การแบ่งเซลล์

การแบ่งเซลล(์ Cell Division) วิชาวิทยาศาสตรเ์ ขม้ ขน้ 6 ว30256

1.สิ่งมชี ีวติ ทุกชนิดประกอบด้วยหน่วยทเี่ ลก็ ทสี่ ุด เรียกว่า อะไร 1. Cell 2. Vacuole 3. Golgi body 4. ไม่มีขอ้ ใดถูกเลย เซลล์ (Cell) คือ หน่วยเลก็ ที่สุดของสิ่งมีชีวติ โดยเซลล์(cell) มาจาก คาวา่ Cella ในภาษาละติน ซ่ึงมีความหมายวา่ หอ้ งเลก็ ๆ

2.โครงสร้างของเซลล์ท่ปี ระกอบด้วยโปรตนี และลพิ ดิ คือ 1. Golgicomplex 2. ER 3. Cell membrane 4. ถกู ทุกขอ้

3.โครงสร้างของเซลล์ส่วนใดท่มี ีสมบตั เิ ป็ นเยื่อเลือกผ่าน 1. ผนงั เซลล์ 2. นิวเคลียส 3. คลอโรพลาสต์ 4. เยอ่ื หุม้ เซลล์ เย่ือหุ้มเซลล์ หนา้ ที่ ห่อหุม้ เซลลข์ อบเขตแน่นอน และ รักษาสมดุลของสารภายในเซลลโ์ ดยคดั เลือกการผา่ นเขา้ ออกของสาร พบในเซลลส์ ิ่งมีชีวิตทุกชนิด

4.โรงงานไฟฟ้าเปรียบเทยี บการทางานได้กบั ส่วนใด 1. Ribosome 2. Mitochondria 3. Lysosome 4. centrosome เพราะ mitochondria ทาหนา้ ท่ีเป็นแหลง่ พลงั งาน ATP ภายในเซลล์ ATP (Adenosine triphosphate) คือ โมเลกลุ สารพลงั งานสูงท่ีให้ พลงั งานแก่ร่างกายเรา

5. ออร์แกเนลล์ใดท่ีเชื่อว่ามคี วามสัมพนั ธ์กบั การหดหายไป ของหางลูกอ๊อด 1. centrosome 2. lysosome 3. golgi body 4. vacuole เพราะ lysosomae เป็นออร์แกเนลลท์ ่ีพบในสตั วแ์ ละทาหนา้ ท่ี สลายส่วนที่ไม่ใชแ้ ลว้ เช่น การสลายของหางลกู ออ๊ ด ซึงเราเรียก กระบวนการยอ่ ยสลายน้ีวา่ ออโตลิซิส (autolysis)

6.ข้อใดแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างโครงสร้างและหน้าท่ี อย่างไม่ถูกต้อง 1. ไรโบโซม - แหลง่ สังเคราะห์โปรตีน 2. เซนทริโอล - การเคลื่อนท่ีของโครโมโซม 3. นิวคลีโอลสั - แหลง่ สังเคราะห์ DNA 4. ร่างแหเอนโดพลาซึมท่ีไม่มีไรโบโซมเกาะท่ีผิว - สงั เคราะหไ์ ขมนั บางชนิด นิวคลโี อลสั เป็นแหล่งสงั เคราะห์ RNA จาก DNA

7. organell ทไี่ ม่มเี ย่ือหุ้มคือ organell ใด 1. ไรโบโซมและไลโซโซม 2. ไลโซโซมและเซนทริโอล 3. เซนทริโอลและกอลจิคอมเพลก็ ซ์ 4. ไรโบโซมและเซนทริโอล เพราะ ไรโบโซมและเซนทริโอล เป็นออร์แกเนลลท์ ี่ไม่มีเยอ่ื หุม้ ไรโบ โซมกระจายอยใู่ นไซโตพลาสซึมและเกาะอยบู่ นผิวของ RNA เซนทริโอลเป็นบริเวณท่ียดึ เส้นใยสปิ นเดิล

8. golgi complex ควรพบมากในอวยั วะส่วนใด 1. ตบั กระเพาะปัสสาวะ 2. เซลลป์ ระสาท เซลลผ์ ิวหนงั 3. เซลลต์ ่อมหมวกไต เซลลต์ ่อมน้าตา 4. เซลลต์ อ่ มน้าลาย และเซลลต์ อ่ มน้านม เซลลต์ ่อมน้าลาย และเซลลต์ อ่ มน้านมเป็นเซลลท์ ่ีมีการส่งสาร ออกนอกเซลลจ์ าก RER ร่างแหเอนโดพลาซึมแบบขรุขระ (rough endoplasmic reticulum : RER) เป็นชนิดท่ีมี ไรโบโซมเกาะ หนา้ ที่ การสังเคราะห์ โปรตีน ของไรโบโซมท่ีเกาะอยู่ โดยมีกอลจิบอดี (golgi body) เป็นตวั สะสม หรือทาใหม้ ีขนาดพอเหมาะ ที่ส่งออกนอกเซลล์

9. ไข่แดง (yolk) คือส่วนของ 1. อาหารสะสมที่เกบ็ ไวใ้ น vacuole 2. อาหารสะสมที่เกบ็ ไวท้ ่ี lysosome 3. นิวเคลียสของเซลลไ์ ข่ 4. นิวคลีโอโซมของไข่

10.การเกดิ pinocytosis พบได้ในเซลล์ชนิดใด 1. เซลลเ์ มด็ เลือดขาว 2. เซลลเ์ มด็ เลือดแดง 3. เซลลข์ องท่อหน่วยไต 4. เซลลต์ บั ออ่ น Pinocytosis เป็นกระบวนการของการดูดซบั ของเหลว พบในเซลลข์ องท่อหน่วยไต

11.ผลทเ่ี กดิ จากการกนิ แบบอะมบี า (phagocytosis) คือข้อใด 1. contractile vacuole เม่ือมีการกินแบบอะมีบาสารทถ่ี กู ล้อมจะเป็น 2. food vacuole food vacuole 3. lysosome 4. centrosome

12.suicide bag of cell หรือถุงฆ่าตวั ตายหมายถงึ อะไร 1. vacuole 2. lysosome 3. golgi complex 4. vesicle ไลโซโซม หรือฉายาวา่ ถุงฆ่าตัวตาย ทาหนา้ ที่เป็นผขู้ นส่งเอนไซมท์ ี่ ใชใ้ นการยอ่ ยสลายโปรตีน ไขมนั และคาร์โบไฮเดรตมีลกั ษณะเป็นถุง มีเยอ่ื หุม้ ช้นั เดียว พบในเซลลส์ ตั วแ์ ละพชื บางชนิด และเมด็ เลือดขาว เซลลพ์ ชื บาง ชนิด เช่น กาบหอยแครง หมอ้ ขา้ วหมอ้ แกงลิงเป็นพืชที่ขาดสารอาหารบาง ชนิด เช่น ไนโตรเจน จึงใชไ้ ลโซโซมในการยอ่ ยแมลง

13.จากการศึกษาสารเคลือบเซลล์ นักเรียนทราบไหมว่าข้อใด เป็ นสารเคลือบเซลล์ของเซลล์สัตว์ 1. เซลลโู ลส คิวทิน 2. ซูเบอลิน เพกทิน 3. ไกลโคโปรตีน ไคติน 4. ไกลโคโปรตีน คิวติน สารเคลอื บเซลล์สตั ว์โดยทว่ั ไปเป็นไกลโคโปรตนี แตส่ ตั ว์ บางพวกเชน่ ปู ก้งุ มีสารพวกไคติน ทาหน้าที่เป็น โครงสร้ างภายนอก

15.เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์เมด็ เลือดขาว เซลล์ตบั ใช้วิธีการแบ่ง เซลล์แบบใด 1. ไมโอซิส 2. ไมโครซิส 3. ไมโทซิส 4. ไมโทรติก การแบ่งเซลลแ์ บบไมโทซิส เป็นการแบ่งเซลลร์ ่างกายของ ส่ิงมีชีวติ ทว่ั ๆไป เป็นการแบ่งเซลลท์ ี่พบไดต้ ามปกติ เพอื่ การเจริญเติบโตหรือซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ

16.ผลการแบ่งเซลล์แบบ meiosis ทาให้ได้ 1. 2 เซลล์ โครโมโซม n 2. 4 เซลล์ โครโมโซม 2n 3. 2 เซลล์ โครโมโซม 3n 4. 4 เซลล์ โครโมโซม n

17.ผลการแบ่งเซลล์แบบ mitosis ทาให้ได้ 1. 2 เซลล์ โครโมโซม 2n 2. 2 เซลล์ โครโมโซม n 3. 2 เซลล์ โครโมโซม 3n 4. 4 เซลล์ โครโมโซม 2n

18.การแบ่งเซลล์แบบ mitosis มลี าดบั ข้นั ตอนการแบ่งที่ ถูกต้องคือข้อใด 1.interphase naphase telophase prophase metaphase 2.interphase prophase metaphase anaphase telophase 3.prophase anaphase metaphase telophase interphase 4.metaphase telophase interphase prophase anaphase

19.การสร้างสายใยสปิ นเดลิ (spindle fiber) จะเสร็จสิ้น สมบูรณ์ในระยะใดของการแบ่งเซลล์ 1. ช่วงทา้ ยของอินเทอเฟส 2. ช่วงทา้ ยของโพรเฟส 3. ช่วงทา้ ยของแอนนาเฟส 4. ช่วงทา้ ยของเทโลเฟส

20.โครโมโซม 1 แท่งจะจาลองตัวเองมาเป็ นเส้นคู่แต่ละเส้น ของโครโมโซมเรียกว่า ลกั ษณะของโครโมโซม ในภาวะปกติเม่ือ 1. โครมาทิน มองผา่ นกลอ้ งจุลทรรศนจ์ ะเห็นโครโมโซมมีลกั ษณะ 2. ไมโทติกสปิ นเดิล คลา้ ยเส้นดา้ ยบาง ๆ เรียกวา่ “โครมา 3. โครมาทิด 4. เซนโทรเมียร์ ติน (chromatin) ” ขดตวั อยใู่ นนิวเคลียส เม่ือ เซลลเ์ ร่ิมแบ่งตวั เส้นโครมาตินจะหดตวั ส้ันเขา้ มี ลกั ษณะเป็นแท่ง จึงเรียกวา่ “โครโมโซม” แตล่ ะ โครโมโซมประกอบดว้ ยแขนสองขา้ งท่ีเรียกวา่ “โคร มาทิด (chromatid) ” ซ่ึงแขนท้งั สองขา้ งจะมี จุดเช่ือมกนั เรียกวา่ “เซนโทรเมียร์ ( centromere)

21.ระยะสุดท้ายของการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสคือ 1. เมทาเฟส 2. เทโลเฟส 3. แอนาเฟส 4. โฟรเฟส

22.ระยะใดของการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสทมี่ องเห็นโครโมโซมมี ขนาดใหญ่ทส่ี ุด 1. อินเตอร์เฟส 2. เทโลเฟส 3. เมทาเฟส 4. โพรเฟส ระยะโพรเฟส (Prophase) : ในระยะนีโ้ ครโมโซม พนั กนั เป็นเกลียวมากขนึ ้ จงึ หดสนั้ และหนา ทาให้เหน็ โครโมโซมชดั เจน

23.กล้องจุลทรรศน์ที่เลนส์ใกล้ตา และเลนส์ใกล้วตั ถุมกี าลงั ขยายเป็ น 10 และ 40 เท่าตามลาดับ เม่ือใช้ส่องดูเซลล์พืชจะเห็นใหญ่ขนึ้ เป็ นกเี่ ท่าของ เซลล์เดิม 1. 4 เท่า กาลงั ขยายของกล้อง = กาลงั ขยายของเลนส์ใกล้ตา 2. 40 เท่า x กาลงั ขยายเลนส์ใกล้วตั ถุ 3. 400 เท่า 4. 4000 เท่า

24.ถ้าใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูจุลินทรีย์ชนิดหน่ึง โดยใช้เลนส์ใกล้ตาที่มีกาลังขยาย 20 เท่าและเลนส์ใกล้วตั ถุท่ีมีกาลงั ขยาย 100 เท่า สามารถมองเห็นจุลินทรีย์ดงั กล่าว ยาว 100 ไมโครเมตร ขนาดจริงของจุลนิ ทรีย์เป็ นเท่าใด 1. 20 nm 2. 30 nm กาลงั ขยายของกลอ้ ง = กาลงั ขยายของเลนส์ใกลต้ า × กาลงั ขยายของ 3. 40 nm เลนส์ใกลว้ ตั ถุ 4. 50 nm กาลงั ขยายของภาพ = ขนาดของภาพ/ขนาดของวตั ถุ

25.การใช้งานกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงข้อใดถูกต้อง 1. ใชเ้ ลนส์ใกลว้ ตั ถุท่ีมีกาลงั ขยายสูงสุดก่อนเสมอ 2. ใชเ้ ลนส์ใกลว้ ตั ถทุ ่ีมีกาลงั ขยายต่าสุดก่อนเสมอ 3. เมื่อตอ้ งการขยายภาพใหใ้ หญ่ข้ึนควรปรับกระจกเงาใตแ้ ท่นวางวตั ถุ 4. เม่ือใชง้ านเสร็จแลว้ ใหท้ าความสะอาดเลนส์ดว้ ยผา้ ชุบน้าสะอาด

26.ข้อใดถูกต้องเกยี่ วกบั การใช้กล้องจุลทรรศน์ 1. ขณะดูกลอ้ งจุลทรรศนค์ วรลืมตาท้งั สองขา้ ง 2. ขณะดูกลอ้ งจุลทรรศนใ์ หล้ ืมตาขา้ งใดขา้ งหน่ึง 3. หมุนเลนส์ใกลว้ ตั ถทุ ี่มีกาลงั ขยายสูงสุดมาอยตู่ รงกลางลากลอ้ งก่อน 4. ถา้ ตอ้ งการเห็นภาพมีขนาดใหญแ่ ละมีรายละเอียดมากข้ึน ตอ้ งขยบั สไลดไ์ ปมา

27.ในการใช้กล้องจุลทรรศน์ บางคร้ังพบว่าเลนส์ต่างๆ มฝี ่ ุนเกาะ ทาให้เห็นภาพไม่ ชัดเจน การทาความสะอาดเลนส์ต้องใช้กระดาษเช็ดเลนส์โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้ผ้าหรือ สิ่งอื่นแทนเพราะเหตุใด 1. ส่ิงอื่นอาจนาเช้ือโรคมาติดเลนส์ 2. ส่ิงอ่ืนมีผิวหยาบอาจทาใหเ้ กิดรอยบนเลนส์ 3. สิ่งอื่นอาจมีราคาแพงกวา่ กระดาษเชด็ เลนส์ 4. ส่ิงอ่ืนอาจมีราคาแพงและไม่ทนทานในการใช้

28.ผู้ประดษิ ฐ์กล้องจุลทรรศน์อเิ ลก็ ตรอนคือใคร 1. Leewenhoek 2. Maxknoll และ E.Ruska 3. Schwann และ Schleiden 4. Purkinje

29. ข้อใดมคี วามสัมพนั ธ์กนั มากทส่ี ุด 1. เลนส์ใกลว้ ตั ถุกาลงั ขยายต่า - ภาพท่ีเห็นจะมาก รายละเอียดของภาพนอ้ ย 2. เลนส์ใกลว้ ตั ถุกาลงั ขยายต่า - ภาพที่เห็นจะมาก รายละเอียดของภาพมาก 3. เลนส์ใกลว้ ตั ถุกาลงั ขยายสูง - ภาพที่เห็นจะนอ้ ย รายละเอียดของภาพนอ้ ย 4. เลนส์ใกลว้ ตั ถุกาลงั ขยายสูง - ภาพท่ีเห็นจะมาก รายละเอียดของภาพมาก

30.เลนส์ใกล้ตาของกล้องจุลทรรศน์ทาหน้าทส่ี าคญั คืออะไร 1. ขยายภาพท่ีไดจ้ ากเลนส์ใกลว้ ตั ถใุ หม้ ีขนาดใหญ่ข้ึน 2. รวมลาแสงใหเ้ ขม้ ข้ึน 3. ขยายวตั ถุใหเ้ กิดภาพจริง 4. ขยายภาพเสมือนใหเ้ กิดภาพจริง เลนส์ใกลต้ า (Ocular lens หรือ Eyepiece lens) ทาหนา้ ที่ขยายภาพที่ได้ จากเลนส์ใกลว้ ตั ถุใหม้ ีขนาดใหญ่ข้ึน ภาพที่ไดจ้ ะเป็นภาพเสมือนหวั กลบั