลิมปกครองดิน แดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ สำคัญของสามศาสนาได้แก่ อิสลาม ยูได และ คริสต์ ในปัจจุบันดินแดนแห่งนี้คือ ประเทศ อิสราเอล หรือ ปาเลสไตน์ ชาวมุสลิมครอบครอง เมืองนาซาเรธ เบธเล เฮม และเมืองสำคัญทางศาสนาอีกหลายเมือง ในยุคของคอลีฟะหฺอุมัร (634-44) ซึ่งเป็นผู้นำ ทางศาสนาและการเมืองของอาณาจักรอิสลาม ในยุคนั้น บทสรุปของสงครามในครั้งนั้นคือกองทัพมุสลิม สามารถยึดดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากชาวคริสต์ ได้ และขับไล่ผู้รุกรานต่างดินแดนออกไป ซึ่งยัง คงดำรงชาติมุสลิมสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้

สาเหตุของสงครามครูเสด เ นื่ อ ง จ า ก พ ว ก ค ริ ส ก ลุ่ ม ห นึ่ ง มี ค ว า ม เ ชื่ อ กั น ว่ า ต์ โลกนี้จะถึง การอวสานเมื่อครบ ค.ศ. 1000 เรียกว่า Millennium และเชื่อว่าพระเยซู พร้อมด้วยสาวกจะเสด็จมาโปรดชาวโลกในวัน นั้น พวกคริสเตียนจำนวนมากจึงได้ละถิ่นฐาน บ้านช่องของตนเดินทางไปชุมนุมกันใน ปาเลสไตน์ เพื่อรอวันโลกแตก แต่เมื่อถึง ค.ศ. 1000 โลกไม่ได้อวสานตามที่พวกนี้คิดไว้ ประกอบกับพวกคริสต์จำนวนมากไม่ได้รับการ ปฏิบัติด้วยดีจากพวกสัลยูก ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจ ปกครองอยู่ในเวลานั้น ทำให้พวกคริสเตียนนี้ เมื่อกลับบ้านไปแล้ว(คือทวีปยุโรป) ต่างพกเอา ความเคียดแค้น ไปเล่าเรื่องแล้วแต่งเติมสิ่งที่ ได้ประสบในปาเลสไตน์ให้พวกคริสเตียนด้วย กันฟัง มีคริสเตียนคนหนึ่ง ชื่อ ปิเตอร์ ได้ ฉายาว่า ปิเตอร์ เดอะ เฮอร์มิต (ปิเตอร์ นักพรต ถือไม้เท้าท่องเที่ยวไปในเมืองต่าง ๆ ในทวีปยุโรป ได้ป่าวประกาศข่าวเรื่องที่พวก คริสเตียนไปอยู่ในปาเลสไตน์เพื่อรอวันโลกแตก แล้วได้รับการข่มเหงจากพวกสัลยูก พร้อมทั้ง ได้ปลุกระดมให้พวกคริสเตียนรวมกำลังกันไปตี ปาเลสไตน์กลับคืนมา)

สัลยูกเป็นพวกตุรกีสายหนึ่ง กำลัง รุ่งเรืองอำนาจ และมีอิทธิพลเหนือเคาะลี ฟะฮ.ของอับบาสิยะฮ. ในกรุงแบกแดด พวกนี้ปกครองประเทศปาเลสไตน์ และมี อาณาเขตคุกคามกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพวกคริสต์นิกายอ อร์ทอด๊อกซ์ ซึ่งนิกายนี้ไม่ถูกกับนิกาย คาธอลิค แต่เมื่อถูกคุมคามจากพวกสัลยูก จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากพวก คริสต์นิกายคาธอลิค ซึ่งโป๊ปแห่งกรุงโรม เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะแผ่อิทธิพล ครอบคลุมพวกคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ได้ จึงถือข้อนี้เป็นสาเหตุอันหนึ่งในการ ประกาศสงครามครูเสด เพื่อทำลายหลัก การของคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ให้หมด สิ้นไป

พวกคริสต์ ในยุโรปขณะนั้น ได้มีแนวความคิดร่วม กันว่า พลเมืองทั่วทั้งโลกนี้ต้องนับถือศาสนาคริสต์ การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ถือเป็นครูเสดประการ หนึ่ง ซึ่งพวกนี้ได้มีการพิมพ์เอกสารหรือหนังสือใส่ ร้ายศาสนาอื่น โดยเฉพาะศาสนาอิสลาม และได้ กระทำต่อมานับร้อย ๆ ปี แม้หลังจากสงครามครู เสดแล้วก็ตาม ในโรงเรียนต่าง ๆ ของพวกมิชชั่น นารี จะมีตำราเรียนหลายชนิดให้ร้ายศาสนาอิสลาม ทั้งนี้เพราะพวกคริสต์พ่ายแพ้สงครามครูเสดในที่สุด นั่นเอง ถึงแม้จะรบกันกว่า 150 ปี ซึ่งเพิ่งจะรู้ความ จริงของอิสลาม และรู้ว่าถูกพวกคริสต์ด้วยกันเอง หลอกมาตลอด เมื่อไม่กี่ปีหลังจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 นี่เอง เพราะโลกได้มีการติดต่อกันอย่าง กว้างขวางขึ้น มีการชุมนุมผู้แทนประเทศต่าง ๆ และพบปะกันมากขึ้น เนื่องจากพวกสัลยูก คุมปาเลสไตน์และ เอเชียน้อย ทำให้พวกอิตาลีเดินทางไป มหาสมุทรอินเดียไม่สะดวก พวกพ่อค้า แห่งเมืองเวนิสและเจนัวก็กำลังประสบ ปัญหาในการค้าขาย จึงอยากให้มี สงครามขึ้น เพื่อพวกตนจะได้ทำการ ค้าคล่อง

ความหมายของคำว่า ‘คูเสด’ สงครามศาสนาที่พวกคริสเตียน ได้กระทำต่อมุสลิมีน ('มุสลิมีน' เป็นคำพหูพจน์ของ 'มุสลิม' หมาย ถึง ผู้นับถือศาสนาอิสลาม) เป็น เวลานานกว่า 150 ปี เพื่อทำลาย ศาสนสถานต่างๆ ของคริสตจักร โดยเฉพาะที่ในเมืองเบธเลแฮม (บัยตุลละหัม) และเยรูซาเล็ม โดยที่พวกนี้มีเครื่องหมายกางเขน ติดไว้ ครูเสดแปลว่า ติดด้วย เครื่องหมายกางเขน ซึ่งต่อมาคำ ว่าครูเสดนี้ ใช้หมายถึงสงคราม ทั่ว ๆ ไป ที่พวกคริสต์ต่อต้าน พวกนอกศาสนาตามแต่สังฆนายก (Bishop) ของโรมจะบัญชา

สงครามครูเสดในมุมของศาสนา อิสลาม การรุกรานของชาวคริสต์ที่กระทำต่อมุสลิม สาเหตุสงครามเกิดจากการที่ชาวคริสต์ไม่พอใจ ชาวมุสลิมที่ไม่ต้อนรับพวกตนในการเข้าไปแสวง บุญที่เยรูซาเล็ม ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลข้ออ้าง อย่างนี้เป็นต้น สงครามครเสดในมุมของศาสนา คริสต์ สงครามไม้กางเขน เดิมมาจากคำว่า \"ครอส\" (Cross) และชาวคริสต์อ้างว่าเดิมทีดินแดน ศักดิ์สิทธิ์ เยรูซาเล็ม (Jerusalem) นั้น เป็น ของชาวคริสต์ แต่ถูกชาวมุสลิมรุกรานแย่ง ชิงไป ฝ่ายคริสต์จึงมีการประกาศความชอบ ธรรมในการทำสงคราม รวมทั้งการยกหนี้ สินให้กับคนที่เข้าร่วมสงคราม ผู้นำศาสนายัง ประกาศอีกว่า ผู้ใดที่ร่วมรบจะได้ขึ้นสวรรค์

จุดเริ่มต้นของสงครามครูเสด แรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ชาวยุโรปเดินทางฝ่าอันตรายไป ยังโลกอิสลาม คือ กษัตริย์ฝรั่งเศสและเยอรมัน ต้องการดินแดนเพิ่ม บรรดาอัศวินและขุนนางก็ ต้องการผจญภัยและแสดงความกล้าหาญตามอุดมคติ ของอัศวินที่ดี พวกทาสต้องการเป็นอิสระ เสรีชน ต้องการความร่ำรวยและแสดงความศรัทธาต่อศาสนา รวมทั้งความพยายามของพระสันตะปาปาในอันที่จะ รวมคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกซ์ให้เข้ากับนิกาย โรมันคาทอลิก ภายใต้การบังคับบัญชาของตนแต่เพียง ผู้เดียว ประกอบกับสมัยนั้นอำนาจของอิสลามเองก็ได้ อ่อนแอลงอันเนื่องจากความแตกแยกภายใน คือ ภาย หลังที่ซัลจู๊คเสื่อมอำนาจลง โลกอิสลามได้ถูกแบ่งแยก ออกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ปราศจากศูนย์กลาง คอ ลีฟะฮฺแห่งฟาฏีมียะฮฺเองก็ตกอยู่ในสภาพที่อ่อนแอและ พยายามจำกัดอำนาจของตนให้อยู่เฉพาะในอียิปต์ เท่านั้น

พระสันตะปาปาเออร์บานที่ 2 ได้จัดประชุม กันที่เคลมองต์ (Clermont) ในประเทศ ฝรั่งเศส เรียกร้องให้ประชาชนทำสงคราม ครูเสด เพื่อกอบกู้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ คือ กรุงเยรูซาเล็มคืนจากอิสลมา ปรากฏว่าพระสันตะปาปาสามารถรวบรวมคน ได้ถึง 150,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาว ฝรั่งเศส ไปร่วมทำสงครามครูเสด ในขณะนั้นเอง ยังมีกองทัพของประชาชนผู้มี ศรัทธาแรงกล้าในการร่วมสงครามครูเสด เดินทัพ มาก่อนแล้วในปี ค.ศ. 1094 ตามคำชักชวนของ ปี เตอร์ นักพรต (Peter of Amines) แต่มาถึง เพียงฮังการี เกิดขาดอาหารลง ไปทำการปล้น สะดมจึงถูกประชาชนแถบนั้นต่อต้าน และส่วนใหญ่ ตายเสียตามทาง ที่เหลือรอดมาจำนวนเล็กน้อย เมื่อเผชิญกับพวกซัลจู๊คจึงถูกตีแตกพ่ายกลับไป สงครามครั้งนี้มิได้ก่อให้เกิดผลสะท้อนใด ๆ นอกจากจะกระตุ้นให้ชาวยุโรปมีความเกลียดชัง มุสลิมมากขึ้นไปอีก

บทสรุปของการทำสงครามเเต่ละครั้ง ครั้งที่1 ค.ศ. 1092 - 1099 กล่าวกันว่า เป็นครั้งเดียวที่ชาวคริสเตียนรบด้วย อุดมการณ์ เป็นครั้งที่พระเจ้าแผ่นดินใน ยุโรปหลายพระองค์ได้ไปร่วมรบ และเป็น ครั้งเดียวที่สามารถเอาชนะพวกเติร์ก เปิดทางให้คริสต์ศาสนิกชนสามารถไป นมัสการที่ฝังศพพระเยซูได้สะดวก ครั้งที่ 2 ค.ศ. 1147 - 1149 พระเจ้า หลุยส์ที่ 7 ของฝรั่งเศส กับ พระเจ้าคอน ราดที่ 3 ของเยอรมัน นำทัพไป แต่ต้อง แพ้ย่อยยับกลับมา ครั้งที่ 3 ค.ศ. 1189 - 1192 พระเจ้า เฟรเดริกที่ 1 (เยอรมัน) ฟิลิปป์ออกุสต์ (ฝรั่งเศส) และริชาร์ด ไลออนอาร์ท (อังกฤษ) นำทัพและพากันแพ้กลับมาอีก และ พระเจ้าเฟรเดริกจมน้ำตาย

ครั้งที่ 4 ค.ศ. 1202 - 1204 แทนที่กองทัพครูเสดจะไปรบพวก เติร์ก กลับไปรบพวกคริสเตียน ด้วยกั นเอง ครั้งที่ 5 ค.ศ. 1217 - 1221 เซนเญอร์ของฝรั่งเศส ชื่อ ยองเลอเบรียน กับพระเจ้าแผ่น ดินฮังการี ไปรบพวกเติร์กใน ประเทศอียิปต์ ไม่ได้ผลทาง ชัยชนะ ครั้งที่ 6 ค.ศ. 1228 - 1229 พระเจ้าเฟรเดริกที่ 2 (เยอรมัน)นำ ทัพ แต่แทนที่จะไปรบ กลับไปทำไม ตรีกับพวกอาหรับ สามารถทำให้ พวกอาหรับยอมให้พวกคริสเตียน เดินทางเข้าเมืองเยรูซาเล็มได้อีก ค รั้ง ครั้งที่ 7 ค.ศ. 1248 – 1249 และ ครั้งที่ 8 ค.ศ. 1270 สงครามครูเสดได้กระทำกันในประเทศ อียิปต์ เพราะพวกหัวหน้าเติร์กมีถิ่นสำคัญตั้งอยู่ที่ นั่น และแซงต์หลุยส์ (ฝรั่งเศส) นำทัพทั้งสองครั้ง จนสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1270 สงครามครูเสดจึง สุดสิ้นลงในครั้งนี้

ผลของสงครามครูเสด ต่อโลกตะวันตก หลังจากพวกคริสเตียนได้ครองแผ่นดินส่วน หนึ่งของอาณาจักรแห่งเยรูซาเล็ม บาง เมืองอยู่ยาวนานกว่า 200 ปี การเข้ามาอยู่ ในดินแดนที่มีมุสลิมอาศัยอยู่โดยรอบ ทำให้ พวกคริสเตียนและมุสลิมเกิดการหลอมรวม วัฒนธรรมกัน พวกคริสเตียนประทับใจใน ศิลปะการตกแต่งของมุสลิม เช่น พรม เครื่องใช้และกระเบื้องเคลือบ และพวกเขา ยังได้กินอาหารรสชาติใหม่ ๆ เช่น ผลแอปริ คอท มะเดื่อ น้ำตาลและมะนาว ทางด้าน เครื่องแต่งกายชาวคริสเตียนได้เรียนรู้การ ใช้ผ้าฝ้ายและผ้าไหมทำเสื้อผ้า ทางด้าน สถาปัตยกรรมพวกคริสเตียนได้เรียนรู้เรื่อง การใช้เสาและคานรูปโค้งแบกรับน้ำหนักจาก สิ่งที่ปลูกสร้างของมุสลิม HTTPS://INFOCENTER.NATIONALHEALTH.OR.TH/NODE/27396


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook