ทกั ษะทางวทิ ยาศาสตร์
หมายถงึ ความชานาญและความสามารถในการใช้ การคดิ และ กระบวนการคดิ เพ่ือค้นหาความรู้ รวมท้งั การแก้ปัญหาต่าง ๆ กระบวนการคดิ และเรียนรู้ รวมท้งั การจินตนาการ เป็ นผลของ การคิดเฉพาะด้านและร่วมกนั ของสมองท้งั ซีกซ้ายและซีกขวา ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์เป็ นหัวใจทส่ี าคญั ของ กระบวนการศึกษาทางด้านวทิ ยาศาสตร์ ซึ่งแบ่งออกเป็ น 13 ทกั ษะด้วยกนั
ประกอบไปด้วย ทักษะการสังเกต หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัส อย่างใดอย่างหน่ึง หรือหลายอย่างรวมกนั ได้แก่ ตา หู จมูก ลนิ้ และผวิ กาย เข้าไปสัมผสั โดยตรงกบั วตั ถุหรือปรากฏการณ์ต่างๆ โดยไม่ลงความเห็นของผู้สังเกต เป็ นวธิ ีการพืน้ ฐานทจ่ี ะได้ข้อมูล มาตามความต้องการ
ประกอบไปด้วย ทักษะการวัด หมายถึง ความสามารถในการใช้เคร่ืองมือวัดหา ปริมาณของสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยา ความสามารถในการ เลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสม และความสามารถในการอ่านค่าท่ี ได้จากการวดั ได้ถูกต้องและใกล้เคยี งกบั ความจริง พร้อมท้งั มหี น่วย กากบั เสมอ
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทกั ษะการคานวณ หมายถึง ความสามารถในการบวก ลบ คูณ หาร หรือจัดกระทากบั ตัวเลขท่แี สดงค่าปริมาณของส่ิงใดสิ่งหนึ่ง ซ่ึงได้จาก การสังเกต การวัด การทดลองโดยตรง หรือจากแหล่งอื่น ตวั เลขที่ คานวณน้ันต้องแสดงค่าปริมาณในหน่วยเดียวกนั ตวั เลขใหม่ทีไ่ ด้จาก การคานวณจะช่วยให้ส่ือความหมายได้ตรงตามทตี่ ้องการและชัดเจน ยง่ิ ขึน้
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทักษะการจาแนกประเภท หมายถงึ ความสามารถในการจดั จาแนก หรือเรียงลาดับวตั ถุ หรือส่ิงทอี่ ยู่ในปรากฏการณ์ต่างๆ ออกเป็ น หมวดหมู่โดยมีเกณฑ์ในการจดั จาแนก เกณฑ์ดงั กล่าวอาจใช้ ความ เหมือน ความแตกต่าง หรือความสัมพนั ธ์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ โดยจดั ส่ิงทม่ี ีสมบัติบางประการร่วมกนั ให้อยู่ในกลุ่มเดยี วกนั
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทักษะการหาความสัมพนั ธ์ระหว่างสเปซกบั สเปซ และสเปซกบั เวลา หมายถึง ความสามารถในการระบุความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งต่อไปนี้ คือ 1) ความสัมพนั ธ์ระหว่าง 2 มิติ กบั 3 มติ ิ 2) ส่ิงทอี่ ยู่หน้ากระจกเงากบั ภาพทปี่ รากฏจะเป็ นซ้ายขวาของกนั และกนั อย่างไร 3) ตาแหน่งทอ่ี ยู่ของวตั ถุหนึ่งกบั อกี วตั ถุหน่ึง 4) การเปลย่ี นแปลงตาแหน่งทอี่ ยู่ของวตั ถุกบั เวลาหรือสเปสของวตั ถุ ที่ เปลยี่ นแปลงไปกบั เวลา
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทกั ษะการจดั กระทาและสื่อความหมายข้อมูล หมายถึง ความสามารถ ในการนาข้อมูลทไี่ ด้จากการสังเกต การวดั การทดลอง และจากแหล่ง อ่ืนมาจดั กระทาใหม่โดยวธิ ีการต่างๆ เช่น การจัดเรียงลาดับ การแยก ประเภท หรือคานวณหาค่าใหม่ เพ่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจมากขนึ้ อาจนาเสนอ ในรูปของตาราง แผนภูมิ แผนภาพ กราฟ สมการ เป็ นต้น
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล หมายถึง ความสามารถในการอธิบาย ข้อมูลทม่ี ีอยู่อย่างมีเหตุผล โดยอาศัยความรู้หรือประสบการณ์เดิมมาช่วย ข้อมูลทมี่ ีอยู่อาจได้มาจากการสังเกต การวดั การทดลอง คาอธิบายน้ันได้ มาจาก ความรู้หรือประสบการณ์เดิมของผ้สู ังเกตทพ่ี ยายามโยงบางส่วนท่ี เป็ นความรู้หรือประสบการณ์เดมิ ให้มาสัมพนั ธ์กบั ข้อมูลทตี่ นเองมีอยู่
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทกั ษะการพยากรณ์ หมายถงึ ความสามารถในการทานายหรือคาดคะเนส่ิง ทจ่ี ะเกดิ ขึน้ ล่วงหน้า โดยอาศัยการสังเกตปรากฏการณ์ที่เกดิ ขนึ้ ซ้าๆ หรือ ความรู้ทเ่ี ป็ นหลกั การ กฎ หรือทฤษฎใี นเร่ืองน้ันมาช่วยในการทานาย การ ทานายอาจทาได้ภายในขอบเขตข้อมูล และภายนอกขอบเขตข้อมูล
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทักษะการต้งั สมมติฐาน หมายถงึ ความสามารถในการให้คาอธิบายซ่ึง เป็ นคาตอบล่วงหน้าอย่างมเี หตุมีผล ก่อนทจ่ี ะดาเนินการทดลอง เพ่ือ ตรวจสอบความถูกต้องเป็ นจริงในเรื่องน้ันๆ ต่อไป สมมตฐิ านเป็ น ข้อความทแ่ี สดงการคาดคะเน ซ่ึงอาจเป็ นคาอธิบายของสิ่งทไี่ ม่สามารถ ตรวจสอบโดยการสังเกตได้
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทักษะการกาหนดนิยามเชิงปฏิบตั ิการ หมายถงึ ความสามารถในการ กาหนดความหมายและขอบเขตของคา หรือตวั แปรต่างๆ ให้เข้าใจตรงกัน และสามารถสังเกตและวดั ได้ คานิยามเชิงปฏิบัติการ เป็ นความหมายของ คาศัพท์เฉพาะ เป็ นภาษาง่ายๆ ชัดเจน ไม่กากวม ระบุส่ิงทส่ี ังเกตได้ และ ระบุการกระทาซ่ึงอาจเป็ น การวดั การทดสอบ การทดลองไว้ด้วย
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทกั ษะการกาหนดและควบคุมตวั แปร หมายถึง การชี้บ่งตัวแปรต้น ตัว แปรตาม และตวั แปรทตี่ ้องควบคุม ในสมมตฐิ านหน่ึง การควบคุมตวั แปร น้ันเป็ นการควบคุมส่ิงอ่ืนๆ นอกเหนือจากตวั แปรต้นทจ่ี ะทาให้ผลการ ทดลองคลาดเคลื่อน ถ้าหากว่าไม่ควบคุมให้เหมือนกนั
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทกั ษะการทดลอง หมายถงึ กระบวนการปฏบิ ัติการเพื่อหาคาตอบหรือ ทดสอบสมมตฐิ านทต่ี ้งั ไว้ ในการทดลองจะประกอบด้วยกจิ กรรม 3 ข้นั ตอน คือ 1.การออกแบบการทดลอง 2.การปฏบิ ตั ิการทดลอง 3.การบันทกึ ผลการทดลอง
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย ทกั ษะการตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุป หมายถงึ ความสามารถใน การบอกความหมายของข้อมูลทไ่ี ด้จดั กระทา และอยู่ในรูปแบบทใ่ี ช้ในการ ส่ือความหมายแล้ว ซ่ึงอาจอยู่ในรูปตาราง กราฟ แผนภูมหิ รือรูปภาพต่างๆ รวมท้งั ความสามารถในการบอกความหมายข้อมูลในเชิงสถิตดิ ้วย
ประหกมอาบยไถปงึ ด้วย จิตวทิ ยาศาสตร์หรือเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ หมายถงึ คุณลกั ษณะหรือลกั ษณะนิสัยของบุคคลทเี่ กดิ ขนึ้ จากการศึกษาหา ความรู้โดยใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เรียกว่า เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ ประกอบด้วยคุณลกั ษณะต่าง ๆ ได้แก่ ความสนใจใฝ่ รู้ ความมุ่งม่ัน ความขยนั อดทน รอบคอบ มวี นิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความซ่ือสัตย์สุจริต การร่วมแสดง ความคดิ เห็น และยอมรับฟังความคดิ เห็นของผู้อ่ืน ความมเี หตุผล การทางาน ร่วมกบั ผู้อ่ืนได้อย่างสร้างสรรค์
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: