วสั ดใุ นชีวติ ประจาํ วัน จดั ทําโดย ด.ญ.สธุ าสินี ยาหอม เลขท่ี 36 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่2ี /4 วชิ าออกแบบและเทคโนโลยี เสนอ คุณครภู ัทราวรรณ อทุ ธสงิ ห
1 คํานํ า รายงานเลมน้จี ดั ทําข้นึ เพอ่ื เปนสว นหนึ่งของวิชาอ อกแบบและเทคโนโลยีเพื่อใหไ ดศกึ ษาหาความรู ้ในเรอื่ งวัสดุในชวี ติ ประจําวันและไดศ ึกษาอยา งเข าใจเพือ่ เปนประโยชนกบั การเรียน ผู ้จดั ทําหวงั วา รายงานเลมน้จี ะเปน ประโยชนกบั ผอู า่ น หรอื นกั เรยี น นกั ศึกษา หากมีขอแนะนาํ หรอื ข ้อผิดพลาดประการใด ผจู ดั ทาํ ขอนอมรบั ไวและขออ ภัยมา ณ ท่นี ้ดี ว ย ด.ญ.สุธาสินี ยาหอม
สารบัญ 2 คาํ นาํ 1 สารบัญ 2 วสั ดุในชวี ิตประจําวัน 3 ไม 4 โลหะ 6 พลาสตกิ 8 ยาง 10 อา งอิง 12
3 วสั ดุในชวี ติ ประจําวนั ส่ิงของเครื่องใชตางๆสรา งขึน้ มาจากวสั ดุหลายป ระเภท วสั ดแุ ตละ ประเภทมีสมบตั ิ และลั กษณะทแ่ี ตกตา งกัน การเลือกใชว สั ดุทีถ่ ูกตอ งและเหมาะสมจึงมคี วามสําคัญตอการออกแ บบและสรา งสง่ิ ของเครื่องใช ว สั ดุทน่ี าํ มาทาํ ส่ิงของเคร่ืองใชทเ่ี ราพบมาในชีวิต ประจําวนั เชน ไม โลหะ พลาสติก ยาง มีสมบัติ และการใชงานแตกตา งกัน
4 ไม คอื วัสดุธรรมชาติทไี่ ดม าจากลําตนข องตน ไม ซึ่งสว นใหญเ ปน ไมยืนตน ไมม ี ความแข็งแรง ทนทาน ตา นทานไฟฟา ไม เ่ ปน สนิม มีรปู รางคงตวั ผวิ เรียบ มกี ลิ น่ และมลี วดลาย ถาไดรับความชน้ื เปน เวลานานอาจบวมผดิ รูป และผไุ ด
5 ไมจริงหรอื ไมธ รรมชาติ (Natural Wood or soildWood) ไมท ่ีจากลาํ ตน ของตน ไมโ ดยตรง โดยแบง ออกเปน 2ประเภทคื อ ไม เ้ น้ือแขง็ (hardwood) ไมเ นื้อออ น(softwood) ไมประกอบ (Processed Wood) ไมทีไ่ ดมาจากการนาํ ชิ้นสวนของไมม าตอ รวมกนั ดว ยกระ บวนการตางๆไมประกอบมหี ลายประเภท เชน ไมอัด ไมปาร ์ตเิ คิล
6 โลหะ (metals) โลหะ คือ วสั ดทุ ่ไี ดจ ากการถลุงสนิ แรต า งๆ โลหะทีน่ าํ มาใชงานสว นใหญจ ะผานการ ปรบั ปรุงสมบตั ิใหดีขึ้นกอนนํามาใชง าน โลหะ เปนตัวนําความรอ นและไฟฟา มีความแข็งแรง สงู มีความคงทนถาวร ไมเ สื่อมสลาย เปน วัตถุ ทบึ แสง ทนทานตอ การกัดกรอน
7 โลหะกลุมเหล็ก (ferrous metals) คือ โลหะทม่ี ีเหล็กเปน สวน ประกอบหลัก แบง ออกเปนเหล็กกลา (steel) และเหล็กหลอ (cast Iron) ซ่งึ มีธาตคุ ารบอนผสมอยูในปริมาณที่ตา งกนั ตง้ั แต 0.1% ไปจนถงึ 4.0% คารบ อนทีผ่ สมลงในเหล็กมผี ลตอ ความแข็ง และเปราะของเหล็ก โดยท่ัวไปโลหะกลมุ เหลก็ จะเกิดสนิมและมี สมบัติดูดตดิ กับแมเหลก็ ได โลหะนอกกลุมเหลก็ (non-ferrous metals) คือ โลหะที่ไมม ีเหลก็ เปน สว นประกอบ ดังนน้ั โลหะประเภทนจี้ ะไมเ กิดสนิม และไมดูด ตดิ กบั แมเหล็ก เชน อะลมู เิ นียม ทองแดง สังกะสี ทองเหลือง
8 พลาสติก (plastics) พลาสตกิ คือ วัสดุสงั เคราะหทมี่ นษุ ยส ราง ข้ึน สวนใหญเปนผลผลติ ที่ไดจ ากการกล่ัน นํ้ามนั ดบิ ปจจุบันพลาสตกิ นาํ มาใชสรา ง ส่ิงของเคร่ืองใชมากมายและมีบทบาทอยาง ย่งิ ตอการดาํ เนนิ ชวี ิตประจําวนั
9 เทอรโมพลาสตกิ (thermoplastics) จะออ นตวั และ หลอมเหลวเม่อื ไดร ับความรอ นและจะแขง็ ตวั เม่ือทําใหเยน็ ลง พลาสติกทแ่ี ขง็ ตวั แลวสามารถนาํ มาหลอมซาํ้ ไดดว ย ความรอ น เทอรโ มเซตตงิ พลาสตกิ (Thermosetting plastic) เปน พลาสตกิ ท่ีมสี มบัติพิเศษ คอื ทนทานตอ การเปลีย่ นแปลง อณุ หภมู แิ ละทนปฏิกิรยิ าเคมไี ดด ี
10 ยาง (rubber) ยาง คอื วสั ดทุ ่ีมีความยืดหยนุ ถกู นําไปแปรรูป เพือ่ ใชประโยชนใ นการสรา งสิง่ ของเคร่อื งใชห ลาย ชนิด สามารถแบงออกเปน 2 ประเภท คอื ยางธรรมชาติ ยางสงั เคราะห
11 ยางธรรมชาติ (natural rubber) คือ ผลผลิตทไี่ ดจากตน ยาง เมือ่ ยางอยใู นสภาวะอณุ หภูมติ ่ําจะแข็งกระดา ง เมอื่ ยางอยใู น สภาวะอณุ หภูมิสูงจะออนนม่ิ มคี วามยดื หยนุ สงู ทนตอ การ สึกหรอ แตไ มท นตอตวั ทาํ ละลายพวกนาํ้ มันปโตเลียม ยางสังเคราะห (synthetic rubber) คอื ยางทไี่ ดจ ากการ สังเคราะหทางเคมเี พ่ือเลียนแบบยางธรรมชาติ ขอดีคอื สามารถ ปรบั ปรงุ สมบัตติ า งๆ ได
อา้ งองิ 12 วสั ดุในชวี ติ ประจําวัน-ครไู อที
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: